เซลล์ประสาทรับความรู้สึก หรือ นิวรอนรับความรู้สึก (อังกฤษ: sensory neuron) เป็นที่ทำหน้าที่เปลี่ยนตัวกระตุ้นภายนอกต่าง ๆ ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม ให้เป็นตัวกระตุ้นภายใน นิวรอนรับความรู้สึกเริ่มทำงานเมื่อเกิดสัญญาณความรู้สึก แล้วส่งข้อมูลความรู้สึกต่อไปในส่วนต่าง ๆ ของระบบประสาท ซึ่งในที่สุดก็จะไปถึงสมองหรือไขสันหลัง โดยที่ไม่เหมือนเซลล์ประสาทของระบบประสาทกลาง ที่มีสัญญาณเข้ามาจากเซลล์ประสาทอื่น ๆ นิวรอนรับความรู้สึกเริ่มทำงานเพราะรับการกระตุ้นด้วยคุณลักษณะทางกายภาพอย่างหนึ่งของตัวกระตุ้น เป็นต้นว่าแสงที่มองเห็นได้ เสียง ความร้อน และการกระทบทางกาย หรือด้วยคุณลักษณะทางเคมี เช่นในกรณีของกลิ่นและรส
ในสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน ระบบประสาทกลางเป็นจุดหมายปลายทางที่นิวรอนรับความรู้สึกส่งข้อมูลไปหา ส่วนในกรณีของสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนน้อยกว่า เช่น นิวรอนรับความรู้สึกส่งข้อมูลไปยัง (motor neurons) หรือปมประสาทสั่งการ
ในระดับโมเลกุล หน่วยรับความรู้สึกที่อยู่ที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาทรับความรู้สึก มีหน้าที่แปลงข้อมูลตัวกระตุ้นให้เป็นพลังประสาทไฟฟ้า ประเภทของหน่วยรับความรู้สึกเป็นตัวตัดสินว่าเซลล์จะมีความไวต่อตัวกระตุ้นแบบไหนยกตัวอย่างเช่น เซลล์ประสาทที่มีหน่วยรับความรู้สึกเชิงกล อาจจะมีความไวต่อตัวกระตุ้นสัมผัส ในขณะที่หน่วยรับกลิ่นก็จ ะยังเซลล์ให้ไวต่อกลิ่น
ประเภท หน้าที่ และโรค
ระบบรับความรู้สึกทางกาย
ระบบรับความรู้สึกทางกายตอบสนองต่อความรู้สึกต่าง ๆ รวมทั้ง สัมผัส ความดัน ความสั่นสะเทือน อากัปกิริยา ความร้อน ความเย็น และความเจ็บปวด
ตัวเซลล์ของใยประสาทรับรู้ความรู้สึกทางกายแบบนำเข้า (afferent fiber) อยู่ที่ปมประสาทรากหลัง (dorsal root ganglion) ทั่วลำกระดูกสันหลัง เซลล์ประสาทเหล่านี้มีหน้าที่ส่งข้อมูลเกี่ยวกับกายไปยังระบบประสาทกลาง เซลล์ประสาทในปมประสาทที่อยู่ในศีรษะและในร่างกาย ส่งไปยังระบบประสาทกลางข้อมูลเกี่ยวกับตัวกระตุ้นภายนอกที่กล่าวมาแล้วที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย (pseudounipolar neuron) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ส่งศักยะงานไปยังระบบประสาทกลาง อยู่ใน (dorsal root ganglia)
ตัวรับแรงกล
ตัวรับความรู้สึกทำกิจเฉพาะที่เรียกว่า ตัวรับแรงกล (อังกฤษ: mechanoreceptor) มักจะหุ้มปลายของใยประสาทนำเข้าเป็นแคปซูลคือเป็นถุงหุ้ม เพื่อช่วยปรับใยประสาทนำเข้าให้ตอบสนองกับตัวกระตุ้นทางกายประเภทต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้ว ตัวรับแรงกลยังลดระดับขีดเริ่มเปลี่ยนในการสร้างศักยะงานในใยประสาทนำเข้า และดังนั้น โอกาสที่จะยิงสัญญาณของประสาทนำเข้าจึงมีเพิ่มขึ้นเมื่อมีการกระตุ้นความรู้สึก
(อังกฤษ: proprioceptors) เป็นตัวรับแรงกลอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งโดยบทของคำในภาษาอังกฤษแล้วหมายถึง "ตัวรับความรู้สึกเกี่ยวกับตน" ตัวรับความรู้สึกเหล่านี้แสดงข้อมูลที่ตั้งในปริภูมิของแขนขาและส่วนของร่างกายอื่น ๆ
โนซิเซ็ปเตอร์ มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับรู้ความเจ็บปวดและความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ, ความแสบและความระคายเคืองหลังจากที่ได้รับประทานพริก (อันเกิดจากสารประกอบหลักคือแค็ปไซซิน), ความรู้สึกเย็นหลังจากบริโภคสารเคมีบางพวกเช่น menthol หรือ icillin, และความรู้สึกเจ็บปวดโดยทั่วไป มีเหตุมาจากเซลล์ประสาทประเภทนี้
โรคเหตุตัวรับแรงกล
ปัญหาในตัวรับแรงกลสามารถนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น
- (neuropathic pain) คือ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่เกิดจากประสาทรับรู้ความรู้สึกเสียหาย
- (hyperalgesia) คือระดับความไวต่อความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นมีเหตุมาจากประตูไอออนที่รับความรู้สึกคือ ซึ่งปกติตอบสนองต่ออุณหภูมิระหว่าง 23-26 องศาเซลเซียส และให้ความรู้สึกเย็นสืบเนื่องกับสาร menthol และ icillin
- กลุ่มอาการหลงผิดว่าแขนขายังคงอยู่ (phantom limb syndrome) คือ โรคเกี่ยวกับระบบรับความรู้สึก ที่ความรู้สึกเจ็บปวดหรือความรู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหว ปรากฏในแขนขาที่ไม่มี (เพราะถูกตัดออกไปเป็นต้น)
การเห็น
การเห็นเป็นระบบรับความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุดอย่างหนึ่ง ก่อนอื่น ตาต้องเห็นอาศัยการหักเห (refraction) ของแสง ต่อจากนั้น เซลล์รับแสง (photoreceptor cell) จะเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งมีการแปลผลโดยระเบียบการเชื่อมต่อกันของไซแนปส์ของเซลล์ประสาทชนิดต่าง ๆ ในเรตินา เซลล์ประสาทหลัก 5 อย่างในเรตินาประกอบด้วย
- เซลล์รับแสง (photoreceptor cell) เปลี่ยนแสงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า
- (biopolar cell) ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยัง
- เซลล์ปมประสาทในเรตินา (retinal ganglion cells) ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยังทาลามัส ไฮโปทาลามัส และสมองส่วนกลาง
- (retinal horizontal cell) เชื่อมต่อภายในเรตินา ทำการประสานและควบคุมสัญญาณจากเซลล์รับแสงหลาย ๆ ตัว ยังให้ตาสามารถปรับตัวเพื่อให้เห็นได้ด้วยดีทั้งในที่สว่างและที่สลัว
- ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยัง เซลล์ปมประสาทในเรตินา และควบคุมที่ส่งสัญญาณไปยัง
วงจรประสาทพื้นฐานของเรตินาประกอบด้วยเซลล์ประสาท 3 พวกต่อกันเป็นลูกโซ่ เซลล์เหล่านั้นคือ เซลล์รับแสง (จะเป็นเซลล์รูปแท่ง หรือว่า เซลล์รูปกรวย ก็ดี) และเซลล์ปมประสาทในเรตินา เซลล์ปมประสาทเป็นตัวสร้างศักยะงานเพื่อส่งไปยังระบบประสาทกลาง วงจรประสาทนี้เป็นทางสั้นที่สุด (คือตรงที่สุด) ในการส่งข้อมูลการเห็นไปยังสมอง
โรคเหตุตัวรับความรู้สึกเกี่ยวกับการเห็น
ปัญหาและความเสื่อมของเซลล์ประสาทรับความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับการเห็น นำไปสู่โรคหรือความผิดปกติเป็นต้นว่า
- Macular degeneration คือ ความเสื่อมของลานสายตาส่วนกลางเนื่องจากเศษเซลล์ (ที่ตายแล้ว) หรือเศษเส้นเลือดที่สะสมอยู่ในระหว่างเรตินาและ (เนื้อเยื่อระหว่างเรตินากับชั้นสเครอลา) ซึ่งเข้าไปรบกวนหรือทำลาย การทำงานร่วมกันที่เป็นไปอย่างซับซ้อนของนิวรอนที่อยู่ในที่นั้น
- ต้อหิน คือ การสูญเสียเซลล์ปมประสาทในเรตินา ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียการเห็นบางส่วน จนกระทั่งถึงความบอดทั้งหมด
- โรคจอตาเหตุเบาหวาน (diabetic retinopathy) คือ ความเสียหายในการควบคุมน้ำตาลเนื่องจากโรคเบาหวาน มีผลทำเส้นเลือดตาเล็ก ๆ ในเรตินาให้เสียหาย
การได้ยิน
ระบบการได้ยินมีหน้าที่เปลี่ยนคลื่นความดันที่เกิดจากความสั่นสะเทือนในโมเลกุลอากาศ คือเสียง ไปเป็นสัญญาณที่สมองสามารถใช้งานได้
เซลล์ขน (hair cells) ภายในหู ทำเชิงกล ที่แปลงความเปลี่ยนแปลงของความดันอากาศที่เป็นสื่อของเสียง ไปเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งไปยังระบบประสาทกลาง โดยขึ้นอยู่กับทิศทางการเคลื่อนไหวของขน เซลล์ขนอาจจะเกิดการเพิ่มขั้ว (hyperpolarization) หรือการลดขั้ว (depolarization) ถ้าความเคลื่อนไหวไปทาง stereociliaที่สูงที่สุด ประตูแคตไอออน K+ ก็จะเปิด ปล่อยแคตไอออน K+ ให้ไหลเข้าไปในเซลล์ มีผลทำให้เกิดการลดขั้ว (depolarization) ซึ่งเปิดประตู Ca2+ ทำให้เกิดการปล่อยสารสื่อประสาทไปยังใยประสาทการได้ยินที่นำเข้าไปสู่ระบบประสาทกลาง
มีเซลล์ขน 2 ชนิดคือแบบใน (inner) และแบบนอก (outer) เซลล์ขนแบบในเป็นตัวรับความรู้สึก ส่วนเซลล์ขนแบบนอกโดยปกติมาจากแอกซอนนำออก (efferent) ที่มาจากเซลล์ใน
โรคเหตุตัวรับความรู้สึกเกี่ยวกับการได้ยิน
ปัญหาในตัวรับความรู้สึกเกี่ยวข้องกับระบบการได้ยิน นำไปสู่โรคหรือความผิดปกติเป็นต้นว่า
- (auditory processing disorder) คือ ข้อมูลการได้ยินได้รับการประมวลผลอย่างผิดปกติในสมอง คนไข้ภาวะนี้ ได้รับข้อมูลเป็นปกติ (คือการรับเสียงของหูชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ไม่ผิดปกติ) แต่สมองไม่สามารถที่จะประมวลข้อมูลการได้ยินอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความพิการในการได้ยิน
- (Auditory verbal agnosia) คือ คนไข้เสียการเข้าใจคำพูดผ่านการได้ยิน แต่การได้ยินทั่ว ๆ ไป การพูด การอ่าน และการเขียน ไม่มีปัญหา ภาวะนี้มีเหตุจากความเสียหายในสมองกลีบขมับบนด้านหลัง ทำให้สมองไม่สามารถประมวลข้อมูลการได้ยินอย่างถูกต้อง
ยา
มียาหลายประเภทในตลาดทุกวันนี้ที่ใช้สำหรับควบคุมหรือเยียวยาโรคเกี่ยวกับระบบรับความรู้สึก ตัวอย่างเช่น เป็นยาที่ใช้สำหรับรักษา (Neuropathic pain) โดยที่ยาทำปฏิกิริยากับ (voltage-dependent calcium channels) ซึ่งมีอยู่ในเซลล์ประสาทที่ไม่ได้รับความรู้สึก
ยาบางอย่างอาจจะใช้สำหรับปัญหาสุขภาพอย่างอื่น แต่ว่า สามารถมีผลข้างเคียงที่ไม่มุ่งหวังในระบบรับความรู้สึก (ototoxic) เป็นยาที่มีผลต่อ(หูชั้นในรูปหอยโข่ง) (cochlear) เช่นยาปฏิชีวนะประเภท ซึ่งเป็นพิษต่อเซลล์ขน ด้วยการใช้ยาเป็นพิษเหล่านี้ เซลล์ขนซึ่งเป็นตัวปั๊มแคตไอออน K+ ก็จะหยุดทำงาน ดังนั้น พลังงานที่สร้างขึ้นโดย (ศักย์ภายในหูชั้นในรูปหอยโข่ง) ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนกระบวนเสียงก็จะระงับไป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียการได้ยิน
สภาพพลาสติกของระบบประสาท
เริ่มตั้งแต่ที่นักวิทยาศาสตร์สังเกตเห็นการสร้างวงจรประสาทใหม่ในสมองของลิง ในการทดลองของนักวิจัยทอบ ที่เมืองซิลเวอร์ สปริง รัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับสภาพพลาสติกของระบบรับความรู้สึก และได้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการรักษาโรคของระบบรับความรู้สึก เทคนิคเช่น (constraint-induced movement therapy) ที่พัฒนาโดยทอบ ได้ช่วยคนไข้ที่มีแขนขาอัมพาต ให้ได้ใช้แขนขาเหล่านั้นอีก โดยบังคับให้ระบบรับความรู้สึกสร้างวิถีประสาทใหม่ แทนที่วิถีที่ถูกทำลายไปเพราะโรค
กลุ่มอาการหลงผิดว่าแขนขายังคงอยู่ (phantom limb syndrome) เป็นโรคระบบรับความรู้สึกที่คนไข้ที่ถูกตัดแขนขาออก มีความรู้สึกว่าแขนขาที่ถูกตัดออกไปแล้วนั้น ยังมีอยู่ และอาจจะยังมีความรู้สึกเจ็บปวดที่อวัยวะนั้น ที่พัฒนาโดยรามจันทรัน ได้ช่วยเปลื้องคนไข้ที่มีภาวะนี้จากความรู้สึกเจ็บปวดในอวัยวะที่ไม่มีเหล่านั้น
กล่องกระจกเป็นอุปกรณ์ง่าย ๆ ซึ่งใช้กระจกเงาในกล่องเพื่อสร้างภาพลวงตาที่ระบบรับความรู้สึกเข้าใจว่า มันเห็นมือ 2 มือแทนที่จะเห็นแค่มือเดียว และดังนั้น เปิดโอกาสให้ระบบรับความรู้สึกควบคุม "อวัยวะผี" นั้น เมื่อทำอย่างนี้ ระบบรับความรู้สึกสามารถสร้างความคุ้นเคยกับความไม่มีของอวัยวะนั้น และในที่สุดก็ช่วยระงับอาการของภาวะนี้
ประเภทของใยประสาท
ใยประสาทของสามารถแบ่งประเภทโดยลักษณะต่าง ๆ เป็นต้นว่า ความเร็วของการส่งสัญญาณในแอกซอน ความมีปลอกไมอีลิน และขนาดของใยประสาท ยกตัวอย่างเช่น มี (C) และ (Aδ) ใยประสาทเหล่านี้พร้อมทั้งเซลล์ประสาทประกอบกันเป็นระบบประสาท
ดูเพิ่ม
- ตัวรับความรู้สึก (เซลล์รับความรู้สึก)
- ระบบรับความรู้สึก
เชิงอรรถและอ้างอิง
- Purves et al., 207–392
- Purves et al., pg 207
- Purves et al., 209
- Purves et al., 215-216
- แค็ปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารเคมีกัมมันต์ในพริก ซึ่งเป็นพืชในสกุล Capsicum เป็นสารระคายเคืองในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม รวมทั้งมนุษย์ และทำให้เกิดความรู้สึกร้อนในเนื้อเยื่อที่ถูกกระทบสัมผัส
- Lee 2005
- Lee 2005
- Lee 2005
- Halligan 1999
- de Jong 2006
- Alguire 1990
- Diabetic retinopathy 2005
- การเพิ่มขั้ว (hyperpolarization) เป็นความเปลี่ยนแปลงของ โดยความเป็นขั้วลบมากขึ้น เป็นความเป็นไปที่ตรงกันข้ามกับการทำให้ไร้ขั้ว (depolarization) เป็นการห้ามการสร้างศักยะงานของเซลล์ โดยเพิ่มระดับการกระตุ้นที่จะเปลี่ยนศักย์ของเยื่อหุ้มเซลล์ ให้ไปถึงระดับขีดเริ่มเปลี่ยนที่จะให้เกิดศักยะงาน
- stereocilia เป็นส่วนดัดแปลงบนยอดของเซลล์ ต่างจากซีเลีย และ (microvilli) แต่มีส่วนเหมือนกับไมโควิลไล มากกว่าซีเลีย คือเป็นส่วนของเยื่อหุ้มเซลล์ที่ยื่นออกมา
- (ตัวย่อ SOC) เป็นกลุ่มของนิวเคลียสในก้านสมองที่มีหน้าที่หลายอย่างเกี่ยวกับการได้ยิน และเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของวิถีประสาททั้งขาขึ้นและทั้งขาลง
- Purves et al., pg 327-330
- Auditory processing disorder, 2004
- Stefanatos et al., 2005
- Lee 2005
- Priuska and Schact 1997
- การรักษาด้วยการเคลื่อนไหวมีอวัยวะถูกรัด (constraint-induced movement therapy) เป็นแบบหนึ่งของการพยาบาลฟื้นสภาพ ที่เพิ่มระดับการใช้งานของอวัยวะเบื้องบน ในคนไข้โรคหลอดเลือดสมองและโรคระบบประสาทกลางอื่น ๆ
- Schwartz and Begley 2002
- Ramachandran 1998
บรรณานุกรม
- Alguire P (1990). "The Eye Chapter 118 Tonometry>Basic Science". ใน Walker HK, Hall WD, Hurst JW (บ.ก.). Clinical methods: the history, physical, and laboratory examinations (3rd ed.). London: Butterworths. ISBN .
- (PDF), British Society of Audiology APD Special Interest Group. MRC Institute of Hearing Research, August 2011, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-18, สืบค้นเมื่อ 2021-08-18.
- De Jong, Ptvm. "Mechanisms of Disease: Age-Related Macular Degeneration." New England Journal of Medicine 355 14 (2006) : 1474-85. Print.
- Halligan, P. W., A. Zeman, and A. Berger. "Phantoms in the Brain - Question the Assumption That the Adult Brain Is "Hard Wired"." British Medical Journal 319 7210 (1999) : 587-88. Print.
- Lee, Y., Lee, C. H., & Oh, U. (2005) . Painful channels in sensory neurons. [Review]. Molecules and Cells, 20 (3), 315-324. Print.
- "NIHSeniorHealth: Diabetic Retinopathy - Causes and Risk Factors", , NIHSenior Health, 2005, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-06, สืบค้นเมื่อ 2013-09-23.
- Priuska, E.M. and J. Schact (1997) Mechanism and prevention of aminoglycoside ototoxicity: Outer hair cells as targets and tools. Ear, Nose, Throat J. 76: 164-171.
- Purves, D., Augustine, G.J., Fitzpatrick, D., Hall, W.C., LaMantia, A., McNamara, J.O., White, L.E. Neuroscience. Fourth edition. (2008) . Sinauer Associates, Sunderland, Mass. Print.
- Ramachandran, V. S. and S. Blakeslee (1998), Phantoms in the brain: Probing the mysteries of the human mind., William Morrow & Company, ISBN . Print.
- Schwartz and Begley 2002, p. 160; "Constraint-Induced Movement Therapy", excerpted from "A Rehab Revolution," Stroke Connection Magazine, September/October 2004. Print.
- Stefanatos GA, Gershkoff A, Madigan S (2005) . "On pure word deafness, temporal processing, and the left hemisphere". Journal of the International Neuropsychological Society : JINS 11 (4) : 456–70; discussion 455.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เซลล์ประสาทรับความรู้สึก
- The major classes of somatic sensory receptors, National Center for Biotechnology Information, U.S. National Library of Medicine
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
esllprasathrbkhwamrusuk hrux niwrxnrbkhwamrusuk xngkvs sensory neuron epnthithahnathiepliyntwkratunphaynxktang thixyuinsingaewdlxm ihepntwkratunphayin niwrxnrbkhwamrusukerimthanganemuxekidsyyankhwamrusuk aelwsngkhxmulkhwamrusuktxipinswntang khxngrabbprasath sunginthisudkcaipthungsmxnghruxikhsnhlng odythiimehmuxnesllprasathkhxngrabbprasathklang thimisyyanekhamacakesllprasathxun niwrxnrbkhwamrusukerimthanganephraarbkarkratundwykhunlksnathangkayphaphxyanghnungkhxngtwkratun epntnwaaesngthimxngehnid esiyng khwamrxn aelakarkrathbthangkay hruxdwykhunlksnathangekhmi echninkrnikhxngklinaelars insingmichiwitthisbsxn rabbprasathklangepncudhmayplaythangthiniwrxnrbkhwamrusuksngkhxmulipha swninkrnikhxngsingmichiwitthisbsxnnxykwa echn niwrxnrbkhwamrusuksngkhxmulipyng motor neurons hruxpmprasathsngkar inradbomelkul hnwyrbkhwamrusukthixyuthieyuxhumesllkhxngesllprasathrbkhwamrusuk mihnathiaeplngkhxmultwkratunihepnphlngprasathiffa praephthkhxnghnwyrbkhwamrusukepntwtdsinwaesllcamikhwamiwtxtwkratunaebbihnyktwxyangechn esllprasaththimihnwyrbkhwamrusukechingkl xaccamikhwamiwtxtwkratunsmphs inkhnathihnwyrbklinkc ayngesllihiwtxklinpraephth hnathi aelaorkhrabbrbkhwamrusukthangkay rabbrbkhwamrusukthangkaytxbsnxngtxkhwamrusuktang rwmthng smphs khwamdn khwamsnsaethuxn xakpkiriya khwamrxn khwameyn aelakhwamecbpwd twesllkhxngiyprasathrbrukhwamrusukthangkayaebbnaekha afferent fiber xyuthipmprasathrakhlng dorsal root ganglion thwlakraduksnhlng esllprasathehlanimihnathisngkhxmulekiywkbkayipyngrabbprasathklang esllprasathinpmprasaththixyuinsirsaaelainrangkay sngipyngrabbprasathklangkhxmulekiywkbtwkratunphaynxkthiklawmaaelwthiekidkhunthwrangkay pseudounipolar neuron sungepnesllthisngskyanganipyngrabbprasathklang xyuin dorsal root ganglia twrbaerngkl twrbkhwamrusukthakicechphaathieriykwa twrbaerngkl xngkvs mechanoreceptor mkcahumplaykhxngiyprasathnaekhaepnaekhpsulkhuxepnthunghum ephuxchwyprbiyprasathnaekhaihtxbsnxngkbtwkratunthangkaypraephthtang nxkcaknnaelw twrbaerngklyngldradbkhiderimepliyninkarsrangskyanganiniyprasathnaekha aeladngnn oxkasthicayingsyyankhxngprasathnaekhacungmiephimkhunemuxmikarkratunkhwamrusuk xngkvs proprioceptors epntwrbaerngklxikpraephthhnung sungodybthkhxngkhainphasaxngkvsaelwhmaythung twrbkhwamrusukekiywkbtn twrbkhwamrusukehlaniaesdngkhxmulthitnginpriphumikhxngaekhnkhaaelaswnkhxngrangkayxun onsiespetxr mihnathiekiywkbkarrbrukhwamecbpwdaelakhwamepliynaeplngkhxngxunhphumi khwamaesbaelakhwamrakhayekhuxnghlngcakthiidrbprathanphrik xnekidcaksarprakxbhlkkhuxaekhpissin khwamrusukeynhlngcakbriophkhsarekhmibangphwkechn menthol hrux icillin aelakhwamrusukecbpwdodythwip miehtumacakesllprasathpraephthni orkhehtutwrbaerngkl pyhaintwrbaerngklsamarthnaipsuorkhtang echn neuropathic pain khux khwamecbpwdxyangrunaerngthiekidcakprasathrbrukhwamrusukesiyhay hyperalgesia khuxradbkhwamiwtxkhwamecbpwdthiephimkhunmiehtumacakpratuixxxnthirbkhwamrusukkhux sungpktitxbsnxngtxxunhphumirahwang 23 26 xngsaeslesiys aelaihkhwamrusukeynsubenuxngkbsar menthol aela icillin klumxakarhlngphidwaaekhnkhayngkhngxyu phantom limb syndrome khux orkhekiywkbrabbrbkhwamrusuk thikhwamrusukecbpwdhruxkhwamrusukwamikarekhluxnihw praktinaekhnkhathiimmi ephraathuktdxxkipepntn karehn karehnepnrabbrbkhwamrusukthisbsxnthisudxyanghnung kxnxun tatxngehnxasykarhkeh refraction khxngaesng txcaknn esllrbaesng photoreceptor cell caepliynphlngnganaesngepnsyyaniffa sungmikaraeplphlodyraebiybkarechuxmtxknkhxngisaenpskhxngesllprasathchnidtang inertina esllprasathhlk 5 xyanginertinaprakxbdwy esllrbaesng photoreceptor cell epliynaesngihepnsyyaniffa biopolar cell thahnathisngsyyanipyng esllpmprasathinertina retinal ganglion cells thahnathisngsyyanipyngthalams ihopthalams aelasmxngswnklang retinal horizontal cell echuxmtxphayinertina thakarprasanaelakhwbkhumsyyancakesllrbaesnghlay tw yngihtasamarthprbtwephuxihehniddwydithnginthiswangaelathislw thahnathisngsyyanipyng esllpmprasathinertina aelakhwbkhumthisngsyyanipyng wngcrprasathphunthankhxngertinaprakxbdwyesllprasath 3 phwktxknepnlukos esllehlannkhux esllrbaesng caepnesllrupaethng hruxwa esllrupkrwy kdi aelaesllpmprasathinertina esllpmprasathepntwsrangskyanganephuxsngipyngrabbprasathklang wngcrprasathniepnthangsnthisud khuxtrngthisud inkarsngkhxmulkarehnipyngsmxng orkhehtutwrbkhwamrusukekiywkbkarehn pyhaaelakhwamesuxmkhxngesllprasathrbkhwamrusukthiekiywkhxngkbkarehn naipsuorkhhruxkhwamphidpktiepntnwa Macular degeneration khux khwamesuxmkhxnglansaytaswnklangenuxngcakessesll thitayaelw hruxessesneluxdthisasmxyuinrahwangertinaaela enuxeyuxrahwangertinakbchnsekhrxla sungekhaiprbkwnhruxthalay karthanganrwmknthiepnipxyangsbsxnkhxngniwrxnthixyuinthinn txhin khux karsuyesiyesllpmprasathinertina sungnaipsukarsuyesiykarehnbangswn cnkrathngthungkhwambxdthnghmd orkhcxtaehtuebahwan diabetic retinopathy khux khwamesiyhayinkarkhwbkhumnatalenuxngcakorkhebahwan miphlthaesneluxdtaelk inertinaihesiyhaykaridyin rabbkaridyinmihnathiepliynkhlunkhwamdnthiekidcakkhwamsnsaethuxninomelkulxakas khuxesiyng ipepnsyyanthismxngsamarthichnganid esllkhn hair cells phayinhu thaechingkl thiaeplngkhwamepliynaeplngkhxngkhwamdnxakasthiepnsuxkhxngesiyng ipepnsyyaniffaephuxsngipyngrabbprasathklang odykhunxyukbthisthangkarekhluxnihwkhxngkhn esllkhnxaccaekidkarephimkhw hyperpolarization hruxkarldkhw depolarization thakhwamekhluxnihwipthang stereociliathisungthisud pratuaekhtixxxn K kcaepid plxyaekhtixxxn K ihihlekhaipinesll miphlthaihekidkarldkhw depolarization sungepidpratu Ca2 thaihekidkarplxysarsuxprasathipyngiyprasathkaridyinthinaekhaipsurabbprasathklang miesllkhn 2 chnidkhuxaebbin inner aelaaebbnxk outer esllkhnaebbinepntwrbkhwamrusuk swnesllkhnaebbnxkodypktimacakaexksxnnaxxk efferent thimacakesllin orkhehtutwrbkhwamrusukekiywkbkaridyin pyhaintwrbkhwamrusukekiywkhxngkbrabbkaridyin naipsuorkhhruxkhwamphidpktiepntnwa auditory processing disorder khux khxmulkaridyinidrbkarpramwlphlxyangphidpktiinsmxng khnikhphawani idrbkhxmulepnpkti khuxkarrbesiyngkhxnghuchnnxk chnklang aelachnin imphidpkti aetsmxngimsamarththicapramwlkhxmulkaridyinxyangehmaasm thaihekidkhwamphikarinkaridyin Auditory verbal agnosia khux khnikhesiykarekhaickhaphudphankaridyin aetkaridyinthw ip karphud karxan aelakarekhiyn immipyha phawanimiehtucakkhwamesiyhayinsmxngklibkhmbbndanhlng thaihsmxngimsamarthpramwlkhxmulkaridyinxyangthuktxngyamiyahlaypraephthintladthukwnnithiichsahrbkhwbkhumhruxeyiywyaorkhekiywkbrabbrbkhwamrusuk twxyangechn epnyathiichsahrbrksa Neuropathic pain odythiyathaptikiriyakb voltage dependent calcium channels sungmixyuinesllprasaththiimidrbkhwamrusuk yabangxyangxaccaichsahrbpyhasukhphaphxyangxun aetwa samarthmiphlkhangekhiyngthiimmunghwnginrabbrbkhwamrusuk ototoxic epnyathimiphltxhuchninruphxyokhng cochlear echnyaptichiwnapraephth sungepnphistxesllkhn dwykarichyaepnphisehlani esllkhnsungepntwpmaekhtixxxn K kcahyudthangan dngnn phlngnganthisrangkhunody skyphayinhuchninruphxyokhng sungepntwkhbekhluxnkrabwnesiyngkcarangbip sungnaipsukarsuyesiykaridyinsphaphphlastikkhxngrabbprasatherimtngaetthinkwithyasastrsngektehnkarsrangwngcrprasathihminsmxngkhxngling inkarthdlxngkhxngnkwicythxb thiemuxngsilewxr spring rthaemriaelnd praethsshrthxemrika kminganwicymakmayekiywkbsphaphphlastikkhxngrabbrbkhwamrusuk aelaidmikhwamkawhnaxyangtxenuxnginkarrksaorkhkhxngrabbrbkhwamrusuk ethkhnikhechn constraint induced movement therapy thiphthnaodythxb idchwykhnikhthimiaekhnkhaxmphat ihidichaekhnkhaehlannxik odybngkhbihrabbrbkhwamrusuksrangwithiprasathihm aethnthiwithithithukthalayipephraaorkh klumxakarhlngphidwaaekhnkhayngkhngxyu phantom limb syndrome epnorkhrabbrbkhwamrusukthikhnikhthithuktdaekhnkhaxxk mikhwamrusukwaaekhnkhathithuktdxxkipaelwnn yngmixyu aelaxaccayngmikhwamrusukecbpwdthixwywann thiphthnaodyramcnthrn idchwyepluxngkhnikhthimiphawanicakkhwamrusukecbpwdinxwywathiimmiehlann klxngkrackepnxupkrnngay sungichkrackengainklxngephuxsrangphaphlwngtathirabbrbkhwamrusukekhaicwa mnehnmux 2 muxaethnthicaehnaekhmuxediyw aeladngnn epidoxkasihrabbrbkhwamrusukkhwbkhum xwywaphi nn emuxthaxyangni rabbrbkhwamrusuksamarthsrangkhwamkhunekhykbkhwamimmikhxngxwywann aelainthisudkchwyrangbxakarkhxngphawanipraephthkhxngiyprasathiyprasathkhxngsamarthaebngpraephthodylksnatang epntnwa khwamerwkhxngkarsngsyyaninaexksxn khwammiplxkimxilin aelakhnadkhxngiyprasath yktwxyangechn mi C aela Ad iyprasathehlaniphrxmthngesllprasathprakxbknepnrabbprasathduephimtwrbkhwamrusuk esllrbkhwamrusuk rabbrbkhwamrusukechingxrrthaelaxangxingPurves et al 207 392 Purves et al pg 207 Purves et al 209 Purves et al 215 216 aekhpissin Capsaicin epnsarekhmikmmntinphrik sungepnphuchinskul Capsicum epnsarrakhayekhuxnginstweliynglukdwynm rwmthngmnusy aelathaihekidkhwamrusukrxninenuxeyuxthithukkrathbsmphs Lee 2005 Lee 2005 Lee 2005 Halligan 1999 de Jong 2006 Alguire 1990 Diabetic retinopathy 2005 karephimkhw hyperpolarization epnkhwamepliynaeplngkhxng odykhwamepnkhwlbmakkhun epnkhwamepnipthitrngknkhamkbkarthaihirkhw depolarization epnkarhamkarsrangskyangankhxngesll odyephimradbkarkratunthicaepliynskykhxngeyuxhumesll ihipthungradbkhiderimepliynthicaihekidskyangan stereocilia epnswnddaeplngbnyxdkhxngesll tangcaksieliy aela microvilli aetmiswnehmuxnkbimokhwilil makkwasieliy khuxepnswnkhxngeyuxhumesllthiyunxxkma twyx SOC epnklumkhxngniwekhliysinkansmxngthimihnathihlayxyangekiywkbkaridyin aelaepnxngkhprakxbthisakhykhxngwithiprasaththngkhakhunaelathngkhalng Purves et al pg 327 330 Auditory processing disorder 2004 Stefanatos et al 2005 Lee 2005 Priuska and Schact 1997 karrksadwykarekhluxnihwmixwywathukrd constraint induced movement therapy epnaebbhnungkhxngkarphyabalfunsphaph thiephimradbkarichngankhxngxwywaebuxngbn inkhnikhorkhhlxdeluxdsmxngaelaorkhrabbprasathklangxun Schwartz and Begley 2002 Ramachandran 1998brrnanukrmAlguire P 1990 The Eye Chapter 118 Tonometry gt Basic Science in Walker HK Hall WD Hurst JW b k Clinical methods the history physical and laboratory examinations 3rd ed London Butterworths ISBN 0 409 90077 X PDF British Society of Audiology APD Special Interest Group MRC Institute of Hearing Research August 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 08 18 subkhnemux 2021 08 18 De Jong Ptvm Mechanisms of Disease Age Related Macular Degeneration New England Journal of Medicine 355 14 2006 1474 85 Print Halligan P W A Zeman and A Berger Phantoms in the Brain Question the Assumption That the Adult Brain Is Hard Wired British Medical Journal 319 7210 1999 587 88 Print Lee Y Lee C H amp Oh U 2005 Painful channels in sensory neurons Review Molecules and Cells 20 3 315 324 Print NIHSeniorHealth Diabetic Retinopathy Causes and Risk Factors NIHSenior Health 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 06 subkhnemux 2013 09 23 Priuska E M and J Schact 1997 Mechanism and prevention of aminoglycoside ototoxicity Outer hair cells as targets and tools Ear Nose Throat J 76 164 171 Purves D Augustine G J Fitzpatrick D Hall W C LaMantia A McNamara J O White L E Neuroscience Fourth edition 2008 Sinauer Associates Sunderland Mass Print Ramachandran V S and S Blakeslee 1998 Phantoms in the brain Probing the mysteries of the human mind William Morrow amp Company ISBN 0 688 15247 3 Print Schwartz and Begley 2002 p 160 Constraint Induced Movement Therapy excerpted from A Rehab Revolution Stroke Connection Magazine September October 2004 Print Stefanatos GA Gershkoff A Madigan S 2005 On pure word deafness temporal processing and the left hemisphere Journal of the International Neuropsychological Society JINS 11 4 456 70 discussion 455 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb esllprasathrbkhwamrusuk The major classes of somatic sensory receptors National Center for Biotechnology Information U S National Library of Medicine