บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
เจนตามัยซิน (อังกฤษ: Gentamicin) เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ มีข้อบ่งใช้สำหรับรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ปัจจุบันมีจำหน่ายในตลาดยาภายใต้ชื่อการค้า Garamycin และอื่น ๆ ยานี้ถูกนำมาใช้วนการรักษา (osteomyelitis), เยื่อบุหัวใจอักเสบ, (Pelvic inflammatory disease;PID), เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, ปอดบวม, การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และ ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ รวมไปถึงโรคติดเชื้ออื่น ๆอีกมากมาย แต่ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาหนองใน หรือ โดยสามารถบริหารยาได้หลายช่องทาง ได้แก่ การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, หรือในรูปแบบสำหรับนั้นมีข้อบ่งใช้สำหรับการรักษาการติดเชื้อของแผลไฟไหม้ หรืออาจมีในรูปแบบสำหรับการติดเชื้อในดวงตา ในประเทศพัฒนาแล้ว ยานี้มักถูกนำมาใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียในช่วง 2 วันแรกระหว่างรอผลการตรวจเพาะเชื้อสาเหตุและตรวจความไวของเชื้อนั้น ๆ ต่อยาปฏิชีวนะต่าง ๆ จากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนการรักษาตามผลการตรวจดังกล่าว นอกจากนี้ การใช้ยานี้อาจจำเป็นต้องติดตามระดับยาในกระแสเลือดโดยการตรวจเลือดด้วย เพื่อเฝ้าติดตามการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงจากยานี้
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
การอ่านออกเสียง | /ˌdʒɛntəˈmaɪsən/ |
ชื่อทางการค้า | Garamycin, Gentrex, อื่น ๆ |
/ | โมโนกราฟ |
a682275 | |
ข้อมูลทะเบียนยา |
|
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย |
|
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ชีวประสิทธิผล | น้อยเมื่อให้โดยการรับประทาน |
0–10% | |
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 2 ชั่วโมง |
การขับออก | ไต |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS |
|
(PubChem) CID |
|
| |
DrugBank |
|
ChemSpider |
|
| |
| |
| |
| |
100.014.332 | |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C21H43N5O7 |
477.603 g·mol−1 | |
แบบจำลอง 3D () |
|
| |
| |
7 (verify) | |
เจนตามัยซินเป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ จึงมีกลไกการออกฤทธิ์ที่คล้ายคลึงกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่นในกลุ่มเดียวกันนี้ โดยจะออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย ส่งผลให้เซลล์ของแบคทีเรียนั้น ๆ ขาดโปรตีนที่จำเป็นในการดำรงชีวิตและขยายพันธุ์ และตายไปในที่สุด จึงอาจกล่าวได้ว่า เจนตามัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ในการฆ่าแบคทีเรีย (bactericidal antibiotic) ซึ่งแตกต่างจากยาปฏิชีวนะกลุ่มอื่นที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเช่นกัน แต่มีคุณสมบัติเพียงแค่ต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย (bacteriostatic antibiotic) เช่นเดียวกันกับยาชนิดอื่น ๆ การใช้เจนตามัยซินในการรักษา อาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้หลายประการ โดยเฉพาะ และ ซึ่งถือเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงของเจนตามัยซินและยาปฏิชีวนะอื่นในกลุ่มนี้ โดยการเกิดพิษต่อหูจากยานี้จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติได้ทั้งระบบการได้ยินและระบบการทรงตัวของร่างกาย ซึ่งอาจพัฒนาเป็นความผิดปกติแบบถาวรได้ นอกจากนี้ การใช้เจนตามัยซินในระหว่างตั้งครรภ์อาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์ได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ในกลุ่มประชากรดังกล่าว ในทางตรงกันข้าม ยานี้ไม่ถูกขับออกทางน้ำนม ทำให้สามารถใช้ยานี้ได้อย่างปลอดภัยในหญิงที่กำลังให้นมบุตร
เจนตามัยซินถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1963 โดยเป็นสารปฏิชีวนะที่ถูกสร้างขึ้นโดยรา โดยเจนตามัยซินจัดเป็นหนึ่งในยาสำคัญของรายการยาที่จำเป็นขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization's List of Essential Medicines) ซึ่งเป็นรายการยาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงและมีความสำคัญเป็นลำดับแรกของระบบสุขภาพพื้นฐานของประชาชนในประเทศต่าง ๆ ยานี้มีจำหน่ายในตลาดยาหลากหลายยี่ห้อภายใต้เดียวกัน ในปี ค.ศ. 2014 ราคาสำหรับการขายส่งในรูปแบบยาฉีดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีราคา 0.05 – 0.58 US$ ต่อมิลลิลิตร
ประวัติ
เจนตามัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่ได้จากกระบวนการหมักของแบคทีเรียสายพันธุ์ ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1963 โดยคณะวิจัยของไวน์สไตน์ (Weinstein MJ) และแวกมัน (Wagman GH) ในห้องทดลองของบริษัทเชอริ่ง-พลาว ใน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา จากตัวอย่างดินที่ได้รับมาจากริโก วอยเชียสจีส (Rico Woyciesjes) ซึ่งต่อมาได้มีการคิดค้นวิธีการสกัดเจนตามัยซินบริสุทธิ์ได้สำเร็จ จากนั้นคณะวิจัยของบริษัทเชอริ่ง-พลาว ซึ่งนโดยเดวิด คูเปอร์ (Divid J. Cooper) ได้ทำการศึกษาโครงสร้างของยาดังกล่าวและสามารถโครงสร้างถึงโครงสร้างนั้นได้เป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ. 1971 โดยในระยะแรกหลังจากค้นพบนั้น เจนตามัยซินมักถูกใช้เป็นในรูปแบบยาทาสำหรับแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกในหน่วยทหารของเมืองแอตแลนตาและแซนแอนโทนีโอ ต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นยาสำหรับฉีดเข้าหลอดเลือดดำในปี ค.ศ. 1971 เพื่อใช้ในการรักษาภาวะพิษเหตุติดเชื้อจวบจนปัจจุบัน
เจนตามัยซินสามารถถูกสังเคราะห์ขึ้นได้จากแบคทีเรียสกุล ซึ่งเป็นแบคทีเรียจำพวกแกรมบวกที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ (ดินและน้ำ) โดยยาปฏิชีวนะที่มีแหล่งที่มาจากแบคทีเรียสายพันธุ์นี้จะสามารถระบุได้จากพยางค์ต่อท้ายที่มักลงท้ายด้วย ~micin เช่น Verdamicin–เวอร์ดามัยซิน, Mutamicin–, Sisomicin–ซิโซมัยซิน, Netilmicin–เนติลมัยซิน และ Retymicin– ซึ่งแตกต่างจากยาอื่นในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ที่สกัดได้จากที่มักมีชื่อลงท้ายด้วย ~mycin
การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
เจนตามัยซินออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้หลายสายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียแกรมลบ ซึ่งรวมถึง, สกุลโปรตีอัส, เอสเชอริเชีย โคไล, , , , และแบคทีเรียแกรมบวกในสกุลสแตฟฟิโลคอคคัส โดยยานี้มีข้อบ่งใช้สำหรับรักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ, การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ, การติดเชื้อในกระแสเลือด, และที่มีสาเหตุมาจากจุลชีพดังข้างต้นหรือแบคทีเรียอื่นที่ไวต่อยานี้ ทั้งนี้ เจนตามัยซินไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคที่เกิดจาการติดเชื้อแบคทีเรีย , ไนซีเรีย เมนิงไจไทดิส หรือ เนื่องจากจะทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะช็อกจากชนิดลิปิด เอ (lipid A endotoxin) ที่พบในแบคทีเรียแกรมลบดังข้างต้น นอกจากนี้ เจนตามัยซินยังมีประโยชน์ในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบจำพวก และ ซึ่งเป็นจุลชีพที่ทำให้เกิดโรคไข้กระต่ายที่มักพบเกิดขึ้นในพรานล่าสัตว์หรือคนดักสัตว์
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพบว่าแบคทีเรียบางสายพันธุ์ใน, , , สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส และสายพันธุ์อื่นในสกุลสแตฟฟิโลคอคคัส นั้นดื้อต่อเจนตามัยซินซัลเฟตในระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป
การใช้ในกลุ่มประชากรพิเศษ
หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร
การใช้เจนตามัยซินในหญิงตั้งครรภ์อาจก่อให้เกิดพิษแก่ทารกในครรภ์ได้ เนื่องจากยาสามารถแพร่ผ่านรกได้และมีรายงานหลายรายงานที่พบการเกิดในทารกที่คลอดจากแม่ที่ได้รับเจนตมัยซินระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังพบการเกิดในทารกที่ได้รับยานี้ระหว่างอยู่ในครรภ์อีกด้วย ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาจมีการใช้ยานี้ในกลุ่มประชากรดังกล่าวได้ หากประเมินแล้วพบว่าฝ่ายแม่มีความจำเป็นต้องได้รับยานี้และได้รับประโยชน์จากการใช้ยามากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายกับทารกในครรภ์
สำหรับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้เจนตามัยซินในนั้นยังไม่อาจทราบได้แน่ชัดเท่าใดนัก โดยมีรายงานการตรวจพบเจนตามัยซินในน้ำนมของหญิงที่ให้นมบุตรในปริมาณเล็กน้อย
ผู้สูงอายุ
การใช้เจนตามัยซินในกลุ่มประชากรผู้สูงอายุนั้น ควรมีการตรวจประเมินการทำงานของไตก่อนเริ่มการรักษาด้วยานี้เสมอ และควรมีการตรวจประเมินค่าดังกล่าวฝนระหว่างการรักษาเป็นระยะ เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีการทำงานของไตลดลงและเสี่ยงต่อการเกิดพิษต่อไตจากยาได้มากกว่าประชากรกลุ่มอื่น ๆ และผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีการกำจัดยาที่ช้าลง ทำให้ยานี้อยู่ในร่างกายได้นานมากขึ้น นอกจากนี้ควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษเมื่อต้องใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีการทำงานของไต, การได้ยิน, การทรงตัว, ผิดปกติ, หรือการทำงานของระบบกล้ามเนื้อที่ผิดปกติอยู่ก่อนหน้าแล้ว เนื่องจากยานี้อาจทำให้ความผิดปกติดังกล่าวรุนแรงมากขึ้นได้
ทารก
การใช้เจนตามัยซินในกลุ่มประชากรเด็ก รวมถึง ทารกแรกเกิด และวัยเด็ก พบว่าประชากรกลุ่มนี้จะมีระดับเจนตามัยซินในกระแสเลือดและของยาดังกล่าวที่สูงกว่าปกติ จึงไม่แนะนำให้ใช้เจนตามัยซินในประชากรกลุ่มดังกล่าว หากมีความจำเป็นต้องใช้ควรมีการตรวจวัดการทำงานของไตอยู่เป็นประจำ โดยอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงที่พบได้บ่อยหลังจากการบริหารเจนตามัยซินในรูปแบบฉีดให้แก่ประชากรดังกล่าว ได้แก่ , และ
อาการไม่พึงประสงค์และข้อห้ามใช้
อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการได้รับการรักษาด้วยเจนตามัยซินนั้นมีอยู่หลายประการ ซึ่งมีความรุนแรงมากน้อยแตกต่างกัน โดยผู้ป่วยอาจมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยอย่างคลื่นไส้ อาเจียน หรือในบางรายอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงได้ ได้แก่:
- ภาวะโลหิตจาง
- ภาวะภูมิไวเกิน
โดยจากอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงดังข้างต้น พบว่า และนั้นมีความสัมพันธุ์ในเชิงแปรผันตรงกับระดับเจนตามัยซินในกระแสเลือดเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหมายถึง การที่มีระดับยาดังกล่าวในกระแสเลือดที่สูงมากเกินไปก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวได้มากกว่าปกติเช่นกัน โดยการเกิดพิษทั้งต่อหูและต่อไตนี้อาจแสดงอาการอย่างช้า ๆ ในบางครั้งอาจไม่มีอาการเลยจนกระทั่งเสร็จสิ้นการรักษาด้วยาดังกล่าว
การเกิดพิษต่อไต
นั้นเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ประมาณร้อยละ 10–25 ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ ซึ่งเจนตามัยซินก็ถือเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งในยากลุ่มนี้ โดยส่วนมากแล้วความผิดปกติต่อไตที่เกิดขึ้นนี้มักผันกลับมาเป็นปกติได้หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะสาเหตุไประยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยบางรายอาจเกิดความผิดปกติของการทำงานของไตอย่าางถาวรได้ โดยความเสี่ยงวนการเกิดพิษต่อไตจากยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์นี้ขึ้นอยู่กับขนาดยา, ความถี่ในการบริหารยา, ระยะเวลาที่ใช้ยาดังกล่าวในการรักษา, และการใช้ยาอื่นที่มีผลลดการทำงานของไตร่วมด้วย เช่น ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตอรอยด์, ยาขับปัสสาวะ, ซิสพลาติน, , เซฟาโลสปอริน, แอมโฟเทอริซินบี, ไอโอดีน และแวนโคมัยซิน เป็นต้น
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพิษต่อไตจากการใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ ได้แก่:
- การมีอายุมาก
- การมีการทำงานของไตที่ลดลง
- หญิงตั้งครรภ์
- ภาวะที่มีการทำงานของตับลดลง
- การขาดน้ำ
- ภาวะเลือดเป็นกรด
- การขาดโซเดียม
การเฝ้าระวังการเกิดพิษต่อไตจากยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์สามารถทำได้โดยการตรวจติดตามค่าครีอะตินีนในกระแสเลือด, ระดับเกลือแร่, , และความเข้มข้นของสารเคมีอื่นที่เกี่ยวข้องในกระแสเลือด
การเกิดพิษต่อหูชั้นใน
ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์จะพบการเกิดพิษต่อหูชั้นในประมาณร้อยละ 11 โดยอาการแสดงที่พบได้บ่อยครั้งมากที่สุด คือ มีเสียงดังรบกวนในหู (Tinnitus), สูญเสียการได้ยิน, มีอาการรู้สึกหมุน, เกิด (ataxia), มีอาการ (dizziness) ทั้งนี้ การใช้เจนตามัยซินต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อหูได้ 2 ส่วน โดยส่วนแรกคือ เจนตามัยซินจะทำให้เกิดความเสียหายแก่เซลล์ขนในหูชั้นในซึ่งส่งผลให้เกิดการสูญเสียการได้ยินอย่างถาวรได้ ส่วนที่สอง เจนตามัยซินจะเข้าไปทำลายระบบเวสติบูลาร์ของหูชั้นใน ซึ่งจะนำสู่การเกิดปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการทรงตัวได้ในที่สุด ทั้งนี้ ความเสี่ยงในการเกิดพิษต่อหูจากเจนตามัยซินนั้นสามารถถูกทำให้ลดลงได้โดยให้ผู้ป่วยได้รับที่เพียงพอหรือไม่อยู่ในสภาะที่มีการขาดน้ำ
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายต่อหูชั้นในจากการใช้ยาเจนตามัยซิน ได้แก่:
- การมีระดับกรดยูริกในเลือดสูง
- การทำงานของไตลดน้อยลง
- การทำงานของตับผิดปกติ
- การได้รับยาเจนตามันซินในขนาดสูง
- การได้รับการรักษาด้วยยาเจนตามัยซินเป็นระยะเวลานาน
- ผู้สูงอายุ
- ใช้เจนตามัยซินร่วมกับยาขับปัสสาวะที่มีฤทธิ์แรง (เช่น ฟูโรซีไมด์)
ข้อห้ามใช้
เจนตามัยซินมีข้อห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติการเกิดภาวะภูมิไวเกินต่อยานี้หรือยาอื่นในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ เช่น แอนาฟิแล็กซิส หรืออาการพิษที่รุนแรงอื่น เป็นต้น
กลไกการออกฤทธิ์
เจนตามัยซินเป็น (bactericidal antibiotic) โดยเข้าจับกับของไรโบโซมแบคทีเรียแบบไม่ผันกลับ ซึ่งจะส่งผลรบกวนการสังเคราะห์โปรตีนของเซลล์แบคทีเรียนั้น ทำให้แบคทีเรียขาดโปรตีนที่จำเป็นในการดำรงชีพและแพร่ขยายพันธุ์ จนตายไปในที่สุด ซึ่งกลไกดังกล่าวยังถือเป็นกลไกหลักในการออกฤทธิ์ของยาปฏิชีวนะชนิดอื่นในกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ด้วย
ส่วนประกอบ
เจนตามัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่มีส่วนประกอบเป็นสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับเจนตามัยซินอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีระดับความสามารถในการต้านแบคทีเรียที่แตกต่างกัน โดยส่วนประกอบหลักของเจนตามัยซิน ได้แก่ เจนตามัยซิน ซี ประกอบด้วย เจนตามัยซิน ซี1, เจนตามัยซิน ซี1, และเจนตามัยซิน ซี2 ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของปริมาณเจนตามัยซินทั้งหมดและเป็นส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียสูงที่สุด ที่เหลือนอกจากนั้นจะเป็นส่วนผสมของเจนตามัยซิน เอ, บี, เอกซ์ และอื่น ๆ ซึ่งคิดรวมเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของปริมาณเจนตามัยซินทั้งหมด และมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียที่น้อยกว่าสารผสมเจนตามัยซิน ซี สัดส่วนที่แน่นอนของสารผสมเจนตามัยซินนี้ไม่อาจระบุได้แน่ชัด โดยปริมาณของเจนตามัยซิน ซี หรือส่วนประกอบอื่นนั้นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละรอบของการผลิตขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่ผลิตและกลวิธีที่ใช้ เนื่องมาจากการที่เจนตามัยซินมีสัดส่วนของสารออกฤทธิ์ที่ไม่แน่นอนในแต่ละรอบของการผลิตนี้ จึงเป็นการยากที่จะทำการศึกษาถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของเจนตามัยซินที่แน่นอนได้ เช่น คุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ ความไวของจุลชีพต่อยา เนื่องจากไม่ทราบสัดส่วนของ ซึ่งอาจมีความสัมพันธ์กับคุณสมบัติต่าง ๆ ของยาที่ทำการศึกษาก็เป็นได้
การศึกษาวิจัย
ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเจนตามัยซินที่สามารถทนต่อความร้อนจากการทำให้ปราศจากเชื้อในหม้อนึ่งฆ่าเชื้อโรค (autoclave) ได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พบได้ในยาปฏิชีวนะเพียงไม่กี่ชนิด จึงได้มีการใช้เจนตามัยซินมาใช้ในการเตรียมอาหารเลี้ยงเชื้อบางชนิด นอกจากนี้ เจนตามัยซินยังถูกนำไปใช้เป็นยาปฏิชีวนะในการเพาะเลี้ยงเซลล์และเนื้อเยื่อเพื่อการศึกษาวิจัยด้านอณูชีววิทยา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนแบคทีเรียของเซลล์ที่เพาะเลี้ยงนั้น ๆ อีกด้วย
อ้างอิง
- "Gentamicin Use During Pregnancy". Drugs.com. 28 February 2019. สืบค้นเมื่อ 11 February 2020.
- https://www.ema.europa.eu/documents/psusa/gentamicin-list-nationally-authorised-medicinal-products-psusa/00009159/202003_en.pdf []
- "Gentamicin sulfate". The American Society of Health-System Pharmacists. จากแหล่งเดิมเมื่อ 16 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2015.
- Bartlett, Jimmy (2013). Clinical Ocular Pharmacology (s ed.). Elsevier. p. 214. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-22.
- Moulds, Robert; Jeyasingham, Melanie (October 2010). . Australian Prescriber (33): 134–135. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-13.
- Finberg RW, Moellering RC, Tally FP, และคณะ (November 2004). ""The importance of bactericidal drugs: future directions in infectious disease"". Clin. Infect. Dis. 39 (9): 1314–20. doi:10.1086/425009. PMID 15494908.
- "Gentamicin use while breastfeeding". จากแหล่งเดิมเมื่อ 6 กันยายน 2015. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2015.
- Pucci, Michael J.; Weinstein, Marvin J. (2011). Thomas Dougherty (บ.ก.). Handbook of antibiotic discovery and development (2012 ed.). New York: Springer. p. 238. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-11.
- "WHO Model List of Essential Medicines (19th List)" (PDF). World Health Organization. เมษายน 2015. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 13 ธันวาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 8 ธันวาคม 2016.
- Burchum, Jacqueline (2014). Lehne's pharmacology for nursing care. Elsevier Health Sciences. p. 1051. ISBN . จากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-11.
- Julie E. Frye (บ.ก.). List I: Products sorted Alphabetically – Gentamicin sulfate (PDF). International Drug Price Indicator Guide (2015 ed.). Medford, MA: Management Sciences for Health. p. A-72. สืบค้นเมื่อ 13 เมษายน 2022.
- Weinstein, Marvin; Wagman (1963). "Gentamicin, A New Antimicrobial Complex from Micromonospora". J Med Chem. 6: 463–464. doi:10.1021/jm00340a034.
- David J. Cooper; Milton D. Yudis; R. D. Guthrie; A. M. Prior (1971). "The gentamicin antibiotics. Part I. Structure and absolute stereochemistry of methyl garosaminide". J. Chem. Soc. C. 0: 960–3. doi:10.1039/J39710000960.
- Gerald P Bodey; Edward Middleman; Theera Umsawasdi; Victorio Rodriguez (December 1971). "Intravenous Gentamicin Therapy for Infections in Patients with Cancer". The Journal of Infectious Diseases. 124 (Supplement_1): S174–9. PMID 5126243.
- David A. Hopwood (2007). Streptomyces in Nature and Medicine: The Antibiotic Makers. Oxford: Oxford University Press. ISBN .
- (PDF). Baxter Corporation. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 4 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2015.
- "Product Monograph" (PDF). Sandoz Canada Inc. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 เมษายน 2015. สืบค้นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2015.
- Goljan, Edward F. (2011). Rapid Review Pathology (3rd ed.). Philadelphia, Pennsylvania: Elsevier. p. 241. ISBN .
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2015. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2012.
- Lopez-Novoa, Jose M; Quiros, Yaremi; Vicente, Laura; Morales, Ana I; Lopez-Hernandez, Francisco J (มกราคม 2011). "New insights into the mechanism of aminoglycoside nephrotoxicity: an integrative point of view". Kidney International. 79 (1): 33–45. doi:10.1038/ki.2010.337. PMID 20861826. จากแหล่งเดิมเมื่อ 10 มีนาคม 2016.
- East, J E; Foweraker, J E; Murgatroyd, F D (2005-05-01). "Gentamicin induced ototoxicity during treatment of enterococcal endocarditis: resolution with substitution by netilmicin". Heart. 91 (5): e32. doi:10.1136/hrt.2003.028308. ISSN 1355-6037. PMC 1768868. PMID 15831617.
- Selimoglu, Erol (2007-01-01). "Aminoglycoside-induced ototoxicity". Current Pharmaceutical Design. 13 (1): 119–126. doi:10.2174/138161207779313731. ISSN 1873-4286. PMID 17266591.
- "DrugBank-Gentamicin". จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 ตุลาคม 2013.
- Weinstein, Marvin J. (1967). "Biological Activity of the Antibiotic Components of the Gentamicin Complex". Journal of Bacteriology. 94.3: 789–790.
- Vydrin, A. F. (2003). "Component Composition of Gentamicin Sulfate Preparations". Pharmaceutical Chemistry Journal. 37.8: 448–449.
- Isoherranen, Nina; Eran, Lavy (2000). "Pharmacokinetics of Gentamicin C1, C1a, and C2 in Beagles after a Single Intravenous Dose". Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 44.6: 1443–1447. doi:10.1128/aac.44.6.1443-1447.2000.
- A. Rudin; A. Healey; C. A. Phillips; D. W. Gump; B. R. Forsyth (December 1970). "Antibacterial Activity of Gentamicin Sulfate in Tissue Culture" (PDF). Appl Microbiol. 20 (6): 989–90.[]
- Thomas W. Schafer; Andrea Pascale; Gerard Shimonaski; Paul E. Came (March 1972). "Evaluation of Gentamicin for Use in Virology and Tissue Culture" (PDF). Appl Microbiol. 23 (3): 565–70. PMC 380388.
อ่านเพิ่ม
- Dean L (2015). "Gentamicin Therapy and MT-RNR1 Genotype". ใน Pratt VM, McLeod HL, Rubinstein WS, และคณะ (บ.ก.). Medical Genetics Summaries. (NCBI). PMID 28520359. Bookshelf ID: NBK285956.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เจนตามัยซิน
- "Gentamicin". Drug Information Portal. U.S. National Library of Medicine.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid ecntamysin xngkvs Gentamicin epnyaptichiwnainklumxamioniklokhisd mikhxbngichsahrbrksaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriy pccubnmicahnayintladyaphayitchuxkarkha Garamycin aelaxun yanithuknamaichwnkarrksa osteomyelitis eyuxbuhwicxkesb Pelvic inflammatory disease PID eyuxhumsmxngxkesb pxdbwm kartidechuxinrabbthangedinpssawa aela phawaphisehtutidechux rwmipthungorkhtidechuxxun xikmakmay aetimmiprasiththiphaphinkarrksahnxngin hrux odysamarthbriharyaidhlaychxngthang idaek karchidekhahlxdeluxdda hruxinrupaebbsahrbnnmikhxbngichsahrbkarrksakartidechuxkhxngaephlifihm hruxxacmiinrupaebbsahrbkartidechuxindwngta inpraethsphthnaaelw yanimkthuknamaichrksaorkhtidechuxaebkhthieriyinchwng 2 wnaerkrahwangrxphlkartrwcephaaechuxsaehtuaelatrwckhwamiwkhxngechuxnn txyaptichiwnatang caknncamikarprbepliynkarrksatamphlkartrwcdngklaw nxkcakni karichyanixaccaepntxngtidtamradbyainkraaeseluxdodykartrwceluxddwy ephuxefatidtamkarekidxakarimphungprasngkhthirayaerngcakyaniecntamysinkhxmulthangkhlinikkarxanxxkesiyng ˌ dʒ ɛ n t e ˈ m aɪ s e n chuxthangkarkhaGaramycin Gentrex xun omonkrafa682275khxmulthaebiynyaUS GentamicinradbkhwamesiyngtxtharkinkhrrphAU D US D mikhwamesiyng kthmaysthanatamkthmayEU Rx only In general Prescription only khxmulephschclnsastrchiwprasiththiphlnxyemuxihodykarrbprathan0 10 khrungchiwitthangchiwphaph2 chwomngkarkhbxxkittwbngchichuxtamrabb IUPAC 3R 4R 5R 2 1S 2S 3R 4S 6R 4 6 diamino 3 2R 3R 6S 3 amino 6 1R 1 methylamino ethyl oxan 2 yl oxy 2 hydroxycyclohexyl oxy 5 methyl 4 methylamino oxane 3 5 diolelkhthaebiyn CAS1403 66 3 YPubChem CID34672427DrugBankDB00798 NChemSpider390067 YT6Z9V48IKGD08013 YCHEBI 27412 YCHEMBL195892 Y100 014 332khxmulthangkayphaphaelaekhmisutrC 21H 43N 5O 7477 603 g mol 1aebbcalxng 3D Interactive imageO C 3 C C H NC C H O C H O C H 2 C H N C C H N C H O C H 1O C H C NC C CC C H 1N C H 2O OC3InChI 1S C21H43N5O7 c1 9 25 3 13 6 5 10 22 19 31 13 32 16 11 23 7 12 24 17 14 16 27 33 20 15 28 18 26 4 21 2 29 8 30 20 h9 20 25 29H 5 8 22 24H2 1 4H3 t9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 m1 s1 YKey CEAZRRDELHUEMR URQXQFDESA N Y 7 Y verify saranukrmephschkrrm ecntamysinepnyaptichiwnainklumxamioniklokhisd cungmiklikkarxxkvththithikhlaykhlungkbyaptichiwnachnidxuninklumediywknni odycaxxkvththiybyngkarsngekhraahoprtinkhxngaebkhthieriy sngphlihesllkhxngaebkhthieriynn khadoprtinthicaepninkardarngchiwitaelakhyayphnthu aelatayipinthisud cungxacklawidwa ecntamysinepnyaptichiwnathimivththiinkarkhaaebkhthieriy bactericidal antibiotic sungaetktangcakyaptichiwnaklumxunthixxkvththiybyngechnkn aetmikhunsmbtiephiyngaekhtankarecriyetibotkhxngaebkhthieriy bacteriostatic antibiotic echnediywknkbyachnidxun karichecntamysininkarrksa xackxihekidxakarimphungprasngkhidhlayprakar odyechphaa aela sungthuxepnxakarimphungprasngkhthirunaerngkhxngecntamysinaelayaptichiwnaxuninklumni odykarekidphistxhucakyanicasngphlihekidkhwamphidpktiidthngrabbkaridyinaelarabbkarthrngtwkhxngrangkay sungxacphthnaepnkhwamphidpktiaebbthawrid nxkcakni karichecntamysininrahwangtngkhrrphxackxihekidkhwamphidpktitxtharkinkhrrphid cungkhwrhlikeliyngkarichyaniinklumprachakrdngklaw inthangtrngknkham yaniimthukkhbxxkthangnanm thaihsamarthichyaniidxyangplxdphyinhyingthikalngihnmbutr ecntamysinthukkhnphbinpi kh s 1963 odyepnsarptichiwnathithuksrangkhunodyra odyecntamysincdepnhnunginyasakhykhxngraykaryathicaepnkhxngxngkhkarxnamyolk World Health Organization s List of Essential Medicines sungepnraykaryathimiprasiththiphaphaelakhwamplxdphysungaelamikhwamsakhyepnladbaerkkhxngrabbsukhphaphphunthankhxngprachachninpraethstang yanimicahnayintladyahlakhlayyihxphayitediywkn inpi kh s 2014 rakhasahrbkarkhaysnginrupaebbyachidinklumpraethskalngphthnamirakha 0 05 0 58 US txmillilitrprawtiecntamysininrupaebbsarlalaysahrbchid ecntamysinepnyaptichiwnathiidcakkrabwnkarhmkkhxngaebkhthieriysayphnthu thukkhnphbinpi kh s 1963 odykhnawicykhxngiwnsitn Weinstein MJ aelaaewkmn Wagman GH inhxngthdlxngkhxngbristhechxring phlaw in rthniwecxrsiy praethsshrthxemrika caktwxyangdinthiidrbmacakriok wxyechiyscis Rico Woyciesjes sungtxmaidmikarkhidkhnwithikarskdecntamysinbrisuththiidsaerc caknnkhnawicykhxngbristhechxring phlaw sungnodyedwid khuepxr Divid J Cooper idthakarsuksaokhrngsrangkhxngyadngklawaelasamarthokhrngsrangthungokhrngsrangnnidepnphlsaercinpi kh s 1971 odyinrayaaerkhlngcakkhnphbnn ecntamysinmkthukichepninrupaebbyathasahrbaephlifihmnarxnlwkinhnwythharkhxngemuxngaextaelntaaelaaesnaexnothniox txmaidmikarphthnaepnyasahrbchidekhahlxdeluxddainpi kh s 1971 ephuxichinkarrksaphawaphisehtutidechuxcwbcnpccubn ecntamysinsamarththuksngekhraahkhunidcakaebkhthieriyskul sungepnaebkhthieriycaphwkaekrmbwkthiphbidthwipinthrrmchati dinaelana odyyaptichiwnathimiaehlngthimacakaebkhthieriysayphnthunicasamarthrabuidcakphyangkhtxthaythimklngthaydwy micin echn Verdamicin ewxrdamysin Mutamicin Sisomicin siosmysin Netilmicin entilmysin aela Retymicin sungaetktangcakyaxuninklumxamioniklokhisdthiskdidcakthimkmichuxlngthaydwy mycinkarichpraoychnthangkaraephthyecntamysinxxkvththitanechuxaebkhthieriyidhlaysayphnthu odyswnihyepnaebkhthieriyaekrmlb sungrwmthung skuloprtixs exsechxriechiy okhil aelaaebkhthieriyaekrmbwkinskulsaetffiolkhxkhkhs odyyanimikhxbngichsahrbrksaorkhtidechuxinrabbthangedinhayic kartidechuxinrabbthangedinpssawa kartidechuxinkraaeseluxd aelathimisaehtumacakculchiphdngkhangtnhruxaebkhthieriyxunthiiwtxyani thngni ecntamysinimmiprasiththiphaphinkarrksaorkhthiekidcakartidechuxaebkhthieriy insieriy emningicithdis hrux enuxngcakcathaihphupwymikhwamesiyngthicaekidphawachxkcakchnidlipid ex lipid A endotoxin thiphbinaebkhthieriyaekrmlbdngkhangtn nxkcakni ecntamysinyngmipraoychninkarrksaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriyaekrmlbcaphwk aela sungepnculchiphthithaihekidorkhikhkrataythimkphbekidkhuninphranlastwhruxkhndkstw xyangirktam inpccubnphbwaaebkhthieriybangsayphnthuin saetpfiolkhxkhkhs xxeriys aelasayphnthuxuninskulsaetffiolkhxkhkhs nnduxtxecntamysinsleftinradbkhwamrunaerngthiaetktangknxxkipkarichinklumprachakrphiesshyingtngkhrrphaelahyingihnmbutr karichecntamysininhyingtngkhrrphxackxihekidphisaektharkinkhrrphid enuxngcakyasamarthaephrphanrkidaelamiraynganhlayraynganthiphbkarekidintharkthikhlxdcakaemthiidrbecntmysinrahwangtngkhrrph nxkcakniyngphbkarekidintharkthiidrbyanirahwangxyuinkhrrphxikdwy dwyehtuphlkhangtncungimaenanaihichyaniinhyingtngkhrrph xyangirktam xacmikarichyaniinklumprachakrdngklawid hakpraeminaelwphbwafayaemmikhwamcaepntxngidrbyaniaelaidrbpraoychncakkarichyamakkwakhwamesiyngthixacekidxntraykbtharkinkhrrph sahrbkhwamplxdphyaelaprasiththiphaphkhxngkarichecntamysininnnyngimxacthrabidaenchdethaidnk odymirayngankartrwcphbecntamysininnanmkhxnghyingthiihnmbutrinprimanelknxy phusungxayu karichecntamysininklumprachakrphusungxayunn khwrmikartrwcpraeminkarthangankhxngitkxnerimkarrksadwyaniesmx aelakhwrmikartrwcpraeminkhadngklawfnrahwangkarrksaepnraya enuxngcakphusungxayumkmikarthangankhxngitldlngaelaesiyngtxkarekidphistxitcakyaidmakkwaprachakrklumxun aelaphupwyklumnimkmikarkacdyathichalng thaihyanixyuinrangkayidnanmakkhun nxkcaknikhwrichkhwamramdrawngmakepnphiessemuxtxngichyaniinphupwythimikarthangankhxngit karidyin karthrngtw phidpkti hruxkarthangankhxngrabbklamenuxthiphidpktixyukxnhnaaelw enuxngcakyanixacthaihkhwamphidpktidngklawrunaerngmakkhunid thark karichecntamysininklumprachakredk rwmthung tharkaerkekid aelawyedk phbwaprachakrklumnicamiradbecntamysininkraaeseluxdaelakhxngyadngklawthisungkwapkti cungimaenanaihichecntamysininprachakrklumdngklaw hakmikhwamcaepntxngichkhwrmikartrwcwdkarthangankhxngitxyuepnpraca odyxakarimphungprasngkhrunaerngthiphbidbxyhlngcakkarbriharecntamysininrupaebbchidihaekprachakrdngklaw idaek aelaxakarimphungprasngkhaelakhxhamichxakarimphungprasngkhthixacekidkhunidcakkaridrbkarrksadwyecntamysinnnmixyuhlayprakar sungmikhwamrunaerngmaknxyaetktangkn odyphupwyxacmixakarimphungprasngkhekidkhunephiyngelknxyxyangkhlunis xaeciyn hruxinbangrayxacekidxakarimphungprasngkhthirunaerngid idaek phawaolhitcang phawaphumiiwekin odycakxakarimphungprasngkhthirunaerngdngkhangtn phbwa aelannmikhwamsmphnthuinechingaeprphntrngkbradbecntamysininkraaeseluxdepnxyangying sunghmaythung karthimiradbyadngklawinkraaeseluxdthisungmakekinipkcamikhwamesiyngtxkarekidxakarimphungprasngkhdngklawidmakkwapktiechnkn odykarekidphisthngtxhuaelatxitnixacaesdngxakarxyangcha inbangkhrngxacimmixakarelycnkrathngesrcsinkarrksadwyadngklaw karekidphistxit nnepnxakarimphungprasngkhthiphbidpramanrxyla 10 25 khxngphupwythiidrbkarrksadwyyaptichiwnaklumxamioniklokhisd sungecntamysinkthuxepnyaptichiwnaxikchnidhnunginyaklumni odyswnmakaelwkhwamphidpktitxitthiekidkhunnimkphnklbmaepnpktiidhlngcakesrcsinkarrksadwyyaptichiwnasaehtuiprayahnung xyangirktam inphupwybangrayxacekidkhwamphidpktikhxngkarthangankhxngitxyaangthawrid odykhwamesiyngwnkarekidphistxitcakyaptichiwnaklumxamioniklokhisdnikhunxyukbkhnadya khwamthiinkarbriharya rayaewlathiichyadngklawinkarrksa aelakarichyaxunthimiphlldkarthangankhxngitrwmdwy echn yaaekxkesbchnidimichsetxrxyd yakhbpssawa sisphlatin esfaolspxrin aexmofethxrisinbi ixoxdin aelaaewnokhmysin epntn pccythiephimkhwamesiyngtxkarekidphistxitcakkarichyaptichiwnaklumxamioniklokhisd idaek karmixayumak karmikarthangankhxngitthildlng hyingtngkhrrph phawathimikarthangankhxngtbldlng karkhadna phawaeluxdepnkrd karkhadosediym karefarawngkarekidphistxitcakyaptichiwnaklumxamioniklokhisdsamarththaidodykartrwctidtamkhakhrixatinininkraaeseluxd radbekluxaer aelakhwamekhmkhnkhxngsarekhmixunthiekiywkhxnginkraaeseluxd karekidphistxhuchnin rupphaphaesdngokhrngsrangphayinhuchnin sungkarekidphiscakecntamysinnncathaihekidphyathisphaphinswnkhxekhliy aela inklumphupwythiidrbkarrksadwyyaptichiwnainklumxamioniklokhisdcaphbkarekidphistxhuchninpramanrxyla 11 odyxakaraesdngthiphbidbxykhrngmakthisud khux miesiyngdngrbkwninhu Tinnitus suyesiykaridyin mixakarrusukhmun ekid ataxia mixakar dizziness thngni karichecntamysintxenuxngepnrayaewlananxackxihekidkhwamphidpktitxhuid 2 swn odyswnaerkkhux ecntamysincathaihekidkhwamesiyhayaekesllkhninhuchninsungsngphlihekidkarsuyesiykaridyinxyangthawrid swnthisxng ecntamysincaekhaipthalayrabbewstibularkhxnghuchnin sungcanasukarekidpyhathiekiywenuxngkbkarthrngtwidinthisud thngni khwamesiynginkarekidphistxhucakecntamysinnnsamarththukthaihldlngidodyihphupwyidrbthiephiyngphxhruximxyuinsphaathimikarkhadna pccythiephimkhwamesiyngtxkarekidkhwamesiyhaytxhuchnincakkarichyaecntamysin idaek karmiradbkrdyurikineluxdsung karthangankhxngitldnxylng karthangankhxngtbphidpkti karidrbyaecntamnsininkhnadsung karidrbkarrksadwyyaecntamysinepnrayaewlanan phusungxayu ichecntamysinrwmkbyakhbpssawathimivththiaerng echn fuorsiimd khxhamich ecntamysinmikhxhamichinphuthimiprawtikarekidphawaphumiiwekintxyanihruxyaxuninklumxamioniklokhisd echn aexnafiaelksis hruxxakarphisthirunaerngxun epntnklikkarxxkvththiecntamysinepn bactericidal antibiotic odyekhacbkbkhxngirobosmaebkhthieriyaebbimphnklb sungcasngphlrbkwnkarsngekhraahoprtinkhxngesllaebkhthieriynn thaihaebkhthieriykhadoprtinthicaepninkardarngchiphaelaaephrkhyayphnthu cntayipinthisud sungklikdngklawyngthuxepnklikhlkinkarxxkvththikhxngyaptichiwnachnidxuninklumxamioniklokhisddwy swnprakxb ecntamysinepnyaptichiwnathimiswnprakxbepnsartang thiekiywenuxngkbecntamysinxyucanwnhnung sungmiradbkhwamsamarthinkartanaebkhthieriythiaetktangkn odyswnprakxbhlkkhxngecntamysin idaek ecntamysin si prakxbdwy ecntamysin si1 ecntamysin si1 aelaecntamysin si2 sungmisdswnpramanrxyla 20 khxngprimanecntamysinthnghmdaelaepnswnprakxbthimikhunsmbtiinkartanaebkhthieriysungthisud thiehluxnxkcaknncaepnswnphsmkhxngecntamysin ex bi exks aelaxun sungkhidrwmepnsdswnrxyla 20 khxngprimanecntamysinthnghmd aelamikhunsmbtiinkartanaebkhthieriythinxykwasarphsmecntamysin si sdswnthiaennxnkhxngsarphsmecntamysinniimxacrabuidaenchd odyprimankhxngecntamysin si hruxswnprakxbxunnncamikhwamaetktangknipinaetlarxbkhxngkarphlitkhunxyukbhnwynganthiphlitaelaklwithithiich enuxngmacakkarthiecntamysinmisdswnkhxngsarxxkvththithiimaennxninaetlarxbkhxngkarphlitni cungepnkaryakthicathakarsuksathungkhunsmbtitang khxngecntamysinthiaennxnid echn khunsmbtithangephschclnsastr khwamiwkhxngculchiphtxya enuxngcakimthrabsdswnkhxng sungxacmikhwamsmphnthkbkhunsmbtitang khxngyathithakarsuksakepnidkarsuksawicydwykhunsmbtiphiesskhxngecntamysinthisamarththntxkhwamrxncakkarthaihprascakechuxinhmxnungkhaechuxorkh autoclave id sungepnkhunsmbtithiphbidinyaptichiwnaephiyngimkichnid cungidmikarichecntamysinmaichinkaretriymxahareliyngechuxbangchnid nxkcakni ecntamysinyngthuknaipichepnyaptichiwnainkarephaaeliyngesllaelaenuxeyuxephuxkarsuksawicydanxnuchiwwithya ephuxpxngknimihekidkarpnepuxnaebkhthieriykhxngesllthiephaaeliyngnn xikdwyxangxing Gentamicin Use During Pregnancy Drugs com 28 February 2019 subkhnemux 11 February 2020 https www ema europa eu documents psusa gentamicin list nationally authorised medicinal products psusa 00009159 202003 en pdf Gentamicin sulfate The American Society of Health System Pharmacists cakaehlngedimemux 16 singhakhm 2015 subkhnemux 15 singhakhm 2015 Bartlett Jimmy 2013 Clinical Ocular Pharmacology s ed Elsevier p 214 ISBN 9781483193915 cakaehlngedimemux 2015 12 22 Moulds Robert Jeyasingham Melanie October 2010 Australian Prescriber 33 134 135 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 03 13 Finberg RW Moellering RC Tally FP aelakhna November 2004 The importance of bactericidal drugs future directions in infectious disease Clin Infect Dis 39 9 1314 20 doi 10 1086 425009 PMID 15494908 Gentamicin use while breastfeeding cakaehlngedimemux 6 knyayn 2015 subkhnemux 15 singhakhm 2015 Pucci Michael J Weinstein Marvin J 2011 Thomas Dougherty b k Handbook of antibiotic discovery and development 2012 ed New York Springer p 238 ISBN 9781461413998 cakaehlngedimemux 2016 03 11 WHO Model List of Essential Medicines 19th List PDF World Health Organization emsayn 2015 PDF cakaehlngedimemux 13 thnwakhm 2016 subkhnemux 8 thnwakhm 2016 Burchum Jacqueline 2014 Lehne s pharmacology for nursing care Elsevier Health Sciences p 1051 ISBN 9780323340267 cakaehlngedimemux 2016 03 11 Julie E Frye b k List I Products sorted Alphabetically Gentamicin sulfate PDF International Drug Price Indicator Guide 2015 ed Medford MA Management Sciences for Health p A 72 subkhnemux 13 emsayn 2022 Weinstein Marvin Wagman 1963 Gentamicin A New Antimicrobial Complex from Micromonospora J Med Chem 6 463 464 doi 10 1021 jm00340a034 David J Cooper Milton D Yudis R D Guthrie A M Prior 1971 The gentamicin antibiotics Part I Structure and absolute stereochemistry of methyl garosaminide J Chem Soc C 0 960 3 doi 10 1039 J39710000960 Gerald P Bodey Edward Middleman Theera Umsawasdi Victorio Rodriguez December 1971 Intravenous Gentamicin Therapy for Infections in Patients with Cancer The Journal of Infectious Diseases 124 Supplement 1 S174 9 PMID 5126243 David A Hopwood 2007 Streptomyces in Nature and Medicine The Antibiotic Makers Oxford Oxford University Press ISBN 0190287845 PDF Baxter Corporation khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 4 minakhm 2016 subkhnemux 2 phvscikayn 2015 Product Monograph PDF Sandoz Canada Inc PDF cakaehlngedimemux 12 emsayn 2015 subkhnemux 2 phvscikayn 2015 Goljan Edward F 2011 Rapid Review Pathology 3rd ed Philadelphia Pennsylvania Elsevier p 241 ISBN 978 0 323 08438 3 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 20 kumphaphnth 2015 subkhnemux 15 phvsphakhm 2012 Lopez Novoa Jose M Quiros Yaremi Vicente Laura Morales Ana I Lopez Hernandez Francisco J mkrakhm 2011 New insights into the mechanism of aminoglycoside nephrotoxicity an integrative point of view Kidney International 79 1 33 45 doi 10 1038 ki 2010 337 PMID 20861826 cakaehlngedimemux 10 minakhm 2016 East J E Foweraker J E Murgatroyd F D 2005 05 01 Gentamicin induced ototoxicity during treatment of enterococcal endocarditis resolution with substitution by netilmicin Heart 91 5 e32 doi 10 1136 hrt 2003 028308 ISSN 1355 6037 PMC 1768868 PMID 15831617 Selimoglu Erol 2007 01 01 Aminoglycoside induced ototoxicity Current Pharmaceutical Design 13 1 119 126 doi 10 2174 138161207779313731 ISSN 1873 4286 PMID 17266591 DrugBank Gentamicin cakaehlngedimemux 4 tulakhm 2013 Weinstein Marvin J 1967 Biological Activity of the Antibiotic Components of the Gentamicin Complex Journal of Bacteriology 94 3 789 790 Vydrin A F 2003 Component Composition of Gentamicin Sulfate Preparations Pharmaceutical Chemistry Journal 37 8 448 449 Isoherranen Nina Eran Lavy 2000 Pharmacokinetics of Gentamicin C1 C1a and C2 in Beagles after a Single Intravenous Dose Antimicrobial Agents and Chemotherapy 44 6 1443 1447 doi 10 1128 aac 44 6 1443 1447 2000 A Rudin A Healey C A Phillips D W Gump B R Forsyth December 1970 Antibacterial Activity of Gentamicin Sulfate in Tissue Culture PDF Appl Microbiol 20 6 989 90 lingkesiy Thomas W Schafer Andrea Pascale Gerard Shimonaski Paul E Came March 1972 Evaluation of Gentamicin for Use in Virology and Tissue Culture PDF Appl Microbiol 23 3 565 70 PMC 380388 xanephimDean L 2015 Gentamicin Therapy and MT RNR1 Genotype in Pratt VM McLeod HL Rubinstein WS aelakhna b k Medical Genetics Summaries NCBI PMID 28520359 Bookshelf ID NBK285956 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb ecntamysin Gentamicin Drug Information Portal U S National Library of Medicine