บียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์-คาร์เตอร์ (อังกฤษ: Beyoncé Giselle Knowles-Carter; เกิด 4 กันยายน ค.ศ. 1981) เป็นนักร้องสไตล์อาร์แอนด์บี, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์เพลง, นักแสดง และนางแบบ ชาวอเมริกัน เกิดและเติบโตที่ฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ในวัยเด็กบียอนเซ่ได้เข้าร่วมในการแสดงหลากหลายเรียนอนุบาลถึงประถม ซึ่งรวมไปถึงการร้องเพลง อันเป็นการปูทางสำหรับอาชีพการเป็นนักร้อง บียอนเซ่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในช่วงคริสตศตวรรษ 1990 ในฐานะสมาชิกคนสำคัญของเดสทินีส์ไชลด์ วงดนตรีหญิงล้วนแนวอาร์แอนด์บีชื่อดังในยุคนั้น ตลอดชีวิตการทำงานของเธอ มียอดขายเกินกว่า 100 ล้านชุดในฐานะศิลปินเดียว
บียอนเซ่ | |
---|---|
บียอนเซ่ใน ค.ศ. 2023 | |
เกิด | บียอนเซ จิเซลล์ โนวส์ 4 กันยายน ค.ศ. 1981 ฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐ |
ชื่ออื่น |
|
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | ค.ศ. 1990–ปัจจุบัน |
องค์การ | |
ผลงาน | |
ตำแหน่ง |
|
คู่สมรส | เจย์-ซี (สมรส 2008) |
บุตร | 3 คน รวมถึง |
บิดามารดา | |
ญาติ |
|
รางวัล | รายการทั้งหมด |
อาชีพทางดนตรี | |
แนวเพลง | |
เครื่องดนตรี |
|
ค่ายเพลง | |
สมาชิกของ | |
อดีตสมาชิก | เดสทินีส์ไชลด์ |
เว็บไซต์ | beyonce |
ลายมือชื่อ | |
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 ระหว่างการพักงานของเดสทินีส์ไชลด์ บียอนเซ่ได้ออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวเป็นครั้งแรกกับอัลบั้ม เดนเจอรัสลีอินเลิฟ ซึ่งนับเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอัลบั้มหนึ่งในปีนั้น อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดขายและด้านคำวิจารณ์ต่างๆ ทำให้มีเพลงฮิตเช่นเพลง "เครซีอินเลิฟ", "เบบี้บอย" และทำให้บียอนเซ่ได้รับ รางวัลแกรมมี ถึง 5 สาขา ต่อมาเดสทินีส์ไชลด์ก็ได้ตัดสินใจแยกวงจากเป็นทางการ หลังจากนั้นบียอนเซ่ได้มีอัลบั้มชุดที่สอง นั่นก็คืออัลบั้ม บี'เดย์ ออกจำหน่ายใน ค.ศ. 2006 ซึ่งเปิดตัวอันดับ 1 บนชาร์ต บิลบอร์ด มีซิงเกิลฮิตอย่าง "เดจาวู", "อีเรเพลสอเบิล", และ "บิวติฟูล์ไลอาร์" อัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 ของเธอไอแอม... ซาชาเฟียร์ส ได้วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 มีซิงเกิลฮิต เช่น "อิฟไอเวอร์อะบอย", "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)", "เฮโล", และ "สวีตดรีมส์" บียอนเซ่มีซิงเกิลที่ติดอันดับ 1 อยู่ทั้งหมด 5 เพลงด้วยกัน ทำให้เธอเป็นหนึ่งในสองศิลปินหญิงที่มีเพลงติดอันดับหนึ่งมากที่สุดในช่วงคริสต์ศตวรรษ 2000
จากความสำเร็จอย่างสูงของการเป็นศิลปินเดี่ยวของบียอนเซ่ ทำให้เธอได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินคนสำคัญคนหนึ่งของอุตสาหกรรมดนตรีในยุคปัจจุบัน และเธอก็ยังขยายงานอาชีพของเธอไปสู่งานทางการแสดงและเซ็นสัญญากับบริษัทสินค้าต่างๆ เธอได้เริ่มอาชีพทางการแสดงของเธอเมื่อปี ค.ศ. 2001 ใน ภาพยนตร์เพลงเรื่อง คาร์เมน: อะฮิปโฮเปรา ในปี ค.ศ. 2006 เธอได้รับบทนำในภาพยนตร์ทำใหม่ของละครบรอดเวย์ ค.ศ. 1981 เรื่อง ดรีมเกิร์ลส และทำให้เธอได้เข้าชิง รางวัลลูกโลกทองคำ ถึง 2 รางวัล บียอนเซ่ได้มีธุรกิจสายงานแฟชันที่เธอได้ร่วมกับครอบครัว โดยใช้ชื่อว่า "เฮาส์ออฟเดเรออน" และได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น เป๊ปซี่, , และ และในปี ค.ศ. 2009 นี้ นิตยสาร ฟอบส์ ยังได้จัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับสี่ของคนดังที่มีอิทธิพลมากที่สุด, อันดับสามของนักดนตรีที่มีรายได้มากที่สุด, และอันดับหนึ่งของคนดังอายุต่ำกว่า 30 ที่มีรายได้มากที่สุด ด้วยรายได้กว่า 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่าง ค.ศ. 2008 - ค.ศ. 2009
ชีวิตในวัยเด็กและช่วงแรกของการทำงาน
บียอนเซ่ จิเซลล์ โนวส์ เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 1981 ที่ฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐ เป็นบุตรสาวคนแรกของ แมตทิว โนวส์ ผู้จัดการฝ่ายขายของซีรอกซ์ และ เป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าและทรงผม พ่อของโนวส์เป็นชาวแอฟริกันอเมริกัน ส่วนแม่ของเธอเป็นชาวครีโอล (บรรพบุรุษเป็น ชาวแอฟริกันอเมริกัน, พื้นเมืองอเมริกัน, ฝรั่งเศส, เคจัน, ไอริช และสเปน) คุณตาและยายของเธอ ลูมิส อัลเบร์ต บียินเซ่ และ แอกเนซ เดเรออน เป็นชาวหลุยส์เซียนาครีโอล (เชื้อสายฝรั่งเศส-แอฟริกัน) เธอเป็นพี่สาวของ ซึ่งเป็นนักร้องและนักแต่งเพลง และนักแสดง
โนวส์ได้ศึกษาที่โรงเรียนประถมเซนต์มารีย์ในรัฐเท็กซัส ที่เธอได้สมัครเรียนเกี่ยวกับการเต้นรำรวมถึงบัลเลต์และแจ๊ส ความสามารถพิเศษในการร้องเพลงได้ถูกพบโดยครูสอนเต้นของเธอเมื่อเธอเริ่มร้องเพลงตามเพลงที่เธอเต้นจนจบและสามารถร้องโน้ตสูง ๆ ได้ โนวส์สนใจดนตรีและการร้องเพลงของเธอก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นหลังจากที่ได้เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันภายในโรงเรียน เธอขึ้นเวทีโชว์ครั้งแรกในรายการประกวดร้องเพลงแสดงความสามารถเมื่ออายุ 7 ปี และได้รับรางวัลชนะเลิศจากการร้องเพลง "อิเมจิน" ของจอห์น เลนนอน ในปีเดียวกันโนวส์เริ่มได้รับความสนใจจากผู้คนมาก และยังได้รับการกล่าวถึงจากหนังสือพิมพ์ ฮิวส์ตันชอร์นิเคิล จากการที่ได้รับการเข้าชิงรางวัลเดอะโลคัลเพอร์ฟอร์มมิงอาร์ต ของ เดอะซัมมี่
ในปลายปี 1990 โนวส์ได้เข้าเรียนในโรงเรียนพาร์กเกอร์เอเลเมนทารี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เน้นเกี่ยวกับดนตรีในฮิวสตัน และเธอก็ได้ร้องเพลงกับคณะประสานเสียงของโรงเรียนนี้ เธอยังสมัครเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายในฮิวส์ตันอีกด้วย และในภายหลังก็ได้ย้ายไปที่โรงเรียนมัธยมปลาย ซึ่งก็ได้ตั้งอยู่ที่ฮิวส์ตันเช่นกัน ในแถวชุมชนอลีฟ โนวส์ยังได้เป็นนักร้องนำในคณะนักร้องประสานเสียงที่โบสถ์เซนต์จอห์นยูไนเต็ด ซึ่งเป็นโบสต์ในคริสตจักรเมทอดิสต์
เมื่ออายุได้ได้ 8 ปี โนวส์ได้พบกับ ลาทาเวีย โรเบอร์ซัน ในขณะที่มีการออดิชั่นวงดนตรีหญิงล้วน พวกเธอและเพื่อนของโนวส์ เคลลี โรว์แลนด์ ถูกจัดให้เป็นกลุ่มที่เน้นการเต้นและร้องเพลงแร็ป ใช้ชื่อว่า เกิร์ลสไทม์ ในที่สุดพวกเขาก็ได้คัดให้เหลือสมาชิก 6 คน ด้วยโนวส์และโรว์แลนด์ เกิร์ลสไทม์ จึงได้ดึงดูดผู้ชมทั่วประเทศเป็นอย่างมาก เวสต์ คอส โปรดิวเซอร์เพลงแนวอาร์แอนด์บีและอาร์น ฟราเจอร์ ได้เข้าไปในฮิวสตันเพื่อดูแลพวกเธอ และเขาก็ได้พาพวกเธอไปยังสตูดิโอเพลงของเขา เดอะแพลนต์เรเคิดดิงสตูดิโอส์ ในภาคเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยน้ำเสียงของโนวส์ ทำให้ฟราเจอร์คิดว่าเธอเป็นผู้มีบุคลิกภาพและความสามารถในการร้องเพลง ด้วยความพยายามที่จะให้เกิร์ลสไทม์เป็นกลุ่มดนตรีแนวหน้าในอุตสาหกรรมดนตรี ฟราเจอร์ได้ส่งพวกเธอไปในรายการ สตาร์เสรช ซึ่งเป็นรายการประกวดร้องเพลงที่ดังที่สุดในอเมริกาในขณะนั้น แต่ผลออกมาไม่ค่อยดี เพราะเพลงที่พวกเธอแสดงยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าไหร่นัก โนวส์ได้กล่าวไว้ โนวส์ได้รู้สึกถึงการเสื่อมถ้อยในอาชีพของเธอเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ชนะรายการนี้ แต่เธอก็เริ่มกลับมามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ได้เรียนรู้จากบริตนีย์ สเปียรส์ และจัสติน ทิมเบอร์เลค ที่ได้มีมีประสบการณ์เดียวกันกับพวกเธอ
เพื่อที่จะดูแลพวกเธอ พ่อของโนวส์ได้ลาออกจากงานของเขาในปี ค.ศ. 1995 เขาได้สละเวลาและจัดตั้ง "บูทแคมป์" สำหรับการฝึกอบรมนี้ การลาออกจากงานของพ่อโนวส์ ทำให้รายได้ของครอบครัวโนวส์ได้ลดลงกว่าครึ่งและพ่อแม่ของเธอได้แยกทางกันเนื่องจากความกดดันต่างๆ ไม่นานหลังจากที่โรว์แลนด์ได้เข้ามา ในปี 1993 ได้มีสมาชิกใหม่เข้ามาในวงคือ เลโทย่า ลัคเก็ท และก็ได้คัดเหลือเพียง 4 คน ด้วยการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของแมททิว พวกเธอได้ออดิชั่นก่อนที่จะเซ็นสัญญากับอีเลคตราเรเคิดส์ นางชอบมากินข้าวเหนียวมะม่วงที่บ้านของอริสา เล็กเจริญ
งานทางดนตรีและการแสดง
1997-2001: ช่วงของเดสทินีส์ไชลด์
ด้วยแรงจูงใจจากพระธรรมอิสยาห์วงนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อวงเป็นเดสทินีส์ไชลด์ในปี ค.ศ. 1993เดสทินีส์ไชลด์ได้รับงานโชว์ตามงานต่าง ๆ หลังจาก 4 ปีของการเดินทาง พวกเธอก็ได้รับโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายเพลงโคลัมเบียเรเคิดส์ในปลายปี ค.ศ. 1997 ในปีเดียวกันนั้นเดสทินีส์ไชลด์ได้บันทึกเสียงเพลงเปิดตัวเพลงแรกจากค่าย เพลง "คิลลิงไทม์" ซึ่งใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง เมนอินแบล็ก ในปีต่อมาก็ได้ออกอัลบั้มชุดแรกโดยใช้ชื่อเหมือนชื่อวงคือ เดสทินีส์ไชลด์ ซิงเกิลฮิตซิงเกิลแรกคือเพลง "โน,โน,โน" อัลบั้มนี้ได้ทำให้เดสทินีส์ไชลด์เป็นที่รู้จักและเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่อุตสหกรรมดนตรีและทำให้เดสิทินีส์ไชลด์ได้รับ 3 รางวัลจากงานประกาศผลรางวัลโซลเทรนมิวสิกอวอร์ดสสำหรับ "ซิงเกิลอาร์แอนด์บี/โซลยอดเยี่ยม" สำหรับเพลง "โน,โน,โน" , "อัลบั้มอาร์แอนด์บี/โซลยอดเยี่ยมแห่งปี", และ"ศิลปินอาร์แอนด์บี/โซลหรือแร็ปหน้าใหม่ยอดเยี่ยม" ต่อมาพวกเธอก็ได้ออกอัลบั้มชุดที่สองซึ่งมียอดขายระดับมัลติ-แพลตินัม อัลบั้มเดอะไรติงส์ออนเดอะวอลล์ ในปี 1999 เพลงในอัลบั้มที่ออกมาล้วนเป็นรู้จักกันอย่างกว้างขวาง เช่นเพลง "บิลส์, บิลส์, บิลส์" ซิงเกิลอันดับ 1 เพลงแรกของพวกเธอ, เพลง "จัมปิน', จัมปิน'", เพลง"เซย์มายเนม" ซึ่งเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในขณะนั้นและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของวงจนถึงปัจจุบันนี้อย่างเพลง เพลง"เซย์มายเนม" ได้รับรางวัลการแสดงเพลงอาร์แอนด์บีคู่หรือกลุ่มด้วยเสียงร้องยอดเยี่ยมและเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมที่งานประกาศรางวัลแกรมมี ประจำปี 2001เดอะไรติงส์ออนเดอะวอลล์ มียอดขายมากกว่า 7 ล้านชุด และทำให้พวกเธอเป็นที่จับตามองของสื่อและผู้คนมากมาย ในฐานะกลุ่มศิลปินหญิงหน้าใหม่ในยุคนั้น
ควบคู่กันกับความสำเร็จทางด้านกำไรและยอดขาย เดสทินีส์ไชลด์ได้มีปัญหากับลักเก็ตต์และโรเบอร์สัน สำหรับคดีความการละเมิดสัญญา และปัญหายิ่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่มิเชลล์ วิลเลียมส์และฟาร่า แฟรงคลินได้ปรากฏอยู่ในมิวสิกวิดีโอเพลง "เซย์มายเนม" ทำให้สามารถบอกเป็นนัยได้ว่าลักเก็ตต์และโรเบอร์สันได้ถูกแทนที่แล้ว และในที่สุดลักเก็ตต์และโรเบอร์สันก็ได้ลาออกจากกลุ่มไป ต่อมาอีก 5 เดือนแฟรงกลินก็ได้ลาออกจากกลุ่มไปด้วยปัญหาความรู้สึกส่วนตัว หลักฐานปรากฏได้จากการที่เธอได้หายไปตามการโปรโมทและคอนเสิร์ตต่างๆ ทำให้เดสทินีส์ไชลด์เหลือสมาชิกกลุ่มสุดท้ายคือ โนวส์, โรว์แลนด์, และวิลเลียม
ต่อมาพวกเธอได้มีซิงเกิล "อินดีเพนเดนท์วูเมนพาร์ท1" ซึ่งใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 2000 นั่นคือภาพยนตร์เรื่องนางฟ้าชาลี เพลงนี้กลายเป็นเพลงที่มีชาร์ตดีที่สุดของพวกเธอด้วยการที่อยู่อันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด ฮอต 100 ยาวนานถึง 11 สัปดาห์ติดต่อกัน อัลบั้มชุดที่ 3 ของพวกเธอ เซอร์ไวเวอร์ วางขายในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2001 แต่ก็ได้มีปัญหาบุคคลเดิมนั้นคือลักเก็ตต์และโรเบอร์สันในเรื่องของแนวของอัลบั้มว่าได้พาดพิงไปถึงพวกเธอ แต่อย่างไรก็ตามอัลบั้มนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการเปิดตัวอันดับหนึ่งบนชาร์ทบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขายกว่า 663,000 ชุดในสัปดาห์แรก จนถึงปัจจุบันเซอร์ไวเวอร์ มียอดขายมากกว่า 10 ล้านชุดทั่วโลกและยอดขายร้อยละ 40 นั้นคือยอดขายแค่ในสหรัฐอเมริกาเพียงที่เดียว อัลบั้มยังมีซิงเกิลฮิตอันดับหนึ่งในบิลบอร์ดอย่างเพลง "บูตีลิเชียส" และ "เซอร์ไวเวอร์" ที่ภายหลังก็สร้างรางวัลแกรมมีสาขาการแสดงเพลงอาร์แอนด์บีคู่หรือกลุ่มด้วยเสียงร้องยอดเยี่ยมให้กับพวกเธอ ต่อมาเดสทินส์ไชลด์ได้มีอัลบั้ม 8 เดส์ออฟคริสต์มาส ซึ่งวางขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของปี 2001 หลังจากนั้นก็ได้มีการพักงานชั่วคราว เพื่อที่สมาชิกแต่ละคนจะได้ออกไปทำงานเดี่ยวของตน
2000-2002: การเป็นศิลปินเดี่ยวและการพัฒนาทางด้านอาชีพ
ในปี 2000 โนวส์ได้เซ็นสัญญาทำอัลบั้มเดี่ยว 3 อัลบั้มกับ โคลัมเบียเรเคิดส์ ขณะที่โนวส์ได้ทำงานร่วมกับเดสทินีส์ไชลด์ เธอก็ได้เริ่มทำงานเดี่ยวของตัวเอง เธอได้ร่วมงานกับ มาร์ก เนลซัน ในเพลง "อาฟเตอร์ออลอิสเซดแอนด์ดัน" เพื่อเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ในปี 1999 เรื่อง เดอะเบส์ตแมน และก็ได้ร้องเพลงร่วมกับ เอมิลล์ ในเพลง"ไอก็อทแดท" ปี 2000 ในช่วงต้นปี 2001 ขณะที่เดสทินีส์ไชลด์กำลังทำอัลบั้ม เซอร์ไวเวอร์ โนวส์ได้รับบทนักแสดงนำจากภาพยนตร์โทรทัศน์ ซึ่งออกฉายในช่องเอ็มทีวี เรื่อง Carmen: A Hip Hopera
ในปี 2002 โนวส์มีผลงานการแสดงภาพยนตร์แนวตลก เรื่อง พยัคฆ์ร้ายใต้สะดือ ตอน ตามล่อพ่อสายลับ ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศของสหรัฐอเมริกา มีรายได้กว่า 73.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์แรก และโนวส์ก็ได้มีซิงเกิลเดี่ยวซิงเกิลแรกของเธอ "เวิร์คอิทเอาท์" เพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ ในปีต่อมานั้นเธอก็ได้แสดงภาพยนตร์แนว โรแมนติกโคเมดี้ เรื่อง เดอะไฟท์ทิงเทมป์เทชัน และมีซิงเกิลร่วมกับแร็ปเปอร์หญิงอย่าง มิสซี เอลเลียต, เอ็มซี ไลยต์, และ ฟรี ในเพลง "ไฟท์ทิงเทมป์เทชัน" เพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้
ในปีเดียวกันนั้น โนวส์ได้ร่วมร้องเพลงกับแฟนหนุ่มของเธอ เจย์-ซี ในเพลง"'03 บอนนีย์แอนด์ไคล์ด"ลูเธอร์ แวนดรอสและโนวส์ ได้นำเพลง "เดอะโคลสเสอร์ไอเก็ทยู" กลับมาทำใหม่ ซึ่งต้นฉบับขับร้องโดย โรเบอร์ตา แฟล็ก และ ดอนนี่ แฮทอะเวย์ ในปี 1977 แล้วฉบับของพวกเขานี้ ก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขาการร้องเพลงอาร์แอนด์บีคู่หรือกลุ่มยอดเยี่ยม ในปีต่อมา
2003-2004: เดนเจอรัสลีอินเลิฟ
หลังจากโรว์แลนด์และวิลเลียมได้มีอัลบั้มเดี่ยวในปี 2002 โนวส์ก็ได้ออกมาเปิดตัวอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเธอ เดนเจอรัสลีอินเลิฟ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2003 ที่ได้ร่วมงานกับบรรดาคนทำเพลงชื่อดังมากมาย อัลบั้มนี้เปิดตัวบนอัลบั้มบนชาร์ทบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 1 ด้วยยอดขายกว่า 317,000 ชุดในสัปดาห์แรกสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (RIAA) ได้จัดให้อัลบั้มนี้มียอดขายระดับ 4x แพลตินัม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2004 และจนถึงปัจจุบันอัลบั้มนี้มียอดขายกว่า 5 ล้านชุดในสหรัฐอเมริกา
อัลบั้มนี้มีซิงเกิลอันดับหนึ่งถึง 2 เพลง เพลง "เครซีอินเลิฟ" ที่ได้มีท่อนแร็ปจากเจย์-ซี ออกจำหน่ายเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม ครองอันดับ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ด ฮอต 100 ถึง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน และอยู่อันดับแรก ๆ ของหลายชาร์ตทั่วโลก โนวส์ยังประสบความสำเร็จทั้งในสหราชอาณาจักรโดยได้มีทั้งซิงเกิลและอัลบั้มอยู่อันดับหนึ่งของที่นั่น ซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้มคือเพลง "เบบี้บอย" ที่ได้ร่วมงานกับฌอน พอล ที่ได้กลายเป็นเพลงที่ฮิตที่สุดในปี 2003 ครองอันดับหนึ่งแอร์เพลย์ที่สหรัฐอเมริกาและอยู่อันดับ 1 ได้ถึง 9 สัปดาห์ บนบิลบอร์ด ฮอต 100 ยาวนานกว่าเพลง "เครซีอินเลิฟ" หนึ่งสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีเพลง "มี, มายเซล์ฟ, แอนด์ไอ" และ "นอติเกิร์ล" เป็นซิงเกิลที่ 3 และ 4 จากอัลบั้มนี้ติด 5 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน
โนวส์ได้รับรางวัลแกรมมีถึง 5 สาขาจากความตั้งใจและทุ่มเทของเธอ ได้แก่ รางวัลสาขาการร้องเพลงอาร์แอนด์บีหญิงยอดเยี่ยม จากเพลง "เดนเจอรัสลีอินเลิฟ 2", เพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม จากเพลง "เครซีอินเลิฟ", และสาขาอัลบั้มอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม และในปีเดียวกันเธอก็ได้รับรางวัลของบริทอวอร์ดส สาขาศิลปินหญิงเดี่ยวระดับนานาชาติ ถือเป็นการแจ้งเกิดในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงนั้น ในช่วงพฤศจิกายน 2003 บียอนเซ่ได้ทัวร์คอนเสิร์ตแดนเจอรัสลีอินเลิฟทัวร์ในทวีปยุโรป และร่วมเดินสายเวอร์ริซอนเลดีส์เฟิสต์ทัวร์กับมิสซี เอลเลียตและอลิเชีย คียส์ในอเมริกาเหนือ
2004-2005: เดสทินีฟูล์ฟิลด์ และ ปิดฉากเดสทินีส์ไชลด์
ในปี 2004 โนวส์วางแผนที่จะออกอัลบั้มชุดใหม่ และชุดสุดท้ายของเดสทินีส์ไชลด์ หลังจากอัลบั้มเดนเจอรัสลีอินเลิฟของเธอ ในช่วงต้นปีนั้น โนวส์ได้รับเกียรติให้ไปร้องเพลงชาติสหรัฐอเมริกา ในการแข่งขัน ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่38 ณ รีเลียนท์สเตเดี้ยม ในฮิวสตัน และเธอก็ได้บอกว่าเป็นความใฝ่ฝันในวัยเด็กของเธอ
หลังจาก 3 ปีที่พวกเธอได้ทำผลงานเดี่ยว พวกเธอก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในอัลบั้มชุดที่ 4 เดสทินีฟูล์ฟิลด์ ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 อัลบั้มนี้สามารถขึ้นไปสูงสุดในอันดับอัลบั้มของบิลบอร์ดได้ในอันดับที่ 2 มีซิงเกิลที่ฮิตอย่างเพลง "ลอสมายบรีท" , "โซล์เดอร์" , "เกิร์ล" , และ "คาเตอร์ทูยู" ต่อมาได้มีคอนเสิร์ตทัวร์ เดสทินีฟูล์ฟิลด์ ... แอนด์เลิฟวิน'อิทเวิลด์ทัวร์ ช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน ปี 2005 ในปีเดียวกันก็ได้ออกอัลบั้มรวมฮิตชุดแรก นัมเบอร์วันส์ ที่รวบรวมซิงเกิลอันดับ 1 และเพลงฮิตทั้งหมดที่ทุกคนรู้จักตั้งแต่ก่อตั้งวงนี้มา รวมถึงเพลงพิเศษอย่าง "สแตนด์อัพฟอร์เลิฟ" ในปี 2005 จากความสำเร็จอย่างมากมาย
ความทุ่มเทในการทำงานของพวกเธอทำให้ได้รับการจารึกชื่อวง เดสทินีส์ไชลด์ลงบน ฮอลลีวูดวอล์กออฟเฟม ในเดือนมีนาคม ปี 2006 และในที่สุดวงนี้ก็ได้ประกาศยุบตัวลง เพื่อสมาชิกแต่ละคนจะได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองสนใจ เหลือเพียงตำนานและชื่อเสียงที่น่าจดจำของ กลุ่มศิลปินหญิงที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล และยังได้ตำแหน่ง 100 ศิลปินตลอดกาลที่บิลบอร์ดจัดขึ้นในปี 2008
ในปลายปี 2005 โนวส์ได้เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ดรีมเกิร์ลส ที่ดัดแปลงมาจากละครบรอดเวย์ในปี 1981 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนักร้องในยุค 60 โดยได้แรงบันดาลใจจากวงดนตรีหญิงล้วน แนวโมทาวน์ วงเดอะ ซูปพรีมส์ โดยยึดลักษณะตัวละครคือ ไดอาน่า รอสส์ ในเรื่องคือ ดีน่า โจนส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายในเดือนธันวาคม และเรื่องนี้โนวส์ได้ร่วมงานกับนักแสดงนำอย่าง เจมี ฟ็อกซ์, เอ็ดดี้ เมอร์ฟี, และ เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน โนวส์ได้บันทึกเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่หลายเพลง ซึ่งก็รวมไปถึงเพลง "ลิสเซน"ด้วย ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2006 โนวส์ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ถึง 2 สาขา นั่นก็คือ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม - โมชันพิกเจอร์ มิวสิคัลหรือตลก และ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเพลง "ลิสเซน"
2006-2007: บี'เดย์
ปี 2006 โนวส์มีผลงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง เดอะพิงค์แพนเตอร์ ซึ่งออกฉายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 เปิดตัวที่อันดับ 1 ในบ็อกซ์ออฟฟิศของสหรัฐอเมริกา มีรายได้กว่า 21.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์แรก เธอยังร้องเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างเพลง "เช็dออนอิท" ที่เธอได้ร่วมงานกับ สลิม ทัก และยังขึ้นถึงอันดับ 1 ในบิลบอร์ดฮ็อต 100อีกด้วย
โนวส์กลับมากับอัลบั้ม บี'เดย์ ซึ่งออกวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2006 ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุครบ 25 ปีของเธอพอดี อัลบั้มนี้เปิดตัวที่อันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ด ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 541,000 ชุด และเป็นอัลบั้มที่มียอดขายในสัปดาห์แรกสูงที่สุดในฐานะศิลปินเดี่ยว นอกจากจะรับหน้าที่เป็นเอกซ์คูทีฟโปรดิวเซอร์ในอัลบั้มนี้แล้ว โนวส์ยังร่วมแต่งและโปรดิวซ์เพลงในอัลบั้มนี้ถึง 11 เพลงเลยทีเดียว ร่วมด้วยทีมงานโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงระดับซุปเปอร์สตาร์เช่น สวิซ บีทซ์, ริช ฮาร์ริซัน, เดอะเนปจูนส์, ซีน การ์เรต, สตาร์ เกต, เจย์-ซี, โซแลงก์ โนวส์, เองเจลินา บียินเซ่, มาคีบา และ รอดนีย์ เจอร์กินส์
ซิงเกิลแรกอย่าง "เดจาวู" ที่ได้เจย์-ซี มาช่วยแร็ปให้ในเพลงนี้ อยู่ภายใต้การดูแลของ รอดนีย์ เจอร์กินส์ และยังได้ โซฟี มุลเลอร์ ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอชื่อดังมากำกับมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้อีกด้วย และออกซิงเกิลที่ 2 ตามมาคือ เพลง "ริงดิอลาร์ม" แต่ทั้งสองซิงเกิลนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จบนในชาร์ตบิลบอร์ดฮ็อต 100 เหมือนซิงเกิลที่ผ่านๆมา จนมาถึงซิงเกิลที่ 3 เพลง "อีเรเพลสอเบิล" ถือเป็นเพลงที่ฮิตที่สุดในปี 2007 ซึ่งครองอันดับ 1 ถึง 10 สัปดาห์ และมียอดขายซิงเกิลกว่า 6 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้เป็นเพลงที่ฮิตที่สุดของเธอด้วย
ต่อมาโนวส์ได้วางจำหน่าย บี'เดย์ ฉบับดีลักซ์ ในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2007 โดยเพิ่มเพลงใหม่ไปอีก 5 เพลง และฉบับภาษาสเปนของเพลง "อีเรเพลสอเบิล" และ "ลิสเซน" นอกจากนั้นยังมีเพลง "บิวติฟูล์ไลอาร์" ที่เธอร่วมร้องกับนักร้องสาวชาคีร่า ขึ้นอันดับ 1 ในประเทศอังกฤษ ส่วนในสหรัฐอเมริกาขึ้นสูงสุดที่อันดับ 3
ต่อมาโนวส์ได้มีทัวร์คอนเสิร์ตชื่อว่า เดอะบียอนเซ่เอกซ์พีเรียนส์ มีรอบการแสดงถึง 97 รอบทั่วโลก ทั้งใน เอเซีย, ออสเตรเลีย, อเมริกาเหนือ, ยุโรป, และ แอฟริกา เปิดทัวร์ที่ประเทศญี่ปุ่นและสิ้นสุดที่ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ทัวร์นี้ได้มีการบันทึกภาพที่ ลอสแอนเจลิส และวางขายเป็นดีวีดีในปีเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่า เดอะบียอนเซ่เอกซ์พีเรียนส์ไลฟ์ และในวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2007 เธอได้มาเปิดคอนเสิร์ตในประเทศไทย ที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี โดยผู้จัดคือ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ท่ามกลางความตื่นเต้นและรอคอยของแฟนคลับชาวไทย
ในงานแกรมมีปี 2007 อัลบั้มบี'เดย์ ทำให้โนวส์ได้รับรางวัลสาขาอัลบั้มเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม และโนวส์ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในอเมริกัน มิวสิก อวอร์ดส์ ครั้งที่ 35 โดยเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลสาขาศิลปินระดับต่างประเทศ
2008-2010: ไอแอม... ซาชาเฟียร์ส
ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 โนวส์ได้ร้องเพลงร่วมกับทีน่า เทอร์เนอร์ ในงานประกาศผลรางวัลแกรมมี ครั้งที่ 50 โนวส์ได้เรียกเทอร์เนอร์ว่า 'เดอะควีน' และร้องเพลง "พราวด์แมรี" ต่อมาโนวส์ได้มีงานภาพยนตร์นั่นก็คือ คาดิลแล็กเรเคิดส์ วันวานตำนานร็อก ที่เริ่มถ่ายทำในเดือน พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ซึ่งเธอรับบทเป็นนักร้องในตำนาน เอตต้า เจมส์ และโนวส์ยังได้มีภาพยนตร์แนวระทึกขวัญเรื่อง แรงรักมรณะ ร่วมกับนักแสดงนำอย่าง อาลิ ลาร์เตอร์ และ อิดริส เอลบา ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2009 ในวันแรกภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ไปกว่า 11.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในสุดสับดาห์ก็มียอดจำหน่ายในบ็อกออฟฟิศของสหรัฐอเมริกาเป็นที่ 1 ด้วยรายได้ทั้งหมด 28.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โนวส์กลับมาอีกครั้งในช่วงปลายปี กับอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 3 มีชื่อว่า ไอแอม... ซาชาเฟียร์ส วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008. โดยโนวส์ได้เผยว่า ซาชา เฟียร์ส คือภาพลักษณ์ของเธอเวลาอยู่บนเวทีที่จะเต็มที่ เปรี้ยวแรง และทุ่มเท ต่างกับตัวจริงของเธอที่จะเป็นคนเงียบๆ และเรียบง่าย มีซิงเกิลแรกและซิงเกิลที่สองออกมาพร้อมกัน 2 เพลง คือ "อิฟไอเวอร์อะบอย" และ "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)" ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ที่ต่างประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งคู่ โดยเพลง "อิฟไอเวอร์อะบอย" สามารถขึ้นไปอันดับหนึ่งบนชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร และเพลง "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)" นั้นสามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ด ฮอต 100 ซึ่งนับเป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งในบิลบอร์ดเพลงที่ 5 ของโนวส์ในฐานะศิลปินเดี่ยว และซิงเกิลที่ 4 ของอัลบั้มนี้ "เฮโล" สามารถขึ้นไปสูงสุดในบิลบอร์ดได้ถึงอันดับที่ 5 ทำให้เป็นซิงเกิลที่ 12 ที่สามารถติดอันดับ 1 ใน 10 ของบิลบอร์ดได้ในฐานะศิลปินเดี่ยว ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงที่มีเพลงอยู่ในสิบอันดับแรกมากที่สุดในทศวรรษนี้ ต่อมาโนวส์ก็ได้รับรางวัลสาขาศิลปินหญิงโดดเด่น ของเอ็นเอเอซีพีอิมเมจอวอร์ด และยังได้รับรางวัลศิลปินอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมที่ทีนชอยส์อวอร์ดประจำปี 2009 อีกด้วย
เมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2009 โนวส์ได้รับเกียรติให้ไปร้องเพลง "อเมริกาเดอะบิวทิฟูล" ในงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีบารัก โอบามา และเธอยังได้นำเพลง "แอตลาสต์" เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง คาดิลแล็กเรเคิดส์ วันวานตำนานร็อก ไปร้องระหว่างการเต้นรำของประธานาธิบดีโอบามาและมิเชลล์ ในขณะที่เป็นประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกาด้วย
โนวส์ได้มีทัวร์คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งที่ 3 ใช้ชื่อว่า ไอแอม... ทัวร์ การทัวร์เริ่มในช่วงเดือนมีนาคมโดยที่จะไปในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เริ่มจากอเมริกา, ยุโรป, เอเซีย, แอฟริกาและโอเชียเนีย ซึ่งระหว่างการทัวร์ในสหรัฐอเมริกา เธอได้จัดคอนเสิร์ต "ไอแอม... ยัวรส์" 4 รอบ ที่ลาส เวกัส ทัวร์คอนเสิร์ตของโนวส์ในครั้งนี้ติดอันดับ 1 คอนเสิร์ตที่ร้อนแรงที่สุดจากบิลบอร์ด และยังยืนยันถึงความสำเร็จของทัวร์นี้อีกว่าทัวร์คอนเสิร์ตนี้มีรายได้ได้กว่า 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐขณะที่เพิ่งเริ่มการทัวร์และติดอยู่ใน 15 ทัวร์ที่มีรายได้มากที่สุด ด้วยการที่มีกำหนดการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 2010 เธอเดินสายคอนเสิร์ตทั้งหมด 108 รอบ กวาดรายได้กว่า 119.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มิวสิกวิดีโอเพลง "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)" ได้รับรางวัลวิดีโอแห่งปีที่งานประกาศรางวัลบีอีทีอวอร์ดส์ ประจำปี 2009 และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ประจำปี 2009 ถึง 9 รางวัล ท้ายที่สุดก็ได้รับรางวัลวิดีโอแห่งปีกับอีก 2 รางวัลที่นี้อีกเช่นเดียวกัน ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 โนวส์ได้รับรางวัล "วูเมนออฟเดอะเยียร์" จากนิตยสารบิลบอร์ด นอกจากนี้ในงานประกอศผลรางวัลแกรมมีครั้งที่ 52 บียอนเซ่มีชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งหมด 10 รายการ ทั้งอัลบั้มแห่งปีจาก "ไอแอม... ซาชาเฟียร์ส", บันทึกเสียงแห่งปีจาก "ฮาโล" และเพลงแห่งปีจาก "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตเดอะริงออนอิต)" และอื่น ๆ และชนะรางวัลถึง 6 รางวัลด้วยกัน ทำให้เธอเป็นผู้หญิงทีชนะรางวัลแกรมมีมากที่สุดภายในหนึ่งคืน ในปี 2010 เธอร่วมงานกับเลดี้ กาก้าในเพลง "เทเลโฟน" ที่ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตเพลงป็อปของอเมริกาได้ กลายเป็นเพลงที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ได้เป็นเพลงที่ 6 ทั้งของบียอนเซ่และเลกี้ กาก้า
บียอนเซ่ประกาศพักงานในวงการเพลงในเดือนมกราคม 2010 ตามคำแนะนำของแม่ของเธอ "กลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง หาแรงบันดาลใจจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว" ระหว่างพักนั้นเธอได้ไปเที่ยวในหลายประเทศในยุโรป ไปที่กำแพงเมืองจีน มหาพีระมิดที่อียิปต์ ออสเตรเลีย เทศกาลดนตรีของอังกฤษ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และการแสดงบัลเล่ต์
2011-2015: โฟร์ และ บียอนเซ่
วันที่ 24 มิถุนายน 2011 โนวส์ได้ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 ใช้ชื่อว่า โฟร์ ผ่านทางค่ายเพลงโคลัมเบียเรเคิดส์ ขายได้ 310,000 ชุด ภายใน 1 สัปดาห์ ขึ้นแท่นบิลบอร์ดอันดับที่ 1 ในบิลบอร์ด 200ในวันที่ 26 มิถุนายน 2011 บียอนเซ่เป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่ได้ขึ้นเวทีพีระมิด ซึ่งเป็นเวทีหลักในรอบ 20 ปีในเทศกาลแกลสตันบูรี 2011 ซิงเกิลเปิดอัลบั้มอย่าง "รันเดอะเวิลด์ (เกิร์ลส)" และ "เบสติงไอเนเวอร์แฮฟ" ถือว่าประสบความสำเร็จพอประมาณ แต่ซิงเกิลที่สี่อย่าง "เลิฟออนท็อป" นั้นประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเชิงพาณิชย์ในอเมริกา เรื่อง "อีต, เพลย์, เลิฟ" ที่เธอแต่งลงนิตยสาร ซึ่งเกี่ยวกับช่วงที่เธอพักในปี 2010 ได้รับรางวัลจากจาก New York Association of Black Journalists และในช่วงท้ายปี 2011 เธอได้แสดงคอนเสิร์ตโฟร์อินทิเมตไนท์วิทบียอนเซ่ ทั้งหมด 4 รอบในโรสแลนด์บอลรูม
ในวันที่ 7 มกราคม 2012 บียอนเซ่ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ชื่อว่า "บลู ไอวี คาร์เตอร์" ที่โรงพยาบาลเลเน็กซ์ฮิลส์ในนิวยอร์ก ห้าเดือนต่อมา บียอนเซ่หวนคืนสู่เวทีอีกครั้งกับการแสดงทั้งหมด 4 รอบที่เรเวล แอตแลนติกซิตี้เพื่อฉลองการเปิดรีสอร์ตแห่งใหม่
เดือนมกราคม 2013 เดสทินีส์ไชลด์ได้ปล่อยอัลบั้ม "เลิฟซอง" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ได้รวบรวมเพลงรักโรแมนติกจากอัลบั้มก่อน ๆ และมีหนึ่งเพลงใหม่ ชื่อว่า "นิวเคลียร์" และบียอนเซ่ยังได้รับเกียรติร้องเพลงชาติสหรัฐ ฯ ในพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีบารัก โอบามาอีกด้วย เดือนถัดมา บียอนเซ่ได้รับเชิญให้ไปแสดงช่วงพักครึ่งในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 47 ร่วมกับเพื่อนรัก เคลลี โรว์แลนด์และมิเชล วิลเลียมส์ ซึ่งส่งผลให้การแสดงนี้เป็นเหตุการณ์ที่ถูกทวิตมากที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวน 268,000 ทวิตต่อนาที และสารคดีเรื่องยาวเกี่ยวกับชีวิตของเธอ "ไลฟ์อิสบัตอะดรีม" ก็ได้ฉายบนช่องเอชบีโอในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2013
ต่อมาในวันที่ 15 เมษายน 2013 บียอนเซ่ได้เริ่มเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต โดยแสดงที่เบลเกรด ประเทศเซอร์เบียเป็นที่แรก และสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2014 รวมแล้วเธอทัวร์คอนเสิร์ตทั้งสิ้น 132 รอบ กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ประสบความที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอและเป็นหนึ่งในทัวร์คอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จตลอดกาล ในเดือนพฤษภาคม "แบ็กทูแบล็ก" เพลงของศิลปินในตำนาน เอมี ไวน์เฮาส์ที่บียอนเซ่ได้นำมาคัฟเวอร์ ซึ่งถูกใช้ประกอบภาพยนตร์เดอะ เกรท แกตสบี้ รักเธอสุดที่รัก ก็ได้ปล่อยออกมา นอกจากนี้เธอยังให้เสียงตัวละครควีนทาร่าในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง "เอปิก" และร้องเพลงประกอบชื่อว่า "ไรส์อัป" ซึ่งแต่งร่วมกับเซียอีกด้วย มิถุนายน 2014 บียอนเซ่และเคลลี โรว์แลนด์ ได้ร่วมงานกับ มิเชล วิลเลียมส์ เพื่อนร่วมวงเดสทินีส์ไชลด์อีกครั้ง ในซิงเกิ้ล Say Yes เป็นซิงเกิลของมิเชลล์ ภายใต้ค่ายเพลงอิสระ เอ็นเตอร์เทนเมนต์วัน (อีวัน)
วันที่ 13 ธันวาคม 2013 โนวส์ได้ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 ใช้ชื่อว่า ลงบนไอทูนส์โดยปราศจากการประกาศล่วงหน้า และขึ้นแท่นบิลบอร์ดอันดับที่ 1 ในบิลบอร์ด 200 ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่มีอัลบั้ม 5 อัลบั้มแรกเปิดตัวบนชาร์ตด้วยอันดับ 1 อัลบั้มนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ดีและขายได้ 617,000 ชุด ภายใน 3 วันในสหรัฐฯ (828,773 ทั่วโลก) เป็นอัลบั้มที่สร้างปรากฏเหนือความคาดหมายในวงการเพลงส่งท้ายปี โดยนำเสนอในรูปแบบเพลงจำนวน 14 เพลง (16 เพลง ["โกสต์" / "ฮอนเท็ด" และ "ยอนเซ่" / "พาร์ทิชั่น" เป็นเพลงต่อ]) และมิวสิกวีดีโอ 17 เพลง แถมโบนัสวิดีโอ "โกรนวูแมน" โดยมีบูทส์, ทิมบาแลนด์, จัสติน ทิมเบอร์เลค, เจ ร๊อซ, เจย์ ซี, พาเรียล, เดอะ ดรีม, ฮิตบอย, ไรอัน แทนเดอร์, เซีย, มิเกล, เดรก, มาจิด จอร์แดน, แฟรงก์ โอเชียน ฯลฯ เป็นโปรดิวเซอร์ บียอนเซ่ปล่อยซิงเกิลเอ็กโอและดรังอินเลิฟที่พีกขึ้นอันดับ 2 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 หลังจากการแสดงที่งานประกาศผลรางวัลแกรมมี 2014 ตามด้วยพาร์ทิชั่นและพริตทีเฮิร์ตส เดือนเมษายน 2014 บียอนเซ่และเจย์ซีประกาศทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกันอย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อว่า "ออนเดอะรันทัวร์" โดยกวาดรายได้กว่าร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยจำนวนรอบ 21 รอบ ในเดือนสิงหาคม 2014 เธอได้รับรางวัลไมเคิลแจ็กสันแวนการ์ดในงานประกาศผลรางวัลเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส 2014 และยังชนะอีก 3 รางวัล ได้แก่ Best Video with a Social Message และ Best Cinematography จากพริตทีเฮิร์ตสและ Best Collaboration จากดรังอินเลิฟ ในเดือนพฤศจิกายน นิตยสารฟอบส์รายงานว่า บียอนเซ่เป็นผู้หญิงในวงการเพลงที่ทำรายได้สูงสุดติดกันเป็นปีที่ 2 โดยทำรายได้ไป 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในหนึ่งปี ซึ่งมากกว่ารายได้ของเธอในปี 2013 กว่าสองเท่า ต่อมาบียอนเซ่ปล่อย บียอนเซ่ ฉบับแพลตินั่ม พร้อม 2 เพลงใหม่ ได้แก่ 7/11 และริงออฟ และ 4 เพลงรีมิกซ์ หนึ่งในนั้นมีสแตนดิงออนเดอะซัน ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้ในโฆษณาของ H&M ด้วย
ในงานประกาศผลรางวัลแกรมมีครั้งที่ 57 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 บียอนเซ่เข้าชิงทั้งหมด 6 สาขาด้วยกัน และชนะในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ Best R&B Performance และ Best R&B Song จากเพลง "ดรังอินเลิฟ" และ Best Surround Sound Album จาก "บียอนเซ่" เธอเข้าชิงรางวัล Album of The Year ด้วย แต่เบ็กชนะไปด้วยอัลบั้มมอร์นิ่งเฟส
2016-ปัจจุบัน: อัลบั้มชุดที่ 6
ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2016 บียอนเซ่กลับมาอีกครั้งกับซิงเกิลใหม่ "ฟอร์เมชัน" ซึ่งปล่อยให้ดาวน์โหลดได้ฟรีในบริการสตรีมเพลงไทดอล วันต่อมาเธอได้แสดงเพลงฟอร์เมชันเป็นครั้งแรกในช่วงพักครึ่งในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 50 ที่เธอเป็นแขกรับเชิญให้กับโคลด์เพลย์ และหลังจากนั้นเธอก็ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก "เดอะฟอร์เมชันเวิลด์ทัวร์" ในทันที
สไตล์เพลงและภาพลักษณ์
ดนตรีและเสียงร้อง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เพลงของโนวส์ส่วนใหญ่จะเป็นแนวอาร์แอนด์บีร่วมสมัย แต่ก็มักจะผสมแนวแดนซ์ป็อป, ฟังก์, ป็อป และโซลเข้าไปด้วย เพลงของโนวส์นั้นไม่ได้มีแค่เพียงเพลงภาษาอังกฤษ เธอยังได้ทำเพลงภาษาสเปนอยู่หลายเพลงสำหรับการวางจำหน่ายอีกครั้งของอัลบั้มบี'เดย์ อีกด้วย วงเดสทินีส์ไชลด์เองก็ยังเคยทำเพลงภาษาสเปนด้วยเช่นกันและยังได้เสียงตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงชาวลาติน โนวส์เคยใช้ภาษาสเปนในโรงเรียนเมื่อยังเด็ก แต่ตอนนี้สามารถพูดได้เพียงไม่กี่คำ แต่เมื่อต้องทำเพลงภาษาสเปนสำหรับการวางจำหน่ายอีกครั้งของอัลบั้มบี'เดย์ เธอก็ได้ไปฝึกสัทศาสตร์กับโปรดิวเซอร์เพลงชาวอเมริกัน ชื่อว่ารูดี เพียร์ซ
การแสดงบนเวที
ในปี 2006 โนวส์ได้มีวงดนตรี ของตนเอง ซึ่งก็ได้มีทั้ง นักเล่นเบส, นักตีกลอง, นักเล่นกีต้าร์, นักเล่นฮอร์น, มือคีย์บอร์ด และ นักดนตรีเครื่องดนตรีประเภทตี พวกเขาได้เปิดตัวครั้งแรกในงานประกาศผลรางวัลบีอีทีอวาร์ดส ปี 2006 และปรากฏตัวอีกครั้งในมิวสิกวิดีโอเพลง "อีเรเพลสอเบิล" และ "กรีนไลท์". วงดนตรีนี้ได้เล่นดนตรีให้โนวส์ในการร้องเพลงสดของโนวส์ในที่ต่างๆ รวมไปถึงคอนเสิร์ตทัวร์รอบโลกในปี 2007 เดอะบียอนเซ่เอกซ์พีเรียนส์, และในปี 2009 คอนเสิร์ตทัวร์ไอแอม...
ในบทความที่มีชื่อว่า "บอร์นทูเอ็นเตอร์เทน" โนวส์รวมถึงศิลปินคลาสสิกและร่วมสมัยอื่นๆ ได้รับคำชมจากการแสดงบนเวทีของเธอ ในบทวิจารณ์คอนเสิร์ตทัวร์ไอแอม... ในปี ค.ศ. 2009ของเธอ อลิส โจนส์ของหนังสือพิมพ์อินดีเพนเดนท์ ได้เขียนไว้ว่า "Watching Beyoncé sing and strut her stuff can feel at best overawing, at worst, alienating. She takes her role as entertainer so seriously she's almost too good."เดอะนิวยอร์กไทมส์ เขียนว่า "มันมีความน่าทึ่งพร้อมกับน่าตื่นเต้นมากในการวางแผนของเธอที่จะทำให้ผู้ชมสนุกสนาน" รีนี มิเชลล์ ฮารริสของเซาท์ฟลอริดาไทมส์ เขียนว่า โนวส์ "สามารถทำตัวเป็นเจ้าของเวทีพร้อมกับใส่เอกลักษณ์ของเธอและมีความเอาจริงเอาจัง... การแสดงที่มีเสียงร้องอันทรงพลังของเธอและไม่มีโน้ตใดที่ตกหล่นไป, การเต้นที่สมบูรณ์แบบ...ไม่มีใครทั้งนั้น, ไม่ใช่บริตนีย์, ไม่ใช่ซิเอรา และก็ไม่ใช่ริอานน่า สามารถทำอย่างที่เธอทำได้ ทั้งการร้องการเคลื่อนไหวที่สมบูรณ์ในเวลาเดียวกัน" และนี่เป็นการสะท้อนออกมาของลอร์เรน ชวารตซ์จากดิเอกซ์แซมิเนอร์ ผู้ที่เขียนไว้ว่า "ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี ฉันได้เห็น มาดอนน่า, บริตนีย์, และบียอนเซ่... [บียอนเซ่]ดีกว่าสามคนนั้นอยู่ไกลมาก"
ภาพลักษณ์
โนวส์เป็นที่รู้จักกันในเรื่องสัญลักษณ์ของเพศ ตามที่เธอได้พูดไว้ว่า "ฉันชอบที่จะแต่งตัวเซ็กซี่และทำตัวเองให้เหมือนสตรีทั่วไป" แต่เธอก็ได้บอกว่าการแต่งตัวบนเวทีก็ "สำหรับการแสดงบนเวทีเท่านั้น" เนื่องจากเธอเป็นคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในแฟชั่น โนวส์ได้ผสมผสานองค์ประกอบของศิลปะกับมิวสิกวิดีโอและการแสดงของเธอ แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน โรเบอร์โต คาวาลลิ กล่าวไว้ว่า "เธอจะใช้สไตล์ที่แตกต่างกัน พยายามให้เข้าดนตรีในขณะแสดง" นิตยสาร พีเพิล ได้จัดให้โนวส์เป็นคนดังที่มีแต่งตัวได้ดีที่สุดในปี 2007 แม่ของโนวส์ได้เขียนหนังสือในปี 2002 โดยชื่อว่า เดสทินีส์สไตล์: บูตีลิเชียสแฟชั่น, บิวติฟูล์แอนด์ไลฟ์สไตล์ซีเครตฟรอมเดสทินีส์ไชลด์ เป็นบันทึกที่ว่าแฟชั่นมีส่วนต่อความสำเร็จของเดสทินีส์ไชลด์มากแค่ไหน
ในปี 2007 โนวส์เป็นที่จับตามองมาก ในการที่เธอได้ขึ้นปกของ สปอร์ตสอิลลัสเตรดต์สวิมสูทอิชชู เธอเป็นคนแรกที่ไม่ใช่ทั้งนางแบบและไม่ใช่ทั้งนักกีฬาที่ได้ลงสิ่งตีพิพม์นี้ และยังเป็นศิลปินชาวแอฟริกันอเมริกัน คนที่สองหลัง ไทรา แบงส์ ในปีเดียวกัน ภาพโนวส์ได้ปรากฏอยู่ในนิตยสารบิลบอร์ดและหนังสือพิมพ์ทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นภาพที่เธอกำลังถือบุหรี่แบบเก่าอยู่และเป็นภาพจากปกหลังของอัลบั้ม บี'เดย์ ภาพนี้ถูกต่อต้านจากองกรณ์ป้องกันการสูบบุหรี่อย่างมาก โดยระบุว่าเธอไม่จำเป็นต้องเพิ่มบุหรี่ "เพื่อให้ตัวเองดูซับซ้อนกว่าเดิม"
ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2009 โนวส์ได้ไปสัมภาษณ์ในรายการ แลร์รี่คิงไลฟ์ เธอได้พูดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอได้ไปร้องเพลงในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีบารัก โอบามาเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2009 และเธอกล่าวว่า มิเชลล์ โอบามา "เป็นบุคคลที่เก๋มาก" และได้กล่าวไปถึงว่าการได้ไปร้องเพลง"แอตลาสต์"นั้น ว่าเป็นอะไรที่สำคัญต่อชีวิตการทำงานของเธอมาก
เราสอนผู้หญิงว่า "คุณทะเยอทะยานได้ แต่อย่ามากเกินไป คุณควรจะประสบความสำเร็จ แต่อย่าสำเร็จเกินไปเพราะจะทำให้ผู้ชายเกรงกลัว"
และเพราะฉันเป็นผู้หญิง ฉันหวังว่าจะได้แต่งงาน ฉันหวังว่าชีวิตจะมีตัวเลือกหลายอย่าง และจำไว้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแต่งงาน ซึ่งทำให้มีความสุข ความรัก และการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
แต่ทำไมเราไม่สอนให้ผู้ชายต้องการที่จะแต่งงานเหมือนที่สอนผู้หญิงบ้าง
เราสอนผู้หญิงเห็นผู้หญิงด้วยกันเป็นคู่แข่งกัน ไม่ใช่เพื่องานหรือความสำเร็จที่ฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่เพื่อความสนใจของผู้ชาย
เราห้ามไม่ให้ผู้หญิงแสดงออกทางเพศได้เฉกเช่นผู้ชาย
นักสตรีนิยม: บุคคลที่เชื่อในความเท่าเทียมทางเพศในด้านสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ
— สุนทรพจน์ของชิมามานดา อะดิชี ในเพลง ***ฟลอว์เลส
ต่อมาเมื่ออัลบั้ม 4 ถูกปล่อยในช่วง 2011 พร้อมซิงเกิลเปิดอัลบั้มอย่าง "รันเดอะเวิลด์ (เกิร์ลส) ซึ่งประกาศความเป็นสตรีนิยมของบียอนเซ่อย่างเต็มตัว และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นสตรีนิยมให้เด่นชัดมากขึ้นอีกในเพลง "***ฟลอว์เลส" จากอัลบั้มบียอนเซ่ ที่มีเนื้อหาให้ผู้หญิงมีความมั่นใจในตนเอง และมีสุนทรพจน์ของ นักเขียนชาวไนจีเรียอยู่ในเพลงด้วย ต่อมาในปี 2015 บียอนเซ่ได้ร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีเมดอินอเมริกาและเทศกาลโกลบอลซิตีเซน ซึ่งมีนัยด้านสตรีนิยมปรากฏ
อิทธิพลและสิ่งสืบเนื่อง
โนวส์ยกย่อง ไมเคิล แจ็คสัน เป็นผู้มีอิทธิพลทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของเธอ ตอนอายุ 5 ขวบ เมื่อโนวส์ไปที่คอนเสิร์ตของเขาครั้งแรกนั้นทำให้เธอตระหนักถึงเป้าหมายของเธอ ปี 2006 ที่งาน เวิลด์มิวสิกอวอร์ดส เธอยังกล่าวต่อผู้ชมว่า "ถ้าไม่ใช่เพราะไมเคิล แจ็คสัน ฉันคงไม่ได้เป็นเช่นทุกวันนี้" โนวส์ได้แรงบันดาลใจในการเป็นนักร้องมาจากศิลปินชาวอเมริกันอย่าง ทีน่า เทอร์เนอร์, พรินซ์, อารีธา แฟรงคลิน, วิทนีย์ ฮูสตัน, เจเน็ต แจ็กสัน, เซเลนา, แมรี เจ. ไบลจ์, ไดอาน่า รอสส์, ดอนนา ซัมเมอร์, มารายห์ แครี และนักร้องชาวโคลัมเบียนอย่าง ชาคีร่า. นอกจากนี้โนวส์ได้เติบโตมากับเพลงของ เอนิตา เบเกอร์และลูเธอร์ แวนดรอส และในต่อมาก็กลับกลายเป็นคนที่เธอได้ร่วมงานอยู่ด้วยในที่สุด
โนวส์ยังมีอิทธิพลต่อศิลปินร่วมสมัยด้วย นักร้องเพลงแนวอาร์แอนด์บี ชาวคะเนเดียน เคเชีย ชานเต ก็ได้มีอิทธิพลมาจากโนวส์เช่นเดียวกัน นอกจากนั้น ผู้ชนะรายการ อเมริกันไอดอล จอร์ดิน สปาร์คส ซิงเกิลแรก "แทททู" และอัลบั้มแรกของเขา สามารถอธิบายได้ว่ามีความชอบในตัวบียอนเซ่เอามากๆ ซึ่งซิงเกิล"แทททู"นั้น ก็ได้มีดนตรีและสิ่งต่างๆเหมือนกับเพลงฮิตของโนวส์มาก นั้นคือเพลง "อีเรเพลสอเบิล"
สตีเฟน โทมัส เอร์ไลไวน์ ของออลมิวสิกได้พบว่าเพลงในอัลบั้มแรกของนักร้องป๊อปชาวอเมริกัน เคทารีน แม็คฟี ได้รับอิทธิพลจากเพลงของโนวส์มากๆ โรว์แลนด์ ยังได้แรงบันดาลใจ ก่อนการทำอัลบั้มชุดที่ 2ของเธอ มิส.เคลลี่ จากเสียงร้องของโนวส์ด้วยเช่นกัน
โนวส์เป็นนักร้องหญิงคนแรก ที่ได้รับรางวัล อเมริกัน มิวสิก อวอร์ดส์ สาขาศิลปินระดับต่างประเทศ โนวส์ได้เป็นนักร้องนำของวงดนตรีหญิงล้วนที่มียอดขายสูงที่สุดตลอดกาล เดสทินีส์ไชลด์ ในที่ต่างๆมากมาย ได้บันทึกไว้ว่าเธอเป็นสัญลักษณ์ของเพลงป๊อป ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด อัลบั้มแรกของเธอ เดนเจอรัสลีอินเลิฟ ได้อยู่ในรายชื่อ ท๊อป200เดฟินิทีฟอัลบั้ม ในประวัติศาสตร์ดนตรี โดย ร็อกแอนด์โรลฮอลออฟเฟม ซึ่งน้อยมากสำหรับศิลปินในยุดนี้ ที่จะได้อยู่ในรายชื่อนั้น โนวส์ได้มีหุ่นขี้ผึ้งในที่ต่างๆมากมาย แต่ที่ ที่รู้จักกันมากก็คือ ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของ Madame Tussaud เธอก็ยังเป็นหนึ่งในน้อยคนของแอฟริกันอเมริกัน ที่ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 3 รางวัล หรือมากกว่านั้น
กิจกรรมการกุศลและงานอื่นๆ
เฮาส์ออฟเดเรออน
ปี 2005 โนวส์เปิดตัวธุรกิจห้องเสื้อที่เธอได้ร่วมมือกับทีน่า โนวส์ (แม่ของเธอ) โดยใช้ชื่อว่า เฮาส์ออฟเดเรออน (House of Deréon) (เดเรออน คือชื่อยายของเธอ) ซึ่งงานออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากบรรพบุรุษในตระกูล ทัวร์คอนเสิร์ต เดสทินีฟูล์ฟิลด์ ... แอนด์เลิฟวิงอิทเวิลด์ทัวร์ ของเดสทินีส์ไชลด์ ได้เลือกใช้ชุดจากห้องเสื้อนี้ของเธอเองทั้งหมด ปัจจุบันได้มีการประยุกต์ธุรกิจนี้ร่วมกับผลงานของเธอที่ออกมาในขณะนั้นด้วย
งานโฆษณา
โนวส์ได้เซ็นสัญญากับเครื่องดื่มเป๊ปซี่ในปี ค.ศ. 2002 ซึ่งเป็นการโฆษาณาทั้งบนโทรทัศน์ รวมถึงวิทยุและในอินเทอร์เน็ต ในปี ค.ศ. 2004 เป๊ปซี่ได้มีโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ มีแนวโฆษณาเป็น "นักต่อสู้ในสมัยโรมัน" โดยมีโนวส์และนักร้องอย่าง บริตนีย์ สเปียรส์, พิงก์, และเอนรีเก อีเกลเซียสรวมอยู่ในโฆษณา และในปีถัดมาก็ได้ร่วมงานกับเจนนิเฟอร์ โลเปซและเดวิด เบคแคมในโฆษณาแนว "ซามูไร" และในปี 2013 เธอได้โฆษณาโดยใช้เพลง "Grown Woman" และเป๊ปซี่ก็เป็นผู้สนับสนุนการแสดงช่วงพักครึ่งซูเปอร์โบลว์ครั้ง 47 ให้กับเธอ
นอกจากนี้แล้ว โนวส์ยังเซ็นสัญญากับบริษัทเครื่องสำอางหรือสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงาม นั่นก็คือลอเรอัลในช่วงปี ค.ศ. 2003 ทำรายได้ให้เธอกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2004 โนวส์ได้มีน้ำหอมของเธอเอง เรียกว่า "ทรูสตาร์" ซึ่งก็ได้ทำโดยทอมมี่ ฮิลไฟเจอร์ เธอได้มีวิดีโอประชาสัมพันธ์ โดยเธอร้องเพลง "วิชชิงออนอะสตาร์" มาร้องประกอบด้วย โดยทำรายได้ให้เธอกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ และเธอยังได้มีทรูสตาร์โกลด์ในปี ค.ศ. 2005 และ เอ็มพอเรอร์อาร์มานิส์เดียมอนด์ส ในปี ค.ศ. 2007นิตยสารฟอร์บยังได้รายงานว่า โนวส์มีรายได้ในช่วงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2008 ถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 สูงถึง 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากอัลบั้ม,คอนเสิร์ตทัวร์,ธุรกิจเสื้อผ้า,และงานโฆษณาต่างๆ และจัดให้เธอเป็นคนดังที่มีรายได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
กิจกรรมการกุศล
โนวส์ร่วมกับเคลลี โรว์แลนด์ และครอบครัวของทั้งสอง ได้เปิดองค์กรช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยใช้ชื่อว่า "เซอร์ไวเวอร์ ฟาวเดชัน" ในปี 2005 องค์กรนี้ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุเฮอร์ริเคนแคทรีนา ในพื้นที่รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอเอง และโนวส์ยังได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ"กัล์ฟคอส์ตไอค์รีลีฟฟันด์" ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคนไอค์ ในเมืองฮิวสตันอีกด้วย
ในปี 2005 โปรดิวเซอร์เพลง เดวิด ฟอสเตอร์ ,ลูกสาวของเขา เอมี ฟอสเตอร์-จิลลีส์, และโนวส์ ได้ร่วมกันแต่งเพลง "สแตนด์อัพฟอร์เลิฟ" ซึ่งจะเป็นเพลงประจำวันเด็กโลก ที่เดสทินีส์ไชลด์ได้ร่วมกันร้องเพลงนี้ และรับเป็นตัวแทนจากทั่วโลกประจำวันเด็กโลกปี 2005 และในปี 2008 โนวส์ได้มีเพลง "จัส์ตสแตนด์อัพ!" ร่วมกับศิลปินอื่นๆ เช่น มารายห์ แครี, เลโอนา ลิวอิส, ริอานน่า, แมรี เจ. ไบลจ์ เป็นซิงเกิลการกุศลสำหรับมูลนิธิ สแตนด์อัพทูแคนเซอร์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง
โนวส์ได้รับจารึกชื่อเข้าสู่ อินเตอร์เนชันเนลพีเดียทริกฮอลล์ออฟเฟม ของ ไมแอมีชิลเดรนส์ฮอสปิตอล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลดูแลเด็กพิการ หลังจากที่เธอได้เข้าช่วยเหลือด้วยการบริจาคเงินและเข้าเยี่ยมเด็กๆ อย่างสม่ำเสมอ ในขณะถ่ายทำภาพยนตร์ คาดิลแล็กเรเคิดส์ วันวานตำนานร็อก บียอนเซ่ได้เข้าศึกษาลักษณะผู้ป่วยติดยาเสพติดในสถานบำบัด เพื่อใช้ในการแสดงภาพยนตร์ดังกล่าว และเธอยังได้บริจาคเงินรายได้ของเธอให้กับ โฟนิกซ์เฮาส์ เป็นองกรณ์ที่ช่วยบำบัดผู้ที่ติดยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย และในเวลาต่อมาไม่นาน โนวส์ได้รับเป็นตัวแทนให้กับมูลนิธิ "โชว์ยัวร์เฮลปปิงแฮนด์" เป็นมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือเด็กที่อดอยาก และเธอยังให้แฟนๆของเธอ นำอาหารที่ไม่เน่าเปื่อยได้ง่ายมาบริจาคใน ยู.เอส.คอนเสิร์ตทัวร์สต๊อป ของเธอด้วย
ในปี 2013 เธอได้ร่วมมือกับกุชชีและซัลมา ฮาเยก ในการจัดตั้งแคมเปญ Chime For Change ในการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงทั่วโลก วันที่ 1 มิถุนายน 2013 เธอก็ขึ้นแสดงคอนเสิร์ต Sound of Change เพื่อระดุมทุนและเป็นกระบอกเสียงให้กับสิทธิสตรีทั้งด้านความยุติธรรม การศึกษา และสุขภาพ ร่วมกับศิลปินอีกหลายท่าน อาทิ เจนนิเฟอร์ โลเปซ, เอลลี โกลดิง, เจสซี เจ, แมรี เจ. ไบลจ์
ชีวิตส่วนตัว
ตั้งแต่ ค.ศ. 2002 บียอนเซ่ได้เริ่มคบหาดูใจกับแร็ปเปอร์หนุ่ม เจย์-ซี ซึ่งเป็นบุคคลที่คอยช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด ข่าวลือต่าง ๆ ได้เริ่มตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างเขาทั้งสองคน หลังจากที่บียอนเซ่ได้ร่วมร้องเพลงกับเจย์-ซี ในเพลง "'03 บอนนีย์แอนด์ไคล์ด" และใน ค.ศ. 2005 ข่าวลือต่าง ๆ ก็ได้กระจายไปทั่วว่า บียอนเซ่และเจย์-ซี จะแต่งงานกัน แต่เมื่อได้สอบถามกับตัวบียอนเซ่เแล้ว เธอได้บอกว่าตัวเธอกับเจย์-ซีนั้นยังไม่ได้หมั้นหมายกันไว้แต่อย่างใด และเมื่อผู้สื่อข่าวได้ถามอีกครั้งในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 เจย์-ซีก็ได้ตอบว่า "One day soon - let's leave it at that." ลอรา เชรฟเฟอร์ ซึ่งเป็นนักเขียนอาวุโสของนิตยสาร โอเค! กล่าวว่า "พวกเขาเป็นคนที่มีความเป็นส่วนตัวเอามาก ๆ" เมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2008 บียอนเซ่กับเจย์-ซีได้แต่งงานกันที่นครนิวยอร์ก บียอนเซ่เปิดเผยว่าเธอเคยแท้งบุตรราว ค.ศ. 2010 หรือ 2011 ในสารคดีไลฟ์อิสบัตอะดรีม ทั้งนี้เธอได้แต่งเพลงให้กับความสูญเสียในครั้งนี้ด้วย
ในงานประกาศผลรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ ค.ศ. 2011 บียอนเซ่ได้แสดงเพลง "เลิฟออนท็อป" โดยเริ่มต้นการแสดงว่า "วันนี้ฉันอยากให้ทุกคนยืนขึ้นและรับรู้ถึงรักที่กำลังเติบโตภายในตัวฉัน" และในตอนจบ เธอก็ทิ้งไมโครโฟน ถอดกระดุมเบลเซอร์ออกและลูบท้อง ซึ่งยืนยันว่าเธอตั้งครรภ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกในกินเนสส์เวิลด์เรเคิดส์ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ถูกทวิตมากที่สุดต่อวินาที คิดเป็น 8,868 ทวิตต่อวินาที และคำว่า "Beyonce Pregnancy" กลายเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในกูเกิลในรอบสัปดาห์ของวันที่ 29 สิงหาคมา ค.ศ. 2011
วันที่ 7 มกราคม 2012 บียอนเซ่ได้ให้กำเนิดบุตรสาว 1 คน ชื่อว่า "บลู ไอวี คาร์เตอร์" ที่โรงพยาบาล Lenox Hill Hospital ในนิวยอร์ก 2 วันให้หลัง เจย์ซีปล่อยเพลง ซึ่งเป็นเพลงที่เขาแต่งให้กับลูกสาวลงบนเว็บไซต์ Lifeandtime.com ในเพลงกล่าวถึงการฝ่าฟันอุปสรรคขณะตั้งครรภ์ รวมถึงการแท้งลูกก่อนที่จะตั้งครรภ์บลู ไอวี เสียงร้องของบลู ไอวีถูกนำมาใส่ตอนจบเพลง และใส่เครดิตว่า "B.I.C." ส่งผลให้บลู ไอวี ซึ่งมีอายุเพียง 2 วัน กลายเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ปรากฏบทชาร์ตบิลบอร์ดเมื่อ "โกลรีย์" เดบิวต์บนชาร์ต Hot R&B/Hip-Hop Songs
ผลงานเพลง
ดูบทความหลักที่ รายชื่อผลงานของบียอนเซ่ โนวส์
สตูดิโออัลบั้ม
| ร่วมกับเดสทินีส์ไชลด์ |
| ร่วมกับเจย์-ซี (ในชื่อ)
|
ทัวร์คอนเสิร์ต
- 2003: เดนเจอรัสลีอินเลิฟทัวร์
- 2004: เวอร์ริซอนเลดีส์เฟิสต์ทัวร์
- 2007: เดอะบียอนเซ่เอกซ์พีเรียนส์
- 2009—2010: ไอแอม... ทัวร์
- 2009: ไอแอม... ยัวร์ส
- 2013-2014: เดอะมิสซิสคาร์เตอร์โชว์เวิลด์ทัวร์
- 2014: ออนเดอะรันทัวร์
- 2016: เดอะฟอร์เมชั่นเวิลด์ทัวร์
- 2018: ออนเดอะรันทัวร์ ทูร์
ผลงานทางด้านภาพยนตร์
ปี | ภาพยนตร์ | บทบาท | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
2001 | คาร์เมน: อะฮิปโฮเปรา | คาร์เมน | รับบทนำ, เป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ |
2002 | พยัคฆ์ร้ายใต้สะดือ ตอน ตามล่อพ่อสายลับ | ฟอกซ์ซี คลีโอพัตรา | รับบทนำ |
2003 | เดอะไฟท์ติงเทมป์เทชัน | ลิลลี | รับบทนำ |
2004 | เฟดทูแบล็ก | ตัวเธอเอง | ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับเจย์-ซี |
2006 | เดอะพิงค์แพนเตอร์ | ซาเนีย | รับบทนักแสดงประกอบ |
ดรีมเกิร์ลส | ดีนา โจนส์ | รับบทนำ | |
2008 | คาดิลแล็กเรเคิดส์ วันวานตำนานร็อก | เอตต้า เจมส์ | รับบทนำ |
2009 | แรงรักมรณะ | ชารอน ชาลส์ | รับบทนำ |
วาว! วาว! วับบ์ซี! | ไชน์ (พากย์เสียง) | "Wubb Girlz Rule!/Wuzzleburg Idol" (ฤดูกาลที่ 2, ตอนที่ 19) | |
2013 | ไลฟ์อิสบัตอะดรีม | ตัวเธอเอง | ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับตัวเธอเอง |
เอปิค | ควีนทารา (พากย์เสียง) | ||
2016 | เลมอนเนด | ตัวเธอเอง | ภาพยนตร์สั้นประกอบเพลงในอัลบั้มเลมอนเนด |
รางวัล
เธอได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย ในฐานะศิลปินเดี่ยว อัลบั้มของเธอมียอดขายถึง 15 ล้านชุดในอเมริกา และ 118 ล้านเร็กคอร์ดทั่วโลก (60 ล้านชุดร่วมกับ) ซึ่งทำให้เธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาล สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกาจัดอันดับให้บียอนเซ่เป็นศิลปินที่ได้รับการรับรองสูงสุดในปีช่วงทศววรษที่ 2000 ด้วยการรับรองทั้งหมด 64 ครั้ง "เครซีอินเลิฟ", "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)", "เฮโล" และ "อีเรเพลสอเบิล" เป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ดิออบเซอเวอร์กล่าวว่าเธอเป็นศิลปินแห่งทศวรรษ บียอนเซ่เป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัล โดย อเมริกันมิวสิคอวอร์ด นอกจากนี้เธอยังได้รับ โดย World Music Award ในปี 2008 และ ใน
บียอนเซ่ได้รับรางวัลแกรมมีทั้งสิ้น 20 รางวัล ทั้งในฐานะศิลปินเดี่ยวและสมาชิกของเดสทินีส์ไชลด์ ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงที่ได้รับรางวัลแกรมมีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากอลิสัน เคราส์ และเป็นผู้หญิงที่มีรายชื่อเข้ารางวัลแกรมมี่มากที่สุด โดยเข้าชิงทั้งสิ้น 52 รายการ "ซิงเกิลเลดีส์ (พุตอะริงออนอิต)" ชนะในสาขาเพลงแห่งปีในปี 2010 ในขณะที่ "เซย์มายเนม" และ "เครซี่อินเลิฟ" ชนะในสาขาเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม ทั้ง เดนเจอรัสลีอินเลิฟ , [[บี'เดย์] และ ไอแอม... ซาชาเฟียร์ส ต่างก็ชนะในสาขาอัลบั้มอาร์แอนด์บีร่วมสมัย เธอถูกบันทึกว่าเป็นผู้หญิงที่ชนะรางวัลแกรมมี่มากที่สุดในหนึ่งคืนในปี 2010 ด้วยจำนวน 6 รางวัล และด้วยบทบาทในดรีมเกิร์ลส เธอเข้าชิงรางวัลสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยเพลง "ลิสเซน" และนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในงานประกาศผลลูกโลกทองคำ และสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในงานประกาศผลรางวัล และชนะ 2 รางวัลใน ได้แก่ สาขาเพลงยอดเยี่ยมด้วยเพลง "ลิสเซน" และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยเพลงดรีมเกิร์ลส
หมายเหตุ
- ไม่อนุญาตให้ใช้ตัวอักษรที่เน้นเสียง (é)
- สำหรับผลงานของเธอในเดสทินีส์ไชลด์และ ดูที่, และ
อ้างอิง
- Curto, Justin (April 30, 2021). "Yes, 'Harmonies by The Hive' is Beyoncé". Vulture. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2021. สืบค้นเมื่อ May 8, 2021.
- Gay, Jason (February 10, 2013). "Beyoncé Knowles: The Queen B". . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2021. สืบค้นเมื่อ October 18, 2021.
- Lewis, Brittany (July 9, 2013). "Beyoncé credited as 'Third Ward Trill' on Jay-Z's album, 'Magna Carta Holy Grail'". Global Grind. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 27, 2021. สืบค้นเมื่อ June 29, 2018.
- "BeyGOOD". www.beygood.org. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-03-31. สืบค้นเมื่อ 2024-03-31.
- Reviews, Unorthodox (2022-12-05). "5 Times Beyoncé's Music Was Inspired by Africa" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). จากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-30. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- Aniftos, Rania (2022-03-22). . Billboard (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-21. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- . Essence (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2022-07-29. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-12-01. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- . TIME (ภาษาอังกฤษ). 2024-02-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-03-14. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- Dailey, Hannah (2024-03-12). . Billboard (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-03-16. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- . www.blackmusicproject.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-03-05. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
- Beyonce: The Billboard Cover Story. (2009-10-01) Retrieved 2009-10-01
- "The Celebrity 100: #4 Beyonce Knowles". June 3, 2009.
- "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-24. สืบค้นเมื่อ 2012-05-24.
- "Beyonce Knowles' Biography". . April 15, 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-06-05.
- Beyonce: All New. E! Online.
- . People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-04-26. สืบค้นเมื่อ 2008-04-01.
- "Beyoncé: The Ice Princess". Blender. September 18, 2006. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Gillings, Andrew (April 22, 2001). . Essence. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-27. สืบค้นเมื่อ 2009-02-25.
- . Houstonisd.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-15. สืบค้นเมื่อ 2008-04-17.
- "Famous Alumni - Elsik High School". ElsikAlumni.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-30. สืบค้นเมื่อ 2008-04-17.
- Kaufman, Gil (June 13, 2005). "Destiny's Child's Long Road To Fame (The Song Isn't Called "Survivor" For Nothing)". MTV News. สืบค้นเมื่อ 2008-04-01.
- . VH1. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-08-20. สืบค้นเมื่อ 2008-04-16.
- Farley, Christopher John (January 15, 2001). "Call Of The Child". TIME. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-30. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- Reynolds, J.R. (March 3, 1998). "All Grown Up". Yahoo! Music. สืบค้นเมื่อ 2007-01-12.
- Tyrangiel, Josh (June 30, 2003). "Destiny's Adult". TIME. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-30. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- . American Society of Composers, Authors and Publishers. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-12. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Todd, Martens (July 2, 2003). "Beyonce, Branch Albums Storm The Chart". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-01.
- Carpenter, Troy (October 22, 2003). "Destiny's Child Slapped With Infringement Suit". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-01.
- Manifest Destiny 2009-04-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Entertainment Weekly
- Beyonce To Star In 'Carmen' Remake MTV news
- Beyonce Records Song Written By Mike Myers For 'Powers' Flick MTV News
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-04-26. สืบค้นเมื่อ 2009-06-09.
- Beyonce, Britney Serve Up First Singles From 'Goldmember' MTV News
- Beyonce Teams With Diddy, Destiny On 'Temptations' Soundtrack MTV News
- http://www.mtv.com/bands/b/beyonce/news_feature_062703 Beyoncé: Genuinely In Love - Part 1] MTV News
- Beyonce Pushes Up Release Date Of Solo Debut MTV News
- "Gold and Platinum". Recording Industry Association of America. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-21. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Bonson, Fred (February 17, 2006). "Chart Beat Chat". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Sexton, Paul (July 21, 2003). "Beyonce Continues U.K. Chart Dominance". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Sexton, Paul (July 14, 2003). "Beyonce Rules Again On U.K. Charts". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Martens, Todd (September 11, 2003). "Beyonce, Sean Paul Creep Closer To No. 1". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Martens, Todd (November 28, 2003). ""Stand Up" Ends "Baby Boy" Reign". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- Beyonce Billboard Singles ออลมิวสิก
- 46th Grammy Awards - 2004 CNN.com
- "Brit Awards 2004 winners". BBC UK. February 17, 2004. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- "Beyoncé Knowles: Biography - Part 2" 2007-05-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน People.
- Destiny's Child's Long Road To Fame (The Song Isn't Called 'Survivor' For Nothing) mtv.com
- Destiny's Child gets Walk of Fame star msnbc.msn.com
- "Beyonce Knowles". Time. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-22. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- Keller, Julie (2005-09-01). "Destiny's World Domination". Yahoo! Music. สืบค้นเมื่อ 2006-12-28.
- "The Billboard Hot 100 All-Time Top Artists". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2008-11-17.
- Interview: Beyonce Knowles IGN
- Beyonce To Star Opposite Steve Martin In 'Pink Panther' MTV News
- Beyonce Wants End To Drama Over New Drama 'Dreamgirls'; Sets Tour MTV News
- [1] timesonline.co.uk
- THE PINK PANTHER (2006) boxofficemojo.com
- Beyonce's 'B-Day' Makes Big Bow At No. 1 billboard.com
- More >> B'day 2009-08-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน beyoncethailand.net
- Beyoncé and Shakira - Beautiful Liar acharts.us
- "The Beyoncé Experience Tour” Live in Bangkok 2007 thaiticketmajor.com
- ผลรางวัลแกรมมี่ 2007 2007-02-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน manager.co.th
- http://www.boxofficemojo.com/news/?id=2580&p=.htm Box Office Mojo
- Vineyard, Jennifer (October 8, 2008). "Beyonce Releases Two Tracks From I Am ... , Inspired By Jay-Z And Etta James". MTV.com.
- Flo Rida Has Sweet Week On Billboard Hot 100 Billboard.com
- "Chart Beat: Depeche Mode, Pet Shop Boys, Oak Ridge Boys, Hannah Montana" Billboard.com
- Hudson tops winners at NAACP Image Awards cbc.ca
- [http://jezebel.com/5135849/beyonce-brings-it-at-obamas-inaugural-ball-first-dance Beyonce Brings It At Obamas' Inaugural Ball First Dance] 2009-02-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน jezebel.com
- "Beyonce's Four-Night Stint at Wynn Las Vegas a Resounding Success". PR Newswire. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-11. สืบค้นเมื่อ 2009-08-03.
- "Concert Charts: Fierce Showing By Beyonce On Top Tours List". บิลบอร์ด. สืบค้นเมื่อ 2009-08-03.
- Concepcion, Mariel (2009-10-02). "Beyonce Accepts Billboard's Woman Of the Year Award, Lady Gaga Is Rising Star". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ 2009-10-03.
- [2]
- [3]
- Vineyard, Jennifer. "Beyonce: Behind The B'Day Videos 1". MTV News. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- MTV News Staff (June 8, 2006). "For The Record: Quick News On Beyonce, Madonna, Michael Jackson, Taylor Hicks, JC Chasez, Beth Orton, Slayer & More". MTV News. สืบค้นเมื่อ 2008-04-11.
- Holsey, Steve (February 27, 2008). . Michigan Chronicle. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-14. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- Jones, Alice (27 May 2009). "Beyoncé, 02 Arena, London:Diva who answers the call of booty". The Independent. สืบค้นเมื่อ 2009-05-23.
- Ratliff, Ben (June 22, 2009). "Flash, Concepts and, Yes, Songs". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2009-05-23.
- Harris, Renee Michelle (July 3, 2009). "Beyonce Wows Crowd at BankAtlantic Center". South Florida Times. สืบค้นเมื่อ 2009-07-03.
- Schwartz, Lorraine (July 3, 2009). "Concert Report: Beyoncé at Madison Square Garden". The Examiner. สืบค้นเมื่อ 2009-07-03.
- Hinds, Kadidja. "Work Your Assets Like Beyoncé!". Black Entertainment Television. สืบค้นเมื่อ 2008-04-17.
- "Change of Scenery for Beyonce". The New York Times. October 2, 2007. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-03. สืบค้นเมื่อ 2008-04-05.
- "Beyonce wearing one of my dresses is harmony". Times Online. August 8, 2007. สืบค้นเมื่อ 2008-04-05.
- Goldsmith, Belinda (September 13, 2007). "Beyonce tops fashion list". Reuters. สืบค้นเมื่อ 2008-04-09.
- "Book Excerpt: Destiny's Style". ABC News. สืบค้นเมื่อ 2008-04-17.
- "Beyoncé Knowles: Biography - Part 2". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-05. สืบค้นเมื่อ 2008-04-01.
- Dennehy, Luke (February 20, 2007). . News.com.au. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-12. สืบค้นเมื่อ 2008-04-09.
- Vocick, Simon. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-27. สืบค้นเมื่อ 2009-09-23.
- "Look who's coming to town". The Manila Times. October 10, 2007. สืบค้นเมื่อ 2008-04-10.
- "On top".
- "Keshia Chante". Much Music. CTV Globe Media. สืบค้นเมื่อ 2008-04-09.
- Saldaña, Hector (2007-07-16). "'American Idol' singers get ready for performance". MySa.com. San Antonio Express-News. สืบค้นเมื่อ 2008-04-24.
- Erlewine, Stephen Thomas. "Katharine McPhee: Album Review". Allmusic. Macrovision Company. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- Moss, Corey (2006-09-27). "Kelly Rowland Scraps Sappy Story, Picks Up Snoop". MTV News. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- . โคลัมเบีย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-21. สืบค้นเมื่อ 2008-11-07.
- "R&B stars Destiny's Child Split". BBC. 2005. สืบค้นเมื่อ 2008-11-06.
- "Beyonce Offers Fans Exclusive Backstage Access to Meet the Superstar and Front Row Seats". April 12, 2009.
- . March 2, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-28. สืบค้นเมื่อ 2009-07-31.
- "Definitive 200".
- "Beyonce to get wax figure at Madame Tussauds". March 9, 2009.
- House of Deréon 2009-03-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน sojones.com
- "Pepsi FAQs". Pepsi. สืบค้นเมื่อ 2008-04-03.
- Destiny's Child star Beyonce Knowles signs for Pepsi brandrepublic.com
- Jeckell, Barry (January 23, 2004). "Pop Stars Clash in U.K. Pepsi Ad". Reuters. Yahoo. สืบค้นเมื่อ 2008-04-03.
- "For The Record: Quick News On Britney Spears, Paris Hilton, Sum 41, Lil' Kim, Gerald Levert, Morrissey & More". MTV News. February 28, 2005. สืบค้นเมื่อ April 3, 2008.
- Susman, Gary (April 15, 2003). . Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-03. สืบค้นเมื่อ 2008-04-03.
- Jessen, Monique; และคณะ (June 22, 2004). "Beyoncé Launches New True Star Fragrance". Entertainment Weekly. สืบค้นเมื่อ 2008-04-12.
- Givhan, Robin (May 18, 2007). "The Aura of a Pinup: Beyoncé's Winning Image". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ 2008-04-03.
- "#4 Beyoncé Knowles". Forbes. June 3, 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-06-04.
- The Survivor Foundation findarticles.com
- Hall of Fame - Miami Children Hospital Foundation 2011-11-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนMCHF.org
- show your helping hand help fight hunger showyourhelpinghand.com
- "Beyoncé Knowles: Biography - Part 1" 2007-04-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนPeople.com
- Beyonce Shoots Down Jay-Z Marriage Rumors In Vanity Fair Interview MTV News
- Jay-Z And Beyonce Are Getting Married ... 'One Day Soon,' Jay Says MTV News
- Jay-Z And Beyonce Are Still Staying Quiet About Their Reported Wedding ... But Why? MTV News
- "Beyonce's ring revealed!" นิตยสาร People 70
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย 2009-07-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ไทย)
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา 2009-08-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อังกฤษ)
- เว็บไซต์แฟนคลับในประเทศไทย 2008-06-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (ไทย)
- โนวส์ บียอนเซ่ ที่ออลมิวสิก (อังกฤษ)
- บียอนเซ่ โนวส์ ที่อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบส (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
biyxnes ciesll onws kharetxr xngkvs Beyonce Giselle Knowles Carter ekid 4 knyayn kh s 1981 epnnkrxngsitlxaraexndbi nkaetngephlng oprdiwesxrephlng nkaesdng aelanangaebb chawxemrikn ekidaelaetibotthihiwstn rthethkss inwyedkbiyxnesidekharwminkaraesdnghlakhlayeriynxnubalthungprathm sungrwmipthungkarrxngephlng xnepnkarputhangsahrbxachiphkarepnnkrxng biyxneserimmichuxesiyngepnthiruckinchwngkhriststwrrs 1990 inthanasmachikkhnsakhykhxngedsthinisichld wngdntrihyinglwnaenwxaraexndbichuxdnginyukhnn tlxdchiwitkarthangankhxngethx miyxdkhayekinkwa 100 lanchudinthanasilpinediywbiyxnesbiyxnesin kh s 2023ekidbiyxnes ciesll onws 1981 09 04 4 knyayn kh s 1981 42 pi hiwstn rthethkss shrthchuxxunharomnisbayedxaihfkhwinebythrilxachiphnkrxng nkaetngephlng oprdiwesxr nkthurkic nkaesdng nkkarkusl phubriharephlng phukakbpiptibtingankh s 1990 pccubnxngkhkarphlngantaaehnngphukxtng prathan aelaphubrihar phurwmkxtng phubrihar aelaecakhxng phukxtng prathan aelaecakhxngkhusmrsecy si smrs 2008 butr3 khn rwmthungbidamardayati nxngsaw lukphiluknxng rangwlraykarthnghmdxachiphthangdntriaenwephlngxaraexndbi pxp hiphxp ehas khnthriekhruxngdntriesiyngrxngkhayephlngokhlmebiysmachikkhxngxditsmachikedsthinisichldewbistbeyonce wbr comlaymuxchux ineduxnmithunayn kh s 2003 rahwangkarphkngankhxngedsthinisichld biyxnesidxxkxlbminthanasilpinediywepnkhrngaerkkbxlbm ednecxrslixinelif sungnbepnxlbmthiprasbkhwamsaercmakthisudxlbmhnunginpinn xlbmniprasbkhwamsaercthngindanyxdkhayaeladankhawicarntang thaihmiephlnghitechnephlng ekhrsixinelif ebbibxy aelathaihbiyxnesidrb rangwlaekrmmi thung 5 sakha txmaedsthinisichldkidtdsinicaeykwngcakepnthangkar hlngcaknnbiyxnesidmixlbmchudthisxng nnkkhuxxlbm bi edy xxkcahnayin kh s 2006 sungepidtwxndb 1 bnchart bilbxrd misingekilhitxyang edcawu xierephlsxebil aela biwtifulilxar xlbmediywchudthi 3 khxngethxixaexm sachaefiyrs idwangcahnayineduxnphvscikayn kh s 2008 misingekilhit echn xifixewxrxabxy singekileldis phutxaringxxnxit ehol aela switdrims biyxnesmisingekilthitidxndb 1 xyuthnghmd 5 ephlngdwykn thaihethxepnhnunginsxngsilpinhyingthimiephlngtidxndbhnungmakthisudinchwngkhriststwrrs 2000 cakkhwamsaercxyangsungkhxngkarepnsilpinediywkhxngbiyxnes thaihethxidrbkarykyxngihepnsilpinkhnsakhykhnhnungkhxngxutsahkrrmdntriinyukhpccubn aelaethxkyngkhyaynganxachiphkhxngethxipsunganthangkaraesdngaelaesnsyyakbbristhsinkhatang ethxiderimxachiphthangkaraesdngkhxngethxemuxpi kh s 2001 in phaphyntrephlngeruxng kharemn xahipohepra inpi kh s 2006 ethxidrbbthnainphaphyntrthaihmkhxnglakhrbrxdewy kh s 1981 eruxng drimekirls aelathaihethxidekhaching rangwllukolkthxngkha thung 2 rangwl biyxnesidmithurkicsaynganaefchnthiethxidrwmkbkhrxbkhrw odyichchuxwa ehasxxfederxxn aelaidesnsyyaepnphriesnetxrihkbbristhtang echn eppsi aela aelainpi kh s 2009 ni nitysar fxbs yngidcdxndbihethxxyuinxndbsikhxngkhndngthimixiththiphlmakthisud xndbsamkhxngnkdntrithimirayidmakthisud aelaxndbhnungkhxngkhndngxayutakwa 30 thimirayidmakthisud dwyrayidkwa 87 landxllarshrthrahwang kh s 2008 kh s 2009chiwitinwyedkaelachwngaerkkhxngkarthanganbiyxnes ciesll onws ekidemuxwnthi 4 knyayn kh s 1981 thihiwstn rthethkss shrth epnbutrsawkhnaerkkhxng aemtthiw onws phucdkarfaykhaykhxngsirxks aela epnphuxxkaebbesuxphaaelathrngphm phxkhxngonwsepnchawaexfriknxemrikn swnaemkhxngethxepnchawkhrioxl brrphburusepn chawaexfriknxemrikn phunemuxngxemrikn frngess ekhcn ixrich aelasepn khuntaaelayaykhxngethx lumis xlebrt biyines aela aexkens ederxxn epnchawhluysesiynakhrioxl echuxsayfrngess aexfrikn ethxepnphisawkhxng sungepnnkrxngaelankaetngephlng aelankaesdng onwsidsuksathiorngeriynprathmesntmariyinrthethkss thiethxidsmkhreriynekiywkbkaretnrarwmthungbleltaelaaecs khwamsamarthphiessinkarrxngephlngidthukphbodykhrusxnetnkhxngethxemuxethxerimrxngephlngtamephlngthiethxetncncbaelasamarthrxngontsung id onwssnicdntriaelakarrxngephlngkhxngethxkmiprasiththiphaphmakkhunhlngcakthiiderimekharwmkaraekhngkhnphayinorngeriyn ethxkhunewthiochwkhrngaerkinraykarprakwdrxngephlngaesdngkhwamsamarthemuxxayu 7 pi aelaidrbrangwlchnaeliscakkarrxngephlng xiemcin khxngcxhn elnnxn inpiediywknonwserimidrbkhwamsniccakphukhnmak aelayngidrbkarklawthungcakhnngsuxphimph hiwstnchxrniekhil cakkarthiidrbkarekhachingrangwledxaolkhlephxrfxrmmingxart khxng edxasmmi inplaypi 1990 onwsidekhaeriyninorngeriynpharkekxrexelemnthari sungepnorngeriynthiennekiywkbdntriinhiwstn aelaethxkidrxngephlngkbkhnaprasanesiyngkhxngorngeriynni ethxyngsmkhreriyninorngeriynmthymplayinhiwstnxikdwy aelainphayhlngkidyayipthiorngeriynmthymplay sungkidtngxyuthihiwstnechnkn inaethwchumchnxlif onwsyngidepnnkrxngnainkhnankrxngprasanesiyngthiobsthesntcxhnyuinetd sungepnobstinkhristckremthxdist emuxxayuidid 8 pi onwsidphbkb lathaewiy orebxrsn inkhnathimikarxxdichnwngdntrihyinglwn phwkethxaelaephuxnkhxngonws ekhlli orwaelnd thukcdihepnklumthiennkaretnaelarxngephlngaerp ichchuxwa ekirlsithm inthisudphwkekhakidkhdihehluxsmachik 6 khn dwyonwsaelaorwaelnd ekirlsithm cungiddungdudphuchmthwpraethsepnxyangmak ewst khxs oprdiwesxrephlngaenwxaraexndbiaelaxarn fraecxr idekhaipinhiwstnephuxduaelphwkethx aelaekhakidphaphwkethxipyngstudioxephlngkhxngekha edxaaephlnterekhiddingstudioxs inphakhehnuxkhxngrthaekhlifxreniy dwynaesiyngkhxngonws thaihfraecxrkhidwaethxepnphumibukhlikphaphaelakhwamsamarthinkarrxngephlng dwykhwamphyayamthicaihekirlsithmepnklumdntriaenwhnainxutsahkrrmdntri fraecxridsngphwkethxipinraykar staresrch sungepnraykarprakwdrxngephlngthidngthisudinxemrikainkhnann aetphlxxkmaimkhxydi ephraaephlngthiphwkethxaesdngyngimkhxysmburnaebbethaihrnk onwsidklawiw onwsidrusukthungkaresuxmthxyinxachiphkhxngethxepnkhrngaerkhlngcakthiimchnaraykarni aetethxkerimklbmamikhwammnicmakyingkhunhlngcakthiideriynrucakbritniy sepiyrs aelacstin thimebxrelkh thiidmimiprasbkarnediywknkbphwkethx ephuxthicaduaelphwkethx phxkhxngonwsidlaxxkcakngankhxngekhainpi kh s 1995 ekhaidslaewlaaelacdtng buthaekhmp sahrbkarfukxbrmni karlaxxkcakngankhxngphxonws thaihrayidkhxngkhrxbkhrwonwsidldlngkwakhrungaelaphxaemkhxngethxidaeykthangknenuxngcakkhwamkddntang imnanhlngcakthiorwaelndidekhama inpi 1993 idmismachikihmekhamainwngkhux elothya lkhekth aelakidkhdehluxephiyng 4 khn dwykarsnbsnunxyangtxenuxngkhxngaemththiw phwkethxidxxdichnkxnthicaesnsyyakbxielkhtraerekhids nangchxbmakinkhawehniywmamwngthibankhxngxrisa elkecriynganthangdntriaelakaraesdng1997 2001 chwngkhxngedsthinisichld dwyaerngcungiccakphrathrrmxisyahwngnikidepliynchuxwngepnedsthinisichldinpi kh s 1993edsthinisichldidrbnganochwtamngantang hlngcak 4 pikhxngkaredinthang phwkethxkidrboxkasesnsyyakbkhayephlngokhlmebiyerekhidsinplaypi kh s 1997 inpiediywknnnedsthinisichldidbnthukesiyngephlngepidtwephlngaerkcakkhay ephlng khillingithm sungichepnephlngprakxbphaphyntreruxng emnxinaeblk inpitxmakidxxkxlbmchudaerkodyichchuxehmuxnchuxwngkhux edsthinisichld singekilhitsingekilaerkkhuxephlng on on on xlbmniidthaihedsthinisichldepnthiruckaelaepncuderimtnkhxngkarkawekhasuxutshkrrmdntriaelathaihedsithinisichldidrb 3 rangwlcaknganprakasphlrangwloslethrnmiwsikxwxrdssahrb singekilxaraexndbi oslyxdeyiym sahrbephlng on on on xlbmxaraexndbi oslyxdeyiymaehngpi aela silpinxaraexndbi oslhruxaerphnaihmyxdeyiym txmaphwkethxkidxxkxlbmchudthisxngsungmiyxdkhayradbmlti aephltinm xlbmedxairtingsxxnedxawxll inpi 1999 ephlnginxlbmthixxkmalwnepnruckknxyangkwangkhwang echnephlng bils bils bils singekilxndb 1 ephlngaerkkhxngphwkethx ephlng cmpin cmpin ephlng esymayenm sungepnephlngthiprasbkhwamsaercmakthisudinkhnannaelaklaymaepnsylksnkhxngwngcnthungpccubnnixyangephlng ephlng esymayenm idrbrangwlkaraesdngephlngxaraexndbikhuhruxklumdwyesiyngrxngyxdeyiymaelaephlngxaraexndbiyxdeyiymthinganprakasrangwlaekrmmi pracapi 2001edxairtingsxxnedxawxll miyxdkhaymakkwa 7 lanchud aelathaihphwkethxepnthicbtamxngkhxngsuxaelaphukhnmakmay inthanaklumsilpinhyinghnaihminyukhnn onwsinephlng xindiephnednthwuemnpharth1 ephlngthihitthisudkhxngedsthinisichld khwbkhuknkbkhwamsaercthangdankairaelayxdkhay edsthinisichldidmipyhakblkekttaelaorebxrsn sahrbkhdikhwamkarlaemidsyya aelapyhayingephimkhunhlngcakthimiechll wileliymsaelafara aefrngkhlinidpraktxyuinmiwsikwidioxephlng esymayenm thaihsamarthbxkepnnyidwalkekttaelaorebxrsnidthukaethnthiaelw aelainthisudlkekttaelaorebxrsnkidlaxxkcakklumip txmaxik 5 eduxnaefrngklinkidlaxxkcakklumipdwypyhakhwamrusukswntw hlkthanpraktidcakkarthiethxidhayiptamkaropromthaelakhxnesirttang thaihedsthinisichldehluxsmachikklumsudthaykhux onws orwaelnd aelawileliym txmaphwkethxidmisingekil xindiephnednthwuemnpharth1 sungichepnephlngprakxbphaphyntrinpi kh s 2000 nnkhuxphaphyntreruxngnangfachali ephlngniklayepnephlngthimichartdithisudkhxngphwkethxdwykarthixyuxndbhnungbnchartbilbxrd hxt 100 yawnanthung 11 spdahtidtxkn xlbmchudthi 3 khxngphwkethx esxriwewxr wangkhayineduxnphvsphakhm kh s 2001 aetkidmipyhabukhkhledimnnkhuxlkekttaelaorebxrsnineruxngkhxngaenwkhxngxlbmwaidphadphingipthungphwkethx aetxyangirktamxlbmnikprasbkhwamsaercxyangmakdwykarepidtwxndbhnungbncharthbilbxrd 200 dwyyxdkhaykwa 663 000 chudinspdahaerk cnthungpccubnesxriwewxr miyxdkhaymakkwa 10 lanchudthwolkaelayxdkhayrxyla 40 nnkhuxyxdkhayaekhinshrthxemrikaephiyngthiediyw xlbmyngmisingekilhitxndbhnunginbilbxrdxyangephlng butiliechiys aela esxriwewxr thiphayhlngksrangrangwlaekrmmisakhakaraesdngephlngxaraexndbikhuhruxklumdwyesiyngrxngyxdeyiymihkbphwkethx txmaedsthinsichldidmixlbm 8 edsxxfkhristmas sungwangkhayinchwngethskalkhristmaskhxngpi 2001 hlngcaknnkidmikarphknganchwkhraw ephuxthismachikaetlakhncaidxxkipthanganediywkhxngtn 2000 2002 karepnsilpinediywaelakarphthnathangdanxachiph inpi 2000 onwsidesnsyyathaxlbmediyw 3 xlbmkb okhlmebiyerekhids khnathionwsidthanganrwmkbedsthinisichld ethxkiderimthanganediywkhxngtwexng ethxidrwmngankb mark enlsn inephlng xafetxrxxlxisesdaexnddn ephuxepnephlngprakxbphaphyntrinpi 1999 eruxng edxaebstaemn aelakidrxngephlngrwmkb exmill inephlng ixkxthaedth pi 2000 inchwngtnpi 2001 khnathiedsthinisichldkalngthaxlbm esxriwewxr onwsidrbbthnkaesdngnacakphaphyntrothrthsn sungxxkchayinchxngexmthiwi eruxng Carmen A Hip Hopera inpi 2002 onwsmiphlngankaraesdngphaphyntraenwtlk eruxng phykhkhrayitsadux txn tamlxphxsaylb phaphyntreruxngniepidtwxndbhnunginbxksxxffiskhxngshrthxemrika mirayidkwa 73 1 landxllarshrth inspdahaerk aelaonwskidmisingekilediywsingekilaerkkhxngethx ewirkhxithexath ephuxprakxbphaphyntreruxngni inpitxmannethxkidaesdngphaphyntraenw oraemntikokhemdi eruxng edxaifththingethmpethchn aelamisingekilrwmkbaerpepxrhyingxyang missi exleliyt exmsi ilyt aela fri inephlng ifththingethmpethchn ephuxprakxbphaphyntreruxngni inpiediywknnn onwsidrwmrxngephlngkbaefnhnumkhxngethx ecy si inephlng 03 bxnniyaexndikhld luethxr aewndrxsaelaonws idnaephlng edxaokhlsesxrixekthyu klbmathaihm sungtnchbbkhbrxngody orebxrta aeflk aela dxnni aehthxaewy inpi 1977 aelwchbbkhxngphwkekhani kidrbrangwlaekrmmi sakhakarrxngephlngxaraexndbikhuhruxklumyxdeyiym inpitxma 2003 2004 ednecxrslixinelif hlngcakorwaelndaelawileliymidmixlbmediywinpi 2002 onwskidxxkmaepidtwxlbmediywchudaerkkhxngethx ednecxrslixinelif ineduxnmithunayn kh s 2003 thiidrwmngankbbrrdakhnthaephlngchuxdngmakmay xlbmniepidtwbnxlbmbncharthbilbxrd 200 thixndb 1 dwyyxdkhaykwa 317 000 chudinspdahaerksmakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrika RIAA idcdihxlbmnimiyxdkhayradb 4x aephltinm emuxwnthi 5 singhakhm kh s 2004 aelacnthungpccubnxlbmnimiyxdkhaykwa 5 lanchudinshrthxemrika xlbmnimisingekilxndbhnungthung 2 ephlng ephlng ekhrsixinelif thiidmithxnaerpcakecy si xxkcahnayepnsingekilaerkcakxlbm khrxngxndb 1 bnchartbilbxrd hxt 100 thung 8 spdahtidtxkn aelaxyuxndbaerk khxnghlaychartthwolk onwsyngprasbkhwamsaercthnginshrachxanackrodyidmithngsingekilaelaxlbmxyuxndbhnungkhxngthinn singekilthi 2 cakxlbmkhuxephlng ebbibxy thiidrwmngankbchxn phxl thiidklayepnephlngthihitthisudinpi 2003 khrxngxndbhnungaexrephlythishrthxemrikaaelaxyuxndb 1 idthung 9 spdah bnbilbxrd hxt 100 yawnankwaephlng ekhrsixinelif hnungspdah nxkcakniyngmiephlng mi mayeslf aexndix aela nxtiekirl epnsingekilthi 3 aela 4 cakxlbmnitid 5 xndbaerkinshrthxemrikaechnediywkn onwsidrbrangwlaekrmmithung 5 sakhacakkhwamtngicaelathumethkhxngethx idaek rangwlsakhakarrxngephlngxaraexndbihyingyxdeyiym cakephlng ednecxrslixinelif 2 ephlngxaraexndbiyxdeyiym cakephlng ekhrsixinelif aelasakhaxlbmxaraexndbirwmsmyyxdeyiym aelainpiediywknethxkidrbrangwlkhxngbrithxwxrds sakhasilpinhyingediywradbnanachati thuxepnkaraecngekidinthanasilpinediywthiyingihythisudinchwngnn inchwngphvscikayn 2003 biyxnesidthwrkhxnesirtaednecxrslixinelifthwrinthwipyuorp aelarwmedinsayewxrrisxneldisefistthwrkbmissi exleliytaelaxliechiy khiysinxemrikaehnux 2004 2005 edsthinifulfild aela pidchakedsthinisichld inpi 2004 onwswangaephnthicaxxkxlbmchudihm aelachudsudthaykhxngedsthinisichld hlngcakxlbmednecxrslixinelifkhxngethx inchwngtnpinn onwsidrbekiyrtiihiprxngephlngchatishrthxemrika inkaraekhngkhn suepxrobwl khrngthi38 n rieliynthsetediym inhiwstn aelaethxkidbxkwaepnkhwamiffninwyedkkhxngethx edsthinisichldrxngephlng esymayenm inthwrkhxnesirt edsthinifulfild aexndelifwin xithewildthwr hlngcak 3 pithiphwkethxidthaphlnganediyw phwkethxkidklbmarwmtwknxikkhrnginxlbmchudthi 4 edsthinifulfild sungwangcahnayineduxnphvscikayn pi 2004 xlbmnisamarthkhunipsungsudinxndbxlbmkhxngbilbxrdidinxndbthi 2 misingekilthihitxyangephlng lxsmaybrith osledxr ekirl aela khaetxrthuyu txmaidmikhxnesirtthwr edsthinifulfild aexndelifwin xithewildthwr chwngeduxnemsaynthungknyayn pi 2005 inpiediywknkidxxkxlbmrwmhitchudaerk nmebxrwns thirwbrwmsingekilxndb 1 aelaephlnghitthnghmdthithukkhnrucktngaetkxtngwngnima rwmthungephlngphiessxyang saetndxphfxrelif inpi 2005 cakkhwamsaercxyangmakmay khwamthumethinkarthangankhxngphwkethxthaihidrbkarcarukchuxwng edsthinisichldlngbn hxlliwudwxlkxxfefm ineduxnminakhm pi 2006 aelainthisudwngnikidprakasyubtwlng ephuxsmachikaetlakhncaidthanganinsingthitwexngsnic ehluxephiyngtananaelachuxesiyngthinacdcakhxng klumsilpinhyingthimiyxdkhaysungsudtlxdkal aelayngidtaaehnng 100 silpintlxdkalthibilbxrdcdkhuninpi 2008 inplaypi 2005 onwsiderimthaythaphaphyntreruxng drimekirls thiddaeplngmacaklakhrbrxdewyinpi 1981 epneruxngrawekiywkbnkrxnginyukh 60 odyidaerngbndaliccakwngdntrihyinglwn aenwomthawn wngedxa supphrims odyyudlksnatwlakhrkhux idxana rxss ineruxngkhux dina ocns phaphyntreruxngniidxxkchayineduxnthnwakhm aelaeruxngnionwsidrwmngankbnkaesdngnaxyang ecmi fxks exddi emxrfi aela ecnniefxr hdsn onwsidbnthukephlngprakxbphaphyntreruxngnixyuhlayephlng sungkrwmipthungephlng lisesn dwy inwnthi 14 thnwakhm kh s 2006 onwsthukesnxchuxchingrangwllukolkthxngkha thung 2 sakha nnkkhux nkaesdnghyingyxdeyiym omchnphikecxr miwsikhlhruxtlk aela ephlngprakxbphaphyntryxdeyiym cakephlng lisesn 2006 2007 bi edy pi 2006 onwsmiphlnganaesdnginphaphyntreruxng edxaphingkhaephnetxr sungxxkchayinwnthi 10 kumphaphnth kh s 2006 epidtwthixndb 1 inbxksxxffiskhxngshrthxemrika mirayidkwa 21 7 landxllarshrthinspdahaerk ethxyngrxngephlngprakxbphaphyntrxyangephlng echdxxnxith thiethxidrwmngankb slim thk aelayngkhunthungxndb 1 inbilbxrdhxt 100xikdwy onwsklbmakbxlbm bi edy sungxxkwangcahnayinshrthxemrikaemuxwnthi 4 knyayn kh s 2006 sungtrngkbwnekidxayukhrb 25 pikhxngethxphxdi xlbmniepidtwthixndb 1 inchartbilbxrd dwyyxdcahnaykwa 541 000 chud aelaepnxlbmthimiyxdkhayinspdahaerksungthisudinthanasilpinediyw nxkcakcarbhnathiepnexkskhuthifoprdiwesxrinxlbmniaelw onwsyngrwmaetngaelaoprdiwsephlnginxlbmnithung 11 ephlngelythiediyw rwmdwythimnganoprdiwesxraelankaetngephlngradbsupepxrstarechn swis biths rich harrisn edxaenpcuns sin karert star ekt ecy si osaelngk onws exngeclina biyines makhiba aela rxdniy ecxrkins singekilaerkxyang edcawu thiidecy si machwyaerpihinephlngni xyuphayitkarduaelkhxng rxdniy ecxrkins aelayngid osfi mulelxr phukakbmiwsikwidioxchuxdngmakakbmiwsikwidioxkhxngephlngnixikdwy aelaxxksingekilthi 2 tammakhux ephlng ringdixlarm aetthngsxngsingekilniimkhxyprasbkhwamsaercbninchartbilbxrdhxt 100 ehmuxnsingekilthiphanma cnmathungsingekilthi 3 ephlng xierephlsxebil thuxepnephlngthihitthisudinpi 2007 sungkhrxngxndb 1 thung 10 spdah aelamiyxdkhaysingekilkwa 6 lanchudthwolk thaihepnephlngthihitthisudkhxngethxdwy txmaonwsidwangcahnay bi edy chbbdilks inwnthi 3 emsayn kh s 2007 odyephimephlngihmipxik 5 ephlng aelachbbphasasepnkhxngephlng xierephlsxebil aela lisesn nxkcaknnyngmiephlng biwtifulilxar thiethxrwmrxngkbnkrxngsawchakhira khunxndb 1 inpraethsxngkvs swninshrthxemrikakhunsungsudthixndb 3 txmaonwsidmithwrkhxnesirtchuxwa edxabiyxnesexksphieriyns mirxbkaraesdngthung 97 rxbthwolk thngin exesiy xxsetreliy xemrikaehnux yuorp aela aexfrika epidthwrthipraethsyipunaelasinsudthi lasewks shrthxemrika thwrniidmikarbnthukphaphthi lxsaexneclis aelawangkhayepndiwidiinpiediywkn odyichchuxwa edxabiyxnesexksphieriynsilf aelainwnthi 30 tulakhm kh s 2007 ethxidmaepidkhxnesirtinpraethsithy thiximaephkhxarina emuxngthxngthani odyphucdkhux bristh bixisi ethor exnetxrethnemnth cakd mhachn thamklangkhwamtunetnaelarxkhxykhxngaefnkhlbchawithy innganaekrmmipi 2007 xlbmbi edy thaihonwsidrbrangwlsakhaxlbmephlngxaraexndbirwmsmyyxdeyiym aelaonwskidsrangprawtisastrihminxemrikn miwsik xwxrds khrngthi 35 odyepnsilpinhyingkhnaerkthiidrbrangwlsakhasilpinradbtangpraeths 2008 2010 ixaexm sachaefiyrs inwnthi 10 kumphaphnth kh s 2008 onwsidrxngephlngrwmkbthina ethxrenxr innganprakasphlrangwlaekrmmi khrngthi 50 onwsideriykethxrenxrwa edxakhwin aelarxngephlng phrawdaemri txmaonwsidminganphaphyntrnnkkhux khadilaelkerekhids wnwantananrxk thierimthaythaineduxn phvsphakhm kh s 2008 sungethxrbbthepnnkrxngintanan extta ecms aelaonwsyngidmiphaphyntraenwrathukkhwyeruxng aerngrkmrna rwmkbnkaesdngnaxyang xali laretxr aela xidris exlba phaphyntreruxngniekhachayinshrthxemrikainwnthi 24 emsayn kh s 2009 inwnaerkphaphyntreruxngnitharayidipkwa 11 1 landxllarshrth aelainsudsbdahkmiyxdcahnayinbxkxxffiskhxngshrthxemrikaepnthi 1 dwyrayidthnghmd 28 6 landxllarshrth onwsinephlng xemrikaedxabiwthiful inngan phithisabantnekharbtaaehnngkhxngprathanathibdibark oxbama onwsklbmaxikkhrnginchwngplaypi kbxlbmediywchudthi 3 michuxwa ixaexm sachaefiyrs wangcahnayemuxwnthi 18 phvscikayn kh s 2008 odyonwsidephywa sacha efiyrs khuxphaphlksnkhxngethxewlaxyubnewthithicaetmthi epriywaerng aelathumeth tangkbtwcringkhxngethxthicaepnkhnengiyb aelaeriybngay misingekilaerkaelasingekilthisxngxxkmaphrxmkn 2 ephlng khux xifixewxrxabxy aela singekileldis phutxaringxxnxit inwnthi 8 tulakhm kh s 2008 thitangprasbkhwamsaercdwyknthngkhu odyephlng xifixewxrxabxy samarthkhunipxndbhnungbnchartsingekilaehngshrachxanackr aelaephlng singekileldis phutxaringxxnxit nnsamarthkhunipthungxndbhnunginchartbilbxrd hxt 100 sungnbepnsingekilxndbhnunginbilbxrdephlngthi 5 khxngonwsinthanasilpinediyw aelasingekilthi 4 khxngxlbmni ehol samarthkhunipsungsudinbilbxrdidthungxndbthi 5 thaihepnsingekilthi 12 thisamarthtidxndb 1 in 10 khxngbilbxrdidinthanasilpinediyw thaihethxepnsilpinhyingthimiephlngxyuinsibxndbaerkmakthisudinthswrrsni txmaonwskidrbrangwlsakhasilpinhyingoddedn khxngexnexexsiphiximemcxwxrd aelayngidrbrangwlsilpinxaraexndbiyxdeyiymthithinchxysxwxrdpracapi 2009 xikdwy emuxwnthi 20 mkrakhm kh s 2009 onwsidrbekiyrtiihiprxngephlng xemrikaedxabiwthiful innganphithisabantnekharbtaaehnngkhxngprathanathibdibark oxbama aelaethxyngidnaephlng aextlast ephlngprakxbphaphyntreruxng khadilaelkerekhids wnwantananrxk iprxngrahwangkaretnrakhxngprathanathibdioxbamaaelamiechll inkhnathiepnprathanathibdiaelasuphaphstrihmayelkhhnungkhxngshrthxemrikadwy onwsidmithwrkhxnesirtediywkhrngthi 3 ichchuxwa ixaexm thwr karthwreriminchwngeduxnminakhmodythicaipinthitang thwolk erimcakxemrika yuorp exesiy aexfrikaaelaoxechiyeniy sungrahwangkarthwrinshrthxemrika ethxidcdkhxnesirt ixaexm ywrs 4 rxb thilas ewks thwrkhxnesirtkhxngonwsinkhrngnitidxndb 1 khxnesirtthirxnaerngthisudcakbilbxrd aelayngyunynthungkhwamsaerckhxngthwrnixikwathwrkhxnesirtnimirayididkwa 36 landxllarshrthkhnathiephingerimkarthwraelatidxyuin 15 thwrthimirayidmakthisud dwykarthimikahndkarephimkhuneruxy cnthungeduxnminakhmpi kh s 2010 ethxedinsaykhxnesirtthnghmd 108 rxb kwadrayidkwa 119 5 landxllarshrth miwsikwidioxephlng singekileldis phutxaringxxnxit idrbrangwlwidioxaehngpithinganprakasrangwlbixithixwxrds pracapi 2009 aelayngidrbkaresnxchuxekhachingrangwlexmthiwi widiox miwsik xwxrds pracapi 2009 thung 9 rangwl thaythisudkidrbrangwlwidioxaehngpikbxik 2 rangwlthinixikechnediywkn ineduxntulakhm kh s 2009 onwsidrbrangwl wuemnxxfedxaeyiyr caknitysarbilbxrd nxkcakniinnganprakxsphlrangwlaekrmmikhrngthi 52 biyxnesmichuxekhachingrangwlthnghmd 10 raykar thngxlbmaehngpicak ixaexm sachaefiyrs bnthukesiyngaehngpicak haol aelaephlngaehngpicak singekileldis phutedxaringxxnxit aelaxun aelachnarangwlthung 6 rangwldwykn thaihethxepnphuhyingthichnarangwlaekrmmimakthisudphayinhnungkhun inpi 2010 ethxrwmngankbeldi kakainephlng ethelofn thithayankhunsuxndb 1 khxngchartephlngpxpkhxngxemrikaid klayepnephlngthisamarthkhunxndb 1 idepnephlngthi 6 thngkhxngbiyxnesaelaelki kaka biyxnesprakasphknganinwngkarephlngineduxnmkrakhm 2010 tamkhaaenanakhxngaemkhxngethx klbipichchiwitkhxngtwexng haaerngbndaliccaksingtang rxbtw rahwangphknnethxidipethiywinhlaypraethsinyuorp ipthikaaephngemuxngcin mhaphiramidthixiyipt xxsetreliy ethskaldntrikhxngxngkvs eyiymchmphiphithphnthaelakaraesdngblelt 2011 2015 ofr aela biyxnes biyxnesinkhxnesirtofrxinthiemtinthwithbiyxnes wnthi 24 mithunayn 2011 onwsidxxkstudioxxlbmchudthi 4 ichchuxwa ofr phanthangkhayephlngokhlmebiyerekhids khayid 310 000 chud phayin 1 spdah khunaethnbilbxrdxndbthi 1 inbilbxrd 200inwnthi 26 mithunayn 2011 biyxnesepnsilpinhyingediywkhnaerkthiidkhunewthiphiramid sungepnewthihlkinrxb 20 piinethskalaeklstnburi 2011 singekilepidxlbmxyang rnedxaewild ekirls aela ebstingixenewxraehf thuxwaprasbkhwamsaercphxpraman aetsingekilthisixyang elifxxnthxp nnprasbkhwamsaercxyangyinginechingphanichyinxemrika eruxng xit ephly elif thiethxaetnglngnitysar sungekiywkbchwngthiethxphkinpi 2010 idrbrangwlcakcak New York Association of Black Journalists aelainchwngthaypi 2011 ethxidaesdngkhxnesirtofrxinthiemtinthwithbiyxnes thnghmd 4 rxbinorsaelndbxlrum inwnthi 7 mkrakhm 2012 biyxnesihkaenidluksawkhnaerk chuxwa blu ixwi kharetxr thiorngphyabalelenkshilsinniwyxrk haeduxntxma biyxneshwnkhunsuewthixikkhrngkbkaraesdngthnghmd 4 rxbthierewl aextaelntiksitiephuxchlxngkarepidrisxrtaehngihm eduxnmkrakhm 2013 edsthinisichldidplxyxlbm elifsxng sungepnxlbmthiidrwbrwmephlngrkoraemntikcakxlbmkxn aelamihnungephlngihm chuxwa niwekhliyr aelabiyxnesyngidrbekiyrtirxngephlngchatishrth inphithisabantnkhxngprathanathibdibark oxbamaxikdwy eduxnthdma biyxnesidrbechiyihipaesdngchwngphkkhrunginkaraekhngkhnxemriknfutbxlsuepxrobwlkhrngthi 47 rwmkbephuxnrk ekhlli orwaelndaelamiechl wileliyms sungsngphlihkaraesdngniepnehtukarnthithukthwitmakthisudxndb 2 inprawtisastr dwycanwn 268 000 thwittxnathi aelasarkhdieruxngyawekiywkbchiwitkhxngethx ilfxisbtxadrim kidchaybnchxngexchbioxinwnthi 16 kumphaphnth 2013 biyxneskalngaesdngephlng 1 1 cakxlbmofrinkhxnesirtedxamissiskharetxrochwewildthwr txmainwnthi 15 emsayn 2013 biyxnesiderimedinsaythwrkhxnesirt odyaesdngthieblekrd praethsesxrebiyepnthiaerk aelasinsudeduxnminakhm 2014 rwmaelwethxthwrkhxnesirtthngsin 132 rxb klayepnthwrkhxnesirtthiprasbkhwamthisudinchiwitkarthangankhxngethxaelaepnhnunginthwrkhxnesirtthiprasbkhwamsaerctlxdkal ineduxnphvsphakhm aebkthuaeblk ephlngkhxngsilpinintanan exmi iwnehasthibiyxnesidnamakhfewxr sungthukichprakxbphaphyntredxa ekrth aektsbi rkethxsudthirk kidplxyxxkma nxkcakniethxyngihesiyngtwlakhrkhwintharainphaphyntraexniemchneruxng expik aelarxngephlngprakxbchuxwa irsxp sungaetngrwmkbesiyxikdwy mithunayn 2014 biyxnesaelaekhlli orwaelnd idrwmngankb miechl wileliyms ephuxnrwmwngedsthinisichldxikkhrng insingekil Say Yes epnsingekilkhxngmiechll phayitkhayephlngxisra exnetxrethnemntwn xiwn wnthi 13 thnwakhm 2013 onwsidxxkstudioxxlbmchudthi 5 ichchuxwa lngbnixthunsodyprascakkarprakaslwnghna aelakhunaethnbilbxrdxndbthi 1 inbilbxrd 200 thaihethxklayepnphuhyingkhnaerkthimixlbm 5 xlbmaerkepidtwbnchartdwyxndb 1 xlbmniidrbesiyngwiphakswicarninthangthidiaelakhayid 617 000 chud phayin 3 wninshrth 828 773 thwolk epnxlbmthisrangpraktehnuxkhwamkhadhmayinwngkarephlngsngthaypi odynaesnxinrupaebbephlngcanwn 14 ephlng 16 ephlng okst hxnethd aela yxnes pharthichn epnephlngtx aelamiwsikwidiox 17 ephlng aethmobnswidiox okrnwuaemn odymibuths thimbaaelnd cstin thimebxrelkh ec rxs ecy si phaeriyl edxa drim hitbxy irxn aethnedxr esiy miekl edrk macid cxraedn aefrngk oxechiyn l epnoprdiwesxr biyxnesplxysingekilexkoxaeladrngxinelifthiphikkhunxndb 2 bnchartbilbxrdhxt 100 hlngcakkaraesdngthinganprakasphlrangwlaekrmmi 2014 tamdwypharthichnaelaphritthiehirts eduxnemsayn 2014 biyxnesaelaecysiprakasthwrkhxnesirtrwmknxyangepnthangkar ichchuxwa xxnedxarnthwr odykwadrayidkwarxylandxllarshrthdwycanwnrxb 21 rxb ineduxnsinghakhm 2014 ethxidrbrangwlimekhilaecksnaewnkardinnganprakasphlrangwlexmthiwi widiox miwsik xwxrds 2014 aelayngchnaxik 3 rangwl idaek Best Video with a Social Message aela Best Cinematography cakphritthiehirtsaela Best Collaboration cakdrngxinelif ineduxnphvscikayn nitysarfxbsraynganwa biyxnesepnphuhyinginwngkarephlngthitharayidsungsudtidknepnpithi 2 odytharayidip 115 landxllarshrthphayinhnungpi sungmakkwarayidkhxngethxinpi 2013 kwasxngetha txmabiyxnesplxy biyxnes chbbaephltinm phrxm 2 ephlngihm idaek 7 11 aelaringxxf aela 4 ephlngrimiks hnunginnnmisaetndingxxnedxasn sungepnephlngthiichinokhsnakhxng H amp M dwy innganprakasphlrangwlaekrmmikhrngthi 57 ineduxnkumphaphnth 2015 biyxnesekhachingthnghmd 6 sakhadwykn aelachnainsakhatang idaek Best R amp B Performance aela Best R amp B Song cakephlng drngxinelif aela Best Surround Sound Album cak biyxnes ethxekhachingrangwl Album of The Year dwy aetebkchnaipdwyxlbmmxrningefs 2016 pccubn xlbmchudthi 6 biyxnesthakaraesdngchwngphkkhrungsuepxrobwlkhrngthi 50 inwnthi 6 kumphaphnth 2016 biyxnesklbmaxikkhrngkbsingekilihm fxremchn sungplxyihdawnohldidfriinbrikarstrimephlngithdxl wntxmaethxidaesdngephlngfxremchnepnkhrngaerkinchwngphkkhrunginkaraekhngkhnxemriknfutbxlsuepxrobwl khrngthi 50 thiethxepnaekhkrbechiyihkbokhldephly aelahlngcaknnethxkprakasthwrkhxnesirtrxbolk edxafxremchnewildthwr inthnthisitlephlngaelaphaphlksndntriaelaesiyngrxng swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniid ephlngkhxngonwsswnihycaepnaenwxaraexndbirwmsmy aetkmkcaphsmaenwaednspxp fngk pxp aelaoslekhaipdwy ephlngkhxngonwsnnimidmiaekhephiyngephlngphasaxngkvs ethxyngidthaephlngphasasepnxyuhlayephlngsahrbkarwangcahnayxikkhrngkhxngxlbmbi edy xikdwy wngedsthinisichldexngkyngekhythaephlngphasasepndwyechnknaelayngidesiyngtxbrbthidicakaefnephlngchawlatin onwsekhyichphasasepninorngeriynemuxyngedk aettxnnisamarthphudidephiyngimkikha aetemuxtxngthaephlngphasasepnsahrbkarwangcahnayxikkhrngkhxngxlbmbi edy ethxkidipfuksthsastrkboprdiwesxrephlngchawxemrikn chuxwarudi ephiyrs karaesdngbnewthi onwsrxngephlnginedxabiyxnesexksphieriynspi2007 rwmkbwngdntrihyinglwn chukamama inpi 2006 onwsidmiwngdntri khxngtnexng sungkidmithng nkelnebs nktiklxng nkelnkitar nkelnhxrn muxkhiybxrd aela nkdntriekhruxngdntripraephthti phwkekhaidepidtwkhrngaerkinnganprakasphlrangwlbixithixwards pi 2006 aelaprakttwxikkhrnginmiwsikwidioxephlng xierephlsxebil aela krinilth wngdntriniidelndntriihonwsinkarrxngephlngsdkhxngonwsinthitang rwmipthungkhxnesirtthwrrxbolkinpi 2007 edxabiyxnesexksphieriyns aelainpi 2009 khxnesirtthwrixaexm inbthkhwamthimichuxwa bxrnthuexnetxrethn onwsrwmthungsilpinkhlassikaelarwmsmyxun idrbkhachmcakkaraesdngbnewthikhxngethx inbthwicarnkhxnesirtthwrixaexm inpi kh s 2009khxngethx xlis ocnskhxnghnngsuxphimphxindiephnednth idekhiyniwwa Watching Beyonce sing and strut her stuff can feel at best overawing at worst alienating She takes her role as entertainer so seriously she s almost too good edxaniwyxrkithms ekhiynwa mnmikhwamnathungphrxmkbnatunetnmakinkarwangaephnkhxngethxthicathaihphuchmsnuksnan rini miechll harriskhxngesathflxridaithms ekhiynwa onws samarththatwepnecakhxngewthiphrxmkbisexklksnkhxngethxaelamikhwamexacringexacng karaesdngthimiesiyngrxngxnthrngphlngkhxngethxaelaimmiontidthitkhlnip karetnthismburnaebb immiikhrthngnn imichbritniy imichsiexra aelakimichrixanna samarththaxyangthiethxthaid thngkarrxngkarekhluxnihwthismburninewlaediywkn aelaniepnkarsathxnxxkmakhxnglxrern chwartscakdiexksaesmienxr phuthiekhiyniwwa inewlanxykwahnungpi chnidehn madxnna britniy aelabiyxnes biyxnes dikwasamkhnnnxyuiklmak phaphlksn onwsophsthain edxabiyxnesexksphieriyns onwsepnthiruckknineruxngsylksnkhxngephs tamthiethxidphudiwwa chnchxbthicaaetngtwesksiaelathatwexngihehmuxnstrithwip aetethxkidbxkwakaraetngtwbnewthik sahrbkaraesdngbnewthiethann enuxngcakethxepnkhnthichunchxbaelahlngihlinaefchn onwsidphsmphsanxngkhprakxbkhxngsilpakbmiwsikwidioxaelakaraesdngkhxngethx aefchndiisenxrchawxitaeliyn orebxrot khawalli klawiwwa ethxcaichsitlthiaetktangkn phyayamihekhadntriinkhnaaesdng nitysar phiephil idcdihonwsepnkhndngthimiaetngtwiddithisudinpi 2007 aemkhxngonwsidekhiynhnngsuxinpi 2002 odychuxwa edsthinissitl butiliechiysaefchn biwtifulaexndilfsitlsiekhrtfrxmedsthinisichld epnbnthukthiwaaefchnmiswntxkhwamsaerckhxngedsthinisichldmakaekhihn inpi 2007 onwsepnthicbtamxngmak inkarthiethxidkhunpkkhxng spxrtsxillsetrdtswimsuthxichchu ethxepnkhnaerkthiimichthngnangaebbaelaimichthngnkkilathiidlngsingtiphiphmni aelayngepnsilpinchawaexfriknxemrikn khnthisxnghlng ithra aebngs inpiediywkn phaphonwsidpraktxyuinnitysarbilbxrdaelahnngsuxphimphthwshrthxemrika sungepnphaphthiethxkalngthuxbuhriaebbekaxyuaelaepnphaphcakpkhlngkhxngxlbm bi edy phaphnithuktxtancakxngkrnpxngknkarsubbuhrixyangmak odyrabuwaethximcaepntxngephimbuhri ephuxihtwexngdusbsxnkwaedim inwnthi 24 emsayn kh s 2009 onwsidipsmphasninraykar aelrrikhingilf ethxidphudthungthuksingthukxyangthiethxidiprxngephlnginphithisabantnekharbtaaehnngkhxngprathanathibdibark oxbamaemuxwnthi 20 mkrakhm kh s 2009 aelaethxklawwa miechll oxbama epnbukhkhlthiekmak aelaidklawipthungwakaridiprxngephlng aextlast nn waepnxairthisakhytxchiwitkarthangankhxngethxmak erasxnihphuhyingruckeciymtwephuxihtwexngdxylng erasxnphuhyingwa khunthaeyxthayanid aetxyamakekinip khunkhwrcaprasbkhwamsaerc aetxyasaercekinipephraacathaihphuchayekrngklw aelaephraachnepnphuhying chnhwngwacaidaetngngan chnhwngwachiwitcamitweluxkhlayxyang aelacaiwwa singthisakhythisudkhuxkaraetngngan sungthaihmikhwamsukh khwamrk aelakarchwyehluxekuxkulkn aetthaimeraimsxnihphuchaytxngkarthicaaetngnganehmuxnthisxnphuhyingbang erasxnphuhyingehnphuhyingdwyknepnkhuaekhngkn imichephuxnganhruxkhwamsaercthichnkhidwaepnsingthidi aetephuxkhwamsnickhxngphuchay erahamimihphuhyingaesdngxxkthangephsidechkechnphuchay nkstriniym bukhkhlthiechuxinkhwamethaethiymthangephsindansngkhm karemuxng aelaesrsthkic sunthrphcnkhxngchimamanda xadichi inephlng flxwels txmaemuxxlbm 4 thukplxyinchwng 2011 phrxmsingekilepidxlbmxyang rnedxaewild ekirls sungprakaskhwamepnstriniymkhxngbiyxnesxyangetmtw aelatxkyaphaphlksnkhwamepnstriniymihednchdmakkhunxikinephlng flxwels cakxlbmbiyxnes thimienuxhaihphuhyingmikhwammnicintnexng aelamisunthrphcnkhxng nkekhiynchawincieriyxyuinephlngdwy txmainpi 2015 biyxnesidrwmaesdnginethskaldntriemdxinxemrikaaelaethskaloklbxlsitiesn sungminydanstriniymprakt xiththiphlaelasingsubenuxng onwsykyxng imekhil aeckhsn epnphumixiththiphlthangdntrithiyingihykhxngethx txnxayu 5 khwb emuxonwsipthikhxnesirtkhxngekhakhrngaerknnthaihethxtrahnkthungepahmaykhxngethx pi 2006 thingan ewildmiwsikxwxrds ethxyngklawtxphuchmwa thaimichephraaimekhil aeckhsn chnkhngimidepnechnthukwnni onwsidaerngbndalicinkarepnnkrxngmacaksilpinchawxemriknxyang thina ethxrenxr phrins xaritha aefrngkhlin withniy hustn ecent aecksn eselna aemri ec iblc idxana rxss dxnna smemxr marayh aekhri aelankrxngchawokhlmebiynxyang chakhira nxkcaknionwsidetibotmakbephlngkhxng exnita ebekxraelaluethxr aewndrxs aelaintxmakklbklayepnkhnthiethxidrwmnganxyudwyinthisud onwsyngmixiththiphltxsilpinrwmsmydwy nkrxngephlngaenwxaraexndbi chawkhaenediyn ekhechiy chanet kidmixiththiphlmacakonwsechnediywkn nxkcaknn phuchnaraykar xemriknixdxl cxrdin sparkhs singekilaerk aethththu aelaxlbmaerkkhxngekha samarthxthibayidwamikhwamchxbintwbiyxnesexamak sungsingekil aethththu nn kidmidntriaelasingtangehmuxnkbephlnghitkhxngonwsmak nnkhuxephlng xierephlsxebil stiefn othms exriliwn khxngxxlmiwsikidphbwaephlnginxlbmaerkkhxngnkrxngpxpchawxemrikn ekhtharin aemkhfi idrbxiththiphlcakephlngkhxngonwsmak orwaelnd yngidaerngbndalic kxnkarthaxlbmchudthi 2khxngethx mis ekhlli cakesiyngrxngkhxngonwsdwyechnkn onwsepnnkrxnghyingkhnaerk thiidrbrangwl xemrikn miwsik xwxrds sakhasilpinradbtangpraeths onwsidepnnkrxngnakhxngwngdntrihyinglwnthimiyxdkhaysungthisudtlxdkal edsthinisichld inthitangmakmay idbnthukiwwaethxepnsylksnkhxngephlngpxp thiepnthiruckmakthisud xlbmaerkkhxngethx ednecxrslixinelif idxyuinraychux thxp200edfinithifxlbm inprawtisastrdntri ody rxkaexndorlhxlxxfefm sungnxymaksahrbsilpininyudni thicaidxyuinraychuxnn onwsidmihunkhiphunginthitangmakmay aetthi thiruckknmakkkhux thiphiphithphnthhunkhiphungkhxng Madame Tussaud ethxkyngepnhnunginnxykhnkhxngaexfriknxemrikn thiidekhachingrangwllukolkthxngkhathung 3 rangwl hruxmakkwannkickrrmkarkuslaelanganxunehasxxfederxxn pi 2005 onwsepidtwthurkichxngesuxthiethxidrwmmuxkbthina onws aemkhxngethx odyichchuxwa ehasxxfederxxn House of Dereon ederxxn khuxchuxyaykhxngethx sungnganxxkaebbidrbaerngbndalicmacakbrrphburusintrakul thwrkhxnesirt edsthinifulfild aexndelifwingxithewildthwr khxngedsthinisichld ideluxkichchudcakhxngesuxnikhxngethxexngthnghmd pccubnidmikarprayuktthurkicnirwmkbphlngankhxngethxthixxkmainkhnanndwy nganokhsna onwsidesnsyyakbekhruxngdumeppsiinpi kh s 2002 sungepnkarokhsanathngbnothrthsn rwmthungwithyuaelainxinethxrent inpi kh s 2004 eppsiidmiokhsnaphanthangothrthsn miaenwokhsnaepn nktxsuinsmyormn odymionwsaelankrxngxyang britniy sepiyrs phingk aelaexnriek xieklesiysrwmxyuinokhsna aelainpithdmakidrwmngankbecnniefxr olepsaelaedwid ebkhaekhminokhsnaaenw samuir aelainpi 2013 ethxidokhsnaodyichephlng Grown Woman aelaeppsikepnphusnbsnunkaraesdngchwngphkkhrungsuepxroblwkhrng 47 ihkbethx nxkcakniaelw onwsyngesnsyyakbbristhekhruxngsaxanghruxsinkhathiekiywkbkhwamswykhwamngam nnkkhuxlxerxlinchwngpi kh s 2003 tharayidihethxkwa 1 landxllarshrthinpi 2004 onwsidminahxmkhxngethxexng eriykwa thrustar sungkidthaodythxmmi hilifecxr ethxidmiwidioxprachasmphnth odyethxrxngephlng wichchingxxnxastar marxngprakxbdwy odytharayidihethxkwa 250 000 dxllarshrth aelaethxyngidmithrustarokldinpi kh s 2005 aela exmphxerxrxarmanisediymxnds inpi kh s 2007nitysarfxrbyngidraynganwa onwsmirayidinchwngeduxnmithunayn kh s 2008 thungeduxnmithunayn kh s 2009 sungthung 87 landxllarshrth cakxlbm khxnesirtthwr thurkicesuxpha aelanganokhsnatang aelacdihethxepnkhndngthimirayidsungthisudepnxndb 4 khxngolk kickrrmkarkusl onwsidepntwaethnihkbmulnithi ochwywrehlppingaehnd onwsrwmkbekhlli orwaelnd aelakhrxbkhrwkhxngthngsxng idepidxngkhkrchwyehluxphuprasbphyodyichchuxwa esxriwewxr fawedchn inpi 2005 xngkhkrniidchwyehluxphuprasbphyphayuehxrriekhnaekhthrina inphunthirthethkss shrthxemrika sungepnbanekidkhxngethxexng aelaonwsyngidbricakhengincanwn 100 000 dxllarshrth ihkb klfkhxstixkhriliffnd sungepnxngkhkrthiidchwyehluxphuprasbphycakphayuehxrriekhnixkh inemuxnghiwstnxikdwy inpi 2005 oprdiwesxrephlng edwid fxsetxr luksawkhxngekha exmi fxsetxr cillis aelaonws idrwmknaetngephlng saetndxphfxrelif sungcaepnephlngpracawnedkolk thiedsthinisichldidrwmknrxngephlngni aelarbepntwaethncakthwolkpracawnedkolkpi 2005 aelainpi 2008 onwsidmiephlng cstsaetndxph rwmkbsilpinxun echn marayh aekhri eloxna liwxis rixanna aemri ec iblc epnsingekilkarkuslsahrbmulnithi saetndxphthuaekhnesxr sungepnmulnithithichwyehluxphuthiepnorkhmaerng onwsidrbcarukchuxekhasu xinetxrenchnenlphiediythrikhxllxxfefm khxng imaexmichiledrnshxspitxl sungepnorngphyabalduaeledkphikar hlngcakthiethxidekhachwyehluxdwykarbricakhenginaelaekhaeyiymedk xyangsmaesmx inkhnathaythaphaphyntr khadilaelkerekhids wnwantananrxk biyxnesidekhasuksalksnaphupwytidyaesphtidinsthanbabd ephuxichinkaraesdngphaphyntrdngklaw aelaethxyngidbricakhenginrayidkhxngethxihkb ofniksehas epnxngkrnthichwybabdphuthitidyaesphtidaelaekhruxngdumaexlkxhxlxikdwy aelainewlatxmaimnan onwsidrbepntwaethnihkbmulnithi ochwywrehlppingaehnd epnmulnithiephuxchwyehluxedkthixdxyak aelaethxyngihaefnkhxngethx naxaharthiimenaepuxyidngaymabricakhin yu exs khxnesirtthwrstxp khxngethxdwy inpi 2013 ethxidrwmmuxkbkuchchiaelaslma haeyk inkarcdtngaekhmepy Chime For Change inkarradmthunephuxchwyehluxphuhyingthwolk wnthi 1 mithunayn 2013 ethxkkhunaesdngkhxnesirt Sound of Change ephuxradumthunaelaepnkrabxkesiyngihkbsiththistrithngdankhwamyutithrrm karsuksa aelasukhphaph rwmkbsilpinxikhlaythan xathi ecnniefxr oleps exlli oklding ecssi ec aemri ec iblcchiwitswntwtngaet kh s 2002 biyxnesiderimkhbhaduickbaerpepxrhnum ecy si sungepnbukhkhlthikhxychwyehluxethxmaodytlxd khawluxtang iderimtxkyakhwamsmphnthrahwangekhathngsxngkhn hlngcakthibiyxnesidrwmrxngephlngkbecy si inephlng 03 bxnniyaexndikhld aelain kh s 2005 khawluxtang kidkracayipthwwa biyxnesaelaecy si caaetngngankn aetemuxidsxbthamkbtwbiyxneseaelw ethxidbxkwatwethxkbecy sinnyngimidhmnhmaykniwaetxyangid aelaemuxphusuxkhawidthamxikkhrngineduxnknyayn kh s 2007 ecy sikidtxbwa One day soon let s leave it at that lxra echrfefxr sungepnnkekhiynxawuoskhxngnitysar oxekh klawwa phwkekhaepnkhnthimikhwamepnswntwexamak emuxwnthi 4 emsayn kh s 2008 biyxneskbecy siidaetngnganknthinkhrniwyxrk biyxnesepidephywaethxekhyaethngbutrraw kh s 2010 hrux 2011 insarkhdiilfxisbtxadrim thngniethxidaetngephlngihkbkhwamsuyesiyinkhrngnidwy innganprakasphlrangwlexmthiwiwidioxmiwsikxawxds kh s 2011 biyxnesidaesdngephlng elifxxnthxp odyerimtnkaraesdngwa wnnichnxyakihthukkhnyunkhunaelarbruthungrkthikalngetibotphayintwchn aelaintxncb ethxkthingimokhrofn thxdkradumeblesxrxxkaelalubthxng sungyunynwaethxtngkhrrph sungehtukarnnithukbnthukinkinenssewilderekhidswaepnehtukarnthithukthwitmakthisudtxwinathi khidepn 8 868 thwittxwinathi aelakhawa Beyonce Pregnancy klayepnkhathithukkhnhamakthisudinkuekilinrxbspdahkhxngwnthi 29 singhakhma kh s 2011 wnthi 7 mkrakhm 2012 biyxnesidihkaenidbutrsaw 1 khn chuxwa blu ixwi kharetxr thiorngphyabal Lenox Hill Hospital inniwyxrk 2 wnihhlng ecysiplxyephlng sungepnephlngthiekhaaetngihkbluksawlngbnewbist Lifeandtime com inephlngklawthungkarfafnxupsrrkhkhnatngkhrrph rwmthungkaraethnglukkxnthicatngkhrrphblu ixwi esiyngrxngkhxngblu ixwithuknamaistxncbephlng aelaisekhrditwa B I C sngphlihblu ixwi sungmixayuephiyng 2 wn klayepnbukhkhlthixayunxythisudthipraktbthchartbilbxrdemux oklriy edbiwtbnchart Hot R amp B Hip Hop Songsphlnganephlngdubthkhwamhlkthi raychuxphlngankhxngbiyxnes onws studioxxlbm ednecxrslixinelif 2003 bi edy 2006 ixaexm sachaefiyrs 2008 4 2011 biyxnes 2013 elmxnend 2016 erxaensxngs 2022 khawbxykharetxr 2024 rwmkbedsthinisichld edsthinisichld 1998 edxairtingsxxnedxawxll 1999 esxriwewxr 2001 8 edsxxfkhristmas 2001 edsthinifulfild 2004 rwmkbecy si inchux 2018 thwrkhxnesirt2003 ednecxrslixinelifthwr 2004 ewxrrisxneldisefistthwr 2007 edxabiyxnesexksphieriyns 2009 2010 ixaexm thwr 2009 ixaexm ywrs 2013 2014 edxamissiskharetxrochwewildthwr 2014 xxnedxarnthwr 2016 edxafxremchnewildthwr 2018 xxnedxarnthwr thurphlnganthangdanphaphyntrpi phaphyntr bthbath hmayehtu2001 kharemn xahipohepra kharemn rbbthna epnphaphyntrothrthsn2002 phykhkhrayitsadux txn tamlxphxsaylb fxkssi khlioxphtra rbbthna2003 edxaifthtingethmpethchn lilli rbbthna2004 efdthuaeblk twethxexng phaphyntrsarkhdiekiywkbecy si2006 edxaphingkhaephnetxr saeniy rbbthnkaesdngprakxbdrimekirls dina ocns rbbthna2008 khadilaelkerekhids wnwantananrxk extta ecms rbbthna2009 aerngrkmrna charxn chals rbbthnawaw waw wbbsi ichn phakyesiyng Wubb Girlz Rule Wuzzleburg Idol vdukalthi 2 txnthi 19 Bye Bye Wuzzleburg Wubbzy s Wacky Journey vdukalthi 2 txnthi 20 Wubbzy s Big Makeover The Big Wuzzlewood vdukalthi 2 txnthi 22 Lights Camera Wubbzy A Wubbstar Is Born vdukalthi 2 txnthi 23 2013 ilfxisbtxadrim twethxexng phaphyntrsarkhdiekiywkbtwethxexngexpikh khwinthara phakyesiyng 2016 elmxnend twethxexng phaphyntrsnprakxbephlnginxlbmelmxnendrangwlethxidrbrangwltang makmay inthanasilpinediyw xlbmkhxngethxmiyxdkhaythung 15 lanchudinxemrika aela 118 lanerkkhxrdthwolk 60 lanchudrwmkb sungthaihethxepnhnunginsilpinthimiyxdkhaysungsudtlxdkal smakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrikacdxndbihbiyxnesepnsilpinthiidrbkarrbrxngsungsudinpichwngthswwrsthi 2000 dwykarrbrxngthnghmd 64 khrng ekhrsixinelif singekileldis phutxaringxxnxit ehol aela xierephlsxebil epnhnunginsingekilthikhaydithisudtlxdkal dixxbesxewxrklawwaethxepnsilpinaehngthswrrs biyxnesepnsilpinhyingkhnaerkthiidrbrangwl ody xemriknmiwsikhxwxrd nxkcakniethxyngidrb ody World Music Award inpi 2008 aela in biyxnesidrbrangwlaekrmmithngsin 20 rangwl thnginthanasilpinediywaelasmachikkhxngedsthinisichld thaihethxepnsilpinhyingthiidrbrangwlaekrmmimakthisudepnxndb 2 rxngcakxlisn ekhras aelaepnphuhyingthimiraychuxekharangwlaekrmmimakthisud odyekhachingthngsin 52 raykar singekileldis phutxaringxxnxit chnainsakhaephlngaehngpiinpi 2010 inkhnathi esymayenm aela ekhrsixinelif chnainsakhaephlngxaraexndbiyxdeyiym thng ednecxrslixinelif bi edy aela ixaexm sachaefiyrs tangkchnainsakhaxlbmxaraexndbirwmsmy ethxthukbnthukwaepnphuhyingthichnarangwlaekrmmimakthisudinhnungkhuninpi 2010 dwycanwn 6 rangwl aeladwybthbathindrimekirls ethxekhachingrangwlsakhaephlngprakxbphaphyntryxdeyiymdwyephlng lisesn aelankaesdnghyingyxdeyiyminnganprakasphllukolkthxngkha aelasakhankaesdngnahyingyxdeyiyminnganprakasphlrangwl aelachna 2 rangwlin idaek sakhaephlngyxdeyiymdwyephlng lisesn aelaephlngprakxbphaphyntryxdeyiymdwyephlngdrimekirlshmayehtuimxnuyatihichtwxksrthiennesiyng e sahrbphlngankhxngethxinedsthinisichldaela duthi aelaxangxingCurto Justin April 30 2021 Yes Harmonies by The Hive is Beyonce Vulture ekbcakaehlngedimemux October 27 2021 subkhnemux May 8 2021 Gay Jason February 10 2013 Beyonce Knowles The Queen B ekbcakaehlngedimemux October 27 2021 subkhnemux October 18 2021 Lewis Brittany July 9 2013 Beyonce credited as Third Ward Trill on Jay Z s album Magna Carta Holy Grail Global Grind ekbcakaehlngedimemux October 27 2021 subkhnemux June 29 2018 BeyGOOD www beygood org cakaehlngedimemux 2024 03 31 subkhnemux 2024 03 31 Reviews Unorthodox 2022 12 05 5 Times Beyonce s Music Was Inspired by Africa phasaxngkvsaebbxemrikn cakaehlngedimemux 2023 09 30 subkhnemux 2024 03 16 Aniftos Rania 2022 03 22 Billboard phasaxngkvsaebbxemrikn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2023 09 21 subkhnemux 2024 03 16 Essence phasaxngkvsaebbxemrikn 2022 07 29 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2023 12 01 subkhnemux 2024 03 16 TIME phasaxngkvs 2024 02 14 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2024 03 14 subkhnemux 2024 03 16 Dailey Hannah 2024 03 12 Billboard phasaxngkvsaebbxemrikn khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2024 03 16 subkhnemux 2024 03 16 www blackmusicproject com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2024 03 05 subkhnemux 2024 03 16 Beyonce The Billboard Cover Story 2009 10 01 Retrieved 2009 10 01 The Celebrity 100 4 Beyonce Knowles June 3 2009 saenathiekbthawr ekbcakaehlngedimemux 2012 05 24 subkhnemux 2012 05 24 Beyonce Knowles Biography April 15 2008 subkhnemux 2008 06 05 Beyonce All New E Online People khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 04 26 subkhnemux 2008 04 01 Beyonce The Ice Princess Blender September 18 2006 subkhnemux 2008 04 02 Gillings Andrew April 22 2001 Essence khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 02 27 subkhnemux 2009 02 25 Houstonisd org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 05 15 subkhnemux 2008 04 17 Famous Alumni Elsik High School ElsikAlumni com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 30 subkhnemux 2008 04 17 Kaufman Gil June 13 2005 Destiny s Child s Long Road To Fame The Song Isn t Called Survivor For Nothing MTV News subkhnemux 2008 04 01 VH1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2003 08 20 subkhnemux 2008 04 16 Farley Christopher John January 15 2001 Call Of The Child TIME khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 30 subkhnemux 2008 04 12 Reynolds J R March 3 1998 All Grown Up Yahoo Music subkhnemux 2007 01 12 Tyrangiel Josh June 30 2003 Destiny s Adult TIME khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 01 30 subkhnemux 2008 04 12 American Society of Composers Authors and Publishers khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 04 12 subkhnemux 2008 04 02 Todd Martens July 2 2003 Beyonce Branch Albums Storm The Chart Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 01 Carpenter Troy October 22 2003 Destiny s Child Slapped With Infringement Suit Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 01 Manifest Destiny 2009 04 27 thi ewyaebkaemchchin Entertainment Weekly Beyonce To Star In Carmen Remake MTV news Beyonce Records Song Written By Mike Myers For Powers Flick MTV News khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 04 26 subkhnemux 2009 06 09 Beyonce Britney Serve Up First Singles From Goldmember MTV News Beyonce Teams With Diddy Destiny On Temptations Soundtrack MTV News http www mtv com bands b beyonce news feature 062703 Beyonce Genuinely In Love Part 1 MTV News Beyonce Pushes Up Release Date Of Solo Debut MTV News Gold and Platinum Recording Industry Association of America khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 05 21 subkhnemux 2008 04 02 Bonson Fred February 17 2006 Chart Beat Chat Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 02 Sexton Paul July 21 2003 Beyonce Continues U K Chart Dominance Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 02 Sexton Paul July 14 2003 Beyonce Rules Again On U K Charts Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 02 Martens Todd September 11 2003 Beyonce Sean Paul Creep Closer To No 1 Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 02 Martens Todd November 28 2003 Stand Up Ends Baby Boy Reign Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 04 02 Beyonce Billboard Singles xxlmiwsik 46th Grammy Awards 2004 CNN com Brit Awards 2004 winners BBC UK February 17 2004 subkhnemux 2008 04 02 Beyonce Knowles Biography Part 2 2007 05 04 thi ewyaebkaemchchin People Destiny s Child s Long Road To Fame The Song Isn t Called Survivor For Nothing mtv com Destiny s Child gets Walk of Fame star msnbc msn com Beyonce Knowles Time khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 02 22 subkhnemux 2008 04 12 Keller Julie 2005 09 01 Destiny s World Domination Yahoo Music subkhnemux 2006 12 28 The Billboard Hot 100 All Time Top Artists Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2008 11 17 Interview Beyonce Knowles IGN Beyonce To Star Opposite Steve Martin In Pink Panther MTV News Beyonce Wants End To Drama Over New Drama Dreamgirls Sets Tour MTV News 1 timesonline co uk THE PINK PANTHER 2006 boxofficemojo com Beyonce s B Day Makes Big Bow At No 1 billboard com More gt gt B day 2009 08 10 thi ewyaebkaemchchin beyoncethailand net Beyonce and Shakira Beautiful Liar acharts us The Beyonce Experience Tour Live in Bangkok 2007 thaiticketmajor com phlrangwlaekrmmi 2007 2007 02 23 thi ewyaebkaemchchin manager co th http www boxofficemojo com news id 2580 amp p htm Box Office Mojo Vineyard Jennifer October 8 2008 Beyonce Releases Two Tracks From I Am Inspired By Jay Z And Etta James MTV com Flo Rida Has Sweet Week On Billboard Hot 100 Billboard com Chart Beat Depeche Mode Pet Shop Boys Oak Ridge Boys Hannah Montana Billboard com Hudson tops winners at NAACP Image Awards cbc ca http jezebel com 5135849 beyonce brings it at obamas inaugural ball first dance Beyonce Brings It At Obamas Inaugural Ball First Dance 2009 02 16 thi ewyaebkaemchchin jezebel com Beyonce s Four Night Stint at Wynn Las Vegas a Resounding Success PR Newswire khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 07 11 subkhnemux 2009 08 03 Concert Charts Fierce Showing By Beyonce On Top Tours List bilbxrd subkhnemux 2009 08 03 Concepcion Mariel 2009 10 02 Beyonce Accepts Billboard s Woman Of the Year Award Lady Gaga Is Rising Star Billboard Nielsen Business Media Inc subkhnemux 2009 10 03 2 3 Vineyard Jennifer Beyonce Behind The B Day Videos 1 MTV News subkhnemux 2008 04 02 MTV News Staff June 8 2006 For The Record Quick News On Beyonce Madonna Michael Jackson Taylor Hicks JC Chasez Beth Orton Slayer amp More MTV News subkhnemux 2008 04 11 Holsey Steve February 27 2008 Michigan Chronicle khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 14 subkhnemux 2008 04 12 Jones Alice 27 May 2009 Beyonce 02 Arena London Diva who answers the call of booty The Independent subkhnemux 2009 05 23 Ratliff Ben June 22 2009 Flash Concepts and Yes Songs The New York Times subkhnemux 2009 05 23 Harris Renee Michelle July 3 2009 Beyonce Wows Crowd at BankAtlantic Center South Florida Times subkhnemux 2009 07 03 Schwartz Lorraine July 3 2009 Concert Report Beyonce at Madison Square Garden The Examiner subkhnemux 2009 07 03 Hinds Kadidja Work Your Assets Like Beyonce Black Entertainment Television subkhnemux 2008 04 17 Change of Scenery for Beyonce The New York Times October 2 2007 subkhnemux 2008 04 12 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 03 03 subkhnemux 2008 04 05 Beyonce wearing one of my dresses is harmony Times Online August 8 2007 subkhnemux 2008 04 05 Goldsmith Belinda September 13 2007 Beyonce tops fashion list Reuters subkhnemux 2008 04 09 Book Excerpt Destiny s Style ABC News subkhnemux 2008 04 17 Beyonce Knowles Biography Part 2 People khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 06 05 subkhnemux 2008 04 01 Dennehy Luke February 20 2007 News com au khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 05 12 subkhnemux 2008 04 09 Vocick Simon khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 04 27 subkhnemux 2009 09 23 Look who s coming to town The Manila Times October 10 2007 subkhnemux 2008 04 10 On top Keshia Chante Much Music CTV Globe Media subkhnemux 2008 04 09 Saldana Hector 2007 07 16 American Idol singers get ready for performance MySa com San Antonio Express News subkhnemux 2008 04 24 Erlewine Stephen Thomas Katharine McPhee Album Review Allmusic Macrovision Company subkhnemux 2008 04 12 Moss Corey 2006 09 27 Kelly Rowland Scraps Sappy Story Picks Up Snoop MTV News subkhnemux 2008 04 12 okhlmebiy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 08 21 subkhnemux 2008 11 07 R amp B stars Destiny s Child Split BBC 2005 subkhnemux 2008 11 06 Beyonce Offers Fans Exclusive Backstage Access to Meet the Superstar and Front Row Seats April 12 2009 March 2 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 04 28 subkhnemux 2009 07 31 Definitive 200 Beyonce to get wax figure at Madame Tussauds March 9 2009 House of Dereon 2009 03 23 thi ewyaebkaemchchin sojones com Pepsi FAQs Pepsi subkhnemux 2008 04 03 Destiny s Child star Beyonce Knowles signs for Pepsi brandrepublic com Jeckell Barry January 23 2004 Pop Stars Clash in U K Pepsi Ad Reuters Yahoo subkhnemux 2008 04 03 For The Record Quick News On Britney Spears Paris Hilton Sum 41 Lil Kim Gerald Levert Morrissey amp More MTV News February 28 2005 subkhnemux April 3 2008 Susman Gary April 15 2003 Entertainment Weekly khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 09 03 subkhnemux 2008 04 03 Jessen Monique aelakhna June 22 2004 Beyonce Launches New True Star Fragrance Entertainment Weekly subkhnemux 2008 04 12 Givhan Robin May 18 2007 The Aura of a Pinup Beyonce s Winning Image The Washington Post subkhnemux 2008 04 03 4 Beyonce Knowles Forbes June 3 2009 subkhnemux 2009 06 04 The Survivor Foundation findarticles com Hall of Fame Miami Children Hospital Foundation 2011 11 19 thi ewyaebkaemchchinMCHF org show your helping hand help fight hunger showyourhelpinghand com Beyonce Knowles Biography Part 1 2007 04 26 thi ewyaebkaemchchinPeople com Beyonce Shoots Down Jay Z Marriage Rumors In Vanity Fair Interview MTV News Jay Z And Beyonce Are Getting Married One Day Soon Jay Says MTV News Jay Z And Beyonce Are Still Staying Quiet About Their Reported Wedding But Why MTV News Beyonce s ring revealed nitysar People 70aehlngkhxmulxunsthaniyxyshrthwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb biyxnes onws ewbistxyangepnthangkarinpraethsithy 2009 07 24 thi ewyaebkaemchchin ithy ewbistxyangepnthangkarinshrthxemrika 2009 08 19 thi ewyaebkaemchchin xngkvs ewbistaefnkhlbinpraethsithy 2008 06 18 thi ewyaebkaemchchin ithy onws biyxnes thixxlmiwsik xngkvs biyxnes onws thixinethxrentmuwiedtaebs xngkvs