พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 (ทั้งภาษาเดนมาร์กกับนอร์เวย์:Frederik; 28 มกราคม พ.ศ. 2311 - 3 ธันวาคม พ.ศ. 2382) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์ก (13 มีนาคม พ.ศ. 2351 - 3 ธันวาคม พ.ศ. 2382) และพระมหากษัตริย์นอร์เวย์ เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าคริสเตียนที่ 7 แห่งเดนมาร์กกับสมเด็จพระราชินีมาทิลดาแห่งเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพระขนิษฐาในพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร การปกครองของพระองค์เป็นการอธิบายถึงการเป็น พระประมุขสูงสุดที่ทรงภูมิธรรม (An enlightened despot) ในยุคเรืองปัญญา คติพจน์ประจำรัชกาลของพระองค์คือ พระผู้เป็นเจ้าและความยุติธรรม (Gud og den retfærdige sag)
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 แห่งเดนมาร์ก | |
---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |
ครองราชย์ | 13 มีนาคม ค.ศ. 1808 – 3 ธันวาคม ค.ศ. 1839 |
ราชาภิเษก | 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1815 ปราสาทเฟรเดอริกส์บอร์ก |
ก่อนหน้า | พระเจ้าคริสเตียนที่ 7 |
ถัดไป | พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 |
พระมหากษัตริย์แห่งนอร์เวย์ | |
ครองราชย์ | 13 มีนาคม ค.ศ. 1808 – 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1814 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าคริสเตียนที่ 7 |
ถัดไป | พระเจ้าคริสเตียน เฟรเดอริก |
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งเดนมาร์ก-นอร์เวย์ | |
ระหว่าง | 14 เมษายน ค.ศ. 1784 – 13 มีนาคม ค.ศ. 1808 |
ก่อนหน้า | |
พระมหากษัตริย์ | พระเจ้าคริสเตียนที่ 7 |
พระราชสมภพ | 28 มกราคม ค.ศ. 1768 ณ โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก |
สวรรคต | 3 ธันวาคม ค.ศ. 1839 ณ โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก (พระชนมายุ 71 พรรษา) |
คู่อภิเษก | เจ้าหญิงมารี โซฟีแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล |
พระราชบุตร | เจ้าชายคริสเตียน เจ้าหญิงมารี หลุยส์ เจ้าหญิงหลุยส์ เจ้าชายคริสเตียน เจ้าหญิงจูเลียนา หลุยส์ เจ้าหญิงเฟรเดอริเก มารี โลวีซา เคานท์เตสแห่งเดนเนมานด์ คาโรไลน์ เคานท์เตสแห่งเดนเนมานด์ เฟรเดอริก เคานท์แห่งเดนเนมานด์ วัลเดมาร์ เคานท์แห่งเดนเนมานด์ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ออลเดนบูร์ก |
พระราชบิดา | พระเจ้าคริสเตียนที่ 7 แห่งเดนมาร์ก |
พระราชมารดา | เจ้าหญิงแคโรไลน์ มาทิลดาแห่งบริเตนใหญ่ |
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ
เจ้าชายเฟรเดอริกพระราชสมภพในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2311 ณ โคเปนเฮเกน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก พระราชบิดาคือพระเจ้าคริสเตียนที่ 7 แห่งเดนมาร์ก ส่วนพระราชมารดาคือสมเด็จพระราชินีมาทิลดาแห่งเดนมาร์ก ซึ่งทรงเป็นสมาชิกในราชวงศ์อังกฤษ หลังจากพระราชสมภพ เจ้าชายทรงได้รับพระอิศริยยศ มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์
พระราชบิดาของพระองค์มีพระสติวิปลาส ในตอนที่พระนางมาทิลดาทรงประสูติพระโอรสซึ่งก็คือเจ้าชายเฟรเดอริก ก็ไม่ทำให้พระอาการทุเลาขึ้น หลังการประสูติกาลได้เพียงหนึ่งปี พระนางมาทิลดา พระมารดาได้มีความสัมพันธ์กับ จิตแพทย์ชาวเยอรมันและแพทย์ส่วนพระองค์ของพระเจ้าคริสเตียน และทำให้สตรูเอนซีได้ก้าวขึ้นมามีบทบาททางการเมือง
พระนางมาทิลดาและสตรูเอนซีเป็นผู้กำหนดการศึกษาของพระโอรส ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2314 พระนางมาทิลดาทรงพระประสูติกาลพระธิดาองค์หนึ่งอย่างลับ ๆ ที่ ซึ่งก็คือ และเป็นที่ลือกันว่าพระบิดาของเจ้าหญิงไม่ใช่พระเจ้าคริสเตียนแต่เป็นสตรูเอนซี แต่พระเจ้าคริสเตียนกลับทรงยินดีที่ได้พระธิดาและทรงเชื่อว่าเป็นสายพระโลหิตของพระองค์จริง พระองค์ได้ลงพระปรมาภิไธยยอมรับการประสูติกาล ซึ่งทำให้เจ้าหญิงเป็นพระขนิษฐาของเจ้าชายเฟรเดอริคโดยอัตโนมัติ
ผู้สำเร็จราชการแห่งเดนมาร์ก
ในวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2315 เจ้าชายเฟรเดอริก ขณะมีพระชนมายุ 3 พรรษา ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้สำเร็จราชการแห่งเดนมาร์กและนอร์เวย์ โดยทรงอยู่ภายใต้พระนางมาทิลดา ผู้เป็นพระมารดาและสตรูเอนซี ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ในคืนวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2315 พระนางจูเลียนา มาเรีย พระราชชนนี พระมารดาเลี้ยงของพระเจ้าคริสเตียนและเหล่าขุนนางที่เป็นศัตรูกับสตรูเอนซี ได้ก่อการรัฐประหารพระนางมาทิลดาและสตรูเอนซี พระนางจูเลียนาและคณะผู้ไต่สวนได้ตัดสินประหารชีวิตสตรูเอนซี ส่วนพระนางมาทิลดาทรงถูกบังคับให้ทรงหย่ากับพระเจ้าคริสเตียนแล้วถูกเนรเทศออกจากเดนมาร์ก พระนางสิ้นพระชนม์อย่างโดดเดี่ยวที่เมืองเชลล์
ในปีพ.ศ. 2327 มกุฎราชกุมารเฟรเดอริกทรงได้รับสิทธิตามกฎหมายโดยพระองค์มีพระชนมายุครบ 16 พรรษา ซึ่งเลยกำหนดที่พระพันปีหลวงจูเลยนาจะมอบพระราชอำนาจคืนถึง 2 ปี พระนางทรงพยายามชักจูงให้พระนัดดาทรงมอบพระราชอำนาจให้พระนางไปก่อน หรือไม่ก็อาศัยคำแนะนำของพระนางในด้านต่างๆ และพระนางทรงบังคับให้พระเจ้าคริสเตียนทรงลงนามในพระราชกฤษฎีกาโดยกำหนดให้ มกุฎราชกุมารต้องยินยอมในคำแนะนำปรึกษาตั้งแต่ทรงเริ่มดำรงพระยศจนถึงปัจจุบัน โดยทรงต้องรับฟังบุคคล 3 คน ได้แก่ พระมหากษัตริย์ เจ้าชายเฟรเดอริก ผู้สำเร็จราชการ และพระนางจูเลียนา พระราชชนนี. พระนางทรงร่วมมือกับซึ่งเป็นายกรัฐมนตรีในตอนนั้นพยายามยึดอำนาจเจ้าชายเฟรเดอริค อย่างไรก็ตามมกุฎราชกุมารทรงพยายามขจัดอำนาจของพระนางจูเลียนา พระอัยยิกาและพระโอรสของพระนาง และในการร่วมสภาครั้งแรกของพระองค์ พระองค์ทรงไล่คณะรัฐบาลหลวงโดยที่ไม่ได้แจ้งแก่พระนางจูเลียนา และทรงแต่งตั้งคนของพระองค์เข้ารับตำแหน่ง อีกทั้งมกุฎราชกุมารทรงบังคับให้พระบิดาซึ่งมีพระจริตฟั่นเฟือนลงนามในเอกสารแต่งตั้งพระองค์เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างผู้สนับสนุนมกุฎราชกุมารกับผู้สนับสนุนพระพันปีหลวงจูเลียนา พระนางทรงพยายามแย่งชิงกษัตริย์จากพระหัตถ์ของพระนัดดา แต่ฝ่ายที่ได้รับชัยชนะคือ มกุฎราชกุมารเฟรเดอริค ซึ่งนับเป็นจุดจบในระบอบเก่าสมัยยุคกลางของเดนมาร์ก รัชกาลที่ปกครองโดยพระราชชนนีจูเลียนาและพระโอรสของพระนางสิ้นสุดลง ซึ่งถือเป็นการรัฐประหารในพ.ศ. 2327 โดยชาวเดนมาร์กต่างยินดีกันทั่งหน้าซึ่งจบสิ้นยุคสมัยของพระราชชนนีซึ่งปกครองเดนมาร์กอย่างกดขี่และทารุณ พระองค์ทรงดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการจนกระทั่งพระเจ้าคริสเตียน พระบิดาเสด็จสวรรคตในปีพ.ศ. 2351
ในระหว่างทรงดำรงเป็นผ้สำเร็จราชการ มกุฎราชกุมารทรงทำการปฏิรูปเดนมาร์กให้เป็นไปตามแนวทางแบบเสรีนิยมร่วมกับรัฐมนตรี ซึ่งทรงประกาศยกเลิกระบบมาเนอร์ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ในปีพ.ศ. 2331 วิกฤตที่เกิดขึ้นในสมัยนี้คือ ทรงไม่เห็นด้วยที่ชาวอังกฤษลำเลียงสินค้าส่งทางเรืออย่างไม่เป็นธรรม ทำให้สหราชอาณาจักรได้ประกาศสงครามกับเดนมาร์กและนอร์เวย์ ซึ่งเป็นสมรภูมิทางทะเลเกิดขึ้นที่โคเปนเฮเกน เรียกว่า ส่งผลให้เดนมาร์กพ่ายแพ้อย่างหนัก
มกุฎราชกุมารเฟรเดอริกอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมารี โซฟีแห่งเฮสส์-คาสเซิล พระญาติชั้นหนึ่งและเป็นสมาชิกราชวงศ์เยอรมันและการอภิเษกครั้งนี้จะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์เดนมาร์กและอังกฤษ ทั้ง 2 พระองค์อภิเษกสมรสที่ในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2333 มีพระโอรสและพระธิดาร่วมกัน 8 พระองค์ แต่มีพระธิดาเพียง 3 พระองค์ทรงรอดพระชนม์ชีพจากวัยเยาว์มาได้ พระธิดาองค์สุดท้องต่อมาทรงได้เป็นพระชายาในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์ก เนื่องจากทรงไม่มีพระราชโอรสซึ่งดำรงพระชนม์ชีพ เมื่อพระองค์สวรรคต ราชบัลลังก์จึงไปได้แก่ พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก พระญาติของพระองค์ ซึ่งเป็นพระนัดดาในพระนางจูเลียนา มาเรีย พระราชชนนี
พระมหากษัตริย์เดนมาร์กและปัญหาราชบัลลังก์สวีเดน
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | Hans Majestæt (ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
เจ้าชายเฟรเดอริกทรงชึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2351 ในปีพ.ศ. 2351 ราชบัลลังก์สวีเดนเริ่มปรากฏสัญญาณแห่งการว่างลง เนื่องจากพระเจ้ากุสตาฟที่ 4 อดอล์ฟแห่งสวีเดนทรงถูกปฏิวัติรัฐประหารและทรงถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ พระเจ้าเฟรเดอริกทรงหวังว่าจะได้รับเลือกให้เป็นพระมหากษัตริย์สวีเดน พระเจ้าเฟรเดอริกเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กและนอร์เวย์พระองค์แรกที่ทรงสืบเชื้อสายมาจากพระเจ้ากุสตาฟที่ 1 แห่งสวีเดน ผู้ซึ่งประกาศอิสรภาพสวีเดนหลังจากยุคสมัยของสหภาพที่รวมด้วยประเทศในแถบคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย (นอกจากนี้พระขนิษฐาของพระเจ้าเฟรเดอริกยังทรงเป็นเชื้อสายของพระเจ้ากุสตาฟโดยผ่านทางพระมารดาของพระนาง ตลอดจนพระปิตุลาของพระองค์ด้วย ซึ่งเป็นทายาทของพระนางจูเลียนา) ในตอนแรก พระขนิษฐภรรดา(น้องเขย)ของพระเจ้าเฟรเดอริกทรงได้รับการเลือกให้เป็นกษัตริย์แห่งสวีเดนองค์ต่อไปซึ่งจะมีผลหลังจากพระเจ้าคาร์ลที่ 13 แห่งสวีเดนสวรรคต แต่ในภายหลังจอมพลฌ็อง เบอร์นาดอตต์ซึ่งได้รับเลือกจากพระเจ้าชาลส์ที่ 13 ให้สืบราชบัลลังก์ต่อเป็น พระเจ้าคาร์ลที่ 14 โยฮันแห่งสวีเดน นับเป็นจุดสิ้นสุดและเริ่มต้นของสวีเดน ในสงครามนโปเลียน พระองค์ทรงนำเดนมาร์กเข้าสู่สงครามโดยเป็นพันธมิตรกับฝรั่งเศส
หลังจากที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1ทรงหนีออกจากมอสโก และความปราชัยของพระองค์ในยุทธการที่ไลพ์ซิก ในปีพ.ศ. 2356 ทำให้ทรงถูกเนรเทศไปยังเกาะเอลบา การปราชัยครั้งนี้ส่งผลให้เดนมาร์กอยู่ในสถานะผู้แพ้ สวีเดนโดยรัชทายาทคาร์ล จอห์นได้รีบดำเนินการอย่างรวดเร็วทรงส่งกองทัพที่ประจำอยู่ที่ฮ็อลชไตน์เพื่อการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเดนมาร์กและสวีเดนในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2357 โดยในสนธิสัญญากำหนดให้เดนมาร์กต้องมอบนอร์เวย์ให้แก่สวีเดน และสวีเดนจะยกและให้เป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน และจ่ายเงินสมทบสำหรับการเสียนอร์เวย์แก่เดนมาร์ก ซึ่งเรียกว่า และเรียกเหตุการณ์นี้ว่า พระเจ้าเฟรเดอริกทรงยอมในสนธิสัญญาเคล พระองค์ทรงเห็นว่าสวีเดนและอังกฤษพยายามจะแบ่งประเทศเดนมาร์ก และทรงเห็นว่ารัชทายาทแห่งสวีเดนจะคุกคามเดนมาร์กทุกเมื่อถ้ามีโอกาส พระองค์ทรงพิจารณาว่าภัยคุกคามของสวีเดนต่อเดนมาร์กนั้นรุนแรง พระองค์ทรงดำริที่จะดึงมหาอำนาจมาช่วยเหลือเดนมาร์กจากการคุกคามของสวีเดน อังกฤษและรัสเซีย
ในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2357 เสด็จประพาสเวียนนาเป็นการส่วนพระองค์ พระองค์ทรงได้รับการต้อนรับจากจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่หน้าประตูเมือง พระเจ้าเฟรเดอริกและพระจักรพรรดิเสด็จประทับรถม้าพระที่นั่งไปยัง พระองค์ทรงได้รับการต้อนรับจากชาวออสเตรียอย่างอบอุ่น แต่ชาวออสเตรียบางคนกล่าวว่าการต้อนรับของจักรพรรดิครั้งนี้เป็นเพียงประเพณีและทั้งสองพระองค์มีกตรัสเรื่องส่วนพระองค์มากกว่าเรื่องการเมือง
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์ออสเตรียในระหว่างการเสด็จประพาสกรุงเวียนนาของพระเจ้าเฟรเดอริกได้รับการบรรยายว่าดูดีที่สุด ในการประชุมข้อเสนอของพระองค์ที่เวียนนาทำให้ขัดต่อพระประมุขของรัฐอื่น ๆ มากที่สุด แต่พระองค์กลับได้รับความนิยมจากประชาชนในกรุงเวียนนาอย่างมากในการเรียกร้องสิทธิของเดนมาร์ก เนื่องจากความขัดแย้งกับประมุขรัฐต่างๆทำให้ทรงถูกประณามจากพระประมุขรัฐต่างๆว่า เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ
ในการประชุมที่เวียนนาครั้งนี้ พระเจ้าเฟรเดอริคทรงไม่ได้รับการให้เกรียติเทียบเท่าพระประมุขรัฐอื่นๆ แต่การประชุมที่เวียนนาครั้งนี้มีผู้มาเข้าชมมากมาย มีการเต้นรำและความบันเทิง ซึ่งทำให้ถูกเรียกว่า "การประชุมเต้นรำ" และมีเรื่องน่าขบขันคือ "จักรพรรดิออสเตรียทรงสนุกสนานกับทุกสิ่ง จักรพรรดิรัสเซียทรงรักทุกอย่าง และพระมหากษัตริย์เดนมาร์กทรงดำริถึงทุกคน" ในระหว่างทรงประทับอยู่ที่เยนนา ทรงรับเอา สตรีชาวออสเตรียที่เป็นนักเต้นรำในการประชุมวัย 18 ปีมาเป็นพระสนม โดยเธออยู่ร่วมกับพระเจ้าเฟรเดอริคในเวลาอันสั้นตลอดเวลาที่ประทับในเวียนนา
แม้ว่าจะมีการจัดการให้มีความบันเทิงในการประชุมที่ตึงเครียด รัชทายาทคาร์ล จอห์นแห่งสวีเดนทรงเชื่อมั่นว่า พระเจ้าเฟรเดอริคจะไม่สามารถต้านทานกระแสการต่อต้านจากชาวนอร์เวย์ และจากสนธิสัญญาเคลทำให้เศรษฐกิจเดนมาร์กซบเซาอย่างมาก
เมื่ออาณาจักรล้มละลาย ทูตรัสเซียได้รายงานว่า "น่าแปลกในดินแดนนี้ นำมาซึ่งความรุ่งเรืองครั้งสุดท้ายและกลายเป็นซากจากการคุกคาม ต้องมีการแก้ปัญหา"
เจ้าหน้าที่เดนมาร์กทำงานอย่างหนัก เพื่อให้รัชทายาทคาร์ล จอห์นแห่งสวีเดนทรงปฏิบัติตามสนธิสัญญาเคล ในการชดเชยการสูญเสียนอร์เวย์ อย่างไรก็ตามสวีเดนได้เกิดความล้มเหลวจากการสัมปทานแผ่นดินที่ได้มา และรัสเซียจำต้องลดค่าบำรุงกองทัพรัสเซีย
ในเดนมาร์ก
แม้ว่าด้วยความติ้นรนของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 ในการประชุมที่เวียนนาจะสามารถช่วยประเทศเดนมาร์กของพระองค์จากการคุกคามของมหาอำนาจได้ แต่ก็ทรงผิดหวังที่ประเทศไม่ได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเท่าที่ควร ในช่วงที่เสด็จกลับฮ็อลชไตน์และเดนมาร์กได้มีการฉลองชัยชนะของพระองค์ ซึ่งมีกระแสความนิยมระบอบกษัตริย์ แต่มีประชาชนบางกลุ่มมีความรู้สึกหวาดกลัวที่สถาบันพระมหากษัตริย์จะกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ในทุกๆที่ของเมืองอัลโทนา พระองค์ทรงได้รับการต้อนรับจากประตูเมืองอย่างสมพระเกียรติ มีการยิงสลุตและฝูงชนที่ปิติยินดีมาถวายการต้อนรับ ในเมือง พระองค์ทรงประทับรถพระที่นั่งผ่านในเวลากลางคืนเพื่อเสด็จไปประทับที่พระราชวัง ทุกสิ่งสว่างไสว เหล่าสตรีออกมาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ และการจัดงานเฉลิมฉลองพระเจ้าเฟรเดอริคที่ 6 มีทุกท้องที่จนถึงเมืองหลวง
เนื่องจากความต้องการประชาธิปไตยในประชาชนมีสูง รวมทั้งความนิยมในพระองค์ก็สูงเช่นกัน พระองค์ทรงไม่เต็มใจที่สละพระราชอำนาจในวิธีการประชาธิปไตย พระองค์ทรงให้มีการเลือกตั้งทั้ง 4 เพื่อเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินระบอบประชาธิปไตยแม้ว่าพระองค์จะทรงเห็นว่าพวกเขาเป็นเพียงคณะที่ปรึกษาเท่านั้น โดยให้มีการเลือกตั้งกันทั่งราชอาณาจักร
ในปีพ.ศ. 2380 ได้มีการจัดแสดงศิลปวัตถุประจำชาติเพื่อเพิ่มรายได้ของประเทศในการสร้างพิพิธภัณฑ์ในโคเปนเฮเกน ซึ่งผู้รับผิดชอบโครงการคือ ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2381 โทรวัลด์เซนจึงเดินทางกลับเดนมาร์กหลังจากอาศัยอยู่ที่โรมเป็นเวลา 40 ปี และในปีนั้นพระเจ้าเฟรเดอริคทรงมอบที่ดินสำหรับสร้างพิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากพระราชวังคริสเตียนเบอร์กไปทางขวา นครโคเปนเฮเกนได้เจริญขึ้นจากการที่มีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง ซึ่งสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑ์ออกแบบโดย ในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2391 ได้มีการเปิดพิพิธภัณฑ์โทรวัลด์เซน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของเดนมาร์ก
ในช่วงนั้นได้มีปัญหาเกี่ยวกับการมีทาส พระองค์ทรงพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างหนัก ในระหว่างปี พ.ศ. 2344 ซึ่งเกิดสงครามกับอังกฤษใน มีทาสชาวนิโกรสองคนคือ และจากทะเลแคริบเบียน ในมาถึงกรุงโคเปนเฮเกนในระหว่างสงคราม ทั้งสองคนได้ร่วมสู้กับกองทัพเรืออังกฤษ หลังสิ้นสุดสงคราม พระองค์ทรงประทานตำแหน่งในกองทัพเรือเป็นรางวัล แต่ทั้งสองปฏิเสธเพราะตนเองเป็นทาสและต้องกลับไปทำงานรับใช้นายจ้างของตน โดยใช้แรงงานไร่กาแฟทางภาคตะวันตกของอินเดีย พระองค์จึงริเริ่มหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องทาส ด้วยการบริหารของพระเจ้าเฟรเดอริค นักปรัชญาชาวเดนมาร์ก ได้ออกมาวิพากย์วิจารณ์การบริหารของพระองค์ พระองค์ทรงรู้สึกว่าไฮเบิร์กดูถูกพระองค์ตลอดเวลาตั้งแต่ในวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2333 ขณะยังทรงเป็นผู้สำเร็จราชการ เมื่อพระองค์และพระนางมารี โซฟีพระชายาซึ่งทรงเป็นที่สนใจในวงการสังคม และไฮเบิร์กได้บรรยายถึงพระองค์ว่า "ของตกแต่งในพระตำหนักจัดอย่างน่าเกลียด เหล่าขุนนางจับปากกาและผูกริบบินเหมือนพวกโบราณ...อย่างไรก็ตาม ฝ่าบาท พวกเขาดูดีอยู่อย่างเดียวคือ การที่ไม่ได้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพระองค์" พระองค์ทรงตอบกลับว่า"ความจริงแล้วข้าพเจ้ายินดีต้อนรับสุภาพบุรุษเหล่านี้ทุกคน แต่เพียงคุณเท่านั้นที่ข้าพเจ้าจะไม่เมตตาอีกต่อไป" ในคริสต์มาสอีพ พ.ศ. 2342 ไฮเบิร์กถูกเนรเทศตลอดชีวิต
สวรรคต
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 เสด็จสวรรคตในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2382 ณ กรุงโคเปนเฮเกน สิริพระชนมายุ 71 พรรษา พระบรมศพได้ถูกฝังที่ พระองค์ทรงครองราชสมบัติเป็นเวลาทั้งหมด 55 ปี โดย 24 ปีแรกทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระเจ้าคริสเตียนที่ 7 และอีก 31 ปี เป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก
การสืบราชบัลลังก์
พระเจ้าเฟรเดอริคที่ 6 เสด็จสวรรคตโดยปราศจากพระราชโอรสที่สามารถสืบราชบัลลังก์ เนื่องจากพระโอรสของพระองค์ซึ่งประสูติแต่พระราชินีมารี โซฟีสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์และพระโอรสที่ประสูติแต่พระสนม ก็ไม่มีสิทธิในราชบัลลังก์ ทำให้ราชบัลลังก์ไปได้แก่ เจ้าชายคริสเตียน เฟรเดอริก พระราชโอรสใน พระปิตุลาของพระเจ้าเฟรเดอริคและเป็นพระนัดดาในพระนางจูเลียนา มาเรีย พระอัยยิกาซึ่งเคยเป็นศัตรูกับพระเจ้าเฟรเดอริกในช่วงแรก เจ้าชายคริสเตียนได้ขึ้นครองราชย์ พระนาม พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก
หลังจากพระเจ้าคริสเตียนที่ 8 สวรรคต พระโอรสของพระองค์ได้ครองราชย์ต่อเป็นสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริคที่ 7 แห่งเดนมาร์ก ทรงอภิเษกสมรสกับ พระราชธิดาในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 แต่หลังจากนั้นทรงหย่ากันโดยไม่มีพระโอรส-ธิดา ซึ่งหมายความว่าเชื้อสายของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 ซึ่งเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ได้หมดสิ้นลง คงเหลือแต่พระโอรสและพระธิดาที่ประสูติแต่พระสนม ที่มีทายาทสืบสกุลของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 ต่อไปแต่ไม่มีสิทธิในราชวงศ์
พระโอรส-ธิดา
พระโอรส-ธิดาที่ประสูติแต่เจ้าหญิงมารี โซฟีแห่งเฮสส์-คาสเซิล
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส (ประสูติและสิ้นพระชนม์) และพระโอรส-ธิดา | |
เจ้าชายคริสเตียน | พ.ศ. 2334 | 22 กันยายนพ.ศ. 2334 | 23 กันยายนสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
เจ้าหญิงมารี หลุยส์ | พ.ศ. 2335 | 19 พฤศจิกายนพ.ศ. 2336 | 12 ตุลาคมสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
พ.ศ. 2336 | 28 ตุลาคมพ.ศ. 2424 | 31 มันาคมอภิเษกสมรส 1 สิงหาคม พ.ศ. 2372 (พ.ศ. 2335–2406) ไม่มีพระโอรสธิดา | ||
เจ้าหญิงหลุยส์ | พ.ศ. 2338 | 21 สิงหาคมพ.ศ. 2338 | 7 ธันวาคมสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
เจ้าชายคริสเตียน | พ.ศ. 2340 | 1 กันยายนพ.ศ. 2340 | 5 กันยายนสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
เจ้าหญิงจูเลียนา หลุยส์ | พ.ศ. 2345 | 12 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2345 | 23 กุมภาพันธ์สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
เจ้าหญิงเฟรเดอริเก มารี | พ.ศ. 2348 | 3 มิถุนายนพ.ศ. 2348 | 14 กรกฎาคมสิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ | |
พ.ศ. 2351 | 18 มกราคมพ.ศ. 2434 | 30 พฤษภาคมอภิเษกสมรสครั้งแรก 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2371 เจ้าชายเฟรเดอริคแห่งเดนมาร์กซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริคที่ 7 แห่งเดนมาร์ก (พ.ศ. 2351–2406) ต่อมาทรงหย่า ไม่มีพระโอรสธิดา อภิเษกสมรสครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2356 - พ.ศ. 2421) ซึ่งต่อมาเป็นพระเชษฐาในสมเด็จพระราชาธิบดีคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก ไม่มีพระโอรสธิดา |
พระราชโอรสธิดาที่ประสูติแต่พระสนมเฟรเดอริเก เดนเนมานด์
- โลวีซา เคาน์เตสแห่งเดนเนมานด์ (16 เมษายน พ.ศ. 2353 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2481) สมรสในปีพ.ศ. 2379 กับวิลเลียม ฟาน ซาชารี(พ.ศ. 2350 - พ.ศ. 2414) มีบุตรธิดา
- คาโรไลน์ เคาน์เตสแห่งเดนเนมานด์ (พ.ศ. 2355 - พ.ศ. 2387) สมรสในปีพ.ศ. 2380 กับอดอล์ฟ เฟรเดอริค ชาค ฟาน บร็อคดอร์ฟ(พ.ศ. 2353 - พ.ศ. 2402) มีบุตรธิดา
- เฟรเดอริก เคาน์แห่งเดนเนมานด์ (20 กรกฎาคม พ.ศ. 2356 - 12 มีนาคม พ.ศ. 2431) สมรสครั้งแรกในปีพ.ศ. 2383 กับฟรานซิสกา ฟาน สชอเทน(พ.ศ. 2363 - พ.ศ. 2387) ไม่มีบุตรธิดา,สมรสครั้งที่สองในปีพ.ศ. 2388 กับโลวีซา เกรฟวินด์ ชชูลิน(พ.ศ. 2358 - พ.ศ. 2427) ไม่มีบุตรธิดา,สมรสครั้งที่สามในปีพ.ศ. 2427 กับวิลเฮลมินา เลาว์เซน(พ.ศ. 2383 - พ.ศ. 2433) ไม่มีบุตรธิดา
- วัลเดมาร์ เคานท์แห่งเดนเนมานด์ (6 มิถุนายน พ.ศ. 2362 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2373)
อ้างอิง
- ราชบัณฑิตยสถาน, สารานุกรมประเทศในทวีปยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, ราชบัณฑิตยสถาน, 2550,, หน้า 513
- Alf Henrikson: Dansk historia (Danish history) 1989 (in Swedish)
- Royal House of Denmark
- Landgravial House of Hesse-Kassel 2008-03-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecaefredxrikthi 6 thngphasaednmarkkbnxrewy Frederik 28 mkrakhm ph s 2311 3 thnwakhm ph s 2382 thrngepnphramhakstriyednmark 13 minakhm ph s 2351 3 thnwakhm ph s 2382 aelaphramhakstriynxrewy epnphrarachoxrsinphraecakhrisetiynthi 7 aehngednmarkkbsmedcphrarachinimathildaaehngednmark sungepnphrakhnisthainphraecacxrcthi 3 aehngshrachxanackr karpkkhrxngkhxngphraxngkhepnkarxthibaythungkarepn phrapramukhsungsudthithrngphumithrrm An enlightened despot inyukheruxngpyya khtiphcnpracarchkalkhxngphraxngkhkhux phraphuepnecaaelakhwamyutithrrm Gud og den retfaerdige sag phraecaefredxrikthi 6 aehngednmarkphramhakstriyaehngednmarkkhrxngrachy13 minakhm kh s 1808 3 thnwakhm kh s 1839rachaphiesk31 krkdakhm kh s 1815 prasathefredxriksbxrkkxnhnaphraecakhrisetiynthi 7thdipphraecakhrisetiynthi 8phramhakstriyaehngnxrewykhrxngrachy13 minakhm kh s 1808 7 kumphaphnth kh s 1814kxnhnaphraecakhrisetiynthi 7thdipphraecakhrisetiyn efredxrikphusaercrachkaraethnphraxngkhaehngednmark nxrewyrahwang14 emsayn kh s 1784 13 minakhm kh s 1808kxnhnaphramhakstriyphraecakhrisetiynthi 7phrarachsmphph28 mkrakhm kh s 1768 n okhepnehekn praethsednmarkswrrkht3 thnwakhm kh s 1839 n okhepnehekn praethsednmark phrachnmayu 71 phrrsa khuxphieskecahyingmari osfiaehngehsesin khsesilphrarachbutrecachaykhrisetiyn ecahyingmari hluys ecahyinghluys ecachaykhrisetiyn ecahyingcueliyna hluys ecahyingefredxriek mari olwisa ekhanthetsaehngednenmand khaoriln ekhanthetsaehngednenmand efredxrik ekhanthaehngednenmand wledmar ekhanthaehngednenmandrachwngsrachwngsxxlednburkphrarachbidaphraecakhrisetiynthi 7 aehngednmarkphrarachmardaecahyingaekhoriln mathildaaehngbrietnihychwngtnphrachnmchiphphranangmathildathrngphraprasutikalecachayefredxrik inpi ph s 2311 ecachayefredxrikphrarachsmphphinwnthi 28 mkrakhm ph s 2311 n okhepnehekn rachxanackrednmark phrarachbidakhuxphraecakhrisetiynthi 7 aehngednmark swnphrarachmardakhuxsmedcphrarachinimathildaaehngednmark sungthrngepnsmachikinrachwngsxngkvs hlngcakphrarachsmphph ecachaythrngidrbphraxisriyys mkudrachkumaraehngednmarkaelanxrewy phrarachbidakhxngphraxngkhmiphrastiwiplas intxnthiphranangmathildathrngprasutiphraoxrssungkkhuxecachayefredxrik kimthaihphraxakarthuelakhun hlngkarprasutikalidephiynghnungpi phranangmathilda phramardaidmikhwamsmphnthkb citaephthychaweyxrmnaelaaephthyswnphraxngkhkhxngphraecakhrisetiyn aelathaihstruexnsiidkawkhunmamibthbaththangkaremuxng phranangmathildaaelastruexnsiepnphukahndkarsuksakhxngphraoxrs inwnthi 1 krkdakhm ph s 2314 phranangmathildathrngphraprasutikalphrathidaxngkhhnungxyanglb thi sungkkhux aelaepnthiluxknwaphrabidakhxngecahyingimichphraecakhrisetiynaetepnstruexnsi aetphraecakhrisetiynklbthrngyindithiidphrathidaaelathrngechuxwaepnsayphraolhitkhxngphraxngkhcring phraxngkhidlngphraprmaphiithyyxmrbkarprasutikal sungthaihecahyingepnphrakhnisthakhxngecachayefredxrikhodyxtonmtiphusaercrachkaraehngednmarkphraecaefredxrikthi 6 aehngednmark emuxkhrngyngthrngepnphusaercrachkar inwnthi 8 mkrakhm ph s 2315 ecachayefredxrik khnamiphrachnmayu 3 phrrsa thrngidrbkaraetngtngihepn phusaercrachkaraehngednmarkaelanxrewy odythrngxyuphayitphranangmathilda phuepnphramardaaelastruexnsi sungidepnnaykrthmntri inkhunwnthi 16 mkrakhm ph s 2315 phranangcueliyna maeriy phrarachchnni phramardaeliyngkhxngphraecakhrisetiynaelaehlakhunnangthiepnstrukbstruexnsi idkxkarrthpraharphranangmathildaaelastruexnsi phranangcueliynaaelakhnaphuitswnidtdsinpraharchiwitstruexnsi swnphranangmathildathrngthukbngkhbihthrnghyakbphraecakhrisetiynaelwthukenrethsxxkcakednmark phranangsinphrachnmxyangoddediywthiemuxngechll inpiph s 2327 mkudrachkumarefredxrikthrngidrbsiththitamkdhmayodyphraxngkhmiphrachnmayukhrb 16 phrrsa sungelykahndthiphraphnpihlwngcuelynacamxbphrarachxanackhunthung 2 pi phranangthrngphyayamchkcungihphranddathrngmxbphrarachxanacihphranangipkxn hruximkxasykhaaenanakhxngphranangindantang aelaphranangthrngbngkhbihphraecakhrisetiynthrnglngnaminphrarachkvsdikaodykahndih mkudrachkumartxngyinyxminkhaaenanapruksatngaetthrngerimdarngphrayscnthungpccubn odythrngtxngrbfngbukhkhl 3 khn idaek phramhakstriy ecachayefredxrik phusaercrachkar aelaphranangcueliyna phrarachchnni phranangthrngrwmmuxkbsungepnaykrthmntriintxnnnphyayamyudxanacecachayefredxrikh xyangirktammkudrachkumarthrngphyayamkhcdxanackhxngphranangcueliyna phraxyyikaaelaphraoxrskhxngphranang aelainkarrwmsphakhrngaerkkhxngphraxngkh phraxngkhthrngilkhnarthbalhlwngodythiimidaecngaekphranangcueliyna aelathrngaetngtngkhnkhxngphraxngkhekharbtaaehnng xikthngmkudrachkumarthrngbngkhbihphrabidasungmiphracritfnefuxnlngnaminexksaraetngtngphraxngkhepnphusaercrachkaraephndin thaihekidkartxsurahwangphusnbsnunmkudrachkumarkbphusnbsnunphraphnpihlwngcueliyna phranangthrngphyayamaeyngchingkstriycakphrahtthkhxngphrandda aetfaythiidrbchychnakhux mkudrachkumarefredxrikh sungnbepncudcbinrabxbekasmyyukhklangkhxngednmark rchkalthipkkhrxngodyphrarachchnnicueliynaaelaphraoxrskhxngphranangsinsudlng sungthuxepnkarrthpraharinph s 2327 odychawednmarktangyindiknthnghnasungcbsinyukhsmykhxngphrarachchnnisungpkkhrxngednmarkxyangkdkhiaelatharun phraxngkhthrngdarngepnphusaercrachkarcnkrathngphraecakhrisetiyn phrabidaesdcswrrkhtinpiph s 2351 inrahwangthrngdarngepnphsaercrachkar mkudrachkumarthrngthakarptirupednmarkihepniptamaenwthangaebbesriniymrwmkbrthmntri sungthrngprakasykelikrabbmaenxrthimimatngaetsmyyukhklang inpiph s 2331 wikvtthiekidkhuninsmynikhux thrngimehndwythichawxngkvslaeliyngsinkhasngthangeruxxyangimepnthrrm thaihshrachxanackridprakassngkhramkbednmarkaelanxrewy sungepnsmrphumithangthaelekidkhunthiokhepnehekn eriykwa sngphlihednmarkphayaephxyanghnk mkudrachkumarefredxrikxphiesksmrskbecahyingmari osfiaehngehss khasesil phrayatichnhnungaelaepnsmachikrachwngseyxrmnaelakarxphieskkhrngnicaepnkarechuxmsmphnthrahwangphrarachwngsednmarkaelaxngkvs thng 2 phraxngkhxphiesksmrsthiinwnthi 31 krkdakhm ph s 2333 miphraoxrsaelaphrathidarwmkn 8 phraxngkh aetmiphrathidaephiyng 3 phraxngkhthrngrxdphrachnmchiphcakwyeyawmaid phrathidaxngkhsudthxngtxmathrngidepnphrachayainphraecaefredxrikthi 7 aehngednmark enuxngcakthrngimmiphrarachoxrssungdarngphrachnmchiph emuxphraxngkhswrrkht rachbllngkcungipidaek phraecakhrisetiynthi 8 aehngednmark phrayatikhxngphraxngkh sungepnphranddainphranangcueliyna maeriy phrarachchnniphramhakstriyednmarkaelapyharachbllngkswiednthrrmeniymphrayskhxng smedcphraecaefredxrikthi 6trapracaphraxisriyysthngpracaphraxisriyystrapracaphraxngkhkarthulHans Majestaet itfalaxxngthuliphrabath karaethntnkhaphraphuththecakarkhanrbDeres Majestaet phraphuththecakha ephkha ecachayefredxrikthrngkhunkhrxngrachsmbtiepn phramhakstriyednmarkinwnthi 13 minakhm ph s 2351 n phrarachwngefredxrikhebxrk ecachayefredxrikthrngchunkhrxngrachsmbtiepnphramhakstriyednmarkinwnthi 13 minakhm ph s 2351 inpiph s 2351 rachbllngkswiednerimpraktsyyanaehngkarwanglng enuxngcakphraecakustafthi 4 xdxlfaehngswiednthrngthukptiwtirthpraharaelathrngthukbngkhbihslarachbllngk phraecaefredxrikthrnghwngwacaidrbeluxkihepnphramhakstriyswiedn phraecaefredxrikepnphramhakstriyednmarkaelanxrewyphraxngkhaerkthithrngsubechuxsaymacakphraecakustafthi 1 aehngswiedn phusungprakasxisrphaphswiednhlngcakyukhsmykhxngshphaphthirwmdwypraethsinaethbkhabsmuthrsaekndienewiy nxkcakniphrakhnisthakhxngphraecaefredxrikyngthrngepnechuxsaykhxngphraecakustafodyphanthangphramardakhxngphranang tlxdcnphrapitulakhxngphraxngkhdwy sungepnthayathkhxngphranangcueliyna intxnaerk phrakhnisthphrrda nxngekhy khxngphraecaefredxrikthrngidrbkareluxkihepnkstriyaehngswiednxngkhtxipsungcamiphlhlngcakphraecakharlthi 13 aehngswiednswrrkht aetinphayhlngcxmphlchxng ebxrnadxttsungidrbeluxkcakphraecachalsthi 13 ihsubrachbllngktxepn phraecakharlthi 14 oyhnaehngswiedn nbepncudsinsudaelaerimtnkhxngswiedn insngkhramnopeliyn phraxngkhthrngnaednmarkekhasusngkhramodyepnphnthmitrkbfrngesskarprachumihyaehngewiynnahlngcakthickrphrrdinopeliynthi 1thrnghnixxkcakmxsok aelakhwamprachykhxngphraxngkhinyuththkarthiilphsik inpiph s 2356 thaihthrngthukenrethsipyngekaaexlba karprachykhrngnisngphlihednmarkxyuinsthanaphuaeph swiednodyrchthayathkharl cxhnidribdaeninkarxyangrwderwthrngsngkxngthphthipracaxyuthihxlchitnephuxkarlngnaminsnthisyyasntiphaphednmarkaelaswiedninwnthi 14 mkrakhm ph s 2357 odyinsnthisyyakahndihednmarktxngmxbnxrewyihaekswiedn aelaswiedncaykaelaihepnswnhnungkhxngednmarkephuxepnkaraelkepliyn aelacayenginsmthbsahrbkaresiynxrewyaekednmark sungeriykwa aelaeriykehtukarnniwa phraecaefredxrikthrngyxminsnthisyyaekhl phraxngkhthrngehnwaswiednaelaxngkvsphyayamcaaebngpraethsednmark aelathrngehnwarchthayathaehngswiedncakhukkhamednmarkthukemuxthamioxkas phraxngkhthrngphicarnawaphykhukkhamkhxngswiedntxednmarknnrunaerng phraxngkhthrngdarithicadungmhaxanacmachwyehluxednmarkcakkarkhukkhamkhxngswiedn xngkvsaelarsesiy phraecaefredxrikthi 6 aehngednmarkinphrarachphithirachaphiesk wadodyhns hnesn inwnthi 5 knyayn ph s 2357 esdcpraphasewiynnaepnkarswnphraxngkh phraxngkhthrngidrbkartxnrbcakckrphrrdifrnsthi 2 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththitngaethnapratuemuxng phraecaefredxrikaelaphrackrphrrdiesdcprathbrthmaphrathinngipyng phraxngkhthrngidrbkartxnrbcakchawxxsetriyxyangxbxun aetchawxxsetriybangkhnklawwakartxnrbkhxngckrphrrdikhrngniepnephiyngpraephniaelathngsxngphraxngkhmiktrseruxngswnphraxngkhmakkwaeruxngkaremuxng karprachumihyaehngewiynna xyangirktamkhwamsmphnthrahwangphrarachwngsxxsetriyinrahwangkaresdcpraphaskrungewiynnakhxngphraecaefredxrikidrbkarbrryaywadudithisud inkarprachumkhxesnxkhxngphraxngkhthiewiynnathaihkhdtxphrapramukhkhxngrthxun makthisud aetphraxngkhklbidrbkhwamniymcakprachachninkrungewiynnaxyangmakinkareriykrxngsiththikhxngednmark enuxngcakkhwamkhdaeyngkbpramukhrthtangthaihthrngthukpranamcakphrapramukhrthtangwa epnbukhkhlthinarngekiyc inkarprachumthiewiynnakhrngni phraecaefredxrikhthrngimidrbkarihekriytiethiybethaphrapramukhrthxun aetkarprachumthiewiynnakhrngnimiphumaekhachmmakmay mikaretnraaelakhwambnething sungthaihthukeriykwa karprachumetnra aelamieruxngnakhbkhnkhux ckrphrrdixxsetriythrngsnuksnankbthuksing ckrphrrdirsesiythrngrkthukxyang aelaphramhakstriyednmarkthrngdarithungthukkhn inrahwangthrngprathbxyuthieynna thrngrbexa strichawxxsetriythiepnnketnrainkarprachumwy 18 pimaepnphrasnm odyethxxyurwmkbphraecaefredxrikhinewlaxnsntlxdewlathiprathbinewiynna aemwacamikarcdkarihmikhwambnethinginkarprachumthitungekhriyd rchthayathkharl cxhnaehngswiednthrngechuxmnwa phraecaefredxrikhcaimsamarthtanthankraaeskartxtancakchawnxrewy aelacaksnthisyyaekhlthaihesrsthkicednmarksbesaxyangmak emuxxanackrlmlalay thutrsesiyidraynganwa naaeplkindinaednni namasungkhwamrungeruxngkhrngsudthayaelaklayepnsakcakkarkhukkham txngmikaraekpyha ecahnathiednmarkthanganxyanghnk ephuxihrchthayathkharl cxhnaehngswiednthrngptibtitamsnthisyyaekhl inkarchdechykarsuyesiynxrewy xyangirktamswiednidekidkhwamlmehlwcakkarsmpthanaephndinthiidma aelarsesiycatxngldkhabarungkxngthphrsesiyinednmarkaemwadwykhwamtinrnkhxngphraecaefredxrikthi 6 inkarprachumthiewiynnacasamarthchwypraethsednmarkkhxngphraxngkhcakkarkhukkhamkhxngmhaxanacid aetkthrngphidhwngthipraethsimidphlpraoychnthangesrsthkicethathikhwr inchwngthiesdcklbhxlchitnaelaednmarkidmikarchlxngchychnakhxngphraxngkh sungmikraaeskhwamniymrabxbkstriy aetmiprachachnbangklummikhwamrusukhwadklwthisthabnphramhakstriycakumxanacebdesrc inthukthikhxngemuxngxlothna phraxngkhthrngidrbkartxnrbcakpratuemuxngxyangsmphraekiyrti mikaryingslutaelafungchnthipitiyindimathwaykartxnrb inemuxng phraxngkhthrngprathbrthphrathinngphaninewlaklangkhunephuxesdcipprathbthiphrarachwng thuksingswangisw ehlastrixxkmarxngephlngsrresriyphraxngkh aelakarcdnganechlimchlxngphraecaefredxrikhthi 6 mithukthxngthicnthungemuxnghlwng xnusawriyphraecaefredxrikthi 6 inkrungokhepnehekn enuxngcakkhwamtxngkarprachathipityinprachachnmisung rwmthngkhwamniyminphraxngkhksungechnkn phraxngkhthrngimetmicthislaphrarachxanacinwithikarprachathipity phraxngkhthrngihmikareluxktngthng 4 ephuxepnthipruksainkardaeninrabxbprachathipityaemwaphraxngkhcathrngehnwaphwkekhaepnephiyngkhnathipruksaethann odyihmikareluxktngknthngrachxanackr inpiph s 2380 idmikarcdaesdngsilpwtthupracachatiephuxephimrayidkhxngpraethsinkarsrangphiphithphnthinokhepnehekn sungphurbphidchxbokhrngkarkhux ineduxnknyayn ph s 2381 othrwldesncungedinthangklbednmarkhlngcakxasyxyuthiormepnewla 40 pi aelainpinnphraecaefredxrikhthrngmxbthidinsahrbsrangphiphithphnthsungtngxyuthdcakphrarachwngkhrisetiynebxrkipthangkhwa nkhrokhepneheknidecriykhuncakkarthimiphiphithphnthhlayaehng sungsthaptykrrmkhxngphiphithphnthxxkaebbody inwnthi 18 knyayn ph s 2391 idmikarepidphiphithphnthothrwldesn sungepnphiphithphnthaehngaerkkhxngednmark inchwngnnidmipyhaekiywkbkarmithas phraxngkhthrngphyayamaekikhpyhanixyanghnk inrahwangpi ph s 2344 sungekidsngkhramkbxngkvsin mithaschawniokrsxngkhnkhux aelacakthaelaekhribebiyn inmathungkrungokhepnehekninrahwangsngkhram thngsxngkhnidrwmsukbkxngthpheruxxngkvs hlngsinsudsngkhram phraxngkhthrngprathantaaehnnginkxngthpheruxepnrangwl aetthngsxngptiesthephraatnexngepnthasaelatxngklbipthanganrbichnaycangkhxngtn odyichaerngnganirkaaefthangphakhtawntkkhxngxinediy phraxngkhcungrierimhathangaekikhpyhaeruxngthas dwykarbriharkhxngphraecaefredxrikh nkprchyachawednmark idxxkmawiphakywicarnkarbriharkhxngphraxngkh phraxngkhthrngrusukwaihebirkduthukphraxngkhtlxdewlatngaetinwnthi 25 knyayn ph s 2333 khnayngthrngepnphusaercrachkar emuxphraxngkhaelaphranangmari osfiphrachayasungthrngepnthisnicinwngkarsngkhm aelaihebirkidbrryaythungphraxngkhwa khxngtkaetnginphratahnkcdxyangnaekliyd ehlakhunnangcbpakkaaelaphukribbinehmuxnphwkobran xyangirktam fabath phwkekhadudixyuxyangediywkhux karthiimidpradbekhruxngrachxisriyaphrnkhxngphraxngkh phraxngkhthrngtxbklbwa khwamcringaelwkhaphecayinditxnrbsuphaphburusehlanithukkhn aetephiyngkhunethannthikhaphecacaimemttaxiktxip inkhristmasxiph ph s 2342 ihebirkthukenrethstlxdchiwitswrrkhtphraecaefredxrikthi 6 esdcswrrkhtinwnthi 3 thnwakhm ph s 2382 n krungokhepnehekn siriphrachnmayu 71 phrrsa phrabrmsphidthukfngthi phraxngkhthrngkhrxngrachsmbtiepnewlathnghmd 55 pi ody 24 piaerkthrngepnphusaercrachkaraethnphraecakhrisetiynthi 7 aelaxik 31 pi epnphramhakstriyaehngednmarkkarsubrachbllngkphraecaefredxrikhthi 6 esdcswrrkhtodyprascakphrarachoxrsthisamarthsubrachbllngk enuxngcakphraoxrskhxngphraxngkhsungprasutiaetphrarachinimari osfisinphrachnmemuxthrngphraeyawaelaphraoxrsthiprasutiaetphrasnm kimmisiththiinrachbllngk thaihrachbllngkipidaek ecachaykhrisetiyn efredxrik phrarachoxrsin phrapitulakhxngphraecaefredxrikhaelaepnphranddainphranangcueliyna maeriy phraxyyikasungekhyepnstrukbphraecaefredxrikinchwngaerk ecachaykhrisetiynidkhunkhrxngrachy phranam phraecakhrisetiynthi 8 aehngednmark hlngcakphraecakhrisetiynthi 8 swrrkht phraoxrskhxngphraxngkhidkhrxngrachytxepnsmedcphraecaefredxrikhthi 7 aehngednmark thrngxphiesksmrskb phrarachthidainphraecaefredxrikthi 6 aethlngcaknnthrnghyaknodyimmiphraoxrs thida sunghmaykhwamwaechuxsaykhxngphraecaefredxrikthi 6 sungekiywkhxngkbrachwngsidhmdsinlng khngehluxaetphraoxrsaelaphrathidathiprasutiaetphrasnm thimithayathsubskulkhxngphraecaefredxrikthi 6 txipaetimmisiththiinrachwngsphraoxrs thidaphraoxrs thidathiprasutiaetecahyingmari osfiaehngehss khasesil ecahyingmari osfiaehngehss khasesilphramehsiinsmedcphraecaefredxrikhthi 6 phranam prasuti sinphrachnm khusmrs prasutiaelasinphrachnm aelaphraoxrs thidaecachaykhrisetiyn 1791 22 knyayn ph s 2334 1791 23 knyayn ph s 2334 sinphrachnmemuxthrngphraeyawecahyingmari hluys 1792 19 phvscikayn ph s 2335 1793 12 tulakhm ph s 2336 sinphrachnmemuxthrngphraeyaw1793 28 tulakhm ph s 2336 1881 31 mnakhm ph s 2424 xphiesksmrs 1 singhakhm ph s 2372 ph s 2335 2406 immiphraoxrsthidaecahyinghluys 1795 21 singhakhm ph s 2338 1795 7 thnwakhm ph s 2338 sinphrachnmemuxthrngphraeyawecachaykhrisetiyn 1797 1 knyayn ph s 2340 1797 5 knyayn ph s 2340 sinphrachnmemuxthrngphraeyawecahyingcueliyna hluys 1802 12 kumphaphnth ph s 2345 1802 23 kumphaphnth ph s 2345 sinphrachnmemuxthrngphraeyawecahyingefredxriek mari 1808 3 mithunayn ph s 2348 1808 14 krkdakhm ph s 2348 sinphrachnmemuxthrngphraeyaw1793 18 mkrakhm ph s 2351 1881 30 phvsphakhm ph s 2434 xphiesksmrskhrngaerk 1 phvscikayn ph s 2371 ecachayefredxrikhaehngednmarksungtxmakhuxsmedcphraecaefredxrikhthi 7 aehngednmark ph s 2351 2406 txmathrnghya immiphraoxrsthida xphiesksmrskhrngthi 2 ph s 2356 ph s 2421 sungtxmaepnphraechsthainsmedcphrarachathibdikhrisetiynthi 9 aehngednmark immiphraoxrsthidaphrarachoxrsthidathiprasutiaetphrasnmefredxriek ednenmand phrasnmefredxriek ednenmand inpiph s 2405olwisa ekhanetsaehngednenmand 16 emsayn ph s 2353 23 thnwakhm ph s 2481 smrsinpiph s 2379 kbwileliym fan sachari ph s 2350 ph s 2414 mibutrthida khaoriln ekhanetsaehngednenmand ph s 2355 ph s 2387 smrsinpiph s 2380 kbxdxlf efredxrikh chakh fan brxkhdxrf ph s 2353 ph s 2402 mibutrthida efredxrik ekhanaehngednenmand 20 krkdakhm ph s 2356 12 minakhm ph s 2431 smrskhrngaerkinpiph s 2383 kbfransiska fan schxethn ph s 2363 ph s 2387 immibutrthida smrskhrngthisxnginpiph s 2388 kbolwisa ekrfwind chchulin ph s 2358 ph s 2427 immibutrthida smrskhrngthisaminpiph s 2427 kbwilehlmina elawesn ph s 2383 ph s 2433 immibutrthida wledmar ekhanthaehngednenmand 6 mithunayn ph s 2362 4 minakhm ph s 2373 xangxingrachbnthitysthan saranukrmpraethsinthwipyuorp chbbrachbnthitysthan rachbnthitysthan 2550 hna 513 Alf Henrikson Dansk historia Danish history 1989 in Swedish Royal House of Denmark Landgravial House of Hesse Kassel 2008 03 15 thi ewyaebkaemchchinwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraecaefredxrikthi 6 aehngednmark kxnhna phraecaefredxrikthi 6 aehngednmark thdipphraecakhrisetiynthi 7 phramhakstriyednmark 13 minakhm ph s 2351 3 thnwakhm ph s 2382 phraecakhrisetiynthi 8phraecakhrisetiynthi 7 13 minakhm ph s 2351 7 kumphaphnth ph s 2357 phraecakhrisetiyn efredxrikaehngnxrewyphraecakhrisetiynthi 7 rachwngsoxlednbwrk 13 minakhm ph s 2351 3 thnwakhm ph s 2382 phraecakhrisetiynthi 8phraecakhrisetiynthi 7 rachwngsxxlednburk 13 minakhm ph s 2351 3 thnwakhm ph s 2382 phraecakhrisetiynthi 8