Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ต้องการตรวจสอบความถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ โปรดเพิ่มพารามิเตอร์ reason หรือ talk ลงในแม่แบบนี้เพื่ออธิบายปัญหาของบทความ |
มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาด หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐาน โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
เอเค-47 เป็นที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า อัฟโตแม็ท คาลาชนิคอฟ (รัสเซีย: Автома́т Кала́шникова, : Avtomát Kaláshnikova, แปลตรงตัว: 'Kalashnikov’s automatic device'; ยังเป็นที่รู้จักกันคือ คาลาชนิคอฟ และ เอเค) เป็นปืนไรเฟิลจู่โจมด้วยกระสุนขนาด 7.62×39มม. ทำงานด้วยระบบแรงดันแก๊ส(gas-operated) ที่ถูกพัฒนาขึ้นในสหภาพโซเวียตโดยนาย มีฮาอิล คาลาชนิคอฟ เป็นอาวุธปืนรุ่นต้นกำเนิดของ(หรือ "เอเค") ส่วนตัวเลขท้ายว่า 47 หมายถึงปีที่สร้างปืนรุ่นนี้จนเสร็จสิ้น
| เอเค 47 | |
|---|---|
 เอเค-47 ไทป์ 2 พร้อมติดดาบปลายปืน | |
| ชนิด | ปืนเล็กยาวจู่โจม |
| แหล่งกำเนิด | สหภาพโซเวียต |
| บทบาท | |
| ประจำการ | ค.ศ. 1949–1974 (สหภาพโซเวียต) ค.ศ. 1949–ปัจจุบัน (ประเทศอื่น ๆ) |
| ผู้ใช้งาน | ดูประเทศผู้ใช้งาน |
| สงคราม | ดูการศึก |
| ประวัติการผลิต | |
| ผู้ออกแบบ | มีฮาอิล คาลาชนิคอฟ |
| ช่วงการออกแบบ | ค.ศ. 1946–1948 |
| บริษัทผู้ผลิต | คาลาชนิคอฟคอนเซิร์น และอื่น ๆ อีกมาก รวมถึง |
| ช่วงการผลิต | ค.ศ. 1948–ปัจจุบัน |
| จำนวนที่ผลิต | เอเค 47 ประมาณ 75 ล้านกระบอก, อาวุธของ 100 ล้านกระบอก |
| แบบอื่น | ดูรุ่น |
| ข้อมูลจำเพาะ | |
| มวล | ปราศจากแมกกาซีน: 3.47 kg (7.7 lb) แมกกาซีน ว่างเปล่า: 0.43 kg (0.95 lb) (ส่งออกแต่แรก) 0.33 kg (0.73 lb) (หล็กกล้า) 0.25 kg (0.55 lb) (พลาสติก) 0.17 kg (0.37 lb) (โลหะผสมที่มีน้ำหนักเบา) |
| ความยาว | พานท้ายไม้: 880 mm (35 in) 875 mm (34.4 in) ยืดพานท้าย 645 mm (25.4 in) พับพานท้าย |
| ความยาว | ความยาวโดยรวม: 415 mm (16.3 in) ความยาวลำกล้องปืนเล็กยาว: 369 mm (14.5 in) |
| กระสุน | |
| การทำงาน | , |
| อัตราเร็วในการยิงทางทฤษฎี: 600 นัดต่อนาที อัตราเร็วในการยิงต่อสู้: กึ่งอัตโนมัติ 40 นัดต่อนาที การระเบิด 100 นัดต่อนาที | |
| 715 m/s (2,350 ft/s) | |
| ระยะหวังผล | 350 ม. (380 หลา) |
| ระบบป้อนกระสุน | ซองกระสุนแบบกล่องถอดได้ 30 นัด นอกจากนี้ยังมีแบบกล่อง 5, 10, 20 และ 40 นัด รวมถึงใช้แมกกาซีน 75 และ 100 นัดได้ |
| ศูนย์เล็ง | ปรับได้ 100–800 ม. รัศมีศูนย์: 378 mm (14.9 in) |
งานออกแบบปืนรุ่นเอเค-47 เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1945 ในปี ค.ศ. 1946 เอเค-47 ได้ถูกนำเสนอสำหรับการพิจารณาคดีทหาร และในปี ค.ศ. 1948 รุ่นที่ยังอยู่ในคลังได้ถูกนำเสนอให้เข้าสู่หน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ถูกรับเลือกโดยหน่วยทหารของกองทัพบกโซเวียต การพัฒนาในช่วงแรกของการออกแบบคือ รุ่นเอเคเอ็ส (S—Skladnoy หรือ"พับได้") ซึ่งถูกติดตั้งด้วยพานท้ายปืนที่ทำมาจากเหล็กที่สามารถพับเก็บได้ ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1949 เอเค-47 ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกองทัพโซเวียต และถูกใช้งานโดยรัฐสมาชิกส่วนใหญ่ของกติกาสัญญาวอร์ซอ
แม้ว่าจะผ่านพ้นไป 7 ทศวรรษ แต่ละรุ่นและรูปแบบต่างๆ ยังคงเป็นปืนไรเฟิลที่ได้รับความนิยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เนื่องจากด้วยความน่าเชื่อถือภายใต้สภาวการณ์ที่เลวร้าย ต้นทุนการผลิตที่ต่ำเมื่อนำมาเทียบกับอาวุธปืนฝั่งตะวันตกในยุคสมัยเดียวกัน ด้วยสภาพความพร้อมที่จะใช้งานในแทบทุกภูมิภาคทางภูมิศาสตร์และใช้งานที่ง่ายดาย เอเค-47 ได้ถูกผลิตในหลายประเทศและได้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานของกองกำลังติดอาวุธ เช่นเดียวกับและทั่วโลก และเป็นพื้นฐานสำหรับการพัฒนาอาวุธปืนประจำตัวของทหารแต่ละบุคคลที่ประจำการในหน่วยต่างๆ อีกมากมายและอาวุธปืนพิเศษ ในปี ค.ศ. 2004 "จากจำนวนอาวุธปืนทั่วโลกประมาณ 500 ล้านกระบอก มีจำนวนราวประมาณ 100 ล้านกระบอกเป็นอาวุธรุ่นตระกุลคาลาชนิคอฟ ซึ่งสามในสี่ส่วนเป็นปืนรุ่นเอเค-47"
ประวัติ
ปืนเอเค-47 ได้รับการออกแบบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2484 และพัฒนาจนเป็นรูปแบบมาตรฐานในปี พ.ศ. 2490 เขาก็เห็นว่าไม่ยุติธรรมเลยที่กองทัพนาซีเยอรมันได้ใช้อาวุธปืนอัตโนมัติอันทันสมัยมากมายหลายรุ่น ตั้งแต่ปืนเล็กยาว ปืนกลมือเอ็มพี 40 ปืนกลเบาเอ็มจี 34 และปืนกลเบาเอ็มจี 42 รวมทั้งรถถังยานเกราะอีกมากมาย ในขณะที่กองทัพโซเวียตกลับมีเพียงปืนเล็กยาวโมซิน-นากองท์อันคร่ำครึมาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมไปถึงปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเอสวีที-40กับปืนกลมือ PPSH-41 เท่านั้น ส่วนปืนกลระดับหมู่ก็มีเพียง โดยรถถังยานเกราะกับยุทโธปกรณ์ต่างๆของกองทัพโซเวียตในขณะนั้น ถ้าไม่เป็นของเก่าตกค้างมาจากช่วงสงครามโลกครั้งที่2ส่วนมากก็อยู่ในสภาพเก่าและไม่พร้อมใช้เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณซ่อมแซม
ต่อมาภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรต่างได้ยึดอาวุธและเทคโนโลยีทางการทหารของนาซีเยอรมันไปเป็นต้นแบบในการผลิตอาวุธของตนเอง โดยคาลาชนิคอฟเองก็ได้นำรูปทรงของปืนเล็กยาวอัตโนมัติ StG 44 และเอสเคเค-45มาใช้เป็นแบบ ส่วนระบบกลไกบางส่วนนำมาจากปืนเอ็ม1กาแรนด์( )รวมทั้งได้นำกระสุนขนาด 7.62x54 mm. R และ 7.92x33 mm. Kurz มาเป็นต้นแบบในการพัฒนา โดยได้มีการออกแบบและพัฒนาในเรื่องของกระสุนก่อน ซึ่งกระสุนมาตรฐานของกองทัพโซเวียตในขณะนั้นคือกระสุนขนาด 7.62x54 ม.ม.ซึ่งประจำการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2434 โดยได้นำกระสุนขนาด 7.62x41 ม.ม.ที่มาจากโครงการAS-44มาใช้ทดสอบและมีการพัฒนาปืนไรเฟิลอัตโนมัติขึ้นมาใช้กับกระสุนขนาดนี้ด้วยคือปืนเอเค-46 ซึ่งยังมีรูปทรงคล้ายกับปืนเอสทีจี 44 อยู่มาก แต่เนื่องจากประสิทธิภาพของปืนและกระสุนไม่ดีเท่าที่ควรนักจึงได้มีการปรับปรุงปืนและกระสุนใหม่อีกครั้ง โดยมีการปรับปรุงกระสุนก่อนจนเป็นกระสุนขนาด 7.62x39 ม.ม.ซึ่งได้นำมาใช้ครั้งแรกกับปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเอสเคเอสหรือปืนเซกาเซ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีก่อน พร้อมทั้งนำปืนไรเฟิลอัตโนมัติเอเค-46 มาปรับปรุงระบบกลไกและรูปทรงอีกครั้ง โดยได้เอารูปทรงของปืนเอสเคเอสเข้ามาร่วมในการออกแบบด้วย จนออกมาเป็นปืนเอเค-47 ที่มีรูปทรงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
คุณสมบัติ
ปืนเอเค-47 เองเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นปืนที่มีน้ำหนักพอสมควร มีขนาดใหญ่โตและมีขนาดกระสุนที่น้อย สามารถเลือกทำการยิงได้ 3 โหมด คือ ห้ามไก อัตโนมัติ และกึ่งอัตโนมัต สามารถถอดล้างในสนามได้ง่ายมาก นับเป็นปืนเล็กยาวจู่โจมแบบหนึ่งที่ยังมีการใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก โดยมีการผลิตปืนเอเค-47 และปืนรูปแบบอื่น ๆ ที่พัฒนาโดยใช้ปืนเอเค-47 เป็นต้นแบบเป็นจำนวนมากกว่าปืนเล็กยาวจู่โจมชนิดอื่น ๆ และยังคงมีการผลิตและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในปีพ.ศ. 2502 ก็ได้มีการนำปืนเอเค-47 มาทำการแก้ไขปรับปรุงระบบกลไกและวิธีการผลิตต่างๆให้ดีขึ้นและเรียกในชื่อใหม่ว่าเอเคเอ็ม (AKM : Avtomat Kalashnikova Modernizirovannyj หรือ Kalashnikov Automatic rifle, Modified) ซึ่งปืนรุ่นนี้จะมีการปั้มขึ้นรูปโครงปืนด้วยเครื่องจักรและมีการทำสัญลักษณ์ด้วยการปั้มดุนแผ่นเหล็กโครงปืนให้เป็นเพียงช่องเล็กๆรวมทั้งมีการดัดแปลงปากลำกล้องให้เป็นรูปเฉียงปากฉลามเพื่อลดอาการสะบัดขึ้นเมื่อทำการยิง ซึ่งผิดกับกระบวนการผลิตของปืนเอเค-47 ที่มีการผลิตด้วยการนำแผ่นเหล็กมาเซาะร่องและปั้มดุนโครงปืนเข้าไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่เหนือช่องใส่ซองกระสุน และปากลำกล้องตัดตรงทำให้เวลายิงด้วยระบบอัตโนมัติ ปืนจะสะบัดเป็นอย่างมาก ส่วนอำนาจการทำลายล้างนั้น ยังถือว่ายังสร้างความเสียหาย เนื่องจากกระสุนขนาด 7.62x39 ในระยะ200-300เมตร ความแรงของกระสุนยังคงที่อยู่เมื่อเข้าสู่เนื้อเยื่อกระสุนทะลุออกไปก่อนที่จะหันเหก่อนแต่ในระยะ 400-500 เมตร รูเข้าประมาณ 8 มิลลิเมตร รูออกอาจจะ 30-40 มิลลิเมตรก็ได้
ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 กองทัพโซเวียตก็ได้มีการนำปืน เอเค-47 และปืนเอเคเอ็มมาทำการปรับปรุงและพัฒนาอีกครั้งจนเป็นปืนเอเค-74 และนำมาใช้กับกระสุนขนาด 5.45x39 ม.ม.รุ่นเอ็ม74 หรือ 5เอ็น7 ซึ่งได้รับพัฒนาและปรับปรุงมาจากกระสุนขนาด 5.56x45 ม.ม.แบบนาโตของกองทัพสหรัฐอเมริกาและกองกำลังนาโตสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ เช่น เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม.แบบติดตั้งใต้ลำกล้อง รุ่น จีพี-25 ดาบปลายปืน ฯลฯ เป็นต้น
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- ข้อมูลตารางครอบคลุมเอเค-47 พร้อมโครงปืนไทป์ 3
อ้างอิง
- Monetchikov 2005, chpts. 6 and 7: (if AK-46 and AK-47 are to be seen as separate designs).
- (1986). The AK47 Story, Evolution of the Kalashnikov Weapons. . p. 112. ISBN .
- (2004). The AK-47 and AK-74 Kalashnikov Rifles and Their Variations. p. 8. ISBN .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อk3 - อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อfoxnews - НСД. 7,62-мм автомат АК 1967, pp. 161–162.
- НСД. 7,62-мм автомат АКМ (АКМС) 1983, pp. 149–150.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อizhmash - Monetchikov 2005, p. 67; Bolotin 1995, p. 129.
แหล่งข้อมูลอื่น
- US Army Operator's Manual for the AK-47 Assault Rifle
- AK Site – Kalashnikov Home Page ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เก็บถาวร 29 กันยายน 2007)
- Nazarian's Gun's Recognition Guide (MANUAL) AK 47 Manual (.pdf) 2008-10-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Timeless, Ubiquitous AK-47 2013-08-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – slideshow by Time magazine
- Legendary Kalashnikov: Story of AK-47 Rifle ('s Documentary)
- AK-47: The Weapon Changed the Face of War – audio report by
- The AK-47: The Gun That Changed The Battlefield – audio report by
- AK-47 Documentary: Part 1 & Part 2 by Al Jazeera English
- AK-47 Full Auto, U.S. Army in Iraq from the Internet Archive
- Years of the gun: A political history of the AK-47 in Pakistan by
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudbthkhwamnitxngkartrwcsxbkhwamthuktxngcakphuechiywchayineruxngnn oprdephimpharamietxr reason hrux talk lnginaemaebbniephuxxthibaypyhakhxngbthkhwamemuxwangaethkni ihphicarnaechuxmoyngkhakhxnikbokhrngkarwikimikhxsngsywabthkhwamnixaclaemidlikhsiththi aetrabuimidchdecnephraakhadaehlngthima hruxxangthungsingphimphthiyngtrwcsxbimid hakaesdngidwabthkhwamnilaemidlikhsiththi ihaethnpaynidwy laemidlikhsiththi hakkhunmnicwabthkhwamniimidlaemidlikhsiththi ihaesdnghlkthaninhnaxphipray oprdxyanapaynixxkkxnmikhxsrup exekh 47 epnthiruckknxyangepnthangkarwa xfotaemth khalachnikhxf rsesiy Avtoma t Kala shnikova Avtomat Kalashnikova aepltrngtw Kalashnikov s automatic device yngepnthiruckknkhux khalachnikhxf aela exekh epnpunirefilcuocmdwykrasunkhnad 7 62 39mm thangandwyrabbaerngdnaeks gas operated thithukphthnakhuninshphaphosewiytodynay mihaxil khalachnikhxf epnxawuthpunruntnkaenidkhxng hrux exekh swntwelkhthaywa 47 hmaythungpithisrangpunrunnicnesrcsinexekh 47exekh 47 ithp 2 phrxmtiddabplaypunchnidpunelkyawcuocmaehlngkaenidshphaphosewiytbthbathpracakarkh s 1949 1974 shphaphosewiyt kh s 1949 pccubn praethsxun phuichngandupraethsphuichngansngkhramdukarsukprawtikarphlitphuxxkaebbmihaxil khalachnikhxfchwngkarxxkaebbkh s 1946 1948bristhphuphlitkhalachnikhxfkhxnesirn aelaxun xikmak rwmthungchwngkarphlitkh s 1948 pccubncanwnthiphlitexekh 47 praman 75 lankrabxk xawuthkhxng 100 lankrabxkaebbxundurunkhxmulcaephaamwlprascakaemkkasin 3 47 kg 7 7 lb aemkkasin wangepla 0 43 kg 0 95 lb sngxxkaetaerk 0 33 kg 0 73 lb hlkkla 0 25 kg 0 55 lb phlastik 0 17 kg 0 37 lb olhaphsmthiminahnkeba khwamyawphanthayim 880 mm 35 in 875 mm 34 4 in yudphanthay 645 mm 25 4 in phbphanthaykhwamyawkhwamyawodyrwm 415 mm 16 3 in khwamyawlaklxngpunelkyaw 369 mm 14 5 in krasunkarthangan xtraerwinkaryingthangthvsdi 600 ndtxnathi xtraerwinkaryingtxsu kungxtonmti 40 ndtxnathi karraebid 100 ndtxnathi715 m s 2 350 ft s rayahwngphl350 m 380 hla rabbpxnkrasunsxngkrasunaebbklxngthxdid 30 nd nxkcakniyngmiaebbklxng 5 10 20 aela 40 nd rwmthungichaemkkasin 75 aela 100 ndidsunyelngprbid 100 800 m rsmisuny 378 mm 14 9 in nganxxkaebbpunrunexekh 47 erimtnkhuninpi kh s 1945 inpi kh s 1946 exekh 47 idthuknaesnxsahrbkarphicarnakhdithhar aelainpi kh s 1948 runthiyngxyuinkhlngidthuknaesnxihekhasuhnwynganptibtihnathithukrbeluxkodyhnwythharkhxngkxngthphbkosewiyt karphthnainchwngaerkkhxngkarxxkaebbkhux runexekhexs S Skladnoy hrux phbid sungthuktidtngdwyphanthaypunthithamacakehlkthisamarthphbekbid inchwngtnpi kh s 1949 exekh 47 idrbkaryxmrbxyangepnthangkarcakkxngthphosewiyt aelathukichnganodyrthsmachikswnihykhxngktikasyyawxrsx aemwacaphanphnip 7 thswrrs aetlarunaelarupaebbtang yngkhngepnpunirefilthiidrbkhwamniymaelaichnganknxyangaephrhlaythwolk enuxngcakdwykhwamnaechuxthuxphayitsphawkarnthielwray tnthunkarphlitthitaemuxnamaethiybkbxawuthpunfngtawntkinyukhsmyediywkn dwysphaphkhwamphrxmthicaichnganinaethbthukphumiphakhthangphumisastraelaichnganthingayday exekh 47 idthukphlitinhlaypraethsaelaidaesdngihehnthungkarichngankhxngkxngkalngtidxawuth echnediywkbaelathwolk aelaepnphunthansahrbkarphthnaxawuthpunpracatwkhxngthharaetlabukhkhlthipracakarinhnwytang xikmakmayaelaxawuthpunphiess inpi kh s 2004 cakcanwnxawuthpunthwolkpraman 500 lankrabxk micanwnrawpraman 100 lankrabxkepnxawuthruntrakulkhalachnikhxf sungsaminsiswnepnpunrunexekh 47 prawtipunexekh 47 idrbkarxxkaebbkhrngaerkinpi ph s 2484 aelaphthnacnepnrupaebbmatrthaninpi ph s 2490 ekhakehnwaimyutithrrmelythikxngthphnasieyxrmnidichxawuthpunxtonmtixnthnsmymakmayhlayrun tngaetpunelkyaw punklmuxexmphi 40 punklebaexmci 34 aelapunklebaexmci 42 rwmthngrththngyanekraaxikmakmay inkhnathikxngthphosewiytklbmiephiyngpunelkyawomsin nakxngthxnkhrakhrumatngaetsmykxnsngkhramolkkhrngthi 1 rwmipthungpunirefilkungxtonmtiexswithi 40kbpunklmux PPSH 41 ethann swnpunklradbhmukmiephiyng odyrththngyanekraakbyuthothpkrntangkhxngkxngthphosewiytinkhnann thaimepnkhxngekatkkhangmacakchwngsngkhramolkkhrngthi2swnmakkxyuinsphaphekaaelaimphrxmichenuxngcakkhadaekhlnngbpramansxmaesm thharewiydkngyunitthngchatiaelathux AK 47 txmaphayhlngsngkhramolkkhrngthi 2 sngblng kxngthphfaysmphnthmitrtangidyudxawuthaelaethkhonolyithangkarthharkhxngnasieyxrmnipepntnaebbinkarphlitxawuthkhxngtnexng odykhalachnikhxfexngkidnarupthrngkhxngpunelkyawxtonmti StG 44 aelaexsekhekh 45maichepnaebb swnrabbklikbangswnnamacakpunexm1kaaernd rwmthngidnakrasunkhnad 7 62x54 mm R aela 7 92x33 mm Kurz maepntnaebbinkarphthna odyidmikarxxkaebbaelaphthnaineruxngkhxngkrasunkxn sungkrasunmatrthankhxngkxngthphosewiytinkhnannkhuxkrasunkhnad 7 62x54 m m sungpracakarmatngaetpiph s 2434 odyidnakrasunkhnad 7 62x41 m m thimacakokhrngkarAS 44maichthdsxbaelamikarphthnapunirefilxtonmtikhunmaichkbkrasunkhnadnidwykhuxpunexekh 46 sungyngmirupthrngkhlaykbpunexsthici 44 xyumak aetenuxngcakprasiththiphaphkhxngpunaelakrasunimdiethathikhwrnkcungidmikarprbprungpunaelakrasunihmxikkhrng odymikarprbprungkrasunkxncnepnkrasunkhnad 7 62x39 m m sungidnamaichkhrngaerkkbpunirefilkungxtonmtiexsekhexshruxpuneskaes sungepnthiruckknepnxyangdikxn phrxmthngnapunirefilxtonmtiexekh 46 maprbprungrabbklikaelarupthrngxikkhrng odyidexarupthrngkhxngpunexsekhexsekhamarwminkarxxkaebbdwy cnxxkmaepnpunexekh 47 thimirupthrngxyangthiehninpccubnkhunsmbtipunexekh 47 yngmirupthrngthwipkhlaypunexsthici 44 xyu punexekh 47 exngepnthiyxmrbknwaepnpunthiminahnkphxsmkhwr mikhnadihyotaelamikhnadkrasunthinxy samartheluxkthakaryingid 3 ohmd khux hamik xtonmti aelakungxtonmt samarththxdlanginsnamidngaymak nbepnpunelkyawcuocmaebbhnungthiyngmikarichxyangkwangkhwangthwolk odymikarphlitpunexekh 47 aelapunrupaebbxun thiphthnaodyichpunexekh 47 epntnaebbepncanwnmakkwapunelkyawcuocmchnidxun aelayngkhngmikarphlitaelaichnganmacnthungpccubn txmainpiph s 2502 kidmikarnapunexekh 47 mathakaraekikhprbprungrabbklikaelawithikarphlittangihdikhunaelaeriykinchuxihmwaexekhexm AKM Avtomat Kalashnikova Modernizirovannyj hrux Kalashnikov Automatic rifle Modified sungpunrunnicamikarpmkhunrupokhrngpundwyekhruxngckraelamikarthasylksndwykarpmdunaephnehlkokhrngpunihepnephiyngchxngelkrwmthngmikarddaeplngpaklaklxngihepnrupechiyngpakchlamephuxldxakarsabdkhunemuxthakarying sungphidkbkrabwnkarphlitkhxngpunexekh 47 thimikarphlitdwykarnaaephnehlkmaesaarxngaelapmdunokhrngpunekhaipepnrupsiehliymphunphakhnadihyehnuxchxngissxngkrasun aelapaklaklxngtdtrngthaihewlayingdwyrabbxtonmti puncasabdepnxyangmak swnxanackarthalaylangnn yngthuxwayngsrangkhwamesiyhay enuxngcakkrasunkhnad 7 62x39 inraya200 300emtr khwamaerngkhxngkrasunyngkhngthixyuemuxekhasuenuxeyuxkrasunthaluxxkipkxnthicahnehkxnaetinraya 400 500 emtr ruekhapraman 8 milliemtr ruxxkxacca 30 40 milliemtrkid txmainpi ph s 2517 kxngthphosewiytkidmikarnapun exekh 47 aelapunexekhexmmathakarprbprungaelaphthnaxikkhrngcnepnpunexekh 74 aelanamaichkbkrasunkhnad 5 45x39 m m runexm74 hrux 5exn7 sungidrbphthnaaelaprbprungmacakkrasunkhnad 5 56x45 m m aebbnaotkhxngkxngthphshrthxemrikaaelakxngkalngnaotsamarthtidtngxupkrnesrimid echn ekhruxngyinglukraebidkhnad 40 mm aebbtidtngitlaklxng run ciphi 25 dabplaypun l epntnduephimexekh 74hmayehtukhxmultarangkhrxbkhlumexekh 47 phrxmokhrngpunithp 3xangxingMonetchikov 2005 chpts 6 and 7harvnb error no target CITEREFMonetchikov2005 if AK 46 and AK 47 are to be seen as separate designs 1986 The AK47 Story Evolution of the Kalashnikov Weapons p 112 ISBN 978 0 811709163 2004 The AK 47 and AK 74 Kalashnikov Rifles and Their Variations p 8 ISBN 1 882391 33 0 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux k3 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux foxnews NSD 7 62 mm avtomat AK 1967 pp 161 162 sfn error no target CITEREFNSD 7 62 mm avtomat AK1967 NSD 7 62 mm avtomat AKM AKMS 1983 pp 149 150 sfn error no target CITEREFNSD 7 62 mm avtomat AKM AKMS 1983 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux izhmash Monetchikov 2005 p 67 Bolotin 1995 p 129 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb exekh 47 US Army Operator s Manual for the AK 47 Assault Rifle AK Site Kalashnikov Home Page thi ewyaebkaemchchin ekbthawr 29 knyayn 2007 Nazarian s Gun s Recognition Guide MANUAL AK 47 Manual pdf 2008 10 30 thi ewyaebkaemchchin The Timeless Ubiquitous AK 47 2013 08 26 thi ewyaebkaemchchin slideshow by Time magazine Legendary Kalashnikov Story of AK 47 Rifle s Documentary AK 47 The Weapon Changed the Face of War audio report by The AK 47 The Gun That Changed The Battlefield audio report by AK 47 Documentary Part 1 amp Part 2 by Al Jazeera English AK 47 Full Auto U S Army in Iraq from the Internet Archive Years of the gun A political history of the AK 47 in Pakistan bybthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk