ยาสีฟัน เป็นสิ่งที่ใช้คู่กับแปรงสีฟันในการแปรงฟัน มักอยู่ในรูปของเนื้อครีม เจล หรือเนื้อผง โดยมีส่วนผสมต่างกันไปในแต่ละผู้ผลิต เช่น เกลือ ฟลูออไรด์ สารขัดสี สารที่ทำให้เกิดฟอง เป็นต้น คุณสมบัติจะแตกต่างกันไปตามแต่ผู้ผลิต
ยาสีฟันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายรูปแบบตามเกณฑ์ที่ใช้ เช่น ตามลักษณะเนื้อยาสีฟัน (เจล,น้ำ,ผง,ครีม) ตามคุณสมบัติ(ลดการเสียวฟัน,สำหรับเด็ก,ขัดสีฟัน,รักษาสุขภาพเหงือก) เป็นต้น ทั้งนี้ยาสีฟันที่จะมีส่วนช่วยในการลดการเกิดฟันผุได้ควรจะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์อย่างน้อย 1000 ppm
ประวัติ
ยาสีฟันถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในสมัยอียิปต์โบราณ โดยยาสีฟันทำจากการผสมวัตถุดิบธรรมชาติได้แก่ เกลือป่น พริกไทยป่น ใบมินต์ และดอกไม้ต่างๆ ในสมัยโรมันมีการคิดค้นสูตรยาสีฟันของตัวเองขึ้นมาใหม่ ซึ่งออกแนวค่อนข้างแปลกประหลาดเพราะใช้ปัสสาวะของมนุษย์เป็นส่วนผสมหลัก โดยชาวโรมันเชื่อว่าแอมโมเนียที่อยู่ในปัสสาวะอาจจะช่วยให้ฟันขาวสะอาดขึ้น ต่อมาช่วงราวศตวรรษที่ 18 ยาสีฟันตำรับอเมริกันที่ใช้ขนมปังเผา ศตวรรษที่ 19 นิยมของยาสีฟันประเภทผง จนถึงยุคสมัยปัจจุบัน บริษัทคอลเกตถือเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกที่คิดค้นยาสีฟันแบบหลอดบีบขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1896
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-11-27. สืบค้นเมื่อ 2007-10-07.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yasifn epnsingthiichkhukbaeprngsifninkaraeprngfn mkxyuinrupkhxngenuxkhrim ecl hruxenuxphng odymiswnphsmtangknipinaetlaphuphlit echn eklux fluxxird sarkhdsi sarthithaihekidfxng epntn khunsmbticaaetktangkniptamaetphuphlityasifnenuxecl yasifnsamarthaebngxxkidepnhlayrupaebbtameknththiich echn tamlksnaenuxyasifn ecl na phng khrim tamkhunsmbti ldkaresiywfn sahrbedk khdsifn rksasukhphaphehnguxk epntn thngniyasifnthicamiswnchwyinkarldkarekidfnphuidkhwrcamiswnphsmkhxngfluxxirdxyangnxy 1000 ppmprawtiyasifnthuxkaenidkhunkhrngaerkinsmyxiyiptobran odyyasifnthacakkarphsmwtthudibthrrmchatiidaek ekluxpn phrikithypn ibmint aeladxkimtang insmyormnmikarkhidkhnsutryasifnkhxngtwexngkhunmaihm sungxxkaenwkhxnkhangaeplkprahladephraaichpssawakhxngmnusyepnswnphsmhlk odychawormnechuxwaaexmomeniythixyuinpssawaxaccachwyihfnkhawsaxadkhun txmachwngrawstwrrsthi 18 yasifntarbxemriknthiichkhnmpngepha stwrrsthi 19 niymkhxngyasifnpraephthphng cnthungyukhsmypccubn bristhkhxlektthuxepnphuphlitecaaerkthikhidkhnyasifnaebbhlxdbibkhunmaemuxpi kh s 1896xangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 11 27 subkhnemux 2007 10 07 bthkhwamaephthysastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk