ประวัติศาสตร์ลาว เริ่มตั้งแต่อาณาจักรล้านช้าง จนถึงสมัยสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
อาณาจักรล้านช้าง
ประวัติศาสตร์ยุคแรกๆ ของลาว เชื่อว่าอยู่ภายใต้การครอบครองของอาณาจักรน่านเจ้ามีตำนานโดยขุนบรม และขุนลอ มีลูกสืบหลานต่อๆ กันมา จนถึงรัชสมัยพระเจ้าฟ้างุ้มผู้รวบรวมอาณาจักรล้านช้างได้เป็นผลสำเร็จในช่วงสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 และมีกษัตริย์ปกครองสืบทอดต่อกันมาหลายพระองค์ ที่สำคัญ เช่น
- พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระองค์มีความสัมพันธไมตรีที่แนบแน่นกับกษัตริย์ไทย โดยเฉพาะในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
- พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช รัชสมัยของพระองค์นับเป็นยุคทองของราชอาณาจักรล้านช้าง ภายหลังเมื่อพระองค์สวรรคตแล้ว เชื้อพระวงศ์ลาวต่างก็แก่งแย่งราชสมบัติกัน จนอาณาจักรล้านช้างแตกแยกเป็น 3 ส่วนคือ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์และอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์
ความแตกแยกในอาณาจักรล้านช้าง
อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ และอาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์ ต่างเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กัน และเพื่อชิงความเป็นใหญ่ต่างก็ขอสวามิภักดิ์ต่อเมืองเพื่อนบ้านเช่นไทย พม่า เพื่อขอกำลังมาสยบอาณาจักรลาวด้วยกัน ในลักษณะนี้ในที่สุดอาณาจักรลาวทั้ง 3 แห่งนี้จะตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรสยามในปี ค.ศ. 1778
สงครามเจ้าอนุวงศ์
ค.ศ. 1826 อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์มีเจ้าอนุวงศ์เป็นกษัตริย์ ได้รับราชการกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งกรุงสยามมีความชอบมาก จึงประทานเมืองจำปาศักดิ์ให้ ราชโอรสของเจ้าอนุวงศ์ปกครอง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลต่อมา เจ้าอนุวงศ์เห็นว่าเป็นช่วงเปลี่ยนแผ่นดินจึงคิดแยกตัวเป็นอิสระไม่ขึ้นกับไทยอีกต่อไป จึงระดมกำลังรวมกับเจ้าราชบุตรโย้ซึ่งครองจำปาศักดิ์ยกทัพมาตีสยามทางด้านภาคอีสานของไทยในปัจจุบัน พร้อมทั้งแสวงหาพันธมิตรจากหลวงพระบางและหัวเมืองล้านนาแต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง เนื่องจากหัวเมืองดังกล่าวฝักใฝ่กับฝ่ายไทยมากกว่า เมื่อกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ยกทัพมาถึงเมืองนครราชสีมาเห็นจะทำการไม่สำเร็จจึงตัดสินใจเผาเมืองนครราชสีมาทิ้งและกวาดต้อนเชลยตามรายทางกลับไปเวียงจันทน์ ระหว่างทางเชลยที่ถูกกวาดต้อนก็ได้ลุกขึ้นต่อสู้กองทัพลาวที่ทุ่งสำริดจนเสียกำลังทหารลาวส่วนหนึ่งด้วย ด้านฝ่ายไทยซึ่งทราบข่าวค่อนข้างช้าก็ได้ส่งกองทัพภายใต้การนำของกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์และเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขึ้นมาปราบปราม กองทัพเจ้าอนุวงศ์สู้ไม่ได้จึงแตกพ่าย ตัวเจ้าอนุวงศ์และราชวงศ์เชื้อสายก็ต้องหนีภัยไปพึ่งจักรวรรดิเวียดนาม ฝ่ายสยามจึงยึดกรุงเวียงจันทน์ไว้โดยยังมิได้ทำลายเมืองลงแต่อย่างใด เป็นแต่แต่งกองทหารจำนวนหนึ่งรักษาเมืองไว้เท่านั้น[]
ในปี ค.ศ. 1828 เจ้าอนุวงศ์ได้กลับมายังกรุงเวียงจันทน์โดยมากับขบวนราชทูตเวียดนามพามาเพื่อขอสวามิภักดิ์สยามอีกครั้ง แต่พอสบโอกาสเจ้าอนุวงศ์จึงนำทหารของตนฆ่าทหารไทยที่รักษาเมืองจนเกือบทั้งหมดและยึดกรุงเวียงจันทน์คืน กองทัพสยามจึงถอนกำลังเพื่อรวบรวมกำลังพลและยกทัพมาปราบปรามเจ้าอนุวงศ์อีกครั้ง ฝ่ายเจ้าอนุวงศ์เมื่อสู้กองทัพไทยไม่ได้จึงไปหลบภัยที่เมืองพวน (แขวงเชียงขวางในปัจจุบัน) แต่เจ้าน้อยเมืองพวนกลับจับตัวเจ้าอนุวงศ์และพระราชวงศ์ที่เหลืออยู่ส่งลงมากรุงเทพ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระพิโรธเจ้าอนุวงศ์มากจึงทรงให้คุมขังเจ้าอนุวงศ์ประจานกลางพระนครจนสิ้นพระชนม์ ส่วนกรุงเวียงจันทน์ก็มีพระบรมราชโองการให้ทำลายจนไม่เหลือสภาพความเป็นเมือง และตั้งศูนย์กลางการปกครองฝ่ายไทยเพื่อดูแลอาณาเขตของอาณาจักรเวียงจันทน์ที่เมืองหนองคายแทน เมืองเวียงจันทน์ที่ถูกทำลายลงในครั้งนั้นมีเพียงแค่หอพระแก้วและวัดสีสะเกดเท่านั้นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบัน[]
สงครามเจ้าอนุวงศ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างราชอาณาจักรสยามและจักรวรรดิเวียดนาม จนกระทั่งเกิดสงครามที่เรียกว่า "อานามสยามยุทธ" เป็นระยะเวลาถึง 14 ปี เพราะทั้งสองอาณาจักรล้วนต้องการขยายอิทธิพลของตนเข้าไปในดินแดนลาวและเขมร ทั้งสงครามนี้ยังเป็นประวัติศาสตร์บาดแผลระหว่างไทยกับลาวสืบเนื่องต่อมาจนถึงปัจจุบัน[]
ลาวยุคอาณานิคมฝรั่งเศส
การขยายอำนาจของฝรั่งเศสสู่ลุ่มแม่น้ำโขง
ครั้นถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่19 ถึงช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ประเทศฝรั่งเศสเริ่มให้ความสนใจที่จะขยายอำนาจเข้ามาสู่ดินแดนในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อหาทางเข้าถึงดินแดนตอนใต้ของจีนเพื่อเปิดตลาดการค้าแห่งใหม่แข่งกับอังกฤษ ซึ่งสามารถยึดเวียดนามได้ก่อนหน้านั้นแล้ว โดยฝรั่งเศสเริ่มจากการยึดครองหรือเวียดนามใต้ก่อนในปี ค.ศ. 1859 รุกคืบเข้ามาสู่ดินแดนเขมรส่วนนอกซึ่งไทยปกครองในฐานะประเทศราชในปี ค.ศ. 1863 (ไทยตกลงยอมสละอำนาจเหนือเขมรส่วนนอกอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1867) จากนั้นจึงได้ขยายดินแดนในเวียดนามต่อจนกระทั่งสามารถยึดเวียดนามได้ทั้งประเทศในปี ค.ศ. 1883 พรมแดนของสยามทางด้านประเทศราชลาวจึงประชิดกับดินแดนอาณานิคมของฝรั่งเศสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในระยะเวลาเดียวกัน ในประเทศจีนได้เกิดเหตุการณ์กบฏไท่ผิงต่อต้านราชวงศ์ชิง กองกำลังกบฏชาวจีนฮ่อที่แตกพ่ายได้ถอยร่นมาตั้งกำลังซ่องสุมผู้คนอยู่ในแถบมณฑลยูนนานของจีน ดินแดนสิบสองจุไทย และตามแนวชายแดนประเทศราชลาวตอนเหนือ กองกำลังจีนฮ่อได้ทำการปล้นสะดมราษฏรตามแนวพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง สร้างปัญหาต่อการปกครองของทั้งฝ่ายไทยและฝรั่งเศสอย่างยิ่ง เพราะส่งกำลังไปปราบปรามหลายครั้งก็ยังไม่สงบ เฉพาะกับอาณาจักรหลวงพระบางนั้น ทางกรุงเทพถึงกับต้องปลดพระเจ้ามหินทรเทพนิภาธร เจ้าผู้ครองนครหลวงพระบางออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่สามารถรักษาเมืองและปล่อยให้กองทัพฮ่อเข้าปล้นสะดมและเผาเมืองหลวงพระบางลง และตั้งเจ้าคำสุกขึ้นเป็นพระเจ้าสักรินทรฤทธิ์ปกครองดินแดนแทน
ไทย (หรือสยามในเวลานั้น)จึงร่วมกับฝรั่งเศสปราบฮ่อจนสำเร็จ โดยทั้งสองฝ่ายไล่ตีกองกำลังจีนฮ่อจากอาณาเขตของแต่ละฝ่ายให้มาบรรจบกันที่เมืองแถง (เดียนเบียนฟูในปัจจุบัน) แต่ก็เกิดปัญหาใหม่ คือ ฝ่ายฝรั่งเศสฉวยโอกาสอ้างสิทธิปกครองเมืองแถงและสิบสองจุไทย โดยไม่ยอมถอนกำลังทหารออกจากเมืองแถงเพราะอ้างว่าเมืองนี้เคยส่งส่วยให้เวียดนามมาก่อน ปัญหาดังกล่าวนี้มีที่มาจากภาวะการเป็นเมืองสองฝ่ายฟ้าของเมืองปลายแดน ซึ่งจะส่งส่วยให้แก่รัฐใหญ่ทุกรัฐที่มีอิทธิพลของตนเองเพื่อความอยู่รอด
พระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) แม่ทัพฝ่ายไทย เห็นว่าถ้าตกลงกับฝรั่งเศสไม่ได้จะทำให้ปัญหาโจรฮ่อบานปลายแก้ยาก จึงตัดสินใจทำสัญญากับฝรั่งเศสในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1888 ให้ฝ่ายไทยตั้งกำลังทหารที่เมืองพวน (เชียงขวาง) ฝรั่งเศสตั้งกำลังทหารที่สิบสองจุไทย ส่วนเมืองแถงเป็นเขตกลางให้มีทหารของทั้งสองฝ่ายดูแลจนกว่ารัฐบาลทั้งสองชาติจะเจรจาเรื่องปักปันเขตแดนได้ ผลจากสนธิสัญญานี้แม้จะทำให้ฝ่ายไทยร่วมมือปราบฮ่อกับฝรั่งเศสจนสำเร็จ และสามารถยุติความขัดแย้งเรื่องแคว้นสิบสองจุไทย เมืองพวน และยุติลงไปชั่วคราว แต่ก็ต้องเสียดินแดนสิบสองจุไทยโดยปริยายไป
วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112
ดินแดนลาวทั้งหมดก็เปลี่ยนไปตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ ประเทศฝรั่งเศส จากการใช่เล่ห์เหลี่ยมของโอกุสต์ ปาวี กงสุลฝรั่งเศส โดยการใช้เรือรบมาปิดอ่าวไทยเพื่อบังคับให้ยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง รวมทั้งดินแดนอื่น ๆ ลาวถูกรวมเข้าเป็นอินโดจีนของฝรั่งเศส เมื่อ ค.ศ. 1893
กรณีพิพาทอินโดจีน
หลังฝรั่งเศสแพ้ต่อนาซีเยอรมนีในช่วงสงครามโลก พลตรี แปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีของไทย ตัดสินใจว่าความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสจะยิ่งให้ไทยมีโอกาสทวงดินแดนที่เคยเสียไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกลับคืนมามากกว่า การปกครองอาณานิคมของอินโดจีนฝรั่งเศสถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือและกำลังบำรุงจากภายนอก และหลังจากการบุกครองอินโดจีนของญี่ปุ่นเมื่อเดือนกันยายน 1940 ซึ่งฝรั่งเศสถูกบีบให้อนุญาตให้ญี่ปุ่นตั้งฐานทัพ เป็นการชวนให้รัฐบาลแปลกเชื่อว่าวิชีฝรั่งเศสจะไม่สามารถต้านทานการเผชิญหน้ากับไทยอย่างจริงจังได้ รัฐบาลไทยจึงได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลฝรั่งเศสให้ถือเอาร่องแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน และขอให้ฝรั่งเศสรับรองว่าถ้าฝรั่งเศสไม่สามารถปกป้องได้ ก็คืนลาวและกัมพูชาให้แก่ไทย
การสู้รบดำเนินมาจนวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1941 ญี่ปุ่นเกรงว่าการสู้รบครั้งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อนโยบายของญี่ปุ่นจึงเสนอตัวเข้ามาไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่ายจำต้องยินยอม จนในที่สุดการไกล่เกลี่ยผลปรากฏว่าไทยได้ดินแดนที่เป็นข้อพิพาทกลับคืนมา
ขบวนการลาวอิสระ และเส้นทางสู่เอกราชของลาว
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้รุกเข้ามาในลาวและดินแดนอินโดจีนฝรั่งเศสอื่นๆ เมื่อญี่ปุ่นใกล้แพ้สงคราม ขบวนการลาวอิสระซึ่งเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อกู้เอกราชลาวในเวลานั้นประกาศเอกราชให้ประเทศลาวเป็นประเทศ ราชอาณาจักรลาว หลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม ฝรั่งเศสก็กลับเข้ามามีอำนาจในอินโดจีนอีกครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากการที่เวียดมินห์ปลดปล่อยเวียดนามได้ จึงเป็นการสั่นคลอนอำนาจฝรั่งเศสจนยอมให้ลาวประกาศเอกราชบางส่วนในปี ค.ศ. 1949 และได้เอกราชสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1953 ภายหลังฝรั่งเศสรบแพ้เวียดนามที่เดียนเบียนฟู ผู้ที่มีบทบาทในการประกาศเอกราชคือ เจ้าสุวรรณภูมา เจ้าเพชรราช และ เจ้าสุภานุวงศ์ โดยมีเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ามหาชีวิต (พระมหากษัตริย์) จากอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบางเดิม และได้รวมทั้ง 3 อาณาจักรคือ ล้านช้างหลวงพระบาง ล้านช้างเวียงจันทน์ และ ล้านช้างจำปาศักดิ์ เข้าด้วยกันเป็นราชอาณาจักรลาว
ราชอาณาจักรลาวและสงครามกลางเมือง
ค.ศ. 1959 เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์เสด็จสวรรคต เจ้าสว่างวัฒนาจึงขึ้นครองราชย์เป็นเจ้ามหาชีวิตแทน เหตุการณ์ในลาวยุ่งยากมาก เจ้าสุภานุวงศ์ 1 ในคณะลาวอิสระประกาศตนว่าเป็นพวกฝ่ายซ้ายนิยมคอมมิวนิสต์ และเป็นหัวหน้าขบวนการประเทศลาว ได้ออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองในป่า เนื่องจากถูกฝ่ายขวาในลาวคุกคามอย่างหนัก ถึงปี 1961 ร้อยเอกกองแลทำการรัฐประหาร รัฐบาลเจ้าสุวรรณภูมา แต่ถูกกองทัพฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายรุมจนพ่ายแพ้ กองแลต้องลี้ภัยไปสหรัฐจนถึงปัจจุบัน
เหตุการณ์ทางการเมืองในระยะเวลาไม่นานหลังจากนั้นบังคับให้ลาวต้องตกอยู่ท่ามกลางสงครามอินโดจีนครั้งที่สอง ซึ่งรุนแรงยิ่งกว่าครั้งแรก และเป็นปัจจัยก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองและรัฐประหารหลายครั้งด้วยกัน จนถึงปี ค.ศ. 1975 พรรคประชาชนปฏิวัติลาวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต และคอมมิวนิสต์เวียดนามโดยการนำของ เจ้าสุภานุวงศ์ ก็ล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของเจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาสำเร็จ จึงนำเจ้ามหาชีวิตและมเหสีไปคุมขังในค่ายกักกันจนสิ้นพระชนม์ และสถาปนาประเทศลาวเป็น "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" ในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1975
สมัยสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
สภาพการปกครอง และการบริหารด้านเศรษฐกิจของลาวเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นในระยะหลังของคริสต์ทศวรรษ 1980 ต่อมาเมื่อเจ้าสุภานุวงศ์สละตำแหน่งจากประธาน ผู้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศต่อจากเจ้าสุภานุวงศ์คือ นายไกสอน พมวิหาน และเมื่อท่านไกสอนถึงแก่กรรมกะทันหัน นายหนูฮัก พูมสะหวัน ก็ได้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศต่อมา ยุคนี้ลาวกับไทยเปิดสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ในปี ค.ศ. 1995 ต่อมานายหนูฮักสละตำแหน่ง นายคำไต สีพันดอน รับดำรงตำแหน่งประธานประเทศต่อ จนถึงปี ค.ศ. 2006 นายคำไตลงจากตำแหน่ง นายจูมมะลี ไซยะสอน จึงเป็นผู้รับตำแหน่งประธานประเทศลาวคนปัจจุบัน
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
prawtisastrlaw erimtngaetxanackrlanchang cnthungsmysatharnrthprachathipityprachachnlawxanackrlanchangprawtisastryukhaerk khxnglaw echuxwaxyuphayitkarkhrxbkhrxngkhxngxanackrnanecamitananodykhunbrm aelakhunlx miluksubhlantx knma cnthungrchsmyphraecafangumphurwbrwmxanackrlanchangidepnphlsaercinchwngsmykhriststwrrsthi 14 aelamikstriypkkhrxngsubthxdtxknmahlayphraxngkh thisakhy echn phraecaichyechsthathirach phraxngkhmikhwamsmphnthimtrithiaenbaennkbkstriyithy odyechphaainrchsmysmedcphramhackrphrrdi phraecasuriywngsathrrmikrach rchsmykhxngphraxngkhnbepnyukhthxngkhxngrachxanackrlanchang phayhlngemuxphraxngkhswrrkhtaelw echuxphrawngslawtangkaekngaeyngrachsmbtikn cnxanackrlanchangaetkaeykepn 3 swnkhux xanackrlanchanghlwngphrabang xanackrlanchangewiyngcnthnaelaxanackrlanchangcapaskdiphrabrmrachanusawriyphraecaichyechsthathirach hnaphrathatuhlwng nkhrhlwngewiyngcnthnkhwamaetkaeykinxanackrlanchangxanackrlanchanghlwngphrabang xanackrlanchangewiyngcnthn aelaxanackrlanchangcapaskdi tangepnxisraimkhunaekkn aelaephuxchingkhwamepnihytangkkhxswamiphkditxemuxngephuxnbanechnithy phma ephuxkhxkalngmasybxanackrlawdwykn inlksnaniinthisudxanackrlawthng 3 aehngnicatkepnemuxngkhunkhxngxanackrsyaminpi kh s 1778sngkhramecaxnuwngskh s 1826 xanackrlanchangewiyngcnthnmiecaxnuwngsepnkstriy idrbrachkarkbphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyaehngkrungsyammikhwamchxbmak cungprathanemuxngcapaskdiih rachoxrskhxngecaxnuwngspkkhrxng txmaemuxphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyesdcswrrkht phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwesdckhunethlingthwlyrachsmbtiepnphramhakstriyrchkaltxma ecaxnuwngsehnwaepnchwngepliynaephndincungkhidaeyktwepnxisraimkhunkbithyxiktxip cungradmkalngrwmkbecarachbutroysungkhrxngcapaskdiykthphmatisyamthangdanphakhxisankhxngithyinpccubn phrxmthngaeswnghaphnthmitrcakhlwngphrabangaelahwemuxnglannaaetkimidrbkartxbsnxng enuxngcakhwemuxngdngklawfkifkbfayithymakkwa emuxkxngthphkhxngecaxnuwngsykthphmathungemuxngnkhrrachsimaehncathakarimsaerccungtdsinicephaemuxngnkhrrachsimathingaelakwadtxnechlytamraythangklbipewiyngcnthn rahwangthangechlythithukkwadtxnkidlukkhuntxsukxngthphlawthithungsaridcnesiykalngthharlawswnhnungdwy danfayithysungthrabkhawkhxnkhangchakidsngkxngthphphayitkarnakhxngkrmphrarachwngbwrmhaskdiphlesphyaelaecaphrayabdinthredcha singh singhesni khunmaprabpram kxngthphecaxnuwngssuimidcungaetkphay twecaxnuwngsaelarachwngsechuxsayktxnghniphyipphungckrwrrdiewiydnam faysyamcungyudkrungewiyngcnthniwodyyngmiidthalayemuxnglngaetxyangid epnaetaetngkxngthharcanwnhnungrksaemuxngiwethann txngkarxangxing inpi kh s 1828 ecaxnuwngsidklbmayngkrungewiyngcnthnodymakbkhbwnrachthutewiydnamphamaephuxkhxswamiphkdisyamxikkhrng aetphxsboxkasecaxnuwngscungnathharkhxngtnkhathharithythirksaemuxngcnekuxbthnghmdaelayudkrungewiyngcnthnkhun kxngthphsyamcungthxnkalngephuxrwbrwmkalngphlaelaykthphmaprabpramecaxnuwngsxikkhrng fayecaxnuwngsemuxsukxngthphithyimidcungiphlbphythiemuxngphwn aekhwngechiyngkhwanginpccubn aetecanxyemuxngphwnklbcbtwecaxnuwngsaelaphrarachwngsthiehluxxyusnglngmakrungethph phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwthrngphraphiorthecaxnuwngsmakcungthrngihkhumkhngecaxnuwngspracanklangphrankhrcnsinphrachnm swnkrungewiyngcnthnkmiphrabrmrachoxngkarihthalaycnimehluxsphaphkhwamepnemuxng aelatngsunyklangkarpkkhrxngfayithyephuxduaelxanaekhtkhxngxanackrewiyngcnthnthiemuxnghnxngkhayaethn emuxngewiyngcnthnthithukthalaylnginkhrngnnmiephiyngaekhhxphraaekwaelawdsisaekdethannthiyngkhngsphaphsmburnmacnthungpccubn txngkarxangxing sngkhramecaxnuwngsthiekidkhuninewlann txmaidklayepnswnhnungkhxngkhwamkhdaeyngrahwangrachxanackrsyamaelackrwrrdiewiydnam cnkrathngekidsngkhramthieriykwa xanamsyamyuthth epnrayaewlathung 14 pi ephraathngsxngxanackrlwntxngkarkhyayxiththiphlkhxngtnekhaipindinaednlawaelaekhmr thngsngkhramniyngepnprawtisastrbadaephlrahwangithykblawsubenuxngtxmacnthungpccubn txngkarxangxing lawyukhxananikhmfrngesskarkhyayxanackhxngfrngesssulumaemnaokhng aephnthikaresiydinaednkhxngithyihaekchatitawntk khrnthungchwngkhriststwrrsthi19 thungchwngtnkhriststwrrsthi 20 praethsfrngesserimihkhwamsnicthicakhyayxanacekhamasudinaedninaethblumaemnaokhng ephuxhathangekhathungdinaedntxnitkhxngcinephuxepidtladkarkhaaehngihmaekhngkbxngkvs sungsamarthyudewiydnamidkxnhnannaelw odyfrngesserimcakkaryudkhrxnghruxewiydnamitkxninpi kh s 1859 rukkhubekhamasudinaednekhmrswnnxksungithypkkhrxnginthanapraethsrachinpi kh s 1863 ithytklngyxmslaxanacehnuxekhmrswnnxkxyangepnthangkarinpi kh s 1867 caknncungidkhyaydinaedninewiydnamtxcnkrathngsamarthyudewiydnamidthngpraethsinpi kh s 1883 phrmaednkhxngsyamthangdanpraethsrachlawcungprachidkbdinaednxananikhmkhxngfrngessxyanghlikeliyngimid inrayaewlaediywkn inpraethscinidekidehtukarnkbtithphingtxtanrachwngsching kxngkalngkbtchawcinhxthiaetkphayidthxyrnmatngkalngsxngsumphukhnxyuinaethbmnthlyunnankhxngcin dinaednsibsxngcuithy aelatamaenwchayaednpraethsrachlawtxnehnux kxngkalngcinhxidthakarplnsadmrastrtamaenwphunthidngklawxyangtxenuxng srangpyhatxkarpkkhrxngkhxngthngfayithyaelafrngessxyangying ephraasngkalngipprabpramhlaykhrngkyngimsngb echphaakbxanackrhlwngphrabangnn thangkrungethphthungkbtxngpldphraecamhinthrethphniphathr ecaphukhrxngnkhrhlwngphrabangxxkcaktaaehnng enuxngcakimsamarthrksaemuxngaelaplxyihkxngthphhxekhaplnsadmaelaephaemuxnghlwngphrabanglng aelatngecakhasukkhunepnphraecaskrinthrvththipkkhrxngdinaednaethn ithy hruxsyaminewlann cungrwmkbfrngessprabhxcnsaerc odythngsxngfayiltikxngkalngcinhxcakxanaekhtkhxngaetlafayihmabrrcbknthiemuxngaethng ediynebiynfuinpccubn aetkekidpyhaihm khux fayfrngesschwyoxkasxangsiththipkkhrxngemuxngaethngaelasibsxngcuithy odyimyxmthxnkalngthharxxkcakemuxngaethngephraaxangwaemuxngniekhysngswyihewiydnammakxn pyhadngklawnimithimacakphawakarepnemuxngsxngfayfakhxngemuxngplayaedn sungcasngswyihaekrthihythukrththimixiththiphlkhxngtnexngephuxkhwamxyurxd phrayasurskdimntri ecim aesng chuot aemthphfayithy ehnwathatklngkbfrngessimidcathaihpyhaocrhxbanplayaekyak cungtdsinicthasyyakbfrngessinwnthi 22 thnwakhm kh s 1888 ihfayithytngkalngthharthiemuxngphwn echiyngkhwang frngesstngkalngthharthisibsxngcuithy swnemuxngaethngepnekhtklangihmithharkhxngthngsxngfayduaelcnkwarthbalthngsxngchaticaecrcaeruxngpkpnekhtaednid phlcaksnthisyyaniaemcathaihfayithyrwmmuxprabhxkbfrngesscnsaerc aelasamarthyutikhwamkhdaeyngeruxngaekhwnsibsxngcuithy emuxngphwn aelayutilngipchwkhraw aetktxngesiydinaednsibsxngcuithyodypriyayip wikvtkarn r s 112 dinaednlawthnghmdkepliyniptkxyuphayitxiththiphlkhxng praethsfrngess cakkarichelhehliymkhxngoxkust pawi kngsulfrngess odykaricheruxrbmapidxawithyephuxbngkhbihykdinaednfngsayaemnaokhng rwmthngdinaednxun lawthukrwmekhaepnxinodcinkhxngfrngess emux kh s 1893 krniphiphathxinodcin hlngfrngessaephtxnasieyxrmniinchwngsngkhramolk phltri aeplk phibulsngkhram naykrthmntrikhxngithy tdsinicwakhwamphayaephkhxngfrngesscayingihithymioxkasthwngdinaednthiekhyesiyipinrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwklbkhunmamakkwa karpkkhrxngxananikhmkhxngxinodcinfrngessthuktdkhadcakkhwamchwyehluxaelakalngbarungcakphaynxk aelahlngcakkarbukkhrxngxinodcinkhxngyipunemuxeduxnknyayn 1940 sungfrngessthukbibihxnuyatihyipuntngthanthph epnkarchwnihrthbalaeplkechuxwawichifrngesscaimsamarthtanthankarephchiyhnakbithyxyangcringcngid rthbalithycungidyunkhxesnxtxrthbalfrngessihthuxexarxngaemnaokhngepnesnknphrmaedn aelakhxihfrngessrbrxngwathafrngessimsamarthpkpxngid kkhunlawaelakmphuchaihaekithy karsurbdaeninmacnwnthi 28 mkrakhm kh s 1941 yipunekrngwakarsurbkhrngnicaepnxupsrrkhtxnoybaykhxngyipuncungesnxtwekhamaiklekliythngsxngfaycatxngyinyxm cninthisudkariklekliyphlpraktwaithyiddinaednthiepnkhxphiphathklbkhunma khbwnkarlawxisra aelaesnthangsuexkrachkhxnglaw inchwngsngkhramolkkhrngthi 2 kxngthphyipunidrukekhamainlawaeladinaednxinodcinfrngessxun emuxyipuniklaephsngkhram khbwnkarlawxisrasungekhluxnihwthangkaremuxngephuxkuexkrachlawinewlannprakasexkrachihpraethslawepnpraeths rachxanackrlaw hlngyipunaephsngkhram frngesskklbekhamamixanacinxinodcinxikkhrnghnung aetenuxngcakkarthiewiydminhpldplxyewiydnamid cungepnkarsnkhlxnxanacfrngesscnyxmihlawprakasexkrachbangswninpi kh s 1949 aelaidexkrachsmburninpi kh s 1953 phayhlngfrngessrbaephewiydnamthiediynebiynfu phuthimibthbathinkarprakasexkrachkhux ecasuwrrnphuma ecaephchrrach aela ecasuphanuwngs odymiecamhachiwitsriswangwngs darngtaaehnngepnecamhachiwit phramhakstriy cakxanackrlanchanghlwngphrabangedim aelaidrwmthng 3 xanackrkhux lanchanghlwngphrabang lanchangewiyngcnthn aela lanchangcapaskdi ekhadwyknepnrachxanackrlawrachxanackrlawaelasngkhramklangemuxngkh s 1959 ecamhachiwitsriswangwngsesdcswrrkht ecaswangwthnacungkhunkhrxngrachyepnecamhachiwitaethn ehtukarninlawyungyakmak ecasuphanuwngs 1 inkhnalawxisraprakastnwaepnphwkfaysayniymkhxmmiwnist aelaepnhwhnakhbwnkarpraethslaw idxxkipekhluxnihwthangkaremuxnginpa enuxngcakthukfaykhwainlawkhukkhamxyanghnk thungpi 1961 rxyexkkxngaelthakarrthprahar rthbalecasuwrrnphuma aetthukkxngthphfaykhwaaelafaysayrumcnphayaeph kxngaeltxngliphyipshrthcnthungpccubn ehtukarnthangkaremuxnginrayaewlaimnanhlngcaknnbngkhbihlawtxngtkxyuthamklangsngkhramxinodcinkhrngthisxng sungrunaerngyingkwakhrngaerk aelaepnpccykxihekidsngkhramklangemuxngaelarthpraharhlaykhrngdwykn cnthungpi kh s 1975 phrrkhprachachnptiwtilawsungidrbkarsnbsnuncakshphaphosewiyt aelakhxmmiwnistewiydnamodykarnakhxng ecasuphanuwngs klmlangrthbalprachathipityodymiphramhakstriyepnpramukhkhxngecamhachiwitswangwthna sungidrbkarsnbsnuncakrthbalfrngessaelashrthxemrikasaerc cungnaecamhachiwitaelamehsiipkhumkhnginkhaykkkncnsinphrachnm aelasthapnapraethslawepn satharnrthprachathipityprachachnlaw inwnthi 2 thnwakhm kh s 1975smysatharnrthprachathipityprachachnlawsphaphkarpkkhrxng aelakarbrihardanesrsthkickhxnglawerimphxnkhlaymakkhuninrayahlngkhxngkhristthswrrs 1980 txmaemuxecasuphanuwngsslataaehnngcakprathan phudarngtaaehnngprathanpraethstxcakecasuphanuwngskhux nayiksxn phmwihan aelaemuxthaniksxnthungaekkrrmkathnhn nayhnuhk phumsahwn kiddarngtaaehnngprathanpraethstxma yukhnilawkbithyepidsaphanmitrphaph ithy law inpi kh s 1995 txmanayhnuhkslataaehnng naykhait siphndxn rbdarngtaaehnngprathanpraethstx cnthungpi kh s 2006 naykhaitlngcaktaaehnng naycummali isyasxn cungepnphurbtaaehnngprathanpraethslawkhnpccubnduephimladbkstriylaw prathanpraethslaw naykrthmntrilaw bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk