หม่อมฉิม หรือ เจ้าจอมฉิม เป็นพระธิดาในกรมขุนสุรินทรสงคราม อยู่ในชั้นพระปนัดดาในสมเด็จพระเพทราชา และสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองและหลังการมรณกรรมของกรมขุนสุรินทรสงคราม หม่อมฉิมได้เข้ารับราชการเป็นบาทบริจาริกาในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี แต่ไม่นานหลังจากนั้น หม่อมฉิมต้องโทษประหารพร้อมกับหม่อมอุบล บาทบริจาริกาอีกคนหนึ่ง ด้วยการผ่าอกแล้วเอาเกลือทาจากข้อหาเป็นชู้กับฝรั่ง
หม่อมฉิม | |
---|---|
หม่อมเจ้า | |
พระสวามี | ไม่ทราบนาม สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี |
ราชวงศ์ | บ้านพลูหลวง (ประสูติ) ธนบุรี (เสกสมรส) |
พระบิดา | กรมขุนสุรินทรสงคราม |
พระประวัติ
ชีวิตช่วงต้น
หม่อมฉิม มีพระยศเดิมเป็นหม่อมเจ้า เป็นพระธิดาในกรมขุนสุรินทรสงคราม (พระนามเดิม เจ้าฟ้าจีด หรือจิตร) กับนางห้ามไม่ปรากฏนาม พระชนกเป็นพี่น้องกับเจ้าฟ้าสังวาลย์ พระมเหสีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ด้วยความที่เป็นพระโอรสของพระองค์เจ้าแก้วในสมเด็จพระเพทราชา ประสูติแต่เจ้าฟ้าเทพในสมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ กรมขุนสุรินทรสงครามจึงมีฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าฟ้าตามพระชนนีนิธิ เอียวศรีวงศ์ อธิบายว่า "..แม้ดำรงพระยศถึงเจ้าฟ้า แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นพระบรมวงศ์ที่ลี้ลับ ไม่เด่นทางการเมืองพอที่จะให้ผู้คนมาฝากเนื้อฝากตัว..."สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า กรมขุนสุรินทรสงครามน่าจะเป็นเครือญาติของเจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง)
หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง กรมขุนสุรินทรสงครามเสด็จลี้ภัยไปยังเมืองพิษณุโลก ก่อนรวบรวมสมัครพรรคพวกยึดครองเมืองดังกล่าว กวาดทรัพย์สิน เผาจวนเจ้าเมือง และตั้งตนเป็นเจ้าผู้ครองแทน หลังนั่งเมืองพิษณุโลกได้ไม่นาน ก็ถูกเจ้าพระยาพิษณุโลก (เรือง) จับกุมตัว และสำเร็จโทษด้วยการถ่วงน้ำจนสิ้นพระชนม์ หม่อมฉิมสูญเสียพระชนกไปตั้งแต่ยังเยาว์ชันษา และต้องตกระกำลำบากไปตามยถากรรม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายไว้ว่า "...เจ้าฉิมก็คงซัดเซคเนจรมาแล้วเหมือนกัน อาจจะทำผิดได้..." เข้าใจว่าหม่อมฉิมน่าจะเคยมีสามีมาแล้ว หาใช่หญิงที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ยกทัพขึ้นไปตี(เกยไชย) เขตเมืองพิษณุโลก[ก] จึงรับตัวหม่อมฉิมลงอุปถัมภ์อำรุงด้วย ซึ่งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเองก็ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะชุบเลี้ยงเชื้อพระวงศ์จากกรุงเก่ามาเป็นบาทบริจาริกา ด้วยมุ่งหวังที่จะผสมสายเลือดเจ้าเก่าเข้ากับสายเลือดของพระองค์
ราชสำนักธนบุรีและจุดจบ
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงรับเจ้านายฝ่ายในจากราชสำนักอยุธยามาชุบเลี้ยงเป็นบาทบริจาริกาจำนวนสี่พระองค์ ได้แก่ เจ้าประทุม (นามเดิม เจ้ามิตร) เจ้าบุปผา (นามเดิม เจ้ากระจาด) เจ้าอุบล และเจ้าฉิม ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง เจ้านายเหล่านี้ล้วนขาดที่พึ่งในช่วงผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ การช่วงชิงอำนาจราชสำนักฝ่ายในจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าผู้หญิง แม้จะต้องร่วมเรียงเคียงหมอนกับผู้ที่ฆ่าพระบิดาของตนเอง และรายล้อมไปด้วยเจ้าฝ่ายในที่เป็นศัตรูทางการเมืองของพระบิดา กล่าวกันว่าหม่อมฉิมนั้นปรนนิบัติพัดวีพระราชสวามีเป็นอย่างดีจนเป็นที่ต้องพระราชหฤทัย ถวายงานคู่กับหม่อมอุบล พระธิดาในกรมหมื่นเทพพิพิธ ซึ่งรักใคร่เข้ากันได้ดีจึงให้บรรทมคู่ซ้ายขวา ดังปรากฏความใน จดหมายความทรงจำของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี ระบุความไว้ว่า "...บุตรกรมหมื่นเทพพิพิธ หม่อมมงคล หม่อมพควม พี่หม่อมอุบล บุตรเจ้าฟ้าจีด [คือหม่อมฉิม] เลี้ยงเสมอกันทั้ง ๔ คน แต่โปรดหม่อมฉิม หม่อมอุบล ประทมอยู่คนละข้าง..." ด้วยเหตุนี้บรรดาเจ้าหญิงที่รับราชการเป็นบาทบริกาท่านอื่นเกิดคิดริษยา โดยเฉพาะหม่อมประทุม (นามเดิมหม่อมมิตร) เพ็ดทูลสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีว่าหม่อมฉิมและหม่อมอุบลเป็นชู้กับชิดภูบาลและชาญภูเบศร์มหาดเล็กฝรั่งที่คอยไล่จับหนูในราชสำนัก แล้วยังกล่าวหาอีกว่าฝรั่งสองคนนี้ยังเล่นชู้กับนางรำอีกสี่คน ดังปรากฏความว่า "...วิบัติหนูกัดพระวิสูตร รับสั่งให้ชิดภูบาล ชาญภูเบศร์ ฝรั่งคนโปรดทั้งคู่ให้เข้ามาไล่จับหนูใต้ที่เสวย (แล) ในที่ (บรรทม) ด้วย เจ้าประทุมทูลว่าฝรั่งเปนชู้กับหม่อมฉิม หม่อมอุบล กับคนรำ ๔ คน เปน ๖ คนด้วยกัน..."
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงมีพระดำรัสตรัสถาม แม้หม่อมอุบลจะทูลความจริงแต่พระราชสวามีก็มิทรงรับฟัง หม่อมฉิมซึ่งมีโวหารกล้าจึงเป็นผู้รับสัตย์แล้วกล่าวว่า "...ยังจะอยู่เปนมเหสีขี้ซ้อนฤๅ มาตายตามพ่อเจ้าเถิด..." เมื่อได้ยินความดังนั้นหม่อมอุบลจึงพลอยรับตาม ทั้งสองจึงถูกสำเร็จโทษโดยการเฆี่ยนแล้วเอาน้ำเกลือราดรด แล้วประหารชีวิตด้วยการผ่าอกเอาเกลือทา แล้วตัดมือตัดเท้าประจาน ซึ่งในขณะนั้นหม่อมอุบลมีครรภ์อยู่สองเดือน
หลังการสำเร็จโทษ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงไม่สบายพระทัย แล้วตรัสว่าจะตายตามหม่อมอุบล ร้อนไปถึง และเตี่ยหม่อมทองจันทน์นิมนต์พระเข้ามาชุมนุมสงฆ์ถวายพระพรสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเพื่อขอชีวิต เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีกลับมามีสติสมประดีแล้วจึงพระราชทานเงินแก่ผู้ตามเสด็จ
พงศาวลี
พงศาวลีของหม่อมฉิม | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
เชิงอรรถ
หมายเหตุ
ก พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ระบุว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไปรับหม่อมฉิมพร้อมกับเจ้านายฝ่ายในพระองค์อื่น ๆ เมื่อคราวตีค่ายโพธิ์สามต้น ระบุเนื้อหาไว้ ความว่า
"...ในเขตแดนแว่นแคว้นสยามประเทศ เหตุว่าหาเจ้าแผ่นดินจะปกครองบมิได้ เหมือนดุจสัตถันดรกัล์ปและทุพภิกขันดรกัล์ป และพระราชวงศานุวงศ์ ซึ่งเหลืออยู่พม่ามิได้เอาไปนั้น ตกอยู่ ณ ค่ายโพธิ์สามต้นก็มีบ้าง ที่หนีไปเมืองอื่นนั้นก็มีบ้าง และเจ้าฟ้าสุริยา 1 เจ้าฟ้าพินทวดี 1 เจ้าฟ้าจันทวดี 1 พระองค์เจ้าฟักทอง 1 ทั้ง 4 พระองค์นี้ เป็นราชบุตรีพระพุทธเจ้าหลวงในพระบรมโกศ และเจ้ามิตรบุตรีกรมพระราชวัง 1 หม่อมเจ้ากระจาดบุตรีกรมหมื่นจิตรสุนทร 1 หม่อมเจ้ามณีบุตรีกรมหมื่นเสพภักดี 1 หม่อมเจ้าฉิมบุตรีเจ้าฟ้าจีด 1 เจ้าทั้งนี้ตกอยู่กับพระนายกอง ณ ค่ายโพธิ์สามต้น อนึ่งพระองค์เจ้าทับทิมบุตรีสมเด็จพระอัยกานั้น พวกข้าไทพาหนีออกไป ณ เมืองจันทบูร เจ้าตากก็สงเคราะห์รับเลี้ยงดูไว้..."
อ้างอิง
- ""ไล่จับหนู" เป็นเหตุ พระเจ้าตาก สั่งประหารเจ้าจอมสุดโหด ผ่าอก-ทาเกลือ-ตัดมือเท้า". ศิลปวัฒนธรรม. 8 สิงหาคม 2566. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาตม 2566.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - พระราชวิจารณ์ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องจดหมายความทรงจำของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี (เจ้าครอกวัดโพธิ์) ตั้งแต่ จ.ศ. 1129 ถึง 1182 เป็นเวลา 53 ปี, หน้า 58, 60
- พระเจ้าตาก เบื้องต้น, หน้า 176
- คำให้การชาวกรุงเก่า, ประชุมคำให้การกรุงศรีอยุธยา รวม 3 เรื่อง, หน้า 174
- จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1, หน้า 2
- การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี, หน้า 46
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. "พงษาวดารเรื่องเรารบพม่า ครั้งกรุงศรีอยุธยา (สงครามครั้งที่ ๒๔ คราวเสียกรุง ฯ ครั้งหลัง ปีกุญ พ.ศ. ๒๓๑๐)". วชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาตม 2566.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - สตรีสยามในอดีต, หน้า 81
- ปรามินทร์ เครือทอง (7 มกราคม 2563). ""ท้องกับเจ๊ก" การเมืองราชสำนักฝ่ายใน เรื่องซุบซิบเจ้าหญิงอยุธยาในพระเจ้าตากสินฯ". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม 2566.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - สตรีสยามในอดีต, หน้า 82
บรรณานุกรม
- จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. พระราชวิจารณ์ ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องจดหมายความทรงจำของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี (เจ้าครอกวัดโพธิ์) ตั้งแต่ จ.ศ. 1129 ถึง 1182 เป็นเวลา 53 ปี. กรุงเทพฯ : ศรีปัญญา, 2552. 576 หน้า. ISBN
- นิธิ เอียวศรีวงศ์. การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี. กรุงเทพฯ : มติชน, 2559. 632 หน้า. ISBN
- วิบูล วิจิตรวาทการ, น.พ.. สตรีสยามในอดีต. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2542. 362 หน้า. ISBN
- ปรามินทร์ เครือทอง. พระเจ้าตาก เบื้องต้น. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 196 หน้า. ISBN
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hmxmchim hrux ecacxmchim epnphrathidainkrmkhunsurinthrsngkhram xyuinchnphrapnddainsmedcphraephthracha aelasmedcphrathinngthaysra hlngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxngaelahlngkarmrnkrrmkhxngkrmkhunsurinthrsngkhram hmxmchimidekharbrachkarepnbathbricarikainsmedcphraecakrungthnburi aetimnanhlngcaknn hmxmchimtxngothspraharphrxmkbhmxmxubl bathbricarikaxikkhnhnung dwykarphaxkaelwexaekluxthacakkhxhaepnchukbfrnghmxmchimhmxmecaphraswamiimthrabnam smedcphraecakrungthnburirachwngsbanphluhlwng prasuti thnburi esksmrs phrabidakrmkhunsurinthrsngkhramphraprawtichiwitchwngtn hmxmchim miphraysedimepnhmxmeca epnphrathidainkrmkhunsurinthrsngkhram phranamedim ecafacid hruxcitr kbnanghamimpraktnam phrachnkepnphinxngkbecafasngwaly phramehsiinsmedcphraecaxyuhwbrmoks dwykhwamthiepnphraoxrskhxngphraxngkhecaaekwinsmedcphraephthracha prasutiaetecafaethphinsmedcphrathinngthaysra krmkhunsurinthrsngkhramcungmithanndrskdiepnecafatamphrachnninithi exiywsriwngs xthibaywa aemdarngphraysthungecafa aetkduehmuxncaepnphrabrmwngsthililb imednthangkaremuxngphxthicaihphukhnmafakenuxfaktw smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph thrngsnnisthanwa krmkhunsurinthrsngkhramnacaepnekhruxyatikhxngecaphrayaphisnuolk eruxng hlngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxng krmkhunsurinthrsngkhramesdcliphyipyngemuxngphisnuolk kxnrwbrwmsmkhrphrrkhphwkyudkhrxngemuxngdngklaw kwadthrphysin ephacwnecaemuxng aelatngtnepnecaphukhrxngaethn hlngnngemuxngphisnuolkidimnan kthukecaphrayaphisnuolk eruxng cbkumtw aelasaercothsdwykarthwngnacnsinphrachnm hmxmchimsuyesiyphrachnkiptngaetyngeyawchnsa aelatxngtkrakalabakiptamythakrrm phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngxthibayiwwa ecachimkkhngsdeskhencrmaaelwehmuxnkn xaccathaphidid ekhaicwahmxmchimnacaekhymisamimaaelw haichhyingthibrisuththiphudphxng txmaemuxsmedcphraecakrungthnburi ykthphkhuniptiekyichy ekhtemuxngphisnuolk k cungrbtwhmxmchimlngxupthmphxarungdwy sungsmedcphraecakrungthnburiexngkthrngmiphrarachprasngkhthicachubeliyngechuxphrawngscakkrungekamaepnbathbricarika dwymunghwngthicaphsmsayeluxdecaekaekhakbsayeluxdkhxngphraxngkh rachsankthnburiaelacudcb smedcphraecakrungthnburithrngrbecanayfayincakrachsankxyuthyamachubeliyngepnbathbricarikacanwnsiphraxngkh idaek ecaprathum namedim ecamitr ecabuppha namedim ecakracad ecaxubl aelaecachim sungehtukarnthnghmdekidkhunxyangrwderwhlngkaresiykrungsrixyuthyakhrngthisxng ecanayehlanilwnkhadthiphunginchwngphldepliynrachwngs karchwngchingxanacrachsankfayincungnacaepnthangxxkthidithisudsahrbecaphuhying aemcatxngrwmeriyngekhiynghmxnkbphuthikhaphrabidakhxngtnexng aelaraylxmipdwyecafayinthiepnstruthangkaremuxngkhxngphrabida klawknwahmxmchimnnprnnibtiphdwiphrarachswamiepnxyangdicnepnthitxngphrarachhvthy thwayngankhukbhmxmxubl phrathidainkrmhmunethphphiphith sungrkikhrekhakniddicungihbrrthmkhusaykhwa dngpraktkhwamin cdhmaykhwamthrngcakhxngphraecaipyikaethx krmhlwngnrinthrethwi rabukhwamiwwa butrkrmhmunethphphiphith hmxmmngkhl hmxmphkhwm phihmxmxubl butrecafacid khuxhmxmchim eliyngesmxknthng 4 khn aetoprdhmxmchim hmxmxubl prathmxyukhnlakhang dwyehtunibrrdaecahyingthirbrachkarepnbathbrikathanxunekidkhidrisya odyechphaahmxmprathum namedimhmxmmitr ephdthulsmedcphraecakrungthnburiwahmxmchimaelahmxmxublepnchukbchidphubalaelachayphuebsrmhadelkfrngthikhxyilcbhnuinrachsank aelwyngklawhaxikwafrngsxngkhnniyngelnchukbnangraxiksikhn dngpraktkhwamwa wibtihnukdphrawisutr rbsngihchidphubal chayphuebsr frngkhnoprdthngkhuihekhamailcbhnuitthieswy ael inthi brrthm dwy ecaprathumthulwafrngepnchukbhmxmchim hmxmxubl kbkhnra 4 khn epn 6 khndwykn smedcphraecakrungthnburithrngmiphradarstrstham aemhmxmxublcathulkhwamcringaetphrarachswamikmithrngrbfng hmxmchimsungmiowharklacungepnphurbstyaelwklawwa yngcaxyuepnmehsikhisxnvi mataytamphxecaethid emuxidyinkhwamdngnnhmxmxublcungphlxyrbtam thngsxngcungthuksaercothsodykarekhiynaelwexanaekluxradrd aelwpraharchiwitdwykarphaxkexaekluxtha aelwtdmuxtdethapracan sunginkhnannhmxmxublmikhrrphxyusxngeduxn hlngkarsaercoths smedcphraecakrungthnburithrngimsbayphrathy aelwtrswacataytamhmxmxubl rxnipthung aelaetiyhmxmthxngcnthnnimntphraekhamachumnumsngkhthwayphraphrsmedcphraecakrungthnburiephuxkhxchiwit emuxsmedcphraecakrungthnburiklbmamistismpradiaelwcungphrarachthanenginaekphutamesdcphngsawliphngsawlikhxnghmxmchim 8 smedcphraephthracha 17 thawsriscca phranmeprm 4 phraxngkhecaaekw 2 krmkhunsurinthrsngkhram 20 smedcphraecasurieynthrathibdi 10 smedcphrathinngthaysra 21 smedcphraphnwsa 5 ecafaethph 11 krmhlwngrachanurks 1 hmxmchim echingxrrthhmayehtu k phrarachphngsawdarchbbphrarachhtthelkha rabuwasmedcphraecakrungthnburiiprbhmxmchimphrxmkbecanayfayinphraxngkhxun emuxkhrawtikhayophthisamtn rabuenuxhaiw khwamwa inekhtaednaewnaekhwnsyampraeths ehtuwahaecaaephndincapkkhrxngbmiid ehmuxnducstthndrklpaelathuphphikkhndrklp aelaphrarachwngsanuwngs sungehluxxyuphmamiidexaipnn tkxyu n khayophthisamtnkmibang thihniipemuxngxunnnkmibang aelaecafasuriya 1 ecafaphinthwdi 1 ecafacnthwdi 1 phraxngkhecafkthxng 1 thng 4 phraxngkhni epnrachbutriphraphuththecahlwnginphrabrmoks aelaecamitrbutrikrmphrarachwng 1 hmxmecakracadbutrikrmhmuncitrsunthr 1 hmxmecamnibutrikrmhmunesphphkdi 1 hmxmecachimbutriecafacid 1 ecathngnitkxyukbphranaykxng n khayophthisamtn xnungphraxngkhecathbthimbutrismedcphraxykann phwkkhaithphahnixxkip n emuxngcnthbur ecatakksngekhraahrbeliyngduiw xangxing ilcbhnu epnehtu phraecatak sngpraharecacxmsudohd phaxk thaeklux tdmuxetha silpwthnthrrm 8 singhakhm 2566 subkhnemux 28 tulatm 2566 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachwicarn in phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw eruxngcdhmaykhwamthrngcakhxngphraecaipyikaethx krmhlwngnrinthrethwi ecakhrxkwdophthi tngaet c s 1129 thung 1182 epnewla 53 pi hna 58 60 phraecatak ebuxngtn hna 176 khaihkarchawkrungeka prachumkhaihkarkrungsrixyuthya rwm 3 eruxng hna 174 cdhmayehtueruxngthrngtngphrabrmwngsanuwngskrungrtnoksinthr elm 1 hna 2 karemuxngithysmyphraecakrungthnburi hna 46 darngrachanuphaph smedcphraecabrmwngsethx krmphraya phngsawdareruxngerarbphma khrngkrungsrixyuthya sngkhramkhrngthi 24 khrawesiykrung khrnghlng pikuy ph s 2310 wchiryan subkhnemux 28 tulatm 2566 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help strisyaminxdit hna 81 praminthr ekhruxthxng 7 mkrakhm 2563 thxngkbeck karemuxngrachsankfayin eruxngsubsibecahyingxyuthyainphraecataksin silpwthnthrrm subkhnemux 28 tulakhm 2566 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help strisyaminxdit hna 82 brrnanukrm culcxmeklaecaxyuhw phrabathsmedcphra phrarachwicarn in phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw eruxngcdhmaykhwamthrngcakhxngphraecaipyikaethx krmhlwngnrinthrethwi ecakhrxkwdophthi tngaet c s 1129 thung 1182 epnewla 53 pi krungethph sripyya 2552 576 hna ISBN 978 611 7146 02 2 nithi exiywsriwngs karemuxngithysmyphraecakrungthnburi krungethph mtichn 2559 632 hna ISBN 978 974 323 056 1 wibul wicitrwathkar n ph strisyaminxdit krungethph srangsrrkhbukhs 2542 362 hna ISBN 974 7377 29 2 praminthr ekhruxthxng phraecatak ebuxngtn krungethph mtichn 2557 196 hna ISBN 978 974 02 1247 8