สมเด็จเจ้ามหาอุปราชเพชราช รัตนวงศา (ลาว: ເພັດຊະລາດ ລັດຕະນະວົງສາ; 19 มกราคม พ.ศ. 2443 - 14 ตุลาคม พ.ศ. 2502) วีรบุรุษของชาวลาว ผู้ทรงจัดตั้งรัฐบาลลาวอิสระเพื่อปลดแอกจากการปกครองของฝรั่งเศส และรวมแผ่นดินลาวทั้งหมดให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงเป็นพระมหาอุปราชพระองค์เดียวในประวัติศาสตร์ของประเทศลาวในสมัยประเทศลาวยังเป็นพระราชอาณาจักรลาว และทรงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของลาวในช่วง พ.ศ. 2485 - 2488 ทรงได้รับการนับถือจากชาวลาวเป็นอย่างมากตราบจนถึงทุกวันนี้
สมเด็จเจ้ามหาอุปราช เพชรราช รัตนวงศา | |
---|---|
พระมหาอุปราชลาว | |
ดำรงพระยศ ครั้งที่ 1 | ไม่ปรากฏ – 12 ตุลาคม ค.ศ. 1945 |
ก่อนหน้า | เจ้ามหาอุปราชบุญคง |
ถัดไป | พระองค์เอง |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ |
ดำรงพระยศ ครั้งที่ 2 | 16 เมษายน ค.ศ. 1957 – 14 ตุลาคม ค.ศ. 1959 |
ก่อนหน้า | พระองค์เอง |
ถัดไป | ยกเลิกพระอิสริยยศ |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ |
ประมุขแห่งรัฐลาว | |
ดำรงตำแหน่ง 12 ตุลาคม ค.ศ. 1945 – 24 เมษายน ค.ศ. 1946 | |
นายกรัฐมนตรี | พระยาคำม้าว วิไล |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ (ในฐานะกษัตริย์) |
ถัดไป | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ (ในฐานะกษัตริย์) |
นายกรัฐมนตรีลาว คนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 21 สิงหาคม ค.ศ. 1941 – 10 ตุลาคม ค.ศ. 1945 | |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | พระยาคำม้าว วิไล |
ประสูติ | 19 มกราคม ค.ศ. 1890 วังหน้า หลวงพระบาง อาณาจักรหลวงพระบาง อินโดจีนของฝรั่งเศส |
ทิวงคต | 14 ตุลาคม ค.ศ. 1959 วังเชียงแก้ว หลวงพระบาง พระราชอาณาจักรลาว | (69 ปี)
พระชายา | เจ้าหญิงคำแว่น |
หม่อม | ศรี อภิณพร ยงใจยุทธ |
พระราชบุตร | เจ้าหญิงคำผิว เพชรราช เจ้าหญิงคำจันทร์ เพชรราช เจ้าสุริยราช เพชรราช เจ้าหญิงอรุณา เพชรราช เจ้าอุ่นแก้ว เพชรราช |
ราชวงศ์ | ล้านช้างร่มขาว |
ราชสกุล | รัตนวงศา |
พระราชบิดา | เจ้ามหาอุปราชบุญคง |
พระราชมารดา | เจ้าหญิงทองศรี |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
อาชีพ | ข้าราชการ นักการเมือง |
พรรคการเมือง | ลาวอิสระ (ค.ศ. 1945–1946) |
ประวัติ
เจ้าเพชรราช ประสูติ ณ ตำหนักวังหน้า นครหลวงพระบาง เมื่อวันอาทิตย์ เดือนยี่ แรม 9 ค่ำ ปีฉลู จุลศักราช 1251 เวลา 11.55 น. ตรงกับวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2433 ( ค.ศ.1890 ) เป็นโอรสองค์ที่ 3 ของเจ้ามหาอุปราชบุญคง ซึ่งสืบตระกูลมาจากเจ้ามหาอุปราชอุ่นแก้วซึ่งเป็นต้นตระกูลเดิม เมื่ออายุได้ 7 ปีกว่าจึงเริ่มเรียนหนังสือลาวและหนังสือสยามและภาษาฝรั่งเศส พร้อมๆกับการติดสอยตามพระบิดาไปตรวจงานหัวเมืองเสมอ ปี พ.ศ. 2442 ผนวชเป็นสามเณรที่วัดธาตุหลวงเรียนภาษาบาลี ปี พ.ศ. 2447 ได้เสด็จไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ที่โรงเรียนโกโลนิยาล (Colonial) ซึ่งเป็นร.ร.ที่ฝรั่งเศสตั้งขึ้นเพื่ออบรมผู้ที่จะไปเป็นข้าราชการปกครองในประเทศหัวเมืองขึ้น ต่อมาเข้าโรงเรียนมัธยมมงเตเยอ แผนกวิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ ในระหว่างปิดเทอมได้ข้ามไปพักในอังกฤษ อาศัยอยู่กับมิสเตอร์เลนน อาจารย์สอนดาราศาสตร์จึงทำให้เกิดสนใจในดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ตั้งแต่นั้นมา ต่อมาได้แต่งหลักคำนวณปฏิทินลาวไว้ด้วย พระองค์ศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมเซนต์หลุยส์ถึงปี 2453 เสด็จกลับมาผนวชเป็นพระภิกษุที่วัดหนองสระแก้วตามประเพณี เมื่อลาผนวชแล้ว เข้ารับราชการเป็นผู้ร่างหนังสืออยู่กองคลัง หลวงพระบาง
พระองค์อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงคำแว่น พระพี่นางเธอของเจ้าศรีสว่างวงศ์ ซึ่งตกพุ่มหม้ายและมีอายุมากกว่าหลายปี ทั้งนี้ว่ากันว่าเป็นการประสานรอยร้าวระหว่างราชวงศ์หลวงพระบางสายเจ้ามันธาตุราชกับสายเจ้าอุ่นแก้ว (ตระกูลวังหน้ากับตระกูลวังหลัง) มีพระโอรสและพระธิดา 3 องค์ คือ (เสียชีวิต) (สามีเป็นชาวฝรั่งเศส) และ
ขณะรับตำแหน่งผู้ตรวจราชการหัวเมืองลาวที่นครเวียงจันทน์ ได้อนุชายา ชื่อนางศรี (ชาวเวียงจันทน์) บุตรธิดา 2 คน ได้แก่ (เจ้านา) เพชรราช และ (เจ้าแก้ว) เพชรราช (ภายหลังเมื่อสิ้นเจ้าเพชรราชแล้ว ทั้งสองท่านนี้ได้ตามหม่อมอภิณพร รัตนวงศามาอยู่ในเมืองไทย เจ้านาเรียนพยาบาล และเจ้าแก้วรับราชการทหาร)
พ.ศ. 2489 เมื่อต้องทรงลี้ภัยทางการเมืองเข้ามาอยูในประเทศไทย พร้อมรัฐบาลลาวอิสระและประชาชนเมืองลาวผู้รักอิสรภาพหลายพันคนเป็นเวลานานถึง 11 ปี ขณะพำนักลี้ภัยในประเทศไทย มีคุณอภิณพร ยงใจยุทธเป็นแม่บ้าน ต่อมาได้สมรสกับคุณอภิณพรเปลี่ยนเป็นหม่อมอภิณพร รัตนวงศา (นามสกุล “รัตนวงศา” ทรงตั้งขึ้นเองเมื่ออยู่ในเมืองไทย สืบเนื่องจากพระมหาอุปราชอุ่นแก้วพระปัยกา) หม่อมอภิณพรฯ เป็นกำลังสำคัญของการปฏิบัติการกู้ชาติ ผู้ทำหน้าที่แม่บ้านปกครองดูแลผู้คนจำนวนมาก เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานกับรัฐบาลไทย บริหารการจัดการเงินจัดหาค่าใช้จ่าย เป็นเลขานุการส่วนพระองค์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนพระองค์เจ้าเพชรราช เจรจาการเมืองและ เรื่องส่วนพระองค์ ทั้งในและนอกราชอาณาจักรไทย ไปพนมเปญ ไปย่างกุ้ง เพื่อทำความเข้าใจร่วมระหว่างลาวเขมรญวนและพม่าที่ต่างมุ่งล้างอิทธิพลชาวผิวขาวด้วยกัน
พ.ศ. 2490 รัฐบาลฝรั่งเศสยินยอมให้ประเทศลาวเป็นเอกราชในเครือสหพันธ์ฝรั่งเศส เจ้าเพชรราชทรงไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าเอกราชนั้นไม่สมบูรณ์ จึงทรงวางมือทางการเมืองไม่เข้ากับฝ่ายใด เพราะเจ้าสุวรรณภูมา พระอนุชาองค์ที่ 1 เข้ากับฝรั่งเศส, เจ้าสุภานุวงศ์ อนุชา องค์ที่ 2 เข้ากับเวียดนามเหนือ, รัฐบาลไทยโดยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี รับรองรัฐบาลลาวตามนโยบายการเมืองที่จำเป็น
ขณะที่ประทับในเมืองไทยนับแต่วางมือจากการเมือง และหายจากโรคกระเพาะอาหารที่ต้องรับการผ่าตัด จึงหันหน้าเข้าป่าล่าเนื้อกับบรรดาเจ้านายไทยและข้าราชการไทยผู้ที่ชอบกีฬาล่าเนื้อเหมือนกัน จนเป็นที่รักชอบกัน
พ.ศ. 2499 เสด็จเจ้าสุวรรณภูมา ได้ทูลเชิญเจ้าเพชรราชกลับเพื่อแก้ปัญหายุ่งยากในประเทศ และได้เสด็จกลับในวันที่ 22 มีนาคม 2500 โดยทางรถไฟจากกรุงเทพถึงหนองคาย มีประชาชนลาวไปต้อนรับอย่างล้นหลาม เมื่อเสด็จกลับสู่ราชอาณาจักรลาวอีกครั้ง เป็นความปลี้มปิติและความหวังใหม่ที่ชาติลาวจะได้สงบร่มเย็น เจริญรุ่งเรืองไร้การครอบครองของชาติอื่น ท่านกลายเป็นเทพเจ้าของคนลาว แต่ก็เป็นชนวนให้เกิดความไม่พอใจ รวมทั้งอุปสรรคขวากหนามต่างๆ ที่ทำให้พระองค์ตระหนักถึงความล้มเหลว ในการรวมตัวกันสร้างชาติใหม่ และทรงทราบถึงอันตรายบางประการ
ประมาณเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2502 ทรงมีลายพระหัตถ์ถึงพระสหายนักนิยมไพรในกรุงเทพฯ บรรยายถึงความผิดหวังและล้มเหลว รับสั่งว่าถึงคราวที่ต้องเสด็จนิราศจากแผ่นดินเกิด เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในเมืองไทยอีกครั้ง ประมาณว่าจะเสด็จในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2502 แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ใดคาดฝัน อุบัติขึ้นเช้าวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2502 พระสหายในกรุงเทพฯ ได้รับแจ้งจากเจ้าคำปาน เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรลาวประจำประเทศไทย ณ กรุงเทพมหานคร ว่า เจ้าเพชรราชสิ้นพระชนม์แล้วเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2502 ณ วังเชียงแก้ว สาเหตุ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พระราชอาณาจักรลาว
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์ล้านช้างร่มขาว ชั้นชั้นประถมาภรณ์ (ປະຖະມາພອນ ปะถะมาพอน)
ประเทศไทย
อ้างอิง
- หนังสือเจ้าเพชรราช เรียบเรียงโดยมหาสิลา วีระวงส์
- บทความเรื่อง "เจ้าเพชรราช มหาอุปราชแห่งเวียงจันทน์ " เรียบเรียงโดยนายสรศัลย์ แพ่งสภา และนายอติศัย แพ่งสภา และโดยความร่วมมือของสมาชิกนิยมไพรไทยจากประสบการณ์จริง รวมทั้งนายอติศัยฯ ที่ได้ช่วยเหลืองานด้านการเกษตรขององค์การ USOM ในประเทศลาว พักอาศัยอยู่ที่วังเวียงจันทน์ จนวันสุดท้าย 15 ตุลาคม 2502
- มหาสิลา วีระวงศ์
- (ข้อมูลจากนายอติศัย แพ่งสภา)
- สหายนักนิยมไพร : พล.ต.พระศัลยเวทย์วิศิษฐ์,พ.อ.พระยาสุรพันธเสนีย์,พันเอกพระอินทร์สรศัลย์ , นายสรศัลย์ แพ่งสภา, นายอติศัย แพ่งสภา ฯ
- ตามอ้างอิงสมาชิกสมาคมนักนิยมไพร
แหล่งข้อมูลอื่น
- ชีวิตผู่ข้า (อัตชีวประวัติของข้าพเจ้า) โดย มหาสิลา วีระวงส์
- สถานการณ์ในอินโดจีน หลังสงครามมหาเอเชียบูรพา 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากหนังสือ 60 ปีในความทรงจำ พลเอกแป้ง มาลากุล ณ อยุธยา]
- Ivarsson, Søren and Christopher E. Goscha. (2007, Feb.). Prince Phetsarath (1890–1959): Nationalism and Royalty in the Making of Modern Laos. Journal of Southeast Asian Studies, 38(1), 55–81.
ก่อนหน้า | เจ้าเพชรราช รัตนวงศา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
— | นายกรัฐมนตรีลาว (พ.ศ. 2483 – 10 ตุลาคม พ.ศ. 2488) | พระยาคำม้าว วิไล |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcecamhaxuprachephchrach rtnwngsa law ເພ ດຊະລາດ ລ ດຕະນະວ ງສາ 19 mkrakhm ph s 2443 14 tulakhm ph s 2502 wirburuskhxngchawlaw phuthrngcdtngrthballawxisraephuxpldaexkcakkarpkkhrxngkhxngfrngess aelarwmaephndinlawthnghmdihepnxnhnungxnediywinchwnghlngsngkhramolkkhrngthi 2 thrngepnphramhaxuprachphraxngkhediywinprawtisastrkhxngpraethslawinsmypraethslawyngepnphrarachxanackrlaw aelathrngdarngtaaehnngnaykrthmntrikhxnglawinchwng ph s 2485 2488 thrngidrbkarnbthuxcakchawlawepnxyangmaktrabcnthungthukwnnismedcecamhaxuprach ephchrrach rtnwngsaphramhaxuprachlawdarngphrays khrngthi 1imprakt 12 tulakhm kh s 1945kxnhnaecamhaxuprachbuykhngthdipphraxngkhexngkstriysmedcphraecasriswangwngsdarngphrays khrngthi 216 emsayn kh s 1957 14 tulakhm kh s 1959kxnhnaphraxngkhexngthdipykelikphraxisriyyskstriysmedcphraecasriswangwngspramukhaehngrthlawdarngtaaehnng 12 tulakhm kh s 1945 24 emsayn kh s 1946naykrthmntriphrayakhamaw wiilkxnhnasmedcphraecasriswangwngs inthanakstriy thdipsmedcphraecasriswangwngs inthanakstriy naykrthmntrilaw khnthi 1darngtaaehnng 21 singhakhm kh s 1941 10 tulakhm kh s 1945kstriysmedcphraecasriswangwngskxnhnasthapnataaehnngthdipphrayakhamaw wiilprasuti19 mkrakhm kh s 1890 1890 01 19 wnghna hlwngphrabang xanackrhlwngphrabang xinodcinkhxngfrngessthiwngkht14 tulakhm kh s 1959 1959 10 14 69 pi wngechiyngaekw hlwngphrabang phrarachxanackrlawphrachayaecahyingkhaaewnhmxmsri xphinphr yngicyuththphrarachbutrecahyingkhaphiw ephchrrach ecahyingkhacnthr ephchrrach ecasuriyrach ephchrrach ecahyingxruna ephchrrach ecaxunaekw ephchrrachrachwngslanchangrmkhawrachskulrtnwngsaphrarachbidaecamhaxuprachbuykhngphrarachmardaecahyingthxngsrisasnaphuththethrwathxachiphkharachkar nkkaremuxngphrrkhkaremuxnglawxisra kh s 1945 1946 prawtiecaephchrrach prasuti n tahnkwnghna nkhrhlwngphrabang emuxwnxathity eduxnyi aerm 9 kha pichlu culskrach 1251 ewla 11 55 n trngkbwnthi 19 mkrakhm ph s 2433 kh s 1890 epnoxrsxngkhthi 3 khxngecamhaxuprachbuykhng sungsubtrakulmacakecamhaxuprachxunaekwsungepntntrakuledim emuxxayuid 7 pikwacungerimeriynhnngsuxlawaelahnngsuxsyamaelaphasafrngess phrxmkbkartidsxytamphrabidaiptrwcnganhwemuxngesmx pi ph s 2442 phnwchepnsamenrthiwdthatuhlwngeriynphasabali pi ph s 2447 idesdciperiyntxthifrngess thiorngeriynokolniyal Colonial sungepnr r thifrngesstngkhunephuxxbrmphuthicaipepnkharachkarpkkhrxnginpraethshwemuxngkhun txmaekhaorngeriynmthymmngeteyx aephnkwithyasastraelaphasaxngkvs ephuxfukphasaxngkvs inrahwangpidethxmidkhamipphkinxngkvs xasyxyukbmisetxrelnn xacarysxndarasastrcungthaihekidsnicindarasastraelaohrasastrtngaetnnma txmaidaetnghlkkhanwnptithinlawiwdwy phraxngkhsuksatxinorngeriynmthymesnthluysthungpi 2453 esdcklbmaphnwchepnphraphiksuthiwdhnxngsraaekwtampraephni emuxlaphnwchaelw ekharbrachkarepnphuranghnngsuxxyukxngkhlng hlwngphrabang phraxngkhxphiesksmrskbecahyingkhaaewn phraphinangethxkhxngecasriswangwngs sungtkphumhmayaelamixayumakkwahlaypi thngniwaknwaepnkarprasanrxyrawrahwangrachwngshlwngphrabangsayecamnthaturachkbsayecaxunaekw trakulwnghnakbtrakulwnghlng miphraoxrsaelaphrathida 3 xngkh khux esiychiwit samiepnchawfrngess aela khnarbtaaehnngphutrwcrachkarhwemuxnglawthinkhrewiyngcnthn idxnuchaya chuxnangsri chawewiyngcnthn butrthida 2 khn idaek ecana ephchrrach aela ecaaekw ephchrrach phayhlngemuxsinecaephchrrachaelw thngsxngthanniidtamhmxmxphinphr rtnwngsamaxyuinemuxngithy ecanaeriynphyabal aelaecaaekwrbrachkarthhar ph s 2489 emuxtxngthrngliphythangkaremuxngekhamaxyuinpraethsithy phrxmrthballawxisraaelaprachachnemuxnglawphurkxisrphaphhlayphnkhnepnewlananthung 11 pi khnaphankliphyinpraethsithy mikhunxphinphr yngicyuththepnaemban txmaidsmrskbkhunxphinphrepliynepnhmxmxphinphr rtnwngsa namskul rtnwngsa thrngtngkhunexngemuxxyuinemuxngithy subenuxngcakphramhaxuprachxunaekwphrapyka hmxmxphinphr epnkalngsakhykhxngkarptibtikarkuchati phuthahnathiaembanpkkhrxngduaelphukhncanwnmak epnecahnathiprasanngankbrthbalithy briharkarcdkarengincdhakhaichcay epnelkhanukarswnphraxngkh ptibtihnathiphuaethnphraxngkhecaephchrrach ecrcakaremuxngaela eruxngswnphraxngkh thnginaelanxkrachxanackrithy ipphnmepy ipyangkung ephuxthakhwamekhaicrwmrahwanglawekhmrywnaelaphmathitangmunglangxiththiphlchawphiwkhawdwykn ph s 2490 rthbalfrngessyinyxmihpraethslawepnexkrachinekhruxshphnthfrngess ecaephchrrachthrngimehndwyephraaehnwaexkrachnnimsmburn cungthrngwangmuxthangkaremuxngimekhakbfayid ephraaecasuwrrnphuma phraxnuchaxngkhthi 1 ekhakbfrngess ecasuphanuwngs xnucha xngkhthi 2 ekhakbewiydnamehnux rthbalithyodycxmphl p phibulsngkhram epnnaykrthmntri rbrxngrthballawtamnoybaykaremuxngthicaepn khnathiprathbinemuxngithynbaetwangmuxcakkaremuxng aelahaycakorkhkraephaaxaharthitxngrbkarphatd cunghnhnaekhapalaenuxkbbrrdaecanayithyaelakharachkarithyphuthichxbkilalaenuxehmuxnkn cnepnthirkchxbkn ph s 2499 esdcecasuwrrnphuma idthulechiyecaephchrrachklbephuxaekpyhayungyakinpraeths aelaidesdcklbinwnthi 22 minakhm 2500 odythangrthifcakkrungethphthunghnxngkhay miprachachnlawiptxnrbxyanglnhlam emuxesdcklbsurachxanackrlawxikkhrng epnkhwamplimpitiaelakhwamhwngihmthichatilawcaidsngbrmeyn ecriyrungeruxngirkarkhrxbkhrxngkhxngchatixun thanklayepnethphecakhxngkhnlaw aetkepnchnwnihekidkhwamimphxic rwmthngxupsrrkhkhwakhnamtang thithaihphraxngkhtrahnkthungkhwamlmehlw inkarrwmtwknsrangchatiihm aelathrngthrabthungxntraybangprakar phrachayalksnkhxngecaephchrrachidrbkaryxmrbepnwtthumngkhlskkarabuchakhxngchawlaw pramaneduxn krkdakhm ph s 2502 thrngmilayphrahtththungphrashaynkniymiphrinkrungethph brryaythungkhwamphidhwngaelalmehlw rbsngwathungkhrawthitxngesdcnirascakaephndinekid ekhamaphungphrabrmophthismpharinemuxngithyxikkhrng pramanwacaesdcineduxn thnwakhm ph s 2502 aetaelwehtukarnthiimmiphuidkhadfn xubtikhunechawnthi 16 tulakhm ph s 2502 phrashayinkrungethph idrbaecngcakecakhapan exkxkhrrachthutaehngrachxanackr law pracapraeths ithy n krungethphmhankhr wa ecaephchrrachsinphrachnmaelwemux 14 tulakhm ph s 2502 n wngechiyngaekw saehtuekhruxngrachxisriyaphrnphrarachxanackrlaw ekhruxngrachxisriyaphrnlanchangrmkhaw chnchnprathmaphrn ປະຖະມາພອນ pathamaphxn praethsithy ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnthiechidchuyingchangephuxk chnprathmaphrnchangephuxk p ch xangxinghnngsuxecaephchrrach eriyberiyngodymhasila wirawngs bthkhwameruxng ecaephchrrach mhaxuprachaehngewiyngcnthn eriyberiyngodynaysrsly aephngspha aelanayxtisy aephngspha aelaodykhwamrwmmuxkhxngsmachikniymiphrithycakprasbkarncring rwmthngnayxtisy thiidchwyehluxngandankarekstrkhxngxngkhkar USOM inpraethslaw phkxasyxyuthiwngewiyngcnthn cnwnsudthay 15 tulakhm 2502mhasila wirawngs khxmulcaknayxtisy aephngspha shaynkniymiphr phl t phraslyewthywisisth ph x phrayasurphnthesniy phnexkphraxinthrsrsly naysrsly aephngspha nayxtisy aephngspha tamxangxingsmachiksmakhmnkniymiphraehlngkhxmulxunchiwitphukha xtchiwprawtikhxngkhapheca ody mhasila wirawngs sthankarninxinodcin hlngsngkhrammhaexechiyburpha 2007 09 27 thi ewyaebkaemchchin cakhnngsux 60 piinkhwamthrngca phlexkaepng malakul n xyuthya Ivarsson Soren and Christopher E Goscha 2007 Feb Prince Phetsarath 1890 1959 Nationalism and Royalty in the Making of Modern Laos Journal of Southeast Asian Studies 38 1 55 81 kxnhna ecaephchrrach rtnwngsa thdip naykrthmntrilaw ph s 2483 10 tulakhm ph s 2488 phrayakhamaw wiil