ยาขับปัสสาวะ

การจัดกลุ่มยาขับปัสสาวะและกลไกการออกฤทธิ์ของมัน
ชื่อยา	กลไกการออกฤทธิ์
(เช่น,,อะมิโลไรด์,)	ยับยั้งการแลกเปลี่ยน Na^+-K^+ ในคอลเล็กติ้งดักท์: สไปโนโรแลคโตนยับยั้งการทำงานของ แอลโดสเตอร์โรน; อะมิโลไรด์ยับยั้ง (epithelial sodium channel)
น้ำ	ยับยั้งการหลั่ง (vasopressin)
	ยับยั้งการหลั่ง (vasopressin)
V2 วาโสเพรสซิน รีเซพเตอร์ แอนตาโกนิสต์	ยับยั้งการออกฤทธิ์ของ วาโสเพรสซิน ต่อเนพฟรอน (nephron) ในคอลเล็กติ้งดักท์
แซนทีน (เช่น,,)	ยับยั้งการดูดซึม Na^+, เพิ่ม (glomular filtration rate)
แอซิดิไฟอิง เกลือ (เช่น, CaCl2, NH4Cl)
(carbonic anhydrase inhibitors) (เช่น, (acetazolamide) , (dorzolamide))	ยับยั้ง H^+ ส่งเสริมการหรั่ง Na^+ และการขับ K^+
(เช่น,ฟูโรซีไมด์,บูมีทาไนด์,)	ยับยั้ง การขนส่งร่วมเฮนรี ลูพ
(เช่น,,)	ยับยั้ง Na^+/Cl^- การดูดกลับจากดิสทัล คอนโวลูต ทิวบูล ของเนพฟรอน (nephron)
ไดยูริติก (e.g.,,glucose)	ส่งเสริม ออสโมติก ไดยูริสิส

ยาขับปัสสาวะ (อังกฤษ: diuretic) เป็นยาที่เพิ่มอัตราการถ่ายปัสสาวะออกจากร่างกาย () ยาขับปัสสาวะมีผลลดปริมาตร (extracellular fluid-ECF) ยาขับปัสสาวะธรรมดาทั่วไปได้แก่คาเฟอีน และแอลกอฮอล์

ในทางการแพทย์ ยาขับปัสสาวะใช้รักษา

1. หัวใจล้มเหลว (heart failure)
2. โรคตับแข็ง (liver cirrhosis)
3. ความดันโลหิตสูง (hypertension)
4. โรคไต (kidney disease)

ยาขับปัสสาวะสามารถบรรเทาโรคดังกล่าวได้เพราะมันทำให้ร่างกายขับโซเดียมและน้ำ ไปพร้อมกับปัสสาวะ ยิ่งมีปัสสาวะมากเท่าไรน้ำและโซเดียม ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการ (edema) ก็จะลดลง และอาการบวมน้ำก็ลดลง ยาขับปัสสาวะบางตัวเช่น ทำให้ปัสสาวะเป็นด่างซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มการขับถ่ายยาแอสไพรินในกรณีการใช้ยาเกินขนาด