อันนาแห่งเดนมาร์ก หรือ แอนน์แห่งเดนมาร์ก (อังกฤษ: Anne of Denmark; 12 ธันวาคม ค.ศ. 1574 — 2 มีนาคม ค.ศ. 1619) เป็นพระราชธิดาองค์ที่สองของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 แห่งเดนมาร์กและโซฟีแห่งเมคเลินบวร์ค-กึสโทร สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์ เป็นพระมเหสีในพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ และที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ แอนน์แห่งเดนมาร์กเป็นพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1589 และเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1589 กระทั่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1619 ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ตในอังกฤษ พระศพของพระองค์ตั้งอยู่ที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์
อันนาแห่งเดนมาร์ก | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระสาทิสลักษณ์ ค.ศ. 1605 | |||||
สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ | |||||
ดำรงพระยศ | 20 สิงหาคม ค.ศ. 1589 - 2 มีนาคม ค.ศ. 1619 | ||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าเฟลิเปที่ 2 แห่งสเปน (ปกครองร่วมผ่านสิทธิ์พระมเหสี) | ||||
ถัดไป | อ็องเรียต มารีแห่งฝรั่งเศส | ||||
สมเด็จพระราชินีแห่งชาวสกอต | |||||
ดำรงพระยศ | 24 มีนาคม ค.ศ. 1589 - 2 มีนาคม ค.ศ. 1619 | ||||
ก่อนหน้า | (พระมหากษัตริย์พระราชสวามี) | ||||
ถัดไป | อ็องเรียต มารีแห่งฝรั่งเศส | ||||
พระราชสมภพ | 12 ธันวาคม ค.ศ. 1574 ประเทศเดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 2 มีนาคม ค.ศ. 1619 พระราชวังแฮมพ์ตัน ประเทศอังกฤษ | ||||
คู่อภิเษก | พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ | ||||
พระราชบุตร | เฮนรี เฟรเดอริค เจ้าชายแห่งเวลส์ เอลิซาเบธ สจวต สมเด็จพระราชินีแห่งโบฮีเมีย มากาเร็ต สจวต สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ แมรี สจวต โซเฟีย สจวต | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | สจวต (เสกสมรส) ออลเดนบูร์ก | ||||
พระราชบิดา | พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 2 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | โซฟีแห่งเมคเลินบวร์ค-กึสโทร สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์ |
อันนาทรงเสกสมรสกับพระเจ้าเจมส์ที่ 1 เมื่อปี ค.ศ. 1589 เมื่อพระชนมายุได้ 14 พรรษา มีพระโอรสธิดาสามพระองค์ที่รอดมาได้จนทรงเจริญพระชนม์รวมทั้งพระเจ้าชาลส์ที่ 1 พระองค์ทรงเป็นผู้มีความเด็ดเดี่ยวพอที่จะทรงใช้ความแตกแยกของการเมืองในสกอตแลนด์เป็นเครื่องมือในการเรียกร้องสิทธิในตัวพระโอรส เฮนรี เฟรเดอริก เจ้าชายแห่งเวลส์ จากพระเจ้าเจมส์ ดูเหมือนว่าพระองค์จะทรงรักพระเจ้าเจมส์ในตอนแรก แต่ต่อมาทั้งสองพระองค์ก็ทรงห่างเหินจากกัน จนในที่สุดก็ทรงแยกกันอยู่ แต่ก็ยังคงทรงมีความนับถือซึ่งกันและกันอยู่บ้าง
เมื่อประทับอยู่ในอังกฤษ พระองค์ทรงหันความสนใจจากทางด้านการเมืองที่เป็นฝักเป็นฝ่ายไปเป็นการอุปถัมภ์ศิลปะ และการสร้างราชสำนักที่หรูหราของพระองค์เอง ทรงจัดให้มีการพบปะในซาลอนที่ทำให้เป็นราชสำนักของพระองค์เป็นราชสำนักที่มีวัฒนธรรมสูงที่สุดสำนักหนึ่งในยุโรป หลังจากปี ค.ศ. 1612 พระสุขภาพพลานามัยของพระองค์ก็เริ่มเสื่อมลง จนในที่สุดก็ทรงถอนตัวจากราชสำนัก ตามทางการแล้วพระราชินีแอนน์สวรรคตในฐานะที่เป็นโปรเตสแตนต์ แต่หลักฐานบางอย่างบ่งชี้ให้เห็นว่าอาจจะทรงเปลี่ยนไปนับถือนิกายโรมันคาทอลิกขณะใดขณะหนึ่งระหว่างที่ยังมีพระชนม์อยู่
นักประวัติศาสตร์เดิมไม่ได้เห็นว่าอันนาแห่งเดนมาร์กเป็นพระราชินีที่มีความสำคัญมากเท่าใดนัก และออกจะเป็นผู้มีความหลงพระองค์เอง แต่เมื่อไม่นานมานี้ ความเห็นเกี่ยวกับพระองค์ก็เริ่มจะเปลี่ยนไปโดยเริ่มมีความเห็นกันว่าพระองค์ทรงมีความเด็ดเดี่ยวเป็นตัวของตัวเองโดยเฉพาะทรงเป็นผู้มีความสำคัญในการเป็นผู้อุปถัมภ์ทางศิลปะระหว่างสมัยจาโคเบียน
ชีวิตช่วงแรก
อันนาแห่งเดนมาร์กเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1574 ที่ปราสาทสแกนเดอร์บอร์กบนคาบสมุทรจัตแลนด์ในราชอาณาจักรเดนมาร์ก-นอร์เวย์ แต่การพระราชสมภพของพระองค์เป็นเหตุการณ์ที่พระเจ้าเฟรดริคที่ 2พระราชบิดาทรงได้รับความผิดหวัง เพราะทรงหวังเป็นอย่างมากว่าจะเป็นพระราชโอรส แต่ขณะนั้นพระราชินีโซฟีพระมารดามีพระชนมายุได้เพียง 17 พรรษา เพียงสามปีต่อมาพระองค์ก็ทรงมีพระประสูติกาลพระโอรส ผู้ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 แห่งเดนมาร์ก อันนาและเอลิซาเบธพระเชษฐภคินีทรงถูกส่งไปเลี้ยงดูโดยและเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งเม็คเลนบวร์ก-กึสโทรว์ผู้เป็นพระอัยกาและพระอัยกีทางฝ่ายพระมารดาที่กึสโทรว์ในประเทศเยอรมนี เมื่อเปรียบเทียบกับราชสำนักเดนมาร์กที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์สนุกสนานอันเลื่องชื่อของพระเจ้าเฟรดริค ที่เป็นราชสำนักที่เต็มไปด้วยการเลี้ยงรับรองด้วยอาหารและเครื่องดื่มอย่างใหญ่มโหฬาร และการมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่มีแบบแผนอันเคร่งครัด รวมทั้งการนอกพระทัยในพระมเหสีของพระองค์แล้ว กึสโทรว์ก็ตรงกันข้าม ที่กลายมาเป็นสถานที่ที่ช่วยวางรากฐานของความสงบสำรวมในชีวิตเบื้องต้นของแอนน์ ต่อมาเจ้าชายคริสเตียนพระอนุชาก็ทรงถูกส่งไปกึสโทรว์เช่นกันแต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาราวสองปี ในปี ค.ศ. 1579 (Rigsraadet) ก็ยื่นคำร้องเรียกตัวพระราชโอรสธิดาในพระเจ้าเฟรดริคกลับมายังเดนมาร์กสำเร็จ
แอนน์ทรงมีความสุขในครอบครัวที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันระหว่างที่ทรงเจริญพระชนม์ในราชสำนักเดนมาร์ก เพราะพระองค์ทรงถูกเลี้ยงดูโดยตรงโดยพระราชมารดาพระราชินีโซฟี ผู้ทรงดูแลพระราชโอรสธิดาด้วยพระองค์เองยามประชวร แอนน์และเอลิซาเบธพระเชษฐภคินีต่างก็ทรงมีผู้ประสงค์ให้เป็นคู่หมายไปทั่วทั้งยุโรปรวมทั้งพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ผู้ทรงเลือกเดนมาร์กเพราะความที่เป็นประเทศที่ผ่านการปฏิรูปทางศาสนา และเป็นประเทศที่อาจจะมีผลประโยชน์ทางด้านการติดต่อค้าขายได้ด้วย ในระยะแรกราชทูตสกอตแลนด์หมายตัวเจ้าหญิงเอลิซาเบธพระเชษฐภคินีของแอนน์ แต่พระเจ้าเฟรดริคทรงหมั้นเจ้าหญิงเอลิซาเบธกับ และทรงสัญญามอบพระธิดาองค์ที่สองให้แทน “ถ้าพระเจ้าเจมส์จะทรงพอพระทัยก็จะยกให้”
การหมั้นและการเสกสมรสโดยฉันทะ
พระสุขภาพพลานามัยของพระราชินีโซฟีเริ่มทรุดลงหลังจากพระเจ้าเฟรดริคเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1588 นอกจากนั้นแล้วการสวรรคตของพระสวามีก็ยังทำให้สถานะของพระราชินีโซฟีอยู่ในสภาวะที่ลำบาก เมื่อทรงมีความขัดแย้งกับสภาองคมนตรีเกี่ยวกับอำนาจการควบคุมพระเจ้าคริสเตียน แต่ยังรวมไปถึงปัญหาในเรื่องการหาคู่ให้แก่พระราชธิดาด้วย แต่ในกรณีหลังนี้พระองค์ทรงมีตั้งมั่นมากกว่าพระสวามีและทรงประสบความสำเร็จในการตกลงเรื่องและสถานะภาพของหมู่เกาะออร์คนีย์ พระราชินีโซฟีทรงลงพระนามในการตกลงการหมั้นหมายในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1589
แอนน์เองก็ทรงตื่นเต้นกับการที่จะได้เป็นเจ้าสาวของพระเจ้าเจมส์ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1589 ทอมัส เฟาว์เลอร์สายลับอังกฤษรายงานว่าแอนน์ทรงตกหลุมรักพระเจ้าเจมส์อย่างถอนพระองค์ไม่ขึ้น คำกล่าวของเฟาว์เลอร์ที่เป็นนัยว่าพระเจ้าเจมส์โปรดผู้ชายมากกว่าผู้หญิง คงถูกซ่อนจากแอนน์ผู้มีพระชนมายุเพียง 14 พรรษาและทรงหมกมุ่นอยู่กับการปักพระภูษาสำหรับคู่หมั้น ในขณะที่ช่างอีกสามร้อยคนเตรียมชุดสำหรับพระราชพิธีเสกสมรสของพระองค์ ไม่ว่าข่าวลือที่ว่านี้จะจริงหรือไม่ แต่ที่เป็นจริงคือการที่พระเจ้าเจมส์ทรงมีความจำเป็นที่จะต้องแสวงหาคู่ที่เหมาะสมเพื่อการสืบสายของราชวงศ์สจวตต่อไป พระเจ้าเจมส์ทรงเปรยว่า “พระเจ้าเป็นพยานด้วยเถิด ข้าเองนั้นสามารถคอยให้เนิ่นนานกว่าที่ประเทศชาติจะยอมให้คอยได้ แต่ถ้าไอ้การรอคอยแล้วมันจะไปทำให้ผู้คนที่มีแต่ความอิจฉากังขาในความสามารถของข้า ราวกับว่าข้าเป็นคนที่ไม่มีความสามารถจะมีลูกได้” เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 1589 แอนน์ก็ทรงเสกสมรสโดยฉันทะกับพระเจ้าเจมส์ที่ปราสาทโครนบอร์กโดยมีจอร์จ คีธ เอิร์ลแห่งมาริสคาลเป็นผู้แทนพระองค์ของพระเจ้าเจมส์นั่งบนเตียงข้างแอนน์
การเสกสมรส
สิบวันหลังจากการเสกสมรสโดยฉันทะที่เดนมาร์กอันนาก็เสด็จไปสกอตแลนด์ทางเรือแต่กองเรือของพระองค์ประสบเหตุการณ์ร้ายต่างๆ ในที่สุดขบวนของคณะผู้เดินทางก็จำต้องแล่นกลับไปยังฝั่งทะเลนอร์เวย์ และจากฝั่งทะเลพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินทางบกไปยังออสโลเพื่อไปพำนักชั่วคราวพร้อมด้วยเอิร์ลแห่งมาริสคาลและผู้แทนจากสกอตแลนด์และเดนมาร์ก
เมื่อวันที่ 12 กันยายน ลอร์ดดิงวอลล์ผู้ร่วมเดินทางมากับอันนา แต่บนเรือคนละลำก็มาขึ้นฝั่งที่ลีธได้ และรายงานว่าเมื่อเดินทางมากับกองเรือของอันนาได้ 300 ไมล์ ก็มาคลาดกันเมื่อโดนมรสุม และลอร์ดดิงวอลล์มีความเกรงว่าอันนายังคงจะตกอยู่ในอันตราย เมื่อทราบข่าวพระเจ้าเจมส์ก็มีพระราชโองการให้มีการอดอาหารและสวดมนต์ให้แก่พระราชินีกันทั่วประเทศ ส่วนพระองค์เองก็เสด็จไปรอแอนน์ที่เฟิร์ธออฟฟอร์ธ นอกจากนั้นก็ทรงประพันธ์เพลงหลายเพลง เพลงหนึ่งเปรียบเทียบสถานะการณ์ที่บรรยายในตำนานกรีกเรื่อง “” (Hero and Leander) และทรงส่งคณะผู้ค้นหาที่ถือพระราชสาส์นที่ทรงเขียนถึงอันนาเป็นภาษาฝรั่งเศส: “ให้แก่พระองค์เพียงผู้เดียวที่รู้จักหม่อมฉันเช่นเงาของหม่อมฉันเองบนแก้วเท่านั้นที่หม่อมฉันจะบรรยายความรู้สึกได้, สุดที่รักของหม่อมฉัน, ความกลัวที่หม่อมฉันรู้สึกที่เกิดจากลมที่พัดผิดทิศทางและพายุที่โหมกระหน่ำตั้งแต่พระองค์ได้เริ่มเดินทาง...".” ในเดือนตุลาคมพระองค์ก็ทรงได้รับข่าวว่ากองเรือของเดนมาร์กยุติความพยายามที่จะข้ามมายังสกอตแลนด์ระหว่างฤดูหนาว วิลล์สันกล่าวว่าเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติคที่สุดในชีวิตของพระเจ้าเจมส์ พระเจ้าเจมส์จึงเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคจากลีธพร้อมกับผู้ติดตามอีกสามร้อยคนเพื่อไปรับอันนาด้วยพระองค์เอง พระเจ้าเจมส์เสด็จไปถึงออสโลเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากที่เสด็จพระราชดำเนินทางบกจาก Flekkefjord ทาง Tønsberg ตามหลักฐานของสกอตแลนด์กล่าวว่าเมื่อเสด็จไปถึงพระเจ้าเจมส์ก็รีบเสด็จไปเฝ้าอันนาทั้งที่ยังมิได้เปลี่ยนเครื่องทรงจากการเดินทาง -- “ทั้งรองพระบาทบูทและเครื่องทรงอื่นพร้อม” -- และพระราชทานจุมพิตอันนาตามแบบสกอต
อันนาและพระเจ้าเจมส์ทรงเสกสมรสกันอย่างเป็นทางการที่วังสังฆราชเก่าที่ออสโล เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 1589, “อย่างหรูหราเท่าที่ทำได้ในสมัยนั้นและที่นั้น” เดวิด ลินซีย์นักบวชจากลีธเดินทางไปทำพิธีเป็นภาษาฝรั่งเศสเพื่อให้ทั้งสองพระองค์เข้าใจ และบรรยายอันนาว่าทรงเป็น “เจ้าหญิงที่ทรงคุณธรรมและมีพระสิริโฉมงดงาม...พระองค์ทำความพอใจให้แก่พระเจ้าเจมส์” การเสกสมรสมีการฉลองกันเดือนหนึ่งและเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมพระเจ้าเจมส์ทรงลดผู้ติดตามลงเหลือเพียง 50 คนเพื่อเสด็จไปเยี่ยมพระญาติที่ปราสาทโครนบอร์ก อันนาและพระเจ้าเจมส์ทรงได้รับการต้อนรับจากพระพันปีโซฟีและพระเจ้าคริสเตียนผู้มีพระชนมพรรษาได้ 12 พรรษาและผู้สำเร็จราชการแผ่นดินของพระองค์สี่คน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคมทั้งสองพระองค์ก็ทรงย้ายไปโคเปนเฮเกนเพื่อทรงเข้าร่วมพิธีเสกสมรสระหว่างเอลิซาเบธพระเชษฐภคินีของอันนากับ สองวันต่อมาก็เสด็จลงเรือ “กิดเดียน” ที่ได้รับการซ่อมแซมแล้วกลับสกอตแลนด์ และเสด็จถึงลีธเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ห้าวันต่อมาอันนาก็เสด็จเข้าเมืองเอดินบะระห์อย่างเป็นทางการในราชรถม้าเงินแท้ที่ทรงนำมาจากเดนมาร์กโดยมีพระเจ้าเจมส์ทรงม้าตามข้างราชรถ
ราชาภิเษก
อันนาทรงเข้าพิธีสวมมงกุฎเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1590 ภายในแอบบีโฮลีรูดที่พระราชวังโฮลีรูด ซึ่งเป็นพระราชพิธีการสวมมงกุฎที่ทำแบบโปรเตสแตนต์เป็นครั้งแรกในสกอตแลนด์ พระราชพิธีสวมมงกุฎใช้เวลาทั้งสิ้นเจ็ดชั่วโมง เคานทเตสแห่งมาร์เป็นผู้เปิดพระภูษาเพื่อให้นักบวชโรเบิร์ต บรูซหลั่ง “น้ำมันหอมพอได้” ลงบนส่วนหนึ่งของพระถันและพระหัตถ์เพื่อเจิมให้เป็นพระราชินี นักบวชสกอตแลนด์ประท้วงพิธีส่วนนี้เพราะเห็นว่ามาจากประเพณีของผู้นอกรีตและจากประเพณีของชาวยิวแต่พระเจ้าเจมส์ทรงยืนยันว่าเป็นพิธีที่มีรากฐานมาจากพันธสัญญาเดิม พระเจ้าเจมส์ประทานมงกุฎแก่อัครมหาเสนาบดีเมทแลนด์ผู้วางบนพระเศียรของอันนา จากนั้นอันนาก็ทรงกล่าวคำปฏิญาณพระองค์ว่าว่าจะทรงเป็นผู้พิทักษ์ศาสนาอันแท้จริงและจะทรงมีความศรัทธาต่อพระเจ้า และจะทรงต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์ต่อความเชื่อต่างๆ ของโรมันคาทอลิกและพิธีกรรมต่างๆ ที่ไม่ตรงกับพระวจนะของพระเจ้า
ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเจมส์
จากหลักฐานทุกหลักฐานต่างก็กล่าวว่าพระเจ้าเจมส์ทรงหลงเสน่ห์แอนน์ แต่ความหลงที่ว่านี้ก็มิได้ยั่งยืนเท่าใดนัก และทั้งสองพระองค์ก็ทรงเริ่มมีเรื่องบาดหมางกันเพียงไม่กี่ปีหลังจากการเสกสมรส แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าเจมส์จะทรงปฏิบัติต่อแอนน์ด้วยความอดทนและความรัก ระหว่างปี ค.ศ. 1593 ถึงปี ค.ศ. 1595พระเจ้าเจมส์ทรงมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับแอนน์ เมอร์เรย์ผู้ต่อมาได้เป็นเลดีกลามิส ทรงกล่าวถึงแอนน์ว่าเป็น “พระสนมและหัวใจของฉัน” (my mistress and my love) แอนน์เองก็ทรงมีเรื่องอื้อฉาวเป็นบางครั้งบางคราว ใน “คู่มือการปกครองบาซิลิคอนโดรอน” (Basilikon Doron) ที่ทรงพระราชนิพนธ์ในปี ค.ศ. 1597 ถึงปี ค.ศ. 1598, พระเจ้าเจมส์ทรงบรรยายถึงชีวิตการสมรสว่าเป็น “ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหรือความขมขื่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ประสบต่อผู้ชาย”
ตั้งแต่นาทีแรกของการแต่งงานแอนน์ก็ได้รับความกดดันในการมีรัชทายาทให้แก่พระเจ้าเจมส์และสกอตแลนด์ แต่มาถึงปี ค.ศ. 1591 และ ค.ศ. 1592 ก็ยังไม่มีเค้าว่าจะทรงครรภ์ซึ่งทำให้มีข่าวลือว่าพระเจ้าเจมส์มัวแต่ทรงใช้ชีวิตอยู่ในกลุ่มผู้ชายและมีข่าวกระเส็นกระสายว่าเกี่ยวกับแอนน์ว่าไม่ทรงมีครรภ์ได้ ฉะนั้นจึงเป็นที่โล่งใจกันไปตามๆ กันเมื่อแอนน์ทรงให้กำเนิดแก่เฮนรี เฟรเดอริคพระโอรสองค์แรกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1594
สิทธิในตัวเจ้าชายเฮนรี
เพียงไม่นานแอนน์ก็ทราบว่าพระองค์ไม่มีสิทธิมีเสียงในการดูแลพระราชโอรสของพระองค์แต่อย่างใด พระเจ้าเจมส์ทรงแต่งตั้งเฮเล็น ลิตเติลผู้เคยเป็นพระพี่เลี้ยงของพระองค์เองให้เป็นพระพี่เลี้ยงของเจ้าชายเฮนรี เฟรเดอริค และให้บรรทมในพระอู่ไม้โอ้คที่เคยเป็นของพระองค์เองด้วย แต่สิ่งที่ทำให้แอนน์ทรงรันทดที่สุดก็เมื่อพระเจ้าเจมส์มีพระราชโองการให้ย้ายเจ้าชายเฮนรี เฟรเดอริคไปอยู่ภายใต้การดูแลอารักขาโดยจอห์น เอิร์สคิน เอิร์ลแห่งมาร์ที่ 18 ที่ปราสาทสเตอร์ลิงตามพระราชประเพณีของสกอตแลนด์
ในปลายปี ค.ศ. 1594 แอนน์ก็เริ่มรณรงค์เรียกร้องสิทธิในการปกครองดูแลพระราชโอรสจากผู้ที่สนับสนุนความต้องการของพระองค์รวมทั้งอัครมหาเสนาบดี ความที่ไม่ทรงแน่ใจว่าแอนน์จะทรงทำเรื่องให้บานปลายไปได้เท่าใด พระเจ้าเจมส์จึงมีพระราชโองการอย่างเป็นทางการห้ามมิให้เอิร์ลแห่งมาร์มอบตัวเจ้าชายเฮนรี เฟรเดอริคแก่ผู้ใดนอกไปจากเมื่อได้รับคำสั่งโดยตรงจากพระองค์เอง และไม่ให้มอบตัวเจ้าชายเฮนรี เฟรเดอริคแก่พระราชินีแม้ในกรณีที่พระองค์เองจะเสด็จสวรรคตไปแล้ว แอนน์ยื่นคำร้องให้เสนอเรื่องต่อสภาองคมนตรีแต่พระเจ้าเจมส์ไม่ทรงฟัง หลังจากที่ทรงมีเรื่องกันต่อหน้าธารกำนัลพระเจ้าเจมส์ก็ทรงข่มเหงน้ำพระทัยจนแอนน์พิโรธและกรรแสง แอนน์ก็ทรงโศรกเศร้าจนทรงแท้งเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1595 หลังจากนั้นก็ทรงเลิกเรียกร้องสิทธิแต่ความเสียหายครั้งนี้มีผลกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระสวามีเป็นอย่างมาก ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1595 จอห์น โคลวิลล์บันทึกว่าบรรยากาศระหว่างสองพระองค์เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ในปี ค.ศ. 1603 แอนน์ทรงเห็นช่องทางที่จะได้รับสิทธิในการดูแลพระราชโอรสเมื่อพระเจ้าเจมส์เสด็จลงไปยังลอนดอนพร้อมกับเอิร์ลแห่งมาร์เพื่อไปสืบราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ที่เพิ่งเสด็จสวรรคต แอนน์ซึ่งขณะนั้นทรงครรภ์รีบเสด็จไปยังปราสาทสเตอร์ลิงพร้อมกับกองกำลังขุนนางผู้สนับสนุนเพื่อจะนำตัวเจ้าชายเฮนรีผู้ทรงมิได้พบปะเกือบห้าปีกลับมากับพระองค์ แต่มารดาของเอิร์ลแห่งมาร์ยอมให้คนของพระองค์เข้ามาในปราสาทได้ไม่เกินสองคน การแข็งข้อของผู้ดูแลเจ้าชายเฮนรีทำให้แอนน์ทรงพิโรธจนทำให้ทรงแท้งอีกครั้งหนึ่งตามบันทึกของเดวิด คาลเดอร์วูดกล่าวว่าแอนน์เสด็จเข้าห้องบรรทมทั้งที่ทรงพิโรธ และทรงจากพระโอรสเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม
เมื่อเอิร์ลแห่งมาร์กลับมาพร้อมกับพระราชสาส์นจากพระเจ้าเจมส์ให้แอนน์เสด็จมาอังกฤษเพื่อมาเคียงข้างพระองค์ในราชอาณาจักรอังกฤษ แอนน์ก็ทรงโต้ตอบกลับไปว่าจะไม่ยอมเสด็จนอกจากว่าพระเจ้าเจมส์จะทรงยกสิทธิในการดูแลเจ้าชายเฮนรีให้พระองค์ ความรู้สึกในความเป็นแม่ที่รุนแรงที่นักประวัติศาสตร์พอลลีน ครอฟต์กล่าวถึงนี้ทำให้พระเจ้าเจมส์ทรงยอม แต่ก็ทรงบรรยายในพระราชสาส์นถึงเอิร์ลแห่งมาร์ว่าแอนน์มีพระทัยมุ่งมั่น หลังจากการพักฟื้นหลังจากที่ทรงแท้ง แอนน์ก็เสด็จไปลอนดอนพร้อมกับเจ้าชายเฮนรี, การเสด็จมาถึงลอนดอนเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่โต เลดี้แอนน์ คลิฟฟอร์ดบันทึกว่าเธอกับมารดาต้องฆ่าม้าไปสามตัวเพราะความที่รีบจะไปดูตัวแอนน์ พระเจ้าเจมส์ทรงไปพบแอนน์ไม่ไกลจากวินด์เซอร์ และมีขุนนางเป็นจำนวนมากมายอย่างที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน
ความขัดแย้งกับพระเจ้าเจมส์
ผู้สังเกตการณ์เริ่มสังเกตเห็นความแตกร้าวระหว่างแอนน์และพระเจ้าเจมส์ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "การคบคิดเกาว์รี’’ (Gowrie plot) ในปี ค.ศ. 1600 ที่จอห์น รูธเว็น เอิร์ลแห่งเกาว์รีที่ 3 และน้องชายถูกสังหารโดยองครักษ์ของพระเจ้าเจมส์เพราะถูกกล่าวหาว่าพยายามจะทำร้ายพระองค์ เป็นการทำให้น้องสาวสองคนเบียทริกซ์และบาร์บารา รูธเว็นผู้เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของพระราชินีแอนน์ต้องถูกปลดตามไปด้วย แอนน์ผู้ขณะนั้นทรงครรภ์ได้ห้าเดือน ไม่ทรงยอมลุกจากพระแท่นไม่ยอมเสวยไปสองวันนอกจากเสียว่าจะเรียกตัวทั้งสองคนคืน เมื่อพระเจ้าเจมส์ทรงพยายามที่จะบังคับพระองค์ พระองค์ก็ทรงแว้งว่าที่ทรงทำเช่นนั้นเพราะเห็นว่าพระองค์ไม่ใช่เอิร์ลแห่งเกาว์รี พระเจ้าเจมส์ทรงพยายามเอาพระทัยโดยการจ้างนักเล่นกายกรรมผู้มีชื่อเสียงมาแสดงให้พระชายาดู แต่แอนน์ก็ยังไม่ทรงยอมและทรงสนับสนุนพี่น้องรูธเว็นต่อไปอีกสามปี และเป็นเรื่องใหญ่โตพอที่รัฐบาลจะพิจารณาว่าเป็นเรื่องของความปลอดภัยของประเทศชาติ ในปี ค.ศ. 1602 หลังจากที่พบว่าแอนน์ทรงลักลอบเอาเบียทริซเข้ามาในพระราชวังโฮลีรูด พระเจ้าเจมส์ก็มีพระราชโองการให้ไต่สวนพนักงานในพระราชวังทุกคน ในปี ค.ศ. 1603 พระองค์ก็ทรงยอมและพระราชทานเบี้ยบำนาญแก่เบียทริซเป็นจำนวน £200
การประจันพระพักตร์กันเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1613 เมื่อแอนน์ทรงยิงสุนัขตัวโปรดของพระเจ้าเจมส์ระหว่างการล่าสัตว์ หลังจากที่พิโรธแล้วพระเจ้าเจมส์ก็ทรงพยายามทำสถานการณ์ให้ดีขึ้นโดยพระราชทานของขวัญเป็นเพ็ชรที่มีมูลค่า £2000 เพื่อเป็นอนุสรณ์ต่อสุนัขที่ชื่อ “Jewel” (อัญมณี) ในปี ค.ศ. 1603, พระเจ้าเจมส์ทรงมีปากมีเสียงกับแอนน์ในเรื่องการจัดการในเรื่องพนักงานในอังกฤษและทรงส่งข่าวถึงพระราชินีว่าไม่ทรงพอพระทัยในการกระทำของพระราชินี ในการโต้ตอบแอนน์ก็ทรงวิพากษ์วิจารณ์การดื่มน้ำจัณฑ์ของพระสวามี ในปี ค.ศ. 1604 แอนน์ทรงเปรยเป็นการส่วนพระองค์กับราชทูตฝรั่งเศสว่า, “พระองค์ทรงดื่มน้ำจัณฑ์เป็นจำนวนมาก และมีพระกิริยาที่ไม่เหมาะไม่ควรในทุกกรณี และฉันหวังว่าคงจะมีผลในทางร้ายที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์”
แยกกันอยู่
เมื่อประทับในลอนดอนแอนน์ก็ทรงใช้ชีวิตของการอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่พระเจ้าเจมส์ทรงพอพระทัยที่จะหนีออกจากเมือง โดยเฉพาะไปยังตำหนักล่าสัตว์ที่รอยสตันในฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ กอดฟรีย์ กูดมันอนุศาสนาจารย์ประจำพระองค์ของแอนน์สรุปความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพระองค์ว่า: “พระเจ้าเจมส์เองทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ทรงมีอะไรที่แอนน์ทรงกระทำที่จะทรงทำให้ขาดความอุทิศพระองค์ให้แก่แอนน์ แต่ทั้งสองพระองค์ก็มิได้มีความรักกันเช่นที่สามีภรรยาที่ควรจะรักกัน และไม่ทรงพูดจากัน ในที่สุดแอนน์ก็ทรงย้ายไปประทับที่พระราชวังกรีนิชและต่อมา ที่ทรงตั้งชื่อใหม่ว่า คฤหาสน์เดนมาร์ก หลังจากปี ค.ศ. 1607 แอนน์และพระเจ้าเจมส์ก็แทบจะไม่ได้ประทับร่วมกัน ในขณะนั้นพระองค์มีพระโอรสธิดาได้เจ็ดพระองค์แล้ว นอกจากการทรงแท้งสามครั้ง หลังจากที่ทรงรอดมาได้จากการให้กำเนิดแก่เจ้าหญิงโซฟี พระราชธิดาองค์สุดท้องที่เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1607 แล้วแอนน์ก็ทรงตัดสินพระทัยว่าจะไม่มีพระโอรสธิดาอีก ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองพระองค์ยิ่งห่างเหินกันหนักยิ่งขึ้นไปอีก
การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี ในปี ค.ศ. 1612 (อาจจะจากไทฟอยด์) เมื่อพระชนมายุได้ 18 พรรษา และการจากไปของเจ้าหญิงเอลิซาเบธพระธิดาผู้มีพระชนมายุได้ 16 พรรษาไปยังไฮเดลแบร์ก ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1613 เพื่อไปเสกสมรสกับเฟรเดอริคที่ 5 เจ้าชายอีเล็คเตอร์แห่งพาเลไทน์, ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแอนน์และพระเจ้าเจมส์ยิ่งห่างเหินกันยิ่งขึ้น การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรีเป็นความสูญเสียอันใหญ่หลวงของแอนน์ ราชทูตเวนิสได้รับการเตือนไม่ให้แสดงความเสียใจในการสูญเสียต่อพระราชินีเพราะไม่ทรงทนรับฟังได้ หรือถ้าทรงได้ยินก็จะไม่ทรงสามารถควบคุมพระองค์จากการกรรแสงได้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพระสุขภาพพลานามัยของพระองค์ก็เริ่มเสื่อมโทรมลง และทรงถอนพระองค์จากการสังคมและการเมืองโดยทั่วไป และทรงจัดละครสวมหน้ากากครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1614 อิทธิพลที่มีต่อพระสวามีก็ลดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด และพระเจ้าเจมส์ก็ทรงพึ่งพาผู้ที่โปรดผู้มีอำนาจมากขึ้น
ปฏิกิริยาต่อคนโปรดของพระสวามี
แม้ว่าจะทรงมีคนโปรดอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็เป็นการภายใน แต่ในระยะหลังพระเจ้าเจมส์ทรงสนับสนุนให้บุคคลเหล่านี้มีบทบาทในทางการเมืองด้วย แอนน์ทรงมีปฏิกิริยาแตกต่างกันระหว่างคนโปรดสองคนผู้มีอิทธิพลต่อครึ่งหลังของสมัยของโรเบิร์ต คารร์ เอิร์ลที่ 1 แห่งซัมเมอร์เซต พระสวามี และจอร์จ วิลเลิร์ส ผู้ซึ่งต่อมาเป็นคนโปรดแทนคารร์ แอนน์ไม่โปรดคารร์เอาเลย และทรงสนับสนุนการขึ้นอำนาจของจอร์จ วิลเลิร์ส ผู้ที่พระเจ้าเจมส์พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็นขุนนางในห้องพระบรรทมของแอนน์ และทรงสร้างความสัมพันธ์อันดีกับวิลเลียรส์และประทานนามว่าเป็น “สุนัข” ของพระองค์ แต่กระนั้นวิลเลียรส์ก็เริ่มหันหลังให้แอนน์จนแอนน์ทรงมีความโดดเดี่ยวในบั้นปลายของชีวิตของพระองค์
ศาสนา
ความแตกต่างระหว่างแอนน์และพระเจ้าเจมส์อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องศาสนาเช่นในการที่แอนน์ไม่ทรงยอมรับศีลมหาสนิทแบบอังกลิคันในพระราชพิธีราชาภิเษกเป็นราชินีของพระองค์เอง แอนน์ทรงได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างลูเธอรันแต่อาจจะทรงเปลี่ยนเป็นนิกายโรมันคาทอลิกอย่างลับๆ ในเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานการณ์ทางการเมืองที่ถ้าเป็นที่เปิดเผยก็จะเป็นสิ่งที่น่าละอาย และเป็นที่ทำให้หวาดหวั่นกันในบรรดาองค์มนตรีของสกอตแลนด์ ของวัดสกอตแลนด์ และทำให้เป็นที่น่าสงสัยแก่หมู่อังกลิคันของอังกฤษ
พระราชินีนาถเอลิซาเบธเองก็ทรงเป็นกังวลเรื่องโอกาสที่จะเปลี่ยนนิกายของแอนน์จนทรงส่งพระราชสาส์นไปเตือนแอนน์ไม่ให้ฟังที่ปรึกษาโรมันคาทอลิก และขอให้ส่งชื่อผู้ที่จะพยายามให้พระองค์เปลี่ยนศาสนามาให้พระองค์ แอนน์ทรงตอบไปว่าไม่มีความจำเป็นในการส่งชื่อเพราะความพยายามต่างๆ ต่างก็ล้มเหลว แต่แอนน์ก็ถูกวิจารณ์จากนิกายเชิร์ชออฟสกอตแลนด์ที่ยังคงเป็นสหายสนิทของเฮ็นเรียตตา กอร์ดอนภรรยาของจอร์จ กอร์ดอน มาร์ควิสแห่งฮันท์ลีย์ที่ 1 (George Gordon, 1st Marquess of Huntly) หลังจากจอร์จ กอร์ดอน มาร์ควิสแห่งฮันท์ลีย์กลับมาในปี ค.ศ. 1596 นักบวชเดวิด แบล็คแห่งวัดเซนต์แอนดรูว์เรียกแอนน์ว่า “atheist” (ผู้ไม่เชื่อพระเจ้า) และเปรยในคำเทศนาว่า “พระราชินีแห่งสกอตแลนด์เป็นสตรีที่แม้นักบวชจะสวดมนต์ให้พรให้พระองค์แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะทำให้มีผลดีขึ้นแต่อย่างใด”
เมื่ออดีตสายลับเซอร์แอนโทนี สแตนเด็นถูกพบว่าเป็นผู้นำสายประคำจาก มาถวายแอนน์ในปี ค.ศ. 1603 พระเจ้าเจมส์ก็ทรงสั่งให้จับสแตนเด็นไปจำขังไว้ที่หอคอยแห่งลอนดอนอยู่สิบเดือน แอนน์ทรงประท้วงเรื่องของขวัญ และในที่สุดก็ทรงช่วยให้สแตนเด็นได้รับการปลดปล่อย
พระราชินีแอนน์ก็เช่นเดียวกับพระเจ้าเจมส์ที่ทรงสนับสนุนการจัดคู่ของทั้งพระราชโอรสและธิดากับผู้เป็นโรมันคาทอลิก แอนน์มีพระราชสาส์นถึงผู้ที่อาจจะมาเป็นเจ้าสาวของพระโอรสที่รวมทั้งทรงขอให้มาเรียแอนนาส่งนักบวชสองคนไปเยรูซาเลมเพื่อไปสวดมนต์ให้พระองค์และพระเจ้าเจมส์ ทางสำนักพระสันตะปาปาไม่เคยมีความมั่นใจในสถานะของแอนน์ ในปี ค.ศ. 1612 ทรงแนะนำทูตของราชสำนักว่า “อย่าเอาความลมเพลมพัดของพระองค์มาเป็นหลัก ...และแม้ว่าจะทรงเป็นโรมันคาทอลิกจริงก็ยังเอามาเป็นการตัดสินที่แน่นอนไม่ได้”
ราชสำนักและการเมือง
ระหว่างที่ประทับอยู่ในสกอตแลนด์แอนน์มักจะใช้ความแตกแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่ายของราชสำนักในการหาผลประโยชน์ทางการเมืองให้แก่พระองค์เองโดยเฉพาะในการสนับสนุนศัตรูของเอิร์ลแห่งมาร์ ฉะนั้นพระเจ้าเจมส์จึงไม่มีความไว้วางพระทัยในพระชายาในเรื่องความลับของประเทศ เฮนรี โฮเวิร์ด เอิร์ลแห่งนอร์ทแธมพ์ตันที่ 1 ผู้มีบทบาทสำคัญในกรณีการสืบราชบัลลังก์อังกฤษถวายคำแนะนำแก่พระเจ้าเจมส์อย่างเป็นการส่วนพระองค์ว่าแอนน์ทรงมีคุณสมบัติทุกอย่างเช่นอีฟผู้ถูกล่อลวงบุรุษด้วยงูร้ายได้สำเร็จ แต่โดยทั่วไปแล้วแอนน์ไม่ทรงมีความสนใจกับการเมืองเท่าใดนัก นอกจากเมื่อมามีส่วนเกี่ยวข้องกับพระราชโอรสธิดาหรือพระสหาย
เมื่อประทับอยู่ในอังกฤษพระราชินีแอนน์ทรงหันความสนพระทัยจากทางการเมืองไปในด้านการสังคมและกิจการที่เกี่ยวกับศิลปะ แม้ว่าพระองค์จะทรงมีส่วนร่วมในราชสำนักของพระเจ้าเจมส์อย่างเต็มที่และทรงมีราชสำนักของพระองค์เอง ที่มักจะดึงดูดผู้ที่ไม่เป็นที่พอพระทัยของพระสวามี แต่ไม่ทรงถือหางทางการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าเจมส์ ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองพระองค์จะเป็นเช่นใดพระราชินีแอนน์ก็ทรงเป็นผู้ที่ทรงมีคุณค่าต่อพระสวามีในอังกฤษ เช่นในการติดต่อกับราชทูตและผู้มาเยือนชาวต่างประเทศราชวงศ์สจวตและราชวงศ์โอลเดนเบิร์กของเดนมาร์กเป็นอย่างดี
นิโคโล โมลินราชทูตเวนิสบันทึกเกี่ยวกับพระราชินีแอนน์ในปี ค.ศ. 1606 ว่า:
“ | พระราชินีแอนน์ทรงเป็นผู้มีพระสติปัญญาและพระปรีชาสามารถ และมีความเข้าใจในเรื่องความไม่มีระเบียบของรัฐบาลซึ่งไม่ทรงมีส่วนเกี่ยวข้อง และว่ากันว่าพระสวามีจะจงรักภักดีต่อพระองค์และทรงมีบทบาทอย่างใดก็ได้ถ้ามีพระประสงค์ พระองค์ไม่มีพระประสงค์จะมีปัญหาและทรงทราบว่าผู้บริหารบ้านเมืองไม่ต้องการให้มีผู้ใดเกี่ยวข้องพระองค์จึงทรงปฏิบัติพระองค์อย่างไม่สนใจกับการเมือง พระองค์ทรงเต็มไปด้วยความกรุณาต่อผู้สนับสนุนพระองค์และก็ไม่ทรงปราณีต่อผู้ที่ไม่ทรงพอพระทัย | ” |
ชื่อเสียง
ทัศนคติของนักประวัติศาสตร์ที่มีต่อพระราชินีแอนน์ตามปกติแล้วจะเป็นทัศนคติที่ไม่ค่อยจะดีนัก ที่มักจะเน้นความหยุมหยิมและความฟุ่มเฟือยของพระองค์ เมื่อเปรียบเทียบกับพระเจ้าเจมส์นักประวัติศาสตร์ก็มักจะละเลยการกล่าวถึงพระองค์โดยสิ้นเชิง เริ่มด้วยนักประวัติศาสตร์ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อราชวงศ์สจวตในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 ที่เห็นความหลงพระองค์ของราชสำนักจาโคเบียนเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำมาซึ่งสงครามกลางเมืองอังกฤษ นักประวัติศาสตร์เดวิด แฮร์ริส วิลล์สันเขียนในพระราชประวัติของพระเจ้าเจมส์ ในปี ค.ศ. 1956 ประณามว่า: “พระราชินีแอนน์ไม่ทรงมีอิทธิพลต่อพระสวามีเท่าใดนัก และไม่ทรงสามารถที่จะร่วมในความสนใจทางความเจริญทางสติปัญญาของพระสวามี และมีพระนิสัยที่เป็นนิสัยของสตรีตามที่พระเจ้าเจมส์ทรงมีความเห็น อนิจจา! พระเจ้าเจมส์ทรงเสกสมรสกับภรรยาโง่” นักเขียนชีวประวัติของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประณามการที่ทรงต่อสู้ในสิทธิในการดูแลเจ้าชายเฮนรีของพระราชินีแอนน์ว่าเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ: “[การกระทำนี้]คงต้องทำให้ความเห็นในพระอุปนิสัยของพระราชินีแอนน์แห่งเดนมาร์กลดถอยลงในสายตาของทุกคน ...ว่าทรงใช้เพียงสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่เสี่ยงต่อความเกี่ยวข้องกับพระสวามี, พระราชโอรส และราชอาณาจักร ในการสร้างบรรยากาศของความทุกข์และความขัดแย้งอันไม่เป็นธรรมชาติ”
แต่การวิเคราะห์พระเจ้าเจมส์ใหม่ในช่วงระยะเวลายี่สิบปีที่ผ่านมา ก็มีความเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักการปกครองผู้มีความสามารถผู้ทรงใช้อำนาจในสกอตแลนด์ และมีพระปรีชาสามารถในการป้องกันรักษาราชอาณาจักรจากการสงครามตลอดรัชสมัยของพระองค์ ที่ตามมาด้วยความเห็นใหม่เกี่ยวกับพระราชินีแอนน์ว่าทรงเป็นผู้มีอิทธิพลในด้านการเมืองและเป็นพระมารดาผู้ทรงพยายามแสดงสิทธิของพระองค์ในตัวพระราชโอรส ในขณะที่ชีวิตการเสกสมรสระหว่างสองพระองค์ยังคงมีความหมายอยู่ จอห์น ลีดส์ บาร์โรลล์ค้านในพระราชประวัติทางวัฒนธรรมของพระราชินีแอนน์ว่าความเข้าเกี่ยวข้องทางการเมืองในสกอตแลนด์ของพระองค์มีความสำคัญกว่า และสิ่งที่เป็นที่แน่นอนคือทำให้เป็นปัญหามากกว่าที่เคยตั้งข้อสังเกตกันมาแต่ก่อน แคลร์ แมคมานัสหนึ่งในบรรดานักประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเน้นบทบาทความมีอิทธิพลของพระราชินีแอนน์ในวัฒนธรรมจาโคเบียนว่าไม่ทรงแต่จะเป็นผู้อุปถัมภ์นักเขียนและศิลปินเท่านั้น แต่ยังทรงเป็นนักแสดงเองด้วย
ผู้อุปถัมภ์ศิลปะ
พระราชินีแอนน์ทรงพระอุปนิสัยเหมือนพระเจ้าเจมส์พระราชสวามีตรงที่โปรดความฟุ้งเฟ้อ แม้ว่าจะต้องทรงใช้เวลาเป็นหลายปีก่อนที่จะทรงใช้พระราชทรัพย์จำนวนมหาศาลจากสินสอดทองหมั้นหมด พระราชินีแอนน์โปรดการเต้นรำและงานเลี้ยงต่างๆ ซึ่งมักจะทำความไม่ค่อยพอใจให้แก่ (Presbyterian) ในสกอตแลนด์เท่าใดนัก แต่ทรงพบว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับกันในวงจาโคเบียนในลอนดอน และทรงใช้ในการสร้างบรรยากาศอันเต็มไปด้วยวัฒนธรรมในราชสำนัก พระองค์ทรงมีความสนพระทัยในการละครเป็นอย่างยิ่งและทรงเป็นเจ้าภาพงานละครสวมหน้ากาก (Masque) ซึ่งเป็นงานใหญ่โตประจำปีแทบทุกปี เมื่อเซอร์วอลเตอร์ โคพได้รับคำสั่งจากโรเบิร์ต เซซิลให้เลือกบทละครสำหรับพระราชินีเนื่องในพระราชวโรกาสของการมาเยือนของพระอนุชาดยุกอุลริชแห่งฮ็อลชไตน์ วอลเตอร์ โคพก็บันทึกว่า “เบอร์เบจกลับมาบอกว่าไม่มีบทละครใหม่สำหรับพระราชินีและมีบทละครเก่าที่นำมาฟื้นฟูชื่อ “Love's Labour's Lost” ที่มีทั้งปฏิภาณและไหวพริบที่เบอร์เบจกล่าวว่าจะทำให้ทรงพอพระทัยเป็นอันมาก” งานละครสวมหน้ากากของพระราชินีแอนน์เป็นงานที่หรูหราน่าดูทั้งทางด้านฉากและการเต้นรำอย่างที่ไม่เคยทำกันมาก่อน ที่ผู้เข้าร่วมมีทั้งราชทูตต่างประเทศและบุคคลสำคัญๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของอังกฤษในยุโรป ซอร์ซิ จุยติเนียนราชทูตเวนิสบันทึกถึงงานเมื่อคริสต์มาสปี ค.ศ. 1604 ว่า “ในความคิดเห็นของทุกคนไม่มีราชสำนักใดที่สามารถจัดงานละครสวมหน้ากากที่หรูหราโอ่อ่าได้เท่านี้”
งานละครสวมหน้ากากของพระราชินีแอนน์ในยี่สิบปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นงานที่เปิดโอกาสให้นักแสดงสตรีเข้าร่วมเป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของนักแสดงสตรี บางครั้งพระราชินีแอนน์ก็จะทรงร่วมแสดงกับสตรีในละครด้วยพระองค์เอง และบางครั้งระหว่างการแสดงก็จะทรงถูกกระทบกระเทียบจากผู้ชมบางคน เช่นในละคร “The Vision of the Twelve Goddesses” เมื่อทรงแสดงเป็นอธีนา โดยทรงทูนิคที่ผู้ชมบางคนติว่าฉลองพระองค์สั้นเกินไป และในละครเรื่อง “The Masque of Blackness” ในปี ค.ศ. 1605 เมื่อพระราชินีแอนน์ทรงร่วมแสดงเมื่อทรงครรภ์ได้หกเดือน หรือเมื่อทรงก่อความอื้อฉาวเมื่อพระองค์และนักแสดงสตรีทาสีตนเองในการแสดงเป็นคนผิวดำแทนที่จะใช้หน้ากากตามธรรมเนียม นักเขียนจดหมายรายงานว่าหลังจากการแสดงแล้วพระราชินีแอนน์ทรงเต้นรำกับราชทูตสเปนผู้จำใจต้องจูบพระหัตถ์ “แม้จะกลัวว่าสีจะติดปากจากพระหัตถ์” ในการสร้างงานละครสวมหน้ากากแต่ละครั้งพระราชินีแอนน์ก็ทรงจ้างศิลปินคนสำคัญๆ ในยุคนั้นในการออกแบบและสร้างฉากที่รวมทั้ง และอินิโก โจนส์
อินิโก โจนส์ผู้เป็นสถาปนิกผู้มีพรสวรรค์ผู้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในรสนิยมล่าสุดของยุโรปเป็นผู้ออกแบบที่กรีนิชสำหรับพระองค์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมพาเลเดียน ที่แท้จริงชิ้นแรกที่สร้างในอังกฤษ และนักประดิษฐ์ชาวดัทช์เป็นผู้ออกแบบสวนที่กรีนิชและคฤหาสน์ซัมเมอร์เซ็ท นอกจากนั้นพระราชินีแอนน์ก็ยังโปรดดนตรีและทรงอุปถัมภ์นักเล่นลูทและคีตกวี ผู้ก่อนหน้านั้นเป็นข้าราชสำนักในพระอนุชาของพระองค์ในเดนมาร์ก และทรงอุปถัมภ์นักดนตรีฝรั่งเศสอีกหลายคน
นอกจากนั้นพระราชินีแอนน์ก็ยังทรงจ้างศิลปินเช่น, และ ผู้มามีอิทธิพลต่อรสนิยมของทัศนศิลป์ในอังกฤษต่อมา ภายใต้พระราชินีแอนน์งานสะสมก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น นโยบายที่ทำต่อมาโดยพระราชโอรสพระเจ้าชาร์ลส์ นักประวัติศาสตร์แอเลน สจวตเสนอว่าลักษณะต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของสมัยจาโคเบียนมาจากพระราชินีแอนน์มากกว่าที่จะมาจากพระเจ้าเจมส์ผู้มักจะ “บรรทมขณะที่ละครที่สำคัญๆ ที่สุดของอังกฤษกำลังแสดงอยู่”
การสวรรคต
ในปลายปี ค.ศ. 1617 การประชวรของพระราชินีก็ยิ่งถี่ขึ้นจนไม่ทรงสามารถปฏิบัติกิจอันใดได้ ในเดือนมกราคมปี ค.ศ. 1619 นายแพทย์ประจำพระองค์ถวายคำแนะนำแก่พระราชินีแอนน์ให้ทรงเลื่อยไม้เพื่อช่วยทำให้เลือดลมดีขึ้น แต่การออกพระกำลังกลับทำไห้ประชวรหนักยิ่งขึ้น พระเจ้าเจมส์เสด็จไปเยี่ยมพระราชินีแอนน์เพียงสามครั้งเมื่อประชวรครั้งสุดท้าย เจ้าชายชาร์ลส์พระราชโอรสมักจะบรรทมในห้องติดกับห้องพระมารดาที่พระราชวังแฮมพ์ตัน และประทับข้างพระแท่นในชั่วโมงสุดท้ายของพระชนม์ชีพของแอนน์เมื่อทรงสูญเสียพระเนตร อันนา รูสผู้เดินทางมากับพระราชินีแอนน์จากเดนมาร์กใน ค.ศ. 1590 ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่อยู่กับพระองค์จนวาระสุดท้าย พระราชินีแอนน์เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุได้ 44 พรรษาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1619 ด้วยพระอาการบวมน้ำ (dropsy)
แม้ว่าจะไม่ทรงสนพระทัยในตัวพระราชินีแอนน์ในระยะหลังแต่การสวรรคตของพระองค์ก็อดที่จะสร้างความสะเทือนพระทัยให้กับพระเจ้าเจมส์ไม่ได้ พระองค์มิได้ทรงไปเยี่ยมแอนน์ก่อนหน้าที่จะสวรรคตและมิได้ทรงร่วมในพระราชพิธีศพเพราะพระองค์เองก็ทรงล้มประชวรด้วยอาการที่นายแพทย์บรรยายว่า “เป็นลม, ถอนหายใจ, มีความรู้สึกสิ้นหวัง, มีความรู้สึกเศร้า...”. จากการตรวจพระบรมศพพบว่าพระราชินีแอนน์ “พระอวัยวะภายในเสียหมดแล้ว, โดยเฉพาะพระยกนะ(ตับ)” หลังจากที่ทิ้งพระบรมศพไว้เป็นระยะเวลานาน พระองค์ก็ได้รับการบรรจุใน ภายในแอบบีเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1619
พระโอรส-ธิดา
แอนแห่งเดนมาร์กทรงให้กำเนิดพระโอรส-ธิดาจำนวนทั้งสิ้น 7 พระองค์ผู้ซึ่งมีพระชนม์พ้นวัยเด็ก ซึ่งมีสี่พระองค์ซึ่งสิ้นพระชนม์ในวัยทารกหรือในวัยเด็กตอนต้น; นอกจากนี้พระนางยังทรงตกพระโลหิตพระโอรส-ธิดาถึงสามครั้ง พระโอรสพระองค์ที่สองเป็นพระมหากษัตริย์สืบต่อจากสมเด็จพระเจ้าเจมส์ คือ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 พระธิดา เอลิซาเบธ ทรงเป็นอัยยิกาในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งบริเตนใหญ่
- เฮนรี เฟรเดอริค เจ้าชายแห่งเวลส์ (19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1594–6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1612). สิ้นพระชนม์ อาจเนื่องมาจากไข้รากสาดน้อย เมื่อมีพระชนมายุได้ 18 พรรษา
- เอลิซาเบธ สจวต (19 สิงหาคม ค.ศ. 1596 – 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1662). เสกสมรสในปี ค.ศ. 1613 กับฟรีดริชที่ 5 เจ้าชายอีเล็คเตอร์แห่งพาเลไทน์ ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงอีเล็คเตรสแห่งพาเลไทน์ และ สมเด็จพระราชินีแห่งโบฮีเมีย สวรรคตเมื่อมีพระชนมายุ 65 พรรษา
- มาร์กาเร็ต สจวต (24 ธันวาคม ค.ศ. 1598-มีนาคม ค.ศ. 1600). สิ้นพระชนม์เมื่อมีพระชนมายุ 15 เดือนพระศพถูกฝังไว้ที่พระราชวังโฮลีรูด
- สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ (19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1600 – 30 มกราคม ค.ศ. 1649). เสกสมรสในปี ค.ศ. 1625 กับเฮนเรียตตา มาเรีย ทรงถูกสำเร็จโทษเมื่อมีพระชนมายุได้ 49 พรรษา
- (18 มกราคม -27 พฤษภาคม ค.ศ. 1602) สิ้นพระชนม์เมื่อมีพระชนมายุได้ 4 เดือน
- แมรี สจวต (8 เมษายน ค.ศ. 1605-16 ธันวาคม ค.ศ. 1607) สิ้นพระชนม์เมื่อมีพระชนมายุ 2 พรรษา
- โซเฟีย สจวต (22– 23 มิถุนายน 1606) ประสูติและสิ้นพระชนม์ในพระราชวังกรีนิช
เชิงอรรถ
- วิลเลียมส์, 1, 201; วิลสัน, 403
- Stewart, 182, 300–301.
- บาร์โรล, 15, 35, 109; “ถึงแม้ว่าแอนนาจะมีเสรีภาพส่วนพระองค์พอประมาณและทรงมีราชสำนักส่วนพระองค์ พระองค์ก็มิได้ทรงแสดงความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นฝักฝ่ายต่อพระสวามีอย่างออกหน้าออกตาเช่นเมื่อประทับอยู่ที่สกอตแลนด์ และไม่ทรงได้รับคำขอให้สนับสนุน ความมีชื่อเสียงราชสำนักส่วนพระองค์อยู่ที่การพบปะด้านศิลปะ” Stewart, 183
- อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีรายงานว่าแอนน์แห่งเดนมาร์กสิ้นพระชนม์อย่างไม่ทรงยอมรับนิกายโรมันคาทอลิก แต่จอห์น รีด บาร์โรลติงว่า “แต่เราน่าจะคุ้นเคยกับ “การแถลงข่าว” ในสมัยของแอนน์แห่งเดนมาร์กก็เช่นกันที่ทางการเห็นความจำเป็นในการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ว่าเป็นการสิ้นพระชนม์แบบที่เป็นที่ยอมรับของสังคม” บาร์โรล, 172; จดหมายจากแอนน์ถึงสกิพิโอนิ บอร์เกเซเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1601 บันทึกว่า “ยอมรับนิกายโรมันคาทอลิกด้วยความเต็มใจ” ตามคำกล่าวของแม็คมานัส, 93
- แอ็กเนส สตริคแลนด์ (ค.ศ. 1848), 276 ดึงเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2007; วิลสัน, 95; “Her traditionally flaccid court image...” บาร์โรล, 27; ครอฟต์, 55; “แอนน์ทรงเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยน่าสนใจแต่ก็ทรงมีความอดทนพอที่จะทนผู้คนตราบใดที่ยังทำให้พอพระทัย แอนน์ทรงมีความสนพระทัยในสิ่งที่ไม่หนักไปกว่าเรื่องฉลองพระองค์” เอคริก, 21
- “ (แอนน์) ทรงมีบทบาทในวงการเมืองในราชสำนักอย่างรวดเร็ว ด้านหนึ่งในชีวิตใหม่ของพระองค์ที่นักเขียนชีวประวัติสองสามคนของพระองค์มิได้เห็นเป็นเรื่องสำคัญ... ไม่นานก็ทรงมีบทบาททางการเมืองภายในราชสำนักสกอตแลนด์” บาร์โรล, 17; “แม้ว่านักประวัติศาสตร์จะไม่ให้ความสนใจกับพระองค์เท่าใดนัก พระราชินีของพระเจ้าเจมส์แอนน์แห่งเดนมาร์กมีพระปรีชาสามารถทางการเมือง” ชาร์พ, 244; “ถึงแม้ว่าอิทธิพลทางวัฒนธรรมระดับสูงระหว่างสมัยสจวตของพระมหากษัตริย์องค์ใหม่จะเป็นที่เห็นได้ในราชสำนัก...ระหว่างทศวรรษแรกของรัชสมัย ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ นี้มีมูลฐานมาจากแอนน์แห่งเดนมาร์กพระราชินีที่ไม่ค่อยจะมีใครกล่าวถึงของเจมส์” บาร์โรล, 1–2
- วิลเลียมส์, 1
- วิลเลียมส์, 3
- วิลเลียมส์, 2
- วิลเลียมส์, 5
- ครอฟต์, 24; แดเนียล โรเจอร์สผู้แทนอังกฤษรายงานมายัง วิลเลียม เซซิล บารอนแห่งเบอร์ลีย์ที่ 1ว่าพระราชินีโซฟีทรงเป็น “เจ้าหญิงผู้มีคุณธรรมความดีผู้ทรงดูแลพระโอรสธิดาด้วยความมีพระปรีชาสามารถ” วิลเลียมส์, 4.
- ครอฟต์, 24; คู่หมายอีกคนหนึ่งของพระเจ้าเจมส์คือ (ผู้มีพระชันษาแก่กว่าพระองค์ 8 พรรษา) แคทเธอรีนเป็นพระขนิษฐาของพระเจ้าอองรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส (พระเจ้าอองรีแห่งนาร์แวร์) และเป็นผู้ที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ทรงพอพระทัยมากกว่า. สจวต, 105-106; วิลเลียมส์, 12 เหตุผลหนึ่งที่พระเจ้าเจมส์ไม่ทรงยอมตกลง ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่พระเจ้าอองรีทรงตั้งข้อเรียกร้องจากพระองค์ในการสนับสนุนทางการทหารในยามสงคราม. วิลสัน, 86
- วิลเลียมส์, 10
- วิลเลียมส์, 10; วิลล์สัน, 87-88
- นักบวชตั้งข้อสังเกตในงานพระบรมศพของพระเจ้าเฟรดริคว่า “ถ้าเสวยน้ำจันต์น้อยลงสักหน่อย ก็คงจะมีพระชนมายุยืนขึ้นบ้าง” วิลเลียมส์, 6
- หมู่เกาะออร์คนีย์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสินสมรสของเจ้าหญิงเมื่อทรงเสกสมรสกับพระเจ้าเจมส์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์ในปี ค.ศ. 1469 เดนมาร์กได้รับคืนหลังจากค่าสินสมรสที่เป็นตัวเงินได้รับการชำระหมด. วิลเลียมส์, 10.
- ชาวเดนส์ยอมประกาศสละสิทธิหมู่เกาะออร์คนีย์ เมื่อพระเจ้าเจมส์ทรงประกาศว่าจะไม่ทรงเป็นทำพระองค์เช่นพ่อค้าสำหรับเจ้าสาว และทรงยุติข้อเรียกร้องสินสมรสที่สูงจนเกินกว่าเหตุ. วิลเลียมส์, 14; วิลล์สัน, 88.
- วิลเลียมส์, 14–15.
- จดหมายุถึงวิลเลียม แอชบีย์ เอกอัครราชทูตประจำเดนมาร์ก. วิลเลียมส์, 15.
- “ตลอดพระชนม์ชีพนอกไปจากหกเดือนที่เสกสมรสแล้ว พระเจ้าเจมส์ก็ไม่แสดงว่าโปรดสตรีและทรงมีความเห็นว่าสตรีเป็นเพศที่มีความสามารถด้อยกว่า ความสนพระทัยของพระองค์ส่วนใหญ่แล้วจะมีให้กับชายหนุ่ม” วิลเลียมส์, 14–15.
- นอกไปจากชุดแต่งงานแล้วก็ยังมีช่างอีกห้าร้อยคนที่ทำงานตลอดสามเดือนเพื่อเตรียมเครื่องทรง. วิลล์สัน, 87
- ครอฟต์, 23–4
- “God is my witness, I could have abstained longer than the weal of my country could have permitted, [had not] my long delay bred in the breasts of many a great jealousy of my inability, as if I were a barren stock.” วิลล์สัน, 85.
- วิลเลียมส์, 15; แมคมานัส, 61
- ที่เอลซินอร์ปืนใหญ่ลั่นโดยอุบัติเหตทำให้ลูกเรือเสียชีวิตไปสองคน วันรุ่งขึ้นเมื่อมีการยิงปืนเพื่อเป็นเกียรติแก่ขุนนางสกอตสองคน ปืนก็ระเบิดทำให้คนยิงเสียชีวิตและลูกเรืออีกเก้าคนบาดเจ็บ จากนั้นก็ประสบมรสุมจนเรือของพระองค์หายไปอย่างไม่มีร่องรอยอยู่สามวัน ต่อมาเรือสองลำก็ชนกันทำให้ลูกเรือเสียชีวิตไปอีกสองคน “กิดเดียน” เรือพระที่นั่งก็รั่วจนต้องแวะเข้าซ่อมที่ Gammel Sellohe ที่นอร์เวย์ แต่ก็รั่วอีกเมื่อนำออกจากอู่ เมื่อกองเรือจอดพักอยู่ที่ Flekkerø เวลาก็ล่วงมาจนถึงเดือนตุลาคมเมื่อลูกเรือไม่เต็มใจที่จะนำเรือข้ามไปยังสกอตแลนด์ในช่วงเวลานั้น. สจวต, 109.
- สจวต, 109; ในขณะนั้นพระเจ้าแผ่นดินแห่งเดนมาร์กทรงปกครองทั้งเดนมาร์กและนอร์เวย์. วิลเลียมส์, 207
- สจวต, 107
- วิลล์สัน, 88; วิลเลียมส์, 17; ทรงเฝ้าดูฝั่งทะเลจากคฤหาสน์ซีตันซึ่งเป็นที่พำนักของ ผู้เป็นพระสหาย. สจวต, 108
- วิลล์สัน, 89; สจวต, 108; วิลเลียมส์, 19
- วิลล์สัน, 85; สจวต, 109.
- ในบันทึกที่ทรงทิ้งไว้ทรงบันทึกว่าสาเหตุที่ทรงตัดสินใจเดินทางก็เพื่อแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าทรงมีความสามารถที่จะทำอะไรด้วยพระองค์เองได้ (he was no “irresolute ass who could do nothing of himself”). วิลล์สัน, 90; สจวต, 112; วิลเลียมส์กล่าวว่าพระเจ้าเจมส์ต้องทรงเป็นผู้มีความกล้าหาญพอประมาณที่ตัดสินใจเดินทางข้ามโดยเรือขนาด 130 ตันในช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นระยะเวลาที่อันตรายที่สุดในการเดินทางข้ามทะเลเหนือ. วิลเลียมส์, 18
- “พระเจ้าเจมส์ประทานจูบพระราชินีตามแบบสกอตเมื่อทรงพบกันซึ่งแอนน์ทรงประท้วงว่ามิใช่เป็นประเพณีจากบ้านเมืองของพระองค์ และทรงปิติหลังที่ได้ทรงสนทนากันเป็นการส่วนพระองค์ระหว่างสองพระองค์” สจวตกล่าวจากบันทึกโดยเดวิด ม็อยซี, 112; วิลเลียมส์, 20; แมคมานัสมีความเห็นว่าการประท้วงของแอนน์เป็นสัญญาณของความเป็นตัวของตัวเองของพระองค์. แมคมานัส, 65–6; วิลล์สันเคลือบแคลงในความเท็จจริงของบันทึกของม็อยซีและไปอ้างคำบรรยายของเดนมาร์กแทนที่ว่าพระเจ้าเจมส์เสด็จมาถึงออสโลอย่างสมพระเกียรติและทรงปฏิบัติพระองค์ถูกต้องตามประเพณีทางการทูตอย่างเต็มตัว. วิลล์สัน, 90–1
- สจวต, 112.
- สจวต, 112; วิลล์สัน, 91.
- สจวต, 113; วิลเลียมส์, 23. แอนน์และพระเจ้าเจมส์อาจจะทำพิธีแต่งงานอีกครั้งที่ปราสาทโครนบอร์ก ครั้งนี้ตามพิธีแบบลูเธอรันเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1590. วิลเลียมส์, 23; แมคมานัสกล่าวว่าการแต่งงานครั้งที่สองไม่มีหลักฐานสนับสนุน. แมคมานัส, 61.
- สจวต, 117.
- สจวต, 118
- Maclagan, Michael (1999), Line of Succession: Heraldry of the Royal Families of Europe, London: Little, Brown & Co, p. 27, ISBN
{{}}
: ตรวจสอบค่า|isbn=
: checksum ((help)); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - ครอฟต์, 24; สจวต, 119
- วิลเลียมส์, 30; แมคมานัส, 70,
- วิลล์สัน, 93; วิลเลียมส์, 29
- วิลเลียมส์, 31
- สจวต, 119; วิลเลียมส์, 31; แมคมานัส, 71
- วิลล์สัน, 85-95, 94-95
- ครอฟต์ 24
- ครอฟต์, 134
- ข่าวลือที่ว่าแอนน์ทรงครรภ์เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนหน้าที่แอนน์จะเสด็จมาถึงสกอตแลนด์. สจวต, 139
- สจวต, 139–40
- สจวต, 140; พระนามตั้งตามชื่อพระอัยกาสองพระองค์ เฮนรี สจวต ลอร์ดดาร์นลีย์ และ พระเจ้าเฟรเดอริคที่ 2 แห่งเดนมาร์ก. วิลเลียมส์, 47
- วิลเลียมส์, 47
- “ (แอนน์) ไม่เคยทรงบรรเทาจากความพิโรธและความรันทดที่เกิดจากการที่ถูกแยกจากพระราชโอรสองค์แรก” ครอฟต์ 24; “...ความขัดแย้งกับพระสวามีจากความขมขื่น (ที่ทรงถูกพรากจากพระโอรส) เป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตการสมรสของพระองค์” วิลเลียมส์, 52; เอิร์ลแห่งมาร์เป็นตำแหน่งของผู้มีสิทธิในการดูแลอารักขารัชทายาทของสกอตแลนด์ตามประเพณี. สจวต, 140; วิลเลียมส์, 53
- สจวต, 140–141; วิลเลียมส์สันนิษฐานว่าเมทแลนด์เป็นนกสองหัวแต่ก็มีความรู้สึกเดียวกันในความเป็นคู่อริกับเอิร์ลแห่งมาร์ และถวายคำแนะนำอย่างลับๆ ต่อพระเจ้าเจมส์ว่าไม่ให้ทรงยอมพระชายา. วิลเลียมส์, 53–57
- สจวต, 141; “ในกรณีที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าในตัวข้าพเจ้า ไม่ว่ากรณีใดๆ ห้ามมิให้มอบตัวเจ้าชายเฮนรีแก่พระราชินี จงเลี้ยงพระองค์จนพระชนมายุ 18 พรรษาเมื่อทรงมีโองการด้วยพระองค์เองได้” วิลเลียมส์, 55
- วิลเลียมส์, 54
- สายลับคนหนึ่งของ รายงานว่าได้ยินเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1595 ว่าแอนน์ทรงร้องขอพระเจ้าเจมส์ให้ทรงมีสิทธิในการดูแลเจ้าชายเฮนรี ในฐานะที่พระองค์เป็นพระมารดา และพระเจ้าเจมส์มิควรจะให้ผู้ไม่มีศักดิ์ศรีสมฐานะมาดูแลพระราชโอรสของพระองค์ พระเจ้าเจมส์ทรงตอบโต้ว่าไม่ทรงมีความข้องใจในความตั้งใจของพระชายา แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามของพระองค์เกิดมีอำนาจขึ้นมาพระชายาก็จะไม่มีความแข็งแรงพอที่จะป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้เจ้าชายเฮนรีเป็นปฏิปักษ์ต่อพระองค์ได้ เช่นเมื่อพระองค์เองถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายตรงข้ามกับพระราชมารดาผู้น่าสงสารของพระองค์เอง. วิลเลียมส์, 54
- วิลเลียมส์, 56
- สจวต, 141
- สจวต, 141
- พระเจ้าเจมส์ทรงล่ำลาแอนน์ด้วยความรักก่อนที่จะออกเดินทาง. วิลล์สัน, 160; วิลเลียมส์, 70-71
- สจวต, 169–72
- สจวต, 169; วิลเลียมส์, 70; ผู้สังเกตการณ์ชาวต่างประเทศในลอนดอนกระจายข่าวลือเกี่ยวกับการแท้งของแอนน์ เอกอัครราชทูตเวนิสรายงานว่าแอนน์ทุบตีพระอุทรของตนเองเพื่อให้แท้ง แม็กซิมีเลียน เดอ เบทูน ดยุกแห่งซุลลีจากฝรั่งเศสกล่าวว่าแอนน์ทรงแกล้งแท้งเพื่อผลทางการเมือง. วิลเลียมส์, 71; สจวต, 169; แมคมานัส, 91
- ในพระราชสาส์นตอบของพระเจ้าเจมส์กล่าวว่าแอนน์ทรงกล่าวหาพระองค์ว่าไม่รักพระองค์จริง; แต่งงานกับพระองค์เพียงเพราะทรงมีกำเนิดมาในราชตระกูล และทรงฟังข่าวเล่าลือว่าจะทรงเปลี่ยนไปนับถือนิกายโรมันคาทอลิก ในพระราชสาส์นพระเจ้าเจมส์ทรงกล่าวว่า: “...หม่อมฉันยังคงรักและมีความนับถือในตัวพระองค์อยู่ตามกฎของพระเจ้าและของธรรมชาติในสิ่งที่สามีควรจะทำต่อภรรยาและมารดาของลูกของหม่อมฉัน และไม่ใช่ทำเพราะพระองค์เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าแผ่นดิน เพราะไม่ว่าพระองค์จะเป็นผู้ใด -- พระราชธิดาของพระเจ้าแผ่นดินหรือลูกสาวของคนครัว -- พระองค์ก็คือสิ่งเดียวของหม่อมฉันนั่นก็คือเป็นภรรยาของหม่อมฉัน” และทรงสาบานว่าไม่เคยได้ยินข่าวลือจากผู้ใดในเรื่องที่แอนน์จะทรงเปลี่ยนไปนับถือนิกายโรมันคาทอลิก. สจวต, 170
- ครอฟต์ 55; วิลล์สัน, 160; วิลเลียมส์, 71; ทั้งบาร์โรลล์, 30, และ แมคมานัส, 81, ตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของแอนน์เป็นทั้งการกระทำทางการเมืองและสัญชาตญาณของความเป็นแม่; การแลกเปลี่ยนการดูแลทำกันอย่างเป็นทางการ โดยสภาผู้ดูแลพบปะกันที่สเตอร์ลิงและห้ามขุนนางของแอนน์เข้ามาในรัศมี 16 กิโลเมตรของเจ้าชายเฮนรี เอิร์ลแห่งมาร์มอบตัวเจ้าชายเฮนรีให้แก่ ผู้เป็นผู้แทนของพระเจ้าเจมส์ผู้มอบเจ้าชายเฮนรีให้แก่สภาผู้ดูแล และในที่สุดสภาผู้ดูแลมอบเจ้าชายเฮนรีให้แก่แอนน์และเล็นนิกซ์ ผู้ที่เป็นผู้นำทั้งสองพระองค์ลงมายังลอนดอนด้วยกัน. สจวต, 170–1
- เจ้าหญิงเอลิซาเบธเสด็จตามมาสองวันต่อมาและติดตามมาทัน แต่เจ้าชายชาร์ลส์ยังทรงถูกทิ้งไว้ในสกอตแลนด์เพราะไม่ทรงแข็งแรงพอที่จะเดินทาง. สจวต, 171; แอนน์ทรงเก็บร่างของพระทารกที่ทรงแท้งไว้กับพระองค์. แมคมานัส, 91
- วิลล์สัน, 164–5; เลดี้แอนน์ คลิฟฟอร์ดอายุสิบสามปีเมื่อเขียนบันทึก. วิลเลียมส์, 79
- วิลเลียมส์, 61–3; บาร์โรลล์, 25
- พระราชินีแอนน์ทรงให้กำเนิดพระโอรสองค์ที่สอง, ชาร์ลส์เมื่อค่ำวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1600 ขณะที่พี่น้องรูธเว็นถูกลงโทษโดยการ “แขวนคอ, ควักไส้และผ่าสี่” (Hanged, drawn and quartered). วิลเลียมส์, 66; บาร์โรลล์, 26
- เจมส์ เมลวิลล์ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกในอนุทินว่า: “ในบรรดาผู้ที่ไม่เชื่อว่าพี่น้องรูธเว็นมีความผิดจริงก็คือพระราชินีเอง พระองค์ไม่ทรงยอมลุกจากพระแท่นไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องทรงไปสองวัน...แม้ว่าพระเจ้าเจมส์จะทรงทราบถึงการประชดของพระชายาและผลที่จะตามมา พระองค์ก็ไม่ทรงยอมที่จะแก้ไขเหตุการณ์ให้ถูกต้องแต่แทนที่ทรงพยายามกลบเกลื่อนสิ่งที่เกิดขึ้น” วิลเลียมส์, 63
- วิลเลียมส์, 63–4
- บาร์โรลล์ตั้งข้อสังเกตใน “ความมุ่งมั่นทางการเมือง” ของแอนน์. บาร์โรลล์, 23. แต่แอนน์ทรงสัญญาอยู่เสมอว่าจะไม่ทรงทำสิ่งใดที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าเจมส์. บาร์โรลล์, 28
- บาร์โรล, 27; วิลเลียมส์, 64–65
- “แม้ว่าครอบครัวของเธอจะเป็นที่น่าชิงชังเพราะพยายามทำร้ายพระเจ้าแผ่นดิน แต่เธอเองไม่ได้แสดงว่ามีส่วนร่วมในการกระทำครั้งนั้น” วิลเลียมส์, 65
- วิลเลียมส์, 164–5
- วิลเลียมส์, 76
- ครอฟต์ 56
- สจวต, 181
- สจวต, 182
- วิลล์สัน, 403
- วิลเลียมส์, 112
- เดิมแอนน์ไม่ทรงเห็นด้วยกับการจับคู่ระหว่างพระธิดากับพระเจ้าเฟรเดอริค เพราะทรงเห็นว่าเฟรเดอริคมีฐานะที่ต่ำกว่าและไม่ทรงยอมเข้าร่วมพิธีเสกสมรสที่ห้องรับรองในพระราชวังไวท์ฮอลล์ โดยทรงแก้พระองค์ว่าไม่ทรงสบายจากข้อเท้าบวม. สจวต, 247, 250; วิลเลียมส์, 154–156
- ครอฟต์ 89
- บาร์โรล, 134; นักเขียนจดหมายจอห์น เชมเบอร์เลนตั้งข้อสังเกตว่าการที่ไม่ทรงเข้าร่วมพิธีการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ในสี่ปีต่อมา ก็คงเป็นเพราะการเข้าร่วมเป็นการเตือนให้คิดถึงเจ้าชายเฮนรี สจวต, 249
- ครอฟต์ 89; การประชวรของแอนน์รวมทั้งโรคเกาต์, (dropsy), (arthritis) และพระบาทบวม วิลเลียมส์, 159
- ครอฟต์ 89
- ครอฟต์, 89
- บาร์โรล, 148; อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีและผู้อื่นสร้างความกดดันให้แอนน์สนับสนุนจอร์จ วิลเลิร์สให้เป็นขุนนางประจำห้องพระบรรทม เมื่อเริ่มแรกแอนน์ก็ทรงปฏิเสธและตามคำของแอ็บบ็อตทรงกล่าวว่า, “ถ้า จอร์จ วิลเลียรส์กลายเป็นคนโปรด, ผู้ที่จะได้รับผลทางร้ายคนแรกก็เห็นจะเป็นคนที่ทำให้ได้ตำแหน่งนั่นเอง ฉันเองก็จะไม่ได้รับการยกเว้นเช่นผู้อื่น” แต่จะอย่างไรก็ตามศัตรูของคารร์ก็หว่านล้อมให้แอนน์สนับสนุนจอร์จ วิลเลิร์ส. วิลเลียมส์, 170; วิลล์สัน, 352; สจวต, 268–9
- วิลเลียมส์แสดงสำเนาของจดหมายจากแอนน์ถึงจอร์จ วิลเลิร์สที่เริ่มด้วย: “My kind dog, I have receaved your letter which is verie wellcom to me yow doe verie well in lugging the sowes eare. [สะกดผิด]” วิลเลียมส์, 152. จอร์จ วิลเลียรส์เขียนตอบมาว่าได้ดึงพระกรรณของพระเจ้าเจมส์จนกระทั่งยาวเท่ากับหูหมู. วิลเลียมส์, 172
- ครอฟต์ 100
- วิลล์สันมีความเห็นว่าการที่แอนน์ไม่ทรงยอมรับศีลมหาสนิทแบบอังกลิคันเป็นการที่แสดงพระองค์ว่าทรงยังเป็นโรมันคาทอลิก; แมคมานัสเสนอว่าอาจจะเป็นสัญญาณถึงความไม่ไว้วางใจของวัดปฏิรูปในการรับศีลมหาสนิทแบบอังกลิคัน วิลล์สัน, 221; แมคมานัส, 92–3
- นักประวัติศาสตร์มีความเห็นต่างกันในเรื่องการเปลี่ยนศาสนาของแอนน์เป็นโรมันคาทอลิกว่าทรงเปลี่ยนจริงหรือไม่ “ในระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1590 พระราชินีแอนน์ทรงเปลี่ยนไปเป็นโรมันคาทอลิก” วิลล์สัน, 95; “ระหว่างหลัง ค.ศ. 1600 แต่ก่อนเดือนมีนาคม ค.ศ. 1603 พระราชินีแอนน์ทรงได้รับการยอมรับเข้าสู่นิกายโรมันคาทอลิก ที่เป็นสักการะสถานลับๆ ในห้องหนึ่งภายในพระราชวังหลวง” Fraser, 15; “พระราชินี... [ทรงเปลี่ยน] จากการเป็นลูเธอรันอย่างลับๆ --ซึ่งก็ยังเป็นสิ่งที่น่าละอายทางการเมือง--ไปเป็นโรมันคาทอลิก ซึ่งทำให้เป็นที่ทำให้คณะมนตรีของวัดสกอตแลนด์ไม่พึงพอใจ” ครอฟต์ 24–5; “ทูตต่างประเทศของโรมันคาทอลิก—ผู้ที่เป็นที่แน่นอนว่าต้องมีความยินดีกับการเปลี่ยน—เชื่อว่าไม่ทรงมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยน ราชทูตนิโคโล โมลินจากเวนิสสรุปว่า “พระองค์ทรงเป็นลูเธอรันเต็มตัว” ในปี ค.ศ. 1606.” สจวต, 182; “ในปี ค.ศ. 1602 ก็มีรายงานข่าวอ้างว่าแอนน์...เปลี่ยนไปนับถือนิกายโรมันคาทอลิกหลายปีก่อนหน้านั้น พระเยซูอิดโรเบิร์ต อาเบอร์ครอมบีย์ผู้รายงานข่าวนี้รายงานว่าพระเจ้าเจมส์ทรงรับข่าวการเปลี่ยนของพระชายาอย่างเงียบและทรงเปรยว่าถ้าพระราชินีไม่ทรงสามารถอยู่ได้โดยไม่เป็นโรมันคาทอลิกพระองค์ก็ทรงตามพระทัย แต่ทรงขอให้ทำให้อย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แอนน์ก็เก็บความลับนี้ไว้ตลอดพระชนม์ชีพ—แม้ว่าหลังจากการสิ้นพระชนม์ไปแล้ว—ก็ยังไม่เป็นที่ทราบกัน” ฮอกก์, 303–4
- บาร์โรล, 25; สจวต, 143
- เคาน์เทสแห่งฮันท์ลีย์ผู้เป็นผู้สนับสนุนเยซูอิดอย่างเหนียวแน่นเป็นบุตรีของ (Esmé Stuart, 1st Duke of Lennox) พระสหายของพระเจ้าเจมส์เมื่อยังทรงพระเยาว์ ผู้ถูกขับออกจากประเทศในปี ค.ศ. 1582 และเป็นน้องสาวของ (Ludovic Stuart, 2nd Duke of Lennox). วิลเลียมส์, 45
- สจวต, 144; วิลเลียมส์, 59
- พระเจ้าเจมส์ทรงส่งสายประคำคืนกลับไปให้สมเด็จพระสันตะปาปา. วิลล์สัน, 221–222; สแตนเด็นสารภาพกับนักบวชเยซูอิดโรเบิร์ต พาร์สันว่าเป็นผู้ติดต่อในโรมในนามของพระราชินี. เฮนส์, 41. วิลล์สัน สรุปว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ความเป็นโรมันคาทอลิกของแอนน์ หรือแนวโน้มในการเป็นโรมันคาทอลิกที่เพิ่มขึ้น”
- วิลล์สัน, 221–222
- วิลเลียมส์, 200
- วิลเลียมส์, 53
- วิลล์สัน, 156–7; (Robert Cecil, 1st Earl of Salisbury) เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีบทบาทในการติดต่ออย่างลับๆ กับพระเจ้าเจมส์ผู้มีความเชื่อว่า “พระราชินีทรงเป็นผู้มีความอ่อนแอและทรงเป็นเครื่องมือของผู้ที่มีสติปัญญาและมีความประสงค์ร้าย” วิลเลียมส์, 93
- พระราชินีมีพระราชดำริกับองค์มนตรีโรเบิร์ต เซซิลว่าทรง “มีความพอใจกับภาพเขียนมากกว่าที่โรเบิร์ต เซซิลมีความพอใจต่อหน้าที่การงานอันยิ่งใหญ่ของตน” วิลเลียมส์, 93
- บาร์โรล, 35
- ครอฟต์ 25
- สจวต, 182
- ครอฟต์ 55
- วิลล์สัน, 95
- Strickland (1848), 276
- คำสรุปของครอฟต์ในบทนำในหนังสือ พระเจ้าเจมส์ (ค.ศ. 2003)
- “พระราชินีแอนน์ตามความคิดเห็นของนักประวัติศาสตร์ชายแล้วเป็นความคิดเห็นในทางที่ไม่ไคร่ดีนักในด้านความฟุ่มเฟือยและความหยุมหยิมของพระองค์ แต่การศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของพระองค์ ตราบใดที่ชีวิตการเสกสมรสของพระองค์จะยังคงมีความหมายอยู่ (แม้ว่าจะทรงมีความขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด) ” ครอฟต์ 55; “...อิทธิพลความเป็นแม่ทางการเมืองของพระราชินีแอนน์” แมคมานัส, 82
- ดู: บาร์โรล, แอนนาแห่งเดนมาร์ก, พระราชินีแห่งอังกฤษ: ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม, และ แคลร์ แมคมานัส, สตรีบนเวทีเรอเนสซองซ์: แอนนาแห่งเดนมาร์กและสตรีหลังหน้ากากในราชสำนักสจวต (ค.ศ. 1590–ค.ศ. 1619)
- ครอฟต์ 25; ในปี ค.ศ. 1593, พระเจ้าเจมส์ทรงแต่งตั้งคณะกรรมการที่เรียกกันว่า “ออคเตเวียนส” (Octavians) เพื่อสะสางการบัญชีของพระราชินีแอนน์และเสนอวิธีการประหยัด. สจวต, 142–3
- บาร์โรล, 161; “ความสนพระทัยในด้านวัฒนธรรมของพระราชินีแอนน์และเจ้าชายเฮนรีนำมาสู่ความมีวัฒนธรรมในราชสำนักอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง” ครอฟต์ 129
- วิลเลียมส์, 99; เบอร์เบจที่กล่าวถึงนี้อาจจะเป็น พี่ชายของนักแสดง. McCrea, 119; Ackroyd, 411
- ครอฟต์ 2–3, 56; “ความดึงดูดของสิ่งที่หรูหรามีราคาของการละครไม่มีหลักฐานชัดเจนจากเอกสารที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานว่าความน่าดูมาจากการออกแบบเวทีและเครื่องแต่งตัว, ในเสป็ชเชียลเอฟเฟคส์, ในดนตรีและการเต้นรำ และในความใหม่ของการที่พระราชวงศ์ทรงทำการแสดงบนเวทีด้วยพระองค์เอง” สจวต, 183; “การแสดงนี้ (ไม่นับการซ้อม) ใช้เวลาเพียงวันเดียวในปีหนึ่งและมิได้แสดงทุกปีในรัชสมัยของพระองค์ ฉะนั้นการบรรยายพระราชินีจากงานสวมหน้ากากเหล่านี้จึงเป็นการบรรยายที่มาจากตัวอย่างที่เป็นส่วนน้อยมาก” บาร์โรล, 58
- บาร์โรล, 108–9
- แมคมานัส, 3; บาร์โรลล์ใช้รายชื่อของละครสวมหน้ากากระหว่าง ค.ศ. 1603 ถึง ค.ศ. 1610 ในการระบุว่าผู้ใดเป็นผู้อยู่ในแวดวงของพระราชินีแอนน์ บาร์โรล, 58
- วิลเลียมส์, 126; แมคมานัส, 2–3; หลังจากงานละครสวมหน้ากากของพระราชินีแอนน์ครั้งแรกในเรื่อง “The Vision of the Twelve Goddesses” โดย คาร์ลตันมีความเห็นว่าเครื่องทรงในบทอธีนาของพระราชินีแอนน์สั้นเกินไปเพราะทำให้เห็นพระชงฆ์และพระบาท ในปี ค.ศ. 1605 พระราชินีแอนน์และสตรีสร้างเรื่องอื้อฉาวในราชสำนักโดยการปรากฏพระองค์เป็น “คนรักดำ” ใน “The Masque of Blackness” เซราซาโน, 80; แมคมานัส, 4; พระราชินีแอนน์ทรงครรภ์ได้หกเดือนเมื่อปรากฏในละครสวมหน้ากากเรื่องนี้. แมคมานัส, 11
- ครอฟต์ 56; “บทที่ทรงเล่นเป็นการทำให้เบ็น จอนสันได้รับความมีชื่อเสียงและอินิโก โจนส์ผู้ไม่เคยได้รับการมีชื่อเสียงอย่างที่ควร” วิลเลียมส์, 124. นักเขียนผู้อื่นที่พระราชินีแอนน์ทรงจ้างก็ได้แก่, และ วิลเลียมส์, 157; สจวต, 183
- ครอฟต์ 3; ชั้นแรกอาจจะสร้างเสร็จเมื่อพระราชินีแอนน์สิ้นพระชนม์. วิลเลียมส์, 181
- เดาว์แลนด์ อุทิศ Lachrymae แก่ พระราชินีแอนน์. บาร์โรล, 58
- บาร์โรล, 58; สจวต, 182
- ครอฟต์ 56
- บาร์โรล, 58
- สจวต, 183; วิลเลียมส์, 106
- วิลเลียม ฮาร์วีย์ ผู้ค้นพบการหมุนเวียนของโลหิตเป็นลูกศิษย์ของเมเยิร์น. วิลเลียมส์, 194–198
- ครอฟต์ 100; วิลล์สัน, แต่พระเจ้าเจมส์เสด็จไปเยี่ยมพระราชินีแอนน์สองครั้งต่ออาทิตย์จนเมื่อทรงย้ายไปนิวมาร์เค็ตในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งพระเจ้าเจมส์โดยการส่งสาส์นและเจ้าชายชาร์ลส์ต่างก็ทรงกระตือรือร้นที่จะให้พระราชินีแอนน์ทรงทำพินัยกรรม (พระเจ้าเจมส์ไม่ทรงไว้ใจความสนพระทัยของเจ้าชายชาร์ลส์ในเรื่องนี้เพราะทรงกลัวว่าพระราชินีแอนน์จะยกทุกอย่างให้เจ้าชายชาร์ลส์) แต่พระราชินีแอนน์ไม่ทรงยอมร่วมมือ. วิลเลียมส์, 198–200
- สจวต, 300
- วิลเลียมส์, 201; สจวต, 121, 300
- วิลล์สัน, 403
- ครอฟต์ 101; พระเจ้าเจมส์ทรงล้มประชวรหนักหลังจากการสูญเสียเจ้าชายเฮนรี. วิลล์สัน, 285
- สจวต, 300; พระเจ้าเจมส์ทรงรับข่าวการสิ้นพระชนม์อย่าง “seemly”. วิลล์สัน, 403
- สจวต, 300
- การที่ทิ้งไว้นานเพราะขาดงบประมาณที่จะทำการทำพระศพเพราะขณะนั้นทางพระราชวงศ์มีหนี้สินมาก. วิลเลียมส์, 202
- Stewart, 140, 142.
- John Chamberlain (1553–1628) recorded: "It was verily thought that the disease was no other than the ordinary ague that had reigned and raged all over England". Alan Stewart writes that latter-day experts have suggested enteric fever, typhoid fever, or porphyria, but that at the time poison was the most popular explanation. Stewart, 248.
- Willson, 452; Barroll, 27.
- Croft, 55; Stewart, 142; Sophia was buried at in a tiny alabaster tomb shaped like a cradle, designed by . Willson, 456; Williams, 112.
อ้างอิง
- Akrigg, G.P.V ([1962] 1978 edition). Jacobean Pageant: or the Court of King James I. New York: Athenaeum. .
- Ackroyd, Peter (2006). Shakespeare: The Biography. London: Vintage. .
- Barroll, J. Leeds (2001). Anna of Denmark, Queen of England: A Cultural Biography. Philadelphia: University of Pennsylvania. .
- Cerasano, Susan, and Marion Wynne-Davies (1996). Renaissance Drama by Women: Texts and Documents. London and New York: Routledge. .
- Croft, Pauline (2003). King James. Basingstoke and New York: Palgrave Macmillan. .
- Fraser, Antonia ([1996] 1997 edition). The Gunpowder Plot: Terror and Faith in 1605. London: Mandarin Paperbacks. .
- Haynes, Alan ([1994] 2005 edition). The Gunpowder Plot. Stroud: Sutton Publishing. .
- Hogge, Alice (2005). God's Secret Agents: Queen Elizabeth's Forbidden Priests and the Hatching of the Gunpowder Plot. London: Harper Collins. .
- McCrea, Scott (2005). The Case For Shakespeare: The End of the Authorship Question. Westport, Connecticut: Praeger/Greenwood. .
- McManus, Clare (2002). Women on the Renaissance Stage: Anna of Denmark and Female Masquing in the Stuart Court (1590–1619). Manchester: Manchester University Press. .
- Sharpe, Kevin (1996). "Stuart Monarchy and Political Culture," in The Oxford Illustrated History of Tudor & Stuart Britain. Ed. John.S.Morrill. Oxford: Oxford University Press. .
- Stewart, Alan (2003). The Cradle King: A Life of James VI & 1. London: Chatto and Windus. .
- Strickland, Agnes (1848). Lives of the Queens of England: From the Norman Conquest. Vol VII. Philadelphia: Lea and Blanchard. Original from Stanford University, digitized 20 April 2006. Full view at Google Books. Retrieved 10 May 2007.
- Williams, Ethel Carleton (1970). Anne of Denmark. London: Longman. .
- Willson, David Harris ([1956] 1963 edition). King James VI & 1. London: Jonathan Cape Ltd. .
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- Portrait of Anne in the Government Art Collection 2009-09-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved 5 May 2007.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xnnaaehngednmark hrux aexnnaehngednmark xngkvs Anne of Denmark 12 thnwakhm kh s 1574 2 minakhm kh s 1619 epnphrarachthidaxngkhthisxngkhxngphraecaefredxrikthi 2 aehngednmarkaelaosfiaehngemkhelinbwrkh kusothr smedcphrarachiniaehngednmarkaelanxrewy epnphramehsiinphraecaecmsthi 1 aehngxngkvs aelathi 6 aehngskxtaelnd aexnnaehngednmarkepnphrarachiniaehngskxtaelndrahwangwnthi 20 singhakhm kh s 1589 aelaepnphrarachiniaehngxngkvstngaetwnthi 24 minakhm kh s 1589 krathngesdcswrrkhtemuxwnthi 2 minakhm kh s 1619 thiphrarachwngaehmptnkhxrtinxngkvs phrasphkhxngphraxngkhtngxyuthiewstminsetxraexbbiyxnnaaehngednmarkphrasathislksn kh s 1605smedcphrarachiniaehngxngkvsaelaixraelnddarngphrays20 singhakhm kh s 1589 2 minakhm kh s 1619kxnhnaphraecaefliepthi 2 aehngsepn pkkhrxngrwmphansiththiphramehsi thdipxxngeriyt mariaehngfrngesssmedcphrarachiniaehngchawskxtdarngphrays24 minakhm kh s 1589 2 minakhm kh s 1619kxnhna phramhakstriyphrarachswami thdipxxngeriyt mariaehngfrngessphrarachsmphph12 thnwakhm kh s 1574 praethsednmarkswrrkht2 minakhm kh s 1619 phrarachwngaehmphtn praethsxngkvskhuxphieskphraecaecmsthi 1 aehngxngkvsphrarachbutrehnri efredxrikh ecachayaehngewls exlisaebth scwt smedcphrarachiniaehngobhiemiy makaert scwt smedcphraecacharlsthi 1 aehngxngkvs aemri scwt osefiy scwtphranametmaexnnaehngednmark smedcphrarachiniaehngxngkvsrachwngsscwt esksmrs xxlednburkphrarachbidaphraecaefredxrikthi 2 aehngednmarkphrarachmardaosfiaehngemkhelinbwrkh kusothr smedcphrarachiniaehngednmarkaelanxrewy xnnathrngesksmrskbphraecaecmsthi 1 emuxpi kh s 1589 emuxphrachnmayuid 14 phrrsa miphraoxrsthidasamphraxngkhthirxdmaidcnthrngecriyphrachnmrwmthngphraecachalsthi 1 phraxngkhthrngepnphumikhwameddediywphxthicathrngichkhwamaetkaeykkhxngkaremuxnginskxtaelndepnekhruxngmuxinkareriykrxngsiththiintwphraoxrs ehnri efredxrik ecachayaehngewls cakphraecaecms duehmuxnwaphraxngkhcathrngrkphraecaecmsintxnaerk aettxmathngsxngphraxngkhkthrnghangehincakkn cninthisudkthrngaeykknxyu aetkyngkhngthrngmikhwamnbthuxsungknaelaknxyubang emuxprathbxyuinxngkvs phraxngkhthrnghnkhwamsniccakthangdankaremuxngthiepnfkepnfayipepnkarxupthmphsilpa aelakarsrangrachsankthihruhrakhxngphraxngkhexng thrngcdihmikarphbpainsalxnthithaihepnrachsankkhxngphraxngkhepnrachsankthimiwthnthrrmsungthisudsankhnunginyuorp hlngcakpi kh s 1612 phrasukhphaphphlanamykhxngphraxngkhkerimesuxmlng cninthisudkthrngthxntwcakrachsank tamthangkaraelwphrarachiniaexnnswrrkhtinthanathiepnopretsaetnt aethlkthanbangxyangbngchiihehnwaxaccathrngepliynipnbthuxnikayormnkhathxlikkhnaidkhnahnungrahwangthiyngmiphrachnmxyu nkprawtisastredimimidehnwaxnnaaehngednmarkepnphrarachinithimikhwamsakhymakethaidnk aelaxxkcaepnphumikhwamhlngphraxngkhexng aetemuximnanmani khwamehnekiywkbphraxngkhkerimcaepliynipodyerimmikhwamehnknwaphraxngkhthrngmikhwameddediywepntwkhxngtwexngodyechphaathrngepnphumikhwamsakhyinkarepnphuxupthmphthangsilparahwangsmycaokhebiynchiwitchwngaerkphrasathislksnkhxngosfiaehngemkhelinbwrkh kusothr smedcphrarachiniaehngednmarkaelanxrewy phrarachmardakhxngxnnaaehngednmark rawpi kh s 1578 ody xnnaaehngednmarkesdcphrarachsmphphemuxwnthi 12 thnwakhm kh s 1574 thiprasathsaeknedxrbxrkbnkhabsmuthrctaelndinrachxanackrednmark nxrewy aetkarphrarachsmphphkhxngphraxngkhepnehtukarnthiphraecaefrdrikhthi 2phrarachbidathrngidrbkhwamphidhwng ephraathrnghwngepnxyangmakwacaepnphrarachoxrs aetkhnannphrarachiniosfiphramardamiphrachnmayuidephiyng 17 phrrsa ephiyngsampitxmaphraxngkhkthrngmiphraprasutikalphraoxrs phutxmakhunkhrxngrachyepnphraecakhrisetiynthi 4 aehngednmark xnnaaelaexlisaebthphraechsthphkhinithrngthuksngipeliyngduodyaelaexlisaebth dchechsaehngemkhelnbwrk kusothrwphuepnphraxykaaelaphraxykithangfayphramardathikusothrwinpraethseyxrmni emuxepriybethiybkbrachsankednmarkthietmipdwykhwamxudmsmburnsnuksnanxneluxngchuxkhxngphraecaefrdrikh thiepnrachsankthietmipdwykareliyngrbrxngdwyxaharaelaekhruxngdumxyangihymohlar aelakarmikhwamsmphnthknxyangimmiaebbaephnxnekhrngkhrd rwmthngkarnxkphrathyinphramehsikhxngphraxngkhaelw kusothrwktrngknkham thiklaymaepnsthanthithichwywangrakthankhxngkhwamsngbsarwminchiwitebuxngtnkhxngaexnn txmaecachaykhrisetiynphraxnuchakthrngthuksngipkusothrwechnknaetkepnephiyngrayaewlarawsxngpi inpi kh s 1579 Rigsraadet kyunkharxngeriyktwphrarachoxrsthidainphraecaefrdrikhklbmayngednmarksaerc aexnnthrngmikhwamsukhinkhrxbkhrwthimikhwamiklchidsnithsnmknrahwangthithrngecriyphrachnminrachsankednmark ephraaphraxngkhthrngthukeliyngduodytrngodyphrarachmardaphrarachiniosfi phuthrngduaelphrarachoxrsthidadwyphraxngkhexngyamprachwr aexnnaelaexlisaebthphraechsthphkhinitangkthrngmiphuprasngkhihepnkhuhmayipthwthngyuorprwmthngphraecaecmsthi 6 aehngskxtaelndphuthrngeluxkednmarkephraakhwamthiepnpraethsthiphankarptirupthangsasna aelaepnpraethsthixaccamiphlpraoychnthangdankartidtxkhakhayiddwy inrayaaerkrachthutskxtaelndhmaytwecahyingexlisaebthphraechsthphkhinikhxngaexnn aetphraecaefrdrikhthrnghmnecahyingexlisaebthkb aelathrngsyyamxbphrathidaxngkhthisxngihaethn thaphraecaecmscathrngphxphrathykcaykih karhmnaelakaresksmrsodychntha phrasukhphaphphlanamykhxngphrarachiniosfierimthrudlnghlngcakphraecaefrdrikhesdcswrrkhtinpi kh s 1588 nxkcaknnaelwkarswrrkhtkhxngphraswamikyngthaihsthanakhxngphrarachiniosfixyuinsphawathilabak emuxthrngmikhwamkhdaeyngkbsphaxngkhmntriekiywkbxanackarkhwbkhumphraecakhrisetiyn aetyngrwmipthungpyhaineruxngkarhakhuihaekphrarachthidadwy aetinkrnihlngniphraxngkhthrngmitngmnmakkwaphraswamiaelathrngprasbkhwamsaercinkartklngeruxngaelasthanaphaphkhxnghmuekaaxxrkhniy phrarachiniosfithrnglngphranaminkartklngkarhmnhmayineduxnkrkdakhm kh s 1589 aexnnexngkthrngtunetnkbkarthicaidepnecasawkhxngphraecaecms emuxwnthi 28 krkdakhm kh s 1589 thxms efawelxrsaylbxngkvsraynganwaaexnnthrngtkhlumrkphraecaecmsxyangthxnphraxngkhimkhun khaklawkhxngefawelxrthiepnnywaphraecaecmsoprdphuchaymakkwaphuhying khngthuksxncakaexnnphumiphrachnmayuephiyng 14 phrrsaaelathrnghmkmunxyukbkarpkphraphusasahrbkhuhmn inkhnathichangxiksamrxykhnetriymchudsahrbphrarachphithiesksmrskhxngphraxngkh imwakhawluxthiwanicacringhruxim aetthiepncringkhuxkarthiphraecaecmsthrngmikhwamcaepnthicatxngaeswnghakhuthiehmaasmephuxkarsubsaykhxngrachwngsscwttxip phraecaecmsthrngeprywa phraecaepnphyandwyethid khaexngnnsamarthkhxyiheninnankwathipraethschaticayxmihkhxyid aetthaixkarrxkhxyaelwmncaipthaihphukhnthimiaetkhwamxicchakngkhainkhwamsamarthkhxngkha rawkbwakhaepnkhnthiimmikhwamsamarthcamilukid emuxwnthi 20 singhakhm kh s 1589 aexnnkthrngesksmrsodychnthakbphraecaecmsthiprasathokhrnbxrkodymicxrc khith exirlaehngmariskhalepnphuaethnphraxngkhkhxngphraecaecmsnngbnetiyngkhangaexnn karesksmrs phraecaecms 6 aehngskxtaelndemuxmiphrachnmayu 20 phrrsainpi kh s 1586 sampikxnthicathrngesksmrskbxnnaaehngednmark sibwnhlngcakkaresksmrsodychnthathiednmarkxnnakesdcipskxtaelndthangeruxaetkxngeruxkhxngphraxngkhprasbehtukarnraytang inthisudkhbwnkhxngkhnaphuedinthangkcatxngaelnklbipyngfngthaelnxrewy aelacakfngthaelphraxngkhkesdcphrarachdaeninthangbkipyngxxsolephuxipphankchwkhrawphrxmdwyexirlaehngmariskhalaelaphuaethncakskxtaelndaelaednmark emuxwnthi 12 knyayn lxrddingwxllphurwmedinthangmakbxnna aetbneruxkhnlalakmakhunfngthilithid aelaraynganwaemuxedinthangmakbkxngeruxkhxngxnnaid 300 iml kmakhladknemuxodnmrsum aelalxrddingwxllmikhwamekrngwaxnnayngkhngcatkxyuinxntray emuxthrabkhawphraecaecmskmiphrarachoxngkarihmikarxdxaharaelaswdmntihaekphrarachiniknthwpraeths swnphraxngkhexngkesdciprxaexnnthiefirthxxffxrth nxkcaknnkthrngpraphnthephlnghlayephlng ephlnghnungepriybethiybsthanakarnthibrryayintanankrikeruxng Hero and Leander aelathrngsngkhnaphukhnhathithuxphrarachsasnthithrngekhiynthungxnnaepnphasafrngess ihaekphraxngkhephiyngphuediywthiruckhmxmchnechnengakhxnghmxmchnexngbnaekwethannthihmxmchncabrryaykhwamrusukid sudthirkkhxnghmxmchn khwamklwthihmxmchnrusukthiekidcaklmthiphdphidthisthangaelaphayuthiohmkrahnatngaetphraxngkhiderimedinthang ineduxntulakhmphraxngkhkthrngidrbkhawwakxngeruxkhxngednmarkyutikhwamphyayamthicakhammayngskxtaelndrahwangvduhnaw willsnklawwaepnchwngewlathioraemntikhthisudinchiwitkhxngphraecaecms phraecaecmscungesdcphrarachdaeninthangchlmarkhcaklithphrxmkbphutidtamxiksamrxykhnephuxiprbxnnadwyphraxngkhexng phraecaecmsesdcipthungxxsolemuxwnthi 19 phvscikayn hlngcakthiesdcphrarachdaeninthangbkcak Flekkefjord thang Tonsberg tamhlkthankhxngskxtaelndklawwaemuxesdcipthungphraecaecmskribesdcipefaxnnathngthiyngmiidepliynekhruxngthrngcakkaredinthang thngrxngphrabathbuthaelaekhruxngthrngxunphrxm aelaphrarachthancumphitxnnatamaebbskxt xnnaaelaphraecaecmsthrngesksmrsknxyangepnthangkarthiwngsngkhrachekathixxsol emuxwnthi 23 phvscikayn kh s 1589 xyanghruhraethathithaidinsmynnaelathinn edwid linsiynkbwchcaklithedinthangipthaphithiepnphasafrngessephuxihthngsxngphraxngkhekhaic aelabrryayxnnawathrngepn ecahyingthithrngkhunthrrmaelamiphrasiriochmngdngam phraxngkhthakhwamphxicihaekphraecaecms karesksmrsmikarchlxngkneduxnhnungaelaemuxwnthi 22 thnwakhmphraecaecmsthrngldphutidtamlngehluxephiyng 50 khnephuxesdcipeyiymphrayatithiprasathokhrnbxrk xnnaaelaphraecaecmsthrngidrbkartxnrbcakphraphnpiosfiaelaphraecakhrisetiynphumiphrachnmphrrsaid 12 phrrsaaelaphusaercrachkaraephndinkhxngphraxngkhsikhn hlngcaknnemuxwnthi 7 minakhmthngsxngphraxngkhkthrngyayipokhepneheknephuxthrngekharwmphithiesksmrsrahwangexlisaebthphraechsthphkhinikhxngxnnakb sxngwntxmakesdclngerux kidediyn thiidrbkarsxmaesmaelwklbskxtaelnd aelaesdcthunglithemuxwnthi 1 phvsphakhm hawntxmaxnnakesdcekhaemuxngexdinbarahxyangepnthangkarinrachrthmaenginaeththithrngnamacakednmarkodymiphraecaecmsthrngmatamkhangrachrth rachaphiesk trakhxngxnnaaehngednmark xnnathrngekhaphithiswmmngkudemuxwnthi 17 phvsphakhm kh s 1590 phayinaexbbiohlirudthiphrarachwngohlirud sungepnphrarachphithikarswmmngkudthithaaebbopretsaetntepnkhrngaerkinskxtaelnd phrarachphithiswmmngkudichewlathngsinecdchwomng ekhanthetsaehngmarepnphuepidphraphusaephuxihnkbwchorebirt brushlng namnhxmphxid lngbnswnhnungkhxngphrathnaelaphrahtthephuxecimihepnphrarachini nkbwchskxtaelndprathwngphithiswnniephraaehnwamacakpraephnikhxngphunxkritaelacakpraephnikhxngchawyiwaetphraecaecmsthrngyunynwaepnphithithimirakthanmacakphnthsyyaedim phraecaecmsprathanmngkudaekxkhrmhaesnabdiemthaelndphuwangbnphraesiyrkhxngxnna caknnxnnakthrngklawkhaptiyanphraxngkhwawacathrngepnphuphithkssasnaxnaethcringaelacathrngmikhwamsrththatxphraeca aelacathrngtxtanaelaepnptipkstxkhwamechuxtang khxngormnkhathxlikaelaphithikrrmtang thiimtrngkbphrawcnakhxngphraecakhwamsmphnthkbphraecaecmscakhlkthanthukhlkthantangkklawwaphraecaecmsthrnghlngesnhaexnn aetkhwamhlngthiwanikmiidyngyunethaidnk aelathngsxngphraxngkhkthrngerimmieruxngbadhmangknephiyngimkipihlngcakkaresksmrs aetduehmuxnwaphraecaecmscathrngptibtitxaexnndwykhwamxdthnaelakhwamrk rahwangpi kh s 1593 thungpi kh s 1595phraecaecmsthrngmikhwamsmphnththangchusawkbaexnn emxreryphutxmaidepneldiklamis thrngklawthungaexnnwaepn phrasnmaelahwickhxngchn my mistress and my love aexnnexngkthrngmieruxngxuxchawepnbangkhrngbangkhraw in khumuxkarpkkhrxngbasilikhxnodrxn Basilikon Doron thithrngphrarachniphnthinpi kh s 1597 thungpi kh s 1598 phraecaecmsthrngbrryaythungchiwitkarsmrswaepn khwamsukhthiyingihythisudinolkhruxkhwamkhmkhunthiyingihythisudinolkthiprasbtxphuchay tngaetnathiaerkkhxngkaraetngnganaexnnkidrbkhwamkddninkarmirchthayathihaekphraecaecmsaelaskxtaelnd aetmathungpi kh s 1591 aela kh s 1592 kyngimmiekhawacathrngkhrrphsungthaihmikhawluxwaphraecaecmsmwaetthrngichchiwitxyuinklumphuchayaelamikhawkraesnkrasaywaekiywkbaexnnwaimthrngmikhrrphid channcungepnthiolngickniptam knemuxaexnnthrngihkaenidaekehnri efredxrikhphraoxrsxngkhaerkemuxwnthi 19 kumphaphnth kh s 1594 siththiintwecachayehnri ecachayehnri efredxrikh scwt raw kh s 1608 ody Robert Peake the Elder ephiyngimnanaexnnkthrabwaphraxngkhimmisiththimiesiynginkarduaelphrarachoxrskhxngphraxngkhaetxyangid phraecaecmsthrngaetngtngeheln litetilphuekhyepnphraphieliyngkhxngphraxngkhexngihepnphraphieliyngkhxngecachayehnri efredxrikh aelaihbrrthminphraxuimoxkhthiekhyepnkhxngphraxngkhexngdwy aetsingthithaihaexnnthrngrnthdthisudkemuxphraecaecmsmiphrarachoxngkarihyayecachayehnri efredxrikhipxyuphayitkarduaelxarkkhaodycxhn exirskhin exirlaehngmarthi 18 thiprasathsetxrlingtamphrarachpraephnikhxngskxtaelnd inplaypi kh s 1594 aexnnkerimrnrngkheriykrxngsiththiinkarpkkhrxngduaelphrarachoxrscakphuthisnbsnunkhwamtxngkarkhxngphraxngkhrwmthngxkhrmhaesnabdi khwamthiimthrngaenicwaaexnncathrngthaeruxngihbanplayipidethaid phraecaecmscungmiphrarachoxngkarxyangepnthangkarhammiihexirlaehngmarmxbtwecachayehnri efredxrikhaekphuidnxkipcakemuxidrbkhasngodytrngcakphraxngkhexng aelaimihmxbtwecachayehnri efredxrikhaekphrarachiniaeminkrnithiphraxngkhexngcaesdcswrrkhtipaelw aexnnyunkharxngihesnxeruxngtxsphaxngkhmntriaetphraecaecmsimthrngfng hlngcakthithrngmieruxngkntxhnatharkanlphraecaecmskthrngkhmehngnaphrathycnaexnnphiorthaelakrraesng aexnnkthrngosrkesracnthrngaethngemuxeduxnkrkdakhm kh s 1595 hlngcaknnkthrngelikeriykrxngsiththiaetkhwamesiyhaykhrngnimiphlkrathbkraethuxntxkhwamsmphnthkhxngphraxngkhkbphraswamiepnxyangmak ineduxnsinghakhm kh s 1595 cxhn okhlwillbnthukwabrryakasrahwangsxngphraxngkhetmipdwykhwamekliydchng inpi kh s 1603 aexnnthrngehnchxngthangthicaidrbsiththiinkarduaelphrarachoxrsemuxphraecaecmsesdclngipynglxndxnphrxmkbexirlaehngmarephuxipsubrachsmbtitxcaksmedcphrarachininathexlisaebththi 1 thiephingesdcswrrkht aexnnsungkhnannthrngkhrrphribesdcipyngprasathsetxrlingphrxmkbkxngkalngkhunnangphusnbsnunephuxcanatwecachayehnriphuthrngmiidphbpaekuxbhapiklbmakbphraxngkh aetmardakhxngexirlaehngmaryxmihkhnkhxngphraxngkhekhamainprasathidimekinsxngkhn karaekhngkhxkhxngphuduaelecachayehnrithaihaexnnthrngphiorthcnthaihthrngaethngxikkhrnghnungtambnthukkhxngedwid khaledxrwudklawwaaexnnesdcekhahxngbrrthmthngthithrngphiorth aelathrngcakphraoxrsemuxwnthi 10 phvsphakhm emuxexirlaehngmarklbmaphrxmkbphrarachsasncakphraecaecmsihaexnnesdcmaxngkvsephuxmaekhiyngkhangphraxngkhinrachxanackrxngkvs aexnnkthrngottxbklbipwacaimyxmesdcnxkcakwaphraecaecmscathrngyksiththiinkarduaelecachayehnriihphraxngkh khwamrusukinkhwamepnaemthirunaerngthinkprawtisastrphxllin khrxftklawthungnithaihphraecaecmsthrngyxm aetkthrngbrryayinphrarachsasnthungexirlaehngmarwaaexnnmiphrathymungmn hlngcakkarphkfunhlngcakthithrngaethng aexnnkesdciplxndxnphrxmkbecachayehnri karesdcmathunglxndxnepnehtukarnthiihyot eldiaexnn khliffxrdbnthukwaethxkbmardatxngkhamaipsamtwephraakhwamthiribcaipdutwaexnn phraecaecmsthrngipphbaexnnimiklcakwindesxr aelamikhunnangepncanwnmakmayxyangthiimekhyehnknmakxn khwamkhdaeyngkbphraecaecms ecahyingexlisaebth scwt phrarachthida kh s 1606 ody phusngektkarnerimsngektehnkhwamaetkrawrahwangaexnnaelaphraecaecms emuxekidehtukarnthieriykwa karkhbkhidekawri Gowrie plot inpi kh s 1600 thicxhn ruthewn exirlaehngekawrithi 3 aelanxngchaythuksngharodyxngkhrkskhxngphraecaecmsephraathukklawhawaphyayamcatharayphraxngkh epnkarthaihnxngsawsxngkhnebiythriksaelabarbara ruthewnphuepnnangsnxngphraoxsthkhxngphrarachiniaexnntxngthukpldtamipdwy aexnnphukhnannthrngkhrrphidhaeduxn imthrngyxmlukcakphraaethnimyxmeswyipsxngwnnxkcakesiywacaeriyktwthngsxngkhnkhun emuxphraecaecmsthrngphyayamthicabngkhbphraxngkh phraxngkhkthrngaewngwathithrngthaechnnnephraaehnwaphraxngkhimichexirlaehngekawri phraecaecmsthrngphyayamexaphrathyodykarcangnkelnkaykrrmphumichuxesiyngmaaesdngihphrachayadu aetaexnnkyngimthrngyxmaelathrngsnbsnunphinxngruthewntxipxiksampi aelaepneruxngihyotphxthirthbalcaphicarnawaepneruxngkhxngkhwamplxdphykhxngpraethschati inpi kh s 1602 hlngcakthiphbwaaexnnthrnglklxbexaebiythrisekhamainphrarachwngohlirud phraecaecmskmiphrarachoxngkarihitswnphnknganinphrarachwngthukkhn inpi kh s 1603 phraxngkhkthrngyxmaelaphrarachthanebiybanayaekebiythrisepncanwn 200 karpracnphraphktrknekidkhuninpi kh s 1613 emuxaexnnthrngyingsunkhtwoprdkhxngphraecaecmsrahwangkarlastw hlngcakthiphiorthaelwphraecaecmskthrngphyayamthasthankarnihdikhunodyphrarachthankhxngkhwyepnephchrthimimulkha 2000 ephuxepnxnusrntxsunkhthichux Jewel xymni inpi kh s 1603 phraecaecmsthrngmipakmiesiyngkbaexnnineruxngkarcdkarineruxngphnknganinxngkvsaelathrngsngkhawthungphrarachiniwaimthrngphxphrathyinkarkrathakhxngphrarachini inkarottxbaexnnkthrngwiphakswicarnkardumnacnthkhxngphraswami inpi kh s 1604 aexnnthrngepryepnkarswnphraxngkhkbrachthutfrngesswa phraxngkhthrngdumnacnthepncanwnmak aelamiphrakiriyathiimehmaaimkhwrinthukkrni aelachnhwngwakhngcamiphlinthangraythicaekidkhunkbphraxngkh aeykknxyu emuxprathbinlxndxnaexnnkthrngichchiwitkhxngkarxyuinemuxnghlwng inkhnathiphraecaecmsthrngphxphrathythicahnixxkcakemuxng odyechphaaipyngtahnklastwthirxystninharthfxrdechxr kxdfriy kudmnxnusasnacarypracaphraxngkhkhxngaexnnsrupkhwamsmphnthrahwangthngsxngphraxngkhwa phraecaecmsexngthrngepnphubrisuththi aelaimthrngmixairthiaexnnthrngkrathathicathrngthaihkhadkhwamxuthisphraxngkhihaekaexnn aetthngsxngphraxngkhkmiidmikhwamrkknechnthisamiphrryathikhwrcarkkn aelaimthrngphudcakn inthisudaexnnkthrngyayipprathbthiphrarachwngkrinichaelatxma thithrngtngchuxihmwa khvhasnednmark hlngcakpi kh s 1607 aexnnaelaphraecaecmskaethbcaimidprathbrwmkn inkhnannphraxngkhmiphraoxrsthidaidecdphraxngkhaelw nxkcakkarthrngaethngsamkhrng hlngcakthithrngrxdmaidcakkarihkaenidaekecahyingosfi phrarachthidaxngkhsudthxngthiesiychiwitinpi kh s 1607 aelwaexnnkthrngtdsinphrathywacaimmiphraoxrsthidaxik sungxaccaepnsaehtuthithaihthngsxngphraxngkhyinghangehinknhnkyingkhunipxik karsinphrachnmkhxngecachayehnri inpi kh s 1612 xaccacakithfxyd emuxphrachnmayuid 18 phrrsa aelakarcakipkhxngecahyingexlisaebthphrathidaphumiphrachnmayuid 16 phrrsaipyngihedlaebrk ineduxnemsayn kh s 1613 ephuxipesksmrskbefredxrikhthi 5 ecachayxielkhetxraehngphaelithn kyingthaihkhwamsmphnthrahwangaexnnaelaphraecaecmsyinghangehinknyingkhun karsinphrachnmkhxngecachayehnriepnkhwamsuyesiyxnihyhlwngkhxngaexnn rachthutewnisidrbkaretuxnimihaesdngkhwamesiyicinkarsuyesiytxphrarachiniephraaimthrngthnrbfngid hruxthathrngidyinkcaimthrngsamarthkhwbkhumphraxngkhcakkarkrraesngid tngaetnnepntnmaphrasukhphaphphlanamykhxngphraxngkhkerimesuxmothrmlng aelathrngthxnphraxngkhcakkarsngkhmaelakaremuxngodythwip aelathrngcdlakhrswmhnakakkhrngsudthayinpi kh s 1614 xiththiphlthimitxphraswamikldthxylngxyangehnidchd aelaphraecaecmskthrngphungphaphuthioprdphumixanacmakkhun ptikiriyatxkhnoprdkhxngphraswami aemwacathrngmikhnoprdxyueruxy aetkepnkarphayin aetinrayahlngphraecaecmsthrngsnbsnunihbukhkhlehlanimibthbathinthangkaremuxngdwy aexnnthrngmiptikiriyaaetktangknrahwangkhnoprdsxngkhnphumixiththiphltxkhrunghlngkhxngsmykhxngorebirt kharr exirlthi 1 aehngsmemxrest phraswami aelacxrc wilelirs phusungtxmaepnkhnoprdaethnkharr aexnnimoprdkharrexaely aelathrngsnbsnunkarkhunxanackhxngcxrc wilelirs phuthiphraecaecmsphrarachthanbrrdaskdiihepnkhunnanginhxngphrabrrthmkhxngaexnn aelathrngsrangkhwamsmphnthxndikbwileliyrsaelaprathannamwaepn sunkh khxngphraxngkh aetkrannwileliyrskerimhnhlngihaexnncnaexnnthrngmikhwamoddediywinbnplaykhxngchiwitkhxngphraxngkhsasnaaexnnaehngednmarkodyphxl fan sxemxr khwamaetktangrahwangaexnnaelaphraecaecmsxikeruxnghnungkhuxeruxngsasnaechninkarthiaexnnimthrngyxmrbsilmhasnithaebbxngklikhninphrarachphithirachaphieskepnrachinikhxngphraxngkhexng aexnnthrngidrbkareliyngdumaxyangluethxrnaetxaccathrngepliynepnnikayormnkhathxlikxyanglb inewlaidewlahnung sungepnsthankarnthangkaremuxngthithaepnthiepidephykcaepnsingthinalaxay aelaepnthithaihhwadhwnkninbrrdaxngkhmntrikhxngskxtaelnd khxngwdskxtaelnd aelathaihepnthinasngsyaekhmuxngklikhnkhxngxngkvs phrarachininathexlisaebthexngkthrngepnkngwleruxngoxkasthicaepliynnikaykhxngaexnncnthrngsngphrarachsasnipetuxnaexnnimihfngthipruksaormnkhathxlik aelakhxihsngchuxphuthicaphyayamihphraxngkhepliynsasnamaihphraxngkh aexnnthrngtxbipwaimmikhwamcaepninkarsngchuxephraakhwamphyayamtang tangklmehlw aetaexnnkthukwicarncaknikayechirchxxfskxtaelndthiyngkhngepnshaysnithkhxngehneriytta kxrdxnphrryakhxngcxrc kxrdxn markhwisaehnghnthliythi 1 George Gordon 1st Marquess of Huntly hlngcakcxrc kxrdxn markhwisaehnghnthliyklbmainpi kh s 1596 nkbwchedwid aeblkhaehngwdesntaexndruweriykaexnnwa atheist phuimechuxphraeca aelaepryinkhaethsnawa phrarachiniaehngskxtaelndepnstrithiaemnkbwchcaswdmntihphrihphraxngkhaetkimmioxkasthicathaihmiphldikhunaetxyangid emuxxditsaylbesxraexnothni saetnednthukphbwaepnphunasayprakhacak mathwayaexnninpi kh s 1603 phraecaecmskthrngsngihcbsaetnednipcakhngiwthihxkhxyaehnglxndxnxyusibeduxn aexnnthrngprathwngeruxngkhxngkhwy aelainthisudkthrngchwyihsaetnednidrbkarpldplxy phrarachiniaexnnkechnediywkbphraecaecmsthithrngsnbsnunkarcdkhukhxngthngphrarachoxrsaelathidakbphuepnormnkhathxlik aexnnmiphrarachsasnthungphuthixaccamaepnecasawkhxngphraoxrsthirwmthngthrngkhxihmaeriyaexnnasngnkbwchsxngkhnipeyrusaelmephuxipswdmntihphraxngkhaelaphraecaecms thangsankphrasntapapaimekhymikhwammnicinsthanakhxngaexnn inpi kh s 1612 thrngaenanathutkhxngrachsankwa xyaexakhwamlmephlmphdkhxngphraxngkhmaepnhlk aelaaemwacathrngepnormnkhathxlikcringkyngexamaepnkartdsinthiaennxnimid rachsankaelakaremuxngaexnnaehngednmarkody Marcus Gheeraerts the Younger rahwangthiprathbxyuinskxtaelndaexnnmkcaichkhwamaetkaeykknepnfkepnfaykhxngrachsankinkarhaphlpraoychnthangkaremuxngihaekphraxngkhexngodyechphaainkarsnbsnunstrukhxngexirlaehngmar channphraecaecmscungimmikhwamiwwangphrathyinphrachayaineruxngkhwamlbkhxngpraeths ehnri ohewird exirlaehngnxrthaethmphtnthi 1 phumibthbathsakhyinkrnikarsubrachbllngkxngkvsthwaykhaaenanaaekphraecaecmsxyangepnkarswnphraxngkhwaaexnnthrngmikhunsmbtithukxyangechnxifphuthuklxlwngburusdwyngurayidsaerc aetodythwipaelwaexnnimthrngmikhwamsnickbkaremuxngethaidnk nxkcakemuxmamiswnekiywkhxngkbphrarachoxrsthidahruxphrashay emuxprathbxyuinxngkvsphrarachiniaexnnthrnghnkhwamsnphrathycakthangkaremuxngipindankarsngkhmaelakickarthiekiywkbsilpa aemwaphraxngkhcathrngmiswnrwminrachsankkhxngphraecaecmsxyangetmthiaelathrngmirachsankkhxngphraxngkhexng thimkcadungdudphuthiimepnthiphxphrathykhxngphraswami aetimthrngthuxhangthangkaremuxngthiepnptipkstxphraecaecms imwakhwamsmphnthrahwangthngsxngphraxngkhcaepnechnidphrarachiniaexnnkthrngepnphuthithrngmikhunkhatxphraswamiinxngkvs echninkartidtxkbrachthutaelaphumaeyuxnchawtangpraethsrachwngsscwtaelarachwngsoxlednebirkkhxngednmarkepnxyangdi niokhol omlinrachthutewnisbnthukekiywkbphrarachiniaexnninpi kh s 1606 wa phrarachiniaexnnthrngepnphumiphrastipyyaaelaphraprichasamarth aelamikhwamekhaicineruxngkhwamimmiraebiybkhxngrthbalsungimthrngmiswnekiywkhxng aelawaknwaphraswamicacngrkphkditxphraxngkhaelathrngmibthbathxyangidkidthamiphraprasngkh phraxngkhimmiphraprasngkhcamipyhaaelathrngthrabwaphubriharbanemuxngimtxngkarihmiphuidekiywkhxngphraxngkhcungthrngptibtiphraxngkhxyangimsnickbkaremuxng phraxngkhthrngetmipdwykhwamkrunatxphusnbsnunphraxngkhaelakimthrngpranitxphuthiimthrngphxphrathy chuxesiyng thsnkhtikhxngnkprawtisastrthimitxphrarachiniaexnntampktiaelwcaepnthsnkhtithiimkhxycadink thimkcaennkhwamhyumhyimaelakhwamfumefuxykhxngphraxngkh emuxepriybethiybkbphraecaecmsnkprawtisastrkmkcalaelykarklawthungphraxngkhodysineching erimdwynkprawtisastrthiepnptipkstxrachwngsscwtinklangkhriststwrrsthi 17 thiehnkhwamhlngphraxngkhkhxngrachsankcaokhebiynepnsaehtuhnungthinamasungsngkhramklangemuxngxngkvs nkprawtisastredwid aehrris willsnekhiyninphrarachprawtikhxngphraecaecms inpi kh s 1956 pranamwa phrarachiniaexnnimthrngmixiththiphltxphraswamiethaidnk aelaimthrngsamarththicarwminkhwamsnicthangkhwamecriythangstipyyakhxngphraswami aelamiphranisythiepnnisykhxngstritamthiphraecaecmsthrngmikhwamehn xnicca phraecaecmsthrngesksmrskbphrryaong nkekhiynchiwprawtikhxngkhriststwrrsthi 19 pranamkarthithrngtxsuinsiththiinkarduaelecachayehnrikhxngphrarachiniaexnnwaepnkarkrathathikhadkhwamrbphidchxb karkrathani khngtxngthaihkhwamehninphraxupnisykhxngphrarachiniaexnnaehngednmarkldthxylnginsaytakhxngthukkhn wathrngichephiyngsychatyankhxngkhwamepnaemthiesiyngtxkhwamekiywkhxngkbphraswami phrarachoxrs aelarachxanackr inkarsrangbrryakaskhxngkhwamthukkhaelakhwamkhdaeyngxnimepnthrrmchati aetkarwiekhraahphraecaecmsihminchwngrayaewlayisibpithiphanma kmikhwamehnwaphraxngkhthrngepnnkkarpkkhrxngphumikhwamsamarthphuthrngichxanacinskxtaelnd aelamiphraprichasamarthinkarpxngknrksarachxanackrcakkarsngkhramtlxdrchsmykhxngphraxngkh thitammadwykhwamehnihmekiywkbphrarachiniaexnnwathrngepnphumixiththiphlindankaremuxngaelaepnphramardaphuthrngphyayamaesdngsiththikhxngphraxngkhintwphrarachoxrs inkhnathichiwitkaresksmrsrahwangsxngphraxngkhyngkhngmikhwamhmayxyu cxhn lids barorllkhaninphrarachprawtithangwthnthrrmkhxngphrarachiniaexnnwakhwamekhaekiywkhxngthangkaremuxnginskxtaelndkhxngphraxngkhmikhwamsakhykwa aelasingthiepnthiaennxnkhuxthaihepnpyhamakkwathiekhytngkhxsngektknmaaetkxn aekhlr aemkhmanshnunginbrrdankprawtisastrwthnthrrmennbthbathkhwammixiththiphlkhxngphrarachiniaexnninwthnthrrmcaokhebiynwaimthrngaetcaepnphuxupthmphnkekhiynaelasilpinethann aetyngthrngepnnkaesdngexngdwyphuxupthmphsilpaekhruxngaetngtwinlakhr The Masque of Blackness xxkaebbodyxiniok ocns Queen s House thikrinichthierimsrangsahrbphrarachiniaexnn inpi kh s 1616 phrarachiniaexnnthrngphraxupnisyehmuxnphraecaecmsphrarachswamitrngthioprdkhwamfungefx aemwacatxngthrngichewlaepnhlaypikxnthicathrngichphrarachthrphycanwnmhasalcaksinsxdthxnghmnhmd phrarachiniaexnnoprdkaretnraaelanganeliyngtang sungmkcathakhwamimkhxyphxicihaek Presbyterian inskxtaelndethaidnk aetthrngphbwaepnsingthiyxmrbkninwngcaokhebiyninlxndxn aelathrngichinkarsrangbrryakasxnetmipdwywthnthrrminrachsank phraxngkhthrngmikhwamsnphrathyinkarlakhrepnxyangyingaelathrngepnecaphaphnganlakhrswmhnakak Masque sungepnnganihyotpracapiaethbthukpi emuxesxrwxletxr okhphidrbkhasngcakorebirt essiliheluxkbthlakhrsahrbphrarachinienuxnginphrarachworkaskhxngkarmaeyuxnkhxngphraxnuchadyukxulrichaehnghxlchitn wxletxr okhphkbnthukwa ebxrebcklbmabxkwaimmibthlakhrihmsahrbphrarachiniaelamibthlakhrekathinamafunfuchux Love s Labour s Lost thimithngptiphanaelaihwphribthiebxrebcklawwacathaihthrngphxphrathyepnxnmak nganlakhrswmhnakakkhxngphrarachiniaexnnepnnganthihruhranaduthngthangdanchakaelakaretnraxyangthiimekhythaknmakxn thiphuekharwmmithngrachthuttangpraethsaelabukhkhlsakhy thiaesdngihehnthungkhwamsakhykhxngxngkvsinyuorp sxrsi cuytieniynrachthutewnisbnthukthungnganemuxkhristmaspi kh s 1604 wa inkhwamkhidehnkhxngthukkhnimmirachsankidthisamarthcdnganlakhrswmhnakakthihruhraoxxaidethani nganlakhrswmhnakakkhxngphrarachiniaexnninyisibpiaerkkhxngkhriststwrrsthi 17 epnnganthiepidoxkasihnkaesdngstriekharwmepnkhrngaerk sungthaihmikhwamsakhytxprawtisastrkhxngnkaesdngstri bangkhrngphrarachiniaexnnkcathrngrwmaesdngkbstriinlakhrdwyphraxngkhexng aelabangkhrngrahwangkaraesdngkcathrngthukkrathbkraethiybcakphuchmbangkhn echninlakhr The Vision of the Twelve Goddesses emuxthrngaesdngepnxthina odythrngthunikhthiphuchmbangkhntiwachlxngphraxngkhsnekinip aelainlakhreruxng The Masque of Blackness inpi kh s 1605 emuxphrarachiniaexnnthrngrwmaesdngemuxthrngkhrrphidhkeduxn hruxemuxthrngkxkhwamxuxchawemuxphraxngkhaelankaesdngstrithasitnexnginkaraesdngepnkhnphiwdaaethnthicaichhnakaktamthrrmeniym nkekhiyncdhmayraynganwahlngcakkaraesdngaelwphrarachiniaexnnthrngetnrakbrachthutsepnphucaictxngcubphrahtth aemcaklwwasicatidpakcakphrahtth inkarsrangnganlakhrswmhnakakaetlakhrngphrarachiniaexnnkthrngcangsilpinkhnsakhy inyukhnninkarxxkaebbaelasrangchakthirwmthng aelaxiniok ocns xiniok ocnsphuepnsthapnikphumiphrswrrkhphumikhwamekhaicxyangluksunginrsniymlasudkhxngyuorpepnphuxxkaebbthikrinichsahrbphraxngkh sungepnsthaptykrrmphaelediyn thiaethcringchinaerkthisranginxngkvs aelankpradisthchawdthchepnphuxxkaebbswnthikrinichaelakhvhasnsmemxresth nxkcaknnphrarachiniaexnnkyngoprddntriaelathrngxupthmphnkelnluthaelakhitkwi phukxnhnannepnkharachsankinphraxnuchakhxngphraxngkhinednmark aelathrngxupthmphnkdntrifrngessxikhlaykhn nxkcaknnphrarachiniaexnnkyngthrngcangsilpinechn aela phumamixiththiphltxrsniymkhxngthsnsilpinxngkvstxma phayitphrarachiniaexnnngansasmkerimephimmakkhun noybaythithatxmaodyphrarachoxrsphraecacharls nkprawtisastraexeln scwtesnxwalksnatang thiepnexklksnkhxngsmycaokhebiynmacakphrarachiniaexnnmakkwathicamacakphraecaecmsphumkca brrthmkhnathilakhrthisakhy thisudkhxngxngkvskalngaesdngxyu karswrrkhtinplaypi kh s 1617 karprachwrkhxngphrarachinikyingthikhuncnimthrngsamarthptibtikicxnidid ineduxnmkrakhmpi kh s 1619 nayaephthypracaphraxngkhthwaykhaaenanaaekphrarachiniaexnnihthrngeluxyimephuxchwythaiheluxdlmdikhun aetkarxxkphrakalngklbthaihprachwrhnkyingkhun phraecaecmsesdcipeyiymphrarachiniaexnnephiyngsamkhrngemuxprachwrkhrngsudthay ecachaycharlsphrarachoxrsmkcabrrthminhxngtidkbhxngphramardathiphrarachwngaehmphtn aelaprathbkhangphraaethninchwomngsudthaykhxngphrachnmchiphkhxngaexnnemuxthrngsuyesiyphraentr xnna rusphuedinthangmakbphrarachiniaexnncakednmarkin kh s 1590 kepnxikphuhnungthixyukbphraxngkhcnwarasudthay phrarachiniaexnnesdcswrrkhtemuxphrachnmayuid 44 phrrsaemuxwnthi 2 minakhm kh s 1619 dwyphraxakarbwmna dropsy aemwacaimthrngsnphrathyintwphrarachiniaexnninrayahlngaetkarswrrkhtkhxngphraxngkhkxdthicasrangkhwamsaethuxnphrathyihkbphraecaecmsimid phraxngkhmiidthrngipeyiymaexnnkxnhnathicaswrrkhtaelamiidthrngrwminphrarachphithisphephraaphraxngkhexngkthrnglmprachwrdwyxakarthinayaephthybrryaywa epnlm thxnhayic mikhwamrusuksinhwng mikhwamrusukesra cakkartrwcphrabrmsphphbwaphrarachiniaexnn phraxwywaphayinesiyhmdaelw odyechphaaphraykna tb hlngcakthithingphrabrmsphiwepnrayaewlanan phraxngkhkidrbkarbrrcuin phayinaexbbiewstminsetxr emuxwnthi 13 phvsphakhm kh s 1619phraoxrs thidaecachaycharlsaehngewlsphrarachoxrsxngkhthisxngphutxmakhunkhrxngrachyepnsmedcphraecacharlsthi 1 aehngxngkvs kh s 1613 aexnaehngednmarkthrngihkaenidphraoxrs thidacanwnthngsin 7 phraxngkhphusungmiphrachnmphnwyedk sungmisiphraxngkhsungsinphrachnminwytharkhruxinwyedktxntn nxkcakniphranangyngthrngtkphraolhitphraoxrs thidathungsamkhrng phraoxrsphraxngkhthisxngepnphramhakstriysubtxcaksmedcphraecaecms khux smedcphraecacharlsthi 1 phrathida exlisaebth thrngepnxyyikainsmedcphraecacxrcthi 1 aehngbrietnihy ehnri efredxrikh ecachayaehngewls 19 kumphaphnth kh s 1594 6 phvscikayn kh s 1612 sinphrachnm xacenuxngmacakikhraksadnxy emuxmiphrachnmayuid 18 phrrsa exlisaebth scwt 19 singhakhm kh s 1596 13 kumphaphnth kh s 1662 esksmrsinpi kh s 1613 kbfridrichthi 5 ecachayxielkhetxraehngphaelithn thrngdarngphraxisriyysepnecahyingxielkhetrsaehngphaelithn aela smedcphrarachiniaehngobhiemiy swrrkhtemuxmiphrachnmayu 65 phrrsa markaert scwt 24 thnwakhm kh s 1598 minakhm kh s 1600 sinphrachnmemuxmiphrachnmayu 15 eduxnphrasphthukfngiwthiphrarachwngohlirud smedcphraecacharlsthi 1 aehngxngkvs 19 phvscikayn kh s 1600 30 mkrakhm kh s 1649 esksmrsinpi kh s 1625 kbehneriytta maeriy thrngthuksaercothsemuxmiphrachnmayuid 49 phrrsa 18 mkrakhm 27 phvsphakhm kh s 1602 sinphrachnmemuxmiphrachnmayuid 4 eduxn aemri scwt 8 emsayn kh s 1605 16 thnwakhm kh s 1607 sinphrachnmemuxmiphrachnmayu 2 phrrsa osefiy scwt 22 23 mithunayn 1606 prasutiaelasinphrachnminphrarachwngkrinichkxnhna xnnaaehngednmark thdipphraecaefliepthi 2 aehngsepn phrarachiniaehngxngkvs inphraecaecmsthi 1 aehngxngkvs smedcphrarachiniehneriytta maeriyaehngfrngessphrarachiniaehngskxtaelnd inphraecaecmsthi 6 aehngskxtaelnd smedcphrarachiniehneriytta maeriyaehngfrngessechingxrrth wileliyms 1 201 wilsn 403 Stewart 182 300 301 barorl 15 35 109 thungaemwaaexnnacamiesriphaphswnphraxngkhphxpramanaelathrngmirachsankswnphraxngkh phraxngkhkmiidthrngaesdngkhwamkhdaeyngthangkaremuxngthiepnfkfaytxphraswamixyangxxkhnaxxktaechnemuxprathbxyuthiskxtaelnd aelaimthrngidrbkhakhxihsnbsnun khwammichuxesiyngrachsankswnphraxngkhxyuthikarphbpadansilpa Stewart 183 xarchbichxpaehngaekhnethxrebxriraynganwaaexnnaehngednmarksinphrachnmxyangimthrngyxmrbnikayormnkhathxlik aetcxhn rid barorltingwa aeteranacakhunekhykb karaethlngkhaw insmykhxngaexnnaehngednmarkkechnknthithangkarehnkhwamcaepninkarprakasxyangepnthangkarekiywkbkarsinphrachnmwaepnkarsinphrachnmaebbthiepnthiyxmrbkhxngsngkhm barorl 172 cdhmaycakaexnnthungskiphioxni bxrekesemuxwnthi 31 krkdakhm kh s 1601 bnthukwa yxmrbnikayormnkhathxlikdwykhwametmic tamkhaklawkhxngaemkhmans 93 aexkens strikhaelnd kh s 1848 276 dungemuxwnthi 10 phvsphakhm kh s 2007 wilsn 95 Her traditionally flaccid court image barorl 27 khrxft 55 aexnnthrngepnbukhkhlthiimkhxynasnicaetkthrngmikhwamxdthnphxthicathnphukhntrabidthiyngthaihphxphrathy aexnnthrngmikhwamsnphrathyinsingthiimhnkipkwaeruxngchlxngphraxngkh exkhrik 21 aexnn thrngmibthbathinwngkaremuxnginrachsankxyangrwderw danhnunginchiwitihmkhxngphraxngkhthinkekhiynchiwprawtisxngsamkhnkhxngphraxngkhmiidehnepneruxngsakhy imnankthrngmibthbaththangkaremuxngphayinrachsankskxtaelnd barorl 17 aemwankprawtisastrcaimihkhwamsnickbphraxngkhethaidnk phrarachinikhxngphraecaecmsaexnnaehngednmarkmiphraprichasamarththangkaremuxng charph 244 thungaemwaxiththiphlthangwthnthrrmradbsungrahwangsmyscwtkhxngphramhakstriyxngkhihmcaepnthiehnidinrachsank rahwangthswrrsaerkkhxngrchsmy khwamepliynaeplngtang nimimulthanmacakaexnnaehngednmarkphrarachinithiimkhxycamiikhrklawthungkhxngecms barorl 1 2 wileliyms 1 wileliyms 3 wileliyms 2 wileliyms 5 khrxft 24 aedeniyl orecxrsphuaethnxngkvsraynganmayng wileliym essil barxnaehngebxrliythi 1waphrarachiniosfithrngepn ecahyingphumikhunthrrmkhwamdiphuthrngduaelphraoxrsthidadwykhwammiphraprichasamarth wileliyms 4 khrxft 24 khuhmayxikkhnhnungkhxngphraecaecmskhux phumiphrachnsaaekkwaphraxngkh 8 phrrsa aekhthethxrinepnphrakhnisthakhxngphraecaxxngrithi 4 aehngfrngess phraecaxxngriaehngnaraewr aelaepnphuthismedcphrarachininathexlisaebththi 1 thrngphxphrathymakkwa scwt 105 106 wileliyms 12 ehtuphlhnungthiphraecaecmsimthrngyxmtklng kxaccamisaehtumacakkarthiphraecaxxngrithrngtngkhxeriykrxngcakphraxngkhinkarsnbsnunthangkarthharinyamsngkhram wilsn 86 wileliyms 10 wileliyms 10 willsn 87 88 nkbwchtngkhxsngektinnganphrabrmsphkhxngphraecaefrdrikhwa thaeswynacntnxylngskhnxy kkhngcamiphrachnmayuyunkhunbang wileliyms 6 hmuekaaxxrkhniysungepnswnhnungkhxngsinsmrskhxngecahyingemuxthrngesksmrskbphraecaecmsthi 3 aehngskxtaelndinpi kh s 1469 ednmarkidrbkhunhlngcakkhasinsmrsthiepntwenginidrbkarcharahmd wileliyms 10 chawednsyxmprakasslasiththihmuekaaxxrkhniy emuxphraecaecmsthrngprakaswacaimthrngepnthaphraxngkhechnphxkhasahrbecasaw aelathrngyutikhxeriykrxngsinsmrsthisungcnekinkwaehtu wileliyms 14 willsn 88 wileliyms 14 15 cdhmayuthungwileliym aexchbiy exkxkhrrachthutpracaednmark wileliyms 15 tlxdphrachnmchiphnxkipcakhkeduxnthiesksmrsaelw phraecaecmskimaesdngwaoprdstriaelathrngmikhwamehnwastriepnephsthimikhwamsamarthdxykwa khwamsnphrathykhxngphraxngkhswnihyaelwcamiihkbchayhnum wileliyms 14 15 nxkipcakchudaetngnganaelwkyngmichangxikharxykhnthithangantlxdsameduxnephuxetriymekhruxngthrng willsn 87 khrxft 23 4 God is my witness I could have abstained longer than the weal of my country could have permitted had not my long delay bred in the breasts of many a great jealousy of my inability as if I were a barren stock willsn 85 wileliyms 15 aemkhmans 61 thiexlsinxrpunihylnodyxubtiehtthaihlukeruxesiychiwitipsxngkhn wnrungkhunemuxmikaryingpunephuxepnekiyrtiaekkhunnangskxtsxngkhn punkraebidthaihkhnyingesiychiwitaelalukeruxxikekakhnbadecb caknnkprasbmrsumcneruxkhxngphraxngkhhayipxyangimmirxngrxyxyusamwn txmaeruxsxnglakchnknthaihlukeruxesiychiwitipxiksxngkhn kidediyn eruxphrathinngkrwcntxngaewaekhasxmthi Gammel Sellohe thinxrewy aetkrwxikemuxnaxxkcakxu emuxkxngeruxcxdphkxyuthi Flekkero ewlaklwngmacnthungeduxntulakhmemuxlukeruximetmicthicanaeruxkhamipyngskxtaelndinchwngewlann scwt 109 scwt 109 inkhnannphraecaaephndinaehngednmarkthrngpkkhrxngthngednmarkaelanxrewy wileliyms 207 scwt 107 willsn 88 wileliyms 17 thrngefadufngthaelcakkhvhasnsitnsungepnthiphankkhxng phuepnphrashay scwt 108 willsn 89 scwt 108 wileliyms 19 willsn 85 scwt 109 inbnthukthithrngthingiwthrngbnthukwasaehtuthithrngtdsinicedinthangkephuxaesdngihphuxunehnwathrngmikhwamsamarththicathaxairdwyphraxngkhexngid he was no irresolute ass who could do nothing of himself willsn 90 scwt 112 wileliymsklawwaphraecaecmstxngthrngepnphumikhwamklahayphxpramanthitdsinicedinthangkhamodyeruxkhnad 130 tninchwnghnahnawsungepnrayaewlathixntraythisudinkaredinthangkhamthaelehnux wileliyms 18 phraecaecmsprathancubphrarachinitamaebbskxtemuxthrngphbknsungaexnnthrngprathwngwamiichepnpraephnicakbanemuxngkhxngphraxngkh aelathrngpitihlngthiidthrngsnthnaknepnkarswnphraxngkhrahwangsxngphraxngkh scwtklawcakbnthukodyedwid mxysi 112 wileliyms 20 aemkhmansmikhwamehnwakarprathwngkhxngaexnnepnsyyankhxngkhwamepntwkhxngtwexngkhxngphraxngkh aemkhmans 65 6 willsnekhluxbaekhlnginkhwamethccringkhxngbnthukkhxngmxysiaelaipxangkhabrryaykhxngednmarkaethnthiwaphraecaecmsesdcmathungxxsolxyangsmphraekiyrtiaelathrngptibtiphraxngkhthuktxngtampraephnithangkarthutxyangetmtw willsn 90 1 scwt 112 scwt 112 willsn 91 scwt 113 wileliyms 23 aexnnaelaphraecaecmsxaccathaphithiaetngnganxikkhrngthiprasathokhrnbxrk khrngnitamphithiaebbluethxrnemuxwnthi 21 mkrakhm kh s 1590 wileliyms 23 aemkhmansklawwakaraetngngankhrngthisxngimmihlkthansnbsnun aemkhmans 61 scwt 117 scwt 118 Maclagan Michael 1999 Line of Succession Heraldry of the Royal Families of Europe London Little Brown amp Co p 27 ISBN 0 85605 469 1 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Citation title aemaebb Citation citation a trwcsxbkha isbn checksum help imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help khrxft 24 scwt 119 wileliyms 30 aemkhmans 70 willsn 93 wileliyms 29 wileliyms 31 scwt 119 wileliyms 31 aemkhmans 71 willsn 85 95 94 95 khrxft 24 khrxft 134 khawluxthiwaaexnnthrngkhrrphekidkhuntngaetkxnhnathiaexnncaesdcmathungskxtaelnd scwt 139 scwt 139 40 scwt 140 phranamtngtamchuxphraxykasxngphraxngkh ehnri scwt lxrddarnliy aela phraecaefredxrikhthi 2 aehngednmark wileliyms 47 wileliyms 47 aexnn imekhythrngbrrethacakkhwamphiorthaelakhwamrnthdthiekidcakkarthithukaeykcakphrarachoxrsxngkhaerk khrxft 24 khwamkhdaeyngkbphraswamicakkhwamkhmkhun thithrngthukphrakcakphraoxrs epnsingthithalaychiwitkarsmrskhxngphraxngkh wileliyms 52 exirlaehngmarepntaaehnngkhxngphumisiththiinkarduaelxarkkharchthayathkhxngskxtaelndtampraephni scwt 140 wileliyms 53 scwt 140 141 wileliymssnnisthanwaemthaelndepnnksxnghwaetkmikhwamrusukediywkninkhwamepnkhuxrikbexirlaehngmar aelathwaykhaaenanaxyanglb txphraecaecmswaimihthrngyxmphrachaya wileliyms 53 57 scwt 141 inkrnithiepnphraprasngkhkhxngphraecaintwkhapheca imwakrniid hammiihmxbtwecachayehnriaekphrarachini cngeliyngphraxngkhcnphrachnmayu 18 phrrsaemuxthrngmioxngkardwyphraxngkhexngid wileliyms 55 wileliyms 54 saylbkhnhnungkhxng raynganwaidyinemuxwnthi 25 phvsphakhm kh s 1595 waaexnnthrngrxngkhxphraecaecmsihthrngmisiththiinkarduaelecachayehnri inthanathiphraxngkhepnphramarda aelaphraecaecmsmikhwrcaihphuimmiskdisrismthanamaduaelphrarachoxrskhxngphraxngkh phraecaecmsthrngtxbotwaimthrngmikhwamkhxngicinkhwamtngickhxngphrachaya aetthafaytrngkhamkhxngphraxngkhekidmixanackhunmaphrachayakcaimmikhwamaekhngaerngphxthicapxngknimihfaytrngkhamichecachayehnriepnptipkstxphraxngkhid echnemuxphraxngkhexngthukichepnekhruxngmuxkhxngfaytrngkhamkbphrarachmardaphunasngsarkhxngphraxngkhexng wileliyms 54 wileliyms 56 scwt 141 scwt 141 phraecaecmsthrnglalaaexnndwykhwamrkkxnthicaxxkedinthang willsn 160 wileliyms 70 71 scwt 169 72 scwt 169 wileliyms 70 phusngektkarnchawtangpraethsinlxndxnkracaykhawluxekiywkbkaraethngkhxngaexnn exkxkhrrachthutewnisraynganwaaexnnthubtiphraxuthrkhxngtnexngephuxihaethng aemksimieliyn edx ebthun dyukaehngsullicakfrngessklawwaaexnnthrngaeklngaethngephuxphlthangkaremuxng wileliyms 71 scwt 169 aemkhmans 91 inphrarachsasntxbkhxngphraecaecmsklawwaaexnnthrngklawhaphraxngkhwaimrkphraxngkhcring aetngngankbphraxngkhephiyngephraathrngmikaenidmainrachtrakul aelathrngfngkhawelaluxwacathrngepliynipnbthuxnikayormnkhathxlik inphrarachsasnphraecaecmsthrngklawwa hmxmchnyngkhngrkaelamikhwamnbthuxintwphraxngkhxyutamkdkhxngphraecaaelakhxngthrrmchatiinsingthisamikhwrcathatxphrryaaelamardakhxnglukkhxnghmxmchn aelaimichthaephraaphraxngkhepnphrarachthidakhxngphraecaaephndin ephraaimwaphraxngkhcaepnphuid phrarachthidakhxngphraecaaephndinhruxluksawkhxngkhnkhrw phraxngkhkkhuxsingediywkhxnghmxmchnnnkkhuxepnphrryakhxnghmxmchn aelathrngsabanwaimekhyidyinkhawluxcakphuidineruxngthiaexnncathrngepliynipnbthuxnikayormnkhathxlik scwt 170 khrxft 55 willsn 160 wileliyms 71 thngbarorll 30 aela aemkhmans 81 tngkhxsngektwakarkrathakhxngaexnnepnthngkarkrathathangkaremuxngaelasychatyankhxngkhwamepnaem karaelkepliynkarduaelthaknxyangepnthangkar odysphaphuduaelphbpaknthisetxrlingaelahamkhunnangkhxngaexnnekhamainrsmi 16 kiolemtrkhxngecachayehnri exirlaehngmarmxbtwecachayehnriihaek phuepnphuaethnkhxngphraecaecmsphumxbecachayehnriihaeksphaphuduael aelainthisudsphaphuduaelmxbecachayehnriihaekaexnnaelaelnniks phuthiepnphunathngsxngphraxngkhlngmaynglxndxndwykn scwt 170 1 ecahyingexlisaebthesdctammasxngwntxmaaelatidtammathn aetecachaycharlsyngthrngthukthingiwinskxtaelndephraaimthrngaekhngaerngphxthicaedinthang scwt 171 aexnnthrngekbrangkhxngphratharkthithrngaethngiwkbphraxngkh aemkhmans 91 willsn 164 5 eldiaexnn khliffxrdxayusibsampiemuxekhiynbnthuk wileliyms 79 wileliyms 61 3 barorll 25 phrarachiniaexnnthrngihkaenidphraoxrsxngkhthisxng charlsemuxkhawnthi 19 phvscikayn kh s 1600 khnathiphinxngruthewnthuklngothsodykar aekhwnkhx khwkisaelaphasi Hanged drawn and quartered wileliyms 66 barorll 26 ecms emlwillphuehnehtukarnbnthukinxnuthinwa inbrrdaphuthiimechuxwaphinxngruthewnmikhwamphidcringkkhuxphrarachiniexng phraxngkhimthrngyxmlukcakphraaethnimyxmepliynekhruxngthrngipsxngwn aemwaphraecaecmscathrngthrabthungkarprachdkhxngphrachayaaelaphlthicatamma phraxngkhkimthrngyxmthicaaekikhehtukarnihthuktxngaetaethnthithrngphyayamklbekluxnsingthiekidkhun wileliyms 63 wileliyms 63 4 barorlltngkhxsngektin khwammungmnthangkaremuxng khxngaexnn barorll 23 aetaexnnthrngsyyaxyuesmxwacaimthrngthasingidthiepnptipkstxphraecaecms barorll 28 barorl 27 wileliyms 64 65 aemwakhrxbkhrwkhxngethxcaepnthinachingchngephraaphyayamtharayphraecaaephndin aetethxexngimidaesdngwamiswnrwminkarkrathakhrngnn wileliyms 65 wileliyms 164 5 wileliyms 76 khrxft 56 scwt 181 scwt 182 willsn 403 wileliyms 112 edimaexnnimthrngehndwykbkarcbkhurahwangphrathidakbphraecaefredxrikh ephraathrngehnwaefredxrikhmithanathitakwaaelaimthrngyxmekharwmphithiesksmrsthihxngrbrxnginphrarachwngiwthhxll odythrngaekphraxngkhwaimthrngsbaycakkhxethabwm scwt 247 250 wileliyms 154 156 khrxft 89 barorl 134 nkekhiyncdhmaycxhn echmebxrelntngkhxsngektwakarthiimthrngekharwmphithikaraetngtngcharls epnecachayaehngewls insipitxma kkhngepnephraakarekharwmepnkaretuxnihkhidthungecachayehnri scwt 249 khrxft 89 karprachwrkhxngaexnnrwmthngorkhekat dropsy arthritis aelaphrabathbwm wileliyms 159 khrxft 89 khrxft 89 barorl 148 xarchbichxpaehngaekhnethxrebxriaelaphuxunsrangkhwamkddnihaexnnsnbsnuncxrc wilelirsihepnkhunnangpracahxngphrabrrthm emuxerimaerkaexnnkthrngptiesthaelatamkhakhxngaexbbxtthrngklawwa tha cxrc wileliyrsklayepnkhnoprd phuthicaidrbphlthangraykhnaerkkehncaepnkhnthithaihidtaaehnngnnexng chnexngkcaimidrbkarykewnechnphuxun aetcaxyangirktamstrukhxngkharrkhwanlxmihaexnnsnbsnuncxrc wilelirs wileliyms 170 willsn 352 scwt 268 9 wileliymsaesdngsaenakhxngcdhmaycakaexnnthungcxrc wilelirsthierimdwy My kind dog I have receaved your letter which is verie wellcom to me yow doe verie well in lugging the sowes eare sakdphid wileliyms 152 cxrc wileliyrsekhiyntxbmawaiddungphrakrrnkhxngphraecaecmscnkrathngyawethakbhuhmu wileliyms 172 khrxft 100 willsnmikhwamehnwakarthiaexnnimthrngyxmrbsilmhasnithaebbxngklikhnepnkarthiaesdngphraxngkhwathrngyngepnormnkhathxlik aemkhmansesnxwaxaccaepnsyyanthungkhwamimiwwangickhxngwdptirupinkarrbsilmhasnithaebbxngklikhn willsn 221 aemkhmans 92 3 nkprawtisastrmikhwamehntangknineruxngkarepliynsasnakhxngaexnnepnormnkhathxlikwathrngepliyncringhruxim inrahwangkhristthswrrs 1590 phrarachiniaexnnthrngepliynipepnormnkhathxlik willsn 95 rahwanghlng kh s 1600 aetkxneduxnminakhm kh s 1603 phrarachiniaexnnthrngidrbkaryxmrbekhasunikayormnkhathxlik thiepnskkarasthanlb inhxnghnungphayinphrarachwnghlwng Fraser 15 phrarachini thrngepliyn cakkarepnluethxrnxyanglb sungkyngepnsingthinalaxaythangkaremuxng ipepnormnkhathxlik sungthaihepnthithaihkhnamntrikhxngwdskxtaelndimphungphxic khrxft 24 5 thuttangpraethskhxngormnkhathxlik phuthiepnthiaennxnwatxngmikhwamyindikbkarepliyn echuxwaimthrngmiaenwonmthicaepliyn rachthutniokhol omlincakewnissrupwa phraxngkhthrngepnluethxrnetmtw inpi kh s 1606 scwt 182 inpi kh s 1602 kmirayngankhawxangwaaexnn epliynipnbthuxnikayormnkhathxlikhlaypikxnhnann phraeysuxidorebirt xaebxrkhrxmbiyphurayngankhawniraynganwaphraecaecmsthrngrbkhawkarepliynkhxngphrachayaxyangengiybaelathrngeprywathaphrarachiniimthrngsamarthxyuidodyimepnormnkhathxlikphraxngkhkthrngtamphrathy aetthrngkhxihthaihxyangengiybthisudethathicathaid aexnnkekbkhwamlbniiwtlxdphrachnmchiph aemwahlngcakkarsinphrachnmipaelw kyngimepnthithrabkn hxkk 303 4 barorl 25 scwt 143 ekhanethsaehnghnthliyphuepnphusnbsnuneysuxidxyangehniywaennepnbutrikhxng Esme Stuart 1st Duke of Lennox phrashaykhxngphraecaecmsemuxyngthrngphraeyaw phuthukkhbxxkcakpraethsinpi kh s 1582 aelaepnnxngsawkhxng Ludovic Stuart 2nd Duke of Lennox wileliyms 45 scwt 144 wileliyms 59 phraecaecmsthrngsngsayprakhakhunklbipihsmedcphrasntapapa willsn 221 222 saetnednsarphaphkbnkbwcheysuxidorebirt pharsnwaepnphutidtxinorminnamkhxngphrarachini ehns 41 willsn srupwaehtukarnkhrngniepnkarphisucnkhwamepnormnkhathxlikkhxngaexnn hruxaenwonminkarepnormnkhathxlikthiephimkhun willsn 221 222 wileliyms 200 wileliyms 53 willsn 156 7 Robert Cecil 1st Earl of Salisbury epnxikphuhnungthimibthbathinkartidtxxyanglb kbphraecaecmsphumikhwamechuxwa phrarachinithrngepnphumikhwamxxnaexaelathrngepnekhruxngmuxkhxngphuthimistipyyaaelamikhwamprasngkhray wileliyms 93 phrarachinimiphrarachdarikbxngkhmntriorebirt essilwathrng mikhwamphxickbphaphekhiynmakkwathiorebirt essilmikhwamphxictxhnathikarnganxnyingihykhxngtn wileliyms 93 barorl 35 khrxft 25 scwt 182 khrxft 55 willsn 95 Strickland 1848 276 khasrupkhxngkhrxftinbthnainhnngsux phraecaecms kh s 2003 phrarachiniaexnntamkhwamkhidehnkhxngnkprawtisastrchayaelwepnkhwamkhidehninthangthiimikhrdinkindankhwamfumefuxyaelakhwamhyumhyimkhxngphraxngkh aetkarsuksaemuximnanmanichiihehnthungxiththiphlkhxngphraxngkh trabidthichiwitkaresksmrskhxngphraxngkhcayngkhngmikhwamhmayxyu aemwacathrngmikhwamkhdaeyngknxyangehnidchd khrxft 55 xiththiphlkhwamepnaemthangkaremuxngkhxngphrarachiniaexnn aemkhmans 82 du barorl aexnnaaehngednmark phrarachiniaehngxngkvs prawtisastrwthnthrrm aela aekhlr aemkhmans stribnewthierxenssxngs aexnnaaehngednmarkaelastrihlnghnakakinrachsankscwt kh s 1590 kh s 1619 khrxft 25 inpi kh s 1593 phraecaecmsthrngaetngtngkhnakrrmkarthieriykknwa xxkhetewiyns Octavians ephuxsasangkarbychikhxngphrarachiniaexnnaelaesnxwithikarprahyd scwt 142 3 barorl 161 khwamsnphrathyindanwthnthrrmkhxngphrarachiniaexnnaelaecachayehnrinamasukhwammiwthnthrrminrachsankxyuchwrayaewlahnung khrxft 129 wileliyms 99 ebxrebcthiklawthungnixaccaepn phichaykhxngnkaesdng McCrea 119 Ackroyd 411 khrxft 2 3 56 khwamdungdudkhxngsingthihruhramirakhakhxngkarlakhrimmihlkthanchdecncakexksarthiynghlngehluxxyu thaihsnnisthanwakhwamnadumacakkarxxkaebbewthiaelaekhruxngaetngtw inespchechiylexfefkhs indntriaelakaretnra aelainkhwamihmkhxngkarthiphrarachwngsthrngthakaraesdngbnewthidwyphraxngkhexng scwt 183 karaesdngni imnbkarsxm ichewlaephiyngwnediywinpihnungaelamiidaesdngthukpiinrchsmykhxngphraxngkh channkarbrryayphrarachinicaknganswmhnakakehlanicungepnkarbrryaythimacaktwxyangthiepnswnnxymak barorl 58 barorl 108 9 aemkhmans 3 barorllichraychuxkhxnglakhrswmhnakakrahwang kh s 1603 thung kh s 1610 inkarrabuwaphuidepnphuxyuinaewdwngkhxngphrarachiniaexnn barorl 58 wileliyms 126 aemkhmans 2 3 hlngcaknganlakhrswmhnakakkhxngphrarachiniaexnnkhrngaerkineruxng The Vision of the Twelve Goddesses ody kharltnmikhwamehnwaekhruxngthrnginbthxthinakhxngphrarachiniaexnnsnekinipephraathaihehnphrachngkhaelaphrabath inpi kh s 1605 phrarachiniaexnnaelastrisrangeruxngxuxchawinrachsankodykarpraktphraxngkhepn khnrkda in The Masque of Blackness esrasaon 80 aemkhmans 4 phrarachiniaexnnthrngkhrrphidhkeduxnemuxpraktinlakhrswmhnakakeruxngni aemkhmans 11 khrxft 56 bththithrngelnepnkarthaihebn cxnsnidrbkhwammichuxesiyngaelaxiniok ocnsphuimekhyidrbkarmichuxesiyngxyangthikhwr wileliyms 124 nkekhiynphuxunthiphrarachiniaexnnthrngcangkidaek aela wileliyms 157 scwt 183 khrxft 3 chnaerkxaccasrangesrcemuxphrarachiniaexnnsinphrachnm wileliyms 181 edawaelnd xuthis Lachrymae aek phrarachiniaexnn barorl 58 barorl 58 scwt 182 khrxft 56 barorl 58 scwt 183 wileliyms 106 wileliym harwiy phukhnphbkarhmunewiynkhxngolhitepnluksisykhxngemeyirn wileliyms 194 198 khrxft 100 willsn aetphraecaecmsesdcipeyiymphrarachiniaexnnsxngkhrngtxxathitycnemuxthrngyayipniwmarekhtineduxnkumphaphnth thngphraecaecmsodykarsngsasnaelaecachaycharlstangkthrngkratuxruxrnthicaihphrarachiniaexnnthrngthaphinykrrm phraecaecmsimthrngiwickhwamsnphrathykhxngecachaycharlsineruxngniephraathrngklwwaphrarachiniaexnncaykthukxyangihecachaycharls aetphrarachiniaexnnimthrngyxmrwmmux wileliyms 198 200 scwt 300 wileliyms 201 scwt 121 300 willsn 403 khrxft 101 phraecaecmsthrnglmprachwrhnkhlngcakkarsuyesiyecachayehnri willsn 285 scwt 300 phraecaecmsthrngrbkhawkarsinphrachnmxyang seemly willsn 403 scwt 300 karthithingiwnanephraakhadngbpramanthicathakarthaphrasphephraakhnannthangphrarachwngsmihnisinmak wileliyms 202 Stewart 140 142 John Chamberlain 1553 1628 recorded It was verily thought that the disease was no other than the ordinary ague that had reigned and raged all over England Alan Stewart writes that latter day experts have suggested enteric fever typhoid fever or porphyria but that at the time poison was the most popular explanation Stewart 248 Willson 452 Barroll 27 Croft 55 Stewart 142 Sophia was buried at in a tiny alabaster tomb shaped like a cradle designed by Willson 456 Williams 112 xangxing Akrigg G P V 1962 1978 edition Jacobean Pageant or the Court of King James I New York Athenaeum ISBN 0689700032 Ackroyd Peter 2006 Shakespeare The Biography London Vintage ISBN 074938655X Barroll J Leeds 2001 Anna of Denmark Queen of England A Cultural Biography Philadelphia University of Pennsylvania ISBN 0812235746 Cerasano Susan and Marion Wynne Davies 1996 Renaissance Drama by Women Texts and Documents London and New York Routledge ISBN 0415098068 Croft Pauline 2003 King James Basingstoke and New York Palgrave Macmillan ISBN 0333613953 Fraser Antonia 1996 1997 edition The Gunpowder Plot Terror and Faith in 1605 London Mandarin Paperbacks ISBN 0749323574 Haynes Alan 1994 2005 edition The Gunpowder Plot Stroud Sutton Publishing ISBN 0750942150 Hogge Alice 2005 God s Secret Agents Queen Elizabeth s Forbidden Priests and the Hatching of the Gunpowder Plot London Harper Collins ISBN 0007156375 McCrea Scott 2005 The Case For Shakespeare The End of the Authorship Question Westport Connecticut Praeger Greenwood ISBN 027598527X McManus Clare 2002 Women on the Renaissance Stage Anna of Denmark and Female Masquing in the Stuart Court 1590 1619 Manchester Manchester University Press ISBN 0719060923 Sharpe Kevin 1996 Stuart Monarchy and Political Culture in The Oxford Illustrated History of Tudor amp Stuart Britain Ed John S Morrill Oxford Oxford University Press ISBN 0192893270 Stewart Alan 2003 The Cradle King A Life of James VI amp 1 London Chatto and Windus ISBN 0701169842 Strickland Agnes 1848 Lives of the Queens of England From the Norman Conquest Vol VII Philadelphia Lea and Blanchard Original from Stanford University digitized 20 April 2006 Full view at Google Books Retrieved 10 May 2007 Williams Ethel Carleton 1970 Anne of Denmark London Longman ISBN 0582127831 Willson David Harris 1956 1963 edition King James VI amp 1 London Jonathan Cape Ltd ISBN 0224605720 duephim smedcphraecaecmsthi 1 aehngxngkvs rachwngsscwt smycaokhebiyn lakhrswmhnakak smycaokhebiynaehlngkhxmulxun Portrait of Anne in the Government Art Collection 2009 09 03 thi ewyaebkaemchchin Retrieved 5 May 2007