นกยางเปีย (อังกฤษ: little egret, ชื่อวิทยาศาสตร์: Egretta garzetta) เป็นสปีชีส์นกขนาดเล็กในวงศ์นกยาง (Ardeidae) ชื่อสกุลวิทยาศาสตร์มาจากคำในภาษาอุตซิตาถิ่นพรอว็องส์ว่า Aigrette โดยเป็นคำอังกฤษว่า egret ซึ่งเป็นคำที่บ่งขนาดเล็กจากคำว่า Aigron โดยเป็นคำอังกฤษว่า heron ซึ่งแปลว่านกยาง ส่วนชื่อสปีชีส์ว่า garzetta มาจากชื่ออิตาลีของนกนี้คือ garzetta หรือ sgarzetta ในประเทศไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพุทธศักราช 2535 จึงห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ห้ามครอบครอง ห้ามเพาะพันธุ์ ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรัง การห้ามการครอบครองและการค้ามีผลไปถึงไข่และซาก
นกยางเปีย (little egret) | |
---|---|
E. g. garzetta | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์ปีก |
อันดับ: | นกกระทุง |
วงศ์: | วงศ์นกยาง |
สกุล: | (ลินเนียส, 1766) |
สปีชีส์: | Egretta garzetta |
ชื่อทวินาม | |
Egretta garzetta (ลินเนียส, 1766) | |
สปีชีส์ย่อย | |
E. g. garzetta | |
การกระจายตัวของ E. garzetta เมื่อผสมพันธุ์ อยู่ประจำ เมื่อไม่ผสมพันธุ์ อพยพ (ฤดูไม่ชัดเจน) | |
ชื่อพ้อง | |
Ardea garzetta ลินเนียส, 1766 |
นกมีสีขาว มีปากเรียวยาวสีดำ ขาดำยาว แต่นกเผ่าทางตะวันตกมีเท้าเหลือง เป็นนกน้ำ หากินตามน้ำตื้น ๆ และบนพื้น กินสัตว์เล็กต่าง ๆ อยู่ผสมพันธุ์เป็นฝูง บ่อยครั้งอยู่กับนกน้ำสปีชีส์อื่น ๆ ทำรังขนาดใหญ่ (platform nest) จากก้านไม้ พุ่มไม้ และหญ้า วางไข่เป็นสีเขียวอมน้ำเงินที่ทั้งพ่อแม่ฟัก ลูกนกจะมีขนนกราว 6 สัปดาห์
ช่วงสืบพันธุ์จะอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำเขตอบอุ่นจนถึงเขตร้อนในทวีปยุโรป, แอฟริกา, เอเชีย, และออสเตรเลีย มีนกที่ค่อย ๆ กระจายตัวไปทางทิศเหนือจนมีกลุ่มประชากรที่เสถียรและคงตัวอยู่ได้เองจนถึงสหราชอาณาจักร
ในเขตที่อบอุ่น นกโดยมากจะอยู่ประจำถิ่น นกในเขตเหนือรวมทั้งนกยุโรป จะอพยพไปสู่แอฟริกาและเอเชียใต้ช่วงหน้าหนาว นกอาจจะเตร็ดเตร่ไปทางเหนือปลายฤดูร้อนหลังฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งอาจช่วยขยายที่อยู่อันเพิ่งเกิดเมื่อไม่นานนี้ แม้จะเป็นนกที่เคยสามัญในยุโรปตะวันตก แต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 นกก็ถูกล่าอย่างเป็นล่ำเป็นสันเพื่อเอาขนมาประดับหมวกจนสูญพันธ์ไปในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือและเหลือน้อยทางตอนใต้ ราว ๆ ปี 1950 ยุโรปใต้จึงได้ออกกฎหมายสงวนป้องกันนกสปีชีส์ต่าง ๆ แล้วจำนวนจึงได้เพิ่มขึ้นอีก ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ก็มีนกผสมพันธุ์อีกในฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, และสหราชอาณาจักร นกยางเปียยังขยายถิ่นที่อยู่ไปทางทิศตะวันตกอีกด้วย โดยพบเห็นในประเทศบาร์เบโดสในหมู่เกาะแคริบเบียนเป็นครั้งแรกในปี 1954 และเริ่มผสมพันธุ์ในปี 1994 สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้ประเมินสถานะอนุรักษ์ทั่วโลกว่า น่าเป็นห่วงน้อยสุด (least concern)
สปีชีส์ย่อย
นักวิชาการยอมรับสปีชีส์ย่อยของนกยางเปีย 2–3 พันธุ์โดยไม่เหมือนกัน
- E. g. garzetta - (ลินเนียส, 1766) พันธุ์ต้นแบบ (nominate) พบในยุโรป แอฟริกา และเอเชียโดยมากยกเว้นทางเอเชียอาคเนย์
- E. g. nigripes - (Temminck, 1840) พบในประเทศอินโดนีเซียไปทางทิศตะวันออกจนถึงเกาะนิวกินี
- E. g. immaculata พบในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (ไม่ผสมพันธุ์ในประเทศหลัง) บ่อยครั้งจัดว่าเป็นพวกเดียวกับ E. g. nigripes
มีนกยางอีกสองพันธุ์ที่บางครั้งเคยจัดเป็นสปีชีส์ย่อยของนกนี้ แต่ปัจจุบันจัดเป็นสปีชีส์อื่น 2 สปีชีส์ คือ
- Egretta gularis (western reef heron) ซึ่งอยู่ตามชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก (จัดเป็นสปีชีส์ย่อย Egretta gularis gularis) และที่อยู่ในเขตเริ่มตั้งแต่ทะเลแดงจนถึงอินเดีย (สปีชีส์ย่อย Egretta gularis schistacea)
- Egretta dimorpha (dimorphic egret) ซึ่งอยู่ในแอฟริกาตะวันออก ประเทศมาดากัสการ์ ประเทศคอโมโรส และหมู่เกาะอัลดาบราในประเทศเซเชลส์
ลักษณะ
นกโตแล้วยาว 55–65 ซม. รวมปีกกว้าง 88–106 ซม. หนัก 350–550 ก. ขนปกติขาวทั้งหมด แต่ก็มีนกสีเข้มกว่าที่โดยมากเป็นสีเทาออกน้ำเงิน ๆ ในฤดูผสมพันธุ์ นกมีขนเป็นเปียยาวสองเส้นที่ต้นคอเหมือนกับหงอน ซึ่งยาวประมาณ 15 ซม. ปลายแหลมและมีรูปเรียว มีขนคล้าย ๆ กันที่อกด้วย แต่ส่วนที่เป็นขนรูปตะขอ (barb) จะห่าง ๆ กันมากกว่า ยังมีขนยาวที่สะบัก (กระดูกฐานที่ไหล่ด้านหลังซึ่งรองรับกระดูกปีก) ที่มีส่วนขนรูปตะขอยาวไม่ยึดเข้าด้วกันโดยขนอาจยาวถึง 20 ซม. ช่วงฤดูหนาว ขนจะคล้ายกับช่วงฤดูผสมพันธุ์แต่ขนที่สะบักจะสั้นกว่าและดูเหมือนขนปกติมากกว่า ปากยาวเรียวดำโดยบริเวณระหว่างตากับรูจมูกก็ดำด้วย มีผิวโล่งสีเทาออกเขียว ๆ ที่ฐานขากรรไกรล่างและรอบ ๆ ตาซึ่งมีม่านตาเหลือง ขาสีดำแต่เท้าสีเหลือง ลูกนกคล้ายกับผู้ใหญ่ช่วงที่ไม่ผสมพันธุ์แต่มีขาดำออกเขียว ๆ และเท้าเหลืองอ่อน ๆ กว่า และอาจมีขนสีเทา ๆ หรือน้ำตาล ๆ อยู่บ้าง สปีชีส์ย่อย nigripes จะต่างโดยมีหนังเหลืองระหว่างปากกับตา มีเท้าออกดำ ๆ เมื่อถึงช่วงที่นกเกี้ยวกันมากสุด บริเวณระหว่างตากับรูจมูกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเท้าของพันธุ์เท้าเหลืองจะเปลี่ยนเป็นสีแดง
นกโดยมากเงียบแต่ก็ร้องเสียงต่ำ ๆ หรือร้องเสียงเหมือนน้ำวิ่งผ่านหินในที่ผสมพันธุ์และร้องเสียงห้าวเมื่อถูกกวน สำหรับมนุษย์ เสียงอาจไม่ต่างกับนกแขวกและนกยางควายซึ่งบางครั้งมันจะอยู่ร่วมด้วย
การกระจายตัวและที่อยู่
บริเวณผสมพันธุ์ของพันธุ์ตะวันตก (E. g. garzetta) รวมยุโรปใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาโดยมาก และเอเชียใต้ นกยุโรปเหนือเป็นนกอพยพ โดยมากบินไปแอฟริกาแต่บางส่วนก็ไปที่ยุโรปใต้ พันธุ์เอเชียบางส่วนอพยพไปประเทศฟิลิปปินส์ ในบรรดานกพันธุ์ตะวันออก E. g. nigripes เป็นนกประจำถิ่นในอินโดนีเซียและเกาะนิวกินี ในขณะที่ E. g. immaculata อยู่ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แต่ก็ไม่ผสมพันธุ์ในนิวซีแลนด์ ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 นกได้กระจายไปทางเหนือของยุโรปและโลกใหม่ โดยมีกลุ่มนกผสมพันธุ์ที่ประเทศบาร์เบโดส (ในหมู่เกาะแคริบเบียน) ในปี 1994 ต่อจากนั้นได้กระจายไปที่อื่นในหมู่เกาะแคริบเบียนและตามชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของสหรัฐ
ที่อยู่ของนกต่าง ๆ กันมากรวมทั้งทะเลสาบ แม่น้ำ คลอง บ่อน้ำ ลากูน ที่ลุ่มชื้นแฉะ และแผ่นดินท่วมน้ำ นกชอบที่โล่ง ๆ มากกว่าที่ต้นไม้ปกคลุม ตามชายฝั่ง มันจะอยู่ที่ป่าชายเลน ที่ลุ่มน้ำขัง ที่โคลนชายฝั่ง หาดทราย และพืดหินใต้น้ำ นาข้าวเป็นที่อยู่สำคัญในอิตาลี ส่วนชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนจะสำคัญในแอฟริกา นกบ่อยครั้งอยู่ร่วมกับวัวควายหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีกีบอื่น ๆ
พฤติกรรม
นกเป็นสัตว์สังคมและบ่อยครั้งเห็นอยู่ในฝูงเล็ก ๆ แต่นกแต่ละตัวก็ไม่ยอมให้ตัวอื่นมาใกล้ที่ ๆ ตนหากินโดยขึ้นอยู่กับว่า เหยื่อมีมากน้อยแค่ไหน มีวิธีหลายอย่างเพื่อจับเหยื่อ เช่น ย่องตามเหยื่อในน้ำตื้น บ่อยครั้งวิ่งพร้อมกับยกปีกหรือลากเท้าเพื่อไล่ปลาเล็ก ๆ หรืออาจยืนนิ่ง ๆ แล้วรอโอกาสโจมตีเหยื่อ บางครั้งจะถือโอกาสเมื่อนกกาน้ำไล่ปลาหรือเมื่อมนุษย์เรียกร้องความสนใจจากปลาด้วยอาหาร บนบก มันจะเดินหรือวิ่งไล่เหยื่อ กินสัตว์ซึ่งถูกวัวควายที่กำลังกินหญ้ากวน กินเห็บหมัดบนสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่กินซากสัตว์ อาหารโดยหลักเป็นปลา แต่ก็กินสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นกเล็ก ๆ สัตว์พวกกุ้งกั้งปู มอลลัสกา แมลง แมงมุม และอีกด้วย
- E. g. garzetta บินโดยหดคอ (ประเทศอินเดีย)
- ไล่เหยื่อในน้ำตื้นที่เมืองโกลกาตาประเทศอินเดีย
- นกกินปลาเล็ก ๆ (พันธุ์ Acanthogobius flavimanus)
นกทำรังเป็นฝูง บ่อยครั้งกับนกลุยน้ำอื่น ๆ ตามชายฝั่งตะวันตกอินเดีย ฝูงนกอาจอยู่ในเขตเมือง และนกที่อยู่ร่วมกันอาจรวมนกยางควาย (Bubulcus ibis) นกแขวก (Nycticorax nycticorax) และนกช้อนหอยขาว (Threskiornis melanocephalus) ในยุโรป นกที่อยู่ร่วมกันอาจเป็นนกยาง Ardeola ralloides (squacco heron) นกยางควาย นกแขวก และนกช้อนหอยดำเหลือบ (Plegadis falcinellus) รังปกติจะมีขนาดใหญ่ (platform nest) ทำด้วยกิ่งไม้สร้างในต้นไม้หรือไม้พุ่ม หรือตามหญ้า หรือตามดงไผ่ ในภูมิประเทศบางแห่งเช่นหมู่เกาะกาบูเวร์ดี นกอาจทำรังอยู่ที่หน้าผา คู่นกจะป้องกันอาณาเขตผสมพันธุ์ปกติรอบ ๆ รัง 3–4 ม. ทั้งตัวผู้ตัวเมียจะฟักไข่ 3–5 ฟองเป็นเวลา 21–25 วัน ไข่มีรูปรี มีเปลือกไม่เงาเป็นสีเขียวออกน้ำเงินอ่อน ๆ ลูกนกจะมีขนอ่อนสีขาว ทั้งพ่อแม่จะเลี้ยง และจะออกขนปีกภายใน 40–45 วัน
- นกฟักไข่ในรัง
-
- ลูกนก
- นกเลี้ยงลูก
การอนุรักษ์
ทั่วโลก นกยางเปียไม่จัดว่าเสี่ยงสูญพันธุ์และจริง ๆ ได้ขยายที่อยู่ในช่วงทศวรรษที่ผ่าน ๆ มาสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้ระบุว่าเพราะนกอยู่กระจายอย่างกว้าขวางและมีจำนวนมาก จึงเป็นสปีชีส์ที่น่าเป็นห่วงน้อยสุด (least concern) แต่ในประเทศไทย ก็ยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพุทธศักราช 2535 จึงห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ห้ามครอบครอง ห้ามเพาะพันธุ์ ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรัง การห้ามการครอบครองและการค้ามีผลไปถึงไข่และซาก
อาณานิคมในโลกใหม่
นกได้เริ่มสร้างอาณานิคมในโลกใหม่ มีบันทึกว่าเห็นมันที่เกาะบาร์เบโดสในเดือนเมษายน 1954 นกเริ่มผสมพันธุ์ที่เกาะในปี 1994 และปัจจุบันก็ผสมพันธุ์ในหมู่เกาะบาฮามาสด้วย การติดป้ายที่ขานก (bird ringing) จากประเทศสเปนช่วยระบุแหล่งที่มาของนก นกคล้ายกับนกยางหิมะ (Egretta thula) มากและยังอยู่รวมฝูงกับนกเหล่านี้ในเกาะบาบาโดส โดยเป็นนกที่เพิ่งเริ่มอาณานิคมใหม่ทั้งสองชนิด แต่นกยางเปียใหญ่กว่า มีวิธีการหากินหลากหลายกว่า และเป็นนักเลงใหญ่กว่าในที่หากิน ยังมีรายงานเห็นนกในบริเวณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มตั้งแต่ประเทศซูรินามและบราซิลทางทิศใต้จนไปถึงเกาะนิวฟันด์แลนด์ รัฐควิเบก และรัฐออนแทรีโอในประเทศแคนาดาทางทิศเหนือ นกทางชายฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือเชื่อว่าอพยพไปทางทิศเหนือพร้อมกับนกยางหิมะจากหมู่เกาะแคริบเบียน ในเดือนมิถุนายน 2011 มีรายงานว่าเห็นนกในรัฐเมนของสหรัฐ
เชิงอรรถ
- Coenraad Jacob Temminck (คุนแรด เท็มมิงก์) ค.ศ. 1778-1858 ชาวดัตช์ เป็นชนชั้นสูง นักสัตววิทยา และผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์
อ้างอิง
- BirdLife International (2015). "Egretta garzetta". IUCN Red List of Threatened Species. IUCN. 2015: e.T62774969A67367671. doi:10.2305/IUCN.UK.2015-4.RLTS.T62774969A67367671.en. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2016.
- "สัตว์ป่าคุ้มครอง". โลกสีเขียว. จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 มีนาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 23 เมษายน 2015.
๗๑๔ นกยางเปีย (Egretta garzetta)
- Jobling, James A (2010). The Helm Dictionary of Scientific Bird Names. London: Christopher Helm. pp. 143, 171. ISBN .
- Lock, Leigh; Cook, Kevin. "The Little Egret in Britain: a successful colonist" (PDF). britishbirds.co.uk. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 เมษายน 2016. สืบค้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2017.
- "Egretta garzetta". Avibase.
- del Hoyo, J.; Elliot, A.; Sargatal, J., บ.ก. (1992). Handbook of the Birds of the World. Vol. 1. Barcelona: Lynx Edicions. p. 412. ISBN .
- Hancock, James; Kushlan, James A. (2010). The Herons Handbook. Bloomsbury Publishing. pp. 175–180. ISBN .
- Witherby, H. F., บ.ก. (1943). Handbook of British Birds, Volume Three: Hawks to Ducks. H. F. and G. Witherby Ltd. pp. 139–142. B00BLYYKPU.
- Kushlan, James A. (ธันวาคม 2007). "Sympatric Foraging of Little Egrets and Snowy Egrets in Barbados, West Indies". Waterbirds. 30 (4): 609–612. doi:10.1675/1524-4695(2007)030[0609:sfolea]2.0.co;2. JSTOR 25148265.
- "Little egret". Avibirds. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2015.
- . Wmtw.com. 30 มิถุนายน 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 มีนาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 24 ตุลาคม 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Javier Blasco-Zumeta; Gerd-Michael Heinze, (PDF), คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2 ธันวาคม 2014
- Little Egret – The Atlas of Southern African Birds
- BirdLife species factsheet for Egretta garzetta
- "นกยางเปีย media". .
- นกยางเปีย photo gallery at VIREO (Drexel University)
- Audio recordings of Little egret on .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha nkyangepiy xngkvs little egret chuxwithyasastr Egretta garzetta epnspichisnkkhnadelkinwngsnkyang Ardeidae chuxskulwithyasastrmacakkhainphasaxutsitathinphrxwxngswa Aigrette odyepnkhaxngkvswa egret sungepnkhathibngkhnadelkcakkhawa Aigron odyepnkhaxngkvswa heron sungaeplwankyang swnchuxspichiswa garzetta macakchuxxitalikhxngnknikhux garzetta hrux sgarzetta inpraethsithy epnstwpakhumkhrxngtamphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpaphuththskrach 2535 cunghamla phyayamla hamkha hamnaekhahruxsngxxk hamkhrxbkhrxng hamephaaphnthu hamekbhruxthaxntrayrng karhamkarkhrxbkhrxngaelakarkhamiphlipthungikhaelasaknkyangepiy little egret E g garzettasthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stwpikxndb nkkrathungwngs wngsnkyangskul lineniys 1766 spichis Egretta garzettachuxthwinamEgretta garzetta lineniys 1766 spichisyxyE g garzetta E g immaculata E g nigripeskarkracaytwkhxng E garzetta emuxphsmphnthu xyupraca emuximphsmphnthu xphyph vduimchdecn chuxphxngArdea garzetta lineniys 1766 nkmisikhaw mipakeriywyawsida khadayaw aetnkephathangtawntkmiethaehluxng epnnkna hakintamnatun aelabnphun kinstwelktang xyuphsmphnthu epnfung bxykhrngxyukbnknaspichisxun tharngkhnadihy platform nest cakkanim phumim aelahya wangikhepnsiekhiywxmnaenginthithngphxaemfk luknkcamikhnnkraw 6 spdah chwngsubphnthucaxyuinphunthichumnaekhtxbxuncnthungekhtrxninthwipyuorp aexfrika exechiy aelaxxsetreliy minkthikhxy kracaytwipthangthisehnuxcnmiklumprachakrthiesthiyraelakhngtwxyuidexngcnthungshrachxanackr inekhtthixbxun nkodymakcaxyupracathin nkinekhtehnuxrwmthngnkyuorp caxphyphipsuaexfrikaaelaexechiyitchwnghnahnaw nkxaccaetrdetripthangehnuxplayvdurxnhlngvduphsmphnthu sungxacchwykhyaythixyuxnephingekidemuximnanni aemcaepnnkthiekhysamyinyuorptawntk aetchwngkhriststwrrsthi 19 nkkthuklaxyangepnlaepnsnephuxexakhnmapradbhmwkcnsuyphnthipinyuorptawntkechiyngehnuxaelaehluxnxythangtxnit raw pi 1950 yuorpitcungidxxkkdhmaysngwnpxngknnkspichistang aelwcanwncungidephimkhunxik tnkhriststwrrsthi 21 kminkphsmphnthuxikinfrngess enethxraelnd ixraelnd aelashrachxanackr nkyangepiyyngkhyaythinthixyuipthangthistawntkxikdwy odyphbehninpraethsbarebodsinhmuekaaaekhribebiynepnkhrngaerkinpi 1954 aelaerimphsmphnthuinpi 1994 shphaphrahwangpraethsephuxkarxnurksthrrmchati IUCN idpraeminsthanaxnurksthwolkwa naepnhwngnxysud least concern spichisyxynkwichakaryxmrbspichisyxykhxngnkyangepiy 2 3 phnthuodyimehmuxnkn E g garzetta lineniys 1766 phnthutnaebb nominate phbinyuorp aexfrika aelaexechiyodymakykewnthangexechiyxakheny E g nigripes Temminck 1840 phbinpraethsxinodniesiyipthangthistawnxxkcnthungekaaniwkini E g immaculata phbinxxsetreliyaelaniwsiaelnd imphsmphnthuinpraethshlng bxykhrngcdwaepnphwkediywkb E g nigripes minkyangxiksxngphnthuthibangkhrngekhycdepnspichisyxykhxngnkni aetpccubncdepnspichisxun 2 spichis khux Egretta gularis western reef heron sungxyutamchayfngaexfrikatawntk cdepnspichisyxy Egretta gularis gularis aelathixyuinekhterimtngaetthaelaedngcnthungxinediy spichisyxy Egretta gularis schistacea Egretta dimorpha dimorphic egret sungxyuinaexfrikatawnxxk praethsmadakskar praethskhxomors aelahmuekaaxldabrainpraethsesechlslksnankbin aesdngtinehluxng thipachayeln Pichavaram xinediyit source source source source source source source source widiox nkyangepiyinyipunpi 2013 nkotaelwyaw 55 65 sm rwmpikkwang 88 106 sm hnk 350 550 k khnpktikhawthnghmd aetkminksiekhmkwathiodymakepnsiethaxxknaengin invduphsmphnthu nkmikhnepnepiyyawsxngesnthitnkhxehmuxnkbhngxn sungyawpraman 15 sm playaehlmaelamiruperiyw mikhnkhlay knthixkdwy aetswnthiepnkhnruptakhx barb cahang knmakkwa yngmikhnyawthisabk kradukthanthiihldanhlngsungrxngrbkradukpik thimiswnkhnruptakhxyawimyudekhadwknodykhnxacyawthung 20 sm chwngvduhnaw khncakhlaykbchwngvduphsmphnthuaetkhnthisabkcasnkwaaeladuehmuxnkhnpktimakkwa pakyaweriywdaodybriewnrahwangtakbrucmukkdadwy miphiwolngsiethaxxkekhiyw thithankhakrrikrlangaelarxb tasungmimantaehluxng khasidaaetethasiehluxng luknkkhlaykbphuihychwngthiimphsmphnthuaetmikhadaxxkekhiyw aelaethaehluxngxxn kwa aelaxacmikhnsietha hruxnatal xyubang spichisyxy nigripes catangodymihnngehluxngrahwangpakkbta miethaxxkda emuxthungchwngthinkekiywknmaksud briewnrahwangtakbrucmukcaepliynepnsiaedngaelaethakhxngphnthuethaehluxngcaepliynepnsiaedng nkyangepiypaknaengin nkodymakengiybaetkrxngesiyngta hruxrxngesiyngehmuxnnawingphanhininthiphsmphnthuaelarxngesiynghawemuxthukkwn sahrbmnusy esiyngxacimtangkbnkaekhwkaelankyangkhwaysungbangkhrngmncaxyurwmdwykarkracaytwaelathixyunkyangepiythirthekrlapraethsxinediynkyangepiyyunbntniminpraethskris briewnphsmphnthukhxngphnthutawntk E g garzetta rwmyuorpit tawnxxkklang aexfrikaodymak aelaexechiyit nkyuorpehnuxepnnkxphyph odymakbinipaexfrikaaetbangswnkipthiyuorpit phnthuexechiybangswnxphyphippraethsfilippins inbrrdankphnthutawnxxk E g nigripes epnnkpracathininxinodniesiyaelaekaaniwkini inkhnathi E g immaculata xyuinxxsetreliyaelaniwsiaelndaetkimphsmphnthuinniwsiaelnd inplaykhriststwrrsthi 20 nkidkracayipthangehnuxkhxngyuorpaelaolkihm odymiklumnkphsmphnthuthipraethsbarebods inhmuekaaaekhribebiyn inpi 1994 txcaknnidkracayipthixuninhmuekaaaekhribebiynaelatamchayfngmhasmuthraextaelntikkhxngshrth thixyukhxngnktang knmakrwmthngthaelsab aemna khlxng bxna lakun thilumchunaecha aelaaephndinthwmna nkchxbthiolng makkwathitnimpkkhlum tamchayfng mncaxyuthipachayeln thilumnakhng thiokhlnchayfng hadthray aelaphudhinitna nakhawepnthixyusakhyinxitali swnchayfngthaelaelapachayelncasakhyinaexfrika nkbxykhrngxyurwmkbwwkhwayhruxstweliynglukdwynmmikibxun rupaebbkarbinkhxngnkyangepiyphvtikrrmnkepnstwsngkhmaelabxykhrngehnxyuinfungelk aetnkaetlatwkimyxmihtwxunmaiklthi tnhakinodykhunxyukbwa ehyuxmimaknxyaekhihn miwithihlayxyangephuxcbehyux echn yxngtamehyuxinnatun bxykhrngwingphrxmkbykpikhruxlakethaephuxilplaelk hruxxacyunning aelwrxoxkasocmtiehyux bangkhrngcathuxoxkasemuxnkkanailplahruxemuxmnusyeriykrxngkhwamsniccakpladwyxahar bnbk mncaedinhruxwingilehyux kinstwsungthukwwkhwaythikalngkinhyakwn kinehbhmdbnstweliyng hruxaemaetkinsakstw xaharodyhlkepnpla aetkkinstwsaethinnasaethinbk stweluxykhlan stweliynglukdwynm nkelk stwphwkkungkngpu mxllska aemlng aemngmum aelaxikdwy E g garzetta binodyhdkhx praethsxinediy ilehyuxinnatunthiemuxngoklkata praethsxinediy nkkinplaelk phnthu Acanthogobius flavimanus nktharngepnfung bxykhrngkbnkluynaxun tamchayfngtawntkxinediy fungnkxacxyuinekhtemuxng aelankthixyurwmknxacrwmnkyangkhway Bubulcus ibis nkaekhwk Nycticorax nycticorax aelankchxnhxykhaw Threskiornis melanocephalus inyuorp nkthixyurwmknxacepnnkyang Ardeola ralloides squacco heron nkyangkhway nkaekhwk aelankchxnhxydaehluxb Plegadis falcinellus rngpkticamikhnadihy platform nest thadwykingimsrangintnimhruximphum hruxtamhya hruxtamdngiph inphumipraethsbangaehngechnhmuekaakabuewrdi nkxactharngxyuthihnapha khunkcapxngknxanaekhtphsmphnthupktirxb rng 3 4 m thngtwphutwemiycafkikh 3 5 fxng epnewla 21 25 wn ikhmirupri miepluxkimengaepnsiekhiywxxknaenginxxn luknkcamikhnxxnsikhaw thngphxaemcaeliyng aelacaxxkkhnpikphayin 40 45 wn nkfkikhinrng ikh luknk nkeliynglukkarxnurksthwolk nkyangepiyimcdwaesiyngsuyphnthuaelacring idkhyaythixyuinchwngthswrrsthiphan mashphaphrahwangpraethsephuxkarxnurksthrrmchati IUCN idrabuwaephraankxyukracayxyangkwakhwangaelamicanwnmak cungepnspichisthinaepnhwngnxysud least concern aetinpraethsithy kyngepnstwpakhumkhrxngtamphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpaphuththskrach 2535 cunghamla phyayamla hamkha hamnaekhahruxsngxxk hamkhrxbkhrxng hamephaaphnthu hamekbhruxthaxntrayrng karhamkarkhrxbkhrxngaelakarkhamiphlipthungikhaelasak xananikhminolkihm nkiderimsrangxananikhminolkihm mibnthukwaehnmnthiekaabarebodsineduxnemsayn 1954 nkerimphsmphnthuthiekaainpi 1994 aelapccubnkphsmphnthuinhmuekaabahamasdwy kartidpaythikhank bird ringing cakpraethssepnchwyrabuaehlngthimakhxngnk nkkhlaykbnkyanghima Egretta thula makaelayngxyurwmfungkbnkehlaniinekaababaods odyepnnkthiephingerimxananikhmihmthngsxngchnid aetnkyangepiyihykwa miwithikarhakinhlakhlaykwa aelaepnnkelngihykwainthihakin yngmiraynganehnnkinbriewnephimkhuneruxy erimtngaetpraethssurinamaelabrasilthangthisitcnipthungekaaniwfndaelnd rthkhwiebk aelarthxxnaethrioxinpraethsaekhnadathangthisehnux nkthangchayfngtawnxxkkhxngxemrikaehnuxechuxwaxphyphipthangthisehnuxphrxmkbnkyanghimacakhmuekaaaekhribebiyn ineduxnmithunayn 2011 miraynganwaehnnkinrthemnkhxngshrthechingxrrthCoenraad Jacob Temminck khunaerd ethmmingk kh s 1778 1858 chawdtch epnchnchnsung nkstwwithya aelaphuxanwykarphiphithphnthxangxingBirdLife International 2015 Egretta garzetta IUCN Red List of Threatened Species IUCN 2015 e T62774969A67367671 doi 10 2305 IUCN UK 2015 4 RLTS T62774969A67367671 en subkhnemux 1 phvscikayn 2016 stwpakhumkhrxng olksiekhiyw cakaehlngedimemux 26 minakhm 2015 subkhnemux 23 emsayn 2015 714 nkyangepiy Egretta garzetta Jobling James A 2010 The Helm Dictionary of Scientific Bird Names London Christopher Helm pp 143 171 ISBN 978 1 4081 2501 4 Lock Leigh Cook Kevin The Little Egret in Britain a successful colonist PDF britishbirds co uk PDF cakaehlngedimemux 11 emsayn 2016 subkhnemux 27 mithunayn 2017 Egretta garzetta Avibase del Hoyo J Elliot A Sargatal J b k 1992 Handbook of the Birds of the World Vol 1 Barcelona Lynx Edicions p 412 ISBN 84 87334 10 5 Hancock James Kushlan James A 2010 The Herons Handbook Bloomsbury Publishing pp 175 180 ISBN 978 1 4081 3496 2 Witherby H F b k 1943 Handbook of British Birds Volume Three Hawks to Ducks H F and G Witherby Ltd pp 139 142 B00BLYYKPU Kushlan James A thnwakhm 2007 Sympatric Foraging of Little Egrets and Snowy Egrets in Barbados West Indies Waterbirds 30 4 609 612 doi 10 1675 1524 4695 2007 030 0609 sfolea 2 0 co 2 JSTOR 25148265 Little egret Avibirds subkhnemux 25 tulakhm 2015 Wmtw com 30 mithunayn 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 14 minakhm 2012 subkhnemux 24 tulakhm 2015 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb nkyangepiy wikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Egretta garzetta Javier Blasco Zumeta Gerd Michael Heinze PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2 thnwakhm 2014 Little Egret The Atlas of Southern African Birds BirdLife species factsheet for Egretta garzetta nkyangepiy media nkyangepiy photo gallery at VIREO Drexel University Audio recordings of Little egret on