โลซัง ชินแล ลวินชุบ เชอกยี แกยแช็น (19 กุมภาพันธ์ 1938 – 28 มกราคม 1989) เป็นแป็นเช็นลามะที่สิบ แห่งสำนักเกอลุกในศาสนาพุทธแบบทิเบต ถือว่าเป็นรูปมนุษย์รูปหนึ่งของพระอมิตาภพุทธเจ้า และเป็นเจ้าอาวาสรูปที่สิบหกของ
โลซัง ชินแล ลวินชุบ เชอกยี แกยแช็น ཆོས་ཀྱི་རྒྱལ་མཚན | |
---|---|
แป็นเช็นลามะที่ 10 | |
แป็นเช็นลามะเมื่อประมาณปี 1955 | |
แป็นเช็นลามะที่ 10 | |
ครองราชย์ | 3 มิถุนายน 1949 – 28 มกราคม 1989 |
ก่อนหน้า | |
ถัดไป | |
ประสูติ | 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1938 มณฑลชิงไห่ สาธารณรัฐจีน Gönbo Cêdän |
สวรรคต | 28 มกราคม ค.ศ. 1989 เขตปกครองตนเองทิเบต สาธารณรัฐประชาชนจีน | (50 ปี)
ฝังพระศพ | |
คู่อภิเษก | Li Jie |
พระราชบุตร | Yabshi Pan Rinzinwangmo |
พระราชบิดา | Gonpo Tseten |
พระราชมารดา | Sonam Drolma |
ศาสนา | ศาสนาพุทธแบบทิเบต |
ลายพระอภิไธย |
: Lobsang Trinley Lhündrub Chökyi Gyaltsen | |||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 羅桑赤列倫珠確吉堅贊 | ||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 罗桑赤列伦珠确吉坚赞 | ||||||
ความหมายตามตัวอักษร | 善慧事業運成法幢 | ||||||
| |||||||
ชื่อภาษาทิเบต | |||||||
อักษรทิเบต | བློ་བཟང་ཕྲིན་ལས་ལྷུན་གྲུབ་ཆོས་ཀྱི་རྒྱལ་མཚན་་ | ||||||
|
ท่านเข้ารับสถาปนาตำแหน่งแป็นเช็นลามะในปี 1949 เมื่ออายุ 12 ปีตามระบบนับแบบทิเบต ที่ ในพิธีดังกล่าวมี ประธาน และผู้ว่าการมณฑลชิงไห่ของก๊กมินตั๋ง ในขณะที่ทะไลลามะรับรองสถานะเป็นแป็นเช็นลามะอย่างเป็นทางการในไม่กี่ปีให้หลัง
สงครามกลางเมืองจีน
ในระหว่างสงครามกลางเมืองจีน พรรคก๊กมินตั๋ง ผู้นำสาธารณรัฐจีน ทำการวางแผนให้เขตคัมปาทั้ฝสามของทิเบตทำการต้านทานพวกคอมมิวนิสต์ด้วยความช่วยเหลือชองแป็นเช็นลามะ
เมื่อรัฐบาลทางลาซาปฏิเสธอาณาเขตที่ตามธรรมเนียมแล้วเป็นของแป็นเช็นลามะปกครองแก่เชอกยี แกยแช็น เขาได้ร้องขอต่อ ผู้ว่าการมณฑลชิงไห่ของก๊กมินตั๋ง ให้ช่วยนำกองทำรบกับทิเบตในปี 1949 มาพยายามโน้มน้าวให้แป็นเช็นลามะเดินทางมากับรัฐบาลของก๊กมินตั๋งไปยังไต้หวันเมื่อคราวก๊กมินตั๋งเพลี่ยงพล้ำแก่คอมมิวนิสต์ กระนั้น แป็นเช็นลามะประกาศตนว่าสนับสนุนรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนแทน
สาธารณรัฐประชาชนจีน
แป็นเช็นลามะแสดงท่าทีประกาศตนสนับสนุนรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน รวมถึงสนับสนุนการผนวกทิเบตเข้ากับจีน ตลอดจนนโยบายปฏิรูปต่าง ๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะนำมาใช้ในทิเบตออกอากาศคำกล่าวของลามะที่เรียกร้องให้จีนเข้ามาปลดแอกทิเบต ซึ่งนำไปสู่ความกดดันต่อรัฐบาลที่ลาซาในการเข้าเจรจากับจีน แป็นเช็นลามะสนับสนุนแนวคิดการปฏิรูปทางสังคมและการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเมืองในทิเบตผ่านการรวมทิเบตเข้ากับสาธารณรัฐประชาชนจีนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทิเบตในเวลานั้นเต็มไปด้วยความไม่มั่นคงทางการเมืองและปัญหาทางสังคมต่าง ๆ
ในเดือนกันยายน 1954 ทะไลลามะและแป็นเช็นลามะเดินทางพร้อมกันไปยังปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมครั้งแรก รวมถึงเข้าพบเหมา เจ๋อตง ต่อมาท่านได้รับเลือกตั้งเป็น และในปลายปี 1954 เป็นรองประธานคณะกรรมการ ในปี 1959 ท่านได้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการเตรียมเขตปกครองตนเองทิเบตจากรัฐบาลจีน
ถูกจับกุม
หลังเดินทางเยี่ยมทั่วทิเบตในปี 1962 แป็นเช็นลามะได้เขียนเอกสารส่งให้แก่นายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ประณามนโยบายและการกระทำอันละเมิดของสาธารณรัฐประชาชนจีนในทิเบต เอกสารดังกล่าวต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อ ถือเป็น "การโจมตีที่ละเอียดและมีข้อมูลมากที่สุดต่อนโยบายของจีนในทิเบตที่เคยเขียนขึ้น"
ในปี 1964 เขาถูกประณามและทำให้เสื่อมเสียในการประชุมโปลิตบูโร ถูกนำออกจากทุกตำแหน่งของรัฐ ถูกประกาศให้เป็นศัตรูของประชาชนทิเบต ถูกริบบันทึกความฝันซึ่งต่อมาถูกนำมาใช้ต่อต้านท่าน ก่อนจะถูกจับกุม ขณะอายุได้ 26 ปี ท่านได้รับการปล่อยตัวในปี 1977 แต่ถูกกักขังในบ้านที่ปักกิ่งจนถึงปี 1982
ชีวิตช่วงปลาย
ในปี 1978 ท่านลาสิกขาบวชและละทิ้งสมณศักดิ์ทั้งหมด เดินทางไปทั่วประเทศจีนและหาภรรยาเพื่อสร้างครอบครัว เขาเริ่มคบหากับ ลี เจีย (Li Jie) หลานสาวของนายพล ของกองทัพ PLA ที่นำการรบในสงครามเกาหลี ในเวลานั้นเธอเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ในซีอาน ภรรยาของเติ้ง เสี่ยวผิง และภรรยาหม้ายของโจว เอินไหล เห็นคุณค่าเชิงสัญลักษณ์ของการแต่งงานระหว่างพระลามะทิเบตกับสตรีชาวฮั่น พวกเขาจึงเข้าไปแทรกแซงเพื่อจัดพิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับทั้งคู่ด้วยตนเองที่โถงประชาชนในปี 1979
ในวันที่ 23 มกราคม 1989 เขากล่าวสุนทรพจน์ในลาซา ระบุว่า "ตั้งแต่มีการปลดแอกทิเบต การพัฒนานั้นมีขึ้นอย่างแน่นอน แต่ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อการพัฒนานี้กลับมากกว่าผลสืบเนื่องอื่นที่ตามมา" รวมถึงวิจารณ์ความเกินพอของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมในทิเบต และเชิดชูในทศวรรษ 1980
การเสียชีวิต
ห้าวันให้หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ ในวันที่ 28 มกราคม 1989 เขาเสียชีวิตใน สิริอายุ 50 ปี ทางการให้สาเหตุการเสียชีวิตว่าาจากหัวใจล้มเหลวฉับพลัน กระนั้นชาวทิเบตบางส่วนเชื่อว่าการเสียชีวิตนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ทะไลลามะและอีกหลายคนเชื่อว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่การแพทย์ส่วนตัววางยาพิษ
ในเดือนสิงหาคม 1993 ได้ย้ายร่างไปยัง โดยไว้ร่างในโลงศพที่ทำมาจากไม้จันทน์และไว้ในสถูปของอาราม
ในปี 2011 ประกาศว่า ฮู จินเตา ซึ่งในตอนนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในทิเบต เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร
อ้างอิง
- Panchen Lama, Treasury of Lives, https://treasuryoflives.org/incarnation/Panchen-Lama
- Parshotam Mehra (2004). From conflict to conciliation: Tibetan polity revisited : a brief historical conspectus of the Dalai Lama-Panchen Lama Standoff, ca. 1904–1989. Otto Harrassowitz Verlag. p. 87. ISBN . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2012. สืบค้นเมื่อ 9 April 2011.
- Melvyn C. Goldstein, in McKay 2003, p. 222.
- Hsiao-ting Lin (2010). Modern China's ethnic frontiers: a journey to the west. Vol. 67 of Routledge studies in the modern history of Asia (illustrated ed.). Taylor & Francis. p. 117. ISBN . สืบค้นเมื่อ 27 December 2011.
China's far northwest.23 A simultaneous proposal suggested that, with the support of the new Panchen Lama and his entourage, at least three army divisions of the anti-Communist Khampa Tibetans could be mustered in southwest China.
- "Exiled Lama, 12, Wants to Lead Army on Tibet". Los Angeles Times. 6 September 1949. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 November 2012.
- Goldstein, Melvyn C. (2009). A History of Modern Tibet: The Calm Before the Storm: 1951–1955, Volume 2. University of California Press. pp. 272, 273. ISBN .
- Hilton, Isabel (2001). The Search for the Panchen Lama. W. W. Norton & Company. p. 110. ISBN .
- "Ngapoi recalls the founding of the TAR" เก็บถาวร 13 ตุลาคม 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, , China View, 30 August 2005.
- "Selected Foreign Dignitaries Met From Year 1954 to 1989" เก็บถาวร 9 พฤษภาคม 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Goldstein, M.C., A History of Modern Tibet, Volume 2 – The Calm before the Storm: 1951–1955, p. 496
- Feigon 1996, p. 163
- "News Updates: Information and analysis of developments in Tibet - extract from Reports From Tibet, November 1990-February 1991 TIN News Update" (PDF). Columbia University. London: Tibet Information Network. 20 February 1991. p. 2. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 18 April 2016.
- "World Tibet Network News: Secret Report on 1960s Tibet Published". Tibet.ca. Canada Tibet Committee. 12 February 1998. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 May 2015. สืบค้นเมื่อ 18 April 2016.
- (2001) [1st pub. Norton:2000]. The Search for the Panchen Lama (1st American ed.). New York: W. W. Norton. p. 156. ISBN . OCLC 48420207. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2017. สืบค้นเมื่อ 18 April 2016.
- Hilton 2000
- "Exploring Chinese History :: East Asian Region :: Tibet" เก็บถาวร 1 กรกฎาคม 2013 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- tibetanreview (15 February 2018). "China seeks new contributions from its Panchen Lama to strengthen its rule in Tibet". Tibetan Review (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 5 December 2023.
- Hilton, Isabel (21 March 2004). "The Buddha's Daughter". The New Yorker (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0028-792X. สืบค้นเมื่อ 5 December 2023.
- Johnson, Tim (2011). Tragedy in Crimson: How the Dalai Lama Conquered the World But Lost the Battle with China. Nation Books. pp. 170–172.
- Laird 2006, p. 355
- "Panchen Lama Poisoned arrow". BBC h2g2 – an encyclopaedic project contributed to by people from all over the world. 14 October 2001. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2007. สืบค้นเมื่อ 29 April 2007.
- Hilton 2000, p. 1
- "Tashilhungpo Monastery: Residence of Panchen Lama". China Culture. สืบค้นเมื่อ 19 February 2024.
- Kalsang Rinchen, "Hu killed Panchen: Chinese dissident" เก็บถาวร 13 กันยายน 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, , 16 March 2011
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
olsng chinael lwinchub echxkyi aekyaechn 19 kumphaphnth 1938 28 mkrakhm 1989 epnaepnechnlamathisib aehngsankekxlukinsasnaphuththaebbthiebt thuxwaepnrupmnusyruphnungkhxngphraxmitaphphuththeca aelaepnecaxawasrupthisibhkkhxngolsng chinael lwinchub echxkyi aekyaechn ཆ ས ཀ ར ལ མཚནaepnechnlamathi 10aepnechnlamaemuxpramanpi 1955aepnechnlamathi 10khrxngrachy3 mithunayn 1949 28 mkrakhm 1989kxnhnathdipprasuti19 kumphaphnth kh s 1938 1938 02 19 mnthlchingih satharnrthcin Gonbo Cedanswrrkht28 mkrakhm kh s 1989 1989 01 28 50 pi ekhtpkkhrxngtnexngthiebt satharnrthprachachncinfngphrasphkhuxphieskLi JiephrarachbutrYabshi Pan RinzinwangmophrarachbidaGonpo TsetenphrarachmardaSonam Drolmasasnasasnaphuththaebbthiebtlayphraxphiithy Lobsang Trinley Lhundrub Chokyi Gyaltsenchuxphasacinxksrcintwetm羅桑赤列倫珠確吉堅贊xksrcintwyx罗桑赤列伦珠确吉坚赞khwamhmaytamtwxksr善慧事業運成法幢karthxdesiyngphasacinklangmatrthanhny hwiphinxinLuosang Chilie Lunzhu Queji Jianzanchuxphasathiebtxksrthiebtབ བཟང ཕ ན ལས ལ ན ག བ ཆ ས ཀ ར ལ མཚན karthxdesiyngrabbiwliBlo bzang Phrin las Lhun grub Chos kyi Rgyal mtshanphinxinthiebtLobsang Chinlai Lhunchub Qoigyi Gyaicain thanekharbsthapnataaehnngaepnechnlamainpi 1949 emuxxayu 12 pitamrabbnbaebbthiebt thi inphithidngklawmi prathan aelaphuwakarmnthlchingihkhxngkkmintng inkhnathithaillamarbrxngsthanaepnaepnechnlamaxyangepnthangkarinimkipiihhlngsngkhramklangemuxngcininrahwangsngkhramklangemuxngcin phrrkhkkmintng phunasatharnrthcin thakarwangaephnihekhtkhmpathfsamkhxngthiebtthakartanthanphwkkhxmmiwnistdwykhwamchwyehluxchxngaepnechnlama emuxrthbalthanglasaptiesthxanaekhtthitamthrrmeniymaelwepnkhxngaepnechnlamapkkhrxngaekechxkyi aekyaechn ekhaidrxngkhxtx phuwakarmnthlchingihkhxngkkmintng ihchwynakxngtharbkbthiebtinpi 1949 maphyayamonmnawihaepnechnlamaedinthangmakbrthbalkhxngkkmintngipyngithwnemuxkhrawkkmintngephliyngphlaaekkhxmmiwnist krann aepnechnlamaprakastnwasnbsnunrthbalkhxmmiwnistkhxngsatharnrthprachachncinaethnsatharnrthprachachncinaepnechnlamaaesdngthathiprakastnsnbsnunrthbalkhxmmiwnistcin rwmthungsnbsnunkarphnwkthiebtekhakbcin tlxdcnnoybayptiruptang khxngphrrkhkhxmmiwnistcinthicanamaichinthiebtxxkxakaskhaklawkhxnglamathieriykrxngihcinekhamapldaexkthiebt sungnaipsukhwamkddntxrthbalthilasainkarekhaecrcakbcin aepnechnlamasnbsnunaenwkhidkarptirupthangsngkhmaelakaresrimsrangkhwammnkhngthangkaremuxnginthiebtphankarrwmthiebtekhakbsatharnrthprachachncinkhxngphrrkhkhxmmiwnistcin thiebtinewlannetmipdwykhwamimmnkhngthangkaremuxngaelapyhathangsngkhmtang ineduxnknyayn 1954 thaillamaaelaaepnechnlamaedinthangphrxmknipyngpkkingephuxekharwmkhrngaerk rwmthungekhaphbehma ecxtng txmathanidrbeluxktngepn aelainplaypi 1954 epnrxngprathankhnakrrmkar inpi 1959 thanidrbtaaehnngprathankhnakrrmkaretriymekhtpkkhrxngtnexngthiebtcakrthbalcinthukcbkumhlngedinthangeyiymthwthiebtinpi 1962 aepnechnlamaidekhiynexksarsngihaeknaykrthmntriocw exinihl pranamnoybayaelakarkrathaxnlaemidkhxngsatharnrthprachachncininthiebt exksardngklawtxmaepnthiruckinchux thuxepn karocmtithilaexiydaelamikhxmulmakthisudtxnoybaykhxngcininthiebtthiekhyekhiynkhun khnathukpranamaelathaihesuxmesiyinkarprachumoplitbuor pi 1964 inpi 1964 ekhathukpranamaelathaihesuxmesiyinkarprachumoplitbuor thuknaxxkcakthuktaaehnngkhxngrth thukprakasihepnstrukhxngprachachnthiebt thukribbnthukkhwamfnsungtxmathuknamaichtxtanthan kxncathukcbkum khnaxayuid 26 pi thanidrbkarplxytwinpi 1977 aetthukkkkhnginbanthipkkingcnthungpi 1982chiwitchwngplayinpi 1978 thanlasikkhabwchaelalathingsmnskdithnghmd edinthangipthwpraethscinaelahaphrryaephuxsrangkhrxbkhrw ekhaerimkhbhakb li eciy Li Jie hlansawkhxngnayphl khxngkxngthph PLA thinakarrbinsngkhramekahli inewlannethxepnnksuksaaephthythiinsixan phrryakhxngeting esiywphing aelaphrryahmaykhxngocw exinihl ehnkhunkhaechingsylksnkhxngkaraetngnganrahwangphralamathiebtkbstrichawhn phwkekhacungekhaipaethrkaesngephuxcdphithiaetngnganthiyingihyihkbthngkhudwytnexngthiothngprachachninpi 1979 inwnthi 23 mkrakhm 1989 ekhaklawsunthrphcninlasa rabuwa tngaetmikarpldaexkthiebt karphthnannmikhunxyangaennxn aetrakhathitxngcayephuxkarphthnaniklbmakkwaphlsubenuxngxunthitamma rwmthungwicarnkhwamekinphxkhxngkarptiwtithangwthnthrrminthiebt aelaechidchuinthswrrs 1980karesiychiwithawnihhlngcakkarklawsunthrphcn inwnthi 28 mkrakhm 1989 ekhaesiychiwitin sirixayu 50 pi thangkarihsaehtukaresiychiwitwaacakhwiclmehlwchbphln krannchawthiebtbangswnechuxwakaresiychiwitniimidekidkhunodythrrmchati thaillamaaelaxikhlaykhnechuxwaekhathukecahnathikaraephthyswntwwangyaphis ineduxnsinghakhm 1993 idyayrangipyng odyiwranginolngsphthithamacakimcnthnaelaiwinsthupkhxngxaram inpi 2011 prakaswa hu cineta sungintxnnndarngtaaehnngelkhathikarphrrkhkhxmmiwnistinthiebt epnphuxyuebuxnghlngkarlxbsngharxangxingPanchen Lama Treasury of Lives https treasuryoflives org incarnation Panchen Lama Parshotam Mehra 2004 From conflict to conciliation Tibetan polity revisited a brief historical conspectus of the Dalai Lama Panchen Lama Standoff ca 1904 1989 Otto Harrassowitz Verlag p 87 ISBN 3 447 04914 6 ekbcakaehlngedimemux 25 February 2012 subkhnemux 9 April 2011 Melvyn C Goldstein in McKay 2003 p 222 Hsiao ting Lin 2010 Modern China s ethnic frontiers a journey to the west Vol 67 of Routledge studies in the modern history of Asia illustrated ed Taylor amp Francis p 117 ISBN 978 0 415 58264 3 subkhnemux 27 December 2011 China s far northwest 23 A simultaneous proposal suggested that with the support of the new Panchen Lama and his entourage at least three army divisions of the anti Communist Khampa Tibetans could be mustered in southwest China Exiled Lama 12 Wants to Lead Army on Tibet Los Angeles Times 6 September 1949 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 4 November 2012 Goldstein Melvyn C 2009 A History of Modern Tibet The Calm Before the Storm 1951 1955 Volume 2 University of California Press pp 272 273 ISBN 978 0 520 25995 9 Hilton Isabel 2001 The Search for the Panchen Lama W W Norton amp Company p 110 ISBN 0 393 32167 3 Ngapoi recalls the founding of the TAR ekbthawr 13 tulakhm 2007 thi ewyaebkaemchchin China View 30 August 2005 Selected Foreign Dignitaries Met From Year 1954 to 1989 ekbthawr 9 phvsphakhm 2008 thi ewyaebkaemchchin Goldstein M C A History of Modern Tibet Volume 2 The Calm before the Storm 1951 1955 p 496 Feigon 1996 p 163 News Updates Information and analysis of developments in Tibet extract from Reports From Tibet November 1990 February 1991 TIN News Update PDF Columbia University London Tibet Information Network 20 February 1991 p 2 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 4 March 2016 subkhnemux 18 April 2016 World Tibet Network News Secret Report on 1960s Tibet Published Tibet ca Canada Tibet Committee 12 February 1998 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 25 May 2015 subkhnemux 18 April 2016 2001 1st pub Norton 2000 The Search for the Panchen Lama 1st American ed New York W W Norton p 156 ISBN 978 0 393 32167 8 OCLC 48420207 ekbcakaehlngedimemux 20 February 2017 subkhnemux 18 April 2016 Hilton 2000 Exploring Chinese History East Asian Region Tibet ekbthawr 1 krkdakhm 2013 thi ewyaebkaemchchin tibetanreview 15 February 2018 China seeks new contributions from its Panchen Lama to strengthen its rule in Tibet Tibetan Review phasaxngkvsaebbxemrikn subkhnemux 5 December 2023 Hilton Isabel 21 March 2004 The Buddha s Daughter The New Yorker phasaxngkvsaebbxemrikn ISSN 0028 792X subkhnemux 5 December 2023 Johnson Tim 2011 Tragedy in Crimson How the Dalai Lama Conquered the World But Lost the Battle with China Nation Books pp 170 172 Laird 2006 p 355 Panchen Lama Poisoned arrow BBC h2g2 an encyclopaedic project contributed to by people from all over the world 14 October 2001 ekbcakaehlngedimemux 20 October 2007 subkhnemux 29 April 2007 Hilton 2000 p 1 Tashilhungpo Monastery Residence of Panchen Lama China Culture subkhnemux 19 February 2024 Kalsang Rinchen Hu killed Panchen Chinese dissident ekbthawr 13 knyayn 2017 thi ewyaebkaemchchin 16 March 2011