อนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ หรือ อนุสาวรีย์สามเสือแห่งเกษตร เป็นอนุสาวรีย์รูปเหมือนของสามบูรพาจารย์ผู้ริเริ่มสถาปนาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือพระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ (ทองดี เรศานนท์) และหลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรี จันทรสถิตย์) ประดิษฐาน ณ ลานอนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ หน้าสถาบันเกษตราธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
อนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์ ในปัจจุบัน | |
ที่ตั้ง | มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร |
---|---|
ประเภท | อนุสาวรีย์ |
การเปิด |
|
อุทิศแด่ |
ประวัติ
“สามเสือเกษตร” เป็นฉายาที่เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ใช้เรียกแทนบุคคลสามคน ได้แก่ พระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ (ทองดี เรศานนท์) และหลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรี จันทรสถิตย์) ผู้มีคุณูปการในการพัฒนาวงการเกษตรไทยและเผยแพร่คุณประโยชน์ทางเกษตรกรรมไปสู่สาธารณชนซึ่งถือเป็นอาชีพหลักและอาชีพเดียวของราษฎรไทยในสมัยนั้นที่สร้างการเศรษฐกิจขึ้นอย่างเป็นระบบในประเทศไทย นอกจากนี้บุคคลทั้งสามยังเป็นผู้วางรากฐานการเกษตรและการศึกษาด้านเกษตรศาสตร์ของประเทศไทย อันนำไปสู่การสถาปนาสถาบันทางเกษตรศาสตร์เป็นการเฉพาะ และมีวิวัฒนาการมาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน
จำเดิมในทศวรรษที่สามของการครบรอบการสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ณ พื้นที่ลานด้านหน้าสถาบันเกษตราธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการสถาปนาอนุสาวรีย์หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ (ทองดี เรศานนท์) ขึ้น โดยมีหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ทรงประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2511 ซึ่งเป็นวันครบรอบปีที่ 25 แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต่อมาในวาระการครบรอบปีที่ 50 แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีการสร้างอนุสาวรีย์พระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) และหลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรี จันทรสถิตย์) เพิ่มเติมให้เป็นอนุสาวรีย์ "สามเสือแห่งเกษตร" และมีพิธีเปิดในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
อนุเสาวรีย์สามบูรพาจารย์มีลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ประเภทบุคคล ประกอบด้วยรูปเหมือนบุคคลในท่ายืนสามคนตั้งเรียงลำดับ ดังนี้
- ตรงกลาง คือ หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ (ทองดี เรศานนท์) ในท่ายืน มือซ้ายถือหมวก มองตรงมาเบื้องหน้า
- ด้านซ้าย คือ พระช่วงเกษตรศิลปการ (ช่วง โลจายะ) ในท่ายืน มือซ้ายถือหนังสือชื่อ "เกษตรกรรมแผนใหม่"
- ด้านขวา คือ หลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรี จันทรสถิตย์) ในท่ายืน มือซ้ายถือหมวก ใบหน้ามองเยื้องทางด้านซ้าย
ณ ฐานอนุสาวรีย์มีป้ายโลหะสำริด ปรากฏข้อความจารึกว่า
อนุสาวรีย์ "สามเสือแห่งเกษตร" สร้างไว้เป็นสิ่งน้อมนำใจอนุชนให้รำลึกถึงบูรพาจารย์
ผู้ได้อุทิศตนร่วมกันทำงานด้วยความพากเพียร อดทน และเสียสละอย่างสูง เพื่อวางรากฐานการเกษตรแผนใหม่
และการศึกษาด้านการเกษตรให้เจริญก้าวหน้ามาตราบจนปัจจุบัน
ประกอบพิธีเปิด เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2538
อ้างอิง
- วิญญาณสามบูรพาจารย์เกษตร 2009-01-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน โดย ศ.ระพี สาคริก
- อนุสาวรีย์สามบูรพาจารย์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xnusawriysamburphacary hrux xnusawriysamesuxaehngekstr epnxnusawriyrupehmuxnkhxngsamburphacaryphurierimsthapnawithyalyekstrsastr khuxphrachwngekstrsilpkar chwng olcaya hlwngsuwrrnwackksikic thxngdi ersannth aelahlwngxingkhsriksikar xinthri cnthrsthity pradisthan n lanxnusawriysamburphacary hnasthabnekstrathikar sanknganpldkrathrwngekstraelashkrn phayinmhawithyalyekstrsastr withyaekhtbangekhnxnusawriysamburphacaryxnusawriysamburphacary inpccubnthitngmhawithyalyekstrsastr ekhtctuckr krungethphmhankhrpraephthxnusawriykarepid2 kumphaphnth ph s 2511 hlwngsuwrrnwackksikic 2 kumphaphnth ph s 2538 samburphacary xuthisaedhlwngsuwrrnwackksikic thxngdi ersannth phrachwngekstrsilpkar chwng olcaya hlwngxingkhsriksikar xinthri cnthrsthity prawti samesuxekstr epnchayathiecaphrayathrrmskdimntri snn ethphhsdin n xyuthya icheriykaethnbukhkhlsamkhn idaek phrachwngekstrsilpkar chwng olcaya hlwngsuwrrnwackksikic thxngdi ersannth aelahlwngxingkhsriksikar xinthri cnthrsthity phumikhunupkarinkarphthnawngkarekstrithyaelaephyaephrkhunpraoychnthangekstrkrrmipsusatharnchnsungthuxepnxachiphhlkaelaxachiphediywkhxngrasdrithyinsmynnthisrangkaresrsthkickhunxyangepnrabbinpraethsithy nxkcaknibukhkhlthngsamyngepnphuwangrakthankarekstraelakarsuksadanekstrsastrkhxngpraethsithy xnnaipsukarsthapnasthabnthangekstrsastrepnkarechphaa aelamiwiwthnakarmaepnmhawithyalyekstrsastrinpccubn caediminthswrrsthisamkhxngkarkhrbrxbkarsthapnamhawithyalyekstrsastr n phunthilandanhnasthabnekstrathikar sanknganpldkrathrwngekstraelashkrn idmikarsthapnaxnusawriyhlwngsuwrrnwackksikic thxngdi ersannth khun odymihmxmecasiththiphr kvdakr thrngprakxbphithiepidxnusawriyinwnthi 2 kumphaphnth ph s 2511 sungepnwnkhrbrxbpithi 25 aehngkarsthapnamhawithyalyekstrsastr txmainwarakarkhrbrxbpithi 50 aehngkarsthapnamhawithyalyekstrsastr idmikarsrangxnusawriyphrachwngekstrsilpkar chwng olcaya aelahlwngxingkhsriksikar xinthri cnthrsthity ephimetimihepnxnusawriy samesuxaehngekstr aelamiphithiepidinwnthi 2 kumphaphnth ph s 2538lksnathangsthaptykrrmbriewnodyrxbxnusawriysamburphacary ph s 2552 xnuesawriysamburphacarymilksnaepnxnusawriypraephthbukhkhl prakxbdwyrupehmuxnbukhkhlinthayunsamkhntngeriyngladb dngni trngklang khux hlwngsuwrrnwackksikic thxngdi ersannth inthayun muxsaythuxhmwk mxngtrngmaebuxnghna dansay khux phrachwngekstrsilpkar chwng olcaya inthayun muxsaythuxhnngsuxchux ekstrkrrmaephnihm dankhwa khux hlwngxingkhsriksikar xinthri cnthrsthity inthayun muxsaythuxhmwk ibhnamxngeyuxngthangdansay n thanxnusawriymipayolhasarid praktkhxkhwamcarukwa xnusawriy samesuxaehngekstr srangiwepnsingnxmnaicxnuchnihralukthungburphacary phuidxuthistnrwmknthangandwykhwamphakephiyr xdthn aelaesiyslaxyangsung ephuxwangrakthankarekstraephnihm aelakarsuksadankarekstrihecriykawhnamatrabcnpccubn prakxbphithiepid emuxwnphvhsbdithi 2 kumphaphnth phuththskrach 2538xangxingwiyyansamburphacaryekstr 2009 01 24 thi ewyaebkaemchchin ody s raphi sakhrik xnusawriysamburphacary