การให้เหตุผลแบบจารนัย (อังกฤษ: Abductive reasoning หรือบ้างก็ว่า abductionabductive inference หรือ retroduction) เป็นการอนุมานเชิงตรรกะรูปแบบหนึ่งซึ่งถูกบัญญัติและพัฒนาโดยนักปราชญ์ชาวอเมริกัน (Charles Sanders Peirce) เริ่มต้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเริ่มจากการสังเกตการณ์ชุดหนึ่ง แล้วพยายามหาข้อสรุปที่ง่ายและควรจะเป็นมากที่สุดจากการสังเกตการณ์ชุดนั้น กระบวนการนี้ผลิตข้อสรุปที่เป็นไปได้แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นจริงซึ่งต่างจากการให้เหตุผลแบบนิรนัย การให้เหตุผลแบบจารนัยนั้นจึงมีความไม่แน่นอนหรือเคลือบแคลงซึ่งสามารถแสดงออกมาด้วยคำหลีกต่าง ๆ เช่น หาง่ายที่สุด หรือ ควรจะเป็นมากที่สุด เรายังสามารถมองการให้เหตุผลแบบจารนัยได้ว่าเป็น การอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุด (IBE) ถึงแม้การใช้คำว่า การจารนัย และ การอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุด อาจไม่สมมูลกันทุกครั้งเสมอไป
ขณะที่ความสามารถในการคำนวณของคอมพิวเตอร์ได้เพิ่มขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990 งานวิจัยในสาขากฎหมาย, วิทยาการคอมพิวเตอร์ และปัญญาประดิษฐ์ได้กระตุ้นความสนใจในประเด็นเรื่องการจารนัยขึ้นมาใหม่ระบบผู้เชี่ยวชาญวินัจฉัยก็นำการจารนัยมาใช้บ่อยครั้ง
การนิรนัย อุปนัย และจารนัย
(อังกฤษ: Logical reasoning)
การนิรนัย
การให้เหตุผลแบบนิรนัยอนุญาตให้อนุพัทธ์ (derive) จาก ก็ต่อเมื่อ เป็นผลพวงเชิงตรรกะเชิงรูปนัยของ หรือเป็นไปตาม (follows from) พูดอีกแบบคือ การนิรนัยคือการอนุพัทธ์ให้ได้มาซึ่งผลพวงต่าง ๆ ของข้อสันนิษฐาน เมื่อข้อสันนิษฐานเป็นจริง การนิรนัยที่สมเหตุสมผลจะรับรองความเป็นจริงของข้อสรุป เช่นหากกำหนดว่า "วิกิสามารถแก้ไขโดยใครก็ได้" () และ "วิกิพีเดียเป็นวิกิ" () แล้วแสดงว่า "วิกิพีเดียสามารถแก้ไขโดยใครก็ได้" () ก็ตรงตามข้อตั้งทั้งสองข้อที่กำหนด
การอุปนัย
การให้เหตุผลแบบอุปนัยอนุญาตให้อนุมาน จาก ได้ โดย ไม่จำเป็นต้องเป็นผลพวงตรรกะของ หรือไม่จำเป็นต้องเป็นไปตาม และ อาจเป็นเหตุผลที่ดีพอที่จะให้ยอมรับ แต่ไม่ได้รับรองว่า เป็นจริง เช่น ถ้าหงส์ทุกตัวที่เคยเจอมาถึงตอนนี้สีขาวทุกตัว เราอาจอุปนัยได้ว่าความเป็นไปได้ที่หงส์ทุกตัวจะมีสีขาวนั้นก็พอมีเหตุผล เรามีเหตุผลที่จะเชื่อข้อสรุปจากข้อตั้ง แต่ไม่ได้มีการรับรองว่าข้อสรุปจะเป็นจริง (ซึ่งแน่นอน หงส์บางตัวก็มีสีดำ)
การจารนัย
การให้เหตุผลแบบจารนัยอนุญาตให้อนุมาน เป็นคำอธิบายของ ผลของการอนุมานแบบนี้คือการอนุญาตให้สามารถจารนัยเงื่อนไขก่อน จากผลพวง ได้ การให้เหตุผลแบบนิรนัยกับแบบจารนัยจึงแตกต่างกันตรงที่ฝั่งไหนของข้อความว่า " แสดงว่า (entail) " เป็นข้อสรุป
การจารนัยนั้นจึงเหมือนกับเหตุผลวิบัติเชิงตรรกะที่เรียกว่า (affirming the consequent) (หรือ post hoc ergo propter hoc) เพราะ สามารถมีคำอธิบายที่หลากหลาย อย่างเช่นในเกมบิลเลียด เมื่อเราเห็นลูกบิลเลียดเลขแปดเคลื่อนที่มาหาเรา เราอาจจารนัยได้ว่าลูกคิวได้ชนลูกแปด การชนของลูกคิวสามารถอธิบายการเคลื่อนที่ของลูกแปดได้ ซึ่งเป็นสมมุติฐานที่อธิบายการสังเกตการณ์ของเรา ในเมื่อมีคำอธิบายอื่น ๆ ที่เป็นไปได้มากมายสำหรับการเคลื่อนที่ของลูกแปด ข้อสรุปจากการจารนัยของเราไม่ได้ทำให้เรารู้อย่างแน่นอนว่าลูกคิวได้ชนลูกแปดจริงหรือไม่ แต่การจารนัยนี้ก็ยังมีประโยชน์และหน้าที่เพื่อทำให้เราสามารถเข้าใจและปรับตัวในสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ แม้จะมีคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับแต่ละกระบวนการทางกายภาพที่เราสังเกตเห็นอยู่หลายคำอธิบาย เรามักจะจารนัยหาคำอธิบายเดียว (หรือสองสามคำอธิบาย) สำหรับกระบวนการนั้น ๆ ด้วยความคาดหวังว่าเราจะสามารถนำมันมาใช้เพื่อปรับตัวในสภาพแวดล้อม และปัดความเป็นไปได้อื่น ๆ ทิ้งไป หากนำการให้เหตุผลแบบจารนัยมาใช้ได้อย่างเหมาะสม มันสามารถเป็นแหล่งของ (prior probability) ที่มีประโยชน์ใน (Bayesian statistics)
การกำหนดรูปของการจารนัย
การจารนัยบนฐานของตรรกศาสตร์
ในตรรกศาสตร์ เราสามารถ (explanation) ได้ด้วยเชิงตรรกะ (Theory (mathematical logic)) ซึ่งแทน (domain of discourse) และเซตของการสังเกตการณ์ การจารนัยเป็นกระบวนการอนุพัทธ์หาเซตของคำอธิบายของ ตามทฤษฎี และเลือกหยิบคำอธิบายหนึ่งในนั้นมา และ จะเป็นคำอธิบายของ ตามทฤษฎี ได้หรือไม่ มันจะต้องสนองต่อเงื่อนไขสองข้อ:
- เป็นไปตาม และ ;
- สอดคล้องกับ
ในตรรกศาสตร์รูปนัย สมมุติให้ และ เป็นเซตของ (Literal (Mathematical logic) เงื่อนไขทั้งสองแบบรูปนัยคือ:
- สอดคล้องกัน.
ท่ามกลางคำอธิบาย ทั้งหมดที่สนองเงื่อนไขทั้งสองข้อ เงื่อนไขด้านความเรียบง่ายข้ออื่น ๆ ก็ถูกนำมาพิจารณาด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงข้อเท็จจริงที่ไม่เกี่ยวข้อง (นั่นคือ ข้อเท็จจริงที่ไม่มีส่วนทำให้เกิด ) การจารนัยจึงเป็นกระบวนการเลือกหยิบสมาชิกของ ออกมา ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ในการคัดเลือกคำอธิบาย "ที่ดีที่สุด" ซึ่งรวมไปถึง (simplicity) และพลังในการอธิบายของคำอธิบายนั้น
(Abductive logic programming) เป็นขอบข่ายการคำนวณที่ขยายการเขียนโปรแกรมเชิงตรรกะแบบปกติด้วยการจารนัย โดยแยกทฤษฎี เป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นโปรแกรมเชิงตรรกะปกติที่ถูกใช้เพื่อหาคำอธิบาย ผ่านวิธี (backward reasoning) และอีกส่วนเป็นชุดของเกณฑ์ด้านบูรณภาพ (integrity) ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพื่อคัดกรองหาเซตคำอธิบายที่เป็นไปได้
การจารนัยแบบปกคลุมเซต
การจารนัยสามารถถูกกำหนดรูปอีกแบบเป็นการการผกผันของฟังก์ชันที่คำนวณหาผลลัพธ์ของสมมติฐานต่าง ๆ กำหนดให้เซตของสมมติฐานคือ และเซตของผลลัพธ์คือ ทั้งสองเกี่ยวโยงกันผ่านความรู้เฉพาะสาขาที่แทนด้วยฟังก์ชัน ที่มีเซตของสมมติฐานเป็นอาร์กิวเมนต์และมีผลลัพธ์เป็นเซตของผลลัพธ์ที่สอดคล้องกัน พูดอีกแบบคือ สำหรับเซตย่อยของเซตของสมมติฐานทุกเซต ผลลัพธ์ของเซตย่อยของสมมติฐานเซตนั้นคือ
การจารนัยคือการหาเซต ซึ่งมีผลลัพธ์เป็น พูดอีกแบบคือ การจารนัยเป็นการหาเซตของสมมติฐาน ที่มีผลลัพธ์เป็น ซึ่งรวมการสังเกตการณ์ ทั้งหมด
โดยทั่วไป ให้สมมุติว่าผลลัพธ์ของสมมติฐานแต่ละข้อเป็นอิสระจากกัน นั่นคือสำหรับ ทุกเซต เป็นจริง หากเป็นไปตามเงื่อนไขนี้ สามารถถือได้ว่าการจารนัยเป็นการปกคลุมเซตรูปแบบหนึ่ง
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลแบบจารนัย
การตรวจสอบความสมเหตุสมผลแบบจารนัย (อังกฤษ: Abductive validation) เป็นกระบวนการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของสมมุติฐานหนึ่งด้วยการให้เหตุผลแบบจารนัย ภายใต้หลักการนี้ คำอธิบายสมเหตุสมผลก็ต่อเมื่อเป็นคำอธิบายเซตของข้อมูลที่รู้อยู่ที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ คำอธิบายที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้มักมีนิยามในแง่ของความเรียบง่ายและความงดงาม (ดูมีดโกนอ็อกคัม) การตรวจสอบความสมเหตุสมผลแบบจารนัยถูกใช้เป็นการทั่วไปในการก่อสมมุติฐานในวิชาวิทยาศาสตร์ มากไปกว่านั้น เพิร์ซอ้างว่ามันเป็นแง่มุมของกระบวนการคิดที่พบได้ทั่วไป
เมื่อมองออกนอกหน้าต่างในเช้าวันฤดูใบไม้ผลินี้ ผมเห็นดอกอาซาเลียบานสะพรั่ง ไม่ ไม่! ผมไม่ได้เห็นสิ่งนั้น แต่ว่านั่นเป็นทางเดียวที่ผมจะพรรณนาสิ่งที่ผมเห็นได้ มันเป็นประพจน์ ประโยค หรือข้อเท็จจริง แต่สิ่งที่ผมรับรู้นั้นไม่ใช่ประพจน์ ไม่ใช่ประโยค และไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นเพียงภาพที่ผมทำให้เข้าใจได้ด้วยวิธีการกล่าวข้อเท็จจริง ข้อความนั้นเป็นนามธรรม แต่สิ่งที่ผมเห็นเป็นรูปธรรม ผมจารนัยทุกครั้งที่ผมแสดงออกสิ่งที่เห็นในรูปของประโยค ความจริงแล้วเนื้อผ้าของความรู้ทั้งหมดของเราคือผ้าขนสัตว์ด้าน ๆ ของสมมติฐานล้วน ๆ ที่ถูกยืนยันแหละกลั่นกรองโดยการอุปนัย ไม่มีทางที่ความรู้จะก้าวหน้าไปกว่าการเพ่งมองอย่างว่างเปล่าหากไม่จารนัยในทุก ๆ ขั้นตอน
"เราไม่สามารถอธิบายข้อเท็จจริงได้ด้วยสมมติฐานที่วิเศษวิโสกว่าข้อเท็จจริงเอง และจะต้องรับเอาสมมติฐานที่พิเศษน้อยที่สุดมาใช้" เป็นคติบทของเพิร์ซเอง หลังจากได้สมมติฐานต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ซึ่งอาจสามารถอธิบายข้อเท็จจริงนั้นมา การตรวจสอบความสมเหตุสมผลแบบจารนัยเป็นวิธีการระบุสมมติฐานที่ควรจะเป็นมากที่สุดและควรยอมรับมาใช้มากที่สุด
การจารนัยแบบตรรกศาสตร์อัตวิสัย
(subjective logic) วางนัยทั่วไป (probabilistic logic) ด้วยการรวมระดับของความไม่แน่นอนทางความรู้ไว้ในอาร์กิวเมนต์เข้า นั่นคือ นักวิเคราะห์สามารถแสดงอาร์กิวเมนต์ในรูปของแทนความน่าจะเป็นได้ การจารนัยในตรรกศาสตร์อัตวิสัยนั้นจึงเป็นการวางนัยทั่วไปของการจารนัยเชิงความน่าจะเป็น ในตรรกศาสตร์อัตวิสัย อาร์กิวเมนต์เข้าเป็นความคิดเห็นอัตวิสัย ซึ่งสามารถเป็นทวินามเมื่อความคิดเห็นนั้นนำมาใช้กับตัวแปรทวิภาค หรือเป็นอเนกนามเมื่อนำมาใช้กับตัวแปร "n"-ภาค ความคิดเห็นอัตวิสัยจึงนำมาใช้กับตัวแปรสถานะ ซึ่งนำค่าของตัวเองมาจากขอบเขต (ปริภูมิสถานะของค่าสถานะ ที่ครบถ้วนและแยกจากกัน) และถูกแสดงเป็นหลายสิ่งอันดับ โดย เป็นการกระจายตัวของมวลความเชื่อเทียบกับ เป็นมวลความไม่แน่นอน และ เป็นการกระจายตัว (base rate) เทียบกับ ตัวแปรปัจจัยเหล่านี้สนอง และ และ .
สมมุติขอบเขต และ พร้อมตัวแปร และ ตามลำดับ เซตของความคิดเห็นมีเงื่อนไข (นั่นคือ ความคิดเห็นมีเงื่อนไขหนึ่งความคิดเห็นสำหรับค่า แต่ละค่า) และการกระจายตัวอัตราพื้นฐาน ทฤษฎีบทของเบย์แบบอัตวิสัยหรือการผกผันซึ่งแสดงออกด้วยตัวดำเนินการ ด้วยตัวแปรปัจจัยเหล่านี้จะได้เซตของความคิดเห็นมีเงื่อนไขผกผัน (นั่นคือความคิดเห็นมีเงื่อนไขผกผันหนึ่งความคิดเห็นสำหรับค่า แต่ละค่า) สามารถแสดงเป็น:
- .
เราสามารถจารนัยหาความคิดเห็น ด้วยการนิรนัยอัตวิสัยที่แสดงออกด้วยตัวดำเนินการ ด้วยความคิดเห็นมีเงื่อนไขผกผัน กับความคิดเห็น สมการของนิพจน์ต่าง ๆ ซึ่งแสดงถึงการจารนัยอัตวิสัยเป็นไปตามดังนี้:
สัญกรณ์สำหรับการจารนัยอัตวิสัยคือ "" และตัวดำเนินการแทนด้วย "" ตัวดำเนินการสำหรับทฤษฎีบทของเบย์แบบอัตวิสัยคือ "" และตัวดำเนินการสำหรับการนิรนัยอัตวิสัยคือ ""
ความได้เปรียบของการใช้การจารนัยตรรกศาสตร์อัตวิสัยเมื่อเปรียบเทียบกับการจารนัยเชิงความน่าจะเป็นคือ ความไม่แน่นอนทั้งด้านความรู้และด้านความน่าจะเป็นของความน่าจะเป็นของอาร์กิวเมนต์เข้าถูกแสดงออกและนำมาพิจารณาในการวิเคราะห์โดยตรง เราจึงสามารถกระทำการวิเคราะห์แบบจารนัยได้ในกรณีที่มีอาร์กิวเมนต์ซึ่งมีความไม่แน่นอน ซึ่งจะให้ผลลัพธ์เป็นข้อสรุปที่มีระดับของความไม่แน่นอนอยู่เป็นธรรมดา
ประวัติ
การนำเสนอและการพัฒนาโดยเพิร์ซ
ภาพรวม
นักปรัชญาชาวอเมริกัน ชารลส์ แซนเดอรส์ เพิร์ซ เป็นผู้นำเสนอการจารนัยเข้าสู่ตรรกศาสตร์สมัยใหม่ ในช่วงเวลาหลายปีเขาเรียกการอนุมานแบบนี้เป็น hypothesis "สมมติฐาน", abduction "การจารนัย", presumption "การสันนิษฐาน", และ retroduction "การเสนอใหม่" เขานับมันเป็นหัวข้อหนึ่งในวิชาตรรกศาสตร์ที่เป็นสาขาเชิงบรรทัดฐานในวิชาปรัชญา ไม่ใช่ในตรรกศาสตร์เชิงคณิตหรือรูปนัยแบบบริสุทธิ์ และในที่สุดก็เป็นหัวข้อในเศรษฐศาสตร์ของการวิจัย
นอกจากการเป็นด่านสองด่านของการพัฒนา การขยาย ฯลฯ ของสมมติฐานใน (inquiry) ทางคณิตศาสตร์แล้ว การจารนัยและก็การอุปนัยมักจะถูกยุบรวมเป็นมโนภาพเดียวที่ครอบคลุมทั้งสอง — สมมติฐาน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในระเบียบวิธีแบบวิทยาศาสตร์ที่รู้จากกาลิเลโอและเบคอนขั้นตอนเชิงจารนัยของ(การตั้งสมมติฐาน)ถึงถูกเรียกจำกัดกรอบความคิดเป็นการอุปนัย ดังนั้นการยุบรวมกันนี้ถูกเสริมในคริสศตวรรษที่ยี่สิบโดย (Hypothetico-deductive model) ของ (Karl Popper) ที่ซึ่งสมมติฐานถูกนับว่าเป็นเพียง "การเดา" (ในจิตวิญญาณของเพิร์ซ) แต่ทว่าเมื่อการก่อสมมติฐานได้รับการพิจารณาเป็นผลลัพธ์ของกระบวนการหนึ่ง ก็เห็นได้ชัดว่า "การเดา" นี้ผ่านการทดสอบและทำให้ทนทานในความคิดแล้วและเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการที่จะถือว่ามีสถานะเป็นสมมติฐานได้ ซึ่งแน่นอน การจารนัยหลายครั้งถูกปฏิเสธหรือแก้ไขอย่างหนักหน่วงโดยการจารนัยตามลำดับก่อนที่จะได้มาถึงขั้นตอนนี้
ก่อนปี ค.ศ. 1900 เพิร์ซปฏิบัติต่อการจารนัยเป็นการใช้กฎที่รู้เพื่ออธิบายการสังเกตการณ์หนึ่ง กรณีเช่น: เป็นกฎที่รู้กันดีว่าถ้าฝนตกหญ้าจะเปียก ดังนั้นเพื่ออธิบายข้อเท็จจริงที่หญ้าบนสนามนี้เปียก เราจารนัยได้ว่าฝนพึ่งตกไป การจารนัยสามารถนำไปสู่ข้อสรุปที่เป็นเป็นเท็จถ้ากฎอื่น ๆ ที่อาจอธิบายการสังเกตการณ์ได้เช่นเดียวกันไม่ถูกนำมาพิจารณาด้วย—เช่นหญ้าอาจเปียกเพราะ (dew) นี่ยังคงเป็นนิยามสามัญที่ใช้กันของคำว่า "การจารนัย" ในวิชาสังคมศาสตร์และปัญญาประดิษฐ์.
เพิร์ซบรรยายคุณลักษณะของมันอย่างสม่ำเสมอว่าเป็นชนิดของการอนุมานที่ให้กำเนิดสมมติฐานโดยการสรุปในคำอธิบายของการสังเกตการณ์ที่น่าสงสัยหรือน่าประหลาดใจ (ผิดปรกติ) ที่ถูกกล่าวไว้ในข้อตั้งแม้คำอธิบายจะไม่ถูกรับประกันว่าใช่ เขาเขียนเก่าสุดในปี ค.ศ. 1865 ว่าการสร้างมโนคติทั้งหมดของเหตุและแรงจะสัมฤทธิ์ผ่านการอนุมานสมมติฐาน ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเขียนว่าเนื้อหาการอธิบายทั้งหมดของทฤษฎีจะสัมฤทธิ์ด้วยการจารนัย ในแง่อื่น ๆ เพิร์ซได้แก้ไขทัศนะต่อการจารนัยของเขาเมื่อแต่ละปีผ่านไป
ในปีต่อ ๆ มาทัศนะของเขาได้กลายเป็น:
- การจารนัยคือการเดา มัน "ถูกกีดขวางเล็กน้อย" โดยกฎของตรรกศาสตร์ แม้แต่การเดาของสติปัญญาที่เตรียมตัวมาอย่างดีก็ยังผิดถี่กว่าถูก แต่ความสำเร็จของการเดาของเรานั้นเกินไปกว่าคำว่าดวงสุ่ม ๆ และดูเหมือนจะเกิดจากการเข้ากับธรรมชาติโดยอัชฌัตติกญาณ (บางคนก็เรียกว่า (logical intuition) ในบริบทเช่นนั้น)
- การจารนัยคาดเดาแนวคิดใหม่หรือนอกเหนือจากเดิมเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่ซับซ้อนหรือน่าประหลาดใจในวิธีที่เป็นไปได้ ตามสัญชาตญาณ และประหยัด ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายโดยประมาณของมัน
- เป้าหมายที่ยาวกว่าคือเพื่อทำให้ (inquiry) นั้นประหยัดขึ้น เหตุผลของมันนั้นเป็นอุปนัย: มันใช้ได้บ่อยพอ เป็นแหล่งกำเนิดเดียวของแนวคิดใหม่ และไม่มีตัวแทนในการกระตุ้นการค้นพบความจริงใหม่ ๆ เหตุผลของมันรวมโดยเฉพาะหน้าที่ของมันในการประสานงานกับวิธีการอนุมานอื่น ๆ ในการสอบสวน มันเป้นการอนุมานสู่สมมติฐานการอธิบายสำหรับการเลือกวิธีที่ดีที่สุดที่จะลองใช้
- (Pragmatism) เป็นตรรกะของการจารนัย ในกระบวนการสร้างคำอธิบาย (ซึ่งเขาได้ถือว่าถูกนำโดยสัญชาตญาณ) (pragmatic maxim) ให้กฏทางตรรกศาสตร์ที่จำเป็นและพอเพียงสำหรับการจารนัยโดยทั่วไป สมมติฐานนั้นซึ่งสั่นคลอนจำเป็นต้องมีนัยยะที่เป็นไปได้สำหรับการปฏิบัติที่มีข้อมูล เพื่อให้ทดสอบได้ และด้วยการทดลองจึงกระตุ้นและมัธยัสถ์การสอบสวน เศรษฐกิจของการวิจัยนั้นเองเป็นสิ่งที่เรียกหาการจารนัยและเป็นตัวควบคุมศิลปะของมัน
เพิร์ซเขียนไว้ในปี ค.ศ. 1910 และยอมรับว่า "ในทุกสิ่งที่ผมพิมพ์ไปก่อนศตวรรษนี้เริ่มต้นขึ้นผมก็ได้สับสนคำว่าสมมติฐานกับการอุปนัย" และเขาได้ตามรอยความสับสนของนักตรรกวิทยาระหว่างการให้เหตุผลสองรูปแบบนี้ว่าเกิดจาก "การเข้าใจการอนุมานในแบบที่แคบและเป็นรูปนัย โดยคือเป็นการที่ได้ทำการตัดสินไปแล้วจากข้อตั้งของมัน"
เริ่มต้นในช่วงปี ค.ศ. 1860s เขาได้ปฏิบัติต่อการอนุมานเชิงสมมติฐานในวิธีหลากหลายซึ่งก็ได้ค่อย ๆ ถูกเลือกออกที่ละวิธีตามความไม่จำเป็นหรือการเข้าใจผิดในบางกรณี:
- เป็นการอนุมานการมีอยู่ของลักษณะหนึ่ง (หรือคุณสมบัติใด ๆ) จากการสังเกตการณ์การมีอยู่รวมกันของลักษณะที่หลากหลายซึ่งจำเป็นต้องมีการมีอยู่ของลักษณะนั้นรวมด้วย ตัวอย่างช่นหากการมีอยู่ใด ๆ ของ A นั้นถูกรู้กันว่าจำเป็นต้องต่อด้วยการมีอยู่ของ B, C, D, E แล้วโดยเป็นตัวอย่าง การสังเกตพบ B, C, D, E ก็ชี้แนะการมีอยู่ของ A (แต่พอในปี ค.ศ. 1878 เขาก็ไม่ได้ถือว่าความหลากหลายนี้เป็นสามัญกับการอนุมานเชิงสมมติฐานทุกอันแล้ววิกิซอร์ซ)
- เป็นการมุ่งหาสมมติฐานที่น่าจะเป็นไม่ว่ามากหรือน้อย (ในปี ค.ศ. 1867 และ 1883 แต่ไม่ในปี 1878 อย่างไรก็ดีพอในปี ค.ศ. 1900 การให้เหตุผลนั้นไม่ใช่ความน่าจะเป็นแต่เป็นการไม่มีอยู่ของทางเลือกแทนการคาดเดาและข้อเท็จจริงที่ว่าการเดานั้นให้ผลที่ดี จนในปี ค.ศ. 1903 เขาพูดคำว่า "likely" หรือควรจะเป็นในความหมายของการเข้าใกล้ความจริงแบบ "ไม่ได้จำกัดความไว้แน่นอน" ในปี ค.ศ. 1908 เขาถกคำว่า plausibility หรือความเป็นไปได้เป็นการดึงดูดตามสัญชาตญาณ) ในกระดาษที่ให้วันที่โดยบรรณาธิการไว้ ประมาณ ปี ค.ศ. 1901 เขาอภิปรายคำว่า "instinct" หรือสัญชาตญาณกับ "naturalness" หรือความเป็นธรรมชาติ ตามไปกับชนิดของการพิจารณา (ราคาของการทดสอบ ความระมัดระวังทางตรรกะ ความกว้าง และความไม่ซับซ้อน) ซึ่งในภายหลังเขาได้เรียกมันว่า methodeutical หรือเมโธดิวติก
- เป็นการอุปนัยจากลักษณะต่าง ๆ (แต่อย่างน้อยในปี ค.ศ. 1900 เขาบรรยายลักษณะการจารนัยเป็นการเดา)
- เป็นการอ้างอิงกฎที่รู้อยู่ในข้อตั้งมากกว่าการสมมติฐานกฎหนึ่งขึ้นมาในข้อสรุป (แต่ในปี ค.ศ. 1903 เขาอนุญาตได้ทั้งสองวิธี)
- โดยพื้นฐานเป็นการเปลี่ยนรูปของตรรกบทเด็ดขาดแบบนิรนัย (แต่ในปี ค.ศ. 1903 เขาเสนอเภทของ กฎการแจงผลตามเหตุ แทน และในปี ค.ศ. 1911 เขาไม่มั่นใจว่ารูปแบบใด ๆ จะครอบคลุมการอนุมานเชิงสมมติฐานได้ทั้งหมด).
The Natural Classification of Arguments (1867)
ใน "The Natural Classification of Arguments" ของเพิร์ซ (การจำแนกตามธรรมชาติของการอ้างเหตุผล) ปี ค.ศ. 1867 การอนุมานเชิงสมมติฐานจัดการกับกลุ่มของลักษณะเสมอ (เรียกเป็น P′, P′′, P′′′, ฯลฯ) ซึ่งถูกรู้ว่ามีอยู่อย่างน้อยเมื่อใดที่ลักษณะหนึ่ง (M) มีอยู่ หมายเหตุว่าตามเดิมแล้วตรรกบทเด็ดขาดมีองค์ประกอบที่เรียกว่าตัวกลาง (middles) ภาคแสดง (predicates) และประธาน (subjects) ตัวอย่างเช่น: "มนุษย์ [ตัวกลาง] ทุกคนเป็น มรรตัย [ภาคแสดง]; โสกราตีส [ประธาน] เป็น มนุษย์ [ตัวกลาง]; เพราะฉะนั้น โสกราตีส [ประธาน] เป็น มรรตัย [ภาคแสดง]" ข้างใต้ 'M' หมายถึงตัวกลาง 'P' เป็นภาคแสดง และ 'S' เป็นประธาน เพิร์ซถือว่าการนิรนัยทุกอันสามารถถูกจัดอยู่ในรูปแบบของเด็ดขาด (Syllogism Modus Barbara)
[การนิรนัย] M [ใด ๆ] เป็น P
S [ใด ๆ] เป็น M
S [ใด ๆ] เป็น Pการอุปนัย S′, S′′, S′′′, ฯลฯ ถูกสุ่มเป็น M;
S′, S′′, S′′′, ฯลฯ เป็น P:
M ใด ๆ น่าจะเป็น Pสมมติฐาน M ใด ๆ เป็น ตัวอย่างเช่น P′, P′′, P′′′, ฯลฯ;
S เป็น P′, P′′, P′′′, ฯลฯ:
S น่าจะเป็น M.
Deduction, Induction, and Hypothesis (1878)
ใน "Deduction, Induction, and Hypothesis" ของเพิร์ซ (การนิรนัย การอุปนัย และสมมติฐาน) ปี ค.ศ. 1878 การอนุมานไม่จำเป็นต้องมีลักษณะหรือภาคแสดงหลายอันเพื่อเป็นสมมติฐานแล้วแต่ถ้ามีก็เป็นประโยชน์ มากกว่านั้นเพิร์ซไม่ทำการอนุมานเชิงสมมติฐานเป็นการสรุปในสมมติฐาน น่าจะเป็น อีกแล้ว มันไม่ได้ชัดเจนในรูปของตัวมันเองแต่ก็เข้าใจกันว่าการอุปนัยมีการเลือกสุ่มและการอนุมานเชิงสมมติฐานมีการตอบสนองต่อ "พฤติการณ์ที่น่าประหลาดใจมาก" เพียงแต่รูปของมันเน้นว่าวิธีการการอนุมานเป็นการจัดเรียงใหม่ของประพจน์ของการอนุมานแต่ละรูปแบบ (โดยไม่มีคำใบ้ในวงเล็บด้านล่าง)
การนิรนัย กฎ: ถั่วจากถุงนี้ทุกเม็ดมีสีขาว | การอุปนัย กฎ: ถั่วถูก [สุ่ม] เลือกจากถุงนี้ | สมมติฐาน กฎ: ถั่วจากถุงนี้ทุกเม็ดมีสีขาว |
A Theory of Probable Inference (1883)
เพิร์ซปฏิบัติต่อการจารนัยเป็นการอุปนัยจากลักษณะต่าง ๆ (ซึ่งมีการถ่วงน้ำหนัก ไม่ได้นับเหมือนวัตถุ) อย่างชัดเจนใน "A Theory of Probable Inference" ปี ค.ศ. 1883 ที่ทรงอิทธิพลของเขา (ทฤษฎีของการอนุมานที่น่าจะเป็น) ที่ซึ่งเขากลับมารวมความน่าจะเป็นไว้ในของสรุปเชิงสมมติฐาน หนังสือเล่นนี้ได้มีคนอ่านจำนวนมากเหมือน "Deduction, Induction, and Hypothesis" ในปี ค.ศ. 1878 (ดูหนังสือประวัติศาสตร์เรื่องสถิติศาสตร์โดย (Stephen Stigler)) ไม่เหมือนการแก้ไขความคิดเกี่ยวกับการจารนัยอันต่อมาของเขา ปัจจุบันการจารนัยยังคงเข้าใจกันอย่างทั่วไปว่าเป็นการอุปนัยจากลักษณะและการขยายกฎที่รู้อยู่ไปครอบคลุมพฤติการณ์ที่ยังไม่ถูกอธิบาย
เชอร์ล็อก โฮมส์ ใช้วิธีการให้เหตุผลนี้ในเรื่องของอาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ ถึงแม้โฮมส์จะเรียกมันว่า "การให้เหตุผลแบบนิรนัย"
Minute Logic (1902) และหลังจากนั้น
ในปี ค.ศ. 1902 เพิร์ซได้เขียนไว้ว่าตอนนี้เขาถือรูปทางตรรกบทและหลักของการขยายและความเข้าใจ (นั่นคือ วัตถุและลักษณะอย่างที่ถูกอ้างอิงโดยพจน์ต่าง ๆ) ว่าไม่ได้เป็นสิ่งที่เป็นรากฐานมากเท่าที่เคยคิด ในปี ค.ศ. 1903 เขาเสนอรูปของการจารนัยดังต่อไปนี้:
ข้อเท็จจริงที่น่าประหลาดใจ C ถูกสังเกต;
- แต่หาก A เป็นจริง C ก็ย่อมเกิดเป็นเรื่องปกติ,
- ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยเลยว่า A เป็นจริง
สมมติฐานถูกร่างขึ้นมาแต่ไม่ได้ถูกยืนยันในข้อตั้ง แล้วจึงถูกยืนยันว่าน่าสงสัยอย่างมีเหตุผลในข้อสรุป ดังนั้นอย่างในรูปของตรรกบทเด็ดขาดก่อนหน้า ข้อสรุปถูกกำหนดจากข้อตั้งบางข้อ แต่กระนั้นสมมติฐานประกอบด้วยมโนคติที่ใหม่หรืออยู่นอกสิ่งที่รู้หรือสังเกตเห็นอย่างชัดเจนมากกว่าที่เคย การอุปนัยในแง่หนึ่งไปไกลเกินการสังเกตการณ์ที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อตั้ง แต่เพียงขยายมโนคติที่รู้อยู่แล้วว่าแสดงเหตุการณ์หรือทดสอบมโนคติหนึ่งที่ถูกจัดเตรียมโดยสมมติฐาน ทางใดก็ตามก็ต้องการการจารนัยก่อนหน้าเพื่อที่จะให้ได้มโนคติแบบนั้นมาตั้งแต่แรก การอุปนัยตามหาข้อเท็จจริงเพื่อทดสอบสมมติฐาน การจารนัยตามหาสมมติฐานเพื่ออธิบายข้อเท็จจริง
โปรดทราบว่าสมมติฐาน ("A") อาจเป็นกฏ และไม่จำเป็นแม้แต่จะต้องเป็นกฏที่บังคับการสังเกตการณ์ที่น่าประหลาดใจ ("C") ซึ่งจำเป็นที่จะตามมาแค่เป็น "เรื่องปกติ" หรือความ "ปกติ" เองนั้นอาจเปรียบเสมือนกฏที่รู้จัก ถูกพาดพิงถึงเท่านั้น และก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นกฎเพราะความจำเป็นอย่างเดียว ในปีเดียวกันเพิร์ซเขียนว่าการไปถึงสมมติฐานอาจมีส่วนของการวางการสังเกตการณ์ที่น่าประหลาดใจไว้ภายใต้กฎที่สมมติฐานขึ้นมาอย่างใหม่หรือการรวมกันที่ถูกสมมติฐานของกฎที่รู้จักต่าง ๆ กับสถานะแปลก ๆ ของข้อเท็จจริง เพื่อให้ปรากฏการณ์ไม่ได้น่าประหลาดใจแต่เป็นนัยอย่างจำเป็นหรืออย่างน้อยควรจะเป็นแทน
เพิร์ซยังคงไม่ได้ถูกโน้มน้าวมากนักสำหรับรูปใด ๆ เช่นนั้นว่าเป็นรูปของตรรกบทเด็ดขาดหรือรูปของปี ค.ศ. 1903 ในปี ค.ศ. 1911 เขาเขียนว่า "ณ ปัจจุบัน ผมไม่ได้รู้สึกโน้มน้าวใจเท่าใดนักว่ารูปตรรกะใด ๆ สามารถถูกมอบหมายที่จะครอบคลุม 'Retroductions' (การจารนัย) ทุกอัน เพราะสิ่งที่ผมหมายถึง retroduction เป็นอย่างง่าย ๆ คือข้อความคาดการณ์ที่เกิดขึ้นมาในจิต"
ปฏิบัตินิยม
ในปี ค.ศ. 1901 เพิร์ซเขียนว่า "มันจะไม่มีตรรกะในการกำหนดกฎขึ้นและในการบอกว่ากฎเหล่านั้นควรจะถูกทำตาม จนกว่าจะเข้าใจว่าจุดประสงค์ของสมมติฐานต้องการมัน" ในปี ค.ศ. 1903 เพิร์ซเรียก (pragmatism) ว่า "the logic of abduction" (ตรรกะของการจารนัย) และบอกว่า (pragmatic maxim) ให้กฏตรรกะที่จำเป็นและเพียงพอสำหรับการจารนัยโดยทั่วไป คติบทปฏิบัตินิยมคือ:
พิจารณาผลกระทบที่อาจมีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นไปได้ใด ๆ ที่เราเข้าใจว่าวัตถุในมโนภาพของเรามี แล้วมโนภาพของผลกระทบเหล่านี้ของเราเป็นมโนภาพของวัตถุนั้นทั้งหมดของเรา
เป็นวิธีการเพื่อทำให้มโนภาพกระจ่างอย่างเป็นผลโดยเทียบความหมายของมโนภาพนั้นกับนัยยะทางปฏิบัติที่เป็นไปได้ของผลกระทบที่วัตถุนั้นมี เพิร์ซถือว่ามันเข้ากับจุดประสงค์ของการจารนัยในการสอบสวนอย่างแม่นยำ คือการสร้างมโนคติที่อาจก่อร่างการปฏิบัติอย่างมีความรู้อย่างเป็นไปได้ ในงานเขียนหลากหลายในช่วงปี ค.ศ. 1900s เขาพูดว่าการปฏิบัติการจารนัย (หรือ retroduction) ถูกควบคุมโดยการพิจารณาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่เป็นของเศรษฐศาสตร์ของการวิจัย เขาถือเศรษฐศาสตร์ว่าเป็นศาสตร์เชิงบรรทัดฐาน ซึ่งส่วนวิเคราะห์ของมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของเมโธดิวติกเชิงตรรกะ (นั่นคือ ทฤษฎีของการสอบสวน)
ตรรกะด้านการจารนัยสามระดับ
ระหว่างเวลาที่แล้วมา เพิร์ซ (Classification of the sciences (Peirce)) เป็นสามแผนก:
- สเตคิโอโลจี (Stechiology) หรือไวยากรณ์สเป็กคูเลทีฟ เป็นเรื่องของเงื่อนไขสำหรับความหมาย และการจำแนกประเภทของสัญญะ (รูปลักษณ์ เครื่องแสดง สัญลักษณ์ ฯลฯ) และการรวมกันของพวกมัน (ตลอดจนวัตถุและของพวกมัน (interpretant))
- คริติกเชิงตรรกะ (Logical critic) หรือตรรกะแท้ (logic proper) เป็นเรื่องของความสมเหตุสมผลหรือความอ้างเหตุผลได้ของการอนุมาน หรือเงื่อนไขสำหรับการแทนจริง และบทวิจารณ์ของการอ้างเหตุผลในวิธีต่าง ๆ (แบบนิรนัย อุปนัย และจารนัย)
- เมโธดิวติก (Methodeutic) หรือวาทศาสตร์สเป็กคูเลทีฟ (speculative rhetoric) เป้นเรื่องของเงื่อนไขเพื่อพิจารณากำหนดการแปลความหมาย และระเบียบวิธีของการสอบสวนในปฏิกิริยากันและกันของวิธีต่าง ๆ ของมัน
ตั้งแต่เริ่ม เพิร์ซได้เห็นวิธีของการอนุมานถูกประสานเข้ากันในการสอบสวนทางวิทยาศาสตร์ และภายในช่วงปี ค.ศ. 1900s เขาถือว่าการอนุมานเชิงสมมติฐานโดยเฉพาะนั้นไม่ถูกปฏิบัติต่อในระดับของบทวิจารณ์ของการอ้างเหตุผลอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในข้อสรุปเชิงสมมติฐาน จะต้องนิรนัยว่าพบเจอนัยยะเกี่ยวกับหลักฐาน นั่นคือการคาดการณ์ซึ่งการอุปนัยสามารถทดสอบการสังเกตการณ์เพื่อประเมินผลสมมติฐานนั้น นี่คือ (Charles Sanders Peirce) อย่างที่ครอบคลุมไว้ในระเบียบวิธีการสอบสวนของเขาซึ่งรวม หรืออย่างที่เขาเรียกทีหลังว่า (pragmaticism) คือคำอธิบายของมโนคติในด้านของนัยยะที่เป็นไปได้ของการปฏิบัติอย่างมีความรู้
การจำแนกประเภทของสัญญะ
ภายในปี ค.ศ. 1866 เพิร์ซถือว่า:
- สมมติฐาน (การอนุมานแบบจารนัย) เป็นการอนุมานผ่าน สัญรูป (icon) (ก็เรียกว่า likeness หรือความเหมือนกับ).
- การอุปนัยเป็นการอนุมานผ่าน ดรรชนี (index) (สัญญะโดยการเชื่อมโยงกับข้อเท็จจริง) ตัวอย่างเป็นดรรชนีของจำนวนทั้งหมดที่เลือกมาจาก
- การนิรนัยเป็นการอนุมานผ่าน สัญลักษณ์ (symbol) (สัญญะโดยการตีความโดยไม่คำนึงถึงความคล้ายคลึงหรือการเชื่อมโยงกับวัตถุ).
ในปี ค.ศ. 1902 เพิร์ซเขียนว่าในการจารนัย: "เป็นที่รู้จักว่าปรากฏการณ์นั้น เหมือนกับ หรือประกอบเป็นสัญรูปของสำเนาของมโนภาพทั่วไป หรือสัญลักษณ์"
บทวิจารณ์ของการอ้างเหตุผล
ในระดับคริติก เพิร์ซตรวจสอบรูปของการอ้างเหตุผลแบบจารนัย (แบบที่อภิปรายไปด้านบน) และได้กลายมาถือว่าสมมติฐานควรอธิบายความฟังขึ้นอย่างประหยัดในด้านของความเป็นไปได้และความเป็นธรรมชาติ ในปี ค.ศ. 1908 เพิร์ซพรรณนาความเป็นไปได้ (plausibility) นี้ในรายละเอียด ความเป็นไปได้ที่อยู่บนการสังเกตการณ์ไม่ได้มีส่วนด้วย (ซึ่งจะกลายเป็นการประเมินผลแบบอุปนัยของสมมติฐานแทน) แต่เป็นความเรียบง่ายเหมาะที่สุดในความหมายของความ "ง่าย และเป็นธรรมชาติ" แทน เช่นแบบ แสงแห่งเหตุผลธรรมชาติ (natural light of reason) ของกาลิเลโอ และต่างจาก "ความเรียบง่ายเชิงตรรกะ" (logical simplicity) (เพิร์ซไม่ได้มองข้ามความเรียบง่ายเชิงตรรกะทั้งหมดแต่มองว่ามีหน้าที่ที่เป็นรอง หากนำมาใช้อย่างสุดโต่งก็เป็นการสนับสนุนให้ไม่ต้องหาคำอธิบายของการสังเกตการณ์เลย) แม้แต่การเดาของสติปัญญาที่เตรียมตัวมาอย่างดีก็ยังผิดถี่กว่าถูก แต่ความสำเร็จที่จะหาความจริงหรืออย่างน้อยเดินหน้าการสอบสวนของการเดาของเรานั้นเกินไปกว่าคำว่าดวงสุ่ม ๆ และนั่นชี้ให้เพิร์ซเห็นว่าการเดาเหล่านั้นอยู่บนการเข้ากับธรรมชาติโดยอัชฌัตติกญาณ หรือความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกระบวนการในจิตและกระบวนการในความเป็นจริงซึ่งจะเป็นเหตุผลอย่างน่าดึงดูดว่าทำไมการเดา "โดยธรรมชาติ" จะเป็นอันที่สำเร็จบ่อย (หรือไม่บ่อย) ที่สุด และเพิร์ซจึงได้อ้างเหตุผลว่าควรชอบการเดาแบบนั้นมากกว่าเพราะเมื่อไม่มี "a natural bent like nature's" (ความเอนเอียงตามธรรมชาติอย่างที่ธรรมชาติมี) ก็จะไม่มีความหวังใดในการที่ผู้คนจะเข้าใจธรรมชาติ ในปี ค.ศ. 1910 เพิร์ซได้แยกแยะเป็นสามทางระหว่างความน่าจะเป็น (probability) ความละม้ายจริง (verisimilitude) และความเป็นไปได้ (plausibility) และนิยามคำว่าความเป็นไปได้ด้วยคำว่า "ought" (ควรจะ): "คำว่าความเป็นไปได้นี้ ผมหมายถึงระดับที่ทฤษฎีหนึ่งควรจะแนะนำตัวเองสู่ความเชื่อของเราโดยปราศจากหลักฐานใด ๆ นอกจากสัญชาตญาณตัวเองที่ผลักดันให้เราสนับสนุนมัน" สำหรับเพิร์ซ ความเป็นไปได้ (plausibility) ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความถี่ที่สังเกตเห็นหรือความน่าจะเป็น หรือความละม้ายจริง หรือแม้แต่ความทดสอบได้ (testability) ซึ่งไม่ใช่เรื่องของบทวิจารณ์ว่าการอนุมานเชิงสมมติฐานเป็นการอนุมาน แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของสมมติฐานต่อกระบวนการสอบสวน
วลีว่า "การอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุด" (ซึ่งเพิร์ซไม่ใช้แต่มักจะถูกนำมาใช้เรียกการอนุมานเชิงสมมติฐาน) ไม่ได้ถูกเข้าใจว่าหมายถึงสมมติฐานที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติที่สุดเสมอ (ดังเช่นพวกที่มีข้อสมมติฐานน้อยที่สุด) อย่างไรก็ตาม ความหมายอื่น ๆ ของคำว่า "ดีที่สุด" เช่น "ผ่านการทดสอบได้ดีที่สุด" ก็ยากที่จะรู้ว่าจะสร้างคำอธิบายไหนดีที่สุดในเมื่อมันยังไม่ได้ถูกทดสอบ สำหรับเพิร์ซแล้ว การให้เหตุผลการอนุมานแบบจารนัยใด ๆ ว่าดียังคงไม่สมบูรณ์แค่เพราะถูกสร้างเป็นการอ้างเหตุผล (ต่างจากการอุปนัยและการนิรนัย) และขึ้นอยู่กับหน้าที่ในระเบียบวิธีและความมั่นสัญญาว่าจะดำเนินหน้าการสอบสวน (เช่นความทดสอบได้) แทน
ระเบียบวิธีของการสอบสวน
ในระดับเมโธดิวติก เพิร์ซถือว่าสมมติฐานจะได้รับเลือกและถูกตัดสินไปทดสอบก็เพราะมันเสนอที่จะเร่งและทำให้กระบวนการประหยัด (inquiry) ในการหาความจริงด้วยการทดสอบมัน อย่างแรกเลยคือด้วยการทดสอบได้ และก็ด้วยเรื่องเศรษฐกิจเพิ่มเติม ไม่ว่าในด้านราคา (cost) มูลค่า (value) และความสัมพันธ์ท่ามกลางการเดาต่าง ๆ (สมมติฐาน) การพิจารณาดังเช่นความน่าจะเป็นซึ่งไม่มีในการปฏิบัติของการจารนัยในระดับคริติกก็จะมีส่วนร่วมในระดับนี้ ตัวอย่างเช่น:
- ราคา (cost) : ถ้าการเดาที่เรียบง่ายและเป็นไปได้สูงนั้นมีราคาในการทดสอบความเท็จที่ต่ำก็อาจเป็นอันแรก ๆ ที่เอามาทดสอบเพื่อเบิกทางก่อน ถ้ามันผ่านการทดสอบอย่างน่าประหลาดใจ มันก็คุ้มที่จะรู้ตั้งแต่แรกเริ่มในการสอบสวน ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเสียเวลานานไปกับแนวทางที่ดูเป็นไปได้มากกว่าแต่ความจริงแล้วผิด
- มูลค่า (value) : การเดาหนึ่งนั้นคุ้มค่าที่จะทดสอบในตัวมันเองถ้ามีความเป็นไปได้โดยสัญชาตญาณหรือความน่าจะเป็นอย่างรูปธรรมที่มีเหตุผล ในขณะที่ความควรจะเป็นอัตวิสัยไม่น่าไว้วางใจแม้จะมีเหตุผล
- อันตรสัมพันธภาพ (interrelationships) : สามารถเลือกการเดามาทดลองอย่างมีกลยุทธ์ได้ด้วยสิ่งเหล่านี้
- ความรอบคอบ (caution) ตัวอย่างที่เพิร์ซให้คือเกม (Twenty Questions)
- ความกว้าง (breadth) ของการนำไปใช้อธิบายปรากฏการณ๋ได้หลากหลาย และ
- ความไม่ซับซ้อน (incomplexity) ของสมมติฐานที่ดูเรียบง่ายและเมื่อทดสอบแล้วจะปูทางไปสู่การไล่ตามสมมติฐานที่หลากหลายและขัดแย้งกันและเรียบง่ายน้อยกว่า
การประยุกต์ใช้
ปัญญาประดิษฐ์
การประยุกต์ใช้ในปัญญาประดิษฐ์มี (Diagnosis (artificial intelligence)) (belief revision) และ (automated planning) การประยุกต์ใช้โดยตรงที่สุดของการจารนัยคือการตรวจจับความผิดพร่องโดยอัตโนมัติในระบบ: เมื่อมีทฤษฎีที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างความผิดพร่องกับผลกระทบและชุดผลกระทบที่สังเกตเห็น จะสามารถจารนัยหาชุดความผิดพร่องที่อาจจะเป็นสาเหตุของปัญหา
แพทยศาสตร์
ในแพทยศาสตร์ สามารถมองการจารนัยเป็นส่วนประกอบในการประเมินผลและการตัดสินใจทางคลินิก
การวางแผนของเครื่อง
การจารนัยสามารถนำมาใช้โมเดลได้ หากมีทฤษฎีของตรรกะที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ของการกระทำและผลของมัน (ตัวอย่างเช่น สูตรของ (event calculus)) ก็จะสามารถโมเดลปัญหาของการหาแผนการสำหรับการไปถึงสภาวะหนึ่งให้เป็นปัญหาของการจารนัยหาชุดของสัญพจน์ (literal) ที่แสดงนัยว่าสภาวะสุดท้ายเป็นสภาวะเป้าหมาย (goal state)
การวิเคราะห์ข่าวกรอง
มีการใช้การให้เหตุผลแบบจารนัยเชิงความน่าจะเป็นใน (intelligence analysis), (analysis of competing hypotheses) และ (Bayesian network) อย่างกว้างขวาง การวินิจฉัยทางการแพทย์และการให้เหตุผลทางกฎหมายก็มีใช้วิธีการนี้เช่นเดียวกัน แต่มีหลายตัวอย่างของข้อผิดพลาดโดยเฉพาะพวกที่เกิดจากเหตุผลวิบัติโดยอัตราพื้นฐานและ (prosecutor's fallacy)
ปรัชญาวิทยาศาสตร์
ใน (philosophy of science) การจารนัยเป็นวิธีการอนุมานที่สำคัญที่สนับสนุนมุมมอง (scientific realism) และการถกเถียงของสัจนิยมทางวิทยาศาสตร์ส่วนมากเป็นเรื่องเกี่ยวกับว่าการจารนัยเป็นวิธีการอนุมานที่ยอมรับได้หรือไม่
ภาษาศาสตร์เชิงประวัติ
ในภาษาศาสตร์เชิงประวัติ การจารนัยในระหว่าง (language acquisition) มักถูกถือว่าเป็นส่วนที่จำเป็นในกระบวนการการเปลี่ยนแปลงภาษา ดังเช่น (folk etymology) และแนวเทียบ (analogy)
ภาษาศาสตร์ประยุกต์
ในการวิจัย (applied linguistics) การให้เหตุผลแบบจารนัยกำลังถูกเริ่มใช้เป็นคำอธิบายทางเลือกแทนการให้เหตุผลแบบอุปนัยในการรู้จำผลลัพธ์ที่คาดไว้ของการสอบสวนเชิงคุณภาพ ทำให้มีส่วนในกำหนดทิศทางของการวิเคราะห์ มันถูกนิยามเป็น "การใช้ข้อตั้งที่ไม่ชัดเจนจากการสังเกตการณ์ และไล่ตามทฤษฎีต่าง ๆ เพื่ออธิบายมัน" ("The use of an unclear premise based on observations, pursuing theories to try to explain it" (Rose et al., 2020, p. 258))
มานุษยวิทยา
ในสาขามานุษยวิทยา (Alfred Gell) นิยามการจารนัย (ต่อจากเอโก) ในหนังสือทรงอิทธิพลของเขาชื่อ Art and Agency (ศิลปะและผู้กระทำการ) ว่าเป็น "หนึ่งกรณีของการอนุมานเชิงสังเคราะห์ 'ที่ซึ่งเราพบพฤติการณ์ที่น่าฉงนซึ่งจะสามารถอธิบายได้ด้วยข้อสมมุติว่ามันเป็นหนึ่งกรณีของกฎทั่วไปกฎหนึ่ง และเหตุฉะนั้นจึงนำข้อสมมุตินั้นมาใช้'" ("a case of synthetic inference 'where we find some very curious circumstances, which would be explained by the supposition that it was a case of some general rule, and thereupon adopt that supposition'") เกลล์วิจารณ์งานศึกษา "ทางมานุษยวิทยา" เรื่องศิลปะ ณ ตอนนั้นว่าหมกมุ่นกับคุณค่าทางสุนทรียภาพ และหมกมุ่นกับภาระหลักของมานุษยวิทยาในการเปิดเผย "ความสัมพันธ์ทางสังคม" ไม่พอ โดยเฉพาะบริบททางสังคมที่งานศิลปะได้ถูกสร้างสรรค์ หมุนเวียน และรับ การจารนัยถูกใช้เป็นกลไกในการเคลื่อนจากศิลปะเป็นผู้กระทำการ นั่นคือการจารนัยสามารถอธิบายวิธีที่ศิลปะสามารถดล สามัญสำนึก (sensus communis) ขึ้นมา ซึ่งคือมุมมองที่มีร่วมกันระหว่างสมาชิกของสังคมหนึ่ง ซึ่งแสดงลักษณะ (characterize) ของสังคมนั้น ๆ
คำถามที่เกลล์ถามในหนังสือคือ "มัน 'บอก' อะไรกับคนในตอนแรก?" ("how does it initially 'speak' to people?") เขาตอบว่า "ไม่มีคนมีเหตุผลคนไหนจะนึกไม่ได้ว่าความสัมพันธ์แบบศิลปะระหว่างผู้คนและสิ่งของจะมี (semiosis) เป็นอย่างน้อย" ("No reasonable person could suppose that art-like relations between people and things do not involve at least some form of semiosis.") แต่ทว่าเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่บอกว่าการสร้างความหมายสามารถมองเป็นภาษาได้ เพราะเช่นนั้นแล้วเขาจำต้องยอมรับการมีอยู่ของ "สามัญสำนึก" ที่มีมาอยู่ก่อนแล้วซึ่งเขาต้องการบอกว่ามันเกิดขึ้นต่อมาทีหลังจากศิลปะเท่านั้น การจารนัยเป็นคำตอบต่อปริศนานี้เพราะธรรมชาติความเป็นคร่าว ๆ ของแนวคิดการจารนัย (ที่เพิร์ซเปรียบเหมือนกับการเดา) แปลว่านอกจากจะใช้งานนอกโครงข่ายที่มีอยู่ก่อนได้แล้ว แต่มากกว่านั้นยังสามารถประกาศการมีอยู่ของโครงข่ายหนึ่งได้ด้วย อย่างที่เกลล์ให้เหตุผลไว้ในการวิเคราะห์ของเขา การมีอยู่ทางกายภาพของงานศิลปะนั้นเองที่กระตุ้นให้ผู้ชมกระทำการจารนัยและใส่เจตนารมณ์ของงานศิลปะเข้าไปเอง ตัวอย่างเช่นรูปปั้นเทพธิดา ในแง่หนึ่งก็ได้กลายเป็นเทพธิดาของจริงในสมองของผู้ชม และไม่ได้เป็นแค่ตัวแทนรูปของเทพองค์หนึ่งเท่านั้นแต่ยังแสดงถึงเจตนาของเธอด้วย (ซึ่งถูกจารนัยจากความรู้สึกถึงการมีอยู่ของเธอ) เพราะฉะนั้นเกลล์อ้างว่าศิลปะสามารถมีความเป็นผู้กระทำ (agency) ในชนิดที่เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ที่หยั่งรากและเติบโตไปเป็นตำนานทางวัฒนธรรม พลังของความเป็นผู้กระทำเป็นพลังที่จะผลักดันการกระทำต่าง ๆ และท้ายที่สุดก็ดลใจให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงลักษณะของสังคม
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ใน (formal methods) ตรรกะถูกใช้ระบุและตรวจสอบคุณสมบัติของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การจารนัยถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ให้เหตุผลกล (mechanized reasoning tool) เพื่อเพิ่มระดับอัตโนมัติกรรม (automation) ของกิจกรรมการตรวจสอบ
เทคนิคหนึ่งเรียกว่า bi-abduction ซึ่งรวมการจารนัยและ (frame problem) ถูกใช้ขยายเทคนิคการให้เหตุผลของคุณสมบัติความจำให้สามารถให้เหตุผลเป็นรหัสหรือโค้ดหลายล้านบรรทัด การจารนัยที่อยู่บนตรรกศาสตร์ถูกใช้เพื่ออนุมาน (precondition) ของฟังก์ชันแต่ละอันในโปรแกรมหนึ่งและลดภาระที่มนุษย์ต้องทำ นี่ทำให้เกิดบริษัทสตาร์ทอัพที่รับตรวจสอบโปรแกรมซึ่งถูกซื้อไปโดยเฟสบุ๊ก และอุปกรณ์วิเคราะห์โปรแกรม Infer ซึ่งได้ป้องกัน (Codebase) อุตสาหกรรมจากจุดบกพร่องหลายพันจุด
นอกจากการจารนัยหาเงื่อนไขก่อนของฟังก์ชันแล้ว การจารนัยยังถูกใช้เพื่อทำการอนุมานตัวยืนยง (invariant) ของลูปโปรแกรม (program loop) การอนุมานข้อกำหนดของโค้ดที่ไม่รู้จัก และการสังเคราะห์ตัวโปรแกรมเอง ให้เป็นอัตโนมัติ
ดูเพิ่ม
- การคิดวิเคราะห์
- (Duck test)
- (Maximum likelihood estimation)
- (Logical reasoning)
- (Defeasible reasoning)
- (Attribution (Psychology))
- การอ้างเหตุผล (Argument)
- (Gregory Bateson)
- (Inductive probability)
- (Sensemaking)
- (Douglas N. Walton)
- (Argumentation Theory)
- (Charles Sanders Peirce bibliography)
- (Statistical model)
- ศึกษาสำนึก
- (Sign relation)
อ้างอิง
- เช่น: Josephson, John R.; Josephson, Susan G., บ.ก. (1994). Abductive Inference: Computation, Philosophy, Technology. Cambridge, UK; New York: Cambridge University Press. doi:10.1017/CBO9780511530128. ISBN . OCLC 28149683.
- . Commens – Digital Companion to C. S. Peirce. Mats Bergman, Sami Paavola & João Queiroz. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-26. สืบค้นเมื่อ 2014-08-24.
- (2013). Core Questions in Philosophy: A Text with Readings (6th ed.). Boston: Pearson Education. p. 28. ISBN . OCLC 799024771.
I now move to abduction—inference to the best explanation.
- Campos, Daniel G. (June 2011). "On the distinction between Peirce's abduction and Lipton's inference to the best explanation". . 180 (3): 419–442. doi:10.1007/s11229-009-9709-3.
I argue against the tendency in the philosophy of science literature to link abduction to the inference to the best explanation (IBE), and in particular, to claim that Peircean abduction is a conceptual predecessor to IBE. [...] In particular, I claim that Peircean abduction is an in-depth account of the process of generating explanatory hypotheses, while IBE, at least in 's thorough treatment, is a more encompassing account of the processes both of generating and of evaluating scientific hypotheses. There is then a two-fold problem with the claim that abduction is IBE. On the one hand, it conflates abduction and induction, which are two distinct forms of logical inference, with two distinct aims, as shown by Charles S. Peirce; on the other hand it lacks a clear sense of the full scope of IBE as an account of scientific inference.
แปล: ผมไม่เห็นด้วยกับแนวโน้มในวรรณกรรมปรัชญาวิทยาศาสตร์ที่มีการเชื่อมโยงการจารนัยกับการอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุด (IBE) โดยเฉพาะคำกล่าวอ้างว่าการจารนัยแบบเพิร์ซนั้นเป็นบรรพบุรุษของ IBE [...] ในรายละเอียด ผมยืนยันว่าการจารนัยแบบเพิร์ซนั้นเป็นการบรรยายเชิงลึกของกระบวนการสร้างสมมติฐานเชิงอธิบาย ในขณะที่ IBE อย่างน้อยในการปฏิบัติต่อมันอย่างละเอียดของ เป็นการบรรยายที่ครอบคลุมกระบวนการสร้างและประเมินสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า การอ้างว่าการจารนัยคือ IBE นั้นจึงเป็นคำกล่าวอ้างที่มีปัญหาในสองด้าน ในด้านหนึ่ง มันเป็นการจับรวมการจารนัยเข้ากับการอุปนัยแม้ทั้งสองจะเป็นการอนุมานเชิงตรรกะคนละรูปแบบซึ่งมีเป้าหมายที่ต่างกันอย่างที่ ชารลส์ เอส เพิร์ซ ได้แสดงให้เห็นแล้ว ในอีกด้านหนึ่ง มันไม่เข้าใจในขอบเขตเต็มของ IBE ในฐานะของวิธีการอธิบายการอนุมานทางวิทยาศาสตร์ - (2001). "Abductive, presumptive and plausible arguments". . 21 (2): 141–169. 10.1.1.127.1593. doi:10.22329/il.v21i2.2241.
Abductive inference has often been equated with inference to the best explanation. [...] The account of abductive inference and inference to the best explanation presented above has emphasized the common elements found in the analyses given by Peirce, Harman, and the Josephsons. It is necessary to add that this brief account may be misleading in some respects, and that a closer and more detailed explication of the finer points of the three analyses could reveal important underlying philosophical differences. Inferences to the best explanation, as expounded by Harman and the Josephsons, can involve deductive and inductive processes of a kind that would be apparently be excluded by Peirce's account of abduction
แปล: การอนุมานแบบจารนัยมักถูกจับมาเท่ากันกับการอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุด [...] คำอธิบายการอนุมานแบบจารนัยและการอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุดด้านบนนั้นได้เน้นองค์ประกอบร่วมกันที่พบในบทวิเคราะห์โดยเพิร์ซ, ฮาร์แมน และโจเซฟสันกับโจเซฟสัน มันจำเป็นที่จะต้องกล่าวว่าคำอธิบายนี้อาจทำให้เข้าใจผิดได้ในบางประเด็น และการอธิบายที่ละเอียดและลึกกว่าเดิมถึงจุดต่าง ๆ ในบทวิเคราะห์ทั้งสามสามารถเผยให้เห็นถึงความแตกต่างเชิงปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังที่สำคัญได้ การอนุมานสู่คำอธิบายที่ดีที่สุดอย่างที่ฮาร์แมนและโจเซฟสันกับโจเซฟสันได้อธิบายไว้นั้นสามารถรวมถึงกระบวนการแบบนิรนัยและอุปนัยชนิดที่จะไม่ถูกรวมอยู่ในคำอธิบายการจารนัยของเพิร์ซได้ - ดูที่ อาทิ Analysis of Evidence, 2d ed. โดย Terence Anderson (สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, 2005)
- ตัวอย่างเช่น ดูที่ "", John R. Josephson, Laboratory for Artificial Intelligence Research, มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต, และ Abduction, Reason, and Science. Processes of Discovery and Explanation โดย (Kluwer Academic/Plenum Publishers, นิวยอร์ก, 2001).
- ; Kakas, A. C., บ.ก. (2000). Abduction and Induction: Essays on their Relation and Integration. Springer. p. xiii. สืบค้นเมื่อ 31 October 2016.
This book grew out of a series of workshops on this topic. [Budapest 1996; Nagoya 1997; Brighton 1998]
- Reggia, James A., et al. "Answer justification in diagnostic expert systems-Part I: Abductive inference and its justification." IEEE transactions on biomedical engineering 4 (1985): 263-267.
- แปลจาก "Looking out my window this lovely spring morning, I see an azalea in full bloom. No, no! I don't see that; though that is the only way I can describe what I see. That is a proposition, a sentence, a fact; but what I perceive is not proposition, sentence, fact, but only an image, which I make intelligible in part by means of a statement of fact. This statement is abstract; but what I see is concrete. I perform an abduction when I so much as express in a sentence anything I see. The truth is that the whole fabric of our knowledge is one matted felt of pure hypothesis confirmed and refined by induction. Not the smallest advance can be made in knowledge beyond the stage of vacant staring, without making an abduction at every step." Peirce MS. 692, ถูกยกคำพูดไว้ใน Sebeok, T. (1981) "You Know My Method" ใน Sebeok, T., The Play of Musement, Bloomington, IA: Indiana, หน้า 24.
- แปลจาก "Facts cannot be explained by a hypothesis more extraordinary than these facts themselves; and of various hypotheses the least extraordinary must be adopted." Peirce MS. 696, ถูกยกคำพูดไว้ใน Sebeok, T. (1981) "You Know My Method" ใน Sebeok, T., The Play of Musement, Bloomington, IA: Indiana, หน้า 31.
- A. Jøsang. Subjective Logic: A Formalism for Reasoning Under Uncertainty, Springer 2016, ISBN .
- Popper, Karl (2002). Conjectures and Refutations: The Growth of Scientific Knowledge (2 ed.). London: Routledge. p. 536.
- ดู Santaella, Lúcia (1997) "The Development of Peirce's Three Types of Reasoning: Abduction, Deduction, and Induction", ที่การประชุมครั้งที่ 6 ของ . Eprint.
- Peirce, C. S.
- "On the Logic of drawing History from Ancient Documents especially from Testimonies" (1901), Collected Papers v. 7, ย่อหน้าที่ 219.
- "PAP" ["Prolegomena to an Apology for Pragmatism"], MS 293 c. 1906, New Elements of Mathematics v. 4, pp. 319–320.
- A Letter to F. A. Woods (1913), Collected Papers v. 8, ย่อหน้าที่ 385–388.
- Peirce, C. S. (1903), Harvard lectures on pragmatism, Collected Papers v. 5, ย่อหน้าที่ 188–189.
- Peirce, C. S. (1908), "A Neglected Argument for the Reality of God", Hibbert Journal v. 7, pp. 90–112, ดู §4. ใน Collected Papers v. 6, ดูย่อหน้าที่ 476. ใน The Essential Peirce v. 2, ดู p. 444.
- Peirce, C. S. (1908), "A Neglected Argument for the Reality of God", Hibbert Journal v. 7, pp. 90–112. ดูทั้ง part III และ part IV. พิมพ์ใหม่โดยรวมส่วนที่เดิมไม่ได้ตีพิมพ์ใน Collected Papers v. 6, ย่อหน้าที่ 452–85, Essential Peirce v. 2, pp. 434–50, และที่อื่น ๆ.
- เพิร์ซใช้คำว่า "intuition" หรืออัชฌัตติกญาณไม่ใช่ในความหมายของการอนุมานตามสัญชาตญาณหรืออย่างกึ่งรู้สึกตัวแบบที่คนทำทั่วไป ณ ตอนนี้ แต่ทว่าใช้ในความหมายของการรับรู้ที่ไร้การตัดสินเชิงตรรกะด้วย (a priori and a posteriori) เขาว่า "เราไม่มีพลังของอัชฌัตติกญาณ" ในความหมายนั้น ดู "Some Consequences of Four Incapacities" (1868) ของเขา, Eprint 2011-05-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- สำหรับการสนทนาที่เกี่ยวข้องของเพิร์ซและจุดมุ่งหมายของการอนุมานแบบจารนัย ดู McKaughan, Daniel J. (2008), "From Ugly Duckling to Swan: C. S. Peirce, Abduction, and the Pursuit of Scientific Theories", Transactions of the Charles S. Peirce Society, v. 44, no. 3 (summer), 446–468.
- คำว่า "conceivable" หรือเป็นไปได้นี้เพิร์ซหมายความอย่างกว้าง ๆ ดู Collected Papers v. 5, ย่อหน้าที่ 196, หรือ Essential Peirce v. 2, p. 235, "Pragmatism as the Logic of Abduction" (Lecture VII of the 1903 Harvard lectures on pragmatism):
แปล: มันอนุญาตให้จินตนาการใด ๆ โผยบิน ซึ่งจากจินตนาการนี้ก็จะในที่สุดลุกโชนเป็นผลในทางปฏิบัติที่เป็นไปได้ และดังนั้นสมมติฐานหลายข้ออาจเหมือนไม่รวมอยู่ในคติบทเชิงปฏิบัติในตอนแรกที่เห็นซึ่งแท้จริงแล้วไม่ได้ไม่ถูกรวมเท่าไรนักIt allows any flight of imagination, provided this imagination ultimately alights upon a possible practical effect; and thus many hypotheses may seem at first glance to be excluded by the pragmatical maxim that are not really so excluded.
- Peirce, C. S., Carnegie Application (L75, 1902, New Elements of Mathematics v. 4, pp. 37–38. ดูใต้ "Abduction" ที่ Commens Dictionary of Peirce's Terms:
แปล: เมโธดิวติก (Methodeutic) มีความสนใจเป็นพิเศษในการจารนัย หรือการอนุมานซึ่งเริ่มสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์ เพราะมันไม่พอที่สมมติฐานหนึ่งควรเป็นสมมติฐานที่สมเหตุสมผลเพียงเท่านั้น สมมติฐานใด ๆ ที่อธิบายข้อเท็จจริงล้วนสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง แต่ในสมมติฐานที่สมเหตุสมผลนั้นเราต้องเลือกข้อที่เหมาะสมสำหรับนำมาทดสอบในการทดลองได้Methodeutic has a special interest in Abduction, or the inference which starts a scientific hypothesis. For it is not sufficient that a hypothesis should be a justifiable one. Any hypothesis which explains the facts is justified critically. But among justifiable hypotheses we have to select that one which is suitable for being tested by experiment.
- Peirce, "Pragmatism as the Logic of Abduction" (Lecture VII of the 1903 Harvard lectures on pragmatism), ดู parts III และ IV. ตีพิมพ์เป็นบางส่วนใน Collected Papers v. 5, ย่อหน้าที่ 180–212 (ดู 196–200, Eprint และแบบเต็มใน Essential Peirce v. 2, pp. 226–241 (ดูส่วนที่ III และ IV).
แปล: .... อะไรคือการจารนัยที่ดี? สมมติฐานการอธิบายควรเป็นแบบใดจึงควรค่าแก่การภูกจัดเป็นสมมติฐาน? แน่นอน มันต้องอธิบายข้อเท็จจริง แต่เงื่อนไขอื่นใดอีกที่จำเป็นต้องบรรลุจึงจะดี? .... สมมติฐานใด ๆ จึงอาจยอมรับได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุพิเศษที่จะไปตรงกันข้าม ก็ต่อเมื่อมันมีความสามารถในการถูกตรวจสอบโดยการทดลอง และตราบเท่าที่สามารถตรวจสอบได้ นี่เป็นหลักการโดยประมาณของปฏิบัตินิยม.... What is good abduction? What should an explanatory hypothesis be to be worthy to rank as a hypothesis? Of course, it must explain the facts. But what other conditions ought it to fulfill to be good? .... Any hypothesis, therefore, may be admissible, in the absence of any special reasons to the contrary, provided it be capable of experimental verification, and only insofar as it is capable of such verification. This is approximately the doctrine of pragmatism.
- Peirce, C.S. (1902), application to the Carnegie Institution, ดู MS L75.329-330, จาก Draft D 2011-05-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ของ Memoir 27:
แปล: เพราะเหตุนี้ การค้นพบจึงเป็นเพียงการเร่งเหตุการณ์ที่อย่างไรก็จะเกิดไม่ว่าช้าหรือเร็ว ถ้าเราไม่ได้ลำบากตัวเองเพื่อทำการค้นพบสิ่งนั้น และดังนั้นศิลปะของการค้นพบเป็นเพียงปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ของการวิจัยนั้น ในเรื่องที่ตรรกศาสตร์นั้นยุ่งเกี่ยว เป็นหลักการชั้นนำที่อ้างอิงกับศิลปะของการค้นพบ เพราะฉะนั้นการกระทำการจารนัยซึ่งเป็นเพียงปัญหาในวิทยาการศึกษาสำนึกและเป็นคำถามแรกของวิทยาการศึกษาสำนึกจึงถูกปกครองโดยการพิจารณาทางเศรษฐศาสตร์Consequently, to discover is simply to expedite an event that would occur sooner or later, if we had not troubled ourselves to make the discovery. Consequently, the art of discovery is purely a question of economics. The economics of research is, so far as logic is concerned, the leading doctrine with reference to the art of discovery. Consequently, the conduct of abduction, which is chiefly a question of and is the first question of heuristic, is to be governed by economical considerations.
- แปลจาก "in almost everything I printed before the beginning of this century I more or less mixed up hypothesis and induction"
- แปลจาก "narrow and formalistic a conception of inference, as necessarily having formulated judgments from its premises." Peirce, A Letter to circa 1910, Collected Papers v. 8, ย่อหน้าที่ 227–228. ดูใน "Hypothesis" ที่ Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- (1867), "On the Natural Classification of Arguments", Proceedings of the American Academy of Arts and Sciences v. 7, pp. 261–287. Presented April 9, 1867. See especially starting at p. 284 in Part III §1. Reprinted in Collected Papers v. 2, paragraphs 461–516 and Writings v. 2, pp. 23–49.
- Peirce, C. S. (1878), "Deduction, Induction, and Hypothesis", Popular Science Monthly, v. 13, pp. 470–82, see 472. Collected Papers 2.619–44, see 623.
- A letter to Langley, 1900, published in Historical Perspectives on Peirce's Logic of Science. See excerpts under "Abduction" at the Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- "A Syllabus of Certain Topics of Logic'" (1903 manuscript), Essential Peirce v. 2, see p. 287. See under "Abduction" at the Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- Peirce, C. S., "On the Logic of Drawing History from Ancient Documents", dated as circa 1901 both by the editors of Collected Papers (see CP v. 7, bk 2, ch. 3, footnote 1) and by those of the Essential Peirce (EP) (Eprint 2012-09-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. The article's discussion of abduction is in CP v. 7, paragraphs 218–31 and in EP v. 2, pp. 107–14.
- Peirce, C. S., "A Syllabus of Certain Topics of Logic" (1903), Essential Peirce v. 2, p. 287:
แปล: จิตหาทางที่จะนำข้อเท็จจริงมาซึ่งระเบียบโดยการแก้ไขด้วยการค้นพบใหม่ ๆ นั่นคือ การกำหนดการเข้าใจโดยทั่วไปที่โอบอยู่รอบ ๆ ข้อเท็จจริง ในบางกรณีก็ทำด้วย การวางนัยทั่วไป ในกรณีอื่น ๆ ไม่มีกฎใหม่ใดที่ถูกนำเสนอ แต่มีเพียงสถานะประหลาดของข้อเท็จจริงที่จะ "อธิบาย" ปรากฏการณ์ที่น่าประหลาดใจนั้น ๆ และกฎที่ถูกรู้อยู่แล้วก็ถูกรับรู้ว่านำมาใช้กับสมมติฐานที่ถูกเสนอได้ ปรากฏการณ์นั้นจึงไม่น่าประหลาดใจเลยภายใต้ฐานคตินั้น แต่เป็นสิ่งที่เป็นไปได้หรือแม้แต่เป็นผลลัพธ์ที่จำเป็น การสังเคราะห์นี้ซึ่งเสนอการเข้าใจหรือสมมติฐานใหม่คือการจารนัยThe mind seeks to bring the facts, as modified by the new discovery, into order; that is, to form a general conception embracing them. In some cases, it does this by an act of generalization. In other cases, no new law is suggested, but only a peculiar state of facts that will "explain" the surprising phenomenon; and a law already known is recognized as applicable to the suggested hypothesis, so that the phenomenon, under that assumption, would not be surprising, but quite likely, or even would be a necessary result. This synthesis suggesting a new conception or hypothesis, is the Abduction.
- A Letter to J. H. Kehler (1911), New Elements of Mathematics v. 3, pp. 203–4, ดูใต้ "Retroduction" ที่ Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- Peirce, Charles S. (1883). "A Theory of Probable Inference". . Boston, MA.
- ; Umiker-Sebeok, Jean (1979). "'You know my method': a juxtaposition of Charles S. Peirce and Sherlock Holmes". . 26 (3–4): 203–250. doi:10.1515/semi.1979.26.3-4.203.
, in a searching article on Holmes's method (1973:93–126), anticipated our present work by pointing to the similarities between the detective's so-called deductions, or inductions, and Peirce's abductions, or conjectures. According to Peirce's system of logic, furthermore, Holmes's observations are themselves a form of abduction, and abduction is as legitimate a type of logical inference as either induction or deduction (Peirce 8.228).
แปล: (Marcello Truzzi) คาดการณ์งาน ณ ปัจจุบันของเราในบทความค้นหาเรื่องวิธีการของโฮมส์ (1973:93–126) โดยการชี้ถึงความคล้ายคลึงระหว่างสิ่งที่นักสืบเรียกว่าการนิรนัยหรือการอุปนัยกับการจารนัยของเพิร์ซหรือข้อความคาดการณ์ มากกว่านั้น จากระบบตรรกะของเพิร์ซ การสังเกตการณ์ของโฮมส์นั้นเองเป็นรูปหนึ่งของการจารนัย และการจารนัยก็เป็นชนิดของการอนุมานเชิงตรรกะที่ชอบธรรมเช่นเดียวกับการอุปนัยและการนิรนัย (Peirce 8.228) - (September 1999). "Defending abduction". . 66 (Supplement 1): S436–S451 (S440–S441). doi:10.1086/392744.
A historically interesting application of abduction as a heuristic method can be found in classical detective stories, as shown by the semiotical and logical essays collected in Eco and Sebeok 1983. , the hero of Edgar Allan Poe's novels in the 1840s, employed a method of 'ratiocination' or 'analysis' which has the structure of retroduction. Similarly, the logic of the 'deductions' of Sherlock Holmes is typically abductive.
แปล: การนำการจารนัยมาใช้เป็นวิธีการแบบศึกษาสำนึกหนึ่งที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์สามารถพบได้ในเรื่องราวนักสืบตามแบบแผน อย่างที่ได้แสดงโดยความเรียงเชิงสัญศาสตร์และตรรกศาสตร์ที่รวบรวมไว้ใน Eco และ Sebeok 1983 (C. Auguste Dupin) วีรบุรุษในนิยายของเอดการ์ แอลลัน โพ (Edgar Allan Poe) ในช่วงปีคริสตทศวรรษ 1840s ได้นำวิธีการ 'ratiocination' หรือ 'analysis' มาใช้ซึ่งมีโครงสร้างของ retroduction โดยคล้ายกัน ตรรกะของ 'การนิรนัย' ของเชอร์ล็อก โฮมส์นั้นเป็นจารนัยโดยปรกติ - Carson, David (June 2009). "The abduction of Sherlock Holmes" (PDF). International Journal of Police Science & Management. 11 (2): 193–202. doi:10.1350/ijps.2009.11.2.123.
Sherlock Holmes, although a fictional character, remains renowned as a great detective. However, his methodology, which was abduction rather than deduction, and which is innocently used by many real detectives, is rarely described, discussed or researched. This paper compares and contrasts the three forms of inferential reasoning and makes a case for articulating and developing the role of abduction in the work, and training, of police officers.
แปล: ถึงแม้จะเป็นตัวละครสมมติ เชอร์ล็อก โฮมส์ยังคงเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นนักสืบผู้ยิ่งใหญ่ แต่ทว่าระเบียบวิธีของเขาซึ่งเป็นการจารนัยมากกว่าการนิรนัยและซึ่งมีนักสืบตัวจริงหลายคนนำมาใช้อย่างไร้เดียงสา การพรรณนา การสนทนาถึง หรืองานวิจัยเรื่องนี้ก็หายาก เอกสารใบนี้เปรียบเทียบและเปรียบต่างรูปแบบสามรูปของการให้เหตุผลเชิงอนุมาน และให้การสำหรับการสื่อสารและการพัฒนาหน้าที่ของการจารนัยในงานและการฝึกของนายตำรวจ - In Peirce, C. S., 'Minute Logic' circa 1902, Collected Papers v. 2, paragraph 102. See under "Abduction" at Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- แปลจาก "I do not, at present, feel quite convinced that any logical form can be assigned that will cover all 'Retroductions'. For what I mean by a Retroduction is simply a conjecture which arises in the mind."
- แปลจาก "There would be no logic in imposing rules, and saying that they ought to be followed, until it is made out that the purpose of hypothesis requires them." Peirce, "On the Logic of drawing History from Ancient Documents", 1901 manuscript, Collected Papers v. 7, ย่อหน้าที่ 164–231, see 202, reprinted in Essential Peirce v. 2, pp. 75–114, see 95. See under "Abduction" ที่ Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- แปลจาก "Consider what effects, that might conceivably have practical bearings, we conceive the object of our conception to have. Then, our conception of these effects is the whole of our conception of the object."
- Peirce, "On the Logic of Drawing Ancient History from Documents", Essential Peirce v. 2, see pp. 107–9.
- Peirce, Carnegie application, L75 (1902), Memoir 28: "On the Economics of Research", scroll down to Draft E. Eprint 2011-05-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- Peirce, C. S., the 1866 Lowell Lectures on the Logic of Science, v. 1, p. 485. See under "Hypothesis" at Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- แปลจาก "It is recognized that the phenomena are like, i.e. constitute an Icon of, a replica of a general conception, or Symbol." Peirce, C. S., "A Syllabus of Certain Topics of Logic", written 1903. See v. 2, p. 287. Quote viewable under "Abduction" at Commens Dictionary of Peirce's Terms.
- แปลจาก "By plausibility, I mean the degree to which a theory ought to recommend itself to our belief independently of any kind of evidence other than our instinct urging us to regard it favorably." Peirce, A Letter to Paul Carus 1910, Collected Papers v. 8, see paragraph 223.
- Peirce, C. S. (1902), Application to the Carnegie Institution, Memoir 27, Eprint 2011-05-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน: "Of the different classes of arguments, abductions are the only ones in which after they have been admitted to be just, it still remains to inquire whether they are advantageous." แปล: จากหมวดหมู่ต่าง ๆ ของการอ้างเหตุผล การจารนัยเป็นอันเดียวที่หลังจากยอมรับว่าสมเหตุสมผล (just) แล้ว ก็ยังเหลือที่จะสอบสวนว่ามันเป็นประโยชน์หรือไม่
- Peirce, "On the Logic of Drawing Ancient History from Documents", Essential Peirce v. 2, see pp. 107–9 and 113. On Twenty Questions, p. 109, Peirce has pointed out that if each question eliminates half the possibilities, twenty questions can choose from among 220 or 1,048,576 objects, and goes on to say:
แปล: ดังนั้น การสมมติฐานอย่างชำนาญเพียงยี่สิบครั้งจะสืบพบสิ่งที่สมมติฐานโง่ ๆ 200,000 ข้อหาไม่เจอ ความลับทางธุรกิจก็คือความรอบคอบที่จะแยกสมมติฐานเป็นส่วนที่เล็กที่สุดในเชิงตรรกะ และเสี่ยงลองแค่รอบละหนึ่งส่วนThus, twenty skillful hypotheses will ascertain what 200,000 stupid ones might fail to do. The secret of the business lies in the caution which breaks a hypothesis up into its smallest logical components, and only risks one of them at a time.
- Rapezzi, C; Ferrari, R; Branzi, A (24 December 2005). "White coats and fingerprints: diagnostic reasoning in medicine and investigative methods of fictional detectives". BMJ (Clinical Research Ed.). 331 (7531): 1491–4. doi:10.1136/bmj.331.7531.1491. PMC 1322237. PMID 16373725.
- Rejón Altable, C (October 2012). "Logic structure of clinical judgment and its relation to medical and psychiatric semiology". Psychopathology. 45 (6): 344–51. doi:10.1159/000337968. PMID 22854297. สืบค้นเมื่อ 17 January 2014.
- Kave Eshghi. Abductive planning with the event calculus. In Robert A. Kowalski, Kenneth A. Bowen editors: Logic Programming, Proceedings of the Fifth International Conference and Symposium, Seattle, Washington, August 15–19, 1988. MIT Press 1988, ISBN
- Lipton, Peter. (2001). Inference to the Best Explanation, London: Routledge. ISBN .
- April M. S. McMahon (1994): Understanding language change. Cambridge: Cambridge University Press. ISBN
- Rose, McKinley, & Briggs Baffoe-Djan (2020). Data Collection Research Methods in Applied Linguistics. Bloomsbury. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - McKinley, J (2019-12-06). (PDF). ใน McKinley & Rose (บ.ก.). The Routledge Handbook of Research Methods in Applied Linguistics. Abingdon: Routledge. pp. 1–13. ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-02-15. สืบค้นเมื่อ 2020-10-08.
- Eco, Umberto (1976). A Theory of Semiotics. Indiana University Press. p. 131. ISBN .
- Gell, A. (1998). Art and Agency. Oxford: Clarendon Press. p. 14. ISBN .
- Bowden, R. (2004) A critique of Alfred Gell on Art and Agency. Retrieved Sept 2007 from:
- Whitney D. (2006) "Abduction the agency of art". Retrieved May 2009 from: University of California, Berkeley 2008-11-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- CalcagnoCristiano; DistefanoDino; W, O’HearnPeter; YangHongseok (2011-12-01). "Compositional Shape Analysis by Means of Bi-Abduction". Journal of the ACM (ภาษาอังกฤษ). 58 (6): 1–66. doi:10.1145/2049697.2049700.
- "Facebook Acquires Assets Of UK Mobile Bug-Checking Software Developer Monoidics". TechCrunch (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-02-22.[]
- DistefanoDino; FähndrichManuel; LogozzoFrancesco; W, O'HearnPeter (2019-07-24). "Scaling static analyses at Facebook". Communications of the ACM (ภาษาอังกฤษ). 62 (8): 62–70. doi:10.1145/3338112.
- DilligIsil; DilligThomas; LiBoyang; McMillanKen (2013-10-29). "Inductive invariant generation via abductive inference". ACM SIGPLAN Notices (ภาษาอังกฤษ): 443–456. doi:10.1145/2509136.2509511. ISBN .
- Giacobazzi, Roberto (1998-08-01). "Abductive Analysis of Modular Logic Programs". Journal of Logic and Computation (ภาษาอังกฤษ). 8 (4): 457–483. doi:10.1093/logcom/8.4.457. ISSN 0955-792X.
- Polikarpova, Nadia; Sergey, Ilya (2019-01-02). "Structuring the synthesis of heap-manipulating programs". Proceedings of the ACM on Programming Languages (ภาษาอังกฤษ). 3: 1–30. doi:10.1145/3290385.
- abduction จาก
บรรณานุกรม
- (1994), "Implications of informational point of view on the development of statistical science", ใน Bozdogan, H. (บ.ก.), Proceedings of the First US/JAPAN Conference on The Frontiers of Statistical Modeling: An Informational Approach—Volume 3, , pp. 27–38.
- Awbrey, Jon, and Awbrey, Susan (1995), "Interpretation as Action: The Risk of Inquiry", Inquiry: Critical Thinking Across the Disciplines, 15, 40–52.
- Cialdea Mayer, Marta and Pirri, Fiora (1993) "First order abduction via tableau and sequent calculi" Logic Jnl IGPL 1993 1: 99–117; doi:10.1093/jigpal/1.1.99. Oxford Journals
- Cialdea Mayer, Marta and Pirri, Fiora (1995) "Propositional Abduction in Modal Logic", Logic Jnl IGPL 1995 3: 907–919; doi:10.1093/jigpal/3.6.907 Oxford Journals
- Edwards, Paul (1967, eds.), "The Encyclopedia of Philosophy," Macmillan Publishing Co, Inc. & The Free Press, New York. Collier Macmillan Publishers, London.
- Eiter, T., and Gottlob, G. (1995), "The Complexity of Logic-Based Abduction, Journal of the ACM, 42.1, 3–42.
- Hanson, N. R. (1958). Patterns of Discovery: An Inquiry into the Conceptual Foundations of Science, Cambridge: Cambridge University Press. ISBN .
- Harman, Gilbert (1965). "The Inference to the Best Explanation". The Philosophical Review. 74 (1): 88–95. doi:10.2307/2183532. JSTOR 2183532.
- Josephson, John R., and Josephson, Susan G. (1995, eds.), Abductive Inference: Computation, Philosophy, Technology, Cambridge University Press, Cambridge, UK.
- Lipton, Peter. (2001). Inference to the Best Explanation, London: Routledge. ISBN .
- (2014), "Understanding abduction", Model-Based Reasoning in Science and Technology: Theoretical and Cognitive Issues (editor—Magnani L.) Springer, p. 173-205.
- McKaughan, Daniel J. (2008), "From Ugly Duckling to Swan: C. S. Peirce, Abduction, and the Pursuit of Scientific Theories", Transactions of the Charles S. Peirce Society, v. 44, no. 3 (summer), 446–468. Abstract[].
- Menzies, T (1996). "Applications of Abduction: Knowledge-Level Modeling" (PDF). International Journal of Human-Computer Studies. 45 (3): 305–335. 10.1.1.352.8159. doi:10.1006/ijhc.1996.0054.
- Queiroz, Joao & Merrell, Floyd (guest eds.). (2005). "Abduction - between subjectivity and objectivity". (special issue on abductive inference) 153 (1/4). [1].
- Santaella, Lucia (1997) "The Development of Peirce's Three Types of Reasoning: Abduction, Deduction, and Induction", 6th Congress of the . Eprint.
- Sebeok, T. (1981) "You Know My Method". In Sebeok, T. "The Play of Musement". Indiana. Bloomington, IA.
- Yu, Chong Ho (1994), "Is There a Logic of Exploratory Data Analysis?", Annual Meeting of American Educational Research Association, New Orleans, LA, April, 1994. Website of Dr. Chong Ho (Alex) Yu
แหล่งข้อมูลอื่น
- Douven, Igor. "Abduction". ใน (บ.ก.). .
- การให้เหตุผลแบบจารนัย ที่
- การให้เหตุผลแบบจารนัย ที่
- "" (ถึงแล้วเลื่อนลง), John R. Josephson, Laboratory for Artificial Intelligence Research, Ohio State University. ( via the Wayback Machine.)
- "Deduction, Induction, and Abduction", Chapter 3 in article "Charles Sanders Peirce" by Robert Burch, 2001 and 2006, in the Stanford Encyclopedia of Philosophy.
- "", links to articles and websites on abductive inference, .
- , Uwe Wirth and Alexander Roesler, eds. Uses frames. Click on link at bottom of its home page for English. Wirth moved to , Germany, and set up Abduktionsforschung, home page not in English but see Artikel section there. Abduktionsforschung home page via Google translation.
- "'You Know My Method': A Juxtaposition of Charles S. Peirce and Sherlock Holmes" (1981), by with Jean Umiker-Sebeok, from The Play of Musement, Thomas Sebeok, Bloomington, Indiana: Indiana University Press, pp. 17–52.
- Commens Dictionary of Peirce's Terms, Mats Bergman and Sami Paavola, editors, Helsinki U. Peirce's own definitions, often many per term across the decades. There, see "Hypothesis [as a form of reasoning]", "Abduction", "Retroduction", and "Presumption [as a form of reasoning]".
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karihehtuphlaebbcarny xngkvs Abductive reasoning hruxbangkwa abductionabductive inference hrux retroduction epnkarxnumanechingtrrkarupaebbhnungsungthukbyytiaelaphthnaodynkprachychawxemrikn Charles Sanders Peirce erimtninchwngplaykhriststwrrsthi 19 odyerimcakkarsngektkarnchudhnung aelwphyayamhakhxsrupthingayaelakhwrcaepnmakthisudcakkarsngektkarnchudnn krabwnkarniphlitkhxsrupthiepnipidaetimidyunynwaepncringsungtangcakkarihehtuphlaebbnirny karihehtuphlaebbcarnynncungmikhwamimaennxnhruxekhluxbaekhlngsungsamarthaesdngxxkmadwykhahliktang echn hangaythisud hrux khwrcaepnmakthisud erayngsamarthmxngkarihehtuphlaebbcarnyidwaepn karxnumansukhaxthibaythidithisud IBE thungaemkarichkhawa karcarny aela karxnumansukhaxthibaythidithisud xacimsmmulknthukkhrngesmxipphuelnekmkradan Mastermind board game ichkarcarnyephuxxnumanhaladbsithithuktxng bn cakhmudthibxkthungkhwamaetktang saylang rahwangladbsithiphuelneda khwalang aelaladbthiphuelnxikkhnkahndiw khnathikhwamsamarthinkarkhanwnkhxngkhxmphiwetxridephimkhuninchwngkhristthswrrsthi 1990 nganwicyinsakhakdhmay withyakarkhxmphiwetxr aelapyyapradisthidkratunkhwamsnicinpraedneruxngkarcarnykhunmaihmrabbphuechiywchaywincchyknakarcarnymaichbxykhrngkarnirny xupny aelacarny xngkvs Logical reasoning karnirny karihehtuphlaebbnirnyxnuyatihxnuphthth derive b displaystyle b cak a displaystyle a ktxemux b displaystyle b epnphlphwngechingtrrkaechingrupnykhxng a displaystyle a hruxepniptam follows from a displaystyle a phudxikaebbkhux karnirnykhuxkarxnuphththihidmasungphlphwngtang khxngkhxsnnisthan emuxkhxsnnisthanepncring karnirnythismehtusmphlcarbrxngkhwamepncringkhxngkhxsrup echnhakkahndwa wikisamarthaekikhodyikhrkid a1 displaystyle a 1 aela wikiphiediyepnwiki a2 displaystyle a 2 aelwaesdngwa wikiphiediysamarthaekikhodyikhrkid b displaystyle b ktrngtamkhxtngthngsxngkhxthikahnd karxupny karihehtuphlaebbxupnyxnuyatihxnuman b displaystyle b cak a displaystyle a id ody b displaystyle b imcaepntxngepnphlphwngtrrkakhxng a displaystyle a hruximcaepntxngepniptam a displaystyle a aela a displaystyle a xacepnehtuphlthidiphxthicaihyxmrb b displaystyle b aetimidrbrxngwa b displaystyle b epncring echn thahngsthuktwthiekhyecxmathungtxnnisikhawthuktw eraxacxupnyidwakhwamepnipidthihngsthuktwcamisikhawnnkphxmiehtuphl eramiehtuphlthicaechuxkhxsrupcakkhxtng aetimidmikarrbrxngwakhxsrupcaepncring sungaennxn hngsbangtwkmisida karcarny karihehtuphlaebbcarnyxnuyatihxnuman a displaystyle a epnkhaxthibaykhxng b displaystyle b phlkhxngkarxnumanaebbnikhuxkarxnuyatihsamarthcarnyenguxnikhkxn a displaystyle a cakphlphwng b displaystyle b id karihehtuphlaebbnirnykbaebbcarnycungaetktangkntrngthifngihnkhxngkhxkhwamwa a displaystyle a aesdngwa entail b displaystyle b epnkhxsrup karcarnynncungehmuxnkbehtuphlwibtiechingtrrkathieriykwa affirming the consequent hrux post hoc ergo propter hoc ephraa b displaystyle b samarthmikhaxthibaythihlakhlay xyangechninekmbileliyd emuxeraehnlukbileliydelkhaepdekhluxnthimahaera eraxaccarnyidwalukkhiwidchnlukaepd karchnkhxnglukkhiwsamarthxthibaykarekhluxnthikhxnglukaepdid sungepnsmmutithanthixthibaykarsngektkarnkhxngera inemuxmikhaxthibayxun thiepnipidmakmaysahrbkarekhluxnthikhxnglukaepd khxsrupcakkarcarnykhxngeraimidthaiheraruxyangaennxnwalukkhiwidchnlukaepdcringhruxim aetkarcarnynikyngmipraoychnaelahnathiephuxthaiherasamarthekhaicaelaprbtwinsphaphaewdlxmrxbtwid aemcamikhaxthibaythiepnipidsahrbaetlakrabwnkarthangkayphaphthierasngektehnxyuhlaykhaxthibay eramkcacarnyhakhaxthibayediyw hruxsxngsamkhaxthibay sahrbkrabwnkarnn dwykhwamkhadhwngwaeracasamarthnamnmaichephuxprbtwinsphaphaewdlxm aelapdkhwamepnipidxun thingip haknakarihehtuphlaebbcarnymaichidxyangehmaasm mnsamarthepnaehlngkhxng prior probability thimipraoychnin Bayesian statistics karkahndrupkhxngkarcarnykarcarnybnthankhxngtrrksastr intrrksastr erasamarth explanation iddwyechingtrrka Theory mathematical logic T displaystyle T sungaethn domain of discourse aelaestkhxngkarsngektkarn O displaystyle O karcarnyepnkrabwnkarxnuphththhaestkhxngkhaxthibaykhxng O displaystyle O tamthvsdi T displaystyle T aelaeluxkhyibkhaxthibayhnunginnnma aela E displaystyle E caepnkhaxthibaykhxng O displaystyle O tamthvsdi T displaystyle T idhruxim mncatxngsnxngtxenguxnikhsxngkhx O displaystyle O epniptam E displaystyle E aela T displaystyle T E displaystyle E sxdkhlxngkb T displaystyle T intrrksastrrupny smmutiih O displaystyle O aela E displaystyle E epnestkhxng Literal Mathematical logic enguxnikhthngsxngaebbrupnykhux T E O displaystyle T cup E models O T E displaystyle T cup E sxdkhlxngkn thamklangkhaxthibayE displaystyle E thnghmdthisnxngenguxnikhthngsxngkhx enguxnikhdankhwameriybngaykhxxun kthuknamaphicarnadwyephuxhlikeliyngkhxethccringthiimekiywkhxng nnkhux khxethccringthiimmiswnthaihekid O displaystyle O karcarnycungepnkrabwnkareluxkhyibsmachikkhxng E displaystyle E xxkma sungtxngphaneknthinkarkhdeluxkkhaxthibay thidithisud sungrwmipthung simplicity aelaphlnginkarxthibaykhxngkhaxthibaynn Abductive logic programming epnkhxbkhaykarkhanwnthikhyaykarekhiynopraekrmechingtrrkaaebbpktidwykarcarny odyaeykthvsdi T displaystyle T epnsxngswn swnhnungepnopraekrmechingtrrkapktithithukichephuxhakhaxthibay E displaystyle E phanwithi backward reasoning aelaxikswnepnchudkhxngeknthdanburnphaph integrity sungcathuknamaichephuxkhdkrxnghaestkhaxthibaythiepnipid karcarnyaebbpkkhlumest karcarnysamarththukkahndrupxikaebbepnkarkarphkphnkhxngfngkchnthikhanwnhaphllphthkhxngsmmtithantang kahndihestkhxngsmmtithankhux H displaystyle H aelaestkhxngphllphthkhux M displaystyle M thngsxngekiywoyngknphankhwamruechphaasakhathiaethndwyfngkchn e displaystyle e thimiestkhxngsmmtithanepnxarkiwemntaelamiphllphthepnestkhxngphllphththisxdkhlxngkn phudxikaebbkhux sahrbestyxykhxngestkhxngsmmtithanthukest H H displaystyle H subseteq H phllphthkhxngestyxykhxngsmmtithanestnnkhux e H displaystyle e H karcarnykhuxkarhaest H H displaystyle H subseteq H sungmiphllphthepn M e H displaystyle M subseteq e H phudxikaebbkhux karcarnyepnkarhaestkhxngsmmtithan H displaystyle H thimiphllphthepn e H displaystyle e H sungrwmkarsngektkarn M displaystyle M thnghmd odythwip ihsmmutiwaphllphthkhxngsmmtithanaetlakhxepnxisracakkn nnkhuxsahrb H H displaystyle H subseteq H thukest e H h H e h displaystyle e H bigcup h in H e h epncring hakepniptamenguxnikhni samarththuxidwakarcarnyepnkarpkkhlumestrupaebbhnung kartrwcsxbkhwamsmehtusmphlaebbcarny kartrwcsxbkhwamsmehtusmphlaebbcarny xngkvs Abductive validation epnkrabwnkartrwcsxbkhwamsmehtusmphlkhxngsmmutithanhnungdwykarihehtuphlaebbcarny phayithlkkarni khaxthibaysmehtusmphlktxemuxepnkhaxthibayestkhxngkhxmulthiruxyuthidithisudthiepnipid khaxthibaythidithisudthiepnipidmkminiyaminaengkhxngkhwameriybngayaelakhwamngdngam dumidoknxxkkhm kartrwcsxbkhwamsmehtusmphlaebbcarnythukichepnkarthwipinkarkxsmmutithaninwichawithyasastr makipkwann ephirsxangwamnepnaengmumkhxngkrabwnkarkhidthiphbidthwip emuxmxngxxknxkhnatanginechawnvduibimphlini phmehndxkxasaeliybansaphrng im im phmimidehnsingnn aetwannepnthangediywthiphmcaphrrnnasingthiphmehnid mnepnpraphcn praoykh hruxkhxethccring aetsingthiphmrbrunnimichpraphcn imichpraoykh aelaimichkhxethccring aetepnephiyngphaphthiphmthaihekhaiciddwywithikarklawkhxethccring khxkhwamnnepnnamthrrm aetsingthiphmehnepnrupthrrm phmcarnythukkhrngthiphmaesdngxxksingthiehninrupkhxngpraoykh khwamcringaelwenuxphakhxngkhwamruthnghmdkhxngerakhuxphakhnstwdan khxngsmmtithanlwn thithukyunynaehlaklnkrxngodykarxupny immithangthikhwamrucakawhnaipkwakarephngmxngxyangwangeplahakimcarnyinthuk khntxn eraimsamarthxthibaykhxethccringiddwysmmtithanthiwiesswioskwakhxethccringexng aelacatxngrbexasmmtithanthiphiessnxythisudmaich epnkhtibthkhxngephirsexng hlngcakidsmmtithantang thiepnipidsungxacsamarthxthibaykhxethccringnnma kartrwcsxbkhwamsmehtusmphlaebbcarnyepnwithikarrabusmmtithanthikhwrcaepnmakthisudaelakhwryxmrbmaichmakthisud karcarnyaebbtrrksastrxtwisy subjective logic wangnythwip probabilistic logic dwykarrwmradbkhxngkhwamimaennxnthangkhwamruiwinxarkiwemntekha nnkhux nkwiekhraahsamarthaesdngxarkiwemntinrupkhxngaethnkhwamnacaepnid karcarnyintrrksastrxtwisynncungepnkarwangnythwipkhxngkarcarnyechingkhwamnacaepn intrrksastrxtwisy xarkiwemntekhaepnkhwamkhidehnxtwisy sungsamarthepnthwinamemuxkhwamkhidehnnnnamaichkbtwaeprthwiphakh hruxepnxenknamemuxnamaichkbtwaepr n phakh khwamkhidehnxtwisycungnamaichkbtwaeprsthana X displaystyle X sungnakhakhxngtwexngmacakkhxbekht X displaystyle mathbf X priphumisthanakhxngkhasthana x displaystyle x thikhrbthwnaelaaeykcakkn aelathukaesdngepnhlaysingxndb wX bX uX aX displaystyle omega X b X u X a X ody bX displaystyle b X epnkarkracaytwkhxngmwlkhwamechuxethiybkb X displaystyle mathbf X uX displaystyle u X epnmwlkhwamimaennxn aela aX displaystyle a X epnkarkracaytw base rate ethiybkb X displaystyle X twaeprpccyehlanisnxng uX bX x 1 displaystyle u X sum b X x 1 aela aX x 1 displaystyle sum a X x 1 aela bX x uX aX x 0 1 displaystyle b X x u X a X x in 0 1 smmutikhxbekht X displaystyle mathbf X aela Y displaystyle mathbf Y phrxmtwaepr X displaystyle X aela Y displaystyle Y tamladb estkhxngkhwamkhidehnmienguxnikh wX Y displaystyle omega X mid Y nnkhux khwamkhidehnmienguxnikhhnungkhwamkhidehnsahrbkha y displaystyle y aetlakha aelakarkracaytwxtraphunthan aY displaystyle a Y thvsdibthkhxngebyaebbxtwisyhruxkarphkphnsungaesdngxxkdwytwdaeninkar ϕ displaystyle widetilde phi dwytwaeprpccyehlanicaidestkhxngkhwamkhidehnmienguxnikhphkphn wY X displaystyle omega Y tilde mid X nnkhuxkhwamkhidehnmienguxnikhphkphnhnungkhwamkhidehnsahrbkha x displaystyle x aetlakha samarthaesdngepn wY X wX Yϕ aY displaystyle omega Y tilde X omega X Y widetilde phi a Y erasamarthcarnyhakhwamkhidehn wY X displaystyle omega Y overline X dwykarnirnyxtwisythiaesdngxxkdwytwdaeninkar displaystyle circledcirc dwykhwamkhidehnmienguxnikhphkphn wY X displaystyle omega Y tilde mid X kbkhwamkhidehn wX displaystyle omega X smkarkhxngniphcntang sungaesdngthungkarcarnyxtwisyepniptamdngni wY X wX Y wX wX Yϕ aY wX wY X wX displaystyle begin aligned omega Y widetilde X amp omega X mid Y widetilde circledcirc omega X amp omega X mid Y widetilde phi a Y circledcirc omega X amp omega Y widetilde X circledcirc omega X end aligned sykrnsahrbkarcarnyxtwisykhux displaystyle widetilde aelatwdaeninkaraethndwy displaystyle widetilde circledcirc twdaeninkarsahrbthvsdibthkhxngebyaebbxtwisykhux ϕ displaystyle widetilde phi aelatwdaeninkarsahrbkarnirnyxtwisykhux displaystyle circledcirc khwamidepriybkhxngkarichkarcarnytrrksastrxtwisyemuxepriybethiybkbkarcarnyechingkhwamnacaepnkhux khwamimaennxnthngdankhwamruaeladankhwamnacaepnkhxngkhwamnacaepnkhxngxarkiwemntekhathukaesdngxxkaelanamaphicarnainkarwiekhraahodytrng eracungsamarthkrathakarwiekhraahaebbcarnyidinkrnithimixarkiwemntsungmikhwamimaennxn sungcaihphllphthepnkhxsrupthimiradbkhxngkhwamimaennxnxyuepnthrrmdaprawtikarnaesnxaelakarphthnaodyephirs phaphrwm nkprchyachawxemrikn charls aesnedxrs ephirs epnphunaesnxkarcarnyekhasutrrksastrsmyihm inchwngewlahlaypiekhaeriykkarxnumanaebbniepn hypothesis smmtithan abduction karcarny presumption karsnnisthan aela retroduction karesnxihm ekhanbmnepnhwkhxhnunginwichatrrksastrthiepnsakhaechingbrrthdthaninwichaprchya imichintrrksastrechingkhnithruxrupnyaebbbrisuththi aelainthisudkepnhwkhxinesrsthsastrkhxngkarwicy nxkcakkarepndansxngdankhxngkarphthna karkhyay l khxngsmmtithanin inquiry thangkhnitsastraelw karcarnyaelakkarxupnymkcathukyubrwmepnmonphaphediywthikhrxbkhlumthngsxng smmtithan nnepnehtuphlwathaiminraebiybwithiaebbwithyasastrthirucakkalieloxaelaebkhxnkhntxnechingcarnykhxngkartngsmmtithanthungthukeriykcakdkrxbkhwamkhidepnkarxupny dngnnkaryubrwmknnithukesriminkhrisstwrrsthiyisibody Hypothetico deductive model khxng Karl Popper thisungsmmtithanthuknbwaepnephiyng kareda incitwiyyankhxngephirs aetthwaemuxkarkxsmmtithanidrbkarphicarnaepnphllphthkhxngkrabwnkarhnung kehnidchdwa kareda niphankarthdsxbaelathaihthnthaninkhwamkhidaelwaelaepnkhntxnthicaepninkarthicathuxwamisthanaepnsmmtithanid sungaennxn karcarnyhlaykhrngthukptiesthhruxaekikhxyanghnkhnwngodykarcarnytamladbkxnthicaidmathungkhntxnni kxnpi kh s 1900 ephirsptibtitxkarcarnyepnkarichkdthiruephuxxthibaykarsngektkarnhnung krniechn epnkdthirukndiwathafntkhyacaepiyk dngnnephuxxthibaykhxethccringthihyabnsnamniepiyk eracarnyidwafnphungtkip karcarnysamarthnaipsukhxsrupthiepnepnethcthakdxun thixacxthibaykarsngektkarnidechnediywknimthuknamaphicarnadwy echnhyaxacepiykephraa dew niyngkhngepnniyamsamythiichknkhxngkhawa karcarny inwichasngkhmsastraelapyyapradisth ephirsbrryaykhunlksnakhxngmnxyangsmaesmxwaepnchnidkhxngkarxnumanthiihkaenidsmmtithanodykarsrupinkhaxthibaykhxngkarsngektkarnthinasngsyhruxnaprahladic phidprkti thithukklawiwinkhxtngaemkhaxthibaycaimthukrbpraknwaich ekhaekhiynekasudinpi kh s 1865 wakarsrangmonkhtithnghmdkhxngehtuaelaaerngcasmvththiphankarxnumansmmtithan inkhriststwrrsthi 20 ekhaekhiynwaenuxhakarxthibaythnghmdkhxngthvsdicasmvththidwykarcarny inaengxun ephirsidaekikhthsnatxkarcarnykhxngekhaemuxaetlapiphanip inpitx mathsnakhxngekhaidklayepn karcarnykhuxkareda mn thukkidkhwangelknxy odykdkhxngtrrksastr aemaetkaredakhxngstipyyathietriymtwmaxyangdikyngphidthikwathuk aetkhwamsaerckhxngkaredakhxngerannekinipkwakhawadwngsum aeladuehmuxncaekidcakkarekhakbthrrmchatiodyxchchttikyan bangkhnkeriykwa logical intuition inbribthechnnn karcarnykhadedaaenwkhidihmhruxnxkehnuxcakedimephuxxthibaypraktkarnthisbsxnhruxnaprahladicinwithithiepnipid tamsychatyan aelaprahyd sungnnepnepahmayodypramankhxngmn epahmaythiyawkwakhuxephuxthaih inquiry nnprahydkhun ehtuphlkhxngmnnnepnxupny mnichidbxyphx epnaehlngkaenidediywkhxngaenwkhidihm aelaimmitwaethninkarkratunkarkhnphbkhwamcringihm ehtuphlkhxngmnrwmodyechphaahnathikhxngmninkarprasanngankbwithikarxnumanxun inkarsxbswn mnepnkarxnumansusmmtithankarxthibaysahrbkareluxkwithithidithisudthicalxngich Pragmatism epntrrkakhxngkarcarny inkrabwnkarsrangkhaxthibay sungekhaidthuxwathuknaodysychatyan pragmatic maxim ihktthangtrrksastrthicaepnaelaphxephiyngsahrbkarcarnyodythwip smmtithannnsungsnkhlxncaepntxngminyyathiepnipidsahrbkarptibtithimikhxmul ephuxihthdsxbid aeladwykarthdlxngcungkratunaelamthysthkarsxbswn esrsthkickhxngkarwicynnexngepnsingthieriykhakarcarnyaelaepntwkhwbkhumsilpakhxngmn ephirsekhiyniwinpi kh s 1910 aelayxmrbwa inthuksingthiphmphimphipkxnstwrrsnierimtnkhunphmkidsbsnkhawasmmtithankbkarxupny aelaekhaidtamrxykhwamsbsnkhxngnktrrkwithyarahwangkarihehtuphlsxngrupaebbniwaekidcak karekhaickarxnumaninaebbthiaekhbaelaepnrupny odykhuxepnkarthiidthakartdsinipaelwcakkhxtngkhxngmn erimtninchwngpi kh s 1860s ekhaidptibtitxkarxnumanechingsmmtithaninwithihlakhlaysungkidkhxy thukeluxkxxkthilawithitamkhwamimcaepnhruxkarekhaicphidinbangkrni epnkarxnumankarmixyukhxnglksnahnung hruxkhunsmbtiid cakkarsngektkarnkarmixyurwmknkhxnglksnathihlakhlaysungcaepntxngmikarmixyukhxnglksnannrwmdwy twxyangchnhakkarmixyuid khxng A nnthukruknwacaepntxngtxdwykarmixyukhxng B C D E aelwodyepntwxyang karsngektphb B C D E kchiaenakarmixyukhxng A aetphxinpi kh s 1878 ekhakimidthuxwakhwamhlakhlayniepnsamykbkarxnumanechingsmmtithanthukxnaelwwikisxrs epnkarmunghasmmtithanthinacaepnimwamakhruxnxy inpi kh s 1867 aela 1883 aetiminpi 1878 xyangirkdiphxinpi kh s 1900 karihehtuphlnnimichkhwamnacaepnaetepnkarimmixyukhxngthangeluxkaethnkarkhadedaaelakhxethccringthiwakaredannihphlthidi cninpi kh s 1903 ekhaphudkhawa likely hruxkhwrcaepninkhwamhmaykhxngkarekhaiklkhwamcringaebb imidcakdkhwamiwaennxn inpi kh s 1908 ekhathkkhawa plausibility hruxkhwamepnipidepnkardungdudtamsychatyan inkradasthiihwnthiodybrrnathikariw praman pi kh s 1901 ekhaxphipraykhawa instinct hruxsychatyankb naturalness hruxkhwamepnthrrmchati tamipkbchnidkhxngkarphicarna rakhakhxngkarthdsxb khwamramdrawngthangtrrka khwamkwang aelakhwamimsbsxn sunginphayhlngekhaideriykmnwa methodeutical hruxemothdiwtik epnkarxupnycaklksnatang aetxyangnxyinpi kh s 1900 ekhabrryaylksnakarcarnyepnkareda epnkarxangxingkdthiruxyuinkhxtngmakkwakarsmmtithankdhnungkhunmainkhxsrup aetinpi kh s 1903 ekhaxnuyatidthngsxngwithi odyphunthanepnkarepliynrupkhxngtrrkbtheddkhadaebbnirny aetinpi kh s 1903 ekhaesnxephthkhxng kdkaraecngphltamehtu aethn aelainpi kh s 1911 ekhaimmnicwarupaebbid cakhrxbkhlumkarxnumanechingsmmtithanidthnghmd The Natural Classification of Arguments 1867 in The Natural Classification of Arguments khxngephirs karcaaenktamthrrmchatikhxngkarxangehtuphl pi kh s 1867 karxnumanechingsmmtithancdkarkbklumkhxnglksnaesmx eriykepn P P P l sungthukruwamixyuxyangnxyemuxidthilksnahnung M mixyu hmayehtuwatamedimaelwtrrkbtheddkhadmixngkhprakxbthieriykwatwklang middles phakhaesdng predicates aelaprathan subjects twxyangechn mnusy twklang thukkhnepn mrrty phakhaesdng oskratis prathan epn mnusy twklang ephraachann oskratis prathan epn mrrty phakhaesdng khangit M hmaythungtwklang P epnphakhaesdng aela S epnprathan ephirsthuxwakarnirnythukxnsamarththukcdxyuinrupaebbkhxngeddkhad Syllogism Modus Barbara karnirny M id epn P S id epn M displaystyle therefore S id epn P karxupny S S S l thuksumepn M S S S l epn P displaystyle therefore M id nacaepn P smmtithan M id epn twxyangechn P P P l S epn P P P l displaystyle therefore S nacaepn M Deduction Induction and Hypothesis 1878 in Deduction Induction and Hypothesis khxngephirs karnirny karxupny aelasmmtithan pi kh s 1878 karxnumanimcaepntxngmilksnahruxphakhaesdnghlayxnephuxepnsmmtithanaelwaetthamikepnpraoychn makkwannephirsimthakarxnumanechingsmmtithanepnkarsrupinsmmtithan nacaepn xikaelw mnimidchdecninrupkhxngtwmnexngaetkekhaicknwakarxupnymikareluxksumaelakarxnumanechingsmmtithanmikartxbsnxngtx phvtikarnthinaprahladicmak ephiyngaetrupkhxngmnennwawithikarkarxnumanepnkarcderiyngihmkhxngpraphcnkhxngkarxnumanaetlarupaebb odyimmikhaibinwngelbdanlang karnirny kd thwcakthungnithukemdmisikhaw krni thwkxngnimacakthungni displaystyle therefore phllphth thwkxngnisikhaw karxupny kd thwthuk sum eluxkcakthungni krni thwkxngnisikhaw displaystyle therefore phllphth thwcakthungnithukemdmisikhaw smmtithan kd thwcakthungnithukemdmisikhaw phllphth thwkxngnisikhaw prahlad displaystyle therefore krni thwmacakthungniA Theory of Probable Inference 1883 ephirsptibtitxkarcarnyepnkarxupnycaklksnatang sungmikarthwngnahnk imidnbehmuxnwtthu xyangchdecnin A Theory of Probable Inference pi kh s 1883 thithrngxiththiphlkhxngekha thvsdikhxngkarxnumanthinacaepn thisungekhaklbmarwmkhwamnacaepniwinkhxngsrupechingsmmtithan hnngsuxelnniidmikhnxancanwnmakehmuxn Deduction Induction and Hypothesis inpi kh s 1878 duhnngsuxprawtisastreruxngsthitisastrody Stephen Stigler imehmuxnkaraekikhkhwamkhidekiywkbkarcarnyxntxmakhxngekha pccubnkarcarnyyngkhngekhaicknxyangthwipwaepnkarxupnycaklksnaaelakarkhyaykdthiruxyuipkhrxbkhlumphvtikarnthiyngimthukxthibay echxrlxk ohms ichwithikarihehtuphlniineruxngkhxngxarethxr okhnn dxyl thungaemohmscaeriykmnwa karihehtuphlaebbnirny Minute Logic 1902 aelahlngcaknn inpi kh s 1902 ephirsidekhiyniwwatxnniekhathuxrupthangtrrkbthaelahlkkhxngkarkhyayaelakhwamekhaic nnkhux wtthuaelalksnaxyangthithukxangxingodyphcntang waimidepnsingthiepnrakthanmakethathiekhykhid inpi kh s 1903 ekhaesnxrupkhxngkarcarnydngtxipni khxethccringthinaprahladic C thuksngekt aethak A epncring C kyxmekidepneruxngpkti dngnn immiehtuphlthicasngsyelywa A epncring smmtithanthukrangkhunmaaetimidthukyunyninkhxtng aelwcungthukyunynwanasngsyxyangmiehtuphlinkhxsrup dngnnxyanginrupkhxngtrrkbtheddkhadkxnhna khxsrupthukkahndcakkhxtngbangkhx aetkrannsmmtithanprakxbdwymonkhtithiihmhruxxyunxksingthiruhruxsngektehnxyangchdecnmakkwathiekhy karxupnyinaenghnungipiklekinkarsngektkarnthiidprakasiwaelwinkhxtng aetephiyngkhyaymonkhtithiruxyuaelwwaaesdngehtukarnhruxthdsxbmonkhtihnungthithukcdetriymodysmmtithan thangidktamktxngkarkarcarnykxnhnaephuxthicaihidmonkhtiaebbnnmatngaetaerk karxupnytamhakhxethccringephuxthdsxbsmmtithan karcarnytamhasmmtithanephuxxthibaykhxethccring oprdthrabwasmmtithan A xacepnkt aelaimcaepnaemaetcatxngepnktthibngkhbkarsngektkarnthinaprahladic C sungcaepnthicatammaaekhepn eruxngpkti hruxkhwam pkti exngnnxacepriybesmuxnktthiruck thukphadphingthungethann aelakimcaepncatxngepnkdephraakhwamcaepnxyangediyw inpiediywknephirsekhiynwakaripthungsmmtithanxacmiswnkhxngkarwangkarsngektkarnthinaprahladiciwphayitkdthismmtithankhunmaxyangihmhruxkarrwmknthithuksmmtithankhxngkdthirucktang kbsthanaaeplk khxngkhxethccring ephuxihpraktkarnimidnaprahladicaetepnnyxyangcaepnhruxxyangnxykhwrcaepnaethn ephirsyngkhngimidthukonmnawmaknksahrbrupid echnnnwaepnrupkhxngtrrkbtheddkhadhruxrupkhxngpi kh s 1903 inpi kh s 1911 ekhaekhiynwa n pccubn phmimidrusukonmnawicethaidnkwaruptrrkaid samarththukmxbhmaythicakhrxbkhlum Retroductions karcarny thukxn ephraasingthiphmhmaythung retroduction epnxyangngay khuxkhxkhwamkhadkarnthiekidkhunmaincit ptibtiniym inpi kh s 1901 ephirsekhiynwa mncaimmitrrkainkarkahndkdkhunaelainkarbxkwakdehlannkhwrcathukthatam cnkwacaekhaicwacudprasngkhkhxngsmmtithantxngkarmn inpi kh s 1903 ephirseriyk pragmatism wa the logic of abduction trrkakhxngkarcarny aelabxkwa pragmatic maxim ihkttrrkathicaepnaelaephiyngphxsahrbkarcarnyodythwip khtibthptibtiniymkhux phicarnaphlkrathbthixacmiphlinthangptibtixyangepnipidid thieraekhaicwawtthuinmonphaphkhxngerami aelwmonphaphkhxngphlkrathbehlanikhxngeraepnmonphaphkhxngwtthunnthnghmdkhxngera epnwithikarephuxthaihmonphaphkracangxyangepnphlodyethiybkhwamhmaykhxngmonphaphnnkbnyyathangptibtithiepnipidkhxngphlkrathbthiwtthunnmi ephirsthuxwamnekhakbcudprasngkhkhxngkarcarnyinkarsxbswnxyangaemnya khuxkarsrangmonkhtithixackxrangkarptibtixyangmikhwamruxyangepnipid innganekhiynhlakhlayinchwngpi kh s 1900s ekhaphudwakarptibtikarcarny hrux retroduction thukkhwbkhumodykarphicarnaesrsthkic odyechphaathiepnkhxngesrsthsastrkhxngkarwicy ekhathuxesrsthsastrwaepnsastrechingbrrthdthan sungswnwiekhraahkhxngmnxacepnswnhnungkhxngemothdiwtikechingtrrka nnkhux thvsdikhxngkarsxbswn trrkadankarcarnysamradb rahwangewlathiaelwma ephirs Classification of the sciences Peirce epnsamaephnk setkhioxolci Stechiology hruxiwyakrnsepkkhuelthif epneruxngkhxngenguxnikhsahrbkhwamhmay aelakarcaaenkpraephthkhxngsyya ruplksn ekhruxngaesdng sylksn l aelakarrwmknkhxngphwkmn tlxdcnwtthuaelakhxngphwkmn interpretant khritikechingtrrka Logical critic hruxtrrkaaeth logic proper epneruxngkhxngkhwamsmehtusmphlhruxkhwamxangehtuphlidkhxngkarxnuman hruxenguxnikhsahrbkaraethncring aelabthwicarnkhxngkarxangehtuphlinwithitang aebbnirny xupny aelacarny emothdiwtik Methodeutic hruxwathsastrsepkkhuelthif speculative rhetoric epneruxngkhxngenguxnikhephuxphicarnakahndkaraeplkhwamhmay aelaraebiybwithikhxngkarsxbswninptikiriyaknaelaknkhxngwithitang khxngmn tngaeterim ephirsidehnwithikhxngkarxnumanthukprasanekhakninkarsxbswnthangwithyasastr aelaphayinchwngpi kh s 1900s ekhathuxwakarxnumanechingsmmtithanodyechphaannimthukptibtitxinradbkhxngbthwicarnkhxngkarxangehtuphlxyangehmaasm ephuxephimkhwamechuxmninkhxsrupechingsmmtithan catxngnirnywaphbecxnyyaekiywkbhlkthan nnkhuxkarkhadkarnsungkarxupnysamarththdsxbkarsngektkarnephuxpraeminphlsmmtithannn nikhux Charles Sanders Peirce xyangthikhrxbkhlumiwinraebiybwithikarsxbswnkhxngekhasungrwm hruxxyangthiekhaeriykthihlngwa pragmaticism khuxkhaxthibaykhxngmonkhtiindankhxngnyyathiepnipidkhxngkarptibtixyangmikhwamru karcaaenkpraephthkhxngsyya phayinpi kh s 1866 ephirsthuxwa smmtithan karxnumanaebbcarny epnkarxnumanphan syrup icon keriykwa likeness hruxkhwamehmuxnkb karxupnyepnkarxnumanphan drrchni index syyaodykarechuxmoyngkbkhxethccring twxyangepndrrchnikhxngcanwnthnghmdthieluxkmacak karnirnyepnkarxnumanphan sylksn symbol syyaodykartikhwamodyimkhanungthungkhwamkhlaykhlunghruxkarechuxmoyngkbwtthu inpi kh s 1902 ephirsekhiynwainkarcarny epnthiruckwapraktkarnnn ehmuxnkb hruxprakxbepnsyrupkhxngsaenakhxngmonphaphthwip hruxsylksn bthwicarnkhxngkarxangehtuphl inradbkhritik ephirstrwcsxbrupkhxngkarxangehtuphlaebbcarny aebbthixphiprayipdanbn aelaidklaymathuxwasmmtithankhwrxthibaykhwamfngkhunxyangprahydindankhxngkhwamepnipidaelakhwamepnthrrmchati inpi kh s 1908 ephirsphrrnnakhwamepnipid plausibility niinraylaexiyd khwamepnipidthixyubnkarsngektkarnimidmiswndwy sungcaklayepnkarpraeminphlaebbxupnykhxngsmmtithanaethn aetepnkhwameriybngayehmaathisudinkhwamhmaykhxngkhwam ngay aelaepnthrrmchati aethn echnaebb aesngaehngehtuphlthrrmchati natural light of reason khxngkalielox aelatangcak khwameriybngayechingtrrka logical simplicity ephirsimidmxngkhamkhwameriybngayechingtrrkathnghmdaetmxngwamihnathithiepnrxng haknamaichxyangsudotngkepnkarsnbsnunihimtxnghakhaxthibaykhxngkarsngektkarnely aemaetkaredakhxngstipyyathietriymtwmaxyangdikyngphidthikwathuk aetkhwamsaercthicahakhwamcringhruxxyangnxyedinhnakarsxbswnkhxngkaredakhxngerannekinipkwakhawadwngsum aelannchiihephirsehnwakaredaehlannxyubnkarekhakbthrrmchatiodyxchchttikyan hruxkhwamsmphnththiiklchidrahwangkrabwnkarincitaelakrabwnkarinkhwamepncringsungcaepnehtuphlxyangnadungdudwathaimkareda odythrrmchati caepnxnthisaercbxy hruximbxy thisud aelaephirscungidxangehtuphlwakhwrchxbkaredaaebbnnmakkwaephraaemuximmi a natural bent like nature s khwamexnexiyngtamthrrmchatixyangthithrrmchatimi kcaimmikhwamhwngidinkarthiphukhncaekhaicthrrmchati inpi kh s 1910 ephirsidaeykaeyaepnsamthangrahwangkhwamnacaepn probability khwamlamaycring verisimilitude aelakhwamepnipid plausibility aelaniyamkhawakhwamepnipiddwykhawa ought khwrca khawakhwamepnipidni phmhmaythungradbthithvsdihnungkhwrcaaenanatwexngsukhwamechuxkhxngeraodyprascakhlkthanid nxkcaksychatyantwexngthiphlkdniherasnbsnunmn sahrbephirs khwamepnipid plausibility imidkhunxyukbkhwamthithisngektehnhruxkhwamnacaepn hruxkhwamlamaycring hruxaemaetkhwamthdsxbid testability sungimicheruxngkhxngbthwicarnwakarxnumanechingsmmtithanepnkarxnuman aetepneruxngkhxngkhwamsmphnthkhxngsmmtithantxkrabwnkarsxbswn wliwa karxnumansukhaxthibaythidithisud sungephirsimichaetmkcathuknamaicheriykkarxnumanechingsmmtithan imidthukekhaicwahmaythungsmmtithanthieriybngayaelaepnthrrmchatithisudesmx dngechnphwkthimikhxsmmtithannxythisud xyangirktam khwamhmayxun khxngkhawa dithisud echn phankarthdsxbiddithisud kyakthicaruwacasrangkhaxthibayihndithisudinemuxmnyngimidthukthdsxb sahrbephirsaelw karihehtuphlkarxnumanaebbcarnyid wadiyngkhngimsmburnaekhephraathuksrangepnkarxangehtuphl tangcakkarxupnyaelakarnirny aelakhunxyukbhnathiinraebiybwithiaelakhwammnsyyawacadaeninhnakarsxbswn echnkhwamthdsxbid aethn raebiybwithikhxngkarsxbswn inradbemothdiwtik ephirsthuxwasmmtithancaidrbeluxkaelathuktdsinipthdsxbkephraamnesnxthicaerngaelathaihkrabwnkarprahyd inquiry inkarhakhwamcringdwykarthdsxbmn xyangaerkelykhuxdwykarthdsxbid aelakdwyeruxngesrsthkicephimetim imwaindanrakha cost mulkha value aelakhwamsmphnththamklangkaredatang smmtithan karphicarnadngechnkhwamnacaepnsungimmiinkarptibtikhxngkarcarnyinradbkhritikkcamiswnrwminradbni twxyangechn rakha cost thakaredathieriybngayaelaepnipidsungnnmirakhainkarthdsxbkhwamethcthitakxacepnxnaerk thiexamathdsxbephuxebikthangkxn thamnphankarthdsxbxyangnaprahladic mnkkhumthicarutngaetaerkeriminkarsxbswn imxyangnnxaccatxngesiyewlananipkbaenwthangthiduepnipidmakkwaaetkhwamcringaelwphid mulkha value karedahnungnnkhumkhathicathdsxbintwmnexngthamikhwamepnipidodysychatyanhruxkhwamnacaepnxyangrupthrrmthimiehtuphl inkhnathikhwamkhwrcaepnxtwisyimnaiwwangicaemcamiehtuphl xntrsmphnthphaph interrelationships samartheluxkkaredamathdlxngxyangmiklyuththiddwysingehlani khwamrxbkhxb caution twxyangthiephirsihkhuxekm Twenty Questions khwamkwang breadth khxngkarnaipichxthibaypraktkarnidhlakhlay aela khwamimsbsxn incomplexity khxngsmmtithanthidueriybngayaelaemuxthdsxbaelwcaputhangipsukariltamsmmtithanthihlakhlayaelakhdaeyngknaelaeriybngaynxykwakarprayuktichpyyapradisth karprayuktichinpyyapradisthmi Diagnosis artificial intelligence belief revision aela automated planning karprayuktichodytrngthisudkhxngkarcarnykhuxkartrwccbkhwamphidphrxngodyxtonmtiinrabb emuxmithvsdithiwadwykhwamsmphnthrahwangkhwamphidphrxngkbphlkrathbaelachudphlkrathbthisngektehn casamarthcarnyhachudkhwamphidphrxngthixaccaepnsaehtukhxngpyha aephthysastr inaephthysastr samarthmxngkarcarnyepnswnprakxbinkarpraeminphlaelakartdsinicthangkhlinik karwangaephnkhxngekhruxng karcarnysamarthnamaichomedlid hakmithvsdikhxngtrrkathiaesdngkhwamsmphnthrahwangehtukarnkhxngkarkrathaaelaphlkhxngmn twxyangechn sutrkhxng event calculus kcasamarthomedlpyhakhxngkarhaaephnkarsahrbkaripthungsphawahnungihepnpyhakhxngkarcarnyhachudkhxngsyphcn literal thiaesdngnywasphawasudthayepnsphawaepahmay goal state karwiekhraahkhawkrxng mikarichkarihehtuphlaebbcarnyechingkhwamnacaepnin intelligence analysis analysis of competing hypotheses aela Bayesian network xyangkwangkhwang karwinicchythangkaraephthyaelakarihehtuphlthangkdhmaykmiichwithikarniechnediywkn aetmihlaytwxyangkhxngkhxphidphladodyechphaaphwkthiekidcakehtuphlwibtiodyxtraphunthanaela prosecutor s fallacy prchyawithyasastr in philosophy of science karcarnyepnwithikarxnumanthisakhythisnbsnunmummxng scientific realism aelakarthkethiyngkhxngscniymthangwithyasastrswnmakepneruxngekiywkbwakarcarnyepnwithikarxnumanthiyxmrbidhruxim phasasastrechingprawti inphasasastrechingprawti karcarnyinrahwang language acquisition mkthukthuxwaepnswnthicaepninkrabwnkarkarepliynaeplngphasa dngechn folk etymology aelaaenwethiyb analogy phasasastrprayukt inkarwicy applied linguistics karihehtuphlaebbcarnykalngthukerimichepnkhaxthibaythangeluxkaethnkarihehtuphlaebbxupnyinkarrucaphllphththikhadiwkhxngkarsxbswnechingkhunphaph thaihmiswninkahndthisthangkhxngkarwiekhraah mnthukniyamepn karichkhxtngthiimchdecncakkarsngektkarn aelailtamthvsditang ephuxxthibaymn The use of an unclear premise based on observations pursuing theories to try to explain it Rose et al 2020 p 258 manusywithya insakhamanusywithya Alfred Gell niyamkarcarny txcakexok inhnngsuxthrngxiththiphlkhxngekhachux Art and Agency silpaaelaphukrathakar waepn hnungkrnikhxngkarxnumanechingsngekhraah thisungeraphbphvtikarnthinachngnsungcasamarthxthibayiddwykhxsmmutiwamnepnhnungkrnikhxngkdthwipkdhnung aelaehtuchanncungnakhxsmmutinnmaich a case of synthetic inference where we find some very curious circumstances which would be explained by the supposition that it was a case of some general rule and thereupon adopt that supposition ekllwicarnngansuksa thangmanusywithya eruxngsilpa n txnnnwahmkmunkbkhunkhathangsunthriyphaph aelahmkmunkbpharahlkkhxngmanusywithyainkarepidephy khwamsmphnththangsngkhm imphx odyechphaabribththangsngkhmthingansilpaidthuksrangsrrkh hmunewiyn aelarb karcarnythukichepnklikinkarekhluxncaksilpaepnphukrathakar nnkhuxkarcarnysamarthxthibaywithithisilpasamarthdl samysanuk sensus communis khunma sungkhuxmummxngthimirwmknrahwangsmachikkhxngsngkhmhnung sungaesdnglksna characterize khxngsngkhmnn khathamthiekllthaminhnngsuxkhux mn bxk xairkbkhnintxnaerk how does it initially speak to people ekhatxbwa immikhnmiehtuphlkhnihncanukimidwakhwamsmphnthaebbsilparahwangphukhnaelasingkhxngcami semiosis epnxyangnxy No reasonable person could suppose that art like relations between people and things do not involve at least some form of semiosis aetthwaekhaptiesththukkhxklawhathibxkwakarsrangkhwamhmaysamarthmxngepnphasaid ephraaechnnnaelwekhacatxngyxmrbkarmixyukhxng samysanuk thimimaxyukxnaelwsungekhatxngkarbxkwamnekidkhuntxmathihlngcaksilpaethann karcarnyepnkhatxbtxprisnaniephraathrrmchatikhwamepnkhraw khxngaenwkhidkarcarny thiephirsepriybehmuxnkbkareda aeplwanxkcakcaichngannxkokhrngkhaythimixyukxnidaelw aetmakkwannyngsamarthprakaskarmixyukhxngokhrngkhayhnungiddwy xyangthiekllihehtuphliwinkarwiekhraahkhxngekha karmixyuthangkayphaphkhxngngansilpannexngthikratunihphuchmkrathakarcarnyaelaisectnarmnkhxngngansilpaekhaipexng twxyangechnruppnethphthida inaenghnungkidklayepnethphthidakhxngcringinsmxngkhxngphuchm aelaimidepnaekhtwaethnrupkhxngethphxngkhhnungethannaetyngaesdngthungectnakhxngethxdwy sungthukcarnycakkhwamrusukthungkarmixyukhxngethx ephraachannekllxangwasilpasamarthmikhwamepnphukratha agency inchnidthiehmuxnkbemldphnthuthihyngrakaelaetibotipepntananthangwthnthrrm phlngkhxngkhwamepnphukrathaepnphlngthicaphlkdnkarkrathatang aelathaythisudkdlicihekidkhwamekhaicrwmkn sungepnsingthiaesdnglksnakhxngsngkhm karekhiynopraekrmkhxmphiwetxr in formal methods trrkathukichrabuaelatrwcsxbkhunsmbtikhxngopraekrmkhxmphiwetxr karcarnythuknaipichinxupkrnihehtuphlkl mechanized reasoning tool ephuxephimradbxtonmtikrrm automation khxngkickrrmkartrwcsxb ethkhnikhhnungeriykwa bi abduction sungrwmkarcarnyaela frame problem thukichkhyayethkhnikhkarihehtuphlkhxngkhunsmbtikhwamcaihsamarthihehtuphlepnrhshruxokhdhlaylanbrrthd karcarnythixyubntrrksastrthukichephuxxnuman precondition khxngfngkchnaetlaxninopraekrmhnungaelaldpharathimnusytxngtha nithaihekidbristhstarthxphthirbtrwcsxbopraekrmsungthuksuxipodyefsbuk aelaxupkrnwiekhraahopraekrm Infer sungidpxngkn Codebase xutsahkrrmcakcudbkphrxnghlayphncud nxkcakkarcarnyhaenguxnikhkxnkhxngfngkchnaelw karcarnyyngthukichephuxthakarxnumantwyunyng invariant khxnglupopraekrm program loop karxnumankhxkahndkhxngokhdthiimruck aelakarsngekhraahtwopraekrmexng ihepnxtonmtiduephimsthaniyxyprchyakarkhidwiekhraah Duck test Maximum likelihood estimation Logical reasoning Defeasible reasoning Attribution Psychology karxangehtuphl Argument Gregory Bateson Inductive probability Sensemaking Douglas N Walton Argumentation Theory Charles Sanders Peirce bibliography Statistical model suksasanuk Sign relation xangxingechn Josephson John R Josephson Susan G b k 1994 Abductive Inference Computation Philosophy Technology Cambridge UK New York Cambridge University Press doi 10 1017 CBO9780511530128 ISBN 978 0521434614 OCLC 28149683 Commens Digital Companion to C S Peirce Mats Bergman Sami Paavola amp Joao Queiroz khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 08 26 subkhnemux 2014 08 24 2013 Core Questions in Philosophy A Text with Readings 6th ed Boston Pearson Education p 28 ISBN 9780205206698 OCLC 799024771 I now move to abduction inference to the best explanation Campos Daniel G June 2011 On the distinction between Peirce s abduction and Lipton s inference to the best explanation 180 3 419 442 doi 10 1007 s11229 009 9709 3 I argue against the tendency in the philosophy of science literature to link abduction to the inference to the best explanation IBE and in particular to claim that Peircean abduction is a conceptual predecessor to IBE In particular I claim that Peircean abduction is an in depth account of the process of generating explanatory hypotheses while IBE at least in s thorough treatment is a more encompassing account of the processes both of generating and of evaluating scientific hypotheses There is then a two fold problem with the claim that abduction is IBE On the one hand it conflates abduction and induction which are two distinct forms of logical inference with two distinct aims as shown by Charles S Peirce on the other hand it lacks a clear sense of the full scope of IBE as an account of scientific inference aepl phmimehndwykbaenwonminwrrnkrrmprchyawithyasastrthimikarechuxmoyngkarcarnykbkarxnumansukhaxthibaythidithisud IBE odyechphaakhaklawxangwakarcarnyaebbephirsnnepnbrrphburuskhxng IBE inraylaexiyd phmyunynwakarcarnyaebbephirsnnepnkarbrryayechinglukkhxngkrabwnkarsrangsmmtithanechingxthibay inkhnathi IBE xyangnxyinkarptibtitxmnxyanglaexiydkhxng epnkarbrryaythikhrxbkhlumkrabwnkarsrangaelapraeminsmmtithanthangwithyasastrmakkwa karxangwakarcarnykhux IBE nncungepnkhaklawxangthimipyhainsxngdan indanhnung mnepnkarcbrwmkarcarnyekhakbkarxupnyaemthngsxngcaepnkarxnumanechingtrrkakhnlarupaebbsungmiepahmaythitangknxyangthi charls exs ephirs idaesdngihehnaelw inxikdanhnung mnimekhaicinkhxbekhtetmkhxng IBE inthanakhxngwithikarxthibaykarxnumanthangwithyasastr 2001 Abductive presumptive and plausible arguments 21 2 141 169 10 1 1 127 1593 doi 10 22329 il v21i2 2241 Abductive inference has often been equated with inference to the best explanation The account of abductive inference and inference to the best explanation presented above has emphasized the common elements found in the analyses given by Peirce Harman and the Josephsons It is necessary to add that this brief account may be misleading in some respects and that a closer and more detailed explication of the finer points of the three analyses could reveal important underlying philosophical differences Inferences to the best explanation as expounded by Harman and the Josephsons can involve deductive and inductive processes of a kind that would be apparently be excluded by Peirce s account of abduction aepl karxnumanaebbcarnymkthukcbmaethaknkbkarxnumansukhaxthibaythidithisud khaxthibaykarxnumanaebbcarnyaelakarxnumansukhaxthibaythidithisuddanbnnnidennxngkhprakxbrwmknthiphbinbthwiekhraahodyephirs haraemn aelaocesfsnkbocesfsn mncaepnthicatxngklawwakhaxthibaynixacthaihekhaicphididinbangpraedn aelakarxthibaythilaexiydaelalukkwaedimthungcudtang inbthwiekhraahthngsamsamarthephyihehnthungkhwamaetktangechingprchyathixyuebuxnghlngthisakhyid karxnumansukhaxthibaythidithisudxyangthiharaemnaelaocesfsnkbocesfsnidxthibayiwnnsamarthrwmthungkrabwnkaraebbnirnyaelaxupnychnidthicaimthukrwmxyuinkhaxthibaykarcarnykhxngephirsid duthi xathi Analysis of Evidence 2d ed ody Terence Anderson sankphimphmhawithyalyekhmbridc 2005 twxyangechn duthi John R Josephson Laboratory for Artificial Intelligence Research mhawithyalyoxihoxsett aela Abduction Reason and Science Processes of Discovery and Explanation ody Kluwer Academic Plenum Publishers niwyxrk 2001 Kakas A C b k 2000 Abduction and Induction Essays on their Relation and Integration Springer p xiii subkhnemux 31 October 2016 This book grew out of a series of workshops on this topic Budapest 1996 Nagoya 1997 Brighton 1998 Reggia James A et al Answer justification in diagnostic expert systems Part I Abductive inference and its justification IEEE transactions on biomedical engineering 4 1985 263 267 aeplcak Looking out my window this lovely spring morning I see an azalea in full bloom No no I don t see that though that is the only way I can describe what I see That is a proposition a sentence a fact but what I perceive is not proposition sentence fact but only an image which I make intelligible in part by means of a statement of fact This statement is abstract but what I see is concrete I perform an abduction when I so much as express in a sentence anything I see The truth is that the whole fabric of our knowledge is one matted felt of pure hypothesis confirmed and refined by induction Not the smallest advance can be made in knowledge beyond the stage of vacant staring without making an abduction at every step Peirce MS 692 thukykkhaphudiwin Sebeok T 1981 You Know My Method in Sebeok T The Play of Musement Bloomington IA Indiana hna 24 aeplcak Facts cannot be explained by a hypothesis more extraordinary than these facts themselves and of various hypotheses the least extraordinary must be adopted Peirce MS 696 thukykkhaphudiwin Sebeok T 1981 You Know My Method in Sebeok T The Play of Musement Bloomington IA Indiana hna 31 A Josang Subjective Logic A Formalism for Reasoning Under Uncertainty Springer 2016 ISBN 978 3 319 42337 1 Popper Karl 2002 Conjectures and Refutations The Growth of Scientific Knowledge 2 ed London Routledge p 536 du Santaella Lucia 1997 The Development of Peirce s Three Types of Reasoning Abduction Deduction and Induction thikarprachumkhrngthi 6 khxng Eprint Peirce C S On the Logic of drawing History from Ancient Documents especially from Testimonies 1901 Collected Papers v 7 yxhnathi 219 PAP Prolegomena to an Apology for Pragmatism MS 293 c 1906 New Elements of Mathematics v 4 pp 319 320 A Letter to F A Woods 1913 Collected Papers v 8 yxhnathi 385 388 dukhangit Abduction aela Retroduction thi Commens Dictionary of Peirce s Terms Peirce C S 1903 Harvard lectures on pragmatism Collected Papers v 5 yxhnathi 188 189 Peirce C S 1908 A Neglected Argument for the Reality of God Hibbert Journal v 7 pp 90 112 du 4 in Collected Papers v 6 duyxhnathi 476 in The Essential Peirce v 2 du p 444 Peirce C S 1908 A Neglected Argument for the Reality of God Hibbert Journal v 7 pp 90 112 duthng part III aela part IV phimphihmodyrwmswnthiedimimidtiphimphin Collected Papers v 6 yxhnathi 452 85 Essential Peirce v 2 pp 434 50 aelathixun ephirsichkhawa intuition hruxxchchttikyanimichinkhwamhmaykhxngkarxnumantamsychatyanhruxxyangkungrusuktwaebbthikhnthathwip n txnni aetthwaichinkhwamhmaykhxngkarrbruthiirkartdsinechingtrrkadwy a priori and a posteriori ekhawa eraimmiphlngkhxngxchchttikyan inkhwamhmaynn du Some Consequences of Four Incapacities 1868 khxngekha Eprint 2011 05 14 thi ewyaebkaemchchin sahrbkarsnthnathiekiywkhxngkhxngephirsaelacudmunghmaykhxngkarxnumanaebbcarny du McKaughan Daniel J 2008 From Ugly Duckling to Swan C S Peirce Abduction and the Pursuit of Scientific Theories Transactions of the Charles S Peirce Society v 44 no 3 summer 446 468 khawa conceivable hruxepnipidniephirshmaykhwamxyangkwang du Collected Papers v 5 yxhnathi 196 hrux Essential Peirce v 2 p 235 Pragmatism as the Logic of Abduction Lecture VII of the 1903 Harvard lectures on pragmatism It allows any flight of imagination provided this imagination ultimately alights upon a possible practical effect and thus many hypotheses may seem at first glance to be excluded by the pragmatical maxim that are not really so excluded aepl mnxnuyatihcintnakarid ophybin sungcakcintnakarnikcainthisudlukochnepnphlinthangptibtithiepnipid aeladngnnsmmtithanhlaykhxxacehmuxnimrwmxyuinkhtibthechingptibtiintxnaerkthiehnsungaethcringaelwimidimthukrwmethairnk Peirce C S Carnegie Application L75 1902 New Elements of Mathematics v 4 pp 37 38 duit Abduction thi Commens Dictionary of Peirce s Terms Methodeutic has a special interest in Abduction or the inference which starts a scientific hypothesis For it is not sufficient that a hypothesis should be a justifiable one Any hypothesis which explains the facts is justified critically But among justifiable hypotheses we have to select that one which is suitable for being tested by experiment aepl emothdiwtik Methodeutic mikhwamsnicepnphiessinkarcarny hruxkarxnumansungerimsmmtithanthangwithyasastr ephraamnimphxthismmtithanhnungkhwrepnsmmtithanthismehtusmphlephiyngethann smmtithanid thixthibaykhxethccringlwnsmehtusmphlxyangying aetinsmmtithanthismehtusmphlnneratxngeluxkkhxthiehmaasmsahrbnamathdsxbinkarthdlxngid Peirce Pragmatism as the Logic of Abduction Lecture VII of the 1903 Harvard lectures on pragmatism du parts III aela IV tiphimphepnbangswnin Collected Papers v 5 yxhnathi 180 212 du 196 200 Eprint aelaaebbetmin Essential Peirce v 2 pp 226 241 duswnthi III aela IV What is good abduction What should an explanatory hypothesis be to be worthy to rank as a hypothesis Of course it must explain the facts But what other conditions ought it to fulfill to be good Any hypothesis therefore may be admissible in the absence of any special reasons to the contrary provided it be capable of experimental verification and only insofar as it is capable of such verification This is approximately the doctrine of pragmatism aepl xairkhuxkarcarnythidi smmtithankarxthibaykhwrepnaebbidcungkhwrkhaaekkarphukcdepnsmmtithan aennxn mntxngxthibaykhxethccring aetenguxnikhxunidxikthicaepntxngbrrlucungcadi smmtithanid cungxacyxmrbidinkrnithiimmiehtuphiessthicaiptrngknkham ktxemuxmnmikhwamsamarthinkarthuktrwcsxbodykarthdlxng aelatrabethathisamarthtrwcsxbid niepnhlkkarodypramankhxngptibtiniym Peirce C S 1902 application to the Carnegie Institution du MS L75 329 330 cak Draft D 2011 05 24 thi ewyaebkaemchchin khxng Memoir 27 Consequently to discover is simply to expedite an event that would occur sooner or later if we had not troubled ourselves to make the discovery Consequently the art of discovery is purely a question of economics The economics of research is so far as logic is concerned the leading doctrine with reference to the art of discovery Consequently the conduct of abduction which is chiefly a question of and is the first question of heuristic is to be governed by economical considerations aepl ephraaehtuni karkhnphbcungepnephiyngkarerngehtukarnthixyangirkcaekidimwachahruxerw thaeraimidlabaktwexngephuxthakarkhnphbsingnn aeladngnnsilpakhxngkarkhnphbepnephiyngpyhathangesrsthsastr esrsthsastrkhxngkarwicynn ineruxngthitrrksastrnnyungekiyw epnhlkkarchnnathixangxingkbsilpakhxngkarkhnphb ephraachannkarkrathakarcarnysungepnephiyngpyhainwithyakarsuksasanukaelaepnkhathamaerkkhxngwithyakarsuksasanukcungthukpkkhrxngodykarphicarnathangesrsthsastr aeplcak in almost everything I printed before the beginning of this century I more or less mixed up hypothesis and induction aeplcak narrow and formalistic a conception of inference as necessarily having formulated judgments from its premises Peirce A Letter to circa 1910 Collected Papers v 8 yxhnathi 227 228 duin Hypothesis thi Commens Dictionary of Peirce s Terms 1867 On the Natural Classification of Arguments Proceedings of the American Academy of Arts and Sciences v 7 pp 261 287 Presented April 9 1867 See especially starting at p 284 in Part III 1 Reprinted in Collected Papers v 2 paragraphs 461 516 andWritingsv 2 pp 23 49 Peirce C S 1878 Deduction Induction and Hypothesis Popular Science Monthly v 13 pp 470 82 see 472 Collected Papers 2 619 44 see 623 A letter to Langley 1900 published in Historical Perspectives on Peirce s Logic of Science See excerpts under Abduction at the Commens Dictionary of Peirce s Terms A Syllabus of Certain Topics of Logic 1903 manuscript Essential Peirce v 2 see p 287 See under Abduction at the Commens Dictionary of Peirce s Terms Peirce C S On the Logic of Drawing History from Ancient Documents dated as circa 1901 both by the editors of Collected Papers see CP v 7 bk 2 ch 3 footnote 1 and by those of the Essential Peirce EP Eprint 2012 09 05 thi ewyaebkaemchchin The article s discussion of abduction is in CP v 7 paragraphs 218 31 and in EP v 2 pp 107 14 Peirce C S A Syllabus of Certain Topics of Logic 1903 Essential Peirce v 2 p 287 The mind seeks to bring the facts as modified by the new discovery into order that is to form a general conception embracing them In some cases it does this by an act of generalization In other cases no new law is suggested but only a peculiar state of facts that will explain the surprising phenomenon and a law already known is recognized as applicable to the suggested hypothesis so that the phenomenon under that assumption would not be surprising but quite likely or even would be a necessary result This synthesis suggesting a new conception or hypothesis is the Abduction aepl cithathangthicanakhxethccringmasungraebiybodykaraekikhdwykarkhnphbihm nnkhux karkahndkarekhaicodythwipthioxbxyurxb khxethccring inbangkrnikthadwy karwangnythwip inkrnixun immikdihmidthithuknaesnx aetmiephiyngsthanaprahladkhxngkhxethccringthica xthibay praktkarnthinaprahladicnn aelakdthithukruxyuaelwkthukrbruwanamaichkbsmmtithanthithukesnxid praktkarnnncungimnaprahladicelyphayitthankhtinn aetepnsingthiepnipidhruxaemaetepnphllphththicaepn karsngekhraahnisungesnxkarekhaichruxsmmtithanihmkhuxkarcarny A Letter to J H Kehler 1911 New Elements of Mathematics v 3 pp 203 4 duit Retroduction thi Commens Dictionary of Peirce s Terms Peirce Charles S 1883 A Theory of Probable Inference Boston MA Umiker Sebeok Jean 1979 You know my method a juxtaposition of Charles S Peirce and Sherlock Holmes 26 3 4 203 250 doi 10 1515 semi 1979 26 3 4 203 in a searching article on Holmes s method 1973 93 126 anticipated our present work by pointing to the similarities between the detective s so called deductions or inductions and Peirce s abductions or conjectures According to Peirce s system of logic furthermore Holmes s observations are themselves a form of abduction and abduction is as legitimate a type of logical inference as either induction or deduction Peirce 8 228 aepl Marcello Truzzi khadkarnngan n pccubnkhxngerainbthkhwamkhnhaeruxngwithikarkhxngohms 1973 93 126 odykarchithungkhwamkhlaykhlungrahwangsingthinksuberiykwakarnirnyhruxkarxupnykbkarcarnykhxngephirshruxkhxkhwamkhadkarn makkwann cakrabbtrrkakhxngephirs karsngektkarnkhxngohmsnnexngepnruphnungkhxngkarcarny aelakarcarnykepnchnidkhxngkarxnumanechingtrrkathichxbthrrmechnediywkbkarxupnyaelakarnirny Peirce 8 228 September 1999 Defending abduction 66 Supplement 1 S436 S451 S440 S441 doi 10 1086 392744 A historically interesting application of abduction as a heuristic method can be found in classical detective stories as shown by the semiotical and logical essays collected in Eco and Sebeok 1983 the hero of Edgar Allan Poe s novels in the 1840s employed a method of ratiocination or analysis which has the structure of retroduction Similarly the logic of the deductions of Sherlock Holmes is typically abductive aepl karnakarcarnymaichepnwithikaraebbsuksasanukhnungthinasnicthangprawtisastrsamarthphbidineruxngrawnksubtamaebbaephn xyangthiidaesdngodykhwameriyngechingsysastraelatrrksastrthirwbrwmiwin Eco aela Sebeok 1983 C Auguste Dupin wirburusinniyaykhxngexdkar aexlln oph Edgar Allan Poe inchwngpikhristthswrrs 1840s idnawithikar ratiocination hrux analysis maichsungmiokhrngsrangkhxng retroduction odykhlaykn trrkakhxng karnirny khxngechxrlxk ohmsnnepncarnyodyprkti Carson David June 2009 The abduction of Sherlock Holmes PDF International Journal of Police Science amp Management 11 2 193 202 doi 10 1350 ijps 2009 11 2 123 Sherlock Holmes although a fictional character remains renowned as a great detective However his methodology which was abduction rather than deduction and which is innocently used by many real detectives is rarely described discussed or researched This paper compares and contrasts the three forms of inferential reasoning and makes a case for articulating and developing the role of abduction in the work and training of police officers aepl thungaemcaepntwlakhrsmmti echxrlxk ohmsyngkhngepnthieluxngluxwaepnnksubphuyingihy aetthwaraebiybwithikhxngekhasungepnkarcarnymakkwakarnirnyaelasungminksubtwcringhlaykhnnamaichxyangirediyngsa karphrrnna karsnthnathung hruxnganwicyeruxngnikhayak exksaribniepriybethiybaelaepriybtangrupaebbsamrupkhxngkarihehtuphlechingxnuman aelaihkarsahrbkarsuxsaraelakarphthnahnathikhxngkarcarnyinnganaelakarfukkhxngnaytarwc In Peirce C S Minute Logic circa 1902 Collected Papers v 2 paragraph 102 See under Abduction at Commens Dictionary of Peirce s Terms aeplcak I do not at present feel quite convinced that any logical form can be assigned that will cover all Retroductions For what I mean by a Retroduction is simply a conjecture which arises in the mind aeplcak There would be no logic in imposing rules and saying that they ought to be followed until it is made out that the purpose of hypothesis requires them Peirce On the Logic of drawing History from Ancient Documents 1901 manuscript Collected Papers v 7 yxhnathi 164 231 see 202 reprinted in Essential Peirce v 2 pp 75 114 see 95 See under Abduction thi Commens Dictionary of Peirce s Terms aeplcak Consider what effects that might conceivably have practical bearings we conceive the object of our conception to have Then our conception of these effects is the whole of our conception of the object Peirce On the Logic of Drawing Ancient History from Documents Essential Peirce v 2 see pp 107 9 Peirce Carnegie application L75 1902 Memoir 28 On the Economics of Research scroll down to Draft E Eprint 2011 05 24 thi ewyaebkaemchchin Peirce C S the 1866 Lowell Lectures on the Logic of Science v 1 p 485 See under Hypothesis at Commens Dictionary of Peirce s Terms aeplcak It is recognized that the phenomena are like i e constitute an Icon of a replica of a general conception or Symbol Peirce C S A Syllabus of Certain Topics of Logic written 1903 See v 2 p 287 Quote viewable under Abduction at Commens Dictionary of Peirce s Terms aeplcak By plausibility I mean the degree to which a theory ought to recommend itself to our belief independently of any kind of evidence other than our instinct urging us to regard it favorably Peirce A Letter to Paul Carus 1910 Collected Papers v 8 see paragraph 223 Peirce C S 1902 Application to the Carnegie Institution Memoir 27 Eprint 2011 05 24 thi ewyaebkaemchchin Of the different classes of arguments abductions are the only ones in which after they have been admitted to be just it still remains to inquire whether they are advantageous aepl cakhmwdhmutang khxngkarxangehtuphl karcarnyepnxnediywthihlngcakyxmrbwasmehtusmphl just aelw kyngehluxthicasxbswnwamnepnpraoychnhruxim Peirce On the Logic of Drawing Ancient History from Documents Essential Peirce v 2 see pp 107 9 and 113 On Twenty Questions p 109 Peirce has pointed out that if each question eliminates half the possibilities twenty questions can choose from among 220 or 1 048 576 objects and goes on to say Thus twenty skillful hypotheses will ascertain what 200 000 stupid ones might fail to do The secret of the business lies in the caution which breaks a hypothesis up into its smallest logical components and only risks one of them at a time aepl dngnn karsmmtithanxyangchanayephiyngyisibkhrngcasubphbsingthismmtithanong 200 000 khxhaimecx khwamlbthangthurkickkhuxkhwamrxbkhxbthicaaeyksmmtithanepnswnthielkthisudinechingtrrka aelaesiynglxngaekhrxblahnungswn Rapezzi C Ferrari R Branzi A 24 December 2005 White coats and fingerprints diagnostic reasoning in medicine and investigative methods of fictional detectives BMJ Clinical Research Ed 331 7531 1491 4 doi 10 1136 bmj 331 7531 1491 PMC 1322237 PMID 16373725 Rejon Altable C October 2012 Logic structure of clinical judgment and its relation to medical and psychiatric semiology Psychopathology 45 6 344 51 doi 10 1159 000337968 PMID 22854297 subkhnemux 17 January 2014 Kave Eshghi Abductive planning with the event calculus In Robert A Kowalski Kenneth A Bowen editors Logic Programming Proceedings of the Fifth International Conference and Symposium Seattle Washington August 15 19 1988 MIT Press 1988 ISBN 0 262 61056 6 Lipton Peter 2001 Inference to the Best Explanation London Routledge ISBN 0 415 24202 9 April M S McMahon 1994 Understanding language change Cambridge Cambridge University Press ISBN 0 521 44665 1 Rose McKinley amp Briggs Baffoe Djan 2020 Data Collection Research Methods in Applied Linguistics Bloomsbury ISBN 9781350025851 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk McKinley J 2019 12 06 PDF in McKinley amp Rose b k The Routledge Handbook of Research Methods in Applied Linguistics Abingdon Routledge pp 1 13 ISBN 9780367824471 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2020 02 15 subkhnemux 2020 10 08 Eco Umberto 1976 A Theory of Semiotics Indiana University Press p 131 ISBN 9780253359551 Gell A 1998 Art and Agency Oxford Clarendon Press p 14 ISBN 9780191037450 Bowden R 2004 A critique of Alfred Gell on Art and Agency Retrieved Sept 2007 from Whitney D 2006 Abduction the agency of art Retrieved May 2009 from University of California Berkeley 2008 11 20 thi ewyaebkaemchchin CalcagnoCristiano DistefanoDino W O HearnPeter YangHongseok 2011 12 01 Compositional Shape Analysis by Means of Bi Abduction Journal of the ACM phasaxngkvs 58 6 1 66 doi 10 1145 2049697 2049700 Facebook Acquires Assets Of UK Mobile Bug Checking Software Developer Monoidics TechCrunch phasaxngkvsaebbxemrikn subkhnemux 2020 02 22 lingkesiy DistefanoDino FahndrichManuel LogozzoFrancesco W O HearnPeter 2019 07 24 Scaling static analyses at Facebook Communications of the ACM phasaxngkvs 62 8 62 70 doi 10 1145 3338112 DilligIsil DilligThomas LiBoyang McMillanKen 2013 10 29 Inductive invariant generation via abductive inference ACM SIGPLAN Notices phasaxngkvs 443 456 doi 10 1145 2509136 2509511 ISBN 9781450323741 Giacobazzi Roberto 1998 08 01 Abductive Analysis of Modular Logic Programs Journal of Logic and Computation phasaxngkvs 8 4 457 483 doi 10 1093 logcom 8 4 457 ISSN 0955 792X Polikarpova Nadia Sergey Ilya 2019 01 02 Structuring the synthesis of heap manipulating programs Proceedings of the ACM on Programming Languages phasaxngkvs 3 1 30 doi 10 1145 3290385 abductioncakbrrnanukrm 1994 Implications of informational point of view on the development of statistical science in Bozdogan H b k Proceedings of the First US JAPAN Conference on The Frontiers of Statistical Modeling An Informational Approach Volume 3 pp 27 38 Awbrey Jon and Awbrey Susan 1995 Interpretation as Action The Risk of Inquiry Inquiry Critical Thinking Across the Disciplines 15 40 52 Cialdea Mayer Marta and Pirri Fiora 1993 First order abduction via tableau and sequent calculi Logic Jnl IGPL 1993 1 99 117 doi 10 1093 jigpal 1 1 99 Oxford Journals Cialdea Mayer Marta and Pirri Fiora 1995 Propositional Abduction in Modal Logic Logic Jnl IGPL 1995 3 907 919 doi 10 1093 jigpal 3 6 907 Oxford Journals Edwards Paul 1967 eds The Encyclopedia of Philosophy Macmillan Publishing Co Inc amp The Free Press New York Collier Macmillan Publishers London Eiter T and Gottlob G 1995 The Complexity of Logic Based Abduction Journal of the ACM 42 1 3 42 Hanson N R 1958 Patterns of Discovery An Inquiry into the Conceptual Foundations of Science Cambridge Cambridge University Press ISBN 978 0 521 09261 6 Harman Gilbert 1965 The Inference to the Best Explanation The Philosophical Review 74 1 88 95 doi 10 2307 2183532 JSTOR 2183532 Josephson John R and Josephson Susan G 1995 eds Abductive Inference Computation Philosophy Technology Cambridge University Press Cambridge UK Lipton Peter 2001 Inference to the Best Explanation London Routledge ISBN 0 415 24202 9 2014 Understanding abduction Model Based Reasoning in Science and Technology Theoretical and Cognitive Issues editor Magnani L Springer p 173 205 McKaughan Daniel J 2008 From Ugly Duckling to Swan C S Peirce Abduction and the Pursuit of Scientific Theories Transactions of the Charles S Peirce Society v 44 no 3 summer 446 468 Abstract lingkesiy Menzies T 1996 Applications of Abduction Knowledge Level Modeling PDF International Journal of Human Computer Studies 45 3 305 335 10 1 1 352 8159 doi 10 1006 ijhc 1996 0054 Queiroz Joao amp Merrell Floyd guest eds 2005 Abduction between subjectivity and objectivity special issue on abductive inference 153 1 4 1 Santaella Lucia 1997 The Development of Peirce s Three Types of Reasoning Abduction Deduction and Induction 6th Congress of the Eprint Sebeok T 1981 You Know My Method In Sebeok T The Play of Musement Indiana Bloomington IA Yu Chong Ho 1994 Is There a Logic of Exploratory Data Analysis Annual Meeting of American Educational Research Association New Orleans LA April 1994 Website of Dr Chong Ho Alex Yuaehlngkhxmulxunwikiphcnanukrm mikhwamhmaykhxngkhawa karihehtuphlaebbcarny wikiphcnanukrm mikhwamhmaykhxngkhawa carny hrux karihehtuphlaebbcarny Douven Igor Abduction in b k karihehtuphlaebbcarny thi karihehtuphlaebbcarny thi thungaelweluxnlng John R Josephson Laboratory for Artificial Intelligence Research Ohio State University via the Wayback Machine Deduction Induction and Abduction Chapter 3 in article Charles Sanders Peirce by Robert Burch 2001 and 2006 in the Stanford Encyclopedia of Philosophy links to articles and websites on abductive inference Uwe Wirth and Alexander Roesler eds Uses frames Click on link at bottom of its home page for English Wirth moved to Germany and set up Abduktionsforschung home page not in English but see Artikel section there Abduktionsforschung home page via Google translation You Know My Method A Juxtaposition of Charles S Peirce and Sherlock Holmes 1981 by with Jean Umiker Sebeok from The Play of Musement Thomas Sebeok Bloomington Indiana Indiana University Press pp 17 52 Commens Dictionary of Peirce s Terms Mats Bergman and Sami Paavola editors Helsinki U Peirce s own definitions often many per term across the decades There see Hypothesis as a form of reasoning Abduction Retroduction and Presumption as a form of reasoning