สิม หมายถึง โรงที่พระสงฆ์ทำสังฆกรรมต่าง ๆ เป็นภาษาพื้นถิ่นในวัฒนธรรมล้านช้างและภาคอีสานของประเทศไทย มีความหมายเดียวกับโบสถ์หรืออุโบสถของภาคกลางในประเทศไทย
คำว่า "สิม" มาจากคำว่า สีมา สิมมา หรือพัทธสีมา ที่ปรากฏในคำจารึกบนแผ่นหินที่ประกาศเจตนาอุทิศของผู้สร้างปักไว้ด้านหลังสิมมีปรากฏอยู่ทั่วไป ความหมายของคำเหล่านี้ หมายถึง เขตแดนที่กำหนดในการประชุมทำสังฆกรรมอันเป็นกิจของสงฆ์โดยมีแผ่นสีมาหินเป็นเครื่องหมายแสดงขอบเขตรอบบริเวณตัวสิม
ประเภท
สิมอีสาน
ลักษณะโดยทั่วไปของสิม แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักตามสภาพของแหล่งที่ตั้ง คือ สิมน้ำและสิมบก สิมน้ำ เป็นสิมที่ตั้งอยู่กลางน้ำ เช่น สระ หนอง บึง ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สร้างอย่างชั่วคราวสำหรับวัดที่ยังไม่มีวิสุงคามสีมา ส่วนใหญ่สิมบกเป็นสิมที่ตั้งอยู่บนแผ่นดิน มีลักษณะเป็นอาคารถาวร นอกจากนี้ สิมยังแบ่งตามลำดับอายุก่อนหลังและลักษณะร่วมในรูปแบบได้เป็น 4 ประเภท คือ สิมก่อผนังแบบดั้งเดิม สิมโถง สิมก่อผนังรุ่นหลัง และสิมแบบผสม
สิมอีสานที่วัดป่าแสงอรุณ จังหวัดขอนแก่น เป็นสิมที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยกให้เป็นสิมอีสานตัวอย่าง
ด้านยุคสมัยของสิมอีสาน สามารถจำแนกได้เป็น 4 ช่วงเวลา ดังนี้
- สิมอีสานในยุคก่อน พ.ศ. 2475 มีอิทธิพลศิลปะสถาปัตยกรรมแบบอย่างวัฒนธรรมลาวล้านช้างเป็นวัฒนธรรมกระแสหลัก โดยสิมอีสานล้วนมีรูปแบบลักษณะแบบอย่างศิลปะลาวล้านช้างในรูปแบบสายสกุลช่างพื้นบ้าน ตัวอย่าง เช่น สิมวัดกลางมิ่งเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด วัดพระเหลาเทพนิมิต วัดศรีคุณเมือง จังหวัดเลย วัดมโนภิรมย์ จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งล้วนมีอิทธิพลศิลปะแบบอย่างสายสกุลช่างหลวงล้านช้างทั้งทางตรงและทางอ้อม
- สิมอีสานช่วง พ.ศ. 2475–2500 เป็นยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นสิมที่ได้รับการผสมผสานกับสกุลช่างอื่น เช่น สิมวัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะศิลปะเชิงช่างหลวงล้านช้างผสานกับสกุลช่างหลวงกรุงเทพฯ ยุคต้น ถือเป็นสิมต้นแบบของสกุลช่างเมืองอุบลที่มีลักษณะไทย หรือสิมที่ได้รับการผสมผสานกับช่างญวน เช่น สิม จังหวัดอุบลราชธานี จนตั้งแต่ พ.ศ. 2483 เป็นต้นมา นโยบายรัฐนิยมแห่งความเป็นไทย มีการผลิตสร้างแบบโบสถ์ สำเร็จรูป ก ข ค ของกรมศิลปากรซึ่งออกแบบโดยพระพรหมพิจิตร จึงเป็นสิมที่ได้รับอิทธิพลไทยชัดเจนขึ้น
- สิมอีสานช่วง พ.ศ. 2500–2534 เป็นยุคที่มีการขยายสาขาวัดป่าเป็นจำนวนมาก งานช่างศาสนาคารในยุคนี้มักแสดงออกและผลิตซ้ำถึงความเป็นไทย มากกว่าการสร้างสรรค์ในลักษณะลาว สิมมีการพัฒนาสู่สิมร่วมสมัย เช่น สิมวัดศาลาลอย จังหวัดนครราชสีมา
- สิมอีสานช่วง พ.ศ. 2534–ปัจจุบัน มีลักษณะการสร้างสรรค์ศิลปะศาสนาคารอีสานมีความหลากหลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พัฒนารูปแบบงานในแบบฉบับของตนเอง เช่น สิมวัดล้านขวด และวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว เป็นต้น
- วัดพระเหลาเทพนิมิต สิมอีสานในยุคก่อน พ.ศ. 2475
- วัดทุ่งศรีเมือง สิมอีสานช่วง พ.ศ. 2475–2500
- วัดศาลาลอย สิมอีสานช่วง พ.ศ. 2500–2534
- วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว สิมอีสานช่วง พ.ศ. 2534–ปัจจุบัน
สิมในศิลปะลาว
นักวิชาการลาว แบ่งสิมออกเป็น 3 ประเภท คือ สิมหลวงพระบาง สิมเวียงจันทน์ และสิมเซียงขวาง (เชียงขวาง) ต่อมาเมื่อเมืองหลวงพระบางประกาศขึ้นเป็นมรดกโลก ยูเนสโกได้แบ่งสิมออกเป็นสี่รูปแบบ คือ แบบหลวงพระบางหนึ่ง สอง สาม และรูปแบบอย่างไทย ส่วนนักวิชาการไทย แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบ ได้แก่ แบบหลวงพระบางดั้งเดิม แบบเวียงจันทน์ แบบเซียงขวาง แบบไทลื้อ สิมแบบผสมผสาน และสิมอิทธิพลรัตนโกสินทร์
- สิมหลวงพระบาง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า นิยมทำมุขโถงด้านหน้าที่เรียกว่า "เซีย" โครงสร้างหลังคามีความอ่อนช้อย หลังคาปีกนกที่แผ่กว้างและแอ่นโค้งคลุมลงเกือบถึงพื้น มีการซ้อนหลังคา ที่เรียกว่า "เทิบ" บ้างซ้อน 2 หรือ 3 ชั้น สิมชนิดนี้แอ่นโค้งมากกว่าสิมเซียงขวาง อีกเอกลักษณ์คือ สร้างช่อฟ้าบนสันหลังคา นิยมตกแต่งฝาผนังด้วย ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับชาดก สีหน้า (หน้าบัน) นิยมตกแต่งด้วยรวงผึ้ง ตัวอย่างสิมแบบนี้เช่น วัดเชียงทอง
- สิมเวียงจันทน์ พัฒนามาจากสิมหลวงพระบาง อาคารไม่สูงมากนัก โครงสร้างหลังคาสูงกว่าสิมหลวงพระบาง มีลักษณะแอ่นโค้งเล็กน้อยไม่ลาดต่ำ ไม่อ่อนช้อยและแผ่กว้างเท่าสิมหลวงพระบาง สิมกลุ่มนี้ได้รับอิทธิพลศิลปะรัตนโกสินทร์ในส่วนงานประดับตกแต่ง เช่น ซุ้มประตู หน้าต่าง คันทวย หน้าบัน ตัวอย่างสิมกลุ่มนี้ เช่น วัดองค์ตื้อมหาวิหาร
- สิมเซียงขวาง (เชียงขวาง) มีขนาดเล็กและเรียบง่าย โครงสร้างหลังคาลาดชั้นเดียวและมีการซ้อนหลังคาเล็กตรงกลาง นิยมทำคันทวยรูปช้างสามเหลี่ยม ตัวอย่างสิมเช่น วัดสุวรรณคีลี ที่หลวงพระบาง
- สิมไทลื้อ มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และไม่นิยมสร้างมุขด้านหน้า นิยมสร้างหลังคา 2 ชั้น โดยมักซ้อนชั้นหลังคาเป็นทรงจั่วตามแนวยาวของสิม หลังคาชั้นล่างเป็นหลังคาปีกนกคลุมรอบตัวอาคารทั้ง 4 ด้าน นิยมมีคอสองซึ่งเป็นแผงไม้เชื่อมระหว่างชั้นหลังคา ตัวอย่างสิมเช่น วัดปากคาน
- สิมแบบผสมผสาน เป็นสิมที่สร้างมาระยะหลัง มีการผสมผสานหลายสกุลช่างเข้าด้วยกัน เช่น สิมวัดวัดใหม่สุวรรณภูมาราม ที่ผสมผสานรูปแบบสิมไทลื้อ หลวงพระบาง และเซียงขวาง เข้าด้วยกัน
- สิมอิทธิพลรัตนโกสินทร์ มีลักษณะคล้ายอุโบสถในศิลปะรัตนโกสินทร์ สิมมีความสูงเพรียวกว่าสกุลช่างอื่น นิยมสร้างเป็นอาคารยกพื้นสูง มีการใช้เสาและโครงสร้างหลังคาสูง หลังคามีการซ้อนชั้น 2–4 ชั้น นิยมทำคันทวยรูปพญานาค สีหน้า (หน้าบัน) มีการแกะสลักเต็มพื้นที่ ซุ้มประตูหน้าต่างตกแต่งอย่างไทย เช่น พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ตัวอย่างสิมเช่น สิมวัดป่าฮวก
- วัดเชียงทอง (สิมหลวงพระบาง)
- วัดองค์ตื้อมหาวิหาร (สิมเวียงจันทน์)
- วัดสุวรรณคีลี (สิมเซียงขวาง)
- วัดปากคาน (สิมไทลื้อ)
- วัดใหม่สุวรรณภูมาราม (สิมแบบผสมผสาน)
- วัดป่าฮวก (สิมอิทธิพลรัตนโกสินทร์)
อ้างอิง
- มหาวีรวงศ์, พจนานุกรมภาคอีสาน - ภาคกลาง. (กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพาณิช, 2515). 416.
- "สิมอีสาน". ไทยศึกษา.
- ติ๊ก แสนบุญ. ""สิมอีสาน" ในยุคก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕". ศิลปวัฒนธรรม.
- ติ๊ก แสนบุญ. ""สิมอีสาน" ในยุคประชาธิปไตยและความเป็นไทย ช่วงพ.ศ. 2475-2500". ศิลปวัฒนธรรม.
- ติ๊ก แสนบุญ. ""สิมอีสาน" ในยุคสงครามเย็น พ.ศ. ๒๕๐๐-๒๕๓๔". ศิลปวัฒนธรรม.
- ติ๊ก แสนบุญ. ""สิมอีสาน" ในยุคอีสานพัฒนาและความเสมอภาค พ.ศ. 2534-ปัจจุบัน (ตอนจบ)". ศิลปวัฒนธรรม.
- Heywood, Dennis, Ancient Luang Prabang. (Bangkok; River Book, 2006), 39
- พรรณธิพา สุวรรณี, 10.
- พรรณธิพา สุวรรณี, 12.
บรรณานุกรม
- หนังสือสถานภาพผลงานทางวิชาการ สาขาสถาปัตยกรรมในประเทศไทย ผู้เขียน วิมลสิทธิ์ หรยางกูร,วีระ อินพันทัง,สันติ ฉันทวิลาสวงศ์
- พรรณธิพา สุวรรณี. "สิมพื้นแบบบ้านภาคอีสานในเขตเมืองอุบลราชธานี" (PDF). สำนักหอสมุดกลาง.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sim hmaythung orngthiphrasngkhthasngkhkrrmtang epnphasaphunthininwthnthrrmlanchangaelaphakhxisankhxngpraethsithy mikhwamhmayediywkbobsthhruxxuobsthkhxngphakhklanginpraethsithysimwdsrikhunemuxng cnghwdely idrbrupaebbcaksilpalaw khawa sim macakkhawa sima simma hruxphththsima thipraktinkhacarukbnaephnhinthiprakasectnaxuthiskhxngphusrangpkiwdanhlngsimmipraktxyuthwip khwamhmaykhxngkhaehlani hmaythung ekhtaednthikahndinkarprachumthasngkhkrrmxnepnkickhxngsngkhodymiaephnsimahinepnekhruxnghmayaesdngkhxbekhtrxbbriewntwsimpraephthsimxisan lksnaodythwipkhxngsim aebngepn 2 praephthhlktamsphaphkhxngaehlngthitng khux simnaaelasimbk simna epnsimthitngxyuklangna echn sra hnxng bung swnihyepnxakharthisrangxyangchwkhrawsahrbwdthiyngimmiwisungkhamsima swnihysimbkepnsimthitngxyubnaephndin milksnaepnxakharthawr nxkcakni simyngaebngtamladbxayukxnhlngaelalksnarwminrupaebbidepn 4 praephth khux simkxphnngaebbdngedim simothng simkxphnngrunhlng aelasimaebbphsm simxisanthiwdpaaesngxrun cnghwdkhxnaekn epnsimthikarthxngethiywaehngpraethsithyykihepnsimxisantwxyang danyukhsmykhxngsimxisan samarthcaaenkidepn 4 chwngewla dngni simxisaninyukhkxn ph s 2475 mixiththiphlsilpasthaptykrrmaebbxyangwthnthrrmlawlanchangepnwthnthrrmkraaeshlk odysimxisanlwnmirupaebblksnaaebbxyangsilpalawlanchanginrupaebbsayskulchangphunban twxyang echn simwdklangmingemuxng cnghwdrxyexd wdphraehlaethphnimit wdsrikhunemuxng cnghwdely wdmonphirmy cnghwdmukdahar sunglwnmixiththiphlsilpaaebbxyangsayskulchanghlwnglanchangthngthangtrngaelathangxxm simxisanchwng ph s 2475 2500 epnyukhhlngepliynaeplngkarpkkhrxng epnsimthiidrbkarphsmphsankbskulchangxun echn simwdthungsriemuxng cnghwdxublrachthani milksnasilpaechingchanghlwnglanchangphsankbskulchanghlwngkrungethph yukhtn thuxepnsimtnaebbkhxngskulchangemuxngxublthimilksnaithy hruxsimthiidrbkarphsmphsankbchangywn echn sim cnghwdxublrachthani cntngaet ph s 2483 epntnma noybayrthniymaehngkhwamepnithy mikarphlitsrangaebbobsth saercrup k kh kh khxngkrmsilpakrsungxxkaebbodyphraphrhmphicitr cungepnsimthiidrbxiththiphlithychdecnkhun simxisanchwng ph s 2500 2534 epnyukhthimikarkhyaysakhawdpaepncanwnmak nganchangsasnakharinyukhnimkaesdngxxkaelaphlitsathungkhwamepnithy makkwakarsrangsrrkhinlksnalaw simmikarphthnasusimrwmsmy echn simwdsalalxy cnghwdnkhrrachsima simxisanchwng ph s 2534 pccubn milksnakarsrangsrrkhsilpasasnakharxisanmikhwamhlakhlayxyangthiimekhymimakxn phthnarupaebbnganinaebbchbbkhxngtnexng echn simwdlankhwd aelawdsirinthrwraramphuphraw epntnwdphraehlaethphnimit simxisaninyukhkxn ph s 2475 wdthungsriemuxng simxisanchwng ph s 2475 2500 wdsalalxy simxisanchwng ph s 2500 2534 wdsirinthrwraramphuphraw simxisanchwng ph s 2534 pccubnsiminsilpalaw nkwichakarlaw aebngsimxxkepn 3 praephth khux simhlwngphrabang simewiyngcnthn aelasimesiyngkhwang echiyngkhwang txmaemuxemuxnghlwngphrabangprakaskhunepnmrdkolk yuensokidaebngsimxxkepnsirupaebb khux aebbhlwngphrabanghnung sxng sam aelarupaebbxyangithy swnnkwichakarithy aebngxxkepn 5 rupaebb idaek aebbhlwngphrabangdngedim aebbewiyngcnthn aebbesiyngkhwang aebbithlux simaebbphsmphsan aelasimxiththiphlrtnoksinthr simhlwngphrabang miaephnphngepnrupsiehliymphunpha niymthamukhothngdanhnathieriykwa esiy okhrngsranghlngkhamikhwamxxnchxy hlngkhapiknkthiaephkwangaelaaexnokhngkhlumlngekuxbthungphun mikarsxnhlngkha thieriykwa ethib bangsxn 2 hrux 3 chn simchnidniaexnokhngmakkwasimesiyngkhwang xikexklksnkhux srangchxfabnsnhlngkha niymtkaetngfaphnngdwy sungmieruxngrawekiywkbchadk sihna hnabn niymtkaetngdwyrwngphung twxyangsimaebbniechn wdechiyngthxng simewiyngcnthn phthnamacaksimhlwngphrabang xakharimsungmaknk okhrngsranghlngkhasungkwasimhlwngphrabang milksnaaexnokhngelknxyimladta imxxnchxyaelaaephkwangethasimhlwngphrabang simklumniidrbxiththiphlsilpartnoksinthrinswnnganpradbtkaetng echn sumpratu hnatang khnthwy hnabn twxyangsimklumni echn wdxngkhtuxmhawihar simesiyngkhwang echiyngkhwang mikhnadelkaelaeriybngay okhrngsranghlngkhaladchnediywaelamikarsxnhlngkhaelktrngklang niymthakhnthwyrupchangsamehliym twxyangsimechn wdsuwrrnkhili thihlwngphrabang simithlux miaephnphngepnrupsiehliymphunpha aelaimniymsrangmukhdanhna niymsranghlngkha 2 chn odymksxnchnhlngkhaepnthrngcwtamaenwyawkhxngsim hlngkhachnlangepnhlngkhapiknkkhlumrxbtwxakharthng 4 dan niymmikhxsxngsungepnaephngimechuxmrahwangchnhlngkha twxyangsimechn wdpakkhan simaebbphsmphsan epnsimthisrangmarayahlng mikarphsmphsanhlayskulchangekhadwykn echn simwdwdihmsuwrrnphumaram thiphsmphsanrupaebbsimithlux hlwngphrabang aelaesiyngkhwang ekhadwykn simxiththiphlrtnoksinthr milksnakhlayxuobsthinsilpartnoksinthr simmikhwamsungephriywkwaskulchangxun niymsrangepnxakharykphunsung mikarichesaaelaokhrngsranghlngkhasung hlngkhamikarsxnchn 2 4 chn niymthakhnthwyrupphyanakh sihna hnabn mikaraekaslketmphunthi sumpratuhnatangtkaetngxyangithy echn phraxinthrthrngchangexrawn twxyangsimechn simwdpahwkwdechiyngthxng simhlwngphrabang wdxngkhtuxmhawihar simewiyngcnthn wdsuwrrnkhili simesiyngkhwang wdpakkhan simithlux wdihmsuwrrnphumaram simaebbphsmphsan wdpahwk simxiththiphlrtnoksinthr xangxingmhawirwngs phcnanukrmphakhxisan phakhklang krungethph ithywthnaphanich 2515 416 simxisan ithysuksa tik aesnbuy simxisan inyukhkxnkarepliynaeplngkarpkkhrxng 2475 silpwthnthrrm tik aesnbuy simxisan inyukhprachathipityaelakhwamepnithy chwngph s 2475 2500 silpwthnthrrm tik aesnbuy simxisan inyukhsngkhrameyn ph s 2500 2534 silpwthnthrrm tik aesnbuy simxisan inyukhxisanphthnaaelakhwamesmxphakh ph s 2534 pccubn txncb silpwthnthrrm Heywood Dennis Ancient Luang Prabang Bangkok River Book 2006 39 phrrnthipha suwrrni 10 phrrnthipha suwrrni 12 brrnanukrmhnngsuxsthanphaphphlnganthangwichakar sakhasthaptykrrminpraethsithy phuekhiyn wimlsiththi hryangkur wira xinphnthng snti chnthwilaswngs phrrnthipha suwrrni simphunaebbbanphakhxisaninekhtemuxngxublrachthani PDF sankhxsmudklang