นโปเลียน โบนาปาร์ต (ฝรั่งเศส: Napoléon Bonaparte) หรือชื่อเกิดเป็นภาษาอิตาลีคือ นาโปเลโอเน ดิ บูโอนาปาร์เต (อิตาลี: Napoleone di Buonaparte) มีพระนามเล่นว่า "เลอคอร์ส"(ชาวคอร์ซิกา) หรือ "เลอเปอติ กาโปรัล" (นายสิบน้อย) เป็นรัฐบุรุษและผู้นำทหารชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส เขานำการทัพที่ประสบความสำเร็จมากมายในช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส และปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในพระนามว่า จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ตั้งแต่ปี 1804 จนถึง 1814 และอีกครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ ในปี 1815 ในช่วงสมัยร้อยวัน นโปเลียนครอบงำกิจการในทวีปยุโรปและทั่วโลกนานกว่าทศวรรษ ในขณะที่ได้นำพาฝรั่งเศสเข้าสู้รบกับกลุ่มพันธมิตรประเทศรอบด้านในช่วงสงครามนโปเลียน เขาได้รับชัยชนะในศึกหลายครั้ง และแผ่เขตอิทธิพลกว้างใหญ่ไพศาล เขาก่อตั้งจักรวรรดิขนาดใหญ่ที่ปกครองเกือบทั่วทวีปยุโรปก่อนที่จะล่มสลายในปี 1815 เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ การทำสงครามและการทัพของเขาได้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนวิชาทหารทั่วโลก มรดกทางการเมืองและวัฒนธรรมของนโปเลียนทำให้เขาเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 | |||||
---|---|---|---|---|---|
โดยฌัก-หลุยส์ ดาวีด 1812 | |||||
จักรพรรดิแห่งชาวฝรั่งเศส | |||||
ครองราชย์ ครั้งที่ 1 | 18 พฤษภาคม 1804 – 6 เมษายน 1814 | ||||
ราชาภิเษก | 2 ธันวาคม 1804 | ||||
ก่อนหน้า | พระองค์เอง (ในฐานะกงสุลเอก) หลุยส์ที่ 16 (ในฐานะกษัตริย์) | ||||
ถัดไป | นโปเลียนที่ 2 (พิพาท) หลุยส์ที่ 18 (ในฐานะกษัตริย์) | ||||
ครองราชย์ ครั้งที่ 2 | 20 มีนาคม – 22 มิถุนายน 1815 | ||||
ก่อนหน้า | หลุยส์ที่ 18 (ในฐานะกษัตริย์) | ||||
ถัดไป | นโปเลียนที่ 2 (พิพาท) หลุยส์ที่ 18 (ในฐานะกษัตริย์) | ||||
กษัตริย์แห่งอิตาลี | |||||
ครองราชย์ | 17 มีนาคม 1805 – 6 เมษายน 1814 | ||||
ก่อนหน้า | พระองค์เอง (ในฐานะประธานาธิบดี) คาร์ลที่ 5 (ในฐานะกษัตริย์) | ||||
ถัดไป | ยุบเลิกราชอาณาจักร วิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 2 (รวมชาติ) | ||||
อุปราช | เออแฌน เดอ โบอาร์แน | ||||
ครองราชย์ | 12 กรกฎาคม 1806 – 4 พฤศจิกายน 1813 | ||||
ก่อนหน้า | ฟรันทซ์ที่ 2 (ในฐานะจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) | ||||
ถัดไป | ฟรันทซ์ที่ 1 (ในฐานะประธานสมาพันธรัฐเยอรมัน) | ||||
เจ้าชายมุขนายก | คาร์ล เทโอดอร์ ฟ็อน ดาลแบร์ค | ||||
ครองราชย์ | 11 เมษายน 1814 – 26 กุมภาพันธ์ 1815 | ||||
ก่อนหน้า | สถาปนาราชรัฐ | ||||
ถัดไป | ยุบรวมราชรัฐเข้ากับจักรวรรดิฝรั่งเศส | ||||
กงสุลเฉพาะกาลแห่งฝรั่งเศส | |||||
ดำรงตำแหน่ง 10 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม 1799 ดำรงตำแหน่งร่วมกับ แอมานุแอล โฌแซ็ฟ ซีเยแย็ส และรอเฌ ดูว์โก | |||||
ก่อนหน้า | คณะดีแร็กตัวร์ | ||||
ถัดไป | ตนเอง (ในฐานะกงสุลเอก) | ||||
กงสุลเอกแห่งฝรั่งเศส | |||||
ดำรงตำแหน่ง 13 ธันวาคม 1799 – 18 พฤษภาคม 1804 | |||||
ก่อนหน้า | คณะกงสุลเฉพาะกาล | ||||
ถัดไป | ตนเอง (ในฐานะจักรพรรดิ) | ||||
ประธานาธิบดีอิตาลี | |||||
ดำรงตำแหน่ง 26 มกราคม 1802 – 18 พฤษภาคม 1805 | |||||
รองประธานาธิบดี | |||||
ก่อนหน้า | สถาปนาสาธารณรัฐ | ||||
ถัดไป | ตนเอง (ในฐานะกษัตริย์) เอนรีโก เด นีโกลา (ในฐานะประธานาธิบดี) | ||||
ดำรงตำแหน่ง 19 กุมภาพันธ์ 1803 – 29 ธันวาคม 1813 | |||||
ก่อนหน้า | ฟื้นฟูสมาพันธรัฐ | ||||
ถัดไป | |||||
พระราชสมภพ | 15 สิงหาคม ค.ศ. 1769 อาฌักซีโย คอร์ซิกา ราชอาณาจักรฝรั่งเศส นโปเลียน โบนาปาร์ต | ||||
สวรรคต | 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1821 เซนต์เฮเลนา | (51 ปี)||||
ฝังพระศพ | ออแตลเดแซ็งวาลีด | ||||
คู่อภิเษก |
| ||||
พระราชบุตร รายละเอียด | จักรพรรดินโปเลียนที่ 2 แห่งฝรั่งเศส พระราชบุตรนอกสมรส ชาร์ล เลอง พระราชบุตรบุญธรรม เออแฌน เดอ โบอาร์แน เจ้าชายแห่งเวนิส | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | โบนาปาร์ต | ||||
พระราชบิดา | การ์โล บูโอนาปาร์เต | ||||
พระราชมารดา | เลตีเซีย โบนาปาร์ต | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||
ลายพระอภิไธย |
นโปเลียนเป็นชาวเกาะคอร์ซิกาโดยกำเนิด นโปเลียนเกิดในครอบครัวชาวอิตาลีที่ค่อนข้างจะเรียบง่าย เพียงไม่กี่เดือนภายหลังจากเกาะแห่งนี้จะถูกผนวกรวมเข้ากับราชอาณาจักรฝรั่งเศส เขาได้เข้ารับราชการทหารในฐานะนายทหารปืนใหญ่ใน ต่อมาเมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสปะทุขึ้นในปี 1789 เขาก็มีตำแหน่งทางทหารสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้รับยศนายพลจากรัฐบาลคณะปฏิวัติในวัยเพียง 24 ปี จนในที่สุดคณะดีแร็กตัวร์ฝรั่งเศสก็แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้บัญชาการกองทัพแห่งอิตาลี ภายหลังจากที่เขาได้เข้าปราบปรามการก่อจลาจลในวันที่ ซึ่งทำการต่อต้านรัฐบาลโดยกลุ่มก่อกบฎฝ่ายนิยมเจ้า เมื่ออายุ 26 ปี เขาได้เข้าร่วมปฏิบัติการทหารเป็นครั้งแรกในการต่อกรกับออสเตรียและราชวงศ์อิตาลีที่อยู่เคียงข้างกับราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค และสามารถเอาชนะการรบเกือบทุกครั้งในการพิชิตคาบสมุทรอิตาลีในหนึ่งปี ในขณะที่ได้ก่อตั้ง "" ด้วยการสนับสนุนในท้องถิ่นและกลายเป็นวีรบุรุษสงครามในฝรั่งเศส
ในปี 1798 เขาได้นำคณะเดินทางทหารไปยังอียิปต์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอำนาจทางการเมือง เขาได้ก่อรัฐประหารในเดือนพฤศจิกายน 1799 และกลายเป็นกงสุลเอกแห่งสาธารณรัฐ ภายหลังจากสนธิสัญญาอาเมียงในปี 1802 นโปเลียนได้หันไปสนใจในอาณานิคมของฝรั่งเศส เขาได้ขายดินแดนลุยเซียนาให้กับสหรัฐอเมริกาและเขาได้พยายามรื้อฟื้นทาสในดินแดนอาณานิคมทะเลแคริเบียนของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาได้ประสบความสำเร็จในรื้อฟื้นทาสในทางตะวันออกของทะเลแคริเบียน นโปเลียนได้ล้มเหลวในความพยายามที่จะเข้าปราบปรามในเมืองแซ็ง-ดอแม็งก์ และดินแดนอาณานิคมที่ฝรั่งเศสเคยอวดอ้างว่าเป็น "ไข่มุกแห่งแอนทิลลีส" ได้กลายเป็นอิสระจนกลายเป็นประเทศเฮติในปี 1804 ความทะเยอทะยานของนโปเลียนและการยอมรับจากสาธารณชนเป็นแรงบันดาลใจให้เขาก้าวไปให้ไกลกว่านี้และเขาได้กลายเป็นจักรพรรดิองค์แรกของฝรั่งเศสในปี 1804 ความแตกต่างที่ยากจะเข้าใจกับบริติชซึ่งหมายความว่าฝรั่งเศสกำลังเผชิญหน้ากับฝ่ายสหสัมพันธมิตรครั้งที่สามในปี 1805 นโปเลียนได้ทำลายฝ่ายสหสัมพันธมิตรนี้ลงด้วยชัยชนะที่เด็ดขาดในการทัพอุล์ม และการได้รับชัยชนะครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เหนือจักรวรรดิรัสเซียและจักรวรรดิออสเตรียในยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
นโปเลียนได้ก่อตั้งพันธมิตรฝรั่งเศส-เปอร์เซียและต้องการที่จะสร้างพันธมิตรฝรั่งเศส-อินเดียขึ้นมาอีกครั้งกับ จักรพรรดิอินเดียชาวมุสลิม โดยจัดหากองทัพที่ได้รับการฝึกฝนจากฝรั่งเศสในช่วงสงครามอังกฤษ-มัยซอร์ ด้วยมีจุดมุ่งหมายอย่างต่อเนื่องในการเปิดทางเพื่อเข้าโจมตีบริติชในอินเดีย ในปี 1806 ฝ่ายสหสัมพันธมิตรครั้งที่สี่ได้จับอาวุธปืนลุกขึ้นมาต่อสู้รบกับเขาเพราะปรัสเซียเริ่มกังวลเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลทั่วทั้งทวีปของฝรั่งเศส นโปเลียนได้เอาชนะปรัสเซียได้อย่างรวดเร็วในยุทธการที่เยนา–เอาเออร์ชเต็ท จากนั้นกองทัพใหญ่ของเขาได้กรีฑาทัพเข้าลึกไปในยุโรปตะวันออกและทำลายล้างกองทัพรัสเซียในเดือนมิถุนายน 1807 ในยุทธการที่ฟรีดลันท์ จากนั้นฝรั่งเศสได้บีบบังคับให้ประเทศของฝ่ายสหสัมพันธมิตรครั้งที่สี่ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทำการลงนามในสนธิสัญญาทิลซิทในเดือนกรกฎาคม 1807 ได้นำพาความสงบสุขที่ไม่สบายใจมาสู่ทั่วทั้งทวีป ทิลซิทที่มีความหมายว่า น้ำขึ้น ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิฝรั่งเศส ในปี 1809 ออสเตรียและบริติชได้ท้าทายฝรั่งเศสอีกครั้งในช่วงสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่ห้า แต่นโปเลียนได้ยึดครองทวีปยุโรปได้อย่างมั่นคง ภายหลังจากได้รับชัยชนะในยุทธการที่วากรัมในเดือนกรกฎาคม
นโปเลียนได้เข้ายึดครองคาบสมุทรไอบีเรีย คาดหวังว่าจะขยายและขัดขวางการค้าของบริติชกับแผ่นดินใหญ่ในทวีปยุโรป และประกาศให้โฌแซ็ฟ โบนาปาร์ต พระเชษฐาของพระองค์ ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งสเปน ในปี 1808 สเปนและโปรตุเกสได้ก่อการลุกฮือด้วยการสนับสนุนของบริติช สงครามคาบสมุทรได้กินเวลาถึงหกปี โดยมีการรบแบบกองโจรที่กว้างขวาง และจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรในปี 1814 ระบบทวีปทำให้เกิดความขัดแย้งทางการทูตขึ้นมาอีกครั้งระหว่างฝรั่งเศสและรัฐบริวาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ รัสเซีย รัสเซียไม่เต็มใจที่จะแบกรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการค้าที่ลดลงและละเมิดระบบทวีปอยู่เป็นประจำ ทำให้นโปเลียนต้องเข้าสู่สงครามอีกครั้ง ฝรั่งเศสได้เปิดฉากการบุกครองรัสเซียครั้งใหญ่ในช่วงฤดูร้อน ปี 1812 การทัพครั้งนี้ได้ทำลายเมืองต่าง ๆ ของรัสเซีย แต่ไม่ได้รับชัยชนะที่เด็ดขาดอย่างที่นโปเลียนต้องการ ส่งผลทำให้เกิดการล่มสลายของกองทัพใหญ่และเป็นแรงบันดาลใจก่อให้เกิดแรงผลักดันขึ้นมาใหม่เพื่อต่อต้านนโปเลียนโดยศัตรูของพระองค์
ในปี 1813 ปรัสเซียและออสเตรียได้เข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียในสงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่หกกับฝรั่งเศส การทัพทางทหารที่ยาวนานได้สิ้นสุดลงด้วยกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรขนาดใหญ่ที่เอาชนะนโปเลียนลงได้ในยุทธการที่ไลพ์ซิช แต่ชัยชนะทางด้านกลยุทธ์ของพระองค์ในซึ่งได้อนุญาตให้ล่าถอยกลับไปยังแผ่นดินฝรั่งเศส จากนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรได้บุกครองฝรั่งเศสและเข้ายึดครองกรุงปารีสในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1814 บีบบังคับให้นโปเลียนสละราชบังลังก์ในเดือนเมษายน พระองค์ได้ถูกเนรเทศไปยังเกาะเอลบา ด้านนอกชายฝั่งของทัสกานี และราชวงศ์บูร์บงได้รับการฟื้นฟูกลับมาเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง นโปเลียนได้หลบหนีออกจากเกาะเอลบาในเดือนกุมภาพันธ์ 1815 และเข้าควบคุมฝรั่งเศสอีกครั้ง ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ตอบสนองด้วยการก่อตั้งฝ่ายสหสัมพันธมิตรครั้งที่เจ็ดซึ่งได้เอาชนะพระองค์ลงได้ในยุทธการที่วอเตอร์ลู บริติชเนรเทศพระองค์ไปยังเกาะเซนต์เฮเลนาที่ห่างไกลในมหาสมุทรแอตแลนติก พระองค์ป่วยสวรรคตในอีกหกปีต่อมาเมื่อมีพระชน 51 ปีเศษ
อิทธิพลของนโปเลียนที่มีต่อโลกสมัยใหม่ทำให้เกิดการปฏิรูปแบบเสรีนิยมไปสู่ดินแดนจำนวนมากที่พระองค์ได้ยึดครองและเข้าควบคุม เช่น กลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำ สวิตเซอร์แลนด์ และส่วนขนาดใหญ่ของอิตาลีและเยอรมนีในสมัยใหม่ พระองค์ได้ดำเนินนโยบายเสรีนิยมที่เป็นรากฐานสำคัญในฝรั่งเศสและทั่วยุโรปตะวันตก ประมวลกฎหมายนโปเลียนของพระองค์นั้นมีอิทธิพลต่อระบบกฎหมายของประเทศมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษได้กล่าวว่า"แนวความคิดที่คอยค้ำจุนโลกสมัยใหม่ของเรา - ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรมนิยม ความเสมอภาคตามกฎหมาย สิทธิในทรัพย์สิน การยอมรับความต่างทางศาสนา การศึกษาทางโลกสมัยใหม่ การเงินที่ดี และอื่น ๆ - ได้รับการปกป้อง ทำให้เกิดความมั่นคง ประมวลและขยายทางภูมิศาสตร์โดยนโปเลียน" สำหรับพระองค์ที่ได้เพิ่มการบริหารปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีเหตุผลและมีประสิทธิภาพ เป็นอันยุติในการโจรกรรมในชนบท การส่งเสริมวิทยาศาสตร์และศิลปะ การยกเลิกระบอบศักดินาและประมวลกฎหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน
วัยเยาว์และการรับราชการทหาร
นโปเลียนเกิดที่เมืองอาฌักซีโยหรืออายัชโช ในภาษาอิตาลี บนเกาะคอร์ซิกา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1769 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปี ภายหลังจากที่ฝรั่งเศสได้ซื้อเกาะนี้ไปจาก สาธารณรัฐเจโนวา 1768 ครอบครัวของเขาเป็นหนึ่งในตระกูลผู้ดีจำนวนน้อยนิดบนเกาะคอร์ซิก้า บิดาของเขาผู้มีนามว่าการ์โล บูโอนาปาร์เต จัดการให้เขาได้เข้ารับการศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส ที่เขาได้เข้าไปตั้งรกรากตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
ในตอนแรกเขาถูกมองว่าเป็นคนหนึ่งภายหลังการศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหาร ที่เมืองโอเติง บรีแอนน์ และ โรงเรียนทหารแห่งกรุงปารีส เขาก็ได้เข้าร่วมกองพลปืนใหญ่ ภายใต้กองกำลังของลาแฟร์ ที่เมืองโอซ็อนน์ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นร้อยตรีที่เมืองวาล็องซ์ ในปี 1787 ด้วยอารมณ์ที่ซ่อนเร้น ออกแนว โรแมนติก ในงานที่เขาเขียน ความอยากรู้อยากเห็นไม่มีที่สิ้นสุด บวกกับความทรงจำที่เป็นเลิศ ในปี 1789 นโปเลียนหนุ่มมีความถนัดทางใช้สติปัญญามากกว่าทางใช้กำลัง
เมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสประทุขึ้นในปี 1789 ร้อยโทโบนาปาร์ตได้อยู่ในเหตุการณ์ที่กรุงปารีส โดยเป็นฝ่ายสังเกตการณ์ เขาได้เฝ้าดูประชาชนบุกพระราชวังตุยเลอรีด้วยความขยะแขยง นโปเลียนเดินทางกลับมายังเกาะคอร์ซิกา ที่ซึ่งการสู้รบระหว่างฝ่ายต่าง ๆ เริ่มขึ้นอีกครั้ง (โดยมีทางฝ่ายของปาสกาล เปาลี สนับสนุนระบอบกษัตริย์ และทางตระกูลโบนาปาร์ตสนับสนุนการปฏิวัติ) นโปเลียนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าของกองกำลังป้องกันตนเองแห่งชาติ ในปี 1792 โดยการแย่งเอากองกำลังจากคณะกรรมาธิการของรัฐมาส่วนหนึ่ง แต่การประหารกษัตริย์ได้ทำให้เกิดการต่อต้านของฝ่ายอิสระ สงครามกลางเมืองได้ประทุขึ้น และตระกูลของนโปเลียนต้องหลบหนีออกจากเกาะคอร์ซิกา มายังประเทศฝรั่งเศส
โบนาปาร์ตสนับสนุนการปฏิวัติ และได้ถูกส่งตัวไปรับตำแหน่งนายร้อยในกองพลปืนใหญ่ ที่ศูนย์บัญชาการเมืองตูลง (Toulon) ในปี 1793 ซึ่งต่อมาได้ถูกมอบให้สหราชอาณาจักรปกครอง แผนการที่นโปเลียนมอบให้ฌาคส์ ฟร็องซัวส์ ดูก็องมิเย ทำให้สามารถยึดเมืองตูลองคืนมาจากกองทัพกลุ่มสนับสนุนระบอบกษัตริย์และพวกอังกฤษได้ มิตรภาพระหว่างเขาพวกฌากอแบ็งทำให้เขาถูกจับในช่วงสั้น ๆ ภายหลังการสิ้นอำนาจของรอแบ็สปีแยร์ ในวันที่ 27 กรกฎาคม 1794
หลังจากได้รับอิสรภาพ เขาก็ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ปราศจากผู้บังคับบัญชาอย่างเป็นทางการ และต่อมาปอล บารัส อนุญาตให้เขาบดขยี้กลุ่มผู้สนับสนุนราชวงศ์ที่ลุกฮือที่เมืองว็องเดแมร์ เพื่อต่อต้านสมัชชาแห่งชาติ ในปี 1795 ในโอกาสนี้เอง โบนาปาร์ตได้มีนายทหารหนุ่มชื่อฌออากีม มูว์รา เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติการประสบผลสำเร็จด้วยการยิงปืนใหญ่เข้าสลายกลุ่มสนับสนุนราชวงศ์ที่เมืองซังต์โรช์
โบนาปาร์ตมีจิตใจผ่องใส สามารถซึมซับความรู้ทางการทหาร รวมถึงยุทธวิธีในสมัยของเขา มาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์จริง เมื่อดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ในกองพลปืนใหญ่ เขาได้คิดค้นการใช้ปืนใหญ่แห่งกริโบวาลเป็นกองทัพเคลื่อนที่ ใช้หนุนกองทหารเดินเท้าอีกทีหนึ่ง
การทัพอิตาลี
เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบที่สามารถการนำกองพลปืนใหญ่ปราบกบฏนิยมเจ้า นโปเลียนได้รับการเสนอแต่งตั้งโดยลาซาร์ การ์โน ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทัพอิตาลี เพื่อยึดอิตาลีกลับคืนมาจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ออสเตรีย-เยอรมัน) กองกำลังของเขาขาดแคลน ทั้งยุทโธปกรณ์และเสบียงคลัง ซึ่งแม้เขาจะอดมื้อกินมื้อ และแต่งตัวซอมซ่อ แต่ก็ได้ฝึกฝนนายทหารในบังคับบัญชาด้วยความขะมักเขม้น และสามารถนำทัพเข้าปะทะกับกองกำลังของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีจำนวนมากกว่า และมียุทโธปกรณ์พร้อมกว่าได้ ในการรบหลายต่อหลายครั้ง ในยุทธการที่เมือง หรือ มีนโปเลียนเป็นผู้นำทัพด้วยตนเอง การรบท่ามกลางห่ากระสุนทำให้ เพื่อนและผู้ช่วยของเขาเสียชีวิต นโปเลียนเป็นนายทหารฝีมือฉกาจ ผู้ซึ่ง อยู่ทุกหนทุกแห่งและมองเห็นทุกอย่าง ว่องไวดุจสายฟ้าแลบและโจมตีดุจสายฟ้าฟาด เขาเป็นที่เคารพนับถือของผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยความสามารถในการบัญชาการ ความกล้าหาญและความเลือดเย็น ในบรรดานายทหารหลายนายที่แวดล้อมเขา นโปเลียนได้มองเห็นความสามารถของนายทหารนิรนามคนหนึ่งชื่อว่าฌ็อง ลาน
ตลอดการสู้รบในช่วงเวลานั้น ภาพวาดกองบัญชาการของนโปเลียนในสมัยนั้น ได้แสดงให้เห็นว่า นโปเลียนได้ใช้ระบบสื่อสารทางไกล ระบบแรกของโลกที่เรียกว่าโทรเลขที่คิดค้นโดย (เช่นเดียวกับกองบัญชาการรบอื่น ๆ ในสมัยนั้น) นโปเลียนได้ทำให้จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบัญชาการโดยอาร์ชดยุกคาร์ล ดยุกแห่งเทเชิน จำเป็นต้องลงนามในสนธิสัญญาที่เสียเปรียบ ที่มีชื่อว่า ว่าด้วยเรื่องการให้ฝรั่งเศสเข้าครองเบลเยียม และยืดพรมแดนไปติดแม่น้ำไรน์ ส่วนจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้ถือครองแคว้นเวเนโต
เหตุการณ์ที่ราชอาณาจักรอิตาลีนี้เอง ที่ทำให้นโปเลียนได้ตระหนักถึงพลังอำนาจของตน รวมทั้งสถานการณ์ที่เขาเป็นต่อ เขาเป็นจ้าวแห่งสนามรบเช่นเดียวกับในทุก ๆ ที่ นครมิลานเกิดสภาพคล้าย ๆ กับพระราชวังเล็ก ๆ รายล้อมนายพลนโปเลียน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของบรรดาเศรษฐีชาวอิตาลีเอาไว้ และได้เปรียบคู่ต่อสู้อยู่มาก แต่เขาก็ยังห่างไกลกับคณะดีแร็กตัวร์ฝรั่งเศสที่มีอำนาจบริหารจัดการประเทศ ในปี 1797 ด้วยแผนการของนายพลโอเฌอโร นโปเลียนได้จัดการทางการเมืองบางอย่างที่ทำให้เหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ยังคงมีอำนาจในกรุงปารีสแตกฉานซ่านเซ็น และสามารถรักษาสาธารณรัฐของพวกฌากอแบ็งเอาไว้ได้
การทัพอียิปต์
ในปี 1798 สภาห้าร้อยมีความกังวลต่อกระแสความนิยมที่ประชาชนมีต่อนโปเลียนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงได้บัญชาการให้เขานำทัพบุกอียิปต์ โดยอ้างว่าฝรั่งเศสต้องการเข้าครองครองดินแดนตะวันออกใกล้ และตะวันออกกลางเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงของอังกฤษไปยังอินเดีย เนื่องด้วยนโปเลียนชื่นชมยุคแสงสว่างอยู่แล้ว เขาจึงได้ตัดสินใจนำคณะนักวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาร่วมทัพไปกับเขาด้วย และจัดตั้ง ซึ่งในช่วงนี้ หนึ่งในนายทหารหนุ่มผู้ติดตามนโปเลียนอย่างปีแยร์-ฟร็องซัว บูชาร์ ค้นพบศิลาโรเซตตาที่ทำให้นักอียิปตวิทยาอย่างฌ็อง-ฟร็องซัว ช็องปอลียง สามารถถอดรหัสไฮโรกลิฟในเวลาต่อมา
หลังจากที่มีชัยในยุทธการที่ (ฝรั่งเศสต้องการยึดเมืองในอียิปต์คืนจึงรบกับตุรกีที่มีอังกฤษหนุนหลัง) เมื่อวันที่ 16 เมษายน 1799 การเดินทัพต่อไปยังซีเรียของนโปเลียนต้องชะงักเนื่องจากการระบาดของกาฬโรค อันเป็นเหตุให้มีประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก นโปเลียนได้เข้าจัดการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อกาฬโรคที่เมืองเท่าที่สามารถทำได้
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 1798 นโปเลียนมีชัยต่อกองกำลัง (ทาสรับใช้กาหลิบของจักรวรรดิออตโตมัน) ใน ในสงครามเอ็มบาเบห์ ทำให้ชื่อของเขาขจรขจายไปไกล แต่การพ่ายแพ้ของเขากลับไม่เป็นที่กล่าวถึง เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 1798 กองเรือฝรั่งเศสของนโปเลียนถูกกองเรือของพลเรือโทโฮราชิโอ เนลสัน ทำลายเกือบย่อยยับในการรบที่
สถานการณ์ระหว่างนโปเลียนกับสมัชชาแห่งชาติดีขึ้น ทำให้เขาสละตำแหน่งผู้บัญชาการทหารประจำอียิปต์ให้กับฌ็อง-บาติสต์ เกลเบร์ และเดินทางกลับฝรั่งเศส ตลอดเส้นทางกลับกรุงปารีส นโปเลียนได้รับเสียงโห่ร้องชื่นชมจากประชาชนในฐานะวีรบุรุษ อีกด้านหนึ่ง กองทัพฝรั่งเศสในอียิปต์ก็พ่ายแพ้การรบเมื่อ 31 สิงหาคม 1801 หลังจากเสียนายทหารไปกว่า 13,500 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหยื่อของโรคระบาด
ก่อรัฐประหาร
เมื่อนายพลนโปเลียนเดินทางกลับมาถึงกรุงปารีส เขาได้เข้าพบปะสนทนากับชาร์ล มอริส เดอ ตาแลร็อง-เปรีกอร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศ นักการเมืองผู้มีประสบการณ์ และผู้รู้เกมการเมืองเป็นอย่างดี เขาได้ช่วยเตรียมการก่อรัฐประหาร โค่นล้มคณะดีแร็กตัวร์ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารที่กำลังอ่อนแอและประชาชนเกลียดชัง โดยการโน้มน้าวผู้แทนราษฎรเลือกรัฐบาลใหม่ บีบให้หัวหน้าคณะรัฐบาลเดิมลาออก แล้วเลือกหัวหน้ารัฐบาลใหม่เข้ามาแทน ประกอบด้วยบุคคลสามคนที่ปราศจากมลทิน อันได้แก่ แอมานุแอล โฌแซ็ฟ ซีเยแย็ส, รอเฌ ดูว์โก (สมาชิกคณะดีแร็กตัวร์สองในจำนวนทั้งหมดห้าคน) และนโปเลียน ผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจ ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ นับตั้งแต่เขายอมไปออกรบที่อียิปต์ และกลับมาในฐานะวีรบุรุษ วัตถุประสงค์ของการก่อรัฐประหารครั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คณะปฏิรูปหัวก้าวหน้า ซึ่งต้องการรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ว่าจะยังรักษาความมั่งคั่งไว้ได้ต่อไป และนโปเลียนที่เชื่อในระบอบสาธารณรัฐยอมก็เสี่ยงกับแผนการดังกล่าว เพราะมีกระแสจะนำพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 มาขึ้นครองราชย์และฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ ซึ่งหมายความว่าการปฏิวัติฝรั่งเศสที่ผ่านมานั้นไร้ผล
หลังจากที่ฝ่ายปฏิรูปหัวก้าวหน้าสามารถโน้มน้าวให้สภาสูงเห็นชอบกับการล้มล้างคณะดีแร็กตัวร์ได้แล้ว แผนการของการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 18 เดือนบรูว์แมร์ 1799 (ตาม) ประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ นโปเลียนจะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อรักษาความสงบในกรุงปารีสและในรัฐสภา จากนั้นจึงจัดการโยกย้ายที่ทำการรัฐสภาไปยังพระราชวังแซ็ง-กลู บริเวณชานเมืองปารีส เพื่อไม่ให้เกิดการจลาจลในกรุงปารีสขณะก่อรัฐประหาร และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยอ้างเหตุผลว่าลัทธิฌากอแบ็งกำลังเสี่ยงต่อภัยคุกคามถึงขั้นถูกล้มล้างได้ ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น นับตั้งแต่ปั 1789 เป็นต้นมา สภาก็ถูกประชาชนชาวปารีสคุกคามมาโดยตลอด
เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันที่ 19 เดือนบรูว์แมร์ ที่พระราชวังแซ็ง-กลู ฝ่ายปฏิรูปหัวก้าวหน้าได้เตรียมการเกลี้ยกล่อมให้คณะดีแร็กตัวร์ห้าคน ยกขบวนลาออกจากที่ประชุมใหญ่แห่งชาติ รวมทั้งให้สภาห้าร้อยเลือกรัฐบาลใหม่ แต่แผนการดำเนินไปอย่างล่าช้าเนื่องจากแนวคิดนี้ไม่ได้รับฉันทามติจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะพวกฌากอแบ็งสองคนไม่ยอมลาออก นโปเลียนเฝ้ารอและตัดสินใจเข้าแทรกแซงในที่สุด
เขาได้นำกำลังทหารกลุ่มเล็กๆเข้าไปในห้องประชุมสภาห้าร้อยที่กำลังถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน และได้พยายามพูดโน้มน้าวให้สภาดังกล่าวยอมรับการโค่นล้มคณะดีแร็กตัวร์แต่ไม่มีผู้แทนคนใดยอมรับฟัง จากการกระทำอุกอาจของนโปเลียนดังกล่าวทำให้มีผู้เสนอญัตติให้ประกาศนโปเลียนเป็นบุคคลนอกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้นโปเลียนหลุดจากตำแหน่งทั้งหมด แต่สถานการณ์กลับตาลปัตรเมื่อมีผู้พยายามลอบแทงนโปเลียนในห้องประชุมสภา ภาพของผู้แทนที่โผล่มาจากทางหน้าต่างเพื่อลอบแทงนโปเลียนแพร่กระจายไปทั่ว นโปเลียนเป็นผู้ได้เปรียบในสถานการณ์นี้อย่างมาก เขาอ้างว่าถูกสมาชิกรัฐสภาใส่ร้ายว่าจะก่อรัฐประหารและเกือบจะถูกลอบสังหาร ทำให้นายพลฌออากีม มูว์รา ลูกน้องของนโปเลียน มีข้ออ้างนำกองทัพเข้าล้อมรัฐสภาและก่อรัฐประหารได้สำเร็จในที่สุด
สถาปนาระบอบกงสุล
แม้จะก่อรัฐประหารสำเร็จ แต่นโปเลียนก็ยังยึดติดกับรูปแบบการปกครองโดยกระบวนการทางกฎหมาย ในคืนวันที่ 19 เดือนบรูว์แมร์ หลังก่อรัฐประหารสำเร็จ คณะผู้แทนยังคงอยู่ที่พระราชวังแซ็ง-กลู เพื่อลงมติเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการสองชุดในการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แสดงให้เห็นได้ว่า นโปเลียนต้องการผลักดันให้มีระบอบการปกครอง ที่กิจการต่าง ๆ ของรัฐผ่านการลงมติจากผู้แทนราษฎร
วันที่ 20 เดือนบรูว์แมร์ กงสุลสามคนได้รับการแต่งตั้งให้บริหารประเทศ ได้แก่ นโปเลียน, แอมานุแอล โฌแซ็ฟ ซีเยแย็ส และรอเฌ ดูว์โก นับเป็นจุดเริ่มต้นระบบการปกครองโดยคณะกงสุล นโปเลียนประกาศว่า "สาธารณชนเอ๋ย...การปฏิวัติตามวิถีหลักการที่ได้เริ่มขึ้นมานั้น ได้สิ้นสุดลงแล้ว!"' ระบอบกงสุลเป็นการปกครองที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือกงสุลสามคน ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนเรียกว่าเป็น "ระบอบเผด็จการโดยประชามติ" ซึ่งในความเป็นจริงมีเพียงกงสุลเอกที่กุมอำนาจไว้อย่างแท้จริง ฝรั่งเศสเตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ที่ประชาชนในชาติจะต้องฝากชะตาไว้ในมือของจักรพรรดิ
จากกงสุลเอกกลายเป็นจักรพรรดิ
นโปเลียนได้เริ่มการปฏิรูปนับตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการปกครองในระบอบกงสุล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา กระบวนการยุติธรรม การคลัง และระบบราชการ ประมวลกฎหมายแพ่งที่ฌ็อง-ฌัก-เรฌิส เดอ ก็องบาเซแร็สเป็นผู้เรียบเรียงขึ้นนั้น เป็นที่รู้จักในนามของกฎหมายนโปเลียน แห่งปี 1804 และยังมีผลบังคับใช้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี กฎหมายแพ่งดังกล่าวนั้นมีรากฐานมาจาก กฎหมายในหมวดต่าง ๆ รวมถึงขนบธรรมเนียมหลากหลายจากระบอบปกครองในสมัยโบราณ ซึ่งนโปเลียนได้รวบรวมขึ้นใหม่
ผลงานทางราชการของนโปเลียนมีต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงปี 1814 เขาได้จัดตั้งโรงเรียนมัธยม ธนาคารแห่งชาติฝรั่งเศส ระบบเงิน ที่ว่าการอำเภอ สภาที่ปรึกษาของรัฐ ริเริ่มการรังวัดพื้นที่ทั่วอาณาจักรฝรั่งเศส และจัดตั้งสมาคมเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งชาติ (L'ordre national de la Légion d'honneur)
ในปี1800 นโปเลียนได้นำทัพบุกออสเตรียและยึดครองได้สำเร็จ ทำให้ออสเตรียที่พ่ายต่อทัพของนโปเลียนที่ยุทธการเมืองมาเร็งโก และต่อทัพของที่เมือง ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญาลูเนวิลล์ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1801 ซึ่งทำให้อังกฤษยอมลงนามในสนธิสัญญาอาเมียงในเดือนมีนาคม 1801 ในกาลต่อมา ถ้าหากแม้อำนาจของนโปเลียนถูกสั่นคลอนภายหลังก่อรัฐประหาร ชัยชนะในยุทธการที่มาเร็งโกก็ทำให้สถานะของนโปเลียนแข็งแกร่งขึ้นมาก
เขาส่งทหาร 70,000 นายไปยังนิคมแซ็ง-ดอแม็งก์ในทะเลแคริบเบียน ภายใต้การบังคับบัญชาของนาลพล เพื่อฟื้นฟูอำนาจของฝรั่งเศส หลังจากประสบความสำเร็จมาพอสมควร โดยเฉพาะจากการจับ (ผู้ซึ่งเสียชีวิตที่ ที่อำเภอดูบส์ วันที่ 7 เมษายน 1803) กองทัพของเขาก็ถูกทำลายโดยการระบาดของไข้เหลือง เมื่อเห็นดังนี้ นโปเลียนจึงยอมขายรัฐลุยเซียนาให้แก้สหรัฐอเมริกา ดินแดนขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 1800 () ได้มีการลอบวางระเบิดนโปเลียนที่ถนนซังต์-นิเคส ในกรุงปารีส ขณะที่ขบวนรถม้าของเขากำลังมุ่งหน้าไปโรงโอเปร่า รถม้าของกงสุลเอกได้ควบผ่านพ้นจุดเกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว ระเบิดเกิดปะทุขึ้นช้ากว่าที่คาดทำให้กระจกรถม้าแตกกระจายเท่านั้น แต่สถานที่เกิดเหตุที่กลายเป็นซากปรักหักพังเต็มไปด้วยความโกลาหล มีผู้เสียชีวิตกว่าสิบคน โฌแซ็ฟ ฟูเช ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยในสมัยนั้น ได้พิสูจน์ว่าอาชญากรรมดังกล่าวเป็นฝีมือกลุ่มฝักใฝ่กษัตริย์ ในขณะที่นโปเลียนเชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกฌากอแบ็ง การประหารดยุกแห่งอ็องแกงเป็นหนึ่งในผลพวงตามมา
ในปี 1802 นโปเลียนรื้อฟื้นในอาณานิคมขึ้นอีกตามคำขอของภริยา อันได้แก่โฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน หญิงชาวจากหมู่เกาะ มาร์ตีนีก การฟื้นฟูดังกล่าวทำให้ระบบเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของอาณานิคมโพ้นทะเลทางตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียกระเตื้องขึ้น ต้องรอถึงปี 1848 กว่าความพยายามในการเลิกทาสอย่างเด็ดขาดจะประสบความสำเร็จ
หลังจากที่นโปเลียนได้ขยายอิทธิพลไปถึงสวิส ที่ได้จัดตั้งสถาบันกระจายอำนาจในปัจจุบัน และไปยังเยอรมนี กรณีพิพาทของมอลตาก็เป็นข้ออ้างให้อังกฤษประกาศสงครามกับฝรั่งเศสอีกครั้งในปี 1803 รวมทั้งหนุนหลังฝ่ายฝักใฝ่ระบอบกษัตริย์ที่ต่อต้านนโปเลียน นโปเลียนได้ตอบโต้ด้วยแนวคิดในการบุกอังกฤษ และเพื่อข่มขวัญฝ่ายฝักใฝ่กษัตริย์ที่อาจจะกำลังลอบวางแผนโค่นล้มเขาอยู่ กงสุลเอกสั่งประหารดยุกแห่งอ็องแกง เจ้าชายแห่งราชวงศ์บูร์บง
การประหารเกิดขึ้นที่เมืองชานกรุงปารีส ภายหลังการไต่สวนที่ถูกจัดฉากให้ดูเป็นไปตามกระบวนการ (ซึ่งก็พบว่าเจ้าชายไม่มีความผิด) มีเพียงอังกฤษเท่านั้นที่ทักท้วง ส่วนรัสเซียและออสเตรียนั้น สงวนท่าทีไม่ยอมทัดทาน ทำให้เกิดเสียงเล่าลือเกี่ยวกับนโปเลียนว่าเป็น รอแบ็สปีแยร์บนหลังม้า (ที่เกาะเซนต์เฮเลนา นโปเลียนยอมรับความผิดนี้ แม้ว่าตาแลร็องจะมีส่วนพัวพันด้วยก็ตาม) หลังจากได้ก่อความผิดนี้ต่อสาธารณรัฐ และเพื่อไม่ให้กงสุลเอกขึ้นชื่อว่าก่อคดีสังหารบุคคลในราชวงศ์ซ้ำซ้อน นโปเลียนจึงได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1804
ถ้าจะว่ากันไปแล้ว จักรวรรดิฝรั่งเศสเกิดขึ้นจากคำขอของวุฒิสภา นักประวัติศาสตร์เชื่อในแนวความคิดที่ว่า การสถาปนาตนขึ้นเป็นจักรพรรดิของนโปเลียนนั้นเป็นไปเพื่อปกป้องสาธารณรัฐ หากนโปเลียนถูกโค่น กลุ่มคนต่างๆ จะล่มสลายไปกับเขาด้วย จักรพรรดิได้กลายมาเป็นสถาบัน ตอกย้ำความยั่งยืนของความเชื่อในการปกครองระบอบสาธารณรัฐ หากนโปเลียนตาย นั่นคือการสูญเสียผู้สืบทอดตำแหน่งที่มีหน้าที่ปกป้องประเทศจากความโกลาหล และนั่นหมายถึงความสูญเสียของสิ่งที่ได้มาจากการปฏิวัติฝรั่งเศส (ความเสมอภาค อิสรภาพ และ ความยุติธรรม) การที่เงินเหรียญของทางการฝรั่งเศสจารึกคำว่า จักรพรรดินโปเลียน - สาธารณรัฐฝรั่งเศส นั้น มิใช่คำพูดเสียดสีแต่อย่างใด
การปกครองของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้กลายมาเป็นระบอบจักรวรรดินิยม ในภายหลังเท่านั้น เพื่อปกป้องสิ่งที่ได้มาจากการปฏิวัติฝรั่งเศส
ปราบดาภิเษก
พิธีปราบดาภิเษกของนโปเลียนถูกจัดขึ้น ภายใต้พระเนตรของสมเด็จพระสันตะปาปา ที่ไม่ได้รับเกียรติให้สวมมหามงกุฎแก่นโปเลียน แต่ถูกลดบทบาทให้แค่มาร่วมอำนวยพรแก่จักรพรรดิฝรั่งเศสเท่านั้น นโปเลียนประกาศในขณะที่สวมมหามงกุฎให้ตัวเองว่า "ข้าพเจ้าพบมหามงกุฎในลำห้วย ข้าพเจ้าเช็ดโคลนออก แล้วข้าพเจ้าก็สวมมันไว้บนหัวข้าพเจ้า"
นี่นับเป็นโอกาสดีในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับวาติกัน การลงนามของกงสุลเอกในปี 1801 นั้นมีเนื้อหายอมรับว่าคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาของชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ศาสนาประจำชาติ นับแต่นั้นเป็นต้นมา นักบวชจะต้องอยู่ในความควบคุมของรัฐ ในการฟื้นฟูนิกายโรมันคาทอลิก ทำให้เกิดความกังขาว่า เป็นไปได้หรือที่จะเกิดการฟื้นฟูนิกายโรมันคาทอลิก ภายในระยะเวลาไม่ถึงสิบปีหลังจากที่หลวงยึดทรัพย์สินของโบสถ์ นโปเลียนสงวนท่าทีต่อหน้าสมเด็จพระสันตะปาปา เขาออกไปต้อนรับพระสันตะปาปาที่ป่าฟงแตนโบล โดยขี่ม้าไปและสวมชุดล่าสัตว์ ทำให้ฉากการพบปะดังกล่าวมีลักษณะเหมือนการพบกันโดยบังเอิญ และเช่นเดียวกัน ในปี 1804 จักรพรรดิมิได้เป็นผู้เดินทางไปประกอบพิธีขึ้นครองราชย์ที่กรุงโรมตามที่จักรพรรดิโรมันเคยกระทำ แต่เป็นพระสันตะปาปาที่ถูกเชิญมายังกรุงปารีสราวกับว่าเป็นนักบวชที่เดินทางมาแสวงบุญ
เราจะเห็นได้ว่า การที่นโปเลียนเข้าหาศาสนจักรนั้น เป็นไปเพื่อผลประโยชน์เฉพาะอย่าง (สร้างสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิกกับฝรั่งเศส และทำให้จักรพรรดิมีฐานะเทียบเท่ากับกษัตริย์อย่างถูกต้อง) และเมื่อพระสันตะปาปามีท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อคำสั่งของนโปเลียน เขาก็ไม่รอช้าที่จะขังพระสันตะปาปาไว้ในพระราชวังฟงแตนโบล
จักรวรรดิเรืองอำนาจ
ในปี 1804 ยังไม่ถึงเวลาแห่งการออกรบครั้งใหญ่เพื่อยึดครองดินแดน และจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งยึดติดกับแนวความคิดว่า สันติภาพอย่างถาวรจะมีได้ ต่อเมื่อปราบสหราชอาณาจักรลงได้เท่านั้น ได้ร่วมกับพลเรือเอก (ผู้ซึ่งเสียชีวิตก่อนจะกระทำการสำเร็จ) วางแผนรุกรานเกาะอังกฤษ ซึ่งเป็นแผนที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง จากการรบที่ยุทธนาวีทราฟัลการ์ กองเรือผสมฝรั่งเศส-สเปนที่บัญชาการโดย ถูกพลเรือโท ลอร์ด เนลสัน แห่งราชนาวีอังกฤษตีจนแตกพ่าย ทำให้สหราชอาณาจักร กลายเป็นมหาอำนาจทางทะเล นับแต่นั้นจวบจนในอีกหนึ่งศตวรรษต่อมา
ในปีเดียวกันนั้นเอง (1805) ได้มีการสหสัมพันธมิตรครั้งที่สามในยุโรปขึ้นเพื่อต่อต้านจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทำให้จักรพรรดิผู้ซึ่งกำลังบัญชาการ จากเมืองในฝรั่งเศส เพื่อเตรียมการบุกบริเตนใหญ่ ต้องเผชิญกับสงคราม ซึ่งเกิดขึ้นในอีกฟากหนึ่งของทวีปยุโรปอย่างกะทันหัน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้รับสั่งให้ตั้งรับโดยทันที โดยบังคับให้นำทัพใหญ่ออกเดินเท้า และสัญญาว่าจะนำชัยชนะ ต่อพวกออสเตรียและรัสเซียมาให้จากยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "สงครามสามจักรพรรดิ"
ในปี 1806 สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สี่ได้เริ่มต้นขึ้น ปรัสเซียได้ก่อเหตุพิพาทครั้งใหม่ โดยพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 3 แห่งปรัสเซีย ตัดสินพระทัยที่จะทำสงครามกับกองทัพฝรั่งเศสโดยลำพัง ตามตำนานเล่าว่านายพลคาร์ล ฟ็อน เคลาเซอวิทซ์ นักทฤษฎีทางทหารเคยเสนอแผนการรบที่ชาญฉลาด ซึ่งเป็นแผนการที่จักรพรรดินโปเลียนยังชื่นชม ในความรวดเร็วของการนำแนวคิดเรื่อง "จิตวิญญาณแห่งโลก" ของเฮเกิลมาใช้ แต่แผนรบดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายบัญชาการของกองทัพปรัสเซีย อย่างไรก็ดีกองทัพใหญ่ของนโปเลียนมีความได้เปรียบมาก เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ชายแดนปรัสเซีย นโปเลียนจึงทรงลงมือโจมตีก่อนและได้รับชัยชนะอย่างขาดลอยในยุทธการที่เยนา–เอาเออร์ชเต็ท โดยกองทัพหลวงของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สามารถกวาดล้างกองทัพปรัสเซียในยุทธการที่เยนาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ในขณะที่จอมพลหลุยส์-นีกอลา ดาวูตีทัพใหญ่ของจอมพลดยุกแห่งเบราน์ชไวค์แตกพ่ายไปในสมภูมิที่เมือง แม้ว่าทัพหลวงของปรัสเซียจะมีจำนวนทหารเหนือกว่ากองทัพฝรั่งเศสที่นำโดยจอมพลหลุยส์-นีกอลา มากก็ตาม ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์บาดเจ็บสาหัสในที่รบ ทหารของปรัสเซียที่แตกมาจากยุทธการที่เยนาทะลักเข้ามาสู่ยุทธการที่เอาเออร์ชเต็ท นำไปสู่ความเสียขวัญและความพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด จอมพลดาวูจึงได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ให้เป็น ดยุกแห่งเอาเออร์ชเต็ท เพราะความชอบในครั้งนี้
แต่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ยังไม่หยุดแค่นั้น ในปีถัดมาพระองค์ได้ทรงเดินทัพข้ามโปแลนด์ โดยทรงสถาปนาดัชชีวอร์ซอขึ้นและให้พันธมิตรของฝรั่งเศสปกครอง จากนั้นนโปเลียนได้ยกกองทัพขึ้นเหนือเพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพรัสเซีย นโปเลียนรบชนะกองทัพรัสเซียที่ยุทธการที่ฟรีทลันท์ในวันที่ 14 มิถุนายน 1807 ทางฝ่ายรัสเซียต้องขอยอมสงบศึก และนำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาเมืองในเดือนกรกฎาคม 1807 กับจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย อันเป็นสนธิสัญญาว่าด้วยการแบ่งดินแดนยุโรปกันระหว่างฝรั่งเศสและรัสเซีย สองมหาอำนาจในขณะนั้น เพื่อเป็นการข่มขวัญศัตรู (ฝรั่งเศสครองยุโรปตะวันตก และรัสเซียครองยุโรปตะวันออก โดยมีโปแลนด์อยู่ตรงกลาง)
นโปเลียนผู้ซึ่งได้รับการศึกษาจากโรงเรียนและครูบาอาจารย์ในระบอบเก่า ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งนายทหารในกองทัพหลวง ได้ทำลายกฎเกณฑ์ดั้งเดิมทางการทหารอย่างสิ้นเชิง ด้วยการไม่ริเริ่มสงครามที่กินเวลานานกว่าหนึ่งศตวรรษในการรบด้วยพลทหาร 30 ถึง 50,000 นาย แต่มองหาการรบที่สามารถเผด็จศึกได้อย่างเด็ดขาด ใช้ทหารกว่า 100,000 นายหากจำเป็น นั่นคือจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ไม่ต้องการจะเป็นผู้นำในยุทธการเท่านั้น แต่ต้องการจะบดขยี้ศัตรูอีกด้วย
ในปี 1808 จักรพรรดินโปเลียนสร้างระบบศักดินาของจักรวรรดิฝรั่งเศสให้แก่กลุ่มชนชั้นสูงที่แวดล้อมพระองค์ ไม่นานต่อมา บรรดานายพันและนายพลของนโปเลียนต่างได้รับยศขุนนาง เคานต์แห่งจักรวรรดิ เจ้าชายแห่งเนอชาแตล ดยุกแห่ง ดยุกแห่ง ดยุกแห่งดันท์ซิช ดยุกแห่ง กษัตริย์แห่งนาโปลี ฯลฯ
จากกรุงอัมสเตอร์ดัมถึงกรุงโรม จักรวรรดิของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีประชากรรวมทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านคน โดยมีเพียง 30 ล้านคนเท่านั้นที่เป็นชาวฝรั่งเศส
ปฏิบัติการที่คาบสมุทรไอบีเรีย ออสเตรีย และรัสเซีย
เนื่องด้วยแนวคิดของอังกฤษที่จะกีดกันเรือสินค้าฝรั่งเศส จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เลยพยายามจะบังคับให้เกิด โดยมีวัตถุประสงค์จะหยุดยั้งกิจกรรมทางการพาณิชย์ของอุตสาหกรรมอังกฤษ โปรตุเกส อันเป็นประเทศพันธมิตรของอังกฤษมาเป็นเวลาช้านาน ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญานี้ จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จึงทรงขอความช่วยเหลือจากสเปนในการบุกโปรตุเกส ในที่สุดพระองค์ก็ได้รุกรานประเทศสเปน และตั้งโฌแซ็ฟ โบนาปาร์ต พี่ชายขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองที่นั่น และโปรตุเกสก็ถูกจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 รุกรานเช่นกันในปี 1807 ประชากรส่วนหนึ่งของสเปนที่คลั่งใคล้ในกลุ่มนักบวชได้ลุกฮือขึ้นต่อต้านชาวฝรั่งเศส ในไม่ช้า กองพลทหารราบฝีมือเยี่ยมของอังกฤษ บัญชาการโดยว่าที่ดยุกแห่งเวลลิงตัน (อาร์เธอร์ เวลสลีย์) ก็ได้เคลื่อนทัพสู่สเปน โดยผ่านโปรตุเกสในปี 1808 และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มผู้รักชาติชาวสเปน ก็ได้ผลักดันกองทัพฝรั่งเศสออกจากคาบสมุทรไอบีเรีย ในขณะที่กองทหารที่ฝีมือดีที่สุดของฝรั่งเศสกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในสเปน ออสเตรียก็ได้บุกฝรั่งเศสอีกครั้งจากแถบเยอรมนี และถูกปราบลงอย่างราบคาบใน จอมพลลานส์ เพื่อนและผู้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ของจักรพรรดิจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ถึงแก่กรรมที่เมือง
หลังจากที่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย ได้รับการหนุนหลังจากชนชั้นสูงในรัสเซียที่เข้าข้างฝ่ายอังกฤษ ก็ได้ปฏิเสธที่จะร่วมมือกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในการโจมตีสหราชอาณาจักร จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งเชื่อว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงสงครามกับอังกฤษได้ ได้กรีฑาทัพบุกรัสเซียในปี 1812 กองทัพใหญ่ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ประกอบด้วยกองทัพพันธมิตรอิตาลี เยอรมนี และออสเตรียมีขนาดมหึมา มีทหารกว่า 600,000 นายที่ร่วมเดินทัพข้าม
กองทัพรัสเซียในบัญชาของจอมพลมีฮาอิล คูตูซอฟ ใช้กลยุทธ์ผลาญภพในการต้านการรุกรานของฝรั่งเศส การรบที่มอสโกเมื่อวันที่ 12 กันยายน ไม่มีผู้ใดแพ้ชนะ แม้ว่าพวกรัสเซียจะเป็นฝ่ายทิ้งชัยภูมิ แต่ทั้งสองฝ่ายก็เสียทหารไปในจำนวนพอกัน
วันรุ่งขึ้นหลังจากกองทัพฝรั่งเศสเคลื่อนทัพเข้ากรุงมอสโก ก็พบว่ามอสโกกลายเป็นเมืองร้าง เมื่อฝรั่งเศสตายใจ พวกรัสเซียได้จุดไฟเผากรุงมอสโกในทันที ทำให้จักพรรดินโปเลียนที่ 1 ต้องถอยทัพ ฤดูหนาวอันโหดร้าย กำลังจะมาเยือนดินแดนแถบรัสเซียในอีกเพียงไม่กี่วัน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ที่คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวจากซาร์ซาร์ได้ชะลอการถอยทัพไปจนถึงนาทีสุดท้าย
กองทัพฝรั่งเศสได้ถอยทัพอย่างทุลักทุเลไปทางเยอรมนี ในช่วงฤดูหนาวของรัสเซีย ผ่านดินแดนที่เคยเป็นทางผ่านตอนขามาและถูกโจมตีเสียย่อยยับ ในจำนวนทหารเกือบ 500,000 นายที่เข้าร่วมรบ มีเพียงหมื่นกว่านายที่สามารถข้ามกลับมาได้ แถมยังถูกกองทัพรัสเซียดักโจมตี กองทัพใหญ่ของจักพรรดินโปเลียนที่ 1 ต้องถึงกาลล่มสลายเนื่องด้วยไม่รู้จักพื้นที่ดีพอ
หลังจากที่ได้ใจจากข่าวความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสในรัสเซีย กษัตริย์ยุโรปหลายพระองค์ได้แปรภักดิ์จากฝ่ายจักพรรดินโปเลียนที่ 1 และยกทัพมารบกับฝรั่งเศส จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งถูกคนในกองทัพของพระองค์เองทรยศ ได้พบกับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงที่ยุทธการที่ไลพ์ซิจ หรือที่รู้จักในนามของ สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่หก ซึ่งกองทัพฝรั่งเศส 200,000 นายปะทะกับกองทัพพันธมิตร 500,000 นาย (รัสเซีย ออสเตรีย เยอรมนี สวีเดน) จอมพลยูแซฟ อันตอญี ปอญาตอฟสกี เจ้าชายแห่งโปแลนด์และพระราชนัดดาของพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของโปแลนด์ ได้สิ้นพระชนม์ลงในการรบครั้งนี้ หลังจากพยายามนำทหารของพระองค์ข้าม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 100,000 คน
ความพ่ายแพ้ในฝรั่งเศส
ในปี 1814 สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, ปรัสเซีย และออสเตรีย ได้ร่วมเป็นพันธมิตร แม้ว่าจักรพรรดินโปเลียนที่ 1จะมีชัยอย่างไม่น่าเชื่อในการรบที่ และ ด้วยการนำทัพทหารใหม่ขาดประสบการณ์ (กองทัพมารี หลุยส์ ที่ตั้งชื่อตามจักรพรรดินีมารี หลุยส์ มเหสีในจักรพรรดินโปเลียนที่ 1) กรุงปารีสถูกตีแตกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม และบรรดาจอมพลรวมตัวโน้มน้าวให้จักรพรรดินโปเลียนสละราชสมบัติ
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงคิดว่าฝ่ายพันธมิตรจะแยกเขาออกจากจักรพรรดินี และนโปเลียนที่ 2 กษัตริย์แห่งโรม พระโอรสของพระองค์ ดังนั้น ในคืนวันที่ 12 และเช้าวันที่ 13 เมษายน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้เสวยยาพิษไปในปริมาณที่จะปลิดชีพพระองค์เอง ยาพิษดังกล่าวคือฝิ่นผสมกับน้ำเล็กน้อย มีคนบอกพระองค์ว่าส่วนผสมดังกล่าวมีพิษมากพอที่จะฆ่าคนได้ถึงสองคน นโปเลียนเลือกที่จะฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้เพราะเชื่อว่าศพของตนจะต้องถูกประจานให้คนฝรั่งเศสดู พระองค์ต้องการให้ข้าราชบริพารของพระองค์จำพระพักตร์ที่เรียบเฉยได้ เช่นเดียวกับที่เคยเห็นพระองค์ในยุทธการ
หลังจากผ่านพ้นเวลาเที่ยงคืนมาอย่างทุกข์ทรมาน จักรพรรดิก็บ่นว่าส่วนผสมฝิ่นของพระองค์ออกฤทธิ์ช้าไป นโปเลียนประกาศต่อหลุยส์ เดอ โกแล็งกูร์ ว่า "ข้าตายด้วยความทุกข์ ข้าทุกข์ที่มีรัฐธรรมนูญที่ยืดชีวิตออกไปและทำให้ข้าจบชีพช้ากว่าเดิม!"
อาการคลื่นเหียนอาเจียนของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 รุนแรงขึ้นทุกทีจนไม่อาจกลั้นอาเจียนไว้ได้อีกต่อมา จนกระทั่งอาเจียนออกมาอย่างรุนแรง พระองค์ทรงทุกข์ทรมานอย่างไม่สิ้นสุดจนกระทั่งนายแพทย์อีวองมาถึง จักรพรรดินโปเลียนทรงขอให้แพทย์ถวายยาพิษอีกขนานเพื่อจะได้สวรรคตเสียที แต่นายแพทย์ปฏิเสธโดยกราบทูลว่าเขาไม่ใช่ฆาตกรและเขาจะไม่ยอมทำในสิ่งที่ขัดต่อสามัญสำนึกของตนอย่างเด็ดขาด
ความทรมานของจักรพรรดิยังคงดำเนินต่อไป โกแล็งกูร์ออกจากห้องและบอกให้ข้าราชบริพารเงียบเสียง นโปเลียนเรียกโกแล็งกูร์และบอกว่าพระองค์ยอมตายเสียดีกว่ายอมลงนามในสนธิสัญญา และแล้วยาพิษก็คลายฤทธิ์ลง และพระองค์ก็สามารถดำเนินกิจกรรมตามปกติได้ในที่สุด แต่ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเหตุใดองค์จักรพรรดิจึงรอดชีวิตมาได้จากการกลืนฝิ่นในปริมาณขนาดนั้น ไม่กระเพาะของพระองค์ขย้อนออกมา ไม่ก็ยาพิษได้เสื่อมฤทธิ์ลงไปเอง
ท้ายที่สุด นโปเลียนเนรเทศตนเองเองไปยังเกาะเอลบาตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาฟงแตนโบล โดยยังทรงดำรงพระยศเป็นจักรพรรดิ และมีอำนาจการปกครองเฉพาะบนเกาะแห่งนี้
คืนสู่อำนาจเป็นเวลาร้อยวัน
ที่ประเทศฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ทรงขับจักรพรรดินโปเลียนที่ 2 และขึ้นครองราชย์แทน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เป็นกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของพระมเหสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งของพระโอรสของพระองค์ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกออสเตรีย รัฐบาลฝรั่งเศสที่ฝักใฝ่ระบอบกษัตริย์ปฏิเสธจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ตามสัญญาในที่สุด และมีข่าวลือว่าเขากำลังจะถูกส่งตัวไปยังเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก
ดังนั้น จักรพรรดินโปเลียนที่หลบหนีออกจากการคุมขังบนเกาะเอลบา ได้ขึ้นสู่ฝั่งบนแผ่นดินฝรั่งเศสใกล้กับเมืองคานส์ เมื่อเดือนมีนาคม 1815 กองทัพที่ถูกส่งไปจับกุมตัวเขากลับมาต่างโห่ร้องต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษตลอดเส้นทางจาก ขึ้นมายังเมือง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวถูกเรียกว่า "ถนนสายจักรพรรดินโปเลียนที่ 1" ไปแล้ว จอมพลมิเชล ไนยผู้ซึ่งได้สาบานต่อหน้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ว่าจะนำจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 กลับมาในกรงเหล็ก ก็รู้สึกโอนอ่อนเข้าหาฝ่ายจักรพรรดิเดิมของตน (หลังที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เดินอย่างอุกอาจเข้าไปประกาศต่อฝูงชนว่า "ทหารแห่งกองพล 5 เราคือจักรพรรดิของพวกเจ้า พวกเจ้าก็รู้จักเราดีอยู่แล้วมิใช่หรือ ถ้าหากมีใครในหมู่พวกเจ้าทั้งหลายมาเพื่อที่จะจับจักรพรรดิของเจ้า เราก็อยู่ที่นี่แล้ว") ทำให้เขากลายเป็นจอมพลคนเดียวที่ถูกจับกุมในข้อหาทรราชย์ หลังจากการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ครั้งที่สอง จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เดินทางถึงกรุงปารีสอย่างง่ายดาย ช่วงเวลา"คืนสู่อำนาจเป็นเวลาร้อยวัน" เริ่มต้นขึ้น แต่ความล้มเหลวก็เกิดขึ้นซ้ำรอย กองทัพของเขาพ่ายการรบกับอังกฤษและปรัสเซียที่ยุทธการวอเตอร์ลู ในเบลเยียม เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1815 จอมพลไม่สามารถต้านทานกองทัพร่วมระหว่างอังกฤษและปรัสเซียได้ เนื่องจากเป็นทัพหลวงที่ยกมา
ถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา และกำเนิดของตำนาน
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงถูกขัง และถูกอังกฤษส่งตัวไปยังเกาะเซนต์เฮเลนา ตามบัญชาการของ พร้อมกับนายทหารที่ยังจงรักภักดีบางส่วน รวมถึงเคานต์ด้วย จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงใช้เวลาบนเกาะเซนต์เฮเลนา ทรงอุทิศให้กับการเขียนบันทึกความทรงจำของพระองค์ ในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายน 1821 พระองค์ได้ทรงเขียนพระราชพินัยกรรม และหมายเหตุพระราชพินัยกรรมหลายฉบับด้วยพระองค์เอง รวมกว่าสี่สิบหน้าด้วยกัน คำพูดสุดท้ายของพระองค์ก่อนสิ้นใจได้แก่ "...ฝรั่งเศส...กองทัพ...โฌเซฟีน" (France, armée, Joséphine) หรือจากที่บันทึกไว้ใน "จดหมายเหตุเกาะเซนต์เฮเลนา" คือ "...ศีรษะ...กองทัพ...พระเจ้า!"
ในปี 1995 จดหมายเหตุของเคานต์ ข้ารับใช้ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ถูกตีพิมพ์ เขาได้เขียนเล่าเหตุการณ์ ช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายก่อนจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จะสวรรคต และหลายคนเชื่อว่าพระองค์ถูกลอบวางยาพิษด้วยสารหนู ในปี 2001 ปาสคาล คินท์ แห่งสถาบันกฎหมายเมืองสทราซบูร์ได้ทำการพิสูจน์ทฤษฎีนี้ ด้วยการศึกษาหาระดับสารหนูในเส้นพระเกศา (ผม) ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ภายหลังจากที่พระองค์สวรรคต ซึ่งก็พบว่ามีสารหนูอยู่เกินกว่าระดับปกติ 7 ถึง 38 เท่า การวิเคราะห์ของนิตยสาร ได้แสดงให้เห็นว่า สามารถพบสารหนูในระดับความเข้มข้นเท่ากันจากตัวอย่างที่เก็บได้มาจากปี 1805, 1814 และ 1821 ดังนั้นจึงต้องกล่าวถึง ธรรมเนียมในสมัยนั้นที่นิยมสวมวิกผมพ่นทับด้วยแป้งผง ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจเชื่อในการวิเคราะห์ของนักวิจัยชาวสวิสที่บอกว่า จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สวรรคตจากพระโรคมะเร็งในกระเพาะ แม้ว่าจักรพรรดิจะมีพระวรกายค่อนข้างเจ้าเนื้อก่อนสวรรคต (น้ำหนัก 75.5 ก.ก. ส่วนสูง 167 ซ.ม.) นักวิจัยยังได้สำรวจกางเกงที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สวมใส่ในสมัยนั้น และสามารถระบุได้ว่าพระองค์มีน้ำหนักลดลงถึง 11 ก.ก. ภายในเวลา 5 เดือนก่อนการสวรรคต สมมติฐานดังกล่าวเคยถูกกล่าวว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีพระวรกายใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นคนป่วยด้วยโรคมะเร็ง
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ทรงขอให้ฝังพระบรมศพของพระองค์ไว้ริมฝั่งแม่น้ำแซน แต่เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตในปี 1821 พระบรมศพของพระองค์ได้ถูกปลงที่เกาะเซนต์เฮเลนา ในปี 1840 พระบรมอัฐิได้ถูกเชิญกลับมายังประเทศฝรั่งเศสด้วยการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ และได้ถูกฝังไว้ที่ออแตลเดแซ็งวาลีดในกรุงปารีส โดยใส่ไว้ในโถที่ทำด้วย (อันเป็นของขวัญที่รัสเซียมอบให้แก่ฝรั่งเศส)
มุมมองร่วมสมัยที่มีต่อนโปเลียน
- ชัปตาล: นโปเลียนได้ใช้พระองค์เองเป็นจดหมายเหตุเพื่อทำสงครามกับศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกอังกฤษ พระองค์ได้ทรงเขียนบันทึกทุกฉบับด้วยพระองค์เอง สำหรับให้ลงในหนังสือพิมพ์ le Moniteur เพื่อตอบโต้บทวิจารณ์ที่ขมขื่นและข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงที่ได้ถูกตีพิมพ์ไว้ในหนังสือพิมพ์อังกฤษ เมื่อพระองค์ได้ทรงตีพิมพ์บันทึกฉบับหนึ่ง พระองค์ทรงเชื่อว่าสามารถโน้มน้ามผู้อ่านได้แล้ว เราคงจำกันได้ว่าบันทึกส่วนใหญ่ไม่ใช่ต้นแบบที่ดีของงานเขียน หรือตัวอย่างที่ดีของวรรณกรรม แต่พระองค์ก็มิได้ทรงตีพิมพ์อะไรที่แสดงให้เห็นถึงบุคลิกของพระองค์ หรือความสามารถที่พระองค์มีเอาไว้เลย
ผลงานของนโปเลียน โบนาปาร์ต
ธรรมเนียมพระยศของ จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส | |
---|---|
พระราชลัญจกร | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | ยัว อิมพีเรียล มาเจสตี |
ธรรมเนียมพระยศของ พระเจ้านโปเลียนแห่งอิตาลี | |
---|---|
พระราชลัญจกร | |
การทูล | ยัว มาเจสตี |
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งกงสุลเอก
- 13 ธันวาคม (วันที่ 22 ปีที่ 8 ตามระบบปฏิทินของสาธารณรัฐฝรั่งเศส) มาตราที่ 52 ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส สถาปนาฝรั่งเศส
- 13 ธันวาคม (วันที่ 22 เดือนฟรีแมร์ ปีที่ 8) สถาปนาวุฒิสภาฝรั่งเศส
- 13 กุมภาพันธ์ (วันที่ 24 ปีที่ 8) สถาปนา
- 17 กุมภาพันธ์ (วันที่ 28 เดือนปลูวิโอส ปีที่ 8) ก่อตั้งที่ทำการอำเภอ
- 8 เมษายน (วันที่ 18 ปีที่ 10) ลงพระนามร่วมกับ ในความตกลงว่าด้วยเรื่องศาสนาของประเทศ
- 1 พฤษภาคม (วันที่ 11 ปีที่ 10) กงสุลเอกโบนาปาร์ตได้สถาปนาโรงเรียนมัธยมในฝรั่งเศส
- 19 พฤษภาคม (วันที่ 29 เดือนฟลอเรอาล ปีที่ 10) ได้สถาปนาสมาคมเครื่องราชอิศริยาภรณ์แห่งชาติ
- 24 ธันวาคม ก่อตั้งหอการค้า 22 แห่ง
- 7 เมษายน (วันที่ 17 เดือนแฌร์มินาล ปีที่ 11) ได้ริเริ่มระบบเงินฟรังก์แจร์มินาล
- 21 มีนาคม (วันที่ 30 ปีที่ 12) ประมวลกฎหมายแพ่งได้เริ่มมีผลบังคับใช้
ในช่วงที่เป็นจักรพรรดิ
- 18 มีนาคม (วันทื่ 21 เดือนแจร์มินาล ปีที่ 9) สถาปนา
- 10 พฤษภาคม สถาปนาขึ้นเป็นแห่งแรก (ที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เนื่องจากก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี )
- ในปี จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีพระราชดำริให้สร้างขึ้นที่
- 9 กุมภาพันธ์ ทรงรื้อฟื้นระบบ (ทำให้ชาวยิวสามารถปรับตัวเข้ากับการพำนักอาศัยในจักรวรรดิฝรั่งเศสได้ง่ายขึ้น)
- 16 กันยายน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงสถาปนาแห่งชาติฝรั่งเศสขึ้น
- ในปี นโปเลียนได้มอบหมายให้ รับผิดชอบในการก่อสร้างตลาดหุ้นฝรั่งเศสขึ้นในกาลต่อมา
- 17 มีนาคม นโปเลียนมีพระราชดำริโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น
- 12 มีนาคม มีพระราชดำริโปรดเกล้าให้ตรากฎหมายอาญาแห่งชาติฝรั่งเศสขึ้น
ครอบครัว
การสมรสและโอรสธิดา
นโปเลียนสมรสสองครั้ง :
- เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1796 (เมื่อครั้งยังเป็นนายพลก่อนออกปฏิบัติการในอียิปต์) ได้เข้าพิธีสมรสกับนางโฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน แม่ม่ายลูกติดชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเบเก จาก ผู้ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศสในพิธีขึ้นครองราชย์ของนโปเลียน เนื่องจากนางมีอายุมากแล้วจึงไม่สามารถมีโอรสธิดาให้กับนโปเลียนได้ ซึ่งการที่องค์จักรพรรดิไร้ซึ่งผู้สืบทอดบัลลังก์ดังกล่าวถูกมองว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับความมั่นคงของจักรวรรดิ การสมรสครั้งนี้จึงจบลงด้วยการหย่าร้าง
- เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1810 ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรส () กับอาร์คดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย เพื่อเป็นการสานสัมพันธไมตรีและหลีกเลี่ยงสงครามกับ อาร์คดัชเชสมารี หลุยส์ได้ให้กำเนิดพระราชโอรสหนึ่งพระองค์ ได้แก่ นโปเลียนที่ 2 ทรงได้รับการแต่งตั้งจากนโปเลียนให้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์แห่งกรุงโรม ดยุกแห่ง แต่เรามักจะเรียกพระองค์ว่านโปเลียนที่ 2 เสียมากกว่า แม้ว่าพระองค์จะไม่เคยขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสอย่างแท้จริงเลยก็ตาม ถ้าจะว่ากันตามทฤษฎีแล้ว รัชสมัยของพระองค์กินระยะเวลาเพียง 15 วัน ระหว่างวันที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ถูกบังคับให้สละพระราชบัลลังก์ครั้งแรก จนกระทั่งมีการฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บง พระฉายานามว่า เหยี่ยวน้อย นั้นมาจากบทกวีของ ที่ประพันธ์ขึ้นในปี 1852
นโปเลียนยังมีบุตรนอกสมรสอีกอย่างน้อยสองคน ซึ่งทั้งสองคนนั้นต่างก็มีทายาทสืบต่อมา:
- เคานต์ชาร์ล เลอง (ชาตะ 1806 มรณะ 1881) บุตรชายของนาง (ชาตะ 1787 มรณะ 1868)
- เคานต์ (ชาตะ 4 พฤษภาคม 1810 มรณะ 27 ตุลาคม 1868) บุตรชายของเค้าน์เตส (ชาตะ 1789 มรณะ 1817)
และจากแหล่งข้อมูลที่ยังเป็นที่ถกเถียงกัน:
- เอมิลลี ลุยส์ มารี ฟร็องซวส โฌซฟีน เปลลาปรา บุตรสาวของฟร็องซัวส-มารี เลอรัว
- คาร์ล ยูจัง ฟอน มูห์ลเฟลด์ บุตรชายของวิคตอเรีย โครส์
- เอเลน นโปเลโอน โบนาปาร์ต บุตรสาวของเค้าน์เตสมองโตลอง
- (ชาตะ 19 สิงหาคม 1805 มรณะ 24 พฤศจิกายน 1895) โดยไม่ทราบว่ามารดาของเขาเป็นใคร
พี่น้องของนโปเลียน
หลานชาย-หญิง
- นโปเลียนที่ 3 (ชาร์ล หลุยส์ นโปเลียน โบนาปาร์ต) หลานชาย ได้ใช้โอกาสจากความมีชื่อเสียงของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ในช่วงสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 2 จากนั้นก็ได้ยึดอำนาจและก่อตั้งจักรวรรดิที่ 2 ขึ้น และเป็นจักรพรรดิปกครองฝรั่งเศสภายใต้พระนามว่านโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ตลอดการครองราชย์ของพระองค์ ได้มีการประกาศใช้กฎหมายทางสังคมและกฎหมายสมัยใหม่จำนวนมาก พระองค์พ่ายแพ้สงครามและยอมมอบตัวให้กับปรัสเซียในปี 1870 จากการรบที่
- นักสัตววิทยา
เชื้อสายของนโปเลียนที่โด่งดัง
หนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับนโปเลียน
- , Napoléon ou le Mythe du Sauveur
- Jean Tulard (dir.) , Dictionnaire Napoléon
- Thierry Lentz (en collaboration) , Autour de l'empoisonnement de Napoléon, préfacé par , ,
- Thierry Lentz, le Sacre de Napoléon, Éd. Nouveau Monde, 2003
- Thierry Lentz, Napoléon, , coll. « »,
- , Vues sur Napoléon, ,
- Adolphe Thiers, Histoire du Consulat et de l'Empire
- , Mes souvenirs sur Napoléon
- François-René de , , livres XXIX à XXII
- Jacques Bainville, Napoléon, 1931
- Steven Englund, Napoléon « a political life », 2003
- , Napoléon et le , Analyse d'un discours, Préface de , , .
- Maximilien Vox, Napoléon. Paris (France). Éditions du Seuil, collection Le temps qui court. 1959. 184 pages. Cote dewey : 923.1 N216v
- โตลสตอย, Guerre et Paix
- สต็องดาล, La Chartreuse de Parme
- ปาทริก ล็อมโบ, La Bataille
ภาพยนตร์เกี่ยวกับนโปเลียน
- พ.ศ. 2455 (1912) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2470 (1927) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2472 (1929) : ซังต์เตเลน (Napoleon auf St. Helena) อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2477 (1934) : นโปเลียน โบนาปาร์ต อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (นำภาพยนตร์ในปี มาสร้างใหม่ มีเสียงประกอบ) (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2478 (1935) : Campo di maggio อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (อิตาลี)
- พ.ศ. 2484 (1941) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย (อาร์เจนตินา)
- พ.ศ. 2498 (1955) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2503 (1960) : เอาชแตร์ลิทซ์ อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2513 (1970) : วอเตอร์ลู อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย Rod Steiger (อิตาลี และ สหภาพโซเวียต)
- พ.ศ. 2514 (1971) : โบนาปาร์ตกับการปฏิวัติ อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (นำมาสร้างใหม่จากภาคเดิมเมื่อปี และ ) (ละครโทรทํศน์ ออกอากาศในฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2532 (1989) :นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ละครโทรทํศน์ ออกอากาศในฮังการี)
- พ.ศ. 2533 (1990) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย , , , , นำแสดงโดย (ภาพยนตร์โทรทัศน์ ออกอากาศในฝรั่งเศส โปแลนด์ เบลเยียม แคนาดา)
- พ.ศ. 2542 (1999) : Pan Tadeusz อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (โปแลนด์)
- พ.ศ. 2543 (2000) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ละครโทรทัศน์ ออกอากาศในฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา สหรัฐ และสหราชอาณาจักร)
- (2023) : "จักรพรรดินโปเลียน" กำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์ นำแสดงโดย วาคีน ฟินิกซ์ (สหรัฐอเมริกา)
หมายเหตุ
อ้างอิง
- McLynn 1998, p.6
- McLynn 1998, p.2
- Cronin 1994, p.20–21
- Cronin 1994, p.27
- Roberts 2001, p.xvi
- Asprey 2000, p.13
- McLynn 1998, p.55
- ต้นฉบับในภาษาฝรั่งเศส: "Citoyen,la Révolution est fixée aux principe qui l'avait commencée elle est finie!"
- Lyons 1994, p. 111
- ต้นฉบับในภาษาฝรั่งเศศ: "J'ai trouvé une couronne dans le ruisseau, j'ai essuyé la boue qui la couvrait, je l'ai mise sur ma tête."
แหล่งข้อมูลอื่น
- The Napoleonic Guide
- Napoleon Series
- International Napoleonic Society
- Biography by the US
- ผลงานของ จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ที่โครงการกูเทินแบร์ค
- Hit the road with Napoleon
ก่อนหน้า | จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สาธารณรัฐที่ 1 ลำดับก่อนหน้าโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในฐานะกษัตริย์ | จักรพรรดิแห่งชาวฝรั่งเศส (18 พฤษภาคม 1804 – 11 เมษายน 1814) | พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ในฐานะกษัตริย์ | ||
พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ในฐานะกษัตริย์ | จักรพรรดิแห่งชาวฝรั่งเศส (สมัยร้อยวัน) (20 มีนาคม – 22 มิถุนายน 1815) | นโปเลียนที่ 2 ไม่เสวยราชย์ พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ในฐานะกษัตริย์ | ||
จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | กษัตริย์แห่งอิตาลี (17 มีนาคม 1805 – 11 เมษายน 1814) | พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ราชอาณาจักรอิตาลียุคใหม่ |
วัยเยาว์และการรับราชการทหาร
นโปเลียนเกิดที่เมืองอาฌักซีโยหรืออายัชโช ในภาษาอิตาลี บนเกาะคอร์ซิกา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1769 ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปี ภายหลังจากที่ฝรั่งเศสได้ซื้อเกาะนี้ไปจาก สาธารณรัฐเจโนวา 1768 ครอบครัวของเขาเป็นหนึ่งในตระกูลผู้ดีจำนวนน้อยนิดบนเกาะคอร์ซิก้า บิดาของเขาผู้มีนามว่าการ์โล บูโอนาปาร์เต จัดการให้เขาได้เข้ารับการศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศส ที่เขาได้เข้าไปตั้งรกรากตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
ในตอนแรกเขาถูกมองว่าเป็นคนหนึ่งภายหลังการศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหาร ที่เมืองโอเติง บรีแอนน์ และ โรงเรียนทหารแห่งกรุงปารีส เขาก็ได้เข้าร่วมกองพลปืนใหญ่ ภายใต้กองกำลังของลาแฟร์ ที่เมืองโอซ็อนน์ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นร้อยตรีที่เมืองวาล็องซ์ ในปี 1787 ด้วยอารมณ์ที่ซ่อนเร้น ออกแนว โรแมนติก ในงานที่เขาเขียน ความอยากรู้อยากเห็นไม่มีที่สิ้นสุด บวกกับความทรงจำที่เป็นเลิศ ในปี 1789 นโปเลียนหนุ่มมีความถนัดทางใช้สติปัญญามากกว่าทางใช้กำลัง
เมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสประทุขึ้นในปี 1789 ร้อยโทโบนาปาร์ตได้อยู่ในเหตุการณ์ที่กรุงปารีส โดยเป็นฝ่ายสังเกตการณ์ เขาได้เฝ้าดูประชาชนบุกพระราชวังตุยเลอรีด้วยความขยะแขยง นโปเลียนเดินทางกลับมายังเกาะคอร์ซิกา ที่ซึ่งการสู้รบระหว่างฝ่ายต่าง ๆ เริ่มขึ้นอีกครั้ง (โดยมีทางฝ่ายของปาสกาล เปาลี สนับสนุนระบอบกษัตริย์ และทางตระกูลโบนาปาร์ตสนับสนุนการปฏิวัติ) นโปเลียนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าของกองกำลังป้องกันตนเองแห่งชาติ ในปี 1792 โดยการแย่งเอากองกำลังจากคณะกรรมาธิการของรัฐมาส่วนหนึ่ง แต่การประหารกษัตริย์ได้ทำให้เกิดการต่อต้านของฝ่ายอิสระ สงครามกลางเมืองได้ประทุขึ้น และตระกูลของนโปเลียนต้องหลบหนีออกจากเกาะคอร์ซิกา มายังประเทศฝรั่งเศส
โบนาปาร์ตสนับสนุนการปฏิวัติ และได้ถูกส่งตัวไปรับตำแหน่งนายร้อยในกองพลปืนใหญ่ ที่ศูนย์บัญชาการเมืองตูลง (Toulon) ในปี 1793 ซึ่งต่อมาได้ถูกมอบให้สหราชอาณาจักรปกครอง แผนการที่นโปเลียนมอบให้ฌาคส์ ฟร็องซัวส์ ดูก็องมิเย ทำให้สามารถยึดเมืองตูลองคืนมาจากกองทัพกลุ่มสนับสนุนระบอบกษัตริย์และพวกอังกฤษได้ มิตรภาพระหว่างเขาพวกฌากอแบ็งทำให้เขาถูกจับในช่วงสั้น ๆ ภายหลังการสิ้นอำนาจของรอแบ็สปีแยร์ ในวันที่ 27 กรกฎาคม 1794
หลังจากได้รับอิสรภาพ เขาก็ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ปราศจากผู้บังคับบัญชาอย่างเป็นทางการ และต่อมาปอล บารัส อนุญาตให้เขาบดขยี้กลุ่มผู้สนับสนุนราชวงศ์ที่ลุกฮือที่เมืองว็องเดแมร์ เพื่อต่อต้านสมัชชาแห่งชาติ ในปี 1795 ในโอกาสนี้เอง โบนาปาร์ตได้มีนายทหารหนุ่มชื่อฌออากีม มูว์รา เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติการประสบผลสำเร็จด้วยการยิงปืนใหญ่เข้าสลายกลุ่มสนับสนุนราชวงศ์ที่เมืองซังต์โรช์
โบนาปาร์ตมีจิตใจผ่องใส สามารถซึมซับความรู้ทางการทหาร รวมถึงยุทธวิธีในสมัยของเขา มาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์จริง เมื่อดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ในกองพลปืนใหญ่ เขาได้คิดค้นการใช้ปืนใหญ่แห่งกริโบวาลเป็นกองทัพเคลื่อนที่ ใช้หนุนกองทหารเดินเท้าอีกทีหนึ่ง
การทัพอิตาลี
เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบที่สามารถการนำกองพลปืนใหญ่ปราบกบฏนิยมเจ้า นโปเลียนได้รับการเสนอแต่งตั้งโดยลาซาร์ การ์โน ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทัพอิตาลี เพื่อยึดอิตาลีกลับคืนมาจากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ออสเตรีย-เยอรมัน) กองกำลังของเขาขาดแคลน ทั้งยุทโธปกรณ์และเสบียงคลัง ซึ่งแม้เขาจะอดมื้อกินมื้อ และแต่งตัวซอมซ่อ แต่ก็ได้ฝึกฝนนายทหารในบังคับบัญชาด้วยความขะมักเขม้น และสามารถนำทัพเข้าปะทะกับกองกำลังของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีจำนวนมากกว่า และมียุทโธปกรณ์พร้อมกว่าได้ ในการรบหลายต่อหลายครั้ง ในยุทธการที่เมือง หรือ มีนโปเลียนเป็นผู้นำทัพด้วยตนเอง การรบท่ามกลางห่ากระสุนทำให้ เพื่อนและผู้ช่วยของเขาเสียชีวิต นโปเลียนเป็นนายทหารฝีมือฉกาจ ผู้ซึ่ง อยู่ทุกหนทุกแห่งและมองเห็นทุกอย่าง ว่องไวดุจสายฟ้าแลบและโจมตีดุจสายฟ้าฟาด เขาเป็นที่เคารพนับถือของผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยความสามารถในการบัญชาการ ความกล้าหาญและความเลือดเย็น ในบรรดานายทหารหลายนายที่แวดล้อมเขา นโปเลียนได้มองเห็นความสามารถของนายทหารนิรนามคนหนึ่งชื่อว่าฌ็อง ลาน
ตลอดการสู้รบในช่วงเวลานั้น ภาพวาดกองบัญชาการของนโปเลียนในสมัยนั้น ได้แสดงให้เห็นว่า นโปเลียนได้ใช้ระบบสื่อสารทางไกล ระบบแรกของโลกที่เรียกว่าโทรเลขที่คิดค้นโดย (เช่นเดียวกับกองบัญชาการรบอื่น ๆ ในสมัยนั้น) นโปเลียนได้ทำให้จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งบัญชาการโดยอาร์ชดยุกคาร์ล ดยุกแห่งเทเชิน จำเป็นต้องลงนามในสนธิสัญญาที่เสียเปรียบ ที่มีชื่อว่า ว่าด้วยเรื่องการให้ฝรั่งเศสเข้าครองเบลเยียม และยืดพรมแดนไปติดแม่น้ำไรน์ ส่วนจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้ถือครองแคว้นเวเนโต
เหตุการณ์ที่ราชอาณาจักรอิตาลีนี้เอง ที่ทำให้นโปเลียนได้ตระหนักถึงพลังอำนาจของตน รวมทั้งสถานการณ์ที่เขาเป็นต่อ เขาเป็นจ้าวแห่งสนามรบเช่นเดียวกับในทุก ๆ ที่ นครมิลานเกิดสภาพคล้าย ๆ กับพระราชวังเล็ก ๆ รายล้อมนายพลนโปเลียน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้กุมชะตาชีวิตของบรรดาเศรษฐีชาวอิตาลีเอาไว้ และได้เปรียบคู่ต่อสู้อยู่มาก แต่เขาก็ยังห่างไกลกับคณะดีแร็กตัวร์ฝรั่งเศสที่มีอำนาจบริหารจัดการประเทศ ในปี 1797 ด้วยแผนการของนายพลโอเฌอโร นโปเลียนได้จัดการทางการเมืองบางอย่างที่ทำให้เหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ยังคงมีอำนาจในกรุงปารีสแตกฉานซ่านเซ็น และสามารถรักษาสาธารณรัฐของพวกฌากอแบ็งเอาไว้ได้
การทัพอียิปต์
ในปี 1798 สภาห้าร้อยมีความกังวลต่อกระแสความนิยมที่ประชาชนมีต่อนโปเลียนที่เพิ่มสูงขึ้น จึงได้บัญชาการให้เขานำทัพบุกอียิปต์ โดยอ้างว่าฝรั่งเศสต้องการเข้าครองครองดินแดนตะวันออกใกล้ และตะวันออกกลางเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงของอังกฤษไปยังอินเดีย เนื่องด้วยนโปเลียนชื่นชมยุคแสงสว่างอยู่แล้ว เขาจึงได้ตัดสินใจนำคณะนักวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาร่วมทัพไปกับเขาด้วย และจัดตั้ง ซึ่งในช่วงนี้ หนึ่งในนายทหารหนุ่มผู้ติดตามนโปเลียนอย่างปีแยร์-ฟร็องซัว บูชาร์ ค้นพบศิลาโรเซตตาที่ทำให้นักอียิปตวิทยาอย่างฌ็อง-ฟร็องซัว ช็องปอลียง สามารถถอดรหัสไฮโรกลิฟในเวลาต่อมา
หลังจากที่มีชัยในยุทธการที่ (ฝรั่งเศสต้องการยึดเมืองในอียิปต์คืนจึงรบกับตุรกีที่มีอังกฤษหนุนหลัง) เมื่อวันที่ 16 เมษายน 1799 การเดินทัพต่อไปยังซีเรียของนโปเลียนต้องชะงักเนื่องจากการระบาดของกาฬโรค อันเป็นเหตุให้มีประชาชนล้มตายเป็นจำนวนมาก นโปเลียนได้เข้าจัดการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อกาฬโรคที่เมืองเท่าที่สามารถทำได้
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 1798 นโปเลียนมีชัยต่อกองกำลัง (ทาสรับใช้กาหลิบของจักรวรรดิออตโตมัน) ใน ในสงครามเอ็มบาเบห์ ทำให้ชื่อของเขาขจรขจายไปไกล แต่การพ่ายแพ้ของเขากลับไม่เป็นที่กล่าวถึง เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 1798 กองเรือฝรั่งเศสของนโปเลียนถูกกองเรือของพลเรือโทโฮราชิโอ เนลสัน ทำลายเกือบย่อยยับในการรบที่
สถานการณ์ระหว่างนโปเลียนกับสมัชชาแห่งชาติดีขึ้น ทำให้เขาสละตำแหน่งผู้บัญชาการทหารประจำอียิปต์ให้กับฌ็อง-บาติสต์ เกลเบร์ และเดินทางกลับฝรั่งเศส ตลอดเส้นทางกลับกรุงปารีส นโปเลียนได้รับเสียงโห่ร้องชื่นชมจากประชาชนในฐานะวีรบุรุษ อีกด้านหนึ่ง กองทัพฝรั่งเศสในอียิปต์ก็พ่ายแพ้การรบเมื่อ 31 สิงหาคม 1801 หลังจากเสียนายทหารไปกว่า 13,500 นาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหยื่อของโรคระบาด
ก่อรัฐประหาร
เมื่อนายพลนโปเลียนเดินทางกลับมาถึงกรุงปารีส เขาได้เข้าพบปะสนทนากับชาร์ล มอริส เดอ ตาแลร็อง-เปรีกอร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศ นักการเมืองผู้มีประสบการณ์ และผู้รู้เกมการเมืองเป็นอย่างดี เขาได้ช่วยเตรียมการก่อรัฐประหาร โค่นล้มคณะดีแร็กตัวร์ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารที่กำลังอ่อนแอและประชาชนเกลียดชัง โดยการโน้มน้าวผู้แทนราษฎรเลือกรัฐบาลใหม่ บีบให้หัวหน้าคณะรัฐบาลเดิมลาออก แล้วเลือกหัวหน้ารัฐบาลใหม่เข้ามาแทน ประกอบด้วยบุคคลสามคนที่ปราศจากมลทิน อันได้แก่ แอมานุแอล โฌแซ็ฟ ซีเยแย็ส, รอเฌ ดูว์โก (สมาชิกคณะดีแร็กตัวร์สองในจำนวนทั้งหมดห้าคน) และนโปเลียน ผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจ ให้มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ นับตั้งแต่เขายอมไปออกรบที่อียิปต์ และกลับมาในฐานะวีรบุรุษ วัตถุประสงค์ของการก่อรัฐประหารครั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คณะปฏิรูปหัวก้าวหน้า ซึ่งต้องการรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ว่าจะยังรักษาความมั่งคั่งไว้ได้ต่อไป และนโปเลียนที่เชื่อในระบอบสาธารณรัฐยอมก็เสี่ยงกับแผนการดังกล่าว เพราะมีกระแสจะนำพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 มาขึ้นครองราชย์และฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ ซึ่งหมายความว่าการปฏิวัติฝรั่งเศสที่ผ่านมานั้นไร้ผล
หลังจากที่ฝ่ายปฏิรูปหัวก้าวหน้าสามารถโน้มน้าวให้สภาสูงเห็นชอบกับการล้มล้างคณะดีแร็กตัวร์ได้แล้ว แผนการของการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 18 เดือนบรูว์แมร์ 1799 (ตาม) ประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้ นโปเลียนจะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อรักษาความสงบในกรุงปารีสและในรัฐสภา จากนั้นจึงจัดการโยกย้ายที่ทำการรัฐสภาไปยังพระราชวังแซ็ง-กลู บริเวณชานเมืองปารีส เพื่อไม่ให้เกิดการจลาจลในกรุงปารีสขณะก่อรัฐประหาร และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยอ้างเหตุผลว่าลัทธิฌากอแบ็งกำลังเสี่ยงต่อภัยคุกคามถึงขั้นถูกล้มล้างได้ ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น นับตั้งแต่ปั 1789 เป็นต้นมา สภาก็ถูกประชาชนชาวปารีสคุกคามมาโดยตลอด
เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในวันที่ 19 เดือนบรูว์แมร์ ที่พระราชวังแซ็ง-กลู ฝ่ายปฏิรูปหัวก้าวหน้าได้เตรียมการเกลี้ยกล่อมให้คณะดีแร็กตัวร์ห้าคน ยกขบวนลาออกจากที่ประชุมใหญ่แห่งชาติ รวมทั้งให้สภาห้าร้อยเลือกรัฐบาลใหม่ แต่แผนการดำเนินไปอย่างล่าช้าเนื่องจากแนวคิดนี้ไม่ได้รับฉันทามติจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะพวกฌากอแบ็งสองคนไม่ยอมลาออก นโปเลียนเฝ้ารอและตัดสินใจเข้าแทรกแซงในที่สุด
เขาได้นำกำลังทหารกลุ่มเล็กๆเข้าไปในห้องประชุมสภาห้าร้อยที่กำลังถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน และได้พยายามพูดโน้มน้าวให้สภาดังกล่าวยอมรับการโค่นล้มคณะดีแร็กตัวร์แต่ไม่มีผู้แทนคนใดยอมรับฟัง จากการกระทำอุกอาจของนโปเลียนดังกล่าวทำให้มีผู้เสนอญัตติให้ประกาศนโปเลียนเป็นบุคคลนอกกฎหมาย ซึ่งจะทำให้นโปเลียนหลุดจากตำแหน่งทั้งหมด แต่สถานการณ์กลับตาลปัตรเมื่อมีผู้พยายามลอบแทงนโปเลียนในห้องประชุมสภา ภาพของผู้แทนที่โผล่มาจากทางหน้าต่างเพื่อลอบแทงนโปเลียนแพร่กระจายไปทั่ว นโปเลียนเป็นผู้ได้เปรียบในสถานการณ์นี้อย่างมาก เขาอ้างว่าถูกสมาชิกรัฐสภาใส่ร้ายว่าจะก่อรัฐประหารและเกือบจะถูกลอบสังหาร ทำให้นายพลฌออากีม มูว์รา ลูกน้องของนโปเลียน มีข้ออ้างนำกองทัพเข้าล้อมรัฐสภาและก่อรัฐประหารได้สำเร็จในที่สุด
สถาปนาระบอบกงสุล
แม้จะก่อรัฐประหารสำเร็จ แต่นโปเลียนก็ยังยึดติดกับรูปแบบการปกครองโดยกระบวนการทางกฎหมาย ในคืนวันที่ 19 เดือนบรูว์แมร์ หลังก่อรัฐประหารสำเร็จ คณะผู้แทนยังคงอยู่ที่พระราชวังแซ็ง-กลู เพื่อลงมติเสนอรายชื่อคณะกรรมาธิการสองชุดในการเตรียมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แสดงให้เห็นได้ว่า นโปเลียนต้องการผลักดันให้มีระบอบการปกครอง ที่กิจการต่าง ๆ ของรัฐผ่านการลงมติจากผู้แทนราษฎร
วันที่ 20 เดือนบรูว์แมร์ กงสุลสามคนได้รับการแต่งตั้งให้บริหารประเทศ ได้แก่ นโปเลียน, แอมานุแอล โฌแซ็ฟ ซีเยแย็ส และรอเฌ ดูว์โก นับเป็นจุดเริ่มต้นระบบการปกครองโดยคณะกงสุล นโปเลียนประกาศว่า "สาธารณชนเอ๋ย...การปฏิวัติตามวิถีหลักการที่ได้เริ่มขึ้นมานั้น ได้สิ้นสุดลงแล้ว!"' ระบอบกงสุลเป็นการปกครองที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือกงสุลสามคน ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนเรียกว่าเป็น "ระบอบเผด็จการโดยประชามติ" ซึ่งในความเป็นจริงมีเพียงกงสุลเอกที่กุมอำนาจไว้อย่างแท้จริง ฝรั่งเศสเตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ที่ประชาชนในชาติจะต้องฝากชะตาไว้ในมือของจักรพรรดิ
จากกงสุลเอกกลายเป็นจักรพรรดิ
นโปเลียนได้เริ่มการปฏิรูปนับตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของการปกครองในระบอบกงสุล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา กระบวนการยุติธรรม การคลัง และระบบราชการ ประมวลกฎหมายแพ่งที่ฌ็อง-ฌัก-เรฌิส เดอ ก็องบาเซแร็สเป็นผู้เรียบเรียงขึ้นนั้น เป็นที่รู้จักในนามของกฎหมายนโปเลียน แห่งปี 1804 และยังมีผลบังคับใช้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี กฎหมายแพ่งดังกล่าวนั้นมีรากฐานมาจาก กฎหมายในหมวดต่าง ๆ รวมถึงขนบธรรมเนียมหลากหลายจากระบอบปกครองในสมัยโบราณ ซึ่งนโปเลียนได้รวบรวมขึ้นใหม่
ผลงานทางราชการของนโปเลียนมีต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงปี 1814 เขาได้จัดตั้งโรงเรียนมัธยม ธนาคารแห่งชาติฝรั่งเศส ระบบเงิน ที่ว่าการอำเภอ สภาที่ปรึกษาของรัฐ ริเริ่มการรังวัดพื้นที่ทั่วอาณาจักรฝรั่งเศส และจัดตั้งสมาคมเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งชาติ (L'ordre national de la Légion d'honneur)
ในปี1800 นโปเลียนได้นำทัพบุกออสเตรียและยึดครองได้สำเร็จ ทำให้ออสเตรียที่พ่ายต่อทัพของนโปเลียนที่ยุทธการเมืองมาเร็งโก และต่อทัพของที่เมือง ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญาลูเนวิลล์ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1801 ซึ่งทำให้อังกฤษยอมลงนามในสนธิสัญญาอาเมียงในเดือนมีนาคม 1801 ในกาลต่อมา ถ้าหากแม้อำนาจของนโปเลียนถูกสั่นคลอนภายหลังก่อรัฐประหาร ชัยชนะในยุทธการที่มาเร็งโกก็ทำให้สถานะของนโปเลียนแข็งแกร่งขึ้นมาก
เขาส่งทหาร 70,000 นายไปยังนิคมแซ็ง-ดอแม็งก์ในทะเลแคริบเบียน ภายใต้การบังคับบัญชาของนาลพล เพื่อฟื้นฟูอำนาจของฝรั่งเศส หลังจากประสบความสำเร็จมาพอสมควร โดยเฉพาะจากการจับ (ผู้ซึ่งเสียชีวิตที่ ที่อำเภอดูบส์ วันที่ 7 เมษายน 1803) กองทัพของเขาก็ถูกทำลายโดยการระบาดของไข้เหลือง เมื่อเห็นดังนี้ นโปเลียนจึงยอมขายรัฐลุยเซียนาให้แก้สหรัฐอเมริกา ดินแดนขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 1800 () ได้มีการลอบวางระเบิดนโปเลียนที่ถนนซังต์-นิเคส ในกรุงปารีส ขณะที่ขบวนรถม้าของเขากำลังมุ่งหน้าไปโรงโอเปร่า รถม้าของกงสุลเอกได้ควบผ่านพ้นจุดเกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว ระเบิดเกิดปะทุขึ้นช้ากว่าที่คาดทำให้กระจกรถม้าแตกกระจายเท่านั้น แต่สถานที่เกิดเหตุที่กลายเป็นซากปรักหักพังเต็มไปด้วยความโกลาหล มีผู้เสียชีวิตกว่าสิบคน โฌแซ็ฟ ฟูเช ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยในสมัยนั้น ได้พิสูจน์ว่าอาชญากรรมดังกล่าวเป็นฝีมือกลุ่มฝักใฝ่กษัตริย์ ในขณะที่นโปเลียนเชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกฌากอแบ็ง การประหารดยุกแห่งอ็องแกงเป็นหนึ่งในผลพวงตามมา
ในปี 1802 นโปเลียนรื้อฟื้นในอาณานิคมขึ้นอีกตามคำขอของภริยา อันได้แก่โฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน หญิงชาวจากหมู่เกาะ มาร์ตีนีก การฟื้นฟูดังกล่าวทำให้ระบบเศรษฐกิจที่ล้มเหลวของอาณานิคมโพ้นทะเลทางตะวันออกของมหาสมุทรอินเดียกระเตื้องขึ้น ต้องรอถึงปี 1848 กว่าความพยายามในการเลิกทาสอย่างเด็ดขาดจะประสบความสำเร็จ
หลังจากที่นโปเลียนได้ขยายอิทธิพลไปถึงสวิส ที่ได้จัดตั้งสถาบันกระจายอำนาจในปัจจุบัน และไปยังเยอรมนี กรณีพิพาทของมอลตาก็เป็นข้ออ้างให้อังกฤษประกาศสงครามกับฝรั่งเศสอีกครั้งในปี 1803 รวมทั้งหนุนหลังฝ่ายฝักใฝ่ระบอบกษัตริย์ที่ต่อต้านนโปเลียน นโปเลียนได้ตอบโต้ด้วยแนวคิดในการบุกอังกฤษ และเพื่อข่มขวัญฝ่ายฝักใฝ่กษัตริย์ที่อาจจะกำลังลอบวางแผนโค่นล้มเขาอยู่ กงสุลเอกสั่งประหารดยุกแห่งอ็องแกง เจ้าชายแห่งราชวงศ์บูร์บง
การประหารเกิดขึ้นที่เมืองชานกรุงปารีส ภายหลังการไต่สวนที่ถูกจัดฉากให้ดูเป็นไปตามกระบวนการ (ซึ่งก็พบว่าเจ้าชายไม่มีความผิด) มีเพียงอังกฤษเท่านั้นที่ทักท้วง ส่วนรัสเซียและออสเตรียนั้น สงวนท่าทีไม่ยอมทัดทาน ทำให้เกิดเสียงเล่าลือเกี่ยวกับนโปเลียนว่าเป็น รอแบ็สปีแยร์บนหลังม้า (ที่เกาะเซนต์เฮเลนา นโปเลียนยอมรับความผิดนี้ แม้ว่าตาแลร็องจะมีส่วนพัวพันด้วยก็ตาม) หลังจากได้ก่อความผิดนี้ต่อสาธารณรัฐ และเพื่อไม่ให้กงสุลเอกขึ้นชื่อว่าก่อคดีสังหารบุคคลในราชวงศ์ซ้ำซ้อน นโปเลียนจึงได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1804
ถ้าจะว่ากันไปแล้ว จักรวรรดิฝรั่งเศสเกิดขึ้นจากคำขอของวุฒิสภา นักประวัติศาสตร์เชื่อในแนวความคิดที่ว่า การสถาปนาตนขึ้นเป็นจักรพรรดิของนโปเลียนนั้นเป็นไปเพื่อปกป้องสาธารณรัฐ หากนโปเลียนถูกโค่น กลุ่มคนต่างๆ จะล่มสลายไปกับเขาด้วย จักรพรรดิได้กลายมาเป็นสถาบัน ตอกย้ำความยั่งยืนของความเชื่อในการปกครองระบอบสาธารณรัฐ หากนโปเลียนตาย นั่นคือการสูญเสียผู้สืบทอดตำแหน่งที่มีหน้าที่ปกป้องประเทศจากความโกลาหล และนั่นหมายถึงความสูญเสียของสิ่งที่ได้มาจากการปฏิวัติฝรั่งเศส (ความเสมอภาค อิสรภาพ และ ความยุติธรรม) การที่เงินเหรียญของทางการฝรั่งเศสจารึกคำว่า จักรพรรดินโปเลียน - สาธารณรัฐฝรั่งเศส นั้น มิใช่คำพูดเสียดสีแต่อย่างใด
การปกครองของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้กลายมาเป็นระบอบจักรวรรดินิยม ในภายหลังเท่านั้น เพื่อปกป้องสิ่งที่ได้มาจากการปฏิวัติฝรั่งเศส
ปราบดาภิเษก
พิธีปราบดาภิเษกของนโปเลียนถูกจัดขึ้น ภายใต้พระเนตรของสมเด็จพระสันตะปาปา ที่ไม่ได้รับเกียรติให้สวมมหามงกุฎแก่นโปเลียน แต่ถูกลดบทบาทให้แค่มาร่วมอำนวยพรแก่จักรพรรดิฝรั่งเศสเท่านั้น นโปเลียนประกาศในขณะที่สวมมหามงกุฎให้ตัวเองว่า "ข้าพเจ้าพบมหามงกุฎในลำห้วย ข้าพเจ้าเช็ดโคลนออก แล้วข้าพเจ้าก็สวมมันไว้บนหัวข้าพเจ้า"
นี่นับเป็นโอกาสดีในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับวาติกัน การลงนามของกงสุลเอกในปี 1801 นั้นมีเนื้อหายอมรับว่าคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิก เป็นศาสนาของชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ศาสนาประจำชาติ นับแต่นั้นเป็นต้นมา นักบวชจะต้องอยู่ในความควบคุมของรัฐ ในการฟื้นฟูนิกายโรมันคาทอลิก ทำให้เกิดความกังขาว่า เป็นไปได้หรือที่จะเกิดการฟื้นฟูนิกายโรมันคาทอลิก ภายในระยะเวลาไม่ถึงสิบปีหลังจากที่หลวงยึดทรัพย์สินของโบสถ์ นโปเลียนสงวนท่าทีต่อหน้าสมเด็จพระสันตะปาปา เขาออกไปต้อนรับพระสันตะปาปาที่ป่าฟงแตนโบล โดยขี่ม้าไปและสวมชุดล่าสัตว์ ทำให้ฉากการพบปะดังกล่าวมีลักษณะเหมือนการพบกันโดยบังเอิญ และเช่นเดียวกัน ในปี 1804 จักรพรรดิมิได้เป็นผู้เดินทางไปประกอบพิธีขึ้นครองราชย์ที่กรุงโรมตามที่จักรพรรดิโรมันเคยกระทำ แต่เป็นพระสันตะปาปาที่ถูกเชิญมายังกรุงปารีสราวกับว่าเป็นนักบวชที่เดินทางมาแสวงบุญ
เราจะเห็นได้ว่า การที่นโปเลียนเข้าหาศาสนจักรนั้น เป็นไปเพื่อผลประโยชน์เฉพาะอย่าง (สร้างสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิกกับฝรั่งเศส และทำให้จักรพรรดิมีฐานะเทียบเท่ากับกษัตริย์อย่างถูกต้อง) และเมื่อพระสันตะปาปามีท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อคำสั่งของนโปเลียน เขาก็ไม่รอช้าที่จะขังพระสันตะปาปาไว้ในพระราชวังฟงแตนโบล
จักรวรรดิเรืองอำนาจ
ในปี 1804 ยังไม่ถึงเวลาแห่งการออกรบครั้งใหญ่เพื่อยึดครองดินแดน และจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งยึดติดกับแนวความคิดว่า สันติภาพอย่างถาวรจะมีได้ ต่อเมื่อปราบสหราชอาณาจักรลงได้เท่านั้น ได้ร่วมกับพลเรือเอก (ผู้ซึ่งเสียชีวิตก่อนจะกระทำการสำเร็จ) วางแผนรุกรานเกาะอังกฤษ ซึ่งเป็นแผนที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง จากการรบที่ยุทธนาวีทราฟัลการ์ กองเรือผสมฝรั่งเศส-สเปนที่บัญชาการโดย ถูกพลเรือโท ลอร์ด เนลสัน แห่งราชนาวีอังกฤษตีจนแตกพ่าย ทำให้สหราชอาณาจักร กลายเป็นมหาอำนาจทางทะเล นับแต่นั้นจวบจนในอีกหนึ่งศตวรรษต่อมา
ในปีเดียวกันนั้นเอง (1805) ได้มีการสหสัมพันธมิตรครั้งที่สามในยุโรปขึ้นเพื่อต่อต้านจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทำให้จักรพรรดิผู้ซึ่งกำลังบัญชาการ จากเมืองในฝรั่งเศส เพื่อเตรียมการบุกบริเตนใหญ่ ต้องเผชิญกับสงคราม ซึ่งเกิดขึ้นในอีกฟากหนึ่งของทวีปยุโรปอย่างกะทันหัน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้รับสั่งให้ตั้งรับโดยทันที โดยบังคับให้นำทัพใหญ่ออกเดินเท้า และสัญญาว่าจะนำชัยชนะ ต่อพวกออสเตรียและรัสเซียมาให้จากยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "สงครามสามจักรพรรดิ"
ในปี 1806 สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่สี่ได้เริ่มต้นขึ้น ปรัสเซียได้ก่อเหตุพิพาทครั้งใหม่ โดยพระเจ้าฟรีดริช วิลเฮล์มที่ 3 แห่งปรัสเซีย ตัดสินพระทัยที่จะทำสงครามกับกองทัพฝรั่งเศสโดยลำพัง ตามตำนานเล่าว่านายพลคาร์ล ฟ็อน เคลาเซอวิทซ์ นักทฤษฎีทางทหารเคยเสนอแผนการรบที่ชาญฉลาด ซึ่งเป็นแผนการที่จักรพรรดินโปเลียนยังชื่นชม ในความรวดเร็วของการนำแนวคิดเรื่อง "จิตวิญญาณแห่งโลก" ของเฮเกิลมาใช้ แต่แผนรบดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายบัญชาการของกองทัพปรัสเซีย อย่างไรก็ดีกองทัพใหญ่ของนโปเลียนมีความได้เปรียบมาก เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ชายแดนปรัสเซีย นโปเลียนจึงทรงลงมือโจมตีก่อนและได้รับชัยชนะอย่างขาดลอยในยุทธการที่เยนา–เอาเออร์ชเต็ท โดยกองทัพหลวงของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สามารถกวาดล้างกองทัพปรัสเซียในยุทธการที่เยนาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ในขณะที่จอมพลหลุยส์-นีกอลา ดาวูตีทัพใหญ่ของจอมพลดยุกแห่งเบราน์ชไวค์แตกพ่ายไปในสมภูมิที่เมือง แม้ว่าทัพหลวงของปรัสเซียจะมีจำนวนทหารเหนือกว่ากองทัพฝรั่งเศสที่นำโดยจอมพลหลุยส์-นีกอลา มากก็ตาม ดยุกแห่งเบราน์ชไวค์บาดเจ็บสาหัสในที่รบ ทหารของปรัสเซียที่แตกมาจากยุทธการที่เยนาทะลักเข้ามาสู่ยุทธการที่เอาเออร์ชเต็ท นำไปสู่ความเสียขวัญและความพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด จอมพลดาวูจึงได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ให้เป็น ดยุกแห่งเอาเออร์ชเต็ท เพราะความชอบในครั้งนี้
แต่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ยังไม่หยุดแค่นั้น ในปีถัดมาพระองค์ได้ทรงเดินทัพข้ามโปแลนด์ โดยทรงสถาปนาดัชชีวอร์ซอขึ้นและให้พันธมิตรของฝรั่งเศสปกครอง จากนั้นนโปเลียนได้ยกกองทัพขึ้นเหนือเพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพรัสเซีย นโปเลียนรบชนะกองทัพรัสเซียที่ยุทธการที่ฟรีทลันท์ในวันที่ 14 มิถุนายน 1807 ทางฝ่ายรัสเซียต้องขอยอมสงบศึก และนำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาเมืองในเดือนกรกฎาคม 1807 กับจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย อันเป็นสนธิสัญญาว่าด้วยการแบ่งดินแดนยุโรปกันระหว่างฝรั่งเศสและรัสเซีย สองมหาอำนาจในขณะนั้น เพื่อเป็นการข่มขวัญศัตรู (ฝรั่งเศสครองยุโรปตะวันตก และรัสเซียครองยุโรปตะวันออก โดยมีโปแลนด์อยู่ตรงกลาง)
นโปเลียนผู้ซึ่งได้รับการศึกษาจากโรงเรียนและครูบาอาจารย์ในระบอบเก่า ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งนายทหารในกองทัพหลวง ได้ทำลายกฎเกณฑ์ดั้งเดิมทางการทหารอย่างสิ้นเชิง ด้วยการไม่ริเริ่มสงครามที่กินเวลานานกว่าหนึ่งศตวรรษในการรบด้วยพลทหาร 30 ถึง 50,000 นาย แต่มองหาการรบที่สามารถเผด็จศึกได้อย่างเด็ดขาด ใช้ทหารกว่า 100,000 นายหากจำเป็น นั่นคือจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ไม่ต้องการจะเป็นผู้นำในยุทธการเท่านั้น แต่ต้องการจะบดขยี้ศัตรูอีกด้วย
ในปี 1808 จักรพรรดินโปเลียนสร้างระบบศักดินาของจักรวรรดิฝรั่งเศสให้แก่กลุ่มชนชั้นสูงที่แวดล้อมพระองค์ ไม่นานต่อมา บรรดานายพันและนายพลของนโปเลียนต่างได้รับยศขุนนาง เคานต์แห่งจักรวรรดิ เจ้าชายแห่งเนอชาแตล ดยุกแห่ง ดยุกแห่ง ดยุกแห่งดันท์ซิช ดยุกแห่ง กษัตริย์แห่งนาโปลี ฯลฯ
จากกรุงอัมสเตอร์ดัมถึงกรุงโรม จักรวรรดิของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีประชากรรวมทั้งสิ้นกว่า 70 ล้านคน โดยมีเพียง 30 ล้านคนเท่านั้นที่เป็นชาวฝรั่งเศส
ปฏิบัติการที่คาบสมุทรไอบีเรีย ออสเตรีย และรัสเซีย
เนื่องด้วยแนวคิดของอังกฤษที่จะกีดกันเรือสินค้าฝรั่งเศส จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เลยพยายามจะบังคับให้เกิด โดยมีวัตถุประสงค์จะหยุดยั้งกิจกรรมทางการพาณิชย์ของอุตสาหกรรมอังกฤษ โปรตุเกส อันเป็นประเทศพันธมิตรของอังกฤษมาเป็นเวลาช้านาน ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญานี้ จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จึงทรงขอความช่วยเหลือจากสเปนในการบุกโปรตุเกส ในที่สุดพระองค์ก็ได้รุกรานประเทศสเปน และตั้งโฌแซ็ฟ โบนาปาร์ต พี่ชายขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองที่นั่น และโปรตุเกสก็ถูกจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 รุกรานเช่นกันในปี 1807 ประชากรส่วนหนึ่งของสเปนที่คลั่งใคล้ในกลุ่มนักบวชได้ลุกฮือขึ้นต่อต้านชาวฝรั่งเศส ในไม่ช้า กองพลทหารราบฝีมือเยี่ยมของอังกฤษ บัญชาการโดยว่าที่ดยุกแห่งเวลลิงตัน (อาร์เธอร์ เวลสลีย์) ก็ได้เคลื่อนทัพสู่สเปน โดยผ่านโปรตุเกสในปี 1808 และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มผู้รักชาติชาวสเปน ก็ได้ผลักดันกองทัพฝรั่งเศสออกจากคาบสมุทรไอบีเรีย ในขณะที่กองทหารที่ฝีมือดีที่สุดของฝรั่งเศสกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในสเปน ออสเตรียก็ได้บุกฝรั่งเศสอีกครั้งจากแถบเยอรมนี และถูกปราบลงอย่างราบคาบใน จอมพลลานส์ เพื่อนและผู้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ของจักรพรรดิจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ถึงแก่กรรมที่เมือง
หลังจากที่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย ได้รับการหนุนหลังจากชนชั้นสูงในรัสเซียที่เข้าข้างฝ่ายอังกฤษ ก็ได้ปฏิเสธที่จะร่วมมือกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในการโจมตีสหราชอาณาจักร จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งเชื่อว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงสงครามกับอังกฤษได้ ได้กรีฑาทัพบุกรัสเซียในปี 1812 กองทัพใหญ่ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ประกอบด้วยกองทัพพันธมิตรอิตาลี เยอรมนี และออสเตรียมีขนาดมหึมา มีทหารกว่า 600,000 นายที่ร่วมเดินทัพข้าม
กองทัพรัสเซียในบัญชาของจอมพลมีฮาอิล คูตูซอฟ ใช้กลยุทธ์ผลาญภพในการต้านการรุกรานของฝรั่งเศส การรบที่มอสโกเมื่อวันที่ 12 กันยายน ไม่มีผู้ใดแพ้ชนะ แม้ว่าพวกรัสเซียจะเป็นฝ่ายทิ้งชัยภูมิ แต่ทั้งสองฝ่ายก็เสียทหารไปในจำนวนพอกัน
วันรุ่งขึ้นหลังจากกองทัพฝรั่งเศสเคลื่อนทัพเข้ากรุงมอสโก ก็พบว่ามอสโกกลายเป็นเมืองร้าง เมื่อฝรั่งเศสตายใจ พวกรัสเซียได้จุดไฟเผากรุงมอสโกในทันที ทำให้จักพรรดินโปเลียนที่ 1 ต้องถอยทัพ ฤดูหนาวอันโหดร้าย กำลังจะมาเยือนดินแดนแถบรัสเซียในอีกเพียงไม่กี่วัน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ที่คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวจากซาร์ซาร์ได้ชะลอการถอยทัพไปจนถึงนาทีสุดท้าย
กองทัพฝรั่งเศสได้ถอยทัพอย่างทุลักทุเลไปทางเยอรมนี ในช่วงฤดูหนาวของรัสเซีย ผ่านดินแดนที่เคยเป็นทางผ่านตอนขามาและถูกโจมตีเสียย่อยยับ ในจำนวนทหารเกือบ 500,000 นายที่เข้าร่วมรบ มีเพียงหมื่นกว่านายที่สามารถข้ามกลับมาได้ แถมยังถูกกองทัพรัสเซียดักโจมตี กองทัพใหญ่ของจักพรรดินโปเลียนที่ 1 ต้องถึงกาลล่มสลายเนื่องด้วยไม่รู้จักพื้นที่ดีพอ
หลังจากที่ได้ใจจากข่าวความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสในรัสเซีย กษัตริย์ยุโรปหลายพระองค์ได้แปรภักดิ์จากฝ่ายจักพรรดินโปเลียนที่ 1 และยกทัพมารบกับฝรั่งเศส จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งถูกคนในกองทัพของพระองค์เองทรยศ ได้พบกับความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงที่ยุทธการที่ไลพ์ซิจ หรือที่รู้จักในนามของ สงครามสหสัมพันธมิตรครั้งที่หก ซึ่งกองทัพฝรั่งเศส 200,000 นายปะทะกับกองทัพพันธมิตร 500,000 นาย (รัสเซีย ออสเตรีย เยอรมนี สวีเดน) จอมพลยูแซฟ อันตอญี ปอญาตอฟสกี เจ้าชายแห่งโปแลนด์และพระราชนัดดาของพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของโปแลนด์ ได้สิ้นพระชนม์ลงในการรบครั้งนี้ หลังจากพยายามนำทหารของพระองค์ข้าม มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 100,000 คน
ความพ่ายแพ้ในฝรั่งเศส
ในปี 1814 สหราชอาณาจักร, รัสเซีย, ปรัสเซีย และออสเตรีย ได้ร่วมเป็นพันธมิตร แม้ว่าจักรพรรดินโปเลียนที่ 1จะมีชัยอย่างไม่น่าเชื่อในการรบที่ และ ด้วยการนำทัพทหารใหม่ขาดประสบการณ์ (กองทัพมารี หลุยส์ ที่ตั้งชื่อตามจักรพรรดินีมารี หลุยส์ มเหสีในจักรพรรดินโปเลียนที่ 1) กรุงปารีสถูกตีแตกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม และบรรดาจอมพลรวมตัวโน้มน้าวให้จักรพรรดินโปเลียนสละราชสมบัติ
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงคิดว่าฝ่ายพันธมิตรจะแยกเขาออกจากจักรพรรดินี และนโปเลียนที่ 2 กษัตริย์แห่งโรม พระโอรสของพระองค์ ดังนั้น ในคืนวันที่ 12 และเช้าวันที่ 13 เมษายน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้เสวยยาพิษไปในปริมาณที่จะปลิดชีพพระองค์เอง ยาพิษดังกล่าวคือฝิ่นผสมกับน้ำเล็กน้อย มีคนบอกพระองค์ว่าส่วนผสมดังกล่าวมีพิษมากพอที่จะฆ่าคนได้ถึงสองคน นโปเลียนเลือกที่จะฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้เพราะเชื่อว่าศพของตนจะต้องถูกประจานให้คนฝรั่งเศสดู พระองค์ต้องการให้ข้าราชบริพารของพระองค์จำพระพักตร์ที่เรียบเฉยได้ เช่นเดียวกับที่เคยเห็นพระองค์ในยุทธการ
หลังจากผ่านพ้นเวลาเที่ยงคืนมาอย่างทุกข์ทรมาน จักรพรรดิก็บ่นว่าส่วนผสมฝิ่นของพระองค์ออกฤทธิ์ช้าไป นโปเลียนประกาศต่อหลุยส์ เดอ โกแล็งกูร์ ว่า "ข้าตายด้วยความทุกข์ ข้าทุกข์ที่มีรัฐธรรมนูญที่ยืดชีวิตออกไปและทำให้ข้าจบชีพช้ากว่าเดิม!"
อาการคลื่นเหียนอาเจียนของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 รุนแรงขึ้นทุกทีจนไม่อาจกลั้นอาเจียนไว้ได้อีกต่อมา จนกระทั่งอาเจียนออกมาอย่างรุนแรง พระองค์ทรงทุกข์ทรมานอย่างไม่สิ้นสุดจนกระทั่งนายแพทย์อีวองมาถึง จักรพรรดินโปเลียนทรงขอให้แพทย์ถวายยาพิษอีกขนานเพื่อจะได้สวรรคตเสียที แต่นายแพทย์ปฏิเสธโดยกราบทูลว่าเขาไม่ใช่ฆาตกรและเขาจะไม่ยอมทำในสิ่งที่ขัดต่อสามัญสำนึกของตนอย่างเด็ดขาด
ความทรมานของจักรพรรดิยังคงดำเนินต่อไป โกแล็งกูร์ออกจากห้องและบอกให้ข้าราชบริพารเงียบเสียง นโปเลียนเรียกโกแล็งกูร์และบอกว่าพระองค์ยอมตายเสียดีกว่ายอมลงนามในสนธิสัญญา และแล้วยาพิษก็คลายฤทธิ์ลง และพระองค์ก็สามารถดำเนินกิจกรรมตามปกติได้ในที่สุด แต่ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเหตุใดองค์จักรพรรดิจึงรอดชีวิตมาได้จากการกลืนฝิ่นในปริมาณขนาดนั้น ไม่กระเพาะของพระองค์ขย้อนออกมา ไม่ก็ยาพิษได้เสื่อมฤทธิ์ลงไปเอง
ท้ายที่สุด นโปเลียนเนรเทศตนเองเองไปยังเกาะเอลบาตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาฟงแตนโบล โดยยังทรงดำรงพระยศเป็นจักรพรรดิ และมีอำนาจการปกครองเฉพาะบนเกาะแห่งนี้
คืนสู่อำนาจเป็นเวลาร้อยวัน
ที่ประเทศฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ทรงขับจักรพรรดินโปเลียนที่ 2 และขึ้นครองราชย์แทน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เป็นกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของพระมเหสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งของพระโอรสของพระองค์ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกออสเตรีย รัฐบาลฝรั่งเศสที่ฝักใฝ่ระบอบกษัตริย์ปฏิเสธจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ตามสัญญาในที่สุด และมีข่าวลือว่าเขากำลังจะถูกส่งตัวไปยังเกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก
ดังนั้น จักรพรรดินโปเลียนที่หลบหนีออกจากการคุมขังบนเกาะเอลบา ได้ขึ้นสู่ฝั่งบนแผ่นดินฝรั่งเศสใกล้กับเมืองคานส์ เมื่อเดือนมีนาคม 1815 กองทัพที่ถูกส่งไปจับกุมตัวเขากลับมาต่างโห่ร้องต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษตลอดเส้นทางจาก ขึ้นมายังเมือง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวถูกเรียกว่า "ถนนสายจักรพรรดินโปเลียนที่ 1" ไปแล้ว จอมพลมิเชล ไนยผู้ซึ่งได้สาบานต่อหน้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ว่าจะนำจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 กลับมาในกรงเหล็ก ก็รู้สึกโอนอ่อนเข้าหาฝ่ายจักรพรรดิเดิมของตน (หลังที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เดินอย่างอุกอาจเข้าไปประกาศต่อฝูงชนว่า "ทหารแห่งกองพล 5 เราคือจักรพรรดิของพวกเจ้า พวกเจ้าก็รู้จักเราดีอยู่แล้วมิใช่หรือ ถ้าหากมีใครในหมู่พวกเจ้าทั้งหลายมาเพื่อที่จะจับจักรพรรดิของเจ้า เราก็อยู่ที่นี่แล้ว") ทำให้เขากลายเป็นจอมพลคนเดียวที่ถูกจับกุมในข้อหาทรราชย์ หลังจากการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ครั้งที่สอง จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 เดินทางถึงกรุงปารีสอย่างง่ายดาย ช่วงเวลา"คืนสู่อำนาจเป็นเวลาร้อยวัน" เริ่มต้นขึ้น แต่ความล้มเหลวก็เกิดขึ้นซ้ำรอย กองทัพของเขาพ่ายการรบกับอังกฤษและปรัสเซียที่ยุทธการวอเตอร์ลู ในเบลเยียม เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 1815 จอมพลไม่สามารถต้านทานกองทัพร่วมระหว่างอังกฤษและปรัสเซียได้ เนื่องจากเป็นทัพหลวงที่ยกมา
ถูกเนรเทศไปเกาะเซนต์เฮเลนา และกำเนิดของตำนาน
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงถูกขัง และถูกอังกฤษส่งตัวไปยังเกาะเซนต์เฮเลนา ตามบัญชาการของ พร้อมกับนายทหารที่ยังจงรักภักดีบางส่วน รวมถึงเคานต์ด้วย จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงใช้เวลาบนเกาะเซนต์เฮเลนา ทรงอุทิศให้กับการเขียนบันทึกความทรงจำของพระองค์ ในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายน 1821 พระองค์ได้ทรงเขียนพระราชพินัยกรรม และหมายเหตุพระราชพินัยกรรมหลายฉบับด้วยพระองค์เอง รวมกว่าสี่สิบหน้าด้วยกัน คำพูดสุดท้ายของพระองค์ก่อนสิ้นใจได้แก่ "...ฝรั่งเศส...กองทัพ...โฌเซฟีน" (France, armée, Joséphine) หรือจากที่บันทึกไว้ใน "จดหมายเหตุเกาะเซนต์เฮเลนา" คือ "...ศีรษะ...กองทัพ...พระเจ้า!"
ในปี 1995 จดหมายเหตุของเคานต์ ข้ารับใช้ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ถูกตีพิมพ์ เขาได้เขียนเล่าเหตุการณ์ ช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายก่อนจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จะสวรรคต และหลายคนเชื่อว่าพระองค์ถูกลอบวางยาพิษด้วยสารหนู ในปี 2001 ปาสคาล คินท์ แห่งสถาบันกฎหมายเมืองสทราซบูร์ได้ทำการพิสูจน์ทฤษฎีนี้ ด้วยการศึกษาหาระดับสารหนูในเส้นพระเกศา (ผม) ของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ภายหลังจากที่พระองค์สวรรคต ซึ่งก็พบว่ามีสารหนูอยู่เกินกว่าระดับปกติ 7 ถึง 38 เท่า การวิเคราะห์ของนิตยสาร ได้แสดงให้เห็นว่า สามารถพบสารหนูในระดับความเข้มข้นเท่ากันจากตัวอย่างที่เก็บได้มาจากปี 1805, 1814 และ 1821 ดังนั้นจึงต้องกล่าวถึง ธรรมเนียมในสมัยนั้นที่นิยมสวมวิกผมพ่นทับด้วยแป้งผง ยิ่งไปกว่านั้น เราอาจเชื่อในการวิเคราะห์ของนักวิจัยชาวสวิสที่บอกว่า จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สวรรคตจากพระโรคมะเร็งในกระเพาะ แม้ว่าจักรพรรดิจะมีพระวรกายค่อนข้างเจ้าเนื้อก่อนสวรรคต (น้ำหนัก 75.5 ก.ก. ส่วนสูง 167 ซ.ม.) นักวิจัยยังได้สำรวจกางเกงที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สวมใส่ในสมัยนั้น และสามารถระบุได้ว่าพระองค์มีน้ำหนักลดลงถึง 11 ก.ก. ภายในเวลา 5 เดือนก่อนการสวรรคต สมมติฐานดังกล่าวเคยถูกกล่าวว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เนื่องจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีพระวรกายใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นคนป่วยด้วยโรคมะเร็ง
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ทรงขอให้ฝังพระบรมศพของพระองค์ไว้ริมฝั่งแม่น้ำแซน แต่เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตในปี 1821 พระบรมศพของพระองค์ได้ถูกปลงที่เกาะเซนต์เฮเลนา ในปี 1840 พระบรมอัฐิได้ถูกเชิญกลับมายังประเทศฝรั่งเศสด้วยการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ และได้ถูกฝังไว้ที่ออแตลเดแซ็งวาลีดในกรุงปารีส โดยใส่ไว้ในโถที่ทำด้วย (อันเป็นของขวัญที่รัสเซียมอบให้แก่ฝรั่งเศส)
มุมมองร่วมสมัยที่มีต่อนโปเลียน
- ชัปตาล: นโปเลียนได้ใช้พระองค์เองเป็นจดหมายเหตุเพื่อทำสงครามกับศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกอังกฤษ พระองค์ได้ทรงเขียนบันทึกทุกฉบับด้วยพระองค์เอง สำหรับให้ลงในหนังสือพิมพ์ le Moniteur เพื่อตอบโต้บทวิจารณ์ที่ขมขื่นและข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงที่ได้ถูกตีพิมพ์ไว้ในหนังสือพิมพ์อังกฤษ เมื่อพระองค์ได้ทรงตีพิมพ์บันทึกฉบับหนึ่ง พระองค์ทรงเชื่อว่าสามารถโน้มน้ามผู้อ่านได้แล้ว เราคงจำกันได้ว่าบันทึกส่วนใหญ่ไม่ใช่ต้นแบบที่ดีของงานเขียน หรือตัวอย่างที่ดีของวรรณกรรม แต่พระองค์ก็มิได้ทรงตีพิมพ์อะไรที่แสดงให้เห็นถึงบุคลิกของพระองค์ หรือความสามารถที่พระองค์มีเอาไว้เลย
ผลงานของนโปเลียน โบนาปาร์ต
ธรรมเนียมพระยศของ จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส | |
---|---|
พระราชลัญจกร | |
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
การทูล | ยัว อิมพีเรียล มาเจสตี |
ธรรมเนียมพระยศของ พระเจ้านโปเลียนแห่งอิตาลี | |
---|---|
พระราชลัญจกร | |
การทูล | ยัว มาเจสตี |
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งกงสุลเอก
- 13 ธันวาคม (วันที่ 22 ปีที่ 8 ตามระบบปฏิทินของสาธารณรัฐฝรั่งเศส) มาตราที่ 52 ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส สถาปนาฝรั่งเศส
- 13 ธันวาคม (วันที่ 22 เดือนฟรีแมร์ ปีที่ 8) สถาปนาวุฒิสภาฝรั่งเศส
- 13 กุมภาพันธ์ (วันที่ 24 ปีที่ 8) สถาปนา
- 17 กุมภาพันธ์ (วันที่ 28 เดือนปลูวิโอส ปีที่ 8) ก่อตั้งที่ทำการอำเภอ
- 8 เมษายน (วันที่ 18 ปีที่ 10) ลงพระนามร่วมกับ ในความตกลงว่าด้วยเรื่องศาสนาของประเทศ
- 1 พฤษภาคม (วันที่ 11 ปีที่ 10) กงสุลเอกโบนาปาร์ตได้สถาปนาโรงเรียนมัธยมในฝรั่งเศส
- 19 พฤษภาคม (วันที่ 29 เดือนฟลอเรอาล ปีที่ 10) ได้สถาปนาสมาคมเครื่องราชอิศริยาภรณ์แห่งชาติ
- 24 ธันวาคม ก่อตั้งหอการค้า 22 แห่ง
- 7 เมษายน (วันที่ 17 เดือนแฌร์มินาล ปีที่ 11) ได้ริเริ่มระบบเงินฟรังก์แจร์มินาล
- 21 มีนาคม (วันที่ 30 ปีที่ 12) ประมวลกฎหมายแพ่งได้เริ่มมีผลบังคับใช้
ในช่วงที่เป็นจักรพรรดิ
- 18 มีนาคม (วันทื่ 21 เดือนแจร์มินาล ปีที่ 9) สถาปนา
- 10 พฤษภาคม สถาปนาขึ้นเป็นแห่งแรก (ที่มีรูปแบบใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เนื่องจากก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี )
- ในปี จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีพระราชดำริให้สร้างขึ้นที่
- 9 กุมภาพันธ์ ทรงรื้อฟื้นระบบ (ทำให้ชาวยิวสามารถปรับตัวเข้ากับการพำนักอาศัยในจักรวรรดิฝรั่งเศสได้ง่ายขึ้น)
- 16 กันยายน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงสถาปนาแห่งชาติฝรั่งเศสขึ้น
- ในปี นโปเลียนได้มอบหมายให้ รับผิดชอบในการก่อสร้างตลาดหุ้นฝรั่งเศสขึ้นในกาลต่อมา
- 17 มีนาคม นโปเลียนมีพระราชดำริโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น
- 12 มีนาคม มีพระราชดำริโปรดเกล้าให้ตรากฎหมายอาญาแห่งชาติฝรั่งเศสขึ้น
ครอบครัว
การสมรสและโอรสธิดา
นโปเลียนสมรสสองครั้ง :
- เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1796 (เมื่อครั้งยังเป็นนายพลก่อนออกปฏิบัติการในอียิปต์) ได้เข้าพิธีสมรสกับนางโฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน แม่ม่ายลูกติดชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเบเก จาก ผู้ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศสในพิธีขึ้นครองราชย์ของนโปเลียน เนื่องจากนางมีอายุมากแล้วจึงไม่สามารถมีโอรสธิดาให้กับนโปเลียนได้ ซึ่งการที่องค์จักรพรรดิไร้ซึ่งผู้สืบทอดบัลลังก์ดังกล่าวถูกมองว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับความมั่นคงของจักรวรรดิ การสมรสครั้งนี้จึงจบลงด้วยการหย่าร้าง
- เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 1810 ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรส () กับอาร์คดัชเชสมารี หลุยส์แห่งออสเตรีย เพื่อเป็นการสานสัมพันธไมตรีและหลีกเลี่ยงสงครามกับ อาร์คดัชเชสมารี หลุยส์ได้ให้กำเนิดพระราชโอรสหนึ่งพระองค์ ได้แก่ นโปเลียนที่ 2 ทรงได้รับการแต่งตั้งจากนโปเลียนให้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์แห่งกรุงโรม ดยุกแห่ง แต่เรามักจะเรียกพระองค์ว่านโปเลียนที่ 2 เสียมากกว่า แม้ว่าพระองค์จะไม่เคยขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสอย่างแท้จริงเลยก็ตาม ถ้าจะว่ากันตามทฤษฎีแล้ว รัชสมัยของพระองค์กินระยะเวลาเพียง 15 วัน ระหว่างวันที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ถูกบังคับให้สละพระราชบัลลังก์ครั้งแรก จนกระทั่งมีการฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บง พระฉายานามว่า เหยี่ยวน้อย นั้นมาจากบทกวีของ ที่ประพันธ์ขึ้นในปี 1852
นโปเลียนยังมีบุตรนอกสมรสอีกอย่างน้อยสองคน ซึ่งทั้งสองคนนั้นต่างก็มีทายาทสืบต่อมา:
- เคานต์ชาร์ล เลอง (ชาตะ 1806 มรณะ 1881) บุตรชายของนาง (ชาตะ 1787 มรณะ 1868)
- เคานต์ (ชาตะ 4 พฤษภาคม 1810 มรณะ 27 ตุลาคม 1868) บุตรชายของเค้าน์เตส (ชาตะ 1789 มรณะ 1817)
และจากแหล่งข้อมูลที่ยังเป็นที่ถกเถียงกัน:
- เอมิลลี ลุยส์ มารี ฟร็องซวส โฌซฟีน เปลลาปรา บุตรสาวของฟร็องซัวส-มารี เลอรัว
- คาร์ล ยูจัง ฟอน มูห์ลเฟลด์ บุตรชายของวิคตอเรีย โครส์
- เอเลน นโปเลโอน โบนาปาร์ต บุตรสาวของเค้าน์เตสมองโตลอง
- (ชาตะ 19 สิงหาคม 1805 มรณะ 24 พฤศจิกายน 1895) โดยไม่ทราบว่ามารดาของเขาเป็นใคร
พี่น้องของนโปเลียน
หลานชาย-หญิง
- นโปเลียนที่ 3 (ชาร์ล หลุยส์ นโปเลียน โบนาปาร์ต) หลานชาย ได้ใช้โอกาสจากความมีชื่อเสียงของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ในช่วงสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 2 จากนั้นก็ได้ยึดอำนาจและก่อตั้งจักรวรรดิที่ 2 ขึ้น และเป็นจักรพรรดิปกครองฝรั่งเศสภายใต้พระนามว่านโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ตลอดการครองราชย์ของพระองค์ ได้มีการประกาศใช้กฎหมายทางสังคมและกฎหมายสมัยใหม่จำนวนมาก พระองค์พ่ายแพ้สงครามและยอมมอบตัวให้กับปรัสเซียในปี 1870 จากการรบที่
- นักสัตววิทยา
เชื้อสายของนโปเลียนที่โด่งดัง
หนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับนโปเลียน
- , Napoléon ou le Mythe du Sauveur
- Jean Tulard (dir.) , Dictionnaire Napoléon
- Thierry Lentz (en collaboration) , Autour de l'empoisonnement de Napoléon, préfacé par , ,
- Thierry Lentz, le Sacre de Napoléon, Éd. Nouveau Monde, 2003
- Thierry Lentz, Napoléon, , coll. « »,
- , Vues sur Napoléon, ,
- Adolphe Thiers, Histoire du Consulat et de l'Empire
- , Mes souvenirs sur Napoléon
- François-René de , , livres XXIX à XXII
- Jacques Bainville, Napoléon, 1931
- Steven Englund, Napoléon « a political life », 2003
- , Napoléon et le , Analyse d'un discours, Préface de , , .
- Maximilien Vox, Napoléon. Paris (France). Éditions du Seuil, collection Le temps qui court. 1959. 184 pages. Cote dewey : 923.1 N216v
- โตลสตอย, Guerre et Paix
- สต็องดาล, La Chartreuse de Parme
- ปาทริก ล็อมโบ, La Bataille
ภาพยนตร์เกี่ยวกับนโปเลียน
- พ.ศ. 2455 (1912) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2470 (1927) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2472 (1929) : ซังต์เตเลน (Napoleon auf St. Helena) อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2477 (1934) : นโปเลียน โบนาปาร์ต อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (นำภาพยนตร์ในปี มาสร้างใหม่ มีเสียงประกอบ) (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2478 (1935) : Campo di maggio อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (อิตาลี)
- พ.ศ. 2484 (1941) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย (อาร์เจนตินา)
- พ.ศ. 2498 (1955) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2503 (1960) : เอาชแตร์ลิทซ์ อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2513 (1970) : วอเตอร์ลู อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย Rod Steiger (อิตาลี และ สหภาพโซเวียต)
- พ.ศ. 2514 (1971) : โบนาปาร์ตกับการปฏิวัติ อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (นำมาสร้างใหม่จากภาคเดิมเมื่อปี และ ) (ละครโทรทํศน์ ออกอากาศในฝรั่งเศส)
- พ.ศ. 2532 (1989) :นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ละครโทรทํศน์ ออกอากาศในฮังการี)
- พ.ศ. 2533 (1990) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย , , , , นำแสดงโดย (ภาพยนตร์โทรทัศน์ ออกอากาศในฝรั่งเศส โปแลนด์ เบลเยียม แคนาดา)
- พ.ศ. 2542 (1999) : Pan Tadeusz อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (โปแลนด์)
- พ.ศ. 2543 (2000) : นโปเลียน อำนวยการสร้างโดย นำแสดงโดย (ละครโทรทัศน์ ออกอากาศในฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา สหรัฐ และสหราชอาณาจักร)
- (2023) : "จักรพรรดินโปเลียน" กำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์ นำแสดงโดย วาคีน ฟินิกซ์ (สหรัฐอเมริกา)
หมายเหตุ
อ้างอิง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nopeliyn obnapart frngess Napoleon Bonaparte hruxchuxekidepnphasaxitalikhux naopeloxen di buoxnaparet xitali Napoleone di Buonaparte miphranamelnwa elxkhxrs chawkhxrsika hrux elxepxti kaoprl naysibnxy epnrthburusaelaphunathharchawfrngessthimichuxesiynginthanaphubychakarthharpunihyinchwngkarptiwtifrngess ekhanakarthphthiprasbkhwamsaercmakmayinchwngsngkhramptiwtifrngess aelaprabdaphieskepnckrphrrdiaehngfrngessinphranamwa ckrphrrdinopeliynthi 1 tngaetpi 1804 cnthung 1814 aelaxikkhrnginchwngewlasn inpi 1815 inchwngsmyrxywn nopeliynkhrxbngakickarinthwipyuorpaelathwolknankwathswrrs inkhnathiidnaphafrngessekhasurbkbklumphnthmitrpraethsrxbdaninchwngsngkhramnopeliyn ekhaidrbchychnainsukhlaykhrng aelaaephekhtxiththiphlkwangihyiphsal ekhakxtngckrwrrdikhnadihythipkkhrxngekuxbthwthwipyuorpkxnthicalmslayinpi 1815 ekhaidrbkarykyxngwaepnhnunginphubychakarthharthiyingihythisudinprawtisastr karthasngkhramaelakarthphkhxngekhaidthukbrrcuiwinhlksutrkarsuksainorngeriynwichathharthwolk mrdkthangkaremuxngaelawthnthrrmkhxngnopeliynthaihekhaepnhnunginphunathimichuxesiyngaelaepnthithkethiyngknmakthisudinprawtisastrmnusychatickrphrrdinopeliynthi 1odychk hluys dawid 1812ckrphrrdiaehngchawfrngesskhrxngrachy khrngthi 118 phvsphakhm 1804 6 emsayn 1814rachaphiesk2 thnwakhm 1804kxnhnaphraxngkhexng inthanakngsulexk hluysthi 16 inthanakstriy thdipnopeliynthi 2 phiphath hluysthi 18 inthanakstriy khrxngrachy khrngthi 220 minakhm 22 mithunayn 1815kxnhnahluysthi 18 inthanakstriy thdipnopeliynthi 2 phiphath hluysthi 18 inthanakstriy kstriyaehngxitalikhrxngrachy17 minakhm 1805 6 emsayn 1814kxnhnaphraxngkhexng inthanaprathanathibdi kharlthi 5 inthanakstriy thdipyubelikrachxanackr witotriox exmanuexelthi 2 rwmchati xuprachexxaechn edx obxaraenkhrxngrachy12 krkdakhm 1806 4 phvscikayn 1813kxnhnafrnthsthi 2 inthanackrphrrdiormnxnskdisiththi thdipfrnthsthi 1 inthanaprathansmaphnthrtheyxrmn ecachaymukhnaykkharl ethoxdxr fxn dalaebrkhkhrxngrachy11 emsayn 1814 26 kumphaphnth 1815kxnhnasthapnarachrththdipyubrwmrachrthekhakbckrwrrdifrngesskngsulechphaakalaehngfrngessdarngtaaehnng 10 phvscikayn 12 thnwakhm 1799darngtaaehnngrwmkb aexmanuaexl ochaesf sieyaeys aelarxech duwokkxnhnakhnadiaerktwrthdiptnexng inthanakngsulexk kngsulexkaehngfrngessdarngtaaehnng 13 thnwakhm 1799 18 phvsphakhm 1804kxnhnakhnakngsulechphaakalthdiptnexng inthanackrphrrdi prathanathibdixitalidarngtaaehnng 26 mkrakhm 1802 18 phvsphakhm 1805rxngprathanathibdikxnhnasthapnasatharnrththdiptnexng inthanakstriy exnriok ed niokla inthanaprathanathibdi darngtaaehnng 19 kumphaphnth 1803 29 thnwakhm 1813kxnhnafunfusmaphnthrththdipphrarachsmphph15 singhakhm kh s 1769 1769 08 15 xachksioy khxrsika rachxanackrfrngess nopeliyn obnapartswrrkht5 phvsphakhm kh s 1821 1821 05 05 51 pi esntehelnafngphrasphxxaetledaesngwalidkhuxphieskochesfin edx obxaraen smrs 1796 omkha 1810 mari lusixaaehngxxsetriy smrs 1810 aeyk 1814 phrarachbutr raylaexiydckrphrrdinopeliynthi 2 aehngfrngess phrarachbutrnxksmrs charl elxng phrarachbutrbuythrrm exxaechn edx obxaraen ecachayaehngewnisphranametmnopeliyn obnapartrachwngsobnapartphrarachbidakarol buoxnaparetphrarachmardaeltiesiy obnapartsasnaormnkhathxliklayphraxphiithybthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha nopeliynepnchawekaakhxrsikaodykaenid nopeliynekidinkhrxbkhrwchawxitalithikhxnkhangcaeriybngay ephiyngimkieduxnphayhlngcakekaaaehngnicathukphnwkrwmekhakbrachxanackrfrngess ekhaidekharbrachkarthharinthananaythharpunihyin txmaemuxkarptiwtifrngesspathukhuninpi 1789 ekhakmitaaehnngthangthharsungkhunxyangrwderw aelaidrbysnayphlcakrthbalkhnaptiwtiinwyephiyng 24 pi cninthisudkhnadiaerktwrfrngesskaetngtngihekhaepnphubychakarkxngthphaehngxitali phayhlngcakthiekhaidekhaprabpramkarkxclaclinwnthi sungthakartxtanrthbalodyklumkxkbdfayniymeca emuxxayu 26 pi ekhaidekharwmptibtikarthharepnkhrngaerkinkartxkrkbxxsetriyaelarachwngsxitalithixyuekhiyngkhangkbrachwngshaphsbwrkh aelasamarthexachnakarrbekuxbthukkhrnginkarphichitkhabsmuthrxitaliinhnungpi inkhnathiidkxtng dwykarsnbsnuninthxngthinaelaklayepnwirburussngkhraminfrngess inpi 1798 ekhaidnakhnaedinthangthharipyngxiyiptsungepncuderimtnkhxngxanacthangkaremuxng ekhaidkxrthpraharineduxnphvscikayn 1799 aelaklayepnkngsulexkaehngsatharnrth phayhlngcaksnthisyyaxaemiynginpi 1802 nopeliynidhnipsnicinxananikhmkhxngfrngess ekhaidkhaydinaednluyesiynaihkbshrthxemrikaaelaekhaidphyayamruxfunthasindinaednxananikhmthaelaekhriebiynkhxngfrngess xyangirktaminkhnathiekhaidprasbkhwamsaercinruxfunthasinthangtawnxxkkhxngthaelaekhriebiyn nopeliynidlmehlwinkhwamphyayamthicaekhaprabpraminemuxngaesng dxaemngk aeladinaednxananikhmthifrngessekhyxwdxangwaepn ikhmukaehngaexnthillis idklayepnxisracnklayepnpraethsehtiinpi 1804 khwamthaeyxthayankhxngnopeliynaelakaryxmrbcaksatharnchnepnaerngbndalicihekhakawipihiklkwaniaelaekhaidklayepnckrphrrdixngkhaerkkhxngfrngessinpi 1804 khwamaetktangthiyakcaekhaickbbritichsunghmaykhwamwafrngesskalngephchiyhnakbfayshsmphnthmitrkhrngthisaminpi 1805 nopeliynidthalayfayshsmphnthmitrnilngdwychychnathieddkhadinkarthphxulm aelakaridrbchychnakhrngsakhyinprawtisastrehnuxckrwrrdirsesiyaelackrwrrdixxsetriyinyuththkarthiexasethxrlithssungnaipsukarlmslaykhxngckrwrrdiormnxnskdisiththi nopeliynidkxtngphnthmitrfrngess epxresiyaelatxngkarthicasrangphnthmitrfrngess xinediykhunmaxikkhrngkb ckrphrrdixinediychawmuslim odycdhakxngthphthiidrbkarfukfncakfrngessinchwngsngkhramxngkvs mysxr dwymicudmunghmayxyangtxenuxnginkarepidthangephuxekhaocmtibritichinxinediy inpi 1806 fayshsmphnthmitrkhrngthisiidcbxawuthpunlukkhunmatxsurbkbekhaephraaprsesiyerimkngwlekiywkbkarkhyayxiththiphlthwthngthwipkhxngfrngess nopeliynidexachnaprsesiyidxyangrwderwinyuththkarthieyna exaexxrchetth caknnkxngthphihykhxngekhaidkrithathphekhalukipinyuorptawnxxkaelathalaylangkxngthphrsesiyineduxnmithunayn 1807 inyuththkarthifridlnth caknnfrngessidbibbngkhbihpraethskhxngfayshsmphnthmitrkhrngthisithiepnfayphayaephthakarlngnaminsnthisyyathilsithineduxnkrkdakhm 1807 idnaphakhwamsngbsukhthiimsbayicmasuthwthngthwip thilsiththimikhwamhmaywa nakhun idklayepnsylksnkhxngckrwrrdifrngess inpi 1809 xxsetriyaelabritichidthathayfrngessxikkhrnginchwngsngkhramshsmphnthmitrkhrngthiha aetnopeliynidyudkhrxngthwipyuorpidxyangmnkhng phayhlngcakidrbchychnainyuththkarthiwakrmineduxnkrkdakhm nopeliynidekhayudkhrxngkhabsmuthrixbieriy khadhwngwacakhyayaelakhdkhwangkarkhakhxngbritichkbaephndinihyinthwipyuorp aelaprakasihochaesf obnapart phraechsthakhxngphraxngkh khunkhrxngrachyepnkstriyaehngsepn inpi 1808 sepnaelaoprtueksidkxkarlukhuxdwykarsnbsnunkhxngbritich sngkhramkhabsmuthridkinewlathunghkpi odymikarrbaebbkxngocrthikwangkhwang aelacblngdwychychnakhxngfaysmphnthmitrinpi 1814 rabbthwipthaihekidkhwamkhdaeyngthangkarthutkhunmaxikkhrngrahwangfrngessaelarthbriwar odyechphaaxyangyingkhux rsesiy rsesiyimetmicthicaaebkrbphlkrathbthangesrsthkiccakkarkhathildlngaelalaemidrabbthwipxyuepnpraca thaihnopeliyntxngekhasusngkhramxikkhrng frngessidepidchakkarbukkhrxngrsesiykhrngihyinchwngvdurxn pi 1812 karthphkhrngniidthalayemuxngtang khxngrsesiy aetimidrbchychnathieddkhadxyangthinopeliyntxngkar sngphlthaihekidkarlmslaykhxngkxngthphihyaelaepnaerngbndalickxihekidaerngphlkdnkhunmaihmephuxtxtannopeliynodystrukhxngphraxngkh inpi 1813 prsesiyaelaxxsetriyidekharwmkbkxngthphrsesiyinsngkhramshsmphnthmitrkhrngthihkkbfrngess karthphthangthharthiyawnanidsinsudlngdwykxngthphfaysmphnthmitrkhnadihythiexachnanopeliynlngidinyuththkarthiilphsich aetchychnathangdanklyuththkhxngphraxngkhinsungidxnuyatihlathxyklbipyngaephndinfrngess caknnfaysmphnthmitridbukkhrxngfrngessaelaekhayudkhrxngkrungparisinvduibimphli pi 1814 bibbngkhbihnopeliynslarachbnglngkineduxnemsayn phraxngkhidthukenrethsipyngekaaexlba dannxkchayfngkhxngthskani aelarachwngsburbngidrbkarfunfuklbmaekhasuxanacxikkhrng nopeliynidhlbhnixxkcakekaaexlbaineduxnkumphaphnth 1815 aelaekhakhwbkhumfrngessxikkhrng faysmphnthmitridtxbsnxngdwykarkxtngfayshsmphnthmitrkhrngthiecdsungidexachnaphraxngkhlngidinyuththkarthiwxetxrlu britichenrethsphraxngkhipyngekaaesntehelnathihangiklinmhasmuthraextaelntik phraxngkhpwyswrrkhtinxikhkpitxmaemuxmiphrachn 51 piess xiththiphlkhxngnopeliynthimitxolksmyihmthaihekidkarptirupaebbesriniymipsudinaedncanwnmakthiphraxngkhidyudkhrxngaelaekhakhwbkhum echn klumpraethsaephndinta switesxraelnd aelaswnkhnadihykhxngxitaliaelaeyxrmniinsmyihm phraxngkhiddaeninnoybayesriniymthiepnrakthansakhyinfrngessaelathwyuorptawntk pramwlkdhmaynopeliynkhxngphraxngkhnnmixiththiphltxrabbkdhmaykhxngpraethsmakkwa 70 praethsthwolk nkprawtisastrchawxngkvsidklawwa aenwkhwamkhidthikhxykhacunolksmyihmkhxngera imwacaepnkhunthrrmniym khwamesmxphakhtamkdhmay siththiinthrphysin karyxmrbkhwamtangthangsasna karsuksathangolksmyihm karenginthidi aelaxun idrbkarpkpxng thaihekidkhwammnkhng pramwlaelakhyaythangphumisastrodynopeliyn sahrbphraxngkhthiidephimkarbriharpkkhrxngswnthxngthinthimiehtuphlaelamiprasiththiphaph epnxnyutiinkarocrkrrminchnbth karsngesrimwithyasastraelasilpa karykelikrabxbskdinaaelapramwlkdhmaythiyingihythisud nbtngaetkarlmslaykhxngckrwrrdiormnwyeyawaelakarrbrachkarthharnopeliynekidthiemuxngxachksioyhruxxaychoch inphasaxitali bnekaakhxrsika emuxwnthi 15 singhakhm 1769 sungepnewlaephiyng 1 pi phayhlngcakthifrngessidsuxekaaniipcak satharnrtheconwa 1768 khrxbkhrwkhxngekhaepnhnungintrakulphudicanwnnxynidbnekaakhxrsika bidakhxngekhaphuminamwakarol buoxnaparet cdkarihekhaidekharbkarsuksathipraethsfrngess thiekhaidekhaiptngrkraktngaetxayu 9 khwb intxnaerkekhathukmxngwaepnkhnhnungphayhlngkarsuksainorngeriynnayrxythhar thiemuxngoxeting briaexnn aela orngeriynthharaehngkrungparis ekhakidekharwmkxngphlpunihy phayitkxngkalngkhxnglaaefr thiemuxngoxsxnn ekhaidrbkaraetngtngepnrxytrithiemuxngwalxngs inpi 1787 dwyxarmnthisxnern xxkaenw oraemntik innganthiekhaekhiyn khwamxyakruxyakehnimmithisinsud bwkkbkhwamthrngcathiepnelis inpi 1789 nopeliynhnummikhwamthndthangichstipyyamakkwathangichkalng emuxkarptiwtifrngessprathukhuninpi 1789 rxyothobnapartidxyuinehtukarnthikrungparis odyepnfaysngektkarn ekhaidefaduprachachnbukphrarachwngtuyelxridwykhwamkhyaaekhyng nopeliynedinthangklbmayngekaakhxrsika thisungkarsurbrahwangfaytang erimkhunxikkhrng odymithangfaykhxngpaskal epali snbsnunrabxbkstriy aelathangtrakulobnapartsnbsnunkarptiwti nopeliynidrbeluxkihepnhwhnakhxngkxngkalngpxngkntnexngaehngchati inpi 1792 odykaraeyngexakxngkalngcakkhnakrrmathikarkhxngrthmaswnhnung aetkarpraharkstriyidthaihekidkartxtankhxngfayxisra sngkhramklangemuxngidprathukhun aelatrakulkhxngnopeliyntxnghlbhnixxkcakekaakhxrsika mayngpraethsfrngess obnapartsnbsnunkarptiwti aelaidthuksngtwiprbtaaehnngnayrxyinkxngphlpunihy thisunybychakaremuxngtulng Toulon inpi 1793 sungtxmaidthukmxbihshrachxanackrpkkhrxng aephnkarthinopeliynmxbihchakhs frxngsws dukxngmiey thaihsamarthyudemuxngtulxngkhunmacakkxngthphklumsnbsnunrabxbkstriyaelaphwkxngkvsid mitrphaphrahwangekhaphwkchakxaebngthaihekhathukcbinchwngsn phayhlngkarsinxanackhxngrxaebspiaeyr inwnthi 27 krkdakhm 1794 hlngcakidrbxisrphaph ekhaktxngephchiykbchwngewlathiprascakphubngkhbbychaxyangepnthangkar aelatxmapxl bars xnuyatihekhabdkhyiklumphusnbsnunrachwngsthilukhuxthiemuxngwxngedaemr ephuxtxtansmchchaaehngchati inpi 1795 inoxkasniexng obnapartidminaythharhnumchuxchxxakim muwra epnphuitbngkhbbycha ptibtikarprasbphlsaercdwykaryingpunihyekhaslayklumsnbsnunrachwngsthiemuxngsngtorch obnapartmiciticphxngis samarthsumsbkhwamruthangkarthhar rwmthungyuththwithiinsmykhxngekha maprayuktihekhakbsthankarncring emuxdarngtaaehnngepnecahnathiinkxngphlpunihy ekhaidkhidkhnkarichpunihyaehngkriobwalepnkxngthphekhluxnthi ichhnunkxngthharedinethaxikthihnungkarthphxitaliephuxepnbaehnckhwamchxbthisamarthkarnakxngphlpunihyprabkbtniymeca nopeliynidrbkaresnxaetngtngodylasar karon ihdarngtaaehnngphubychakarthphxitali ephuxyudxitaliklbkhunmacakckrwrrdiormnxnskdisiththi xxsetriy eyxrmn kxngkalngkhxngekhakhadaekhln thngyuthothpkrnaelaesbiyngkhlng sungaemekhacaxdmuxkinmux aelaaetngtwsxmsx aetkidfukfnnaythharinbngkhbbychadwykhwamkhamkekhmn aelasamarthnathphekhapathakbkxngkalngkhxngckrwrrdiormnxnskdisiththithimicanwnmakkwa aelamiyuthothpkrnphrxmkwaid inkarrbhlaytxhlaykhrng inyuththkarthiemuxng hrux minopeliynepnphunathphdwytnexng karrbthamklanghakrasunthaih ephuxnaelaphuchwykhxngekhaesiychiwit nopeliynepnnaythharfimuxchkac phusung xyuthukhnthukaehngaelamxngehnthukxyang wxngiwducsayfaaelbaelaocmtiducsayfafad ekhaepnthiekharphnbthuxkhxngphuitbngkhbbycha dwykhwamsamarthinkarbychakar khwamklahayaelakhwameluxdeyn inbrrdanaythharhlaynaythiaewdlxmekha nopeliynidmxngehnkhwamsamarthkhxngnaythharnirnamkhnhnungchuxwachxng lan tlxdkarsurbinchwngewlann phaphwadkxngbychakarkhxngnopeliyninsmynn idaesdngihehnwa nopeliynidichrabbsuxsarthangikl rabbaerkkhxngolkthieriykwaothrelkhthikhidkhnody echnediywkbkxngbychakarrbxun insmynn nopeliynidthaihckrwrrdiormnxnskdisiththi sungbychakarodyxarchdyukkharl dyukaehngethechin caepntxnglngnaminsnthisyyathiesiyepriyb thimichuxwa wadwyeruxngkarihfrngessekhakhrxngebleyiym aelayudphrmaedniptidaemnairn swnckrwrrdiormnxnskdisiththiidthuxkhrxngaekhwnewenot ehtukarnthirachxanackrxitaliniexng thithaihnopeliynidtrahnkthungphlngxanackhxngtn rwmthngsthankarnthiekhaepntx ekhaepncawaehngsnamrbechnediywkbinthuk thi nkhrmilanekidsphaphkhlay kbphrarachwngelk raylxmnayphlnopeliyn thungaemwaekhacaepnphukumchatachiwitkhxngbrrdaesrsthichawxitaliexaiw aelaidepriybkhutxsuxyumak aetekhakynghangiklkbkhnadiaerktwrfrngessthimixanacbriharcdkarpraeths inpi 1797 dwyaephnkarkhxngnayphloxechxor nopeliynidcdkarthangkaremuxngbangxyangthithaihehlaechuxphrawngsthiyngkhngmixanacinkrungparisaetkchansanesn aelasamarthrksasatharnrthkhxngphwkchakxaebngexaiwidkarthphxiyiptnopeliyneyuxnphupwykalorkhthiemuxngcaffa wadody xxngtwn chxng okrs inpi 1798 sphaharxymikhwamkngwltxkraaeskhwamniymthiprachachnmitxnopeliynthiephimsungkhun cungidbychakarihekhanathphbukxiyipt odyxangwafrngesstxngkarekhakhrxngkhrxngdinaedntawnxxkikl aelatawnxxkklangephuxtdesnthanglaeliyngkhxngxngkvsipyngxinediy enuxngdwynopeliynchunchmyukhaesngswangxyuaelw ekhacungidtdsinicnakhnankwithyasastrhlakhlaysakharwmthphipkbekhadwy aelacdtng sunginchwngni hnunginnaythharhnumphutidtamnopeliynxyangpiaeyr frxngsw buchar khnphbsilaoresttathithaihnkxiyiptwithyaxyangchxng frxngsw chxngpxliyng samarththxdrhsihorklifinewlatxma hlngcakthimichyinyuththkarthi frngesstxngkaryudemuxnginxiyiptkhuncungrbkbturkithimixngkvshnunhlng emuxwnthi 16 emsayn 1799 karedinthphtxipyngsieriykhxngnopeliyntxngchangkenuxngcakkarrabadkhxngkalorkh xnepnehtuihmiprachachnlmtayepncanwnmak nopeliynidekhacdkarchwyehluxphutidechuxkalorkhthiemuxngethathisamarththaid emuxwnthi 21 krkdakhm 1798 nopeliynmichytxkxngkalng thasrbichkahlibkhxngckrwrrdixxtotmn in insngkhramexmbaebh thaihchuxkhxngekhakhcrkhcayipikl aetkarphayaephkhxngekhaklbimepnthiklawthung emuxwnthi 1 2 singhakhm 1798 kxngeruxfrngesskhxngnopeliynthukkxngeruxkhxngphleruxothohrachiox enlsn thalayekuxbyxyybinkarrbthi sthankarnrahwangnopeliynkbsmchchaaehngchatidikhun thaihekhaslataaehnngphubychakarthharpracaxiyiptihkbchxng batist eklebr aelaedinthangklbfrngess tlxdesnthangklbkrungparis nopeliynidrbesiyngohrxngchunchmcakprachachninthanawirburus xikdanhnung kxngthphfrngessinxiyiptkphayaephkarrbemux 31 singhakhm 1801 hlngcakesiynaythharipkwa 13 500 nay sungswnihyepnehyuxkhxngorkhrabadkxrthpraharemuxnayphlnopeliynedinthangklbmathungkrungparis ekhaidekhaphbpasnthnakbcharl mxris edx taaelrxng eprikxr rthmntrikartangpraeths nkkaremuxngphumiprasbkarn aelaphuruekmkaremuxngepnxyangdi ekhaidchwyetriymkarkxrthprahar okhnlmkhnadiaerktwr sungepnfaybriharthikalngxxnaexaelaprachachnekliydchng odykaronmnawphuaethnrasdreluxkrthbalihm bibihhwhnakhnarthbaledimlaxxk aelweluxkhwhnarthbalihmekhamaaethn prakxbdwybukhkhlsamkhnthiprascakmlthin xnidaek aexmanuaexl ochaesf sieyaeys rxech duwok smachikkhnadiaerktwrsxngincanwnthnghmdhakhn aelanopeliyn phusungidrbkhwamiwwangic ihmaepnswnhnungkhxngaephnkar nbtngaetekhayxmipxxkrbthixiyipt aelaklbmainthanawirburus wtthuprasngkhkhxngkarkxrthpraharkhrngnikephuxsrangkhwammnicihaekkhnaptiruphwkawhna sungtxngkarrthbalcakkareluxktng wacayngrksakhwammngkhngiwidtxip aelanopeliynthiechuxinrabxbsatharnrthyxmkesiyngkbaephnkardngklaw ephraamikraaescanaphraecahluysthi 18 makhunkhrxngrachyaelafunfurabxbkstriy sunghmaykhwamwakarptiwtifrngessthiphanmannirphl hlngcakthifayptiruphwkawhnasamarthonmnawihsphasungehnchxbkbkarlmlangkhnadiaerktwridaelw aephnkarkhxngkarkxrthpraharemuxwnthi 18 eduxnbruwaemr 1799 tam prakxbdwykhntxndngtxipni nopeliyncadarngtaaehnngphubychakarthharsungsud ephuxrksakhwamsngbinkrungparisaelainrthspha caknncungcdkaroykyaythithakarrthsphaipyngphrarachwngaesng klu briewnchanemuxngparis ephuximihekidkarclaclinkrungpariskhnakxrthprahar aelasamarthkhwbkhumsthankarnid odyxangehtuphlwalththichakxaebngkalngesiyngtxphykhukkhamthungkhnthuklmlangid sunginkhwamepncringkepnechnnn nbtngaetp 1789 epntnma sphakthukprachachnchawpariskhukkhammaodytlxd nopeliynkxrthprahar ehtukarnsakhyekidkhuninwnthi 19 eduxnbruwaemr thiphrarachwngaesng klu fayptiruphwkawhnaidetriymkarekliyklxmihkhnadiaerktwrhakhn ykkhbwnlaxxkcakthiprachumihyaehngchati rwmthngihsphaharxyeluxkrthbalihm aetaephnkardaeninipxyanglachaenuxngcakaenwkhidniimidrbchnthamticakthukfay odyechphaaphwkchakxaebngsxngkhnimyxmlaxxk nopeliynefarxaelatdsinicekhaaethrkaesnginthisud ekhaidnakalngthharklumelkekhaipinhxngprachumsphaharxythikalngthkethiyngknxyangephdrxn aelaidphyayamphudonmnawihsphadngklawyxmrbkarokhnlmkhnadiaerktwraetimmiphuaethnkhnidyxmrbfng cakkarkrathaxukxackhxngnopeliyndngklawthaihmiphuesnxyttiihprakasnopeliynepnbukhkhlnxkkdhmay sungcathaihnopeliynhludcaktaaehnngthnghmd aetsthankarnklbtalptremuxmiphuphyayamlxbaethngnopeliyninhxngprachumspha phaphkhxngphuaethnthiophlmacakthanghnatangephuxlxbaethngnopeliynaephrkracayipthw nopeliynepnphuidepriybinsthankarnnixyangmak ekhaxangwathuksmachikrthsphaisraywacakxrthpraharaelaekuxbcathuklxbsnghar thaihnayphlchxxakim muwra luknxngkhxngnopeliyn mikhxxangnakxngthphekhalxmrthsphaaelakxrthpraharidsaercinthisudsthapnarabxbkngsulaemcakxrthpraharsaerc aetnopeliynkyngyudtidkbrupaebbkarpkkhrxngodykrabwnkarthangkdhmay inkhunwnthi 19 eduxnbruwaemr hlngkxrthpraharsaerc khnaphuaethnyngkhngxyuthiphrarachwngaesng klu ephuxlngmtiesnxraychuxkhnakrrmathikarsxngchudinkaretriymrangrththrrmnuyihm aesdngihehnidwa nopeliyntxngkarphlkdnihmirabxbkarpkkhrxng thikickartang khxngrthphankarlngmticakphuaethnrasdr wnthi 20 eduxnbruwaemr kngsulsamkhnidrbkaraetngtngihbriharpraeths idaek nopeliyn aexmanuaexl ochaesf sieyaeys aelarxech duwok nbepncuderimtnrabbkarpkkhrxngodykhnakngsul nopeliynprakaswa satharnchnexy karptiwtitamwithihlkkarthiiderimkhunmann idsinsudlngaelw rabxbkngsulepnkarpkkhrxngthixanacebdesrcxyuinmuxkngsulsamkhn sungnkprawtisastrbangkhneriykwaepn rabxbephdckarodyprachamti sunginkhwamepncringmiephiyngkngsulexkthikumxanaciwxyangaethcring frngessetriymekhasuyukhihmthiprachachninchaticatxngfakchataiwinmuxkhxngckrphrrdicakkngsulexkklayepnckrphrrdicitrkrrm nopeliynkhamethuxkekhaaexlp ody chk hluys dawid nopeliyniderimkarptirupnbtngaetrayaerimaerkkhxngkarpkkhrxnginrabxbkngsul imwacaepneruxngkhxngkarsuksa krabwnkaryutithrrm karkhlng aelarabbrachkar pramwlkdhmayaephngthichxng chk erchis edx kxngbaesaersepnphueriyberiyngkhunnn epnthiruckinnamkhxngkdhmaynopeliyn aehngpi 1804 aelayngmiphlbngkhbichinpraethstang thwolkinpccubn xyangirkdi kdhmayaephngdngklawnnmirakthanmacak kdhmayinhmwdtang rwmthungkhnbthrrmeniymhlakhlaycakrabxbpkkhrxnginsmyobran sungnopeliynidrwbrwmkhunihm phlnganthangrachkarkhxngnopeliynmitxenuxngmacnkrathngthungpi 1814 ekhaidcdtngorngeriynmthym thnakharaehngchatifrngess rabbengin thiwakarxaephx sphathipruksakhxngrth rierimkarrngwdphunthithwxanackrfrngess aelacdtngsmakhmekhruxngrachxisriyaphrnaehngchati L ordre national de la Legion d honneur inpi1800 nopeliynidnathphbukxxsetriyaelayudkhrxngidsaerc thaihxxsetriythiphaytxthphkhxngnopeliynthiyuththkaremuxngmaerngok aelatxthphkhxngthiemuxng txngyxmlngnaminsnthisyyaluenwill inwnthi 9 kumphaphnth 1801 sungthaihxngkvsyxmlngnaminsnthisyyaxaemiyngineduxnminakhm 1801 inkaltxma thahakaemxanackhxngnopeliynthuksnkhlxnphayhlngkxrthprahar chychnainyuththkarthimaerngokkthaihsthanakhxngnopeliynaekhngaekrngkhunmak ekhasngthhar 70 000 nayipyngnikhmaesng dxaemngkinthaelaekhribebiyn phayitkarbngkhbbychakhxngnalphl ephuxfunfuxanackhxngfrngess hlngcakprasbkhwamsaercmaphxsmkhwr odyechphaacakkarcb phusungesiychiwitthi thixaephxdubs wnthi 7 emsayn 1803 kxngthphkhxngekhakthukthalayodykarrabadkhxngikhehluxng emuxehndngni nopeliyncungyxmkhayrthluyesiynaihaekshrthxemrika dinaednkhnadihythangtxnehnuxkhxngthwipxemrikaehnux emuxwnthi 24 thnwakhm 1800 idmikarlxbwangraebidnopeliynthithnnsngt niekhs inkrungparis khnathikhbwnrthmakhxngekhakalngmunghnaiporngoxepra rthmakhxngkngsulexkidkhwbphanphncudekidehtuipxyangrwderw raebidekidpathukhunchakwathikhadthaihkrackrthmaaetkkracayethann aetsthanthiekidehtuthiklayepnsakprkhkphngetmipdwykhwamoklahl miphuesiychiwitkwasibkhn ochaesf fuech sungdarngtaaehnngrthmntrimhadithyinsmynn idphisucnwaxachyakrrmdngklawepnfimuxklumfkifkstriy inkhnathinopeliynechuxwaepnfimuxkhxngphwkchakxaebng karprahardyukaehngxxngaekngepnhnunginphlphwngtamma inpi 1802 nopeliynruxfuninxananikhmkhunxiktamkhakhxkhxngphriya xnidaekochesfin edx obxaraen hyingchawcakhmuekaa martinik karfunfudngklawthaihrabbesrsthkicthilmehlwkhxngxananikhmophnthaelthangtawnxxkkhxngmhasmuthrxinediykraetuxngkhun txngrxthungpi 1848 kwakhwamphyayaminkarelikthasxyangeddkhadcaprasbkhwamsaerc hlngcakthinopeliynidkhyayxiththiphlipthungswis thiidcdtngsthabnkracayxanacinpccubn aelaipyngeyxrmni krniphiphathkhxngmxltakepnkhxxangihxngkvsprakassngkhramkbfrngessxikkhrnginpi 1803 rwmthnghnunhlngfayfkifrabxbkstriythitxtannopeliyn nopeliynidtxbotdwyaenwkhidinkarbukxngkvs aelaephuxkhmkhwyfayfkifkstriythixaccakalnglxbwangaephnokhnlmekhaxyu kngsulexksngprahardyukaehngxxngaekng ecachayaehngrachwngsburbng nopeliynyktwexngkhunepnkstriyaehngxitali emuxwnthi 26 phvsphakhm 1805 thinkhrmilan karpraharekidkhunthiemuxngchankrungparis phayhlngkaritswnthithukcdchakihduepniptamkrabwnkar sungkphbwaecachayimmikhwamphid miephiyngxngkvsethannthithkthwng swnrsesiyaelaxxsetriynn sngwnthathiimyxmthdthan thaihekidesiyngelaluxekiywkbnopeliynwaepn rxaebspiaeyrbnhlngma thiekaaesntehelna nopeliynyxmrbkhwamphidni aemwataaelrxngcamiswnphwphndwyktam hlngcakidkxkhwamphidnitxsatharnrth aelaephuximihkngsulexkkhunchuxwakxkhdisngharbukhkhlinrachwngssasxn nopeliyncungidsthapnatnexngkhunepnckrphrrdiemuxwnthi 2 thnwakhm 1804 thacawaknipaelw ckrwrrdifrngessekidkhuncakkhakhxkhxngwuthispha nkprawtisastrechuxinaenwkhwamkhidthiwa karsthapnatnkhunepnckrphrrdikhxngnopeliynnnepnipephuxpkpxngsatharnrth haknopeliynthukokhn klumkhntang calmslayipkbekhadwy ckrphrrdiidklaymaepnsthabn txkyakhwamyngyunkhxngkhwamechuxinkarpkkhrxngrabxbsatharnrth haknopeliyntay nnkhuxkarsuyesiyphusubthxdtaaehnngthimihnathipkpxngpraethscakkhwamoklahl aelannhmaythungkhwamsuyesiykhxngsingthiidmacakkarptiwtifrngess khwamesmxphakh xisrphaph aela khwamyutithrrm karthienginehriyykhxngthangkarfrngesscarukkhawa ckrphrrdinopeliyn satharnrthfrngess nn miichkhaphudesiydsiaetxyangid karpkkhrxngkhxngsatharnrthfrngess idklaymaepnrabxbckrwrrdiniym inphayhlngethann ephuxpkpxngsingthiidmacakkarptiwtifrngess prabdaphiesk citrkrrm prabdaphieskkhxngnopeliyn ody chk hluys dawid phithiprabdaphieskkhxngnopeliynthukcdkhun phayitphraentrkhxngsmedcphrasntapapa thiimidrbekiyrtiihswmmhamngkudaeknopeliyn aetthukldbthbathihaekhmarwmxanwyphraekckrphrrdifrngessethann nopeliynprakasinkhnathiswmmhamngkudihtwexngwa khaphecaphbmhamngkudinlahwy khaphecaechdokhlnxxk aelwkhaphecakswmmniwbnhwkhapheca ninbepnoxkasdiinkarkrachbkhwamsmphnthrahwangfrngesskbwatikn karlngnamkhxngkngsulexkinpi 1801 nnmienuxhayxmrbwakhristsasnanikayormnkhathxlik epnsasnakhxngchawfrngessswnihy aetimichsasnapracachati nbaetnnepntnma nkbwchcatxngxyuinkhwamkhwbkhumkhxngrth inkarfunfunikayormnkhathxlik thaihekidkhwamkngkhawa epnipidhruxthicaekidkarfunfunikayormnkhathxlik phayinrayaewlaimthungsibpihlngcakthihlwngyudthrphysinkhxngobsth nopeliynsngwnthathitxhnasmedcphrasntapapa ekhaxxkiptxnrbphrasntapapathipafngaetnobl odykhimaipaelaswmchudlastw thaihchakkarphbpadngklawmilksnaehmuxnkarphbknodybngexiy aelaechnediywkn inpi 1804 ckrphrrdimiidepnphuedinthangipprakxbphithikhunkhrxngrachythikrungormtamthickrphrrdiormnekhykratha aetepnphrasntapapathithukechiymayngkrungparisrawkbwaepnnkbwchthiedinthangmaaeswngbuy eracaehnidwa karthinopeliynekhahasasnckrnn epnipephuxphlpraoychnechphaaxyang srangsmphnthrahwangkhathxlikkbfrngess aelathaihckrphrrdimithanaethiybethakbkstriyxyangthuktxng aelaemuxphrasntapapamithathikradangkraeduxngtxkhasngkhxngnopeliyn ekhakimrxchathicakhngphrasntapapaiwinphrarachwngfngaetnoblckrwrrdieruxngxanacinpi 1804 yngimthungewlaaehngkarxxkrbkhrngihyephuxyudkhrxngdinaedn aelackrphrrdinopeliynthi 1 sungyudtidkbaenwkhwamkhidwa sntiphaphxyangthawrcamiid txemuxprabshrachxanackrlngidethann idrwmkbphleruxexk phusungesiychiwitkxncakrathakarsaerc wangaephnrukranekaaxngkvs sungepnaephnthilmehlwxyangsineching cakkarrbthiyuththnawithraflkar kxngeruxphsmfrngess sepnthibychakarody thukphleruxoth lxrd enlsn aehngrachnawixngkvsticnaetkphay thaihshrachxanackr klayepnmhaxanacthangthael nbaetnncwbcninxikhnungstwrrstxma ckrphrrdinopeliynthi 1bnphrarachxasn inpiediywknnnexng 1805 idmikarshsmphnthmitrkhrngthisaminyuorpkhunephuxtxtanckrphrrdinopeliynthi 1 thaihckrphrrdiphusungkalngbychakar cakemuxnginfrngess ephuxetriymkarbukbrietnihy txngephchiykbsngkhram sungekidkhuninxikfakhnungkhxngthwipyuorpxyangkathnhn ckrphrrdinopeliynthi 1 idrbsngihtngrbodythnthi odybngkhbihnathphihyxxkedinetha aelasyyawacanachychna txphwkxxsetriyaelarsesiymaihcakyuththkarthiexasethxrliths thiidchuxwaepn sngkhramsamckrphrrdi inpi 1806 sngkhramshsmphnthmitrkhrngthisiiderimtnkhun prsesiyidkxehtuphiphathkhrngihm odyphraecafridrich wilehlmthi 3 aehngprsesiy tdsinphrathythicathasngkhramkbkxngthphfrngessodylaphng tamtananelawanayphlkharl fxn ekhlaesxwiths nkthvsdithangthharekhyesnxaephnkarrbthichaychlad sungepnaephnkarthickrphrrdinopeliynyngchunchm inkhwamrwderwkhxngkarnaaenwkhideruxng citwiyyanaehngolk khxngehekilmaich aetaephnrbdngklawimidrbkarxnumticakfaybychakarkhxngkxngthphprsesiy xyangirkdikxngthphihykhxngnopeliynmikhwamidepriybmak ephraatngxyuinphunthiiklchayaednprsesiy nopeliyncungthrnglngmuxocmtikxnaelaidrbchychnaxyangkhadlxyinyuththkarthieyna exaexxrchetth odykxngthphhlwngkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 samarthkwadlangkxngthphprsesiyinyuththkarthieynaemuxwnthi 14 tulakhm inkhnathicxmphlhluys nikxla dawutithphihykhxngcxmphldyukaehngebranchiwkhaetkphayipinsmphumithiemuxng aemwathphhlwngkhxngprsesiycamicanwnthharehnuxkwakxngthphfrngessthinaodycxmphlhluys nikxla makktam dyukaehngebranchiwkhbadecbsahsinthirb thharkhxngprsesiythiaetkmacakyuththkarthieynathalkekhamasuyuththkarthiexaexxrchetth naipsukhwamesiykhwyaelakhwamphayaephxyangeddkhad cxmphldawucungidrbkaraetngtngcakckrphrrdinopeliynthi 1 ihepn dyukaehngexaexxrchetth ephraakhwamchxbinkhrngni aetckrphrrdinopeliynthi 1 yngimhyudaekhnn inpithdmaphraxngkhidthrngedinthphkhamopaelnd odythrngsthapnadchchiwxrsxkhunaelaihphnthmitrkhxngfrngesspkkhrxng caknnnopeliynidykkxngthphkhunehnuxephuxephchiyhnakbkxngthphrsesiy nopeliynrbchnakxngthphrsesiythiyuththkarthifrithlnthinwnthi 14 mithunayn 1807 thangfayrsesiytxngkhxyxmsngbsuk aelanaipsukarlngnaminsnthisyyaemuxngineduxnkrkdakhm 1807 kbckrphrrdixaelkhsndrthi 1 aehngrsesiy xnepnsnthisyyawadwykaraebngdinaednyuorpknrahwangfrngessaelarsesiy sxngmhaxanacinkhnann ephuxepnkarkhmkhwystru frngesskhrxngyuorptawntk aelarsesiykhrxngyuorptawnxxk odymiopaelndxyutrngklang nopeliynphusungidrbkarsuksacakorngeriynaelakhrubaxacaryinrabxbeka txmaiddarngtaaehnngnaythharinkxngthphhlwng idthalaykdeknthdngedimthangkarthharxyangsineching dwykarimrierimsngkhramthikinewlanankwahnungstwrrsinkarrbdwyphlthhar 30 thung 50 000 nay aetmxnghakarrbthisamarthephdcsukidxyangeddkhad ichthharkwa 100 000 nayhakcaepn nnkhuxckrphrrdinopeliynthi 1 imtxngkarcaepnphunainyuththkarethann aettxngkarcabdkhyistruxikdwy inpi 1808 ckrphrrdinopeliynsrangrabbskdinakhxngckrwrrdifrngessihaekklumchnchnsungthiaewdlxmphraxngkh imnantxma brrdanayphnaelanayphlkhxngnopeliyntangidrbyskhunnang ekhantaehngckrwrrdi ecachayaehngenxchaaetl dyukaehng dyukaehng dyukaehngdnthsich dyukaehng kstriyaehngnaopli l cakkrungxmsetxrdmthungkrungorm ckrwrrdikhxngckrphrrdinopeliynthi 1 miprachakrrwmthngsinkwa 70 lankhn odymiephiyng 30 lankhnethannthiepnchawfrngessptibtikarthikhabsmuthrixbieriy xxsetriy aelarsesiyenuxngdwyaenwkhidkhxngxngkvsthicakidkneruxsinkhafrngess ckrphrrdinopeliynthi 1 elyphyayamcabngkhbihekid odymiwtthuprasngkhcahyudyngkickrrmthangkarphanichykhxngxutsahkrrmxngkvs oprtueks xnepnpraethsphnthmitrkhxngxngkvsmaepnewlachanan ptiesththicalngnaminsnthisyyani ckrphrrdinopeliynthi 1 cungthrngkhxkhwamchwyehluxcaksepninkarbukoprtueks inthisudphraxngkhkidrukranpraethssepn aelatngochaesf obnapart phichaykhunepnkstriypkkhrxngthinn aelaoprtuekskthukckrphrrdinopeliynthi 1 rukranechnkninpi 1807 prachakrswnhnungkhxngsepnthikhlngikhlinklumnkbwchidlukhuxkhuntxtanchawfrngess inimcha kxngphlthharrabfimuxeyiymkhxngxngkvs bychakarodywathidyukaehngewllingtn xarethxr ewlsliy kidekhluxnthphsusepn odyphanoprtueksinpi 1808 aeladwykhwamchwyehluxkhxngklumphurkchatichawsepn kidphlkdnkxngthphfrngessxxkcakkhabsmuthrixbieriy inkhnathikxngthharthifimuxdithisudkhxngfrngesskalngptibtipharkicxyuinsepn xxsetriykidbukfrngessxikkhrngcakaethbeyxrmni aelathukprablngxyangrabkhabin cxmphllans ephuxnaelaphurwmrbekhiyngbaekhiyngihlkhxngckrphrrdickrphrrdinopeliynthi 1 idthungaekkrrmthiemuxng hlngcakthisarxelksanedxrthi 1 aehngrsesiy idrbkarhnunhlngcakchnchnsunginrsesiythiekhakhangfayxngkvs kidptiesththicarwmmuxkbckrphrrdinopeliynthi 1 inkarocmtishrachxanackr ckrphrrdinopeliynthi 1 sungechuxwaimmithanghlikeliyngsngkhramkbxngkvsid idkrithathphbukrsesiyinpi 1812 kxngthphihykhxngckrphrrdinopeliynthi 1 prakxbdwykxngthphphnthmitrxitali eyxrmni aelaxxsetriymikhnadmhuma mithharkwa 600 000 naythirwmedinthphkham kxngthphrsesiyinbychakhxngcxmphlmihaxil khutusxf ichklyuththphlayphphinkartankarrukrankhxngfrngess karrbthimxsokemuxwnthi 12 knyayn immiphuidaephchna aemwaphwkrsesiycaepnfaythingchyphumi aetthngsxngfaykesiythharipincanwnphxkn wnrungkhunhlngcakkxngthphfrngessekhluxnthphekhakrungmxsok kphbwamxsokklayepnemuxngrang emuxfrngesstayic phwkrsesiyidcudifephakrungmxsokinthnthi thaihckphrrdinopeliynthi 1 txngthxythph vduhnawxnohdray kalngcamaeyuxndinaednaethbrsesiyinxikephiyngimkiwn ckrphrrdinopeliynthi 1 thikhadwacamikhwamekhluxnihwcaksarsaridchalxkarthxythphipcnthungnathisudthay kxngthphfrngessidthxythphxyangthulkthuelipthangeyxrmni inchwngvduhnawkhxngrsesiy phandinaednthiekhyepnthangphantxnkhamaaelathukocmtiesiyyxyyb incanwnthharekuxb 500 000 naythiekharwmrb miephiynghmunkwanaythisamarthkhamklbmaid aethmyngthukkxngthphrsesiydkocmti kxngthphihykhxngckphrrdinopeliynthi 1 txngthungkallmslayenuxngdwyimruckphunthidiphx hlngcakthiidiccakkhawkhwamphayaephkhxngfrngessinrsesiy kstriyyuorphlayphraxngkhidaeprphkdicakfayckphrrdinopeliynthi 1 aelaykthphmarbkbfrngess ckrphrrdinopeliynthi 1 sungthukkhninkxngthphkhxngphraxngkhexngthrys idphbkbkhwamphayaephxyangsinechingthiyuththkarthiilphsic hruxthiruckinnamkhxng sngkhramshsmphnthmitrkhrngthihk sungkxngthphfrngess 200 000 naypathakbkxngthphphnthmitr 500 000 nay rsesiy xxsetriy eyxrmni swiedn cxmphlyuaesf xntxyi pxyatxfski ecachayaehngopaelndaelaphrarachnddakhxngphramhakstriyxngkhsudthaykhxngopaelnd idsinphrachnmlnginkarrbkhrngni hlngcakphyayamnathharkhxngphraxngkhkham miphubadecbaelaesiychiwitrwmthngsin 100 000 khn xanaekhtkhxngckrwrrdifrngessinchwngpi 1811 simwnghmaythungfrngessaephndinaem simwngxxnhmaythung rthinxarkkhakhxngfrngesskhwamphayaephinfrngessinpi 1814 shrachxanackr rsesiy prsesiy aelaxxsetriy idrwmepnphnthmitr aemwackrphrrdinopeliynthi 1camichyxyangimnaechuxinkarrbthi aela dwykarnathphthharihmkhadprasbkarn kxngthphmari hluys thitngchuxtamckrphrrdinimari hluys mehsiinckrphrrdinopeliynthi 1 krungparisthuktiaetkemuxwnthi 31 minakhm aelabrrdacxmphlrwmtwonmnawihckrphrrdinopeliynslarachsmbti ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngkhidwafayphnthmitrcaaeykekhaxxkcakckrphrrdini aelanopeliynthi 2 kstriyaehngorm phraoxrskhxngphraxngkh dngnn inkhunwnthi 12 aelaechawnthi 13 emsayn ckrphrrdinopeliynthi 1 ideswyyaphisipinprimanthicaplidchiphphraxngkhexng yaphisdngklawkhuxfinphsmkbnaelknxy mikhnbxkphraxngkhwaswnphsmdngklawmiphismakphxthicakhakhnidthungsxngkhn nopeliyneluxkthicakhatwtaydwywithiniephraaechuxwasphkhxngtncatxngthukpracanihkhnfrngessdu phraxngkhtxngkarihkharachbripharkhxngphraxngkhcaphraphktrthieriybechyid echnediywkbthiekhyehnphraxngkhinyuththkar hlngcakphanphnewlaethiyngkhunmaxyangthukkhthrman ckrphrrdikbnwaswnphsmfinkhxngphraxngkhxxkvththichaip nopeliynprakastxhluys edx okaelngkur wa khataydwykhwamthukkh khathukkhthimirththrrmnuythiyudchiwitxxkipaelathaihkhacbchiphchakwaedim xakarkhlunehiynxaeciynkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 runaerngkhunthukthicnimxacklnxaeciyniwidxiktxma cnkrathngxaeciynxxkmaxyangrunaerng phraxngkhthrngthukkhthrmanxyangimsinsudcnkrathngnayaephthyxiwxngmathung ckrphrrdinopeliynthrngkhxihaephthythwayyaphisxikkhnanephuxcaidswrrkhtesiythi aetnayaephthyptiesthodykrabthulwaekhaimichkhatkraelaekhacaimyxmthainsingthikhdtxsamysanukkhxngtnxyangeddkhad khwamthrmankhxngckrphrrdiyngkhngdaenintxip okaelngkurxxkcakhxngaelabxkihkharachbripharengiybesiyng nopeliyneriykokaelngkuraelabxkwaphraxngkhyxmtayesiydikwayxmlngnaminsnthisyya aelaaelwyaphiskkhlayvththilng aelaphraxngkhksamarthdaeninkickrrmtampktiidinthisud aetimmiikhrthrabaenchdwaehtuidxngkhckrphrrdicungrxdchiwitmaidcakkarklunfininprimankhnadnn imkraephaakhxngphraxngkhkhyxnxxkma imkyaphisidesuxmvththilngipexng thaythisud nopeliynenrethstnexngexngipyngekaaexlbatamthirabuiwinsnthisyyafngaetnobl odyyngthrngdarngphraysepnckrphrrdi aelamixanackarpkkhrxngechphaabnekaaaehngnikhunsuxanacepnewlarxywnthipraethsfrngess phraecahluysthi 18 thrngkhbckrphrrdinopeliynthi 2 aelakhunkhrxngrachyaethn ckrphrrdinopeliynthi 1 epnkngwlekiywkbchatakrrmkhxngphramehsi odyechphaaxyangyingkhxngphraoxrskhxngphraxngkhthitkxyuinenguxmmuxkhxngphwkxxsetriy rthbalfrngessthifkifrabxbkstriyptiesthcacaykhaeliyngduihtamsyyainthisud aelamikhawluxwaekhakalngcathuksngtwipyngekaaelk thangtxnitkhxngmhasmuthraextaelntik dngnn ckrphrrdinopeliynthihlbhnixxkcakkarkhumkhngbnekaaexlba idkhunsufngbnaephndinfrngessiklkbemuxngkhans emuxeduxnminakhm 1815 kxngthphthithuksngipcbkumtwekhaklbmatangohrxngtxnrbeyiyngwirburustlxdesnthangcak khunmayngemuxng sungesnthangdngklawthukeriykwa thnnsayckrphrrdinopeliynthi 1 ipaelw cxmphlmiechl inyphusungidsabantxhnaphraecahluysthi 18 wacanackrphrrdinopeliynthi 1 klbmainkrngehlk krusukoxnxxnekhahafayckrphrrdiedimkhxngtn hlngthickrphrrdinopeliynthi 1 edinxyangxukxacekhaipprakastxfungchnwa thharaehngkxngphl 5 erakhuxckrphrrdikhxngphwkeca phwkecakruckeradixyuaelwmiichhrux thahakmiikhrinhmuphwkecathnghlaymaephuxthicacbckrphrrdikhxngeca erakxyuthiniaelw thaihekhaklayepncxmphlkhnediywthithukcbkuminkhxhathrrachy hlngcakkarfunfurabxbkstriykhrngthisxng ckrphrrdinopeliynthi 1 edinthangthungkrungparisxyangngayday chwngewla khunsuxanacepnewlarxywn erimtnkhun aetkhwamlmehlwkekidkhunsarxy kxngthphkhxngekhaphaykarrbkbxngkvsaelaprsesiythiyuththkarwxetxrlu inebleyiym emuxwnthi 18 mithunayn 1815 cxmphlimsamarthtanthankxngthphrwmrahwangxngkvsaelaprsesiyid enuxngcakepnthphhlwngthiykmathukenrethsipekaaesntehelna aelakaenidkhxngtananphrabrmxthikhxngckrphrrdinopeliynthi 1 thukfngiwthisusanaexngwalid inkrungparis ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngthukkhng aelathukxngkvssngtwipyngekaaesntehelna tambychakarkhxng phrxmkbnaythharthiyngcngrkphkdibangswn rwmthungekhantdwy ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngichewlabnekaaesntehelna thrngxuthisihkbkarekhiynbnthukkhwamthrngcakhxngphraxngkh inchwngkhrunghlngkhxngeduxnemsayn 1821 phraxngkhidthrngekhiynphrarachphinykrrm aelahmayehtuphrarachphinykrrmhlaychbbdwyphraxngkhexng rwmkwasisibhnadwykn khaphudsudthaykhxngphraxngkhkxnsinicidaek frngess kxngthph ochesfin France armee Josephine hruxcakthibnthukiwin cdhmayehtuekaaesntehelna khux sirsa kxngthph phraeca inpi 1995 cdhmayehtukhxngekhant kharbichkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 idthuktiphimph ekhaidekhiynelaehtukarn chwngimkieduxnsudthaykxnckrphrrdinopeliynthi 1 caswrrkht aelahlaykhnechuxwaphraxngkhthuklxbwangyaphisdwysarhnu inpi 2001 paskhal khinth aehngsthabnkdhmayemuxngsthrasburidthakarphisucnthvsdini dwykarsuksaharadbsarhnuinesnphraeksa phm khxngckrphrrdinopeliynthi 1 phayhlngcakthiphraxngkhswrrkht sungkphbwamisarhnuxyuekinkwaradbpkti 7 thung 38 etha karwiekhraahkhxngnitysar idaesdngihehnwa samarthphbsarhnuinradbkhwamekhmkhnethakncaktwxyangthiekbidmacakpi 1805 1814 aela 1821 dngnncungtxngklawthung thrrmeniyminsmynnthiniymswmwikphmphnthbdwyaepngphng yingipkwann eraxacechuxinkarwiekhraahkhxngnkwicychawswisthibxkwa ckrphrrdinopeliynthi 1 swrrkhtcakphraorkhmaernginkraephaa aemwackrphrrdicamiphrawrkaykhxnkhangecaenuxkxnswrrkht nahnk 75 5 k k swnsung 167 s m nkwicyyngidsarwckangekngthickrphrrdinopeliynthi 1 swmisinsmynn aelasamarthrabuidwaphraxngkhminahnkldlngthung 11 k k phayinewla 5 eduxnkxnkarswrrkht smmtithandngklawekhythukklawwaimnacaekidkhunidenuxngcakckrphrrdinopeliynthi 1 miphrawrkayihyekinkwathicaepnkhnpwydwyorkhmaerng ckrphrrdinopeliynthi 1 idthrngkhxihfngphrabrmsphkhxngphraxngkhiwrimfngaemnaaesn aetemuxphraxngkhesdcswrrkhtinpi 1821 phrabrmsphkhxngphraxngkhidthukplngthiekaaesntehelna inpi 1840 phrabrmxthiidthukechiyklbmayngpraethsfrngessdwykartxnrbxyangsmphraekiyrti aelaidthukfngiwthixxaetledaesngwalidinkrungparis odyisiwinoththithadwy xnepnkhxngkhwythirsesiymxbihaekfrngess mummxngrwmsmythimitxnopeliynchptal nopeliynidichphraxngkhexngepncdhmayehtuephuxthasngkhramkbstru odyechphaaxyangyingkbphwkxngkvs phraxngkhidthrngekhiynbnthukthukchbbdwyphraxngkhexng sahrbihlnginhnngsuxphimph le Moniteur ephuxtxbotbthwicarnthikhmkhunaelakhxklawhathiimepncringthiidthuktiphimphiwinhnngsuxphimphxngkvs emuxphraxngkhidthrngtiphimphbnthukchbbhnung phraxngkhthrngechuxwasamarthonmnamphuxanidaelw erakhngcaknidwabnthukswnihyimichtnaebbthidikhxngnganekhiyn hruxtwxyangthidikhxngwrrnkrrm aetphraxngkhkmiidthrngtiphimphxairthiaesdngihehnthungbukhlikkhxngphraxngkh hruxkhwamsamarththiphraxngkhmiexaiwelyphlngankhxngnopeliyn obnapartthrrmeniymphrayskhxng ckrphrrdinopeliynaehngfrngessphrarachlyckrthngpracaphraxisriyyskarthulyw ximphieriyl maecstithrrmeniymphrayskhxng phraecanopeliynaehngxitaliphrarachlyckrkarthulyw maecstiinchwngthidarngtaaehnngkngsulexk 13 thnwakhm wnthi 22 pithi 8 tamrabbptithinkhxngsatharnrthfrngess matrathi 52 khxngrththrrmnuyfrngess sthapnafrngess 13 thnwakhm wnthi 22 eduxnfriaemr pithi 8 sthapnawuthisphafrngess 13 kumphaphnth wnthi 24 pithi 8 sthapna 17 kumphaphnth wnthi 28 eduxnpluwioxs pithi 8 kxtngthithakarxaephx 8 emsayn wnthi 18 pithi 10 lngphranamrwmkb inkhwamtklngwadwyeruxngsasnakhxngpraeths 1 phvsphakhm wnthi 11 pithi 10 kngsulexkobnapartidsthapnaorngeriynmthyminfrngess 19 phvsphakhm wnthi 29 eduxnflxerxal pithi 10 idsthapnasmakhmekhruxngrachxisriyaphrnaehngchati 24 thnwakhm kxtnghxkarkha 22 aehng 7 emsayn wnthi 17 eduxnaechrminal pithi 11 idrierimrabbenginfrngkaecrminal 21 minakhm wnthi 30 pithi 12 pramwlkdhmayaephngiderimmiphlbngkhbichinchwngthiepnckrphrrdi 18 minakhm wnthu 21 eduxnaecrminal pithi 9 sthapna 10 phvsphakhm sthapnakhunepnaehngaerk thimirupaebbiklekhiyngkbmhawithyalyinpccubn enuxngcakkxtngkhunmatngaetpi inpi ckrphrrdinopeliynthi 1 miphrarachdariihsrangkhunthi 9 kumphaphnth thrngruxfunrabb thaihchawyiwsamarthprbtwekhakbkarphankxasyinckrwrrdifrngessidngaykhun 16 knyayn ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngsthapnaaehngchatifrngesskhun inpi nopeliynidmxbhmayih rbphidchxbinkarkxsrangtladhunfrngesskhuninkaltxma 17 minakhm nopeliynmiphrarachdarioprdeklaihsrangkhun 12 minakhm miphrarachdarioprdeklaihtrakdhmayxayaaehngchatifrngesskhunkhrxbkhrwkarsmrsaelaoxrsthida nopeliynsmrssxngkhrng emuxwnthi 9 minakhm 1796 emuxkhrngyngepnnayphlkxnxxkptibtikarinxiyipt idekhaphithismrskbnangochesfin edx obxaraen aemmayluktidchawfrngessechuxsayebek cak phusungtxmaidrbkaraetngtngihepnckrphrrdiniaehngfrngessinphithikhunkhrxngrachykhxngnopeliyn enuxngcaknangmixayumakaelwcungimsamarthmioxrsthidaihkbnopeliynid sungkarthixngkhckrphrrdiirsungphusubthxdbllngkdngklawthukmxngwaekiywkhxngodytrngkbkhwammnkhngkhxngckrwrrdi karsmrskhrngnicungcblngdwykarhyarang emuxwnthi 11 minakhm 1810 idekhaphithixphiesksmrs kbxarkhdchechsmari hluysaehngxxsetriy ephuxepnkarsansmphnthimtriaelahlikeliyngsngkhramkb xarkhdchechsmari hluysidihkaenidphrarachoxrshnungphraxngkh idaek nopeliynthi 2 thrngidrbkaraetngtngcaknopeliynihdarngtaaehnngkstriyaehngkrungorm dyukaehng aeteramkcaeriykphraxngkhwanopeliynthi 2 esiymakkwa aemwaphraxngkhcaimekhykhunepnphraecaaephndinfrngessxyangaethcringelyktam thacawakntamthvsdiaelw rchsmykhxngphraxngkhkinrayaewlaephiyng 15 wn rahwangwnthickrphrrdinopeliynthi 1 thukbngkhbihslaphrarachbllngkkhrngaerk cnkrathngmikarfunfurachwngsburbng phrachayanamwa ehyiywnxy nnmacakbthkwikhxng thipraphnthkhuninpi 1852 nopeliynyngmibutrnxksmrsxikxyangnxysxngkhn sungthngsxngkhnnntangkmithayathsubtxma ekhantcharl elxng chata 1806 mrna 1881 butrchaykhxngnang chata 1787 mrna 1868 ekhant chata 4 phvsphakhm 1810 mrna 27 tulakhm 1868 butrchaykhxngekhanets chata 1789 mrna 1817 aelacakaehlngkhxmulthiyngepnthithkethiyngkn exmilli luys mari frxngsws ochsfin epllapra butrsawkhxngfrxngsws mari elxrw kharl yucng fxn muhlefld butrchaykhxngwikhtxeriy okhrs exeln nopeloxn obnapart butrsawkhxngekhanetsmxngotlxng chata 19 singhakhm 1805 mrna 24 phvscikayn 1895 odyimthrabwamardakhxngekhaepnikhrphinxngkhxngnopeliyn echorm obnapart ochaesf obnapart hluys obnapart luwesiyng obnaparthlanchay hying nopeliynthi 3 charl hluys nopeliyn obnapart hlanchay idichoxkascakkhwammichuxesiyngkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 thaihekhaidrbeluxktngepnprathanathibdiaehngfrngess inchwngsatharnrthfrngessthi 2 caknnkidyudxanacaelakxtngckrwrrdithi 2 khun aelaepnckrphrrdipkkhrxngfrngessphayitphranamwanopeliynthi 3 aehngfrngess tlxdkarkhrxngrachykhxngphraxngkh idmikarprakasichkdhmaythangsngkhmaelakdhmaysmyihmcanwnmak phraxngkhphayaephsngkhramaelayxmmxbtwihkbprsesiyinpi 1870 cakkarrbthi nkstwwithyaechuxsaykhxngnopeliynthiodngdnghnngsuxchiwprawtiekiywkbnopeliyn Napoleon ou le Mythe du Sauveur Jean Tulard dir Dictionnaire Napoleon Thierry Lentz en collaboration Autour de l empoisonnement de Napoleon preface par Thierry Lentz le Sacre de Napoleon Ed Nouveau Monde 2003 Thierry Lentz Napoleon coll Vues sur Napoleon Adolphe Thiers Histoire du Consulat et de l Empire Mes souvenirs sur Napoleon Francois Rene de livres XXIX a XXII Jacques Bainville Napoleon 1931 Steven Englund Napoleon a political life 2003 Napoleon et le Analyse d un discours Preface de Maximilien Vox Napoleon Paris France Editions du Seuil collection Le temps qui court 1959 184 pages Cote dewey 923 1 N216v otlstxy Guerre et Paix stxngdal La Chartreuse de Parme pathrik lxmob La Bataillephaphyntrekiywkbnopeliynph s 2455 1912 nopeliyn xanwykarsrangody frngess ph s 2470 1927 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2472 1929 sngteteln Napoleon auf St Helena xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2477 1934 nopeliyn obnapart xanwykarsrangody naaesdngody naphaphyntrinpi masrangihm miesiyngprakxb frngess ph s 2478 1935 Campo di maggio xanwykarsrangody naaesdngody xitali ph s 2484 1941 nopeliyn xanwykarsrangody xarecntina ph s 2498 1955 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2503 1960 exachaetrliths xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2513 1970 wxetxrlu xanwykarsrangody naaesdngody Rod Steiger xitali aela shphaphosewiyt ph s 2514 1971 obnapartkbkarptiwti xanwykarsrangody naaesdngody namasrangihmcakphakhedimemuxpi aela lakhrothrthsn xxkxakasinfrngess ph s 2532 1989 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody lakhrothrthsn xxkxakasinhngkari ph s 2533 1990 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody phaphyntrothrthsn xxkxakasinfrngess opaelnd ebleyiym aekhnada ph s 2542 1999 Pan Tadeusz xanwykarsrangody naaesdngody opaelnd ph s 2543 2000 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody lakhrothrthsn xxkxakasinfrngess eyxrmni aekhnada shrth aelashrachxanackr 2023 ckrphrrdinopeliyn kakbody ridliy skxtt naaesdngody wakhin finiks shrthxemrika hmayehtuxangxingMcLynn 1998 p 6 McLynn 1998 p 2 Cronin 1994 p 20 21 Cronin 1994 p 27 Roberts 2001 p xvi Asprey 2000 p 13 McLynn 1998 p 55 tnchbbinphasafrngess Citoyen la Revolution est fixee aux principe qui l avait commencee elle est finie Lyons 1994 p 111harvnb error no target CITEREFLyons1994 tnchbbinphasafrngess J ai trouve une couronne dans le ruisseau j ai essuye la boue qui la couvrait je l ai mise sur ma tete aehlngkhxmulxunckrphrrdinopeliynthi 1 thiokhrngkarphinxngkhxngwikiphiediy hakhwamhmaycakwikiphcnanukrmphaphaelasuxcakkhxmmxnsenuxhakhawcakwikikhawkhakhmcakwikikhakhmkhxmultnchbbcakwikisxrshnngsuxcakwikitara The Napoleonic Guide Napoleon Series International Napoleonic Society Biography by the US phlngankhxng ckrphrrdinopeliynthi 1 thiokhrngkarkuethinaebrkh Hit the road with Napoleonkxnhna ckrphrrdinopeliynthi 1 thdipsatharnrththi 1 ladbkxnhnaody phraecahluysthi 16 inthanakstriy ckrphrrdiaehngchawfrngess 18 phvsphakhm 1804 11 emsayn 1814 phraecahluysthi 18 inthanakstriyphraecahluysthi 18 inthanakstriy ckrphrrdiaehngchawfrngess smyrxywn 20 minakhm 22 mithunayn 1815 nopeliynthi 2 imeswyrachy phraecahluysthi 18 inthanakstriyckrphrrdikharlthi 5 aehngormnxnskdisiththi kstriyaehngxitali 17 minakhm 1805 11 emsayn 1814 phraecawikhetxr exmmanuexlthi 2 rachxanackrxitaliyukhihm wyeyawaelakarrbrachkarthhar nopeliynekidthiemuxngxachksioyhruxxaychoch inphasaxitali bnekaakhxrsika emuxwnthi 15 singhakhm 1769 sungepnewlaephiyng 1 pi phayhlngcakthifrngessidsuxekaaniipcak satharnrtheconwa 1768 khrxbkhrwkhxngekhaepnhnungintrakulphudicanwnnxynidbnekaakhxrsika bidakhxngekhaphuminamwakarol buoxnaparet cdkarihekhaidekharbkarsuksathipraethsfrngess thiekhaidekhaiptngrkraktngaetxayu 9 khwb intxnaerkekhathukmxngwaepnkhnhnungphayhlngkarsuksainorngeriynnayrxythhar thiemuxngoxeting briaexnn aela orngeriynthharaehngkrungparis ekhakidekharwmkxngphlpunihy phayitkxngkalngkhxnglaaefr thiemuxngoxsxnn ekhaidrbkaraetngtngepnrxytrithiemuxngwalxngs inpi 1787 dwyxarmnthisxnern xxkaenw oraemntik innganthiekhaekhiyn khwamxyakruxyakehnimmithisinsud bwkkbkhwamthrngcathiepnelis inpi 1789 nopeliynhnummikhwamthndthangichstipyyamakkwathangichkalng emuxkarptiwtifrngessprathukhuninpi 1789 rxyothobnapartidxyuinehtukarnthikrungparis odyepnfaysngektkarn ekhaidefaduprachachnbukphrarachwngtuyelxridwykhwamkhyaaekhyng nopeliynedinthangklbmayngekaakhxrsika thisungkarsurbrahwangfaytang erimkhunxikkhrng odymithangfaykhxngpaskal epali snbsnunrabxbkstriy aelathangtrakulobnapartsnbsnunkarptiwti nopeliynidrbeluxkihepnhwhnakhxngkxngkalngpxngkntnexngaehngchati inpi 1792 odykaraeyngexakxngkalngcakkhnakrrmathikarkhxngrthmaswnhnung aetkarpraharkstriyidthaihekidkartxtankhxngfayxisra sngkhramklangemuxngidprathukhun aelatrakulkhxngnopeliyntxnghlbhnixxkcakekaakhxrsika mayngpraethsfrngess obnapartsnbsnunkarptiwti aelaidthuksngtwiprbtaaehnngnayrxyinkxngphlpunihy thisunybychakaremuxngtulng Toulon inpi 1793 sungtxmaidthukmxbihshrachxanackrpkkhrxng aephnkarthinopeliynmxbihchakhs frxngsws dukxngmiey thaihsamarthyudemuxngtulxngkhunmacakkxngthphklumsnbsnunrabxbkstriyaelaphwkxngkvsid mitrphaphrahwangekhaphwkchakxaebngthaihekhathukcbinchwngsn phayhlngkarsinxanackhxngrxaebspiaeyr inwnthi 27 krkdakhm 1794 hlngcakidrbxisrphaph ekhaktxngephchiykbchwngewlathiprascakphubngkhbbychaxyangepnthangkar aelatxmapxl bars xnuyatihekhabdkhyiklumphusnbsnunrachwngsthilukhuxthiemuxngwxngedaemr ephuxtxtansmchchaaehngchati inpi 1795 inoxkasniexng obnapartidminaythharhnumchuxchxxakim muwra epnphuitbngkhbbycha ptibtikarprasbphlsaercdwykaryingpunihyekhaslayklumsnbsnunrachwngsthiemuxngsngtorch obnapartmiciticphxngis samarthsumsbkhwamruthangkarthhar rwmthungyuththwithiinsmykhxngekha maprayuktihekhakbsthankarncring emuxdarngtaaehnngepnecahnathiinkxngphlpunihy ekhaidkhidkhnkarichpunihyaehngkriobwalepnkxngthphekhluxnthi ichhnunkxngthharedinethaxikthihnung karthphxitali ephuxepnbaehnckhwamchxbthisamarthkarnakxngphlpunihyprabkbtniymeca nopeliynidrbkaresnxaetngtngodylasar karon ihdarngtaaehnngphubychakarthphxitali ephuxyudxitaliklbkhunmacakckrwrrdiormnxnskdisiththi xxsetriy eyxrmn kxngkalngkhxngekhakhadaekhln thngyuthothpkrnaelaesbiyngkhlng sungaemekhacaxdmuxkinmux aelaaetngtwsxmsx aetkidfukfnnaythharinbngkhbbychadwykhwamkhamkekhmn aelasamarthnathphekhapathakbkxngkalngkhxngckrwrrdiormnxnskdisiththithimicanwnmakkwa aelamiyuthothpkrnphrxmkwaid inkarrbhlaytxhlaykhrng inyuththkarthiemuxng hrux minopeliynepnphunathphdwytnexng karrbthamklanghakrasunthaih ephuxnaelaphuchwykhxngekhaesiychiwit nopeliynepnnaythharfimuxchkac phusung xyuthukhnthukaehngaelamxngehnthukxyang wxngiwducsayfaaelbaelaocmtiducsayfafad ekhaepnthiekharphnbthuxkhxngphuitbngkhbbycha dwykhwamsamarthinkarbychakar khwamklahayaelakhwameluxdeyn inbrrdanaythharhlaynaythiaewdlxmekha nopeliynidmxngehnkhwamsamarthkhxngnaythharnirnamkhnhnungchuxwachxng lan tlxdkarsurbinchwngewlann phaphwadkxngbychakarkhxngnopeliyninsmynn idaesdngihehnwa nopeliynidichrabbsuxsarthangikl rabbaerkkhxngolkthieriykwaothrelkhthikhidkhnody echnediywkbkxngbychakarrbxun insmynn nopeliynidthaihckrwrrdiormnxnskdisiththi sungbychakarodyxarchdyukkharl dyukaehngethechin caepntxnglngnaminsnthisyyathiesiyepriyb thimichuxwa wadwyeruxngkarihfrngessekhakhrxngebleyiym aelayudphrmaedniptidaemnairn swnckrwrrdiormnxnskdisiththiidthuxkhrxngaekhwnewenot ehtukarnthirachxanackrxitaliniexng thithaihnopeliynidtrahnkthungphlngxanackhxngtn rwmthngsthankarnthiekhaepntx ekhaepncawaehngsnamrbechnediywkbinthuk thi nkhrmilanekidsphaphkhlay kbphrarachwngelk raylxmnayphlnopeliyn thungaemwaekhacaepnphukumchatachiwitkhxngbrrdaesrsthichawxitaliexaiw aelaidepriybkhutxsuxyumak aetekhakynghangiklkbkhnadiaerktwrfrngessthimixanacbriharcdkarpraeths inpi 1797 dwyaephnkarkhxngnayphloxechxor nopeliynidcdkarthangkaremuxngbangxyangthithaihehlaechuxphrawngsthiyngkhngmixanacinkrungparisaetkchansanesn aelasamarthrksasatharnrthkhxngphwkchakxaebngexaiwid karthphxiyipt nopeliyneyuxnphupwykalorkhthiemuxngcaffa wadody xxngtwn chxng okrs inpi 1798 sphaharxymikhwamkngwltxkraaeskhwamniymthiprachachnmitxnopeliynthiephimsungkhun cungidbychakarihekhanathphbukxiyipt odyxangwafrngesstxngkarekhakhrxngkhrxngdinaedntawnxxkikl aelatawnxxkklangephuxtdesnthanglaeliyngkhxngxngkvsipyngxinediy enuxngdwynopeliynchunchmyukhaesngswangxyuaelw ekhacungidtdsinicnakhnankwithyasastrhlakhlaysakharwmthphipkbekhadwy aelacdtng sunginchwngni hnunginnaythharhnumphutidtamnopeliynxyangpiaeyr frxngsw buchar khnphbsilaoresttathithaihnkxiyiptwithyaxyangchxng frxngsw chxngpxliyng samarththxdrhsihorklifinewlatxma hlngcakthimichyinyuththkarthi frngesstxngkaryudemuxnginxiyiptkhuncungrbkbturkithimixngkvshnunhlng emuxwnthi 16 emsayn 1799 karedinthphtxipyngsieriykhxngnopeliyntxngchangkenuxngcakkarrabadkhxngkalorkh xnepnehtuihmiprachachnlmtayepncanwnmak nopeliynidekhacdkarchwyehluxphutidechuxkalorkhthiemuxngethathisamarththaid emuxwnthi 21 krkdakhm 1798 nopeliynmichytxkxngkalng thasrbichkahlibkhxngckrwrrdixxtotmn in insngkhramexmbaebh thaihchuxkhxngekhakhcrkhcayipikl aetkarphayaephkhxngekhaklbimepnthiklawthung emuxwnthi 1 2 singhakhm 1798 kxngeruxfrngesskhxngnopeliynthukkxngeruxkhxngphleruxothohrachiox enlsn thalayekuxbyxyybinkarrbthi sthankarnrahwangnopeliynkbsmchchaaehngchatidikhun thaihekhaslataaehnngphubychakarthharpracaxiyiptihkbchxng batist eklebr aelaedinthangklbfrngess tlxdesnthangklbkrungparis nopeliynidrbesiyngohrxngchunchmcakprachachninthanawirburus xikdanhnung kxngthphfrngessinxiyiptkphayaephkarrbemux 31 singhakhm 1801 hlngcakesiynaythharipkwa 13 500 nay sungswnihyepnehyuxkhxngorkhrabad kxrthprahar emuxnayphlnopeliynedinthangklbmathungkrungparis ekhaidekhaphbpasnthnakbcharl mxris edx taaelrxng eprikxr rthmntrikartangpraeths nkkaremuxngphumiprasbkarn aelaphuruekmkaremuxngepnxyangdi ekhaidchwyetriymkarkxrthprahar okhnlmkhnadiaerktwr sungepnfaybriharthikalngxxnaexaelaprachachnekliydchng odykaronmnawphuaethnrasdreluxkrthbalihm bibihhwhnakhnarthbaledimlaxxk aelweluxkhwhnarthbalihmekhamaaethn prakxbdwybukhkhlsamkhnthiprascakmlthin xnidaek aexmanuaexl ochaesf sieyaeys rxech duwok smachikkhnadiaerktwrsxngincanwnthnghmdhakhn aelanopeliyn phusungidrbkhwamiwwangic ihmaepnswnhnungkhxngaephnkar nbtngaetekhayxmipxxkrbthixiyipt aelaklbmainthanawirburus wtthuprasngkhkhxngkarkxrthpraharkhrngnikephuxsrangkhwammnicihaekkhnaptiruphwkawhna sungtxngkarrthbalcakkareluxktng wacayngrksakhwammngkhngiwidtxip aelanopeliynthiechuxinrabxbsatharnrthyxmkesiyngkbaephnkardngklaw ephraamikraaescanaphraecahluysthi 18 makhunkhrxngrachyaelafunfurabxbkstriy sunghmaykhwamwakarptiwtifrngessthiphanmannirphl hlngcakthifayptiruphwkawhnasamarthonmnawihsphasungehnchxbkbkarlmlangkhnadiaerktwridaelw aephnkarkhxngkarkxrthpraharemuxwnthi 18 eduxnbruwaemr 1799 tam prakxbdwykhntxndngtxipni nopeliyncadarngtaaehnngphubychakarthharsungsud ephuxrksakhwamsngbinkrungparisaelainrthspha caknncungcdkaroykyaythithakarrthsphaipyngphrarachwngaesng klu briewnchanemuxngparis ephuximihekidkarclaclinkrungpariskhnakxrthprahar aelasamarthkhwbkhumsthankarnid odyxangehtuphlwalththichakxaebngkalngesiyngtxphykhukkhamthungkhnthuklmlangid sunginkhwamepncringkepnechnnn nbtngaetp 1789 epntnma sphakthukprachachnchawpariskhukkhammaodytlxd nopeliynkxrthprahar ehtukarnsakhyekidkhuninwnthi 19 eduxnbruwaemr thiphrarachwngaesng klu fayptiruphwkawhnaidetriymkarekliyklxmihkhnadiaerktwrhakhn ykkhbwnlaxxkcakthiprachumihyaehngchati rwmthngihsphaharxyeluxkrthbalihm aetaephnkardaeninipxyanglachaenuxngcakaenwkhidniimidrbchnthamticakthukfay odyechphaaphwkchakxaebngsxngkhnimyxmlaxxk nopeliynefarxaelatdsinicekhaaethrkaesnginthisud ekhaidnakalngthharklumelkekhaipinhxngprachumsphaharxythikalngthkethiyngknxyangephdrxn aelaidphyayamphudonmnawihsphadngklawyxmrbkarokhnlmkhnadiaerktwraetimmiphuaethnkhnidyxmrbfng cakkarkrathaxukxackhxngnopeliyndngklawthaihmiphuesnxyttiihprakasnopeliynepnbukhkhlnxkkdhmay sungcathaihnopeliynhludcaktaaehnngthnghmd aetsthankarnklbtalptremuxmiphuphyayamlxbaethngnopeliyninhxngprachumspha phaphkhxngphuaethnthiophlmacakthanghnatangephuxlxbaethngnopeliynaephrkracayipthw nopeliynepnphuidepriybinsthankarnnixyangmak ekhaxangwathuksmachikrthsphaisraywacakxrthpraharaelaekuxbcathuklxbsnghar thaihnayphlchxxakim muwra luknxngkhxngnopeliyn mikhxxangnakxngthphekhalxmrthsphaaelakxrthpraharidsaercinthisud sthapnarabxbkngsul aemcakxrthpraharsaerc aetnopeliynkyngyudtidkbrupaebbkarpkkhrxngodykrabwnkarthangkdhmay inkhunwnthi 19 eduxnbruwaemr hlngkxrthpraharsaerc khnaphuaethnyngkhngxyuthiphrarachwngaesng klu ephuxlngmtiesnxraychuxkhnakrrmathikarsxngchudinkaretriymrangrththrrmnuyihm aesdngihehnidwa nopeliyntxngkarphlkdnihmirabxbkarpkkhrxng thikickartang khxngrthphankarlngmticakphuaethnrasdr wnthi 20 eduxnbruwaemr kngsulsamkhnidrbkaraetngtngihbriharpraeths idaek nopeliyn aexmanuaexl ochaesf sieyaeys aelarxech duwok nbepncuderimtnrabbkarpkkhrxngodykhnakngsul nopeliynprakaswa satharnchnexy karptiwtitamwithihlkkarthiiderimkhunmann idsinsudlngaelw rabxbkngsulepnkarpkkhrxngthixanacebdesrcxyuinmuxkngsulsamkhn sungnkprawtisastrbangkhneriykwaepn rabxbephdckarodyprachamti sunginkhwamepncringmiephiyngkngsulexkthikumxanaciwxyangaethcring frngessetriymekhasuyukhihmthiprachachninchaticatxngfakchataiwinmuxkhxngckrphrrdi cakkngsulexkklayepnckrphrrdi citrkrrm nopeliynkhamethuxkekhaaexlp ody chk hluys dawid nopeliyniderimkarptirupnbtngaetrayaerimaerkkhxngkarpkkhrxnginrabxbkngsul imwacaepneruxngkhxngkarsuksa krabwnkaryutithrrm karkhlng aelarabbrachkar pramwlkdhmayaephngthichxng chk erchis edx kxngbaesaersepnphueriyberiyngkhunnn epnthiruckinnamkhxngkdhmaynopeliyn aehngpi 1804 aelayngmiphlbngkhbichinpraethstang thwolkinpccubn xyangirkdi kdhmayaephngdngklawnnmirakthanmacak kdhmayinhmwdtang rwmthungkhnbthrrmeniymhlakhlaycakrabxbpkkhrxnginsmyobran sungnopeliynidrwbrwmkhunihm phlnganthangrachkarkhxngnopeliynmitxenuxngmacnkrathngthungpi 1814 ekhaidcdtngorngeriynmthym thnakharaehngchatifrngess rabbengin thiwakarxaephx sphathipruksakhxngrth rierimkarrngwdphunthithwxanackrfrngess aelacdtngsmakhmekhruxngrachxisriyaphrnaehngchati L ordre national de la Legion d honneur inpi1800 nopeliynidnathphbukxxsetriyaelayudkhrxngidsaerc thaihxxsetriythiphaytxthphkhxngnopeliynthiyuththkaremuxngmaerngok aelatxthphkhxngthiemuxng txngyxmlngnaminsnthisyyaluenwill inwnthi 9 kumphaphnth 1801 sungthaihxngkvsyxmlngnaminsnthisyyaxaemiyngineduxnminakhm 1801 inkaltxma thahakaemxanackhxngnopeliynthuksnkhlxnphayhlngkxrthprahar chychnainyuththkarthimaerngokkthaihsthanakhxngnopeliynaekhngaekrngkhunmak ekhasngthhar 70 000 nayipyngnikhmaesng dxaemngkinthaelaekhribebiyn phayitkarbngkhbbychakhxngnalphl ephuxfunfuxanackhxngfrngess hlngcakprasbkhwamsaercmaphxsmkhwr odyechphaacakkarcb phusungesiychiwitthi thixaephxdubs wnthi 7 emsayn 1803 kxngthphkhxngekhakthukthalayodykarrabadkhxngikhehluxng emuxehndngni nopeliyncungyxmkhayrthluyesiynaihaekshrthxemrika dinaednkhnadihythangtxnehnuxkhxngthwipxemrikaehnux emuxwnthi 24 thnwakhm 1800 idmikarlxbwangraebidnopeliynthithnnsngt niekhs inkrungparis khnathikhbwnrthmakhxngekhakalngmunghnaiporngoxepra rthmakhxngkngsulexkidkhwbphanphncudekidehtuipxyangrwderw raebidekidpathukhunchakwathikhadthaihkrackrthmaaetkkracayethann aetsthanthiekidehtuthiklayepnsakprkhkphngetmipdwykhwamoklahl miphuesiychiwitkwasibkhn ochaesf fuech sungdarngtaaehnngrthmntrimhadithyinsmynn idphisucnwaxachyakrrmdngklawepnfimuxklumfkifkstriy inkhnathinopeliynechuxwaepnfimuxkhxngphwkchakxaebng karprahardyukaehngxxngaekngepnhnunginphlphwngtamma inpi 1802 nopeliynruxfuninxananikhmkhunxiktamkhakhxkhxngphriya xnidaekochesfin edx obxaraen hyingchawcakhmuekaa martinik karfunfudngklawthaihrabbesrsthkicthilmehlwkhxngxananikhmophnthaelthangtawnxxkkhxngmhasmuthrxinediykraetuxngkhun txngrxthungpi 1848 kwakhwamphyayaminkarelikthasxyangeddkhadcaprasbkhwamsaerc hlngcakthinopeliynidkhyayxiththiphlipthungswis thiidcdtngsthabnkracayxanacinpccubn aelaipyngeyxrmni krniphiphathkhxngmxltakepnkhxxangihxngkvsprakassngkhramkbfrngessxikkhrnginpi 1803 rwmthnghnunhlngfayfkifrabxbkstriythitxtannopeliyn nopeliynidtxbotdwyaenwkhidinkarbukxngkvs aelaephuxkhmkhwyfayfkifkstriythixaccakalnglxbwangaephnokhnlmekhaxyu kngsulexksngprahardyukaehngxxngaekng ecachayaehngrachwngsburbng nopeliynyktwexngkhunepnkstriyaehngxitali emuxwnthi 26 phvsphakhm 1805 thinkhrmilan karpraharekidkhunthiemuxngchankrungparis phayhlngkaritswnthithukcdchakihduepniptamkrabwnkar sungkphbwaecachayimmikhwamphid miephiyngxngkvsethannthithkthwng swnrsesiyaelaxxsetriynn sngwnthathiimyxmthdthan thaihekidesiyngelaluxekiywkbnopeliynwaepn rxaebspiaeyrbnhlngma thiekaaesntehelna nopeliynyxmrbkhwamphidni aemwataaelrxngcamiswnphwphndwyktam hlngcakidkxkhwamphidnitxsatharnrth aelaephuximihkngsulexkkhunchuxwakxkhdisngharbukhkhlinrachwngssasxn nopeliyncungidsthapnatnexngkhunepnckrphrrdiemuxwnthi 2 thnwakhm 1804 thacawaknipaelw ckrwrrdifrngessekidkhuncakkhakhxkhxngwuthispha nkprawtisastrechuxinaenwkhwamkhidthiwa karsthapnatnkhunepnckrphrrdikhxngnopeliynnnepnipephuxpkpxngsatharnrth haknopeliynthukokhn klumkhntang calmslayipkbekhadwy ckrphrrdiidklaymaepnsthabn txkyakhwamyngyunkhxngkhwamechuxinkarpkkhrxngrabxbsatharnrth haknopeliyntay nnkhuxkarsuyesiyphusubthxdtaaehnngthimihnathipkpxngpraethscakkhwamoklahl aelannhmaythungkhwamsuyesiykhxngsingthiidmacakkarptiwtifrngess khwamesmxphakh xisrphaph aela khwamyutithrrm karthienginehriyykhxngthangkarfrngesscarukkhawa ckrphrrdinopeliyn satharnrthfrngess nn miichkhaphudesiydsiaetxyangid karpkkhrxngkhxngsatharnrthfrngess idklaymaepnrabxbckrwrrdiniym inphayhlngethann ephuxpkpxngsingthiidmacakkarptiwtifrngess prabdaphiesk citrkrrm prabdaphieskkhxngnopeliyn ody chk hluys dawid phithiprabdaphieskkhxngnopeliynthukcdkhun phayitphraentrkhxngsmedcphrasntapapa thiimidrbekiyrtiihswmmhamngkudaeknopeliyn aetthukldbthbathihaekhmarwmxanwyphraekckrphrrdifrngessethann nopeliynprakasinkhnathiswmmhamngkudihtwexngwa khaphecaphbmhamngkudinlahwy khaphecaechdokhlnxxk aelwkhaphecakswmmniwbnhwkhapheca ninbepnoxkasdiinkarkrachbkhwamsmphnthrahwangfrngesskbwatikn karlngnamkhxngkngsulexkinpi 1801 nnmienuxhayxmrbwakhristsasnanikayormnkhathxlik epnsasnakhxngchawfrngessswnihy aetimichsasnapracachati nbaetnnepntnma nkbwchcatxngxyuinkhwamkhwbkhumkhxngrth inkarfunfunikayormnkhathxlik thaihekidkhwamkngkhawa epnipidhruxthicaekidkarfunfunikayormnkhathxlik phayinrayaewlaimthungsibpihlngcakthihlwngyudthrphysinkhxngobsth nopeliynsngwnthathitxhnasmedcphrasntapapa ekhaxxkiptxnrbphrasntapapathipafngaetnobl odykhimaipaelaswmchudlastw thaihchakkarphbpadngklawmilksnaehmuxnkarphbknodybngexiy aelaechnediywkn inpi 1804 ckrphrrdimiidepnphuedinthangipprakxbphithikhunkhrxngrachythikrungormtamthickrphrrdiormnekhykratha aetepnphrasntapapathithukechiymayngkrungparisrawkbwaepnnkbwchthiedinthangmaaeswngbuy eracaehnidwa karthinopeliynekhahasasnckrnn epnipephuxphlpraoychnechphaaxyang srangsmphnthrahwangkhathxlikkbfrngess aelathaihckrphrrdimithanaethiybethakbkstriyxyangthuktxng aelaemuxphrasntapapamithathikradangkraeduxngtxkhasngkhxngnopeliyn ekhakimrxchathicakhngphrasntapapaiwinphrarachwngfngaetnobl ckrwrrdieruxngxanac inpi 1804 yngimthungewlaaehngkarxxkrbkhrngihyephuxyudkhrxngdinaedn aelackrphrrdinopeliynthi 1 sungyudtidkbaenwkhwamkhidwa sntiphaphxyangthawrcamiid txemuxprabshrachxanackrlngidethann idrwmkbphleruxexk phusungesiychiwitkxncakrathakarsaerc wangaephnrukranekaaxngkvs sungepnaephnthilmehlwxyangsineching cakkarrbthiyuththnawithraflkar kxngeruxphsmfrngess sepnthibychakarody thukphleruxoth lxrd enlsn aehngrachnawixngkvsticnaetkphay thaihshrachxanackr klayepnmhaxanacthangthael nbaetnncwbcninxikhnungstwrrstxma ckrphrrdinopeliynthi 1bnphrarachxasn inpiediywknnnexng 1805 idmikarshsmphnthmitrkhrngthisaminyuorpkhunephuxtxtanckrphrrdinopeliynthi 1 thaihckrphrrdiphusungkalngbychakar cakemuxnginfrngess ephuxetriymkarbukbrietnihy txngephchiykbsngkhram sungekidkhuninxikfakhnungkhxngthwipyuorpxyangkathnhn ckrphrrdinopeliynthi 1 idrbsngihtngrbodythnthi odybngkhbihnathphihyxxkedinetha aelasyyawacanachychna txphwkxxsetriyaelarsesiymaihcakyuththkarthiexasethxrliths thiidchuxwaepn sngkhramsamckrphrrdi inpi 1806 sngkhramshsmphnthmitrkhrngthisiiderimtnkhun prsesiyidkxehtuphiphathkhrngihm odyphraecafridrich wilehlmthi 3 aehngprsesiy tdsinphrathythicathasngkhramkbkxngthphfrngessodylaphng tamtananelawanayphlkharl fxn ekhlaesxwiths nkthvsdithangthharekhyesnxaephnkarrbthichaychlad sungepnaephnkarthickrphrrdinopeliynyngchunchm inkhwamrwderwkhxngkarnaaenwkhideruxng citwiyyanaehngolk khxngehekilmaich aetaephnrbdngklawimidrbkarxnumticakfaybychakarkhxngkxngthphprsesiy xyangirkdikxngthphihykhxngnopeliynmikhwamidepriybmak ephraatngxyuinphunthiiklchayaednprsesiy nopeliyncungthrnglngmuxocmtikxnaelaidrbchychnaxyangkhadlxyinyuththkarthieyna exaexxrchetth odykxngthphhlwngkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 samarthkwadlangkxngthphprsesiyinyuththkarthieynaemuxwnthi 14 tulakhm inkhnathicxmphlhluys nikxla dawutithphihykhxngcxmphldyukaehngebranchiwkhaetkphayipinsmphumithiemuxng aemwathphhlwngkhxngprsesiycamicanwnthharehnuxkwakxngthphfrngessthinaodycxmphlhluys nikxla makktam dyukaehngebranchiwkhbadecbsahsinthirb thharkhxngprsesiythiaetkmacakyuththkarthieynathalkekhamasuyuththkarthiexaexxrchetth naipsukhwamesiykhwyaelakhwamphayaephxyangeddkhad cxmphldawucungidrbkaraetngtngcakckrphrrdinopeliynthi 1 ihepn dyukaehngexaexxrchetth ephraakhwamchxbinkhrngni aetckrphrrdinopeliynthi 1 yngimhyudaekhnn inpithdmaphraxngkhidthrngedinthphkhamopaelnd odythrngsthapnadchchiwxrsxkhunaelaihphnthmitrkhxngfrngesspkkhrxng caknnnopeliynidykkxngthphkhunehnuxephuxephchiyhnakbkxngthphrsesiy nopeliynrbchnakxngthphrsesiythiyuththkarthifrithlnthinwnthi 14 mithunayn 1807 thangfayrsesiytxngkhxyxmsngbsuk aelanaipsukarlngnaminsnthisyyaemuxngineduxnkrkdakhm 1807 kbckrphrrdixaelkhsndrthi 1 aehngrsesiy xnepnsnthisyyawadwykaraebngdinaednyuorpknrahwangfrngessaelarsesiy sxngmhaxanacinkhnann ephuxepnkarkhmkhwystru frngesskhrxngyuorptawntk aelarsesiykhrxngyuorptawnxxk odymiopaelndxyutrngklang nopeliynphusungidrbkarsuksacakorngeriynaelakhrubaxacaryinrabxbeka txmaiddarngtaaehnngnaythharinkxngthphhlwng idthalaykdeknthdngedimthangkarthharxyangsineching dwykarimrierimsngkhramthikinewlanankwahnungstwrrsinkarrbdwyphlthhar 30 thung 50 000 nay aetmxnghakarrbthisamarthephdcsukidxyangeddkhad ichthharkwa 100 000 nayhakcaepn nnkhuxckrphrrdinopeliynthi 1 imtxngkarcaepnphunainyuththkarethann aettxngkarcabdkhyistruxikdwy inpi 1808 ckrphrrdinopeliynsrangrabbskdinakhxngckrwrrdifrngessihaekklumchnchnsungthiaewdlxmphraxngkh imnantxma brrdanayphnaelanayphlkhxngnopeliyntangidrbyskhunnang ekhantaehngckrwrrdi ecachayaehngenxchaaetl dyukaehng dyukaehng dyukaehngdnthsich dyukaehng kstriyaehngnaopli l cakkrungxmsetxrdmthungkrungorm ckrwrrdikhxngckrphrrdinopeliynthi 1 miprachakrrwmthngsinkwa 70 lankhn odymiephiyng 30 lankhnethannthiepnchawfrngess ptibtikarthikhabsmuthrixbieriy xxsetriy aelarsesiy enuxngdwyaenwkhidkhxngxngkvsthicakidkneruxsinkhafrngess ckrphrrdinopeliynthi 1 elyphyayamcabngkhbihekid odymiwtthuprasngkhcahyudyngkickrrmthangkarphanichykhxngxutsahkrrmxngkvs oprtueks xnepnpraethsphnthmitrkhxngxngkvsmaepnewlachanan ptiesththicalngnaminsnthisyyani ckrphrrdinopeliynthi 1 cungthrngkhxkhwamchwyehluxcaksepninkarbukoprtueks inthisudphraxngkhkidrukranpraethssepn aelatngochaesf obnapart phichaykhunepnkstriypkkhrxngthinn aelaoprtuekskthukckrphrrdinopeliynthi 1 rukranechnkninpi 1807 prachakrswnhnungkhxngsepnthikhlngikhlinklumnkbwchidlukhuxkhuntxtanchawfrngess inimcha kxngphlthharrabfimuxeyiymkhxngxngkvs bychakarodywathidyukaehngewllingtn xarethxr ewlsliy kidekhluxnthphsusepn odyphanoprtueksinpi 1808 aeladwykhwamchwyehluxkhxngklumphurkchatichawsepn kidphlkdnkxngthphfrngessxxkcakkhabsmuthrixbieriy inkhnathikxngthharthifimuxdithisudkhxngfrngesskalngptibtipharkicxyuinsepn xxsetriykidbukfrngessxikkhrngcakaethbeyxrmni aelathukprablngxyangrabkhabin cxmphllans ephuxnaelaphurwmrbekhiyngbaekhiyngihlkhxngckrphrrdickrphrrdinopeliynthi 1 idthungaekkrrmthiemuxng hlngcakthisarxelksanedxrthi 1 aehngrsesiy idrbkarhnunhlngcakchnchnsunginrsesiythiekhakhangfayxngkvs kidptiesththicarwmmuxkbckrphrrdinopeliynthi 1 inkarocmtishrachxanackr ckrphrrdinopeliynthi 1 sungechuxwaimmithanghlikeliyngsngkhramkbxngkvsid idkrithathphbukrsesiyinpi 1812 kxngthphihykhxngckrphrrdinopeliynthi 1 prakxbdwykxngthphphnthmitrxitali eyxrmni aelaxxsetriymikhnadmhuma mithharkwa 600 000 naythirwmedinthphkham kxngthphrsesiyinbychakhxngcxmphlmihaxil khutusxf ichklyuththphlayphphinkartankarrukrankhxngfrngess karrbthimxsokemuxwnthi 12 knyayn immiphuidaephchna aemwaphwkrsesiycaepnfaythingchyphumi aetthngsxngfaykesiythharipincanwnphxkn wnrungkhunhlngcakkxngthphfrngessekhluxnthphekhakrungmxsok kphbwamxsokklayepnemuxngrang emuxfrngesstayic phwkrsesiyidcudifephakrungmxsokinthnthi thaihckphrrdinopeliynthi 1 txngthxythph vduhnawxnohdray kalngcamaeyuxndinaednaethbrsesiyinxikephiyngimkiwn ckrphrrdinopeliynthi 1 thikhadwacamikhwamekhluxnihwcaksarsaridchalxkarthxythphipcnthungnathisudthay kxngthphfrngessidthxythphxyangthulkthuelipthangeyxrmni inchwngvduhnawkhxngrsesiy phandinaednthiekhyepnthangphantxnkhamaaelathukocmtiesiyyxyyb incanwnthharekuxb 500 000 naythiekharwmrb miephiynghmunkwanaythisamarthkhamklbmaid aethmyngthukkxngthphrsesiydkocmti kxngthphihykhxngckphrrdinopeliynthi 1 txngthungkallmslayenuxngdwyimruckphunthidiphx hlngcakthiidiccakkhawkhwamphayaephkhxngfrngessinrsesiy kstriyyuorphlayphraxngkhidaeprphkdicakfayckphrrdinopeliynthi 1 aelaykthphmarbkbfrngess ckrphrrdinopeliynthi 1 sungthukkhninkxngthphkhxngphraxngkhexngthrys idphbkbkhwamphayaephxyangsinechingthiyuththkarthiilphsic hruxthiruckinnamkhxng sngkhramshsmphnthmitrkhrngthihk sungkxngthphfrngess 200 000 naypathakbkxngthphphnthmitr 500 000 nay rsesiy xxsetriy eyxrmni swiedn cxmphlyuaesf xntxyi pxyatxfski ecachayaehngopaelndaelaphrarachnddakhxngphramhakstriyxngkhsudthaykhxngopaelnd idsinphrachnmlnginkarrbkhrngni hlngcakphyayamnathharkhxngphraxngkhkham miphubadecbaelaesiychiwitrwmthngsin 100 000 khn xanaekhtkhxngckrwrrdifrngessinchwngpi 1811 simwnghmaythungfrngessaephndinaem simwngxxnhmaythung rthinxarkkhakhxngfrngesskhwamphayaephinfrngess inpi 1814 shrachxanackr rsesiy prsesiy aelaxxsetriy idrwmepnphnthmitr aemwackrphrrdinopeliynthi 1camichyxyangimnaechuxinkarrbthi aela dwykarnathphthharihmkhadprasbkarn kxngthphmari hluys thitngchuxtamckrphrrdinimari hluys mehsiinckrphrrdinopeliynthi 1 krungparisthuktiaetkemuxwnthi 31 minakhm aelabrrdacxmphlrwmtwonmnawihckrphrrdinopeliynslarachsmbti ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngkhidwafayphnthmitrcaaeykekhaxxkcakckrphrrdini aelanopeliynthi 2 kstriyaehngorm phraoxrskhxngphraxngkh dngnn inkhunwnthi 12 aelaechawnthi 13 emsayn ckrphrrdinopeliynthi 1 ideswyyaphisipinprimanthicaplidchiphphraxngkhexng yaphisdngklawkhuxfinphsmkbnaelknxy mikhnbxkphraxngkhwaswnphsmdngklawmiphismakphxthicakhakhnidthungsxngkhn nopeliyneluxkthicakhatwtaydwywithiniephraaechuxwasphkhxngtncatxngthukpracanihkhnfrngessdu phraxngkhtxngkarihkharachbripharkhxngphraxngkhcaphraphktrthieriybechyid echnediywkbthiekhyehnphraxngkhinyuththkar hlngcakphanphnewlaethiyngkhunmaxyangthukkhthrman ckrphrrdikbnwaswnphsmfinkhxngphraxngkhxxkvththichaip nopeliynprakastxhluys edx okaelngkur wa khataydwykhwamthukkh khathukkhthimirththrrmnuythiyudchiwitxxkipaelathaihkhacbchiphchakwaedim xakarkhlunehiynxaeciynkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 runaerngkhunthukthicnimxacklnxaeciyniwidxiktxma cnkrathngxaeciynxxkmaxyangrunaerng phraxngkhthrngthukkhthrmanxyangimsinsudcnkrathngnayaephthyxiwxngmathung ckrphrrdinopeliynthrngkhxihaephthythwayyaphisxikkhnanephuxcaidswrrkhtesiythi aetnayaephthyptiesthodykrabthulwaekhaimichkhatkraelaekhacaimyxmthainsingthikhdtxsamysanukkhxngtnxyangeddkhad khwamthrmankhxngckrphrrdiyngkhngdaenintxip okaelngkurxxkcakhxngaelabxkihkharachbripharengiybesiyng nopeliyneriykokaelngkuraelabxkwaphraxngkhyxmtayesiydikwayxmlngnaminsnthisyya aelaaelwyaphiskkhlayvththilng aelaphraxngkhksamarthdaeninkickrrmtampktiidinthisud aetimmiikhrthrabaenchdwaehtuidxngkhckrphrrdicungrxdchiwitmaidcakkarklunfininprimankhnadnn imkraephaakhxngphraxngkhkhyxnxxkma imkyaphisidesuxmvththilngipexng thaythisud nopeliynenrethstnexngexngipyngekaaexlbatamthirabuiwinsnthisyyafngaetnobl odyyngthrngdarngphraysepnckrphrrdi aelamixanackarpkkhrxngechphaabnekaaaehngni khunsuxanacepnewlarxywn thipraethsfrngess phraecahluysthi 18 thrngkhbckrphrrdinopeliynthi 2 aelakhunkhrxngrachyaethn ckrphrrdinopeliynthi 1 epnkngwlekiywkbchatakrrmkhxngphramehsi odyechphaaxyangyingkhxngphraoxrskhxngphraxngkhthitkxyuinenguxmmuxkhxngphwkxxsetriy rthbalfrngessthifkifrabxbkstriyptiesthcacaykhaeliyngduihtamsyyainthisud aelamikhawluxwaekhakalngcathuksngtwipyngekaaelk thangtxnitkhxngmhasmuthraextaelntik dngnn ckrphrrdinopeliynthihlbhnixxkcakkarkhumkhngbnekaaexlba idkhunsufngbnaephndinfrngessiklkbemuxngkhans emuxeduxnminakhm 1815 kxngthphthithuksngipcbkumtwekhaklbmatangohrxngtxnrbeyiyngwirburustlxdesnthangcak khunmayngemuxng sungesnthangdngklawthukeriykwa thnnsayckrphrrdinopeliynthi 1 ipaelw cxmphlmiechl inyphusungidsabantxhnaphraecahluysthi 18 wacanackrphrrdinopeliynthi 1 klbmainkrngehlk krusukoxnxxnekhahafayckrphrrdiedimkhxngtn hlngthickrphrrdinopeliynthi 1 edinxyangxukxacekhaipprakastxfungchnwa thharaehngkxngphl 5 erakhuxckrphrrdikhxngphwkeca phwkecakruckeradixyuaelwmiichhrux thahakmiikhrinhmuphwkecathnghlaymaephuxthicacbckrphrrdikhxngeca erakxyuthiniaelw thaihekhaklayepncxmphlkhnediywthithukcbkuminkhxhathrrachy hlngcakkarfunfurabxbkstriykhrngthisxng ckrphrrdinopeliynthi 1 edinthangthungkrungparisxyangngayday chwngewla khunsuxanacepnewlarxywn erimtnkhun aetkhwamlmehlwkekidkhunsarxy kxngthphkhxngekhaphaykarrbkbxngkvsaelaprsesiythiyuththkarwxetxrlu inebleyiym emuxwnthi 18 mithunayn 1815 cxmphlimsamarthtanthankxngthphrwmrahwangxngkvsaelaprsesiyid enuxngcakepnthphhlwngthiykma thukenrethsipekaaesntehelna aelakaenidkhxngtanan phrabrmxthikhxngckrphrrdinopeliynthi 1 thukfngiwthisusanaexngwalid inkrungparis ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngthukkhng aelathukxngkvssngtwipyngekaaesntehelna tambychakarkhxng phrxmkbnaythharthiyngcngrkphkdibangswn rwmthungekhantdwy ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngichewlabnekaaesntehelna thrngxuthisihkbkarekhiynbnthukkhwamthrngcakhxngphraxngkh inchwngkhrunghlngkhxngeduxnemsayn 1821 phraxngkhidthrngekhiynphrarachphinykrrm aelahmayehtuphrarachphinykrrmhlaychbbdwyphraxngkhexng rwmkwasisibhnadwykn khaphudsudthaykhxngphraxngkhkxnsinicidaek frngess kxngthph ochesfin France armee Josephine hruxcakthibnthukiwin cdhmayehtuekaaesntehelna khux sirsa kxngthph phraeca inpi 1995 cdhmayehtukhxngekhant kharbichkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 idthuktiphimph ekhaidekhiynelaehtukarn chwngimkieduxnsudthaykxnckrphrrdinopeliynthi 1 caswrrkht aelahlaykhnechuxwaphraxngkhthuklxbwangyaphisdwysarhnu inpi 2001 paskhal khinth aehngsthabnkdhmayemuxngsthrasburidthakarphisucnthvsdini dwykarsuksaharadbsarhnuinesnphraeksa phm khxngckrphrrdinopeliynthi 1 phayhlngcakthiphraxngkhswrrkht sungkphbwamisarhnuxyuekinkwaradbpkti 7 thung 38 etha karwiekhraahkhxngnitysar idaesdngihehnwa samarthphbsarhnuinradbkhwamekhmkhnethakncaktwxyangthiekbidmacakpi 1805 1814 aela 1821 dngnncungtxngklawthung thrrmeniyminsmynnthiniymswmwikphmphnthbdwyaepngphng yingipkwann eraxacechuxinkarwiekhraahkhxngnkwicychawswisthibxkwa ckrphrrdinopeliynthi 1 swrrkhtcakphraorkhmaernginkraephaa aemwackrphrrdicamiphrawrkaykhxnkhangecaenuxkxnswrrkht nahnk 75 5 k k swnsung 167 s m nkwicyyngidsarwckangekngthickrphrrdinopeliynthi 1 swmisinsmynn aelasamarthrabuidwaphraxngkhminahnkldlngthung 11 k k phayinewla 5 eduxnkxnkarswrrkht smmtithandngklawekhythukklawwaimnacaekidkhunidenuxngcakckrphrrdinopeliynthi 1 miphrawrkayihyekinkwathicaepnkhnpwydwyorkhmaerng ckrphrrdinopeliynthi 1 idthrngkhxihfngphrabrmsphkhxngphraxngkhiwrimfngaemnaaesn aetemuxphraxngkhesdcswrrkhtinpi 1821 phrabrmsphkhxngphraxngkhidthukplngthiekaaesntehelna inpi 1840 phrabrmxthiidthukechiyklbmayngpraethsfrngessdwykartxnrbxyangsmphraekiyrti aelaidthukfngiwthixxaetledaesngwalidinkrungparis odyisiwinoththithadwy xnepnkhxngkhwythirsesiymxbihaekfrngess mummxngrwmsmythimitxnopeliyn chptal nopeliynidichphraxngkhexngepncdhmayehtuephuxthasngkhramkbstru odyechphaaxyangyingkbphwkxngkvs phraxngkhidthrngekhiynbnthukthukchbbdwyphraxngkhexng sahrbihlnginhnngsuxphimph le Moniteur ephuxtxbotbthwicarnthikhmkhunaelakhxklawhathiimepncringthiidthuktiphimphiwinhnngsuxphimphxngkvs emuxphraxngkhidthrngtiphimphbnthukchbbhnung phraxngkhthrngechuxwasamarthonmnamphuxanidaelw erakhngcaknidwabnthukswnihyimichtnaebbthidikhxngnganekhiyn hruxtwxyangthidikhxngwrrnkrrm aetphraxngkhkmiidthrngtiphimphxairthiaesdngihehnthungbukhlikkhxngphraxngkh hruxkhwamsamarththiphraxngkhmiexaiwelyphlngankhxngnopeliyn obnapart thrrmeniymphrayskhxng ckrphrrdinopeliynaehngfrngessphrarachlyckrthngpracaphraxisriyyskarthulyw ximphieriyl maecstithrrmeniymphrayskhxng phraecanopeliynaehngxitaliphrarachlyckrkarthulyw maecstiinchwngthidarngtaaehnngkngsulexk 13 thnwakhm wnthi 22 pithi 8 tamrabbptithinkhxngsatharnrthfrngess matrathi 52 khxngrththrrmnuyfrngess sthapnafrngess 13 thnwakhm wnthi 22 eduxnfriaemr pithi 8 sthapnawuthisphafrngess 13 kumphaphnth wnthi 24 pithi 8 sthapna 17 kumphaphnth wnthi 28 eduxnpluwioxs pithi 8 kxtngthithakarxaephx 8 emsayn wnthi 18 pithi 10 lngphranamrwmkb inkhwamtklngwadwyeruxngsasnakhxngpraeths 1 phvsphakhm wnthi 11 pithi 10 kngsulexkobnapartidsthapnaorngeriynmthyminfrngess 19 phvsphakhm wnthi 29 eduxnflxerxal pithi 10 idsthapnasmakhmekhruxngrachxisriyaphrnaehngchati 24 thnwakhm kxtnghxkarkha 22 aehng 7 emsayn wnthi 17 eduxnaechrminal pithi 11 idrierimrabbenginfrngkaecrminal 21 minakhm wnthi 30 pithi 12 pramwlkdhmayaephngiderimmiphlbngkhbichinchwngthiepnckrphrrdi 18 minakhm wnthu 21 eduxnaecrminal pithi 9 sthapna 10 phvsphakhm sthapnakhunepnaehngaerk thimirupaebbiklekhiyngkbmhawithyalyinpccubn enuxngcakkxtngkhunmatngaetpi inpi ckrphrrdinopeliynthi 1 miphrarachdariihsrangkhunthi 9 kumphaphnth thrngruxfunrabb thaihchawyiwsamarthprbtwekhakbkarphankxasyinckrwrrdifrngessidngaykhun 16 knyayn ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngsthapnaaehngchatifrngesskhun inpi nopeliynidmxbhmayih rbphidchxbinkarkxsrangtladhunfrngesskhuninkaltxma 17 minakhm nopeliynmiphrarachdarioprdeklaihsrangkhun 12 minakhm miphrarachdarioprdeklaihtrakdhmayxayaaehngchatifrngesskhunkhrxbkhrw karsmrsaelaoxrsthida nopeliynsmrssxngkhrng emuxwnthi 9 minakhm 1796 emuxkhrngyngepnnayphlkxnxxkptibtikarinxiyipt idekhaphithismrskbnangochesfin edx obxaraen aemmayluktidchawfrngessechuxsayebek cak phusungtxmaidrbkaraetngtngihepnckrphrrdiniaehngfrngessinphithikhunkhrxngrachykhxngnopeliyn enuxngcaknangmixayumakaelwcungimsamarthmioxrsthidaihkbnopeliynid sungkarthixngkhckrphrrdiirsungphusubthxdbllngkdngklawthukmxngwaekiywkhxngodytrngkbkhwammnkhngkhxngckrwrrdi karsmrskhrngnicungcblngdwykarhyarang emuxwnthi 11 minakhm 1810 idekhaphithixphiesksmrs kbxarkhdchechsmari hluysaehngxxsetriy ephuxepnkarsansmphnthimtriaelahlikeliyngsngkhramkb xarkhdchechsmari hluysidihkaenidphrarachoxrshnungphraxngkh idaek nopeliynthi 2 thrngidrbkaraetngtngcaknopeliynihdarngtaaehnngkstriyaehngkrungorm dyukaehng aeteramkcaeriykphraxngkhwanopeliynthi 2 esiymakkwa aemwaphraxngkhcaimekhykhunepnphraecaaephndinfrngessxyangaethcringelyktam thacawakntamthvsdiaelw rchsmykhxngphraxngkhkinrayaewlaephiyng 15 wn rahwangwnthickrphrrdinopeliynthi 1 thukbngkhbihslaphrarachbllngkkhrngaerk cnkrathngmikarfunfurachwngsburbng phrachayanamwa ehyiywnxy nnmacakbthkwikhxng thipraphnthkhuninpi 1852 nopeliynyngmibutrnxksmrsxikxyangnxysxngkhn sungthngsxngkhnnntangkmithayathsubtxma ekhantcharl elxng chata 1806 mrna 1881 butrchaykhxngnang chata 1787 mrna 1868 ekhant chata 4 phvsphakhm 1810 mrna 27 tulakhm 1868 butrchaykhxngekhanets chata 1789 mrna 1817 aelacakaehlngkhxmulthiyngepnthithkethiyngkn exmilli luys mari frxngsws ochsfin epllapra butrsawkhxngfrxngsws mari elxrw kharl yucng fxn muhlefld butrchaykhxngwikhtxeriy okhrs exeln nopeloxn obnapart butrsawkhxngekhanetsmxngotlxng chata 19 singhakhm 1805 mrna 24 phvscikayn 1895 odyimthrabwamardakhxngekhaepnikhrphinxngkhxngnopeliyn echorm obnapart ochaesf obnapart hluys obnapart luwesiyng obnaparthlanchay hying nopeliynthi 3 charl hluys nopeliyn obnapart hlanchay idichoxkascakkhwammichuxesiyngkhxngckrphrrdinopeliynthi 1 thaihekhaidrbeluxktngepnprathanathibdiaehngfrngess inchwngsatharnrthfrngessthi 2 caknnkidyudxanacaelakxtngckrwrrdithi 2 khun aelaepnckrphrrdipkkhrxngfrngessphayitphranamwanopeliynthi 3 aehngfrngess tlxdkarkhrxngrachykhxngphraxngkh idmikarprakasichkdhmaythangsngkhmaelakdhmaysmyihmcanwnmak phraxngkhphayaephsngkhramaelayxmmxbtwihkbprsesiyinpi 1870 cakkarrbthi nkstwwithyaechuxsaykhxngnopeliynthiodngdng hnngsuxchiwprawtiekiywkbnopeliyn Napoleon ou le Mythe du Sauveur Jean Tulard dir Dictionnaire Napoleon Thierry Lentz en collaboration Autour de l empoisonnement de Napoleon preface par Thierry Lentz le Sacre de Napoleon Ed Nouveau Monde 2003 Thierry Lentz Napoleon coll Vues sur Napoleon Adolphe Thiers Histoire du Consulat et de l Empire Mes souvenirs sur Napoleon Francois Rene de livres XXIX a XXII Jacques Bainville Napoleon 1931 Steven Englund Napoleon a political life 2003 Napoleon et le Analyse d un discours Preface de Maximilien Vox Napoleon Paris France Editions du Seuil collection Le temps qui court 1959 184 pages Cote dewey 923 1 N216v otlstxy Guerre et Paix stxngdal La Chartreuse de Parme pathrik lxmob La Bataillephaphyntrekiywkbnopeliyn ph s 2455 1912 nopeliyn xanwykarsrangody frngess ph s 2470 1927 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2472 1929 sngteteln Napoleon auf St Helena xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2477 1934 nopeliyn obnapart xanwykarsrangody naaesdngody naphaphyntrinpi masrangihm miesiyngprakxb frngess ph s 2478 1935 Campo di maggio xanwykarsrangody naaesdngody xitali ph s 2484 1941 nopeliyn xanwykarsrangody xarecntina ph s 2498 1955 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2503 1960 exachaetrliths xanwykarsrangody naaesdngody frngess ph s 2513 1970 wxetxrlu xanwykarsrangody naaesdngody Rod Steiger xitali aela shphaphosewiyt ph s 2514 1971 obnapartkbkarptiwti xanwykarsrangody naaesdngody namasrangihmcakphakhedimemuxpi aela lakhrothrthsn xxkxakasinfrngess ph s 2532 1989 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody lakhrothrthsn xxkxakasinhngkari ph s 2533 1990 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody phaphyntrothrthsn xxkxakasinfrngess opaelnd ebleyiym aekhnada ph s 2542 1999 Pan Tadeusz xanwykarsrangody naaesdngody opaelnd ph s 2543 2000 nopeliyn xanwykarsrangody naaesdngody lakhrothrthsn xxkxakasinfrngess eyxrmni aekhnada shrth aelashrachxanackr 2023 ckrphrrdinopeliyn kakbody ridliy skxtt naaesdngody wakhin finiks shrthxemrika hmayehtu xangxing