สงครามเวียดนาม (เวียดนาม: Chiến tranh Việt Nam) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง และในเวียดนามเรียกว่า สงครามต่อต้านอเมริกา (เวียดนาม: Kháng chiến chống Mỹ) หรือเรียกง่าย ๆ ว่า สงครามอเมริกา เป็นความขัดแย้งในเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2498 จนกรุงไซ่ง่อนถูกยึด เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2518 เป็นสงครามอินโดจีนครั้งที่สองและเป็นการต่อสู้ระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้อย่างเป็นทางการ เวียดนามเหนือได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต และจีน และประเทศพันธมิตรฝ่ายลัทธิคอมมิวนิสต์อื่น เวียดนามใต้ได้รับการสนับสนุนโดยสหรัฐ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย ไทย และประเทศพันธมิตรฝ่ายต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อื่น บางคนถือสงครามนี้เป็นสงครามตัวแทนในยุคสงครามเย็น ซึ่งกินระยะเวลาถึง 19 ปี โดยการมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงของสหรัฐสิ้นสุดลงในปี 2516 และรวมไปถึงสงครามกลางเมืองลาว และสงครามกลางเมืองกัมพูชาซึ่งจบลงด้วยทั้งสามประเทศได้กลายเป็นคอมมิวนิสต์ในปี 2518
สงครามเวียดนาม | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามอินโดจีน และสงครามเย็น | |||||||||
| |||||||||
คู่สงคราม | |||||||||
|
| ||||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||||
กำลัง | |||||||||
ความสูญเสีย | |||||||||
| |||||||||
|
ความขัดแย้งเกิดขึ้นจากสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1 ต่อคอมมิวนิสต์ที่นำโดยเหวียตมิญ ภายหลังฝรั่งเศสถอนตัวออกจากอินโดจีนในปี พ.ศ. 2497 สหรัฐเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินและการทหารสำหรับรัฐเวียดนามใต้ต่อเวียดกง แนวร่วมประชาชนเวียดนามใต้ที่รับคำสั่งจากเวียดนามเหนือ ริเริ่มทำสงครามกองโจรในเวียดนามใต้ เวียดนามเหนือยังบุกครองลาวในช่วงกลางปี 2493 เพื่อสนับสนุนกบฏ มีการสร้างเพื่อส่งกำลังบำรุงและเสริมกำลังให้แก่เวียดกง: 16 การมีส่วนร่วมของสหรัฐเพิ่มมากขึ้นในสมัยประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ผ่านโครงการ (MAAG) จากที่ปรึกษาการทหารไม่ถึง 1,000 นายในปี พ.ศ. 2502 เพิ่มเป็น 16,000 นายในปี พ.ศ. 2506: 131 ในปี พ.ศ. 2506 เวียดนามเหนือส่งทหาร 40,000 นายไปรบในเวียดนามใต้: 16 เวียดนามเหนือได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากสหภาพโซเวียตและสาธารณรัฐประชาชนจีน: 371–4
ในเดือนสิงหาคม 2507 เกิดอุบัติการณ์อ่าวตังเกี๋ยซึ่งอ้างว่าเรือพิฆาตของสหรัฐปะทะกับเรือจู่โจมเร็วของเวียดนามเหนือ รัฐสภาสหรัฐตอบโต้โดยผ่านข้อมติอ่าวตังเกี๋ย มอบอำนาจให้ประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสันอย่างกว้างขวางในการเพิ่มทหารสหรัฐ เขาออกคำสั่งให้วางกำลังหน่วยรบเป็นครั้งแรก และเพิ่มจำนวนกำลังพลเป็น 184,000 นาย เมื่อผ่านมาถึงจุดนี้ กองทัพประชาชนเวียดนาม มีส่วนร่วมในกับกองทัพสหรัฐและเวียดนามใต้ ทุกปีนับจากนั้น มีการเสริมสร้างทหารสหรัฐอย่างมาก แม้มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย กองทัพสหรัฐและเวียดนามใต้อาศัยความเป็นเจ้าเวหาและอำนาจการยิงที่เหนือกว่าดำเนินการค้นหาและทำลาย สหรัฐยังดำเนินการรณรงค์ทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ต่อเวียดนามเหนือและลาว
การรุกตรุษญวนในปี 2511 แสดงถึงการขาดความคืบหน้าด้วยหลักนิยมนี้ โดยเวียดกงและกองทัพประชาชนเวียดนาม ลงมือรุกในเมืองขนานใหญ่ตลอดปีนั้น การสนับสนุนสงครามในประเทศของสหรัฐเริ่มลดลงกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม ขยายขนาดหลังปล่อยปะละเลยก่อนหน้านี้ภายหลังจากตรุษญวนและยึดแบบตามหลักนิยมสหรัฐ ในปีนั้นเวียดกงเสียรี้พลไป 50,000 นาย: 481 โครงการฟีนิกซ์ของสำนักข่าวกรองกลาง ยิ่งลดระดับสมาชิกภาพและขีดความสามารถของเวียดกงเมื่อถึงสิ้นปี เวียดกงลดปฏิบัติการกองโจรอย่างมาก และเพิ่มความจำเป็นสำหรับการใช้ทหารตามแบบ กองทัพประชาชนเวียดนามจากเวียดนามเหนือ: 247–9 ในปี 2512 เวียดนามเหนือประกาศตั้งรัฐบาลปฏิวัติชั่วคราวในเวียดนามใต้ในความพยายามให้เวียดกงมีฐานะระหว่างประเทศมากขึ้น แต่กองทัพประชาชนเวียดนามเริ่มการสงครามผสมเหล่ามากขึ้น เมื่อถึงปี 2513 เวียดกงไม่หลงเหลืออีกต่อไป ปฏิบัติการนี้ข้ามเขตแดนของประเทศ โดยลาวถูกเวียดนามเหนือบุกครองตั้งแต่แรก ส่วนกัมพูชาเวียดนามเหนือใช้เป็นเส้นทางเสบียงเริ่มตั้งแต่ปี 2510 เส้นทางผ่านกัมพูชาเริ่มถูกสหรัฐทิ้งระเบิดในปี 2512 ส่วนเส้นทางลาวถูกทิ้งระเบิดหนักตั้งแต่ปั 2517 การโค่นสมเด็จพระนโรดม สีหนุโดยสมัชชาแห่งชาติกัมพูชาส่งผลทำให้ กองทัพประชาชนเวียดนามเข้ารุกรานประเทศตามคำขอของเขมรแดง ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองในกัมพูชาบานปลาย และการบุกครองตอบโต้ของสหรัฐและกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม
ในปี 2512 หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ริชาร์ด นิกสัน มีการเริ่มนโยบาย (Vietnamization) ซึ่งแสดงถึงความขัดแย้งที่มีกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม ซึ่งขยายขนาดเป็นคู่ขัดแย้งมากขึ้น ส่วนกำลังสหรัฐลดบทบาทลดงและยิ่งเสียขวัญมากขึ้นจากการต่อต้านในประเทศและการเกณฑ์คนได้ลดลง กำลังภาคพื้นดินของสหรัฐส่วนใหญ่ถอนออกไปเมื่อถึงต้นปี 2515 และการสนับสนุนจำกัดอยู่ที่การสนับสนุนทางอากาศ การสนับสนุนด้วยปืนใหญ่ ที่ปรึกษาและการส่งยุทธภัณฑ์กองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม ด้วยการสนับสนุนของสหรัฐยุติการรุกของกองทัพประชาชนเวียดนาม ด้วยยานยนต์ใหญ่สุดและครั้งแรกระหว่างการรุกอีสเตอร์ปี 2515 แต่กองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม เองก็ไม่สามารถยึดคืนดินแดนทั้งหมดกลับมาได้ ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ทางทหารที่ลำบาก เดือนมกราคม 2516 เป็นการถอนกำลังสหรัฐทั้งหมด และการผ่านของรัฐสภาสหรัฐในวันที่ 15 สิงหาคม 2516 ยุติการมีส่วนเกี่ยวข้องทางหทารโดยตรงของสหรัฐอย่างเป็นทางการ ข้อตกลงสันติภาพล่มแทบทันที และการต่อสู้กินเวลาต่อไปอีก 2 ปี กรุงพนมเปญเสียให้แก่เขมรแดงในวันที่ 17 เมษายน 2518 และระหว่างการรุกฤดูใบไม้ผลิ กองทัพประชาชนเวียดนามยึดกรุงไซ่ง่อนได้ในวันที่ 30 เมษายน เป็นการยุติสงคราม ประเทศเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้รวมเข้าด้วยกันในปีถัดมา
การสู้รบมีขนาดใหญ่มาก ในปี 2513 กองทัพสาธารณรัฐเวียดนามเป็นกองทัพใหญ่สุดอันดับ 4 ของโลก กับกองทัพประชาชนเวียดนาม นั้นมีขนาดใกล้เคียงกันโดยมีทหารประจำการประมาณ 1,000,000 นาย: 770 สงครามได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อมนุษยชาติอย่างมหาศาลในแง่ของการเสียชีวิต การประมาณจำนวนทหารและพลเรือนเวียดนามที่เสียชีวิตมีตั้งแต่ 966,000 คน ถึง 3.8 ล้านคน ชาวเขมรประมาณ 275,000–310,000 คน ชาวลาว 20,000–62,000 คน และทหารสหรัฐ 58,220 นายเสียชีวิต และอีก 1,626 นายยังสูญหายในหน้าที่
ความแตกแยกระหว่างจีน–โซเวียตเกิดขึ้นอีกครั้งหลังสงบไปในช่วงสงครามเวียดนาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและพันธมิตรเขมรในราชรัฏฐาภิบาลรวบรวมชาติกัมพูชา และกัมพูชาประชาธิปไตยที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่เริ่มต้นเกือบทันทีด้วยการตีโฉบฉวยชายแดนโดยเขมรแดง จนสุดท้ายบานปลายเป็นสงครามกัมพูชา–เวียดนาม กองทัพจีนบุกครองเวียดนามโดยตรงในสงครามจีน-เวียดนาม ซึ่งความขัดแย้งตามชายแดนที่เกิดตามมายืดเยื้อจนถึงปี 2534 เวียดนามต่อสู้การก่อการกำเริบในสามประเทศ การสิ้นสุดของสงครามและการเริ่มต้นใหม่ของสงครามอินโดจีนครั้งที่สามเร่งให้เกิดและที่ใหญ่กว่า ซึ่งมีจำนวนผู้ลี้ภัยหลายล้านคนออกจากอินโดจีน (ส่วนใหญ่มาจากเวียดนามใต้) โดยมีประมาณการ 250,000 คนเสียชีวิตในทะเล ภายในสหรัฐ สงครามได้ก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ซึ่งเป็นความเกลียดของสาธารณชนต่อการมีส่วนร่วมทางทหารในต่างประเทศของสหรัฐ ซึ่งเมื่อรวมกับคดีวอเตอร์เกต ส่งเสริมวิกฤตความเชื่อมั่นที่ส่งผลต่อสหรัฐในคริสต์ทศวรรษ 1970
เบื้องหลังถึงปี 2492
ฝรั่งเศสเริ่มการพิชิตอินโดจีนในปลายคริสต์ทศวรรษ 1850 และปราบปรามอย่างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2436 เป็นพื้นฐานการปกครองอาณานิคมฝรั่งเศสในเวียดนามเป็นเวลาอีกเจ็ดทศวรรษ แม้จะมีการต้านทานทางทหาร ที่โดดเด่นที่สุด คือ เกิ่นเวืองแห่งฟาน ดิญ ฝุง ในปี 2431 พื้นที่ซึ่งเป็นประเทศกัมพูชาและเวียดนามปัจจุบันกลายสภาพเป็นอาณานิคมอินโดจีนของฝรั่งเศส และลาวถูกเพิ่มเข้าสู่อาณานิคมภายหลัง มีขบวนการต่อต้านฝรั่งเศสหลายกลุ่มในช่วงนี้ เช่น พรรคชาตินิยมเวียดนามที่ก่อการกำเริบเอียนบ๊ายที่ล้มเหลวในปี 2473 แต่ท้ายที่สุด ไม่มีกลุ่มใดประสบความสำเร็จมากเท่ากับแนวร่วมเวียดมินห์ ซึ่งก่อตั้งในปี 2484 ซึ่งอยู่ในการควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน และได้รับเงินทุนจากสหรัฐและพรรคชาตินิยมจีนในการต่อสู้กับการยึดครองของญี่ปุ่น
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ฝรั่งเศสปราชัยต่อเยอรมนีในปี 2483 สำหรับอินโดจีนของฝรั่งเศส หมายความว่า เจ้าหน้าที่อาณานิคมกลายเป็นฝรั่งเศสเขตวีชี พันธมิตรของอักษะเยอรมนี-อิตาลี สรุปคือ ฝรั่งเศสร่วมมือกับกำลังญี่ปุ่นหลังการบุกครองอินโดจีนของฝรั่งเศสในปี 2483 ฝรั่งเศสยังดำเนินกิจการในอาณานิคมต่อไป ทว่าอำนาจสูงสุดเป็นของญี่ปุ่น
เวียดมินห์ก่อตั้งขึ้นเป็นสันนิบาตเรียกร้องเอกราชจากฝรั่งเศส แต่ก็ต่อต้านการยึดครองของญี่ปุ่นในปี 2488 ด้วยสาเหตุเดียวกัน สหรัฐและพรรคชาตินิยมจีนสนับสนุนเวียดมินห์ในการต่อสู้กับการยึดครองของญี่ปุ่น ทว่า ทีแรกเวียดมินห์ยังไม่มีกำลังพอต่อสู้ในยุทธการแท้จริง ผู้นำเวียดมินห์ โฮจิมินห์ ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์และถูกพรรคชาตินิยมจีนจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี
การยึดครองซ้อนโดยฝรั่งเศสและญี่ปุ่นดำเนินมากระทั่งกำลังเยอรมนีถูกขับออกจากฝรั่งเศสและเจ้าหน้าที่อาณานิคมอินโดจีนฝรั่งเศสเริ่มต้นเจรจาทางลับกับฝรั่งเศสเสรี ด้วยเกรงว่าพวกตนไม่อาจเชื่อใจเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสได้อีกต่อไป กองทัพญี่ปุ่นจึงกักตัวเจ้าหน้าที่และทหารฝรั่งเศสในวันที่ 9 มีนาคม 2488 และสถาปนารัฐหุ่นเชิดจักรวรรดิเวียดนาม ภายใต้สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ยแทน
ระหว่างปี 2487–2488 เกิดทุพภิกขภัยรุนแรงทางเหนือของเวียดนามเนื่องจากสภาพอากาศเลวและการแสวงหาประโยชน์ของฝรั่งเศสและญี่ปุ่นประกอบกัน เพราะอินโดจีนฝรั่งเศสต้องจัดส่งธัญพืชแก่ญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตเพราะการอดอยากระหว่าง 400,000 ถึง 2 ล้านคน จากประชากรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 10 ล้านคน ในเดือนมีนาคม 2488 เวียดมินห์อาศัยช่องว่างทางการปกครองซึ่งเกิดจากการกักตัวเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสหนุนให้ประชาชนปล้นคลังข้าวและปฏิเสธไม่จ่ายภาษี มีคลังสินค้าถูกปล้นระหว่าง 75 ถึง 100 แห่ง การกบฏต่อผลกระทบแห่งทุพภิกขภัยและเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบต่อภัยดังกล่าวบางส่วนเสริมความนิยมของเวียดมินห์ และเวียดมินห์สามารถระดมสมาชิกได้เป็นจำนวนมากในช่วงนี้
ระหว่างเดือนสิงหาคม 2488 กองทัพญี่ปุ่นยังไม่มีความเคลื่อนไหว ขณะที่เวียดมินห์และกลุ่มชาตินิยมอื่นยึดสถานที่ราชการและอาวุธ ซึ่งเริ่มการปฏิวัติเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่โอเอสเอสเข้าพบโฮจิมินห์และนายทหารเวียดมินห์อื่นหลายครั้งในช่วงนี้ และเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2488 โฮจิมินห์ประกาศอิสรภาพสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามต่อหน้าฝูงชน 500,000 คนในฮานอย เขาเริ่มสุนทรพจน์โดยถอดความคำประกาศอิสรภาพสหรัฐว่า "มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน และพระผู้สร้างได้มอบสิทธิบางประการที่จะเพิกถอนมิได้ไว้ให้แก่มนุษย์ ในบรรดาสิทธิเหล่านั้นได้แก่ ชีวิต เสรีภาพและการเสาะแสวงหาความสุข"
เวียดมินห์ยึดอำนาจในเวียดนามในการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ตาม Gabriel Kolko เวียดมินห์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง ทว่า อาเธอร์ เจ. ดอมเมน เตือน "มุมมองที่ถูกทำให้เย้ายวน" ของความสำเร็จนี้: "การใช้ความสะพรึงกลัวของเวียดมินห์นั้นเป็นระบบ....พรรคดึงรายชื่อผู้ต้องฆ่าทิ้งอย่างไม่รีรอ" หลังพ่ายในสงคราม กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นมอบอาวุธให้ชาวเวียดนาม และยังคุมขังเจ้าหน้าที่และนายทหารวีชีฝรั่งเศสเป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังยอมจำนน เวียดมินห์ระดมทหารญี่ปุ่นกว่า 600 นายและมอบบทบาทให้พวกเขาฝึกหรือบังคับบัญชาทหารเวียดนาม
อย่างไรก็ดี ฝ่ายสัมพันธมิตรหลักผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่สอง สหราชอาณาจักร สหรัฐและสหภาพโซเวียตล้วนตกลงกันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของฝรั่งเศส เนื่องจากฝรั่งเศสไม่มีหนทางยึดเวียดนามคืนได้ทันที มหาอำนาจจึงบรรลุความตกลงกันว่าทหารอังกฤษจะยึดครองเวียดนามใต้ ขณะที่กำลังจีนชาตินิยมจะเคลื่อนเข้ามาจากทางเหนือ กำลังชาตินิยมจีนเข้าประเทศเวียดนามเพื่อปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นที่อยู่เหนือเส้นขนานที่ 16 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2488 เมื่ออังกฤษยกพลขึ้นบกทางใต้ ก็ติดอาวุธให้กำลังฝรั่งเศสที่ถูกกักตัว ตลอดจนกำลังญี่ปุ่นที่ยอมจำนนบางส่วนเพื่อช่วยฝรั่งเศสยึดเวียดนามใต้คน เพราะไม่มีพลเพียงพอกระทำการตามลำพัง
ด้วยการกระตุ้นของสหภาพโซเวียต ทีแรกโฮจิมินห์พยายามเจรจากับฝรั่งเศส ซึ่งกำลังสถาปนาการควบคุมทั้งพื้นที่อย่างช้า ๆ ในเดือนมกราคม 2489 เวียดมินห์ชนะการเลือกตั้งทั่วเวียดนามเหนือและกลาง เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2489 โฮลงนามความตกลงอนุญาตให้กำลังฝรั่งเศสแทนกำลังจีนชาตินิยม แลกกับการรับรองสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามของฝรั่งเศสว่าเป็นสาธารณรัฐ "อิสระ" ในสหภาพฝรั่งเศส โดยเกณฑ์การรับรองนี้จะกำหนดโดยการเจรจาในอนาคต ฝรั่งเศสขึ้นบกในฮานอยเมื่อเดือนมีนาคม 2489 และขับเวียดมินห์ออกจากนครในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น กำลังอังกฤษออกนอกประเทศเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2489 ทิ้งเวียดนามให้อยู่ในการดูแลของฝรั่งเศส ไม่นานให้หลัง เวียดมินห์เริ่มต้นสงครามกองโจรต่อกำลังสหภาพฝรั่งเศส เริ่มต้นสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง
สงครามลุกลามไปยังประเทศลาวและกัมพูชา ที่ซึ่งนักคอมมิวนิสต์จัดระเบียบขบวนการปะเทดลาวและเขมรเสรี ซึ่งทั้งสองถอดแบบมาจากเวียดมินห์ ด้านสถานการณ์โลก สงครามเย็นเริ่มขึ้นอย่างจริงจัง ซึ่งหมายความว่าซึ่งมีระหว่างฝ่ายตะวันตกและสหภาพโซเวียตระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองได้พังทลายลง การขาดอาวุธเป็นอุปสรรคของเวียดมินห์ แต่สถานการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนไปเมื่อปี 2492 คอมมิวนิสต์จีนชนะสงครามกลางเมืองจีนได้ส่วนใหญ่แล้ว และสามารถจัดหาอาวุธให้แก่พันธมิตรเวียดนามได้
ฝรั่งเศสถอย 2493–2497
ในเดือนมกราคม 2493 สาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพโซเวียตรับรองว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามของเวียดมินห์ซึ่งมีฐานในฮานอยเป็นรัฐบาลเวียดนามที่ชอบธรรม เดือนต่อมา สหรัฐและบริเตนใหญ่รับรองว่ารัฐเวียดนามในไซ่ง่อนที่ฝรั่งเศสหนุนหลัง นำโดยอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย เป็นรัฐบาลเวียดนามที่ชอบธรรม การปะทุของสงครามเกาหลีในเดือนมิถุนายนปีนั้น ชวนให้ผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าสงครามในอินโดจีนเป็นตัวอย่างลัทธิการขยายอิทธิพล (expansionism) คอมมิวนิสต์ที่มีสหภาพโซเวียตชี้นำ
ที่ปรึกษาทางทหารจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเริ่มให้การสนับสนุนเวียดมินห์ในเดือนกรกฎาคม 2493 อาวุธ ความรู้ความชำนาญและจับกังของจีนเปลี่ยนเวียดมินห์จากกำลังกองโจรเป็นกองทัพตามแบบ ในเดือนกันยายนปีนั้น สหรัฐตั้ง เพื่อคัดกรองคำขอความช่วยเหลือ คำแนะนำทางยุทธศาสตร์และการฝึกทหารเวียดนามของฝรั่งเศส จนถึงปี 2497 สหรัฐจัดหาอาวุธเบา 300,000 ชิ้นและใช้เงิน 1,000,000,000 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐสนับสนุนความพยายามทางทหารของฝรั่งเศส คิดเป็น 80% ของมูลค่าสงคราม
นอกจากนี้ ยังมีการเจรจาระหว่างฝรั่งเศสและสหรัฐซึ่งพิจารณาความเป็นไปได้ของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีสามลูก ทว่า รายงานความจริงจังของการพิจารณานี้และผู้พิจารณายังคลุมเครือและขัดแย้งกันแม้จนปัจจุบัน แผนฉบับหนึ่งสำหรับปฏิบัติการแร้ง ที่เสนอไว้กล่าวถึงการส่งเครื่องบินบี-29 จากฐานทัพสหรัฐในภูมิภาค 60 ลำ โดยมีเครื่องบินขับไล่ที่อาจมากถึง 150 ลำที่ปล่อยจากเรือบรรทุกเครื่องบินกองเรือสหรัฐที่เจ็ดสนับสนุน ทิ้งระเบิดที่ตั้งของหวอ เงวียน ซ้าป ผู้บัญชาการเวียดมินห์ แผนดังกล่าวรวมทางเลือกการใช้อาวุธนิวเคลียร์มากถึงสามลูกต่อที่ตั้งของเวียดมินห์ พล.ร.อ. อาเธอร์ ดับเบิลยู. แรดฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารสหรัฐ สนับสนุนทางเลือกนิวเคลียร์นี้ เครื่องบินบี-29 และ สามารถโจมตีด้วยนิวเคลียร์ได้ เช่นเดียวกับอากาศยานประจำเรือจากกองเรือที่เจ็ด
เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐแล่นไปยังอ่าวตังเกี๋ย และมีเที่ยวบินลาดตระเวนเหนือเดียนเบียนหูระหว่างการเจรจา ตามรองประธานาธิบดีสหรัฐ ริชาร์ด นิกสัน แผนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคณะเสนาธิการทหารที่ร่างแผนใช้อาวุธนิวเคลียร์ยุทธวิธีขนาดเล็กเพื่อสนับสนุนฝรั่งเศส นิกสันเสนอว่าสหรัฐอาจต้อง "ส่งทหารอเมริกาเข้าไป" ประธานาธิบดีสหรัฐ ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ตั้งเงื่อนไขการมีส่วนเกี่ยวข้องของสหรัฐกับการสนับสนุนของอังกฤษ แต่คัดค้านการเสี่ยงขนาดนั้น ในท้ายที่สุด ไอเซนฮาวร์ตัดสินใจไม่แทรกแซง เพราะเชื่อว่าความเสี่ยงทางการเมืองมีมากกว่าประโยชน์ที่เป็นไปได้ ไอเซนฮาวร์เป็นพลเอกห้าดาว เขารอบคอบกับการดึงสหรัฐเข้าไปมีส่วนในสงครามภาคพื้นดินในทวีปเอเชีย
เวียดมินห์ได้รับการสนับสนุนสำคัญจากสหภาพโซเวียตและจีน การสนับสนุนของจีนในสงครามชายแดน พ.ศ. 2493 ทำให้การส่งกำลังจากจีนเข้ามายังเวียดนามได้ ตลอดความขัดแย้ง การประมาณของข่าวกรองสหรัฐยังข้องใจกับโอกาสสำเร็จของฝรั่งเศส
ยุทธการที่เดียนเบียนฟูเป็นการสิ้นสุดการมีส่วนเกี่ยวข้องของฝรั่งเศสในอินโดจีน กำลังเวียดมินห์ของซ้าปมอบความปราชัยทางทหารอันน่าพิศวงแก่ฝรั่งเศส และในวันที่ 7 พฤษภาคม 2497 ทหารที่ตั้งของสหภาพฝรั่งเศสยอมจำนน ในจำนวนเชลยศึกชาวฝรั่งเศส 12,000 คนที่เวียดมินห์จับได้ มีผู้รอดชีวิตเพียง 3,000 คนเท่านั้น ที่การประชุมเจนีวา ฝรั่งเศสเจรจาความตกลงหยุดยิงกับเวียดมินห์ และฝรั่งเศสให้เอกราชแก่กัมพูชา ลาวและเวียดนาม
ยุคเปลี่ยนผ่าน
ประเทศเวียดนามถูกแบ่งชั่วคราวที่เส้นขนานที่ 17 และภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงเจนีวา พลเรือนได้รับโอกาสให้เคลื่อนย้ายอย่างเสรีระหว่างสองรัฐชั่วคราวเป็นเวลา 300 วัน มีกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศในปี 2499 เพื่อตั้งรัฐบาลรวม ชาวเวียดนามเหนือประมาณหนึ่งล้านคน ส่วนใหญ่เป็นคาทอลิกชนกลุ่มน้อย หนีลงใต้ ด้วยกลัวถูกคอมมิวนิสต์เบียดเบียน หลังการรณรงค์โฆษณาชวนเชื่อของอเมริกาที่ใช้คำขวัญอย่าง "พระนางมารีย์พรหมจารีมุ่งหน้าลงใต้" และได้รับการช่วยเหลือโดยโครงการย้ายที่อยู่ที่สหรัฐจัดหาทุน 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมการใช้กองเรือที่เจ็ดขนผู้ลี้ภัยข้ามฟาก อาจมีมากถึงสองล้านคนหากไม่ถูกเวียดมินห์หยุดไว้ก่อน ตั้งใจว่าผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามเหนือจะให้ระบอบโง ดิ่ญ เสี่ยมมีเขตเลือกตั้งต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่เข้มแข็ง เสี่ยมต่อมาตั้งคาทอลิกเวียดนามเหนือและกลางดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลเขา
นอกเหนือจากคาทอลิกหลั่งไหลลงใต้ ยังมี "ผู้กลับรวมกลุ่มปฏิวัติ" มากถึง 130,000 คนเดินทางขึ้นเหนือเพื่อ "รวมกลุ่มใหม่" โดยคาดหมายว่าจะกลับใต้ภายในสองปี เวียดมินห์เหลือกลุ่มแกนนำ 5,000 ถึง 10,000 คนในทางใต้เป็น "โครงสร้างย่อยทางการเมือง-ทหารภายในวัตถุประสงค์" ทหารฝรั่งเศสคนสุดท้ายมีกำหนดออกจากเวียดนามในเดือนเมษายน 2499 สาธารณรัฐประชาชนจีนเสร็จสิ้นการถอนทหารจากเวียดนามเหนือในเวลาใกล้เคียงกัน พลเรือนเวียดนามประมาณ 52,000 คนย้ายจากใต้ขึ้นเหนือ
ระหว่างปี 2496 ถึง 2499 รัฐบาลเวียดนามเหนือตั้งการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรต่าง ๆ ซึ่งรวม "การลดการเช่า" และ "การปฏิรูปที่ดิน" ซึ่งทำให้เกิดการกดขี่ทางการเมืองอย่างสำคัญ ระหว่างการปฏิรูปที่ดิน คำให้การจากพยานเวียดนามเหนือแนะว่ามีสัดส่วนการประหารชีวิตหนึ่งครั้งต่อชาวบ้านทุก 160 คน ซึ่งเมื่อประมาณทั่วประเทศแล้วจะชี้ว่ามีการประหารชีวิตเกือบ 100,000 ครั้ง เนื่องจากการรณรงค์ดังกล่าวกระจุกส่วนใหญ่ในพื้นที่สามเหลี่ยมแม่น้ำแดง นักวิชาการในขณะนั้นจึงยอมรับตัวเลขประเมินที่ต่ำลง คือ 50,000 ครั้งอย่างกว้างขวาง ทว่า เอกสารที่ถูกปลดชั้นความลับจากจดหมายเหตุเวียดนามและฮังการีบ่งว่าจำนวนการประหารชีวิตต่ำกว่าที่รายงานในขณะนั้นมาก แม้เป็นไปได้ว่ามากกว่า 13,500 ครั้ง ในปี 2499 ผู้นำในกรุงฮานอยยอมรับว่า "เลยเถิด" ในการนำโครงการนี้ไปปฏิบัติและคืนที่ดินปริมาณมากให้เจ้าของเดิม
ขณะเดียวกัน ฝ่ายเวียดนามใต้ก่อตั้งรัฐเวียดนาม โดยมีบ๋าว ดั่ยเป็นจักรพรรดิและโง ดิ่ญ เสี่ยมเป็นนายกรัฐมนตรี (ได้รับแต่งตั้งในเดือนกรกฎาคม 2487) รัฐบาลสหรัฐและรัฐเวียดนามของโง ดิ่ญ เสี่ยมไม่ได้ลงนามใด ๆ ในการประชุมเจนีวาปี 2497 ในปัญหาการสร้างเอกภาพอีกครั้ง ผู้แทนเวียดนามที่มิใช่คอมมิวนิสต์คัดค้านการแบ่งประเทศเวียดนามอย่างขันแข็ง แต่แพ้เมื่อฝรั่งเศสยอมรับข้อเสนอของฝั่ม วัน ด่ง ผู้แทนเวียดมินห์ ผู้เสนอว่าสุดท้ายเวียดนามจะรวมกันโดยการเลือกตั้งภายใต้การกำกับดูแลของ "คณะกรรมการท้องถิ่น" สหรัฐโต้ด้วยสิ่งที่เรียก "แผนอเมริกา" โดยการสนับสนุนเวียดนามใต้และสหราชอาณาจักร ซึ่งกำหนดให้การเลือกตั้งสร้างเอกภาพภายใต้การกำกับดูแลของสหประชาชาติ แต่ถูกผู้แทนโซเวียตปฏิเสธ สหรัฐกล่าวว่า "ตามแถลงการณ์ของผู้แทนรัฐเวียดนาม สหรัฐกล่าวย้ำท่าที่เดิมว่าประชาชนมีสิทธิกำหนดอนาคตของตนเองและจะไม่เข้าร่วมกับการจัดการใด ๆ ที่จะขัดขวางสิทธินี้"
ประธานาธิบดีสหรัฐ ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เขียนในปี 2496 ว่า "ผมไม่เคยพูดหรือแลกเปลีย่นกับผู้ที่มีความรู้เรื่องกิจการอินโดจีนที่ไม่เห็นชอบว่าหากมีการจัดการเลือกตั้งขณะที่มีการรบกันนั้น เป็นไปได้ว่าประชากรร้อยละแปดสิบจะออกเสียงลงคะแนนให้คอมมิวนิสต์โฮจิมินห์เป็นผู้นำแทนประมุขแห่งรัฐบ๋าว ดั่ย จริงที่เดียว การขาดความเป็นผู้นำและแรงขับในสว่นของบ๋าว ดั่ยเป็นปัจจัยหนึ่งในความรู้สึกที่แพร่หลายในหมู่ชาวเวียดนามว่าพวกเขาไม่มีสิ่งต้องต่อสู้ให้" ทว่า ตาม เพนตากอนเพเพอส์ ตั้งแต่ปี 2496 ถึง 2499 "โง ดิ่ญ เสี่ยมสร้างปาฏิหารย์อย่างแท้จริง" ในเวียดนามใต้ "เกือบแน่นอนว่าในปี 2499 สัดส่วนซึ่งอาจออกเสียงลงคะแนนให้โฮ ในการเลือกตั้งอย่างเสรีกับเสี่ยม จะน้อยกว่าร้อยละแปดสิบมาก" ในปี 2500 ผู้สังเกตการณ์อิสระจากประเทศอินเดีย โปแลนด์และแคนาดาเป็นตัวแทนของคณะกรรมการควบคุมระหว่างประเทศ (ICC) แถลงว่าการเลือกตั้งเสรีและปลอดอคตินั้นเป็นไปไม่ได้ โดย ICC รายงานว่าเวียดนามใต้และเหนือไม่ปฏิบัติตามความตกลงสงบศึก
ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2498 เสี่ยมกำจัดการคัดค้านทางการเมืองทั้งหมดในเวียดนามใต้โดยเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มศาสนาสองกลุ่ม คือ กาวด๋าย (Cao Đài) และฮหว่าหาว การรณรงค์ยังให้ความสนใจกับกลุ่มองค์การอาชญากรรม (Bình Xuyên) ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสมาชิกตำรวจลับพรรคคอมมิวนิสต์และมีบางส่วนเป็นทหาร เมื่อการคัดค้านฐานกว้างต่อยุทธวิธีโหดร้ายเพิ่มขึ้น เสี่ยมยิ่งมุ่งโทษคอมมิวนิสต์
ในการลงประชามติเรื่องอนาคตของรัฐเวียดนามเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2498 เสี่ยมโกงการสำรวจความเห็นที่มีโง ดิ่ญ ญู (Ngô Đình Nhu) น้องชายเขาเป็นผู้กำกับดูแล และได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 98.2 รวมถึงร้อยละ 133 ในไซ่ง่อน ที่ปรึกษาอเมริกันของเขาแนะนำให้ส่วนต่างชนะพอประมาณ "ร้อยละ 60 ถึง 70" แต่เสี่ยมมองการเลือกตั้งว่าเป็นการทดสอบอำนาจ สามวันให้หลัง เขาประกาศให้เวียดนามใต้เป็นรัฐเอกราชชื่อสาธารณรัฐเวียดนาม (ROV) โดยมีตัวเขาเป็นประธานาธิบดี เช่นเดียวกัน โฮจิมินห์และข้าราชการคอมมิวนิสต์อื่นชนะการเลือกตั้งในเวียดนามเหนืออย่างน้อยร้อยละ 99 ทุกครั้ง
ทฤษฎีโดมิโนซึ่งแย้งว่าหากประเทศหนึ่งเสียแก่คอมมิวนิสต์ แล้วประเทศแวดล้อมทั้งหมดจะตามกันไปด้วย ถูกเสนอเป็นนโยบายครั้งแรกโดยรัฐบาลไอเซนฮาวร์ จอห์น เอฟ. เคนเนดี ซึ่งขณะนั้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวในสุนทรพจน์ต่อสหายเวียดนามชาวอเมริกันว่า "พม่า ไทย อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์และที่ชัดเจนลาวและกัมพูชาเป็นประเทศที่ความมั่นคงจะถูกคุกคามเมื่อคลื่นแดงคอมมิวนิสต์ล้นเข้าเวียดนาม"
ยุคเสี่ยม 2498–2506
การปกครอง
เสี่ยมเป็นโรมันคาทอลิกเคร่ง เป็นนักต่อต้านคอมมิวนิสต์ ชาตินิยม และอนุรักษนิยมสังคมอย่างแรงกล้า นักประวัติศาสตร์ ลืว ดวาน ฮวีญ (Luu Doan Huynh) บันทึกว่า "เสี่ยมเป็นตัวแทนของชาตินิยมแคบและสุดโต่งกอปรกับอัตตาธิปไตยและคติเห็นแก่ญาติ" ชาวเวียดนามส่วนใหญ่เป็นพุทธ และกังวลกับการกระทำอย่างการอุทิศประเทศให้พระนางมารีย์พรหมจารีของเสี่ยม
เสี่ยมเปิดฉากการรณรงค์ "ประณามคอมมิวนิสต์" เริ่มตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2498 ระหว่างนั้นคอมมิวนิสต์และกลุ่มต่อต้านรัฐบาลอื่นถูกจับ จำคุก ทรมานหรือประหารชีวิต เขาตั้งโทษประหารชีวิตต่อกิจกรรมใด ๆ ที่ถือว่าเป็นคอมมิวนิสต์ในเดือนสิงหาคม 2499 เกเบรียล คอลโค (Gabriel Kolko) ว่าคู่แข่งต้องสงสัยของเสี่ยมถูกฆ่าประมาณ 20,000 คนระหว่างปี 2498 ถึง 2500 และเมื่อปลายปี 2501 มีนักโทษการเมืองถูกจำคุกประเมินไว้ 40,000 คน ทว่า กึนเทอร์ เลวี (Guenter Lewy) แย้งว่าตัวเลขดังกล่าวเกินจริงและว่าไม่เคยมีนักโทษทุกประเภทเกิน 35,000 คนในทั้งประเทศ
ในเดือนพฤษภาคม 2500 เสี่ยมเยือนรัฐสหรัฐสิบวัน ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์กล่าวสนับสนุนต่อไป และมีการจัดการเดินขบวนเป็นเกียรติแก่เสี่ยมในนครนิวยอร์ก แม้ว่าเสี่ยมจะได้รับยกย่องอย่างเปิดเผย แต่ในทางลับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จอห์น ฟอสเตอร์ ดัลลัส (John Foster Dulles) ยอมรับว่าเลือกเสี่ยมเพราะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่า
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โรเบิร์ต แม็กนามารา เขียนในการถกเถียงมิรู้จบ (2542) ว่า ผู้อุปภัมถ์สาธารณรัฐเวียดนามอเมริกันใหม่เขลาเรื่องวัฒนธรรมเวียดนามแทบสิ้นเชิง พวกเขาทราบภาษาหรือประวัติศาสตร์ยาวนานของประเทศเพียงเล็กน้อย มีแนวโน้มกำหนดแรงจูงใจแบบอเมริกาต่อการกระทำของเวียดนาม แม้เสี่ยมถูกเตือนแล้วว่า การเชื่อว่าการลอกวิธีการแบบตะวันตกอย่างมืดบอดจะแก้ไขปัญหาของเวียดนามได้เป็นภาพลวง
การก่อการกำเริบทางใต้ 2497–2503
ระหว่างปี 2497 และ 2500 มีความขัดแย้งขนาดใหญ่แต่ไร้ระเบียบในชนบทซึ่งรัฐบาลเสี่ยมสามารถกำราบได้ ต้นปี 2500 เวียดนามใต้มีสันติภาพเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ทว่า เมื่อกลางปี 2500 ถึง 2502 อุบัติการณ์ความรุนแรงเพิ่มขึ้นแต่รัฐบาล ""มิได้วิเคราะห์มันว่าเป็นการณรงค์ โดยถือเป็นความไม่สงบที่เจือจางเกินกว่าจะทุ่มทรัพยากรสำคัญของรัฐบาลเวียดนาม" ทว่า เมื่อต้นปี 2502 เสี่ยมถือความไม่สงบดังกล่าวเป็นการณรงค์มีระเบียบและออกกฎหมาย 10/59 ซึ่งทำให้ความรุนแรงทางการเมืองมีโทษประหารชีวิตและริบทรัพย์ มีความแตกแยกในหมู่อดีตเวียดมินห์ซึ่งเป้าหมายหลักคือการจัดการเลือกตั้งตามที่สัญญาไว้ในข้อตกลงเจนีวา นำไปสู่กิจกรรมพลการแยกจากนักคอมมิวนิสต์และนักกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลเวียดนามอื่น
ในเดือนธันวาคม 2503 มีการก่อตั้งแนวร่วมปลดปล่อยชาติ (หรือเวียดกง) อย่างเป็นทางการโดยมุ่งหมายสร้างเอกภาพนักกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลเวียดนามทั้งหมดซึ่งรวมถึงที่มิใช่คอมมิวนิสต์ด้วย ตามเอกสารเพนตากอน เวียดกง "เน้นความสำคัญต่อการถอนที่ปรึกษาและอิทธิพลของอเมริกา การปฏิรูปที่ดินและการเปิดเสรีรัฐบาลเวียดนาม รัฐบาลผสมและการประกาศความเป็นกลางของเวียดนาม" บ่อยครั้งผู้นำองค์การถูกปิดเป็นความลับ
เหตุผลสำหรับการคงอยู่ต่อเนื่องของแนวร่วมปลดปล่อยชาติคือความสัมพันธ์เชิงชนชั้นในชนบท ประชากรส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านในชนบทซึ่งปัญหาสำคัญคือการปฏิรูปที่ดิน เวียดมินห์มีค่าเช่าและหนี้สินน้อยกว่า และให้เช่าที่ดินคอมมูน ซึ่งส่วนมากแก่ชาวนาที่ยากจนที่สุด เสี่ยมนำเจ้าของที่ดินคืนสู่หมู่บ้าน ผู้ที่เคยทำเกษตรบนที่ดินที่ตนถือครองมาหลายปีปัจจุบันต้องคืนแก่เจ้าของที่ดินและจ่ายค่าเช่าคืนหลายปี การเก็บค่าเช่านี้กองทัพเวียดนามใต้เป็นผู้บังคับ ความแตกแยกในหมู่บ้านนี้สะท้อนสถานการณ์ที่มีอยู่ต่อฝรั่งเศส: "ร้อยละ 75 สนับสนุนเวียดกง ร้อยละ 20 พยายามเป็นกลางและร้อยละ 5 นิยมรัฐบาลอย่างแน่วแน่"
การเข้ามีส่วนของเวียดนามเหนือ
แหล่งข้อมูลเห็นไม่ตรงกันว่าเวียดนามเหนือมีบทบาทโดยตรงในการช่วยเหลือและจัดระเบียบกบฏเวียดนามใต้ก่อนปี 2503 หรือไม่ คาฮินและลิวอิสประเมินว่า
ขัดกับสมมติฐานนโยบายของสหรัฐ หลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่แสดงว่าการรื้อฟื้นสงครามกลางเมืองในรัฐใต้ในปี 2501 ดำเนินการโดยชาวใต้เอง มิใช่การริเริ่มของฮานอย... กิจกรรมการก่อการกำเริบต่อรัฐบาลไซ่ง่อนเริ่มในรัฐใต้ภายใต้ผู้นำใต้ ไม่ใช่เป็นผลลัพธ์ของการชี้นำใด ๆ จากฮานอย ซึ่งขัดกับคำสั่งห้ามของฮานอย
ดุจกัน นักประวัติศาสตร์ อาเธอร์ ชเลซิงเกอร์ จูเนียร์ กล่าวว่า "จนหลังเดือนกันยายน 2503 กว่าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือจะอนุมัติอย่างเป็นทางการและเรียกร้องให้ปลดปล่อยภาคใต้จากจักรวรรดินิยมอเมริกา"
ในทางตรงข้าม เจมส์ โอลสันและแรนดี รอเบิตส์ประเมินว่าเวียดนามเหนืออนุญาตให้มีการก่อการกำเริบระดับต่ำในเดือนธันวาคม 2509 เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาว่าเวียดนามเหนือกำลังละเมิดข้อตกลงเจนีวา เอกราชของเวียดกงจึงมีการเน้นในโฆษณาชวนเชื่อคอมมิวนิสต์
ในเดือนมีนาคม 2509 ผู้นำคอมมิวนิสต์ใต้ เล สวน เสนอแผนฟื้นฟูการก่อการกำเริบชื่อ "ถนนสู่รัฐใต้" แก่สมาชิกอื่นของคณะกรรมการบริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ในกรุงฮานอย แต่เนื่องด้วยทั้งจีนและโซเวียตคัดค้านการเผชิญหน้าในขณะนั้น แผนของเล สวนจึงถูกปฏิเสธ ทว่า ผู้นำเวียดนามเหนืออนุมัติมาตรการเบื้องต้นในการฟื้นฟูการก่อการกำเริบทางใต้ในเดือนธันวาคม 2509 กำลังคอมมิวนิสต์อยู่ภายใต้โครงสร้างบังคับบัญชาเดียวที่จัดตั้งในปี 2511 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนืออนุมัติ "สงครามประชาชน" แก่รัฐใต้ในสมัยประชุมเดือนมกราคม 2512 ในเดือนพฤษภาคม มีการสถาปนากลุ่ม 559 เพื่อทำนุบำรุงและปรังปรุงเส้นทางสายโฮจิมินห์ ซึ่งขณะนั้นเป็นเส้นทางภูเขาหกเดือนผ่านประเทศลาว "ผู้รวมกลุ่มใหม่" ปี 2507 ประมาณ 500 คนถูกส่งลงใต้ตามเส้นทางระหว่างปฏิบัติการปีแรก การส่งมอบอาวุธครั้งแรกผ่านเส้นทางสำเร็จในเดือนสิงหาคม 2512 ทหารคอมมิวนิสต์ประมาณ 40,000 นายแทรกซึมเข้ารัฐใต้ระหว่างปี 2514–16
การขยายขอบเขตของเคนเนดี 2504–06
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2503 สมาชิกวุฒิสภาจอห์น เอฟ. เคนเนดี ชนะรองประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แม้ไอเซนฮาวร์เคยเตือนเคนเนดีเกี่ยวกับประเทศลาวและเวียดนาม ทวีปยุโรปและละตินอเมริกา "น่ากลัวกว่าทวีปเอเชียในวิสัยทัศน์ของเขา" ในสุนทรพจน์รับตำแหน่งของเขา เคนเนดีปฏิญาณทะเยอทะยานว่า "จะจ่ายทุกราคา แบกรับทุกภาระ เผชิญทุกความยากลำบาก สนับสนุนมิตรทุกคน ต่อกรศัตรูทั้งปวง เพื่อรับประกันความอยู่รอดและความสำเร็จของเสรีภาพ" ในเดือนมิถุนายน 2504 เขาเห็นแย้งอย่างขมขื่นกับนายกรัฐมนตรีโซเวียต นีกีตา ครุชชอฟ เมื่อทั้งสองประชุมในกรุงเวียนนาเพื่อปรึกษาประเด็นสหรัฐ–โซเวียตที่สำคัญ เพียง 16 เดือนให้หลัง วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา (16–28 ตุลาคม 2505) มีการแพร่สัญญาณโทรทัศน์วโลก เป็นช่วงที่สงครามเย็นใกล้บานปลายเป็นสงครามนิวเคลียร์เต็มขั้นที่สุด และสหรัฐเร่งระดับความพร้อมของกองบัญชาการอากาศยุทธศาสตร์ (SAC) เป็นเดฟคอน 2
รัฐบาลเคนเนดียังยึดมั่นกับนโยบายต่างประเทศสงครามเย็นซึ่งรับช่วงจากรัฐบาลทรูแมนและไอเซนฮาวร์ ในปี 2504 สหรัฐมีทหาร 50,000 นายประจำอยู่ในเกาหลี แลัเคนเนดีเผชิญกับวิกฤตการณ์สามส่วน ได้แก่ ความล้มเหลวของการบุกครองอ่าวหมู การก่อสร้างกำแพงเบอร์ลิน และการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลลาวที่นิยมตะวันตกับขบวนการคอมมิวนิสต์ปะเทดลาว วิกฤตการณ์เหล่านี้ทำให้เคนเนดีเชื่อว่าความล้มเหลวอีกครั้งของสหรัฐในการเข้าควบคุมและหยุดการขยายตัวของคอมมิวนิสต์จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐกับพันธมิตรและชื่อเสียงของเขาเอง ฉะนั้นเคนเนดีจึงมุ่งมั่น "ขีดเส้นในทราย" และป้องกันชัยของคอมมิวนิสต์ในเวียดนาม เขาบอกเจมส์ เรสตันแห่งเดอะนิวยอร์กไทมส์ ทันทีหลังการประชุมกับครุชชอฟในกรุงเวียนนาว่า "บัดนี้เรามีปัญหาในการทำให้อำนาจของเราน่าเชื่อถือและเวียดนามดูเป็นที่แห่งนั้น"
ในเดือนพฤษภาคม 2504 รองประธานาธิบดีสหรัฐ ลินดอน บี. จอห์นสันเยือนกรุงไซ่ง่อนและประกาศอย่างกระตือรือร้นว่าเสี่ยมเป็น "วินสตัน เชอร์ชิลล์แห่งทวีปเอเชีย" เมื่อถามว่าเหตุใดเขาจึงเห็นเช่นนั้น จอห์นสันตอบว่า "เสี่ยมเป็นเด็กคนเดียวของเราข้างนอกนั้น" จอห์นสันประกันการช่วยเหลือเพิ่มเติมในการก่อร่างกำลังรบซึ่งสามารถต่อต้านคอมมิวนิสต์ได้แก่เสี่ยม
นโยบายของเคนเนดีต่อเวียดนามใต้อาศัยสมมติฐานว่าเสี่ยมและกำลังของเขาจำต้องพิชิตกองโจรได้ด้วยตนเอง เขาต่อต้านการวางกำลังรบอเมริกันและสังเกตว่า "การนำกำลังสหรัฐขนานใหญ่ที่นั่นในตอนนี้ แม้อาจมีผลกระทบทางทหารน่าพอใจในทีแรก แทบแน่นอนว่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเมืองที่เลว และในระยะยาวรวมถึงผลลัพธ์ทางทหารที่เลวด้วย" ทว่า คุณภาพของกองทัพเวียดนามใต้ยังเลวอยู่ ความเป็นผู้นำที่เลว การฉ้อราษฎร์บังหลวง และการเลื่อนยศทางการเมืองล้วนมีส่วนในการทำให้กองทัพเวียดนามใต้อ่อนแอ การโจมตีของกองโจรมีความถี่เพิ่มขึ้นเมื่อการก่อการกำเริบเริ่มได้ที่ แม้การสนับสนุนเวียดกงของรัฐบาลเวียดนามเหนือจะมีส่วนบ้าง แต่ความไร้สามารถของรัฐบาลเวียดนามใต้เป็นศูนย์กลางของวิกฤต
ประเด็นหลักหนึ่งที่เคนเนดียกขึ้นมาคือโครงการอวกาศและขีปนาวุธของโซเวียตล้ำหน้าโครงการของสหรัฐหรือไม่ แม้เคนเนดีเน้นภาวะเสมอภาคขีปนาวุธพิสัยไกลกับโซเวียต แต่เขายังสนใจในการใช้กำลังพิเศษสำหรับการสงครามต่อต้านการก่อการกำเริบในประเศโลกที่สามที่ถูกการก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์คุกคาม แม้เดิมตั้งใจใช้หลังแนวหน้าหลังการบุกครองทวีปยุโรปของโซเวียตตามแบบ แต่เคนเนดีเชื่อว่ากลยุทธ์กองโจรที่กำลังพิเศษใช้อย่างกรีนเบอเรต์จะมีประสิทธิภาพในสงคราม "ไฟไม้พุ่ม" ในเวียดนาม
ที่ปรึกษาของเคนเนดี แม็กซ์เวลล์ เทย์เลอร์และวอลต์ รอสตอว์ แนะนำให้ส่งกำลังสหรัฐไปเวียดนามใต้โดยปลอมตัวเป็นคนงานช่วยเหลืออุทกภัย เคนเนดีปฏิเสธความคิดดังกล่าวแต่เพิ่มการสนับสนุนทางทหารอีก ในเดือนเมษายน 2505 จอห์น เคนเนธ กัลไบรธเตือนเคนเนดีถึง "อันตรายที่เราเป็นกำลังอาณานิคมในบริเวณแทนฝรั่งเศส และหลั่งเลือดเช่นเดียวกับที่ฝรั่งเศสเคยมาแล้ว" เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2506 มีทหารอเมริกัน 16,000 นายในเวียดนามใต้ เพิ่มขึ้นจากที่ปรึกษา 900 คนในสมัยไอเซนฮาวร์
มีการริเริ่มแฮมเล็ตยุทธศาสตร์ในปลายปี 2504 โครงการร่วมสหรัฐ–เวียดนามใต้นี้พยายามตั้งถิ่นฐานประชากรชนบเข้าค่ายมีป้อมสนาม มีการนำไปปฏิบัติในต้นปี 2505 และมีการบังคับย้ายถิ่นฐาน การกักกันหมู่บ้าน และการแยกออกซึ่งชาวเวียดนามใต้ชนบทบ้างเป็นชุมชนใหม่ซึ่งจะเป็นการแยกชาวนาจากผู้ก่อการกำเริบคอมมิวนิสต์ มีความหวังว่าชุมชนใหม่นี้จะให้ความปลอดภัยแก่ชาวนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชาวนากับรัฐบาลกลาง ทว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2506 โครงการเริ่มเสื่อม และยุติอย่างเป็นทางการในปี 2507
วันที่ 23 กรกฎาคม 2505 สิบสี่ประเทศ รวมทั้งจีน เวียดนามใต้ สหภาพโซเวีตย เวียดนามเหนือและสหรัฐลงนามความตกลงให้คำมั่นเคารพความเป็นกลางของประเทศลาว
การขับและลอบฆ่าโง ดิ่ญ เสี่ยม
สมรรถนะอ่อนด้อยของกองทัพเวียดนามใต้มีตัวอย่างจากการปฏิบัติที่ล้มเหลวอย่างยุทธการที่อั๋บบั๊ก (Ap Bac) เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2506 ซึ่งเวียดกงกองเล็ก ๆ ชนะการยุทธ์ต่อกำลังเวียดนามใต้ที่ใหญ่กว่าและมียุทโธปกรณ์ดีกว่ามาก นายทหารหลายนายดูไม่เต็มใจเข้าร่วมรบ
ฮวี่ญ วัน กาว (Huỳnh Văn Cao) ผู้บังคับบัญชาเหล่าที่ 4 นายพลที่เสี่ยมเชื่อใจที่สุด นำกองทัพบกสาธารณรัฐเวียดนามในยุทธการนั้น กาวเป็นคาทอลิกซึ่งได้รับการเลื่อนยศเนื่องจากศาสนาและความซื่อสัตย์มากกว่าทักษะ และงานหลักของเขาคือการสงวนกำลังของเขาเพื่อยับยั้งรัฐประหาร ก่อนหน้านี้เขาอาเจียนระหว่างการโจมตีของคอมมิวนิสต์ ผู้กำหนดนโยบายบางคนในรัฐบาลาสหรัฐเริ่มสรุปว่าเสี่ยมไร้สามารถพิชิตคอมมิวนิสต์และอาจตกลงกับโฮจิมินห์ เขาดูกังวลเฉพาะกับการปัดป้องรัฐประหาร และมีความหวาดระแวงมากขึ้นหลังความพยายามในปี 2503 และ 2505 ซึ่งเขาเชื่อว่าสหรัฐส่งเสริมด้วยบางส่วน รอเบิร์ต เอฟ. เคนเนดีหมายเหตุว่า "เสี่ยมจะไม่ยอมผ่อนปรนให้แม้แต่น้อย เขาใช้เหตุผลคุยด้วยยาก ..."
ความไม่พอใจกับนโยบายของเสี่ยมปะทุให้หลังการยิงเหวฺฟัตด๋าน (Huế Phật Đản) เก้าคนซึ่งส่วนใหญ่พุทธศาสนิกชนที่กำลังประท้วงต่อการห้ามธงศาสนาพุทธในวันวิสาขบูชา ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ต่อต้านนโยบายการเลือกปฏิบัติที่ให้เอกสิทธิ์ต่อคริสตจักรคาทอลิกและสาวก พี่ชายของเสี่ยม โง ดิ่ญ ถุ่ก (Ngô Đình Thục) เป็นอาร์คบิชอปแห่งเว้และลบการแยกระหว่างคริสตจักรกับอาณาจักรอย่างก้าวร้าว การเฉลิมฉลองวันครบรอบปีของถุ่กได้รับเงินทุนจากรัฐบาล และมีการแสดงธงวาติกันอย่างเปิดเผย นอกจากนี้ยังมีการรื้อถอนเจดีย์โดยกำลังกึ่งทหารคาทอลิกตลอดการปกครองของเสี่ยม เสี่ยมปฏิเสธผ่อนปรนให้ฝ่ายข้างมากพุทธหรือรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตนี้ วันที่ 21 สิงหาคม 2506 กำลังพิเศษ ARVN ของพันเอก เล กวาง ทุง (Lê Quang Tung) ซึ่งภักดีต่อน้องชายของเสี่ยม โง ดิ่ญ ญู (Ngô Đình Nhu) ทำลายเจดีย์ทั่วประเทศเวียดนาม ทำให้เกิดความเสียหายและการทำลายล้างอย่างกว้างขวางและมียอดผู้เสียชีวิตหลักร้อยคน
ข้าราชการสหรัฐเริ่มอภิปรายถึงความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนรัฐบาลระหว่างกลางปี 2506 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐโดยทั่วไปเห็นชอบกับการส่งเสริมรัฐประหาร ส่วนกระทรวงกลาโหมยังนิยมเสี่ยมอยู่ การเปลี่ยนแปลงที่มีการเสนอที่สำคัญ ได้แก่ การถอดถอนน้องชายของเสี่ยมคือญู ผู้ควบคุมตำรวจลับและกำลังพิเศษ ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปราบปรามชาวพุทธและในภาพรวมเป็นสถาปนิกการปกครองของตระกูลโง ข้อเสนอดังกล่าวมีการถ่ายทอดไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงไซ่ง่อนในโทรเลขภายใน 243
สำนักข่าวกรองกลาง (CIA) ติดต่อกับนายพลที่กำลังวางแผนโค่นเสี่ยม พวกเขาได้รับคำบอกว่าสหรัฐจะไม่ขัดขวางการกระทำดังกล่าวหรือลงโทษนายทหารด้วยการตัดการสนับสนุน ประธานาธิบดีเสี่ยมถูกโค่นและประหารชีวิต ร่วมกับน้องชายของเขา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2506 เมื่อเคนเนดีได้รับแจ้งข่าว แม็กซ์เวล เทย์เลอร์จำได้ว่าเขา "รีบรุดออกจากห้องพร้อมกับมีหน้าตาตื่นตระหนกและหวาดกลัว" เคนเนดีไม่คาดหมายการฆ่าเสี่ยม เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเวียดนามใต้ เฮนรี คาบ็อต ลอดจ์ เชิญผู้นำคณะรัฐประหารไปยังสถานเอกอัครราชทูตและแสดงความยินดี เอกอัครราชทูตลอดจ์แจ้งเคนเนดีว่า "แผนขณะนี้มีสำหรับสงครามระยะสั้นลง" เคนเนดีเขียนจดหมายแสดงความยินดีกับลอดจ์สำหรับ "งานดี"
เกิดความโกลาหลหลังรัฐประหาร รัฐบาลเวียดนามเหนือฉวยโอกาสจากสถานการณ์และเพิ่มการสนับสนุนกองโจร เวียดนามใต้เข้าสู่ระยะความไร้เสถียรภาพทางการเมืองอย่างสูง เมื่อรัฐบาลทหารหนึ่งโค่นอีกรัฐบาลหนึ่งติด ๆ กัน นักคอมมิวนิสต์มองว่ารัฐบาลใหม่แต่ละรัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของอเมริกา ไม่ว่าเสี่ยมจะล้มเหลวอย่าไร แต่ข้อยืนยันว่าเขาเป็นนักชาตินิยมนั้นไม่มีข้อโต้แย้ง
มีการส่งที่ปรึกษาทางทหารสหรัฐไปประจำยังกองทัพเวียดนามใต้ทุกระดับ อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าละเลยสภาพการเมืองของการก่อการกำเริบ รัฐบาลเคนเนดีมุ่งเปลี่ยนการพุ่งความสนใจความพยายามของสหรัฐไปยังการทำให้เกิดสันติและ "การเอาชนะจิตใจ" ของประชากร แต่ผู้นำกองทัพในรัฐบาลอเมริกันเป็นปรปักษ์ต่อบทบาทของที่ปรึกษาสหรัฐนอกเหนือไปจากการฝึกกำลังพลตามแบบ พลเอก พอล ฮาร์คินส์ ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในเวียดนามใต้ ทำนายอย่างมั่นใจว่าจะชนะภายในคริสต์มาสปี 2506 ฝ่าย CIA ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเท่านั้น โดยเตือนว่า "เวียดกงยังคงควบคุมชนบทส่วนใหญ่โดยพฤตินัย และเพิ่มความเข้มข้นโดยรวมของความพยายามนั้นอย่างเสมอต้นเสมอปลาย"
เจ้าหน้าที่กึ่งทหารของกรมกิจกรรมพิเศษของ CIA ฝึกอบรมและนำชาวเผ่าม้งในลาวและเข้าสู่เวียดนาม กำลังพื้นเมืองมีจำนวนหลักหมื่นคนและดำเนินภารกิจการปฏิบัติโดยตรง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กึ่งทหารเป็นผู้นำ ต่อกำลังปะเทดลาวคอมมิวนิสต์และผู้สนับสนุนชาวเวียดนามเหนือ CIA ยังดำเนินการและเข้าร่วมในกองบัญชาการการสนับสนุนทางทหารในเวียดนาม – กลุ่มศึกษาและสังเกต (Military Assistance Command, Vietnam – Studies and Observations Group, ย่อ: MAC-V SOG) ซึ่งเดิมชื่อกลุ่มปฏิบัติการพิเศษ แต่มีการเปลี่ยนชื่อเพื่อวัตถุประสงค์ในการอำพราง
การขยายขอบเขตของจอห์นสัน 2506–12
ประธานาธิบดีเคนเนดีถูกลอบฆ่าในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2506 รองประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสัน ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องมากนักกับนโยบายต่อเวียดนาม แต่เมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว จอห์นสันให้ความสนใจกับสงครามทันที วันที่ 24 พฤศจิกายน 2506 เขากล่าวว่า "การยุทธ์ต่อคอมมิวนิสต์ ... จะต้องร่วมกับ ... ความเข้มแข็งและความเด็ดเดี่ยว" จอห์นสันทราบว่าเขารับช่วงสถานการณ์ที่เลวร้ายลงอย่างรวดเร็วในเวียดนามใต้ แต่เขายึดติดกับการให้เหตุผลทฤษฎีโดมิโนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการพิทักษ์เวียดนามใต้ คือ หากเวียดนามใต้ถอยหรือจำยอมสละ ไม่ว่าอย่างไรจะทำให้ชาติอื่นนอกเหนือจากความขัดแย้งนี้ตกอยู่ในอันตรายไปด้วย
สภาปฏิวัติกองทัพ ซึ่งประชุมแทนผู้นำเวียดนามใต้ที่เข้มแข็ง ประกอบด้วยสมาชิก 12 นาย สภามีพลเอก เซือง วัน มิญ เป็นผู้นำ ผู้ซึ่งสแตนลีย์ คาร์โนว์ นักหนังสือพิมพ์ภาคสนาม ต่อมาเรียกว่า "แบบอย่างของความเซื่องซึม" ลอดจ์ ซึ่งรู้สึกคับข้องใจเมื่อถึงปลายปี ส่งโทรเลขกลับประเทศเกี่ยวกับมิญว่า "เขาจะเข้มแข็งพอเอาชนะสิ่งต่าง ๆ หรือเปล่า" ระบอบของมิญถูกโค่นในเดือนมกราคม 2507 โดยพลเอก งฺเหวียน คั้ญ (Nguyễn Khánh) ทว่ายังมีความไร้เสถียรภาพอย่างต่อเนื่องในกองทัพ ซึ่งเกิดรัฐประหารหลายครั้งในชั่วเวลาสั้น ๆ แม้ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสียทุกครั้ง
ในถ้อยแถลงที่คล้ายกับที่กระทำต่อฝรั่งเศสเกือบสองทศวรรษก่อนหน้านี้ โฮจิมินห์เตือนว่าหากอเมริกัน "ต้องการสงครามเป็นเวลายี่สิบปีแล้วเราจะทำสงครามยี่สิบปี หากพวกเขาต้องการสร้างสันติ เราจะสร้างสันติและเชิญพวกเขามาดื่มน้ำชายามบ่าย" บ้างแย้งว่านโยบายของเวียดนามเหนือคือไม่โค่นรัฐบาลที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์อื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อุบัติการณ์อ่าวตังเกี๋ย
วันที่ 2 สิงหาคม 2507 ยูเอสเอส แม็ดด็อกซ์ ซึ่งอยู่ระหว่างภารกิจข่าวกรองตามชายฝั่งเวียดนามเหนือ อ้างว่าถูกยิงใส่และได้สร้างความเสียหายแก่เรือตอร์ปิโดหลายลำที่ติดตามเรือในอ่าวตังเกี๋ย มีรายงานการโจมตีครั้งที่สองอีกสองวันให้หลังต่อยูเอสเอส เทอร์เนอร์ จอย และแม็ดด็อกซ์ ในบริเวณเดียวกัน พฤติการณ์ของการโจมตีนั้นมืดมัว ลินดอน จอห์นสันออกความเห็นต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จอร์จ บอลว่า "กะลาสีพวกนั้นข้างนอกนั่นอาจยิงปลาบินได้" สิ่งพิมพ์เผยแพร่ของเอ็นเอสเอที่ไม่ลงวันที่ซึ่งปลดชั้นความลับในปี 2548 เปิดเผยว่าไม่มีการโจมตีในวันที่ 4 สิงหาคม
"การโจมตี" ครั้งที่สองนี้เองนำไปสู่การโจมตีทางอากาศเพื่อตอบโต้ และกระตุ้นให้รัฐสภาอนุมัติข้อมติอ่าวตังเกี๋ยในวันที่ 7 สิงหาคม 2507 ข้อมติดังกล่าวให้อำนาจประธานาธิบดี "ดำเนินมาตรการใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อขับไล่การโจมตีด้วยอาวุธใด ๆ ต่อกำลังของสหรัฐและเพื่อป้องกันการรุกรานเพิ่ม" และจอห์นสันอาศัยข้อมติดังกล่าวว่าให้อำนาจเขาขยายขอบเขตสคราม ในเดือนเดียวกัน จอห์นสันปฏิญาณว่าเขาจะ "ไม่ผูกมัดเด็กหนุ่มอเมริกันให้สู้รบในสงครามที่ผมคิดว่าควรให้เด็กหนุ่มเอเชียต่อสู้เพื่อช่วยพิทักษ์แผ่นดินของตนเอง"
สภาความมั่นคงแห่งชาติแนะนำการขยายขอบเขตการทิ้งระเบิดเวียดนามเหนือสามขั้น คล้อยหลังการโจมตีฐานทัพสหรัฐในเปล็ยกูในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2508 เริ่มมีการโจมตีทางอากาศเป็นชุด (ปฏิบัติการลูกดอกเพลิง) ส่วนนายกรัฐมนตรีโซเวียต อเล็กเซ โคซีกินกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนเวียดนามเหนือ ปฏิบัติการโรลลิงธันเดอร์และปฏิบัติการอาร์กไลต์ขยายการทิ้งระเบิดทางอากาศและปฏิบัติการสนับสนุนภาคพื้นดิน การทัพทิ้งระเบิดซึ่งสุดท้ายกินเวลานานสามปีตั้งใจบังคับให้เวียดนามเหนือยุติการสนับสนุนเวียดกงโดยคุกคามทำลายการป้องกันภัยทางอากาศและโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมของเวียดนามเหนือ นอกจากนี้ยังมุ่งเพิ่มขวัญกำลังใจของเวียดนามใต้ด้วย ระหว่างเดือนมีนาคม 2508 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2511 โรลลิงธันเดอร์ทิ้งขีปนาวุธ จรวดและระเบิดหนักหลายล้านตันถล่มเวียดนามเหนือ
การทิ้งระเบิดลาว
การทิ้งระเบิดไม่จำกัดอยู่เพียงเวียดนามเหนือ การทัพทางอากาศอย่างอื่น เช่น ปฏิบัติการบาร์เรลโรลมุ่งเป้าไปยังส่วนต่าง ๆ ของโครงสร้างพื้นฐานเวียดกงและ PAVN ซึ่งรวมเส้นทางส่งกำลังบำรุงสายโฮจิมินห์ ซึ่งตัดผ่านประเทศลาวและกัมพูชา ประเทศลาวที่ภายนอกเป็นกลางได้กลายเป็นฉากสงครามกลางเมือง โดยรัฐบาลลาวที่สหรัฐสนับสนุนต่อสู้กับปะเทดลาวและพันธมิตรเวียดนามเหนือ
สหรัฐดำเนินการทิ้งระเบิดทางอากาศขนานใหญ่ต่อปะเทดลาวและกำลัง PAVN เพื่อป้องกันการล่มสลายของรัฐบาลราชาธิปไตยลาว และเพื่อขัดขวางการใช้เส้นทางสายโฮจิมินห์ ระหว่างปี 2507 ถึง 2516 สหรัฐทิ้งระเบิดใส่ลาว 2 ล้านตัน เกือบเท่ากับการทิ้งระเบิดของสหรัฐในทวีปยุโรปและเอเชีย 2.1 ล้านตันตลอดสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ลาวเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดหนักที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อเทียบกับขนาดประชากร
กระนั้น วัตถุประสงค์การหยุดเวียดนามเหนือและเวียดกงไม่ประสบความสำเร็จ เสนาธิการกองทัพอากาศสหรัฐ เคอร์ติส เลอเมย์ เป็นผู้สนับสนุนการทิ้งระเบิดเข้มข้นมาช้านานในเวียดนาม และเขียนถึงคอมมิวนิสต์ว่า "เราจะทิ้งระเบิดพวกนั้นให้กลับไปยุคหินทีเดียว"
การรุกปี 2507
หลังข้อมติอ่าวตังเกี๋ย รัฐบาลเวียดนามเหนือคาดหมายการมาถึงของทหารสหรัฐและเริ่มขยายเวียดกง ตลอดจนรการส่งกำลังพลเวียดนามเหนือลงเวียดนามใต้เพิ่มขึ้น ในช่วงนี้ เวียดนามเหนือจัดเตรียมอุปกรณ์ให้กำลังเวียดกงและปรับยุทธภัณฑ์ให้เป็นมาตรฐานด้วยปืนเล็กยาวเอเค-47 และอย่างอื่น ตลอดจนการตั้งกองพลที่ 9 "จากกำลังประมาณ 5,000 คนเมื่อเริ่มต้นปี 2502 ขนาดของเวียดกงเติบโตเป็นประมาณ 100,000 คนเมื่อปลายปี 2507 ... ระหว่างปี 2504 ถึง 2507 ขนาดของกองทัพเพิ่มขึ้นจากประมาณ 850,000 นายเป็นเกือบหนึ่งล้านนาย" จำนวนทหารสหรัฐที่วางกำลังไปยังเวียดนามในช่วงเดียวกันมีน้อยกว่ามาก จาก 2,000 นายในปี 2504 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 16,500 นายในปี 2507 ในช่วงนี้ การใช้ยุทธภัณฑ์ที่ยึดได้ลดลง ขณะที่ต้องใช้จำนวนเครื่องกระสุนและเสบียงจำนวนสูงกว่ามากในการคงหน่วยตามแบบ กลุ่ม 559 ได้รับมอบหมายภารกิจให้ขยายเส้นทางสายโฮจิมินห์ ท่ามกลางการทิ้งระเบิดเกือบตลอดเวลาจากเครื่องบินรบสหรัฐ สงครามเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ระยะการสงครามตามแบบขั้นสุดท้ายของแบบจำลองการสงครามยืดเยื้อสามระยะของรัฐบาลเวียดนามเหนือ บัดนี้เวียดกงได้รับมอบหมายให้ทำลาย ARVN และยึดและถือครองพื้นที่ อย่างไก็ดี เวียดกงยังไม่แข็งกล้าพอที่จะโจมตีเมืองและนครใหญ่
ในเดือนธันวาคม 2507 กำลัง ARVN ประสบความสูญเสียใหญ่หลวงในยุทธการที่ Bình Giã ซึ่งทั้งสองฝ่ายมองว่าเป็นสันปันน้ำ ก่อนหน้านี้ VC ใช้ยุทธวิธีกองโจรตีแล้วหนี อย่างไรก็ดี ที่ Binh Gia พวกเขาเอาชนะกำลัง ARVN ที่เข้มแข็งในการรบตามแบบและอยู่ในสมรภูมินานสี่วัน กำลังเวียดนามใต้แพ้อีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2508 ที่ยุทธการที่ด่งสว่าย (Đồng Xoài)
สงครามภาคพื้นดินของสหรัฐ
วันที่ 8 มีนาคม 2508 นาวิกโยธินสหรัฐ 3,500 ขึ้นฝั่งใกล้กับดานัง ประเทศเวียดนามใต้ เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามภาคพื้นดินของสหรัฐ ความเห็นสาธารณะของสหรัฐสนับสนุนการวางกำลังนี้อย่างล้นหลาม ภารกิจทีแรกของนาวิกโยธินได้แก่การป้อมกันฐานทัพอากาศดานัง จำนวนพลเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 200,000 นายในเดือนธันวาคมปีนั้น ทหารสหรัฐได้รับการฝึกอบรมในการสงครามเชิงรุกมาช้านาน ไม่ว่านโยบายการเมืองเป็นอย่างไร แต่ผู้บังคับบัญชาสหรัฐไม่เหมาะสมทั้งในเชิงสถาบันและจิตวิทยาในภารกิจตั้งรับ
พลเอก วิลเลียม เวสต์มอร์แลนด์ แจ้งพลเรือเอก ยู. เอส. แกรนต์ ชาร์พ จูเนียร์ ผู้บังคับบัญชากองทัพแปซิฟิกของสหรัฐ ว่าสถานการณ์วิกฤต เขาว่า "ผมถูกโน้มน้าวให้เชื่อว่าทหารสหรัฐด้วยพลังงาน การเคลื่อนที่และอำนาจการยิงของพวกเขาสามารถประเคนศึกให้แก่ NLF (เวียดกง) ได้" ด้วยคำแนะนำนี้ เวสต์มอร์แลนด์กำลังสนับสนุนการแยกแบบก้าวร้าวจากท่าทีตั้งรับของสหรัฐและลดบทบาทของเวียดนามใต้ ด้วยการเพิกเฉยต่อหน่วย ARVN การผูกมัดของสหรัฐกลายเป็นปลายเปิด เวสต์มอร์แลนด์ร่างแผนสามจุดในการชนะสงคราม
- ระยะที่ 1 การผูกมัดกำลังสหรัฐ (และโลกเสรีอื่น) ที่จำเป็นต้องการหยุดยั้งแนวโน้มแพ้เรียบเมื่อปลายปี 2508
- ระยะที่ 2 กำลังสหรัฐและพันธมิตรดำเนินการปฏิบัติบุกครั้งใหญ่เพื่อฉวยการริเริ่มเพื่อทำลายกองโจรและกำลังข้าศึกที่จัดระเบียบ ระยะนี้ยุติลงเมื่อข้าศึกอ่อนล้า เปลี่ยนเป็นฝ่ายตั้งรับและถูกขับออกจากพื้นที่ที่มีประชากรมาก
- ระยะที่ 3 หากข้าศึกยังต่อสู้ จะต้องมีระยะเวลา 12 ถึง 18 เดือนหลังระยะที่ 2 ในการทำลายกำลังข้าศึกขั้นสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่ฐานทุรกันดาร
จอห์นสันอนุมัติแผนดังกล่าว และเป็นการเบี่ยงเบนอย่างลึกซึ้งจากการยืนยันของรัฐบาลก่อนว่ารัฐบาลเวียดนามใต้รับผิดชอบต่อการพิชิตกองโจร เวสต์มอร์แลนด์ทำนายชัยภายในสิ้นปี 2510 ทว่า จอห์นสันไม่สื่อสารการเปลี่ยนยุทธศาสตร์นี้กับสื่อ เขากลับเน้นย้ำความต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐขึ้นอยู่กับการประชันกับเวียดนามเหนือและเวียดกงในการแข่งการบั่นทอนกำลังและขวัญกำลังใจ คู่แข่งจะตัดอยู่ในวงจรการขยายขอบเขต ความคิดว่ารัฐบาลเวียดนามใต้สามารถจัดการกิจการของตนเองถูกพับไว้ เวสต์มอร์แลนด์และแม็กนามาราได้รับโน้มน้าวว่าระบบนับศพสำหรับวัดชัย ซึ่งเป็นตัววัดที่ภายหลังพิสูจน์แล้วว่ามีข้อบกพร่อง
การเสริมสร้างของสหรัฐเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของเวียดนามใต้และมีผลใหญ่หลวงต่อสงัคม เวียดนามใต้ท่วมท้นด้วยสินค้าบริโภค มีการเพิ่มการฉ้อราษฎร์บังหลวงขนานใหญ่เช่นกัน ขณะที่ทัวร์หน้าที่หนึ่งปีของทหารอเมริกันทำให้หน่วยขาดผู้นำที่มีประสบการณ์ ผู้สังเกตคนหนึ่งว่า "เราไม่ได้อยู่ในเวียดนาม 10 ปี แต่อยู่ 1 ปี 10 เที่ยว" ผลทำให้โครงการฝึกทหารย่นเวลาลง
รัฐบาลสหรัฐส่งเสริมพันธมิตรซีโต้ให้สนับสนุนกำลังพล ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไทยและฟิลิปปินส์ล้วนตกลงส่งทหาร ต่อมาเกาหลีใต้ขอเข้าร่วมโครงการเมนีแฟล็กเพื่อแลกกับการชดเชยทางเศรษฐกิจ ทว่าพันธมิตรสำคัญ โดยเฉพาะเนโท อย่างแคนาดาและสหราชอาณาจักร ปฏิเสธคำขอทหารของรัฐบาลสหรัฐ
สหรัฐและพันธมิตรดำเนินปฏิบติการ้นหาและทำลายที่ซับซ้อน ซึ่งออกแบบมาเพื่อค้นหากำลังข้าศึก ทำลายแล้วถอนกำลัง ตรงแบบใช้เฮลิคอปเตอร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2508 สหรัฐสับประยุทธ์ในการศึกใหญ่ครั้งแรกกับ PAVN ในยุทธการที่เอียดรัง (Ia Drang) ปฏิบัติการนี้เป็นการโจมตีทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ขนานใหญ่ครั้งแรกโดยสหรีฐ และเป็นครั้งแรกที่ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์โบอิง บี-52 สตราโตฟอร์เทรสในบทบาทสนับสนุนทางยุทธวิธี ยุทธวิธีเหล่านี้ดำเนินต่อในปี 2509–2510 ด้วยปฏิบัติการอย่าง Masher, Thayer, Attleboro, Cedar Falls และ Junction City อย่างไรก็ดี PAVN/VC ยังหลบเลี่ยงได้และแสดงความยืดหยุ่นทางยุทธวิธีอย่างดี เมื่อถึงปี 2510 ปฏิบัติการเหล่านี้ก่อให้เกิดผู้ลี้ภัยภายในขนานใหญ่ มีจำนวนเกือบ 2.1 ล้านคนในเวียดนามใต้ โดยมีการอพยพประชากร 125,000 คนและทำให้ไร้บ้านระหว่างปฏิบัติการมาเชอร์ครั้งเดียว ซึ่งเป็นปฏิบัติการค้นหาและทำลายใหญ่สุดในสงครามจนถึงเวลานั้น ปฏิบัติการมาเชอร์จะมีผลลัพธ์เพียงเล็กน้อย เนื่องจาก PAVN/VC กลับสู่จังหวัดนั้นเพียงสี่เดือนหลังสิ้นสุดปฏิบัติการ แม้มีการดำเนินปฏิบัติการใหญ่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวียดกงและ PAVN ตรงแบบจะหลบเลี่ยง สงครามมีลักษณะการปะทะหรือยุทธนาการของหน่วยขนาดเล็ก จนสงครามยุติ เวียดกงและ PAVN จะริเริ่มการยิงปะทะขนาดใหญ่ 90% ซึ่ง 80% เป็นปฏิบัติการที่ชัดเจนและวางแผนอย่างดี ฉะนั้น PAVN/เวียดกงจะยังคงการริเริ่มทางยุทธศาสตร์แม้สหรัฐวางกำลังและมีอำนาจการยิงที่เหนือกว่ามาก PAVN/เวียดกงยังพัฒนายุทธศาสตร์ที่สามารถตอบโต้หลักนิยมและยุทธวิธีของกองทัพสหรัฐ
ขณะเดียวกัน สถานการณ์การเมืองในเวียดนามใต้เริ่มมีเสถียรภาพด้วยการเถลิงอำนาจของนายกรัฐมนตรี เหงียน กาว กี่ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ และประมุขแห่งรัฐเชิงพิธีการ พลเอก เหงียน วัน เถี่ยว ในกลางปี 2508 เป็นหัวหน้าคณะทหารผู้ยึดอำนาจปกครอง เป็นการยุติรัฐประหารหลายครั้งที่เกิดขึ้นในรอบปี ในปี 2510 เถี่ยวเป็นประธานาธิบดีโดยมีกี่เป็นรองประธานาธิบดีหลังการจัดการเลือกตั้งที่มีการเตรียมผลไว้ล่วงหน้า แม้เป็นรัฐบาลพลเรือนในนาม แต่กี่ยังคงอำนาจแท้จริงผ่านองค์กรทหารหลังฉาก อย่างไรก็ดี เถี่ยวเอาชนะกี่ด้วยเล่ห์กลและบดบังเขาโดยการเลื่อนยศนายพลจากกลุ่มของเขา เถี่ยวยังถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้ภักดีต่อกี่ผ่านอุบัติเหตุทางทหารที่วางแผนไว้ เถี่ยวยังเป็นประธานาธิบดีจนถึงปี 2518 โดยชนะการเลือกตั้งที่มีผู้ลงสมัครคนเดียวในปี 2514
รัฐบาลจอห์นสันใช้ "นโยบายความโปร่งใสน้อยที่สุด" ในการจัดการกับสื่อ นายทหารสารนิเทศทหารมุ่งจัดการการรายงานของสื่อโดยเน้นนิยายที่บอกเล่าความคืบหน้าในสงคราม เมื่อเวลาผ่านไปนโยบายนี้ทำให้ความเชื่อมั่นของสาธารณะลดลงในประกาศราชการ เมื่อการรายงานในสื่อและกระทรวงกลาโหมแตกต่างกันมากขึ้น ทำให้เกิดสิ่งที่เรียก ช่องว่างความเชื่อมั่น แม้จอห์นสันและเวสต์มอร์แลนด์ประกาศว่ากำลังชนะ แต่รายงานภายในในเอกสารเพนตากอนบ่งชี้ว่ากำลังเวียดกงยังมีข้อริเริ่มทางยุทธศาสตร์ และสามารถควบคุมการสูญเสียได้อย่างกว้างขวาง โดยร้อยละ 30 ของยุทธนาการทั้งหมด เป็นการโจมตีของเวียดกงต่อที่ตั้งสหรัฐที่อยู่กับที่ 23% เป็นการซุ่มโจมตีและการโอบล้อมของ VC/PAVN และเพียง 5% เป็นการเข้าตีที่ตั้งของเวียดกงของสหรัฐ และ 9% เป็นการซุ่มโจมตีของสหรัฐต่อกำลังเวียดกง/PAVN
ชนิดของยุทธนาการในการบรรยายการรบ | ร้อยละของยุทธนาการทั้งหมด | หมายเหตุ |
---|---|---|
การลงจอดรุนแรง การเข้าตีของ VC/PAVN ขณะวางกำลัง | 12.5% | การเข้าตีของ VC/PAVN ที่มีการวางแผน คิดเป็นร้อยละ 66.2 ของยุทธนาการทั้งหมด |
การเข้าตีของ VC/PAVN ต่อวงรอบตั้งรับของสหรัฐ | 30.4% | |
การซุ่มโจมตีหรือโอบล้อมหน่วยสหรัฐที่กำลังเคลื่อนที่ของ VC/PAVN | 23.3% | |
การเข้าตีของสหรัฐที่ไม่วางแผนต่อวงรอบตั้งรับของ VC/PAVN ยุทธนาการที่เป็นการจู่โจมต่อผู้บังคับบัญชาสหรัฐ | 12.5% | ที่ตั้งรับซึ่งปกปิดอย่างดี หรือ VC/PAVN ที่ถูกเตือนหรือคาดหมาย |
การเข้าตีของสหรัฐที่มีการวางแผนต่อ วงรอบตั้งรับของ VC/PAVN | 5.4% | การเข้าตีของสหรัฐที่มีการวางแผนต่อ VC/PAVN คิดเป็นร้อยละ 14.3 ของยุทธนาการทั้งหมด |
กำลังสหรัฐซุ่มโจมตีหน่วย VC/PAVN ที่กำลังเคลื่อนที่ | 8.9% | |
ยุทธนาการโดยบังเอิญ ไม่มีการวางแผนทั้งสองฝ่าย | 7.1% |
การรุกตรุษญวน
ปลายปี 2510 PAVN ลวงกำลังอเมริกันให้เข้าสู่แดนหลังเทือกเขาที่ Đắk Tô และฐานทัพเคซานของนาวิกโยธินในจังหวัดกว๋างจิ ที่ซึ่งสหรัฐประจันบานในชุดการรบชื่อ การต่อสู้บนเขา (The Hill Fights) การปฏิบัติเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เบี่ยงเบนความสนใจซึ่งตั้งใจดึงกำลังสหรัฐให้เข้าสู่เขตที่สูงภาคกลาง มีการเตรียมการรุกตรุษญวนโดยเจตนาของ Văn Tiến Dũng สำหรับกำลังให้เปิดฉาก "การโจมตีโดยตรงต่อศูนย์กลางประสาทของอเมริกาและหุ่นเชิด ไซ่ง่อน เว้ ดานัง ทุกนคร เมืองและฐานหลัก ..." เล ดวนมุ่งปลอบนักวิจารณ์ภาวะกินไม่ลงที่กำลังดำเนินอยู่โดยวางแผนคว้าชัยอย่างเด็ดขาด เขาให้เหตุผลว่าสามารถบรรลุได้ผ่านการจุดประกายการก่อการกำเริบใหญ่ในเมืองและนคร ร่วมกับการแปรพักตร์หมู่ในหน่วย ARVN ซึ่งกำลังพักวันหยุดในช่วงพักรบ
การรุกตรุษญวนเปิดฉากในวันที่ 30 มกราคม 2511 เมื่อนครกว่า 100 นครถูกโจมตีโดยเวียดกง/PAVN กว่า 85,000 คน รวมทั้งโจมตีสถานที่ทางทหาร สำนักงานใหญ่ อาคารและสำนักงานราชการหลายแห่ง รวมทั้งสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงไซ่ง่อน กำลังสหรัฐและเวียดนามใต้รู้สึกตะลึงกับขนาด ความเข้มและการวางแผนของการรุกในเมืองในทีแรก เพราะมีการแทรกซึมของคนและอาวุธเข้าสู่นครอย่างลับ ๆ การรุกนี้เป็นความล้มเหลวของข่าวกรองในขอบเขตเท่ากับเพิร์ลฮาร์เบอร์ นครส่วนใหญ่ถูกยึดคืนได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ยกเว้นอดีตเมืองหลวงสมัยกษัตริย์ เว้ ซึ่งทหารเวียดกง/PAVN ยึดนครได้เป็นส่วนใหญ่และป้อมปราการได้ ยกเว้นกองบัญชาการของกองพลที่ 1 และรักษาไว้ได้เป็นเวลา 26 วัน ในช่วงนั้น ทหารเวียดนามใต้ประหารชีวิตพลเรือนและคนต่างด้าวจำนวนประมาณ 2,800 คนเพราะสงสัยว่าเป็นสายลับ ในยุทธการที่เว้ กำลังสหรัฐใช้อำนาจการยิงสูงทำให้พื้นที่นครร้อยละ 80 เป็นซาก เหนือขึ้นไป ที่กวังตรี กองพลส่งทางอากาศ ARVN กองพลที่ 1 และ 1 กรมจากกองพลทหารม้าที่ 1 จัดการต้านและเอาชนะการโจมตีที่หมายยึดนครได้ ในกรุงไซ่ง่อน นักรบเวียดกง/PAVN ยึดพื้นที่ในและรอบนคร โจมตีสิ่งก่อส้างสำคัญและย่าน Cholon ก่อนกำลังสหรัฐและ ARVN ปลดปล่อยได้ในเวลาสามสัปดาห์ ปีเตอร์ อาร์เน็ตรายงานผู้บังคับบัญชาทหารราบนายหนึ่งว่า "จำเป็นต้องทำลายหมู่บ้านเพื่อรักษามันไว้"
ระหว่างเดือนแรกของปฏิบัติการ ทหารอเมริกันและพันธมิตรเสียชีวิต 1,100 คน ARVN เสียชีวิต 2,100 คน และพลเรือนเสียชีวิต 14,000 คน เมื่อสิ้นสุดการรุกครั้งแรกเมื่อผ่านไปสองเดือน กำลัง ARVN เสียชีวิตเกือบ 5,000 คน และกำลังสหรัฐเสียชีวิตกว่า 4,000 คนและได้รับบาดเจ็บ 45,820 คน สหรัฐอ้างว่า PAVN และเวียดกงเสียชีวิต 17,000 คน และได้รับบาดเจ็บ 15,000 คน เดือนต่อมา มีการเปิดฉากการรุกครั้งที่สองหรือการรุกเดือนพฤษภาคม แม้ไม่ได้กว้างขวางเท่าครั้งแรก แต่แสดงให้เห็นว่าเวียดกงยังสามารถดำเนินการรุกทั่วประเทศได้อยู่ สองเดือนต่อมา มีการเปิดฉากการรุกครั้งที่สามเรียก การรุกระยะที่ 3 รายงานอย่างเป็นทางการของ PAVN สรุปว่าฝ่ายตนเสียชีวิต 45,267 คน และกำลังพลสูญเสียทั้งหมด 111,179 คน จนถึงเวลานั้นเป็นปีที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด เป้าหมายจุดประกายการก่อการกำเริบใหญ่และการขาดการแปรพักตร์ในหน่วย ARVN หมายความว่าเป้าหมายสงครามของเวียดนามเหนือล้มเหลวโดยมีราคาแพง
ความเห็นชอบของสาธารณะต่อสมรรถนะโดยรวมของนายพลเวสต์มอร์แลนด์ของสหรัฐลดลงจากร้อยละ 48 เหลือ 36 การสนับสนุนความพยายามของสงครามลดลงจากร้อยละ 40 เหลือ 26 สาธารณชนและสื่ออเมริกันเริ่มคัดค้านรัฐบาลจอห์นสันเมื่อการรุกทั้งสามครั้งขัดต่อข้ออ้างความคืบหน้าของรัฐบาลจอห์นสันและกองทัพ จุดหนึ่งในปี 2511 เวสต์มอร์แลนด์พิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ในประเทศเวียดนาม แต่ยกเลิกไปหลังรัฐบาลทราบข่าว เวสต์มอร์แลนด์ขอทหารเพิ่มอีก 200,000 นาย ซึ่งรั่วไหลไปยังสื่อ เมื่อประกอบกับความล้มเหลวของข่าวกรองทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม 2511
วันที่ 10 พฤษภาคม 2511 เริ่มมีการเจรจาสันติภาพระหว่างสหรัฐและเวียดนามเหนือในกรุงปารีส การเจรจาชะงักเป็นเวลาห้าเดือน จนจอห์นสันสั่งยุติการทิ้งระเบิดเวียดนามเหนือ ขณะเดียวกันรัฐบาลเวียดนามเหนือเองก็ตระหนักว่าตนไม่อาจคว้าชัยได้อย่างเด็ดขาด และใช้ยุทธศาสตร์คุยไปสู้ไป ความนิยมของจอห์นสันตกลงด้วยเช่นกัน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2511 ริชาร์ด นิกสัน ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้ง โดยอ้างว่ามีแผนลับยุติสงคราม
การแผลงเป็นเวียดนาม 2512–15
ภัยคุกคามและการทูตนิวเคลียร์
ประธานาธิบดีสหรัฐ ริชาร์ด นิกสัน เริ่มถอนทหารสหรัฐในปี 2512 เขาวางแผนสร้างเสริม ARVN เพื่อให้รับช่วงป้องกันเวียดนามใต้แทน เรียก "การแผลงเป็นเวียดนาม" ขณะที่ PAVN/VC กำลังฟื้นตัวจากการสูญเสียในปี 2511 และยังหลบเลี่ยงการปะทะอยู่เป็นส่วนใหญ่ เครย์ตัน เอบรามส์ ที่รับช่วงต่อเวสต์มอร์แลนด์ ดำเนินปฏิบติการที่มุ่งขัดขวางลอจิสติกส์ โดยใช้อำนาจการยิงและมีการประสานงานมากกว่า ARVN วันที่ 27 ตุลาคม 2512 นิกสันสั่งฝูงบินบี-52 จำนวน 18 ลำที่บรรทุกอาวุธนิวเคลียร์บินไปน่านฟ้าโซเวียตเพื่อโน้มน้าวโซเวียตว่าเขาพร้อมทำทุกสิ่งเพื่อยุติสงคราม ตามแผนคนบ้า
ยุทธศาสตร์ของเวียดนามเหนือ
ในเดือนกันยายน 2512 โฮจิมินห์ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 72 ปี ความล้มเหลวของการรุกตรุษญวนซึ่งไม่สามารถทำให้เกิดการก่อการกำเริบของประชาชนทำให้เกิดการเปลี่ยนยุทธศาสตร์สงครามของเวียดนามเหนือ โดยกลุ่มแยก "ทิศเหนือมาก่อน" ของซ้าปและ Chinh กลับเข้าควบคุมกิจการกองทัพอีกครั้งจากกลุ่มแยก "ทิศใต้มาก่อน" มีการเปลี่ยนจากการแสวงชัยชนะนอกแบบมาเป็นการแสวงชัยตามแบบผ่านการพิชิตดินแดน มีการยกเลิกการรุกขนาดใหญ่แล้วหันไปใช้หน่วยเล็กและพลขุดอุโมงค์ ตลอดจนยุทธศาสตร์การสร้างความสงบและแผลงเป็นเวียดนาม ในระยะสองปีหลังการรุกตรุษญวน PAVN เริ่มแปลงสภาพจากกำลังเคลื่อนที่จำกัดทหารราบเบา เป็นกำลังผสมเหล่ามียานยนต์และเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว
เรื่องอื้อฉาวในสหรัฐ
ขบวนการต่อต้านสงครามมีกำลังมากขึ้นในสหรัฐ นิกสันเรียกร้องต่อ "พลังเงียบส่วนใหญ่" ซึ่งเขาว่าสนับสนุนสงครามแต่ไม่แสดงออกในที่สาธารณะ แต่เมื่อทราบข่าวการสังหารหมู่ที่หมีลายปี 2511 ซึ่งหน่วยรบของกองทัพบกสหรัฐฆ่าข่มขืนกระทำชำเราพลเรือน และ "เรื่องอื้อฉาวกรีนเบเรต์" ปี 2512 ซึ่งทหารหน่วยรบพิเศษ 8 นาย รวมทั้งผู้บัญชาการกลุ่มรบพิเศษที่ 5 ถูกจับกุมฐานฆ่าผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับสองหน้า ทำให้เกิดความเดือดดาลในระดับชาติและนานาชาติ
ในปี 2514 เอกสารเพนตากอนเกิดรั่วไหลสู่หนังสือพิมพ์ เดอะนิวยอร์กไทมส์ เอกสารดังกล่าวว่าด้วยประวัติศาสตร์ลับสุดยอดของการเข้ามีส่วนของสหรัฐในเวียดนามซึ่งจัดทำโดยกระทรวงกลาโหม เล่าถึงการหลอกลวงของรัฐบาลสหรัฐในรายละเอียดยาว ศาลสูงสุดวินิจฉัยว่าการจัดพิมพ์เอกสารดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย
ขวัญของสหรัฐหดหาย
คล้อยหลังการรุกตรุษญวนและการเสียการสนับสนุนสงครามในหมู่สาธารณชนอเมริกัน กำลังสหรัฐเริ่มเข้าสู่ช่วงขวัญตกต่ำ การมองเห็นความจริงและการไม่เชื่อฟังคำสั่ง ในประเทศ อัตราหนีทหารเพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบจากปี 2509 ในหมู่ทหารเกณฑ์ มีเพียงร้อยละ 2.5 ที่เลือกตำแหน่งรบทหารราบในปี 2512–13 อัตราการสมัครเข้าเหล่าฝึกนายทหารกองหนุน (Reserve Officers' Training Corps) ลดลงจาก 191,749 นายในปี 2509 เหลือ 72,459 นายในปี 2514 จนแตะระดับต่ำสุดตลอดกาล 33,220 นายในปี 2517 ทำให้กองทัพสหรัฐขาดแคลนนายทหารที่จำเป็นอย่างยิ่ง
การปฏิเสธการปฏิบัติลาดตระเวนหรือปฏิบัติตามคำสั่งและการขัดขืนเริ่มปรากฏขึ้นในช่วงเดียวกัน โดยมีกรณีหนึ่งทหารทั้งกองร้อยปฏิเสธรับคำสั่งหรือดำเนินปฏิบัติการใด ๆ ความเชื่อมแน่นของหน่วยเริ่มสลายและสนใจแต่การลดการปะทะกับเวียดกงและ PAVN ให้น้อยที่สุด เริ่มปรากฏการปฏิบัติที่เรียกว่า "ถุงทราย" (sand-bagging) ซึ่งหน่วยที่ได้รับคำสั่งให้ออกลาดตระเวนจะออกไปชนบท หาจุดที่อยู่พ้นวิสัยของผู้บังคับบัญชาและที่เหลือ พร้อมกับวิทยุรายงานพิกัดและรายงานหน่วยเท็จ การใช้ยาเสพติดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่ทหารอเมริกันช่วงนี้ โดยกำลังพลร้อยละ 30 ใช้กัญชาเป็นประจำ และคณะอนุกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรพบว่ากำลังพลอเมริกันร้อยละ 10–15 ในเวียดนามใช้เฮโรอีนเกรดสูงเป็นประจำ หลังจากปี 2512 เป็นต้นมา ปฏิบัติการค้นหาและทำลายกลายเป็น "ค้นหาและหลบหลีก" หรือ "ค้นหาและหลบเลี่ยง" ปลอมแปลงรายงานการรบแต่หลบนักรบกองโจร มีการสอบสวนรายงานการธำรงวินัยหรือต้องสงสัยรวม 900 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดระหว่างปี 2512 ถึง 2514 ในปี 2512 สมรรถนะภาคสนามของกำลังสหรัฐมีลักษณะแบบขวัญต่ำ ขาดแรงจูงใจและมีความเป็นผู้นำขั้นเลว การลดลงอย่างสำคัญของขวัญสหรัฐปรากฏในยุทธการที่ FSB Mary Ann ในเดือนมีนาคม 2514 ซึ่งคนขุดอุโมงค์สามารถก่อความเสียหายร้ายแรงต่อฝายป้องกันสหรัฐ
ARVN นำแทน และกำลังภาคพื้นสหรัฐถอนกำลัง
เริ่มตั้งแต่ปี 2513 ทหารสหรัฐถูกถอนออกจากบริเวณชายแดนอันเป็นที่สู้รบส่วนใหญ่ และถูกวางกำลังใหม่ตามชายฝั่งและด้านในประเทศ กำลังพลสูญเสียของสหรัฐในปี 2513 มีน้อยกว่าในปี 2512 ถึงครึ่งหนึ่งหลังถูกมอบหมายให้ต่อสู้น้อยลง ขณะเดียวกัน ARVN รับช่วงปฏิบัติการรบทั่วประเทศ และมีกำลังพลสูญเสียเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของกำลังพลสูญเสียของสหรัฐในปี 2512 และเพิ่มขึ้นเป็นกว่าสามเท่าของปี 2513 ในสิ่งแวดล้อมหลังการรุกตรุษญวน จำนวนสมาชิกในกำลังภูมิภาคเวียดนามใต้และทหารอาสาสมัครกำลังประชาชนเติบโตขึ้น และทั้งสองมีความสามารถในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ในขณะที่กำลังอเมริกันไม่สามารถ
ในปี 2513 ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันประกาศถอนทหารอเมริกันอีก 150,000 นาย ทำให้จำนวนทหารอเมริกันเหลือ 265,500 นาย จนถึงปีนั้น กำลังเวียดกงไม่ได้ประกบด้วยชาวเวียดนามใต้เป็นส่วนใหญ่อีกต่อไป โดยเกือบร้อยละ 70 เป็นชาวเวียดนามเหนือ ระหว่างปี 2512 ถึง 2514 เวียดกงและ PAVN บางหน่วยถูกเปลี่ยนกลับไปเป็นยุทธวิธีหน่วยขนาดเล็กตรงแบบอย่างปี 2510 และก่อนหน้านั้น แทนการรุกขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ในปี 2514 ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ถอนทหาร และทหารสหรัฐลดเหลือ 196,700 นาย สหรัฐยังลดกำลังสนับสนุน และในเดือนมีนาคม 2514 กลุ่มกำลังพิเศษที่ 5 หน่วยอเมริกันหน่วยแรกที่ถูกส่งไปยังเวียดนามใต้ ก็ถูกส่งกลับประเทศด้วย
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อUSd&w
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อstart date
- The (with an authorized strength of 128 men) was set up in September 1950 with a mission to oversee the use and distribution of US military equipment by the French and their allies.
- "พรรคชาตินิยมเวียดนาม" เดิมก่อตั้งขึ้นในนานกิง ประเทศจีน ระหว่างเดือนสิงหาคม 2478 และต้นปี 2479 เมื่อพรรคชาตินิยมเวียดนาม นำโดย เหวียน ไท ฮ็อก และสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนบางคน และสมาชิกพรรคชาตินิยมเวียดนามอื่นจำนวนหนึ่งก่อตั้งแนวร่วมต่อต้านจักรวรรดินิยม ไม่นานองค์การนี้ก็หมดความเคลื่อนไหวไป จนพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนและโฮจิมินห์รื้อฟื้นในปี 2484
อ้างอิง
- "Foreign Affairs in the 1960s and 1970s". Library of Congress. 1992.
Throughout the 1960s and 1970s, Bulgaria gave official military support to many national liberation causes, most notably in the Democratic Republic of Vietnam, (North Vietnam)...
- Le Gro, p. 28.
- . Historycentral.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-25. สืบค้นเมื่อ 17 October 2009.
- "Facts about the Vietnam Veterans Memorial Collection". nps.gov. (citing The first American ground combat troops landed in South Vietnam during March 1965, specifically the U.S. Third Marine Regiment, Third Marine Division, deployed to Vietnam from Okinawa to defend the Da Nang, Vietnam, airfield. During the height of U.S. military involvement, 31 December 1968, the breakdown of allied forces were as follows: 536,100 U.S. military personnel, with 30,610 U.S. military having been killed to date; 65,000 Free World Forces personnel; 820,000 South Vietnam Armed Forces (SVNAF) with 88,343 having been killed to date. At the war's end, there were approximately 2,200 U.S. missing in action (MIA) and prisoner of war (POW). Source: Harry G. Summers, Jr. Vietnam War Almanac, Facts on File Publishing, 1985.)
- . Google Books. 8 March 1965. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-20. สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- Vietnam War After Action Reports, BACM Research, 2009, page 430
- "China admits 320,000 troops fought in Vietnam". Toledo Blade. Reuters. 16 May 1989. สืบค้นเมื่อ 24 December 2013.
- Roy, Denny (1998). China's Foreign Relations. Rowman & Littlefield. p. 27. ISBN .
- China and Vietnam: The Politics of Asymmetry. Cambridge University Press 2006. Brantly Womack. P. 176
- Lewy 1978, pp. 450–3.
- Thayer 1985, chap. 12 .
- Aaron Ulrich (editor); Edward FeuerHerd (producer and director) (2005, 2006). Heart of Darkness: The Vietnam War Chronicles 1945–1975 (Box set, Color, Dolby, DVD-Video, Full Screen, NTSC, Dolby, Vision Software) (Documentary). Koch Vision. เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ 321 minutes. ISBN .
- Rummel, R.J (1997), "Table 6.1A. Vietnam Democide : Estimates, Sources, and Calculations" (GIF), Freedom, Democracy, Peace; Power, Democide, and War, University of Hawaii System
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-16. สืบค้นเมื่อ 2012-10-25.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-26. สืบค้นเมื่อ 2012-10-25.
- The Encyclopedia of the Vietnam War: A Political, Social, and Military History By Spencer C. Tucker
- "Vietnam War Casualties". Vietnamgear.com. 3 April 1995. สืบค้นเมื่อ 17 October 2009.
- Rummel 1997.
- Soames, John. A History of the World, Routledge, 2005.
- Dunnigan, James & Nofi, Albert: Dirty Little Secrets of the Vietnam War: Military Information You're Not Supposed to Know. St. Martin's Press, 2000, p. 284. .
- (1978). America in Vietnam. Oxford University Press. ISBN .
- Shenon, Philip (23 April 1995). "20 Years After Victory, Vietnamese Communists Ponder How to Celebrate". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 24 February 2011.
The Vietnamese government officially claimed a rough estimate of 2 million civilian deaths, but it did not divide these deaths between those of North and South Vietnam.
- Obermeyer, Ziad; Murray, Christopher J L; Gakidou, Emmanuela (23 April 2008). "Fifty years of violent war deaths from Vietnam to Bosnia: analysis of data from the world health survey programme". British Medical Journal. 336 (7659): 1482–1486. doi:10.1136/bmj.a137. PMC 2440905. PMID 18566045.
From 1955 to 2002, data from the surveys indicated an estimated 5.4 million violent war deaths ... 3.8 million in Vietnam
- Hirschman, Charles; Preston, Samuel; Vu, Manh Loi (December 1995). "Vietnamese Casualties During the American War: A New Estimate" (PDF). . 21 (4): 783. doi:10.2307/2137774. JSTOR 2137774.
- Heuveline, Patrick (2001). "The Demographic Analysis of Mortality Crises: The Case of Cambodia, 1970–1979". Forced Migration and Mortality. . pp. 102–04, 120, 124. ISBN .
As best as can now be estimated, over two million Cambodians died during the 1970s because of the political events of the decade, the vast majority of them during the mere four years of the 'Khmer Rouge' regime. ... Subsequent reevaluations of the demographic data situated the death toll for the [civil war] in the order of 300,000 or less.
- Banister, Judith; Johnson, E. Paige (1993). Genocide and Democracy in Cambodia: The Khmer Rouge, the United Nations and the International Community. Yale University Southeast Asia Studies. p. 97. ISBN .
An estimated 275,000 excess deaths. We have modeled the highest mortality that we can justify for the early 1970s.
- Sliwinski, Marek (1995). Le Génocide Khmer Rouge: Une Analyse Démographique [The Khmer Rouge genocide: A demographic analysis]. . pp. 42–43, 48. ISBN .
- Factasy. "The Vietnam War or Second Indochina War". PRLog. สืบค้นเมื่อ 29 June 2013.
- (Conference Transcript). Washington, DC: The Nixon Center. April 1998. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-01. สืบค้นเมื่อ 5 September 2012 – โดยทาง International Relations Department, Mount Holyoke College.
- "Vietnam War". Encyclopædia Britannica. สืบค้นเมื่อ 5 March 2008.
Meanwhile, the United States, its military demoralized and its civilian electorate deeply divided, began a process of coming to terms with defeat in its longest and most controversial war
- Friedman, Herbert. "Allies of the Republic of Vietnam". สืบค้นเมื่อ 1 May 2019.
- Lind, Michael (1999). "Vietnam, The Necessary War: A Reinterpretation of America's Most Disastrous Military Conflict". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 17 January 2014.
- Eckhardt, George (1991). . Department of the Army. p. 6. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-19. สืบค้นเมื่อ 2020-06-11.
- Ang, Cheng Guan (2002). The Vietnam War from the Other Side. RoutledgeCurzon. ISBN .
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 August 2016. สืบค้นเมื่อ 1 June 2018.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHastings2
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAng2
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHastings
- Li, Xiaobing (2010). Voices from the Vietnam War: Stories from American, Asian, and Russian Veterans. University Press of Kentucky. p. 85. ISBN .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อAWL2
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHastings3
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อPribbenow
- Pilger, John (2001). Heroes. South End Press. p. 238. ISBN .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อTucker
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHirschman2
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อObermeyer2
- Kalb, Marvin (22 January 2013). "It's Called the Vietnam Syndrome, and It's Back". Brookings Institution. สืบค้นเมื่อ 12 June 2015.
- Horne, Alistair (2010). Kissinger's Year: 1973. Phoenix Press. pp. 370–1. ISBN .
- Ooi, Keat Gin. Southeast Asia: a historical encyclopedia, from Angkor Wat to East Timor. ABC-CLIO; 2004. . p. 520.
- Rai, Lajpat. Social Science[]. FK Publications; . p. 22.
- Dommen, Arthur J.. The Indochinese experience of the French and the Americans: nationalism and communism in Cambodia, Laos, and Vietnam. Indiana University Press; 2001. . p. 4–19.
- Neale 2001, p. 3 .
- Neale 2001, p. 17 .
- Sophie Quinn-Judge (2003). Ho Chi Minh: the missing years, 1919–1941. C. Hurst. pp. 212–213. ISBN .
- Tucker 1999, p. 42
- Brocheux 2007, p. 198
- Neale 2001, p. 18 .
- Koh, David (21 August 2008). . The Straits Times. Singapore. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-19. สืบค้นเมื่อ 2014-05-05.
- Neale 2001, pp. 18–9 .
- Kolko 1985, p. 36 .
- Neale 2001, p. 19 .
- Neale 2001, p. 20 .
- Interview with Archimedes L. A. Patti, 1981, http://openvault.wgbh.org/catalog/vietnam-bf3262-interview-with-archimedes-l-a-patti-1981
- Kolko 1985, p. 37 .
- Dommen, Arthur J. (2001), The Indochinese Experience of the French and the Americans, Indiana University Press, pg. 120. "According to one estimate, 15,000 nationalists were massacred" in the summer of 1946 (pg. 154). In addition, "100,000 to 150,000 [civilians] had been assassinated by the Viet Minh" by the end of the First Indochina war (pg. 252).
- "ベトナム独立戦争参加日本人の事跡に基づく日越のあり方に関する研究" (PDF). 井川 一久. Tokyo foundation. October 2005. สืบค้นเมื่อ 10 June 2010.
- "日越関係発展の方途を探る研究 ヴェトナム独立戦争参加日本人―その実態と日越両国にとっての歴史的意味―" (PDF). 井川 一久. Tokyo foundation. May 2006. สืบค้นเมื่อ 10 June 2010.
- Willbanks 2009, p. 8
- Neale 2001, p. 24 .
- Neale 2001, pp. 23–4 .
- Willbanks 2009, p. 9
- "Franco-Vietnam Agreement of March 6th, 1946". Vietnamgear.com. 6 March 1946. สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- . Mtholyoke.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-02. สืบค้นเมื่อ 29 April 2011.
- Peter Dennis (1987). Troubled days of peace: Mountbatten and South East Asia command, 1945–46. Manchester University Press ND. p. 179. ISBN .
- Neale 2001, p. 25 .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อWarBegan
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อGS
แหล่งข้อมูลอื่น
- Lessons from Vietnam and Other Small Wars[] จาก กรมข่าวทหารอากาศ
- A Vietnam Diary's Homecoming Video produced by the PBS Series
- Detailed bibliography of Vietnam War
- Documents Relating to American Foreign Policy–Vietnam 2012-08-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน primary sources on U.S. involvement
- from the
- Glossary of Military Terms & Slang from the Vietnam War
- Impressions of Vietnam and descriptions of the daily life of a soldier from the oral history of Elliott Gardner, U.S. Army 2011-04-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- in Open-Content project
- The U.S. Army in Vietnam the official history of the United States Army
- The Vietnam War at The History Channel
- UC Berkeley Library Social Activism Sound Recording Project: Anti-Vietnam War Protests
- comprehensive timeline of the Vietnam War
- Virtual Vietnam Archive – Texas Tech University
- 1965–1975 Another Vietnam; Unseen images of the war from the winning side –
- Archival collections about the Vietnam War, University Archives and Special Collections, Joseph P. Healey Library,
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
sngkhramewiydnam ewiydnam Chiến tranh Việt Nam hruxxikchuxhnungwa sngkhramxinodcinkhrngthisxng aelainewiydnameriykwa sngkhramtxtanxemrika ewiydnam Khang chiến chống Mỹ hruxeriykngay wa sngkhramxemrika epnkhwamkhdaeynginewiydnam law aelakmphucha tngaetwnthi 1 phvscikayn 2498 cnkrungisngxnthukyud emuxwnthi 30 emsayn ph s 2518 epnsngkhramxinodcinkhrngthisxngaelaepnkartxsurahwangewiydnamehnuxaelaewiydnamitxyangepnthangkar ewiydnamehnuxidrbkarsnbsnuncakshphaphosewiyt aelacin aelapraethsphnthmitrfaylththikhxmmiwnistxun ewiydnamitidrbkarsnbsnunodyshrth ekahliit filippins xxsetreliy ithy aelapraethsphnthmitrfaytxtanlththikhxmmiwnistxun bangkhnthuxsngkhramniepnsngkhramtwaethninyukhsngkhrameyn sungkinrayaewlathung 19 pi odykarmiswnekiywkhxngodytrngkhxngshrthsinsudlnginpi 2516 aelarwmipthungsngkhramklangemuxnglaw aelasngkhramklangemuxngkmphuchasungcblngdwythngsampraethsidklayepnkhxmmiwnistinpi 2518sngkhramewiydnamswnhnungkhxng sngkhramxinodcin aelasngkhrameynwnthi1 phvscikayn 2498 30 emsayn 2518 19 pi 5 eduxn 4 spdah aela 1 wn sthanthipraethsewiydnamit ewiydnamehnux kmphucha aelalawphlewiydnamehnuxaelaewiydkng PRG chna thharshrththxnxxkcakewiydnam kalngkhxmmiwnistethlingxanacinewiydnamit kmphuchaaelalaw karrwmpraethsewiydnam karerimtnsngkhramkmphucha ewiydnam karerimtnwikvtchaweruxewiydnamaelawikvtphuliphyxinodcin pra chathipityaelaerimtndinaedn epliynaeplngewiydnamehnuxaelaewiydnamitrwmknepnsatharnrthsngkhmniymewiydnamkhusngkhramkalngtxtankhxmmiwnist ewiydnamit shrth ekahliit xxsetreliy ithy niwsiaelnd satharnrthekhmr rachxanackrlaw odyidrbkarsnbsnuncak filippins shrachxanackr frngess yipun sepn ckrwrrdixihran xisraexlkalngkhxmmiwnist ewiydnamehnux ewiydkng ekhmraedng paethdlaw odyidrbkarsnbsnuncak cin shphaphosewiyt khiwba ekahliehnux echoksolwaekiy blaekeriyphubngkhbbychaaelaphunaong diy esiym ehngiyn wn ethiyw ehngiyn kaw ki esuxng wn miy lindxn bi cxhnsn richard niksn orebirt aemknamara pk chxng hi svsdi thnarcht thnxm kittikhcr lohciminh el swn hwx engwiyn sap fm wn dng hhwiy etin fat ehngiyn huw ethaa ehngiyn wn liy el duk xy hwx ci kng hwx wn ekiyt lkalng 1 830 000 2511 ewiydnamit 850 000 1 500 000 2517 8 shrth 536 100 65 000 aebngepn ekahliit 50 000 xxsetreliy 7 672 ithy 10 450 filippins 2 061 niwsiaelnd 552 461 000 ewiydnamehnux 287 465 mkrakhm 2511 cin 170 000 2508 12 shphaphosewiyt 3 000 ekahliehnux 300 600khwamsuyesiyewiydnamit phleruxntay 195 000 430 000 khn thhartay 220 357 313 000 nay praeminsungsud badecb 1 170 000 nay shrth tay 58 220 nay badecb 303 644 nay ekahliit tay 5 099 nay badecb 10 962 nay suyhay 4 nay xxsetreliy tay 500 nay badecb 3 129 nay niwsiaelnd tay 37 nay badecb 187 nay ithy tay 351 nay badecb 1 358 nay rachxanackrlaw tay 30 000 khn badecbimthrabcanwn rwmyxdphutay 480 538 807 564 rwmyxdphubadecb 1 490 000 ewiydnamehnux ewiydkng phleruxntay 50 000 65 000 khn thhartayhruxsuyhay 400 000 1 100 000 nay badecb 600 000 nay cin tay 1 100 nay badecb 4 200 nay shphaphosewiyt tay 16 nay rwmyxdphutay 455 462 1 170 462 rwmyxdphubadecb 604 200 phleruxnewiydnamtay 405 000 2 000 000 450 3 ewiydnamesiychiwitthnghmd 966 000 3 010 000 phleruxnkmphuchatay 275 000 310 000 phleruxnlawtay 20 000 62 000 rwmyxdphleruxntay 65 494 rwmyxdthnghmd 1 326 494 3 447 494 kakbtwelkhodypraman twelkhnirwmyxdphuesiychiwitthnghmdinsngkhramklangemuxnglawaelakmphuchadwy khwamkhdaeyngekidkhuncaksngkhramxinodcinkhrngthi 1 txkhxmmiwnistthinaodyehwiytmiy phayhlngfrngessthxntwxxkcakxinodcininpi ph s 2497 shrthepnphuihkarsnbsnunthangkarenginaelakarthharsahrbrthewiydnamittxewiydkng aenwrwmprachachnewiydnamitthirbkhasngcakewiydnamehnux rierimthasngkhramkxngocrinewiydnamit ewiydnamehnuxyngbukkhrxnglawinchwngklangpi 2493 ephuxsnbsnunkbt mikarsrangephuxsngkalngbarungaelaesrimkalngihaekewiydkng 16 karmiswnrwmkhxngshrthephimmakkhuninsmyprathanathibdi cxhn exf ekhnendi phanokhrngkar MAAG cakthipruksakarthharimthung 1 000 nayinpi ph s 2502 ephimepn 16 000 nayinpi ph s 2506 131 inpi ph s 2506 ewiydnamehnuxsngthhar 40 000 nayiprbinewiydnamit 16 ewiydnamehnuxidrbkarsnbsnunxyangmakcakshphaphosewiytaelasatharnrthprachachncin 371 4 ineduxnsinghakhm 2507 ekidxubtikarnxawtngekiysungxangwaeruxphikhatkhxngshrthpathakberuxcuocmerwkhxngewiydnamehnux rthsphashrthtxbotodyphankhxmtixawtngekiy mxbxanacihprathanathibdilindxn bi cxhnsnxyangkwangkhwanginkarephimthharshrth ekhaxxkkhasngihwangkalnghnwyrbepnkhrngaerk aelaephimcanwnkalngphlepn 184 000 nay emuxphanmathungcudni kxngthphprachachnewiydnam miswnrwminkbkxngthphshrthaelaewiydnamit thukpinbcaknn mikaresrimsrangthharshrthxyangmak aemmikhwamkhubhnaephiyngelknxy kxngthphshrthaelaewiydnamitxasykhwamepnecaewhaaelaxanackaryingthiehnuxkwadaeninkarkhnhaaelathalay shrthyngdaeninkarrnrngkhthingraebidthangyuththsastrkhnanihytxewiydnamehnuxaelalaw karruktrusywninpi 2511 aesdngthungkarkhadkhwamkhubhnadwyhlkniymni odyewiydkngaelakxngthphprachachnewiydnam lngmuxrukinemuxngkhnanihytlxdpinn karsnbsnunsngkhraminpraethskhxngshrtherimldlngkxngthphsatharnrthewiydnam khyaykhnadhlngplxypalaelykxnhnaniphayhlngcaktrusywnaelayudaebbtamhlkniymshrth inpinnewiydkngesiyriphlip 50 000 nay 481 okhrngkarfinikskhxngsankkhawkrxngklang yingldradbsmachikphaphaelakhidkhwamsamarthkhxngewiydkngemuxthungsinpi ewiydkngldptibtikarkxngocrxyangmak aelaephimkhwamcaepnsahrbkarichthhartamaebb kxngthphprachachnewiydnamcakewiydnamehnux 247 9 inpi 2512 ewiydnamehnuxprakastngrthbalptiwtichwkhrawinewiydnamitinkhwamphyayamihewiydkngmithanarahwangpraethsmakkhun aetkxngthphprachachnewiydnamerimkarsngkhramphsmehlamakkhun emuxthungpi 2513 ewiydkngimhlngehluxxiktxip ptibtikarnikhamekhtaednkhxngpraeths odylawthukewiydnamehnuxbukkhrxngtngaetaerk swnkmphuchaewiydnamehnuxichepnesnthangesbiyngerimtngaetpi 2510 esnthangphankmphuchaerimthukshrththingraebidinpi 2512 swnesnthanglawthukthingraebidhnktngaetp 2517 karokhnsmedcphranordm sihnuodysmchchaaehngchatikmphuchasngphlthaih kxngthphprachachnewiydnamekharukranpraethstamkhakhxkhxngekhmraedng thaihekidsngkhramklangemuxnginkmphuchabanplay aelakarbukkhrxngtxbotkhxngshrthaelakxngthphsatharnrthewiydnam inpi 2512 hlngkareluxktngprathanathibdishrth richard niksn mikarerimnoybay Vietnamization sungaesdngthungkhwamkhdaeyngthimikxngthphsatharnrthewiydnam sungkhyaykhnadepnkhukhdaeyngmakkhun swnkalngshrthldbthbathldngaelayingesiykhwymakkhuncakkartxtaninpraethsaelakareknthkhnidldlng kalngphakhphundinkhxngshrthswnihythxnxxkipemuxthungtnpi 2515 aelakarsnbsnuncakdxyuthikarsnbsnunthangxakas karsnbsnundwypunihy thipruksaaelakarsngyuththphnthkxngthphsatharnrthewiydnam dwykarsnbsnunkhxngshrthyutikarrukkhxngkxngthphprachachnewiydnam dwyyanyntihysudaelakhrngaerkrahwangkarrukxisetxrpi 2515 aetkxngthphsatharnrthewiydnam exngkimsamarthyudkhundinaednthnghmdklbmaid thaihtkxyuinsthankarnthangthharthilabak eduxnmkrakhm 2516 epnkarthxnkalngshrththnghmd aelakarphankhxngrthsphashrthinwnthi 15 singhakhm 2516 yutikarmiswnekiywkhxngthanghtharodytrngkhxngshrthxyangepnthangkar khxtklngsntiphaphlmaethbthnthi aelakartxsukinewlatxipxik 2 pi krungphnmepyesiyihaekekhmraednginwnthi 17 emsayn 2518 aelarahwangkarrukvduibimphli kxngthphprachachnewiydnamyudkrungisngxnidinwnthi 30 emsayn epnkaryutisngkhram praethsewiydnamehnuxaelaewiydnamitrwmekhadwykninpithdma karsurbmikhnadihymak inpi 2513 kxngthphsatharnrthewiydnamepnkxngthphihysudxndb 4 khxngolk kbkxngthphprachachnewiydnam nnmikhnadiklekhiyngknodymithharpracakarpraman 1 000 000 nay 770 sngkhramidkxihekidkhwamsuyesiytxmnusychatixyangmhasalinaengkhxngkaresiychiwit karpramancanwnthharaelaphleruxnewiydnamthiesiychiwitmitngaet 966 000 khn thung 3 8 lankhn chawekhmrpraman 275 000 310 000 khn chawlaw 20 000 62 000 khn aelathharshrth 58 220 nayesiychiwit aelaxik 1 626 nayyngsuyhayinhnathi khwamaetkaeykrahwangcin osewiytekidkhunxikkhrnghlngsngbipinchwngsngkhramewiydnam khwamkhdaeyngrahwangewiydnamehnuxaelaphnthmitrekhmrinrachrtthaphibalrwbrwmchatikmphucha aelakmphuchaprachathipitythiephingkxtngkhunmaihmerimtnekuxbthnthidwykartiochbchwychayaednodyekhmraedng cnsudthaybanplayepnsngkhramkmphucha ewiydnam kxngthphcinbukkhrxngewiydnamodytrnginsngkhramcin ewiydnam sungkhwamkhdaeyngtamchayaednthiekidtammayudeyuxcnthungpi 2534 ewiydnamtxsukarkxkarkaeribinsampraeths karsinsudkhxngsngkhramaelakarerimtnihmkhxngsngkhramxinodcinkhrngthisamerngihekidaelathiihykwa sungmicanwnphuliphyhlaylankhnxxkcakxinodcin swnihymacakewiydnamit odymipramankar 250 000 khnesiychiwitinthael phayinshrth sngkhramidkxihekidsingthieriykwa sungepnkhwamekliydkhxngsatharnchntxkarmiswnrwmthangthharintangpraethskhxngshrth sungemuxrwmkbkhdiwxetxrekt sngesrimwikvtkhwamechuxmnthisngphltxshrthinkhristthswrrs 1970ebuxnghlngthungpi 2492frngesserimkarphichitxinodcininplaykhristthswrrs 1850 aelaprabpramxyangesrcsmburninpi 2436 epnphunthankarpkkhrxngxananikhmfrngessinewiydnamepnewlaxikecdthswrrs aemcamikartanthanthangthhar thioddednthisud khux ekinewuxngaehngfan diy fung inpi 2431 phunthisungepnpraethskmphuchaaelaewiydnampccubnklaysphaphepnxananikhmxinodcinkhxngfrngess aelalawthukephimekhasuxananikhmphayhlng mikhbwnkartxtanfrngesshlaykluminchwngni echn phrrkhchatiniymewiydnamthikxkarkaeribexiynbaythilmehlwinpi 2473 aetthaythisud immiklumidprasbkhwamsaercmakethakbaenwrwmewiydminh sungkxtnginpi 2484 sungxyuinkarkhwbkhumkhxngphrrkhkhxmmiwnistxinodcin aelaidrbenginthuncakshrthaelaphrrkhchatiniymcininkartxsukbkaryudkhrxngkhxngyipun rahwangsngkhramolkkhrngthisxng frngessprachytxeyxrmniinpi 2483 sahrbxinodcinkhxngfrngess hmaykhwamwa ecahnathixananikhmklayepnfrngessekhtwichi phnthmitrkhxngxksaeyxrmni xitali srupkhux frngessrwmmuxkbkalngyipunhlngkarbukkhrxngxinodcinkhxngfrngessinpi 2483 frngessyngdaeninkickarinxananikhmtxip thwaxanacsungsudepnkhxngyipun naythhareruxckrwrrdiyipunyxmcanndabtxrxyothchawbritichinisngxn wnthi 13 knyayn 2488 ewiydminhkxtngkhunepnsnnibateriykrxngexkrachcakfrngess aetktxtankaryudkhrxngkhxngyipuninpi 2488 dwysaehtuediywkn shrthaelaphrrkhchatiniymcinsnbsnunewiydminhinkartxsukbkaryudkhrxngkhxngyipun thwa thiaerkewiydminhyngimmikalngphxtxsuinyuththkaraethcring phunaewiydminh ohciminh txngsngsywaepnkhxmmiwnistaelathukphrrkhchatiniymcincakhukepnewlahnungpi karyudkhrxngsxnodyfrngessaelayipundaeninmakrathngkalngeyxrmnithukkhbxxkcakfrngessaelaecahnathixananikhmxinodcinfrngesserimtnecrcathanglbkbfrngessesri dwyekrngwaphwktnimxacechuxicecahnathifrngessidxiktxip kxngthphyipuncungkktwecahnathiaelathharfrngessinwnthi 9 minakhm 2488 aelasthapnarthhunechidckrwrrdiewiydnam phayitsmedcphrackrphrrdibaw dyaethn rahwangpi 2487 2488 ekidthuphphikkhphyrunaerngthangehnuxkhxngewiydnamenuxngcaksphaphxakaselwaelakaraeswnghapraoychnkhxngfrngessaelayipunprakxbkn ephraaxinodcinfrngesstxngcdsngthyphuchaekyipun miphuesiychiwitephraakarxdxyakrahwang 400 000 thung 2 lankhn cakprachakrinphunthithiidrbphlkrathb 10 lankhn ineduxnminakhm 2488 ewiydminhxasychxngwangthangkarpkkhrxngsungekidcakkarkktwecahnathifrngesshnunihprachachnplnkhlngkhawaelaptiesthimcayphasi mikhlngsinkhathukplnrahwang 75 thung 100 aehng karkbttxphlkrathbaehngthuphphikkhphyaelaecahnathisungrbphidchxbtxphydngklawbangswnesrimkhwamniymkhxngewiydminh aelaewiydminhsamarthradmsmachikidepncanwnmakinchwngni rahwangeduxnsinghakhm 2488 kxngthphyipunyngimmikhwamekhluxnihw khnathiewiydminhaelaklumchatiniymxunyudsthanthirachkaraelaxawuth sungerimkarptiwtieduxnsinghakhm ecahnathioxexsexsekhaphbohciminhaelanaythharewiydminhxunhlaykhrnginchwngni aelaemuxwnthi 2 knyayn 2488 ohciminhprakasxisrphaphsatharnrthprachathipityewiydnamtxhnafungchn 500 000 khninhanxy ekhaerimsunthrphcnodythxdkhwamkhaprakasxisrphaphshrthwa mnusythukkhnthuksrangkhunmaxyangethaethiymkn aelaphraphusrangidmxbsiththibangprakarthicaephikthxnmiidiwihaekmnusy inbrrdasiththiehlannidaek chiwit esriphaphaelakaresaaaeswnghakhwamsukh ewiydminhyudxanacinewiydnaminkarptiwtieduxnsinghakhm tam Gabriel Kolko ewiydminhidrbkarsnbsnuncakprachachnxyangkwangkhwang thwa xaethxr ec dxmemn etuxn mummxngthithukthaiheyaywn khxngkhwamsaercni karichkhwamsaphrungklwkhxngewiydminhnnepnrabb phrrkhdungraychuxphutxngkhathingxyangimrirx hlngphayinsngkhram kxngthphckrwrrdiyipunmxbxawuthihchawewiydnam aelayngkhumkhngecahnathiaelanaythharwichifrngessepnewlahnungeduxnhlngyxmcann ewiydminhradmthharyipunkwa 600 nayaelamxbbthbathihphwkekhafukhruxbngkhbbychathharewiydnam xyangirkdi faysmphnthmitrhlkphuchnasngkhramolkkhrngthisxng shrachxanackr shrthaelashphaphosewiytlwntklngknwaphunthidngklawepnkhxngfrngess enuxngcakfrngessimmihnthangyudewiydnamkhunidthnthi mhaxanaccungbrrlukhwamtklngknwathharxngkvscayudkhrxngewiydnamit khnathikalngcinchatiniymcaekhluxnekhamacakthangehnux kalngchatiniymcinekhapraethsewiydnamephuxpldxawuththharyipunthixyuehnuxesnkhnanthi 16 emuxwnthi 14 knyayn 2488 emuxxngkvsykphlkhunbkthangit ktidxawuthihkalngfrngessthithukkktw tlxdcnkalngyipunthiyxmcannbangswnephuxchwyfrngessyudewiydnamitkhn ephraaimmiphlephiyngphxkrathakartamlaphng dwykarkratunkhxngshphaphosewiyt thiaerkohciminhphyayamecrcakbfrngess sungkalngsthapnakarkhwbkhumthngphunthixyangcha ineduxnmkrakhm 2489 ewiydminhchnakareluxktngthwewiydnamehnuxaelaklang emuxwnthi 6 minakhm 2489 ohlngnamkhwamtklngxnuyatihkalngfrngessaethnkalngcinchatiniym aelkkbkarrbrxngsatharnrthprachathipityewiydnamkhxngfrngesswaepnsatharnrth xisra inshphaphfrngess odyeknthkarrbrxngnicakahndodykarecrcainxnakht frngesskhunbkinhanxyemuxeduxnminakhm 2489 aelakhbewiydminhxxkcaknkhrineduxnphvscikaynpinn kalngxngkvsxxknxkpraethsemuxwnthi 26 minakhm 2489 thingewiydnamihxyuinkarduaelkhxngfrngess imnanihhlng ewiydminherimtnsngkhramkxngocrtxkalngshphaphfrngess erimtnsngkhramxinodcinkhrngthihnung sngkhramluklamipyngpraethslawaelakmphucha thisungnkkhxmmiwnistcdraebiybkhbwnkarpaethdlawaelaekhmresri sungthngsxngthxdaebbmacakewiydminh dansthankarnolk sngkhrameynerimkhunxyangcringcng sunghmaykhwamwasungmirahwangfaytawntkaelashphaphosewiytrahwangsngkhramolkkhrngthisxngidphngthlaylng karkhadxawuthepnxupsrrkhkhxngewiydminh aetsthankarndngklawepliynipemuxpi 2492 khxmmiwnistcinchnasngkhramklangemuxngcinidswnihyaelw aelasamarthcdhaxawuthihaekphnthmitrewiydnamidfrngessthxy 2493 2497thharfrngesstxsukbkarsumocmtikhxngewiydminhinpi 2495 ineduxnmkrakhm 2493 satharnrthprachachncinaelashphaphosewiytrbrxngwasatharnrthprachathipityewiydnamkhxngewiydminhsungmithaninhanxyepnrthbalewiydnamthichxbthrrm eduxntxma shrthaelabrietnihyrbrxngwarthewiydnaminisngxnthifrngesshnunhlng naodyxditsmedcphrackrphrrdibaw dy epnrthbalewiydnamthichxbthrrm karpathukhxngsngkhramekahliineduxnmithunaynpinn chwnihphukahndnoybaykhxngrthbalshrthechuxwasngkhraminxinodcinepntwxyanglththikarkhyayxiththiphl expansionism khxmmiwnistthimishphaphosewiytchina thipruksathangthharcaksatharnrthprachachncinerimihkarsnbsnunewiydminhineduxnkrkdakhm 2493 xawuth khwamrukhwamchanayaelacbkngkhxngcinepliynewiydminhcakkalngkxngocrepnkxngthphtamaebb ineduxnknyaynpinn shrthtng ephuxkhdkrxngkhakhxkhwamchwyehlux khaaenanathangyuththsastraelakarfukthharewiydnamkhxngfrngess cnthungpi 2497 shrthcdhaxawutheba 300 000 chinaelaichengin 1 000 000 000 phnlandxllarshrthsnbsnunkhwamphyayamthangthharkhxngfrngess khidepn 80 khxngmulkhasngkhram nxkcakni yngmikarecrcarahwangfrngessaelashrthsungphicarnakhwamepnipidkhxngkarichxawuthniwekhliyrthangyuththwithisamluk thwa rayngankhwamcringcngkhxngkarphicarnaniaelaphuphicarnayngkhlumekhruxaelakhdaeyngknaemcnpccubn aephnchbbhnungsahrbptibtikaraerng thiesnxiwklawthungkarsngekhruxngbinbi 29 cakthanthphshrthinphumiphakh 60 la odymiekhruxngbinkhbilthixacmakthung 150 lathiplxycakeruxbrrthukekhruxngbinkxngeruxshrththiecdsnbsnun thingraebidthitngkhxnghwx engwiyn sap phubychakarewiydminh aephndngklawrwmthangeluxkkarichxawuthniwekhliyrmakthungsamluktxthitngkhxngewiydminh phl r x xaethxr dbebilyu aerdfxrd prathankhnaesnathikarthharshrth snbsnunthangeluxkniwekhliyrni ekhruxngbinbi 29 aela samarthocmtidwyniwekhliyrid echnediywkbxakasyanpracaeruxcakkxngeruxthiecd thharewiydminhprakaschyinyuththkarthiediynebiynfu eruxbrrthukekhruxngbinkhxngshrthaelnipyngxawtngekiy aelamiethiywbinladtraewnehnuxediynebiynhurahwangkarecrca tamrxngprathanathibdishrth richard niksn aephndngklawekiywkhxngkbkhnaesnathikarthharthirangaephnichxawuthniwekhliyryuththwithikhnadelkephuxsnbsnunfrngess niksnesnxwashrthxactxng sngthharxemrikaekhaip prathanathibdishrth diwt di ixesnhawrtngenguxnikhkarmiswnekiywkhxngkhxngshrthkbkarsnbsnunkhxngxngkvs aetkhdkhankaresiyngkhnadnn inthaythisud ixesnhawrtdsinicimaethrkaesng ephraaechuxwakhwamesiyngthangkaremuxngmimakkwapraoychnthiepnipid ixesnhawrepnphlexkhadaw ekharxbkhxbkbkardungshrthekhaipmiswninsngkhramphakhphundininthwipexechiy ewiydminhidrbkarsnbsnunsakhycakshphaphosewiytaelacin karsnbsnunkhxngcininsngkhramchayaedn ph s 2493 thaihkarsngkalngcakcinekhamayngewiydnamid tlxdkhwamkhdaeyng karpramankhxngkhawkrxngshrthyngkhxngickboxkassaerckhxngfrngess yuththkarthiediynebiynfuepnkarsinsudkarmiswnekiywkhxngkhxngfrngessinxinodcin kalngewiydminhkhxngsapmxbkhwamprachythangthharxnnaphiswngaekfrngess aelainwnthi 7 phvsphakhm 2497 thharthitngkhxngshphaphfrngessyxmcann incanwnechlysukchawfrngess 12 000 khnthiewiydminhcbid miphurxdchiwitephiyng 3 000 khnethann thikarprachumecniwa frngessecrcakhwamtklnghyudyingkbewiydminh aelafrngessihexkrachaekkmphucha lawaelaewiydnamyukhepliynphankarprachumecniwapi 2497 praethsewiydnamthukaebngchwkhrawthiesnkhnanthi 17 aelaphayitenguxnikhkhxngkhxtklngecniwa phleruxnidrboxkasihekhluxnyayxyangesrirahwangsxngrthchwkhrawepnewla 300 wn mikahndcdkareluxktngthwpraethsinpi 2499 ephuxtngrthbalrwm chawewiydnamehnuxpramanhnunglankhn swnihyepnkhathxlikchnklumnxy hnilngit dwyklwthukkhxmmiwnistebiydebiyn hlngkarrnrngkhokhsnachwnechuxkhxngxemrikathiichkhakhwyxyang phranangmariyphrhmcarimunghnalngit aelaidrbkarchwyehluxodyokhrngkaryaythixyuthishrthcdhathun 93 landxllarshrth sungrwmkarichkxngeruxthiecdkhnphuliphykhamfak xacmimakthungsxnglankhnhakimthukewiydminhhyudiwkxn tngicwaphuliphychawewiydnamehnuxcaihrabxbong diy esiymmiekhteluxktngtxtankhxmmiwnistthiekhmaekhng esiymtxmatngkhathxlikewiydnamehnuxaelaklangdarngtaaehnngsakhyinrthbalekha nxkehnuxcakkhathxlikhlngihllngit yngmi phuklbrwmklumptiwti makthung 130 000 khnedinthangkhunehnuxephux rwmklumihm odykhadhmaywacaklbitphayinsxngpi ewiydminhehluxklumaeknna 5 000 thung 10 000 khninthangitepn okhrngsrangyxythangkaremuxng thharphayinwtthuprasngkh thharfrngesskhnsudthaymikahndxxkcakewiydnamineduxnemsayn 2499 satharnrthprachachncinesrcsinkarthxnthharcakewiydnamehnuxinewlaiklekhiyngkn phleruxnewiydnampraman 52 000 khnyaycakitkhunehnux rahwangpi 2496 thung 2499 rthbalewiydnamehnuxtngkarptirupthidinephuxkarekstrtang sungrwm karldkarecha aela karptirupthidin sungthaihekidkarkdkhithangkaremuxngxyangsakhy rahwangkarptirupthidin khaihkarcakphyanewiydnamehnuxaenawamisdswnkarpraharchiwithnungkhrngtxchawbanthuk 160 khn sungemuxpramanthwpraethsaelwcachiwamikarpraharchiwitekuxb 100 000 khrng enuxngcakkarrnrngkhdngklawkracukswnihyinphunthisamehliymaemnaaedng nkwichakarinkhnanncungyxmrbtwelkhpraeminthitalng khux 50 000 khrngxyangkwangkhwang thwa exksarthithukpldchnkhwamlbcakcdhmayehtuewiydnamaelahngkaribngwacanwnkarpraharchiwittakwathiraynganinkhnannmak aemepnipidwamakkwa 13 500 khrng inpi 2499 phunainkrunghanxyyxmrbwa elyethid inkarnaokhrngkarniipptibtiaelakhunthidinprimanmakihecakhxngedim khnaediywkn fayewiydnamitkxtngrthewiydnam odymibaw dyepnckrphrrdiaelaong diy esiymepnnaykrthmntri idrbaetngtngineduxnkrkdakhm 2487 rthbalshrthaelarthewiydnamkhxngong diy esiymimidlngnamid inkarprachumecniwapi 2497 inpyhakarsrangexkphaphxikkhrng phuaethnewiydnamthimiichkhxmmiwnistkhdkhankaraebngpraethsewiydnamxyangkhnaekhng aetaephemuxfrngessyxmrbkhxesnxkhxngfm wn dng phuaethnewiydminh phuesnxwasudthayewiydnamcarwmknodykareluxktngphayitkarkakbduaelkhxng khnakrrmkarthxngthin shrthotdwysingthieriyk aephnxemrika odykarsnbsnunewiydnamitaelashrachxanackr sungkahndihkareluxktngsrangexkphaphphayitkarkakbduaelkhxngshprachachati aetthukphuaethnosewiytptiesth shrthklawwa tamaethlngkarnkhxngphuaethnrthewiydnam shrthklawyathathiedimwaprachachnmisiththikahndxnakhtkhxngtnexngaelacaimekharwmkbkarcdkarid thicakhdkhwangsiththini prathanathibdishrth diwt di ixesnhawr ekhiyninpi 2496 wa phmimekhyphudhruxaelkepliynkbphuthimikhwamrueruxngkickarxinodcinthiimehnchxbwahakmikarcdkareluxktngkhnathimikarrbknnn epnipidwaprachakrrxylaaepdsibcaxxkesiynglngkhaaennihkhxmmiwnistohciminhepnphunaaethnpramukhaehngrthbaw dy cringthiediyw karkhadkhwamepnphunaaelaaerngkhbinswnkhxngbaw dyepnpccyhnunginkhwamrusukthiaephrhlayinhmuchawewiydnamwaphwkekhaimmisingtxngtxsuih thwa tam ephntakxnephephxs tngaetpi 2496 thung 2499 ong diy esiymsrangpatiharyxyangaethcring inewiydnamit ekuxbaennxnwainpi 2499 sdswnsungxacxxkesiynglngkhaaennihoh inkareluxktngxyangesrikbesiym canxykwarxylaaepdsibmak inpi 2500 phusngektkarnxisracakpraethsxinediy opaelndaelaaekhnadaepntwaethnkhxngkhnakrrmkarkhwbkhumrahwangpraeths ICC aethlngwakareluxktngesriaelaplxdxkhtinnepnipimid ody ICC raynganwaewiydnamitaelaehnuximptibtitamkhwamtklngsngbsuk tngaeteduxnemsaynthungmithunayn 2498 esiymkacdkarkhdkhanthangkaremuxngthnghmdinewiydnamitodyepidchakptibtikarthangthhartxklumsasnasxngklum khux kawday Cao Đai aelahhwahaw karrnrngkhyngihkhwamsnickbklumxngkhkarxachyakrrm Binh Xuyen sungepnphnthmitrkbsmachiktarwclbphrrkhkhxmmiwnistaelamibangswnepnthhar emuxkarkhdkhanthankwangtxyuththwithiohdrayephimkhun esiymyingmungothskhxmmiwnist inkarlngprachamtieruxngxnakhtkhxngrthewiydnamemuxwnthi 23 tulakhm 2498 esiymokngkarsarwckhwamehnthimiong diy yu Ngo Đinh Nhu nxngchayekhaepnphukakbduael aelaidrbkhaaennesiyngrxyla 98 2 rwmthungrxyla 133 inisngxn thipruksaxemriknkhxngekhaaenanaihswntangchnaphxpraman rxyla 60 thung 70 aetesiymmxngkareluxktngwaepnkarthdsxbxanac samwnihhlng ekhaprakasihewiydnamitepnrthexkrachchuxsatharnrthewiydnam ROV odymitwekhaepnprathanathibdi echnediywkn ohciminhaelakharachkarkhxmmiwnistxunchnakareluxktnginewiydnamehnuxxyangnxyrxyla 99 thukkhrng thvsdiodmionsungaeyngwahakpraethshnungesiyaekkhxmmiwnist aelwpraethsaewdlxmthnghmdcatamknipdwy thukesnxepnnoybaykhrngaerkodyrthbalixesnhawr cxhn exf ekhnendi sungkhnannepnsmachikwuthisphashrth klawinsunthrphcntxshayewiydnamchawxemriknwa phma ithy xinediy yipun filippinsaelathichdecnlawaelakmphuchaepnpraethsthikhwammnkhngcathukkhukkhamemuxkhlunaedngkhxmmiwnistlnekhaewiydnam yukhesiym 2498 2506karpkkhrxng prathanathibdishrth diwt di ixesnhawr aelarthmntriwakarkrathrwngkartangpraeths cxhn fxsetxr dlels txnrbprathanathibdiong diy esiymaehngewiydnamitinkrungwxchingtn 8 phvsphakhm 2500 esiymepnormnkhathxlikekhrng epnnktxtankhxmmiwnist chatiniym aelaxnurksniymsngkhmxyangaerngkla nkprawtisastr luw dwan hwiy Luu Doan Huynh bnthukwa esiymepntwaethnkhxngchatiniymaekhbaelasudotngkxprkbxttathipityaelakhtiehnaekyati chawewiydnamswnihyepnphuthth aelakngwlkbkarkrathaxyangkarxuthispraethsihphranangmariyphrhmcarikhxngesiym esiymepidchakkarrnrngkh pranamkhxmmiwnist erimtngaetvdurxnpi 2498 rahwangnnkhxmmiwnistaelaklumtxtanrthbalxunthukcb cakhuk thrmanhruxpraharchiwit ekhatngothspraharchiwittxkickrrmid thithuxwaepnkhxmmiwnistineduxnsinghakhm 2499 ekebriyl khxlokh Gabriel Kolko wakhuaekhngtxngsngsykhxngesiymthukkhapraman 20 000 khnrahwangpi 2498 thung 2500 aelaemuxplaypi 2501 minkothskaremuxngthukcakhukpraeminiw 40 000 khn thwa kunethxr elwi Guenter Lewy aeyngwatwelkhdngklawekincringaelawaimekhyminkothsthukpraephthekin 35 000 khninthngpraeths ineduxnphvsphakhm 2500 esiymeyuxnrthshrthsibwn prathanathibdiixesnhawrklawsnbsnuntxip aelamikarcdkaredinkhbwnepnekiyrtiaekesiyminnkhrniwyxrk aemwaesiymcaidrbykyxngxyangepidephy aetinthanglb rthmntriwakarkrathrwngkartangpraeths cxhn fxsetxr dlls John Foster Dulles yxmrbwaeluxkesiymephraaimmitweluxkthidikwa xditrthmntriwakarkrathrwngklaohm orebirt aemknamara ekhiyninkarthkethiyngmirucb 2542 wa phuxupphmthsatharnrthewiydnamxemriknihmekhlaeruxngwthnthrrmewiydnamaethbsineching phwkekhathrabphasahruxprawtisastryawnankhxngpraethsephiyngelknxy miaenwonmkahndaerngcungicaebbxemrikatxkarkrathakhxngewiydnam aemesiymthuketuxnaelwwa karechuxwakarlxkwithikaraebbtawntkxyangmudbxdcaaekikhpyhakhxngewiydnamidepnphaphlwng karkxkarkaeribthangit 2497 2503 aephnthikarkxkarkaeribaela karrbkwn pi 2500 thung 2503 rahwangpi 2497 aela 2500 mikhwamkhdaeyngkhnadihyaetirraebiybinchnbthsungrthbalesiymsamarthkarabid tnpi 2500 ewiydnamitmisntiphaphepnkhrngaerkinrxbkwathswrrs thwa emuxklangpi 2500 thung 2502 xubtikarnkhwamrunaerngephimkhunaetrthbal miidwiekhraahmnwaepnkarnrngkh odythuxepnkhwamimsngbthiecuxcangekinkwacathumthrphyakrsakhykhxngrthbalewiydnam thwa emuxtnpi 2502 esiymthuxkhwamimsngbdngklawepnkarnrngkhmiraebiybaelaxxkkdhmay 10 59 sungthaihkhwamrunaerngthangkaremuxngmiothspraharchiwitaelaribthrphy mikhwamaetkaeykinhmuxditewiydminhsungepahmayhlkkhuxkarcdkareluxktngtamthisyyaiwinkhxtklngecniwa naipsukickrrmphlkaraeykcaknkkhxmmiwnistaelankkickrrmtxtanrthbalewiydnamxun ineduxnthnwakhm 2503 mikarkxtngaenwrwmpldplxychati hruxewiydkng xyangepnthangkarodymunghmaysrangexkphaphnkkickrrmtxtanrthbalewiydnamthnghmdsungrwmthungthimiichkhxmmiwnistdwy tamexksarephntakxn ewiydkng ennkhwamsakhytxkarthxnthipruksaaelaxiththiphlkhxngxemrika karptirupthidinaelakarepidesrirthbalewiydnam rthbalphsmaelakarprakaskhwamepnklangkhxngewiydnam bxykhrngphunaxngkhkarthukpidepnkhwamlb ehtuphlsahrbkarkhngxyutxenuxngkhxngaenwrwmpldplxychatikhuxkhwamsmphnthechingchnchninchnbth prachakrswnihythixasyxyuinhmubaninchnbthsungpyhasakhykhuxkarptirupthidin ewiydminhmikhaechaaelahnisinnxykwa aelaihechathidinkhxmmun sungswnmakaekchawnathiyakcnthisud esiymnaecakhxngthidinkhunsuhmuban phuthiekhythaekstrbnthidinthitnthuxkhrxngmahlaypipccubntxngkhunaekecakhxngthidinaelacaykhaechakhunhlaypi karekbkhaechanikxngthphewiydnamitepnphubngkhb khwamaetkaeykinhmubannisathxnsthankarnthimixyutxfrngess rxyla 75 snbsnunewiydkng rxyla 20 phyayamepnklangaelarxyla 5 niymrthbalxyangaenwaen karekhamiswnkhxngewiydnamehnux aehlngkhxmulehnimtrngknwaewiydnamehnuxmibthbathodytrnginkarchwyehluxaelacdraebiybkbtewiydnamitkxnpi 2503 hruxim khahinaelaliwxispraeminwa khdkbsmmtithannoybaykhxngshrth hlkthanthnghmdthimixyuaesdngwakarruxfunsngkhramklangemuxnginrthitinpi 2501 daeninkarodychawitexng miichkarrierimkhxnghanxy kickrrmkarkxkarkaeribtxrthbalisngxneriminrthitphayitphunait imichepnphllphthkhxngkarchinaid cakhanxy sungkhdkbkhasnghamkhxnghanxy duckn nkprawtisastr xaethxr chelsingekxr cueniyr klawwa cnhlngeduxnknyayn 2503 kwaphrrkhkhxmmiwnistewiydnamehnuxcaxnumtixyangepnthangkaraelaeriykrxngihpldplxyphakhitcakckrwrrdiniymxemrika inthangtrngkham ecms oxlsnaelaaerndi rxebitspraeminwaewiydnamehnuxxnuyatihmikarkxkarkaeribradbtaineduxnthnwakhm 2509 ephuxtxbotkhxklawhawaewiydnamehnuxkalnglaemidkhxtklngecniwa exkrachkhxngewiydkngcungmikarenninokhsnachwnechuxkhxmmiwnist ineduxnminakhm 2509 phunakhxmmiwnistit el swn esnxaephnfunfukarkxkarkaeribchux thnnsurthit aeksmachikxunkhxngkhnakrrmkarbriharsungsudkhxngphrrkhkhxmmiwnistinkrunghanxy aetenuxngdwythngcinaelaosewiytkhdkhankarephchiyhnainkhnann aephnkhxngel swncungthukptiesth thwa phunaewiydnamehnuxxnumtimatrkarebuxngtninkarfunfukarkxkarkaeribthangitineduxnthnwakhm 2509 kalngkhxmmiwnistxyuphayitokhrngsrangbngkhbbychaediywthicdtnginpi 2511 phrrkhkhxmmiwnistewiydnamehnuxxnumti sngkhramprachachn aekrthitinsmyprachumeduxnmkrakhm 2512 ineduxnphvsphakhm mikarsthapnaklum 559 ephuxthanubarungaelaprngprungesnthangsayohciminh sungkhnannepnesnthangphuekhahkeduxnphanpraethslaw phurwmklumihm pi 2507 praman 500 khnthuksnglngittamesnthangrahwangptibtikarpiaerk karsngmxbxawuthkhrngaerkphanesnthangsaercineduxnsinghakhm 2512 thharkhxmmiwnistpraman 40 000 nayaethrksumekharthitrahwangpi 2514 16 aephnthiesnthangsayohciminh sismaelaaedng phlrbichewlasieduxninkaredinthangkhamphumipraethsthikhrukhracakewiydnamehnuxipsmrphumiewiydnamitesnthangsayohciminhtdphanpraethslaw epnkarphthnarabblxcistiksthisbsxnsungthaihewiydnamehnuxyngtharngkhwamphyayamkhxngsngkhramiwidaemthamklangkarrnrngkhthingraebidthangxakasihysudinprawtisastrkarkhyaykhxbekhtkhxngekhnendi 2504 06karaethlngkhawkhxngprathanathibdiekhnendi 23 minakhm 2504 inkareluxktngprathanathibdishrthpi 2503 smachikwuthisphacxhn exf ekhnendi chnarxngprathanathibdirichard niksn aemixesnhawrekhyetuxnekhnendiekiywkbpraethslawaelaewiydnam thwipyuorpaelalatinxemrika naklwkwathwipexechiyinwisythsnkhxngekha insunthrphcnrbtaaehnngkhxngekha ekhnendiptiyanthaeyxthayanwa cacaythukrakha aebkrbthukphara ephchiythukkhwamyaklabak snbsnunmitrthukkhn txkrstruthngpwng ephuxrbpraknkhwamxyurxdaelakhwamsaerckhxngesriphaph ineduxnmithunayn 2504 ekhaehnaeyngxyangkhmkhunkbnaykrthmntriosewiyt nikita khruchchxf emuxthngsxngprachuminkrungewiynnaephuxpruksapraednshrth osewiytthisakhy ephiyng 16 eduxnihhlng wikvtkarnkhipnawuthkhiwba 16 28 tulakhm 2505 mikaraephrsyyanothrthsnwolk epnchwngthisngkhrameyniklbanplayepnsngkhramniwekhliyretmkhnthisud aelashrtherngradbkhwamphrxmkhxngkxngbychakarxakasyuththsastr SAC epnedfkhxn 2 rthbalekhnendiyngyudmnkbnoybaytangpraethssngkhrameynsungrbchwngcakrthbalthruaemnaelaixesnhawr inpi 2504 shrthmithhar 50 000 naypracaxyuinekahli aelekhnendiephchiykbwikvtkarnsamswn idaek khwamlmehlwkhxngkarbukkhrxngxawhmu karkxsrangkaaephngebxrlin aelakarrangbkhxphiphathrahwangrthballawthiniymtawntkbkhbwnkarkhxmmiwnistpaethdlaw wikvtkarnehlanithaihekhnendiechuxwakhwamlmehlwxikkhrngkhxngshrthinkarekhakhwbkhumaelahyudkarkhyaytwkhxngkhxmmiwnistcasrangkhwamesiyhayrayaerngtxkhwamnaechuxthuxkhxngshrthkbphnthmitraelachuxesiyngkhxngekhaexng channekhnendicungmungmn khidesninthray aelapxngknchykhxngkhxmmiwnistinewiydnam ekhabxkecms erstnaehngedxaniwyxrkithms thnthihlngkarprachumkbkhruchchxfinkrungewiynnawa bdnieramipyhainkarthaihxanackhxngeranaechuxthuxaelaewiydnamduepnthiaehngnn ineduxnphvsphakhm 2504 rxngprathanathibdishrth lindxn bi cxhnsneyuxnkrungisngxnaelaprakasxyangkratuxruxrnwaesiymepn winstn echxrchillaehngthwipexechiy emuxthamwaehtuidekhacungehnechnnn cxhnsntxbwa esiymepnedkkhnediywkhxngerakhangnxknn cxhnsnpraknkarchwyehluxephimetiminkarkxrangkalngrbsungsamarthtxtankhxmmiwnistidaekesiym noybaykhxngekhnenditxewiydnamitxasysmmtithanwaesiymaelakalngkhxngekhacatxngphichitkxngocriddwytnexng ekhatxtankarwangkalngrbxemriknaelasngektwa karnakalngshrthkhnanihythinnintxnni aemxacmiphlkrathbthangthharnaphxicinthiaerk aethbaennxnwacanaipsuphllphththangkaremuxngthielw aelainrayayawrwmthungphllphththangthharthielwdwy thwa khunphaphkhxngkxngthphewiydnamityngelwxyu khwamepnphunathielw karchxrasdrbnghlwng aelakareluxnysthangkaremuxnglwnmiswninkarthaihkxngthphewiydnamitxxnaex karocmtikhxngkxngocrmikhwamthiephimkhunemuxkarkxkarkaeriberimidthi aemkarsnbsnunewiydkngkhxngrthbalewiydnamehnuxcamiswnbang aetkhwamirsamarthkhxngrthbalewiydnamitepnsunyklangkhxngwikvt praednhlkhnungthiekhnendiykkhunmakhuxokhrngkarxwkasaelakhipnawuthkhxngosewiytlahnaokhrngkarkhxngshrthhruxim aemekhnendiennphawaesmxphakhkhipnawuthphisyiklkbosewiyt aetekhayngsnicinkarichkalngphiesssahrbkarsngkhramtxtankarkxkarkaeribinpraesolkthisamthithukkarkxkarkaeribkhxmmiwnistkhukkham aemedimtngicichhlngaenwhnahlngkarbukkhrxngthwipyuorpkhxngosewiyttamaebb aetekhnendiechuxwaklyuththkxngocrthikalngphiessichxyangkrinebxertcamiprasiththiphaphinsngkhram ifimphum inewiydnam thipruksakhxngekhnendi aemksewll ethyelxraelawxlt rxstxw aenanaihsngkalngshrthipewiydnamitodyplxmtwepnkhnnganchwyehluxxuthkphy ekhnendiptiesthkhwamkhiddngklawaetephimkarsnbsnunthangthharxik ineduxnemsayn 2505 cxhn ekhnenth klibrthetuxnekhnendithung xntraythieraepnkalngxananikhminbriewnaethnfrngess aelahlngeluxdechnediywkbthifrngessekhymaaelw emuxeduxnphvscikayn 2506 mithharxemrikn 16 000 nayinewiydnamit ephimkhuncakthipruksa 900 khninsmyixesnhawr mikarrierimaehmeltyuththsastrinplaypi 2504 okhrngkarrwmshrth ewiydnamitniphyayamtngthinthanprachakrchnbekhakhaymipxmsnam mikarnaipptibtiintnpi 2505 aelamikarbngkhbyaythinthan karkkknhmuban aelakaraeykxxksungchawewiydnamitchnbthbangepnchumchnihmsungcaepnkaraeykchawnacakphukxkarkaeribkhxmmiwnist mikhwamhwngwachumchnihmnicaihkhwamplxdphyaekchawnaaelaesrimsrangkhwamsmphnthrahwangchawnakbrthbalklang thwa ineduxnphvscikayn 2506 okhrngkarerimesuxm aelayutixyangepnthangkarinpi 2507 wnthi 23 krkdakhm 2505 sibsipraeths rwmthngcin ewiydnamit shphaphosewity ewiydnamehnuxaelashrthlngnamkhwamtklngihkhamnekharphkhwamepnklangkhxngpraethslaw karkhbaelalxbkhaong diy esiym smrrthnaxxndxykhxngkxngthphewiydnamitmitwxyangcakkarptibtithilmehlwxyangyuththkarthixbbk Ap Bac emuxwnthi 2 mkrakhm 2506 sungewiydkngkxngelk chnakaryuththtxkalngewiydnamitthiihykwaaelamiyuthothpkrndikwamak naythharhlaynayduimetmicekharwmrb hwiy wn kaw Huỳnh Văn Cao phubngkhbbychaehlathi 4 nayphlthiesiymechuxicthisud nakxngthphbksatharnrthewiydnaminyuththkarnn kawepnkhathxliksungidrbkareluxnysenuxngcaksasnaaelakhwamsuxstymakkwathksa aelanganhlkkhxngekhakhuxkarsngwnkalngkhxngekhaephuxybyngrthprahar kxnhnaniekhaxaeciynrahwangkarocmtikhxngkhxmmiwnist phukahndnoybaybangkhninrthbalashrtherimsrupwaesiymirsamarthphichitkhxmmiwnistaelaxactklngkbohciminh ekhadukngwlechphaakbkarpdpxngrthprahar aelamikhwamhwadraaewngmakkhunhlngkhwamphyayaminpi 2503 aela 2505 sungekhaechuxwashrthsngesrimdwybangswn rxebirt exf ekhnendihmayehtuwa esiymcaimyxmphxnprnihaemaetnxy ekhaichehtuphlkhuydwyyak khwamimphxickbnoybaykhxngesiympathuihhlngkaryingehw ftdan Huế Phật Đản ekakhnsungswnihyphuththsasnikchnthikalngprathwngtxkarhamthngsasnaphuththinwnwisakhbucha thaihekidkarprathwngihytxtannoybaykareluxkptibtithiihexksiththitxkhristckrkhathxlikaelasawk phichaykhxngesiym ong diy thuk Ngo Đinh Thục epnxarkhbichxpaehngewaelalbkaraeykrahwangkhristckrkbxanackrxyangkawraw karechlimchlxngwnkhrbrxbpikhxngthukidrbenginthuncakrthbal aelamikaraesdngthngwatiknxyangepidephy nxkcakniyngmikarruxthxnecdiyodykalngkungthharkhathxliktlxdkarpkkhrxngkhxngesiym esiymptiesthphxnprnihfaykhangmakphuththhruxrbphidchxbtxkaresiychiwitni wnthi 21 singhakhm 2506 kalngphiess ARVN khxngphnexk el kwang thung Le Quang Tung sungphkditxnxngchaykhxngesiym ong diy yu Ngo Đinh Nhu thalayecdiythwpraethsewiydnam thaihekidkhwamesiyhayaelakarthalaylangxyangkwangkhwangaelamiyxdphuesiychiwithlkrxykhn ong diy esiymhlngthukyingesiychiwitinrthprahar 2 phvscikayn 2506 kharachkarshrtherimxphipraythungkhwamepnipidkhxngkarepliynrthbalrahwangklangpi 2506 krathrwngkartangpraethsshrthodythwipehnchxbkbkarsngesrimrthprahar swnkrathrwngklaohmyngniymesiymxyu karepliynaeplngthimikaresnxthisakhy idaek karthxdthxnnxngchaykhxngesiymkhuxyu phukhwbkhumtarwclbaelakalngphiess sungthukmxngwaepnphuxyuebuxnghlngkarprabpramchawphuththaelainphaphrwmepnsthapnikkarpkkhrxngkhxngtrakulong khxesnxdngklawmikarthaythxdipyngsthanexkxkhrrachthutshrthinkrungisngxninothrelkhphayin 243 sankkhawkrxngklang CIA tidtxkbnayphlthikalngwangaephnokhnesiym phwkekhaidrbkhabxkwashrthcaimkhdkhwangkarkrathadngklawhruxlngothsnaythhardwykartdkarsnbsnun prathanathibdiesiymthukokhnaelapraharchiwit rwmkbnxngchaykhxngekha inwnthi 2 phvscikayn 2506 emuxekhnendiidrbaecngkhaw aemksewl ethyelxrcaidwaekha ribrudxxkcakhxngphrxmkbmihnatatuntrahnkaelahwadklw ekhnendiimkhadhmaykarkhaesiym exkxkhrrachthutshrthpracaewiydnamit ehnri khabxt lxdc echiyphunakhnarthpraharipyngsthanexkxkhrrachthutaelaaesdngkhwamyindi exkxkhrrachthutlxdcaecngekhnendiwa aephnkhnanimisahrbsngkhramrayasnlng ekhnendiekhiyncdhmayaesdngkhwamyindikblxdcsahrb ngandi ekidkhwamoklahlhlngrthprahar rthbalewiydnamehnuxchwyoxkascaksthankarnaelaephimkarsnbsnunkxngocr ewiydnamitekhasurayakhwamiresthiyrphaphthangkaremuxngxyangsung emuxrthbalthharhnungokhnxikrthbalhnungtid kn nkkhxmmiwnistmxngwarthbalihmaetlarthbalepnhunechidkhxngxemrika imwaesiymcalmehlwxyair aetkhxyunynwaekhaepnnkchatiniymnnimmikhxotaeyng mikarsngthipruksathangthharshrthippracayngkxngthphewiydnamitthukradb xyangirkdi thipruksaehlanithukwicarnwalaelysphaphkaremuxngkhxngkarkxkarkaerib rthbalekhnendimungepliynkarphungkhwamsnickhwamphyayamkhxngshrthipyngkarthaihekidsntiaela karexachnacitic khxngprachakr aetphunakxngthphinrthbalxemriknepnprpkstxbthbathkhxngthipruksashrthnxkehnuxipcakkarfukkalngphltamaebb phlexk phxl harkhins phubychakarkxngthphshrthinewiydnamit thanayxyangmnicwacachnaphayinkhristmaspi 2506 fay CIA imidmxngolkinaengdiethann odyetuxnwa ewiydkngyngkhngkhwbkhumchnbthswnihyodyphvtiny aelaephimkhwamekhmkhnodyrwmkhxngkhwamphyayamnnxyangesmxtnesmxplay ecahnathikungthharkhxngkrmkickrrmphiesskhxng CIA fukxbrmaelanachawephamnginlawaelaekhasuewiydnam kalngphunemuxngmicanwnhlkhmunkhnaeladaeninpharkickarptibtiodytrng sungmiecahnathikungthharepnphuna txkalngpaethdlawkhxmmiwnistaelaphusnbsnunchawewiydnamehnux CIA yngdaeninkaraelaekharwminkxngbychakarkarsnbsnunthangthharinewiydnam klumsuksaaelasngekt Military Assistance Command Vietnam Studies and Observations Group yx MAC V SOG sungedimchuxklumptibtikarphiess aetmikarepliynchuxephuxwtthuprasngkhinkarxaphrangkarkhyaykhxbekhtkhxngcxhnsn 2506 12prathanathibdiekhnendithuklxbkhainwnthi 22 phvscikayn 2506 rxngprathanathibdi lindxn bi cxhnsn imidmiswnekiywkhxngmaknkkbnoybaytxewiydnam aetemuxdarngtaaehnngprathanathibdiaelw cxhnsnihkhwamsnickbsngkhramthnthi wnthi 24 phvscikayn 2506 ekhaklawwa karyuththtxkhxmmiwnist catxngrwmkb khwamekhmaekhngaelakhwameddediyw cxhnsnthrabwaekharbchwngsthankarnthielwraylngxyangrwderwinewiydnamit aetekhayudtidkbkarihehtuphlthvsdiodmionthiidrbkaryxmrbxyangkwangkhwanginkarphithksewiydnamit khux hakewiydnamitthxyhruxcayxmsla imwaxyangircathaihchatixunnxkehnuxcakkhwamkhdaeyngnitkxyuinxntrayipdwy sphaptiwtikxngthph sungprachumaethnphunaewiydnamitthiekhmaekhng prakxbdwysmachik 12 nay sphamiphlexk esuxng wn miy epnphuna phusungsaetnliy kharonw nkhnngsuxphimphphakhsnam txmaeriykwa aebbxyangkhxngkhwamesuxngsum lxdc sungrusukkhbkhxngicemuxthungplaypi sngothrelkhklbpraethsekiywkbmiywa ekhacaekhmaekhngphxexachnasingtang hruxepla rabxbkhxngmiythukokhnineduxnmkrakhm 2507 odyphlexk ng ehwiyn khy Nguyễn Khanh thwayngmikhwamiresthiyrphaphxyangtxenuxnginkxngthph sungekidrthpraharhlaykhrnginchwewlasn aemimidprasbkhwamsaercesiythukkhrng inthxyaethlngthikhlaykbthikrathatxfrngessekuxbsxngthswrrskxnhnani ohciminhetuxnwahakxemrikn txngkarsngkhramepnewlayisibpiaelweracathasngkhramyisibpi hakphwkekhatxngkarsrangsnti eracasrangsntiaelaechiyphwkekhamadumnachayambay bangaeyngwanoybaykhxngewiydnamehnuxkhuximokhnrthbalthiimichkhxmmiwnistxuninexechiytawnxxkechiyngit xubtikarnxawtngekiy ekhruxngbinthingraebidshrthkhnahyxnraebidisewiydnamehnuxrahwangptibtikarorllingthnedxr wnthi 2 singhakhm 2507 yuexsexs aemddxks sungxyurahwangpharkickhawkrxngtamchayfngewiydnamehnux xangwathukyingisaelaidsrangkhwamesiyhayaekeruxtxrpiodhlaylathitidtameruxinxawtngekiy mirayngankarocmtikhrngthisxngxiksxngwnihhlngtxyuexsexs ethxrenxr cxy aelaaemddxks inbriewnediywkn phvtikarnkhxngkarocmtinnmudmw lindxn cxhnsnxxkkhwamehntxrthmntrichwywakarkrathrwngkartangpraeths cxrc bxlwa kalasiphwknnkhangnxknnxacyingplabinid singphimphephyaephrkhxngexnexsexthiimlngwnthisungpldchnkhwamlbinpi 2548 epidephywaimmikarocmtiinwnthi 4 singhakhm karocmti khrngthisxngniexngnaipsukarocmtithangxakasephuxtxbot aelakratunihrthsphaxnumtikhxmtixawtngekiyinwnthi 7 singhakhm 2507 khxmtidngklawihxanacprathanathibdi daeninmatrkarid thicaepnephuxkhbilkarocmtidwyxawuthid txkalngkhxngshrthaelaephuxpxngknkarrukranephim aelacxhnsnxasykhxmtidngklawwaihxanacekhakhyaykhxbekhtskhram ineduxnediywkn cxhnsnptiyanwaekhaca imphukmdedkhnumxemriknihsurbinsngkhramthiphmkhidwakhwrihedkhnumexechiytxsuephuxchwyphithksaephndinkhxngtnexng sphakhwammnkhngaehngchatiaenanakarkhyaykhxbekhtkarthingraebidewiydnamehnuxsamkhn khlxyhlngkarocmtithanthphshrthineplykuinwnthi 7 kumphaphnth 2508 erimmikarocmtithangxakasepnchud ptibtikarlukdxkephling swnnaykrthmntriosewiyt xelkes okhsikinkalngxyurahwangedinthangeyuxnewiydnamehnux ptibtikarorllingthnedxraelaptibtikarxarkiltkhyaykarthingraebidthangxakasaelaptibtikarsnbsnunphakhphundin karthphthingraebidsungsudthaykinewlanansampitngicbngkhbihewiydnamehnuxyutikarsnbsnunewiydkngodykhukkhamthalaykarpxngknphythangxakasaelaokhrngsrangphunthanxutsahkrrmkhxngewiydnamehnux nxkcakniyngmungephimkhwykalngickhxngewiydnamitdwy rahwangeduxnminakhm 2508 thungeduxnphvscikayn 2511 orllingthnedxrthingkhipnawuth crwdaelaraebidhnkhlaylantnthlmewiydnamehnux karthingraebidlaw karthingraebidimcakdxyuephiyngewiydnamehnux karthphthangxakasxyangxun echn ptibtikarbarerlorlmungepaipyngswntang khxngokhrngsrangphunthanewiydkngaela PAVN sungrwmesnthangsngkalngbarungsayohciminh sungtdphanpraethslawaelakmphucha praethslawthiphaynxkepnklangidklayepnchaksngkhramklangemuxng odyrthballawthishrthsnbsnuntxsukbpaethdlawaelaphnthmitrewiydnamehnux shrthdaeninkarthingraebidthangxakaskhnanihytxpaethdlawaelakalng PAVN ephuxpxngknkarlmslaykhxngrthbalrachathipitylaw aelaephuxkhdkhwangkarichesnthangsayohciminh rahwangpi 2507 thung 2516 shrththingraebidislaw 2 lantn ekuxbethakbkarthingraebidkhxngshrthinthwipyuorpaelaexechiy 2 1 lantntlxdsngkhramolkkhrngthisxng thaihlawepnpraethsthithukthingraebidhnkthisudinprawtisastremuxethiybkbkhnadprachakr krann wtthuprasngkhkarhyudewiydnamehnuxaelaewiydkngimprasbkhwamsaerc esnathikarkxngthphxakasshrth ekhxrtis elxemy epnphusnbsnunkarthingraebidekhmkhnmachananinewiydnam aelaekhiynthungkhxmmiwnistwa eracathingraebidphwknnihklbipyukhhinthiediyw karrukpi 2507 kalng ARVN aelathipruksashrthtrwcsxbehlikhxpetxrthitk yuththkarthidngsway eduxnmithunayn 2508 hlngkhxmtixawtngekiy rthbalewiydnamehnuxkhadhmaykarmathungkhxngthharshrthaelaerimkhyayewiydkng tlxdcnrkarsngkalngphlewiydnamehnuxlngewiydnamitephimkhun inchwngni ewiydnamehnuxcdetriymxupkrnihkalngewiydkngaelaprbyuththphnthihepnmatrthandwypunelkyawexekh 47 aelaxyangxun tlxdcnkartngkxngphlthi 9 cakkalngpraman 5 000 khnemuxerimtnpi 2502 khnadkhxngewiydkngetibotepnpraman 100 000 khnemuxplaypi 2507 rahwangpi 2504 thung 2507 khnadkhxngkxngthphephimkhuncakpraman 850 000 nayepnekuxbhnunglannay canwnthharshrththiwangkalngipyngewiydnaminchwngediywknminxykwamak cak 2 000 nayinpi 2504 ephimkhunxyangrwderwepn 16 500 nayinpi 2507 inchwngni karichyuththphnththiyudidldlng khnathitxngichcanwnekhruxngkrasunaelaesbiyngcanwnsungkwamakinkarkhnghnwytamaebb klum 559 idrbmxbhmaypharkicihkhyayesnthangsayohciminh thamklangkarthingraebidekuxbtlxdewlacakekhruxngbinrbshrth sngkhramerimepliynekhasurayakarsngkhramtamaebbkhnsudthaykhxngaebbcalxngkarsngkhramyudeyuxsamrayakhxngrthbalewiydnamehnux bdniewiydkngidrbmxbhmayihthalay ARVN aelayudaelathuxkhrxngphunthi xyangikdi ewiydkngyngimaekhngklaphxthicaocmtiemuxngaelankhrihy ineduxnthnwakhm 2507 kalng ARVN prasbkhwamsuyesiyihyhlwnginyuththkarthi Binh Gia sungthngsxngfaymxngwaepnsnpnna kxnhnani VC ichyuththwithikxngocrtiaelwhni xyangirkdi thi Binh Gia phwkekhaexachnakalng ARVN thiekhmaekhnginkarrbtamaebbaelaxyuinsmrphuminansiwn kalngewiydnamitaephxikkhrngineduxnmithunayn 2508 thiyuththkarthidngsway Đồng Xoai sngkhramphakhphundinkhxngshrth nawikoythincakkxngphnthi 1 krmnawikoythinthi 3 khxngshrthekhluxnyayphutxngsngsyewiydkngrahwangptibtikarkhnhaaelakwadlangindanng pi 2508 wnthi 8 minakhm 2508 nawikoythinshrth 3 500 khunfngiklkbdanng praethsewiydnamit epncuderimtnkhxngsngkhramphakhphundinkhxngshrth khwamehnsatharnakhxngshrthsnbsnunkarwangkalngnixyanglnhlam pharkicthiaerkkhxngnawikoythinidaekkarpxmknthanthphxakasdanng canwnphlephimkhunepnekuxb 200 000 nayineduxnthnwakhmpinn thharshrthidrbkarfukxbrminkarsngkhramechingrukmachanan imwanoybaykaremuxngepnxyangir aetphubngkhbbychashrthimehmaasmthnginechingsthabnaelacitwithyainpharkictngrb phlexk wileliym ewstmxraelnd aecngphleruxexk yu exs aekrnt charph cueniyr phubngkhbbychakxngthphaepsifikkhxngshrth wasthankarnwikvt ekhawa phmthukonmnawihechuxwathharshrthdwyphlngngan karekhluxnthiaelaxanackaryingkhxngphwkekhasamarthpraekhnsukihaek NLF ewiydkng id dwykhaaenanani ewstmxraelndkalngsnbsnunkaraeykaebbkawrawcakthathitngrbkhxngshrthaelaldbthbathkhxngewiydnamit dwykarephikechytxhnwy ARVN karphukmdkhxngshrthklayepnplayepid ewstmxraelndrangaephnsamcudinkarchnasngkhram rayathi 1 karphukmdkalngshrth aelaolkesrixun thicaepntxngkarhyudyngaenwonmaepheriybemuxplaypi 2508 rayathi 2 kalngshrthaelaphnthmitrdaeninkarptibtibukkhrngihyephuxchwykarrierimephuxthalaykxngocraelakalngkhasukthicdraebiyb rayaniyutilngemuxkhasukxxnla epliynepnfaytngrbaelathukkhbxxkcakphunthithimiprachakrmak rayathi 3 hakkhasukyngtxsu catxngmirayaewla 12 thung 18 eduxnhlngrayathi 2 inkarthalaykalngkhasukkhnsudthaythiyngehluxxyuinphunthithanthurkndar cxhnsnxnumtiaephndngklaw aelaepnkarebiyngebnxyangluksungcakkaryunynkhxngrthbalkxnwarthbalewiydnamitrbphidchxbtxkarphichitkxngocr ewstmxraelndthanaychyphayinsinpi 2510 thwa cxhnsnimsuxsarkarepliynyuththsastrnikbsux ekhaklbennyakhwamtxenuxng karepliynaeplngnoybaykhxngshrthkhunxyukbkarprachnkbewiydnamehnuxaelaewiydknginkaraekhngkarbnthxnkalngaelakhwykalngic khuaekhngcatdxyuinwngcrkarkhyaykhxbekht khwamkhidwarthbalewiydnamitsamarthcdkarkickarkhxngtnexngthukphbiw ewstmxraelndaelaaemknamaraidrbonmnawwarabbnbsphsahrbwdchy sungepntwwdthiphayhlngphisucnaelwwamikhxbkphrxng karesrimsrangkhxngshrthepliynaeplngesrsthkickhxngewiydnamitaelamiphlihyhlwngtxsngkhm ewiydnamitthwmthndwysinkhabriophkh mikarephimkarchxrasdrbnghlwngkhnanihyechnkn khnathithwrhnathihnungpikhxngthharxemriknthaihhnwykhadphunathimiprasbkarn phusngektkhnhnungwa eraimidxyuinewiydnam 10 pi aetxyu 1 pi 10 ethiyw phlthaihokhrngkarfukthharynewlalng rthbalshrthsngesrimphnthmitrsiotihsnbsnunkalngphl xxsetreliy niwsiaelnd ithyaelafilippinslwntklngsngthhar txmaekahliitkhxekharwmokhrngkaremniaeflkephuxaelkkbkarchdechythangesrsthkic thwaphnthmitrsakhy odyechphaaenoth xyangaekhnadaaelashrachxanackr ptiesthkhakhxthharkhxngrthbalshrth shrthaelaphnthmitrdaeninptibtikarnhaaelathalaythisbsxn sungxxkaebbmaephuxkhnhakalngkhasuk thalayaelwthxnkalng trngaebbichehlikhxpetxr ineduxnphvscikayn 2508 shrthsbprayuththinkarsukihykhrngaerkkb PAVN inyuththkarthiexiydrng Ia Drang ptibtikarniepnkarocmtithangxakasdwyehlikhxpetxrkhnanihykhrngaerkodyshrith aelaepnkhrngaerkthiichekhruxngbinthingraebidthangyuththsastrobxing bi 52 straotfxrethrsinbthbathsnbsnunthangyuththwithi yuththwithiehlanidaenintxinpi 2509 2510 dwyptibtikarxyang Masher Thayer Attleboro Cedar Falls aela Junction City xyangirkdi PAVN VC ynghlbeliyngidaelaaesdngkhwamyudhyunthangyuththwithixyangdi emuxthungpi 2510 ptibtikarehlanikxihekidphuliphyphayinkhnanihy micanwnekuxb 2 1 lankhninewiydnamit odymikarxphyphprachakr 125 000 khnaelathaihirbanrahwangptibtikarmaechxrkhrngediyw sungepnptibtikarkhnhaaelathalayihysudinsngkhramcnthungewlann ptibtikarmaechxrcamiphllphthephiyngelknxy enuxngcak PAVN VC klbsucnghwdnnephiyngsieduxnhlngsinsudptibtikar aemmikardaeninptibtikarihyxyangtxenuxng sungewiydkngaela PAVN trngaebbcahlbeliyng sngkhrammilksnakarpathahruxyuththnakarkhxnghnwykhnadelk cnsngkhramyuti ewiydkngaela PAVN carierimkaryingpathakhnadihy 90 sung 80 epnptibtikarthichdecnaelawangaephnxyangdi chann PAVN ewiydkngcayngkhngkarrierimthangyuththsastraemshrthwangkalngaelamixanackaryingthiehnuxkwamak PAVN ewiydkngyngphthnayuththsastrthisamarthtxbothlkniymaelayuththwithikhxngkxngthphshrth khnaediywkn sthankarnkaremuxnginewiydnamiterimmiesthiyrphaphdwykarethlingxanackhxngnaykrthmntri ehngiyn kaw ki sungepnphubychakarthharxakas aelapramukhaehngrthechingphithikar phlexk ehngiyn wn ethiyw inklangpi 2508 epnhwhnakhnathharphuyudxanacpkkhrxng epnkaryutirthpraharhlaykhrngthiekidkhuninrxbpi inpi 2510 ethiywepnprathanathibdiodymikiepnrxngprathanathibdihlngkarcdkareluxktngthimikaretriymphliwlwnghna aemepnrthbalphleruxninnam aetkiyngkhngxanacaethcringphanxngkhkrthharhlngchak xyangirkdi ethiywexachnakidwyelhklaelabdbngekhaodykareluxnysnayphlcakklumkhxngekha ethiywyngthukklawhawakhaphuphkditxkiphanxubtiehtuthangthharthiwangaephniw ethiywyngepnprathanathibdicnthungpi 2518 odychnakareluxktngthimiphulngsmkhrkhnediywinpi 2514 rthbalcxhnsnich noybaykhwamoprngisnxythisud inkarcdkarkbsux naythharsarniethsthharmungcdkarkarrayngankhxngsuxodyennniyaythibxkelakhwamkhubhnainsngkhram emuxewlaphanipnoybaynithaihkhwamechuxmnkhxngsatharnaldlnginprakasrachkar emuxkarraynganinsuxaelakrathrwngklaohmaetktangknmakkhun thaihekidsingthieriyk chxngwangkhwamechuxmn aemcxhnsnaelaewstmxraelndprakaswakalngchna aetraynganphayininexksarephntakxnbngchiwakalngewiydkngyngmikhxrierimthangyuththsastr aelasamarthkhwbkhumkarsuyesiyidxyangkwangkhwang odyrxyla 30 khxngyuththnakarthnghmd epnkarocmtikhxngewiydkngtxthitngshrththixyukbthi 23 epnkarsumocmtiaelakaroxblxmkhxng VC PAVN aelaephiyng 5 epnkarekhatithitngkhxngewiydkngkhxngshrth aela 9 epnkarsumocmtikhxngshrthtxkalngewiydkng PAVN praephthkhxngyuththnakar khxmulcakkarsuksakhxngkrathrwngklaohmshrth pi 2510 chnidkhxngyuththnakarinkarbrryaykarrb rxylakhxngyuththnakarthnghmd hmayehtukarlngcxdrunaerng karekhatikhxng VC PAVN khnawangkalng 12 5 karekhatikhxng VC PAVN thimikarwangaephn khidepnrxyla 66 2 khxngyuththnakarthnghmdkarekhatikhxng VC PAVN txwngrxbtngrbkhxngshrth 30 4 karsumocmtihruxoxblxmhnwyshrththikalngekhluxnthikhxng VC PAVN 23 3 karekhatikhxngshrththiimwangaephntxwngrxbtngrbkhxng VC PAVN yuththnakarthiepnkarcuocmtxphubngkhbbychashrth 12 5 thitngrbsungpkpidxyangdi hrux VC PAVN thithuketuxnhruxkhadhmaykarekhatikhxngshrththimikarwangaephntx wngrxbtngrbkhxng VC PAVN 5 4 karekhatikhxngshrththimikarwangaephntx VC PAVN khidepnrxyla 14 3 khxngyuththnakarthnghmdkalngshrthsumocmtihnwy VC PAVN thikalngekhluxnthi 8 9 yuththnakarodybngexiy immikarwangaephnthngsxngfay 7 1 karruktrusywn playpi 2510 PAVN lwngkalngxemriknihekhasuaednhlngethuxkekhathi Đắk To aelathanthphekhsankhxngnawikoythinincnghwdkwangci thisungshrthpracnbaninchudkarrbchux kartxsubnekha The Hill Fights karptibtiehlaniepnswnhnungkhxngyuththsastrebiyngebnkhwamsnicsungtngicdungkalngshrthihekhasuekhtthisungphakhklang mikaretriymkarruktrusywnodyectnakhxng Văn Tiến Dũng sahrbkalngihepidchak karocmtiodytrngtxsunyklangprasathkhxngxemrikaaelahunechid isngxn ew danng thuknkhr emuxngaelathanhlk el dwnmungplxbnkwicarnphawakinimlngthikalngdaeninxyuodywangaephnkhwachyxyangeddkhad ekhaihehtuphlwasamarthbrrluidphankarcudprakaykarkxkarkaeribihyinemuxngaelankhr rwmkbkaraeprphktrhmuinhnwy ARVN sungkalngphkwnhyudinchwngphkrb karruktrusywnepidchakinwnthi 30 mkrakhm 2511 emuxnkhrkwa 100 nkhrthukocmtiodyewiydkng PAVN kwa 85 000 khn rwmthngocmtisthanthithangthhar sanknganihy xakharaelasanknganrachkarhlayaehng rwmthngsthanexkxkhrrachthutshrthinkrungisngxn kalngshrthaelaewiydnamitrusuktalungkbkhnad khwamekhmaelakarwangaephnkhxngkarrukinemuxnginthiaerk ephraamikaraethrksumkhxngkhnaelaxawuthekhasunkhrxyanglb karrukniepnkhwamlmehlwkhxngkhawkrxnginkhxbekhtethakbephirlharebxr nkhrswnihythukyudkhunidphayinimkispdah ykewnxditemuxnghlwngsmykstriy ew sungthharewiydkng PAVN yudnkhridepnswnihyaelapxmprakarid ykewnkxngbychakarkhxngkxngphlthi 1 aelarksaiwidepnewla 26 wn inchwngnn thharewiydnamitpraharchiwitphleruxnaelakhntangdawcanwnpraman 2 800 khnephraasngsywaepnsaylb inyuththkarthiew kalngshrthichxanackaryingsungthaihphunthinkhrrxyla 80 epnsak ehnuxkhunip thikwngtri kxngphlsngthangxakas ARVN kxngphlthi 1 aela 1 krmcakkxngphlthharmathi 1 cdkartanaelaexachnakarocmtithihmayyudnkhrid inkrungisngxn nkrbewiydkng PAVN yudphunthiinaelarxbnkhr ocmtisingkxsangsakhyaelayan Cholon kxnkalngshrthaela ARVN pldplxyidinewlasamspdah pietxr xarentraynganphubngkhbbychathharrabnayhnungwa caepntxngthalayhmubanephuxrksamniw rahwangeduxnaerkkhxngptibtikar thharxemriknaelaphnthmitresiychiwit 1 100 khn ARVN esiychiwit 2 100 khn aelaphleruxnesiychiwit 14 000 khn emuxsinsudkarrukkhrngaerkemuxphanipsxngeduxn kalng ARVN esiychiwitekuxb 5 000 khn aelakalngshrthesiychiwitkwa 4 000 khnaelaidrbbadecb 45 820 khn shrthxangwa PAVN aelaewiydkngesiychiwit 17 000 khn aelaidrbbadecb 15 000 khn eduxntxma mikarepidchakkarrukkhrngthisxnghruxkarrukeduxnphvsphakhm aemimidkwangkhwangethakhrngaerk aetaesdngihehnwaewiydkngyngsamarthdaeninkarrukthwpraethsidxyu sxngeduxntxma mikarepidchakkarrukkhrngthisameriyk karrukrayathi 3 raynganxyangepnthangkarkhxng PAVN srupwafaytnesiychiwit 45 267 khn aelakalngphlsuyesiythnghmd 111 179 khn cnthungewlannepnpithimiphuesiychiwitsungsud epahmaycudprakaykarkxkarkaeribihyaelakarkhadkaraeprphktrinhnwy ARVN hmaykhwamwaepahmaysngkhramkhxngewiydnamehnuxlmehlwodymirakhaaephng khwamehnchxbkhxngsatharnatxsmrrthnaodyrwmkhxngnayphlewstmxraelndkhxngshrthldlngcakrxyla 48 ehlux 36 karsnbsnunkhwamphyayamkhxngsngkhramldlngcakrxyla 40 ehlux 26 satharnchnaelasuxxemriknerimkhdkhanrthbalcxhnsnemuxkarrukthngsamkhrngkhdtxkhxxangkhwamkhubhnakhxngrthbalcxhnsnaelakxngthph cudhnunginpi 2511 ewstmxraelndphicarnaichxawuthniwekhliyrinpraethsewiydnam aetykelikiphlngrthbalthrabkhaw ewstmxraelndkhxthharephimxik 200 000 nay sungrwihlipyngsux emuxprakxbkbkhwamlmehlwkhxngkhawkrxngthaihekhathukpldxxkcaktaaehnngineduxnminakhm 2511 wnthi 10 phvsphakhm 2511 erimmikarecrcasntiphaphrahwangshrthaelaewiydnamehnuxinkrungparis karecrcachangkepnewlahaeduxn cncxhnsnsngyutikarthingraebidewiydnamehnux khnaediywknrthbalewiydnamehnuxexngktrahnkwatnimxackhwachyidxyangeddkhad aelaichyuththsastrkhuyipsuip khwamniymkhxngcxhnsntklngdwyechnkn inkareluxktngprathanathibdishrthpi 2511 richard niksn phusmkhrcakphrrkhriphblikn chnakareluxktng odyxangwamiaephnlbyutisngkhramphaphswnhnungkhxngkarruktrusywnkaraephlngepnewiydnam 2512 15phykhukkhamaelakarthutniwekhliyr prathanathibdishrth richard niksn erimthxnthharshrthinpi 2512 ekhawangaephnsrangesrim ARVN ephuxihrbchwngpxngknewiydnamitaethn eriyk karaephlngepnewiydnam khnathi PAVN VC kalngfuntwcakkarsuyesiyinpi 2511 aelaynghlbeliyngkarpathaxyuepnswnihy ekhrytn exbrams thirbchwngtxewstmxraelnd daeninptibtikarthimungkhdkhwanglxcistiks odyichxanackaryingaelamikarprasannganmakkwa ARVN wnthi 27 tulakhm 2512 niksnsngfungbinbi 52 canwn 18 lathibrrthukxawuthniwekhliyrbinipnanfaosewiytephuxonmnawosewiytwaekhaphrxmthathuksingephuxyutisngkhram tamaephnkhnba yuththsastrkhxngewiydnamehnux ineduxnknyayn 2512 ohciminhthungaekxsykrrminwy 72 pi khwamlmehlwkhxngkarruktrusywnsungimsamarththaihekidkarkxkarkaeribkhxngprachachnthaihekidkarepliynyuththsastrsngkhramkhxngewiydnamehnux odyklumaeyk thisehnuxmakxn khxngsapaela Chinh klbekhakhwbkhumkickarkxngthphxikkhrngcakklumaeyk thisitmakxn mikarepliyncakkaraeswngchychnanxkaebbmaepnkaraeswngchytamaebbphankarphichitdinaedn mikarykelikkarrukkhnadihyaelwhnipichhnwyelkaelaphlkhudxuomngkh tlxdcnyuththsastrkarsrangkhwamsngbaelaaephlngepnewiydnam inrayasxngpihlngkarruktrusywn PAVN erimaeplngsphaphcakkalngekhluxnthicakdthharrabeba epnkalngphsmehlamiyanyntaelaekhluxnthiidrwderw eruxngxuxchawinshrth khbwnkartxtansngkhrammikalngmakkhuninshrth niksneriykrxngtx phlngengiybswnihy sungekhawasnbsnunsngkhramaetimaesdngxxkinthisatharna aetemuxthrabkhawkarsngharhmuthihmilaypi 2511 sunghnwyrbkhxngkxngthphbkshrthkhakhmkhunkrathachaeraphleruxn aela eruxngxuxchawkrinebert pi 2512 sungthharhnwyrbphiess 8 nay rwmthngphubychakarklumrbphiessthi 5 thukcbkumthankhaphutxngsngsywaepnsaylbsxnghna thaihekidkhwameduxddalinradbchatiaelananachati inpi 2514 exksarephntakxnekidrwihlsuhnngsuxphimph edxaniwyxrkithms exksardngklawwadwyprawtisastrlbsudyxdkhxngkarekhamiswnkhxngshrthinewiydnamsungcdthaodykrathrwngklaohm elathungkarhlxklwngkhxngrthbalshrthinraylaexiydyaw salsungsudwinicchywakarcdphimphexksardngklawchxbdwykdhmay khwykhxngshrthhdhay khlxyhlngkarruktrusywnaelakaresiykarsnbsnunsngkhraminhmusatharnchnxemrikn kalngshrtherimekhasuchwngkhwytkta karmxngehnkhwamcringaelakarimechuxfngkhasng inpraeths xtrahnithharephimkhun 4 ethaemuxethiybcakpi 2509 inhmuthhareknth miephiyngrxyla 2 5 thieluxktaaehnngrbthharrabinpi 2512 13 xtrakarsmkhrekhaehlafuknaythharkxnghnun Reserve Officers Training Corps ldlngcak 191 749 nayinpi 2509 ehlux 72 459 nayinpi 2514 cnaetaradbtasudtlxdkal 33 220 nayinpi 2517 thaihkxngthphshrthkhadaekhlnnaythharthicaepnxyangying karptiesthkarptibtiladtraewnhruxptibtitamkhasngaelakarkhdkhunerimpraktkhuninchwngediywkn odymikrnihnungthharthngkxngrxyptiesthrbkhasnghruxdaeninptibtikarid khwamechuxmaennkhxnghnwyerimslayaelasnicaetkarldkarpathakbewiydkngaela PAVN ihnxythisud erimpraktkarptibtithieriykwa thungthray sand bagging sunghnwythiidrbkhasngihxxkladtraewncaxxkipchnbth hacudthixyuphnwisykhxngphubngkhbbychaaelathiehlux phrxmkbwithyuraynganphikdaelaraynganhnwyethc karichyaesphtidephimkhunxyangrwderwinhmuthharxemriknchwngni odykalngphlrxyla 30 ichkychaepnpraca aelakhnaxnukrrmathikarsphaphuaethnrasdrphbwakalngphlxemriknrxyla 10 15 inewiydnamichehorxinekrdsungepnpraca hlngcakpi 2512 epntnma ptibtikarkhnhaaelathalayklayepn khnhaaelahlbhlik hrux khnhaaelahlbeliyng plxmaeplngrayngankarrbaethlbnkrbkxngocr mikarsxbswnrayngankartharngwinyhruxtxngsngsyrwm 900 khrng sungswnihyekidrahwangpi 2512 thung 2514 inpi 2512 smrrthnaphakhsnamkhxngkalngshrthmilksnaaebbkhwyta khadaerngcungicaelamikhwamepnphunakhnelw karldlngxyangsakhykhxngkhwyshrthpraktinyuththkarthi FSB Mary Ann ineduxnminakhm 2514 sungkhnkhudxuomngkhsamarthkxkhwamesiyhayrayaerngtxfaypxngknshrth ARVN naaethn aelakalngphakhphunshrththxnkalng erimtngaetpi 2513 thharshrththukthxnxxkcakbriewnchayaednxnepnthisurbswnihy aelathukwangkalngihmtamchayfngaeladaninpraeths kalngphlsuyesiykhxngshrthinpi 2513 minxykwainpi 2512 thungkhrunghnunghlngthukmxbhmayihtxsunxylng khnaediywkn ARVN rbchwngptibtikarrbthwpraeths aelamikalngphlsuyesiyephimkhunepnsxngethakhxngkalngphlsuyesiykhxngshrthinpi 2512 aelaephimkhunepnkwasamethakhxngpi 2513 insingaewdlxmhlngkarruktrusywn canwnsmachikinkalngphumiphakhewiydnamitaelathharxasasmkhrkalngprachachnetibotkhun aelathngsxngmikhwamsamarthinkarrksakhwamplxdphyhmuban inkhnathikalngxemriknimsamarth inpi 2513 prathanathibdirichard niksnprakasthxnthharxemriknxik 150 000 nay thaihcanwnthharxemriknehlux 265 500 nay cnthungpinn kalngewiydkngimidprakbdwychawewiydnamitepnswnihyxiktxip odyekuxbrxyla 70 epnchawewiydnamehnux rahwangpi 2512 thung 2514 ewiydkngaela PAVN banghnwythukepliynklbipepnyuththwithihnwykhnadelktrngaebbxyangpi 2510 aelakxnhnann aethnkarrukkhnadihythwpraeths inpi 2514 xxsetreliyaelaniwsiaelndthxnthhar aelathharshrthldehlux 196 700 nay shrthyngldkalngsnbsnun aelaineduxnminakhm 2514 klumkalngphiessthi 5 hnwyxemriknhnwyaerkthithuksngipyngewiydnamit kthuksngklbpraethsdwyduephimpraethsithyinsngkhramewiydnamechingxrrthxangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux USd amp w xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux start date The with an authorized strength of 128 men was set up in September 1950 with a mission to oversee the use and distribution of US military equipment by the French and their allies phrrkhchatiniymewiydnam edimkxtngkhuninnanking praethscin rahwangeduxnsinghakhm 2478 aelatnpi 2479 emuxphrrkhchatiniymewiydnam naody ehwiyn ith hxk aelasmachikphrrkhkhxmmiwnistxinodcinbangkhn aelasmachikphrrkhchatiniymewiydnamxuncanwnhnungkxtngaenwrwmtxtanckrwrrdiniym imnanxngkhkarnikhmdkhwamekhluxnihwip cnphrrkhkhxmmiwnistxinodcinaelaohciminhruxfuninpi 2484xangxing Foreign Affairs in the 1960s and 1970s Library of Congress 1992 Throughout the 1960s and 1970s Bulgaria gave official military support to many national liberation causes most notably in the Democratic Republic of Vietnam North Vietnam Le Gro p 28 Historycentral com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 11 25 subkhnemux 17 October 2009 Facts about the Vietnam Veterans Memorial Collection nps gov citing The first American ground combat troops landed in South Vietnam during March 1965 specifically the U S Third Marine Regiment Third Marine Division deployed to Vietnam from Okinawa to defend the Da Nang Vietnam airfield During the height of U S military involvement 31 December 1968 the breakdown of allied forces were as follows 536 100 U S military personnel with 30 610 U S military having been killed to date 65 000 Free World Forces personnel 820 000 South Vietnam Armed Forces SVNAF with 88 343 having been killed to date At the war s end there were approximately 2 200 U S missing in action MIA and prisoner of war POW Source Harry G Summers Jr Vietnam War Almanac Facts on File Publishing 1985 Google Books 8 March 1965 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 01 20 subkhnemux 29 April 2011 Vietnam War After Action Reports BACM Research 2009 page 430 China admits 320 000 troops fought in Vietnam Toledo Blade Reuters 16 May 1989 subkhnemux 24 December 2013 Roy Denny 1998 China s Foreign Relations Rowman amp Littlefield p 27 ISBN 978 0847690138 China and Vietnam The Politics of Asymmetry Cambridge University Press 2006 Brantly Womack P 176 Lewy 1978 pp 450 3 Thayer 1985 chap 12harvnb error no target CITEREFThayer1985 Aaron Ulrich editor Edward FeuerHerd producer and director 2005 2006 Heart of Darkness The Vietnam War Chronicles 1945 1975 Box set Color Dolby DVD Video Full Screen NTSC Dolby Vision Software Documentary Koch Vision ehtukarnekidkhunthi 321 minutes ISBN 1 4172 2920 9 Rummel R J 1997 Table 6 1A Vietnam Democide Estimates Sources and Calculations GIF Freedom Democracy Peace Power Democide and War University of Hawaii System khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 05 16 subkhnemux 2012 10 25 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 07 26 subkhnemux 2012 10 25 The Encyclopedia of the Vietnam War A Political Social and Military History By Spencer C Tucker Vietnam War Casualties Vietnamgear com 3 April 1995 subkhnemux 17 October 2009 Rummel 1997 Soames John A History of the World Routledge 2005 Dunnigan James amp Nofi Albert Dirty Little Secrets of the Vietnam War Military Information You re Not Supposed to Know St Martin s Press 2000 p 284 ISBN 0 312 25282 X 1978 America in Vietnam Oxford University Press ISBN 978 0 19 987423 1 Shenon Philip 23 April 1995 20 Years After Victory Vietnamese Communists Ponder How to Celebrate The New York Times subkhnemux 24 February 2011 The Vietnamese government officially claimed a rough estimate of 2 million civilian deaths but it did not divide these deaths between those of North and South Vietnam Obermeyer Ziad Murray Christopher J L Gakidou Emmanuela 23 April 2008 Fifty years of violent war deaths from Vietnam to Bosnia analysis of data from the world health survey programme British Medical Journal 336 7659 1482 1486 doi 10 1136 bmj a137 PMC 2440905 PMID 18566045 From 1955 to 2002 data from the surveys indicated an estimated 5 4 million violent war deaths 3 8 million in Vietnam Hirschman Charles Preston Samuel Vu Manh Loi December 1995 Vietnamese Casualties During the American War A New Estimate PDF 21 4 783 doi 10 2307 2137774 JSTOR 2137774 Heuveline Patrick 2001 The Demographic Analysis of Mortality Crises The Case of Cambodia 1970 1979 Forced Migration and Mortality pp 102 04 120 124 ISBN 978 0 309 07334 9 As best as can now be estimated over two million Cambodians died during the 1970s because of the political events of the decade the vast majority of them during the mere four years of the Khmer Rouge regime Subsequent reevaluations of the demographic data situated the death toll for the civil war in the order of 300 000 or less Banister Judith Johnson E Paige 1993 Genocide and Democracy in Cambodia The Khmer Rouge the United Nations and the International Community Yale University Southeast Asia Studies p 97 ISBN 978 0 938692 49 2 An estimated 275 000 excess deaths We have modeled the highest mortality that we can justify for the early 1970s Sliwinski Marek 1995 Le Genocide Khmer Rouge Une Analyse Demographique The Khmer Rouge genocide A demographic analysis pp 42 43 48 ISBN 978 2 7384 3525 5 Factasy The Vietnam War or Second Indochina War PRLog subkhnemux 29 June 2013 Conference Transcript Washington DC The Nixon Center April 1998 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 09 01 subkhnemux 5 September 2012 odythang International Relations Department Mount Holyoke College Vietnam War Encyclopaedia Britannica subkhnemux 5 March 2008 Meanwhile the United States its military demoralized and its civilian electorate deeply divided began a process of coming to terms with defeat in its longest and most controversial war Friedman Herbert Allies of the Republic of Vietnam subkhnemux 1 May 2019 Lind Michael 1999 Vietnam The Necessary War A Reinterpretation of America s Most Disastrous Military Conflict The New York Times subkhnemux 17 January 2014 Eckhardt George 1991 Department of the Army p 6 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 10 19 subkhnemux 2020 06 11 Ang Cheng Guan 2002 The Vietnam War from the Other Side RoutledgeCurzon ISBN 978 0700716159 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 August 2016 subkhnemux 1 June 2018 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Hastings2 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Ang2 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Hastings Li Xiaobing 2010 Voices from the Vietnam War Stories from American Asian and Russian Veterans University Press of Kentucky p 85 ISBN 978 0 8131 7386 3 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux AWL2 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Hastings3 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Pribbenow Pilger John 2001 Heroes South End Press p 238 ISBN 9780896086661 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Tucker xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Hirschman2 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Obermeyer2 Kalb Marvin 22 January 2013 It s Called the Vietnam Syndrome and It s Back Brookings Institution subkhnemux 12 June 2015 Horne Alistair 2010 Kissinger s Year 1973 Phoenix Press pp 370 1 ISBN 978 0753827000 Ooi Keat Gin Southeast Asia a historical encyclopedia from Angkor Wat to East Timor ABC CLIO 2004 ISBN 978 1 57607 770 2 p 520 Rai Lajpat Social Science lingkesiy FK Publications ISBN 978 81 89611 12 5 p 22 Dommen Arthur J The Indochinese experience of the French and the Americans nationalism and communism in Cambodia Laos and Vietnam Indiana University Press 2001 ISBN 978 0 253 33854 9 p 4 19 Neale 2001 p 3harvnb error no target CITEREFNeale2001 Neale 2001 p 17harvnb error no target CITEREFNeale2001 Sophie Quinn Judge 2003 Ho Chi Minh the missing years 1919 1941 C Hurst pp 212 213 ISBN 978 1 85065 658 6 Tucker 1999 p 42harvnb error no target CITEREFTucker1999 Brocheux 2007 p 198harvnb error no target CITEREFBrocheux2007 Neale 2001 p 18harvnb error no target CITEREFNeale2001 Koh David 21 August 2008 The Straits Times Singapore khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 10 19 subkhnemux 2014 05 05 Neale 2001 pp 18 9harvnb error no target CITEREFNeale2001 Kolko 1985 p 36harvnb error no target CITEREFKolko1985 Neale 2001 p 19harvnb error no target CITEREFNeale2001 Neale 2001 p 20harvnb error no target CITEREFNeale2001 Interview with Archimedes L A Patti 1981 http openvault wgbh org catalog vietnam bf3262 interview with archimedes l a patti 1981 Kolko 1985 p 37harvnb error no target CITEREFKolko1985 Dommen Arthur J 2001 The Indochinese Experience of the French and the Americans Indiana University Press pg 120 According to one estimate 15 000 nationalists were massacred in the summer of 1946 pg 154 In addition 100 000 to 150 000 civilians had been assassinated by the Viet Minh by the end of the First Indochina war pg 252 ベトナム独立戦争参加日本人の事跡に基づく日越のあり方に関する研究 PDF 井川 一久 Tokyo foundation October 2005 subkhnemux 10 June 2010 日越関係発展の方途を探る研究 ヴェトナム独立戦争参加日本人 その実態と日越両国にとっての歴史的意味 PDF 井川 一久 Tokyo foundation May 2006 subkhnemux 10 June 2010 Willbanks 2009 p 8harvnb error no target CITEREFWillbanks2009 Neale 2001 p 24harvnb error no target CITEREFNeale2001 Neale 2001 pp 23 4harvnb error no target CITEREFNeale2001 Willbanks 2009 p 9harvnb error no target CITEREFWillbanks2009 Franco Vietnam Agreement of March 6th 1946 Vietnamgear com 6 March 1946 subkhnemux 29 April 2011 Mtholyoke edu khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 09 02 subkhnemux 29 April 2011 Peter Dennis 1987 Troubled days of peace Mountbatten and South East Asia command 1945 46 Manchester University Press ND p 179 ISBN 978 0 7190 2205 0 Neale 2001 p 25harvnb error no target CITEREFNeale2001 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux WarBegan xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux GSaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb sngkhramewiydnam Lessons from Vietnam and Other Small Wars lingkesiy cak krmkhawthharxakas A Vietnam Diary s Homecoming Video produced by the PBS Series Detailed bibliography of Vietnam War Documents Relating to American Foreign Policy Vietnam 2012 08 13 thi ewyaebkaemchchin primary sources on U S involvement from the Glossary of Military Terms amp Slang from the Vietnam War Impressions of Vietnam and descriptions of the daily life of a soldier from the oral history of Elliott Gardner U S Army 2011 04 30 thi ewyaebkaemchchin in Open Content project The U S Army in Vietnam the official history of the United States Army The Vietnam War at The History Channel UC Berkeley Library Social Activism Sound Recording Project Anti Vietnam War Protests comprehensive timeline of the Vietnam War Virtual Vietnam Archive Texas Tech University 1965 1975 Another Vietnam Unseen images of the war from the winning side Archival collections about the Vietnam War University Archives and Special Collections Joseph P Healey Library bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk