หิ่งห้อย | |
---|---|
ชนิด | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Arthropoda |
ชั้น: | Insecta |
อันดับ: | Coleoptera |
อันดับย่อย: | |
อันดับฐาน: | |
วงศ์ใหญ่: | |
วงศ์: | Lampyridae , 1817 |
วงศ์ย่อย | |
|
หิ่งห้อย หรือ ทิ้งถ่วง เป็นแมลงปีกแข็งหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Lampyridae ในอันดับ Coleoptera ทั่วทั้งโลกมีหิ่งห้อยประมาณ 2,000 ชนิด หิ่งห้อยกะพริบแสงเพื่อการผสมพันธุ์และสื่อสารซึ่งกันและกัน หรือส่งสัญญาณการป้องกันตัวจากสัตว์นักล่า แสงที่หิ่งห้อยสร้างเป็น "แสงเย็น" โดยทั่วไปจากช่องท้องส่วนล่างอาจเป็นสีเหลืองสีเขียวหรือสีแดงซีด ตำแหน่งของอวัยวะแสงยังแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด และเพศของหิ่งห้อยชนิดเดียวกัน
หิ่งห้อยพบได้ใน และเขตร้อน (ยกเว้นเขตขั้วโลกและ) พบมากในหนองน้ำ ป่าโกงกาง หรือป่าริมธารน้ำ ซึ่งมีแหล่งอาหารมากมายสำหรับหิ่งห้อยระยะตัวอ่อน
ลักษณะทางชีววิทยา
หิ่งห้อยตัวเต็มวัยเพศผู้มีปีก ส่วนเพศเมียมีทั้งมีปีกและไม่มีปีก บางชนิดมีปีกสั้นมาก (Brachypterous) ชนิดที่ไม่มีปีกรูปร่างลักษณะคล้ายตัว หนอนของหิ่งห้อยเป็นกินหอยฝาเดียว ไส้เดือน กิ้งกือ และแมลงตัวเล็ก ๆ เป็นอาหาร หิ่งห้อยมีลักษณะเด่น คือสามารถทำแสงได้ทั้งระยะหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ส่วนระยะไข่ทำแสงได้เฉพาะบางชนิดเท่านั้น
ขนาดของหิ่งห้อยนั้นมีลำตัวยาวตั้งแต่ 2–25 มิลลิเมตร ลำตัวเป็นรูปทรงกระบอก
หัว มีสีดำ หรือแถบสีอื่นปน เช่น เหลืองปนน้ำตาล และแดง มีตาโตสีดำ 1 คู่ หนวด 2 ข้างสีดำ
อก ส่วนใหญ่มีลักษณะกว้างออกทางด้านข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บางชนิดมีอกขยายใหญ่คลุมส่วนหัวเอาไว้มองไม่เห็นส่วนหัวเมื่อมองลงมาทางด้านบน
ปีก คลุมท้องมิด มองไม่เห็นอวัยวะส่วนท้อง ปีกของหิ่งห้อยมี 2 ปีก ปีกบนมีลักษณะ ทึบแสงและไม่แข็งมาก ปีกล่างมีลักษณะบางใสสีดำหรือสีชา สีของปีกมีลักษณะแตกต่างกันตามชนิด หิ่งห้อยตัวเมียบางชนิดมีลำตัวยาวคล้ายหนอนมีปีกสั้นมาก หรือไม่มี
ท้อง ปล้องท้องตัวผู้มีปล้องท้องจำนวน 6 ปล้อง โดยท้องปล้องที่ 5 และ 6 เป็นที่ตั้งอวัยวะทำแสง ตัวเมียมีปล้องท้อง 7 ปล้อง โดยท้องปล้องที่ 5 หรือ 5 - 7 เป็นที่ตั้งอวัยวะทำแสง อวัยวะทำแสงมีสีขาวหรือขาวครีม
ขา มี 6 ขา ขาเป็นข้อ 3 ข้อ ปลายขาของหิ่งห้อย จะเป็นขอเหนี่ยวไว้ยึดเกาะต้นไม้ใบไม้
การให้แสง
การให้แสงในหิ่งห้อยเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า การเรืองแสงทางชีวภาพ (bioluminescence) กระบวนการนี้เกิดขึ้นในอวัยวะที่เปล่งแสงโดยเฉพาะ แสงที่หิ่งห้อยสร้างเป็น "แสงเย็น" คือ ไม่มีความถี่แสงช่วงอินฟราเรดหรืออัลตราไวโอเลต แสงที่ผลิตเกิดจากปฏิกิริยาเคมีนี้จากช่องท้องส่วนล่างอาจเป็นสีเหลือง สีเขียว หรือสีแดงอ่อน โดยมีความยาวคลื่น 510 ถึง 670 นาโนเมตร หิ่งห้อยบางชนิด พบที่ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกาปล่อยแสงสีออกฟ้า (<490 นาโนเมตร)
ถึงปัจจุบันจากการศึกษา หิ่งห้อยตัวเต็มวัยเท่านั้นที่เรืองแสง และตำแหน่งของอวัยวะทำแสงแตกต่างกันไปในแต่ละชนิดและระหว่างเพศของหิ่งห้อยชนิดเดียวกัน รูปแบบของหิ่งห้อยที่เปล่งแสงแตกต่างกันไปในแต่ละสปีชีส์ ตัวอย่างเช่น ในหิ่งห้อยหนอนเรืองแสง (Glowworm - Lampyris noctiluca) ที่พบในสหราชอาณาจักร ตัวเมียที่สังเกตเห็นได้ง่ายจากลักษณะที่คล้ายหนอนและบินไม่ได้ หิ่งห้อยกะพริบแสงเพื่อการผสมพันธุ์และสื่อสารซึ่งกันและกัน
โดยทั่วไปหิ่งห้อยมีอวัยวะทำแสงอยู่บริเวณส่วนท้องด้านล่าง เพศผู้มีอวัยวะทำแสง 2 ปล้อง เพศเมียมี 1–3 ปล้อง แต่บางชนิดตัวเต็มวัยเพศเมียมีรูปร่างลักษณะคล้ายหนอน มีอวัยวะทำแสงด้านข้างของลำตัว ภายในปล้องมีเซลล์ขนาดใหญ่เรียกว่า (photocytes) อยู่จำนวน 7,000–8,000 เซลล์เรียงกันอยู่เป็นกลุ่มรูปทรงกระบอก หลายกลุ่มภายใต้ผนังลำไส้ใส เซลล์โฟโตไซต์จะเป็นที่ทำให้เกิดแสง มีท่ออากาศและเส้นประสาท เข้าไปหล่อเลี้ยงจำนวนมาก เกือบทุกปล้องแสงของหิ่งห้อยเกิดจากปฏิกิริยาของสาร (luciferin) ที่อยู่ในอวัยวะทำแสงกับก๊าซออกซิเจน (O
2) มีเอนไซม์ (Luciferase) และ แมกนีเซียมไอออน (Mg2+
) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา และมีสาร (Adenosine Triphosphate, ATP) เป็นตัวให้พลังงานทำให้เกิดแสง และผลที่ได้คือ ออกซีลูซิเฟอริน (oxyluciferin) ของเสียคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO
2) (adenosine monophosphate, AMP) และไพโรฟอสเฟต (pyrophosphate, PP)
สมการเคมี การเรืองแสงทางชีวภาพ (bioluminescence) จากปฏิกิริยาของสารลูซิเฟอริน (Luciferin)
การให้สัญญาณโดยการทำแสงหรือการปล่อยสารเคมียังช่วยให้หิ่งห้อยสามารถระบุคู่ของสายพันธุ์ของมันเองได้ ลักษณะการสื่อสารด้วยแสงมีความแตกต่างในด้านระยะเวลา ช่วงเวลาของวัน สี และรูปแบบการกะพริบ และแตกต่างกันไปตามภูมิศาสตร์ ในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่การเลือกคู่ครองจะกระตุ้นให้เกิดความแตกต่างของรูปแบบการส่งสัญญาณที่มากขึ้น เช่น หิ่งห้อยชนิด Luciola Aquatilis ที่ค้นพบโดย อัญชนา ท่านเจริญ นักกีฏวิทยาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีวิธีสื่อสารด้วยแสงได้ถึง 4 แบบ หิ่งห้อยที่บินส่วนใหญ่มักเป็นตัวผู้ ส่วนหิ่งห้อยตัวเมียนั้นชอบเกาะนิ่งตามกิ่งไม้ เพื่อรอดูว่าตัวผู้ตัวไหนที่ทำแสงได้ดีกว่าตัวอื่นและเข้าไปหาเพื่อผสมพันธุ์
หิ่งห้อยในเขตร้อนมักจะประสานแสงกะพริบในกลุ่มใหญ่โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเวลากลางคืนริมฝั่งแม่น้ำในป่าของมาเลเซียหิ่งห้อยจะประสานการกะพริบแสงอย่างแม่นยำ สมมติฐานปัจจุบันเกี่ยวกับสาเหตุของพฤติกรรมนี้เกี่ยวข้องกับอาหาร การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และระดับความสูงเหนือน้ำทะเล ในฟิลิปปินส์สามารถพบเห็นหิ่งห้อยหลายพันตัวประสานการกะพริบแสงได้ตลอดทั้งปีในเมือง Donsol ในประเทศไทยสามารถพบหิ่งห้อยจำนวนมากที่กระพริบแสงพร้อมกันในเวลากลางคืน ในพื้นที่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน ระหว่างหมู่บ้านศรีเมือง และบ้านปากลัด ตำบล อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
ในตัวอ่อนของ Lampyrid การเรืองแสงจะทำหน้าที่แตกต่างจากในตัวเต็มวัย โดยเป็นสัญญาณเตือนถึงสัตว์นักล่า เนื่องจากตัวอ่อนของหิ่งห้อยหลายชนิดมีสารเคมีที่มีรสชาติไม่น่ากินหรือเป็นพิษ
หิ่งห้อยจำนวนหลายชนิดไม่ทำแสง โดยปกติแล้วหิ่งห้อยชนิดเหล่านี้เป็นแบบใช้ชีวิตเวลากลางวัน ได้แก่ ในสกุล Ellychnia ซึ่งอาศัยอยู่ในที่ที่มีเงาเป็นหลัก โดยจะเห็นการเรืองแสงใต้ต้นไม้หรือต้นไม้สูง หิ่งห้อยชนิดหนึ่งในสกุล Lucidota หิ่งห้อยที่ไม่เรืองแสงเลยแต่ใช้ฟีโรโมนในการส่งสัญญาณหาคู่
หิ่งห้อยมีอายุการกระพริบแสงประมาณ 14–30 วันเท่านั้น
ในวงการแพทย์ มีการสกัดเอนไซม์ลูซิเฟอเรส ในหิ่งห้อย ไปใช้ในการทดลองเพื่อประยุกต์เอนไซม์ลูซิเฟอเรสเป็นตัวตรวจวัดชีวภาพ (biosensor) เพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยโรค
วงจรชีวิต
หิ่งห้อยเป็นแมลงที่มีวัฏจักรชีวิตประกอบด้วย 4 ระยะ เมื่อผสมพันธุ์แล้วจะวางไข่ฟองเดี่ยวตามดิน หรือที่ชื้นแฉะ ใบพืชน้ำ ไข่ใช้เวลา 4–12 วัน จึงฟักเป็นตัว ซึ่งช่วงตัวหนอนใช้เวลานานถึง 4–5 เดือน จากนั้นเจริญเติบโตและผ่านการลอกคราบขณะที่เป็นตัวหนอน 6–8 ระยะ จนกระทั่งเข้าดักแด้ และลอกคราบออกเป็นตัวเต็มวัย ช่วงโตเต็มวัยมีอายุประมาณ 20–30 วันเท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาสำคัญเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์เท่านั้น
หิ่งห้อยมีรอบวงจรชีวิตอยู่ 3–12 เดือน แล้วแต่ละชนิด โดยทั่วไปเฉลี่ยประมาณ 5–6 เดือน หิ่งห้อยบกบางชนิดมีวงจรชีวิตนานถึง 1 ปี ในขณะที่หิ่งห้อยน้ำส่วนใหญ่มีวงจรชีวิตที่สั้นกว่า
นิเวศวิทยา
หิ่งห้อย มักจะออกหากินในเวลากลางคืน และหลบซ่อนตัวในเวลากลางวัน ส่วนใหญ่แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ หิ่งห้อยบกอาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ หรือตามพื้นที่ชุ่มชื้นใกล้ หิ่งห้อยน้ำจืด อาศัยตามแหล่งน้ำ หรือลำธารที่มีน้ำสะอาดและเป็นน้ำนิ่ง เช่น หนอง บ่อ ท้องร่องสวน คลอง และหิ่งห้อยน้ำกร่อยอาศัยตามบริเวณป่าชายเลน ชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำที่มีพื้นที่ชายเลน ในระยะตัวเต็มวัยหิ่งห้อยมักเกาะอยู่ตามต้นลำพู และต้นลำแพน โพทะเล ต้นจาก ต้น ต้นสาคู และต้นเหงือกปลาหมอ โดยเฉพาะในป่าชายเลนที่มีแหล่งอาหารสมบูรณ์
หิ่งห้อย นับว่าเป็นแมลงที่มีคุณลักษณะพิเศษ คือสามารถบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์และสมดุลของธรรมชาติได้ โดยเฉพาะมีคุณสมบัติที่สามารถใช้เป็น “” ในการควบคุมศัตรูพืชตามหลักการทางชีวภาพ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่การเกษตรกรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานวัฒนธรรมของคนไทย
หิ่งห้อยในระยะที่เป็นตัวหนอนจะกินหอยเล็ก ๆ เป็นอาหาร ซึ่งหอยเหล่านั้นเป็นพาหะนำโรคหลายชนิดมาสู่มนุษย์และสัตว์ เช่น เป็นต้น นอกจากนั้น หิ่งห้อย ยังเป็นตัวห้ำ ทำลายหอยเชอรี่ ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญกัดกินทำลายต้นข้าวในระยะลงกล้าและระยะปักดำใหม่ ๆ หิ่งห้อยจึงเป็นแมลงที่มีความสำคัญทั้งในด้านการสาธารณสุขและการเกษตร
อาหารของหิ่งห้อยแตกต่างกันไปตามชนิดของหิ่งห้อยนอกจากกินหอยแล้ว ยังกินกิ้งกือ ไส้เดือน และตัวอ่อนแมลงตัวเล็ก ๆ เป็นอาหารอีกด้วย ส่วนในระยะโตเต็มวัยหิ่งห้อยจะอาศัยกินเฉพาะ หรือน้ำหวานจากเกสรดอกไม้
หิ่งห้อยกับต้นลำพู
การที่หิ่งห้อยชอบเกาะกับต้นลำพู สันนิษฐานว่าใบลำพูมีความอ่อนนุ่ม มีสีเขียวอ่อน และมีขนาดเล็ก ทำให้หิ่งห้อยตัวเมียมองเห็นแสงได้ง่าย แต่พันธุ์ไม้อื่น ๆ หิ่งห้อยก็เกาะเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะต้นที่อยู่โดดเดี่ยวจะมาเกาะกันมาก เช่นบริเวณป่าชายเลนบ้านท่าสอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี พบว่าหิ่งห้อยพากันมาเกาะบนต้นใบเล็กจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่หิ่งห้อยชอบเกาะอยู่ตามต้นไม้ในป่าชายเลน อาจมีปัจจัยจาก มีหอยบางชนิดที่เป็นอาหารของหิ่งห้อยอาศัยอยู่บริเวณโคนต้นเหล่านี้เป็นจำนวนมาก และน้ำที่ค่อนข้างนิ่งจากรากต้นไม้ที่ยาวและซ้อนหลายชั้นช่วยการซับแรงคลื่น
หิ่งห้อยในประเทศไทย
หิ่งห้อยที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นหิ่งห้อย 2 ชนิด คือ Luciola brahmina ซึ่งตัวอ่อนอาศัยอยู่บริเวณน้ำจืด หรือเรียกว่าหิ่งห้อยบก และ Pteroptyx malaccae ซึ่งตัวอ่อนอาศัยอยู่บริเวณป่าชายเลน และฝั่งแม่น้ำที่น้ำทะเลท่วมถึง หรือเรียกว่าเป็นหิ่งห้อยน้ำกร่อย
สันนิษฐานว่าในอดีตกรุงเทพมหานครมีต้นลำพูอยู่มากริมแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงคลองบางกอกน้อย โดยเฉพาะย่านบางลำพูซึ่งเป็นเหมาะแก่การเติบโตของไม้ที่ทนน้ำท่วมขังอย่างต้นลำพู ต่อมาเมื่อเพื่อขยายพระนครในปี พ.ศ. 2326 คลองบางลำพูจึงเป็นส่วนหนึ่งของ คลองรอบกรุงทางตอนเหนือ หิ่งห้อยและต้นลำพูที่เคยมีเป็นจำนวนมากบริเวณปากคลองบางลำพู ก็หมดไปเมื่อวิถีชีวิตของความเป็นเมืองขยายตัวเข้าสู่พื้นที่แถบนี้ ทั้งและบ้านเรือนริมคลอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 กรมศิลปากรร่วมกับกรุงเทพมหานครได้บูรณะป้อมพระสุเมรุและบริเวณจัดสร้างเป็นสวนสันติชัยปราการ และสร้างพระที่นั่งสันติชัยปราการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าพักผ่อนหย่อนใจ โดยได้มีการปลูกต้นลำพูจำนวนหนึ่ง และเลี้ยงหิ่งห้อย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์และขยายพันธุ์ เป็นการฟื้นฟูวิถีชีวิตบางลำพูในอดีตด้วย
สถานที่ชมหิ่งห้อยที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน เช่น ที่ริมคลองตลาดน้ำอัมพวา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เกาะลัด อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา นิคมสร้างตนเอง ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คลองปากนคร ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีมากในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม เวลาที่เหมาะกับการชมคือ ในคืนเดือนมืด และเป็นช่วงพลบค่ำ เพราะเห็นแสงของหิ่งห้อยได้อย่างชัดเจน
ชนิดของหิ่งห้อยที่สำรวจและรวบรวมได้จากภาคกลางและภาคตะวันออกของประเทศไทย
สกุล | จำนวนชนิด | แหล่งที่พบ |
---|---|---|
Diaphanes | 2 | จันทบุรี (น้ำตกคลองนารายณ์) และฉะเชิงเทรา (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า) |
Lamprigera | 3 | นครนายก จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และลพบุรี (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา) |
Luciola | 38 | กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี สระแก้ว ประจวบคีรีขันธ์ สระบุรี จันทบุรี อุทัยธานี ปทุมธานี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นนทบุรี สมุทรสงคราม และนครสวรรค์ |
Pteroptyx | 2 | สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชลบุรี จันทบุรี และตราด |
Pyrocoelia | 7 | ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี และอุทัยธานี |
Pyrophanes | 1 | จันทบุรี (เขาสอยดาว) |
Rhagophthalmus | 1 | กรุงเทพฯ (บางเขน) และชลบุรี |
Stenocladius | 1 | จันทบุรี (น้ำตกคลองนารายณ์) และอุทัยธานี (ห้วยขาแข้ง) |
การอนุรักษ์
ประชากรหิ่งห้อยกำลังลดลงทั่วโลกด้วยเหตุผลหลายประการ หิ่งห้อยเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ จำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน (เช่น การสูญเสียพื้นที่อาศัย และการเชื่อมต่อพื้นที่) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเปลี่ยนแปลงความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศบนบก นอกจากนี้สารกำจัดศัตรูพืชและยาฆ่าวัชพืชยังถูกระบุว่าเป็นสาเหตุของการลดลงของหิ่งห้อย และยังรวมถึงการท่องเที่ยวชมแสงหิ่งห้อยที่ไม่มีการจัดการที่ดี ซึ่งต้องการเน้นการให้ความรู้ที่เหมาะสมแก่นักท่องเที่ยว เช่น การใส่เสื้อผ้าแขนยาวขายาวในการชมหิ่งห้อยแทนการทายากันยุง ไม่ใช้ไฟฉายหรือมีแสงหรือเสียงรบกวนหิ่งห้อย เป็นต้น
ความไวต่อมลภาวะทางแสง
หิ่งห้อยอาศัยแสงของมันเองในการแพร่พันธุ์ พวกมันจึงมีในสิ่งแวดล้อมมากและได้รับกระทบผลจากมลภาวะทางแสงด้วย จากรายงานการศึกษาหลายชิ้นที่ได้วิจัยเชิงลึกถึงผลกระทบของแสงไฟกลางคืนที่มีต่อหิ่งห้อย
หิ่งห้อยเป็นสัตว์ที่มีเสน่ห์ดึงดูด (ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่หายากในหมู่แมลง) และพบเห็นได้ง่าย การอนุรักษ์อาจทำได้จัดหาหิ่งห้อยสายพันธุ์ที่ดีเพื่อดึงดูดความสนใจของสาธารณชน อีกทั้งการศึกษาในหิ่งห้อยยังสามารถเป็นตัวอย่าวที่ดีสำหรับผลกระทบของแสงที่มีต่อสัตว์ป่าออกหากินเวลากลางคืน
การมีความอ่อนไหวสูงตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม จากการทดลองของภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าหิ่งห้อยที่อยู่ในห้องมืดสนิทจับคู่ผสมพันธุ์กันภายใน 30 นาที แต่หิ่งห้อยที่อยู่ในห้องมีแสงไฟเล็กน้อย กลับพบว่าตัวเมียไม่ยอมผสมพันธุ์ ส่วนตัวผู้ต้องใช้เวลาจับคู่นานถึง 5–7 ชั่วโมงกว่าจะผสมพันธุ์สำเร็จ ซึ่งอาจสรุปได้ว่า แสงไฟมีผลต่อพฤติกรรมการผสมพันธุ์ของหิ่งห้อย โดยความเข้มแสงเพียง 0.3 ลักซ์นั้น ถือเป็นแสงที่มีความสว่างน้อยมาก เมื่อเทียบกับหลอดไฟที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งมีความเข้มแสงถึง 320–500 ลักซ์ ดังนั้นแสงไฟจากท้องถนน บ้านเรือน หรือแม้กระทั่งจากการนั่งเรือชมหิ่งห้อย ย่อมส่งผลกระทบต่อหิ่งห้อยอย่างมาก หิ่งห้อยจึงสามารถเป็นที่ดีสำหรับวัดปริมาณแสงในเวลากลางคืนที่มนุษย์สร้างขึ้น
วิวัฒนาการ
ผังวิวัฒนาการชาติพันธุ์ อ้างอิงจาก Martin et al. 2019
Lampyridae |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อ้างอิง
- "พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554". สำนักงานราชบัณฑิตยสภา.
- หิ่งห้อยแมลงมหัศจรรย์ โครงการเยาวชนสร้างสรรค์ห้องสมุดดิจิทัล เครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย
- สมศักดิ์ พิริยโยธา และคณะ. หิ่งห้อยในป่าชายเลน. กรุงเทพฯ: ส่วนส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. พิมพ์ครั้งที่ 4 สิงหาคม 2557.
- HowStuffWorks "How do fireflies light up?" Science.howstuffworks.com 19 มกราคม 2001. สืบค้นเมื่อ 22 มิถุนายน 2013.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 กรกฎาคม 2018.
- "Enter a glow-worm record". 11 มิถุนายน 2015. สืบค้นเมื่อ 19 กรกฎาคม 2018.
- Stanger-Hall, Kathrin F.; Lloyd, James E (March 2015). "Flash signal evolution inPhotinusfireflies: Character displacement and signal exploitation in a visual communication system". Evolution. 69 (3): 666–682. doi:10.1111/evo.12606. ISSN 0014-3820. PMID 25627920. S2CID 26075485.
- . ผู้จัดการออนไลน์. 24 กรกฎาคม 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 สิงหาคม 2011.
- "หิ่งห้อย-แสงมหัศจรรย์ กับการประชุมหิ่งห้อยโลกในเมืองไทย". ผู้จัดการออนไลน์. 21 สิงหาคม 2008.
- Murray, James D. (2002). 9.6 Phase Locking of Oscillations : Synchronisation in Fireflies. Mathematical Biology: I. An Introduction. 3rd ed. Springer. pp. 295–299. ISBN .
- Lewis, Sara M.; Cratsley, Christopher K. (มกราคม 2008). . Annual Review of Entomology. 53 (1): 293–321. doi:10.1146/annurev.ento.53.103106.093346. ISSN 0066-4170. PMID 17877452. S2CID 16360536. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 มกราคม 2022. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2022.
- Branham, Marc A.; Wenzel, John W. (ธันวาคม 2001). "The Evolution of Bioluminescence in Cantharoids (Coleoptera: Elateroidea)". The Florida Entomologist. 84 (4): 565–586. doi:10.2307/3496389. ISSN 0015-4040. JSTOR 3496389.
- De Cock, R.; Matthysen, E. (ตุลาคม 2005). "Sexual communication by pheromones in a firefly, Phosphaenus hemipterus (Coleoptera: Lampyridae)". Animal Behaviour. Elsevier. 70 (4): 807–818. doi:10.1016/j.anbehav.2005.01.011. S2CID 53180940.
- . เดลินิวส์. 24 พฤษภาคม 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 มีนาคม 2021. สืบค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2020.
- พิมพ์ใจ ใจเย็น (15 กุมภาพันธ์ 2561). เอนไซม์ลูซิเฟอเรส (Bacterial luciferase; Lux) หน่วยวิจัยโครงสร้างและการทำงานของโปรตีน (CPSF) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- ท่านเจริญ, อัญชนา (25 มีนาคม 2020). "งานวิจัย พิสูจน์ภาษารักแห่งหิ่งห้อย". Research Café (Interview). สืบค้นเมื่อ 3 ธันวาคม 2020.
- อัญชนา ท่านเจริญ (2007). The biology and mating behavior of an aquatic firefly species, Luciola aquatilis sp. nov. (Coleoptera: Lampyridae) (PDF) (วิทยานิพนธ์). Faculty of graduate studies. Mahidol University.[]
- สุทัศน์ ยกส้าน (2 มีนาคม 2555). หิ่งห้อยกับคอนเสิร์ตแสง ผู้จัดการออนไลน์.
- ยุวรินทร์ บุญทบ และอื่น ๆ (2551). ความหลากชนิดของหิ่งห้อยในเขตภาคใต้ของประเทศไทย. กลุ่มกีฏและสัตววิทยา, สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช, กรมวิชาการเกษตร.
- สนุกท่องเที่ยว (14 พฤศจิกายน 2545) คลองบางลำพู สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2563.
- "Disappearing Fireflies". firefly.org.
- Sala, Osvaldo E; Chapin, F. Stuart III; Armesto, Juan J; Berlow, Eric; Bloomfield, Janine; Dirzo, Rodolfo; Huber-Sanwald, Elisabeth; Huenneke, Laura F; และคณะ (10 มีนาคม 2000). "Global Biodiversity Scenarios for the Year 2100". Science. 287 (5459): 1770–1774. doi:10.1126/science.287.5459.1770. ISSN 0036-8075. PMID 10710299.
- "How You Can Help", FireFly.org, citing (1) "Understanding Halofenozide (Mach 2) and Imidacloprid (Merit) Soil Insecticides," by Daniel A Potter. International SportsTurf Institute, Turfax, Vol. 6 No. 1 (Jan.–Feb. 1998) and (2) "Relative Toxicities of Chemicals to the Earthworm Eisenia foetida," by Brian L. Roberts and H. Wyman Dorough. published online: 20 Oct 2009. Environmental Toxicology and Chemistry, Vol. 3, No. 1 (Jan. 1984), pp. 67–78.
- Lloyd, James E; Wing, Steven R; Hongtrakul, Tawatchai (1989). "Ecology, Flashes, and Behavior of Congregating Thai Fireflies". Biotropica. 21 (4): 373–376. doi:10.2307/2388290. JSTOR 2388290.
- Viviani, Vadim Ravara; Rocha, Mayra Yamazaki; Hagen, Oskar (มิถุนายน 2553). Fauna de besouros bioluminescentes (Coleoptera: Elateroidea: Lampyridae; Phengodidae, Elateridae) nos municípios de Campinas, Sorocaba-Votorantim e Rio Claro-Limeira (SP, Brasil): biodiversidade e influência da urbanização. (ในภาษาโปรตุเกส). Biota Neotropica. 10 (2): 103–116. ISSN 1676-0603.
- Firebaugh, Ariel; Haynes, Kyle J (19 กันยายน 2016). "Experimental tests of light-pollution impacts on nocturnal insect courtship and dispersal". Oecologia. 182 (4): 1203–1211. Bibcode:2016Oecol.182.1203F. doi:10.1007/s00442-016-3723-1. ISSN 0029-8549. PMID 27646716. S2CID 36670391.
- Owens, Avalon Celeste Stevahn; Meyer-Rochow, Victor Benno; Yang, En-Cheng (7 กุมภาพันธ์ 2018). Christian Wegener (บ.ก.). "Short- and mid-wavelength artificial light influences the flash signals of Aquatica ficta fireflies (Coleoptera: Lampyridae)". PLOS ONE. 13 (2): e0191576. Bibcode:2018PLoSO..1391576O. doi:10.1371/journal.pone.0191576. ISSN 1932-6203. PMC 5802884. PMID 29415023.
- ไทยโพสต์ ห่วงหิ่งห้อยอัมพวา แนวโน้ม-สูญ สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2563.
- "ผลกระทบมลภาวะทางแสง". สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ.
- อมรศิริ ดวงดี (2012). "ความตระหนักของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการอนุรักษ์หิ่งห้อย ในแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม". วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี.
แหล่งข้อมูลอื่น
- "NCBI taxonomy database".
- ปถพีรดี (1 สิงหาคม 2000). . สกุลไทย. อักษรโสภณ. 46 (2389). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 กันยายน 2007.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 ตุลาคม 2008.
- . องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-01-18. สืบค้นเมื่อ 2022-01-17.
- "น่าทึ่ง.."หิ่งห้อย"แมลงจิ๋วเรืองแสง". คมชัดลึกออนไลน์. 13 สิงหาคม 2021.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hinghxychnidkarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Arthropodachn Insectaxndb Coleopteraxndbyxy xndbthan wngsihy wngs Lampyridae 1817wngsyxy hinghxy hrux thingthwng epnaemlngpikaekhnghlaychnidhlayskulinwngs Lampyridae inxndb Coleoptera thwthngolkmihinghxypraman 2 000 chnid hinghxykaphribaesngephuxkarphsmphnthuaelasuxsarsungknaelakn hruxsngsyyankarpxngkntwcakstwnkla aesngthihinghxysrangepn aesngeyn odythwipcakchxngthxngswnlangxacepnsiehluxngsiekhiywhruxsiaedngsid taaehnngkhxngxwywaaesngyngaetktangknipinaetlachnid aelaephskhxnghinghxychnidediywkn hinghxyphbidin aelaekhtrxn ykewnekhtkhwolkaela phbmakinhnxngna paokngkang hruxparimtharna sungmiaehlngxaharmakmaysahrbhinghxyrayatwxxnlksnathangchiwwithyaphaphprakxb hinghxychnidtang inexksarkhxng Georgiy Jacobson pi 1905hnxnkhxnghinghxykinhxyfaediywepnxahar hinghxytwetmwyephsphumipik swnephsemiymithngmipikaelaimmipik bangchnidmipiksnmak Brachypterous chnidthiimmipikrupranglksnakhlaytw hnxnkhxnghinghxyepnkinhxyfaediyw iseduxn kingkux aelaaemlngtwelk epnxahar hinghxymilksnaedn khuxsamarththaaesngidthngrayahnxn dkaed aelatwetmwy swnrayaikhthaaesngidechphaabangchnidethann khnadkhxnghinghxynnmilatwyawtngaet 2 25 milliemtr latwepnrupthrngkrabxk hw misida hruxaethbsixunpn echn ehluxngpnnatal aelaaedng mitaotsida 1 khu hnwd 2 khangsida xk swnihymilksnakwangxxkthangdankhangepnrupsiehliymphunpha bangchnidmixkkhyayihykhlumswnhwexaiwmxngimehnswnhwemuxmxnglngmathangdanbn pik khlumthxngmid mxngimehnxwywaswnthxng pikkhxnghinghxymi 2 pik pikbnmilksna thubaesngaelaimaekhngmak piklangmilksnabangissidahruxsicha sikhxngpikmilksnaaetktangkntamchnid hinghxytwemiybangchnidmilatwyawkhlayhnxnmipiksnmak hruximmi thxng plxngthxngtwphumiplxngthxngcanwn 6 plxng odythxngplxngthi 5 aela 6 epnthitngxwywathaaesng twemiymiplxngthxng 7 plxng odythxngplxngthi 5 hrux 5 7 epnthitngxwywathaaesng xwywathaaesngmisikhawhruxkhawkhrim kha mi 6 kha khaepnkhx 3 khx playkhakhxnghinghxy caepnkhxehniywiwyudekaatnimibimkarihaesng source source source source source phaphekhluxnihwkhxngkarihaesngkhxnghinghxyhinghxyinpaiklenuxrnaebrkh phaphthayepidrbaesng 30 winathi twxxnkhxnghinghxy xwywathaaesngthahnathiepnsyyanetuxnthungstwnklahinghxyofotris Photuris thangtawnxxkkhxngaekhnada phaphbnthaydwyaeflch phaphlangmiephiyngaesngthieplngxxkmaexng karihaesnginhinghxyekidcakptikiriyathangekhmichnidhnungthieriykwa kareruxngaesngthangchiwphaph bioluminescence krabwnkarniekidkhuninxwywathieplngaesngodyechphaa aesngthihinghxysrangepn aesngeyn khux immikhwamthiaesngchwngxinfraerdhruxxltraiwoxelt aesngthiphlitekidcakptikiriyaekhminicakchxngthxngswnlangxacepnsiehluxng siekhiyw hruxsiaedngxxn odymikhwamyawkhlun 510 thung 670 naonemtr hinghxybangchnid phbthithangtawnxxkkhxngshrthxemrikaplxyaesngsixxkfa lt 490 naonemtr thungpccubncakkarsuksa hinghxytwetmwyethannthieruxngaesng aelataaehnngkhxngxwywathaaesngaetktangknipinaetlachnidaelarahwangephskhxnghinghxychnidediywkn rupaebbkhxnghinghxythieplngaesngaetktangknipinaetlaspichis twxyangechn inhinghxyhnxneruxngaesng Glowworm Lampyris noctiluca thiphbinshrachxanackr twemiythisngektehnidngaycaklksnathikhlayhnxnaelabinimid hinghxykaphribaesngephuxkarphsmphnthuaelasuxsarsungknaelakn odythwiphinghxymixwywathaaesngxyubriewnswnthxngdanlang ephsphumixwywathaaesng 2 plxng ephsemiymi 1 3 plxng aetbangchnidtwetmwyephsemiymirupranglksnakhlayhnxn mixwywathaaesngdankhangkhxnglatw phayinplxngmiesllkhnadihyeriykwa photocytes xyucanwn 7 000 8 000 eslleriyngknxyuepnklumrupthrngkrabxk hlayklumphayitphnnglaisis esllofotistcaepnthithaihekidaesng mithxxakasaelaesnprasath ekhaiphlxeliyngcanwnmak ekuxbthukplxngaesngkhxnghinghxyekidcakptikiriyakhxngsar luciferin thixyuinxwywathaaesngkbkasxxksiecn O2 miexnism Luciferase aela aemkniesiymixxxn Mg2 epntwerngptikiriya aelamisar Adenosine Triphosphate ATP epntwihphlngnganthaihekidaesng aelaphlthiidkhux xxksilusiefxrin oxyluciferin khxngesiykhux kaskharbxnidxxkisd CO2 adenosine monophosphate AMP aelaiphorfxseft pyrophosphate PP smkarekhmi kareruxngaesngthangchiwphaph bioluminescence cakptikiriyakhxngsarlusiefxrin Luciferin Luciferin ATP O2 Mg2 LuciferaseOxyluciferin AMP PPi CO2 light displaystyle ce Luciferin ATP O2 gt ce Luciferase ce Mg 2 Oxyluciferin AMP PPi CO2 light karihsyyanodykarthaaesnghruxkarplxysarekhmiyngchwyihhinghxysamarthrabukhukhxngsayphnthukhxngmnexngid lksnakarsuxsardwyaesngmikhwamaetktangindanrayaewla chwngewlakhxngwn si aelarupaebbkarkaphrib aelaaetktangkniptamphumisastr inklumprachakrkhnadihykareluxkkhukhrxngcakratunihekidkhwamaetktangkhxngrupaebbkarsngsyyanthimakkhun echn hinghxychnid Luciola Aquatilis thikhnphbody xychna thanecriy nkkitwithyacakmhawithyalyekstrsastr miwithisuxsardwyaesngidthung 4 aebb hinghxythibinswnihymkepntwphu swnhinghxytwemiynnchxbekaaningtamkingim ephuxrxduwatwphutwihnthithaaesngiddikwatwxunaelaekhaiphaephuxphsmphnthu hinghxyinekhtrxnmkcaprasanaesngkaphribinklumihyodyechphaainexechiytawnxxkechiyngit inewlaklangkhunrimfngaemnainpakhxngmaelesiyhinghxycaprasankarkaphribaesngxyangaemnya smmtithanpccubnekiywkbsaehtukhxngphvtikrrmniekiywkhxngkbxahar karmiptismphnththangsngkhm aelaradbkhwamsungehnuxnathael infilippinssamarthphbehnhinghxyhlayphntwprasankarkaphribaesngidtlxdthngpiinemuxng Donsol inpraethsithysamarthphbhinghxycanwnmakthikraphribaesngphrxmkninewlaklangkhun inphunthibriewnpakaemnathacin rahwanghmubansriemuxng aelabanpakld tabl xaephxemuxng cnghwdsmuthrsakhr intwxxnkhxng Lampyrid kareruxngaesngcathahnathiaetktangcakintwetmwy odyepnsyyanetuxnthungstwnkla enuxngcaktwxxnkhxnghinghxyhlaychnidmisarekhmithimirschatiimnakinhruxepnphis hinghxycanwnhlaychnidimthaaesng odypktiaelwhinghxychnidehlaniepnaebbichchiwitewlaklangwn idaek inskul Ellychnia sungxasyxyuinthithimiengaepnhlk odycaehnkareruxngaesngittnimhruxtnimsung hinghxychnidhnunginskul Lucidota hinghxythiimeruxngaesngelyaetichfioromninkarsngsyyanhakhu hinghxymixayukarkraphribaesngpraman 14 30 wnethann inwngkaraephthy mikarskdexnismlusiefxers inhinghxy ipichinkarthdlxngephuxprayuktexnismlusiefxersepntwtrwcwdchiwphaph biosensor ephuxichinkartrwcwinicchyorkhwngcrchiwithinghxyepnaemlngthimiwtckrchiwitprakxbdwy 4 raya emuxphsmphnthuaelwcawangikhfxngediywtamdin hruxthichunaecha ibphuchna ikhichewla 4 12 wn cungfkepntw sungchwngtwhnxnichewlananthung 4 5 eduxn caknnecriyetibotaelaphankarlxkkhrabkhnathiepntwhnxn 6 8 raya cnkrathngekhadkaed aelalxkkhrabxxkepntwetmwy chwngotetmwymixayupraman 20 30 wnethann sungchwngewlasakhyephuxhakhuphsmphnthuethann hinghxymirxbwngcrchiwitxyu 3 12 eduxn aelwaetlachnid odythwipechliypraman 5 6 eduxn hinghxybkbangchnidmiwngcrchiwitnanthung 1 pi inkhnathihinghxynaswnihymiwngcrchiwitthisnkwaniewswithyahinghxy mkcaxxkhakininewlaklangkhun aelahlbsxntwinewlaklangwn swnihyaebngepn 3 klumkhux hinghxybkxasyxyutamphumim hruxtamphunthichumchunikl hinghxynacud xasytamaehlngna hruxlatharthiminasaxadaelaepnnaning echn hnxng bx thxngrxngswn khlxng aelahinghxynakrxyxasytambriewnpachayeln chayfngthael pakaemnathimiphunthichayeln inrayatwetmwyhinghxymkekaaxyutamtnlaphu aelatnlaaephn ophthael tncak tn tnsakhu aelatnehnguxkplahmx odyechphaainpachayelnthimiaehlngxaharsmburn hinghxy nbwaepnaemlngthimikhunlksnaphiess khuxsamarthbngchithungkhwamxudmsmburnaelasmdulkhxngthrrmchatiid odyechphaamikhunsmbtithisamarthichepn inkarkhwbkhumstruphuchtamhlkkarthangchiwphaph epnpraoychnxyangyingaekkarekstrkrrm sungepnphunthanwthnthrrmkhxngkhnithy hinghxyinrayathiepntwhnxncakinhxyelk epnxahar sunghxyehlannepnphahanaorkhhlaychnidmasumnusyaelastw echn epntn nxkcaknn hinghxy yngepntwha thalayhxyechxri sungepnstrusakhykdkinthalaytnkhawinrayalngklaaelarayapkdaihm hinghxycungepnaemlngthimikhwamsakhythngindankarsatharnsukhaelakarekstr xaharkhxnghinghxyaetktangkniptamchnidkhxnghinghxynxkcakkinhxyaelw yngkinkingkux iseduxn aelatwxxnaemlngtwelk epnxaharxikdwy swninrayaotetmwyhinghxycaxasykinechphaa hruxnahwancakeksrdxkim hinghxykbtnlaphu karthihinghxychxbekaakbtnlaphu snnisthanwaiblaphumikhwamxxnnum misiekhiywxxn aelamikhnadelk thaihhinghxytwemiymxngehnaesngidngay aetphnthuimxun hinghxykekaaechnediywkn odyechphaatnthixyuoddediywcamaekaaknmak echnbriewnpachayelnbanthasxn x khlung c cnthburi phbwahinghxyphaknmaekaabntnibelkcanwnmak nxkcakniyngmiphutngkhxsngektwa saehtuthihinghxychxbekaaxyutamtniminpachayeln xacmipccycak mihxybangchnidthiepnxaharkhxnghinghxyxasyxyubriewnokhntnehlaniepncanwnmak aelanathikhxnkhangningcakraktnimthiyawaelasxnhlaychnchwykarsbaerngkhlunhinghxyinpraethsithyhinghxythiphbinpraethsithyswnihyepnhinghxy 2 chnid khux Luciola brahmina sungtwxxnxasyxyubriewnnacud hruxeriykwahinghxybk aela Pteroptyx malaccae sungtwxxnxasyxyubriewnpachayeln aelafngaemnathinathaelthwmthung hruxeriykwaepnhinghxynakrxy snnisthanwainxditkrungethphmhankhrmitnlaphuxyumakrimaemnaecaphrayaipcnthungkhlxngbangkxknxy odyechphaayanbanglaphusungepnehmaaaekkaretibotkhxngimthithnnathwmkhngxyangtnlaphu txmaemuxephuxkhyayphrankhrinpi ph s 2326 khlxngbanglaphucungepnswnhnungkhxng khlxngrxbkrungthangtxnehnux hinghxyaelatnlaphuthiekhymiepncanwnmakbriewnpakkhlxngbanglaphu khmdipemuxwithichiwitkhxngkhwamepnemuxngkhyaytwekhasuphunthiaethbni thngaelabaneruxnrimkhlxng txmainpi ph s 2542 krmsilpakrrwmkbkrungethphmhankhridburnapxmphrasuemruaelabriewncdsrangepnswnsntichyprakar aelasrangphrathinngsntichyprakar ephuxechlimphraekiyrtiphrabathsmedcphraprminthrmhaphumiphlxdulyedch aelaepidihprachachnaelankthxngethiywekhaphkphxnhyxnic odyidmikarpluktnlaphucanwnhnung aelaeliynghinghxy ephuxepnsylksnkhxngkarxnurksaelakhyayphnthu epnkarfunfuwithichiwitbanglaphuinxditdwy sthanthichmhinghxythimichuxesiynginpccubn echn thirimkhlxngtladnaxmphwa xaephxxmphwa cnghwdsmuthrsngkhram ekaald xaephxbangkhla cnghwdchaechingethra nikhmsrangtnexng tablxawnxy xaephxemuxngpracwbkhirikhnth cnghwdpracwbkhirikhnth khlxngpaknkhr tablpaknkhr xaephxemuxng cnghwdnkhrsrithrrmrach odymimakinchwngvdufn tngaeteduxnphvsphakhm tulakhm ewlathiehmaakbkarchmkhux inkhuneduxnmud aelaepnchwngphlbkha ephraaehnaesngkhxnghinghxyidxyangchdecn chnidkhxnghinghxythisarwcaelarwbrwmidcakphakhklangaelaphakhtawnxxkkhxngpraethsithy skul canwnchnid aehlngthiphbDiaphanes 2 cnthburi natkkhlxngnarayn aelachaechingethra ekhtrksaphnthustwpa Lamprigera 3 nkhrnayk cnthburi pracwbkhirikhnth aelalphburi ekhtrksaphnthustwpasblngka Luciola 38 krungethph phrankhrsrixyuthya nkhrpthm lphburi kaycnburi ephchrburi sraaekw pracwbkhirikhnth sraburi cnthburi xuthythani pthumthani smuthrsakhr chaechingethra chlburi nnthburi smuthrsngkhram aelankhrswrrkhPteroptyx 2 smuthrsakhr smuthrsngkhram chlburi cnthburi aelatradPyrocoelia 7 pracwbkhirikhnth kaycnburi rachburi lphburi chlburi phrankhrsrixyuthya ephchrburi aelaxuthythaniPyrophanes 1 cnthburi ekhasxydaw Rhagophthalmus 1 krungethph bangekhn aelachlburiStenocladius 1 cnthburi natkkhlxngnarayn aelaxuthythani hwykhaaekhng karxnurksprachakrhinghxykalngldlngthwolkdwyehtuphlhlayprakar hinghxyechnediywkbsingmichiwitxun canwnmakidrbphlkrathbodytrngcakkarepliynaeplngkarichthidin echn karsuyesiyphunthixasy aelakarechuxmtxphunthi sungthukrabuwaepntwkhbekhluxnhlkkhxngkarepliynaeplngkhwamhlakhlaythangchiwphaphinrabbniewsbnbk nxkcaknisarkacdstruphuchaelayakhawchphuchyngthukrabuwaepnsaehtukhxngkarldlngkhxnghinghxy aelayngrwmthungkarthxngethiywchmaesnghinghxythiimmikarcdkarthidi sungtxngkarennkarihkhwamruthiehmaasmaeknkthxngethiyw echn karisesuxphaaekhnyawkhayawinkarchmhinghxyaethnkarthayaknyung imichifchayhruxmiaesnghruxesiyngrbkwnhinghxy epntn khwamiwtxmlphawathangaesng hinghxyxasyaesngkhxngmnexnginkaraephrphnthu phwkmncungmiinsingaewdlxmmakaelaidrbkrathbphlcakmlphawathangaesngdwy cakrayngankarsuksahlaychinthiidwicyechinglukthungphlkrathbkhxngaesngifklangkhunthimitxhinghxy hinghxyepnstwthimiesnhdungdud sungepnkhunlksnathihayakinhmuaemlng aelaphbehnidngay karxnurksxacthaidcdhahinghxysayphnthuthidiephuxdungdudkhwamsnickhxngsatharnchn xikthngkarsuksainhinghxyyngsamarthepntwxyawthidisahrbphlkrathbkhxngaesngthimitxstwpaxxkhakinewlaklangkhun karmikhwamxxnihwsungtxbsnxngtxkarepliynaeplngkhxngsingaewdlxm cakkarthdlxngkhxngphakhwichakitwithya khnaekstr mhawithyalyekstrsastr phbwahinghxythixyuinhxngmudsnithcbkhuphsmphnthuknphayin 30 nathi aethinghxythixyuinhxngmiaesngifelknxy klbphbwatwemiyimyxmphsmphnthu swntwphutxngichewlacbkhunanthung 5 7 chwomngkwacaphsmphnthusaerc sungxacsrupidwa aesngifmiphltxphvtikrrmkarphsmphnthukhxnghinghxy odykhwamekhmaesngephiyng 0 3 lksnn thuxepnaesngthimikhwamswangnxymak emuxethiybkbhlxdifthiichknthwip sungmikhwamekhmaesngthung 320 500 lks dngnnaesngifcakthxngthnn baneruxn hruxaemkrathngcakkarnngeruxchmhinghxy yxmsngphlkrathbtxhinghxyxyangmak hinghxycungsamarthepnthidisahrbwdprimanaesnginewlaklangkhunthimnusysrangkhunwiwthnakarphngwiwthnakarchatiphnthu xangxingcak Martin et al 2019 Lampyridaexangxing phcnanukrm chbbrachbnthitysthan ph s 2554 sanknganrachbnthityspha hinghxyaemlngmhscrry okhrngkareyawchnsrangsrrkhhxngsmuddicithl ekhruxkhaykhxmphiwetxrephuxorngeriynithy smskdi phiriyoytha aelakhna hinghxyinpachayeln krungethph swnsngesrimaelaphthnathrphyakrpachayeln sankxnurksthrphyakrpachayeln krmthrphyakrthangthaelaelachayfng phimphkhrngthi 4 singhakhm 2557 HowStuffWorks How do fireflies light up Science howstuffworks com 19 mkrakhm 2001 subkhnemux 22 mithunayn 2013 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 21 krkdakhm 2018 Enter a glow worm record 11 mithunayn 2015 subkhnemux 19 krkdakhm 2018 Stanger Hall Kathrin F Lloyd James E March 2015 Flash signal evolution inPhotinusfireflies Character displacement and signal exploitation in a visual communication system Evolution 69 3 666 682 doi 10 1111 evo 12606 ISSN 0014 3820 PMID 25627920 S2CID 26075485 phucdkarxxniln 24 krkdakhm 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 singhakhm 2011 hinghxy aesngmhscrry kbkarprachumhinghxyolkinemuxngithy phucdkarxxniln 21 singhakhm 2008 Murray James D 2002 9 6 Phase Locking of Oscillations Synchronisation in Fireflies Mathematical Biology I An Introduction 3rd ed Springer pp 295 299 ISBN 978 0 387 95223 9 Lewis Sara M Cratsley Christopher K mkrakhm 2008 Annual Review of Entomology 53 1 293 321 doi 10 1146 annurev ento 53 103106 093346 ISSN 0066 4170 PMID 17877452 S2CID 16360536 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim emux 17 mkrakhm 2022 subkhnemux 17 mkrakhm 2022 Branham Marc A Wenzel John W thnwakhm 2001 The Evolution of Bioluminescence in Cantharoids Coleoptera Elateroidea The Florida Entomologist 84 4 565 586 doi 10 2307 3496389 ISSN 0015 4040 JSTOR 3496389 De Cock R Matthysen E tulakhm 2005 Sexual communication by pheromones in a firefly Phosphaenus hemipterus Coleoptera Lampyridae Animal Behaviour Elsevier 70 4 807 818 doi 10 1016 j anbehav 2005 01 011 S2CID 53180940 edliniws 24 phvsphakhm 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 8 minakhm 2021 subkhnemux 3 thnwakhm 2020 phimphic iceyn 15 kumphaphnth 2561 exnismlusiefxers Bacterial luciferase Lux hnwywicyokhrngsrangaelakarthangankhxngoprtin CPSF khnawithyasastr mhawithyalymhidl thanecriy xychna 25 minakhm 2020 nganwicy phisucnphasarkaehnghinghxy Research Cafe Interview subkhnemux 3 thnwakhm 2020 xychna thanecriy 2007 The biology and mating behavior of an aquatic firefly species Luciola aquatilis sp nov Coleoptera Lampyridae PDF withyaniphnth Faculty of graduate studies Mahidol University lingkesiy suthsn yksan 2 minakhm 2555 hinghxykbkhxnesirtaesng phucdkarxxniln yuwrinthr buythb aelaxun 2551 khwamhlakchnidkhxnghinghxyinekhtphakhitkhxngpraethsithy klumkitaelastwwithya sankwicyphthnakarxarkkhaphuch krmwichakarekstr snukthxngethiyw 14 phvscikayn 2545 khlxngbanglaphu subkhnemux 2 thnwakhm 2563 Disappearing Fireflies firefly org Sala Osvaldo E Chapin F Stuart III Armesto Juan J Berlow Eric Bloomfield Janine Dirzo Rodolfo Huber Sanwald Elisabeth Huenneke Laura F aelakhna 10 minakhm 2000 Global Biodiversity Scenarios for the Year 2100 Science 287 5459 1770 1774 doi 10 1126 science 287 5459 1770 ISSN 0036 8075 PMID 10710299 How You Can Help FireFly org citing 1 Understanding Halofenozide Mach 2 and Imidacloprid Merit Soil Insecticides by Daniel A Potter International SportsTurf Institute Turfax Vol 6 No 1 Jan Feb 1998 and 2 Relative Toxicities of Chemicals to the Earthworm Eisenia foetida by Brian L Roberts and H Wyman Dorough published online 20 Oct 2009 Environmental Toxicology and Chemistry Vol 3 No 1 Jan 1984 pp 67 78 Lloyd James E Wing Steven R Hongtrakul Tawatchai 1989 Ecology Flashes and Behavior of Congregating Thai Fireflies Biotropica 21 4 373 376 doi 10 2307 2388290 JSTOR 2388290 Viviani Vadim Ravara Rocha Mayra Yamazaki Hagen Oskar mithunayn 2553 Fauna de besouros bioluminescentes Coleoptera Elateroidea Lampyridae Phengodidae Elateridae nos municipios de Campinas Sorocaba Votorantim e Rio Claro Limeira SP Brasil biodiversidade e influencia da urbanizacao inphasaoprtueks Biota Neotropica 10 2 103 116 ISSN 1676 0603 Firebaugh Ariel Haynes Kyle J 19 knyayn 2016 Experimental tests of light pollution impacts on nocturnal insect courtship and dispersal Oecologia 182 4 1203 1211 Bibcode 2016Oecol 182 1203F doi 10 1007 s00442 016 3723 1 ISSN 0029 8549 PMID 27646716 S2CID 36670391 Owens Avalon Celeste Stevahn Meyer Rochow Victor Benno Yang En Cheng 7 kumphaphnth 2018 Christian Wegener b k Short and mid wavelength artificial light influences the flash signals of Aquatica ficta fireflies Coleoptera Lampyridae PLOS ONE 13 2 e0191576 Bibcode 2018PLoSO 1391576O doi 10 1371 journal pone 0191576 ISSN 1932 6203 PMC 5802884 PMID 29415023 ithyophst hwnghinghxyxmphwa aenwonm suy subkhnemux 2 thnwakhm 2563 phlkrathbmlphawathangaesng sthabnwicydarasastraehngchati xmrsiri dwngdi 2012 khwamtrahnkkhxngnkthxngethiywthimitxkarxnurkshinghxy inaehlngthxngethiywechingxnurkstladnaxmphwa cnghwdsmuthrsngkhram warsarwithybrikar mhawithyalysngkhlankhrinthr sankwithybrikar mhawithyalysngkhlankhrinthr withyaekhtpttani aehlngkhxmulxunWikiquote wikikhakhmphasaxngkvs mikhakhmthiklawody hruxekiywkb Fireflies wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb hinghxy NCBI taxonomy database pthphirdi 1 singhakhm 2000 skulithy xksrosphn 46 2389 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 26 knyayn 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 tulakhm 2008 xngkhkarbriharkarphthnaphunthiphiessephuxkarthxngethiywxyangyngyun xngkhkarmhachn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2022 01 18 subkhnemux 2022 01 17 nathung hinghxy aemlngciweruxngaesng khmchdlukxxniln 13 singhakhm 2021