ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ฟลูออรีน (อังกฤษ: fluorine) (จากภาษาละติน Fluere แปลว่า "ไหล") เป็นธาตุเคมีที่เป็นพิษและทำปฏิกิริยาได้มากที่สุด มีสัญลักษณ์ F และเลขอะตอม 9 เป็นธาตุแฮโลเจนที่เป็นเบาที่สุดและมีค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีมากที่สุด มักปรากฏอยู่ในรูปของแก๊สสีเหลืองที่ ธาตุนี้ทำปฏิกิริยาได้เกือบทุกธาตุรวมทั้งแก๊สมีสกุลบางตัว มีสมบัติเป็นอโลหะมากที่สุด (ถ้าไม่รวมแก๊สมีสกุล)
Liquid fluorine (F2 at ) | |||||||||||||||
ฟลูออรีน | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Pronunciation |
| ||||||||||||||
alpha, beta (see ) | |||||||||||||||
Appearance | เมื่ออยู่ในสถานะแก๊สจะมีสีเหลืองอ่อนมาก เมื่ออยู่ในสถานะของเหลวจะมีสีเหลืองเข้ม เมื่ออยู่ในของแข็งจะไม่มีสีและทึบขึ้นอยู่กับชนิดของของแข็ง | ||||||||||||||
Standard atomic weight Ar°(F) | |||||||||||||||
| |||||||||||||||
ฟลูออรีน in the periodic table | |||||||||||||||
| |||||||||||||||
Group | group 17 (halogens) | ||||||||||||||
Period | period 2 | ||||||||||||||
[He] 2s2 2p5 | |||||||||||||||
Electrons per shell | 2, 7 | ||||||||||||||
Physical properties | |||||||||||||||
at STP | gas | ||||||||||||||
Melting point | 53.48 K (−219.67 °C, −363.41 °F) | ||||||||||||||
Boiling point | 85.03 K (−188.11 °C, −306.60 °F) | ||||||||||||||
Density (at STP) | 1.696[4] g/L | ||||||||||||||
when liquid (at b.p.) | 1.505 g/cm3 | ||||||||||||||
53.48 K, 90 kPa | |||||||||||||||
144.41 K, 5.1724 MPa | |||||||||||||||
6.51[4] kJ/mol | |||||||||||||||
(Cp) (21.1 °C) 825 J·mol−1·K−1 (Cv) (21.1 °C) 610 J/(mol·K) | |||||||||||||||
| |||||||||||||||
Atomic properties | |||||||||||||||
−1, 0 (oxidizes oxygen) | |||||||||||||||
Electronegativity | Pauling scale: 3.98[7] | ||||||||||||||
calculated: 42 | |||||||||||||||
64 pm | |||||||||||||||
135 pm | |||||||||||||||
Spectral lines of ฟลูออรีน | |||||||||||||||
Other properties | |||||||||||||||
Natural occurrence | primordial | ||||||||||||||
มอโนคลินิกฐาน-กลาง สถานะแอลฟา (อุณหภูมิต่ำ) | |||||||||||||||
0.02591 W/(m⋅K) | |||||||||||||||
Magnetic ordering | diamagnetic, −1.2×10−4 (SI) | ||||||||||||||
7782-41-4[7] | |||||||||||||||
History | |||||||||||||||
Naming | ตามแร่ ตัวมันเองตั้งชื่อตามละตินว่า fluo (ไหล, ในการหลอม) | ||||||||||||||
อ็องเดร-มารี อ็องแปร์ (1810) | |||||||||||||||
First isolation | [7] (26 มิถุนายน 1886) | ||||||||||||||
Named by | ฮัมฟรี เดวี | ||||||||||||||
Template:infobox ฟลูออรีน isotopes does not exist | |||||||||||||||
ลักษณะ
ไอโซโทป
นิวเคลียสของฟลูออรีนประกอบด้วย 9 โปรตอน 9 นิวตรอน แต่ไอโซโทปที่เสถียรของฟลูออรีนนั้น คือ มีโปรตอน 10 โปรตอน ส่วนไอโซโทปของฟลูออรีนที่สังเคราะห์ขึ้นมี 17 ไอโซโทปมีมวลอะตอมตั้งแต่ 14–31 (ยกเว้น 19) ในบรรดาไอโซโทปเหล่านี้ ไอโซโทปที่เสถียรที่สุด คือ ด้วยครึ่งชีวิต 109.77 นาที ไอโซโทปที่มวลเบาส่วนใหญ่จะสลายตัวด้วยวิธีการจับยึดอิเล็กตรอน และฟลูออรีน-18 สลายตัวด้วย ส่วนไอโซโทปที่หนักกว่าฟลูออรีน–19 จะสลายด้วยวิธีการสลายให้อนุภาคบีตา
โครงสร้างอะตอม
อะตอมฟลูออรีนในธรรมชาติมี 9 อิเล็กตรอน มีอิเล็กตรอนน้อยกว่านีออนอยู่ 1 อิเล็กตรอน ดังในการจัดเรียงอิเล็กตรอนของฟลูออรีน [He] 2s2 2p5 อะตอมของฟลูออรีนมีรัศมีโควาเลนซ์เพียง 64 พิโกเมตร ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับอะตอมออกซิเจนและอะตอมนีออน
ของฟลูออรีนสูงเป็นอันดับ 2 ในคาบเดียวกัน คือมีพลังงานไอออไนเซชั่นลำดับที่ 1 1,681 กิโลจูล/โมล ซึ่งรองจากนีออนที่มีพลังไอออไนเซชั่นลำดับที่ 1 2,080 กิโลจูลต่อโมล แต่ในหมู่เดียวกันแล้วฟลูออรีนมีพลังงานไอออเนเซชันมากที่สุด ทำให้อิเล็กตรอนยากที่จะหลุดออกจากอะตอมฟลูออรีนแต่จะได้รับอิเล็กตรอนเข้ามาง่าย แต่ค่าสัมพรรคภาพอิเล็กตรอน (Electron Affinity)ของฟลูออรีนเป็นอันดับ 2 ซึ่งรองจากคลอรีนที่มีค่าสัมพรรคภาพอิเล็กตรอนอยู่ 352.4 แต่ฟลูออรีนมีค่านี้อยู่ 331.4 ส่วนค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีหรือสภาพไฟฟ้าลบของธาตุของฟลูออรีนมีมากที่สุดในบรรดาธาตุใด ๆ คือมีค่าเท่ากับ 4.0
โครงสร้างโมเลกุล
โมเลกุลของฟลูออรีนส่วนใหญ่จะเป็นรูปของ F2 หรือไดฟลูออไรด์ ของ F2 มีค่าน้อยกว่าพลังงานระหว่างพันธะของ Cl2 และ Br2 ถ้าฟลูออรีนไม่ได้อยู่เป็นคู่จะมีเป็นแม่เหล็กไดอะแมกเนติกแต่ถ้าอยู่กันเป็นคู่แล้วจะมีแม่เหล็กเป็น ซึ่งคล้ายกับออกซิเจนและไนโตรเจน
สถานะ
ฟลูออรีนมีสถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมิห้อง เป็นแก๊สที่มีสีเหลืองอ่อนฟลูออรีนบริสุทธิ์มีสีเหลืองอ่อนมาก ฟลูออรีนจะควบแน่นเป็นที่อุณหภูมิ -188 องศาเซลเซียส (-307 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ใกล้เคียงกับอุณหภูมิที่ออกซิเจนและไนโตรเจนควบแน่นเป็นของเหลว
ฟลูออรีนจะเป็นของแข็งได้ที่อุณหภูมิ -220 องศาเซลเซียส (-363 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งอะตอมฟลูออรีนในฟลูออรีนแข็งนี้จะจัดเรียงเป็นรูปลูกบาศก์ หรือที่เรียกว่าบีตา–ฟลูออรีน ในสถานะนี้ฟลูออรีนจะมีลักษณะเป็นของแข็งโปร่งใสและนุ่ม ในอุณหภูมิ -228 องศาเซลเซียส (-378 องศาฟาเรนไฮต์) ฟลูออรีนจะสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งไปเป็นของแข็งโดยที่โครงสร้างคริสตัลจะเปลี่ยนไปเท่านั้นคือเป็นมอโนคลินิกหรือที่เรียกว่าแอลฟา–ฟลูออรีน ซึ่งจะมีสีทึบและยากที่จะปิดตัว พลังงานที่เปลี่ยนโครงสร้างคริสตัลนี้มากกว่าพลังงานที่ใช้เปลี่ยนสถานะที่จุดหลอมเหลวและสามารถจะรุนแรงขึ้นไปอีก ในปกติ ฟลูออรีนแข็งค่อนข้างที่จะคล้ายกับออกซิเจนแข็งมากกว่าธาตุในหมู่แฮโลเจนที่อยู่ในสถานะของแข็ง
การเกิดปฏิกิริยาเคมี
ฟลูออรีนเมื่อเกิดปฏิกิริยาแล้วบ่อยครั้งที่จะเกิดอย่างฉับพลันหรือเกิดระเบิดขึ้น สารหลายอย่างที่ถือว่าโดยทั่วไปว่าเป็นปฏิกิริยาทางเคมีเช่นผงเหล็ก เศษแก้วและใยหิน เส้นใยนี้เกิดปฏิกิริยากับฟลูออรีนเย็นได้ง่าย น้ำและไม้สามารถถูกเผาไฟได้โดยนำไปใกล้กับฟลูออรีนโดยที่ไม่ต้องมีจุดประกายไฟ
วิดีโอหลายคลิปจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
Bright flames during fluorine reactions | |
Fluorine reacting with caesium |
ฟลูออรีนได้ถูกนำไปใช้ในการเกิดสารประกอบของแก๊สมีสกุลโดยที่ฟลูออรีนทำปฏิกิริยากับแพลตทินัม แพลเลเดียม หรือเหล็กเกิดเป็น PtF6 PdF6 FeF6 แล้วนำไปใช้เป็นที่สามารถดึงอิเล็กตรอนของแก๊สมีสกุลแล้วให้ความร้อน ดังสมการ
Xe + PtF6(g) → [Xe+][(PtF6)-]
การปรากฏ
เอกภพ
เอกภพมีฟลูออรีนเป็นส่วนประกอบที่ 40 ส่วนในพันล้านส่วน ฟลูออรีนเป็นที่คาดกันว่าจะเป็นธาตุที่พบมากที่สุดเป็นอันดับที่ 24 ในเอกภพ มันเป็นธาตุเบาที่หายาก (ธาตุที่เบากว่ามีแนวโน้มที่จะพบมาก) ธาตุทั้งหมดตั้งแต่ ธาตุที่ 6–14 ยกเว้นธาตุที่ 11 มีในเอกภพมากกว่าฟลูออรีน 100–1,000 เท่า ในลำดับการทำปฏิกิริยาฟิวชันบนดาวฤกษ์จะผลิต ออกซิเจน คาร์บอน นีออน และอื่น ๆ โดยที่ไม่มีฟลูออรีนผลิตออกมา ถึงจะผลิตได้แต่มันจะถูกทำลายอย่างรวดเร็วโดยปฏิกิริยาฟิวชันอื่น ๆ
โลก
ฟลูออรีนเป็นธาตุลำดับที่ 13 ตามธาตุที่พบมากในเปลือกโลก ในเปลือกโลกประกอบไปด้วยฟลูออรีน 600–700 ส่วนในล้านส่วน โดยมวล ส่วนใหญ่แล้วจะพบฟลูออรีนในรูปของสารประกอบ ซึ่งเป็นแร่ แร่ที่สำคัญที่มีฟลูออรีน ได้แก่
- แร่ฟลูออไรต์ – (CaF2) หรือ เป็นแหล่งที่มาหลักของฟลูออรีนในเชิงพาณิชย์ ฟลูออไรต์นี้พบได้ทั่วโลก ประเทศจีนเป็นประเทศที่ต้องการแร่นี้มากกว่าครึ่งหนึ่งของความต้องการของโลก รองลงมาเป็น ประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถผลิตฟลูออไรต์ได้มากที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่เหมืองแร่แห่งสุดท้ายในรัฐอิลลินอยได้ถูกปิดลงในปี ค.ศ. 1995
- ฟลูออร์อะพาไทด์ – (Ca5(PO4)3F) และอะพาไทด์อื่นๆ ถูกขุดออกมาในปริมาณที่มากเนื่องจากอะพาไทด์จะถูกนำไปสกัดเอาฟอสฟอรัสมาทำปุ๋ยฟอสเฟต ฟลูออรีนบนโลกส่วนใหญ่อยู่ในแร่ชนิดนี้ แต่เศษของฟลูออรีนที่น้อยมาก (3.5 %) จะถูกทิ้งเป็นของเสีย มีแต่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่เก็บฟลูออรีนนี้ไว้เพื่อทำเฮกซะฟลูออโรซิลิเกต (SiF6) เพื่อใช้ในการจัดหาน้ำโดยการฟลูออไรเดชั่น
- ไครโอไลต์ – (Na3AlF6) เป็นที่มีแร่ที่มีฟลูออรีนที่มีในโลกน้อยที่สุด แต่เดิมแร่นี้ใช้ในการผลิตอะลูมิเนียม เหมืองแร่เชิงพาณิชย์หลักที่ชายฝั่งตะวันตกของกรีนแลนด์ได้ถูกปิดลงในปี ค.ศ. 1987
แร่หลักที่มีฟลูออรีนเป็นส่วนประกอบ | ||
ฟลูออไรต์ | ฟลูออร์อะพาไทด์ | ไครโอไลต์ |
นอกจากนี้ยังมีแร่อื่น ๆ อีกเช่น พลอย บุษราคัม อยู่ในรูปของ ฟลูออไรด์นั้นพบในน้ำทะเลซึ่งต่างจากอื่น ๆ เพราะโลหะแอลคาไลน์เอิร์ทจะตกตะกอนเมื่อนำมันออกจากน้ำ ฟลูออรีนนั้นยังถูกพบในขณะที่ภูเขาไฟระเบิดและจากน้ำพุร้อนใต้ดิน จุดกำเนิดของฟลูออรีนที่ดีที่สุดนี้นยังไม่แน่ชัด
สารประกอบ
ฟลูออรีนส่วนใหญ่มี -1 เพราะฟลูออรีนขาดอิเล็กตรอนอีก 1 ก็จะเกิดความเสถียร ดั้งนั้นฟลูออรีนจึงเกิดสารประกอบกับโลหะแอลคาไลและธาตุที่มีเลขออกซิเดชั่น +1 ได้ง่าย
ไฮโดรเจนฟลูออไรด์
ฟลูออรีนเกิดปฏิกิรยากับไอโดรเจนเกิดเป็นสารประกอบที่เรียกว่า ไฮโดรเจนฟลูออไรด์ (HF) หรือที่มันละลายน้ำแล้วจะเป็นกรดไฮโดรฟลูออริก (H+F) จุดเดือดของไฮโดรเจนฟลูออไรด์สูงกว่าไฮโดรเจนแฮไลด์อื่น ๆ เช่นเดียวกับไดไฮโดรเจนออกไซด์ ที่มีจุดเดือดสูงกว่า
ในสารละลายน้ำ ไฮโดรเจนฟลูออไรด์เป็นกรดอ่อน ในขณะที่ไฮโดรแฮลิกอื่น ๆ เป็นกรดแก่ กรดไฮโดรฟลูออริกนำไปใช้เป็นงานศิลปะที่ทำโดยกระจกเพื่อใช้ให้มันกัดกระจก
สารประกอบกับแก๊สมีสกุล
สารประกอบแรกที่เกิดสารประกอบฟลูออรีนกับแก๊สมีสกุลคือ ต่อมาก็สามารถสร้างสารประกอบที่มีฟลูออรีน 2 อะตอมได้คือ แล้วคาดว่าจะเกิดกับซีนอนและคริปทอนได้ ส่วนสารประกอบที่เกิดขึ้นกับแก๊สมีสกุลที่เบากว่าจะสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว และจะเกิดขึ้นในสภาพที่มีความดันสูง อุณหภูมิต่ำ เช่น (ArHF6) และ (HeHF6) ส่วนนีออนนั้นยังไม่พบสารประกอบกับฟลูออรีน
การนำไปใช้ประโยชน์
- โซเดียมฟลูออไรด์ ใช้ปริมาณเล็กน้อยเติมลงในยาสีฟัน จะทำให้แคลเซียมที่ผิวฟันแปลงสภาพเป็นแคลเซียมฟลูออไรด์ที่ไม่ละลายน้ำ และป้องกันฟันผุได้
- กรดไฮโดรฟลูออริก หรือกรดกัดแก้ว ใช้ในงานศิลปะเพื่อกัดกระจกให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ตามที่ต้องการ
ความอันตราย
ฟลูออรีนนั้นมีความอันตรายสูงมากถ้ามันบริสุทธิ์ มันจะทำให้เกิดรอยไหม้เหมือนโดนผิวหนัง เมื่อมีปริมาณ 25 ส่วนในล้านส่วนมันจะสามารถทำร้ายดวงตา ทางเดินหายใจ ปอดรวมถึงตับและไตด้วย ถ้ามีปริมาณ 100 ส่วนในล้านส่วนจะทำให้ตาและจมูกของมนุษย์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เชิงอรรถ
- Exact comparison of the sizes of fluorine, oxygen and neon atoms is not possible because of conflicting estimates from different sources.
- For more detail, see explanation by Jim Clark.
รายการอ้างอิง
- "Standard Atomic Weights: Fluorine". . 2021.
- Jaccaud et al. 2000, p. 381.
- Haynes, William M., บ.ก. (2011). (92nd ed.). . p. 4.121. ISBN .
- Aigueperse et al. 2005, "Fluorine", p. 2.
- Compressed Gas Association (1999). Handbook of compressed gases. Springer. p. 365. ISBN .
- Himmel, D.; Riedel, S. (2007). "After 20 Years, Theoretical Evidence That 'AuF7' Is Actually AuF5·F2". Inorganic Chemistry. 46 (13). 5338–5342. doi:10.1021/ic700431s.
- Aigueperse et al. 2005, "Fluorine", p. 1.
- Dean 1999, p. 4.35.
- Kim, Sung-Hoon (2006). Functional dyes. Elsevier. p. 257. ISBN .
- Young, David A. (1975). Phase Diagrams of the Elements (Report). Springer. p. 10. สืบค้นเมื่อ 10 June 2011.
- Yaws & Braker 2001, p. 385.
- Mackay, Mackay & Henderson 2002, p. 72.
- Cheng, H.; Fowler, D. E.; Henderson, P. B.; Hobbs, J. P.; Pascaloni, M. R. (1999). "On the magnetic susceptibility of fluorine". Journal of Physical Chemistry A. 103 (15): 2861–2866. doi:10.1021/jp9844720.
- Dean 1999, p. 4.6.
- Chiste, V. (2006). "F-18" (PDF). Table de radionucleides. Laboratoire National Henri Becquerel. สืบค้นเมื่อ 15 June 2011.
{{}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) ((help)) - Jaccaud et al. 2005, p. 1.
- Cordero et al. 2008 .
- Pyykkö & Atsumi 2009 .
- Dean 1999, p. 564.
- Lide 2004, pp. 10.137–10.138.
- Moore, Stanitski & Jurs 2010, p. 156 .
- Jaccaud et al. 2005, p. 2.
- Burdon, Emson & Edwards 1987 .
- Dean 1999, p. 523.
- Barrett, Meyer & Wasserman 1967 .
- Nelson 1947 .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCrosswell
- Handbook of Isotopes in the Cosmos: Hydrogen to Gallium; Donald Clayton; pages 101-104
- Jaccaud et al. 2005, p. 4.
- Greenwood & Earnshaw 1998, p. 795.
- Villalba, Ayres & Schroder 2008 .
- Kelly 2005 .
- Lusty et al. 2008 .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อKGS fluorite terminology
- Gribble 2002 .
- Pauling 1960, pp. 454–464 .
- Atkins & Jones 2007, pp. 184–185 .
- Emsley 1981 .
- Wiberg, Wiberg & Holleman 2001, p. 425.
- Clark, Jim (2002). "The acidity of the hydrogen halides". สืบค้นเมื่อ 4 September 2011.
- Chambers & Holliday 1975, pp. 328–329 .
- TMH 2010, p. 15.22 .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud fluxxrin xngkvs fluorine cakphasalatin Fluere aeplwa ihl epnthatuekhmithiepnphisaelathaptikiriyaidmakthisud misylksn F aelaelkhxatxm 9 epnthatuaeholecnthiepnebathisudaelamikhaxielkothrenkatiwitimakthisud mkpraktxyuinrupkhxngaekssiehluxngthi thatunithaptikiriyaidekuxbthukthaturwmthngaeksmiskulbangtw mismbtiepnxolhamakthisud thaimrwmaeksmiskul fluxxrin 00FLiquid fluorine F2 at fluxxrinPronunciation ˈ f l ʊer iː n ˈ f l ɔːr iː n flor een alpha beta see Appearanceemuxxyuinsthanaaekscamisiehluxngxxnmak emuxxyuinsthanakhxngehlwcamisiehluxngekhm emuxxyuinkhxngaekhngcaimmisiaelathubkhunxyukbchnidkhxngkhxngaekhngStandard atomic weight Ar F 18 998403 162 0 000000 00518 998 0 001 abridged fluxxrin in the periodic tableHydrogen HeliumLithium Beryllium Boron Carbon Nitrogen Oxygen Fluorine NeonSodium Magnesium Aluminium Silicon Phosphorus Sulfur Chlorine ArgonPotassium Calcium Scandium Titanium Vanadium Chromium Manganese Iron Cobalt Nickel Copper Zinc Gallium Germanium Arsenic Selenium Bromine KryptonRubidium Strontium Yttrium Zirconium Niobium Molybdenum Technetium Ruthenium Rhodium Palladium Silver Cadmium Indium Tin Antimony Tellurium Iodine XenonCaesium Barium Lanthanum Cerium Praseodymium Neodymium Promethium Samarium Europium Gadolinium Terbium Dysprosium Holmium Erbium Thulium Ytterbium Lutetium Hafnium Tantalum Tungsten Rhenium Osmium Iridium Platinum Gold Mercury element Thallium Lead Bismuth Polonium Astatine RadonFrancium Radium Actinium Thorium Protactinium Uranium Neptunium Plutonium Americium Curium Berkelium Californium Einsteinium Fermium Mendelevium Nobelium Lawrencium Rutherfordium Dubnium Seaborgium Bohrium Hassium Meitnerium Darmstadtium Roentgenium Copernicium Nihonium Flerovium Moscovium Livermorium Tennessine Oganesson F Clxxksiecn fluxxrin nixxnGroupgroup 17 halogens Periodperiod 2 He 2s2 2p5Electrons per shell2 7Physical propertiesat STPgasMelting point53 48 K 219 67 C 363 41 F Boiling point85 03 K 188 11 C 306 60 F Density at STP 1 696 4 g Lwhen liquid at b p 1 505 g cm353 48 K 90 kPa144 41 K 5 1724 MPa6 51 4 kJ mol Cp 21 1 C 825 J mol 1 K 1 Cv 21 1 C 610 J mol K P Pa 1 10 100 1 k 10 k 100 kat T K 38 44 50 58 69 85Atomic properties 1 0 oxidizes oxygen ElectronegativityPauling scale 3 98 7 calculated 42 64 pm135 pmColor lines in a spectral rangeSpectral lines of fluxxrinOther propertiesNatural occurrenceprimordial mxonkhlinikthan klangmxonkhlinikthan klang crystal structure for fluxxrin sthanaaexlfa xunhphumita 0 02591 W m K Magnetic orderingdiamagnetic 1 2 10 4 SI 7782 41 4 7 HistoryNamingtamaer twmnexngtngchuxtamlatinwa fluo ihl inkarhlxm xxngedr mari xxngaepr 1810 First isolation 7 26 mithunayn 1886 Named byhmfri edwikTemplate infobox fluxxrin isotopes does not exist Category fluxxrin aek lksnaixosothp niwekhliyskhxngfluxxrinprakxbdwy 9 oprtxn 9 niwtrxn aetixosothpthiesthiyrkhxngfluxxrinnn khux mioprtxn 10 oprtxn swnixosothpkhxngfluxxrinthisngekhraahkhunmi 17 ixosothpmimwlxatxmtngaet 14 31 ykewn 19 inbrrdaixosothpehlani ixosothpthiesthiyrthisud khux dwykhrungchiwit 109 77 nathi ixosothpthimwlebaswnihycaslaytwdwywithikarcbyudxielktrxn aelafluxxrin 18 slaytwdwy swnixosothpthihnkkwafluxxrin 19 caslaydwywithikarslayihxnuphakhbita okhrngsrangxatxm xatxmfluxxrininthrrmchatimi 9 xielktrxn mixielktrxnnxykwanixxnxyu 1 xielktrxn dnginkarcderiyngxielktrxnkhxngfluxxrin He 2s2 2p5 xatxmkhxngfluxxrinmirsmiokhwaelnsephiyng 64 phiokemtr sungmikhnadiklekhiyngkbxatxmxxksiecnaelaxatxmnixxn okhrngsrangkhxngxatxmfluxxrin khxngfluxxrinsungepnxndb 2 inkhabediywkn khuxmiphlngnganixxxineschnladbthi 1 1 681 kiolcul oml sungrxngcaknixxnthimiphlngixxxineschnladbthi 1 2 080 kiolcultxoml aetinhmuediywknaelwfluxxrinmiphlngnganixxxeneschnmakthisud thaihxielktrxnyakthicahludxxkcakxatxmfluxxrinaetcaidrbxielktrxnekhamangay aetkhasmphrrkhphaphxielktrxn Electron Affinity khxngfluxxrinepnxndb 2 sungrxngcakkhlxrinthimikhasmphrrkhphaphxielktrxnxyu 352 4 aetfluxxrinmikhanixyu 331 4 swnkhaxielkothrenkatiwitihruxsphaphiffalbkhxngthatukhxngfluxxrinmimakthisudinbrrdathatuid khuxmikhaethakb 4 0 okhrngsrangomelkul omelkulkhxngfluxxrinswnihycaepnrupkhxng F2 hruxidfluxxird khxng F2 mikhanxykwaphlngnganrahwangphnthakhxng Cl2 aela Br2 thafluxxrinimidxyuepnkhucamiepnaemehlkidxaaemkentikaetthaxyuknepnkhuaelwcamiaemehlkepn sungkhlaykbxxksiecnaelainotrecn sthana fluxxrinmisthanaepnaeksthixunhphumihxng epnaeksthimisiehluxngxxnfluxxrinbrisuththimisiehluxngxxnmak fluxxrincakhwbaennepnthixunhphumi 188 xngsaeslesiys 307 xngsafaerniht sungepnxunhphumithiiklekhiyngkbxunhphumithixxksiecnaelainotrecnkhwbaennepnkhxngehlw fluxxrincaepnkhxngaekhngidthixunhphumi 220 xngsaeslesiys 363 xngsafaerniht sungxatxmfluxxrininfluxxrinaekhngnicacderiyngepnruplukbask hruxthieriykwabita fluxxrin insthananifluxxrincamilksnaepnkhxngaekhngoprngisaelanum inxunhphumi 228 xngsaeslesiys 378 xngsafaerniht fluxxrincasamarthepliynsthanacakkhxngaekhngipepnkhxngaekhngodythiokhrngsrangkhristlcaepliynipethannkhuxepnmxonkhlinikhruxthieriykwaaexlfa fluxxrin sungcamisithubaelayakthicapidtw phlngnganthiepliynokhrngsrangkhristlnimakkwaphlngnganthiichepliynsthanathicudhlxmehlwaelasamarthcarunaerngkhunipxik inpkti fluxxrinaekhngkhxnkhangthicakhlaykbxxksiecnaekhngmakkwathatuinhmuaeholecnthixyuinsthanakhxngaekhng karekidptikiriyaekhmi fluxxrinemuxekidptikiriyaaelwbxykhrngthicaekidxyangchbphlnhruxekidraebidkhun sarhlayxyangthithuxwaodythwipwaepnptikiriyathangekhmiechnphngehlk essaekwaelaiyhin esniyniekidptikiriyakbfluxxrineynidngay naaelaimsamarththukephaifidodynaipiklkbfluxxrinodythiimtxngmicudprakayif widioxhlaykhlipcakaehlngkhxmulphaynxkBright flames during fluorine reactionsFluorine reacting with caesium fluxxrinidthuknaipichinkarekidsarprakxbkhxngaeksmiskulodythifluxxrinthaptikiriyakbaephltthinm aephlelediym hruxehlkekidepn PtF6 PdF6 FeF6 aelwnaipichepnthisamarthdungxielktrxnkhxngaeksmiskulaelwihkhwamrxn dngsmkar Xe PtF6 g Xe PtF6 karpraktexkphph exkphphmifluxxrinepnswnprakxbthi 40 swninphnlanswn fluxxrinepnthikhadknwacaepnthatuthiphbmakthisudepnxndbthi 24 inexkphph mnepnthatuebathihayak thatuthiebakwamiaenwonmthicaphbmak thatuthnghmdtngaet thatuthi 6 14 ykewnthatuthi 11 miinexkphphmakkwafluxxrin 100 1 000 etha inladbkarthaptikiriyafiwchnbndawvkscaphlit xxksiecn kharbxn nixxn aelaxun odythiimmifluxxrinphlitxxkma thungcaphlitidaetmncathukthalayxyangrwderwodyptikiriyafiwchnxun olk fluxxrinepnthatuladbthi 13 tamthatuthiphbmakinepluxkolk inepluxkolkprakxbipdwyfluxxrin 600 700 swninlanswn odymwl swnihyaelwcaphbfluxxrininrupkhxngsarprakxb sungepnaer aerthisakhythimifluxxrin idaek aerfluxxirt CaF2 hrux epnaehlngthimahlkkhxngfluxxrininechingphanichy fluxxirtniphbidthwolk praethscinepnpraethsthitxngkaraernimakkwakhrunghnungkhxngkhwamtxngkarkhxngolk rxnglngmaepn praethsshrthxemrikasamarthphlitfluxxirtidmakthisudinchwngstwrrsthi 20 aetehmuxngaeraehngsudthayinrthxillinxyidthukpidlnginpi kh s 1995 fluxxrxaphaithd Ca5 PO4 3F aelaxaphaithdxun thukkhudxxkmainprimanthimakenuxngcakxaphaithdcathuknaipskdexafxsfxrsmathapuyfxseft fluxxrinbnolkswnihyxyuinaerchnidni aetesskhxngfluxxrinthinxymak 3 5 cathukthingepnkhxngesiy miaetinshrthxemrikaethannthiekbfluxxrinniiwephuxthaehksafluxxorsiliekt SiF6 ephuxichinkarcdhanaodykarfluxxiredchn ikhroxilt Na3AlF6 epnthimiaerthimifluxxrinthimiinolknxythisud aetedimaerniichinkarphlitxalumieniym ehmuxngaerechingphanichyhlkthichayfngtawntkkhxngkrinaelndidthukpidlnginpi kh s 1987aerhlkthimifluxxrinepnswnprakxbfluxxirt fluxxrxaphaithd ikhroxilt nxkcakniyngmiaerxun xikechn phlxy busrakhm xyuinrupkhxng fluxxirdnnphbinnathaelsungtangcakxun ephraaolhaaexlkhailnexirthcatktakxnemuxnamnxxkcakna fluxxrinnnyngthukphbinkhnathiphuekhaifraebidaelacaknaphurxnitdin cudkaenidkhxngfluxxrinthidithisudninyngimaenchdsarprakxbfluxxrinswnihymi 1 ephraafluxxrinkhadxielktrxnxik 1 kcaekidkhwamesthiyr dngnnfluxxrincungekidsarprakxbkbolhaaexlkhailaelathatuthimielkhxxksiedchn 1 idngay ihodrecnfluxxird fluxxrinekidptikiryakbixodrecnekidepnsarprakxbthieriykwa ihodrecnfluxxird HF hruxthimnlalaynaaelwcaepnkrdihodrfluxxrik H F cudeduxdkhxngihodrecnfluxxirdsungkwaihodrecnaehildxun echnediywkbidihodrecnxxkisd thimicudeduxdsungkwa insarlalayna ihodrecnfluxxirdepnkrdxxn inkhnathiihodraehlikxun epnkrdaek krdihodrfluxxriknaipichepnngansilpathithaodykrackephuxichihmnkdkrack sarprakxbkbaeksmiskul sarprakxbaerkthiekidsarprakxbfluxxrinkbaeksmiskulkhux txmaksamarthsrangsarprakxbthimifluxxrin 2 xatxmidkhux aelwkhadwacaekidkbsinxnaelakhripthxnid swnsarprakxbthiekidkhunkbaeksmiskulthiebakwacaslaytwipxyangrwderw aelacaekidkhuninsphaphthimikhwamdnsung xunhphumita echn ArHF6 aela HeHF6 swnnixxnnnyngimphbsarprakxbkbfluxxrinkarnaipichpraoychnosediymfluxxird ichprimanelknxyetimlnginyasifn cathaihaekhlesiymthiphiwfnaeplngsphaphepnaekhlesiymfluxxirdthiimlalayna aelapxngknfnphuid krdihodrfluxxrik hruxkrdkdaekw ichinngansilpaephuxkdkrackihepnlwdlaytang tamthitxngkarkhwamxntrayfluxxrinnnmikhwamxntraysungmakthamnbrisuththi mncathaihekidrxyihmehmuxnodnphiwhnng emuxmipriman 25 swninlanswnmncasamarththaraydwngta thangedinhayic pxdrwmthungtbaelaitdwy thamipriman 100 swninlanswncathaihtaaelacmukkhxngmnusyidrbkhwamesiyhayxyanghnkechingxrrthExact comparison of the sizes of fluorine oxygen and neon atoms is not possible because of conflicting estimates from different sources For more detail see explanation by Jim Clark raykarxangxing Standard Atomic Weights Fluorine 2021 Jaccaud et al 2000 p 381 sfn error no target CITEREFJaccaud et al 2000 Haynes William M b k 2011 92nd ed p 4 121 ISBN 1439855110 Aigueperse et al 2005 Fluorine p 2 sfn error no target CITEREFAigueperse et al 2005 Compressed Gas Association 1999 Handbook of compressed gases Springer p 365 ISBN 9780412782305 Himmel D Riedel S 2007 After 20 Years Theoretical Evidence That AuF7 Is Actually AuF5 F2 Inorganic Chemistry 46 13 5338 5342 doi 10 1021 ic700431s Aigueperse et al 2005 Fluorine p 1 sfn error no target CITEREFAigueperse et al 2005 Dean 1999 p 4 35 sfn error no target CITEREFDean1999 Kim Sung Hoon 2006 Functional dyes Elsevier p 257 ISBN 9780444521767 Young David A 1975 Phase Diagrams of the Elements Report Springer p 10 subkhnemux 10 June 2011 Yaws amp Braker 2001 p 385 sfn error no target CITEREFYawsBraker2001 Mackay Mackay amp Henderson 2002 p 72 sfn error no target CITEREFMackayMackayHenderson2002 Cheng H Fowler D E Henderson P B Hobbs J P Pascaloni M R 1999 On the magnetic susceptibility of fluorine Journal of Physical Chemistry A 103 15 2861 2866 doi 10 1021 jp9844720 Dean 1999 p 4 6 sfn error no target CITEREFDean1999 Chiste V 2006 F 18 PDF Table de radionucleides Laboratoire National Henri Becquerel subkhnemux 15 June 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a imruckpharamietxr coauthors thuklaewn aenana author help Jaccaud et al 2005 p 1 sfn error no target CITEREFJaccaud et al 2005 Cordero et al 2008harvnb error no target CITEREFCordero et al 2008 Pyykko amp Atsumi 2009harvnb error no target CITEREFPyykkoAtsumi2009 Dean 1999 p 564 sfn error no target CITEREFDean1999 Lide 2004 pp 10 137 10 138 sfn error no target CITEREFLide2004 Moore Stanitski amp Jurs 2010 p 156harvnb error no target CITEREFMooreStanitskiJurs2010 Jaccaud et al 2005 p 2 sfn error no target CITEREFJaccaud et al 2005 Burdon Emson amp Edwards 1987harvnb error no target CITEREFBurdonEmsonEdwards1987 Dean 1999 p 523 sfn error no target CITEREFDean1999 Barrett Meyer amp Wasserman 1967harvnb error no target CITEREFBarrettMeyerWasserman1967 Nelson 1947harvnb error no target CITEREFNelson1947 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Crosswell Handbook of Isotopes in the Cosmos Hydrogen to Gallium Donald Clayton pages 101 104 Jaccaud et al 2005 p 4 sfn error no target CITEREFJaccaud et al 2005 Greenwood amp Earnshaw 1998 p 795 sfn error no target CITEREFGreenwoodEarnshaw1998 Villalba Ayres amp Schroder 2008harvnb error no target CITEREFVillalbaAyresSchroder2008 Kelly 2005harvnb error no target CITEREFKelly2005 Lusty et al 2008harvnb error no target CITEREFLusty et al 2008 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux KGS fluorite terminology Gribble 2002harvnb error no target CITEREFGribble2002 Pauling 1960 pp 454 464harvnb error no target CITEREFPauling1960 Atkins amp Jones 2007 pp 184 185harvnb error no target CITEREFAtkinsJones2007 Emsley 1981harvnb error no target CITEREFEmsley1981 Wiberg Wiberg amp Holleman 2001 p 425 sfn error no target CITEREFWibergWibergHolleman2001 Clark Jim 2002 The acidity of the hydrogen halides subkhnemux 4 September 2011 Chambers amp Holliday 1975 pp 328 329harvnb error no target CITEREFChambersHolliday1975 TMH 2010 p 15 22harvnb error no target CITEREFTMH2010 bthkhwamekhminiyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk