ธงชาติฟิลิปปินส์ (ตากาล็อก: Pambansang Watawat ng Pilipinas) มีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 1 ส่วน ยาว 2 ส่วน ตอนต้นธงเป็นรูปสามเหลี่ยมสีขาว ภายในมีรูปดวงอาทิตย์รัศมี 8 แฉก ล้อมด้วยดาวห้าแฉก 3 ดวง ตามมุมของรูปสามเหลี่ยม รูปเหล่านี้เป็นสีทอง ส่วนทีเหลือของธงนั้นเป็นแถบแบ่งครึ่งตามด้านยาวของธง ครึ่งบนพื้นสีน้ำเงิน ครึ่งล่างพื้นสีแดง หากแถบทั้งสองสีนี้สลับตำแหน่งกัน คือ แถบสีแดงอยู่บน แถบสีน้ำเงินอยู่ตอนล่าง แสดงว่าประเทศฟิลิปปินส์อยู่ในภาวะสงคราม
การใช้ | ธงชาติ |
---|---|
สัดส่วนธง | 1:2 |
ประกาศใช้ | 12 มิถุนายน ค.ศ. 1898 (126 ปี) |
ลักษณะ | ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบ่งตามยาว ครึ่งบนสีน้ำเงิน ครึ่งล่างสีแดง ที่ด้านคันธงเป็นรูปสามเหลี่ยมสีขาว ภายในมีรูปดวงอาทิตย์มีรัศมี 8 แฉก ล้อมด้วยดาวห้าแฉกสีทอง 3 ดวง |
ออกแบบโดย | เอเมลิโอ อากีนาลโด |
การใช้ | ธงชาติ |
สัดส่วนธง | 1:2 |
ลักษณะ | ลักษณะคล้ายธงข้างต้น แต่สลับเอาสีแดงขึ้นมาไว้ข้างบน ส่วนสีน้ำเงินอยู่ข้างล่าง เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าประเทศอยู่ในภาวะสงคราม |
ออกแบบโดย | คำสั่งฝ่ายบริหารเลขที่ 321 ลงนามโดย ประธานาธิบดีเอลปิดิโอ กีริโน |
การออกแบบ
สัดส่วน
ธงชาติฟิลิปปินส์มีความยาวเป็นสองเท่าของความกว้างธง ซึ่งเมื่อแปลงเป็นอัตราส่วนจะเท่ากับ 1:2 ส่วนความยาวของรูปสามเหลี่ยมสีขาวแต่ละด้านเท่ากับความยาวของด้านกว้างของธง รูปดาวแต่ละดวงนั้นอยู่ในตำแหน่งมุมของรูปสามเหลี่ยม โดยที่จุดยอดของรูปดาวนั้นชี้เข้าหาจุดยอดมุมของรูปสามเหลี่ยมแต่ละมุมนั้น
สำหรับสีของธงชาติ ได้มีการระบุไว้ในรัฐบัญญัติแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เลขที่ 8491 โดยใช้ตัวเลขระบุชนิดสีตามระบบที่พัฒนาขึ้นโดย ทั้งนี้ แบบสีธงอย่างเป็นทางการเมื่อเทียบกับระบบสีอื่นๆ ได้แสดงไว้ในตารางเบื้องล่างต่อไปนี้
ระบบสี | สีน้ำเงิน | สีแดง | สีขาว | สีทอง |
---|---|---|---|---|
80173 | 80108 | 80001 | 80068 | |
286 | 186 | n.a. | 116 | |
RGB | 0-56-168 | 206-17-38 | 255-255-255 | 252-209-22 |
CMYK | C100-M60-Y0-K5 | C0-M90-Y65-K10 | n.a. | C0-M18-Y85-K0 |
HEX | #0038A8 | #CE1126 | #FFFFFF | #FCD116 |
การใช้เป็นธงสงคราม
ประเทศฟิลิปปินส์มิได้มีการกำหนดธงชัยหรือธงสงคราม (war flag) แยกเป็นการเฉพาะอย่างที่นิยมกันในหลายประเทศ โดยใช้ธงชาติเพียงอย่างเดียวในวัตถุประสงค์ดังกล่าวด้วย โดยธงชาติฟิลิปปินส์จะเป็นเครื่องหมายแสดงออกถึงภาวะสงครามของประเทศเมื่อมีการแสดงธงโดยให้แถบสีแดงอยู่ทางด้านบน หรือแถบสีแดงอยู่ทางด้านซ้ายของสายตาผู้มองธงเมื่อแสดงธงแบบแขวนแนวตั้ง ส่วนในยามปกตินั้นจะให้แถบสีน้ำเงินอยู่ทางด้านบนของธง ตัวอย่างของการแสดงธงกลับด้านเช่นนี้ปรากฏในประวัติศาสตร์ฟิลิปปินส์ช่วงแห่งในปี ค.ศ. 1896 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และธงบางส่วนที่ผู้ประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ที่รุมล้อมชูขึ้นเป็นสัญลักษณ์ในการปฏิวัติเอ็ดซา เมื่อ ค.ศ. 1986
ความหมาย
จากเอกสารของทางราชการฟิลิปปินส์ ได้ระบุความหมายของสัญลักษณ์ในธงชาติไว้ว่า สามเหลี่ยมสีขาวเป็นเครื่องหมายแทนความเสมอภาคและภราดรภาพ พื้นสีน้ำเงินหมายถึงสันติภาพ สัจจะ และความยุติธรรม และพื้นสีแดงหมายถึงความรักชาติและความมีคุณค่า รูปดวงอาทิตย์มีรัศมีแปดแฉกหมายถึงแปดจังหวัดแรกของประเทศ อันได้แก่ จังหวัดบาตังกาส, จังหวัดบูลาคัน, จังหวัดคาวิเต, จังหวัดลากูนา, จังหวัดมะนิลา, จังหวัดนูเอวา เอคิยา, จังหวัดปัมปังกา และจังหวัดตาร์ลัค ซึ่งพยายามเรียกร้องเอกราชจากสเปนและฝ่ายสเปนได้บังคับใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่เหล่านั้นเมื่อเริ่มเหตุการณ์ในปี ค.ศ. 1896 ดาวสามดวงหมายถึงการแบ่งพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ของประเทศออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ เกาะลูซอน เกาะมินดาเนา และหมู่เกาะวิสายัน
อย่างไรก็ตาม ในคำประกาศเอกราชของฟิลิปปินส์ ค.ศ. 1898 ได้นิยามความหมายของธงชาติต่างไปจากปัจจุบัน โดยระบุว่าสีขาวเป็นสัญลักษณ์แทนสมาคม (Katipunan) ซึ่งเป็นสมาคมลับที่ต่อต้านการปกครองของจักรวรรดินิยมสเปน สำหรับสีแดงและสีน้ำเงินกำหนดขึ้นจากสีของธงชาติสหรัฐอเมริกาเพื่อแสดงออกถึงความซาบซึ้งที่สหรัฐอเมริกาให้ความคุ้มครองชาวฟิลิปปินส์ในการต่อต้านสเปนในช่วงการปฏิวัติฟิลิปปินส์ ส่วนดาวสามดวงในธง ในคำประกาศเอกราชได้กล่าวว่าดาวดวงหนึ่งในสามดวงนั้นหมายถึงเกาะปานาย ไม่ใช่หมู่เกาะวิสายัน
ประวัติ
ธงขบวนการปฏิวัติ
นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1960 ได้เริ่มมีการเชื่อมโยงโดยทั่วไปว่าพัฒนาการของธงชาติฟิลิปปินส์มีต้นกำเนิดมาจากธงประจำกองกำลังของผู้นำแต่ละคนในสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรปฏิวัติลักษณะคล้ายคลึงกับองค์กรฟรีเมสัน มีจุดมุ่งหมายในการต่อต้านอำนาจการปกครองของสเปนและชี้นำการปฏิวัติฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม แม้สัญลักษณ์บางอย่างจะถูกกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติก็ตาม แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าธงประจำกองกำลังเหล่านี้สมควรถือเป็นต้นกำเนิดของธงชาติฟิลิปปินส์หรือไม่
- ธงแบบแรกของสมาคมคาติปูนัน
- ธงของสมาคมคาติปูนันแห่งจังหวัดคาวิเต กลุ่มมักดาโล
- ธงของสมาคมคาติปูนันแห่งจังหวัดคาวิเต กลุ่มมักดิวัง
- ธงของสมาคมคาติปูนันใน ค.ศ. 1897
ธงแบบแรกของสมาคมคาติปูนันเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง มีอักษร "K" สีขาว 3 ตัว เรียงกันตามแนวนอน อักษรดังกล่าวนี้เป็นอักษรย่อจากชื่อเต็มของสมาคมคาติปูนันในภาษาตากาล็อก Kataas-taasang Kagalang-galangang Katipunan ng mga Anak ng Bayan ("คาตาอัส-ตาอาซัง คากาลัง-กาลันกัง คาติปูนัน นัง มกา อานัก นัง บายัน" แปลว่า สมาคมสูงสุดและอันเป็นที่นับถือแห่งบุตรของชาติ) พื้นสีแดงของธงหมายถึงเลือด เนื่องจากสมาชิกของคาติปูนันได้ลงนามในเอกสารยืนยันความเป็นสมาชิกกลุ่มด้วยเลือดของตนเอง
- ธงประจำตัวของอันเดรส โบนีฟาซีโอ
- ธงประจำตัวของ
- ธงประจำตัวของ
- ธงประจำตัวของ
ผู้นำหลายคนในคาติปูนันต่างมีธงประจำกองกำลังของตนเองใช้ เช่น อันเดรส โบนีฟาซีโอ, , เป็นต้น องค์การคาติปูนันในจังหวัดคาวิเต 2 กลุ่มคือกลุ่มมักดิวัง ("Magdiwang") และกลุ่มมักดาโล ("Magdalo") ต่างก็กำหนดแบบธงของกลุ่มตนเองใช้ โดยทั้งสองกลุ่มใช้ธงพื้นสีแดงรูปตะวันสีขาวเช่นกัน แต่แทนที่ทั้งสองกลุ่มจะใช้อักษรย่อ "K" ที่ใจกลางดวงตะวันตามชื่อสมาคมในอักษรโรมัน สมาคมเหล่านั้นกลับใช้อักษรที่ออกเสียง "คา" ในระบบการเขียนบายบายอิน () ซึ่งเป็นระบบการเขียนก่อนยุคสเปนปกครอง
สมาคมคาติปูนันได้กำหนดธงแบบใหม่ขึ้นในปี ค.ศ. 1897 ระหว่างการประชุมสมาชิกครั้งหนึ่งในเมืองนาอิก จังหวัดคาวิเต (Naic, Cavite) ธงแบบใหม่นี้เป็นธงพื้นสีแดง มีรูปดวงอาทิตย์ปรากฏใบหน้ามนุษย์สีขาว รูปดังกล่าวนั้นมีรัศมี 8 แฉก หมายถึงจังหวัดทั้งแปดซึ่งสเปนได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกเพื่อปราบปรามผู้ที่ก่อการกบฏต่อสเปน
แบบธงปัจจุบัน
แบบธงชาติฟิลิปปินส์ในสมัยใหม่ได้ถูกกำหนดแนวคิดในการออกแบบโดย เอมีลีโอ อากีนัลโด (ผู้ซึ่งต่อมาจะได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 1) ในระหว่างลี้ภัยทางการเมืองที่เกาะฮ่องกงเมื่อ ค.ศ. 1897 ต่อมาธงผืนแรกตามแบบของอากีนัลโดได้ถูกเย็บขึ้นโดย โดยมีลอเรนซา ผู้เป็นลูกสาวของเธอ และ หลานสาวของ โฮเซ รีซัล เป็นผู้ช่วยเย็บธง
ธงชาติฟิลิปปินส์ได้โบกสะบัดอย่างเป็นทางการระหว่างพิธีประกาศเอกราชฟิลิปปินส์ในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1898 ที่เมืองคาวิต จังหวัดคาวีเต (Kawit, Cavite) อย่างไรก็ดี บทความหนึ่งในหนังสือพิมพ์มะนิลาไทมส์ ซึ่งเขียนโดยออกุสโต เด วีอานา (Augusto de Viana) หัวหน้านักวิจัยแผนกประวัติศาสตร์ สถาบันประวัติศาสตร์แห่งชาติฟิลิปปินส์ ได้กล่าวถึงการยืนยันในตำราประวัติศาสตร์หลายฉบับและการจัดพิธีรำลึกในหลายคราว ซึ่งระบุว่าธงชาติได้โบกสะบัดครั้งแรกในวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1898 ที่อาลาปัน เมืองอีมุส จังหวัดคาวิเต (lapan, Imus, Cavite) ทั้งนี้ โดยอ้างถึงคำสั่งประธานาธิบดีเลขที่ 374 (Presidential Proclamation No. 374) ซึ่งตราโดยประธานาธิบดี ดิออสดาโด มากาปากัล เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1965 เนื้อความในบทความดังกล่าวได้พยายามอ้างว่าบันทึกทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ถึงการแสดงธงชาติฟิลิปปินส์ครั้งแรกว่าเกิดขึ้นในเมืองคาวิเต ซิตี เมื่อนายพลอากีนัลโดได้แสดงธงนี้ขึ้นระหว่างการสู้รบครั้งแรกใน
ความหมายดั้งเดิมของธงชาติได้ถูกแจกแจงไว้โดยละเอียดในเนื้อความของคำประกาศอิสรภาพ ซึ่งได้อ้างอิงจากแบบภาพร่างที่ได้แนบไว้ด้วยกัน แม้จะไม่ปรากฏบันทึกว่ามีแบบร่างดังกล่าวปรากฏอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม ทั่งนี้ ในแบบดั้งเดิมของธงชาติ ได้ยอมรับการใช้รูปดวงอาทิตย์มีรูปใบหน้ามนุษย์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ในเชิงเทววิทยา ให้ปรากฏบนธงชาติ เนื่องจากรูปดังกล่าวถือเป็นสัญลักษณ์ที่มีการใช้ทั่วไปในบรรดาอดีตอาณานิคมของสเปน สำหรับโทนสีฟ้า/น้ำเงินที่แท้จริงของธงแบบดั้งเดิมนั้น แหล่งข้อมูลต่างๆ มีการกล่าวถึงในทำนองที่ขัดแย้งกัน นักประวัติศาสตร์ได้กล่าวค้านว่าสีธงที่แท้จริงของแบบธงดั้งเดิมควรเป็นสีแดงและสีน้ำเงินแบบเดียวกับที่ใช้ในธงชาติคิวบา โดยอ้างอิงจากหลักฐานในเชิงเกร็ดประวัติศาสตร์และผืนธงในช่วงเวลาร่วมสมัยที่เหลือรอดมาจำนวนน้อยนิด
แบบของธงชาติคิวบาได้ส่งอิทธิพลมายังการออกแบบธงชาติฟิลิปปินส์ เนื่องจากการก่อการปฏิวัติต่อต้านสเปนในคิวบาได้เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่จุดประกายให้เกิดขึ้น
เมื่อความเป็นอมิตรระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐอเมริกาได้ก้าวสู่จุดแตกหักในปี ค.ศ. 1899 ธงชาติฟิลิปปินส์จึงได้ถูกชักขึ้นในลักษณะที่กลับเอาสีแดงขึ้นด้านบนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1899 เพื่อประกาศว่าประเทศได้เข้าสู่ภาวะสงคราม ผลสงครามจบลงด้วยการที่ประธานาธิบดีเอมีลีโอ อากีนัลโด ถูกฝ่ายสหรัฐอเมริกาจับเป็นเชลยและถูกบังคับให้สาบานว่าจะภักดีต่อสหรัฐอเมริกาในอีกสองปีต่อมา
จากการที่สาธารณรัฐฟิลิปปินส์จบลงด้วยความพ่ายแฟ้ต่อสหรัฐอเมริกา ประเทศฟิลิปปินส์จึงถูกปกครองด้วยระบบอาณานิคมของสหรัฐอเมริกา และการแสดงธงชาติฟิลิปปินส์ได้ถูกประกาศให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามรัฐบัญญัติว่าด้วยการต่อต้านรัฐบาล ค.ศ. 1907 (Sedition Act of 1907) กฎหมายดังกล่าวนี้ต่อมาได้ถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1919 เมื่อมีการอนุญาตให้ใช้ธงชาติฟิลิปปินส์ในเวลานั้น ผ้าสีแดงและสีน้ำเงินที่ขายตามห้างร้านขายผ้าต่างๆ ส่วนมากเป็นสีตามแบบของธงชาติสหรัฐอเมริกา ฉะนั้นธงชาติฟิลิปปินส์นับตั้งแต่ ค.ศ. 1919 เป็นต้นมาจึงใช้สีแดงและน้ำเงินตามแบบธงชาติสหรัฐอเมริกา (สีน้ำเงินในธงดังกล่าวเป็นสีชนิดที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า "สีเนวีบลู") สภานิติบัญญัติฟิลิปปินส์ได้ผ่านรัฐบัญญัติเลขที่ 2928 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 1920 เพื่อให้ธงชาติฟิลิปปินส์เป็นธงอย่างเป็นทางการสำหรับหมู่เกาะฟิลิปปินส์ทั้งหมด ส่วนการฉลองวันธงชาติ (Flag Day) ของฟิลิปินส์ในระยะนั้นจนถึงช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการฉลองเป็นประจำในวันที่ 30 ตุลาคมของทุกปี อันเป็นวันที่กฎหมายห้ามการใช้ธงชาติฟิลิปปินส์ได้ถูกยกเลิก
เมื่อถึงสมัยของการปกครองตนเองภายใช้ชื่อประเทศ (Commonwealth of the Philippines) ซึ่งเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1935 ประธานาธิบดีมานูเอล เกซอน ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเลขที่ 23 (Executive Order No. 23) ลงวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1935 เพื่อระบุลักษณะของธงในเชิงเทคนิคโดยละเอียด ในข้อกำหนดต่างๆ ของกฎหมายชุดนี้ ได้มีการบัญญัติให้รูปสามเหลี่ยมที่ด้านต้นธงเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า สัดส่วนความกว้างต่อความยาวโดยรวมเป็น 1:2 ตำแหน่งมุมและองศาที่แน่นอนของรูปดวง ลักษณะทางเรขาคณิตและสุนทรียศาสตร์ของรูปดวงอาทิตย์ และการยกเลิกรูปหน้ามนุษย์ในดวงอาทิตย์ออกอย่างเป็นทางการ ทว่าแบบสีของธงที่แน่นอนนั้นหาได้มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนในกฎหมายฉบับนี้ไม่ การระบุลักษณะธงเหล่านี้ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผลบังคับใช้สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในปี ค.ศ. 1941 ได้มีการย้ายวันธงชาติอย่างเป็นทางการจากวันที่ 30 ตุลาคม มาเป็นวันที่ 12 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ฟิลิปปินส์ประกาศเอกราชครั้งแรกจากสเปนในปี ค.ศ. 1898
ธงชาติฟิลิปปินส์ได้ถูกห้ามใช้อีกครั้งเมื่อญี่ปุ่นกรีฑาทัพเข้ารุกรานและยึดครองหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในต้นเดือนธันวาคม ค.ศ. 1941 และถูกชักขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการสถาปนาสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นเป็นผู้ให้การสนับสนุน ในพิธีการซึ่งถูกจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1943 อดีตประธานาธิบดีเอมีลีโอ อากีนัลโด ได้ชักธงชาติซึ่งใช้สีเลียนแบบธงชาติคิวบาขึ้นอีกครั้ง ธงดังกล่าวยังคงถูกชักโดยให้แถบสีฟ้าอยู่ด้านบนตามปกติจนกระทั่งประธานาธิบดี ประกาศสถานะรัฐในภาวะสงครามต่อประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรในปี ค.ศ. 1944 ส่วนรัฐบาลเครือรัฐฟิลิปปินส์พลัดถิ่นซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐอเมริกา ยังคงใช้ธงชาติฟิลิปปินส์ตามสีแบบธงชาติสหรัฐอเมริกาเช่นเดิม และใช้ในลักษณะที่กลับเอาสีแดงขึ้นด้านบนนับตั้งแต่การถูกญี่ปุ่นรุกรานมาโดยตลอด ด้วยการต่อสู้ของกองกำลังผสมฟิลิปปินส์-สหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1944 และการปลดปล่อยฟิลิปปินส์ในปี ค.ศ. 1945 ธงชาติฟิลิปปินส์ตามแบบสีธงของอเมริกาได้ถูกนำกลับมาใช้บนแผ่นดินฟิลิปปินส์อีกครั้ง และธงดังกล่าวนี้เองคือแบบธงที่ได้ถูกชักขึ้นในพิธีส่งมอบเอกราชจากสหรัฐอเมริกาสู่ประเทศฟิลิปปินส์ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1946
การเปลี่ยนแปลงแบบธง
สีธง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รัศมีดวงอาทิตย์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ธงซึ่งใช้เป็นเครื่องหมายอำนาจการปกครองประเทศ
- ใช้ในสมัยที่ฟิลิปปินส์เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุปราชแห่งนิวสเปน (ค.ศ. 1535-1821)
- ธงชาติสหราชอาณาจักร ใช้ในช่วงแห่งการยึดครองมะนิลาและคาวิเตโดยสหราชอาณาจักร (ค.ศ. 1762-1764)
- ธงชาติสเปน ใช้ในสมัยที่สเปนจัดการปกครองฟิลิปปินส์เป็น (ค.ศ. 1821-1898)
- ธงชาติฟิลิปปินส์แบบแรกสุด ออกแบบตามแนวคิดของเอเมลิโอ อากีนาลโด ใช้ระหว่าง ค.ศ. 1898-1901 (ระดับสีฟ้า/น้ำเงินที่แท้จริงยังเป็นที่ถกเถียง)
- ธงชาติสหรัฐ (45 ดาว) ใช้ในของสหรัฐ (ค.ศ. 1901-1908)
- ธงชาติสหรัฐ (46 ดาว) ใช้ในสมัยรัฐอารักขาของสหรัฐ (ค.ศ. 1908-1912)
- ธงชาติสหรัฐ (48 ดาว) ใช้ในสมัยรัฐอารักขาของสหรัฐ (ค.ศ. 1912-1919)
- ธงชาติฟิลิปปินส์ ค.ศ. 1919-1936 โทนสีน้ำเงินเป็นสีเนวีบลู (Navy Blue) ตามสีธงชาติสหรัฐฯ
- ธงชาติญี่ปุ่น ใช้ในช่วงแห่ง ค.ศ. 1942-1945
- ธงชาติฟิลิปปินส์สมัยสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ที่ 2 (ค.ศ. 1943-1944)
- ธงชาติฟิลิปปินส์ ค.ศ. 1985-1986 สีน้ำเงินในธงเปลี่ยนระดับลงมาเป็นสีฟ้า
- ธงชาติฟิลิปปินส์ ค.ศ. 1936-1985 และ ค.ศ. 1986-1998 โทนสีน้ำเงินเป็นสีเนวีบลู (Navy Blue)
- ธงชาติฟิลิปปินส์ตั้งแต่ ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา โทนสีน้ำเงินเป็นสีรอยัลบลู (Royal Blue)
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- "Republic Act No. 8491". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-05. สืบค้นเมื่อ 2009-06-08. (archived from the original 2007-12-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน on 2007-12-05).
- "Dictionary of Vexillology:C". Flags of the World. สืบค้นเมื่อ 2007-06-06.
- "Philippines". Vexilla Mundi. สืบค้นเมื่อ 2007-06-06.
- . The Official Website of the Republic of the Philippines. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-24. สืบค้นเมื่อ 2007-06-06.
- . CIA World Factbook. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-13. สืบค้นเมื่อ 2007-06-06.
- "Declaration of Philippine Independence". สืบค้นเมื่อ 2007-06-06.
- Quezon, Manuel L. III (2002-04-02). "History of the Philippines Flag". Flags of the World. สืบค้นเมื่อ 2007-06-06.
- Renato Perdon (2010). Footnotes to Philippine History. Universal-Publishers. p. 38. ISBN .
- Augusto de Viana (May 28, 2008). "Where was the Filipino Flag first unfurled?". the Manila Times. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-24. สืบค้นเมื่อ 2008-05-28.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ธงชาติฟิลิปปินส์ ที่ Flags of the World (อังกฤษ)
- , National Historical Institute of the Philippines, May 14, 2008, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-17, สืบค้นเมื่อ 2008-05-30
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ 2012-01-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thngchatifilippins takalxk Pambansang Watawat ng Pilipinas milksnaepnthngsiehliymphunpha kwang 1 swn yaw 2 swn txntnthngepnrupsamehliymsikhaw phayinmirupdwngxathityrsmi 8 aechk lxmdwydawhaaechk 3 dwng tammumkhxngrupsamehliym rupehlaniepnsithxng swnthiehluxkhxngthngnnepnaethbaebngkhrungtamdanyawkhxngthng khrungbnphunsinaengin khrunglangphunsiaedng hakaethbthngsxngsinislbtaaehnngkn khux aethbsiaedngxyubn aethbsinaenginxyutxnlang aesdngwapraethsfilippinsxyuinphawasngkhramthngchatifilippinskarichthngchatisdswnthng1 2prakasich12 mithunayn kh s 1898 126 pi lksnathngsiehliymphunphaaebngtamyaw khrungbnsinaengin khrunglangsiaedng thidankhnthngepnrupsamehliymsikhaw phayinmirupdwngxathitymirsmi 8 aechk lxmdwydawhaaechksithxng 3 dwngxxkaebbodyexemliox xakinalodkarichthngchatisdswnthng1 2lksnalksnakhlaythngkhangtn aetslbexasiaedngkhunmaiwkhangbn swnsinaenginxyukhanglang ephuxepnekhruxnghmaywapraethsxyuinphawasngkhramxxkaebbodykhasngfaybriharelkhthi 321 lngnamody prathanathibdiexlpidiox kirionkarxxkaebbsdswn thngchatifilippinsmikhwamyawepnsxngethakhxngkhwamkwangthng sungemuxaeplngepnxtraswncaethakb 1 2 swnkhwamyawkhxngrupsamehliymsikhawaetladanethakbkhwamyawkhxngdankwangkhxngthng rupdawaetladwngnnxyuintaaehnngmumkhxngrupsamehliym odythicudyxdkhxngrupdawnnchiekhahacudyxdmumkhxngrupsamehliymaetlamumnn aebbkarsrangthngchatifilippins sahrbsikhxngthngchati idmikarrabuiwinrthbyytiaehngsatharnrthfilippinselkhthi 8491 odyichtwelkhrabuchnidsitamrabbthiphthnakhunody thngni aebbsithngxyangepnthangkaremuxethiybkbrabbsixun idaesdngiwintarangebuxnglangtxipni rabbsi sinaengin siaedng sikhaw sithxng80173 80108 80001 80068286 186 n a 116RGB 0 56 168 206 17 38 255 255 255 252 209 22CMYK C100 M60 Y0 K5 C0 M90 Y65 K10 n a C0 M18 Y85 K0HEX 0038A8 CE1126 FFFFFF FCD116karichepnthngsngkhram praethsfilippinsmiidmikarkahndthngchyhruxthngsngkhram war flag aeykepnkarechphaaxyangthiniymkninhlaypraeths odyichthngchatiephiyngxyangediywinwtthuprasngkhdngklawdwy odythngchatifilippinscaepnekhruxnghmayaesdngxxkthungphawasngkhramkhxngpraethsemuxmikaraesdngthngodyihaethbsiaedngxyuthangdanbn hruxaethbsiaedngxyuthangdansaykhxngsaytaphumxngthngemuxaesdngthngaebbaekhwnaenwtng swninyampktinncaihaethbsinaenginxyuthangdanbnkhxngthng twxyangkhxngkaraesdngthngklbdanechnnipraktinprawtisastrfilippinschwngaehnginpi kh s 1896 chwngsngkhramolkkhrngthi 2 aelathngbangswnthiphuprathwngkhbilprathanathibdiefxrdinand markxs thirumlxmchukhunepnsylksninkarptiwtiexdsa emux kh s 1986khwamhmayraylaexiydkhxngdwngxathityinthngchatifilippins cakexksarkhxngthangrachkarfilippins idrabukhwamhmaykhxngsylksninthngchatiiwwa samehliymsikhawepnekhruxnghmayaethnkhwamesmxphakhaelaphradrphaph phunsinaenginhmaythungsntiphaph scca aelakhwamyutithrrm aelaphunsiaednghmaythungkhwamrkchatiaelakhwammikhunkha rupdwngxathitymirsmiaepdaechkhmaythungaepdcnghwdaerkkhxngpraeths xnidaek cnghwdbatngkas cnghwdbulakhn cnghwdkhawiet cnghwdlakuna cnghwdmanila cnghwdnuexwa exkhiya cnghwdpmpngka aelacnghwdtarlkh sungphyayameriykrxngexkrachcaksepnaelafaysepnidbngkhbichkdxykarsukinphunthiehlannemuxerimehtukarninpi kh s 1896 dawsamdwnghmaythungkaraebngphunthithangphumisastrkhxngpraethsxxkepn 3 swnihy idaek ekaalusxn ekaamindaena aelahmuekaawisayn xyangirktam inkhaprakasexkrachkhxngfilippins kh s 1898 idniyamkhwamhmaykhxngthngchatitangipcakpccubn odyrabuwasikhawepnsylksnaethnsmakhm Katipunan sungepnsmakhmlbthitxtankarpkkhrxngkhxngckrwrrdiniymsepn sahrbsiaedngaelasinaenginkahndkhuncaksikhxngthngchatishrthxemrikaephuxaesdngxxkthungkhwamsabsungthishrthxemrikaihkhwamkhumkhrxngchawfilippinsinkartxtansepninchwngkarptiwtifilippins swndawsamdwnginthng inkhaprakasexkrachidklawwadawdwnghnunginsamdwngnnhmaythungekaapanay imichhmuekaawisaynprawtithngkhbwnkarptiwti nbtngaetkhristthswrrsthi 1960 iderimmikarechuxmoyngodythwipwaphthnakarkhxngthngchatifilippinsmitnkaenidmacakthngpracakxngkalngkhxngphunaaetlakhninsmakhm sungepnxngkhkrptiwtilksnakhlaykhlungkbxngkhkrfriemsn micudmunghmayinkartxtanxanackarpkkhrxngkhxngsepnaelachinakarptiwtifilippins xyangirktam aemsylksnbangxyangcathukkahndkhunephuxichepnekhruxnghmaysylksnaehngkarptiwtiktam aetyngimmikhxsrupwathngpracakxngkalngehlanismkhwrthuxepntnkaenidkhxngthngchatifilippinshruxim thngkhxngsmakhmkhatipunn thngaebbaerkkhxngsmakhmkhatipunn thngkhxngsmakhmkhatipunnaehngcnghwdkhawiet klummkdaol thngkhxngsmakhmkhatipunnaehngcnghwdkhawiet klummkdiwng thngkhxngsmakhmkhatipunnin kh s 1897 thngaebbaerkkhxngsmakhmkhatipunnepnthngsiehliymphunphasiaedng mixksr K sikhaw 3 tw eriyngkntamaenwnxn xksrdngklawniepnxksryxcakchuxetmkhxngsmakhmkhatipunninphasatakalxk Kataas taasang Kagalang galangang Katipunan ng mga Anak ng Bayan khataxs taxasng khakalng kalnkng khatipunn nng mka xank nng bayn aeplwa smakhmsungsudaelaxnepnthinbthuxaehngbutrkhxngchati phunsiaedngkhxngthnghmaythungeluxd enuxngcaksmachikkhxngkhatipunnidlngnaminexksaryunynkhwamepnsmachikklumdwyeluxdkhxngtnexng thngpracatwkhxngphunainsmakhmkhatipunn thngpracatwkhxngxnedrs obnifasiox thngpracatwkhxng thngpracatwkhxng thngpracatwkhxng phunahlaykhninkhatipunntangmithngpracakxngkalngkhxngtnexngich echn xnedrs obnifasiox epntn xngkhkarkhatipunnincnghwdkhawiet 2 klumkhuxklummkdiwng Magdiwang aelaklummkdaol Magdalo tangkkahndaebbthngkhxngklumtnexngich odythngsxngklumichthngphunsiaedngruptawnsikhawechnkn aetaethnthithngsxngklumcaichxksryx K thiicklangdwngtawntamchuxsmakhminxksrormn smakhmehlannklbichxksrthixxkesiyng kha inrabbkarekhiynbaybayxin sungepnrabbkarekhiynkxnyukhsepnpkkhrxng smakhmkhatipunnidkahndthngaebbihmkhuninpi kh s 1897 rahwangkarprachumsmachikkhrnghnunginemuxngnaxik cnghwdkhawiet Naic Cavite thngaebbihmniepnthngphunsiaedng mirupdwngxathitypraktibhnamnusysikhaw rupdngklawnnmirsmi 8 aechk hmaythungcnghwdthngaepdsungsepnidprakasichkdxykarsukephuxprabpramphuthikxkarkbttxsepn aebbthngpccubn say exmiliox xakinlod phuxxkaebbthngchatifilippinsaebbpccubn khwa phueybthngchatifilippinsphunaerk hnunginthngchatifilippinsyukhrwmsmythiehluxrxdmacnthungpccubn thiphunsifamikaretimkhxkhwamplukicdwyphasasepn VIVA LA REPUBLICA FILIPINA VIVA satharnrthfilippinscngecriy aebbthngchatifilippinsinsmyihmidthukkahndaenwkhidinkarxxkaebbody exmiliox xakinlod phusungtxmacaidepnprathanathibdikhnaerkaehngsatharnrthfilippinsthi 1 inrahwangliphythangkaremuxngthiekaahxngkngemux kh s 1897 txmathngphunaerktamaebbkhxngxakinlodidthukeybkhunody odymilxernsa phuepnluksawkhxngethx aela hlansawkhxng ohes risl epnphuchwyeybthng thngchatifilippinsidobksabdxyangepnthangkarrahwangphithiprakasexkrachfilippinsinwnthi 12 mithunayn kh s 1898 thiemuxngkhawit cnghwdkhawiet Kawit Cavite xyangirkdi bthkhwamhnunginhnngsuxphimphmanilaithms sungekhiynodyxxkusot ed wixana Augusto de Viana hwhnankwicyaephnkprawtisastr sthabnprawtisastraehngchatifilippins idklawthungkaryunynintaraprawtisastrhlaychbbaelakarcdphithiralukinhlaykhraw sungrabuwathngchatiidobksabdkhrngaerkinwnthi 28 phvsphakhm kh s 1898 thixalapn emuxngximus cnghwdkhawiet lapan Imus Cavite thngni odyxangthungkhasngprathanathibdielkhthi 374 Presidential Proclamation No 374 sungtraodyprathanathibdi dixxsdaod makapakl emuxwnthi 6 minakhm kh s 1965 enuxkhwaminbthkhwamdngklawidphyayamxangwabnthukthangprawtisastrbngchithungkaraesdngthngchatifilippinskhrngaerkwaekidkhuninemuxngkhawiet siti emuxnayphlxakinlodidaesdngthngnikhunrahwangkarsurbkhrngaerkin khwamhmaydngedimkhxngthngchatiidthukaeckaecngiwodylaexiydinenuxkhwamkhxngkhaprakasxisrphaph sungidxangxingcakaebbphaphrangthiidaenbiwdwykn aemcaimpraktbnthukwamiaebbrangdngklawpraktxyucringhruximktam thngni inaebbdngedimkhxngthngchati idyxmrbkarichrupdwngxathitymirupibhnamnusy sungepnsylksnkhxngdwngxathityinechingethwwithya ihpraktbnthngchati enuxngcakrupdngklawthuxepnsylksnthimikarichthwipinbrrdaxditxananikhmkhxngsepn sahrbothnsifa naenginthiaethcringkhxngthngaebbdngedimnn aehlngkhxmultang mikarklawthunginthanxngthikhdaeyngkn nkprawtisastridklawkhanwasithngthiaethcringkhxngaebbthngdngedimkhwrepnsiaedngaelasinaenginaebbediywkbthiichinthngchatikhiwba odyxangxingcakhlkthaninechingekrdprawtisastraelaphunthnginchwngewlarwmsmythiehluxrxdmacanwnnxynid aebbkhxngthngchatikhiwbaidsngxiththiphlmayngkarxxkaebbthngchatifilippins enuxngcakkarkxkarptiwtitxtansepninkhiwbaidepnehtuphlswnhnungthicudprakayihekidkhun thngchatifilippins tamaebbdngedimkhxngexmiliox xakinlodxnusawriysamstriphueybthngchatifilippinsphunaerk thi emuxngeksxnsitithngchatifilippinsinthiprachum kh s 1898 emuxkhwamepnxmitrrahwangfilippinsaelashrthxemrikaidkawsucudaetkhkinpi kh s 1899 thngchatifilippinscungidthukchkkhuninlksnathiklbexasiaedngkhundanbnepnkhrngaerkemuxwnthi 4 kumphaphnth kh s 1899 ephuxprakaswapraethsidekhasuphawasngkhram phlsngkhramcblngdwykarthiprathanathibdiexmiliox xakinlod thukfayshrthxemrikacbepnechlyaelathukbngkhbihsabanwacaphkditxshrthxemrikainxiksxngpitxma cakkarthisatharnrthfilippinscblngdwykhwamphayaeftxshrthxemrika praethsfilippinscungthukpkkhrxngdwyrabbxananikhmkhxngshrthxemrika aelakaraesdngthngchatifilippinsidthukprakasihepnkarkrathathiphidkdhmaytamrthbyytiwadwykartxtanrthbal kh s 1907 Sedition Act of 1907 kdhmaydngklawnitxmaidthukykelikemuxwnthi 30 tulakhm kh s 1919 emuxmikarxnuyatihichthngchatifilippinsinewlann phasiaedngaelasinaenginthikhaytamhangrankhayphatang swnmakepnsitamaebbkhxngthngchatishrthxemrika channthngchatifilippinsnbtngaet kh s 1919 epntnmacungichsiaedngaelanaengintamaebbthngchatishrthxemrika sinaengininthngdngklawepnsichnidthieriykinphasaxngkvswa sienwiblu sphanitibyytifilippinsidphanrthbyytielkhthi 2928 emuxwnthi 26 minakhm kh s 1920 ephuxihthngchatifilippinsepnthngxyangepnthangkarsahrbhmuekaafilippinsthnghmd swnkarchlxngwnthngchati Flag Day khxngfilipinsinrayanncnthungchwngkxnsngkhramolkkhrngthi 2 idmikarchlxngepnpracainwnthi 30 tulakhmkhxngthukpi xnepnwnthikdhmayhamkarichthngchatifilippinsidthukykelik emuxthungsmykhxngkarpkkhrxngtnexngphayichchuxpraeths Commonwealth of the Philippines sungerimkhuninpi kh s 1935 prathanathibdimanuexl eksxn idxxkkhasngfaybriharelkhthi 23 Executive Order No 23 lngwnthi 25 minakhm kh s 1935 ephuxrabulksnakhxngthnginechingethkhnikhodylaexiyd inkhxkahndtang khxngkdhmaychudni idmikarbyytiihrupsamehliymthidantnthngepnrupsamehliymdanetha sdswnkhwamkwangtxkhwamyawodyrwmepn 1 2 taaehnngmumaelaxngsathiaennxnkhxngrupdwng lksnathangerkhakhnitaelasunthriysastrkhxngrupdwngxathity aelakarykelikruphnamnusyindwngxathityxxkxyangepnthangkar thwaaebbsikhxngthngthiaennxnnnhaidmikarkahndiwxyangchdecninkdhmaychbbniim karrabulksnathngehlaniyngkhngimmikarepliynaeplngaelamiphlbngkhbichsubenuxngmacnthungpccubn txmainpi kh s 1941 idmikaryaywnthngchatixyangepnthangkarcakwnthi 30 tulakhm maepnwnthi 12 mithunayn sungepnwnthifilippinsprakasexkrachkhrngaerkcaksepninpi kh s 1898 thngchatifilippinsidthukhamichxikkhrngemuxyipunkrithathphekharukranaelayudkhrxnghmuekaafilippinsintneduxnthnwakhm kh s 1941 aelathukchkkhunxikkhrngphrxmkbkarsthapnasatharnrthfilippinsthi 2 sungyipunepnphuihkarsnbsnun inphithikarsungthukcdkhunineduxntulakhm kh s 1943 xditprathanathibdiexmiliox xakinlod idchkthngchatisungichsieliynaebbthngchatikhiwbakhunxikkhrng thngdngklawyngkhngthukchkodyihaethbsifaxyudanbntampkticnkrathngprathanathibdi prakassthanarthinphawasngkhramtxpraethsfaysmphnthmitrinpi kh s 1944 swnrthbalekhruxrthfilippinsphldthinsungliphyipxyuthikrungwxchingtn di si khxngshrthxemrika yngkhngichthngchatifilippinstamsiaebbthngchatishrthxemrikaechnedim aelaichinlksnathiklbexasiaedngkhundanbnnbtngaetkarthukyipunrukranmaodytlxd dwykartxsukhxngkxngkalngphsmfilippins shrthxemrikainpi kh s 1944 aelakarpldplxyfilippinsinpi kh s 1945 thngchatifilippinstamaebbsithngkhxngxemrikaidthuknaklbmaichbnaephndinfilippinsxikkhrng aelathngdngklawniexngkhuxaebbthngthiidthukchkkhuninphithisngmxbexkrachcakshrthxemrikasupraethsfilippinsinwnthi 4 krkdakhm kh s 1946 karepliynaeplngaebbthng sithng swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidrsmidwngxathity swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidthngsungichepnekhruxnghmayxanackarpkkhrxngpraeths ichinsmythifilippinsepnswnhnungkhxngekhtxuprachaehngniwsepn kh s 1535 1821 thngchatishrachxanackr ichinchwngaehngkaryudkhrxngmanilaaelakhawietodyshrachxanackr kh s 1762 1764 thngchatisepn ichinsmythisepncdkarpkkhrxngfilippinsepn kh s 1821 1898 thngchatifilippinsaebbaerksud xxkaebbtamaenwkhidkhxngexemliox xakinalod ichrahwang kh s 1898 1901 radbsifa naenginthiaethcringyngepnthithkethiyng thngchatishrth 45 daw ichinkhxngshrth kh s 1901 1908 thngchatishrth 46 daw ichinsmyrthxarkkhakhxngshrth kh s 1908 1912 thngchatishrth 48 daw ichinsmyrthxarkkhakhxngshrth kh s 1912 1919 thngchatifilippins kh s 1919 1936 othnsinaenginepnsienwiblu Navy Blue tamsithngchatishrth thngchatiyipun ichinchwngaehng kh s 1942 1945 thngchatifilippinssmysatharnrthfilippinsthi 2 kh s 1943 1944 thngchatifilippins kh s 1985 1986 sinaengininthngepliynradblngmaepnsifa thngchatifilippins kh s 1936 1985 aela kh s 1986 1998 othnsinaenginepnsienwiblu Navy Blue thngchatifilippinstngaet kh s 1998 epntnma othnsinaenginepnsirxylblu Royal Blue duephimraychuxthnginpraethsfilippins traaephndinkhxngfilippins lupnghinirngxangxing Republic Act No 8491 cakaehlngedimemux 2007 12 05 subkhnemux 2009 06 08 archived from the original 2007 12 05 thi ewyaebkaemchchin on 2007 12 05 Dictionary of Vexillology C Flags of the World subkhnemux 2007 06 06 Philippines Vexilla Mundi subkhnemux 2007 06 06 The Official Website of the Republic of the Philippines khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 02 24 subkhnemux 2007 06 06 CIA World Factbook khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 06 13 subkhnemux 2007 06 06 Declaration of Philippine Independence subkhnemux 2007 06 06 Quezon Manuel L III 2002 04 02 History of the Philippines Flag Flags of the World subkhnemux 2007 06 06 Renato Perdon 2010 Footnotes to Philippine History Universal Publishers p 38 ISBN 9781599428420 Augusto de Viana May 28 2008 Where was the Filipino Flag first unfurled the Manila Times cakaehlngedimemux 2008 06 24 subkhnemux 2008 05 28 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb thngchatifilippins thngchatifilippins thi Flags of the World xngkvs National Historical Institute of the Philippines May 14 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 09 17 subkhnemux 2008 05 30 ewbistxyangepnthangkarkhxngrthbalsatharnrthfilippins 2012 01 01 thi ewyaebkaemchchin