การบวก (มักแทนด้วยเครื่องหมายบวก "+") คือหนึ่งในการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ของเลขคณิตมูลฐาน นอกจากการบวกยังมีการลบ การคูณ และการหาร การบวกจำนวนสองจำนวนคือผลรวมของปริมาณสองปริมาณรวมกัน ตัวอย่างเช่น ในภาพด้านขวาเป็นการรวมแอปเปิล 3 ผลกับแอปเปิล 2 ผลเข้าด้วยกัน หลายเป็นแอปเปิล 5 ผล ดังนั้นจึงเหมือนกับว่ามีแอปเปิล 5 ผล การกระทำเช่นนี้เทียบเท่ากับนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ว่า "3 + 2 = 5" หมายความว่า "3 บวก 2 เท่ากับ 5" เป็นต้น
นอกจากการนับผลไม้แล้ว การบวกสามารถใช้แทนการรวมวัตถุอื่น ๆ การบวกสามารถนิยามด้วยสมบัติที่เป็นนามธรรมมากขึ้น เช่น จำนวนเต็ม จำนวนตรรกยะ จำนวนจริง จำนวนเชิงซ้อน และวัตถุนามธรรมอื่น ๆ เช่น เวกเตอร์ และเมทริกซ์ ฯลฯ
ในเลขคณิตมีกฎของการบวกที่เกี่ยวกับ และจำนวนลบและจำนวนไม่เป็นลบ ถูกคิดค้นขึ้นใหม่ ในทางพีชคณิต การศึกษาการบวกนั้นเป็นไปในเชิงนามธรรมมากขึ้น
การบวกมีสมบัติที่สำคัญหลายประการ การบวกมี หมายความว่าลำดับไม่สำคัญ และมี หมายความว่าเมื่อจำนวนหนึ่งบวกกับจำนวนมากกว่าสองจำนวน ลำดับในการบวกก่อนหลังนั้นไม่สำคัญ (ดู ผลรวม) การบวก 1 ซ้ำ ๆ มีความหมายเหมือนการนับ การบวกด้วย 0 จะไม่ทำให้จำนวนเปลี่ยนแปลง การบวกยังสามารถคล้อยตามกฎที่ทำนายได้ของการดำเนินการอื่น ๆ ได้แก่ การลบ และการคูณ
การบวกจำนวนน้อย ๆ สามารถเรียนรู้ได้ตั้งแต่วัยเด็กหัดเดิน เด็กทารกอายุห้าเดือน และแม้กระทั่งสัตว์บางชนิดก็สามารถคำนวณงานพื้นฐานที่สุดอย่าง 1 + 1 ได้ ในระดับประถมศึกษา นักเรียนจะได้เรียนรู้การบวกจำนวนในระบบเลขฐานสิบ โดยเริ่มต้นจากเลขหลักเดียว และพัฒนาการแก้ปัญหาที่ยากขึ้น เครื่องมือช่วยคำนวณการบวกก็แตกต่างกันไปตั้งแต่ลูกคิดโบราณจนไปถึงคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ ซึ่งยังมีงานวิจัยเรื่องวิธีการบวกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเรื่อยมาถึงทุกวันนี้
สัญกรณ์และศัพทวิทยา
ปกติการบวกเขียนแทนด้วยเครื่องหมายบวก (+) ใส่ไว้ระหว่างพจน์แบบ ผลลัพธ์ของการบวกจะถูกแสดงด้วยเครื่องหมายเท่ากับ (=) ตัวอย่างเช่น
- 1 + 1 = 2 (อ่านว่า หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง)
- 2 + 2 = 4
- 5 + 4 + 2 = 11
- 3 + 3 + 3 + 3 = 12 (ดูเพิ่มที่ การคูณ)
แต่ก็มีบางสถานการณ์ที่สามารถทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการบวก แม้จะไม่มีเครื่องหมายบวกอยู่ก็ตาม ตัวอย่างเช่น
- จำนวนตัวเลขที่เรียงกันตามแนวตั้ง ซึ่งบรรทัดล่างสุดมีขีดเส้นใต้ ปกติแล้วจำนวนจะถูกจัดวางให้ตรงหลักตามแนวตั้งเพื่อบวกเข้าด้วยกัน และผลบวกจะเขียนไว้ที่ใต้จำนวนสุดท้ายนั้น
- จำนวนเต็มที่เขียนต่อด้วยเศษส่วนทันที จะให้ผลหมายถึงสองจำนวนนั้นบวกกันเรียกว่า จำนวนคละ (mixed number) เช่น 3½ = 3 + ½ = 3.5 แต่สัญกรณ์เช่นนี้อาจทำให้เกิดความสับสนกับการคูณที่ไม่แสดงเครื่องหมาย (juxtaposition) ที่มีใช้ในบริบทอื่นๆ
จำนวนหรือวัตถุที่จะบวกเข้าด้วยกันโดยทั่วไปเรียกว่า พจน์ (term) ตัวบวก (addend) หรือ ส่วนของผลบวก (summand) ซึ่งศัพท์คำสุดท้ายนี้นำไปใช้อธิบายผลรวมของพจน์ที่เป็นพหุคูณ ผู้แต่งตำราบางท่านเรียกตัวบวกจำนวนแรกว่า ตัวตั้งบวก (augend) เนื่องจากข้อเท็จจริงในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ผู้แต่งตำราหลายท่านไม่นับว่าจำนวนแรกในการบวกเป็น "ตัวบวก" แต่ในทุกวันนี้คำว่า "ตัวตั้งบวก" มีการใช้น้อย และทั้งสองคำก็หมายถึงตัวบวกได้เหมือนกัน
การแปลความหมาย
การบวกใช้สำหรับจำลองกระบวนการทางกายภาพได้อย่างนับไม่ถ้วน แม้แต่กรณีที่ง่ายที่สุดของการบวกจำนวนธรรมชาติ ก็มีการแปลความหมายที่เป็นไปได้มากมาย รวมไปถึงการนำเสนอด้วยภาพ
การรวมกลุ่ม
การแปลความหมายของการบวกในระดับเบื้องต้น สามารถแสดงได้ด้วยการรวมกลุ่มวัตถุเข้าด้วยกัน นั่นคือ
- เมื่อวัตถุสองกลุ่มหรือมากกว่าเข้ามารวมกันเป็นกลุ่มเดียว จำนวนวัตถุในกลุ่มเดียวนั้นคือผลรวมของจำนวนวัตถุของแต่ละกลุ่มในตอนแรก
การแปลความหมายเช่นนี้สามารถแสดงให้เห็นได้ด้วยภาพ ซึ่งอาจจะมีความกำกวมบ้างเล็กน้อย ความหมายนี้มีประโยชน์ต่อคณิตศาสตร์ในระดับสูงขึ้นไป โดยเฉพาะการนิยามเป็นต้น อย่างไรก็ตามการอธิบายด้วยการรวมกลุ่มอาจให้ความหมายไม่ชัดเจน เมื่อขยายการบวกออกไปบนเศษส่วนหรือจำนวนลบเป็นอาทิ
หนทางหนึ่งที่เป็นไปได้ คือการพิจารณาว่ากลุ่มของวัตถุเหล่านั้นสามารถตัดแบ่งได้โดยง่าย เหมือนกับขนมพายหรือท่อนไม้ มากกว่าเพียงแค่การรวมกลุ่มของวัตถุเข้าด้วยกัน เราสามารถนำปลายของท่อนไม้มาต่อกัน เพื่อแสดงอีกแนวความคิดหนึ่งของการบวก นั่นคือการบวกไม่ได้นับที่จำนวนท่อนไม้ แต่หมายถึงความยาวรวมของท่อนไม้
การขยายความยาว
การแปลความหมายอย่างที่สองของการบวก มาจากการต่อความยาวขนาดเริ่มต้น ด้วยความยาวอีกขนาดหนึ่ง นั่นคือ
- เมื่อความยาวตั้งต้นถูกขยายโดยปริมาณที่ให้มา ความยาวสุดท้ายคือผลรวมของความยาวตั้งต้นกับความยาวของส่วนที่ขยายออกไป
ผลบวกของ a + b สามารถแปลผลได้ในฐานะของการดำเนินการทวิภาค (ในความคิดทางพีชคณิต) ว่าเป็นการประสานกันระหว่าง a กับ b หรือหมายถึงการเพิ่มจาก a ไปเป็นจำนวน b สำหรับภายใต้การแปลความหมายอย่างหลัง ส่วนต่างๆ ของผลบวก a + b จึงมีบทบาทโดยไม่สมมาตร อาจมองได้ว่าเป็นการดำเนินการเอกภาค "+b" บน a และกรณีเช่นนี้จะถือว่า a เป็นตัวตั้งบวก แทนที่จะเป็นตัวบวกทั้งคู่ การมองให้เป็นการดำเนินการเอกภาคมีประโยชน์สำหรับอธิบายการลบ เพราะว่าการบวกแบบเอกภาคเป็นตัวผกผัน (inverse) ของการลบแบบเอกภาค และในทางกลับกันด้วย887
สมบัติ
การสลับที่
การบวกมีสมบัติการสลับที่ หมายความว่าเราสามารถสลับเปลี่ยนจำนวนที่อยู่ข้างซ้ายและขวาของเครื่องหมายบวกได้ โดยผลลัพธ์ยังคงเดิม สมมติให้ a และ b เป็นจำนวนสองจำนวนใดๆ แล้ว
- a + b = b + a
ข้อเท็จจริงว่าการบวกสามารถสลับที่ได้ รู้จักกันว่าเป็น "กฎการสลับที่ของการบวก" วลีนี้ได้ชี้นำว่า ยังมีกฎการสลับที่อื่น ๆ อีก ตัวอย่างเช่น กฎการสลับที่ของการคูณเป็นต้น อย่างไรก็ตามการดำเนินการทวิภาคหลายชนิดก็ไม่มีสมบัติการสลับที่ อาทิการลบ และการหาร จึงนำไปสู่ความเข้าใจผิดเมื่อกล่าวถึงกฎการสลับที่โดยไม่ระบุให้ชัดเจน
การเปลี่ยนหมู่
การบวกมีสมบัติการเปลี่ยนหมู่ หมายความว่าเมื่อบวกจำนวนสามจำนวนขึ้นไป ลำดับของการดำเนินการจะไม่สำคัญ
ตัวอย่างเช่น ควรนิยามนิพจน์ a + b + c ว่าหมายถึง (a + b) + c หรือ a + (b + c) ในเมื่อการบวกสามารถเปลี่ยนหมู่ได้ ดังนั้นตัวเลือกทั้งสองจึงไม่สำคัญ สำหรับจำนวนสามจำนวนใด ๆ a, b, c เป็นจริงว่า (a + b) + c = a + (b + c) ตัวอย่างเช่น (1 + 2) + 3 = 3 + 3 = 6 = 1 + 5 = 1 + (2 + 3)
เมื่อใช้การบวกร่วมกับการดำเนินการอื่น ๆ ลำดับของการดำเนินการจะเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับลำดับมาตรฐานของการดำเนินการ การบวกจะสำคัญน้อยกว่าการยกกำลัง รากที่ n การคูณ และการหาร แต่สำคัญเท่ากับการลบ
สมาชิกเอกลักษณ์
เมื่อบวกศูนย์เข้ากับจำนวนใด ๆ ปริมาณที่ได้จะไม่เปลี่ยนแปลง ศูนย์เป็นสมาชิกเอกลักษณ์ของการบวก หรือเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์การบวก สำหรับค่า a ใดๆ จะได้ว่า
- a + 0 = 0 + a = a
กฎนี้ปรากฏเป็นครั้งแรกในตำรา (Brahmasphuta-siddhanta) เขียนโดย (Brahmagupta) เมื่อ ค.ศ. 628 ถึงแม้ว่าเขาจะเขียนกฎนี้แยกออกมาเป็นสามข้อ ขึ้นอยู่กับ a ว่าเป็นจำนวนลบ จำนวนบวก หรือเป็นศูนย์ และเขาใช้ถ้อยคำอธิบายแทนการใช้สัญลักษณ์ ในเวลาต่อมา นักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียได้เรียบเรียงแนวความคิดนั้นเสียใหม่เมื่อประมาณ ค.ศ. 830 โดยเขียนไว้ว่า "ศูนย์จะทำให้ตัวอะไรก็ตามที่บวกเข้ามามีค่าเช่นเดิม" เทียบเท่าได้กับการดำเนินการเอกภาค 0 + a = a ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ก็ได้เขียนเอาไว้ว่า "ในการบวกด้วยตัวศูนย์ หรือการลบ ปริมาณทั้งจำนวนบวกและจำนวนลบจะคงค่าเดิม" เทียบเท่าได้กับการดำเนินการเอกภาค a + 0 = a
ตัวตามหลัง
เมื่อกล่าวถึงจำนวนเต็ม การบวกด้วยหนึ่งยังมีบทบาทพิเศษ กล่าวคือ สำหรับจำนวนเต็ม a ใด ๆ แล้ว จำนวนเต็ม (a + 1) เป็นจำนวนเต็มที่น้อยที่สุดที่มากกว่า a เรียกว่าเป็นของ a ตัวอย่างเช่น 3 เป็นตัวตามหลังของ 2 และ 7 คือตัวตามหลังของ 6 เนื่องด้วยตัวตามหลังนี้ ค่าของ a + b ใด ๆ สามารถมองว่าเป็นตัวตามหลังลำดับที่ b ของ a ทำให้การบวกกลายเป็นการตามหลังแบบวนซ้ำ ตัวอย่างเช่น 6 + 2 คือ 8 เพราะ 8 เป็นตัวตามหลังของ 7 ซึ่งก็เป็นตัวตามหลังของ 6 อีกทีหนึ่ง ทำให้ 8 เป็นตัวตามหลังลำดับที่ 2 ของ 6
หน่วย
ในการบวกปริมาณทางกายภาพซึ่งมีหน่วยวัดกำกับอยู่ ปริมาณเหล่านั้นจะต้องอยู่ในหน่วยเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ระยะความยาว 5 ฟุต หากถูกขยายออกไปอีก 2 นิ้ว ผลบวกของความยาวคือ 62 นิ้ว เนื่องจากความยาว 60 นิ้วมีความหมายเหมือนกับความยาว 5 ฟุต ในอีกทางหนึ่ง หน่วยที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ก็จะไม่สามารถรวมกันได้ เช่นการบวกระยะทาง 3 เมตรกับพื้นที่ 4 ตารางเมตร การบวกเช่นนี้จะไร้ความหมาย การพิจารณาดังกล่าวนี้เป็นรากฐานของ (dimensional analysis)
ผลบวกของลำดับ
ถ้าพจน์แต่ละพจน์ของผลบวกไม่ได้เขียนออกมาทั้งหมด เราอาจจะใช้เครื่องหมายจุดไข่ปลาแทนพจน์ที่หายไป เช่นเดียวกับการดำเนินการอื่น ๆ (เช่น การคูณ) เช่น ผลรวมของจำนวนธรรมชาติ ตั้งแต่ 1-100 อาจเขียน
นอกจากนี้แล้ว ผลบวกหรือผลรวมยังสามารถเขียนได้ด้วยเครื่องหมายผลรวม ซึ่งมาจากอักษรกรีกซิกมาตัวใหญ่ Σ ซึ่งนิยามการใช้ไว้ว่า
ตัวอย่างเช่น
ถึงแม้ว่าชื่อของตัวแปรดัชนีจะไม่มีความสำคัญ เรามักจะใช้อักษรละตินช่วงกลาง (i ไปถึง q) เพื่อใช้แสดงจำนวนเต็มถ้าหากเกิดความสับสนขึ้น
บางครั้งเราอาจพบการเขียนแบบไม่เป็นทางการ โดยการตัดดัชนีและขอบเขตของผลรวมออกไป เมื่อสิ่งเหล่านี้ได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนแล้วในบริบท เช่น
- จะมีความหมายเทียบเท่ากับ
หรืออาจพบรูปแบบการใส่เงื่อนไขทางตรรกะลงไปแทน ซึ่งผลรวมนั้นตั้งใจที่จะบวกค่าที่ตรงตามเงื่อนไขเข้าด้วยกันทั้งหมด ตัวอย่างเช่น
คือผลรวมของ f (k) บนทุกจำนวนเต็ม k ที่อยู่ในช่วงดังกล่าว
คือผลรวมของ f (x) บนทุกสมาชิก x ในเซต S และ
คือผลรวมของ μ (d) บนทุกจำนวนเต็ม d ที่หาร n ได้ลงตัว เป็นต้น
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกทางหนึ่งเพื่อนำเสนอแทนการใช้สัญลักษณ์ผลรวมจำนวนมาก เราอาจยุบเข้าด้วยกันได้ เช่น
- จะมีความหมายเหมือนกับ
อ้างอิง
- From Enderton (p.138): "...select two sets K and L with card K = 2 and card L = 3. Sets of fingers are handy; sets of apples are preferred by textbooks."
- D. Devine, J. Olson, and M. Olson (1991). Elementary mathematics for teachers (2e ed.). . ISBN .
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Schwartzman, Steven (1994). The words of mathematics: An etymological dictionary of mathematical terms used in English. . ISBN .
- ดูที่ บทความนี้ สำหรับตัวอย่างของความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการรวมกลุ่มของ "ภาวะเชิงการนับเศษส่วน" (fractional cardinality)
- (2001). . . ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-08. สืบค้นเมื่อ 2009-03-09.
- "Order of Operations Lessons". Algebra.Help. สืบค้นเมื่อ 5 March 2012.
- Kaplan, Robert (2000). The nothing that is: A natural history of zero. Oxford UP. ISBN .
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- การบวก
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karbwk mkaethndwyekhruxnghmaybwk khuxhnunginkardaeninkarthangkhnitsastrkhxngelkhkhnitmulthan nxkcakkarbwkyngmikarlb karkhun aelakarhar karbwkcanwnsxngcanwnkhuxphlrwmkhxngprimansxngprimanrwmkn twxyangechn inphaphdankhwaepnkarrwmaexpepil 3 phlkbaexpepil 2 phlekhadwykn hlayepnaexpepil 5 phl dngnncungehmuxnkbwamiaexpepil 5 phl karkrathaechnniethiybethakbniphcnthangkhnitsastrwa 3 2 5 hmaykhwamwa 3 bwk 2 ethakb 5 epntnaexpepil 3 2 5 phl twxyangthiepnthiniymintaraeriynhlayelm nxkcakkarnbphlimaelw karbwksamarthichaethnkarrwmwtthuxun karbwksamarthniyamdwysmbtithiepnnamthrrmmakkhun echn canwnetm canwntrrkya canwncring canwnechingsxn aelawtthunamthrrmxun echn ewketxr aelaemthriks l inelkhkhnitmikdkhxngkarbwkthiekiywkb aelacanwnlbaelacanwnimepnlb thukkhidkhnkhunihm inthangphichkhnit karsuksakarbwknnepnipinechingnamthrrmmakkhun karbwkmismbtithisakhyhlayprakar karbwkmi hmaykhwamwaladbimsakhy aelami hmaykhwamwaemuxcanwnhnungbwkkbcanwnmakkwasxngcanwn ladbinkarbwkkxnhlngnnimsakhy du phlrwm karbwk 1 sa mikhwamhmayehmuxnkarnb karbwkdwy 0 caimthaihcanwnepliynaeplng karbwkyngsamarthkhlxytamkdthithanayidkhxngkardaeninkarxun idaek karlb aelakarkhun karbwkcanwnnxy samartheriynruidtngaetwyedkhdedin edktharkxayuhaeduxn aelaaemkrathngstwbangchnidksamarthkhanwnnganphunthanthisudxyang 1 1 id inradbprathmsuksa nkeriyncaideriynrukarbwkcanwninrabbelkhthansib odyerimtncakelkhhlkediyw aelaphthnakaraekpyhathiyakkhun ekhruxngmuxchwykhanwnkarbwkkaetktangkniptngaetlukkhidobrancnipthungkhxmphiwetxrsmyihm sungyngminganwicyeruxngwithikarbwkthimiprasiththiphaphmakthisuderuxymathungthukwnnisykrnaelasphthwithyaekhruxnghmaybwk pktikarbwkekhiynaethndwyekhruxnghmaybwk isiwrahwangphcnaebb phllphthkhxngkarbwkcathukaesdngdwyekhruxnghmayethakb twxyangechn 1 1 2 xanwa hnungbwkhnungethakbsxng 2 2 4 5 4 2 11 3 3 3 3 12 duephimthi karkhun dd karbwktamaenwtng 5 12 17 aetkmibangsthankarnthisamarththaihekhaicidwaepnkarbwk aemcaimmiekhruxnghmaybwkxyuktam twxyangechn canwntwelkhthieriyngkntamaenwtng sungbrrthdlangsudmikhidesnit pktiaelwcanwncathukcdwangihtrnghlktamaenwtngephuxbwkekhadwykn aelaphlbwkcaekhiyniwthiitcanwnsudthaynn canwnetmthiekhiyntxdwyessswnthnthi caihphlhmaythungsxngcanwnnnbwkkneriykwa canwnkhla mixed number echn 3 3 3 5 aetsykrnechnnixacthaihekidkhwamsbsnkbkarkhunthiimaesdngekhruxnghmay juxtaposition thimiichinbribthxun canwnhruxwtthuthicabwkekhadwyknodythwiperiykwa phcn term twbwk addend hrux swnkhxngphlbwk summand sungsphthkhasudthayninaipichxthibayphlrwmkhxngphcnthiepnphhukhun phuaetngtarabangthaneriyktwbwkcanwnaerkwa twtngbwk augend enuxngcakkhxethccringinchwngyukhfunfusilpwithya phuaetngtarahlaythanimnbwacanwnaerkinkarbwkepn twbwk aetinthukwnnikhawa twtngbwk mikarichnxy aelathngsxngkhakhmaythungtwbwkidehmuxnknkaraeplkhwamhmaykarbwkichsahrbcalxngkrabwnkarthangkayphaphidxyangnbimthwn aemaetkrnithingaythisudkhxngkarbwkcanwnthrrmchati kmikaraeplkhwamhmaythiepnipidmakmay rwmipthungkarnaesnxdwyphaph karrwmklum 3 2 5 karaeplkhwamhmaykhxngkarbwkinradbebuxngtn samarthaesdngiddwykarrwmklumwtthuekhadwykn nnkhux emuxwtthusxngklumhruxmakkwaekhamarwmknepnklumediyw canwnwtthuinklumediywnnkhuxphlrwmkhxngcanwnwtthukhxngaetlaklumintxnaerk karaeplkhwamhmayechnnisamarthaesdngihehniddwyphaph sungxaccamikhwamkakwmbangelknxy khwamhmaynimipraoychntxkhnitsastrinradbsungkhunip odyechphaakarniyamepntn xyangirktamkarxthibaydwykarrwmklumxacihkhwamhmayimchdecn emuxkhyaykarbwkxxkipbnessswnhruxcanwnlbepnxathi hnthanghnungthiepnipid khuxkarphicarnawaklumkhxngwtthuehlannsamarthtdaebngidodyngay ehmuxnkbkhnmphayhruxthxnim makkwaephiyngaekhkarrwmklumkhxngwtthuekhadwykn erasamarthnaplaykhxngthxnimmatxkn ephuxaesdngxikaenwkhwamkhidhnungkhxngkarbwk nnkhuxkarbwkimidnbthicanwnthxnim aethmaythungkhwamyawrwmkhxngthxnim karkhyaykhwamyaw 2 4 6 karaeplkhwamhmayxyangthisxngkhxngkarbwk macakkartxkhwamyawkhnaderimtn dwykhwamyawxikkhnadhnung nnkhux emuxkhwamyawtngtnthukkhyayodyprimanthiihma khwamyawsudthaykhuxphlrwmkhxngkhwamyawtngtnkbkhwamyawkhxngswnthikhyayxxkip phlbwkkhxng a b samarthaeplphlidinthanakhxngkardaeninkarthwiphakh inkhwamkhidthangphichkhnit waepnkarprasanknrahwang a kb b hruxhmaythungkarephimcak a ipepncanwn b sahrbphayitkaraeplkhwamhmayxyanghlng swntang khxngphlbwk a b cungmibthbathodyimsmmatr xacmxngidwaepnkardaeninkarexkphakh b bn a aelakrniechnnicathuxwa a epntwtngbwk aethnthicaepntwbwkthngkhu karmxngihepnkardaeninkarexkphakhmipraoychnsahrbxthibaykarlb ephraawakarbwkaebbexkphakhepntwphkphn inverse khxngkarlbaebbexkphakh aelainthangklbkndwy887smbtikarslbthi 4 2 2 4 xthibaydwyklxngsiehliym karbwkmismbtikarslbthi hmaykhwamwaerasamarthslbepliyncanwnthixyukhangsayaelakhwakhxngekhruxnghmaybwkid odyphllphthyngkhngedim smmtiih a aela b epncanwnsxngcanwnid aelw a b b a dd khxethccringwakarbwksamarthslbthiid ruckknwaepn kdkarslbthikhxngkarbwk wliniidchinawa yngmikdkarslbthixun xik twxyangechn kdkarslbthikhxngkarkhunepntn xyangirktamkardaeninkarthwiphakhhlaychnidkimmismbtikarslbthi xathikarlb aelakarhar cungnaipsukhwamekhaicphidemuxklawthungkdkarslbthiodyimrabuihchdecn karepliynhmu 2 1 3 2 1 3 karbwkmismbtikarepliynhmu hmaykhwamwaemuxbwkcanwnsamcanwnkhunip ladbkhxngkardaeninkarcaimsakhy twxyangechn khwrniyamniphcn a b c wahmaythung a b c hrux a b c inemuxkarbwksamarthepliynhmuid dngnntweluxkthngsxngcungimsakhy sahrbcanwnsamcanwnid a b c epncringwa a b c a b c twxyangechn 1 2 3 3 3 6 1 5 1 2 3 emuxichkarbwkrwmkbkardaeninkarxun ladbkhxngkardaeninkarcaepnsingsakhy sahrbladbmatrthankhxngkardaeninkar karbwkcasakhynxykwakarykkalng rakthi n karkhun aelakarhar aetsakhyethakbkarlb smachikexklksn 5 0 5 emuxbwksunyekhakbcanwnid primanthiidcaimepliynaeplng sunyepnsmachikexklksnkhxngkarbwk hruxeriykidwaepnexklksnkarbwk sahrbkha a id caidwa a 0 0 a a dd kdnipraktepnkhrngaerkintara Brahmasphuta siddhanta ekhiynody Brahmagupta emux kh s 628 thungaemwaekhacaekhiynkdniaeykxxkmaepnsamkhx khunxyukb a waepncanwnlb canwnbwk hruxepnsuny aelaekhaichthxykhaxthibayaethnkarichsylksn inewlatxma nkkhnitsastrchawxinediyideriyberiyngaenwkhwamkhidnnesiyihmemuxpraman kh s 830 odyekhiyniwwa sunycathaihtwxairktamthibwkekhamamikhaechnedim ethiybethaidkbkardaeninkarexkphakh 0 a a inkhriststwrrsthi 12 kidekhiynexaiwwa inkarbwkdwytwsuny hruxkarlb primanthngcanwnbwkaelacanwnlbcakhngkhaedim ethiybethaidkbkardaeninkarexkphakh a 0 a twtamhlng emuxklawthungcanwnetm karbwkdwyhnungyngmibthbathphiess klawkhux sahrbcanwnetm a id aelw canwnetm a 1 epncanwnetmthinxythisudthimakkwa a eriykwaepnkhxng a twxyangechn 3 epntwtamhlngkhxng 2 aela 7 khuxtwtamhlngkhxng 6 enuxngdwytwtamhlngni khakhxng a b id samarthmxngwaepntwtamhlngladbthi b khxng a thaihkarbwkklayepnkartamhlngaebbwnsa twxyangechn 6 2 khux 8 ephraa 8 epntwtamhlngkhxng 7 sungkepntwtamhlngkhxng 6 xikthihnung thaih 8 epntwtamhlngladbthi 2 khxng 6 hnwy inkarbwkprimanthangkayphaphsungmihnwywdkakbxyu primanehlanncatxngxyuinhnwyediywkn twxyangechn rayakhwamyaw 5 fut hakthukkhyayxxkipxik 2 niw phlbwkkhxngkhwamyawkhux 62 niw enuxngcakkhwamyaw 60 niwmikhwamhmayehmuxnkbkhwamyaw 5 fut inxikthanghnung hnwythiimsamarthepriybethiybknidkcaimsamarthrwmknid echnkarbwkrayathang 3 emtrkbphunthi 4 tarangemtr karbwkechnnicairkhwamhmay karphicarnadngklawniepnrakthankhxng dimensional analysis phlbwkkhxngladbthaphcnaetlaphcnkhxngphlbwkimidekhiynxxkmathnghmd eraxaccaichekhruxnghmaycudikhplaaethnphcnthihayip echnediywkbkardaeninkarxun echn karkhun echn phlrwmkhxngcanwnthrrmchati tngaet 1 100 xacekhiyn 1 2 99 100 displaystyle 1 2 cdot cdots cdot 99 100 nxkcakniaelw phlbwkhruxphlrwmyngsamarthekhiyniddwyekhruxnghmayphlrwm sungmacakxksrkriksikmatwihy S sungniyamkarichiwwa i mnxi xm xm 1 xm 2 xn 1 xn displaystyle sum i m n x i x m x m 1 x m 2 cdots x n 1 x n dd twxyangechn k 26k2 22 32 42 52 62 90 displaystyle sum k 2 6 k 2 2 2 3 2 4 2 5 2 6 2 90 dd thungaemwachuxkhxngtwaeprdchnicaimmikhwamsakhy eramkcaichxksrlatinchwngklang i ipthung q ephuxichaesdngcanwnetmthahakekidkhwamsbsnkhun bangkhrngeraxacphbkarekhiynaebbimepnthangkar odykartddchniaelakhxbekhtkhxngphlrwmxxkip emuxsingehlaniidxthibayiwxyangchdecnaelwinbribth echn xi2 displaystyle sum x i 2 camikhwamhmayethiybethakb i 1nxi2 displaystyle sum i 1 n x i 2 dd hruxxacphbrupaebbkarisenguxnikhthangtrrkalngipaethn sungphlrwmnntngicthicabwkkhathitrngtamenguxnikhekhadwyknthnghmd twxyangechn 0 k lt 100f k displaystyle sum 0 leq k lt 100 f k dd khuxphlrwmkhxng f k bnthukcanwnetm k thixyuinchwngdngklaw x Sf x displaystyle sum x in S f x dd khuxphlrwmkhxng f x bnthuksmachik x inest S aela d nm d displaystyle sum d n mu d dd khuxphlrwmkhxng m d bnthukcanwnetm d thihar n idlngtw epntn nxkcaknikyngmixikthanghnungephuxnaesnxaethnkarichsylksnphlrwmcanwnmak eraxacyubekhadwyknid echn ℓ ℓ displaystyle sum ell ell camikhwamhmayehmuxnkb ℓ ℓ displaystyle sum ell sum ell dd xangxingFrom Enderton p 138 select two sets K and L with card K 2 and card L 3 Sets of fingers are handy sets of apples are preferred by textbooks D Devine J Olson and M Olson 1991 Elementary mathematics for teachers 2e ed ISBN 0 471 85947 8 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Schwartzman Steven 1994 The words of mathematics An etymological dictionary of mathematical terms used in English ISBN 0 88385 511 9 duthi bthkhwamni sahrbtwxyangkhxngkhwamsbsxnthiekiywkhxngkbkarrwmklumkhxng phawaechingkarnbessswn fractional cardinality 2001 ISBN 0 309 06995 5 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 06 08 subkhnemux 2009 03 09 Order of Operations Lessons Algebra Help subkhnemux 5 March 2012 Kaplan Robert 2000 The nothing that is A natural history of zero Oxford UP ISBN 0 19 512842 7 duephimkarnb phlrwm ekhruxnghmaybwkaelaekhruxnghmaylb ekhruxnghmayethakb elkhkhnitmxdularaehlngkhxmulxunkarbwk