สงครามเมืองถลาง เป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างพม่าภายใต้การนำของพระเจ้าปดุงแห่งราชวงศ์โกนบอง กับสยามภายใต้การนำของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งราชวงศ์จักรี ระหว่างเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2351 ถึง เดือนมกราคม พ.ศ. 2354 นี่เป็นสงครามสุดท้ายที่พม่าโจมตีในดินแดนสยามตามประวัติศาสตร์ไทย โดยความขัดแย้งครั้งนี้จบลงที่สยามได้ชัยชนะ ความขัดแย้งนี้ก็ลามไปถึงรัฐไทรบุรีด้วย
สงครามเมืองถลาง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามพม่า–สยาม | |||||||
แผนที่แสดงเส้นทางกองทัพบก สีเขียวหมายถึงเส้นทางของกองทัพพม่า สีแดงหมายถึงเส้นทางกองทัพสยามและถลาง | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ราชวงศ์โก้นบอง (พม่า) | อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สยาม) รัฐไทรบุรี | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
พระเจ้าปดุง อะเติงหวุ่น แยคอง ดุเรียงสาระจอ งะอู สิงคะดุเรียง Sibo Wun Toya Bo เจยะดุเรียงจอ (เชลย) | พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ เจ้าพระยายมราช (น้อย บุณยรัตพันธุ์) เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) พระยาจ่าแสนยากร (บัว) พระยาถลาง (เทียน) (เชลย) สุลต่านฮะมัด ทาจุดดิน ฮาลิม ชาห์ที่ 2 (ตวนกูปะแงหรัน) ลักษมณา | ||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||
กองทัพอาณาจักรพม่า | กองทัพบกสยาม กองทัพเรือสยาม กองทัพรัฐไทรบุรี | ||||||
กำลัง | |||||||
ตุลาคม พ.ศ. 2351 พฤษภาคม พ.ศ. 2352 ธันวาคม พ.ศ. 2353 | 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2351 พฤษภาคม พ.ศ. 2352 ธันวาคม พ.ศ. 2353 | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ชายมากกว่า 4,110 คน เรือรบ 20 ลำ | ไม่ทราบ |
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ สยามและพม่าทำสงครามกันหลายครั้ง ครั้งที่สำคัญได้แก่สงครามเก้าทัพ สงครามท่าดินแดง และสงครามตีเมืองทวาย ในสงครามเก้าทัพเมื่อพ.ศ. 2328 นั้นพม่าจัดทัพเรือเข้าโจมตีเมืองถลางบนเกาะภูเก็ต แม้ว่าเจ้าเมืองถลางจะเพิ่งถึงแก่กรรมก่อนหน้านั้นไม่นานแต่คุณหญิงจันและคุณหญิงมุกและพระปลัดเมืองถลาง (ทองพูน) สามารถรวบรวมกำลังพลต่อสู้ต้านทานการรุกรานของพม่าได้สำเร็จ หลังจากสงครามเก้าทัพคุณหญิงจันและคุณหญิงมุกได้รับแต่งตั้งแต่ท้าวเทพกษัตรีและท้าวศรีสุนทรตามลำดับ และพระปลัดเมืองถลาง (ทองพูน) ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระยาถลางเจ้าเมืองถลาง หรือเรียกว่า "พระยาถลางเจียดทอง" จากนั้นประมาณ พ.ศ. 2332 บุตรชายของท้าวเทพกษัตรี (คุณหญิงจัน) คือพระยาทุกขราษฎร์ (เทียน) ฟ้องร้องพระยาถลางเจียดทองต่อทางกรุงเทพฯ ทำให้พระยาถลางเจียดทองถูกเรียกตัวไปสอบสวนและถึงแก่กรรมที่กรุงเทพฯ พระยาทุกขราษฎร์ (เทียน) จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระยาถลางคนต่อมา
หลังจากสงครามเก้าทัพและสงครามตีเมืองทวาย สยามและพม่าอยู่ในสภาวะคุมเชิงกันอยู่ ในพ.ศ. 2351 ฝ่ายพม่าพระเจ้าปดุงทรงส่งทูตมายังกรุงเทพฯ พระเจ้าปดุงทรงตระหนักว่ากรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทเสด็จสวรรคตไปในพ.ศ. 2346 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯทรงพระชนมายุมากแล้ว ฝ่ายไทยเห็นจะขาดแม่ทัพผู้มีความสามารถในการต้านทานการรุกรานของพม่า พระเจ้าปดุงจึงมีพระราชโองการให้"อะเติงหวุ่น" (Atwinwun) เกณฑ์กำลังพลที่เมืองเมาะตะมะเพื่อจัดทัพเข้ารุกรานสยาม แต่อะเติงหวุ่นทำงานไม่รัดกุมทำให้ไพร่พลที่เกณฑ์มาสามารถหลบหนีไปได้ทีละเล็กน้อยจำนวนมาก เมื่อไม่สามารถรวบรวมกำลังพลได้เพียงพอ ตะแคงมองมูเจ้าเมืองเมาะตะมะจึงกราบทูลพระเจ้าปดุงว่าฝ่ายพม่าไม่พร้อมสำหรับการรุกรานสยามในครั้งนี้ อีกทั้งพม่าได้เจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงเทพฯแล้ว หากยกทัพไปตีไม่สำเร็จจะเสียพระเกียรติ พระเจ้าปดุงจึงมีพระราชโองการให้ยุติการรุกรานสยามในครั้งนี้ไป
อะเติงหวุ่นยังต้องการที่จะยกทัพเข้ารุกรานสยาม จึงกราบทูลพระเจ้าปดุงว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมทัพไว้แล้ว หากไม่ไปโจมตีกรุงเทพฯขอให้ไปโจมตีหัวเมืองชายทะเลภาคใต้ของไทย เพื่อไม่ให้การจัดเตรียมทัพในครั้งนี้สูญเปล่า และอะเติงหวุ่นยังกล่าวหาตะแคงมองมูเจ้าเมืองเมาะตะมะว่าขัดขวางการทำงานของตน พระเจ้าปดุงจึงมีพระราชโองการให้ปลดตะแคงมองมูจากตำแหน่ง และให้อะเติงหวุ่นยกทัพลงมาตั้งที่เมืองทวายในเดือนกรกฎาคมพ.ศ. 2352 เพื่อเตรียมทัพเข้ารุกรานภาคใต้ของไทย เมื่ออยู่ที่เมืองทวายนั้นอะเติงหวุ่นประพฤติตนเป็นเจ้านายให้ใช้ราชาศัพท์แก่ตนเอง อีกทั้งยังฉุดคร่าหญิงชาวทวายมาเป็นภรรยา เจ้าเมืองย่างกุ้งทราบเรื่องจึงนำความขึ้นทูลพระเจ้าปดุงว่าอะเติงหวุ่นเป็นกบฏ พระเจ้าปดุงจึงมีพระราชโองการให้จับภรรยาและครอบครัวของอะเติงหวุ่นไว้ อะเติงหวุ่นทูลแก้ว่ามิได้เป็นกบฏ พระเจ้าปดุงจึงมีพระราชโองการให้อะเติงหวุ่นยกทัพไปตีหัวเมืองชายทะเลภาคใต้ของไทยให้สำเร็จมิฉะนั้นจะลงพระราชอาญาประหารชีวิต
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯเสด็จสวรรคตในเดือนกันยายน พ.ศ. 2352 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลฯ เสด็จขึ้นครองราชสมบัติต่อเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
การจัดเตรียมทัพฝ่ายพม่า
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2352 หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จผ่านพิภพได้ประมาณสองเดือน อะเติงหวุ่นแม่ทัพพม่าที่เมืองทวายจัดทัพเข้ารุกรานภาคใต้ของไทยจำนวนทั้งสิ้น 7,000 คน ดังนี้;
- งะอู (Nga U) เจ้าเมืองทวาย ยกทัพจำนวน 3,000 คน เป็นปีกขวา
- สิงคะดุเรียง เจ้าเมืองมะริด ยกทัพจำนวน 1,000 คน เป็นปีกซ้าย
รวมทั้งสิ้นจำนวน 4,000 คน ยกทัพลงมาโจมตีเมืองตะกั่วป่า ตะกั่วทุ่ง และเมืองถลาง
การจัดเตรียมทัพฝ่ายไทย
ฝ่ายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเมื่อทรงทราบข่าวทัพพม่าแล้วจึงมีพระราชโองการให้จัดเตรียมทัพจำนวนทั้งสิ้น 20,000 คน เข้าต้านทานการรุกรานของพม่าดังนี้;
- พระยาจ่าแสนยากร (บัว) นำทัพจำนวน 5,000 คน ไปตั้งรับพม่าที่ชุมพร
- สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษมนตรี พร้อมกับ เสด็จไปประทับที่เมืองเพชรบุรี หากฝ่ายพม่ารุกรานเข้ามา โปรดฯให้เจ้าพระยาพลเทพเป็นทัพหน้า กรมหลวงพิทักษ์มนตรีเป็นทัพหลวง
- สมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ เสด็จเป็นจอมพลยกทัพไปทางสถลมารคอีกทัพหนึ่ง
การรบ
งะอูเจ้าเมืองทวายและสิงคะดุเรียงเจ้าเมืองมะริดยกทัพเข้าโจมตีเมืองตะกั่วป่า เจยะดุเรียงจอ (Zeya Thuriya Kyaw) ยกทัพเข้าตีเมืองตะกั่วป่าและบ้านนาเตย (ตำบลนาเตย อำเภอท้ายเหมือง) ได้สำเร็จในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2352 ชาวตะกั่วป่าไม่สู้รบ จากนั้นทัพพม่าจึงยกไปที่ปากพระ งะอูจึงมีคำสั่งให้แบ่งทัพออกเป็นสองสายเข้าโจมตีเมืองถลาง ให้สิงคะดุเรียงเจ้าเมืองมะริดยกทัพ 3,000 คน และเจยะดุเรียงจอยกทัพ 3,000 คน เข้าโจมตีเมืองถลาง
การรบที่ถลาง
ในเวลานั้นบนเกาะภูเก็ตมีเมืองสองแห่งได้แก่ เมืองถลางตั้งอยู่ที่บ้านดอนในส่วนกลางของเกาะ (ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง) เรียกว่า "เมืองถลางบ้านดอน" และ"เมืองภูเก็ตบ้านท่าเรือ" (ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง) ซึ่งเพิ่งตั้งขึ้นใหม่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะ พระยาถลาง (เทียน) เมื่อทัพพม่ายกมาจึงแจ้งรายงานมายังกรุงเทพฯ แล้วเกณฑ์กำลังคนป้องกันเมืองถลางบ้านดอน ทัพพม่ายกจากปากพระเข้าโจมตีเมืองถลาง เจยะดุเรียงจอยกพลขึ้นบกที่บ้านสาคู พบกับกองกำลังฝ่ายถลางต่อสู้กันฝ่ายถลางถอย จากนั้นเจยะดุเรียงจอจึงยกไปตั้งที่บ้านตะเคียน ทั้งเจยะดุเรียงจอและสิงคะดุเรียงยกทัพเข้าล้อมเมืองถลางในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2352 นำไปสู่การล้อมเมืองถลาง ฝ่ายพม่าล้อมเมืองสามด้าน เหลือเปิดทางทิศใต้ไว้ เจยะดุเรียงจอยกทัพเข้าตีเมืองถลางแต่ไม่สำเร็จ ฝ่ายพม่าถูกปืนใหญ่เมืองถลางล้มตายมาก งะอูเจ้าเมืองทวายผู้เป็นแม่ทัพจึงมีคำสั่งให้จับกุมตัวเจยะดุเรียงจอในข้อหากระทำการล้มเหลว เจยะดุเรียงจอแก้ตัวว่าจะขอตีเมืองถลางให้ได้
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2352 งะอูเจ้าเมืองทวายผู้เป็นแม่ทัพล้มป่วยเสียชีวิต เจยะดุเรียงจอและสิงคะดุเรียงเจ้าเมืองมะริดจึงถอยทัพออกจากเมืองถลางกลับไปอยู่ที่ปากจั่น ฝ่ายอะเติงหวุ่นที่เมืองทวายทราบข่าวความล้มเหลวของทัพพม่าจึงแต่งตั้งงะซ่าน (Nga Chan) มาเป็นแม่ทัพคนใหม่ รวมทั้งมีคำสั่งให้ประหารชีวิตเจยะดุเรียงจอและสิงคะดุเรียงเจ้าเมืองมะริดเสีย เจยะดุเรียงจอขอไว้ชีวิตให้แก่ตนเองอาสามาตีเมืองถลางให้ได้ เจยะดุเรียงจอจึงได้รับการปรับโทษให้ยกทัพเข้าตีเมืองถลาง
ฝ่ายชาวเมืองถลางพระยาถลาง (เทียน) เห็นว่าพม่าถอยกลับไปเข้าใจว่าฝ่ายพม่าเลิกทัพแล้วจึงลดการป้องกันเมือง ชาวเมืองถลางพากันออกมาจากค่ายเมืองทำมาหากินปกติ งะซ่านแม่ทัพพม่าจึงยกทัพเข้าล้อมเมืองถลางอีกครั้ง พระยาถลาง (เทียน) เรียกเกณฑ์คนเข้ามาในเมืองไม่ทันทำให้มีกำลังพลในการป้องกันเมืองน้อยลงกว่าเดิม นอกจากนี้ฝ่ายพม่ายังยกทัพไปขึ้นที่ท่ายามูเข้าล้อมเมืองภูเก็ตอีกด้วย
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯเมื่อทรบทราบข่าวพม่าโจมตีเมืองถลางแล้ว จึงมีพระราชโองการให้จัดทัพเพิ่มเติมดังนี้;
- พระยาทศโยธา และพระยาราชประสิทธิ์ ยกทัพจากเมืองไชยา ไปช่วยเมืองถลางต้านทัพพม่าที่ปากพระก่อน
- เจ้าพระยายมราช (น้อย บุณยรัตพันธุ์) ยกทัพไปช่วยเหลือเมืองถลาง พระยาท้ายน้ำเป็นทัพหน้า
- เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) ยกทัพไปสมทบกับเจ้าพระยายมราชอีกทัพหนึ่ง
เจ้าพระยายมราช (น้อย) พระยาทศโยธา และพระยาราชประสิทธิ์ ยกทัพออกจากปากน้ำเจ้าพระยาเมื่อวันแรม 11 ค่ำ เดือนสิบสอง (พฤศจิกายน พ.ศ. 2352) เจ้าพระยายมราชยกทัพเดินทางไปยังเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อเจ้าพระยายมราชพบกับเจ้าพระยานครฯ (พัฒน์) ที่เมืองนครศรีธรรมราชแล้ว จึงยกทัพไปตั้งที่ตรัง สุลต่านตวนกูปะแงหรัน (Tunku Pengeran) แห่งไทรบุรีได้ส่งทัพเรือมลายูนำโดยลักษมณา (Laksamana) มาสมทบกับฝ่ายสยามที่เมืองตรัง
เจ้าพระยายมราชประสบปัญหาขาดแคลนเรือไม่สามารถหาเรือนำทัพยกข้ามไปช่วยเมืองถลางได้ต้องต่อเรือใหม่ เมื่อทัพเมืองไชยาของพระยาทศโยธาและพระยาราชประสิทธิ์ยกมาถึงกราภูงา (อำเภอเมือง จังหวัดพังงา) ก็ไม่สามารถหาเรือข้ามไปเกาะภูเก็ตได้เช่นกัน เจ้าพระยายมราชเกรงว่าจะช่วยเมืองถลางไม่ทันการณ์จึงให้หาเรือราษฎรจำนวนหนึ่งให้พระยาท้ายน้ำยกทัพบางส่วนไปช่วยเมืองถลางก่อน พระยาท้ายน้ำยกทัพเรือไปพบกับทัพพม่าที่แหลมยามูซึ่งล้อมเมืองภูเก็ตอยู่ นำไปสู่การรบที่แหลมยามู รบกันในทะเล พระยาท้ายน้ำสามารถเอาชนะพม่าที่แหลมยามูขับออกไปจากเมืองภูเก็ตได้ แต่เกิดอุบัติเหตุสะเก็ดไฟถูกถังดินประสิวระเบิดเรือแตกสลายทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งพระยาท้ายน้ำ เมื่อพระยาท้ายน้ำเสียชีวิตแล้วหลวงสุนทรและหลวงกำแหงผู้รอดชีวิตจึงนำศพพระยาท้ายน้ำและนำทัพที่เหลือกลับขึ้นฝั่งที่คลองปากลาว (กระบี่)
ฝ่ายงะซ่านแม่ทัพพม่าเมื่อทราบว่าฝ่ายไทยส่งทัพมาช่วยเหลือเมืองถลางจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถข้ามทะเลมาได้ จึงเร่งรัดให้โจมตีเข้ายึดเมืองถลางให้ได้ หลังจากที่ฝ่ายพม่าล้อมเมืองครั้งหลังเป็นเวลา 27 วัน แยคองฝ่ายพม่าจึงสามารถเข้ายึดเมืองถลางได้ในที่สุดในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ (มกราคม พ.ศ. 2353) ทำลายเมืองถลางบ้านดอนลงอย่างสิ้นเชิง ชาวเมืองถลางจำนวนมากหลบหนีพม่าขึ้นมาที่ฝั่งกราภูงา (เมืองพังงา) ฝ่ายพม่าจับพระยาถลาง (เทียน) เจ้าเมืองถลางเป็นเชลยกลับไปพม่า อะเติงหวุ่นได้รับการปูนบำเหน็จขึ้นเป็น"มหาสีหสุระ" งะซ่านแม่ทัพพม่าให้ชาวเมืองมะริดชื่อว่างะพยู (Nga Pyu) ซึ่งเป็นพี่ของภรรยาของลักษมณาเมืองไทรบุรี ถือหนังสือไปยังสุลต่านตวนกูปะแงหรันเมืองไทรบุรีว่า ขณะนี้พม่ายึดเมืองถลางได้แล้ว ฝ่ายไทรบุรีสามารถเก็บส่วยรังนกได้ตามเดิมโดยมีข้อแม้ว่าไทรบุรีต้องแต่งบุหงามาศต้นไม้เงินต้นไม้ทองไปถวายแด่พระเจ้าปดุง สุลต่านตวนกูปะแงหรันตอบว่าเนื่องจากฝ่ายสยามมีกองกำลังรักษาการณ์อยู่ที่ไทรบุรี จะแปรพักตร์ไปเข้ากับพม่าไม่สะดวก ขอให้พม่าจัดทัพมาตีเมืองไทรบุรีก่อน
ในเวลานั้นเองทางพระยาทศโยธาสามารถยกทัพเรือจากกราภูงามายังเมืองถลางได้ และทางฝ่ายเมืองตรังเจ้าพระยานครฯ (พัฒน์) ส่งบุตรชายบุญธรรมของตนคือพระบริรักษ์ภูเบศร์ (น้อย) ยกทัพเรือจากตรังและลักษมณานำทัพเรือมลายูไทรบุรีข้ามมาเมืองถลาง ฝ่ายพม่าขณะกำลังกวาดต้อนผู้คนและทรัพย์สินเมืองถลาง ได้ยินเสียงคลื่นลมทะเลเข้าใจว่าทัพฝ่ายไทยได้ยกมาถึงแล้ว งะซ่านแม่ทัพพม่าจึงรีบกวาดต้อนผู้คนทรัพย์สินกลับไปยังพม่า ฝ่ายพระยาทศโยธาและพระบริรักษ์ภูเบศร์มาถึงเมืองถลางพบว่าทัพพม่าได้ถอยกลับไปแล้ว แต่ยังสามารถจับเชลยชาวพม่าบางส่วนที่กลับไม่ทัน
เมื่อฝ่ายพม่าถอยไปจากเมืองถลางเป็นครั้งที่สองแล้ว อะเติงหวุ่นจึงมีคำสั่งให้ประหารชีวิตงะซ่านแม่ทัพพม่า ประหารเจยะดุเรียงจอ รวมถึงแม่ทัพนายกองจำนวนมาก ฝ่ายพระเจ้าปดุงทรงทราบว่าอะเติงหวุ่นมีคำสั่งให้ประหารชีวิตแม่ทัพนายกองจำนวนมาก จึงมีพระราชโองการให้ตอยาโปขุนนางพม่าถือพระราชโองการลงมายังอะเติงหวุ่นที่เมืองทวาย ให้ไว้โทษปล่อยแม่ทัพนายกองทั้งหลายออกจากคุก เจยะดุเรียงจอจึงได้รับการเว้นโทษ
การรบที่ชุมพร
ดุเรียงสาระจอยกทัพจำนวน 3,000 คน ยกทัพเข้าโจมตีเมืองระนอง เมืองกระบุรี และเข้ายึดเมืองชุมพรได้สำเร็จ ฝ่ายกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ฯเสด็จยกทัพออกจากกรุงเทพฯในเดือนธันวาคมพ.ศ. 2352 ไปยังเมืองเพชรบุรี มีพระราชบัณฑูรให้พระยาจ่าแสนยากร (บัว) ยกทัพจากเพชรบุรีเข้าโจมตีทัพของดุเรียงสาระจอที่ชุมพร นำไปสู่การรบที่ชุมพร พระยาจ่าแสนยากร (บัว) สามารถเอาชนะดุเรียงสาระจอที่ชุมพรแตกพ่ายไปได้ ทัพของพระยาจ่าแสนยากรยกติดตามดุเรียงสาระจอไปจนถึงเมืองตะกั่วป่า ได้ทราบว่าฝ่ายพม่าได้ยึดทำลายเมืองถลางและถอยกลับไปแล้ว ผู้คนชาวเมืองถลางหลบหนีมาอยู่ที่กราภูงาบนฝั่ง จึงมีพระราชบัณฑูรให้พระยาจ่าแสนยากรประจำอยู่ที่ชุมพร คอยรวบรวมราษฎรที่หลบหนีกระจัดกระจายมาตั้งเมืองถลางอยู่ชั่วคราวอยู่ที่กราภูงา เพื่อที่จะกลับไปฟื้นฟูเมืองถลางขึ้นใหม่อีกครั้ง แล้วกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ฯจึงเสด็จกลับพระนครฯทางชลมารค
เมื่อพ่ายแพ้ให้แก่ฝ่ายไทยแล้วดุเรียงสาระจอจึงยกทัพไปสมทบกับทัพของงะซ่านที่เมืองถลาง ต่อมาเมื่อฝ่ายไทยสามารถยึดเมืองถลางคืนได้ทัพพม่าถอยไป ดุเรียงสาระจอจึงถูกอะเติงหวุ่นลงโทษประหารชีวิต
บทสรุป
ฝ่ายพม่าแม้ว่าสามารถยึดเมืองถลางได้ได้แต่สุดท้ายฝ่ายไทยสามารถยึดเมืองถลางคืนฝ่ายพม่าถอยไป เป็นเหตุให้อะเติงหวุ่นลงโทษประหารชีวิตแม่ทัพนายกองไปจำนวนมาก อะเติงหวุ่นอยู่เมืองทวายกดขี่ชาวเมืองได้รับความเดือนร้อนมาก จนมีชาวเมืองทวายพยายามลอบสังหารอะเติงหวุ่นแต่ไม่สำเร็จ
เมื่อฝ่ายพม่าสามารถเข้ายึดเมืองถลางได้ เมืองถลางบ้านดอนถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง พระยาถลาง (เทียน) เจ้าเมืองถลางถูกจับตัวเป็นเชลยกลับไปยังพม่า ทำให้เกาะภูเก็ตได้รับความเสียหายมากสูญเสียประชากรและทรัพย์สิน ชาวเมืองถลางจำนวนมากหลบหนีขึ้นฝั่งไปรวมกันที่กราภูงา เมืองถลางย้ายไปอยู่ที่กราภูงาชั่วคราวพระยาถลางคนต่อมาปกครองเมืองถลางที่กราภูงา นำไปสู่การจัดตั้งเมืองพังงาขึ้นในที่สุด เกาะภูเก็ตทั้งเมืองถลางเดิมและเมืองภูเก็ตถูกโอนไปอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช เมืองถลางเดิมยังคงเป็นเมืองร้างไปเป็นระยะเวลาสิบห้าปี จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีการฟื้นฟูเมืองถลางขึ้นที่เกาะภูเก็ตอีกครั้งในพ.ศ. 2367
สงครามพม่าตีเมืองถลางในพ.ศ. 2352-53 นี้ เป็นการรุกรานของพม่าที่เกิดขึ้นจริงครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย หลังจากนั้นเมื่อพม่าสูญเสียอำนาจและอิทธพลในพม่าตอนล่างให้แก่อังกฤษในสงครามอังกฤษ-พม่าครั้งที่หนึ่ง (First Anglo Burmese War) ในพ.ศ. 2369 พม่าจึงไม่สามารถใช้ชายฝั่งตะนาวศรีเป็นฐานเข้ารุกรานสยามได้อีก
อ้างอิง
- Skinner, Cyril. The Interrogation of Zeya Suriya Kyaw: A Burmese Account of the Junk Ceylon (phuket) Campaigns of 1809-1810.
- G.E. Gerini. (PDF). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 20 August 2015.
- Skinner, C. (1985). Syair Sultan Maulana: The Battle for Junk Ceylon. Foris Publications.
- พระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง ( ทองพูน ณ ถลาง )
- ประชุมพงศาวดารภาคที่ 2: พงศาวดารเมืองถลาง.
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา.. พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒. ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปีมโรงอัฐศก พ.ศ. ๒๔๕๙; พิมพ์ที่โรงพิมพ์ไทย ณสพานยศเส
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา. พงษาวดารเรื่องเรารบพม่า ครั้งกรุงธน ฯ แลกรุงเทพ ฯ.
- จดหมายเหตุรัชกาลที่ ๒: คำให้การอ้ายงะสาดนะอองพม่า เรื่องในเมืองพม่าและมาตีมลายู จ.ศ. ๑๑๗๒. กรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๔๘๒.
- Maziar Mozaffari Falarti. Malay Kingship in Kedah: Religion, Trade, and Society. Rowman & Littlefield, 2013.
- ศึกถลาง..วีรสตรีหนีจากคุกมากู้เมือง! แบบอย่างการทำหน้าที่ของคนไทย!![]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhramemuxngthlang epnsngkhramkhwamkhdaeyngrahwangphmaphayitkarnakhxngphraecapdungaehngrachwngsoknbxng kbsyamphayitkarnakhxngphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharachaelaphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyaehngrachwngsckri rahwangeduxnmithunayn ph s 2351 thung eduxnmkrakhm ph s 2354 niepnsngkhramsudthaythiphmaocmtiindinaednsyamtamprawtisastrithy odykhwamkhdaeyngkhrngnicblngthisyamidchychna khwamkhdaeyngniklamipthungrthithrburidwysngkhramemuxngthlangswnhnungkhxng sngkhramphma syamaephnthiaesdngesnthangkxngthphbk siekhiywhmaythungesnthangkhxngkxngthphphma siaednghmaythungesnthangkxngthphsyamaelathlangwnthimithunayn ph s 2351 mkrakhm ph s 2354sthanthicnghwdphuekt phakhit praethssyamphlsyamchnakhusngkhramrachwngsoknbxng phma xanackrrtnoksinthr syam rthithrburiphubngkhbbychaaelaphunaphraecapdung xaetinghwun aeykhxng dueriyngsaracx ngaxu singkhadueriyng Sibo Wun Toya Bo ecyadueriyngcx echly phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly krmphrarachwngbwrmhaesnanurks ecaphrayaymrach nxy bunyrtphnthu ecaphrayankhrsrithrrmrach phthn phrayacaaesnyakr bw phrayathlang ethiyn echly sultanhamd thacuddin halim chahthi 2 twnkupaaenghrn lksmnahnwythiekiywkhxngkxngthphxanackrphmakxngthphbksyam kxngthpheruxsyam kxngthphrthithrburikalngtulakhm ph s 2351 chay 30 000 khn eruxrb 60 la 200 xn phvsphakhm ph s 2352 chay 6 000 khn thnwakhm ph s 2353 chay 5 000 khn18 phvscikayn ph s 2351 kxngkalngesrim chay 6 000 khn eruxrb 0 la phvsphakhm ph s 2352 imthrab thnwakhm ph s 2353 chay 10 000 khnkhwamsuyesiychaymakkwa 4 110 khn eruxrb 20 laimthrabehtukarnthiekidkhuntraprawacnghwdphuektinpccubn thimithawethphkrastriaelathawsrisunthrxyuintra inrchkalphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk syamaelaphmathasngkhramknhlaykhrng khrngthisakhyidaeksngkhramekathph sngkhramthadinaedng aelasngkhramtiemuxngthway insngkhramekathphemuxph s 2328 nnphmacdthpheruxekhaocmtiemuxngthlangbnekaaphuekt aemwaecaemuxngthlangcaephingthungaekkrrmkxnhnannimnanaetkhunhyingcnaelakhunhyingmukaelaphrapldemuxngthlang thxngphun samarthrwbrwmkalngphltxsutanthankarrukrankhxngphmaidsaerc hlngcaksngkhramekathphkhunhyingcnaelakhunhyingmukidrbaetngtngaetthawethphkstriaelathawsrisunthrtamladb aelaphrapldemuxngthlang thxngphun idrbkaraetngtngepnphrayathlangecaemuxngthlang hruxeriykwa phrayathlangeciydthxng caknnpraman ph s 2332 butrchaykhxngthawethphkstri khunhyingcn khuxphrayathukkhrasdr ethiyn fxngrxngphrayathlangeciydthxngtxthangkrungethph thaihphrayathlangeciydthxngthukeriyktwipsxbswnaelathungaekkrrmthikrungethph phrayathukkhrasdr ethiyn cungidrbkaraetngtngihepnphrayathlangkhntxma hlngcaksngkhramekathphaelasngkhramtiemuxngthway syamaelaphmaxyuinsphawakhumechingknxyu inph s 2351 fayphmaphraecapdungthrngsngthutmayngkrungethph phraecapdungthrngtrahnkwakrmphrarachwngbwrmhasursinghnathesdcswrrkhtipinph s 2346 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkthrngphrachnmayumakaelw fayithyehncakhadaemthphphumikhwamsamarthinkartanthankarrukrankhxngphma phraecapdungcungmiphrarachoxngkarih xaetinghwun Atwinwun eknthkalngphlthiemuxngemaatamaephuxcdthphekharukransyam aetxaetinghwunthanganimrdkumthaihiphrphlthieknthmasamarthhlbhniipidthilaelknxycanwnmak emuximsamarthrwbrwmkalngphlidephiyngphx taaekhngmxngmuecaemuxngemaatamacungkrabthulphraecapdungwafayphmaimphrxmsahrbkarrukransyaminkhrngni xikthngphmaidecriysmphnthimtrikbkrungethphaelw hakykthphiptiimsaerccaesiyphraekiyrti phraecapdungcungmiphrarachoxngkarihyutikarrukransyaminkhrngniip xaetinghwunyngtxngkarthicaykthphekharukransyam cungkrabthulphraecapdungwa khnaniidcdetriymthphiwaelw hakimipocmtikrungethphkhxihipocmtihwemuxngchaythaelphakhitkhxngithy ephuximihkarcdetriymthphinkhrngnisuyepla aelaxaetinghwunyngklawhataaekhngmxngmuecaemuxngemaatamawakhdkhwangkarthangankhxngtn phraecapdungcungmiphrarachoxngkarihpldtaaekhngmxngmucaktaaehnng aelaihxaetinghwunykthphlngmatngthiemuxngthwayineduxnkrkdakhmph s 2352 ephuxetriymthphekharukranphakhitkhxngithy emuxxyuthiemuxngthwaynnxaetinghwunpraphvtitnepnecanayihichrachasphthaektnexng xikthngyngchudkhrahyingchawthwaymaepnphrrya ecaemuxngyangkungthraberuxngcungnakhwamkhunthulphraecapdungwaxaetinghwunepnkbt phraecapdungcungmiphrarachoxngkarihcbphrryaaelakhrxbkhrwkhxngxaetinghwuniw xaetinghwunthulaekwamiidepnkbt phraecapdungcungmiphrarachoxngkarihxaetinghwunykthphiptihwemuxngchaythaelphakhitkhxngithyihsaercmichanncalngphrarachxayapraharchiwit phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkesdcswrrkhtineduxnknyayn ph s 2352 smedcphraecalukyaethx krmphrarachwngbwrsthanmngkhl esdckhunkhrxngrachsmbtitxepnphrabathsmedcphraphuththelishlanphalykarcdetriymthphfayphmaineduxntulakhm ph s 2352 hlngcakthiphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyesdcphanphiphphidpramansxngeduxn xaetinghwunaemthphphmathiemuxngthwaycdthphekharukranphakhitkhxngithycanwnthngsin 7 000 khn dngni ngaxu Nga U ecaemuxngthway ykthphcanwn 3 000 khn epnpikkhwa singkhadueriyng ecaemuxngmarid ykthphcanwn 1 000 khn epnpiksay rwmthngsincanwn 4 000 khn ykthphlngmaocmtiemuxngtakwpa takwthung aelaemuxngthlang dueriyngsaracx nathphcanwn 3 000 khn ykekhaocmtithangemuxngranxng emuxngkraburi aelaekhaocmtiemuxngchumphrkarcdetriymthphfayithyfayphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyemuxthrngthrabkhawthphphmaaelwcungmiphrarachoxngkarihcdetriymthphcanwnthngsin 20 000 khn ekhatanthankarrukrankhxngphmadngni phrayacaaesnyakr bw nathphcanwn 5 000 khn iptngrbphmathichumphr smedcphrasmphnthwngsethx ecafakrmhlwngphithksmntri phrxmkb esdcipprathbthiemuxngephchrburi hakfayphmarukranekhama oprdihecaphrayaphlethphepnthphhna krmhlwngphithksmntriepnthphhlwng smedcphraxnuchathirach krmphrarachwngbwrmhaesnanurks esdcepncxmphlykthphipthangsthlmarkhxikthphhnungkarrbngaxuecaemuxngthwayaelasingkhadueriyngecaemuxngmaridykthphekhaocmtiemuxngtakwpa ecyadueriyngcx Zeya Thuriya Kyaw ykthphekhatiemuxngtakwpaaelabannaety tablnaety xaephxthayehmuxng idsaercineduxntulakhm ph s 2352 chawtakwpaimsurb caknnthphphmacungykipthipakphra ngaxucungmikhasngihaebngthphxxkepnsxngsayekhaocmtiemuxngthlang ihsingkhadueriyngecaemuxngmaridykthph 3 000 khn aelaecyadueriyngcxykthph 3 000 khn ekhaocmtiemuxngthlang karrbthithlang inewlannbnekaaphuektmiemuxngsxngaehngidaek emuxngthlangtngxyuthibandxninswnklangkhxngekaa tablethphkrastri xaephxthlang eriykwa emuxngthlangbandxn aela emuxngphuektbanthaerux tablsrisunthr xaephxthlang sungephingtngkhunihmthangfngtawnxxkkhxngekaa phrayathlang ethiyn emuxthphphmaykmacungaecngraynganmayngkrungethph aelweknthkalngkhnpxngknemuxngthlangbandxn thphphmaykcakpakphraekhaocmtiemuxngthlang ecyadueriyngcxykphlkhunbkthibansakhu phbkbkxngkalngfaythlangtxsuknfaythlangthxy caknnecyadueriyngcxcungykiptngthibantaekhiyn thngecyadueriyngcxaelasingkhadueriyngykthphekhalxmemuxngthlangineduxnphvscikayn ph s 2352 naipsukarlxmemuxngthlang fayphmalxmemuxngsamdan ehluxepidthangthisitiw ecyadueriyngcxykthphekhatiemuxngthlangaetimsaerc fayphmathukpunihyemuxngthlanglmtaymak ngaxuecaemuxngthwayphuepnaemthphcungmikhasngihcbkumtwecyadueriyngcxinkhxhakrathakarlmehlw ecyadueriyngcxaektwwacakhxtiemuxngthlangihid ineduxnphvscikayn ph s 2352 ngaxuecaemuxngthwayphuepnaemthphlmpwyesiychiwit ecyadueriyngcxaelasingkhadueriyngecaemuxngmaridcungthxythphxxkcakemuxngthlangklbipxyuthipakcn fayxaetinghwunthiemuxngthwaythrabkhawkhwamlmehlwkhxngthphphmacungaetngtngngasan Nga Chan maepnaemthphkhnihm rwmthngmikhasngihpraharchiwitecyadueriyngcxaelasingkhadueriyngecaemuxngmaridesiy ecyadueriyngcxkhxiwchiwitihaektnexngxasamatiemuxngthlangihid ecyadueriyngcxcungidrbkarprbothsihykthphekhatiemuxngthlang faychawemuxngthlangphrayathlang ethiyn ehnwaphmathxyklbipekhaicwafayphmaelikthphaelwcungldkarpxngknemuxng chawemuxngthlangphaknxxkmacakkhayemuxngthamahakinpkti ngasanaemthphphmacungykthphekhalxmemuxngthlangxikkhrng phrayathlang ethiyn eriykeknthkhnekhamainemuxngimthnthaihmikalngphlinkarpxngknemuxngnxylngkwaedim nxkcaknifayphmayngykthphipkhunthithayamuekhalxmemuxngphuektxikdwy phrabathsmedcphraphuththelishlaemuxthrbthrabkhawphmaocmtiemuxngthlangaelw cungmiphrarachoxngkarihcdthphephimetimdngni phrayathsoytha aelaphrayarachprasiththi ykthphcakemuxngichya ipchwyemuxngthlangtanthphphmathipakphrakxn ecaphrayaymrach nxy bunyrtphnthu ykthphipchwyehluxemuxngthlang phrayathaynaepnthphhna ecaphrayankhrsrithrrmrach phthn ykthphipsmthbkbecaphrayaymrachxikthphhnung ecaphrayaymrach nxy phrayathsoytha aelaphrayarachprasiththi ykthphxxkcakpaknaecaphrayaemuxwnaerm 11 kha eduxnsibsxng phvscikayn ph s 2352 ecaphrayaymrachykthphedinthangipyngemuxngnkhrsrithrrmrach emuxecaphrayaymrachphbkbecaphrayankhr phthn thiemuxngnkhrsrithrrmrachaelw cungykthphiptngthitrng sultantwnkupaaenghrn Tunku Pengeran aehngithrburiidsngthpheruxmlayunaodylksmna Laksamana masmthbkbfaysyamthiemuxngtrng ecaphrayaymrachprasbpyhakhadaekhlneruximsamarthhaeruxnathphykkhamipchwyemuxngthlangidtxngtxeruxihm emuxthphemuxngichyakhxngphrayathsoythaaelaphrayarachprasiththiykmathungkraphunga xaephxemuxng cnghwdphngnga kimsamarthhaeruxkhamipekaaphuektidechnkn ecaphrayaymrachekrngwacachwyemuxngthlangimthnkarncungihhaeruxrasdrcanwnhnungihphrayathaynaykthphbangswnipchwyemuxngthlangkxn phrayathaynaykthpheruxipphbkbthphphmathiaehlmyamusunglxmemuxngphuektxyu naipsukarrbthiaehlmyamu rbkninthael phrayathaynasamarthexachnaphmathiaehlmyamukhbxxkipcakemuxngphuektid aetekidxubtiehtusaekdifthukthngdinprasiwraebideruxaetkslaythaihmiphuesiychiwitrwmthngphrayathayna emuxphrayathaynaesiychiwitaelwhlwngsunthraelahlwngkaaehngphurxdchiwitcungnasphphrayathaynaaelanathphthiehluxklbkhunfngthikhlxngpaklaw krabi fayngasanaemthphphmaemuxthrabwafayithysngthphmachwyehluxemuxngthlangcanwnmak aetyngimsamarthkhamthaelmaid cungerngrdihocmtiekhayudemuxngthlangihid hlngcakthifayphmalxmemuxngkhrnghlngepnewla 27 wn aeykhxngfayphmacungsamarthekhayudemuxngthlangidinthisudinwnkhun 9 kha eduxnyi mkrakhm ph s 2353 thalayemuxngthlangbandxnlngxyangsineching chawemuxngthlangcanwnmakhlbhniphmakhunmathifngkraphunga emuxngphngnga fayphmacbphrayathlang ethiyn ecaemuxngthlangepnechlyklbipphma xaetinghwunidrbkarpunbaehnckhunepn mhasihsura ngasanaemthphphmaihchawemuxngmaridchuxwangaphyu Nga Pyu sungepnphikhxngphrryakhxnglksmnaemuxngithrburi thuxhnngsuxipyngsultantwnkupaaenghrnemuxngithrburiwa khnaniphmayudemuxngthlangidaelw fayithrburisamarthekbswyrngnkidtamedimodymikhxaemwaithrburitxngaetngbuhngamastnimengintnimthxngipthwayaedphraecapdung sultantwnkupaaenghrntxbwaenuxngcakfaysyammikxngkalngrksakarnxyuthiithrburi caaeprphktripekhakbphmaimsadwk khxihphmacdthphmatiemuxngithrburikxn inewlannexngthangphrayathsoythasamarthykthpheruxcakkraphungamayngemuxngthlangid aelathangfayemuxngtrngecaphrayankhr phthn sngbutrchaybuythrrmkhxngtnkhuxphrabrirksphuebsr nxy ykthpheruxcaktrngaelalksmnanathpheruxmlayuithrburikhammaemuxngthlang fayphmakhnakalngkwadtxnphukhnaelathrphysinemuxngthlang idyinesiyngkhlunlmthaelekhaicwathphfayithyidykmathungaelw ngasanaemthphphmacungribkwadtxnphukhnthrphysinklbipyngphma fayphrayathsoythaaelaphrabrirksphuebsrmathungemuxngthlangphbwathphphmaidthxyklbipaelw aetyngsamarthcbechlychawphmabangswnthiklbimthn emuxfayphmathxyipcakemuxngthlangepnkhrngthisxngaelw xaetinghwuncungmikhasngihpraharchiwitngasanaemthphphma praharecyadueriyngcx rwmthungaemthphnaykxngcanwnmak fayphraecapdungthrngthrabwaxaetinghwunmikhasngihpraharchiwitaemthphnaykxngcanwnmak cungmiphrarachoxngkarihtxyaopkhunnangphmathuxphrarachoxngkarlngmayngxaetinghwunthiemuxngthway ihiwothsplxyaemthphnaykxngthnghlayxxkcakkhuk ecyadueriyngcxcungidrbkarewnoths karrbthichumphr dueriyngsaracxykthphcanwn 3 000 khn ykthphekhaocmtiemuxngranxng emuxngkraburi aelaekhayudemuxngchumphridsaerc faykrmphrarachwngbwrmhaesnanurksesdcykthphxxkcakkrungethphineduxnthnwakhmph s 2352 ipyngemuxngephchrburi miphrarachbnthurihphrayacaaesnyakr bw ykthphcakephchrburiekhaocmtithphkhxngdueriyngsaracxthichumphr naipsukarrbthichumphr phrayacaaesnyakr bw samarthexachnadueriyngsaracxthichumphraetkphayipid thphkhxngphrayacaaesnyakryktidtamdueriyngsaracxipcnthungemuxngtakwpa idthrabwafayphmaidyudthalayemuxngthlangaelathxyklbipaelw phukhnchawemuxngthlanghlbhnimaxyuthikraphungabnfng cungmiphrarachbnthurihphrayacaaesnyakrpracaxyuthichumphr khxyrwbrwmrasdrthihlbhnikracdkracaymatngemuxngthlangxyuchwkhrawxyuthikraphunga ephuxthicaklbipfunfuemuxngthlangkhunihmxikkhrng aelwkrmphrarachwngbwrmhaesnanurkscungesdcklbphrankhrthangchlmarkh emuxphayaephihaekfayithyaelwdueriyngsaracxcungykthphipsmthbkbthphkhxngngasanthiemuxngthlang txmaemuxfayithysamarthyudemuxngthlangkhunidthphphmathxyip dueriyngsaracxcungthukxaetinghwunlngothspraharchiwitbthsrupfayphmaaemwasamarthyudemuxngthlangididaetsudthayfayithysamarthyudemuxngthlangkhunfayphmathxyip epnehtuihxaetinghwunlngothspraharchiwitaemthphnaykxngipcanwnmak xaetinghwunxyuemuxngthwaykdkhichawemuxngidrbkhwameduxnrxnmak cnmichawemuxngthwayphyayamlxbsngharxaetinghwunaetimsaerc emuxfayphmasamarthekhayudemuxngthlangid emuxngthlangbandxnthukthalaylngxyangsineching phrayathlang ethiyn ecaemuxngthlangthukcbtwepnechlyklbipyngphma thaihekaaphuektidrbkhwamesiyhaymaksuyesiyprachakraelathrphysin chawemuxngthlangcanwnmakhlbhnikhunfngiprwmknthikraphunga emuxngthlangyayipxyuthikraphungachwkhrawphrayathlangkhntxmapkkhrxngemuxngthlangthikraphunga naipsukarcdtngemuxngphngngakhuninthisud ekaaphuektthngemuxngthlangedimaelaemuxngphuektthukoxnipxyuphayitkarpkkhrxngkhxngemuxngnkhrsrithrrmrach emuxngthlangedimyngkhngepnemuxngrangipepnrayaewlasibhapi cnkrathnginrchsmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw cungmikarfunfuemuxngthlangkhunthiekaaphuektxikkhrnginph s 2367 sngkhramphmatiemuxngthlanginph s 2352 53 ni epnkarrukrankhxngphmathiekidkhuncringkhrngsudthayinprawtisastrithy hlngcaknnemuxphmasuyesiyxanacaelaxiththphlinphmatxnlangihaekxngkvsinsngkhramxngkvs phmakhrngthihnung First Anglo Burmese War inph s 2369 phmacungimsamarthichchayfngtanawsriepnthanekharukransyamidxikxangxingSkinner Cyril The Interrogation of Zeya Suriya Kyaw A Burmese Account of the Junk Ceylon phuket Campaigns of 1809 1810 G E Gerini PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2016 03 04 subkhnemux 20 August 2015 Skinner C 1985 Syair Sultan Maulana The Battle for Junk Ceylon Foris Publications phrayaephchrkhirisriphichysngkhramramkhaaehng thxngphun n thlang prachumphngsawdarphakhthi 2 phngsawdaremuxngthlang darngrachanuphaph smedckrmphraya phrarachphngsawdar krungrtnoksinthr rchkalthi 2 chbbphimphkhrngaerk pimorngxthsk ph s 2459 phimphthiorngphimphithy nsphanyses darngrachanuphaph smedckrmphraya phngsawdareruxngerarbphma khrngkrungthn aelkrungethph cdhmayehturchkalthi 2 khaihkarxayngasadnaxxngphma eruxnginemuxngphmaaelamatimlayu c s 1172 krmelkhathikarkhnarthmntri ph s 2482 Maziar Mozaffari Falarti Malay Kingship in Kedah Religion Trade and Society Rowman amp Littlefield 2013 sukthlang wirstrihnicakkhukmakuemuxng aebbxyangkarthahnathikhxngkhnithy lingkesiy