คิม จ็อง-อิล (เกาหลี: 김정일; ฮันจา: 金正日; อาร์อาร์: Kim Chŏngil; เอ็มอาร์: Gim Jeong(-)il) มีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า ยูรี อีร์เซโนวิช คิม/Юрий Ирсенович Ким (ตามบันทึกโซเวียต) (16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1941 – 17 ธันวาคม ค.ศ. 2011) อดีตผู้นำสูงสุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) เขาเป็นเลขาธิการพรรคกรรมกรเกาหลี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลตั้งแต่ ค.ศ. 1948, ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศแห่งเกาหลีเหนือ และผู้บัญชาการกองทัพประชาชนเกาหลีสูงสุด ซึ่งเป็นกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดอันดับสี่ของโลก
คิม จ็อง-อิล | |
---|---|
김정일 金正日 | |
คิม จ็อง-อิล ในปี 2554 | |
เลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลี | |
ดำรงตำแหน่ง 8 ตุลาคม พ.ศ. 2537 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554 | |
ก่อนหน้า | คิม อิล-ซ็อง |
ถัดไป | คิม จ็อง-อึน (ในฐานะเลขาธิการคนแรก) |
ดำรงตำแหน่ง 9 เมษายน พ.ศ. 2536 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554 | |
ก่อนหน้า | คิม อิล-ซ็อง |
ถัดไป | คิม จ็อง-อึน (ในฐานะประธานคนแรก) |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพประชาชนเกาหลี | |
ดำรงตำแหน่ง 24 ธันวาคม พ.ศ. 2534 – 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554 | |
ก่อนหน้า | คิม อิล-ซ็อง |
ถัดไป | คิม จ็อง-อึน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2484 สหภาพโซเวียต (ตามบันทึกเกาหลีเหนือในปัจจุบัน) |
เสียชีวิต | 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554 (70 ปี) เปียงยาง เกาหลีเหนือ |
ที่ไว้ศพ | วังสุริยะคึมซูซัน เปียงยาง เกาหลีเหนือ |
เชื้อชาติ | เกาหลีเหนือ โซเวียต ( โครยอ-ซารัม ) |
ศาสนา | อเทวนิยม |
พรรคการเมือง | พรรคแรงงานเกาหลี |
คู่อาศัย | ซ็อง ฮเย-ริม (2511–2545) โค ยง-ฮี (2520–2547) คิม อก (2547–2554) |
คู่สมรส | ฮง อิล-ช็อน (2509–2512) คิม ย็อง-ซุก (2517-2554) |
บุตร | คิม จ็อง-นัม คิม จ็อง-อึน คิม ยอ-จ็อง |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยคิมอิลซ็อง |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | เกาหลีเหนือ |
สังกัด | กองทัพประชาชนเกาหลี |
ประจำการ | 2534-2554 |
ยศ | (จอมพลสูงสุด) |
บังคับบัญชา | ผู้บัญชาการทหารสูงสุด |
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกาหลีเหนือโดยเรียกเขาว่าเป็น "ผู้นำสูงสุด" โดยปริยาย เขายังถูกเรียกว่า "บิดาที่รัก", "บิดาของเรา" "นายพล" และ "จอมทัพ" บุตรชาย คิม จองอึนได้รับเลื่อนเป็นตำแหน่งระดับสูงในพรรคกรรมกรและถูกวางตัวเป็นทายาท ใน ค.ศ. 2010 เขาถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 31 ของบุคคลทรงอำนาจที่สุดของโลก รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของเขาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2011
ชีวิตวัยเยาว์
แรกเกิด
รายละเอียดเกี่ยวกับการเกิดของคิม จ็อง-อิลแตกต่างกันไปตามแหล่งข้อมูล บันทึกโซเวียตแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดในหมู่บ้านวยัตสโคเย (Vyatskoye) ดินแดนฮาบารอฟสค์ (Khabarovsk) สหภาพโซเวียต เมื่อค.ศ. 1941 มีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า ยูริ อีร์เซโนวิช คิม (Yuri Irsenovich Kim; รัสเซีย: Юрий Ирсенович Ким) เป็นบุตรชายคนโตคนแรกของนายคิม อิล-ซ็อง (เกาหลี: 김정일) กับนางคิม จ็อง-ซุก (เกาหลี: 김정숙) คิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพันที่ 1 แห่งกองพลน้อยโซเวียตที่ 88 อันประกอบด้วยชาวจีนและเกาหลีพลัดถิ่น แห่งกองทัพแดง (Red Army) ของสหภาพโซเวียต เพื่อต่อสู้กับการรุกรานแมนจูเรียของจักรวรรดิญี่ปุ่น ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 (Second Sino-Japanese War) คิม จ็อง-อิล มีน้องชายมารดาเดียวกันอีกหนึ่งคนคือ คิม มัน-อิล (เกาหลี: 김만일) หรือ คิม ชูรา (Kim Sura; เกาหลี: 김슈라) เกิดเมื่อปีค.ศ. 1944 และน้องสาวหนึ่งคนคือ คิม กยอง-ฮี (เกาหลี: 김경희)
ชีวประวัติอย่างเป็นทางการของคิม จ็อง-อิล ซึ่งแต่งโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในสมัยต่อมา ระบุว่าเขาเกิดในค่ายทหารลับบน (Baekdu Mountains) ในเกาหลีของญี่ปุ่น จังหวัดรยังกัง ประเทศเกาหลีเหนือในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 นักชีวประวัติทางการอ้างว่า การเกิดของเขาที่ภูเขาแพกตูมีลางบอกเหตุเป็นนกนางแอ่น และป่าวประกาศโดยการปรากฏขึ้นของรุ้งกินน้ำสองสายเหนือยอดเขาและดาวดวงใหม่ในสรวงสวรรค์
ใน ค.ศ. 1945 ขณะที่คิมอายุได้สามหรือสี่ปี (ตามปีเกิดของเขา) เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและเกาหลีได้รับเอกราชคืนจากญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง บิดาของเขากลับไปยังเปียงยางในเดือนกันยายนปีนั้นเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำของเกาหลีเหนือ และปลายเดือนพฤศจิกายน คิม จ็อง-อิล จึงได้เดินทางกลับสู่เกาหลีตามบิดาของตนโดยเรือโซเวียต ซึ่งขึ้นฝั่งที่ซอนบอง ครอบครัวย้ายเข้าไปในบ้านพักของอดีตเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น พร้อมกับสวนและสระน้ำ น้องชายของคิม จ็อง-อิล "ชูรา" คิม (คิม พยองอิล แต่รู้จักโดยชื่อเล่นภาษารัสเซียของเขา) จมน้ำที่นั่นใน ค.ศ. 1948 รายงานไม่ยืนยันแนะว่า คิม จ็อง-อิลวัยห้าขวบอาจเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุนั้น นางคิม จ็อง-ซุก มารดาของคิม จ็อง-อิล เสียชีวิตจากการคลอดบุตรคนที่สี่ เมื่อค.ศ. 1949 รายงานไม่ยืนยันระบุว่า มารดาของเขาอาจถูกยิงและถูกทิ้งให้เลือดไหลจนเสียชีวิต
การศึกษา
ตามชีวประวัติอย่างเป็นทางการ คิมสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานระหว่างเดือนกันยายน ค.ศ. 1950 และสิงหาคม ค.ศ. 1960 ในกรุงเปียงยาง ซึ่งขัดแย้งกับนักวิชาการต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าเขาน่าจะได้รับการศึกษาช่วงต้นในสาธารณรัฐประชาชนจีนมากกว่า เพื่อประกันความปลอดภัยของเขาระหว่างสงครามเกาหลี
ตลอดการศึกษาในโรงเรียน คิมเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่เสมอ เขาเข้าร่วมในสหภาพเด็ก และสันนิบาติเยาวชนประชาธิปไตยแห่งเกาหลีเหนือ เข้าร่วมในกลุ่มศึกษาทฤษฎีการเมืองมากซิสต์และวรรณกรรมอื่น ๆ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1957 เขาเป็นรองประธานสาขาสันนิบาติเยาวชนประชาธิปไตยของโรงเรียนมัธยมต้น เขาดำเนินตามโครงการต่อต้านการถือพวกพ้องและพยายามกระตุ้นการศึกษาอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเขา
คิมยังกล่าวกันว่าได้รับการศึกษาภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยมอลตาในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 ช่วงวันหยุดที่ไม่บ่อยครั้งนักในมอลตาในฐานะแขกของนายกรัฐมนตรีดอม มินทอฟฟ์
หลังจากที่มารดาของคิม จ็อง-อิล เสียชีวิตไป คิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดาได้สมรสใหม่กับนางคิม ซ็อง-แอ (เกาหลี: 김성애) จากการสมรสครั้งใหม่ของบิดา คิม จ็อง-อิล มีน้องชายต่างมารดาอีกสองคน หนึ่งในนั้นคือ คิม พย็อง-อิล (เกาหลี: 김평일 ตั้งตามชื่อน้องชายที่จมน้ำเสียชีวิตของคิม จ็อง-อิล) นับแต่ ค.ศ. 1988 คิม พย็อง-อิลได้รับราชการในสถานทูตเกาหลีเหนือหลายแห่งในยุโรปและปัจจุบันเป็นเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำโปแลนด์ นักวิจารณ์ต่างประเทศสงสัยว่าคิม พยองอิลถูกบิดาส่งไปรับตำแหน่งห่างไกลเหล่านี้เพื่อป้องกันการแก่งแย่งอำนาจระหว่างบุตรชายทั้งสอง
สมาชิกเปรซิเดียมและเลขาธิการพรรค (1980–1984)
กระทั่งการประชุมพรรคครั้งที่หกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1980 การควบคุมปฏิบัติการของพรรคของคิม จ็อง-อิลได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ เขาได้รับตำแหน่งอาวุโสในโพลิตบูโร คณะกรรมาธิการทหารและเลขาธิการพรรค เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาประชาชนสูงสุดที่เจ็ดในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1982 ผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศเชื่อว่าเขาเป็นทายาทการเมืองของเกาหลีเหนือ
ถึงขณะนี้ คิมได้รับคำนำหน้า "ผู้นำอันเป็นที่รัก" (친애하는 지도자) รัฐบาลเริ่มสร้างลัทธิบูชาบุคคลรอบตัวเขาซึ่งลอกแบบมาจากบิดา "ผู้นำอันยิ่งใหญ่" คิม จ็อง-อิลได้รับการสรรเสริญจากสื่อเป็นประจำว่าเป็น "ผู้นำไร้ความกลัว" และ "ผู้สืบทอดผู้ยิ่งใหญ่ต่ออุดมการณ์ปฏิวัติ" เขาถือกำเนิดขึ้นเป็นบุคคลทรงอำนาจที่สุดรองจากบิดาเขาในเกาหลีเหนือ
วันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 1991 คิมได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเกาหลีเหนือ เนื่องจากกองทัพเป็นรากฐานอำนาจที่แท้จริงในเกาหลีเหนือ นี่จึงเป็นก้าวสำคัญ รัฐมนตรีกลาโหม โอ จิน-อู หนึ่งในผู้ใต้บัญชาที่ภักดีที่สุดของคิม อิล-ซ็อง วางแผนการยอมรับของคิม จ็อง-อิลโดยกองทัพว่าเป็นผู้นำคนต่อไปของเกาหลีเหนือ แม้เขาจะไม่ได้รับราชการทหารก็ตาม อีกหนึ่งผู้สมัครในตำแหน่งผู้นำที่เป็นไปได้ นายกรัฐมนตรีคิม อิล (ไม่ได้เป็นเครือญาติ) ถูกถอดจากตำแหน่งใน ค.ศ. 1976 ใน ค.ศ. 1992 คิม อิล-ซ็องแถลงต่อสาธารณะว่าบุตรชายเป็นผู้รับผิดชอบกิจการภายในทั้งหมดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน
ใน ค.ศ. 1992 การถ่ายทอดทางวิทยุกล่าวถึงเขาว่าเป็น "บิดาอันเป็นที่รัก" แทน "ผู้นำอันเป็นที่รัก" วันเกิดครบรอบ 50 ปีของเขาในเดือนกุมภาพันธ์เป็นโอกาสฉลองใหญ่ที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก ด้อยกว่าเพียงการเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปีของคิม อิล-ซ็องในวันที่ 15 เมษายน ปีเดียวกัน
ตามข้อมูลของผู้แปรพักตร์ ฮวาง จางยอบ ระบบรัฐบาลเกาหลีเหนือได้รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางและเป็นมากขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 และ 1990 ภายใต้คิม จ็อง-อิลกว่าที่เคยเป็นในสมัยบิดาของเขา ฮวางอธิบายตัวอย่างหนึ่งว่า แม้คิม อิล-ซ็องจะกำหนดให้รัฐมนตรีภักดีต่อเขา แต่เขายังมองหาคำแนะนำระหว่างการตัดสินใจ แต่คิม จ็อง-อิลต้องการการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์และความตกลงจากรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่พรรคโดยไม่ต้องการคำแนะนำหรือการประนีประนอม และเขามองความเห็นต่างเพียงเล็กน้อยใด ๆ จากความคิดของเขาว่าเป็นสัญญาณถึงความไม่ภักดี ตามข้อมูลของฮวาง คิม จ็อง-อิลกำหนดทุกเรื่องด้วยตัวเองแม้รายละเอียดเล็กน้อยของกิจการรัฐ เช่น ขนาดของบ้านสำหรับเลขาธิการพรรคและการส่งของขวัญไปให้ผู้ใต้บัญชาของเขา
จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1980 เกาหลีเหนือเริ่มประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซาร้ายแรง นโยบายจูเช (พึ่งพาตนเอง) ของคิม อิลซองตัดประเทศจากการค้าภายนอกเกือบทั้งหมด แม้แต่กับคู่ค้าแต่เดิม คือ สหภาพโซเวียตและจีน
เกาหลีใต้กล่าวโทษคิมว่าสั่งการเหตุระเบิดในย่างกุ้ง ประเทศพม่า ในวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 1983 ซึ่งคร่าชีวิตเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ที่ไปเยือน 17 คน รวมทั้งสมาชิกรัฐมนตรีสี่คน และอีกครั้งในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1987 ซึ่งคร่าชีวิตทุกคน (115 คน)บนโคเรียนแอร์ เที่ยวบินที่ 858 เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ คิม ฮย็อน ฮุย สารภาพว่าวางระเบิดไว้ในหีบของ และว่า ปฏิบัติการถูกสั่งการโดยคิม จ็อง-อิลเป็นการส่วนตัว
ใน ค.ศ. 1992 เสียงของคิม จ็อง-อิลได้รับการถ่ายทอดในเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกระหว่างการเดินขบวนทหารสำหรับการครบรอบปีที่ 60 ของกองทัพประชาชนเกาหลีที่จัตุรัสคิม อิล-ซ็อง ในกรุงเปียงยาง ซึ่งคิม อิล-ซ็องเข้าร่วมโดยมีคิม จ็อง-อิล ยืนข้าง หลังการสุนทรพจน์ของคิม อิล-ซ็อง และการตรวจขบวนนั้น บุตรชายของเขาขยับไปยังไมโครโฟนที่อัฒจันทร์โดยตอบการรายงานของผู้ตรวจการขบวนและกล่าวง่าย ๆ ว่า "ทหารผู้กล้าแห่งกองทัพประชาชนเกาหลีจงเจริญ!" จากนั้นทุกคนที่เป็นผู้ฟังนั้นปรบมือและผู้เข้าร่วมขบวนที่พื้นที่จัตุรัส (ซึ่งรวมทหารผ่านศึกและนายทหารของกองทัพประชาชนเกาหลี) ตะโกน "หมื่น ๆ ปี" รวมสามครั้ง
ผู้ปกครองเกาหลีเหนือ
วันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1994 บิดาของคิม จ็อง-อิล คิม อิล-ซ็องถึงแก่อสัญกรรม ด้วยวัย 82 ปีจากอาการโรคหัวใจกำเริบ คิม จ็อง-อิลได้รับหน้าที่เป็นผู้นำในการจัดงานพิธีศพให้แก่บิดาของตน และปรับปรุงบูรณะ (Kumsusan Palace of the Sun) ให้เป็นที่พำนักสุดท้ายของคิม อิล-ซ็องผู้เป็นบิดา อย่างไรก็ดี คิม จ็อง-อิลใช้เวลาสามปีในการรวมอำนาจ เขารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1997 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถือว่าเป็นผู้นำสูงสุดโดยปริยายของเกาหลีเหนือในขณะนั้น แต่ทว่าคิม จ็อง-อิล นั้นไม่ได้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากคิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา การแก้ไขรัฐธรมนูญในค.ศ. 1998 โดยสภาประชาชนสูงสุด (Supreme People's Assembly) อันเป็นองค์กรนิติบัญญัติได้ยกเลิกตำแหน่งประธานาธิบดีออกจากรัฐธรรมนูญ และยกย่องอดีตประธนานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง ให้เป็น "ประธานาธิบดีตลอดกาล" (Eternal President) ของสาธารณรัฐ อย่างไรก็ดี อาจแย้งได้ว่าเขาได้เป็นประมุขของประเทศเมื่อเขาเป็นผู้นำพรรคแรงงาน ในประเทศคอมมิวนิสต์ส่วนใหญ่ ผู้นำพรรคเป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจที่สุดในประเทศอย่างเป็นทางการ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญค.ศ. 1998 ได้แบ่งอำนาจของประธานาธิบดีออกเป็นสามส่วน ประกอบกันเป็นสามเส้าของผู้นำฝ่ายบริหารของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้แก่ ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศ (Chairman of National Defence Commission) คือ นายคิม จ็อง-อิลเอง นายกรัฐมนตรี คือ นายชเว ยอง-ริม (เกาหลี: 최영림) และประธานรัฐสภา คิม ยอง-นัม (เกาหลี: 김영남) แต่ละคนถืออำนาจในนามเทียบเท่ากับหนึ่งในสามของอำนาจประธานาธิบดีในระบบประธานาธิบดีในประเทศส่วนใหญ่ คิม จ็อง-อิลเป็นผู้บัญชาการกองทัพ ชเว ยอง-ริมเป็นผู้นำรัฐบาล และคิม ยอง-นัมจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี ในทางพฤตินัย คิม จ็อง-อิลดำเนินการควบคุมเด็ดขาดเหนือรัฐบาลและประเทศ แม้คิมจะไม่จำเป็นต้องเข้ารับการเลือกตั้งเพื่อรักษาตำแหน่ง เขาได้รับเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์ไปทำหน้าที่ในสภาประชาชนสูงสุดทุกห้าปี โดยเป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งทหาร เนื่องจากหน้าที่ปัจจุบันในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพประชาชนเกาหลีและประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
นโยบายเศรษฐกิจและการทหาร
เศรษฐกิจเกาหลีเหนือที่รัฐควบคุมประสบความยุ่งยากตลอดคริสต์ทศวรรษ 1990 อันเนื่องมาจากการบริหารจัดการผิด และนโยบายจูเช (เกาหลี: 주체) ของประธานาธิบดี คิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา อันเป็นนโยบายพึ่งพาตนเองโดยสมบูรณ์แบบ ตัดขาดการติดต่อจากโลกภายนอกทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง เมื่อการผลิตทางเกษตรกรรมประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ประกอบกับการบริหารจัดการที่ดินที่ไม่ดี จากเหตุนี้ ประกอบกับที่ดินที่สามารถเพาะปลูกได้เพียง 18% และการไม่สามารถนำเข้าสินค้าจำเป็นต่อการบำรุงอุตสาหกรรม ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนักในเกาหลีเหนือ นำไปสู่ (North Korean Famine) ในช่วงค.ศ. 1994 ถึง ค.ศ. 1998 มีชาวเกาหลีเหนือเสียชีวิตจากความอดอยากร่วมกว่า 240,000 ถึง 3,500,000 คน คิม จ็อง-อิล เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำของเกาหลีเหนือในค.ศ. 1994 ต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและความอดอยาก รัฐบาลเกาหลีเหนือแก้ไขปัญหาอย่างขาดประสิทธิภาพ โดยการสร้างระบบกระจายอาหารสาธารณะ (Public Distribution System) แบ่งอาหารให้ประชาชนในประเทศด้วยอัตราที่ไม่เท่าเทียม ชนชั้นแรงงานอุตสาหกรรมมีอภิสิทธิ์ได้รับอาหารมากกว่าประชาชนธรรมดา คนชราและเด็ก จนกระทั่งเมื่อสหประชาชาติรับทราบถึงปัญหาทุกภิกขภัยของเกาหลีเหนือจึงมีการบริจาคอาหารเข้าช่วยเหลือประชาชนเกาหลีเหนือ มีแหล่งที่มาจากประเทศเกาหลีใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
แม้ว่าประเทศและประชาชนจะประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนักในขณะนั้น ค.ศ. 1995 คิม จ็อง-อิล ได้ประกาศนโยบายซ็อนกุน (เกาหลี: 선군) หรือ"ทหารมาก่อน" (Military First) คือนโยบายการใช้ทรัพยากรไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีความก้าวหน้าทางการทหารเป็นอันดับแรก เพื่อเป็นการป้องกันประเทศเกาหลีเหนือจากการคุกคามของชาติตะวันตก ในระดับชาติ นโยบายนี้ได้มีอัตราเติบโตเป็นบวกสำหรับประเทศตั้งแต่ ค.ศ. 1996 และการนำ "การปฏิบัติเศรษฐกิจตลาดหลักเขตประเภทสังคมนิยม" ใน ค.ศ. 2002 ยังประคับประคองให้เกาหลีเหนือไม่ล่มจมแม้ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือด้านอาหารจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ในความตื่นตัวจากเศรษฐกิจเสียหายรุนแรงในคริสต์ทศวรรษ 1990 รัฐบาลเริ่มอนุมัติกิจกรรมการแลกเปลี่ยนและการค้าขนาดเล็กอย่างเป็นทางการ ดังที่แดเนียล สไนเดอร์ รองผู้อำนวยการการวิจัยที่ศูนย์วิจัยเอเชีย-แปซิฟิก มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด การดำเนินการอันเป็นทุนนิยมนี้ "ค่อนข้างจำกัด แต่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต ปัจจุบันมีตลาดที่น่าสังเกตซึ่งสร้างลักษณะคล้ายกันของระบบตลาดเสรี" ใน ค.ศ. 2002 คิม จ็อง-อิลประกาศว่า "เงินควรสามารถวัดมูลค่าของโภคภัณฑ์ทั้งหมดได้" ท่าทีต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือในสมัยของ คิม จ็อง-อิล มีลักษณะคล้ายกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนของเติ้ง เสี่ยวผิง ในปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 และต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนใน ค.ศ. 2006 คิม จ็อง-อิลได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของจีน
ลัทธิบูชาบุคคล
คิม จ็อง-อิลเป็นศูนย์กลางแห่งลัทธิบูชาบุคคลประณีตซึ่งรับต่อมาจากบิดาของเขาและผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี คิม อิลซอง ผู้แปรพักตร์ได้รับการอ้างคำพูดว่า โรงเรียนเกาหลีเหนือยกทั้งพ่อและลูกเหมือนเทพเจ้า เขามักเป็นศูนย์กลางความสนใจตลอดชีวิตปกติในเกาหลีเหนือ ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 60 ปี (ตามวันเกิดอย่างเป็นทางการ) มีการเฉลิมฉลองจำนวนมากทั่วประเทศในโอกาสนี้ ชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากเชื่อว่าเขามีความสามารถ "เวทมนตร์" ในการ "ควบคุมลมฟ้าอากาศ" ตามอารมณ์ของเขา ใน ค.ศ. 2010 สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่า เครื่องแต่งกายอันโดดเด่นของคิมได้เป็นกระแสแฟชั่นทั่วโลก
มุมมองหนึ่งคือว่า ลัทธิบูชาบุคคลของคิม จ็อง-อิลนั้นเป็นเพราะความเคารพคิม อิลซองหรือความกลัวการถูกลงโทษที่ไม่แสดงความเคารพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สื่อและแหล่งข่าวรัฐบาลนอกประเทศมักสนับสนุนมุมมองนี้ ขณะที่แหล่งข่าวเกาหลีเหนือยืนยันว่าเป็นการบูชาวีรบุรุษอย่างแท้จริง เพลง "ไม่มีมาตุภูมิหากไร้ซึ่งท่าน" ร้องโดยวงประสานเสียงของรัฐเกาหลีเหนือ เขียนขึ้นให้คิมโดยเฉพาะใน ค.ศ. 1992 และมักถ่ายทอดทางวิทยุบ่อยครั้งและจากเครื่องกระจายเสียงบนถนนแห่งเปียงยางคนเกาหลีเหนือทราบ ทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้ว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ
ความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้
ในสมัยการปกครองของคิม จ็อง-อิล ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเกาหลีสองประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก อันเนื่องมาจากกระประกาศใช้นโยบาย "ตะวันฉายแสง" (Sunshine Policy; เกาหลี: 햇볕정책) ของประธานาธิบดี คิม แดจุง แห่งเกาหลีใต้ในค.ศ. 1998 เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าประเทศเกาหลีเหนือและใต้ โดยการรัฐบาลเกาหลีใต้ได้ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่เกาหลีเหนือ และงดเว้นการเผชิญหน้าทางการทหารระหว่างสองประเทศ หรือความพยายามใดๆที่จะรวมปรเทศเกาหลีด้วยวิธีการทางทหาร ผู้นำทั้งสองประเทศได้แก่ นายคิม จ็อง-อิลแห่งเกาหลีเหนือ และคิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ พบปะร่วมประชุมสัมมนาที่นครเปียงยางในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2000 เพื่อหารือความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อันเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เกาหลี เนื่องจากในครั้งนั้นเป็นการพบปะกันครั้งแรกของผู้นำประเทศเกาหลีทั้งสองนับตั้งแต่สมัยสงครามเกาหลี แต่ทว่าการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรและนโยบายตะวันฉายแสงของนายคิมแดจุงได้รับการต่อต้านจากชาวเกาหลีใต้
รัฐบาลเกาหลีใต้ในสมัยต่อมาของประธานาธิบดี โน มู-ฮย็อน ได้พยายามที่จะสานต่อนโยบายตะวันฉายแสง โดยมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือเขตปกครองพิเศษขึ้นในเกาหลีเหนือสำหรับการลงทุนและการท่องเที่ยวของชาวเกาหลีใต้ ได้แก่ เขตท่องเที่ยวเขาคึมกัง (Mount Kŭmgang Tourist Region) จังหวัดคังวอน ก่อตั้งเมื่อค.ศ. 2002 ประธานาธิบดี โน มู-ฮย็อน อนุญาตให้บริษัทเกาหลีใต้เริ่มต้นการลงทุนในเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อิลประกาศแผนการนำเข้าและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่ยังด้อยพัฒนาของเกาหลีเหนือ ด้วยผลจากนโยบายใหม่นี้ (Kaesŏng Industrial Region) ถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 2003 ที่เมืองแคซองห่างไปทางเหนือของเขตปลอดทหารเกาหลีไม่ไกลนัก โดยมีบริษัทเกาหลีใต้วางแผนเข้าร่วม 250 บริษัท และว่าจ้างชาวเกาหลีเหนือ 100,000 คน ภายใน ค.ศ. 2007 อย่างไรก็ดี จนถึงเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 เขตยังมีเพียง 21 บริษัท และว่าจ้างคนงานเกาหลีเหนือ 12,000 คน จนถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 เขตได้ว่าจ้างชาวเกาหลีเหนือกว่า 40,000 คน นอกจากนี้เกาหลียังได้ทดลองจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นในลักษณะเดียวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน ขึ้นที่เมืองชินอีจู (Sinŭiju Special Administrative Region) ที่พรมแดนติดกับประเทศจีน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากประเทศจีน
วิกฤตการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
รัฐบาลเกาหลีมีความพยายามที่จะพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อให้ในด้านการทหารและพลังงานมาตั้งแต่สมัยของประธานาธิบดีคิม อิล-ซ็อง โดยด้วยความช่วยเหลือของสหภาพโซเวียตมีการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ตัวแรกขึ้นที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ย็องบย็อน (Yŏngbyŏn Nuclear Scientific Research Center) ในค.ศ. 1963 ในค.ศ. 1994 รัฐบาลเกาหลีของนายคิม จ็อง-อิล บรรลุข้อตกลงในการงดเว้นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และเกาหลีเหนือได้เข้าเป็นสมาชิกของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Non-Proliferation Treaty; NPT) แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือในการผลิตเครื่องปฏิกรณ์พลังงานนิวเคลียร์สองเครื่อง แต่ทว่าในค.ศ. 2002 รัฐบาลเกาหลีเหนือยอมรับว่าได้กำลังผลิตอาวุธนิวเคลียร์มาโดยตลอดแม้ว่าจะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาเมื่อ ค.ศ. 1994 ซึ่งรัฐบาลของคิม จ็อง-อิล กล่าวว่าการผลิตลับจำเป็นสำหรับจุดประสงค์ด้านความมั่นคง โดยอ้างการมีอยู่ของอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาในเกาหลีใต้และความตึงเครียดรอบใหม่กับสหรัฐอเมริกาภายใต้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้ซึ่งได้กล่าวว่าเกาหลีเหนือเป็นหนึ่งใน "อักษะแห่งความชั่วร้าย" (Axis of Evil) เกาหลีเหนือจึงถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสนธิสัญญาในค.ศ. 2003 นานาชาติประกอบด้วยห้าประเทศได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าเปิดโต๊ะเจรจากับรัฐบาลเกาหลีเหนือเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยอมละทิ้งการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ เรียกว่า การเจรจาหกฝ่าย (Six-party talks) แต่ไม่เป็นผลนัก
วันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2006 รัฐบาลเกาหลีเหนือทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินเป็นครั้งแรก และในปีต่อมาเดือนมกราคม ค.ศ. 2007 สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือประกาศว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดิน การเจรจาหกฝ่ายรอบที่หกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 เกาหลีเหนือยินยอมที่จะยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่ไม่ยอมให้ผู้ตรวจสอบจาก ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency; IAEA) เข้าตรวจสอบ ในเดือนเมษายนค.ศ. 2009 รัฐบาลเกาหลีทำการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินเป็นครั้งที่สอง ท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติ
ความพยายามที่จะพัฒนาอาวุธสงครามนิวเคลียร์ ทำให้ทศวรรษแห่งความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีระหว่างรัฐบาลเกาหลีทั้งสองเป็นอันต้องสิ้นสุดลง ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 เกิด (Battle of Daecheong) เป็นการปะทะกันระหว่างเรือรบของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ และเหตุการณ์จมเรือชอนัน (ROKS Cheonan sinking) เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2010 ทำให้มีลูกเรือชาวเกาหลีใต้เสียชีวิต
ครอบครัวและชีวิตส่วนตัว
คิม จ็อง-อิล เริ่มความสัมพันธ์กับ ซ็อง ฮเย-ริม (เกาหลี: 성혜림) ดาราชื่อดังของเกาหลีเหนือเมื่อค.ศ. 1968 แม้ว่านางซ็อง ฮเย-ริม จะมีสามีอยู่แล้วก็ตาม นางซ็อง ฮเย-ริม ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกแก่คิม จ็อง-อิล เมื่อค.ศ. 1970 คือ คิม จ็อง-นัม (เกาหลี: 김정남) แต่ทว่าคิม จ็อง-อิล ได้ปิดบังความสัมพันธ์กับ ซ็อง ฮเย-ริม และบุตรชายคนโตจากคิม อิล-ซ็องผู้เป็นบิดา และส่งบุตรชายของตนไปฝากเลี้ยงไว้กับนางซ็อง ฮเย-รัง (เกาหลี: 성혜랑) ผู้เป็นพี่สาวของซ็อง ฮเย-ริม โดยที่คิม จ็อง-อิลไม่อนุญาตให้บุตรชายของตนได้รับการศึกษาที่โรงเรียนเนื่องจากเกรงว่าความสัมพันธ์จะถูกเปิดเผย
คิม จ็อง-อิลสมรสกับนางคิม ยอง-ซุก (เกาหลี: 김영숙) เมื่อค.ศ. 1974 ซึ่งได้ให้กำเนิดบุตรสาวคนโตคนแรกแก่คิม จ็อง-อิล คือ คิม ซอล-ซ็ง (เกาหลี: 김설송) ในปีต่อมาค.ศ. 1975 คิม อิล-ซ็องผู้เป็นบิดาล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ของคิม จ็อง-อิล บุตรชายกับนางซ็อง ฮเย-ริม แม้ว่าซ็อง ฮเย-ริม จะไม่ได้รับสถานะเป็นภรรยาที่ถูกต้องแต่คิม จ็อง-นัม นั้นได้รับการยอมรับในฐานะบุตรชายของคิม จ็อง-อิล
จากนั้นคิม จ็อง-อิล ก็มีความสัมพันธ์กับภรรยานอกสมรสคนที่สองคือ นาง (เกาหลี: 고영희) ซึ่งให้กำเนิดบุตรชายคือ (เกาหลี: 김정철) เมื่อค.ศ. 1981 และคิม จ็อง-อึน (เกาหลี: 김정은) ในค.ศ. 1983 เมื่อคิม จ็อง-อิล ได้ขึ้นเป็นผู้นำของเกาหลีเหนือแล้ว ได้แต่งตั้งให้นางโค ย็อง-ฮีเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งและหมายมั่นที่จะผลักดันให้ คิม จ็อง-นัม บุตรชายคนโตได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือต่อไป โดยคิม จ็อง-อิลแต่งตั้งให้บุตรชายคิม จ็อง-นัม ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลเมื่อค.ศ. 1998 เพื่อเป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์ที่จะให้คิม จ็อง-นัมเป็นผู้สืบทอดผู้นำเกาหลีเหนือ
แต่ทว่าเนื่องจากคิม จ็อง-นัมไม่ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลเกาหลีแต่ได้รับการศึกษาอย่างลับๆที่บ้านของนางซ็อง ฮเย-รัง ผู้ซึ่งได้หลบหนีจากเกาหลีเหนือออกไปเมื่อค.ศ. 1982 ทำให้คิม จ็อง-นัมนั้นมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับโลกภายนอก ในค.ศ. 2001 คิม จ็อง-นัม ถูกจับกุมตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาตินะริตะ ประเทศญี่ปุ่น ขณะกำลังลักลอบเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยการปลอมตัวเป็นชาวจีนและใช้พาสปอร์ตปลอมของสาธารณรัฐโดมินิกัน เหตุการณ์นี้ทำให้คิม จ็อง-นัม สูญเสียความนิยมชมชอบจากคิม จ็อง-อิลผู้เป็นบิดา นำไปสู่การเปลี่ยนตัวผู้สืบทอดตำแหน่งไปเป็นบุตรชายคนเล็ก คือ คิม จ็อง-อึน ในที่สุด
สตรีหมายเลขหนึ่งโค ย็อง-ฮี เสียชีวิตในปีค.ศ. 2004 จากนั้นถึงเริ่มปรากฏนาง คิม อ็ก (เกาหลี: 김옥) เลขานุการส่วนตัวของนายคิม จ็อง-อิล ขึ้นมาเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่ ตราบจนการถึงแก่อสัญกรรมของนายคิม จ็อง-อิล ในปีค.ศ. 2011
ครอบครัว
- บิดา: คิม อิล-ซ็อง
- มารดา: คิม จ็อง-ซุก
- พี่น้อง:
- คิม มัน-อิล (มารดาเดียวกัน)
- คิม กย็อง-ฮี (มารดาเดียวกัน) สมรสกับ ชัง ซ็อง-แท็ก
- คิม กย็อง-ซุก (ต่างมารดา)
- (ต่างมารดา)
- คิม ย็อง-อิล (ต่างมารดา)
- คิม กย็อง-จิน (ต่างมารดา)
- ภรรยา: ฮง อิล-ช็อน (ค.ศ. 1942 - ?)
- บุตรสาวคนแรก: คิม ฮเย-กย็อง (ค.ศ. 1968 - ปัจจุบัน)
- ภรรยานอกสมรส: ซ็อง ฮเย-ริม (ค.ศ. 1937 - 2002)
- บุตรชายคนแรก: คิม จ็อง-นัม (ค.ศ. 1971 - 2017)
- ภรรยา: คิม ยอง-ซุก (ค.ศ. 1947 - ?)
- บุตรสาวคนที่ 2: คิม ซอล-ซ็ง (ค.ศ. 1974 - ปัจจุบัน)
- บุตรสาวคนที่ 3: คิม ชุน-ซ็ง (ค.ศ. 1975 - ปัจจุบัน)
- ภรรยา: โค ย็อง-ฮี (ค.ศ. 1953 - ค.ศ. 2004)
- บุตรชายคนที่ 2: (ค.ศ. 1981 - ปัจจุบัน)
- บุตรชายคนที่ 3: คิม จ็อง-อึน (ค.ศ. 1983 - ปัจจุบัน)
- บุตรสาวคนที่ 4: คิม ยอ-จ็อง (ค.ศ. 1987 - ปัจจุบัน)
- ภรรยา: คิม อ็ก (ค.ศ. 1964 - ปัจจุบัน)
ความเจ็บป่วยและบั้นปลายชีวิต
มีการรายงานความเจ็บป่วยของคิม จ็อง-อิล มาตั้งแต่ค.ศ. 2008 เนื่องจากในเดือนเมษายน ค.ศ. 2008 มีการวิ่งขบวนคบเพลิงของงานกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนผ่านกรุงเปียงยางทว่าคิม จ็อง-อิล กลับไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนในงานนั้น ทำให้เป็นที่คาดการณ์ว่าคิม จ็อง-อิล อาจจะกำลังประสบปัญหาทางสุขภาพอย่างหนัก ทว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธการคาดการณ์ที่ว่าคิม จ็อง-อิลนั้นกำลังมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ศาสตราจารย์โทะชิมิซึ ชิเงะมุระ แห่งมหาวิทยาลัยวะเซะดะ กล่าวในหนังสือพิมพ์ชูคัง เง็นไดของประเทศญี่ปุ่นว่า คิม จ็อง-อิล นั้นอาจถึงแก่อสัญกรรมไปแล้วตั้งแต่ ค.ศ. 2003 เนื่องจากโรคเบาหวานแต่ทางการรัฐบาลเกาหลีเหนือจัดตัวแทนขึ้นมาสวมรอย โดยสังเกตจากลักษณะการกล่าวสุนทรพจน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของคิม จ็อง-อิล มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่คิม จ็อง-อิล ล้มป่วยจนไม่สามารถบริหารประเทศได้นั้น ทำให้ผู้นำทหารระดับสูงขึ้นมามีอำนาจในการบริหารประเทศมากขึ้น เป็นผลให้นโยบายที่ผ่อนปรนของนายคิม จ็อง-อิลต่อโลกตะวันตกมีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องวิกฤตการณ์นิวเคลียร์
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ได้รับรายงานว่านายคิม จ็อง-อิล ล้มป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและได้รับกายภาพบำบัด ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 รัฐบาลเกาหลีเหนือได้เผยแพร่ภาพผู้นำของตนขณะกำลังตรวจกองทัพเพื่อเป็นการตอบโต้ข่าวลือการป่วยของคิม จ็อง-อิล แม้ว่านานาชาติจะตั้งข้อกังขาถึงความเท็จจริงของรูปเหล่านั้น ในขณะที่สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่า คิม จ็อง-อิล ประสบโรคหลอดเลือดสมองเป็นครั้งที่สองในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2008 ทำให้มีอาการอ่อนแรงแขนขาข้างซ้ายและพูดไม่ชัด ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 รัฐบาลเกาหลีเหนือเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวคิม จ็อง-อิลกำลังตรวจโรงงานเพื่อเป็นการสยบข่าวลืออีกครั้ง และเดือนเมษายนในปีนั้นคิม จ็อง-อิลได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกครั้งหนึ่ง
เพราะคิม จ็อง-นัม บุตรชายคนโต ไม่เป็นที่โปรดปรานของคิม จ็อง-อิลผู้เป็นบิดาอีกต่อไปแล้ว ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 มีการรายงานว่าคิม จ็อง-อิล เลือกบุตรชายคนสุดท้องของตนคือ คิม จ็อง-อึน ให้เป็นทายาทปกครองเกาหลีเหนือต่อไป ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 นายคิม จ็อง-อิล เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ โดยพำนักที่เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง และอีกครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2010 พร้อมกับบุตรชาย คิม จ็อง-อึน ทำให้นานาชาติมั่นใจว่าคิม จ็อง-อึน คือผู้สืบทอดของคิม จ็อง-อิล หลายฝ่ายมีความเห็นว่าการเยือนประเทศจีนของคิม จ็อง-อิล แสดงให้เห็นว่าสุขภาพของเขาฟื้นฟูดีขึ้น คิม จ็อง-อิลเยือนประเทศจีนเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2011 และพบปะกับดมีตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน
ทว่ามีการรายงานข่าวทางโทรทัศน์ในเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2011 ว่า คิม จ็อง-อิล ถึงแก่อสัญกรรมแล้วเมื่อสองวันก่อน (17 ธันวาคม) ด้วยสาเหตุทำงานมากเกินไป จนทำให้ทั้งทางร่างกายและจิตใจรับไม่ไหว คิม จ็อง-อิล ถึงแก่อสัญกรรมที่กรุงเปียงยาง มีการไว้ทุกข์เป็นเวลาสองสัปดาห์และพิธีศพมีขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม ศพของนายคิม จ็อง-อิล ถูกตั้งไว้ที่ เช่นเดียวกับคิม อิล-ซ็อง บิดา
อ้างอิง
- Chung, Byoung-sun (22 August 2002), , The Chosun Ilbo, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-11, สืบค้นเมื่อ 19 February 2007
- Sheets, Lawrence (12 February 2004), "A Visit to Kim Jong Il's Russian Birthplace", National Public Radio, สืบค้นเมื่อ 19 February 2007
- . CNN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-10-04. สืบค้นเมื่อ 2011-12-19.
- . LIFE. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-08. สืบค้นเมื่อ 19 December 2011.
- "BBC News - N Korean leader Kim Jong-il dies". Bbc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2011-12-19.
- McGivering, Jill (29 September 2009). "N Korea constitution bolsters Kim". BBC News. สืบค้นเมื่อ 7 May 2010.
- http://www.imdb.com/title/tt0456012/
- "NKorea prints photos of heir apparent Kim Jong Un". . 30 September 2010. สืบค้นเมื่อ 30 September 2010.
- The 100 Most Powerful People in the World, Forbes Magazine
- Steve Herrmann (9 October 2006). "Profile: Kim Jong-Il". BBC News. สืบค้นเมื่อ 17 December 2007.
- "Biography of the Dear Leader Kim Jong Il". Korea-dpr.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-12. สืบค้นเมื่อ 5 December 2008.
- Kim Jong Il – Short Biography. 2008-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Pyongyang: Foreign Languages Press, 1998, p. 1.
- Korea North General Secretary Kim Jong Il. USA International Business Publications. 2002. p. 37. ISBN .
- Post, Jerrold M. (2004). Leaders and their followers in a dangerous world: the psychology of political behavior. . pp. 243–244. ISBN .
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - "The Kims' North Korea" 2017-02-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Asia Times, 4 June 2005.
- Martin, Bradley K. (2004). Under the Loving Care of the Fatherly Leader, New York: St. Martin's Press.
- Kim Jong Il – Short Biography. 2008-06-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Pyongyang: Foreign Languages Press, 1998, p. 4.
- Calleja, Stephen (7 February 2010). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-05-01. สืบค้นเมื่อ 15 September 2010.
- "Kim is a baby rattling the sides of a cot", Guardian Unlimited, 30 December 2002.
- "Happy Birthday, Dear Leader – who's next in line?" 2004-02-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Asia Times, 14 February 2004.
- "North Korea's dear leader less dear", Fairfax Digital, 19 November 2004.
- "Testimony of Hwang Jang-yop".
- "North Korea: Nuclear Standoff", The Online NewsHour, , 19 October 2006.
- "Fake ashes, very real North Korean sanctions" 2008-07-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Asia Times Online, 16 December 2004.
- Noland, Marcus (2004). "Famine and Reform in North Korea". Asian Economic Papers. 3 (2): 1–40. doi:10.1162/1535351044193411?journalCode=asep.
- Haggard, Nolan, Sen (2009). Famine in North Korea: Markets, Aid, and Reform. p. 209. ISBN .
This tragedy was the result of a misguided strategy of self-reliance that only served to increase the country's vulnerability to both economic and natural shocks ... The state's culpability in this vast misery elevates the North Korean famine to a crime against humanity
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "North Korea: A terrible truth". The Economist. 17 April 1997. สืบค้นเมื่อ 24 September 2011.
- "North Korea Agriculture", Federal Research Division of the Library of Congress. Retrieved 11 March 2007.
- "Other Industry – North Korean Targets" Federation of American Scientists, 15 June 2000.
- "North Korea's Military Strategy", Parameters, U.S. Army War College Quarterly, 2003.
- "Kim Jong-il's military-first policy a silver bullet" 2008-07-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Asia Times Online, 4 January 2007.
- "North Korea's Capitalist Experiment" 2009-02-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Council on Foreign Relations, 8 June 2006.
- "On North Korea's streets, pink and tangerine buses", Christian Science Monitor, 2 June 2005.
- "Inside North Korea: A Joint U.S.-Chinese Dialogue" 2009-06-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, United States Institute of Peace, January 2007.
- Chol-hwan Kang and Pierre Rigoulot (2005). The Aquariums of Pyongyang: Ten Years in the North Korean Gulag, Basic Books. .
- "North Korea marks leader's birthday". BBC. 16 February 2002. สืบค้นเมื่อ 18 December 2007.
- "N.Korea leader sets world fashion trend: Pyongyang". FRANCE 24. 7 April 2010. สืบค้นเมื่อ 19 December 2011.
- Mansourov, Alexandre. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-16. สืบค้นเมื่อ 18 December 2007.
- Scanlon, Charles (16 February 2007). "Nuclear deal fuels Kim's celebrations". BBC. สืบค้นเมื่อ 18 December 2007.
- Coonan, Clifford (21 October 2006). . The Independent. London. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-16. สืบค้นเมื่อ 18 December 2007.
- Richard Lloyd Parry. "'Dear Leader' clings to power while his people pay the price", The Times. 10 October 2006. Retrieved 18 December 2007.
- "North Korea's 'Dear Leader' flaunts nuclear prowess". . Reuters. 10 October 2006. สืบค้นเมื่อ 13 October 2011.
- Compiled by the Bureau of Democracy, Human Rights, and Labor. "Country Reports on Human Rights Practices" United States Department of State. 25 February 2004. Retrieved 18 December 2007.
- Jason LaBouyer "When friends become enemies — Understanding left-wing hostility to the DPRK" 2008-02-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Lodestar. May/June 2005: pp. 7–9. Korea-DPR.com. Retrieved 18 December 2007.
- Marshall Cavendish Corporation (2007). World and Its Peoples: Eastern and Southern Asia. Marshall Cavendish. p. 929. ISBN .
- "Asan, KOLAND Permitted to Develop Kaesong Complex" 2020-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Korea Times, 23 April 2004.
- "S. Korea denies U.S. trade pact will exclude N. Korean industrial park", Yonhap News, 7 March 2007.
- "South Korea dials back tough talk over Cheonan sinking", Christian Science Monitor, 31 May 2010.
- "History of the 'Agreed Framework' and how it was broken", About: U.S. Gov Info/Resources, 12 March 2007.
- "Motivation Behind North Korea's Nuclear Confession", GLOCOM Platform, 28 October 2002.
- "N Korean leader Kim Jong-il dies". BBC News. 19 December 2011. สืบค้นเมื่อ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
หนังสืออ่านเพิ่ม
- Jasper Becker, "Rogue Regime: Kim John Il and the Looming Threat of North Korea", Oxford University Press (October 2006), Softcover, 328 pages, ISBN 0-19-530891-3 2012-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- , Kim Jong-il: North Korea's Dear Leader, John Wiley and Sons (January 2004), hardcover, 228 pages,
- Bradley Martin, Under The Loving Care Of The Fatherly Leader: North Korea And The Kim Dynasty, St. Martins (October 2004), hardcover, 868 pages,
- Kim Chol U, Army-Centred Politics Of Kim Jong Il 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 2002, Softcover, 98 pages
- Kim Jong Il Brief History 2015-07-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1998, Hardcover, 149 pages
- Kim Jong Il Short Biography 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 2001, Hardcover, 215 pages
- Pae Kyong Su, Kim Jong Il The Individual Thoughts And Leadership Vol. 1 2015-06-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1993, Softcover, 225 pages
- Pae Kyong Su, Kim Jong Il The Individual Thoughts And Leadership Vol. 2 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1995, Softcover, 164 pages
- Nada Takashi, Korea In Kim Jong Il's Era 2015-06-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 2000, Softcover, 163 pages
- Li Il Bok, The Great Man Kim Jong Il 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1989, Softcover, 167 pages
- Ri Il Bok, The Great Man Kim Jong Il Vol. 2 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1995, Softcover, 84 pages
- Jo Song Baek, The Leadership Philosophy Of Kim Jong Il 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1999, Softcover, 261 pages
- Guiding Light General Kim Jong Il 2014-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Foreign Languages Publishing House, Pyongyang, North Korea, 1997, Softcover, 357 pages
แหล่งข้อมูลอื่น
- Kim Jong Il: Brief HistoryPDF (893 KB) – Foreign Languages Publishing House, Pyongyang DPR Korea (1998)
- Born in the USSR 2005-03-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – Kim Jong-il's childhood.
- The many family secrets of Kim Jong Il 2005-02-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "Hidden Daughter" Visits Kim Jong-il Every Year (also includes photos of Kim during his youth)
- Kim's family tree (เกาหลี)
- BBC, North Korea's secretive 'first family'
- BBC, Proundefined: Kim Jong-il
- BBC, Who will succeed N Korea's Kim Jong-il?
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khim cxng xil ekahli 김정일 hnca 金正日 xarxar Kim Chŏngil exmxar Gim Jeong il michuxemuxaerkekidwa yuri xiresonwich khim Yurij Irsenovich Kim tambnthukosewiyt 16 kumphaphnth kh s 1941 17 thnwakhm kh s 2011 xditphunasungsudkhxngsatharnrthprachathipityprachachnekahli ekahliehnux ekhaepnelkhathikarphrrkhkrrmkrekahli sungepnphrrkhrthbaltngaet kh s 1948 prathankhnakrrmathikarpxngknpraethsaehngekahliehnux aelaphubychakarkxngthphprachachnekahlisungsud sungepnkxngthphkhnadihythisudxndbsikhxngolkcxmphlsungsudkhim cxng xil김정일 金正日khim cxng xil inpi 2554elkhathikarphrrkhaerngnganekahlidarngtaaehnng 8 tulakhm ph s 2537 17 thnwakhm ph s 2554kxnhnakhim xil sxngthdipkhim cxng xun inthanaelkhathikarkhnaerk darngtaaehnng 9 emsayn ph s 2536 17 thnwakhm ph s 2554kxnhnakhim xil sxngthdipkhim cxng xun inthanaprathankhnaerk phubychakarthharsungsudaehngkxngthphprachachnekahlidarngtaaehnng 24 thnwakhm ph s 2534 17 thnwakhm ph s 2554kxnhnakhim xil sxngthdipkhim cxng xunkhxmulswnbukhkhlekid16 kumphaphnth ph s 2484 shphaphosewiyt tambnthukekahliehnuxinpccubn esiychiwit17 thnwakhm ph s 2554 70 pi epiyngyang ekahliehnuxthiiwsphwngsuriyakhumsusn epiyngyang ekahliehnuxechuxchatiekahliehnux osewiyt okhryx sarm sasnaxethwniymphrrkhkaremuxngphrrkhaerngnganekahlikhuxasysxng hey rim 2511 2545 okh yng hi 2520 2547 khim xk 2547 2554 khusmrshng xil chxn 2509 2512 khim yxng suk 2517 2554 butrkhim cxng nm khim cxng xun khim yx cxngsisyekamhawithyalykhimxilsxnglaymuxchuxysthiidrbkaraetngtngrbich ekahliehnuxsngkdkxngthphprachachnekahlipracakar2534 2554ys cxmphlsungsud bngkhbbychaphubychakarthharsungsud ineduxnemsayn kh s 2009 mikaraekikhrththrrmnuyekahliehnuxodyeriykekhawaepn phunasungsud odypriyay ekhayngthukeriykwa bidathirk bidakhxngera nayphl aela cxmthph butrchay khim cxngxunidrbeluxnepntaaehnngradbsunginphrrkhkrrmkraelathukwangtwepnthayath in kh s 2010 ekhathukcdxyuinxndbthi 31 khxngbukhkhlthrngxanacthisudkhxngolk rthbalekahliehnuxprakaskarthungaekxsykrrmkhxngekhaemuxwnthi 19 thnwakhm kh s 2011chiwitwyeyawaerkekid raylaexiydekiywkbkarekidkhxngkhim cxng xilaetktangkniptamaehlngkhxmul bnthukosewiytaesdngihehnwaekhaekidinhmubanwytsokhey Vyatskoye dinaednhabarxfskh Khabarovsk shphaphosewiyt emuxkh s 1941 michuxemuxaerkekidwa yuri xiresonwich khim Yuri Irsenovich Kim rsesiy Yurij Irsenovich Kim epnbutrchaykhnotkhnaerkkhxngnaykhim xil sxng ekahli 김정일 kbnangkhim cxng suk ekahli 김정숙 khim xil sxng phuepnbida inkhnanndarngtaaehnngepnphubychakarkxngphnthi 1 aehngkxngphlnxyosewiytthi 88 xnprakxbdwychawcinaelaekahliphldthin aehngkxngthphaedng Red Army khxngshphaphosewiyt ephuxtxsukbkarrukranaemncueriykhxngckrwrrdiyipun inchwngsngkhramcin yipunkhrngthi 2 Second Sino Japanese War khim cxng xil minxngchaymardaediywknxikhnungkhnkhux khim mn xil ekahli 김만일 hrux khim chura Kim Sura ekahli 김슈라 ekidemuxpikh s 1944 aelanxngsawhnungkhnkhux khim kyxng hi ekahli 김경희 chiwprawtixyangepnthangkarkhxngkhim cxng xil sungaetngodyrthbalekahliehnuxinsmytxma rabuwaekhaekidinkhaythharlbbn Baekdu Mountains inekahlikhxngyipun cnghwdryngkng praethsekahliehnuxinpccubn emuxwnthi 16 kumphaphnth kh s 1942 nkchiwprawtithangkarxangwa karekidkhxngekhathiphuekhaaephktumilangbxkehtuepnnknangaexn aelapawprakasodykarpraktkhunkhxngrungkinnasxngsayehnuxyxdekhaaeladawdwngihminsrwngswrrkh in kh s 1945 khnathikhimxayuidsamhruxsipi tampiekidkhxngekha emuxsngkhramolkkhrngthisxngsinsudlngaelaekahliidrbexkrachkhuncakyipunxikkhrnghnung bidakhxngekhaklbipyngepiyngyangineduxnknyaynpinnephuxekhadarngtaaehnngepnphunakhxngekahliehnux aelaplayeduxnphvscikayn khim cxng xil cungidedinthangklbsuekahlitambidakhxngtnodyeruxosewiyt sungkhunfngthisxnbxng khrxbkhrwyayekhaipinbanphkkhxngxditecahnathiyipun phrxmkbswnaelasrana nxngchaykhxngkhim cxng xil chura khim khim phyxngxil aetruckodychuxelnphasarsesiykhxngekha cmnathinnin kh s 1948 raynganimyunynaenawa khim cxng xilwyhakhwbxacepntnehtukhxngxubtiehtunn nangkhim cxng suk mardakhxngkhim cxng xil esiychiwitcakkarkhlxdbutrkhnthisi emuxkh s 1949 raynganimyunynrabuwa mardakhxngekhaxacthukyingaelathukthingiheluxdihlcnesiychiwit karsuksa khim cxng xilin kh s 1947 wy 5 hrux 6 khwb tamchiwprawtixyangepnthangkar khimsaerckarsuksakhnphunthanrahwangeduxnknyayn kh s 1950 aelasinghakhm kh s 1960 inkrungepiyngyang sungkhdaeyngkbnkwichakartangchati sungechuxwaekhanacaidrbkarsuksachwngtninsatharnrthprachachncinmakkwa ephuxpraknkhwamplxdphykhxngekharahwangsngkhramekahli tlxdkarsuksainorngeriyn khimekiywkhxngkbkaremuxngxyuesmx ekhaekharwminshphaphedk aelasnnibatieyawchnprachathipityaehngekahliehnux ekharwminklumsuksathvsdikaremuxngmaksistaelawrrnkrrmxun ineduxnknyayn kh s 1957 ekhaepnrxngprathansakhasnnibatieyawchnprachathipitykhxngorngeriynmthymtn ekhadaenintamokhrngkartxtankarthuxphwkphxngaelaphyayamkratunkarsuksaxudmkarnthiyingihykhuninbrrdaephuxnrwmchnkhxngekha khimyngklawknwaidrbkarsuksaphasaxngkvsthimhawithyalymxltainchwngtnkhristthswrrs 1970 chwngwnhyudthiimbxykhrngnkinmxltainthanaaekhkkhxngnaykrthmntridxm minthxff hlngcakthimardakhxngkhim cxng xil esiychiwitip khim xil sxng phuepnbidaidsmrsihmkbnangkhim sxng aex ekahli 김성애 cakkarsmrskhrngihmkhxngbida khim cxng xil minxngchaytangmardaxiksxngkhn hnunginnnkhux khim phyxng xil ekahli 김평일 tngtamchuxnxngchaythicmnaesiychiwitkhxngkhim cxng xil nbaet kh s 1988 khim phyxng xilidrbrachkarinsthanthutekahliehnuxhlayaehnginyuorpaelapccubnepnexkxkhrrachthutekahliehnuxpracaopaelnd nkwicarntangpraethssngsywakhim phyxngxilthukbidasngiprbtaaehnnghangiklehlaniephuxpxngknkaraekngaeyngxanacrahwangbutrchaythngsxngsmachikeprsiediymaelaelkhathikarphrrkh 1980 1984 krathngkarprachumphrrkhkhrngthihkineduxntulakhm kh s 1980 karkhwbkhumptibtikarkhxngphrrkhkhxngkhim cxng xilidesrcsinsmburn ekhaidrbtaaehnngxawuosinophlitbuor khnakrrmathikarthharaelaelkhathikarphrrkh emuxekhaidrbaetngtngepnsmachiksphaprachachnsungsudthiecdineduxnkumphaphnth kh s 1982 phusngektkarntangpraethsechuxwaekhaepnthayathkaremuxngkhxngekahliehnux thungkhnani khimidrbkhanahna phunaxnepnthirk 친애하는 지도자 rthbalerimsranglththibuchabukhkhlrxbtwekhasunglxkaebbmacakbida phunaxnyingihy khim cxng xilidrbkarsrresriycaksuxepnpracawaepn phunairkhwamklw aela phusubthxdphuyingihytxxudmkarnptiwti ekhathuxkaenidkhunepnbukhkhlthrngxanacthisudrxngcakbidaekhainekahliehnux wnthi 24 thnwakhm kh s 1991 khimidrbaetngtngepnphubychakarthharsungsudkhxngkxngthphekahliehnux enuxngcakkxngthphepnrakthanxanacthiaethcringinekahliehnux nicungepnkawsakhy rthmntriklaohm ox cin xu hnunginphuitbychathiphkdithisudkhxngkhim xil sxng wangaephnkaryxmrbkhxngkhim cxng xilodykxngthphwaepnphunakhntxipkhxngekahliehnux aemekhacaimidrbrachkarthharktam xikhnungphusmkhrintaaehnngphunathiepnipid naykrthmntrikhim xil imidepnekhruxyati thukthxdcaktaaehnngin kh s 1976 in kh s 1992 khim xil sxngaethlngtxsatharnawabutrchayepnphurbphidchxbkickarphayinthnghmdinsatharnrthprachathipityprachachn in kh s 1992 karthaythxdthangwithyuklawthungekhawaepn bidaxnepnthirk aethn phunaxnepnthirk wnekidkhrbrxb 50 pikhxngekhaineduxnkumphaphnthepnoxkaschlxngihythimikhnekharwmcanwnmak dxykwaephiyngkarechlimchlxngkhrbrxb 80 pikhxngkhim xil sxnginwnthi 15 emsayn piediywkn tamkhxmulkhxngphuaeprphktr hwang cangyxb rabbrthbalekahliehnuxidrwmxanacekhasusunyklangaelaepnmakkhuninchwngkhristthswrrs 1980 aela 1990 phayitkhim cxng xilkwathiekhyepninsmybidakhxngekha hwangxthibaytwxyanghnungwa aemkhim xil sxngcakahndihrthmntriphkditxekha aetekhayngmxnghakhaaenanarahwangkartdsinic aetkhim cxng xiltxngkarkarechuxfngxyangsmburnaelakhwamtklngcakrthmntriaelaecahnathiphrrkhodyimtxngkarkhaaenanahruxkarpranipranxm aelaekhamxngkhwamehntangephiyngelknxyid cakkhwamkhidkhxngekhawaepnsyyanthungkhwamimphkdi tamkhxmulkhxnghwang khim cxng xilkahndthukeruxngdwytwexngaemraylaexiydelknxykhxngkickarrth echn khnadkhxngbansahrbelkhathikarphrrkhaelakarsngkhxngkhwyipihphuitbychakhxngekha cnthungkhristthswrrs 1980 ekahliehnuxerimprasbpyhaesrsthkicsbesarayaerng noybaycuech phungphatnexng khxngkhim xilsxngtdpraethscakkarkhaphaynxkekuxbthnghmd aemaetkbkhukhaaetedim khux shphaphosewiytaelacin ekahliitklawothskhimwasngkarehturaebidinyangkung praethsphma inwnthi 9 tulakhm kh s 1983 sungkhrachiwitecahnathiekahliitthiipeyuxn 17 khn rwmthngsmachikrthmntrisikhn aelaxikkhrnginwnthi 29 phvscikayn kh s 1987 sungkhrachiwitthukkhn 115 khn bnokheriynaexr ethiywbinthi 858 ecahnathiekahliehnux khim hyxn huy sarphaphwawangraebidiwinhibkhxng aelawa ptibtikarthuksngkarodykhim cxng xilepnkarswntw in kh s 1992 esiyngkhxngkhim cxng xilidrbkarthaythxdinekahliehnuxepnkhrngaerkrahwangkaredinkhbwnthharsahrbkarkhrbrxbpithi 60 khxngkxngthphprachachnekahlithicturskhim xil sxng inkrungepiyngyang sungkhim xil sxngekharwmodymikhim cxng xil yunkhang hlngkarsunthrphcnkhxngkhim xil sxng aelakartrwckhbwnnn butrchaykhxngekhakhybipyngimokhrofnthixthcnthrodytxbkarrayngankhxngphutrwckarkhbwnaelaklawngay wa thharphuklaaehngkxngthphprachachnekahlicngecriy caknnthukkhnthiepnphufngnnprbmuxaelaphuekharwmkhbwnthiphunthicturs sungrwmthharphansukaelanaythharkhxngkxngthphprachachnekahli taokn hmun pi rwmsamkhrngphupkkhrxngekahliehnuxxnusawriythanphuna khim cxng xil wnthi 8 krkdakhm kh s 1994 bidakhxngkhim cxng xil khim xil sxngthungaekxsykrrm dwywy 82 picakxakarorkhhwickaerib khim cxng xilidrbhnathiepnphunainkarcdnganphithisphihaekbidakhxngtn aelaprbprungburna Kumsusan Palace of the Sun ihepnthiphanksudthaykhxngkhim xil sxngphuepnbida xyangirkdi khim cxng xilichewlasampiinkarrwmxanac ekharbtaaehnngelkhathikarphrrkhaerngnganekahlixyangepnthangkaremuxwnthi 8 tulakhm kh s 1997 sungepntaaehnngthithuxwaepnphunasungsudodypriyaykhxngekahliehnuxinkhnann aetthwakhim cxng xil nnimidsubthxdtaaehnngprathanathibditxcakkhim xil sxng phuepnbida karaekikhrththrmnuyinkh s 1998 odysphaprachachnsungsud Supreme People s Assembly xnepnxngkhkrnitibyytiidykeliktaaehnngprathanathibdixxkcakrththrrmnuy aelaykyxngxditprathnanathibdikhim xil sxng ihepn prathanathibditlxdkal Eternal President khxngsatharnrth xyangirkdi xacaeyngidwaekhaidepnpramukhkhxngpraethsemuxekhaepnphunaphrrkhaerngngan inpraethskhxmmiwnistswnihy phunaphrrkhepnbukhkhlphuthrngxanacthisudinpraethsxyangepnthangkar karaekikhrththrrmnuykh s 1998 idaebngxanackhxngprathanathibdixxkepnsamswn prakxbknepnsamesakhxngphunafaybriharkhxngrthbalekahliehnux idaek prathankhnakrrmathikarpxngknpraeths Chairman of National Defence Commission khux naykhim cxng xilexng naykrthmntri khux naychew yxng rim ekahli 최영림 aelaprathanrthspha khim yxng nm ekahli 김영남 aetlakhnthuxxanacinnamethiybethakbhnunginsamkhxngxanacprathanathibdiinrabbprathanathibdiinpraethsswnihy khim cxng xilepnphubychakarkxngthph chew yxng rimepnphunarthbal aelakhim yxng nmcdkarkhwamsmphnthrahwangpraeths xyangirkdi inthangphvtiny khim cxng xildaeninkarkhwbkhumeddkhadehnuxrthbalaelapraeths aemkhimcaimcaepntxngekharbkareluxktngephuxrksataaehnng ekhaidrbeluxkxyangepnexkchnthipthahnathiinsphaprachachnsungsudthukhapi odyepnphuaethnekhteluxktngthhar enuxngcakhnathipccubninthanaphubychakarsungsudkxngthphprachachnekahliaelaprathankhnakrrmathikarpxngknpraethssatharnrthprachathipityprachachnekahli noybayesrsthkicaelakarthhar esrsthkicekahliehnuxthirthkhwbkhumprasbkhwamyungyaktlxdkhristthswrrs 1990 xnenuxngmacakkarbriharcdkarphid aelanoybaycuech ekahli 주체 khxngprathanathibdi khim xil sxng phuepnbida xnepnnoybayphungphatnexngodysmburnaebb tdkhadkartidtxcakolkphaynxkthngthangdanesrsthkicaelakaremuxng emuxkarphlitthangekstrkrrmprasbkhwamlmehlwxyangrunaerngxnenuxngmacakphythrrmchati prakxbkbkarbriharcdkarthidinthiimdi cakehtuni prakxbkbthidinthisamarthephaaplukidephiyng 18 aelakarimsamarthnaekhasinkhacaepntxkarbarungxutsahkrrm thaihekidphawakhadaekhlnxaharxyanghnkinekahliehnux naipsu North Korean Famine inchwngkh s 1994 thung kh s 1998 michawekahliehnuxesiychiwitcakkhwamxdxyakrwmkwa 240 000 thung 3 500 000 khn khim cxng xil ekhadarngtaaehnngphunakhxngekahliehnuxinkh s 1994 txngephchiykbpyhathangesrsthkicaelakhwamxdxyak rthbalekahliehnuxaekikhpyhaxyangkhadprasiththiphaph odykarsrangrabbkracayxaharsatharna Public Distribution System aebngxaharihprachachninpraethsdwyxtrathiimethaethiym chnchnaerngnganxutsahkrrmmixphisiththiidrbxaharmakkwaprachachnthrrmda khnchraaelaedk cnkrathngemuxshprachachatirbthrabthungpyhathukphikkhphykhxngekahliehnuxcungmikarbricakhxaharekhachwyehluxprachachnekahliehnux miaehlngthimacakpraethsekahliit satharnrthprachachncin aelashrthxemrikaepnhlk aemwapraethsaelaprachachncaprasbpyhakhadaekhlnxyanghnkinkhnann kh s 1995 khim cxng xil idprakasnoybaysxnkun ekahli 선군 hrux thharmakxn Military First khuxnoybaykarichthrphyakripkbkarphthnaethkhonolyikhwamkawhnathangkarthharepnxndbaerk ephuxepnkarpxngknpraethsekahliehnuxcakkarkhukkhamkhxngchatitawntk inradbchati noybayniidmixtraetibotepnbwksahrbpraethstngaet kh s 1996 aelakarna karptibtiesrsthkictladhlkekhtpraephthsngkhmniym in kh s 2002 yngprakhbprakhxngihekahliehnuximlmcmaemtxngphungphakhwamchwyehluxdanxaharcaktangpraethsxyangtxenuxngktam inkhwamtuntwcakesrsthkicesiyhayrunaernginkhristthswrrs 1990 rthbalerimxnumtikickrrmkaraelkepliynaelakarkhakhnadelkxyangepnthangkar dngthiaedeniyl sinedxr rxngphuxanwykarkarwicythisunywicyexechiy aepsifik mhawithyalysaetnfxrd kardaeninkarxnepnthunniymni khxnkhangcakd aet odyechphaaxyangyingemuxepriybethiybkbinxdit pccubnmitladthinasngektsungsranglksnakhlayknkhxngrabbtladesri in kh s 2002 khim cxng xilprakaswa enginkhwrsamarthwdmulkhakhxngophkhphnththnghmdid thathitxkarptirupesrsthkickhxngekahliehnuxinsmykhxng khim cxng xil milksnakhlaykbkarptirupesrsthkickhxngsatharnrthprachachncinkhxngeting esiywphing inplaykhristthswrrs 1980 aelatnkhristthswrrs 1990 rahwangkaredinthangeyuxnsatharnrthprachachncinin kh s 2006 khim cxng xilidklawaesdngkhwamchunchmtxkhwamkawhnathangesrsthkickhxngcin lththibuchabukhkhl khim cxng xilepnsunyklangaehnglththibuchabukhkhlpranitsungrbtxmacakbidakhxngekhaaelaphukxtngsatharnrthprachathipityprachachnekahli khim xilsxng phuaeprphktridrbkarxangkhaphudwa orngeriynekahliehnuxykthngphxaelalukehmuxnethpheca ekhamkepnsunyklangkhwamsnictlxdchiwitpktiinekahliehnux inwnkhlaywnekidkhrbrxb 60 pi tamwnekidxyangepnthangkar mikarechlimchlxngcanwnmakthwpraethsinoxkasni chawekahliehnuxcanwnmakechuxwaekhamikhwamsamarth ewthmntr inkar khwbkhumlmfaxakas tamxarmnkhxngekha in kh s 2010 suxekahliehnuxraynganwa ekhruxngaetngkayxnoddednkhxngkhimidepnkraaesaefchnthwolk mummxnghnungkhuxwa lththibuchabukhkhlkhxngkhim cxng xilnnepnephraakhwamekharphkhim xilsxnghruxkhwamklwkarthuklngothsthiimaesdngkhwamekharphephiyngxyangediywethann suxaelaaehlngkhawrthbalnxkpraethsmksnbsnunmummxngni khnathiaehlngkhawekahliehnuxyunynwaepnkarbuchawirburusxyangaethcring ephlng immimatuphumihakirsungthan rxngodywngprasanesiyngkhxngrthekahliehnux ekhiynkhunihkhimodyechphaain kh s 1992 aelamkthaythxdthangwithyubxykhrngaelacakekhruxngkracayesiyngbnthnnaehngepiyngyangkhnekahliehnuxthrab thaihphukhnthwolkruwaepnokhsnachwnechuxkhxngekahliehnux khwamsmphnthkbekahliit insmykarpkkhrxngkhxngkhim cxng xil khwamsmphnthrahwangrthbalekahlisxngpraethsphthnaipinthangthidikhunxyangmak xnenuxngmacakkraprakasichnoybay tawnchayaesng Sunshine Policy ekahli 햇볕정책 khxngprathanathibdi khim aedcung aehngekahliitinkh s 1998 ephuxphthnakhwamsmphnthrahwapraethsekahliehnuxaelait odykarrthbalekahliitidihkhwamchwyehluxthangesrsthkicaekekahliehnux aelangdewnkarephchiyhnathangkarthharrahwangsxngpraeths hruxkhwamphyayamidthicarwmprethsekahlidwywithikarthangthhar phunathngsxngpraethsidaek naykhim cxng xilaehngekahliehnux aelakhim aed cung aehngekahliit phbparwmprachumsmmnathinkhrepiyngyangineduxnmithunayn kh s 2000 ephuxharuxkhwamrwmmuxthangesrsthkic xnepnehtukarnkhrngsakhyinprawtisastrekahli enuxngcakinkhrngnnepnkarphbpaknkhrngaerkkhxngphunapraethsekahlithngsxngnbtngaetsmysngkhramekahli aetthwakarecrcaimprasbkhwamsaercethathikhwraelanoybaytawnchayaesngkhxngnaykhimaedcungidrbkartxtancakchawekahliit rthbalekahliitinsmytxmakhxngprathanathibdi on mu hyxn idphyayamthicasantxnoybaytawnchayaesng odymikarcdtngekhtesrsthkicphiesshruxekhtpkkhrxngphiesskhuninekahliehnuxsahrbkarlngthunaelakarthxngethiywkhxngchawekahliit idaek ekhtthxngethiywekhakhumkng Mount Kŭmgang Tourist Region cnghwdkhngwxn kxtngemuxkh s 2002 prathanathibdi on mu hyxn xnuyatihbristhekahliiterimtnkarlngthuninekahliehnux khim cxng xilprakasaephnkarnaekhaaelaphthnaethkhonolyiihmephuxphthnaxutsahkrrmsxftaewrthiyngdxyphthnakhxngekahliehnux dwyphlcaknoybayihmni Kaesŏng Industrial Region thuksrangkhunin kh s 2003 thiemuxngaekhsxnghangipthangehnuxkhxngekhtplxdthharekahliimiklnk odymibristhekahliitwangaephnekharwm 250 bristh aelawacangchawekahliehnux 100 000 khn phayin kh s 2007 xyangirkdi cnthungeduxnminakhm kh s 2007 ekhtyngmiephiyng 21 bristh aelawacangkhnnganekahliehnux 12 000 khn cnthungeduxnphvsphakhm kh s 2010 ekhtidwacangchawekahliehnuxkwa 40 000 khn nxkcakniekahliyngidthdlxngcdtngekhtesrsthkicphiesskhuninlksnaediywkbekhtesrsthkicphiesskhxngcin khunthiemuxngchinxicu Sinŭiju Special Administrative Region thiphrmaedntidkbpraethscin ephuxdungdudkarlngthuncakpraethscinwikvtkarniwekhliyrekahliehnuxrthbalekahlimikhwamphyayamthicaphthnaethkhonolyiniwekhliyrephuxihindankarthharaelaphlngnganmatngaetsmykhxngprathanathibdikhim xil sxng odydwykhwamchwyehluxkhxngshphaphosewiytmikarsrangetaptikrnniwekhliyrtwaerkkhunthisunywicywithyasastrniwekhliyryxngbyxn Yŏngbyŏn Nuclear Scientific Research Center inkh s 1963 inkh s 1994 rthbalekahlikhxngnaykhim cxng xil brrlukhxtklnginkarngdewnkarphthnaxawuthniwekhliyraelaekahliehnuxidekhaepnsmachikkhxngsnthisyyaimaephrkhyayxawuthniwekhliyr Non Proliferation Treaty NPT aelkepliynkbkhwamchwyehluxinkarphlitekhruxngptikrnphlngnganniwekhliyrsxngekhruxng aetthwainkh s 2002 rthbalekahliehnuxyxmrbwaidkalngphlitxawuthniwekhliyrmaodytlxdaemwacabrrlukhxtklngkbshrthxemrikaemux kh s 1994 sungrthbalkhxngkhim cxng xil klawwakarphlitlbcaepnsahrbcudprasngkhdankhwammnkhng odyxangkarmixyukhxngxawuthniwekhliyrkhxngshrthxemrikainekahliitaelakhwamtungekhriydrxbihmkbshrthxemrikaphayitprathanathibdicxrc dbebilyu buch phusungidklawwaekahliehnuxepnhnungin xksaaehngkhwamchwray Axis of Evil ekahliehnuxcungthxntwxxkcakkarepnsmachikkhxngsnthisyyainkh s 2003 nanachatiprakxbdwyhapraethsidaek satharnrthekahli ekahliit shrthxemrika satharnrthprachachncin yipun aelashphnthrthrsesiy ekhaepidotaecrcakbrthbalekahliehnuxephuxekliyklxmihyxmlathingkarphthnaraebidniwekhliyr eriykwa karecrcahkfay Six party talks aetimepnphlnk wnthi 9 tulakhm kh s 2006 rthbalekahliehnuxthdlxngraebidniwekhliyritdinepnkhrngaerk aelainpitxmaeduxnmkrakhm kh s 2007 sankkhawklangkhxngekahliehnuxprakaswa ekahliehnuxprasbkhwamsaercinkarthdlxngniwekhliyritdin karecrcahkfayrxbthihkineduxnkumphaphnth kh s 2007 ekahliehnuxyinyxmthicayutikarphthnaxawuthniwekhliyraetimyxmihphutrwcsxbcak thbwngkarphlngnganprmanurahwangpraeths International Atomic Energy Agency IAEA ekhatrwcsxb ineduxnemsaynkh s 2009 rthbalekahlithakarthdlxngraebidniwekhliyritdinepnkhrngthisxng thamklangesiyngpranamcaknanachati khwamphyayamthicaphthnaxawuthsngkhramniwekhliyr thaihthswrrsaehngkhwamsmphnththikhxnkhangdirahwangrthbalekahlithngsxngepnxntxngsinsudlng ineduxnknyayn kh s 2009 ekid Battle of Daecheong epnkarpathaknrahwangeruxrbkhxngekahliehnuxaelaekahliit aelaehtukarncmeruxchxnn ROKS Cheonan sinking emuxeduxnminakhm kh s 2010 thaihmilukeruxchawekahliitesiychiwitkhrxbkhrwaelachiwitswntwkhim cxng xil erimkhwamsmphnthkb sxng hey rim ekahli 성혜림 darachuxdngkhxngekahliehnuxemuxkh s 1968 aemwanangsxng hey rim camisamixyuaelwktam nangsxng hey rim ihkaenidbutrchaykhnaerkaekkhim cxng xil emuxkh s 1970 khux khim cxng nm ekahli 김정남 aetthwakhim cxng xil idpidbngkhwamsmphnthkb sxng hey rim aelabutrchaykhnotcakkhim xil sxngphuepnbida aelasngbutrchaykhxngtnipfakeliyngiwkbnangsxng hey rng ekahli 성혜랑 phuepnphisawkhxngsxng hey rim odythikhim cxng xilimxnuyatihbutrchaykhxngtnidrbkarsuksathiorngeriynenuxngcakekrngwakhwamsmphnthcathukepidephy khim cxng xilsmrskbnangkhim yxng suk ekahli 김영숙 emuxkh s 1974 sungidihkaenidbutrsawkhnotkhnaerkaekkhim cxng xil khux khim sxl sng ekahli 김설송 inpitxmakh s 1975 khim xil sxngphuepnbidalwngruthungkhwamsmphnthkhxngkhim cxng xil butrchaykbnangsxng hey rim aemwasxng hey rim caimidrbsthanaepnphrryathithuktxngaetkhim cxng nm nnidrbkaryxmrbinthanabutrchaykhxngkhim cxng xil caknnkhim cxng xil kmikhwamsmphnthkbphrryanxksmrskhnthisxngkhux nang ekahli 고영희 sungihkaenidbutrchaykhux ekahli 김정철 emuxkh s 1981 aelakhim cxng xun ekahli 김정은 inkh s 1983 emuxkhim cxng xil idkhunepnphunakhxngekahliehnuxaelw idaetngtngihnangokh yxng hiepnstrihmayelkhhnungaelahmaymnthicaphlkdnih khim cxng nm butrchaykhnotidepnphusubthxdtaaehnngphunaekahliehnuxtxip odykhim cxng xilaetngtngihbutrchaykhim cxng nm darngtaaehnnginrthbalemuxkh s 1998 ephuxepnkaraesdngthungectnarmnthicaihkhim cxng nmepnphusubthxdphunaekahliehnux aetthwaenuxngcakkhim cxng nmimidrbkarsuksaxyangepnthangkarcakrthbalekahliaetidrbkarsuksaxyanglbthibankhxngnangsxng hey rng phusungidhlbhnicakekahliehnuxxxkipemuxkh s 1982 thaihkhim cxng nmnnmikhwamkratuxruxrnthicaeriynruekiywkbolkphaynxk inkh s 2001 khim cxng nm thukcbkumtwthithaxakasyannanachatinarita praethsyipun khnakalnglklxbedinthangekhapraethsyipundwykarplxmtwepnchawcinaelaichphaspxrtplxmkhxngsatharnrthodminikn ehtukarnnithaihkhim cxng nm suyesiykhwamniymchmchxbcakkhim cxng xilphuepnbida naipsukarepliyntwphusubthxdtaaehnngipepnbutrchaykhnelk khux khim cxng xun inthisud strihmayelkhhnungokh yxng hi esiychiwitinpikh s 2004 caknnthungerimpraktnang khim xk ekahli 김옥 elkhanukarswntwkhxngnaykhim cxng xil khunmaepnstrihmayelkhhnungkhnihm trabcnkarthungaekxsykrrmkhxngnaykhim cxng xil inpikh s 2011 khrxbkhrw bida khim xil sxng marda khim cxng suk phinxng khim mn xil mardaediywkn khim kyxng hi mardaediywkn smrskb chng sxng aethk khim kyxng suk tangmarda tangmarda khim yxng xil tangmarda khim kyxng cin tangmarda phrrya hng xil chxn kh s 1942 butrsawkhnaerk khim hey kyxng kh s 1968 pccubn phrryanxksmrs sxng hey rim kh s 1937 2002 butrchaykhnaerk khim cxng nm kh s 1971 2017 phrrya khim yxng suk kh s 1947 butrsawkhnthi 2 khim sxl sng kh s 1974 pccubn butrsawkhnthi 3 khim chun sng kh s 1975 pccubn phrrya okh yxng hi kh s 1953 kh s 2004 butrchaykhnthi 2 kh s 1981 pccubn butrchaykhnthi 3 khim cxng xun kh s 1983 pccubn butrsawkhnthi 4 khim yx cxng kh s 1987 pccubn phrrya khim xk kh s 1964 pccubn khwamecbpwyaelabnplaychiwitphaphehmuxnxyangepnthangkarkhxngkhim cxng xil xxkihhlngcakkartaykhxngekha mikarrayngankhwamecbpwykhxngkhim cxng xil matngaetkh s 2008 enuxngcakineduxnemsayn kh s 2008 mikarwingkhbwnkhbephlingkhxngngankilaoxlimpikvdurxnphankrungepiyngyangthwakhim cxng xil klbimprakttwtxsatharnchninngannn thaihepnthikhadkarnwakhim cxng xil xaccakalngprasbpyhathangsukhphaphxyanghnk thwarthbalekahliehnuxidptiesthkarkhadkarnthiwakhim cxng xilnnkalngmisukhphaphthiyaaey sastracaryothachimisu chiengamura aehngmhawithyalywaesada klawinhnngsuxphimphchukhng engnidkhxngpraethsyipunwa khim cxng xil nnxacthungaekxsykrrmipaelwtngaet kh s 2003 enuxngcakorkhebahwanaetthangkarrthbalekahliehnuxcdtwaethnkhunmaswmrxy odysngektcaklksnakarklawsunthrphcnthiepliynaeplngipkhxngkhim cxng xil mikartngkhxsngektwakarthikhim cxng xil lmpwycnimsamarthbriharpraethsidnn thaihphunathharradbsungkhunmamixanacinkarbriharpraethsmakkhun epnphlihnoybaythiphxnprnkhxngnaykhim cxng xiltxolktawntkmithathiaekhngkrawmakkhun odyechphaaeruxngwikvtkarnniwekhliyr ineduxnsinghakhm kh s 2008 hnwykhawkrxngkhxngekahliitidrbraynganwanaykhim cxng xil lmpwydwyorkhhlxdeluxdsmxng txngekharbkarrksainorngphyabalaelaidrbkayphaphbabd ineduxnphvscikayn kh s 2008 rthbalekahliehnuxidephyaephrphaphphunakhxngtnkhnakalngtrwckxngthphephuxepnkartxbotkhawluxkarpwykhxngkhim cxng xil aemwananachaticatngkhxkngkhathungkhwamethccringkhxngrupehlann inkhnathisankkhawyipunraynganwa khim cxng xil prasborkhhlxdeluxdsmxngepnkhrngthisxngineduxntulakhm kh s 2008 thaihmixakarxxnaerngaekhnkhakhangsayaelaphudimchd ineduxnemsayn kh s 2009 rthbalekahliehnuxephyaephrphaphekhluxnihwkhim cxng xilkalngtrwcorngnganephuxepnkarsybkhawluxxikkhrng aelaeduxnemsayninpinnkhim cxng xilidprakttwtxsatharnchnxikkhrnghnung ephraakhim cxng nm butrchaykhnot imepnthioprdprankhxngkhim cxng xilphuepnbidaxiktxipaelw ineduxnmithunayn kh s 2009 mikarraynganwakhim cxng xil eluxkbutrchaykhnsudthxngkhxngtnkhux khim cxng xun ihepnthayathpkkhrxngekahliehnuxtxip ineduxnphvsphakhm kh s 2010 naykhim cxng xil edinthangeyuxnsatharnrthprachachncinxyangepnthangkar odyphankthiemuxngtaehliyn mnthlehliywhning aelaxikkhrnghnungineduxnsinghakhm kh s 2010 phrxmkbbutrchay khim cxng xun thaihnanachatimnicwakhim cxng xun khuxphusubthxdkhxngkhim cxng xil hlayfaymikhwamehnwakareyuxnpraethscinkhxngkhim cxng xil aesdngihehnwasukhphaphkhxngekhafunfudikhun khim cxng xileyuxnpraethscinepnkhrngsudthayineduxnphvsphakhm kh s 2011 aelaphbpakbdmitri emdewedf naykrthmntrirsesiy ineduxnsinghakhmpiediywkn thwamikarrayngankhawthangothrthsninekahliehnuxemuxwnthi 19 thnwakhm kh s 2011 wa khim cxng xil thungaekxsykrrmaelwemuxsxngwnkxn 17 thnwakhm dwysaehtuthanganmakekinip cnthaihthngthangrangkayaelaciticrbimihw khim cxng xil thungaekxsykrrmthikrungepiyngyang mikariwthukkhepnewlasxngspdahaelaphithisphmikhuninwnthi 28 thnwakhm sphkhxngnaykhim cxng xil thuktngiwthi echnediywkbkhim xil sxng bidaxangxingChung Byoung sun 22 August 2002 The Chosun Ilbo khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 03 11 subkhnemux 19 February 2007 Sheets Lawrence 12 February 2004 A Visit to Kim Jong Il s Russian Birthplace National Public Radio subkhnemux 19 February 2007 CNN khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 10 04 subkhnemux 2011 12 19 LIFE khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 08 subkhnemux 19 December 2011 BBC News N Korean leader Kim Jong il dies Bbc co uk subkhnemux 2011 12 19 McGivering Jill 29 September 2009 N Korea constitution bolsters Kim BBC News subkhnemux 7 May 2010 http www imdb com title tt0456012 NKorea prints photos of heir apparent Kim Jong Un 30 September 2010 subkhnemux 30 September 2010 The 100 Most Powerful People in the World Forbes Magazine Steve Herrmann 9 October 2006 Profile Kim Jong Il BBC News subkhnemux 17 December 2007 Biography of the Dear Leader Kim Jong Il Korea dpr com cakaehlngedimemux 2008 06 12 subkhnemux 5 December 2008 Kim Jong Il Short Biography 2008 06 12 thi ewyaebkaemchchin Pyongyang Foreign Languages Press 1998 p 1 Korea North General Secretary Kim Jong Il USA International Business Publications 2002 p 37 ISBN 0739711970 Post Jerrold M 2004 Leaders and their followers in a dangerous world the psychology of political behavior pp 243 244 ISBN 9780801441691 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help The Kims North Korea 2017 02 24 thi ewyaebkaemchchin Asia Times 4 June 2005 Martin Bradley K 2004 Under the Loving Care of the Fatherly Leader New York St Martin s Press ISBN 0 312 32221 6 Kim Jong Il Short Biography 2008 06 12 thi ewyaebkaemchchin Pyongyang Foreign Languages Press 1998 p 4 Calleja Stephen 7 February 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 05 01 subkhnemux 15 September 2010 Kim is a baby rattling the sides of a cot Guardian Unlimited 30 December 2002 Happy Birthday Dear Leader who s next in line 2004 02 13 thi ewyaebkaemchchin Asia Times 14 February 2004 North Korea s dear leader less dear Fairfax Digital 19 November 2004 Testimony of Hwang Jang yop North Korea Nuclear Standoff The Online NewsHour 19 October 2006 Fake ashes very real North Korean sanctions 2008 07 18 thi ewyaebkaemchchin Asia Times Online 16 December 2004 Noland Marcus 2004 Famine and Reform in North Korea Asian Economic Papers 3 2 1 40 doi 10 1162 1535351044193411 journalCode asep Haggard Nolan Sen 2009 Famine in North Korea Markets Aid and Reform p 209 ISBN 9780231140010 This tragedy was the result of a misguided strategy of self reliance that only served to increase the country s vulnerability to both economic and natural shocks The state s culpability in this vast misery elevates the North Korean famine to a crime against humanity a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk North Korea A terrible truth The Economist 17 April 1997 subkhnemux 24 September 2011 North Korea Agriculture Federal Research Division of the Library of Congress Retrieved 11 March 2007 Other Industry North Korean Targets Federation of American Scientists 15 June 2000 North Korea s Military Strategy Parameters U S Army War College Quarterly 2003 Kim Jong il s military first policy a silver bullet 2008 07 05 thi ewyaebkaemchchin Asia Times Online 4 January 2007 North Korea s Capitalist Experiment 2009 02 16 thi ewyaebkaemchchin Council on Foreign Relations 8 June 2006 On North Korea s streets pink and tangerine buses Christian Science Monitor 2 June 2005 Inside North Korea A Joint U S Chinese Dialogue 2009 06 10 thi ewyaebkaemchchin United States Institute of Peace January 2007 Chol hwan Kang and Pierre Rigoulot 2005 The Aquariums of Pyongyang Ten Years in the North Korean Gulag Basic Books ISBN 0 465 01104 7 North Korea marks leader s birthday BBC 16 February 2002 subkhnemux 18 December 2007 N Korea leader sets world fashion trend Pyongyang FRANCE 24 7 April 2010 subkhnemux 19 December 2011 Mansourov Alexandre khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 08 16 subkhnemux 18 December 2007 Scanlon Charles 16 February 2007 Nuclear deal fuels Kim s celebrations BBC subkhnemux 18 December 2007 Coonan Clifford 21 October 2006 The Independent London khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 05 16 subkhnemux 18 December 2007 Richard Lloyd Parry Dear Leader clings to power while his people pay the price The Times 10 October 2006 Retrieved 18 December 2007 North Korea s Dear Leader flaunts nuclear prowess Reuters 10 October 2006 subkhnemux 13 October 2011 Compiled by the Bureau of Democracy Human Rights and Labor Country Reports on Human Rights Practices United States Department of State 25 February 2004 Retrieved 18 December 2007 Jason LaBouyer When friends become enemies Understanding left wing hostility to the DPRK 2008 02 16 thi ewyaebkaemchchin Lodestar May June 2005 pp 7 9 Korea DPR com Retrieved 18 December 2007 Marshall Cavendish Corporation 2007 World and Its Peoples Eastern and Southern Asia Marshall Cavendish p 929 ISBN 9780761476313 Asan KOLAND Permitted to Develop Kaesong Complex 2020 01 07 thi ewyaebkaemchchin The Korea Times 23 April 2004 S Korea denies U S trade pact will exclude N Korean industrial park Yonhap News 7 March 2007 South Korea dials back tough talk over Cheonan sinking Christian Science Monitor 31 May 2010 History of the Agreed Framework and how it was broken About U S Gov Info Resources 12 March 2007 Motivation Behind North Korea s Nuclear Confession GLOCOM Platform 28 October 2002 N Korean leader Kim Jong il dies BBC News 19 December 2011 subkhnemux 19 thnwakhm ph s 2554 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite news title aemaebb Cite news cite news a trwcsxbkhawnthiin accessdate help hnngsuxxanephimJasper Becker Rogue Regime Kim John Il and the Looming Threat of North Korea Oxford University Press October 2006 Softcover 328 pages ISBN 0 19 530891 3 2012 11 20 thi ewyaebkaemchchin Kim Jong il North Korea s Dear Leader John Wiley and Sons January 2004 hardcover 228 pages ISBN 0 470 82131 0 Bradley Martin Under The Loving Care Of The Fatherly Leader North Korea And The Kim Dynasty St Martins October 2004 hardcover 868 pages ISBN 0 312 32221 6 Kim Chol U Army Centred Politics Of Kim Jong Il 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 2002 Softcover 98 pages Kim Jong Il Brief History 2015 07 21 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1998 Hardcover 149 pages Kim Jong Il Short Biography 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 2001 Hardcover 215 pages Pae Kyong Su Kim Jong Il The Individual Thoughts And Leadership Vol 1 2015 06 30 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1993 Softcover 225 pages Pae Kyong Su Kim Jong Il The Individual Thoughts And Leadership Vol 2 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1995 Softcover 164 pages Nada Takashi Korea In Kim Jong Il s Era 2015 06 29 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 2000 Softcover 163 pages Li Il Bok The Great Man Kim Jong Il 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1989 Softcover 167 pages Ri Il Bok The Great Man Kim Jong Il Vol 2 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1995 Softcover 84 pages Jo Song Baek The Leadership Philosophy Of Kim Jong Il 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1999 Softcover 261 pages Guiding Light General Kim Jong Il 2014 10 06 thi ewyaebkaemchchin Foreign Languages Publishing House Pyongyang North Korea 1997 Softcover 357 pagesaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb khim cxng xil Kim Jong Il Brief History PDF 893 KB Foreign Languages Publishing House Pyongyang DPR Korea 1998 Born in the USSR 2005 03 08 thi ewyaebkaemchchin Kim Jong il s childhood The many family secrets of Kim Jong Il 2005 02 13 thi ewyaebkaemchchin Hidden Daughter Visits Kim Jong il Every Year also includes photos of Kim during his youth Kim s family tree ekahli BBC North Korea s secretive first family BBC Proundefined Kim Jong il BBC Who will succeed N Korea s Kim Jong il