พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 (เดนมาร์ก: Frederik Carl Christian; 6 ตุลาคม ค.ศ. 1808 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ตั้งแต่ ค.ศ. 1848 จนกระทั่งเสด็จสวรรคต พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กพระองค์สุดท้ายซึ่งสืบราชสันตติวงศ์จากราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค และเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กพระองค์สุดท้ายในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในรัชกาลของพระองค์ ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานแก่ประชาชนชาวเดนมาร์กซึ่งทำให้มีการจัดตั้งรัฐสภาขึ้นและเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ถือว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กพระองค์แรกในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ คำขวัญของพระองค์คือ เพื่อความรักของผู้คน ความแข็งแกร่งของฉัน (เดนมาร์ก: Folkets Kærlighed, min Styrke) หรือ (อังกฤษ: the People's Love, My Strength)
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบรมสาทิสลักษณ์โดย เอากุสท์ ซิเอต ป. 1850 | |||||
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
ครองราชย์ | 20 มกราคม 1848– 15 พฤศจิกายน 1863 (15 ปี 299 วัน) | ||||
ก่อนหน้า | คริสเตียนที่ 8 | ||||
ถัดไป | คริสเตียนที่ 9 | ||||
พระราชสมภพ | 6 ตุลาคม ค.ศ. 1808 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863 | (55 ปี)||||
ฝังพระศพ | |||||
คู่อภิเษก |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | อ็อลเดินบวร์ค | ||||
พระราชบิดา | คริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา |
พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะสละพระราชอำนาจบางส่วน ทำให้พระองค์กลายเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์เดนมาร์กที่ประชาชนรักมากที่สุด ทั้งๆ ที่ในเอกสารหลายฉบับจากรัชสมัยของพระองค์จะกล่าวไว้ว่า โปรดการเสวยน้ำจัณฑ์และทรงพฤติกรรมนอกรีต พระองค์มีพระบุคลิกเรียบง่ายและจริงใจอย่างแท้จริง พระองค์ทรงมักปรากฏพระองค์อย่าง "เรียบง่ายโดยยังคงเกียรติภูมิแห่งพระมหากษัตริย์" พระองค์ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทั่วเดนมาร์กและมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนทั่วไป พระองค์ทรงกระตือรือร้นการค้นคว้าเกี่ยวกับโบราณวัตถุและทรงเป็นที่ยอมรับจาก นักโบราณคดีว่า "พระองค์ เป็นผู้ซึ่งจุดประการความนิยมด้านโบราณวัตถุให้แพร่หลายมากกว่าผู้ใด ""
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ
เฟรเดอริกพระราชสมภพในวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1808 ณ เป็นพระราชโอรสในคริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์กซึ่งขณะนั้นยังทรงดำรงเป็นเจ้าชายคริสเตียนกับ พระมเหสีพระองค์แรกซึ่งเป็นพระธิดาในกับ ต่อมาหลังจากเฟรเดอริกพระราชสมภพเพียง 1 ปี ดัชเชสชาร์ล็อทเทอ พระราชมารดาทรงมีเรื่องอื้อฉาวกับนักร้องชาวสวิส คือ เมื่อเจ้าชายคริสเตียนทรงรู้เข้าพระองค์ก็ทรงพิโรธมากและทรงหย่ากับดัชเชสชาร์ล็อทเทอในปี ค.ศ. 1810 หลังจากทรงอภิเษกสมรสมาเป็นเวลา 4 ปี และพระองค์ทรงไม่อนุญาตให้ดัชเชาพบกับพระราชโอรสอีก แม้พระนางจะทรงวิงวอนก็ตาม หลังจากนั้นพระนางก็ยังทรงมีเรื่องอื้อฉาวมากมายจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ เฟรเดอริกทรงได้รับการอุปการะจากพระปิตุลาและพระปิตุจฉา ในปี ค.ศ. 1828 พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 แห่งเดนมาร์ก ผู้เป็นพระปิตุลามีพระราชประสงค์ให้เฟรเดอริกเสด็จเยือนฝรั่งเศส, อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์เพื่อให้เจ้าชายทรงได้เข้ารับการศึกษาด้านภาษา,วิชารัฐศาสตร์และกิจการด้านการทหาร ในขณะที่ทรงประทับอยู่ที่เจนีวาที่ซึ่งทรงได้รับการเสนอเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์เนื่องจากทรงเป็นที่นิยมของประชาชนมากระหว่างทรงประทับอยู่ที่เมืองนี้
อภิเษกสมรส
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 พระปิตุลาทรงจัดให้เจ้าชายเฟรเดอริกอภิเษกสมรสกับ พระญาติซึ่งเป็นพระราชธิดาองค์สุดท้องของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 พิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1828 ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้มีการประพันธ์และแสดงละครเรื่อง "(Elverhøj)" เพื่อถวายพระเกียรติในพระพิธีอภิเษกสมรส อย่างไรก็ตามการอภิเษกสมรสได้สร้างความไม่พอพระทัยจากพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 ซึ่งเรื่องเกิดจากเฟรเดอริกเองทรงประพฤติพระองค์เกินขอบเขตและขาดความยั้งคิดโดยพระองค์ทรงทราบเรื่องมาจากพระราชธิดา จนกระทั่งพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 ทรงขาดความอดทนในปี ค.ศ. 1834 พระองค์ได้สั่งเนรเทศเฟรเดอริกออกจากพระราชวังและทรงกดดันให้หย่าขาดจากพระราชธิดาของพระองค์ เนื่องจากระหว่างทรงประทับที่พระราชวังเฟรเดอริกเบอร์ก เฟรเดอริกได้มีความสัมพันธ์กับนางกำนัลนามว่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม "เคาน์เตส แดนเนอร์" และต่อมานางมีความสำคัญต่อพระองค์มาก เฟรเดอริกทรงหย่าขาดกับเจ้าหญิงวิลเฮ็ลมีเนอ มารีในปี ค.ศ. 1837 หลังจากพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 พระปิตุลาเสด็จสวรรคต พระราชบิดาของเจ้าชายเฟรเดอริกทรงครองราชย์สืบต่อ พระนาม พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก ในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 1839 และทรงแต่งตั้งเฟรเดอริกเป็นมกุฎราชกุมาร ทรงประกาศยกเลิกการเนรเทศมกุฎราชกุมารและให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการแห่งฟูเนน ซึ่งเป็นตำแหน่งก่อนที่พระบิดาจะทรงขึ้นครองราชย์ มกุฎราชกุมารทรงอภิเษกสมรสอีกครั้งในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1841 อภิเษกกับ พระราชธิดาในกับ การอภิเษกสมรสครั้งนี้สร้างความไม่พอพระทัยแก่มกุฎราชกุมารเฟรเดอริกอีกครั้ง ทั้งสองพระองค์ทรงประทับแยกกันและทรงหย่าขาดกันในปี ค.ศ. 1845 ต่อมามีพระประสงค์ที่จะอภิเษกสมรสกับลูอีส ลัสมุสเซิน ทำให้ทรงถูกคัดค้านอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามหลังจากทรงขึ้นครองราชย์พระองค์ก็ได้อภิเษกสมรสกับนาง
ในวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1850 ณ เฟรเดอริกทรงอภิเษกสมรสกับ ในปีเดียวกันพระองค์ทรงสถาปนานางขึ้นเป็นลันด์เกรวีนเดนเนอร์(ในเดนมาร์กรู้จักในชื่อ เดนเนอร์) ลูอีส ลัสมุสเซอนเคยเป็นอดีตนักบัลเล่ต์และเคยเป็นช่างทำหมวกสามัญชน เธอมีความสัมพันธ์กับเฟรเดอริกมานานหลายปี ชีวิตสมรสเป็นไปอย่างมีความสุข แม้ว่าจะเป็นที่ตระหนกตกใจยิ่งในหมู่ชนชั้นขุนนางและชนชั้นกระฎมพี เคาน์เตสเดนเนอร์ถูกประณามอย่างหยาบคายโดยศัตรูของเธอ แต่ความเป็นคนแข็งแกร่งและวางเฉยทำให้ได้รับการสรรเสริญจากผู้ที่ชื่นชมเธอว่าเป็น "บุตรีแห่งประชาชน" ลักษณะพิเศษเหล่านี้น่าจะส่งผลกระทบที่น่าประทับใจต่อพระองค์ เธอเป็นผู้ทำให้พระองค์เป็นที่นิยมมากขึ้นโดยการให้พระองค์ "เยี่ยมเยือนพสกนิกร" ตามจังหวัดต่างๆ
สัมพันธภาพนอกสมรสและทายาทที่เป็นไปได้
การที่พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ทรงไม่มีรัชทายาทสืบราชบัลลังก์กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวและแพร่กระจายไปในวงกว้าง แต่เป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลไม่ค่อยออกมาแสดงความคิดเห็นหรือสถานะมากนัก ได้มีข่าวลือว่าองค์เหนือหัวทรงมีบุตรไม่ได้ ในช่วงรัชสมัยของพระราชบิดาของพระเจ้าเฟรเดอริก คือ พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์กปัญหาการสืบราชบัลลังก์จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ยุ่งยากในภายภาคหน้า
เคยมีการรายงานว่าองค์เหนือหัวมีพระราชโอรสอยู่ 1 พระองค์คือ เฟรเดอริก คาร์ล คริสเตียน พอลเซน ซึ่งเกิดในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1843 โดยครั้งนั้นพระองค์มีความสัมพันธ์กับนางเอลเซ มาเรีย กูล์ดบอร์ก ปีเดอเซน (หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ มารี พอลเซน) ที่ซึ่งความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นในช่วงการอภิเษกสมรส 2 ครั้งที่ไม่มีความสุข เรื่องราวนี้ได้มีการตีพิมพ์เป็นหนังสือในปี ค.ศ. 1994 และตีพิมพอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009 จากบทความในหนังสือพิมพ์ เจ้าของหนังสือคือ นางเอลเซ มาร์เกรเธ บอนโด ผู้ซึ่งเชื่อว่าเธอเองเป็นพระปนัดดาในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 และเธอได้อ้างสิทธิเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์ก เธอได้อ้างจากจดหมายลายพระหัตถ์ของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ที่ทรงเขียนถึงมารี พอลเซนโดยทรงยินยอมรับเป็นพระบิดาของเฟรเดอริก คาร์ล คริสเตียน พอลเซน จดหมายเหล่านี้ได้ถูกอ้างอิงในหนังสือด้วย แต่อย่างไรก็ตามในทางกฎหมายสัมพันธภาพนอกสมรสและทายาทที่เกิดมาจะไม่มีสิทธิสืบราชสันตติวงศ์ในราชบัลลังก์เดนมาร์กทุกกรณี
มีการกล่าวหาว่าองค์เหนือหัวทรงเป็นพวกรักร่วมเพศโดยทรงมีความสัมพันธ์กับ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เบอร์ลิงเป็นพวกรักร่วมสองเพศโดยมีบุตรนอกกฎหมายกับลูอีส ลัสมุสเซิน ชื่อว่า ซึ่งเป็นที่โปรดปรานขององค์เหนือหัวมาก พระองค์ทรงเลือกวันที่จะลงพระปรมาภิไธยพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตรงกับวันเกิดครอบรอบ 8 ปีของคาร์ล คริสเตียนในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1849 เพื่อต้องการรักษาธรรมเนียมอันชอบธรรม พระองค์อภิเษกสมรสกับลูอีส ลัสมุสเซิน และทั้งงามคนได้ย้ายเข้าอาศัยในพระราชวังที่ซึ่งเบอร์ลิงได้รับแต่งตั้งให้เป็นมหาดเล็กจนกระทั่ง ค.ศ. 1861 การอภิเษกสมรสโดยต่างฐานันดรศักดิ์ครั้งนี้ได้รับการกล่าวขานจนเป็นที่รู้จักกันดี แต่สาเหตุที่มีไม่ค่อยได้รับการอธิบายอย่างละเอียด
รัชสมัย
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 | |
---|---|
ตราประจำพระอิสริยยศ | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | Hans Majestæt (ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท) |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | Deres Majestæt (พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ) |
พระเจ้าคริสเตียนที่ 8 พระราชบิดาเสด็จสวรรคตในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1848 ณ พระราชวังอามาเลียนเบอร์ก สิริพระชนมายุ 61 พรรษา เฟรเดอริกเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์ก ด้วยพระชนมายุ 39 พรรษา พระองค์ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากสาธารณะในช่วงแรกจากการที่ทรงไม่มีประสบการณ์ พระองค์ทรงเป็นสมาชิกในตั้งแต่ ค.ศ. 1848 แต่ก็ไม่ทรงแสดงออกว่าทรงสนพระทัยการเมือง อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ปวงชนชาวเดนมาร์กรักและเป็นที่นิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์เดนมาร์ก อันเนื่องมาจากทรงยกเลิกระบอบการปกครองที่ดำรงมาอย่างยาวนานเมื่อครั้งอดีตและพระราชทานที่เสรีภาพในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1849 ผลกระทบจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1848 ได้ส่งผลถึงเดนมาร์ก และในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1848 เยอรมันเรียกร้องสิทธิในดัชชีชเลสวิชให้รวมอยู่ในสมาพันธรัฐเยอรมันและเรื่องดัชชีนี้ได้รับการไกล่เกลี่ยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เสรี ข้อเรียกร้องเหล่านี้ทำให้มีการประชุมของในวันที่ 20 มีนาคม เรียกว่า การประชุมคาสิโน เนื่องจากประชุมที่โรงละครคาสิโนที่ซึ่งการพูดคุยกันทำให้สับสน ได้เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีของพระมหากษัตริย์จัดสรรรัฐธรรมนูญที่เสรีแก่ทั้งเดนมาร์กและชเลสวิช ออร์ลาได้กล่าวว่า "พวกเราไม่เชื่อว่าฝ่าพระบาทจะทรงขับเคลื่อนประเทศนี้ซึ่งสิ้นหวังในการช่วยเหลือตนเองได้" ภายใต้คำขวัญที่ว่า "Danmark til Ejderen" ทำให้เกิดการเดินขบวนประท้วงโดยผู้แทนพลเมืองในวันถัดมาที่จตุรัสหน้าพระราชวัง รัฐบาลได้ลาออกอย่างฉลาดโดยลาออกก่อนครบวาระและพระเจ้าเฟรเดอริกเสด็จไปพบปะกับกลุ่มผู้ประท้วงโดยมีพระราชดำรัสว่า "ข้าพเจ้ายินดีที่ได้บอกพวกท่านว่าข้าพเจ้าเข้าใจในเรื่องที่ซึ่งพวกเขาได้บอกแก่ข้าพเจ้าแล้ว คณะรัฐมนตรีชุดเก่าได้สิ้นสุดลงแล้ว" จึงสำเร็จ
ใน 2 วันถัดมาได้มีการเลือกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่โดยมีทั้งฝ่ายเสรีภาพและอนุรักษนิยมเข้าร่วมประชุมด้วย พระเจ้าเฟรเดอริกทรงประกาศต่อต้านคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ซึ่งทรงพิจารณาแล้วว่าเป็นการล้มล้างระบอบเก่าแก่แต่โบราณและพระองค์เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยทรงประกาศว่า "กษัตริย์จะเข้ารับฟังการประชุมของทางรัฐเมื่อได้รับเชิญเท่านั้น" หลังจากองค์เหนือหัวทรงเข้ารับการประชุมที่น่าเบื่อพระองค์มีพระราชดำรัสออกมาอย่างสั้นๆว่า "ในตอนนี้ ฉันสามารถนอนได้ตราบใดที่ฉันรู้สึกอยาก"
ช่วงปี ค.ศ. 1830 เกิดการเคลื่อนไหวของประชาชนชาวเยอรมันซึ่งต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นเสรีแก่รัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ ที่ซึ่งรัฐชเลสวิชอันเป็นดินแดนของราชอาณาจักรเดนมาร์กจะถูกรวมเข้ากับสมาพันธรัฐเยอรมัน ส่วนรัฐฮ็อลชไตน์และเลาว์บูร์กได้เข้าร่วมแล้ว และได้กำหนดแนวพรมแดนระหว่างรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์โดยใช้และแม่น้ำเอลเบอ และเหตุนี้ได้นำไปสู่ความเห็นของขบวนการแห่งชาติเดนมาร์ก ได้เสนอให้ล้มล้างดัชชีแห่งชเลสวิชและรวมเข้ากับราชอาณาจักรเดนมาร์ก คาบสมุทรจัตแลนด์ควรจะกำหนดพรมแดนทางใต้ไว้ที่ รัฐชเลสวิชให้เป็นชายแดนทางภาษาระหว่างเดนิชและเยอรมัน รัฐบาลเดนมาร์กยืนยันว่ารัฐชเลสวิชจักต้องอยู่ภายในราชอาณาจักรเดนมาร์กต่อไปส่วนรัฐฮ็อลชไตน์ยินดีที่ถอนตัวจากเดนมาร์กและเข้าร่วมในสมาพันธรัฐเยอรมัน ในวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1848 ชาวเยอรมันในรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ก่อการจลาจลต่อต้านรัฐบาลใหม่แห่งเดนมาร์กและก่อตั้งรัฐบาลของตนเองที่เมืองคีล ซึ่งนำไปสู่ สงครามชเลสวิชครั้งที่หนึ่งหรือสงครามสามปี ระหว่างเดนมาร์กกับกองกำลังพันธมิตรของชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ซึ่งได้แก่ ปรัสเซียและสมาพันธรัฐเยอรมัน ผลปรากฏว่ากองทัพเดนมาร์กได้ชัยชนะและเข้าครอบครองรัฐชเลสวิชได้ที่แม่น้ำอีเดอร์
สงครามนำมาซึ่งชัยชนะของกองทัพเดนมาร์กแต่เสถียรภาพของการเมืองยังคงเหมือนเดิม ชาวเดนส์ยกเลิกการส่งทหารที่แม่น้ำอีเดอร์ และในปี ค.ศ. 1855 ฝ่านอนุรักษนิยมได้แนะนำให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก,ชเลสวิชและฮ็อลชไตน์ แต่ 3 ปีให้หลังจากการประกาศให้ฮ็อลชไตน์เป็นสมาชิกในสมาพันธรัฐเยอรมันกลับไม่ถูกต้องเพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อตกลงสากลที่เดนมาร์กได้ลงนามหลังจากสงครามสามปียุติ ปรัสเซียได้สนับสนุนชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ให้รวมกับสมาพันธรัฐเยอรมัน ในขณะที่เดนมาร์กต้องการรวมชเลสวิชเข้าในราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1863 ฝ่ายเสรีแห่งชาติได้ประกาศ Novemberforfatningen หรือ แทนที่รัฐธรรมนูญปี ค.ศ. 1855 อย่างไรก็ตามพระเจ้าเฟรเดอริกเสด็จสวรรคตในเดือนนั้นก่อนที่จะทรงลงพระปรมาภิไธยใน Novemberforfatningen ให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ในระหว่างสงครามได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญโดยสภาที่ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่เสรี พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ทรงลงพระปรมาภิไธยลงในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 1849 เป็นกฎหมายพื้นฐาน แม้ว่าพระองค์จะทรงแคลงพระทัยในกฎข้อบังคับบางประการ นับเป็นเวลา 187 ปีแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 เดนมาร์กได้เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย
สวรรคต
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 เสด็จสวรรคตในวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863 ณ สิริพระชนมายุ 55 พรรษา พระบรมศพถูกฝังที่ พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายในราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค เนื่องจากทรงไม่มีรัชทายาททำให้เกิดวิกฤตราชบัลลังก์เดนมาร์กในกาลต่อมา
วิกฤตการสืบราชบัลลังก์เดนมาร์ก
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ทรงอภิเษกสมรส 3 ครั้ง แต่ไม่ทรงมีรัชทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในความเป็นจริงพระองค์ทรงเจริญพระชันษาสู่วัยกลางคนโดยปราศจากทายาท ซึ่งหมายความว่า เจ้าชายคริสทีอันแห่งกลึคส์บวร์ค (ค.ศ. 1818–1906) ผู้ซึ่งเป็นทายาทสืบเชื้อสายจากพระญาติของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6ได้ถูกเลือกให้เป็นรัชทายาทผู้มีสิทธิสืบราชบัลลังก์โดยชอบธรรมในปี ค.ศ. 1851 เมื่อพระเจ้าเฟรเดอริกเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1863 เจ้าชายคริสทีอันได้สืบราชบัลลังก์ต่อเป็นคริสเตียนที่ 9
เนื่องมาจากกฎหมายแซลิกการสืบราชบัลลังก์หลังจากการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าเฟรเดอริกซึ่งไร้รัชทายาทยังเป็นปัญหาที่ยังถกเถียง ซึ่งเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นแต่ก็เกิดสงครามขึ้น กลุ่มชาตินิยมของประชาชนผู้ใช้ภาษาเยอรมันในรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ตั้งใจว่าจะไม่มีการแก้ปัญหาซึ่งให้ดัชชีรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเดนมาร์กซึ่งเป็นที่พอใจมาก ดัชชีทั้งสองต้องการประมุขที่สืบสายพระโลหิตตามกฎหมายแซลิกในหมู่ทายาทของเฮลวิก ผู้อาวุโสของราชสกุลได้ประกาศตั้งตนเป็นเจ้าชายฟรีดริช ดยุกแห่งเอากุสเทินบวร์ค (ผู้ซึ่งตั้งตนเป็น หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเฟรเดอริก) เจ้าชายฟรีดริชแห่งเอากุสเทินบวร์คพระองค์นี้ทรงเป็นสัญลักษณ์ของชาตินิยมเยอรมันในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพแก่รัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ ตั้งแต่ในสมัยของพระบิดาของพระองค์ซึ่งทรงแลกกับเงินโดยทรงยอมสละสิทธิในราชบัลลังก์ทั้งชเลสวิชและฮ็อลชไตน์ตามมาด้วยการทำในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1851 ที่ซึ่งจัดทำหลังสิ้นสุดสงครามชเลสวิชครั้งที่หนึ่ง เนื่องมาจากพระบิดาทรงสละสิทธิ ส่งผลให้เจ้าชายฟรีดริชทรงถูกเห็นว่าขาดคุณสมบัติที่จะสืบราชบัลลังก์
เดนมาร์กอยู่ภายใต้กฎหมายแซลิก แต่จำกัดสิทธิที่ทายาทเชื้อสายของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 แห่งเดนมาร์กเท่านั้น(ผู้ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในระบอบสืบราชสันตติวงศ์ โดยก่อนรัชสมัยของพระองค์กษัตริย์จะมาจากการเลือกตั้ง) ในขณะนั้นสมาชิกในราชสกุลชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์สายเอากุสเทินบวร์คและกลึคส์บวร์คซึ่งเป็นพระญาติฝ่ายชายขององค์เหนือหัวไม่ได้รับการอนุญาตให้มีสิทธิสืบราชบัลลังก์ภายใต้ข้อบัญญัติ การสืบราชบัลลังก์ทรงฝ่ายชายของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 ได้มาสิ้นสุดลงหลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 และในจุดนั้น กฎหมายว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ที่ประกาศใช้โดยพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 ได้รวมการสืบราชบัลลังก์แบบ "กฎหมายกึ่งแซลิก" อย่างไรก็ตามมีการทดแทนในการสืบราชสันตติวงศ์ที่เป็นไปได้ไม่ว่าจะเป็นพระญาติฝ่ายหญิงที่ใกล้ชิดที่สุด ปัญหาจะได้รับการแก้ไขโดยการเลือกตั้งหรือการแบกกฎหมายเพื่อยอมรับรัชทายาทองค์ใหม่
พระญาติฝ่ายหญิงที่ใกล้ชิดพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 มากที่สุดคือ พระปิตุจฉาของพระองค์ ผู้ซึ่งอภิเษกสมรสกับลันด์กราฟแห่ง อย่างไรก็ตามทรงมิใช่เชื้อสายที่สืบทอดทางบุรุษและทรงไม่มีสิทธิสืบราชบัลลังก์ในชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ รัชทายาทซึ่งเป็นราชนิกุลฝ่ายหญิงได้มีการกำหนดมาจากสิทธิของบุตรหัวปีโดยพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 จากการไร้บุตรของพระราชธิดาในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 หลังจากการเริ่มต้นของสิทธิของบุตรหัวปีได้ส่งผลถึงสิทธิของทายาทใน พระขนิษฐาในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 ผู้ซึ่งอภิเษกสมรสกับดยุกแห่งเอากุสเทินบวร์ค ทายาทของสายนั้นก็เหมือนกับเจ้าชายฟรีดรอชแห่งเอากุสเทินบวร์คแต่โอกาสของพระองค์มาถึงหลังจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ใน ค.ศ. 1863
บางสิทธิได้เป็นของสายกลึคส์บวร์คซึ่งเป็นสายที่ยังอ่อนอาวุโสมากในราชวงศ์ สายตระกูลนี้เป็นทายาทของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 ผ่านทางบรรพบุรุษหญิงซึ่งเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 5 แห่งเดนมาร์กและมีทายาทชายอ่อนอาวุโสซึ่งมีสิทธิในชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ ซึ่งก็คือ เจ้าชายคริสทีอันแห่งกลึคส์บวร์ค (ค.ศ. 1818–1906)และพระเชษฐาสองพระองค์ พระองค์โตทรงไร้รัชทายาทแต่พระองค์รองมีพระโอรส
เจ้าชายคริสทีอันแห่งกลึคส์บวร์ค (ค.ศ. 1818–1906) เป็นพระนัดดาบุญธรรมในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6กับสมเด็จพระราชินีมารี โซฟี ดังนั้นทำให้ทรงคุ้นเคยดีกับพระราชประเพณีและธรรมเนียมของราชวงศ์ เจ้าชายคริสทีอันเป็นพระปนัดดาในสมเด็จพระราชินีมารี โซฟีและทรงเป็นเชื้อสายของพระญาติชั้นหนึ่งในพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 พระองค์ถูกส่งมายังเดนมาร์กเพื่อประทับในพระราชวงศ์และตรัสภาษาเดนมาร์กและไม่ทรงเป็นชาตินิยมเยอรมัน แม้ว่าสิ่งที่ทางราชวงศ์ทำจะไม่เป็นไปตามกฎหมาย แต่ราชวงศ์ทำให้เจ้าชายทรงเป็นที่นิยมและเป็นจุดสนใจในชาวเดนมาร์ก ในขณะเป็นทายาทชายซึ่งอ่อนอาวุโส พระองค์ทรงมีสิทธิในราชบัลลังก์ชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ แต่ไม่ใช่พระองค์แรกในราชสันตติวงศ์ เนื่องจากทรงเป็นเชื้อสายของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 3 ทำให้ทรงมีสิทธิสืบราชบัลลังก์เดนมาร์ก แต่ก็ไม่ใช่พระองค์แรกในราชสันตติวงศ์ อย่างไรก็ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ยังไม่ชัดเจน
เจ้าชายคริสทีอันแห่งกลึคส์บวร์คภิเษกสมรสกับพระธิดาองค์โตใน พระปิตุจฉาของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ซึ่งเป็นพระญาติฝ่ายหญิงที่ใกล้ชิดพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 มากที่สุด พระมารดาและพระอนุชาของเจ้าหญิงลูอีเซอได้สละสิทธิในการสืบราชบัลลังก์แก่เจ้าหญิงลูอีอผวอและพระสวามี ทำให้พระชายาในเจ้าชายคริสทีอันเป็นพระญาติซึ่งใกล้ชิดพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 มากที่สุด
"กฎหมายกึ่งแซลิก"ในการสืบราชสันตติวงศ์ที่สลับซับซ้อนได้ถูกแก้ปัญหาโดยเจ้าชายคริสทีอันแห่งกลึคส์บวร์คได้ถูกเลือกในปี ค.ศ. 1852 ให้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อพระเจ้าเฟรเดอริกเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1863 เจ้าชายคริสทีอันได้สืบราชบัลลังก์ต่อเป็นพระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1863 เจ้าชายฟรดริชแห่งเอากุสเทินบวร์คทรงอ้างสิทธิเหนือรัฐชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์โดยสืบบัลลังก์ดัชชีทั้งสองต่อจากการสวรรคตของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 ปรัสเซียและออสเตรียประกาศสงครามชเลสวิชครั้งที่สองกับเดนมาร์ก ซึ่งผลของสงครามคือ เดนมาร์กพ่ายแพ้และสูญเสียดัชชีทั้งสอง
พระราชตระกูล
16. คริสเตียนที่ 6 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
8. เฟรเดอริกที่ 5 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
17. | ||||||||||||||||
4. | ||||||||||||||||
18. แฟร์ดีนันด์ อัลเบร็คท์ที่ 2 ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล | ||||||||||||||||
9. ดัชเชสยูลีอาเนอ มารีอา แห่งเบราน์ชไวค์-ว็อลเฟินบึทเทิล | ||||||||||||||||
19. | ||||||||||||||||
2. คริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
20. (=24) | ||||||||||||||||
10. (=12) | ||||||||||||||||
21. (=25) | ||||||||||||||||
5. | ||||||||||||||||
22. (=26) | ||||||||||||||||
11. (=13) | ||||||||||||||||
23. (=27) | ||||||||||||||||
1. เฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์ก | ||||||||||||||||
24. (=20) | ||||||||||||||||
12. (=10) | ||||||||||||||||
25. (=21) | ||||||||||||||||
6. | ||||||||||||||||
26. (=22) | ||||||||||||||||
13. (=11) | ||||||||||||||||
27. (=23) | ||||||||||||||||
3. | ||||||||||||||||
28. | ||||||||||||||||
14. | ||||||||||||||||
29. | ||||||||||||||||
7. | ||||||||||||||||
30. | ||||||||||||||||
15. | ||||||||||||||||
31. | ||||||||||||||||
อ้างอิง
- "Frederick VII, Konge af Denmark". Salmonsens konversationleksikon. สืบค้นเมื่อ August 15, 2016.
- (1969). The Bog People: Iron Age Man Preserved. London: Faber and Faber Limited. Page 68-69.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อGete
- [1]
- Gete Bondo Oldenborg Maaløe: Getes Erindringer, Ådalen, 2009,
- DIS-Forum :: AneEfterlysning :: Louise Rasmussen (Danner)
- P. Fr. Suhm: Hemmelige Efterretninger om de danske Konger efter souveraineteten, Copenhagen 1918
ก่อนหน้า | พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์ก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
คริสเตียนที่ 8 | พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก (20 มกราคม ค.ศ. 1848 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1963) | คริสเตียนที่ 9 | ||
คริสเตียนที่ 8 | ดยุกแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ (ราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค) (20 มกราคม ค.ศ. 1848 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863) | คริสเตียนที่ 9 | ||
คริสเตียนที่ 8 | ดยุกแห่งซัคเซิน-เลาเอินบวร์ค (ราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค) (20 มกราคม ค.ศ. 1848 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863) | คริสเตียนที่ 9 |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecaefredxrikthi 7 ednmark Frederik Carl Christian 6 tulakhm kh s 1808 15 phvscikayn kh s 1863 thrngepnphramhakstriyaehngednmark tngaet kh s 1848 cnkrathngesdcswrrkht phraxngkhepnphramhakstriyednmarkphraxngkhsudthaysungsubrachsnttiwngscakrachwngsxxledinbwrkh aelaepnphramhakstriyednmarkphraxngkhsudthayinrabxbsmburnayasiththirachy inrchkalkhxngphraxngkh thrnglngphraprmaphiithyphrarachthanaekprachachnchawednmarksungthaihmikarcdtngrthsphakhunaelaepliynrabxbkarpkkhrxngcaksmburnayasiththirachyepnrachathipityphayitrththrrmnuy thuxwaphraxngkhepnphramhakstriyednmarkphraxngkhaerkinrabxbrachathipityphayitrththrrmnuy khakhwykhxngphraxngkhkhux ephuxkhwamrkkhxngphukhn khwamaekhngaekrngkhxngchn ednmark Folkets Kaerlighed min Styrke hrux xngkvs the People s Love My Strength phraecaefredxrikthi 7phrabrmsathislksnody exakusth siext p 1850phramhakstriyaehngednmarkkhrxngrachy20 mkrakhm 1848 15 phvscikayn 1863 15 pi 299 wn kxnhnakhrisetiynthi 8thdipkhrisetiynthi 9phrarachsmphph6 tulakhm kh s 1808 1808 10 06 okhepnehekn praethsednmarkswrrkht15 phvscikayn kh s 1863 1863 11 15 55 pi fngphrasphkhuxphiesk smrs 1828 hya 1837 smrs 1841 hya 1845 smrs 1850 phranametmefredxrik kharl khrisetiynrachwngsxxledinbwrkhphrarachbidakhrisetiynthi 8 aehngednmarkphrarachmarda phraxngkhmiphrarachprasngkhthicaslaphrarachxanacbangswn thaihphraxngkhklayepnhnunginphramhakstriyednmarkthiprachachnrkmakthisud thng thiinexksarhlaychbbcakrchsmykhxngphraxngkhcaklawiwwa oprdkareswynacnthaelathrngphvtikrrmnxkrit phraxngkhmiphrabukhlikeriybngayaelacringicxyangaethcring phraxngkhthrngmkpraktphraxngkhxyang eriybngayodyyngkhngekiyrtiphumiaehngphramhakstriy phraxngkhyngidesdcphrarachdaeninipthwednmarkaelamiphrarachptisntharkbprachachnthwip phraxngkhthrngkratuxruxrnkarkhnkhwaekiywkbobranwtthuaelathrngepnthiyxmrbcak nkobrankhdiwa phraxngkh epnphusungcudprakarkhwamniymdanobranwtthuihaephrhlaymakkwaphuid chwngtnphrachnmchiphefredxrikphrarachsmphphinwnthi 6 tulakhm kh s 1808 n epnphrarachoxrsinkhrisetiynthi 8 aehngednmarksungkhnannyngthrngdarngepnecachaykhrisetiynkb phramehsiphraxngkhaerksungepnphrathidainkb txmahlngcakefredxrikphrarachsmphphephiyng 1 pi dchechscharlxthethx phrarachmardathrngmieruxngxuxchawkbnkrxngchawswis khux emuxecachaykhrisetiynthrngruekhaphraxngkhkthrngphiorthmakaelathrnghyakbdchechscharlxthethxinpi kh s 1810 hlngcakthrngxphiesksmrsmaepnewla 4 pi aelaphraxngkhthrngimxnuyatihdchechaphbkbphrarachoxrsxik aemphranangcathrngwingwxnktam hlngcaknnphranangkyngthrngmieruxngxuxchawmakmaycnkrathngsinphrachnm efredxrikthrngidrbkarxupkaracakphrapitulaaelaphrapituccha inpi kh s 1828 phraecaefredxrikthi 6 aehngednmark phuepnphrapitulamiphrarachprasngkhihefredxrikesdceyuxnfrngess xitali aelaswitesxraelndephuxihecachaythrngidekharbkarsuksadanphasa wicharthsastraelakickardankarthhar inkhnathithrngprathbxyuthiecniwathisungthrngidrbkaresnxepnphlemuxngkittimskdienuxngcakthrngepnthiniymkhxngprachachnmakrahwangthrngprathbxyuthiemuxngnixphiesksmrsphraecaefredxrikthi 6 phrapitulathrngcdihecachayefredxrikxphiesksmrskb phrayatisungepnphrarachthidaxngkhsudthxngkhxngphraecaefredxrikthi 6 phithixphiesksmrscdkhuninwnthi 1 phvscikayn kh s 1828 n krungokhepnehekn idmikarpraphnthaelaaesdnglakhreruxng Elverhoj ephuxthwayphraekiyrtiinphraphithixphiesksmrs xyangirktamkarxphiesksmrsidsrangkhwamimphxphrathycakphraecaefredxrikthi 6 sungeruxngekidcakefredxrikexngthrngpraphvtiphraxngkhekinkhxbekhtaelakhadkhwamyngkhidodyphraxngkhthrngthraberuxngmacakphrarachthida cnkrathngphraecaefredxrikthi 6 thrngkhadkhwamxdthninpi kh s 1834 phraxngkhidsngenrethsefredxrikxxkcakphrarachwngaelathrngkddnihhyakhadcakphrarachthidakhxngphraxngkh enuxngcakrahwangthrngprathbthiphrarachwngefredxrikebxrk efredxrikidmikhwamsmphnthkbnangkanlnamwa sungepnthiruckinnam ekhanets aednenxr aelatxmanangmikhwamsakhytxphraxngkhmak efredxrikthrnghyakhadkbecahyingwilehlmienx mariinpi kh s 1837 hlngcakphraecaefredxrikthi 6 phrapitulaesdcswrrkht phrarachbidakhxngecachayefredxrikthrngkhrxngrachysubtx phranam phraecakhrisetiynthi 8 aehngednmark inwnthi 8 thnwakhm kh s 1839 aelathrngaetngtngefredxrikepnmkudrachkumar thrngprakasykelikkarenrethsmkudrachkumaraelaihthrngdarngtaaehnngphuwarachkaraehngfuenn sungepntaaehnngkxnthiphrabidacathrngkhunkhrxngrachy mkudrachkumarthrngxphiesksmrsxikkhrnginwnthi 10 mithunayn kh s 1841 xphieskkb phrarachthidainkb karxphiesksmrskhrngnisrangkhwamimphxphrathyaekmkudrachkumarefredxrikxikkhrng thngsxngphraxngkhthrngprathbaeykknaelathrnghyakhadkninpi kh s 1845 txmamiphraprasngkhthicaxphiesksmrskbluxis lsmusesin thaihthrngthukkhdkhanxyangmak aetxyangirktamhlngcakthrngkhunkhrxngrachyphraxngkhkidxphiesksmrskbnang inwnthi 7 singhakhm kh s 1850 n efredxrikthrngxphiesksmrskb inpiediywknphraxngkhthrngsthapnanangkhunepnlndekrwinednenxr inednmarkruckinchux ednenxr luxis lsmusesxnekhyepnxditnkbleltaelaekhyepnchangthahmwksamychn ethxmikhwamsmphnthkbefredxrikmananhlaypi chiwitsmrsepnipxyangmikhwamsukh aemwacaepnthitrahnktkicyinginhmuchnchnkhunnangaelachnchnkradmphi ekhanetsednenxrthukpranamxyanghyabkhayodystrukhxngethx aetkhwamepnkhnaekhngaekrngaelawangechythaihidrbkarsrresriycakphuthichunchmethxwaepn butriaehngprachachn lksnaphiessehlaninacasngphlkrathbthinaprathbictxphraxngkh ethxepnphuthaihphraxngkhepnthiniymmakkhunodykarihphraxngkh eyiymeyuxnphsknikr tamcnghwdtang smphnthphaphnxksmrsaelathayaththiepnipid karthiphraecaefredxrikthi 7 thrngimmirchthayathsubrachbllngkklayepneruxngxuxchawaelaaephrkracayipinwngkwang aetepneruxngthithangrthbalimkhxyxxkmaaesdngkhwamkhidehnhruxsthanamaknk idmikhawluxwaxngkhehnuxhwthrngmibutrimid inchwngrchsmykhxngphrarachbidakhxngphraecaefredxrik khux phraecakhrisetiynthi 8 aehngednmarkpyhakarsubrachbllngkcaklayepnpyhaihythiyungyakinphayphakhhna exles marekreth bxnod khwa phusungechuxwaethxexngepnphrapnddainefredxrikthi 7 say aelaethxidxangsiththiepnsmedcphrarachininathaehngednmark rachwngsxxledinbwrkh ekhymikarraynganwaxngkhehnuxhwmiphrarachoxrsxyu 1 phraxngkhkhux efredxrik kharl khrisetiyn phxlesn sungekidinwnthi 21 phvscikayn kh s 1843 odykhrngnnphraxngkhmikhwamsmphnthkbnangexles maeriy kuldbxrk piedxesn hruxepnthiruckinchux mari phxlesn thisungkhwamsmphnthniekidkhuninchwngkarxphiesksmrs 2 khrngthiimmikhwamsukh eruxngrawniidmikartiphimphepnhnngsuxinpi kh s 1994 aelatiphimphxikkhrnginpi kh s 2009 cakbthkhwaminhnngsuxphimph ecakhxnghnngsuxkhux nangexles marekreth bxnod phusungechuxwaethxexngepnphrapnddainphraecaefredxrikthi 7 aelaethxidxangsiththiepnsmedcphrarachininathaehngednmark ethxidxangcakcdhmaylayphrahtthkhxngphraecaefredxrikthi 7 thithrngekhiynthungmari phxlesnodythrngyinyxmrbepnphrabidakhxngefredxrik kharl khrisetiyn phxlesn cdhmayehlaniidthukxangxinginhnngsuxdwy aetxyangirktaminthangkdhmaysmphnthphaphnxksmrsaelathayaththiekidmacaimmisiththisubrachsnttiwngsinrachbllngkednmarkthukkrni mikarklawhawaxngkhehnuxhwthrngepnphwkrkrwmephsodythrngmikhwamsmphnthkb brrnathikarhnngsuxphimph ebxrlingepnphwkrkrwmsxngephsodymibutrnxkkdhmaykbluxis lsmusesin chuxwa sungepnthioprdprankhxngxngkhehnuxhwmak phraxngkhthrngeluxkwnthicalngphraprmaphiithyphrarachthanrththrrmnuychbbihmtrngkbwnekidkhrxbrxb 8 pikhxngkharl khrisetiyninwnthi 5 mithunayn kh s 1849 ephuxtxngkarrksathrrmeniymxnchxbthrrm phraxngkhxphiesksmrskbluxis lsmusesin aelathngngamkhnidyayekhaxasyinphrarachwngthisungebxrlingidrbaetngtngihepnmhadelkcnkrathng kh s 1861 karxphiesksmrsodytangthanndrskdikhrngniidrbkarklawkhancnepnthiruckkndi aetsaehtuthimiimkhxyidrbkarxthibayxyanglaexiydrchsmythrrmeniymphrayskhxng smedcphraecaefredxrikthi 7trapracaphraxisriyysthngpracaphraxisriyystrapracaphraxngkhkarthulHans Majestaet itfalaxxngthuliphrabath karaethntnkhaphraphuththecakarkhanrbDeres Majestaet phraphuththecakha ephkha phraecaefredxrikthi 7 thrnglngphraprmaphiithyphrarachthanrththrrmnuyineduxnmithunayn kh s 1849 phraecakhrisetiynthi 8 phrarachbidaesdcswrrkhtinwnthi 20 mkrakhm kh s 1848 n phrarachwngxamaeliynebxrk siriphrachnmayu 61 phrrsa efredxrikesdckhunkhrxngrachyepn phraecaefredxrikthi 7 aehngednmark dwyphrachnmayu 39 phrrsa phraxngkhtxngephchiykbkartxtancaksatharnainchwngaerkcakkarthithrngimmiprasbkarn phraxngkhthrngepnsmachikintngaet kh s 1848 aetkimthrngaesdngxxkwathrngsnphrathykaremuxng xyangirktamphraxngkhthrngepnhnunginphramhakstriythipwngchnchawednmarkrkaelaepnthiniymmakthisudinprawtisastrednmark xnenuxngmacakthrngykelikrabxbkarpkkhrxngthidarngmaxyangyawnanemuxkhrngxditaelaphrarachthanthiesriphaphineduxnmithunayn kh s 1849 phlkrathbcakkarptiwtifrngess kh s 1848 idsngphlthungednmark aelainwnthi 18 minakhm kh s 1848 eyxrmneriykrxngsiththiindchchichelswichihrwmxyuinsmaphnthrtheyxrmnaelaeruxngdchchiniidrbkariklekliyphayitrththrrmnuychbbihmthiesri khxeriykrxngehlanithaihmikarprachumkhxnginwnthi 20 minakhm eriykwa karprachumkhasion enuxngcakprachumthiornglakhrkhasionthisungkarphudkhuyknthaihsbsn ideriykrxngihkhnarthmntrikhxngphramhakstriycdsrrrththrrmnuythiesriaekthngednmarkaelachelswich xxrlaidklawwa phwkeraimechuxwafaphrabathcathrngkhbekhluxnpraethsnisungsinhwnginkarchwyehluxtnexngid phayitkhakhwythiwa Danmark til Ejderen thaihekidkaredinkhbwnprathwngodyphuaethnphlemuxnginwnthdmathicturshnaphrarachwng rthbalidlaxxkxyangchladodylaxxkkxnkhrbwaraaelaphraecaefredxrikesdcipphbpakbklumphuprathwngodymiphrarachdarswa khaphecayindithiidbxkphwkthanwakhaphecaekhaicineruxngthisungphwkekhaidbxkaekkhaphecaaelw khnarthmntrichudekaidsinsudlngaelw cungsaerc in 2 wnthdmaidmikareluxkkhnarthmntrichudihmodymithngfayesriphaphaelaxnurksniymekharwmprachumdwy phraecaefredxrikthrngprakastxtankhnarthmntrichudihmthisungthrngphicarnaaelwwaepnkarlmlangrabxbekaaekaetobranaelaphraxngkhepnkstriyphayitrththrrmnuy odythrngprakaswa kstriycaekharbfngkarprachumkhxngthangrthemuxidrbechiyethann hlngcakxngkhehnuxhwthrngekharbkarprachumthinaebuxphraxngkhmiphrarachdarsxxkmaxyangsnwa intxnni chnsamarthnxnidtrabidthichnrusukxyak chwngpi kh s 1830 ekidkarekhluxnihwkhxngprachachnchaweyxrmnsungtxngkarrththrrmnuythiepnesriaekrthchelswich hxlchitn thisungrthchelswichxnepndinaednkhxngrachxanackrednmarkcathukrwmekhakbsmaphnthrtheyxrmn swnrthhxlchitnaelaelawburkidekharwmaelw aelaidkahndaenwphrmaednrahwangrthchelswich hxlchitnodyichaelaaemnaexlebx aelaehtuniidnaipsukhwamehnkhxngkhbwnkaraehngchatiednmark idesnxihlmlangdchchiaehngchelswichaelarwmekhakbrachxanackrednmark khabsmuthrctaelndkhwrcakahndphrmaednthangitiwthi rthchelswichihepnchayaednthangphasarahwangednichaelaeyxrmn rthbalednmarkyunynwarthchelswichcktxngxyuphayinrachxanackrednmarktxipswnrthhxlchitnyindithithxntwcakednmarkaelaekharwminsmaphnthrtheyxrmn inwnthi 23 minakhm kh s 1848 chaweyxrmninrthchelswich hxlchitnkxkarclacltxtanrthbalihmaehngednmarkaelakxtngrthbalkhxngtnexngthiemuxngkhil sungnaipsu sngkhramchelswichkhrngthihnunghruxsngkhramsampi rahwangednmarkkbkxngkalngphnthmitrkhxngchelswich hxlchitnsungidaek prsesiyaelasmaphnthrtheyxrmn phlpraktwakxngthphednmarkidchychnaaelaekhakhrxbkhrxngrthchelswichidthiaemnaxiedxr kxngthphednmarkedinthangklbsuokhepneheknphrxmkartxnrbthiyingihycakkarrbchnasmaphnthrtheyxrmninsngkhramchelswichkhrngthihnunginpi kh s 1840 phaphwadody citrkrchawednmark sngkhramnamasungchychnakhxngkxngthphednmarkaetesthiyrphaphkhxngkaremuxngyngkhngehmuxnedim chawednsykelikkarsngthharthiaemnaxiedxr aelainpi kh s 1855 fanxnurksniymidaenanaihprakasichrththrrmnuyaehngrachxanackrednmark chelswichaelahxlchitn aet 3 piihhlngcakkarprakasihhxlchitnepnsmachikinsmaphnthrtheyxrmnklbimthuktxngephraaepnkarfafunkdkhxtklngsaklthiednmarkidlngnamhlngcaksngkhramsampiyuti prsesiyidsnbsnunchelswich hxlchitnihrwmkbsmaphnthrtheyxrmn inkhnathiednmarktxngkarrwmchelswichekhainrachxanackr inpi kh s 1863 fayesriaehngchatiidprakas Novemberforfatningen hrux aethnthirththrrmnuypi kh s 1855 xyangirktamphraecaefredxrikesdcswrrkhtineduxnnnkxnthicathrnglngphraprmaphiithyin Novemberforfatningen ihepnrththrrmnuychbbihm inrahwangsngkhramidmikarprakasichrththrrmnuyodysphathisungepnrththrrmnuythiesri phraecaefredxrikthi 7 thrnglngphraprmaphiithylnginrththrrmnuychbbihminwnthi 5 mithunayn kh s 1849 epnkdhmayphunthan aemwaphraxngkhcathrngaekhlngphrathyinkdkhxbngkhbbangprakar nbepnewla 187 piaehngrabxbsmburnayasiththirachytngaetrchsmykhxngphraecaefredxrikthi 3 ednmarkidekhasurabxbprachathipityswrrkhtphraecaefredxrikthi 7 esdcswrrkhtinwnthi 15 phvscikayn kh s 1863 n siriphrachnmayu 55 phrrsa phrabrmsphthukfngthi phraxngkhepnphramhakstriyphraxngkhsudthayinrachwngsxxledinbwrkh enuxngcakthrngimmirchthayaththaihekidwikvtrachbllngkednmarkinkaltxmawikvtkarsubrachbllngkednmarkphrabrmsathislksnphraecaefredxrikthi 7 thrngchlxngphraxngkhpradb impraktchuxphuwad phraecaefredxrikthi 7 thrngxphiesksmrs 3 khrng aetimthrngmirchthayaththithuktxngtamkdhmay inkhwamepncringphraxngkhthrngecriyphrachnsasuwyklangkhnodyprascakthayath sunghmaykhwamwa ecachaykhristhixnaehngklukhsbwrkh kh s 1818 1906 phusungepnthayathsubechuxsaycakphrayatikhxngphraecaefredxrikthi 6idthukeluxkihepnrchthayathphumisiththisubrachbllngkodychxbthrrminpi kh s 1851 emuxphraecaefredxrikesdcswrrkhtinpi kh s 1863 ecachaykhristhixnidsubrachbllngktxepnkhrisetiynthi 9 enuxngmacakkdhmayaeslikkarsubrachbllngkhlngcakkaresdcswrrkhtkhxngphraecaefredxriksungirrchthayathyngepnpyhathiyngthkethiyng sungepnipxyangimrabrunaetkekidsngkhramkhun klumchatiniymkhxngprachachnphuichphasaeyxrmninrthchelswich hxlchitntngicwacaimmikaraekpyhasungihdchchirwmepnhnungediywkbednmarksungepnthiphxicmak dchchithngsxngtxngkarpramukhthisubsayphraolhittamkdhmayaeslikinhmuthayathkhxngehlwik phuxawuoskhxngrachskulidprakastngtnepnecachayfridrich dyukaehngexakusethinbwrkh phusungtngtnepn hlngcakkarswrrkhtkhxngphraecaefredxrik ecachayfridrichaehngexakusethinbwrkhphraxngkhnithrngepnsylksnkhxngchatiniymeyxrmninkarekhluxnihwephuxeriykrxngxisrphaphaekrthchelswich hxlchitn tngaetinsmykhxngphrabidakhxngphraxngkhsungthrngaelkkbenginodythrngyxmslasiththiinrachbllngkthngchelswichaelahxlchitntammadwykarthainwnthi 8 phvsphakhm kh s 1851 thisungcdthahlngsinsudsngkhramchelswichkhrngthihnung enuxngmacakphrabidathrngslasiththi sngphlihecachayfridrichthrngthukehnwakhadkhunsmbtithicasubrachbllngk ednmarkxyuphayitkdhmayaeslik aetcakdsiththithithayathechuxsaykhxngphraecaefredxrikthi 3 aehngednmarkethann phusungepnphramhakstriyphraxngkhaerkinrabxbsubrachsnttiwngs odykxnrchsmykhxngphraxngkhkstriycamacakkareluxktng inkhnannsmachikinrachskulchelswich hxlchitnsayexakusethinbwrkhaelaklukhsbwrkhsungepnphrayatifaychaykhxngxngkhehnuxhwimidrbkarxnuyatihmisiththisubrachbllngkphayitkhxbyyti karsubrachbllngkthrngfaychaykhxngphraecaefredxrikthi 3 idmasinsudlnghlngcakkarswrrkhtkhxngphraecaefredxrikthi 7 aelaincudnn kdhmaywadwykarsubrachsnttiwngsthiprakasichodyphraecaefredxrikthi 3 idrwmkarsubrachbllngkaebb kdhmaykungaeslik xyangirktammikarthdaethninkarsubrachsnttiwngsthiepnipidimwacaepnphrayatifayhyingthiiklchidthisud pyhacaidrbkaraekikhodykareluxktnghruxkaraebkkdhmayephuxyxmrbrchthayathxngkhihm ecachaykhristhixnidsubrachbllngkepnkhrisetiynthi 9 hlngcakkarswrrkhtkhxngefredxrikthi 7 sngphlihsinsudrachwngsxxledinbwrkh saytrngaelawikvtkarsubrachbllngkednmark phrayatifayhyingthiiklchidphraecaefredxrikthi 7 makthisudkhux phrapitucchakhxngphraxngkh phusungxphiesksmrskblndkrafaehng xyangirktamthrngmiichechuxsaythisubthxdthangburusaelathrngimmisiththisubrachbllngkinchelswich hxlchitn rchthayathsungepnrachnikulfayhyingidmikarkahndmacaksiththikhxngbutrhwpiodyphraecaefredxrikthi 3 cakkarirbutrkhxngphrarachthidainphraecaefredxrikthi 6 hlngcakkarerimtnkhxngsiththikhxngbutrhwpiidsngphlthungsiththikhxngthayathin phrakhnisthainphraecaefredxrikthi 6 phusungxphiesksmrskbdyukaehngexakusethinbwrkh thayathkhxngsaynnkehmuxnkbecachayfridrxchaehngexakusethinbwrkhaetoxkaskhxngphraxngkhmathunghlngcakkarsinphrachnmkhxngecahyingphusungmichiwitxyuin kh s 1863 bangsiththiidepnkhxngsayklukhsbwrkhsungepnsaythiyngxxnxawuosmakinrachwngs saytrakulniepnthayathkhxngphraecaefredxrikthi 3 phanthangbrrphburushyingsungepnphrarachthidainphraecaefredxrikthi 5 aehngednmarkaelamithayathchayxxnxawuossungmisiththiinchelswich hxlchitn sungkkhux ecachaykhristhixnaehngklukhsbwrkh kh s 1818 1906 aelaphraechsthasxngphraxngkh phraxngkhotthrngirrchthayathaetphraxngkhrxngmiphraoxrs ecachaykhristhixnaehngklukhsbwrkh kh s 1818 1906 epnphranddabuythrrminphraecaefredxrikthi 6kbsmedcphrarachinimari osfi dngnnthaihthrngkhunekhydikbphrarachpraephniaelathrrmeniymkhxngrachwngs ecachaykhristhixnepnphrapnddainsmedcphrarachinimari osfiaelathrngepnechuxsaykhxngphrayatichnhnunginphraecaefredxrikthi 6 phraxngkhthuksngmayngednmarkephuxprathbinphrarachwngsaelatrsphasaednmarkaelaimthrngepnchatiniymeyxrmn aemwasingthithangrachwngsthacaimepniptamkdhmay aetrachwngsthaihecachaythrngepnthiniymaelaepncudsnicinchawednmark inkhnaepnthayathchaysungxxnxawuos phraxngkhthrngmisiththiinrachbllngkchelswich hxlchitn aetimichphraxngkhaerkinrachsnttiwngs enuxngcakthrngepnechuxsaykhxngphraecaefredxrikthi 3 thaihthrngmisiththisubrachbllngkednmark aetkimichphraxngkhaerkinrachsnttiwngs xyangirktamladbkarsubrachsnttiwngsyngimchdecn ecachaykhristhixnaehngklukhsbwrkhphiesksmrskbphrathidaxngkhotin phrapitucchakhxngphraecaefredxrikthi 7 sungepnphrayatifayhyingthiiklchidphraecaefredxrikthi 7 makthisud phramardaaelaphraxnuchakhxngecahyingluxiesxidslasiththiinkarsubrachbllngkaekecahyingluxixphwxaelaphraswami thaihphrachayainecachaykhristhixnepnphrayatisungiklchidphraecaefredxrikthi 7 makthisud kdhmaykungaeslik inkarsubrachsnttiwngsthislbsbsxnidthukaekpyhaodyecachaykhristhixnaehngklukhsbwrkhidthukeluxkinpi kh s 1852 ihsubrachbllngktxcakphraecaefredxrikthi 7 xyangthuktxngtamkdhmayemuxphraecaefredxrikesdcswrrkhtinpi kh s 1863 ecachaykhristhixnidsubrachbllngktxepnphraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark ineduxnphvscikayn kh s 1863 ecachayfrdrichaehngexakusethinbwrkhthrngxangsiththiehnuxrthchelswich hxlchitnodysubbllngkdchchithngsxngtxcakkarswrrkhtkhxngphraecaefredxrikthi 7 prsesiyaelaxxsetriyprakassngkhramchelswichkhrngthisxngkbednmark sungphlkhxngsngkhramkhux ednmarkphayaephaelasuyesiydchchithngsxngphrarachtrakul 16 khrisetiynthi 6 aehngednmark 8 efredxrikthi 5 aehngednmark 17 4 18 aefrdinnd xlebrkhththi 2 dyukaehngebranchiwkh wxlefinbuthethil 9 dchechsyulixaenx marixa aehngebranchiwkh wxlefinbuthethil 19 2 khrisetiynthi 8 aehngednmark 20 24 10 12 21 25 5 22 26 11 13 23 27 1 efredxrikthi 7 aehngednmark 24 20 12 10 25 21 6 26 22 13 11 27 23 3 28 14 29 7 30 15 31 xangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraecaefredxrikthi 7 aehngednmark Frederick VII Konge af Denmark Salmonsens konversationleksikon subkhnemux August 15 2016 1969 The Bog People Iron Age Man Preserved London Faber and Faber Limited Page 68 69 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Gete 1 Gete Bondo Oldenborg Maaloe Getes Erindringer Adalen 2009 ISBN 978 87 91365 44 7 DIS Forum AneEfterlysning Louise Rasmussen Danner P Fr Suhm Hemmelige Efterretninger om de danske Konger efter souveraineteten Copenhagen 1918 http www danskekonger dk eng biografi FreVII html 2010 10 30 thi ewyaebkaemchchinkxnhna phraecaefredxrikthi 7 aehngednmark thdipkhrisetiynthi 8 phramhakstriyaehngednmark 20 mkrakhm kh s 1848 15 phvscikayn kh s 1963 khrisetiynthi 9khrisetiynthi 8 dyukaehngchelswich hxlchitn rachwngsxxledinbwrkh 20 mkrakhm kh s 1848 15 phvscikayn kh s 1863 khrisetiynthi 9khrisetiynthi 8 dyukaehngskhesin elaexinbwrkh rachwngsxxledinbwrkh 20 mkrakhm kh s 1848 15 phvscikayn kh s 1863 khrisetiynthi 9