มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงของเรื่อง(กรกฎาคม 2022) |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
เชลแล็ก (อังกฤษ: shellac) เป็นสารจากธรรมชาติที่ได้จากการแปรรูปเรซินหรือสารคัดหลั่งที่ได้จากแมลงครั่ง ซึ่งสามารถผลิตได้มากในประเทศไทย[] โดยสารนี้มีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น การกันน้ำที่ดี,มีความเป็นเงางาม, สามารถยึดกับพื้นผิวได้หลายชนิด, กันความร้อนและไฟฟ้าได้ รวมทั้งการละลายที่ขึ้นกับค่าพีเอช ทำให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในงานได้หลายประเภท เช่น การเคลือบผลไม้และอาหารป้องกันการสูญเสียน้ำและยืดอายุในการเก็บรักษา, การเคลือบเภสัชภัณฑ์เพื่อควบคุมการปลดปล่อยยาให้ออกฤทธิในตำแหน่งและเวลาที่ต้องการ, การประยุกต์ใช้ในการเคลือบผลิตภัณฑ์เพื่อหวังผลในแง่การป้องกันความชื้นและเพิ่มความสวยงาม, การใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่ต้องอาศัยคุณสมบัติในแง่การเป็นตัวช่วยยึดเกาะ รวมไปถึงการใช้เป็นส่วนผสมในอุปกรณ์ไฟฟ้าบางประเภทเนื่องจากคุณสมบัติการเป็นฉนวนและความสามารถในการยึดเกาะที่ดี ในปัจจุบันเชลแล็กมีการนำไปใช้น้อยลงเนื่องจากข้อด้อยบางประการได้แก่ การละลายและความคงตัว แต่อย่างไรก็ตามเชลแล็กเป็นสารที่มีราคาถูกและผลิตขึ้นได้เอง ประกอบกับมีงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้ในการใช้เชลแล็กเพื่ออุตสาหกรรมในประเทศและการส่งออกต่อไป
ขั้นตอนการผลิต
ในประเทศไทยมีการผลิตยางครั่งชนิดนี้เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาเป็นเวลานาน เป็นอาชีพทำรายได้เสริมที่ทำได้ง่ายสำหรับเกษตรกรโดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระบวนการทำเริ่มจากการเลี้ยงแมลงครั่งบนต้นไม้ เช่น ก้ามปู, สะแก, ปันแก, พุทราป่า, สีเสียดออสเตรเลีย, ไทร, มะแฮะนกและมะเดื่ออุทุมพร เป็นต้น แมลงครั่งจะเกาะและกินน้ำเลี้ยงจากกิ่งไม้และสร้างสารคัดหลั่งออกมาหุ้มกิ่งไม้ไว้ เมื่อครบเวลาเกษตรกรจะตัดกิ่งไม้ซึ่งมีรังครั่งหุ้มอยู่ออกมา โดยจะเรียกสารในขั้นตอนนี้ว่า ครั่งดิบ'ซึ่งจะประกอบด้วยเรซิน, สีครั่ง, ขี้ผึ้ง, ความชื้น รวมทั้งกิ่งหรือเปลือกไม้ เป็นต้น หลังจากนั้นจะนำไปแปรรูปต่อที่โรงงานที่มีอยู่ในประเทศ โดยจะผ่านกระบวนการบดให้แตกออกเป็นก้อนหยาบ ๆ หลังจากนั้นนำไปร่อนผ่านตะแกรง และนำเอาครั่งที่ได้ไปล้างน้ำ จะได้น้ำสีแดงซึ่งสามารถนำไปย้อมผ้าได้ การล้างครั่งจะล้างจนกระทั่งน้ำใสจึงจะนำสารที่ได้ออกตากในที่ร่มให้มีลมผ่านตลอดเวลาและนำไปผ่านการคัดขนาด ซึ่งหลังจากผ่านขั้นตอนนี้จะได้ ครั่งเม็ด มีลักษณะเป็นเม็ดค่อนข้างกลม สีแดง มีความชื้นประมาณ 3 - 8 เปอร์เซ็น ที่ประกอบด้วยเรซินที่มีความบริสุทธิ์มากขึ้นแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะใช้ได้ในอุตสาหกรรมยา สำหรับประเทศไทยส่วนใหญ่จะนำส่งออกต่างประเทศในรูปแบบนี้โดยไม่ได้มีการแปรรูป สำหรับการแปรรูปให้บริสุทธิ์ต่อนั้น ทำได้โดยการนำครั่งเม็ดไปผ่านการให้ความร้อนจนกระทั่งหลอมหลังจากนั้นจึงกรองผ่านถุงผ้าแล้วเทลงบนแผ่นใบลานหรือสังกะสี ให้ขยายเป็นแผ่นกลมตามพิมพ์ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 ถึง 3 นิ้ว หนาประมาณ 1/4 นิ้ว ที่เรียกว่า ครั่งแผ่น หรือ ครั่งกระดุม แต่ส่วนมากแล้วจะนิยมนำไปทำให้เป็นแผ่นบาง ๆ ที่เรียกว่า เชลแล็ก นอกจากนี้แล้วการทำให้บริสุทธิ์อาจใช้วิธีการละลายในเอทานอลและทำการกรองสิ่งเจือปนออก แต่ในโรงงานไทยไม่ใช้วิธีนี้เนื่องจากราคาที่แพงและการควบคุมการใช้เอทานอลตามกฎหมาย
องค์ประกอบและประเภทของเชลแล็ก
ครั่งดิบจะประกอบด้วยส่วนผสมของ
- ยางครั่ง ประมาณ 70 - 80 เปอร์เซ็นต์
- ขี้ผึ้ง ประมาณ 6 - 7 เปอร์เซ็นต์
- สีครั่ง ประมาณ 4 - 8 เปอร์เซ็นต์
- สารเจือปน ประมาณ 15 - 25 เปอร์เซ็นต์
เมื่อผ่านกระบวนการการจนกระทั่งได้เชลแล็ก องค์ประกอบที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นส่วนของยางครั่งที่มีขี้ผึ้งและความชื้นปะปนอยู่ โดยมีสารเจือปนอยู่น้อยมาก ในส่วนของยางครั่งจะประกอบด้วยส่วนผสมของ เรซินแข็งที่ประกอบด้วยพอลิเอสเทอร์ ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ที่ค่อนข้างสั้น และ เรซินอ่อนที่ประกอบด้วยเอสเทอร์เดี่ยวหลายชนิด เมื่อทำการย่อยสลายด้วยน้ำ ส่วนของยางครั่งจะพบส่วนผสมของกรดไขมัน ได้แก่ อะลูไลติคแอซิดและเทอร์พีนิกแอซิด ซึ่งประกอบด้วยสารหลายชนิดโดยสารที่มีอยู่มากได้แก่ จาลาริกแอซิดและแล็กซิจาลาลิกแอซิด
คุณสมบัติ
เชลแล็กมีคุณสมบัติที่หลากหลายได้แก่
- การซึมผ่านไอน้ำที่ต่ำ - คุณสมบัติข้อนี้เป็นเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้เชลแล็กถูกนำมาใช้มากตั้งแต่อดีตเพื่อการปกป้องความชื้น โดยเชลแล็กสามารถเกิดฟิล์มได้และมีความสามารถในการป้องกันความชื้นไม่ให้ผ่านผิววัสดุที่เคลือบด้วยเชลแล็ก
- การละลายขึ้นกับค่าพีเอช - เชลแล็กประกอบด้วยพอลิเมอร์ที่มีกลุ่มคาร์บอกซิลิก ทำให้มีคุณสมบัติไม่ละลายที่ค่าพีเอชต่ำแต่จะละลายได้มากขึ้นเมื่อเพิ่มค่าพีเอช โดยเชลแล็กจะเริ่มละลายได้ที่พีเอชประมาณ 7.0 ทำให้ป้องกันการแตกตัวในกรดในกระเพาะอาหารได้ โดยนำเชลแล็กมาเคลือบยาเพื่อการนำส่งยาสู่ลำไส้
- ความสวยงามของฟิล์ม - ฟิล์มที่เตรียมจากเชลแล็กจะมีค่าดัชนีหักเหที่ค่อนข้างสูง (ประมาณ 1.521 - 1.527) สามารถสะท้อนแสงได้ดีทำให้ได้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติเงางามคุณสมบัติข้อนี้เสริมประโยชนในแง่ความสวยงามของผลิตภัณฑ์ที่ถูกเคลือบ เช่น การนำไปใช้สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งการเคลือบผลไม้โดยเพิ่มจากประโยชน์ในแง่ของการป้องกันน้ำของเชลแล็ก
- การนำความร้อนและไฟฟ้าต่ำ เชลแล็กจะมีค่าการนำความร้อนที่ค่อนข้างน้อยประมาณ 0.24 วัตต์ต่อเมตรต่อองศาเซลเซียส (ทองแดงมีค่าเท่ากับ 401 วัตต์ต่อเมตรต่อองศาเซลเซียส ส่วนแก้วมีค่าเท่ากับ 1 วัตต์ต่อเมตรต่อองศาเซลเซียส) นอกจากนี้แล้วยังมีการนำไฟฟ้าที่ต่ำมีความเป็นฉนวนที่ดี โดยปกติวัตถุที่จัดว่านำไฟฟ้าจะมีความต้านทานพื้นผิวน้อยกว่า 105โอห์ม และจะจัดว่าเป็นฉนวนถ้ามีค่ามากกว่า 1012โอห์ม ยกตัวอย่างเช่น ทองแดง ฟิล์มที่เตรียมจากพอลิเอทิลีนและเทฟลอน จะมีค่าเท่ากับ 1, 1012 และมากกว่า 1016 ตามลำดับ ในกรณีของฟิล์มที่เตรียมจากเชลแล็กมีค่ามากกว่า 1014 ซึ่งจากคุณสมบัตินี้จึงทำให้เชลแล็กสามารถนำไปใช้ในแง่ของการเป็นฉนวนสำหรับทำสายไฟ รวมทั้งการนำไปใช้สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการป้องกันการนำไฟฟ้าได้
- ความสามารถในการยึดเกาะผิวที่เคลือบและความทนทานต่อการถูกขีดข่วน - เชลแล็กสามารถยึดติดกับผิวของวัสดุได้เกือบทุกชนิด ยกเว้นพื้นผิวของสารบางชนิด เช่น เทฟลอนหรือวัสดุที่ถูกเคลือบด้วยซิลิโคนทำให้สามารถนำไปเคลือบและทำให้มีการยึดติดกับชิ้นงานได้ดีและเป็นเวลานาน โดยอาจมีแรงยึดเกาะที่แตกต่างกันไปได้บ้างขึ้นกับวัสดุ ตัวอย่าง เช่น แรงยึดเกาะกับทองแดงประมาณ 3,300 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว นอกจากนี้แล้วยังค่อนข้างทนต่อการขีดข่วนซึ่งช่วยป้องกันผิวที่เคลือบได้
จากคุณสมบัติดังกล่าวทำให้เชลแล็กมีการนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมยาและการแพทย์เพื่อใช้ในการเคลือบยา, ส่วนผสมของเครื่องสำอางและสารที่ใช้ทางทันตกรรม, อุตสาหกรรมอาหารสำหรับการเคลือบอาหารบางประเภท, อุตสาหกรรมการเกษตรสำหรับการเคลือบผลไม้ รวมถึงงานเคลือบไม้เพื่อใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ในส่วนอุตสาหกรรมยานั้นถูกนำมาใช้ในการเคลือบโดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ คือ คือการเคลือบเพื่อหวังผลในแง่การป้องกันการซึมผ่านของน้ำ เช่น ในกรณีของการเคลือบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปในเม็ดยาในกระบวนการเคลือบน้ำตาล และการเคลือบเอนเทอริกหรือการเคลือบเพื่อให้ยาแตกตัวในลำไส้
อ้างอิง
- สนทยา ลิ้มมัทวาภิรัติ์. เชลแล็ก: แนวทางการประยุกต์ใช้สารจากธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศ:วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร 2547; 24: 202-211.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
mummxngaelakrnitwxyanginbthkhwamnixacimidaesdngthungmummxngthiepnsaklkhxngeruxngkhunsamarthchwyaekikhbthkhwamni odyephimmummxngsaklihmakkhun hruxaeykpraednyxyipsrangepnbthkhwamihm krkdakhm 2022 eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul echlaelk khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir echlaelk xngkvs shellac epnsarcakthrrmchatithiidcakkaraeprrupersinhruxsarkhdhlngthiidcakaemlngkhrng sungsamarthphlitidmakinpraethsithy txngkarxangxing odysarnimikhunsmbtithinasnichlayeruxng echn karknnathidi mikhwamepnengangam samarthyudkbphunphiwidhlaychnid knkhwamrxnaelaiffaid rwmthngkarlalaythikhunkbkhaphiexch thaihsamarthnamaprayuktichinnganidhlaypraephth echn karekhluxbphlimaelaxaharpxngknkarsuyesiynaaelayudxayuinkarekbrksa karekhluxbephschphnthephuxkhwbkhumkarpldplxyyaihxxkvththiintaaehnngaelaewlathitxngkar karprayuktichinkarekhluxbphlitphnthephuxhwngphlinaengkarpxngknkhwamchunaelaephimkhwamswyngam karichepnswnprakxbinphlitphnththitxngxasykhunsmbtiinaengkarepntwchwyyudekaa rwmipthungkarichepnswnphsminxupkrniffabangpraephthenuxngcakkhunsmbtikarepnchnwnaelakhwamsamarthinkaryudekaathidi inpccubnechlaelkmikarnaipichnxylngenuxngcakkhxdxybangprakaridaek karlalayaelakhwamkhngtw aetxyangirktamechlaelkepnsarthimirakhathukaelaphlitkhunidexng prakxbkbminganwicyhlaychinthiaesdngaenwthanginkaraekikhpyhadngklawcungmikhwamepnipidinkarichechlaelkephuxxutsahkrrminpraethsaelakarsngxxktxipkhntxnkarphlitkhnmthiekhluxbdwyechlaelkechlaelksitang inpraethsithymikarphlityangkhrngchnidniephuxpraoychnthangesrsthkicmaepnewlanan epnxachiphtharayidesrimthithaidngaysahrbekstrkrodyechphaainphakhehnuxaelaphakhtawnxxkechiyngehnux krabwnkarthaerimcakkareliyngaemlngkhrngbntnim echn kampu saaek pnaek phuthrapa siesiydxxsetreliy ithr maaehankaelamaeduxxuthumphr epntn aemlngkhrngcaekaaaelakinnaeliyngcakkingimaelasrangsarkhdhlngxxkmahumkingimiw emuxkhrbewlaekstrkrcatdkingimsungmirngkhrnghumxyuxxkma odycaeriyksarinkhntxnniwa khrngdib sungcaprakxbdwyersin sikhrng khiphung khwamchun rwmthngkinghruxepluxkim epntn hlngcaknncanaipaeprruptxthiorngnganthimixyuinpraeths odycaphankrabwnkarbdihaetkxxkepnkxnhyab hlngcaknnnaiprxnphantaaekrng aelanaexakhrngthiidiplangna caidnasiaedngsungsamarthnaipyxmphaid karlangkhrngcalangcnkrathngnaiscungcanasarthiidxxktakinthirmihmilmphantlxdewlaaelanaipphankarkhdkhnad sunghlngcakphankhntxnnicaid khrngemd milksnaepnemdkhxnkhangklm siaedng mikhwamchunpraman 3 8 epxresn thiprakxbdwyersinthimikhwambrisuththimakkhunaetkyngimmakphxthicaichidinxutsahkrrmya sahrbpraethsithyswnihycanasngxxktangpraethsinrupaebbniodyimidmikaraeprrup sahrbkaraeprrupihbrisuththitxnn thaidodykarnakhrngemdipphankarihkhwamrxncnkrathnghlxmhlngcaknncungkrxngphanthungphaaelwethlngbnaephniblanhruxsngkasi ihkhyayepnaephnklmtamphimph mikhnadesnphansunyklang 2 thung 3 niw hnapraman 1 4 niw thieriykwa khrngaephn hrux khrngkradum aetswnmakaelwcaniymnaipthaihepnaephnbang thieriykwa echlaelk nxkcakniaelwkarthaihbrisuththixacichwithikarlalayinexthanxlaelathakarkrxngsingecuxpnxxk aetinorngnganithyimichwithinienuxngcakrakhathiaephngaelakarkhwbkhumkarichexthanxltamkdhmayxngkhprakxbaelapraephthkhxngechlaelkkhrngdibcaprakxbdwyswnphsmkhxng yangkhrng praman 70 80 epxresnt khiphung praman 6 7 epxresnt sikhrng praman 4 8 epxresnt sarecuxpn praman 15 25 epxresnt emuxphankrabwnkarkarcnkrathngidechlaelk xngkhprakxbthiehluxswnihycaepnswnkhxngyangkhrngthimikhiphungaelakhwamchunpapnxyu odymisarecuxpnxyunxymak inswnkhxngyangkhrngcaprakxbdwyswnphsmkhxng ersinaekhngthiprakxbdwyphxliexsethxr sungepnphxliemxrthikhxnkhangsn aela ersinxxnthiprakxbdwyexsethxrediywhlaychnid emuxthakaryxyslaydwyna swnkhxngyangkhrngcaphbswnphsmkhxngkrdikhmn idaek xaluiltikhaexsidaelaethxrphinikaexsid sungprakxbdwysarhlaychnidodysarthimixyumakidaek calarikaexsidaelaaelksicalalikaexsidkhunsmbtiechlaelkmikhunsmbtithihlakhlayidaek karsumphanixnathita khunsmbtikhxniepnehtuphlthisakhythithaihechlaelkthuknamaichmaktngaetxditephuxkarpkpxngkhwamchun odyechlaelksamarthekidfilmidaelamikhwamsamarthinkarpxngknkhwamchunimihphanphiwwsduthiekhluxbdwyechlaelk karlalaykhunkbkhaphiexch echlaelkprakxbdwyphxliemxrthimiklumkharbxksilik thaihmikhunsmbtiimlalaythikhaphiexchtaaetcalalayidmakkhunemuxephimkhaphiexch odyechlaelkcaerimlalayidthiphiexchpraman 7 0 thaihpxngknkaraetktwinkrdinkraephaaxaharid odynaechlaelkmaekhluxbyaephuxkarnasngyasulais khwamswyngamkhxngfilm filmthietriymcakechlaelkcamikhadchnihkehthikhxnkhangsung praman 1 521 1 527 samarthsathxnaesngiddithaihidfilmthimikhunsmbtiengangamkhunsmbtikhxniesrimpraoychninaengkhwamswyngamkhxngphlitphnththithukekhluxb echn karnaipichsahrbnganefxrniecxrrwmthngkarekhluxbphlimodyephimcakpraoychninaengkhxngkarpxngknnakhxngechlaelk karnakhwamrxnaelaiffata echlaelkcamikhakarnakhwamrxnthikhxnkhangnxypraman 0 24 wtttxemtrtxxngsaeslesiys thxngaedngmikhaethakb 401 wtttxemtrtxxngsaeslesiys swnaekwmikhaethakb 1 wtttxemtrtxxngsaeslesiys nxkcakniaelwyngmikarnaiffathitamikhwamepnchnwnthidi odypktiwtthuthicdwanaiffacamikhwamtanthanphunphiwnxykwa 105oxhm aelacacdwaepnchnwnthamikhamakkwa 1012oxhm yktwxyangechn thxngaedng filmthietriymcakphxliexthilinaelaethflxn camikhaethakb 1 1012 aelamakkwa 1016 tamladb inkrnikhxngfilmthietriymcakechlaelkmikhamakkwa 1014 sungcakkhunsmbtinicungthaihechlaelksamarthnaipichinaengkhxngkarepnchnwnsahrbthasayif rwmthngkarnaipichsahrbxupkrnthitxngkarpxngknkarnaiffaid khwamsamarthinkaryudekaaphiwthiekhluxbaelakhwamthnthantxkarthukkhidkhwn echlaelksamarthyudtidkbphiwkhxngwsduidekuxbthukchnid ykewnphunphiwkhxngsarbangchnid echn ethflxnhruxwsduthithukekhluxbdwysiliokhnthaihsamarthnaipekhluxbaelathaihmikaryudtidkbchinnganiddiaelaepnewlanan odyxacmiaerngyudekaathiaetktangknipidbangkhunkbwsdu twxyang echn aerngyudekaakbthxngaedngpraman 3 300 pxndtxtarangniw nxkcakniaelwyngkhxnkhangthntxkarkhidkhwnsungchwypxngknphiwthiekhluxbid cakkhunsmbtidngklawthaihechlaelkmikarnaipprayuktichinxutsahkrrmhlaypraephth echn xutsahkrrmyaaelakaraephthyephuxichinkarekhluxbya swnphsmkhxngekhruxngsaxangaelasarthiichthangthntkrrm xutsahkrrmxaharsahrbkarekhluxbxaharbangpraephth xutsahkrrmkarekstrsahrbkarekhluxbphlim rwmthungnganekhluxbimephuxichinkarthaefxrniecxr epntn inswnxutsahkrrmyannthuknamaichinkarekhluxbodymiwtthuprasngkhhlk 2 prakar khux khuxkarekhluxbephuxhwngphlinaengkarpxngknkarsumphankhxngna echn inkrnikhxngkarekhluxbephuxpxngknimihnaekhaipinemdyainkrabwnkarekhluxbnatal aelakarekhluxbexnethxrikhruxkarekhluxbephuxihyaaetktwinlaisxangxingsnthya limmthwaphirti echlaelk aenwthangkarprayuktichsarcakthrrmchatithimixyuinpraeths warsarmhawithyalysilpakr 2547 24 202 211