ใบสีมา เป็นหลักกำหนดเขตเพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ นิยมทำด้วยแผ่นหินสกัดเป็นแผ่นหนาประมาณ 5-7.5 เซนติเมตร มีรูปทรงเฉพาะ บางแห่งสกัดเป็นลายเส้นรูปธรรมจักรเพิ่มความสวยงาม ประดิษฐานไว้ในซุ้มที่สร้างคร่อมนิมิตทั้ง 8 ทิศของโบสถ์ คล้ายเป็นสัญลักษณ์แทนนิมิต ถ้าเป็นวัดราษฎร์นิยมทำซุ้มละแผ่นเดียว ถ้าเป็นวัดหลวงนิยมทำซุ้มละสองแผ่นเรียกว่า สีมาคู่ นัยว่าเพื่อเป็นข้อสังเกตให้ทราบว่าเป็นวัดราษฎร์หรือวัดหลวง
ความหมาย
สีมา แปลว่า เขต, แดน, เครื่องหมายบอกเขต ใช้ว่า เสมา ก็มี
สีมา หมายถึงเขตหรือแดนที่กำหนดไว้สำหรับทำสังฆกรรมต่างๆ กำหนดเขตแดนด้วยเครื่องหมายบอกเขตที่เรียกว่า นิมิต ที่เหนือนิมิตนิยมสกัดหินเป็นแผ่นประดิษฐานไว้ในซุ้มที่สร้างครอบนิมิต ถือเป็นสัญลักษณ์แทนนิมิต เรียกแผ่นหินนั้นว่า ใบสีมา หรือ ใบเสมา เรียกซุ้มนั้นว่า ซุ้มสีมา หรือ ซุ้มเสมา
สีมา ยังหมายถึงอุโบสถได้ด้วย
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ระบุว่า ใบเสมาคือนิมิต ในขณะที่พระไตรปิฏกแสดงว่าเสมาเป็นเครื่องหมายอย่างหนึ่งซึ่งใช้กำหนดเขตพระอุโบสถอันเป็นที่ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์
ประวัติ
ใบเสมาว่ามีวิวัฒนาการมาจากวัฒนธรรมหินตั้ง
ในอดีตใบเสมามักจำหลักภาพที่สื่อธรรมเกี่ยวเนื่องพระพุทธศาสนา เช่น ใบเสมาที่สลักภาพตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากกรุงกบิลพัสดุ์พบที่เมืองฟ้าแดดสงยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในปัจจุบันจะไม่ปรากฏใบเสมาที่จำหลักภาพที่เกี่ยวเนื่องในพระพุทธศาสนาหรือเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าหรือชาดกต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าด้วยขนาดของใบเสมาที่ดั่งเดิมที่นิยมใช้หินขนาดใหญ่ ไม่มีความคล่องตัวในการขนย้ายหินขนาดใหญ่หายากมากขึ้น ทำให้ใบเสมาในสมัยต่อมามีขนาดเล็กลงและไม่นิยมสลักภาพที่เล่าเรื่องราว
ใบเสมาในสมัยสุโขทัย ส่วนใหญ่เป็นใบแผ่นหินชนวนขนาดใหญ่ปักอยู่บนดิน ยังไม่มีแท่น หรือฐานมารองรับ เช่นที่วัดมหาธาตุ วัดช้างล้อม จังหวัดสุโขทัย
ในสมัยอยุธยาตอนต้นและกลาง ยังคงสืบเนื่องจากสมัยสุโขทัย ใบเสมายังคงทำจากหินที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เช่น วัดมหาธาตุ และวัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมัยอยุธยาตอนปลาย ใบเสมามีขนาดเล็กกว่าเดิมและมีความหนาไม่มากนัก มีการทำฐานหรือแท่นสูงเพื่อรองรับใบเสมา เรียกว่า เสมานั่งแท่น เช่น ที่วัดสระบัว จังหวัดเพชรบุรี
ต่อมาเริ่มมีการสร้างซุ้มครอบใบเสมา เรียกว่า ซุ้มสีมา ไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใดแต่สันนิษฐานว่าคงสร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งแต่ปลายสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเป็นต้นมา ซุ้มสีมานี้ได้รับความนิยมสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์แต่เริ่มหมดความนิยมในสมัยรัชกาลที่ 4
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง, (2558). ใบเสมา ทวารวดีในอีสาน. กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์มติชน, 54.
- "เสมา : ประวัติศาสตร์คุณค่าและการจัดการการอนุรักษ์ของ องค์กรพระพุทธศาสนาในจังหวัดบุรีรัมย์". วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
- ภาวิดา จินประพัฒน์. "ซุ้มสีมาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น" (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
บรรณานุกรม
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ibsima epnhlkkahndekhtephuxthaphithikrrmthangsasnaphuthth niymthadwyaephnhinskdepnaephnhnapraman 5 7 5 esntiemtr mirupthrngechphaa bangaehngskdepnlayesnrupthrrmckrephimkhwamswyngam pradisthaniwinsumthisrangkhrxmnimitthng 8 thiskhxngobsth khlayepnsylksnaethnnimit thaepnwdrasdrniymthasumlaaephnediyw thaepnwdhlwngniymthasumlasxngaephneriykwa simakhu nywaephuxepnkhxsngektihthrabwaepnwdrasdrhruxwdhlwngibesmawdphrasrirtnsasdaramibesmawdmhaphvtharamsumsimathrngkub wdchxngnnthri krungethphmhankhrkhwamhmaysima aeplwa ekht aedn ekhruxnghmaybxkekht ichwa esma kmi sima hmaythungekhthruxaednthikahndiwsahrbthasngkhkrrmtang kahndekhtaedndwyekhruxnghmaybxkekhtthieriykwa nimit thiehnuxnimitniymskdhinepnaephnpradisthaniwinsumthisrangkhrxbnimit thuxepnsylksnaethnnimit eriykaephnhinnnwa ibsima hrux ibesma eriyksumnnwa sumsima hrux sumesma sima ynghmaythungxuobsthiddwy phraitrpidk chbbhlwng rabuwa ibesmakhuxnimit inkhnathiphraitrpitkaesdngwaesmaepnekhruxnghmayxyanghnungsungichkahndekhtphraxuobsthxnepnthithasngkhkrrmkhxngphrasngkhprawtiibesmawamiwiwthnakarmacakwthnthrrmhintng inxditibesmamkcahlkphaphthisuxthrrmekiywenuxngphraphuththsasna echn ibesmathislkphaphtxnthiphraphuththecaesdcklbcakkrungkbilphsduphbthiemuxngfaaeddsngyang cnghwdkalsinthu inpccubncaimpraktibesmathicahlkphaphthiekiywenuxnginphraphuththsasnahruxelaeruxngekiywkbphraphuththecahruxchadktang sungxacepnipidwadwykhnadkhxngibesmathidngedimthiniymichhinkhnadihy immikhwamkhlxngtwinkarkhnyayhinkhnadihyhayakmakkhun thaihibesmainsmytxmamikhnadelklngaelaimniymslkphaphthielaeruxngraw ibesmainsmysuokhthy swnihyepnibaephnhinchnwnkhnadihypkxyubndin yngimmiaethn hruxthanmarxngrb echnthiwdmhathatu wdchanglxm cnghwdsuokhthy insmyxyuthyatxntnaelaklang yngkhngsubenuxngcaksmysuokhthy ibesmayngkhngthacakhinthimikhnadkhxnkhangihy echn wdmhathatu aelawdrachburna cnghwdphrankhrsrixyuthya smyxyuthyatxnplay ibesmamikhnadelkkwaedimaelamikhwamhnaimmaknk mikarthathanhruxaethnsungephuxrxngrbibesma eriykwa esmanngaethn echn thiwdsrabw cnghwdephchrburi txmaerimmikarsrangsumkhrxbibesma eriykwa sumsima impraktwasrangemuxidaetsnnisthanwakhngsrangsmyxyuthyatxnplay tngaetplaysmyphraecaxyuhwbrmoksepntnma sumsimaniidrbkhwamniymsranginsmyrtnoksinthraeterimhmdkhwamniyminsmyrchkalthi 4duephimnimit 1 phththsima wisungkhamsimaxangxingrungorcn thrrmrungeruxng 2558 ibesma thwarwdiinxisan krungethph sankphimphmtichn 54 esma prawtisastrkhunkhaaelakarcdkarkarxnurkskhxng xngkhkrphraphuththsasnaincnghwdburirmy warsarsthabnwicyaelaphthna mhawithyalyrachphtmhasarkham phawida cinpraphthn sumsimasmyrtnoksinthrtxntn PDF mhawithyalysilpakr brrnanukrm phrathrrmkittiwngs thxngdi suretoch p th 9 rachbnthit phcnanukrmephuxkarsuksaphuththsasn chud khawd wdrachoxrsaram krungethph ph s 2548