เอ็มวี จอร์จิก (อังกฤษ: MV Georgic) เป็นเรือลำสุดท้ายที่สร้างขึ้นสำหรับบริษัทไวต์สตาร์ไลน์ก่อนการควบรวมกิจการกับบริษัทคูนาร์ดไลน์ สร้างขึ้นที่อู่ต่อเรือฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ ในเมืองเบลฟาสต์ และเป็นเรือคู่วิ่งและแฝดน้องของเรือ (MV Britannic) เช่นเดียวกับเรือบริแทนนิก เรือจอร์จิกเป็น (motor vessel) ไม่ใช่เรือกลไฟ โดยติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเป็นแหล่งพลังงานหลัก ณ เวลาที่เปิดตัวเรือในปี ค.ศ. 1931 เรือลำนี้ถือเป็นเรือยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร
เอ็มวี จอร์จิก ราวปี ค.ศ. 1933 | |
ประวัติ | |
---|---|
สหราชอาณาจักร | |
ชื่อ | จอร์จิก (Georgic) |
เจ้าของ |
|
ผู้ให้บริการ |
|
เส้นทางเดินเรือ | ลิเวอร์พูล–นิวยอร์ก |
อู่เรือ | ฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ, เบลฟาสต์, ประเทศไอร์แลนด์ |
Yard number | 896 |
เดินเรือแรก | 12 พฤศจิกายน 1931 |
สร้างเสร็จ | 10 มิถุนายน 1932 |
Maiden voyage | 25 มิถุนายน 1932 |
บริการ | 1932–1941, 1945–1956 |
หยุดให้บริการ | 1956 |
ความเป็นไป | ถูกโจมตีด้วยระเบิดและจมลงบางส่วนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1941, ได้รับการกู้ขึ้นมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1941 โดยบริษัท ชิปเบรกกิง อินดัสตรีส์ จำกัด, ถูกทำให้ลอยขึ้นมาใหม่และได้รับการซ่อมแซมปรับปรุงในช่วงปี ค.ศ. 1941–44, กลับเข้าประจำการเป็นเรือขนส่งกำลังพลในปี ค.ศ. 1945, กลับมาให้บริการพลเรือนในปี ค.ศ. 1948, ปลดระวางและแยกชิ้นส่วนในปี ค.ศ. 1956 |
ลักษณะเฉพาะ | |
ประเภท: | เรือเดินสมุทร |
ขนาด (ตัน): | 27,759 |
ความยาว: | 711 ฟุต (216.7 เมตร) |
ระบบขับเคลื่อน: |
|
ความเร็ว: | 18 นอต (33 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 21 ไมล์ต่อชั่วโมง) |
ความจุ: | ผู้โดยสาร 1,542 คน |
หลังจากประสบความสำเร็จในการให้บริการเป็นเรือโดยสารในทศวรรษที่ 1930 เรือจอร์จิกได้ถูกเรียกใช้เป็นเรือขนส่งกำลังพลในปี 1940 เรือลำนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักและจมลงบางส่วนในปี ค.ศ. 1941 จากการโจมตีทางอากาศของเยอรมันขณะจอดเทียบท่าอยู่ที่ ประเทศอียิปต์ ภายหลังจากการกู้เรือและการปรับปรุงซ่อมแซมอย่างครอบคลุมแล้ว เรือลำนี้ก็ได้กลับมาประจำการในฐานะเรือขนส่งกำลังพลอีกครั้งในปี ค.ศ. 1944 และยังคงให้บริการทั้งในภารกิจทางทหารและพลเรือนมาจนถึงปี ค.ศ. 1956 ก่อนจะถูกปลดระวางและนำไปแยกชิ้นส่วน
ภูมิหลัง
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 บริษัทไวต์สตาร์ไลน์ได้วางแผนที่จะสร้างเรือโดยสารลำใหม่ 2 ลำเพื่อทดแทนเรือโดยสารรุ่นเก่าของบริษัท โดยทั้งสองลำจะเป็น ไม่ใช่เรือกลไฟแบบดั้งเดิม เรือลำแรกมีขนาด 1,000 ฟุต (300 เมตร) ชื่อว่า (Oceanic) และเรือลำที่สองมีขนาดที่เล็กกว่าและประหยัดกว่า แต่มีการออกแบบที่คล้ายกันชื่อว่าบริแทนนิก (Britannic) การก่อสร้างเรือบริแทนนิกเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1927 และปล่อยลงน้ำในปี ค.ศ. 1929 ส่วนเรือโอเชียนิกนั้นเริ่มการก่อสร้างในปี ค.ศ. 1928 และได้วางแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาทางการเงินได้ทำให้การก่อสร้างเรือโอเชียนิกล่าช้าลงในเดือนกันยายน ค.ศ. 1929 และในที่สุดโครงการดังกล่าวก็ถูกยกเลิกไปในปีถัดมา แทนที่จะเป็นเช่นนั้น ไวต์สตาร์จึงตัดสินใจให้ความสำคัญกับการสร้างเรือลำที่ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเพื่อเป็นเรือคู่แฝดกับเรือบริแทนนิก เดิมทีไวต์สตาร์ไลน์พิจารณาจะตั้งชื่อเรือลำนี้ว่าเจอร์แมนิก (Germanic) แต่ภายหลังได้มีการตัดสินใจเลือกใช้ชื่อจอร์จิกแทน เรือลำนี้จะเป็นเรือลำที่สองของไวต์สตาร์ที่ใช้ชื่อจอร์จิก ซึ่งเรือ (SS Georgic) ลำก่อนหน้านั้นเคยให้บริการแก่บริษัทตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 ถึง 1916
การออกแบบและการสร้าง
ในแง่ของการออกแบบ เรือจอร์จิกถือเป็นเรือแฝดของเรือบริแทนนิกที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยมีขนาด 27,759 ตัน เมื่อเทียบกับเรือบริแทนนิกที่มีขนาด 26,943 ตัน เรือจอร์จิกมีความแตกต่างทางรูปลักษณ์จากเรือบริแทนนิกตรงที่ส่วนโครงสร้างบนและสะพานเดินเรือมีรูปทรงโค้งมนแทนที่จะเป็นแบบตรง และส่วนหน้าของดาดฟ้าสำหรับเดินเล่นถูกปิดทับ เช่นเดียวกับเรือบริแทนนิก เรือจอร์จิกมีปล่องไฟสั้นเตี้ยสองปล่อง โดยปล่องไฟด้านหน้าเป็นปล่องไฟปลอมที่ใช้เป็นที่ของตั้งห้องวิทยุและห้องสูบบุหรี่ของวิศวกร
ระบบขับเคลื่อนของเรือจอร์จิกนั้นเหมือนกับเรือแฝดของมัน โดยประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 10 สูบเรียง 4 จังหวะ ทำงานสองทาง จำนวน 2 เครื่อง ออกแบบโดยบริษัท จำกัด (Burmeister & Wain) ในสมัยนั้น เครื่องยนต์เหล่านี้ถือเป็นเครื่องยนต์ประเภทเดียวกันที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้น เครื่องยนต์เหล่านี้เชื่อมต่อกับเพลาใบจักรสองเพลา และสามารถผลิตกำลังขับได้ 20,000 แรงม้า ซึ่งสามารถขับเคลื่อนเรือด้วยความเร็วตามการออกแบบที่ 18 นอต (33 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 21 ไมล์ต่อชั่วโมง) แม้ในทางปฏิบัติเรือจะแล่นด้วยความเร็วเฉลี่ย 18.5 นอตก็ตาม
ภายในของเรือจอร์จิกได้รับการตกแต่งในสไตล์อลังการศิลป์ซึ่งเป็นที่นิยมในขณะนั้น ต่างจากเรือบริแทนนิกที่ได้รับการตกแต่งหลากหลายสไตล์ที่เป็นที่นิยมในช่วงทศวรรษที่ 1920 ความจุผู้โดยสารของเรือจอร์จิกถูกระบุไว้ดังนี้ ชั้นแคบิน 479 คน ชั้นท่องเที่ยว 557 คน และชั้นสาม 506 คน นอกจากพื้นที่สำหรับผู้โดยสารแล้ว เรือจอร์จิกยังมีพื้นที่เก็บสินค้าแช่เย็นในห้องเก็บสินค้าสองแห่ง ตัวเรือลำนี้ถูกแบ่งออกเป็นห้องเก็บสินค้า 8 ห้องโดยผนังกั้นห้อง 12 แนว
การก่อสร้างเริ่มขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1929 ทำพิธีปล่อยเรือในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 1931 หลังจากนั้นจึงติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องจักร และทำการทดสอบเดินเรือในวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1932 จากนั้นจึงพร้อมให้บริการ
ช่วงต้น
เรือจอร์จิกเริ่มต้นการเดินทางครั้งแรกในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1932 เรือลำนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเส้นทางเดินเรือระหว่างลิเวอร์พูลกับนิวยอร์กและวิ่งควบคู่กับเรือบริแทนนิก ในวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1933 เรือลำนี้ได้ทำหน้าแทนที่เรืออาร์เอ็มเอส โอลิมปิก (RMS Olympic) ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงใหญ่บนเส้นทางเซาแทมป์ตัน–นิวยอร์กเป็นการชั่วคราว
แม้เรือจอร์จิกและบริแทนนิกจะไม่ใช่เรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดหรือเร็วที่สุดในยุคของตน แต่ก็ได้รับความนิยมและเป็นสองเรือที่ทำกำไรได้มากที่สุดในกองเรือของไวต์สตาร์ไลน์ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการเดินเรือที่ต่ำกว่าและราคาตั๋วที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับเรือกลไฟแบบดั้งเดิม เรือสองลำได้ช่วยให้บริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
วันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1934 ไวต์สตาร์ไลน์ได้ควบรวมกิจการกับคูนาร์ดไลน์ซึ่งเป็นคู่แข่งรายเก่า ส่งผลให้เรือลำนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือของบริษัทคูนาร์ด-ไวต์สตาร์ไลน์ (Cunard-White Star Line) ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ อย่างไรก็ตาม เรือทั้งสองลำยังคงใช้สีและธงเดินเรือของไวต์สตาร์ตามเดิม แต่ได้เพิ่มธงเดินเรือของคูนาร์ดเข้าไปด้วย ในปีถัดมา เรือจอร์จิกและบริแทนนิกได้ถูกย้ายไปให้บริการบนเส้นทางลอนดอน–เลออาฟวร์–เซาแทมป์ตัน–นิวยอร์ก และเรือจอร์จิกได้เริ่มให้บริการบนเส้นทางนี้ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1935 ทำให้เรือจอร์จิกกลายเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่แล่นเข้าแม่น้ำเทมส์และใช้ เรือลำนี้ให้บริการบนเส้นทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาจนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1939 เมื่อสงครามปะทุขึ้น เรือจอร์จิกไม่ได้ถูกเรียกใช้ในทันที แต่กลับถูกส่งกลับไปยังเส้นทางลิเวอร์พูล–นิวยอร์กในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 และได้ทำการเดินทางไปกลับ 5 เที่ยวก่อนจะถูกเรียกใช้เพื่อภารกิจขนส่งกำลังพลในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1940
สงครามโลก
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1940 เรือจอร์จิกได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นเรือขนส่งกำลังพลอย่างเร่งด่วน โดยมีกำลังการบรรทุกทหาร 3,000 นาย ในเดือนพฤษภาคมของปีนั้น เรือได้ช่วยอพยพทหารอังกฤษจากการทัพนอร์เวย์ที่ล้มเหลวจากท่าเรือนาร์วิก และในเดือนมิถุนายนได้ให้ความช่วยเหลือใน โดยการอพยพทหารจากท่าเรือแบร็สต์และแซ็ง-นาแซร์ของฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากนั้นเรือขนส่งกำลังพล (HMT Lancastria) ก็ได้ถูกทิ้งระเบิดและอับปางลงในวันที่ 17 มิถุนายน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,888 คน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ค.ศ. 1940 เรือลำนี้ได้เดินทางไปยังประเทศไอซ์แลนด์ และจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังเมืองแฮลิแฟกซ์ รัฐโนวาสโกเชีย เพื่อขนส่งทหารแคนาดา ต่อมาเรือจอร์จิกได้ทำการเดินทางหลายครั้งจากลิเวอร์พูลและกลาสโกว์ไปยังตะวันออกกลางผ่านทางแหลมกู๊ดโฮป รวมไปถึงการเดินทางระหว่างลิเวอร์พูล นิวยอร์ก และแคนาดาระหว่างเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1940 ถึงเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1941 เรือจอร์จิกได้ทำการขนส่งกำลังพลประมาณ 25,000 นายไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นส่วนใหญ่
ถูกทิ้งระเบิด
วันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1941 เรือจอร์จิกได้ออกเดินทางจากกลาสโกว์ภายใต้การบัญชาการของกัปตัน (A.G. Greig) พร้อมด้วย มุ่งหน้าสู่ ในผ่านทางแหลมกู๊ดโฮป เรือลำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของที่จำเป็นต้องปล่อยให้ปราศจากการคุ้มกันเกือบทั้งหมด เนื่องจากต้องให้ความสำคัญกับการตามล่าเรือประจัญบานบิสมาร์คของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม เรือลำดังกล่าวสามารถเดินทางถึงอย่างปลอดภัยในวันที่ 7 กรกฎาคม และได้ทำการส่งกำลังพลบนเรือลงสู่ฝั่งเป็นที่เรียบร้อย หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 ขณะที่เรือลำนี้ทอดสมออยู่ที่นอกท่าเรือเทวฟิกเพื่อรอรับนักโทษชาวอิตาลีจำนวน 800 คน เครื่องบินของเยอรมันที่กำลังกวาดล้างเป้าหมายในเส้นทางน้ำได้พบเห็นเรือลำนี้และได้ดำเนินการโจมตี หลังจากถูกโจมตีหลายครั้ง เรือลำนี้ก็ถูกระเบิดสองลูก ลูกแรกชนข้างเรือและระเบิดลงในน้ำ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อตัวเรือใกล้กับห้องเก็บสินค้าหมายเลข 4 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก ลูกที่สองระเบิดที่ด้านท้ายของดาดฟ้าเรือบด ทะลุผ่านดาดฟ้าห้าชั้นและระเบิดในลิฟต์ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางต่อห้องเก็บสินค้าหมายเลข 5 นำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้ที่ลุกลามไปยังน้ำมันเชื้อเพลิงที่รั่วไหลออกมาจากถังน้ำมันที่แตก เพลิงดังกล่าวได้จุดชนวนกระสุนที่เก็บไว้ในห้องเก็บสินค้าด้านท้ายเรือ ส่งผลให้เกิดการระเบิดและเพลิงลุกไปทั่วบริเวณท้ายเรือ
แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่เหล่าวิศวกรบนเรือก็ยังคงสามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ได้ และกัปตันเกร็กสามารถควบคุมเรือที่กำลังลุกไหม้ให้ไปยังแนวปะการังกลางอ่าวสุเอซเพื่อให้เรือเกยตื้น ไม่กีดขวางช่องทางเดินเรือที่พลุกพล่าน ขณะเดียวกันเรือก็ได้ชนกับเรือลำอื่นคือ (HMS Glenearn) ทำให้ทวนหัวเรือจอร์จิกบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ณ จุดนี้ เพลิงได้ลุกลามไปยังดาดฟ้าชั้นบนแล้ว เมื่อเรือเริ่มจมลง ได้มีคำสั่งให้ทุกคนสละเรือโดยด่วน และทุกคนบนเรือสามารถหนีรอดออกมาได้โดยเรือชูชีพ เรือจอร์จิกค่อย ๆ จมลงที่ท้ายเรือจนกระทั่งเกยตื้นบนแนวปะการังตื้น และถูกเพลิงไหม้จนหมดสิ้นภายในสองวัน เมื่อถึงเวลานั้นเรือได้จมลงไปครึ่งลำ ห้องเครื่องถูกน้ำท่วม และโครงสร้างส่วนบนของเรือถูกเพลิงไหม้จนภายนอกดำคล้ำบิดเบี้ยวไปจากสภาพเดิม
การกู้และสร้างใหม่
วันที่ 14 กันยายน ได้มีการประเมินความเสียหายของเรือจอร์จิก และมีมติว่าเรือลำดังกล่าวยังสามารถกู้ได้ เนื่องจากโครงสร้างตัวเรือและเครื่องจักรส่วนใหญ่ยังคงสภาพสมบูรณ์ จากนั้นเรือจอร์จิกได้เข้าสู่กระบวนการกู้และซ่อมแซมที่กินเวลานานถึงสามปี ซึ่งริชาร์ด เดอ เคอร์เบรก นักประวัติศาสตร์ ได้อธิบายว่าเป็น "หนึ่งในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การกู้เรือ" ระหว่างเดือนตุลาคม เรือได้ถูกอุดรอยรั่วและช่องเปิดชั่วคราว จากนั้นจึงทำการสูบน้ำออกเพื่อให้เรือลอยน้ำได้อีกครั้ง ในเดือนธันวาคม เรือจอร์จิกซึ่งขณะนั้นลอยลำอยู่และจอดเทียบท่า ได้มีการเปลี่ยนท่ออุดชั่วคราวออกและแทนที่ด้วยกล่องซีเมนต์ถาวรเพื่อทำเรือให้พร้อมสำหรับการออกทะเล แต่เนื่องจากเรือจอร์จิกไม่มีพลังงาน ไฟฟ้ส หรือที่พัก จึงจำเป็นต้องลากจูงเรือลำดังกล่าวในสภาพซากเรือที่ถูกทิ้ง เนื่องจากไม่มีเรือลากจูงให้บริการ จึงได้มอบหมายให้เรือบรรทุกสินค้าของอังกฤษสองลำคือ เรือแคลนแคมป์เบล (Clan Campbell) และซิตีออฟซิดนีย์ (City of Sydney) มาทำหน้าที่ลากจูงเรือลำนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม พวกเขาได้ทำการลากเรือจอร์จิกไปยังพอร์ตซูดานโดยใช้เวลา 13 วัน ณ ที่แห่งนี้ เรือจอร์จิกได้เข้ารับการซ่อมแซมเพิ่มเติมเป็นเวลาแปดสัปดาห์ เพื่อให้มีความพร้อมในการเดินทางระยะไกลไปยังการาจี
วันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1942 เรือจอร์จิกได้ออกเดินทางจากพอร์นซูดานภายใต้การลากจูงของเรือโดยสารชื่อเรคอร์เดอร์ (Recorder) ของบริษัท และเรือลากจูงเซนต์แซมป์สัน (St Sampson) ซึ่งต่อมาพิสูจน์แล้วว่ามีขนาดเล็กเกินไปสำหรับภารกิจนี้ และต้องหยุดการลากจูงหลังจากผ่านไปหนึ่งวัน ในวันที่แปด มีเรือลากจูงอีกลำชื่อพอลีน มอลเลอร์ (Pauline Moller) และเรือกลไฟสัญชาติอังกฤษชื่อ แฮร์สฟีลด์ (Haresfield) เข้าร่วมปฏิบัติการ และด้วยความร่วมมือกัน เรือทั้งสามลำจึงสามารถนำเรือจอร์จิกมาถึงการาจีได้สำเร็จในวันที่ 31 มีนาคม ณ ที่แห่งนี้ ได้มีการตัดสินใจว่าเรือจอร์จิกจะต้องได้รับการซ่อมแซมที่จำเป็นซึ่งไม่ต้องเข้าอู่แห้ง การซ่อมแซมใช้เวลาแปดเดือนโดยมีทรัพยากรจำกัด เครื่องยนต์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของเรือได้รับการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ ทวนหัวเรือได้รับการปรับให้ตรง และที่พักสำหรับลูกเรือบางส่วนได้รับการสร้างขึ้นใหม่บนเรือ ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1942 เรือจอร์จิกได้ออกเดินทางจากการาจีด้วยกำลังเครื่องของตนเองมุ่งหน้าสู่บอมเบย์ โดยสามารถทำความเร็วได้ 11 นอต (20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 13 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่บอมเบย์ เรือลำนี้ได้ถูกนำเข้าอู่แห้งเพื่อซ่อมแซมความเสียหายของตัวเรือ และมีการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากนั้นเรือจอร์จิกได้ออกเดินทางจากงบอมเบย์มุ่งหน้าสู่สหราชอาณาจักรในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1943 และเดินทางถึงลิเวอร์พูลในวันที่ 1 มีนาคม โดยสามารถเดินได้โดยไม่มีการคุ้มกันด้วยความเร็วเฉลี่ย 15 นอต (28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 17 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ต่อมาและ (Ministry of War Transport หรือ MoWT) ได้ดำเนินการสำรวจเรือลำดังกล่าวอย่างละเอียด และได้มีมติให้ส่งเรือลำนี้กลับไปยังฮาร์แลนด์แอนด์โวล์ฟ ในเบลฟาสต์ เพื่อดำเนินการสร้างใหม่ให้เป็นเรือขนส่งกำลังพลอย่างสมบูรณ์ ระหว่างการสร้างใหม่ เรือจอร์จิกได้มีการนำเหล็กที่ถูกไฟไหม้ไปกว่า 5,000 ตันออกไป และชั้นบนและส่วนโครงสร้างส่วนบนของเรือได้มีการสร้างใหม่ทั้งหมด เรือจอร์จิกได้กลับมาให้บริการอีกครั้งหลังจากการซ่อมแซมที่ใช้เวลา 19 เดือนในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1944 โดยมีลักษณะที่เปลี่ยนไปอย่างมาก คือ ปล่องไฟด้านหน้าและเสากระโดงหลักได้ถูกนำออกไป และเสากระโดงหน้าได้ถูกตัดให้สั้นลงครึ่งหนึ่ง ภายหลังการสร้างใหม่ เรือจอร์จิกได้กลายเป็นทรัพย์สินของรัฐบาล โดยการเป็นเจ้าของได้โอนไปยังกระทรวงคมนาคมสงคราม ส่วนบริษัทคูนาร์ด-ไวต์สตาร์ได้รับมอบหมายให้บริหารจัดการเรือในนามของกระทรวง
หลังสงคราม
วันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1944 เรือจอร์จิกได้กลับมาให้บริการอีกครั้งในฐานะเรือขนส่งกำลังพลระหว่างอิตาลี ตะวันออกกลาง และอินเดีย หลังจากสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1945 เรือลำนี้ได้ใช้เวลาอีกสามปีในการส่งกำลังพล พลเรือน และเชลยศึกกลับประเทศ ในปี ค.ศ. 1948 เนื่องด้วยความต้องการเรือขนส่งกำลังพลลดลง และมีความจำเป็นต้องใช้เรือเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการของผู้ย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ กระทรวงคมนาคมจึงตัดสินใจปรับปรุงเรือจอร์จิกเพื่อให้บริการพลเรือน โดยมีเงื่อนไขว่าเรือลำนี้จะสามารถเปลี่ยนกลับมาใช้ในการขนส่งกำลังพลได้อีกครั้งหากมีความจำเป็น
เดือนกันยายน ค.ศ. 1948 เรือจอร์จิกถูกส่งไปยังอู่ต่อเรือ บนแม่น้ำไทน์ เพื่อรับการปรับปรุงให้เป็นเป็นเรืออพยพ โดยมีการปรับปรุงที่พักให้เป็นแบบชั้นเดียว รองรับผู้โดยสารได้ 1,962 คน ภายหลังการปรับปรุง เรือจอร์จิกได้รับการคืนสู่สภาพเดิมด้วยการนำสีประจำของบริษัทไวต์สตาร์กลับมาใช้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้เรือลำนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นเรือที่เน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก เนื่องจากการตกแต่งภายในไม่ได้รับการฟื้นฟูกลับสู่มาตรฐานความหรูหราอย่างก่อนสงคราม ระหว่างเดือนมกราคม ค.ศ. 1949 ถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 1953 เรือจอร์จิกถูกนำไปใช้ในการให้บริการขนส่งผู้อพยพระหว่างสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทคูนาร์ด แต่เช่าโดยรัฐบาลออสเตรเลีย
ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสูงสุดระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึง 1954 บริษัทคูนาร์ดได้ทำสัญญาเช่าเรือจอร์จิกจากกระทรวงคมนาคมเพื่อให้บริการเดินเรือบางเที่ยวจากลิเวอร์พูลหรือเซาแทมป์ตันไปยังนิวยอร์กร่วมกับเรือบริแทนนิกซึ่งเป็นเรือคู่แฝดเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น เรือจอร์จิกได้ทำการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปกลับจำนวน 6 เที่ยวในปี ค.ศ. 1950 และเพิ่มเป็น 7 เที่ยวต่อฤดูกาลในช่วงปี ค.ศ. 1951 ถึง 1954
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1953 ถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 1955 เรือจอร์จิกได้ถูกนำกลับมาใช้ในภารกิจการขนส่งกำลังพลอีกครั้ง โดยได้รับมอบหมายให้ขนส่งกำลังพลของเครือจักรภพที่กำลังเดินทางกลับจากสงครามเกาหลี แม้ว่าในระหว่างนี้เรือจอร์จิกจะได้ทำการเดินเรือไปกลับระหว่างเซาแทมป์ตันและนิวยอร์กจำนวน 7 เที่ยว ภายใต้การเช่าโดยบริษัทคูนาร์ดในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสูงสุดของปี ค.ศ. 1954 ก็ตาม ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1955 กระทรวงคมนาคมได้ประกาศว่าเรือจอร์จิกจะถูกถอนออกจากการให้บริการ และจะถูกนำออกประมูลขายภายในเดือนสิงหาคมของปีเดียวกัน ในระยะนี้เครื่องจักรของเรือจอร์จิกที่ได้รับความเสียหายจากสงครามได้ก่อให้เกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงคมนาคมได้เสนอโอนกรรมสิทธิ์เรือจอร์จิกกลับไปยังบริษัทคูนาร์ด แต่บริษัทคูนาร์ดได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรือจอร์จิกได้ถูกถอนออกจากการประมูลขายเมื่อรัฐบาลออสเตรเลียได้เช่าเหมาลำไปใช้ในการขนส่งผู้อพยพเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล เรือได้เดินทางไปยังประเทศออสเตรเลียเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนสิงหาคมของปีนั้น เรือจอร์จิกทำการเดินทางครั้งสุดท้ายจากฮ่องกงมายังลิเวอร์พูลในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1955 โดยบรรทุกกำลังพล 800 นาย เมื่อเดินทางถึงลิเวอร์พูลในวันที่ 19 พฤศจิกายน เรือจอร์จิกก็ได้ถูกถอนออกจากการให้บริการ ในที่สุดเรือลำนี้ก็ถูกนำไปจอดพักไว้ ณ อ่าวเคมส์ เพื่อรอการกำจัด และต่อมาได้ถูกขายเพื่อนำไปแยกชิ้นส่วนในเดือนมกราคม ค.ศ. 1956 ในเดือนถัดมา เรือจอร์จิกได้เดินทางไปยังเพื่อทำการแยกชิ้นส่วน และกระบวนการแยกชิ้นส่วนเรือจอร์จิกได้เสร็จสิ้นลงในช่วงปลายปี ค.ศ. 1956
อ้างอิง
- McCluskie, Tom (2013). The Rise and Fall of Harland and Wolff. Stroud: The History Press. p. 142. ISBN .
- Kerbrech, Richard De (2009). Ships of the White Star Line. Ian Allan Publishing. pp. 221–235. ISBN .
- "Georgic - Chris' Cunard Page". สืบค้นเมื่อ 11 Dec 2014.
- "The Cunard White Star Liners 'Britannic ' and 'Georgic'". liverpoolships.org. สืบค้นเมื่อ 11 December 2014.
แหล่งข้อมูลอื่น
- The Great Ocean Liners: RMS Georgic
- White Star Ships: RMS Georgic
- "Georgic". Chris' Cunard Page. สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2010.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - Greatships.net - Postcards of Georgic.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
exmwi cxrcik xngkvs MV Georgic epneruxlasudthaythisrangkhunsahrbbristhiwtstarilnkxnkarkhwbrwmkickarkbbristhkhunardiln srangkhunthixutxeruxharaelndaexndowlf inemuxngeblfast aelaepneruxkhuwingaelaaefdnxngkhxngerux MV Britannic echnediywkberuxbriaethnnik eruxcxrcikepn motor vessel imicheruxklif odytidtngekhruxngyntdieslepnaehlngphlngnganhlk n ewlathiepidtweruxinpi kh s 1931 eruxlanithuxepneruxyntkhnadihythisudkhxngshrachxanackrexmwi cxrcik rawpi kh s 1933prawtishrachxanackrchuxcxrcik Georgic ecakhxng1932 1934 iwtstariln 1934 1944 1944 1946 1946 1956 phuihbrikar1932 1934 iwtstariln 1934 1949 1949 1956 khunardilnesnthangedineruxliewxrphul niwyxrkxueruxharaelndaexndowlf eblfast praethsixraelndYard number896edineruxaerk12 phvscikayn 1931srangesrc10 mithunayn 1932Maiden voyage25 mithunayn 1932brikar1932 1941 1945 1956hyudihbrikar1956khwamepnipthukocmtidwyraebidaelacmlngbangswnineduxnkrkdakhm kh s 1941 idrbkarkukhunmaineduxntulakhm kh s 1941 odybristh chipebrkking xindstris cakd thukthaihlxykhunmaihmaelaidrbkarsxmaesmprbprunginchwngpi kh s 1941 44 klbekhapracakarepneruxkhnsngkalngphlinpi kh s 1945 klbmaihbrikarphleruxninpi kh s 1948 pldrawangaelaaeykchinswninpi kh s 1956lksnaechphaapraephth eruxedinsmuthrkhnad tn 27 759khwamyaw 711 fut 216 7 emtr rabbkhbekhluxn ekhruxngyntdiesl 10 sub sicnghwaaebbsxngthang Burmeister amp Wain canwn 2 ekhruxng ibckr 2 ephla ephlala 3 phwngkhwamerw 18 nxt 33 kiolemtrtxchwomng 21 imltxchwomng khwamcu phuodysar 1 542 khn hlngcakprasbkhwamsaercinkarihbrikarepneruxodysarinthswrrsthi 1930 eruxcxrcikidthukeriykichepneruxkhnsngkalngphlinpi 1940 eruxlaniidrbkhwamesiyhayxyanghnkaelacmlngbangswninpi kh s 1941 cakkarocmtithangxakaskhxngeyxrmnkhnacxdethiybthaxyuthi praethsxiyipt phayhlngcakkarkueruxaelakarprbprungsxmaesmxyangkhrxbkhlumaelw eruxlanikidklbmapracakarinthanaeruxkhnsngkalngphlxikkhrnginpi kh s 1944 aelayngkhngihbrikarthnginpharkicthangthharaelaphleruxnmacnthungpi kh s 1956 kxncathukpldrawangaelanaipaeykchinswnphumihlngeruxcxrcikidsubthxdxngkhprakxbkarxxkaebbhlayprakarmacakeruxoxechiynik karkxsrangeruxcxrcikiderimtnkhunhlngcakkarykelikkxsrangeruxoxechiynik inchwngplaythswrrsthi 1920 bristhiwtstarilnidwangaephnthicasrangeruxodysarlaihm 2 laephuxthdaethneruxodysarrunekakhxngbristh odythngsxnglacaepn imicheruxklifaebbdngedim eruxlaaerkmikhnad 1 000 fut 300 emtr chuxwa Oceanic aelaeruxlathisxngmikhnadthielkkwaaelaprahydkwa aetmikarxxkaebbthikhlayknchuxwabriaethnnik Britannic karkxsrangeruxbriaethnnikerimkhuninpi kh s 1927 aelaplxylngnainpi kh s 1929 swneruxoxechiyniknnerimkarkxsranginpi kh s 1928 aelaidwangaelw xyangirktam pyhathangkarenginidthaihkarkxsrangeruxoxechiyniklachalngineduxnknyayn kh s 1929 aelainthisudokhrngkardngklawkthukykelikipinpithdma aethnthicaepnechnnn iwtstarcungtdsinicihkhwamsakhykbkarsrangeruxlathiprahydkhaichcaymakkwaephuxepneruxkhuaefdkberuxbriaethnnik edimthiiwtstarilnphicarnacatngchuxeruxlaniwaecxraemnik Germanic aetphayhlngidmikartdsiniceluxkichchuxcxrcikaethn eruxlanicaepneruxlathisxngkhxngiwtstarthiichchuxcxrcik sungerux SS Georgic lakxnhnannekhyihbrikaraekbristhtngaetpi kh s 1895 thung 1916karxxkaebbaelakarsranginaengkhxngkarxxkaebb eruxcxrcikthuxepneruxaefdkhxngeruxbriaethnnikthimikhnadihykwaelknxy odymikhnad 27 759 tn emuxethiybkberuxbriaethnnikthimikhnad 26 943 tn eruxcxrcikmikhwamaetktangthangruplksncakeruxbriaethnniktrngthiswnokhrngsrangbnaelasaphanedineruxmirupthrngokhngmnaethnthicaepnaebbtrng aelaswnhnakhxngdadfasahrbedinelnthukpidthb echnediywkberuxbriaethnnik eruxcxrcikmiplxngifsnetiysxngplxng odyplxngifdanhnaepnplxngifplxmthiichepnthikhxngtnghxngwithyuaelahxngsubbuhrikhxngwiswkr phapheruxcxrcikpraktxyubnkardcdhmayinchwngtnthswrrs 1930 rabbkhbekhluxnkhxngeruxcxrciknnehmuxnkberuxaefdkhxngmn odyprakxbdwyekhruxngyntdiesl 10 suberiyng 4 cnghwa thangansxngthang canwn 2 ekhruxng xxkaebbodybristh cakd Burmeister amp Wain insmynn ekhruxngyntehlanithuxepnekhruxngyntpraephthediywknthiihyaelathrngphlngthisudethathiekhysrangkhun ekhruxngyntehlaniechuxmtxkbephlaibckrsxngephla aelasamarthphlitkalngkhbid 20 000 aerngma sungsamarthkhbekhluxneruxdwykhwamerwtamkarxxkaebbthi 18 nxt 33 kiolemtrtxchwomng 21 imltxchwomng aeminthangptibtieruxcaaelndwykhwamerwechliy 18 5 nxtktam phayinkhxngeruxcxrcikidrbkartkaetnginsitlxlngkarsilpsungepnthiniyminkhnann tangcakeruxbriaethnnikthiidrbkartkaetnghlakhlaysitlthiepnthiniyminchwngthswrrsthi 1920 khwamcuphuodysarkhxngeruxcxrcikthukrabuiwdngni chnaekhbin 479 khn chnthxngethiyw 557 khn aelachnsam 506 khn nxkcakphunthisahrbphuodysaraelw eruxcxrcikyngmiphunthiekbsinkhaaecheyninhxngekbsinkhasxngaehng tweruxlanithukaebngxxkepnhxngekbsinkha 8 hxngodyphnngknhxng 12 aenw karkxsrangerimkhuninwnthi 9 krkdakhm kh s 1929 thaphithiplxyeruxinwnthi 12 phvscikayn kh s 1931 hlngcaknncungtidtngxupkrnaelaekhruxngckr aelathakarthdsxbedineruxinwnthi 4 mithunayn kh s 1932 caknncungphrxmihbrikarchwngtneruxcxrcikmathungaemnaemxrsiyinkaredinthangkhrngaerk eduxnmithunayn kh s 1932eruxcxrcikinopskardkhxngkhunard iwtstar eruxcxrcikerimtnkaredinthangkhrngaerkinwnthi 25 mithunayn kh s 1932 eruxlanithuksrangkhunephuxesnthangedineruxrahwangliewxrphulkbniwyxrkaelawingkhwbkhukberuxbriaethnnik inwnthi 2 emsayn kh s 1933 eruxlaniidthahnaaethnthieruxxarexmexs oxlimpik RMS Olympic sungkalngxyuinrahwangkarprbprungihybnesnthangesaaethmptn niwyxrkepnkarchwkhraw aemeruxcxrcikaelabriaethnnikcaimicheruxodysarthiihythisudhruxerwthisudinyukhkhxngtn aetkidrbkhwamniymaelaepnsxngeruxthithakairidmakthisudinkxngeruxkhxngiwtstarilninchwngtnthswrrsthi 1930 swnhnungepnephraakhaichcayinkaredineruxthitakwaaelarakhatwthisamarthekhathungidngaykwaemuxethiybkberuxklifaebbdngedim eruxsxnglaidchwyihbristhyngkhngdaeninkickartxipidinchwngphawaesrsthkictktakhrngihy wnthi 10 phvsphakhm kh s 1934 iwtstarilnidkhwbrwmkickarkbkhunardilnsungepnkhuaekhngrayeka sngphliheruxlaniklayepnswnhnungkhxngkxngeruxkhxngbristhkhunard iwtstariln Cunard White Star Line thiephingkxtngkhunihm xyangirktam eruxthngsxnglayngkhngichsiaelathngedineruxkhxngiwtstartamedim aetidephimthngedineruxkhxngkhunardekhaipdwy inpithdma eruxcxrcikaelabriaethnnikidthukyayipihbrikarbnesnthanglxndxn elxxafwr esaaethmptn niwyxrk aelaeruxcxrcikiderimihbrikarbnesnthangniinwnthi 3 phvsphakhm kh s 1935 thaiheruxcxrcikklayepneruxkhnadihythisudthiaelnekhaaemnaethmsaelaich eruxlaniihbrikarbnesnthangdngklawxyangtxenuxngmacnkrathngekidsngkhramolkkhrngthisxnginpi kh s 1939 emuxsngkhrampathukhun eruxcxrcikimidthukeriykichinthnthi aetklbthuksngklbipyngesnthangliewxrphul niwyxrkineduxnknyayn kh s 1939 aelaidthakaredinthangipklb 5 ethiywkxncathukeriykichephuxpharkickhnsngkalngphlinwnthi 11 minakhm kh s 1940sngkhramolkineduxnemsayn kh s 1940 eruxcxrcikidrbkarddaeplngihklayepneruxkhnsngkalngphlxyangerngdwn odymikalngkarbrrthukthhar 3 000 nay ineduxnphvsphakhmkhxngpinn eruxidchwyxphyphthharxngkvscakkarthphnxrewythilmehlwcakthaeruxnarwik aelaineduxnmithunaynidihkhwamchwyehluxin odykarxphyphthharcakthaeruxaebrstaelaaesng naaesrkhxngfrngess sunghlngcaknneruxkhnsngkalngphl HMT Lancastria kidthukthingraebidaelaxbpanglnginwnthi 17 mithunayn miphuesiychiwitxyangnxy 2 888 khn rahwangeduxnkrkdakhmthungknyayn kh s 1940 eruxlaniidedinthangipyngpraethsixsaelnd aelacaknnidedinthangtxipyngemuxngaehliaefks rthonwasokechiy ephuxkhnsngthharaekhnada txmaeruxcxrcikidthakaredinthanghlaykhrngcakliewxrphulaelaklasokwipyngtawnxxkklangphanthangaehlmkudohp rwmipthungkaredinthangrahwangliewxrphul niwyxrk aelaaekhnadarahwangeduxnphvsphakhm kh s 1940 thungeduxnkrkdakhm kh s 1941 eruxcxrcikidthakarkhnsngkalngphlpraman 25 000 nayipyngphumiphakhtawnxxkklangepnswnihy thukthingraebid eruxcxrcikthukephlingihmaelaekytunthithaeruxethwfik praethsxiyipteruxcxrcikhlngthukephlingihmcnesiyhay wnthi 22 phvsphakhm kh s 1941 eruxcxrcikidxxkedinthangcakklasokwphayitkarbychakarkhxngkptn A G Greig phrxmdwy munghnasu inphanthangaehlmkudohp eruxladngklawepnswnhnungkhxngthicaepntxngplxyihprascakkarkhumknekuxbthnghmd enuxngcaktxngihkhwamsakhykbkartamlaeruxpracybanbismarkhkhxngeyxrmni xyangirktam eruxladngklawsamarthedinthangthungxyangplxdphyinwnthi 7 krkdakhm aelaidthakarsngkalngphlbneruxlngsufngepnthieriybrxy hnungspdahtxmainwnthi 14 krkdakhm kh s 1941 khnathieruxlanithxdsmxxyuthinxkthaeruxethwfikephuxrxrbnkothschawxitalicanwn 800 khn ekhruxngbinkhxngeyxrmnthikalngkwadlangepahmayinesnthangnaidphbehneruxlaniaelaiddaeninkarocmti hlngcakthukocmtihlaykhrng eruxlanikthukraebidsxngluk lukaerkchnkhangeruxaelaraebidlnginna thaihekidkhwamesiyhayxyangmaktxtweruxiklkbhxngekbsinkhahmayelkh 4 sngphlihekidnathwmxyanghnk lukthisxngraebidthidanthaykhxngdadfaeruxbd thaluphandadfahachnaelaraebidinlift thaihekidkhwamesiyhayxyangkwangkhwangtxhxngekbsinkhahmayelkh 5 naipsukarekidephlingihmthiluklamipyngnamnechuxephlingthirwihlxxkmacakthngnamnthiaetk ephlingdngklawidcudchnwnkrasunthiekbiwinhxngekbsinkhadanthayerux sngphlihekidkarraebidaelaephlinglukipthwbriewnthayerux aemcaidrbkhwamesiyhayxyanghnk aetehlawiswkrbneruxkyngkhngsamarthstartekhruxngyntid aelakptnekrksamarthkhwbkhumeruxthikalnglukihmihipyngaenwpakarngklangxawsuexsephuxiheruxekytun imkidkhwangchxngthangedineruxthiphlukphlan khnaediywkneruxkidchnkberuxlaxunkhux HMS Glenearn thaihthwnhweruxcxrcikbidebiywxyangrunaerng n cudni ephlingidluklamipyngdadfachnbnaelw emuxeruxerimcmlng idmikhasngihthukkhnslaeruxodydwn aelathukkhnbneruxsamarthhnirxdxxkmaidodyeruxchuchiph eruxcxrcikkhxy cmlngthithayeruxcnkrathngekytunbnaenwpakarngtun aelathukephlingihmcnhmdsinphayinsxngwn emuxthungewlanneruxidcmlngipkhrungla hxngekhruxngthuknathwm aelaokhrngsrangswnbnkhxngeruxthukephlingihmcnphaynxkdakhlabidebiywipcaksphaphedim karkuaelasrangihm sakeruxcxrcikkxnkarsrangihm okhrngsrangswnbnidthukruxxxkipaelw wnthi 14 knyayn idmikarpraeminkhwamesiyhaykhxngeruxcxrcik aelamimtiwaeruxladngklawyngsamarthkuid enuxngcakokhrngsrangtweruxaelaekhruxngckrswnihyyngkhngsphaphsmburn caknneruxcxrcikidekhasukrabwnkarkuaelasxmaesmthikinewlananthungsampi sungrichard edx ekhxrebrk nkprawtisastr idxthibaywaepn hnunginkhwamsaercthiyingihythisudinprawtisastrkarkuerux rahwangeduxntulakhm eruxidthukxudrxyrwaelachxngepidchwkhraw caknncungthakarsubnaxxkephuxiheruxlxynaidxikkhrng ineduxnthnwakhm eruxcxrciksungkhnannlxylaxyuaelacxdethiybtha idmikarepliynthxxudchwkhrawxxkaelaaethnthidwyklxngsiemntthawrephuxthaeruxihphrxmsahrbkarxxkthael aetenuxngcakeruxcxrcikimmiphlngngan iffs hruxthiphk cungcaepntxnglakcungeruxladngklawinsphaphsakeruxthithukthing enuxngcakimmieruxlakcungihbrikar cungidmxbhmayiheruxbrrthuksinkhakhxngxngkvssxnglakhux eruxaekhlnaekhmpebl Clan Campbell aelasitixxfsidniy City of Sydney mathahnathilakcungeruxlani tngaetwnthi 29 thnwakhm phwkekhaidthakarlakeruxcxrcikipyngphxrtsudanodyichewla 13 wn n thiaehngni eruxcxrcikidekharbkarsxmaesmephimetimepnewlaaepdspdah ephuxihmikhwamphrxminkaredinthangrayaiklipyngkaraci wnthi 5 minakhm kh s 1942 eruxcxrcikidxxkedinthangcakphxrnsudanphayitkarlakcungkhxngeruxodysarchuxerkhxredxr Recorder khxngbristh aelaeruxlakcungesntaesmpsn St Sampson sungtxmaphisucnaelwwamikhnadelkekinipsahrbpharkicni aelatxnghyudkarlakcunghlngcakphaniphnungwn inwnthiaepd mieruxlakcungxiklachuxphxlin mxlelxr Pauline Moller aelaeruxklifsychatixngkvschux aehrsfild Haresfield ekharwmptibtikar aeladwykhwamrwmmuxkn eruxthngsamlacungsamarthnaeruxcxrcikmathungkaraciidsaercinwnthi 31 minakhm n thiaehngni idmikartdsinicwaeruxcxrcikcatxngidrbkarsxmaesmthicaepnsungimtxngekhaxuaehng karsxmaesmichewlaaepdeduxnodymithrphyakrcakd ekhruxngyntaelaekhruxngkaenidiffakhxngeruxidrbkarsxmaesmihklbmaichnganid thwnhweruxidrbkarprbihtrng aelathiphksahrblukeruxbangswnidrbkarsrangkhunihmbnerux ineduxnthnwakhm kh s 1942 eruxcxrcikidxxkedinthangcakkaracidwykalngekhruxngkhxngtnexngmunghnasubxmeby odysamarththakhwamerwid 11 nxt 20 kiolemtrtxchwomng 13 imltxchwomng thibxmeby eruxlaniidthuknaekhaxuaehngephuxsxmaesmkhwamesiyhaykhxngtwerux aelamikarprbprungekhruxngckrihmiprasiththiphaphyingkhun caknneruxcxrcikidxxkedinthangcakngbxmebymunghnasushrachxanackrinwnthi 20 mkrakhm kh s 1943 aelaedinthangthungliewxrphulinwnthi 1 minakhm odysamarthedinidodyimmikarkhumkndwykhwamerwechliy 15 nxt 28 kiolemtrtxchwomng 17 imltxchwomng eruxcxrcikhlngcakkarsrangihm idthuknaklbmapracakarinthanaeruxkhnsngkalngphl txmaaela Ministry of War Transport hrux MoWT iddaeninkarsarwceruxladngklawxyanglaexiyd aelaidmimtiihsngeruxlaniklbipyngharaelndaexndowlf ineblfast ephuxdaeninkarsrangihmihepneruxkhnsngkalngphlxyangsmburn rahwangkarsrangihm eruxcxrcikidmikarnaehlkthithukifihmipkwa 5 000 tnxxkip aelachnbnaelaswnokhrngsrangswnbnkhxngeruxidmikarsrangihmthnghmd eruxcxrcikidklbmaihbrikarxikkhrnghlngcakkarsxmaesmthiichewla 19 eduxnineduxnthnwakhm kh s 1944 odymilksnathiepliynipxyangmak khux plxngifdanhnaaelaesakraodnghlkidthuknaxxkip aelaesakraodnghnaidthuktdihsnlngkhrunghnung phayhlngkarsrangihm eruxcxrcikidklayepnthrphysinkhxngrthbal odykarepnecakhxngidoxnipyngkrathrwngkhmnakhmsngkhram swnbristhkhunard iwtstaridrbmxbhmayihbriharcdkareruxinnamkhxngkrathrwnghlngsngkhramwnthi 17 thnwakhm kh s 1944 eruxcxrcikidklbmaihbrikarxikkhrnginthanaeruxkhnsngkalngphlrahwangxitali tawnxxkklang aelaxinediy hlngcaksngkhramsinsudlnginpi kh s 1945 eruxlaniidichewlaxiksampiinkarsngkalngphl phleruxn aelaechlysukklbpraeths inpi kh s 1948 enuxngdwykhwamtxngkareruxkhnsngkalngphlldlng aelamikhwamcaepntxngicheruxephimetimephuxrxngrbkhwamtxngkarkhxngphuyaythinthanipyngpraethsxxsetreliyaelaniwsiaelnd krathrwngkhmnakhmcungtdsinicprbprungeruxcxrcikephuxihbrikarphleruxn odymienguxnikhwaeruxlanicasamarthepliynklbmaichinkarkhnsngkalngphlidxikkhrnghakmikhwamcaepn eruxcxrcikinxxsetreliy khnaptibtihnathiepneruxkhnsngphuxphyph phaphthayemuxeduxnkumphaphnth kh s 1949 eduxnknyayn kh s 1948 eruxcxrcikthuksngipyngxutxerux bnaemnaithn ephuxrbkarprbprungihepnepneruxxphyph odymikarprbprungthiphkihepnaebbchnediyw rxngrbphuodysarid 1 962 khn phayhlngkarprbprung eruxcxrcikidrbkarkhunsusphaphedimdwykarnasipracakhxngbristhiwtstarklbmaich xyangirktam inchwngewlanieruxlaniidthukepliynaeplngipepneruxthiennpraoychnichsxyepnhlk enuxngcakkartkaetngphayinimidrbkarfunfuklbsumatrthankhwamhruhraxyangkxnsngkhram rahwangeduxnmkrakhm kh s 1949 thungeduxntulakhm kh s 1953 eruxcxrcikthuknaipichinkarihbrikarkhnsngphuxphyphrahwangshrachxanackraelaxxsetreliy sungdaeninkarodybristhkhunard aetechaodyrthbalxxsetreliy inchwngvdukalthxngethiywsungsudrahwangpi kh s 1950 thung 1954 bristhkhunardidthasyyaechaeruxcxrcikcakkrathrwngkhmnakhmephuxihbrikaredineruxbangethiywcakliewxrphulhruxesaaethmptnipyngniwyxrkrwmkberuxbriaethnniksungepneruxkhuaefdephuxtxbsnxngkhwamtxngkarthiephimkhun eruxcxrcikidthakaredinthangkhammhasmuthraextaelntikipklbcanwn 6 ethiywinpi kh s 1950 aelaephimepn 7 ethiywtxvdukalinchwngpi kh s 1951 thung 1954 tngaeteduxnphvscikayn kh s 1953 thungeduxnemsayn kh s 1955 eruxcxrcikidthuknaklbmaichinpharkickarkhnsngkalngphlxikkhrng odyidrbmxbhmayihkhnsngkalngphlkhxngekhruxckrphphthikalngedinthangklbcaksngkhramekahli aemwainrahwangnieruxcxrcikcaidthakaredineruxipklbrahwangesaaethmptnaelaniwyxrkcanwn 7 ethiyw phayitkarechaodybristhkhunardinchwngvdukalthxngethiywsungsudkhxngpi kh s 1954 ktam ineduxnmkrakhm kh s 1955 krathrwngkhmnakhmidprakaswaeruxcxrcikcathukthxnxxkcakkarihbrikar aelacathuknaxxkpramulkhayphayineduxnsinghakhmkhxngpiediywkn inrayaniekhruxngckrkhxngeruxcxrcikthiidrbkhwamesiyhaycaksngkhramidkxihekidpyhaxyangtxenuxng krathrwngkhmnakhmidesnxoxnkrrmsiththieruxcxrcikklbipyngbristhkhunard aetbristhkhunardidptiesthkhxesnxdngklaw xyangirktam eruxcxrcikidthukthxnxxkcakkarpramulkhayemuxrthbalxxsetreliyidechaehmalaipichinkarkhnsngphuxphyphepnewlahnungvdukal eruxidedinthangipyngpraethsxxsetreliyepnkhrngsudthayineduxnsinghakhmkhxngpinn eruxcxrcikthakaredinthangkhrngsudthaycakhxngkngmayngliewxrphulineduxnphvscikayn kh s 1955 odybrrthukkalngphl 800 nay emuxedinthangthungliewxrphulinwnthi 19 phvscikayn eruxcxrcikkidthukthxnxxkcakkarihbrikar inthisuderuxlanikthuknaipcxdphkiw n xawekhms ephuxrxkarkacd aelatxmaidthukkhayephuxnaipaeykchinswnineduxnmkrakhm kh s 1956 ineduxnthdma eruxcxrcikidedinthangipyngephuxthakaraeykchinswn aelakrabwnkaraeykchinswneruxcxrcikidesrcsinlnginchwngplaypi kh s 1956xangxingMcCluskie Tom 2013 The Rise and Fall of Harland and Wolff Stroud The History Press p 142 ISBN 9780752488615 Kerbrech Richard De 2009 Ships of the White Star Line Ian Allan Publishing pp 221 235 ISBN 978 0 7110 3366 5 Georgic Chris Cunard Page subkhnemux 11 Dec 2014 The Cunard White Star Liners Britannic and Georgic liverpoolships org subkhnemux 11 December 2014 aehlngkhxmulxunThe Great Ocean Liners RMS Georgic White Star Ships RMS Georgic Georgic Chris Cunard Page subkhnemux 16 kumphaphnth 2010 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk Greatships net Postcards of Georgic