ลายวงกต หรือ ลาบรินธ์ (อังกฤษ: Labyrinth) ในตำนานเทพเจ้ากรีก “Labyrinth” (กรีก: λαβύρινθος, labyrinthos) คือโครงสร้างอันซับซ้อนที่ออกแบบและสร้างโดยสำหรับกษัตริย์แห่งครีตที่คนอสซอส โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นกับดักมิโนทอร์ที่เป็นสิ่งที่มีร่างเป็นมนุษย์หัวเป็นวัว ผู้ในที่สุดก็ถูกสังหารโดยวีรบุรุษชาวเอเธนส์ (Theseus) สร้างวงกตอย่างวกวนจนเมื่อสร้างเสร็จตนเองก็แทบจะหาทางออกมาไม่ได้ (Ariadne) ให้ความช่วยเหลือให้หาทางออกจากได้โดยการมอบม้วนด้ายให้ม้วนหนึ่งให้วางตามเส้นทางเพื่อที่จะเดินตามรอยด้ายกลับออกมาจากวงกตได้
ในภาษาพูดของภาษาอังกฤษ “Labyrinth” มีความหมายพ้องกับคำว่า “Maze” () แต่นักวิชาการร่วมสมัยให้ความแตกต่างว่า “วงกตปริศนา” หมายถึงลวดลายวกวนที่ซับซ้อนที่มีทางเข้าทางออกได้หลายทาง แต่ “ลายวงกต” จะมีทางเข้าทางออกทางเดียว และทางจะไม่แตกออกไปเป็นทางย่อยเช่นที่เกิดขึ้นในวงกตปริศนาที่นำ ที่จะนำเข้าไปยังศูนย์กลาง ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าลายวงกตจะเป็นเส้นทางที่ไม่กำกวมที่นำเข้าไปยังศูนย์กลางของวงกตและนำออกมา และไม่มีวัตถุประสงค์ที่ทำให้ยากต่อการเดินตามเส้นทางเข้าไปและออกมา
แม้ว่าเหรียญครีตยุคแรกบางเหรียญจะเป็นลายวกวนซ้อน (multicursal patterns) แต่ลายวกวนเดี่ยวเจ็ดชั้นแบบคลาสสิกก็กลายมาเป็นลวดลายที่ใช้บนเหรียญส่วนใหญ่มาตั้งแต่ราว 430 ปีก่อนคริสต์ศักราช และใช้กันโดยทั่วไปในการเรียกว่าเป็นวงกต – แม้ว่าในการบรรยายจะกล่าวว่ามิโนทอร์ติดกับอยู่ในวงกตปริศนาก็ตาม แม้เมื่อลายวงกตพัฒนาซับซ้อนขึ้น แต่ลายวงกตตั้งแต่สมัยโรมันมาจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา แต่ก็เป็นลายวกวนทางเดียว (unicursal) “วงกตปริศนา” เพิ่งเริ่มมาเป็นที่นิยมกันเมื่อใช้ในการออกแบบสวนวงกตที่นิยมกันในสมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยา
ลายวงกตอาจจะปรากฏเป็นลวดลายบนเครื่องปั้นดินเผา, ตะกร้า, ลายสักบนร่างกาย, ลายบนผนังหรือกำแพงของคริสต์ศาสนสถาน โรมันใช้ลายวงกตในการตกแต่งบนผนัง, พื้นด้วยโมเสก ลายวงกตที่สร้างบนพื้นบางครั้งก็จะมีขนาดใหญ่พอที่จะใช้ในการเดินตามเส้นเข้าออกได้สำหรับการเดินกรรมฐาน
วงกตโบราณ
ใน “” (Naturalis Historia) พลินิกล่าวถึงวงกตสี่ประเภท: วงกตครีต, วงกตอียิปต์, วงกตเล็มนอส และ วงกตอิตาลี
“Labyrinth” เป็นคำที่มาก่อนภาษากรีก () ที่นำเข้ามาใช้ในภาษากรีกคลาสสิกที่อาจจะมีความสัมพันธ์กับคำจากว่า ว่า “Labrys” (“” หรือขวานสองคมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระราชอำนาจซึ่งตรงกับทฤษฎีที่ว่าวงกตเดิมเป็นพระราชวังมิโนอันบนเกาะครีต และ แปลว่า “พระราชวังแห่งขวานสองคม”) สมาสกับคำว่า “-inthos” ที่แปลว่า “สถานที่” (เช่น “”) กลุ่มพระราชวังแห่งคนอสซอสบนเกาะครีตมักจะได้รับการกล่าวถึง แต่ลานเต้นรำที่เป็นลวดลายวงกตจริงยังไม่พบ แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 ผู้ที่ไปเยี่ยมชมก็จะได้รับการชี้ให้ดูสิ่งที่กล่าวกันว่าเป็นวงกตแห่งคนอสซอส (ฟิลอสทราทอส, Apollonii Tyanei iv.34).
ตามตำนานเทพเจ้ากรีกมิได้กล่าวถึงสตรีที่พำนักอยู่ในวงกตในครีต แต่ศิลาที่จารึกเป็นอักษรไลเนียร์บีที่พบที่คนอสซอสบันทึกถึงของขวัญ “แด่ทวยเทพถวายน้ำผึ้ง; แต่เทพีแห่งวงกตถวายน้ำผึ้ง” ซึ่งก็หมายความว่าเทพทั้งหมดรวมกันแล้วก็ได้รับน้ำผึ้งเท่ากับเทพีแห่งแห่งวงกตเพียงองค์เดียว นักเทพวิทยา (Károly Kerényi) ตั้งข้อสังเกตว่า “เทพีแห่งวงกตน้ำผึ้งคงจะต้องเป็นเทพผู้มีความสำคัญเป็นอันมาก”
วงกตของกรีกเป็นลวดลายวกวนอันไม่มีที่สิ้นสุดของลวดลายที่กันในปัจจุบันว่า “” (Meander) ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช เหรียญกษาปณ์จากคนอสซอสก็ยังคงใช้ลวดลายวงกตบนเหรียญ ลวดลายวงกตที่นิยมใช้ตั้งแต่ช่วงเวลานี้เป็นลายวงกตเจ็ดชั้นที่กันว่า “วงกตคลาสสิก”
ต่อมาคำว่า “Labyrinth” นำมาใช้ในการเรียกวงกตวกวนทางเดี่ยวไม่ว่าจะเป็นทรงกลมหรือทรงสี่เหลี่ยม เมื่อถึงศูนย์กลางทางที่เส้นทางนำเข้าไปแล้วก็จะเป็นเส้นทางที่นำออกมาจากวงอีก ในบทสนทนาโสกราตีสที่เพลโตเขียนใน “” (Euthydemus) โสกราตีส บรรยายการโต้แย้งตรรกศาสตร์เส้นวงกตว่า:
และแล้วก็ดูเหมือนว่าเราตกอยู่ภายในวงกต: เราคิดว่าเราถึงจุดจบ, แต่เส้นทางของเราหันโค้งและเราพบว่าตนเองกลับไปตั้งต้นที่จุดเริ่มต้นใหม่, และไกลจากจุดที่เราพยายามหาหนทางที่จะไปให้ถึงตั้งแต่แรก ... ฉะนั้นความคิดเกี่ยวกับวงกตในปัจจุบันว่าเป็นสถานที่ที่เราสามารถหลงทางได้ก็ตัองพักเอาไว้ทางหนึ่ง [วงกต]คือเส้นทางที่ทำให้สับสน, ตามได้ยากโดยไม่มีสายด้าย, แต่ถ้า[ผู้เดินทาง]ไม่เสียทีไปเสียก่อนกลางทาง, ก็จะแน่นอนว่าแม้ว่าจะเป็นเส้นทางวกวนเวียน, ก็จะนำไปสู่จุดที่เริ่มต้นได้
วงกตครีตที่คนอสซอส
วงกตครีตที่คนอสซอสเป็นสิ่งที่สานพันอย่างลึกล้ำในตำนาน แต่ก็ปรากฏอย่างแจ่มแจ้งในหลักฐานทางโบราณคดีในรูปแบบของวงกตขนาดใหญ่ที่คนอสซอส การสร้างวงกตเป็นลานเต้นรำและสำหรับไม่ไช่สำหรับไมนอสได้รับการบรรยายโดยโฮเมอร์ใน “อีเลียด” xviii.590–593 ในรูปของลวดลายที่จารึกบนเกราะของอคิลลีส ที่เป็นภาพของลานเต้นรำ “เช่นเดียวกับลานที่ออกแบบในเมืองอันกว้างใหญ่แห่งคนอสซอสสำหรับ...” และบรรยายต่อไปถึงการเต้นรำวงกตบนเกราะว่าเมื่อ “หนุ่มสาวเมื่อถึงวัยสมรสจะเต้นรำกันบนลานนี้โดยการจับข้อมือต่อๆ กัน...เต้นเวียนประสานจังหวะกับเท้าเหมือนกับเต้นรอบแป้นหมุนสำหรับปั้นหม้อ...และจะเต้นจนกระทั่งแถวต่างๆ ที่เต้นเข้าไปหากันและกัน”
วงกตอียิปต์ของเฮโรโดทัส
วงกตอาจจะใช้กับลักษณะสิ่งที่ซับซ้อนที่คล้ายกับโครงสร้างของได้ เฮโรโดทัสใน “” (Histories) เล่มสองบรรยายกลุ่มสิ่งก่อสร้างวงกตในอียิปต์ไว้ว่า “ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองที่เรียกว่า (เมืองจระเข้)” ที่เฮโรโดทัสมีความเห็นว่ามีความซับซ้อนยิ่งไปกว่าการสร้างพีระมิดเสียอีก:
[วงกต]มีลานคลุมสิบสองลาน — หกลานเป็นแถวที่หันไปทางเหนือ, หกลานไปทางใต้ — ประตูของลานหนึ่งตั้งตรงกับประตูของลานถัดไป ภายในเป็นสิ่งก่อสร้างสองชั้นที่มีห้องหับสามพันห้อง, ครึ่งหนึ่งอยู่ใต้ดิน, และอีกครึ่งหนึ่งตั้งอยู่เหนือชั้นใต้ดินโดยตรง ข้าพเจ้าถูกนำเดินทะลุไปตามห้องชั้นบน, ฉะนั้นสิ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงเป็นสิ่งที่ได้ทำการสังเกตด้วยตนเอง, แต่สำหรับห้องใต้ดินนั้นข้าพเจ้าบรรยายได้แต่จากรายงานเพราะเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลชาวอียิปต์ไม่ยอมอนุญาตให้ข้าพเจ้าได้เข้าชม, เพราะเป็นสถานที่ที่ใช้ในการบรรจุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงสร้างวงกต, และเป็นที่เก็บศพของจระเข้อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ห้องชั้นบนข้าพเจ้าได้มีโอกาสเห็นด้วยตนเองจริง, และเป็นการยากที่จะเชื่อว่าเป็นงานที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์; ทางผ่านอันละเอียดและน่าตลึงงันจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง และจากลานหนึ่งไปยังอีกลานหนึ่งเป็นทางที่ไม่จบไม่สิ้นอันน่าทึ่งสำหรับข้าพเจ้า เมื่อเราผ่านจากลานเข้าไปยังห้อง, จากห้องเข้าไปยังระเบียง, จากระเบียงเข้าไปยังห้องอีก และ ต่อไปเรื่อยๆ ยังลานอีก ผนังที่ผ่านก็เต็มไปด้วยรูปสลัก, และแต่ละลานก็สร้างอย่างวิจิตรด้วยหินอ่อนขาวเรียงรายล้อมรอบด้วยแนวเสา
ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก็มีการขุดพบวงกตที่ยังคงเหลืออยู่ที่ยาว 11.5 ไมล์ตั้งแต่พีระมิดในจังหวัด วงกตคงจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในสมัยต่อมา ภายในก็มีพระนามของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ พระนามที่เก่าที่สุดเป็นของ “เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวว่าไม่แต่จะเป็นงานชิ้นใหญ่อันสำคัญ แต่ยังเป็นงานที่เป็นอนุสรณ์แก่พระมหากษัตริย์หลายพระองค์ของอียิปต์ด้วย”
ในปี ค.ศ. 1898 “” (Harpers Dictionary of Classical Antiquities) บรรยายวงกตอียิปต์ว่าเป็น “ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาศาสนสถานต่างๆ ในอียิปต์, ที่เรียกกันว่า “วงกต”, ซึ่งยังคงเหลือแต่ฐานที่ได้การอนุรักษ์อยู่”
วงกตเล็มนอสของพลินิ
หนังสือ “” (Naturalis Historia) (36.90) กล่าวถึงประติมากรกรีกว่าเป็นผู้มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกันกับ และ กับสถาปนิกและประติมากรรอยคอส (Rhoikos) และ ธีโอโดรอส (Theodoros) สองคนที่กล่าวกันว่าเป็นผู้สร้างวงกตเล็มนอส (Lemnian labyrinth) ซึ่งแอนดรูว์ สจวต กล่าวว่าเป็น “สาเหตุของความเข้าใจผิดของที่ตั้งของศาสนสถานเซเมียน en limnais (ในเชิงเลน)”
วงกตอิตาลีของพลินิ
ตามบทเขียนของพลินิ ที่บรรจุศพของขุนพบอีทรัสคันประกอบด้วยวงกตปริศนาใต้ดิน คำบรรยายของพลินิของส่วนที่เข้าไปได้ของที่บรรจุศพเป็นที่ที่หาทางเข้าไม่ได้ พลินิดูเหมือนจะไม่ได้ตรวจสอบโครงสร้างด้วยตนเอง แต่บรรยายจากบทเขียนของนักประวัติศาสตร์โรมัน
วงกตโบราณนอกยุโรป
ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีวงกตกรีก ลวดลายวงกตก็ปรากฏในวัฒนธรรมของกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันในสหรัฐอเมริกา, ในวงกตของที่เป็นลวดลายของ “” (I'itoi) หรือ “คนในวงกต” วงกตของมีลักษณะสองอย่างที่แตกต่างจากวงกตกรีก ตรงที่เป็นลายที่กระจายออกจากศูนย์กลางเป็นลักษณะรัศมี และทางเข้าจะอยู่ตอนบน ซึ่งของกรีกจะอยู่ตอนล่าง
ลายสลักหิน (Petroglyph) จากสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ปรากฏตามริมฝั่งแม่น้ำที่กัวก็มีลวดลายที่สร้างมาตั้งแต่ราว 2500 ก่อนคริสต์ศักราช ตัวอย่างอื่นที่พบก็ได้แก่ศิลปะในถ้ำทางตอนเหนือของอินเดีย และเพิงหินในบริเวณที่ไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่าสร้างขึ้นเมื่อใด วงกตสมัยแรกในอินเดียมีลักษณะเดียวกับ “วงกตคลาสสิก” บางวงกตก็ได้รับการบรรยายว่าเป็นผังสำหรับป้อม หรือ เมือง[1] 2009-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. ปัทมยุทธ วงกตปรากฏในงานบันทึกลายลักษณ์อักษรและในวัชรยานตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ที่มักจะเรียกว่า “” (Chakravyuha) ที่หมายถึงการจัดกองทัพให้ฝ่ายศัตรูไม่สามารถฝ่าเข้ามาได้ในมหากาพย์มหาภารตะ ลงกาซึ่งเป็นเมืองในรามเกียรติ์ก็ได้รับการบรรยายว่ามีลักษณะเป็นวงกตในฉบับที่แปลในปี ค.ศ. 1910 ใน “อินเดีย” โดย
นอกจากนั้นที่หมู่เกาะโซโลเวทสกีในทะเลขาวก็มีวงกตหินกว่า 30 วงที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ ที่เด่นที่สุดคือ ซึ่งเป็นกลุ่มวงกตสิบสามสิบสี่วงกตในบริเวณ .4 ตารางกิโลเมตรบนเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง ที่เชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่ราว 2,000 ถึง 3,000 ปีมาแล้ว
วงกตเป็นลวดลาย
ในสมัยโบราณวงกตที่ไม่ซับซ้อนเท่าใดนักก็เริ่มเป็นที่ใช้กันมาตั้งแต่ยุคกลาง พื้นโมเสกของโรมันก็จะใช้เส้นวกวนง่ายเป็นลวดลายริมขอบ ที่มีลักษณะเป็นเหลี่ยมแต่ก็ยังมองเห็นได้ว่ามาจากลายวงกต และกลางภาพก็มักจะเป็นภาพของมิโนทอร์ ลวดลายของโรมันค่อยพัฒนาซับซ้อนขึ้นจนกลายเป็นสี่ชั้นที่มาเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นทรงวงกตยุคกลาง วงกตยังคงมีความเกี่ยวพันกับความตายและการหวนกลับมาอย่างมีชัย ที่ ในแอฟริกาเหนือ (ปัจจุบัน ) ที่บรรจุศพของครอบครัวโรมันมีพื้นเป็นวงกตสี่ชั้นโดยมีมิโนทอร์ที่กำลังจะสิ้นใจอยู่กลางภาพ ที่มีคำจารึกว่า “HICINCLUSUS.VITAMPERDIT” หรือ “ถูกจำขังอยู่ที่นี่, มิโนทอร์สิ้นชีพ”(Kerenyi, fig.31).
วงกตของยุคกลางและวงกตปริศนา
การออกแบบวงกตของยุคกลางมารุ่งเรืองที่สุดระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึง 13 เมื่อมีการสร้างวงกตขนาดใหญ่บนพื้นมหาวิหารแบบกอธิคโดยเฉพาะที่มหาวิหารโนเทรอดามแห่งชาร์ทร์, มหาวิหารโนเทรอดามแห่งแรงส์ และ มหาวิหารโนเทรอดามแห่งอาเมียงส์ ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส และที่มหาวิหารเซียนาในทัสกานีในอิตาลี วงกตเหล่านี้อเดิมอาจจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์นัยยะของกรุงเยรูซาเลม ผู้ทำการสักการะก็มักจะเดินสวดมนต์เวียนตามทางบนพื้นวงกต แต่ก็ไม่มีหลักฐานสนับสนุนสมมุติฐานนี้
วงกตบนพื้นมหาวิหารเชื่อกันว่าเป็นที่มาของการออกแบบวงกตหญ้า (Turf maze) ในอังกฤษเช่น “The Old Maze” ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 ฟุตที่ที่เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่ยุคกลาง หรือ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 43 ฟุตที่อาร์เธอร์ มีกล่าวถึงในหนังสือเกี่ยวกับลิงคอล์นเชอร์ว่าสร้างโดยนักบวชในคริสต์ศตวรรษที่ 12 แต่ใน “Lincolnshire Directory of 1872” ของไวท์กล่าวว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยโรมันสำหรับเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นเกม
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้มีการสร้างวงกตราว 500 วงหรือกว่านั้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาในสแกนดิเนเวีย วงกตเหล่านี้มักจะสร้างกันตามริมฝั่งทะเลโดยการวางหินเป็นลวดลายแบบวงกตคลาสสิกง่ายๆ และมักจะมีชื่อต่างๆ ที่แปลแล้วออกมาเป็น “” (Troy Town) ที่เชื่อกันว่าเป็นวงกตที่สร้างโดยหมู่บ้านชาวประมง เพื่อดักโทรลล์หรือลมในขดวงกตเพื่อให้การเดินทางไปหาปลาปลอดภัย นอกจากนั้นก็ยังมีวงกตที่พบที่หมู่เกาะซิลลีย์แต่ก็ไม่วงใดที่เก่าเท่ากับที่พบที่สแกนดิเนเวีย
การใช้หรือการสร้างวงกตก็อาจจะมีลักษณะหรือใช้วัสดุหลายอย่างที่รวมทั้งลายสลักหิน, วงกตคลาสสิก, วงกตยุคกลาง, ทางเท้า, หญ้า และ ตะกร้า และปรากฏในบริเวณต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ในทวีปอเมริกาไปจนถึงเอเชีย
วงกตสมัยใหม่
ในช่วงปีที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการรื้อฟื้นความนิยมกันในสัญลักษณ์วงกตกันขึ้นมาอีก ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะที่วิลเลนพาร์คที่ในสหราชอาณาจักร, ที่ซานฟรานซิสโก หรือ “Labyrinth in Shed 16” ที่ มอนทรีออล และ ในโทรอนโตในประเทศแคนาดา
หรือเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างวิดีโอเกมเป็นจำนวนมากที่ใช้วงกต และวงกตปริศนาเป็นหัวใจของเกม
นักเขียนชาวอาร์เจนตินาหลงมนต์เสนห์ของวงกตและใช้ความคิดนี้หลายครั้งในการเขียนเรื่องสั้นหลายเรื่อง การใชวงกตของบอร์เจสเป็นแรงบันดาลใจให้แก่นักเขียนผู้อื่นเช่นใน “”, มาร์ค ซี. แดเนียลลิวสกี ใน “” หรือในหนังสือแฟนตาซี “” โดย โรเจอร์ เซลาซนี ที่ใช้วงกตชื่อ “the Pattern” ที่ว่าถ้าผู้ใดได้เดินเข้าไปแล้วก็มีอำนาจที่จะเคลื่อนระหว่างโลกสองโลกได้ หรือในภาพยนตร์อาวองการ์ดที่ใช้จอหลายจอในเรื่อง “” นักเขียนชาวออสเตรเลียใช้ความคิดเกี่ยวกับวงกตในหนังสือชุด ที่วงกตที่สร้างในครีตเป็นวงกตหนึ่งของโลกยุคโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งของพลังอำนาจทางเวทมนตร์
ลายวงกตใช้ในงานวิจิตรศิลป์ร่วมสมัยเช่นในงาน “Dam and Ocean” โดย (ค.ศ. 1915), “วงกต” โดย โคอัน มีโร (ค.ศ. 1923), “Minotauromachia” โดยปาโบล ปีกัสโซ (ค.ศ. 1935), “Relativity” โดย เมาริทส์ คอร์เนเลียส เอสเชอร์ (ค.ศ. 1953), “วงกต” โดย (ค.ศ. 1957), “Logological Cabinet” โดย (ค.ศ. 1970), “Connemara” โดย (ค.ศ. 1971), “Earth Maze” โดย (ค.ศ. 1975), “Chain Link Maze” โดย (ค.ศ. 1978), “Atlantis Anamorphosis'” โดย (ค.ศ. 2000), “วงกต” โดย (ค.ศ. 2003) และ “Labyrinthine projection” โดย โม มอราลเลส (ค.ศ. 2000)
ความหมายทางวัฒนธรรม
วัตถุประสงค์ของการสร้างวงกตของสมัยก่อนประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าเพื่อเป็นกับดักวิญญาณ/สิ่งชั่วร้าย หรืออาจจะเป็นทางในการเต้นรำฉลองประเพณี (ritual dance) เมื่อมาถึงยุคกลางวงกตก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางสู่พระเจ้าที่เป็นเส้นทางอันชัดแจ้งที่นำไปสู่พระเจ้าที่อยู่ตรงศูนย์กลาง และ การกำเนิด (ทางเข้า)
วงกตอาจจะเป็นสัญลักษณ์ของการจาริกแสวงบุญ ผูทำการจาริกก็จะเดินตามทางที่นำไปสู่การไถ่บาป และ ความรู้แจ้ง ผู้ศรัทธาส่วนใหญ่ผู้ไม่มีทุนทรัพย์ในการเดินทางไปแสวงบุญยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็จะใช้วงกตแทนการเดินทางดังว่าได้ ต่อมาความสำคัญของวงกตทางศาสนาก็ลดถอยลง และ กลายมาเป็นเครื่องมือสำหรับการบันเทิงแทนที่ แต่กระนั้นคุณค่าทางด้านจิตวิญญาณของวงกตก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้
วงกตที่สร้างขึ้นใหม่ในปัจจุบันมักจะสร้างในคริสต์ศาสนสถาน หรือ ใน นอกจากนั้แล้วก็ยังใช้ใน mystics สมัยใหม่เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เข้าถึงภาวะฌาณได้ การเดินตามทางที่ลดเลี้ยวทำให้ผู้เดินลืมโลกภายนอกและสร้างความสงบภายในจิตได้
ระเบียงภาพ
-
งานโมเสกของโรมันโบราณเป็นภาพเธเซียสและมิโนทอร์
สวิตเซอร์แลนด์ -
ลายวงกตของยุคกลาง -
-
ผู้เดินตามลายวงกตบนพื้น
มหาวิหารโนเทรอดาม
แห่งชาร์ทร์ - วงกตแรกๆ ที่พบ
ที่จารึกบนแผ่นดินเหนียว
จากไพลอส -
-
- วงกตบนผนัง
, อิตาลี - ภาพในพระคัมภีร์ฟาร์ฮี
คริสต์ศตวรรษที่ 14 - บาซิลิกา
ฝรั่งเศส - มหาวิหารโนเทรอดาม
แห่งอาเมียงส์
ฝรั่งเศส - วงกตหิน
เกาะ
(Blue Virgin)
สวีเดน - วงกตหกชั้นแบบคลาสสิก
ไม่ทราบอายุ
คอร์นวอลล์, สหราชอาณาจักร - วงกตหญ้าขนาดเล็กที่
- วงกตหญ้าที่รัทแลนด์
อังกฤษ - ภาพเหมือนชาย
ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 -
-
-
อ้างอิง
- Penelope Reed Doob, The Idea of the Labyrinth, p 36.
- Kern, Through the Labyrinth, p. 23. The usage restricting maze to patterns that involve choices of path is mentioned by Matthews (p. 2-3) as early as 1922, though he argues against it.
- Kern, Through the Labyrinth, 2000, item 43, p. 53.
- Kern, Through the Labyrinth, 2000, item 50, p. 54.
- Penelope Reed Doob, The Idea of the Labyrinth, pp. 40-41.
- Kerenyi, Dionysos, p. 101, n. 171.
- Kerenyi, Dionysos, p. 91.
- มะลิฉัตร เอื้ออานันท์. “พจนานุกรมศัพท์ศิลปะ” สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พ.ศ. 2545
- Kerenyi, Dionysos, p. 92f.
- Herodotus, The Histories, translated by Aubrey de Sélincourt, Book II, pp. 160-61.
- Leonhard Schmitz, George Eden Marindin, Labyrinthus entry, in William Smith et al. (editors), Dictionary of Greek and Roman Antiquities, published 1890.
- Peck, Harry Thurston (chief editor). "Hieratic Papyrus. (Twentieth Dynasty.)" in the Harpers Dictionary of Classical Antiquities, published 1898, page 29.
- Andrew Stewart, One Hundred Greek Sculptors: Their Careers and Extant Works, "Smilis."
- Abu Rayhan Biruni, India, (c.1030 CE), Edward C. Sachau (translator), Kegan Paul, Trench, Trübner & Co, London, 1910 Online version from Columbia University Libraries (accessed 5 December 2009)
- Stone labyrinths of Bolshoi Zayatsky Island Wondermondo.com (accessed 5 December 2009)
- Labyrinth in Catholic Encyclopedia
- Russell, W. M. S. (1991). "English Turf Mazes, Troy, and the Labyrinth". Folklore. Taylor and Francis. 102 (1): 77–88. สืบค้นเมื่อ 2009-03-26.
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help))
บรรณานุกรม
- Hermann Kern, Through the Labyrinth, ed. Robert Ferré and Jeff Saward, Prestel, 2000, . (This is an English translation of Kern's original German monograph Labyrinthe published by Prestel in 1982.)
- Penelope Reed Doob, The Idea of the Labyrinth: from Classical Antiquity through the Middle Ages, Cornell University Press, 1992, .
- Herodotus, The Histories, Newly translated and with an introduction by Aubrey de Sélincourt, Harmondsworth, England, Penguin Books, 1965.
- Karl Kereny, Dionysos: Archetypal Image of Indestructible Life, Princeton University Press, 1976.
- Helmut Jaskolski, The Labyrinth: Symbol of Fear, Rebirth and Liberation, Shambala, 1997.
- Adrian Fisher & Georg Gerster, The Art of the Maze, Weidenfeld & Nicolson, 1990. .
- Jeff Saward, Labyrinths and Mazes, Gaia Books Ltd, 2003, .
- Jeff Saward, Magical Paths, Mitchell Beazley, 2002, .
- W.H. Matthews, Mazes and Labyrinths: Their History and Development, Longmans, Green & Co., 1922. Includes bibliography. Dover Publications reprint, 1970, .
- Andrew Stewart, One Hundred Greek Sculptors: Their Careers and Extant Works.
- Henning Eichberg, 2005: "Racing in the labyrinth? About some inner contradictions of running." 2008-03-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน In: Athletics, Society & Identity. Imeros, Journal for Culture and Technology, 5:1) Athen: Foundation of the Hellenic World, 169-192.
- Edward Hays, The Lenten Labyrinth: Daily Reflections for the Journey of Lent, Forest of Peace Publishing, 1994.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ลายวงกต
- Labyrinthos 2006-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน maintained by Jeff Saward
- The Labyrinth Society
- Through Mazes to Mathematics Exposition by Tony Phillips, SUNY
- Maze classification Extensive classification of labyrinths and algorithms to solve them.
- IRRGARTENWELT.DE Lars O. Heintel's collection of handdrawn labyrinths and mazes
- Labyrinthe in Deutschland Website (in German) with diagrams and photos of virtually all the public labyrinths in Germany.
- Mystery Labyrinth German website (in German and English) with descriptions, animations, links, and especially photos of (mostly European) labyrinths.
- British turf labyrinths by Marilyn Clark. Photos and descriptions of the surviving historical turf mazes in Britain.
- Jo Edkins's Maze Page 2009-05-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน An early website providing a clear overview of the territory and suggestions for further study.
- "Die Kretische Labyrinth-Höhle" by Thomas M. Waldmann, rev. 2009 (in German, English, French, and Greek). Description of a labyrinthine artificial cave system near Gortyn, Crete, widely considered the original labyrinth on Crete. (Presentation somewhat amateurish – including <blink> tags – but many detailed photos.)
- SpiralZoom.com an educational website about the science of pattern formation, spirals in nature, and spirals in the mythic imagination & labyrinths.
- Guerrilla Labyrinths Light-weight site by David Brazzeal, who creates "occasional" labyrinths.
- The Geometry of History, Tessa Morrison, U. of Newcastle, Australia. An attempt to extend Phillips's topological classification to more general unicursal labyrinths.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha laywngkt hrux labrinth xngkvs Labyrinth intananethphecakrik Labyrinth krik labyrin8os labyrinthos khuxokhrngsrangxnsbsxnthixxkaebbaelasrangodysahrbkstriyaehngkhritthikhnxssxs odymiwtthuprasngkhinkarichepnkbdkmionthxrthiepnsingthimirangepnmnusyhwepnww phuinthisudkthuksngharodywirburuschawexethns Theseus srangwngktxyangwkwncnemuxsrangesrctnexngkaethbcahathangxxkmaimid Ariadne ihkhwamchwyehluxihhathangxxkcakidodykarmxbmwndayihmwnhnungihwangtamesnthangephuxthicaedintamrxydayklbxxkmacakwngktid wngktkhlassik ecdchn source source source source source source source source source source ekhawngktkhritthadwy 2500 TeaLights karephaihminsunykhrisetiynsmathiaelacitwiyyankhxngsngkhmnthlburkthiobsth Holy Cross in aefrngkefirt Bornheimlaywngktyukhsaridaextaelntiklaywngktinphaphwadinthainxitaliwngktbnphunthiinfrngessehriyy laywngkt cakkhnxssxs inphasaphudkhxngphasaxngkvs Labyrinth mikhwamhmayphxngkbkhawa Maze aetnkwichakarrwmsmyihkhwamaetktangwa wngktprisna hmaythunglwdlaywkwnthisbsxnthimithangekhathangxxkidhlaythang aet laywngkt camithangekhathangxxkthangediyw aelathangcaimaetkxxkipepnthangyxyechnthiekidkhuninwngktprisnathina thicanaekhaipyngsunyklang channcungklawidwalaywngktcaepnesnthangthiimkakwmthinaekhaipyngsunyklangkhxngwngktaelanaxxkma aelaimmiwtthuprasngkhthithaihyaktxkaredintamesnthangekhaipaelaxxkma aemwaehriyykhrityukhaerkbangehriyycaepnlaywkwnsxn multicursal patterns aetlaywkwnediywecdchnaebbkhlassikkklaymaepnlwdlaythiichbnehriyyswnihymatngaetraw 430 pikxnkhristskrach aelaichknodythwipinkareriykwaepnwngkt aemwainkarbrryaycaklawwamionthxrtidkbxyuinwngktprisnaktam aememuxlaywngktphthnasbsxnkhun aetlaywngkttngaetsmyormnmacnthungyukhfunfusilpwithya aetkepnlaywkwnthangediyw unicursal wngktprisna ephingerimmaepnthiniymknemuxichinkarxxkaebbswnwngktthiniymkninsmyfunfusilpawithya laywngktxaccapraktepnlwdlaybnekhruxngpndinepha takra layskbnrangkay laybnphnnghruxkaaephngkhxngkhristsasnsthan ormnichlaywngktinkartkaetngbnphnng phundwyomesk laywngktthisrangbnphunbangkhrngkcamikhnadihyphxthicaichinkaredintamesnekhaxxkidsahrbkaredinkrrmthanwngktobranin Naturalis Historia phliniklawthungwngktsipraephth wngktkhrit wngktxiyipt wngktelmnxs aela wngktxitali Labyrinth epnkhathimakxnphasakrik thinaekhamaichinphasakrikkhlassikthixaccamikhwamsmphnthkbkhacakwa wa Labrys hruxkhwansxngkhmsungepnsylksnkhxngphrarachxanacsungtrngkbthvsdithiwawngktedimepnphrarachwngmionxnbnekaakhrit aela aeplwa phrarachwngaehngkhwansxngkhm smaskbkhawa inthos thiaeplwa sthanthi echn klumphrarachwngaehngkhnxssxsbnekaakhritmkcaidrbkarklawthung aetlanetnrathiepnlwdlaywngktcringyngimphb aetinkhriststwrrsthi 1 phuthiipeyiymchmkcaidrbkarchiihdusingthiklawknwaepnwngktaehngkhnxssxs filxsthrathxs Apollonii Tyanei iv 34 tamtananethphecakrikmiidklawthungstrithiphankxyuinwngktinkhrit aetsilathicarukepnxksrileniyrbithiphbthikhnxssxsbnthukthungkhxngkhwy aedthwyethphthwaynaphung aetethphiaehngwngktthwaynaphung sungkhmaykhwamwaethphthnghmdrwmknaelwkidrbnaphungethakbethphiaehngaehngwngktephiyngxngkhediyw nkethphwithya Karoly Kerenyi tngkhxsngektwa ethphiaehngwngktnaphungkhngcatxngepnethphphumikhwamsakhyepnxnmak wngktkhxngkrikepnlwdlaywkwnxnimmithisinsudkhxnglwdlaythikninpccubnwa Meander instwrrsthi 3 kxnkhristskrach ehriyyksapncakkhnxssxskyngkhngichlwdlaywngktbnehriyy lwdlaywngktthiniymichtngaetchwngewlaniepnlaywngktecdchnthiknwa wngktkhlassik txmakhawa Labyrinth namaichinkareriykwngktwkwnthangediywimwacaepnthrngklmhruxthrngsiehliym emuxthungsunyklangthangthiesnthangnaekhaipaelwkcaepnesnthangthinaxxkmacakwngxik inbthsnthnaoskratisthiephlotekhiynin Euthydemus oskratis brryaykarotaeyngtrrksastresnwngktwa aelaaelwkduehmuxnwaeratkxyuphayinwngkt erakhidwaerathungcudcb aetesnthangkhxngerahnokhngaelaeraphbwatnexngklbiptngtnthicuderimtnihm aelaiklcakcudthieraphyayamhahnthangthicaipihthungtngaetaerk channkhwamkhidekiywkbwngktinpccubnwaepnsthanthithierasamarthhlngthangidktxngphkexaiwthanghnung wngkt khuxesnthangthithaihsbsn tamidyakodyimmisayday aettha phuedinthang imesiythiipesiykxnklangthang kcaaennxnwaaemwacaepnesnthangwkwnewiyn kcanaipsucudthierimtnid wngktkhritthikhnxssxs wngktkhritthikhnxssxsepnsingthisanphnxyangluklaintanan aetkpraktxyangaecmaecnginhlkthanthangobrankhdiinrupaebbkhxngwngktkhnadihythikhnxssxs karsrangwngktepnlanetnraaelasahrbimichsahrbimnxsidrbkarbrryayodyohemxrin xieliyd xviii 590 593 inrupkhxnglwdlaythicarukbnekraakhxngxkhillis thiepnphaphkhxnglanetnra echnediywkblanthixxkaebbinemuxngxnkwangihyaehngkhnxssxssahrb aelabrryaytxipthungkaretnrawngktbnekraawaemux hnumsawemuxthungwysmrscaetnraknbnlanniodykarcbkhxmuxtx kn etnewiynprasancnghwakbethaehmuxnkbetnrxbaepnhmunsahrbpnhmx aelacaetncnkrathngaethwtang thietnekhaiphaknaelakn wngktxiyiptkhxngehorodths wngktxaccaichkblksnasingthisbsxnthikhlaykbokhrngsrangkhxngid ehorodthsin Histories elmsxngbrryayklumsingkxsrangwngktinxiyiptiwwa tngxyuiklkbemuxngthieriykwa emuxngcraekh thiehorodthsmikhwamehnwamikhwamsbsxnyingipkwakarsrangphiramidesiyxik wngkt milankhlumsibsxnglan hklanepnaethwthihnipthangehnux hklanipthangit pratukhxnglanhnungtngtrngkbpratukhxnglanthdip phayinepnsingkxsrangsxngchnthimihxnghbsamphnhxng khrunghnungxyuitdin aelaxikkhrunghnungtngxyuehnuxchnitdinodytrng khaphecathuknaedinthaluiptamhxngchnbn channsingthikhaphecaklawthungepnsingthiidthakarsngektdwytnexng aetsahrbhxngitdinnnkhaphecabrryayidaetcakraynganephraaecahnathiphuduaelchawxiyiptimyxmxnuyatihkhaphecaidekhachm ephraaepnsthanthithiichinkarbrrcuphrabrmsphkhxngphramhakstriyphuthrngsrangwngkt aelaepnthiekbsphkhxngcraekhxnskdisiththi aethxngchnbnkhaphecaidmioxkasehndwytnexngcring aelaepnkaryakthicaechuxwaepnnganthisrangdwyfimuxmnusy thangphanxnlaexiydaelanatlungngncakhxnghnungipyngxikhxnghnung aelacaklanhnungipyngxiklanhnungepnthangthiimcbimsinxnnathungsahrbkhapheca emuxeraphancaklanekhaipynghxng cakhxngekhaipyngraebiyng cakraebiyngekhaipynghxngxik aela txiperuxy ynglanxik phnngthiphanketmipdwyrupslk aelaaetlalanksrangxyangwicitrdwyhinxxnkhaweriyngraylxmrxbdwyaenwesa rahwangkhriststwrrsthi 19 kmikarkhudphbwngktthiyngkhngehluxxyuthiyaw 11 5 imltngaetphiramidincnghwd wngktkhngcaidrbkarepliynaeplngephimetiminsmytxma phayinkmiphranamkhxngphramhakstriyhlayphraxngkh phranamthiekathisudepnkhxng epnsingthiimcaepnthicatxngklawwaimaetcaepnnganchinihyxnsakhy aetyngepnnganthiepnxnusrnaekphramhakstriyhlayphraxngkhkhxngxiyiptdwy inpi kh s 1898 Harpers Dictionary of Classical Antiquities brryaywngktxiyiptwaepn sasnsthanthiihythisudinbrrdasasnsthantang inxiyipt thieriykknwa wngkt sungyngkhngehluxaetthanthiidkarxnurksxyu wngktelmnxskhxngphlini hnngsux Naturalis Historia 36 90 klawthungpratimakrkrikwaepnphumichiwitxyuinsmyediywknkb aela kbsthapnikaelapratimakrrxykhxs Rhoikos aela thioxodrxs Theodoros sxngkhnthiklawknwaepnphusrangwngktelmnxs Lemnian labyrinth sungaexndruw scwt klawwaepn saehtukhxngkhwamekhaicphidkhxngthitngkhxngsasnsthanesemiyn en limnais inechingeln wngktxitalikhxngphlini tambthekhiynkhxngphlini thibrrcusphkhxngkhunphbxithrskhnprakxbdwywngktprisnaitdin khabrryaykhxngphlinikhxngswnthiekhaipidkhxngthibrrcusphepnthithihathangekhaimid phliniduehmuxncaimidtrwcsxbokhrngsrangdwytnexng aetbrryaycakbthekhiynkhxngnkprawtisastrormn wngktobrannxkyuorp nganaekaslkepnphaphnkrb Abhimanyu ekha chakravyuha thi Halebidu inxinediy inchwngewlaediywknkbthimiwngktkrik lwdlaywngktkpraktinwthnthrrmkhxngklumchnphunemuxngxemrikninshrthxemrika inwngktkhxngthiepnlwdlaykhxng I itoi hrux khninwngkt wngktkhxngmilksnasxngxyangthiaetktangcakwngktkrik trngthiepnlaythikracayxxkcaksunyklangepnlksnarsmi aelathangekhacaxyutxnbn sungkhxngkrikcaxyutxnlang layslkhin Petroglyph caksmykxnprawtisastrthiprakttamrimfngaemnathikwkmilwdlaythisrangmatngaetraw 2500 kxnkhristskrach twxyangxunthiphbkidaeksilpainthathangtxnehnuxkhxngxinediy aelaephinghininbriewnthiimsamarthrabuidxyangaennxnwasrangkhunemuxid wngktsmyaerkinxinediymilksnaediywkb wngktkhlassik bangwngktkidrbkarbrryaywaepnphngsahrbpxm hrux emuxng 1 2009 06 28 thi ewyaebkaemchchin pthmyuthth wngktpraktinnganbnthuklaylksnxksraelainwchryantngaetkhriststwrrsthi 17 epntnma thimkcaeriykwa Chakravyuha thihmaythungkarcdkxngthphihfaystruimsamarthfaekhamaidinmhakaphymhapharta lngkasungepnemuxnginramekiyrtikidrbkarbrryaywamilksnaepnwngktinchbbthiaeplinpi kh s 1910 in xinediy ody nxkcaknnthihmuekaaosolewthskiinthaelkhawkmiwngkthinkwa 30 wngthiidrbkarxnurksexaiw thiednthisudkhux sungepnklumwngktsibsamsibsiwngktinbriewn 4 tarangkiolemtrbnekaaelk ekaahnung thiechuxknwamixayuekaaekraw 2 000 thung 3 000 pimaaelwwngktepnlwdlayinsmyobranwngktthiimsbsxnethaidnkkerimepnthiichknmatngaetyukhklang phunomeskkhxngormnkcaichesnwkwnngayepnlwdlayrimkhxb thimilksnaepnehliymaetkyngmxngehnidwamacaklaywngkt aelaklangphaphkmkcaepnphaphkhxngmionthxr lwdlaykhxngormnkhxyphthnasbsxnkhuncnklayepnsichnthimaepnthiruckknwaepnthrngwngktyukhklang wngktyngkhngmikhwamekiywphnkbkhwamtayaelakarhwnklbmaxyangmichy thi inaexfrikaehnux pccubn thibrrcusphkhxngkhrxbkhrwormnmiphunepnwngktsichnodymimionthxrthikalngcasinicxyuklangphaph thimikhacarukwa HICINCLUSUS VITAMPERDIT hrux thukcakhngxyuthini mionthxrsinchiph Kerenyi fig 31 wngktkhxngyukhklangaelawngktprisnawngktthiaexbbi ebleyiym karxxkaebbwngktkhxngyukhklangmarungeruxngthisudrahwangkhriststwrrsthi 12 thung 13 emuxmikarsrangwngktkhnadihybnphunmhawiharaebbkxthikhodyechphaathimhawiharonethrxdamaehngcharthr mhawiharonethrxdamaehngaerngs aela mhawiharonethrxdamaehngxaemiyngs thangtxnehnuxkhxngfrngess aelathimhawiharesiynainthskaniinxitali wngktehlanixedimxaccasrangkhunephuxepnsylksnnyyakhxngkrungeyrusaelm phuthakarskkarakmkcaedinswdmntewiyntamthangbnphunwngkt aetkimmihlkthansnbsnunsmmutithanni wngktbnphunmhawiharechuxknwaepnthimakhxngkarxxkaebbwngkthya Turf maze inxngkvsechn The Old Maze thimiesnphasunyklang 40 futthithiechuxknwasrangmatngaetyukhklang hrux thimiesnphasunyklang 43 futthixarethxr miklawthunginhnngsuxekiywkblingkhxlnechxrwasrangodynkbwchinkhriststwrrsthi 12 aetin Lincolnshire Directory of 1872 khxngiwthklawwasrangmatngaetsmyormnsahrbepnswnhnungkhxngkarelnekm inchwngewlaediywknnnkidmikarsrangwngktraw 500 wnghruxkwannthiimekiywkhxngkbsasnainsaekndienewiy wngktehlanimkcasrangkntamrimfngthaelodykarwanghinepnlwdlayaebbwngktkhlassikngay aelamkcamichuxtang thiaeplaelwxxkmaepn Troy Town thiechuxknwaepnwngktthisrangodyhmubanchawpramng ephuxdkothrllhruxlminkhdwngktephuxihkaredinthangiphaplaplxdphy nxkcaknnkyngmiwngktthiphbthihmuekaasilliyaetkimwngidthiekaethakbthiphbthisaekndienewiy karichhruxkarsrangwngktkxaccamilksnahruxichwsduhlayxyangthirwmthnglayslkhin wngktkhlassik wngktyukhklang thangetha hya aela takra aelapraktinbriewntang thwolktngaetinthwipxemrikaipcnthungexechiywngktsmyihmwngktthiesntaelmaebrthsthimingoklsihmineyxrmniwngktbnphunphayinthisanfransisok inchwngpithiphanmaemuximnanmanikidmikarruxfunkhwamniymkninsylksnwngktknkhunmaxik thiepnaerngbndalicinkarsrangsingkxsrangodyechphaathiwilelnpharkhthiinshrachxanackr thisanfransisok hrux Labyrinth in Shed 16 thi mxnthrixxl aela inothrxnotinpraethsaekhnada hruxepnaerngbndalicinkarsrangwidioxekmepncanwnmakthiichwngkt aelawngktprisnaepnhwickhxngekm nkekhiynchawxarecntinahlngmntesnhkhxngwngktaelaichkhwamkhidnihlaykhrnginkarekhiyneruxngsnhlayeruxng karichwngktkhxngbxrecsepnaerngbndalicihaeknkekhiynphuxunechnin markh si aedeniylliwski in hruxinhnngsuxaefntasi ody orecxr eslasni thiichwngktchux the Pattern thiwathaphuididedinekhaipaelwkmixanacthicaekhluxnrahwangolksxngolkid hruxinphaphyntrxawxngkardthiichcxhlaycxineruxng nkekhiynchawxxsetreliyichkhwamkhidekiywkbwngktinhnngsuxchud thiwngktthisranginkhritepnwngkthnungkhxngolkyukhobranthisrangkhunephuxepnaehlngkhxngphlngxanacthangewthmntr laywngktichinnganwicitrsilprwmsmyechninngan Dam and Ocean ody kh s 1915 wngkt ody okhxn mior kh s 1923 Minotauromachia odypaobl piksos kh s 1935 Relativity ody emariths khxreneliys exsechxr kh s 1953 wngkt ody kh s 1957 Logological Cabinet ody kh s 1970 Connemara ody kh s 1971 Earth Maze ody kh s 1975 Chain Link Maze ody kh s 1978 Atlantis Anamorphosis ody kh s 2000 wngkt ody kh s 2003 aela Labyrinthine projection ody om mxralels kh s 2000 khwamhmaythangwthnthrrmwtthuprasngkhkhxngkarsrangwngktkhxngsmykxnprawtisastrechuxknwaephuxepnkbdkwiyyan singchwray hruxxaccaepnthanginkaretnrachlxngpraephni ritual dance emuxmathungyukhklangwngktkklayepnsylksnkhxngesnthangsuphraecathiepnesnthangxnchdaecngthinaipsuphraecathixyutrngsunyklang aela karkaenid thangekha wngktxaccaepnsylksnkhxngkarcarikaeswngbuy phuthakarcarikkcaedintamthangthinaipsukarithbap aela khwamruaecng phusrththaswnihyphuimmithunthrphyinkaredinthangipaeswngbuyyngsthanthiskdisiththitang kcaichwngktaethnkaredinthangdngwaid txmakhwamsakhykhxngwngktthangsasnakldthxylng aela klaymaepnekhruxngmuxsahrbkarbnethingaethnthi aetkrannkhunkhathangdancitwiyyankhxngwngktkidrbkarfunfukhunmaxikkhrngemuximnanmani wngktthisrangkhunihminpccubnmkcasranginkhristsasnsthan hrux in nxkcaknaelwkyngichin mystics smyihmephuxihphuekharwmidekhathungphawachanid karedintamthangthildeliywthaihphuedinlumolkphaynxkaelasrangkhwamsngbphayincitidraebiyngphaphnganomeskkhxngormnobranepnphaphethesiysaelamionthxr switesxraelnd laywngktkhxngyukhklang phuedintamlaywngktbnphun mhawiharonethrxdam aehngcharthr wngktaerk thiphb thicarukbnaephndinehniyw cakiphlxs mionthxrinwngkt omeskormnthi inoprtueks phaphrangody willard edx oxenxkhurt raw kh s 1230 wngktbnphnng xitali phaphinphrakhmphirfarhi khriststwrrsthi 14 basilika frngess mhawiharonethrxdam aehngxaemiyngs frngess wngkthin ekaa Blue Virgin swiedn wngkthkchnaebbkhlassik imthrabxayu khxrnwxll shrachxanackr wngkthyakhnadelkthi wngkthyathirthaelnd xngkvs phaphehmuxnchay tnkhriststwrrsthi 16 mionthxrklangwngkt ekhruxngpradb khriststwrrsthi 16 wngktexdinbarah George Square Gardens exdinbarah skxtaelnd wngktxnusrnehtukarn winaskrrm 11 knya bxstnxangxingPenelope Reed Doob The Idea of the Labyrinth p 36 Kern Through the Labyrinth p 23 The usage restricting maze to patterns that involve choices of path is mentioned by Matthews p 2 3 as early as 1922 though he argues against it Kern Through the Labyrinth 2000 item 43 p 53 Kern Through the Labyrinth 2000 item 50 p 54 Penelope Reed Doob The Idea of the Labyrinth pp 40 41 Kerenyi Dionysos p 101 n 171 Kerenyi Dionysos p 91 malichtr exuxxannth phcnanukrmsphthsilpa sankphimphaehngculalngkrnmhawithyaly ph s 2545 Kerenyi Dionysos p 92f Herodotus The Histories translated by Aubrey de Selincourt Book II pp 160 61 Leonhard Schmitz George Eden Marindin Labyrinthus entry in William Smith et al editors Dictionary of Greek and Roman Antiquities published 1890 Peck Harry Thurston chief editor Hieratic Papyrus Twentieth Dynasty in the Harpers Dictionary of Classical Antiquities published 1898 page 29 Andrew Stewart One Hundred Greek Sculptors Their Careers and Extant Works Smilis Abu Rayhan Biruni India c 1030 CE Edward C Sachau translator Kegan Paul Trench Trubner amp Co London 1910 Online version from Columbia University Libraries accessed 5 December 2009 Stone labyrinths of Bolshoi Zayatsky Island Wondermondo com accessed 5 December 2009 Labyrinth in Catholic Encyclopedia Russell W M S 1991 English Turf Mazes Troy and the Labyrinth Folklore Taylor and Francis 102 1 77 88 subkhnemux 2009 03 26 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help brrnanukrmHermann Kern Through the Labyrinth ed Robert Ferre and Jeff Saward Prestel 2000 ISBN 3 7913 2144 7 This is an English translation of Kern s original German monograph Labyrinthe published by Prestel in 1982 Penelope Reed Doob The Idea of the Labyrinth from Classical Antiquity through the Middle Ages Cornell University Press 1992 ISBN 0 80142 393 7 Herodotus The Histories Newly translated and with an introduction by Aubrey de Selincourt Harmondsworth England Penguin Books 1965 Karl Kereny Dionysos Archetypal Image of Indestructible Life Princeton University Press 1976 Helmut Jaskolski The Labyrinth Symbol of Fear Rebirth and Liberation Shambala 1997 Adrian Fisher amp Georg Gerster The Art of the Maze Weidenfeld amp Nicolson 1990 ISBN 0 297 83027 9 Jeff Saward Labyrinths and Mazes Gaia Books Ltd 2003 ISBN 1 85675 183 X Jeff Saward Magical Paths Mitchell Beazley 2002 ISBN 1 84000 573 4 W H Matthews Mazes and Labyrinths Their History and Development Longmans Green amp Co 1922 Includes bibliography Dover Publications reprint 1970 ISBN 0 486 22614 X Andrew Stewart One Hundred Greek Sculptors Their Careers and Extant Works Henning Eichberg 2005 Racing in the labyrinth About some inner contradictions of running 2008 03 07 thi ewyaebkaemchchin In Athletics Society amp Identity Imeros Journal for Culture and Technology 5 1 Athen Foundation of the Hellenic World 169 192 Edward Hays The Lenten Labyrinth Daily Reflections for the Journey of Lent Forest of Peace Publishing 1994 duephimwngkthya wngthyphuch prisnaaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb laywngkt Labyrinthos 2006 02 02 thi ewyaebkaemchchin maintained by Jeff Saward The Labyrinth Society Through Mazes to Mathematics Exposition by Tony Phillips SUNY Maze classification Extensive classification of labyrinths and algorithms to solve them IRRGARTENWELT DE Lars O Heintel s collection of handdrawn labyrinths and mazes Labyrinthe in Deutschland Website in German with diagrams and photos of virtually all the public labyrinths in Germany Mystery Labyrinth German website in German and English with descriptions animations links and especially photos of mostly European labyrinths British turf labyrinths by Marilyn Clark Photos and descriptions of the surviving historical turf mazes in Britain Jo Edkins s Maze Page 2009 05 24 thi ewyaebkaemchchin An early website providing a clear overview of the territory and suggestions for further study Die Kretische Labyrinth Hohle by Thomas M Waldmann rev 2009 in German English French and Greek Description of a labyrinthine artificial cave system near Gortyn Crete widely considered the original labyrinth on Crete Presentation somewhat amateurish including lt blink gt tags but many detailed photos SpiralZoom com an educational website about the science of pattern formation spirals in nature and spirals in the mythic imagination amp labyrinths Guerrilla Labyrinths Light weight site by David Brazzeal who creates occasional labyrinths The Geometry of History Tessa Morrison U of Newcastle Australia An attempt to extend Phillips s topological classification to more general unicursal labyrinths