วงธัญพืช หรือ วงข้าวโพดล้ม หรือ ครอปเซอร์เคิล (อังกฤษ: crop circle) เป็นคำที่ใช้อธิบายถึงรูปแบบพืชที่ล้มลง ซึ่งเริ่มต้นจาก ข้าวโพด โดยคำนี้รวมถึง ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ถั่วเหลือง วงข้าวโพดล้มนี้พบได้หลายแห่งทั่วโลก
ประวัติ
คืนหนึ่งในปี 1972 ณ ประเทศอังกฤษ (Arthur Shuttlewood) กับ (Bryce Bond) ซุ่มซ่อนตัวบริเวณเนินเขา ใกล้ เพื่อเฝ้าดูปรากฏการณ์แสงประหลาด ซึ่งเกิดขึ้นในแถบนั้นมานานเกือบทศวรรษ เชื่อกันว่ามันคือยูเอฟโอ คืนนั้นทั้งสองผิดหวังเมื่อไม่พบแสงประหลาด แต่ได้รับการชดเชยด้วยร่องรอยบางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกัน นั่นคือ พืชที่ล้มเป็นวงกลม ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า Crop Circles
สี่ปีต่อมาในเดือนกันยายน 1976 (Edwin Fuhr) ชาวนาแห่ง(Langenburg) อ้างว่า เห็นยานรูปโดมสีเงินหลายลำ บินอยู่เหนือทุ่งนาหลังจากที่ยานเหล่านี้จากไปแล้ว เขาก็พบครอปเซอร์เคิลหลายแห่งในบริเวณนั้น นี่คือเรื่องราวแรกเริ่มของปรากฏการณ์วงกลมพืชบนท้องทุ่งของอังกฤษ ที่ผู้คนมากมายเชื่อว่าเป็นหนึ่งในปริศนาลึกลับของโลกอยู่ทุกวันนี้
ครอปเซอร์เคิล ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1678 ที่ อังกฤษ ไม่มีใครอธิบายได้ว่าใครหรืออะไรทำให้มันเกิดขึ้น แต่หลังจากการค้นพบของชัตเติลวูดกับบอนด์และเฟอร์แล้ว มันนำไปสู่ทฤษฎีแรกคือร่องรอยการลงจอดของยานจากต่างดาว ตามมาด้วยทฤษฎีอุกกาบาตและทฤษฎีพายุทอร์นาโดขนาดเล็ก ในทศวรรษที่ 1980 ได้มีการค้นพบครอปเซอร์เคิลมากขึ้น โดยเฉพาะรอบ ๆ เมือง(Warminster) ในช่วงต้นของทศวรรษนี้รูปทรงของมันก็ยังคงเหมือนเดิม คือเป็นวงกลมหยาบ ๆ แต่ในกลางทศวรรษรูปทรงของมันซับซ้อนขึ้น คือมีวงแหวนแตกออกไป และมันเริ่มดึงดูดใจคนอังกฤษมากขึ้น ในทศวรรษนี้เอง ด๊อกเตอร์ (Terrence Meaden) ศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักอุตุนิยมวิทยาได้พยายามไขปริศนานี้ โดยทำการวิจัยครอปเซอร์เคิลมากกว่า 1,000 แห่ง มีเดนเสนอทฤษฎีว่า ครอปเซอร์เคิลเกิดจากความผิดปกติของอากาศที่เขาเรียกว่า Plasma Vortex ทำให้เกิดลมหมุนวนในระดับสูงแล้วเคลื่อนตัวลงสู่พื้นทำให้พืชแบนราบ
ทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากผลการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นคือ ศาสตราจารยโอซึกิ (Ohtsuki) เขาใส่พลาสมา (plasma Fireballs) ลงในถาดแป้ง ผลปรากฏว่ามันทำให้เกิดวงแหวนสองชั้นรอบศูนย์กลาง ปี 1991 ได้มีการค้นพบครอปเซอร์เคิลหลายร้อยแห่งในอังกฤษ มันยังแพร่ระบาดไปในเยอรมัน สหรัฐอเมริกา บราซิล โรมาเนีย ฮังการีและญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้นมันได้เปลี่ยนแปลงรูปทรงใหม่เป็น Pictrogram เสมือนการสื่อความหมายบางอย่างด้วยภาพ รูปแบบใหม่ของมันทำให้ทฤษฎีผู้มาจากต่างมิติที่พยายามสื่อสารกับมนุษย์เริ่มก่อตัวขึ้น ความซับซ้อนของรูปทรงครอปเซอร์เคิล ทำให้ทฤษฎีพลาสมาไม่สามารถอธิบายรูปทรงนี้ได้ ในขณะที่คำกล่าวอ้างเรื่องแสงไฟประหลาดเหนือท้องทุ่งยามดึก แล้วทำให้เกิดครอปเซอร์เคิลในรุ่งอรุณของทฤษฎียูเอฟโอ ก็ยังใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ แต่มันก็ยังเป็นทฤษฎีที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ในปีเดียวกันนี้เอง ชายชาวอังกฤษสองคนได้ออกมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ว่า ครอปเซอร์เคิลเป็นเรื่องหลอกลวงมันเกิดจากฝีมือของมนุษย์ เดฟ คอร์ลีและโดฟ โบเวอร์ (Dave Chorley and Doug Bower) อ้างว่าพวกเขาเป็นผู้สร้างมันขึ้นมารวมแล้วกว่า 1,000 แห่ง ตั้งแต่ปี 1978 โดยใช้ขนาด 4 ฟุต และเป็นเครื่องมือ ในขณะเดียวกันก็มีนักหลอกลวงกลุ่มอื่น ๆออกปฏิบัติการในยามค่ำคืนอย่างเดียวกับพวกเขาด้วย นิตยสารไทม์ฉบับวันที่ 23 กันยายน 1991 พูดถึงเรื่องนี้ว่า นี่คือการนำไปสู่จุดจบของเรื่องซึ่งเป็นหนึ่งในความลึกลับที่สุดของอังกฤษและของโลกแล้ว อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ครอปเซอร์เคิลก็ไม่ได้หายไปพร้อมกับการเผยตัวของนักหลอกลวงคู่นี้ แต่กลับพุ่งสูงขึ้นในปีต่อมาคือปี 1992 มันเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาพร้อมกับความสลับซับซ้อนของรูปทรงเรขาคณิต และขนาดอันมหึมาหลายร้อยฟุตในทุ่งบาร์เลย์ และ ทุ่งข้าวโพด พร้อม ๆ กับการแพร่ระบาดไปกว่า 10 ประเทศ และยังทำให้ตัวเลขนักวิจัยเพิ่มสูงขึ้น อีกด้านหนึ่งมันคือศิลปอันวิจิตรพิสดารบนท้องทุ่ง ซึ่งผลิตช่างภาพมืออาชีพมากมาย และเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับครอปเซอร์เคิลที่เฟื่องฟูอยู่ทุกวันนี้
จนถึงปัจจุบัน มีครอปเซอร์เคิลเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่อังกฤษรวมแล้วประมาณ 10,000 แห่ง ส่วนใหญ่เกิดทางภาคใต้ และ 90 เปอร์เซนต์อยู่ในรัศมี 50 ไมล์จากสโตนเฮน (Stonehenge) ครอปเซอร์เคิลบางแห่ง สื่อความหมายเกี่ยวกับจักรวาล แกแล็คซี่ บางแห่งสื่อความหมายเกี่ยวกับหายนะของโลกจากอาวุธนิวเคลียร์ และบางแห่งสื่อความหมายเกี่ยวกับผลร้ายของการทำลายสภาพแวดล้อม ในวันที่ 17 สิงหาคม 2001 นักวิจัยครอปเซอร์เคิลต้องตะลึงกับครอปเซอร์เคิลรูปแบบใหม่สองแห่งในทุ่งข้าวโพดใกล้กล้องโทรทรรศน์วิทยุ Chilbolton ที่ Hampshire อังกฤษ มันเป็นภาพกราฟิกของสัญญาณวิทยุที่ส่งจากโลกไปยังกลุ่มดาว M13 อีกแห่งหนึ่งเป็นภาพหน้าคนที่คล้ายภูเขาหน้าคนบนดาวอังคาร ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครบรอบปี ได้เกิดครอปเซอร์เคิลแบบนี้ขึ้นอีก มันคือครอปเซอร์เคิลที่แสดงภาพของ E.T. ห่างจากที่ตั้งกล้องโทรทรรศน์ Chilbolton ราว 9 ไมล์ในวันที่ 15 สิงหาคม 2002 สำหรับนักวิจัยแล้ว ความพยายามของพวกเขาไม่ไร้ผล นักวิจัยได้พบเบาะแสบางอย่างที่อาจคลี่คลายปริศนานี้ได้ นั่นคือการพบความผิดปกติในลำต้นของพืชในครอปเซอร์เคิล ที่พวกเขาอ้างว่าสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างของจริงกับที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ ครอปเซอร์เคิลของจริงนั้นลำต้นของพืชที่ล้มซึ่งอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 1 นิ้ว มีลักษณะโค้งงอไม่แตกหัก นอกจากนั้นโครงสร้างของเซลล์ (cell Pit) ยังเปลี่ยนแปลง คือเซลล์ขยายตัวเหมือนได้รับความร้อน ด๊อกเตอร์ วิลเลียม เลเวนกูด (William C. Levengood) เชื่อว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดครอปเซอร์เคิล มันต้องใช้พลังงานที่เร็วและหนาแน่นจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเซลล์ นักวิจัยเชื่อว่าพลังงานที่ว่านั้นน่าจะเป็นไมโครเวฟ ทฤษฎีนี้เรียกว่า Microwave Transient Heating นักวิจัยยังอ้างการศึกษาผลกระทบของพืชในครอปเซอร์เคิล เปรียบเทียบกับพืชที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งพบว่า เมล็ดพืชในครอปเซอร์เคิลมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วกว่าเมล็ดพืชบริเวณใกล้เคียงถึง 45 เปอร์เซ็นต์
คอลลิน แอนดริวส์ (Colin Andrews) ภาพจาก BBC มีอีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เป็นของด๊อกเตอร์ คอลลิน แอนดริวส์ (Colin Andrews) นักวิทยาศาสตร์อังกฤษซึ่งศึกษาครอปเซอร์เคิลมาเป็นเวลา 17 ปี ในปี 2000 แอนดริวเปิดเผยผลวิจัยซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ว่า ราว ๆ ร้อยละ 80 ของครอปเซอร์เคิลเป็นฝีมือของมนุษย์ ครอปเซอร์เคิลเหล่านี้ จะมีรูปทรงซับซ้อนและวิจิตรพิสดารส่วนที่เหลือซึ่งมีรูปทรงง่าย ๆ นั้น เขาเชื่อว่ามันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กในบริเวณนั้น ซึ่งทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าและกระแสไฟนี้เองเป็นตัวการทำให้พืชล้มลง งานวิจัยที่พบว่าครอปเซอร์เคิลบางแห่งทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นไมโครโฟน หรือเครื่องบันทึกเสียงถูกรบกวนจนใช้การไม่ได้ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นจะรู้สึกปวดศีรษะหรือมีอาการคลื่นไส้ สนับสนุนทฤษฎีนี้ นักวิจัยบางคนเชื่อว่ามันเกิดจากพลังงานที่ตกค้าง
แต่ในปี 2000 ชายชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยตนเองว่าเป็นผู้สร้างครอปเซอร์เคิลที่วิจิตรพิสดารหลายสิบแห่งในภาคใต้ของอังกฤษมากว่า 11 ปี พวกเขาเรียกตนเองว่า Circlemakers โดยใช้คอมพิวเตอร์ร่างรูปแบบก่อน พวกเขาได้รับเชิญจากสื่อมวลชนให้สาธิตการสร้างครอปเซอร์เคิลที่มีความซับซ้อนหลายครั้ง ซึ่งพวกเขาทำได้จริง ๆ และก็ไม่ได้ใช้ไมโครเวฟ ปัจจุบันพวกเขามีเว็บไซต์ที่แสดงผลงานและเสนอข่าวสารเกี่ยวกับครอปเซอร์เคิล ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่ามีทฤษฎีเดียวเท่านั้นที่จะอธิบายครอปเซอร์เคิลได้ นั่นคือ ทฤษฎีมนุษย์เป็นผู้สร้างแต่อย่างไรก็ตาม นักวิจัยครอปเซอร์เคิล ก็ยังเชื่อเหมือนกับแอนดริวว่ามันไม่ทั้งหมดที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของนักวิจัยหลายกลุ่มจึงยังดำเนินอยู่ต่อไป Circlemaker คนหนึ่งพูดถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีใครอยากเชื่อคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์หรอก เพราะผู้คนต้องการเชื่อสิ่งที่เป็นความลึกลับมากกว่า “สาธารณชนไม่ต้องการคำอธิบาย“ เขากล่าว
อ้างอิง
- วงข้าวโพดล้ม 2005-04-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wngthyphuch hrux wngkhawophdlm hrux khrxpesxrekhil xngkvs crop circle epnkhathiichxthibaythungrupaebbphuchthilmlng sungerimtncak khawophd odykhanirwmthung khawsali khawbarely thwehluxng wngkhawophdlmniphbidhlayaehngthwolkwngkhawophdlm hruxthiruckkninchuxwa khrxpesxrekhilprawtikhunhnunginpi 1972 n praethsxngkvs Arthur Shuttlewood kb Bryce Bond sumsxntwbriewneninekha ikl ephuxefadupraktkarnaesngprahlad sungekidkhuninaethbnnmananekuxbthswrrs echuxknwamnkhuxyuexfox khunnnthngsxngphidhwngemuximphbaesngprahlad aetidrbkarchdechydwyrxngrxybangxyangthixacekiywkhxngkn nnkhux phuchthilmepnwngklm sungtxmaeriykknwa Crop Circles sipitxmaineduxnknyayn 1976 Edwin Fuhr chawnaaehng Langenburg xangwa ehnyanrupodmsienginhlayla binxyuehnuxthungnahlngcakthiyanehlanicakipaelw ekhakphbkhrxpesxrekhilhlayaehnginbriewnnn nikhuxeruxngrawaerkerimkhxngpraktkarnwngklmphuchbnthxngthungkhxngxngkvs thiphukhnmakmayechuxwaepnhnunginprisnaluklbkhxngolkxyuthukwnni khrxpesxrekhil thukkhnphbkhrngaerkinpi 1678 thi xngkvs immiikhrxthibayidwaikhrhruxxairthaihmnekidkhun aethlngcakkarkhnphbkhxngchtetilwudkbbxndaelaefxraelw mnnaipsuthvsdiaerkkhuxrxngrxykarlngcxdkhxngyancaktangdaw tammadwythvsdixukkabataelathvsdiphayuthxrnaodkhnadelk inthswrrsthi 1980 idmikarkhnphbkhrxpesxrekhilmakkhun odyechphaarxb emuxng Warminster inchwngtnkhxngthswrrsnirupthrngkhxngmnkyngkhngehmuxnedim khuxepnwngklmhyab aetinklangthswrrsrupthrngkhxngmnsbsxnkhun khuxmiwngaehwnaetkxxkip aelamnerimdungdudickhnxngkvsmakkhun inthswrrsniexng dxketxr Terrence Meaden sastracarythangfisiksaelankxutuniymwithyaidphyayamikhprisnani odythakarwicykhrxpesxrekhilmakkwa 1 000 aehng miednesnxthvsdiwa khrxpesxrekhilekidcakkhwamphidpktikhxngxakasthiekhaeriykwa Plasma Vortex thaihekidlmhmunwninradbsungaelwekhluxntwlngsuphunthaihphuchaebnrab thvsdiniidrbkarsnbsnuncakphlkarthdlxngkhxngnkwithyasastryipunkhux sastracaryoxsuki Ohtsuki ekhaisphlasma plasma Fireballs lnginthadaepng phlpraktwamnthaihekidwngaehwnsxngchnrxbsunyklang pi 1991 idmikarkhnphbkhrxpesxrekhilhlayrxyaehnginxngkvs mnyngaephrrabadipineyxrmn shrthxemrika brasil ormaeniy hngkariaelayipun yingipkwannmnidepliynaeplngrupthrngihmepn Pictrogram esmuxnkarsuxkhwamhmaybangxyangdwyphaph rupaebbihmkhxngmnthaihthvsdiphumacaktangmitithiphyayamsuxsarkbmnusyerimkxtwkhun khwamsbsxnkhxngrupthrngkhrxpesxrekhil thaihthvsdiphlasmaimsamarthxthibayrupthrngniid inkhnathikhaklawxangeruxngaesngifprahladehnuxthxngthungyamduk aelwthaihekidkhrxpesxrekhilinrungxrunkhxngthvsdiyuexfox kyngichepnhlkthanimid aetmnkyngepnthvsdithiidrbkhwamsnicmakthisud inpiediywknniexng chaychawxngkvssxngkhnidxxkmaepidephykbhnngsuxphimphwa khrxpesxrekhilepneruxnghlxklwngmnekidcakfimuxkhxngmnusy edf khxrliaelaodf obewxr Dave Chorley and Doug Bower xangwaphwkekhaepnphusrangmnkhunmarwmaelwkwa 1 000 aehng tngaetpi 1978 odyichkhnad 4 fut aelaepnekhruxngmux inkhnaediywknkminkhlxklwngklumxun xxkptibtikarinyamkhakhunxyangediywkbphwkekhadwy nitysarithmchbbwnthi 23 knyayn 1991 phudthungeruxngniwa nikhuxkarnaipsucudcbkhxngeruxngsungepnhnunginkhwamluklbthisudkhxngxngkvsaelakhxngolkaelw xyangirktampraktkarnkhrxpesxrekhilkimidhayipphrxmkbkarephytwkhxngnkhlxklwngkhuni aetklbphungsungkhuninpitxmakhuxpi 1992 mnepnkhlunlukihmthimaphrxmkbkhwamslbsbsxnkhxngrupthrngerkhakhnit aelakhnadxnmhumahlayrxyfutinthungbarely aela thungkhawophd phrxm kbkaraephrrabadipkwa 10 praeths aelayngthaihtwelkhnkwicyephimsungkhun xikdanhnungmnkhuxsilpxnwicitrphisdarbnthxngthung sungphlitchangphaphmuxxachiphmakmay aelaepncuderimtnkhxngthurkicsingphimphekiywkbkhrxpesxrekhilthiefuxngfuxyuthukwnni cnthungpccubn mikhrxpesxrekhilekidkhuninchwngvdurxnthixngkvsrwmaelwpraman 10 000 aehng swnihyekidthangphakhit aela 90 epxresntxyuinrsmi 50 imlcaksotnehn Stonehenge khrxpesxrekhilbangaehng suxkhwamhmayekiywkbckrwal aekaelkhsi bangaehngsuxkhwamhmayekiywkbhaynakhxngolkcakxawuthniwekhliyr aelabangaehngsuxkhwamhmayekiywkbphlraykhxngkarthalaysphaphaewdlxm inwnthi 17 singhakhm 2001 nkwicykhrxpesxrekhiltxngtalungkbkhrxpesxrekhilrupaebbihmsxngaehnginthungkhawophdiklklxngothrthrrsnwithyu Chilbolton thi Hampshire xngkvs mnepnphaphkrafikkhxngsyyanwithyuthisngcakolkipyngklumdaw M13 xikaehnghnungepnphaphhnakhnthikhlayphuekhahnakhnbndawxngkhar yingipkwannemuxkhrbrxbpi idekidkhrxpesxrekhilaebbnikhunxik mnkhuxkhrxpesxrekhilthiaesdngphaphkhxng E T hangcakthitngklxngothrthrrsn Chilbolton raw 9 imlinwnthi 15 singhakhm 2002 sahrbnkwicyaelw khwamphyayamkhxngphwkekhaimirphl nkwicyidphbebaaaesbangxyangthixackhlikhlayprisnaniid nnkhuxkarphbkhwamphidpktiinlatnkhxngphuchinkhrxpesxrekhil thiphwkekhaxangwasamarthaeykaeyakhwamaetktangrahwangkhxngcringkbthimnusysrangkhunid khrxpesxrekhilkhxngcringnnlatnkhxngphuchthilmsungxyuehnuxphundinpraman 1 niw milksnaokhngngximaetkhk nxkcaknnokhrngsrangkhxngesll cell Pit yngepliynaeplng khuxesllkhyaytwehmuxnidrbkhwamrxn dxketxr wileliym elewnkud William C Levengood echuxwaimwaxairktamthithaihekidkhrxpesxrekhil mntxngichphlngnganthierwaelahnaaenncnthaihekidkarepliynaeplnginesll nkwicyechuxwaphlngnganthiwannnacaepnimokhrewf thvsdinieriykwa Microwave Transient Heating nkwicyyngxangkarsuksaphlkrathbkhxngphuchinkhrxpesxrekhil epriybethiybkbphuchthixyuiklekhiyngsungphbwa emldphuchinkhrxpesxrekhilmixtrakarecriyetiboterwkwaemldphuchbriewniklekhiyngthung 45 epxresnt khxllin aexndriws Colin Andrews phaphcak BBC mixikthvsdihnungthinasnicimaephkn epnkhxngdxketxr khxllin aexndriws Colin Andrews nkwithyasastrxngkvssungsuksakhrxpesxrekhilmaepnewla 17 pi inpi 2000 aexndriwepidephyphlwicysungidrbthunsnbsnuncakmulnithirxkkieflelxrwa raw rxyla 80 khxngkhrxpesxrekhilepnfimuxkhxngmnusy khrxpesxrekhilehlani camirupthrngsbsxnaelawicitrphisdarswnthiehluxsungmirupthrngngay nn ekhaechuxwamnekidcakkarepliynaeplngkhxngsnamaemehlkinbriewnnn sungthaihekidkraaesiffaaelakraaesifniexngepntwkarthaihphuchlmlng nganwicythiphbwakhrxpesxrekhilbangaehngthaihekhruxngichiffa echnimokhrofn hruxekhruxngbnthukesiyngthukrbkwncnichkarimid rwmthngphuthixyuinbriewnnncarusukpwdsirsahruxmixakarkhlunis snbsnunthvsdini nkwicybangkhnechuxwamnekidcakphlngnganthitkkhang aetinpi 2000 chaychawxngkvsklumhnungidxxkmaepidephytnexngwaepnphusrangkhrxpesxrekhilthiwicitrphisdarhlaysibaehnginphakhitkhxngxngkvsmakwa 11 pi phwkekhaeriyktnexngwa Circlemakers odyichkhxmphiwetxrrangrupaebbkxn phwkekhaidrbechiycaksuxmwlchnihsathitkarsrangkhrxpesxrekhilthimikhwamsbsxnhlaykhrng sungphwkekhathaidcring aelakimidichimokhrewf pccubnphwkekhamiewbistthiaesdngphlnganaelaesnxkhawsarekiywkbkhrxpesxrekhil thukwnninkwithyasastrswnihyechuxwamithvsdiediywethannthicaxthibaykhrxpesxrekhilid nnkhux thvsdimnusyepnphusrangaetxyangirktam nkwicykhrxpesxrekhil kyngechuxehmuxnkbaexndriwwamnimthnghmdthiekidcakfimuxmnusy nganwicythangwithyasastrkhxngnkwicyhlayklumcungyngdaeninxyutxip Circlemaker khnhnungphudthungeruxngniwa immiikhrxyakechuxkhaxthibaythangwithyasastrhrxk ephraaphukhntxngkarechuxsingthiepnkhwamluklbmakkwa satharnchnimtxngkarkhaxthibay ekhaklawxangxingwngkhawophdlm 2005 04 08 thi ewyaebkaemchchinduephimwngkt thrnisilp