ด้วง แมลงปีกแข็ง ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: 318–0Ma – ปัจจุบัน | |
---|---|
ด้วงกว่างเฮอร์คิวลิส (Dynastes hercules) เพศผู้จัดเป็นด้วงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ในวงศ์ Dynastinae | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Arthropoda |
ชั้น: | Insecta |
ชั้นย่อย: | |
ชั้นฐาน: | |
อันดับใหญ่: | |
อันดับ: | Coleoptera Linnaeus, 1758 |
อันดับย่อย | |
|
ด้วง หรือ แมลงปีกแข็ง (อังกฤษ: Beetle) จัดเป็นแมลงในอันดับ Coleoptera ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นอันดับย่อยอีก 5 อันดับ (ดูในตาราง) จัดเป็นแมลงที่มีวงจรชีวิตสมบูรณ์ คือ เป็น ไข่, , ดักแด้ และตัวเต็มวัย
ด้วง หรือ แมลงปีกแข็งนั้น นับเป็นแมลงที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก กล่าวคือ มีประมาณร้อยละ 40 ของแมลงที่มีอยู่ทั้งหมด (ประมาณ 400,000 ชนิด) มีลักษณะเด่นโดยรวม คือ ในวัยเต็มตัวจะมีปีก 2 คู่ โดยปีกคู่หน้าเป็นปีกที่มีความแข็งเท่ากันหรือเกือบเท่ากันตลอดทั้งแผ่น เรียกว่า ซึ่งมาจากภาษากรีกโบราณ (ἔλυτρον) ซึ่งหมายถึง แผ่น หรือ ปีก ส่วนปีกคู่หลังเป็นแผ่นปีกใหญ่ค่อนข้างโปร่งแสง เมื่อเวลาเกาะอยู่ปีกคู่หลังจะพับซ้อนกันอย่างมีระเบียบและซ่อนอยู่ภายใต้ปีกคู่หน้าอย่างมิดชิด และเมื่อต้องการบิน ปีกคู่หลังนี้จะกางออก โดยการเปิดกางออกของปีกคู่หน้าขึ้นก่อนที่จะเหยียดกางปีกคู่หลังนี้ออกมาบินอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาที่จะเกาะหรือคลาน จะหุบปีกโดยปีกคู่หน้าจะประกบกันสนิทเป็นเส้นตรงอยู่ตรงกลางลำตัว ปีกคู่หน้าจึงทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันตัวและปีกคู่หลัง ในขณะที่บินปีกคู่หน้านี้จะไม่ช่วยในการบินแต่จะช่วยในการทรงตัว อย่างไรก็ตาม จะมีด้วงบางชนิดที่ปีกคู่หน้าเชื่อมติดกัน จึงไม่สามารถบินได้ และบางชนิดก็มีปีกคู่หน้าเล็กหรือสั้นกว่าลำตัวมากจนไม่สามารถปิดส่วนท้องได้สนิท
กายวิภาค
- ส่วนหัว มีตารวม 1 คู่ มีส่วนน้อยเท่านั้นที่มีตาเดี่ยว 1–2 ตาด้วย มีหนวดโดยมากจะเป็น 11 ปล้อง ลักษณะแตกต่างกันตามวงศ์และแต่ละชนิด โดยหนวดแต่ละอย่างมีชื่อเรียกแตกต่างออกไป คือ หนวดปล้องฐาน, หนวดปล้องสอง, หนวดปล้องที่ 3–11 และแบ่งประเภทของหนวดออกได้ถึง 9 ประเภท ตามลักษณะต่าง ๆ ส่วนของปากประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ แต่ส่วนที่แข็งและมีพละกำลังมากที่สุด คือ กรามปาก ซึ่งในบางวงศ์ เช่น ด้วงคีม (Lucanidae) มีกรามปากที่มีลักษณะคล้ายคีมหรือกรรไกรขนาดใหญ่ยื่นยาวออกมา ใช้ในกรต่อสู้ป้องกันตัว และแย่งชิงเพศเมียเมื่อผสมพันธุ์ นอกจากนี้แล้วยังมีส่วนของริมฝีปากบน, ริมฝีปากล่างช่วยในการส่งผ่านอาหารเข้าปาก
- ส่วนอก ส่วนอกของด้วงสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ปล้อง คือ อกปล้องแรก ซึ่งมีขนาดใหญ่อยู่ติดกับส่วนหัว เป็นส่วนอกปล้องเดียวที่สามารถมองเห็นได้จากด้านบน ในด้วงกว่าง (Dynastinae) เพศผู้หลายชนิดมีลักษณะเป็นแผ่นแข็งคล้ายเขายื่นยาวออกไป อาจมีแขนงเดียวหรือหลายแขนงก็ได้ ซึ่งอกปล้องแรกนี้มีความสำคัญในการอนุกรมวิธาน ซึ่งอกส่วนนี้อาจดูคล้ายส่วนหัวมาก แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นรอยต่อของส่วนหัวกับอกปล้องแรกนี้แยกจากกันชัดเจน, อกปล้องสอง และป้องสาม มักถูกปีกแข็งปิดคลุมด้านบนไว้ ส่วนของอกปล้องทั้ง 3 มีขาติดอยู่กับปล้องละ 1 คู่ อกปล้องกลาง หรืออกปล้องที่สอง มีปีกแข็งหรือปีกคู่หน้าติดอยู่ ตรงฐานปีกแข็งด้านบนมีแผ่นแข็งตรงกลางที่เป็นเหมือนจุดหมุมของปีกแข็งที่เรียกว่า สามเหลี่ยมฐานปีก ส่วนอกปล้องที่สาม มีปีกคู่ที่สอง ซึ่งโปร่งใสและบาง ใช้ในการบิน
- ส่วนท้อง โดยปกติแล้วจะมี 7 ปล้อง แต่บางชนิดก็มี 8 ปล้อง ปล้องท้องแต่ละปล้องมีแผ่นแข็งแต่ละแผ่นคลุมไว้ทั้งด้านบน และด้านล่าง ส่วนของท้องมักถูกปีกแข็งคู่หน้าคลุมไว้จนมิด แต่บางครั้งก็มีส่วนปลายสุดโผล่ยื่นออกมา
ด้วงกับมนุษย์
| ||
Scarabee | ||
---|---|---|
ไฮเออโรกลีฟอียิปต์ |
ด้วงมีความสัมพันธ์กับมนุษย์มานานแล้ว ศาสนาอียิปต์โบราณนับถือเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ (Khepri) ที่มีเศียรเป็น (Scarabaeus sacer) โดยเชื่อว่า ดวงอาทิตย์ที่เคลื่อนผ่านโลกมาได้ ก็ด้วยการกลิ้งมูลสัตว์ของด้วงชนิดนี้ ซึ่งมีอยู่มากมายในอียิปต์และแอฟริกาเหนือ ด้วยการเปรียบเอาดวงอาทิตย์เหมือนมูลสัตว์ที่ถูกด้วงชนิดนี้กลิ้งจนเป็นก้อนกลมนั่นเอง
นอกจากนี้แล้ว ด้วงกว่างและด้วงคีมยังถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความเพลิดเพลิน เพราะความสนุกสนานในการใช้เขาต่อสู้กันของเพศผู้ ในหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ล้านนา ที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยในปัจจุบัน ด้วงกว่างชน (Xylotrupes gideon) มีการละเล่นกันอย่างหลากหลายจนกลายเป็นประเพณีหนึ่งในพื้นที่
นอกจากนี้แล้ว ในเชิงของความสวยงาม แมลงทับ (Buprestidae) ซึ่งมีสีของปีกคู่หน้างดงามสวยงามมาก มักถูกใช้ทำเป็นเครื่องประดับชนิดต่าง ๆ และหิ่งห้อย หรือ ทิ้งถ่วง (Lampyridae) ที่ตัวผู้สามารถเรืองแสงได้ในเวลากลางคืน ก็มักถูกนำไปเปรียบเปรยหรืออ้างอิงถึงต่าง ๆ เช่น Grave of the Fireflies เป็นแอนิเมชันของญี่ปุ่นที่สร้างเป็นภาพยนตร์ หรือมีการชมแสงของหิ่งห้อยในพื้นที่ต่าง ๆ
อ้างอิง
- "Coleoptera Linnaeus, 1758, TSN: 109216". ITIS.gov (ภาษาอังกฤษ).
- Bouchard, P.; Bousquet, Y.; Davies, A.; Alonso-Zarazaga, M.; Lawrence, J.; Lyal, C.; Newton, A.; Reid, C.; Schmitt, M.; Ślipiński, A.; Smith, A. (2011). "Family-group names in Coleoptera (Insecta)". ZooKeys (88): 1–972. doi:10.3897/zookeys.88.807. PMC 3088472. PMID 21594053.
- พิสุทธิ์ เอกอำนวย. ด้วงปีกแข็ง แมลงลึกลับ กับเทนนิคการเพาะเลี้ยง เล่มที่ 1 ISBN .
- ประสิทธิ์ วงษ์พรม; นิธิมา โรจนวงศ์ (2019). แมลงแห่งชีวิต: วิถีเรียนรู้จากทุ่งกุลาถึงป่าชุมชน (PDF). กรุงเทพฯ: มูลนิธิเพื่อเยาวชนชนบท (มยช.ร้อยเอ็ด). pp. 22–24. ISBN .
- กว่าง : นักสู้แห่งขุนเขาหรือศึกชิงนาง....?
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-11. สืบค้นเมื่อ 2012-01-24.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-02. สืบค้นเมื่อ 2012-01-24.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
dwng aemlngpikaekhng chwngewlathimichiwitxyu 318 0Ma PreꞒ Ꞓ O S D C P T J K Pg N pccubndwngkwangehxrkhiwlis Dynastes hercules ephsphucdepndwngthimikhnadihythisudinolk xyuinwngs Dynastinaekarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Arthropodachn Insectachnyxy chnthan xndbihy xndb Coleoptera Linnaeus 1758xndbyxy dwng hrux aemlngpikaekhng xngkvs Beetle cdepnaemlnginxndb Coleoptera sungsamarthaebngxxkidepnxndbyxyxik 5 xndb duintarang cdepnaemlngthimiwngcrchiwitsmburn khux epn ikh dkaed aelatwetmwy dwng hrux aemlngpikaekhngnn nbepnaemlngthimicanwnmakthisudinolk klawkhux mipramanrxyla 40 khxngaemlngthimixyuthnghmd praman 400 000 chnid milksnaednodyrwm khux inwyetmtwcamipik 2 khu odypikkhuhnaepnpikthimikhwamaekhngethaknhruxekuxbethakntlxdthngaephn eriykwa sungmacakphasakrikobran ἔlytron sunghmaythung aephn hrux pik swnpikkhuhlngepnaephnpikihykhxnkhangoprngaesng emuxewlaekaaxyupikkhuhlngcaphbsxnknxyangmiraebiybaelasxnxyuphayitpikkhuhnaxyangmidchid aelaemuxtxngkarbin pikkhuhlngnicakangxxk odykarepidkangxxkkhxngpikkhuhnakhunkxnthicaehyiydkangpikkhuhlngnixxkmabinxyangrwderw emuxewlathicaekaahruxkhlan cahubpikodypikkhuhnacaprakbknsnithepnesntrngxyutrngklanglatw pikkhuhnacungthahnathiesmuxnekraapxngkntwaelapikkhuhlng inkhnathibinpikkhuhnanicaimchwyinkarbinaetcachwyinkarthrngtw xyangirktam camidwngbangchnidthipikkhuhnaechuxmtidkn cungimsamarthbinid aelabangchnidkmipikkhuhnaelkhruxsnkwalatwmakcnimsamarthpidswnthxngidsnithkaywiphakhswnhw mitarwm 1 khu miswnnxyethannthimitaediyw 1 2 tadwy mihnwdodymakcaepn 11 plxng lksnaaetktangkntamwngsaelaaetlachnid odyhnwdaetlaxyangmichuxeriykaetktangxxkip khux hnwdplxngthan hnwdplxngsxng hnwdplxngthi 3 11 aelaaebngpraephthkhxnghnwdxxkidthung 9 praephth tamlksnatang swnkhxngpakprakxbipdwyswntang aetswnthiaekhngaelamiphlakalngmakthisud khux krampak sunginbangwngs echn dwngkhim Lucanidae mikrampakthimilksnakhlaykhimhruxkrrikrkhnadihyyunyawxxkma ichinkrtxsupxngkntw aelaaeyngchingephsemiyemuxphsmphnthu nxkcakniaelwyngmiswnkhxngrimfipakbn rimfipaklangchwyinkarsngphanxaharekhapakswnxk swnxkkhxngdwngsamarthaebngxxkidepn 3 plxng khux xkplxngaerk sungmikhnadihyxyutidkbswnhw epnswnxkplxngediywthisamarthmxngehnidcakdanbn indwngkwang Dynastinae ephsphuhlaychnidmilksnaepnaephnaekhngkhlayekhayunyawxxkip xacmiaekhnngediywhruxhlayaekhnngkid sungxkplxngaerknimikhwamsakhyinkarxnukrmwithan sungxkswnnixacdukhlayswnhwmak aethaksngektihdicaehnrxytxkhxngswnhwkbxkplxngaerkniaeykcakknchdecn xkplxngsxng aelapxngsam mkthukpikaekhngpidkhlumdanbniw swnkhxngxkplxngthng 3 mikhatidxyukbplxngla 1 khu xkplxngklang hruxxkplxngthisxng mipikaekhnghruxpikkhuhnatidxyu trngthanpikaekhngdanbnmiaephnaekhngtrngklangthiepnehmuxncudhmumkhxngpikaekhngthieriykwa samehliymthanpik swnxkplxngthisam mipikkhuthisxng sungoprngisaelabang ichinkarbinswnthxng odypktiaelwcami 7 plxng aetbangchnidkmi 8 plxng plxngthxngaetlaplxngmiaephnaekhngaetlaaephnkhlumiwthngdanbn aeladanlang swnkhxngthxngmkthukpikaekhngkhuhnakhlumiwcnmid aetbangkhrngkmiswnplaysudophlyunxxkmadwngkbmnusyScarabeeihexxorklifxiyipt dwngmikhwamsmphnthkbmnusymananaelw sasnaxiyiptobrannbthuxethphecaxngkhhnungchux Khepri thimiesiyrepn Scarabaeus sacer odyechuxwa dwngxathitythiekhluxnphanolkmaid kdwykarklingmulstwkhxngdwngchnidni sungmixyumakmayinxiyiptaelaaexfrikaehnux dwykarepriybexadwngxathityehmuxnmulstwthithukdwngchnidniklingcnepnkxnklmnnexng nxkcakniaelw dwngkwangaeladwngkhimyngthukeliyngepnstweliyngephuxkhwamephlidephlin ephraakhwamsnuksnaninkarichekhatxsuknkhxngephsphu inhlaywthnthrrm odyechphaainphunthilanna thixyuthangphakhehnuxkhxngpraethsithyinpccubn dwngkwangchn Xylotrupes gideon mikarlaelnknxyanghlakhlaycnklayepnpraephnihnunginphunthi nxkcakniaelw inechingkhxngkhwamswyngam aemlngthb Buprestidae sungmisikhxngpikkhuhnangdngamswyngammak mkthukichthaepnekhruxngpradbchnidtang aelahinghxy hrux thingthwng Lampyridae thitwphusamartheruxngaesngidinewlaklangkhun kmkthuknaipepriybepryhruxxangxingthungtang echn Grave of the Fireflies epnaexniemchnkhxngyipunthisrangepnphaphyntr hruxmikarchmaesngkhxnghinghxyinphunthitang xangxing Coleoptera Linnaeus 1758 TSN 109216 ITIS gov phasaxngkvs Bouchard P Bousquet Y Davies A Alonso Zarazaga M Lawrence J Lyal C Newton A Reid C Schmitt M Slipinski A Smith A 2011 Family group names in Coleoptera Insecta ZooKeys 88 1 972 doi 10 3897 zookeys 88 807 PMC 3088472 PMID 21594053 phisuththi exkxanwy dwngpikaekhng aemlngluklb kbethnnikhkarephaaeliyng elmthi 1 ISBN 978 974 8132 25 9 prasiththi wngsphrm nithima orcnwngs 2019 aemlngaehngchiwit withieriynrucakthungkulathungpachumchn PDF krungethph mulnithiephuxeyawchnchnbth mych rxyexd pp 22 24 ISBN 978 616 93338 0 7 kwang nksuaehngkhunekhahruxsukchingnang khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 02 11 subkhnemux 2012 01 24 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 02 02 subkhnemux 2012 01 24