พังก์ร็อก (อังกฤษ: punk rock) เป็นดนตรีร็อกประเภทหนึ่ง (โดยมากมักเรียกสั้น ๆ ว่า พังก์) มีการเคลื่อนไหวและเป็นที่รู้จักในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 พังก์ร็อกได้พัฒนาระหว่างปี ค.ศ. 1974 และ ค.ศ. 1977 ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย โดยมีวงอย่าง เดอะราโมนส์, เซ็กซ์พิสทอลส์ และ เดอะแคลช ที่เป็นที่รู้จักในฐานะแนวหน้าของดนตรีประเภทนี้
พังก์ร็อก | |
---|---|
แหล่งกำเนิดทางรูปแบบ | การาจร็อก ร็อกแอนด์โรล ฮาร์ดร็อก ผับร็อก โพรโตพังก์ แกลมร็อก |
แหล่งกำเนิดทางวัฒนธรรม | ต้นถึงกลางทศวรรษที่ 1970 ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย |
เครื่องบรรเลงสามัญ | เสียงร้อง กีตาร์ กีตาร์เบส กลองชุด |
รูปแบบอนุพันธุ์ | นิวเวฟ โพสต์พังก์ ออลเทอร์นาทิฟร็อก อีโม |
แนวย่อย | |
- - - โกธิกร็อก - แกลมร็อก - ฮาร์ดคอร์ - - - ไรออตเกิร์ล - - - | |
แนวประสาน | |
- - - - - - ป็อปพังก์ - - - - - สกาพังก์ - |
ลักษณะดนตรีแบบ พังก์ร็อกมีลักษณะท่วงทำนองที่รุนแรง หยาบกระด้าง ด้วยความขาดทักษะของการเล่นดนตรี ส่วนการร้องก็จะเป็น "ตะโกน"หรือ "บ่น" และแฝงนัยยะของ "การต่อต้าน" และการยกย่อง "ความเป็นเลิศ" เครื่องดนตรีจะประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 หรือ 2 ตัว ,เบสไฟฟ้าและชุดกลอง มักมีการเล่นแบบ 2 คอร์ด เพลงพังก์มักมีความยาวระหว่าง 2 ถึง 2 นาทีครึ่ง มีบางเพลงมีความยาวน้อยกว่า 1 นาทีก็มี เพลงพังก์ในช่วงแรกรับอิทธิพลจากร็อกแอนด์โรลคือมีท่อนประสานเสียง
พังก์ร็อกกลายเป็นกระแสนิยมหลักในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 1970 แต่ความโด่งดังในที่อื่นมีในจำกัด จนกระทั่งทศวรรษที่ 80 พังก์ร็อกได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเล็ก ๆ ทั่วทุกมุมโลก ส่วนมากจะถูกปฏิเสธจากดนตรีกระแสหลัก ในช่วงปลายยุคทศวรรษที่ 1970 ดนตรีพังก์ร็อกได้แตกแยกแขนง ไปหลากหลายทิศทาง เช่นเพลงแนว นิวเวฟ, โพสต์พังก์ โดยหลายวงได้ทำการทดลองแนวดนตรีไปในทิศทางอื่น เช่นแนวฮาร์ดคอร์พังก์ และ และ เป็นต้น
และพังก์ร็อกยุคใหม่ได้พัฒนาไปอีกขึ้น โดยเพลงแนวออลเทอร์นาทิฟร็อกได้รับความนิยมเหมือนตอนที่ได้พังก์ร็อกรับความนิยมในช่วงแรก
ลักษณะ
พังก์ยุคแรกมีจุดความก้าวร้าว ซึ่งดูไกลจากร็อกในต้นยุคทศวรรษที่ 1970 ที่อ่อนไหวและฟังดูรื่นหูทอมมี ราโมน มือกลองวงเดอะ ราโมนส์ เคยกล่าวไว้ว่า "ในช่วงแรกของการเริ่มต้น วงยุค 1960 หลายวง ได้ปฏิรูปและมีความน่าตื่นเต้น แต่โชคไม่ดีที่อยู่ได้ไม่นาน พวกเรารู้ว่าต้องการสิ่งที่ต้องการคือความบริสุทธิ์ และไม่ต้องการ ร็อกแอนด์โรล"
จอห์น โฮล์มสตรอม บรรณาธิการนิตยสาร พังก์ แฟนไซน์ให้ความเห็นกับการเกิดของพังก์ร็อกว่า "พังก์ร็อกเกิดขึ้นเพราะดนตรีร็อกในช่วงนั้นดูน่าเบื่อ อย่าง บิลลี โจเอล, ไซมอน แอนด์ การ์ฟังเกล ที่ถูกเรียกว่าร็อกแอนด์โรล โดยร็อกแอนด์โรลมีความหมายกับหลาย ๆ คนว่า ดนตรีขบถและป่าเถื่อน" ดนตรีพังก์นั้นถือกำเนิดมาจากความคิดของคนหนุ่มชนชั้นกลางจนถึงชนชั้นกรรมาชีพโดยมีความปรารถนาที่จะหลีกหนีสังคมที่ไม่เคยเห็นอกเห็นใจหรือช่วยเหลือเกื้อหนุนต่อพวกเขาเลยและคิดว่าสิ่งที่พวกเขาคิดพูดและแสดงออกนั้น ไร้สาระโดยสิ้นเชิง
ในคำวิจารณ์ของโรเบิร์ต คริสต์เกาอธิบายไว้ว่า "มันก็คือวัฒนธรรมย่อยอย่างหนึ่งที่ปฏิเสธการเมือง ความสมบูรณ์แบบ และ นิทานปรัมปรางี่เง่าของพวกฮิปปี้" ในทางตรงกันข้ามแพตติ สมิธเอ่ยในรายการสารคดี 25 ปีของพังก์ว่า "พังก์และฮิปปี้มีจุดร่วมเหมือนกันคือ ต่อต้านร็อกแอนด์โรล ในบางครั้งก็ปฏิเสธไม่เฉพาะร็อกกระแสหลักและวัฒนธรรม" ในปี ค.ศ. 1977 เมื่อพังก์ก้าวสู่กระแสหลักในสหราชอาณาจักร และถูกเรียกว่า "ปีศูนย์" (Year Zero) การหวนสู่ความหลังถูกทิ้งไป แต่ได้รับแนวความคิดแบบไร้จริยธรรมเข้าไป โดยวงเซ็กซ์พิสทอลส์มีคำขวัญว่า "ไร้อนาคต" (No Future)
วงพังก์มักเลียนแบบโครงสร้างดนตรีที่เปลือยเปล่าและการเรียบเรียงดนตรีของดนตรีแนวการาจร็อก ในช่วงทศวรรรษที่ 1960 นิตยสารพังก์ ไซด์เบิร์นส ในปี 1976 ได้ล้อเลียนโดยภาพวาด 3 คอร์ด มีคำอธิบายว่า "นี่คือคอร์ด นี่อีกคอร์ด และนี่คอร์ดที่สาม ตอนนี้ฟอร์มวงได้แล้ว"
เครื่องดนตรีจะประกอบด้วย กีตาร์ไฟฟ้า 1 หรือ 2 ตัว, , ชุดกลอง ในช่วงแรกพังก์ร็อกดูสับสน จอห์น โฮล์มสตรอม กล่าวว่า "พังก์คือร็อกแอนด์โรลในสายตาคนที่ไม่รู้เรื่องดนตรีมากนัก แต่รู้สึกได้ถึงความต้องการที่จะปลดปล่อยตัวเองในดนตรี" การร้องของพังก์บางครั้งฟังเหมือนเสียงขึ้นจมูก และบ่อยครั้งที่จะตะโกนแทนที่จะร้อง ความซับซ้อนของกีตาร์บ่งบอกถึงความหลงผิดในตัวเอง
เบสกีตาร์มักจะเป็นพื้นฐานทั่วไปโดยมีส่วนช่วยพยุงเมโลดี้ของเพลง มีมือเบสวงพังก์บางวงอย่าง ไมค์ วัตต์ และ ฌอง-แจ็คส์ เบอร์เนล แห่งวง จะเน้นเบสขึ้นมา มือเบสหลาย ๆ วงมักใช้ปิ๊กมากกว่าการใช้นิ้วเนื่องจากความรวดเร็วต่อเนื่องของโน้ต กลองโดยทั่วไปจะหนักและดูแห้ง จะมีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย เพลงพังก์มักมีความยาวระหว่าง 2 ถึง 2 นาทีครึ่ง มีบางเพลงมีความยาวน้อยกว่า 1 นาทีก็มี เพลงพังก์ในช่วงแรกรับอิทธิพลจากร็อกแอนด์โรลคือมีท่อนประสานเสียง อย่างไรก็ตามวงพังก์รุ่นใหม่อาจรวมแนวเพลง โพสต์พังก์ และ ฮาร์ดคอร์พังก์ จะไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ดังกล่าว ฮาร์ดคอร์พังก์ กลองจะเร็วขึ้น เนื้อเพลงจะกึ่งตะโกน เสียงกีตาร์ฟังดูก้าวร้าว
ภาคเนื้อร้องโดยทั่วไปจะเป็นการพูดกันตรง ๆ โดยจะวิจารณ์สังคมการเมือง เช่นเพลง Career Opportunities ของวงเดอะ แคลช,Right to Work ของวงเชลซี เป็นต้น ยังมีเพลงที่มีเนื้อหาตึงเครียดในลักษณะต่อต้านความรัก พรรณาถึงความสัมพันธ์ของชายหญิงและเรื่องเพศสัมพันธ์อย่างเพลง Love Comes in Spurts ของวง
วี. เวลกล่าวว่า "พังก์เป็นนักปฏิวัติวัฒนธรรม เผชิญหน้ากับความมืดของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม พวกอนุรักษนิยม ข้อห้ามทางเพศ ได้ขุดในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนออกมาโดยคนรุ่นใหม่อย่างสมบูรณ์"
รูปแบบการแต่งกายของชาวพังก์ พวกเขาใส่ที-เชิร์ต สวมมอเตอร์ไซค์ กางเกงยีนส์ เป็นการยกย่องอเมริกันกรีซเซอร์ในยุคทศวรรษที่ 1950 ในยุคทศวรรษที่ 1980 การสักและการเจาะได้รับความนิยมในหมู่นักดนตรีพังก์และแฟนเพลง
ยุคก่อนพังก์ร็อก
การาจร็อกและม็อด
ในช่วงต้นและกลางยุคทศวรรษที่ 1960 วงดนตรีการาจร็อก ได้ยอมรับว่าเป็นต้นกำเนิดของดนตรีพังก์ เริ่มต้นในหลาย ๆ ที่ทางอเมริกาเหนือ วง (The Kingsmen) การาจร็อกจากพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ได้เปิดตัวด้วยเพลงดัง Louie, Louie เพลงเก่าที่นำมาทำใหม่ในรูปแบบพังก์ร็อก
รูปแบบซาวนด์ที่น้อยของวงการาจร็อกหลาย ๆ วงได้รับอิทธิพลมาจากวง (The Kinks) กับเพลงดัง You Really Got Me และ All Day and All of the Night ในปี 1964 ได้ถูกบรรยายว่าเป็นต้นแบบของเพลง 3 คอร์ด ของวงเดอะ ราโมนส์ในปี ค.ศ. 1978 กับเพลง I Don't Want You
วงเดอะ ฮู (The Who) กับเพลง My Generation ก็ได้อิทธิพลมาจากวง เดอะคิงก์ส ซึ่งวงเดอะฮูและ (The Small Faces) เป็นวงร็อกยุคก่อนหน้าที่เป็นที่รู้ดีกันว่ามีอิทธิพลให้กับวง เซ็กซ์ พิสทอลส์ ในปี 1966 ม็อดได้ลดความนิยมในสหรัฐอเมริกาไป การาจร็อกในอเมริกาเสื่อมความนิยมไปในไม่กี่ปี แต่แนวดนตรีใหม่ที่มาแทนคือ (garage psych) เช่นวง (The Seeds) ที่ต่อมาเป็นที่รู้จักในแนว โปรโตพังก์
โปรโตพังก์
ในปี ค.ศ. 1969 มีวงจากมิชิแกน 2 วงได้ออกอัลบั้มแนวโปรโตพังก์ ถือได้ว่ามิชิแกนมีความเกี่ยวข้องกับศูนย์กลางของโปรโตพังก์ ต่อมาวงเอ็มซีไฟฟ์ (MC5) จากดีทรอยต์ ออกอัลบั้ม Kick Out the Jams "ทางวงได้ตั้งใจให้ออกมาหยาบและดิบ" เขียนโดยนิตยสารโรลลิ่ง สโตนโดย เลสเตอร์ แบงส์ "เพลงส่วนใหญ่จะค่อนข้างไม่แตกต่างกันเลย เพลงมีโครงสร้าง 2 คอร์ดแบบดิบ ๆ คุณจะเคยได้ยินมาก่อนกับวงอย่าง (The Seeds), (Blue Cheer), (Question Mark and the Mysterians) และ (The Kingsmen) ความแตกต่างคือ การหลอกลวง โดยปกปิดบางส่วนของความซ้ำซากด้วยเสียงที่น่าเกลียด ในท่อน "I Want You Right Now" ฟังดูเหมือนเพลง I Want You ของวง (The Troggs)"
ฤดูร้อนในปีนั้นวง (The Stooges) ได้ออกอัลบั้มแรกโดยมีอิกกี ป็อป เป็นนักร้องนำอัลบั้มนี้โปรดิวซ์โดย จอห์น เคล อดีตสมาชิกวงร็อก เดอะเวลเวตอันเดอร์กราวด์ (The Velvet Underground) อัลบั้มนี้เป็นแรงบันดาลใจไม่ทางตรงก็ทางอ้อมให้กับการเกิดของดนตรีพังก์
ทางฝั่งตะวันออกวง (New York Dolls) ได้ถือกำเนิดแฟชั่นร็อกแอนด์โรลแบบดุร้าย ที่ต่อมารู้จักกันในนามของ แกลมพังก์ (glam punk) ในรัฐโอไฮโอวงร็อกอันเดอร์กราวนด์ได้ปรากฏออกมา นำโดย ดีโว (Devo) จากเมื่องและ (The Electric Eels), (Mirrors) และ (Rocket from the Tombs) จากเมื่องคลีฟแลนด์
ในลอนดอน ดนตรีร็อกได้กลับคืนสู่สามัญ และได้ปูพื้นให้นักดนตรีหลายคนสู่วงการเพลงพังก์เช่นวง (The Stranglers), (Cock Sparrer) และ ซึ่งต่อมาคือสมาชิกวงเดอะแคลช
ในออสเตรเลีย วงการาจร็อกรุ่นใหม่หลายวงได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับ เดอะสตูเจดส์ และ เอ็มซีไฟฟ์ (MC5) ที่มีซาวน์ดนตรีที่ใกล้เคียงกับความเป็นพังก์ที่สุดในบริสเบนวง (The Saints) ได้เล่นเพลงดิบ ๆแบบอังกฤษ และได้ทัวร์ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในปี 1965 สถานีวิทยุเบิร์ดแมนได้เล่นเพลงการแสดงสดเล็ก ๆ นี้ด้วย แต่ความคลั่งไคล้ได้ตามมาถึงซิดนีย์
ที่มาของคำว่าพังก์
ก่อนกลางทศวรรษที่ 1970 คำว่าพังก์ เป็นคำเก่าแก่ที่มีความหมายคลุมเครือ มักใช้อธิบายถึงผู้ชายหากิน พวกอันธพาล นักเลงหัวไม้ เลคส์ แม็คนีลอธิบายว่า "เมื่อคุณดูรายการโทรทัศน์เกี่ยวการตามล่าคนร้ายของตำรวจ เวลาตำรวจจับผู้ร้าย พวกเค้ามักจะพูดว่า 'you dirty Punk' ถ้าครูเรียกคุณอย่างนั้นก็หมายความว่า คุณต่ำที่สุด" ความหมายของคำว่าพังก์ชัดเจนขึ้นโดย นักวิจารณ์เพลงร็อก เดฟ มาร์ชในปี 1970 เมื่อเขาได้อธิบายลักษณะดนตรีและทัศนคติของวงเควสชัน มาร์ค แอนด์ เดอะ มิสทีเรียนส์ เดือน มิถุนายน ค.ศ. 1972 นิตยสารแฟลชได้จัดอันดับ "เพลงพังก์สิบอันดับ" แห่งทศวรรษที่ 60
ในปี 1975 พังก์ได้ใช้อธิบายถึงการกระทำหลายๆอย่างของวง (Patti Smith Group), เดอะ (Bay City Rollers) และ บรูซ สปริงส์ทีน ที่นิวยอร์ก คลับ CBGB คลับที่หาแนวเพลงใหม่ๆ เจ้าของคลับคือ ฮิลลี คริสตัล ส่วนจอห์น โฮล์มสตรอมได้ให้เครดิต นิตยสารอควาเรียนเกี่ยวกับพังก์ว่า "เป็นการอธิบายว่าอะไรเกิดขึ้นใน CBGB บ้าง" ซึ่งต่อมา โฮล์มสตรอมร่วมกับ แม็คนีล และ เก็ด ดันน์ ทำนิตยสารที่ชื่อว่า "พังก์" เปิดตัวปลายปี 1975 ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของคำว่าพังก์ โฮล์มสตรอมกล่าวว่า "มันเป็นอะไรที่ดีที่คำนี้มันดังขึ้นมา เราคิดคำนี้ได้ก่อนที่ใครจะคิดได้ เราต้องการขจัดร็อกแอนด์โรลงี่เง่าออกไป สิ่งที่เราต้องการคือความสนุกและน่าตื่นเต้น"
ประวัติ
นิวยอร์ก
ต้นกำเนิดของนิวยอร์กพังก์สามารถสืบต้นตอไปถึงปลายยุคทวรรษที่ 1960 กับวัฒนธรรมขยะ และ ต้นยุคทวรรษที่ 1970 กับการเคลื่อนไหวของ มีจุดศูนย์กลางอยู่แถว เมอร์เซอร์ อาร์ทส เซ็นเตอร์ ใน กรีนิช วิลเลจที่ที่ นิวยอร์ก ดอลส์ได้แสดง ในปี 1974 CBGB ได้กลายเป็นสถานที่ประจำของวงดนตรีที่เล่นเพลงเสียงดัง ๆ และดนตรีที่ซับซ้อน ริชาร์ด เฮลล์ได้ริเริ่มรูปแบบการแต่งตัวแบบ หนัง เสื้อทีเชิร์ตขาดๆ กางเกงขาสั้น ทรงผมที่ดูสกปรก
ต้นปี 1975 เฮลล์ได้เขียนเพลง Blank Generation โดยได้บันทึกเสียงกับวงใหม่ เดอะ วอยดอยด์ส ที่ออกวางขายในปี 1976 เดือน สิงหาคม 1975 บลอนดีย์ได้ออกซิงเกิล Little Johnny Jewel คำวิจารณ์ของ จอห์น วอล์กเกอร์อธิบายว่า "นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเพลงในนิวยอร์ก" อีกคนนึงที่เล่นประจำที่คลับนี้คือ แพตติ สมิธ ที่ได้พัฒนาในรูปแบบของผู้หญิง อัลบั้มแรกคืออัลบั้ม Horses ที่โปรดิวซ์โดย จอห์น เคล ออกวางจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน 1975
ไซร์เออเรเคิดส์ ได้ออกแผ่นแรกกับ เดอะราโมนส์ ซิงเกิล Blitzkrieg Bop ถือเป็นการเปิดตัวของพังก์อย่างเป็นทางการ ออกวางขายช่วงเดือนธันวาคม และมีนิตยสารใหม่ๆเกิดขึ้นพร้อมกับศิลปินอย่าง เวลเว็ต อันเดอร์กราวนด์ ,เดอะ สตูกส์ และ นิวยอร์ก ดอลลส์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ CBGB และ แม็กซ์ แคนซัส ซิตี้ มีศิลปินเช่น เดอะราโมนส์, (Television), (The Heartbreakers), แพตตี สมิธ (Patti Smith), บลอนดี (Blondie), ทอล์กกิงเฮดส์ (Talking Heads) และอื่นๆ คำว่าพังก์เริ่มเป็นที่รู้จักทั่วไป ริชาร์ด เฮลล์ได้ริเริ่มลักษณะเฉพาะตัวขึ้นมา
สหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย
หลังจากที่ได้ทำงานจัดการกับวงนิวยอร์กดอลส์ (New York Dolls) ในระยะเวลาสั้นๆ (Malcolm McLaren) ได้กลับมาลอนดอนเดือนพฤษภาคม 1975 เขาได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขาเห็นใน CBGB โดยเขาได้เปิดร้าน SEX (ร่วมกับวิเวียน เวสต์วูด) ร้านเสื้อผ้าที่ปฏิวัติวงการแฟชั่น ขายเสื้อผ้าขาดๆ เครื่องห้อยต่างๆ ชุดหนังต่างๆ โดยต่อมาได้รับความนิยมในหมู่พังก์ เขาก็ได้มีส่วนร่วมกับวงเดอะสแวงเกอส์ (The Swankers) ที่ต่อมาคือวง เซ็กซ์พิสทอลส์
4 กรกฎาคม ค.ศ. 1976 วงเดอะ ราโมนส์และเดอะ สเตรนเจอร์ส ได้เปิดคอนเสิร์ตที่ราวด์เฮาส์ในลอนดอน โดยมีผู้ชมร่วม 2 พันคน คืนต่อๆมา สมาชิกวงเซ็กซ์ พิสทอลส์ และเดอะ แคลช ได้ร่วมคอนเสิร์ตกับวงเดอะราโมนส์ คอนเสิร์ตเหล่านี้เป็นจุดสำคัญของวงการพังก์ร็อกในอังกฤษที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น หลายเดือนผ่านไปมีวงพังก์เกิดขึ้นอีกหลายวง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวงเซ็กซ์ พิสทอลส์ ในลอนดอนได้เกิดวงอย่าง (The Damned), (The Vibrators), (The Slits), (X-Ray Spex), ซูซีแอนด์เดอะแบนชีส์ (Siouxsie and the Banshees), (Eater), (The Subversives), (The Adverts), และในย่านเชลซีมีวงเกิดอย่าง (Generation X) และวง (Sham 69) ก็เริ่มต้นทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง เฮอร์แชม (มณฑลเซอร์รีย์) ส่วนในแมนเชสเตอร์ เกิดวงอย่าง (The Buzzcocks) ที่ต่อมาคือวง วอร์ซอว์ (Warsaw) และจอยดิวิชัน (Joy Division) ที่หลายๆที่ในอังกฤษ วงเหล่านี้ได้ทดลองดนตรีทดลอง และมีหลายวงอย่าง เดอะแจม (The Jam), ค็อก สปาร์เรอร์ ก็ได้ลองมาสู่กระแสพังก์
คลินตัน เฮย์ลิน นักเขียนคอลัมน์ร็อกได้อธิบายไว้ว่า "วงแกล็มเหล่านี้ได้รับอิทธิพลของวัยรุ่นต้นยุคทศวรรษที่ 1970 อย่าง ที. เร็กซ์ (T.Rex), (Slade) และ (Roxy Music)
ในขณะที่พังก์ได้เข้าถึงสหราชอาณาจักร เช่นเดียวกับวงการใต้ดินในออสเตรเลีย
กลับมาสู่ที่อังกฤษ เพลง Anarchy in the U.K. โดยเซ็กซ์ พิสทอลส์ ขึ้นชาร์ทในเดือน กันยายน 1976 และวงเดอะ เซนต์ เป็นวงพังก์วงแรกที่ไม่ใช่วงจากอเมริกาที่ออกขายซิงเกิล คือเพลง (I'm) Stranded ทางฝั่งออสเตรเลีย ที่เพิร์ธ วงพังก์อย่าง ได้เริ่มฟอร์มวง
เดอะแดมน์ (The Damned) เป็นวงพังก์จากอังกฤษวงแรกที่ออกซิงเกิลโดยออกเพลง New Rose ต่อมาเซ็กซ์พิสทอลส์ (Sex Pistols), เดอะแคลช (The Clash), เดอะแดมน์ และ เดอะฮาร์ตเบรกเกอส์ (The Heartbreaker) ได้รวมกันออกทัวร์ที่ชื่อว่า Anarchy Tour แสดงคอนเสิร์ตทั่วสหราชอาณาจักร โดยหลายที่ในทัวร์ถูกยกเลิกไปเนื่องจากสื่อได้วิจารณ์ในแง่ร้าย
คลื่นลูกถัดไป
ในขณะที่กระแสพังก์ร็อกได้แพร่ขยายอย่างรวดเร็วในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ช่วงปี 1976 โดยในปี 1977 วงรุ่นใหม่ได้รับความนิยมทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และ แคนาดา กระแสนิยมอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ มีการจัดการอย่างกระตือรือร้นโดย เจ้าของคลับ ผู้จัดคอนเสิร์ต ในสถานที่ต่างๆอย่าง โรงเรียน โรงรถ โกดังเก็บของ มีการโฆษณาโดยใช้ใบปลิว ใบปิด นิตยสารสำหรับแฟนเพลง เป็นลักษณะแบบ D.I.Y (do-it-yourself) ซึ่งต่อต้านการค้าแบบธุรกิจ
ความแพร่หลายของเริ่มขึ้นและพัฒนาในช่วงต้นปี 1976 มีวงอย่าง (The Weirdos), (The Dils), (The Screamers), (The Dickies), (X), (The Go-Go's), (The Zeros) และ (The Bags) จากเมื่องลอสแอนเจลิส และพังก์ได้เติบโตในซานฟรานซิสโก, วอชิงตัน ดี.ซี. ส่วนในนิวยอร์กที่ที่เป็นต้นกำเนิดของพังก์ มีความนิยมในแนวย่อยใหม่อย่าง "โนเวฟ" แต่วงดั้งเดิมอย่าง เดอะราโมนส์ ก็คงยังเล่นอยู่ ในนิวเจอร์ซีย์ วงมิสฟิตส์ ได้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงนั้น โดยในปี 1978 ได้พัฒนาแนวทางจนเป็นที่รู้จักกันในแนว ในแคนาดา ได้กำเนิดวงพังก์อีกมากมาย เช่น เดอะดีมิกซ์ (The Demics), เดอะโกเวอร์เมนต์ (The Government) เป็นต้น
ในช่วงปี 1978-79 ฮาร์ดคอร์พังก์ได้เกิดขึ้นในแคลิฟอร์เนียใต้และวอชิงตัน ดีซี ฮาร์คอร์พังก์มีลักษณะดนตรีแบบใหม่ที่ดูวัยรุ่นกว่า นิยมในหมู่ชานเมือง ต่อต้านพวกปัญญาชน และรุนแรงยิ่งกว่า ในลอสแอนเจลิส พังก์เป็นที่รู้จักในชื่อ ฮอลลีวูดพังก์ และ บีชพังก์ โดยเป็นที่นิยมในแถบ และ และด้วยความโดนเด่นของฮาร์ดคอร์พังก์ วงแคลิฟอร์เนียพังก์เริ่มที่จะกลับมาทำฮาร์ดคอร์พังก์ เช่นวงเดอะ โก-โกส์ และ เอกซ์ ซึ่งประสบความสำเร็จในกระแสหลัก
พังก์ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในกระแสเพลงใต้ดินในอเมริกาเหนือและออสเตรเลียในช่วงยุคทศวรรษที่ 70 ในสหราชอาณาจักรพังก์ในอังกฤษมีความหลากหลายมากขึ้น และเข้าสู่กระแสหลัก วงเดอะ แคลชกับอัลบั้มแรก สามารถขึ้นชาร์ทอันดับที่ 12 ในเดือนพฤษภาคม 1977 วงเซ็กซ์พิสทอลส์ มีซิงเกิลฮิตอันดับ 2 คือเพลง God Save the Queen และมีวงหลายๆวงเกิดขึ้น ในชื่อที่เป็นที่รู้จักในแนว "" ความหลากหลายของเพลงขยายไปมากขึ้นโดยมีการใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น วงรุ่นใหม่หลายๆวงใช้เครื่องสังเคราะห์เสียง วงเดอะแคลชได้นำเพลง Police and Thieves มาทำใหม่ในสไตล์จาไมกา เร้กเก้ ส่วนวงยุคแรกๆอย่าง เดอะสลิตส์ และ เดอะโพลิส (The Poilice) ได้ทำเพลงผสมพังก์ในสไตล์เร้กเก้และสกา เป็นเพลงรูปแบบใหม่ ในชือแนว "" อย่างเช่นวง เดอะสเปเชียลส์ (The Specials), (The Beat), (Madness) เป็นต้น
ในเยอรมนีตะวันตก วงไอดีล (Ideal), เอกซ์ตราบรีต (Extrabreit) และ นีนา (Nena) ได้รับความนิยมในเพลงกระแสหลัก ส่วนในฝรั่งเศส ศิลปินแนวพรี-พังก์อย่าง ลู รีดได้เรียกตัวเองว่า les punk พังก์ยังได้รับความนิยมในประเทศอื่นๆอย่าง เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, สวิตเซอร์แลนด์ และ สวีเดน
ความหลากหลายของพังก์
ในช่วงปลายยุคทศวรรษที่ 70 ดนตรีพังคได้แตกแยกแขนง ไปหลากหลายทิศทาง โดยได้ผสมผสานความเป็นศิลปะ ของกลุ่มคนชั้นกลางผู้ต้องการความแตกต่าง และกลุ่มคนชั้นแรงงาน นี่เป็นที่มาของเพลงแนว นิวเวฟ และ โพสต์พังก์ โดยหลายวงได้ทำการทดลองแนวดนตรีไปในทิศทางอื่น เช่นแนว ฮาร์ดคอร์พังก์ และ ออย! และ อะนาร์โค-พังก์ ในบขณะที่ ป็อปพังก์มีคนเคยกล่าวว่า เป็นการรวมระหว่างแอ็บบ้า กับ เซ็กซ์พิสทอลส์
ความหลายหลายได้เกิดขึ้น หลายๆแนวเริ่มรวมกันกับแนวอื่น อย่างเช่นวงเดอะ แคลชในอัลบั้ม London Calling ได้รวมเร้กเก้ สกา อาร์แอนด์บี ร็อกอะบิลลี กับพังก์ ซึ่งถือว่าเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดอัลบั้มหนึ่งก็ว่าได้
นิวเวฟ
นิวเวฟเป็นแนวเพลงย่อยของพังก์แรกๆ ในช่วงนั้นวงอย่าง ทอล์กกิงเฮดส์ (Talking Heads), บลอนดี (Blondie), ดีโว (Devo) และ เดอะโพลิซ (The Police) ได้ทำให้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยเพลงมีจังหวะที่สามารถเต้นรำได้ ทางภาคโปรดักชันที่ดูสละสลวยขึ้นกว่าพังก์ ทำให้เรียกว่า นิวเวฟ โดยมีองค์ประกอบของพังก์ยุคเริ่มแรกอยู่และแฟชั่น บวกความเป็นป็อปเข้าไปและดูอันตรายน้อยลง ตัวอย่างวงนิวเวฟเช่น (The Cars) และ (Elvis Costello) ที่ได้รับความนิยมทั้งอังกฤษและอเมริกา
ดนตรีนิวเวฟได้เข้าสู่แนวดนตรีกระแสหลัก มีพังก์เป็นต้นแบบ มีการรวมแนวเพลงอย่าง ทูโทนสกา เป็นต้น ต่อมากระแสเพลงแนวนิวโรแมนติกได้รับความนิยม เช่นวง ดูแรนดูแรน (Duran Duran) และวงซินธ์ป็อปอย่าง ดีเพเช โมด ดนตรีนิวเวฟกลายเป็นวัฒนธรรมป็อปและการเกิดของสถานีโทรทัศน์ทางดนตรีช่อง เอ็มทีวี ในปี 1981 ที่ได้เล่นเพลงประเภทนิวเวฟอยู่
โพสต์พังก์
ในสหราชอาณาจักรแนวโพสต์-พังก์ ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง มีวงอย่าง (The Fall), จอยดิวิชัน (Joy Division), (Gang of Four) เป็นต้น มีบางวงอย่าง ซูซีแอนด์เดอะแบนชีส์และได้แปลจากวงพังก์เป็นวงโพสต์-พังก์ ทางด้านดนตรีมักจะเป็นดนตรีทดลอง เหมือนวงแนวนิวเวฟ ลักษณะแนวเพลงนิวเวฟจะมีลักษณะไม่ค่อยจะเป็นเพลงป็อป ดูหม่น ๆ ดูกัดกร่อน ในบางครั้งจะไม่มีท่วงทำนอง และได้รับอิทธิพลจากดนตรีอาร์ตร็อกอย่าง และ เดวิด โบอี เป็นต้น ในทางเนื้อเพลงจะเป็นการเขียนเนื้อเพลงแบบใหม่
วงอย่าง นิวออร์เดอร์ (New Order) และ ยูทู (U2) ที่ดังข้ามไปฝั่งอเมริกาสู่กระแสหลัก แต่บางวงก็ดังในกลุ่มเล็กอย่าง แกงออฟโฟร์ (Gang of Four) และ เดอะเรนโคทส์ (The Raincoats) เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดีแนวเพลงได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในวัฒนธรรมเพลงป็อปด้วย
ฮาร์ดคอร์พังก์
ฮาร์ดคอร์พังก์มีลักษณะถึงความเร็ว จังหวะที่ก้าวร้าว และมักพูดถึงเรื่องการเมือง ถูกพัฒนาช่วงปลายทศวรรษที่ 70 ในสหรัฐอเมริกา นักเขียนชื่อ สตีเวน บลุช กล่าวว่า "ฮาร์ดคอร์พังก์เริ่มมาจากแถบชานเมืองอันเงียบเหงาในอเมริกา ผู้ปกครองที่ได้ย้ายเด็กออกจากเมืองใหญ่สู่ชานเมืองนี้ ได้ทำให้เห็นถึงความเป็นจริงของเมืองและก็สุดท้ายก็จบลงด้วยปีศาจพันธุ์ใหม่นี้"
ฮาร์ดคอร์พังก์เกิดขึ้นแถบทางใต้ของแคลิฟอรืเนียในช่วงปี ค.ศ. 1978–79 ตามมาด้วยวอชิงตัน ดีซี และแพร่ขยายไปทั่วอเมริกาเหนือและทั่วโลก
ในช่วงแรกวงแรกๆมี (Black Flag) และ (Middle Class), (Bad Brains) และ (Teen Idles) ก็ได้เกิดขึ้นแทบ วอชิงตัน ดีซี วงบางวงอย่าง เดด เคนเนดีส์ได้เปลี่ยนมาเป็นฮาร์ดคอร์พังก์ ส่วนในนิวยอร์กแนวนี้เริ่มเกิดขึ้นในปี 1981 โดยการนำอย่างวง (Agnostic Front), (The Cro-Mags), (Murphy's Law) และ (Youth of Today)
เนื้อเพลงของวง เดด เคนเนดีส์ในเพลง Holiday in Cambodia แสดงให้เห็นการวิจารณ์สังคมการค้าและค่านิยมของชนชั้นกลาง
ช่วงต้นยุค 1980 วงทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาและแคลิฟอร์เนียอย่างวง (JFA), (Agent Orange) และ (The Faction) ได้สร้างทิศทางดนตรีใหม่ให้กับฮาร์ดคอร์พังก์ในแนวใหม่ เรียกว่า
โอย! (Oi!)
ตามกระแสวงพังก์ยุคแรกในสหราชอาณาจักร อย่างวง ค็อคสปาร์เรอร์ (Cock Sparrer) และ แชม 69 (Sham 69) ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 คลื่นลูกต่อมาอย่าง (Cockney Rejects), (Angelic Upstarts), (The Exploited) และ (The 4-Skins) ได้หาสิ่งใหม่ ๆ ให้กับชนชั้นกรรมาชีพ
วงเหล่านี้มักเรียกว่า หรือ แกรี บัชเชล ได้อธิบายแนวเพลง Oi! ว่า "แนวนี้ได้มาจากวง เดอะ ค็อคนีย์รีเจกส์ ที่มักจะตะโกนว่า "Oi! Oi! Oi!" ก่อนที่จะเล่นเพลง แทนที่คำว่า "1, 2, 3, 4!" ส่วนเนื้อเพลงจะสะท้อนให้เห็นความแข็งกร้าว หยาบคาย แสดงสภาพความเป็นจริงในยุคมาร์กาเรต แทตเชอร์ ในสหราชอาณาจักรช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 ถึงต้นทศวรรษที่ 1980
กระแสของ Oi! ถูกกระตุ้นโดยกระแสพังก์ในช่วงนั้น สตีฟ เคนต์นักกีตาร์มืออาชีพกล่าวว่า "พวกเด็กมหาวิทยาลัยมักจะใช้คำยาว ๆ ในการแต่งเพลง และพยายามทำตัวเองให้เป็นศิลปิน" ข้อบัญญัติอย่างนึงของ Oi!คือ ต้องไม่เสแสร้งและเข้าถึงได้ และ Oi! คือความเป็นจริงของพังก์ ที่ที่วงพวกนี้ได้เกิดขึ้น มันโหดร้ายและก้าวร้าวมาก
วง Oi! ในช่วงแรกจะไม่สนใจเรื่องการเมือง อย่างไรก็ตาม วง Oi! หลายวงเริ่มที่จะสนใจสกินเฮดแบบนาซี ถึงแม้วงหลายวงจะไม่ได้สนับสนุนนาซีก็ตาม บางครั้งกลุ่มสกินเฮดที่เหยียดสีผิวจะเข้ามาขัดขวางการแสดงคอนเสิร์ตของพวก Oi! โดยจะตะโกนคำขวัญของ และพยายามก่อความวุ่นวาย วง Oi! หลายวงได้ต่อต้านกับแฟน ๆ การเข้าถึงของกลุ่มคนชั้นกลาง
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1981 ในคอนเสิร์ตในเซาธ์ฮอล ที่มีวงอย่าง (The Business), เดอะโฟร์สกินส์ และ (The Last Resort) ถูกลอบวางระเบิดโดยกลุ่มเด็กวัยรุ่น เพราะความเข้าใจผิดว่าเป็นงานของนีโอนาซี หลังจากนั้นสื่อมวลชนได้ลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้เกี่ยวกับความถูกต้อง และเพลงแนว Oi! ก็ได้ลดความนิยมไป
อะนาร์โค-พังก์
อะนาร์โค-พังก์ (Anarcho-Punk) มาจากคำสองคำ คือ อนาธิปไตย (Anarchism) (อนาธิปไตยหมายถึงแนวคิดการเมืองแบบไร้ผู้นำ) และ พังก์ (Punk) เป็นแนวดนตรีที่สร้างงานดนตรีโดยเสนอเนื้อหาเชิง อนาธิปไตย ซึ่งจริง ๆ แนวพังก์ร็อกก็เป็นแนวที่ต่อต้านระบอบแบบแผน และต่อต้านสังคมอนุรักษนิยมอยู่แล้ว
อะนาร์โค-พังก์ได้พัฒนาไปพร้อมกับ Oi! และกระแสอเมริกันฮาร์ดคอร์ ด้วยรูปแบบดนตรีพังก์ดั้งเดิม ตรงไปตรงมามาก (การใช้คอร์ดน้อย เมโลดี้เรียบ ๆ ในแบบพังก์) และการร้องแบบตะโกนโวยวาย เช่นวงอย่าง (Crass), (Subhumans), (Flux of Pink Indians), (Conflict), (Poison Girls) และ (The Apostles) พยายามที่จะเปลี่ยนพังก์ร็อกที่ใส่แนวคิดทางด้านอนาธิปไตยเข้าไป
อะนาร์โค-พังก์ในยุคเริ่มนั้นเป็นการแสดงตัวตนและได้แสดงศิลปะอย่างชัดเจนนอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนสโลแกน "DIY not EMI" (DIY = Do It Yourself) อันเป็นเหมือนการปฏิเสธค่ายใหญ่ และแสดงออกทางจุดยืนในการต่อต้านไปในตัว โดยอาศัยเครือข่ายและระบบความสัมพันธ์เป็นหลักในการเผยแพร่งาน อะนาร์โค-พังก์ได้แพร่ขยายไปยังแนวพังก์ย่อยแนวอื่น อย่าง พอยสัน เกิร์ลส,คอนฟลิกต์ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นแนวฮาร์ดคอร์พังก์
ป็อปพังก์
ด้วยความรักในวงเดอะบีชบอยส์ และแนวบับเบิลกัมป็อปในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 วงเดอะ ราโมนส์ได้ปูทางไว้ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อของ ป็อปพังก์ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 วงจากสหราชอาณาจักรอย่าง และ ได้รวมแนวเพลงป็อปเข้ากับเนื้อเพลงแบบพังก์ทีดูรวดเร็วและยุ่งเหยิง
ช่วงต้นยุคทศวรรษที่ 1980 วงฮาร์ดคอร์ร็อกแนวหน้าแถบได้ย้ำโดยทำเมโลดี้ที่สละสลวยมากขึ้นกว่าทั่วไป (Epitaph Records) ได้ค้นพบสมาชิกวง ซึ่งต่อมาเป็นรากฐานให้กับวงป็อปพังก์หลาย ๆ วง รวมถึง ที่ได้รับอิทธิพลจากสกา และจังหวะของ ส่วนวงที่เชื่อมพังก์ร็อกด้วยเมโลดี้แบบป็อป เช่นวง (The Queers) และ (Screeching Weasel) ได้กระจายทั่วประเทศ วงอย่างกรีนเดย์ (Green Day) ได้นำกระแสป็อปพังก์สู่กระแสหลัก และมีวงอย่าง (The Vandals) และ (Guttermouth) ได้พัฒนาโดยรวมเมโลดี้แบบป็อปกับความตลกขบขันและก้าวร้าวด้วยกัน
พังก์ยุคใหม่
ออลเทอร์นาทิฟร็อก
วงพังก์ร็อกใต้ดินเกิดขึ้นมาด้วยนับไม่ถ้วน ทั้งเกิดขึ้นมาโดยซาวด์ดนตรีแบบพังก์และได้ประยุกต์ในเจตนารมณ์ของ DIY สู่ความแตกต่างหลากหลายของดนตรี จนกระทั่งต้นยุคทศวรรษที่ 1980 วงในสหราชอาณาจักรอย่างนิวออร์เดอร์ (New Order) และ เดอะเคียว (The Cure) ได้พัฒนาดนตรีรูปแบบใหม่โดยยึดหลักจากแนวโพสต์พังก์และนิวเวฟ ส่วนในอเมริกาวงอย่าง ฮุสเกอร์ดุ (Hüsker Dü) และวงที่ตามมาอย่าง (The Replacements) ได้เชื่อมช่องว่างระหว่างแนวพังก์อย่างฮาร์ดคอร์และดนตรีที่ตอนนั้นเรียกว่า คอลเลจร็อก
ในปี ค.ศ. 1985 นิตยสารโรลลิ่งสโตนได้เขียนเกี่ยวกับวงอย่าง (Black Flag), ฮุสเกอร์ดุ, (Minutemen) และเดอะรีเพลซเม็นส์ ว่า "วงพังก์ดั้งเดิมได้ผ่านไปแล้ว วงพังก์ร็อกอเมริกันที่ดีที่สุดได้เข้ามาแทน พวกเขาได้รู้จักว่าการเล่นดนตรีเป็นอย่างไร และได้ค้นพบเมโลดี้ การโซโล่กีตาร์ และเนื้อเพลงที่มีอะไรมากไปกว่าการตะโกนคำขวัญทางการเมือง" โดยช่วงสิ้นสุดทศวรรษที่ 1980 วงเหล่านี้ได้แปลเปลี่ยนมาเป็นออลเทอร์นาทิฟร็อก โดยออลเทอร์นาทิฟร็อกได้รวมความหลากหลายของสไตล์ อย่าง อินดี้ร็อก, โกธิกร็อก, กรันจ์ และอื่น ๆ ทำให้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยอยู่ในต้นแบบของพังก์ร็อกสู่กระแสนิยมทางด้านดนตรี
วงออลเทอร์นาทิฟอย่าง โซนิกยูท (Sonic Youth) ที่ได้โตขึ้นจากแนวโนเวฟ และวงจากบอสตันอย่างพิกซี่ ได้เริ่มมีกลุ่มคนฟังที่กว้างขวางขึ้น ในปี 1991 วงเนอร์วานา (Nirvana) ได้เกิดขึ้นในกระแสของเพลงแนวกรันจ์ และได้ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจกับอัลบั้มที่ 2 ของพวกเขา Nevermind เนอร์วาน่าได้สดุดีว่าพังก์เป็นอิทธิพลสำคัญของดนตรีพวกเขาเคิร์ต โคเบนนักร้องนำวงเนอร์วาน่าได้เขียนไว้ว่า "พังก์คือดนตรีที่อิสระ มันพูด กระทำ และเล่นในสิ่งที่คุณต้องการ" การประสบความสำเร็จขอวงเนอร์วาน่าได้เป็นตัวกระตุ้นให้กระแสอัลเทอร์เนทีฟร็อกดังขึ้นมา และได้เป็นส่วนหนึ่งของแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมในทศวรรษที่ 1990 ด้วย
เควียร์คอร์ (Queercore) และไรออตเกิร์ล (riot grrrl)
ในทศวรรษที่ 1990 วงพังก์บางวงมีสมาชิกเป็นเกย์ อย่างเช่น (Fifth Column), (God Is My Co-Pilot), (Pansy Division), (Team Dresch) และ (Sister George) พวกเขาได้พัฒนาเพลงแนว ถึงแม้ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากพังก์ แต่ก็แพร่ขยายไปในแนวดนตรีที่หลากหลาย อย่างฮาร์ดคอร์, อินดี้ร็อก, พาวเวอร์ป็อป, โนเวฟ, น็อยส์, และ อินดัสเทรียล เนื้อเพลงของเควียร์คอร์ มักจะเกี่ยวกับ ความอคติ, อัตลักษณ์ทางเพศ, สิทธิส่วนบุคคล โดยอาจกล่าวทั้งในทางขบขันหรือกิริยาท่าทางที่จริงจัง
ในปี ค.ศ. 1991 คอนเสิร์ต Love Rock Revolution Girl Style Now ที่จัดขึ้นในโอลิมเปีย,วอชิงตัน ได้ประกาศการเกิดขึ้นของเพลงแนว riot grrrl ศิลปินที่มาร่วมงาน รวมถึงวงหลายวงที่มีผู้หญิงเป็นแกนนำอย่าง (Bikini Kiss), (Bratmobile) และ (Heavens to Betsy)
นักร้องนำวงบิกินิคิล ชื่อแคธลีน ฮานนา เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเพลงแนว riot grrrl ซึ่งต่อมาได้เข้าทำงานในแนวกับวง เลอทิกร์ (Le Tigre) ส่วนมือกีตาร์วงเฮฟเวนส์ทูเบ็ตซี ชื่อ โคริน ทักเกอร์ และ แคร์รีย์ บราวสไตน์ จากวง (Excuse 17) ต่อมาทั้งคู่ได้ร่วมกันตั้งวงอินดี้ร็อก/พังก์ ชื่อ (Sleater-Kinney)
อีโม
คำว่าอีโมได้เคยถูกอธิบายเป็นหนึ่งในแนวย่อยของฮาร์ดคอร์พังก์ ที่มีต้นกำเนิดในวอชิงตันดีซีในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 คำว่าอีโมมีที่มาจากข้อเท็จจริงที่สมาชิกในวง บางครั้งจะใส่อารมณ์ (emotional) ในการแสดง สังเกตได้จากวงอีโมในยุคแรกๆอย่าง (Rites of Spring), (Embrace) และ (One Last Wish) คำว่า อีโม ย่อมาจาก Emotional Hardcore เน้นการแสดงสดที่เน้นถึงอารมณ์และความรู้สึก แต่แตกต่างจากฮาร์ดคอร์ เนื่องจาก เนื้อหาในสัดส่วนของอีโมร็อกนั้น เน้นสำรวจความรู้สึกภายในจิตใจของตัวเอง มากกว่าวนเวียนก่นด่าถึงสิ่งที่อยู่รอบข้างตัวเอง โดยในช่วงทศวรรษที่ 90 มีวงอีโมเกิดขึ้นมาโดยเฉพาะจากย่านมิดเวสต์หลายวง ไม่ว่าจะเป็น และ ที่ได้รับอิทธิพลมาแบบเต็ม ๆ จากวงรุ่นพี่อย่าง (Fugazi)
วงอย่าง (Sunny Day Real Estate) และ (Texas Is the Reason) ได้แสดงเพลงอินดี้ร็อกในรูปแบบของอีโม ที่มีรูปแบบเพลงที่เป็นเมโลดี้มากขึ้น และลดความยุ่งเหยิงลงกว่าอีโมก่อนหน้านี้ วง (Antioch Arrow) เล่นเพลงอีโมที่รุนแรงขึ้น ที่ต่อมารู้จักกันในชื่อ "สครีโม่" แฟนเพลงอันเดอร์กราวด์หลายคนอ้างว่าวงอีโมในปัจจุบันแทบไม่มีคุณสมบัติของพังก์เลย
พังก์รีไววัล
ในยุคเดียวกับเนอร์วาน่า วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกหลายวงในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 ได้ตอบรับกระแสพังก์ ได้ช่วยให้พังก์ร็อกได้ฟื้นคืนชีพ ในปี ค.ศ. 1994 วงพังก์ร็อกจากแคลิฟอร์เนียอย่าง กรีนเดย์ (Green Day), ดิออฟสปริง (The Offspring), (Rancid) และ (Bad Religion) เป็นตัวสำคัญของความสำเร็จด้วยการช่วยเหลือจากเอ็มทีวีและสถานีวิทยุที่โด่งดังอย่าง KROQ-FM ถึงแม้ว่ากรีนเดย์และแบดรีลิเจียนจะอยู่ในสังกัดค่ายเพลงใหญ่ก็ตาม การประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างมากของกรีนเดย์และดิออฟสปริง ได้ปูทางให้ศิลปินแนวป็อปพังก์อย่างวง บลิงก์-182 (Blink-182), ซิมเพิลแพลน (Simple Plan), กู้ดชาร์ลอตต์ (Good Charlotte) และ ซัม 41 (Sum 41)
วงจากบอสตัน (Mighty Mighty Bosstones) และวงแนวสกาพังก์จากแคลิฟอร์เนีย วง (Sublime) ได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ซึ่งต่อมาวงสกาพังก์อย่าง รีลบิกฟิช (Reel Big Fish) และเลสแดนเจค (Less Than Jake) ก็ได้ได้การตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงในยุค 2000 วงอื่นที่มีรากมาจากฮาร์คอร์พังก์ อย่าง (AFI) มีเพลงขึ้นชาร์ตในยุค 2000 วง อย่างวง (Flogging Molly) และ (Dropkick Murphys) ได้รวมแนวเพลง Oi! เข้าไปด้วย
การเกิดใหม่ของพังก์เห็นได้ชัดว่า ว่ากลุ่มคนที่ฟังพังก์ได้เข้าสู่กระแสหลัก ซึ่งก็มีแฟนเพลงพังก์หลายคนได้ต่อต้านการเกิดเช่นนี้ อย่างความโด่งดังของวง ซัม 41 และ บลิงก์-182
พังก์ในประเทศไทย
ในช่วงที่วงเซ็กซ์ พิสทอลส์ได้เข้าสู่กระแสนิยมหลักทั่วโลก เพลงร็อกในประเทศไทยนิยมเพลงแนวโปรเกรสซิฟ เพลงแบบบุปผาชน หรือเพลงฮาร์ดร็อกอย่าง แบล็ค แซบบาธ,
ต่อมากระแสพังก์ในประเทศไทยเกิดตอนปลายยุคทศวรรษที่ 80 มีการเกิดของรายการเพลง เรดิโอ แอคทีฟ โดย เข้ามาปฏิวัติด้วยที่ไม่เปิดเพลงร็อกเก่า ๆ และเพลงป็อปตลาด โดยการนำของวาสนา วีระชาติพลี ดีเจชื่อดัง ดนตรีแนวพังก์เริ่มเป็นที่รู้จักในเมืองไทยจริง ๆ เมื่อกลางยุคทศวรรษที่ 90 หรือช่วงที่ดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟดังมากในประเทศไทย อย่างวง แมนิค สตรีท พรีชเชอร์ส ที่เคยมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยแล้ว เป็นต้น
ส่วนวงดนตรีพังก์ร็อกในประเทศไทย เช่นวงเอบี นอร์มอล, , , และ สติวเดนต์อั๊กลี่ นอกจากนั้นยังมีวงอีโมพังก์อย่างวงไรทาลิน ของค่าย
อ้างอิง
- Punk " No Future for You, No Future for Me" เว็บไซต์ music499.com
- Robb (2006) , คำนำโดย Michael Bracewell (อังกฤษ)
- Ramone, Tommy, "Fight Club", Uncut, January 2007 (อังกฤษ)
- McLaren, Malcolm,"Punk Celebrates 30 Years of Subversion" BBC News, August 18, 2006. เรียกดูเมื่อ 17 มกราคม ค.ศ. 2006 (อังกฤษ)
- "Punk 2008-03-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน" เว็บไซต์ dekpunk.th.gs
- Christgau, Robert,"Please Kill Me: The Uncensored Oral History of Punk, by Legs McNeil and Gillian McCain" (review)New York Times Book Review, 1996. เรียกดูเมื่อ 17 มกราคม ค.ศ. 2007 (อังกฤษ)
- Harris (2004) , หน้า 202 (อังกฤษ)
- Sabin (1999) , หน้า 101 (อังกฤษ)
- Robb (2006) , คำนำโดย Michael Bracewell (อังกฤษ)
- Murphy, Peter, "Shine On, The Lights Of The Bowery: The Blank Generation Revisited", Hot Press, July 12, 2002; Hoskyns, Barney, "Richard Hell: King Punk Remembers the [ ] Generation", Rock's Backpages, March 2002. (อังกฤษ)
- Punk Music in Britain" BBC.co.uk., October 7, 2002. เรียกดูเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2006 (อังกฤษ)
- McLaren, Malcolm,"Punk Celebrates 30 Years of Subversion", BBC News, August 18, 2006. เรียกดูเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2006 (อังกฤษ)
- Chong, Kevin, "The Thrill Is Gone"Canadian Broadcasting Corporation, August 2006. เรียกดูเมื่อ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2006 (อังกฤษ)
- Shuker (2002) , หน้า 159 (อังกฤษ)
- Sabin (1999) , หน้า 4, 226; Dalton, Stephen, "Revolution Rock", Vox, June 1993. (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 440 (อังกฤษ)
- Sabin (1999) , หน้า 157 (อังกฤษ)
- Harrington (2002) , หน้า 165 (อังกฤษ)
- Wilkerson (2006) , หน้า 52 (อังกฤษ)
- Fletcher (2000) , หน้า 497 (อังกฤษ)
- MC5: Kick Out the Jams 2007-12-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน โดย Lester Bangs, Rolling Stone, April 5, 1969. เรียกดูเมื่อ 1/16/07 (อังกฤษ)
- Taylor (2003) , หน้า 49 (อังกฤษ)
- Harrington (2002) , หน้า 538 (อังกฤษ)
- Robb (2006) , หน้า 51 (อังกฤษ)
- Unterberger (2000) , หน้า 18 (อังกฤษ)
- Leblanc (1999) , หน้า 35 (อังกฤษ)
- Quoted in Leblanc (1999) , หน้า 35 (อังกฤษ)
- Taylor (2003) , หน้า 16; Woods, Scott, "A Meaty, Beaty, Big, and Bouncy Interview with Dave Marsh 2007-08-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนrockcritics.com (อังกฤษ)
- Taylor (2003) , หน้า 16 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 131 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 130–131 (อังกฤษ)
- Taylor (2003) , หน้า 16–17 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 131 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 86–90, 59–60 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 89 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 90; Buckley (2003) , หน้า 485 (อังกฤษ)
- Walker (1991) , หน้า 662. (อังกฤษ)
- Walsh (2006) , หน้า 27 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 132 (อังกฤษ)
- McNeil and McCain (1997) , หน้า 240, 300; Walsh (2006) , หน้า 15, 24; for CBGB's closing in 2006, see, e.g., Damian Fowler,"Legendary punk club CBGB closes" BBC News, October 16, 2006. เรียกดูเมื่อ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2006 (อังกฤษ)
- Walsh (2006) , หน้า 8 (อังกฤษ)
- "The Sex Pistols" 2009-04-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Rolling Stone Encyclopedia of Rock 'n' Roll (2001) (อังกฤษ)
- Robb (2006) , หน้า 198 (อังกฤษ)
- Taylor (2003) , หน้า 56. (อังกฤษ)
- "The Ramones" Rock and Roll Hall of Fame (2002) (อังกฤษ)
- Marcus (1989) , หน้า 37, 67 (อังกฤษ)
- Heylin (1993) , หน้า xii. (อังกฤษ)
- Stafford (2006) , หน้า 57–76 (อังกฤษ)
- Griffin, Jeff,"The Damned" BBC.co.uk. (อังกฤษ)
- Lydon (1995) , หน้า 139–140 (อังกฤษ)
- Ross, Alex."Generation Exit: Kurt Cobain" 2008-04-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The New Yorker, April 1994. (อังกฤษ)
- Spitz and Mullen (2001) (อังกฤษ)
- "Round-Table Discussion: Hollywood Vanguard vs. Beach Punks!" Flipsidezine.com (อังกฤษ)
- Spitz and Mullen (2001) , หน้า 274–279 (อังกฤษ)
- Punk Rock AllMusic.com (อังกฤษ)
- W, Matt,"10 Bands that Are Leading Post-Punk's Third Wave" associatedcontent.com (อังกฤษ)
- Reynolds (2005) , หน้า xvii, xviii, xxiii (อังกฤษ)
- Hebdige (1987) , หน้า 107 (อังกฤษ)
- Sabin (1999) , หน้า 12 (อังกฤษ)
- Savage (1991) , หน้า 396 (อังกฤษ)
- Quoted in Wells (2004) , หน้า 21 (อังกฤษ)
- Spencer, Neil, and James Brown,"Why the Clash Are Still Rock Titans" The Observer (UK) , October 29, 2006. (อังกฤษ)
- New Wave 2010-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Allmusic.com (อังกฤษ)
- Post-punk AllMusic.com (อังกฤษ)
- Reynolds (2005) , หน้า xxix (อังกฤษ)
- Blush, Steven, "Move Over My Chemical Romance: The Dynamic Beginnings of US Punk", Uncut, January 2007. (อังกฤษ)
- Blush (2001) , หน้า 17; Coker, Matt,"Suddenly In Vogue: The Middle Class may have been the most influential band you’ve never heard of", 2007-11-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน OC Weekly, December 5, 2002 (อังกฤษ)
- Andersen and Jenkins (2001) (อังกฤษ)
- Blush (2001) , หน้า 173 (อังกฤษ)
- Van Dorston, A.S."A History of Punk" fastnbulbous.com (อังกฤษ)
- Sabin (1999) , หน้า 216 n. 17; Dalton, Stephen, "Revolution Rock", Vox, June 1993 (อังกฤษ)
- Robb (2006) , หน้า 469 (อังกฤษ)
- Quoted in Robb (2006) , หน้า 469–470 (อังกฤษ)
- Robb (2006) , หน้า 470 (อังกฤษ)
- Fleischer, Tzvi."Sounds of Hate" 2005-12-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Australia/Israel & Jewish Affairs Council (AIJAC) , August 2000 (อังกฤษ)
- Gimarc (1997) , หน้า 175 (อังกฤษ)
- Robb (2006) , หน้า 511 (อังกฤษ)
- "Anarcho-Punk 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน" เว็บไซต์ tonkla.org
- Wells (2004) , หน้า 35 (อังกฤษ)
- Besssman (1993) , หน้า 16; Marcus (1979) , หน้า 114; Simpson (2003) , หน้า 72; McNeil (1997) , หน้า 206 (อังกฤษ)
- Cooper, Ryan."The Buzzcocks, Founders of Pop Punk" punkmusic.about.com. (อังกฤษ)
- Di Bella, Christine."Blink 182 + Green Day"popmatters.com (อังกฤษ)
- Azerrad (2001) , passim; for relationship of Hüsker Dü and The Replacements, see หน้า 205–206 (อังกฤษ)
- Goldberg, Michael. "Punk Lives." Rolling Stone. June-August 1985. (อังกฤษ)
- Erlewine, Stephen Thomas. American Alternative Rock / Post-Punk 2010-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน All Music Guide. (อังกฤษ)
- Azerrad (2001) , passim (อังกฤษ)
- "Kurt Donald Cobain" 2006-10-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, The Biography Channel (อังกฤษ)
- St. Thomas (2004) , หน้า 94 (อังกฤษ)
- "1991 The Year That Punk Broke" rottentomatoes (อังกฤษ)
- Raha (2005) , หน้า 154 (อังกฤษ)
- ROCK KEEP ROLLIN 2012-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 กันยายน 2549 15:04 น.
- "You Are So Not Scene (1) : The Fall of Emo as We (Don't) Know It" pastepunk.com (อังกฤษ)
- Gold, Jonathan. "The Year Punk Broke". SPIN. November 1994. (อังกฤษ)
- Gold, Jonathan. "The Year Punk Broke". SPIN. November 1994. (อังกฤษ)
- Haenfler (2006) , หน้า 12 (อังกฤษ)
- "พังก์ สายพันธุ์ใหม่ 2007-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน"
- เอบีนอร์มอล ชุด 4 โชว์ของดี ซีทรู โดย คม ชัด ลึก วัน อังคาร ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 02:51 น.
- คนตะลึง มังกี้ แพ้นส์ งานสากลสุดเจ๋งของเด็กไทยวัย 15
- ฟรานซิส นันตะสุคนธ์ ,Teen Marketing Positioning Magazine กุมภาพันธ์ 2548
- Young rock 'n' rollers keep the Bangkok underground scene alive 2007-10-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน nationmultimedia.com (อังกฤษ)
- เสียงจ๊ากแหลม-ดนตรีหนักหน่วง ของอีโม พังก์ ในแบบ "ไรทาลิน" เว็บไซต์ คมชัดลึก.คอม
บรรณานุกรม
- Andersen, Mark, and Mark Jenkins (2001). Dance of Days: Two Decades of Punk in the Nation's Capital (New York: Soft Skull Press).
- Azerrad, Michael (2001). Our Band Could Be Your Life (New York: Little, Brown).
- Blush, Steven (2001). American Hardcore: A Tribal History (Los Angles: Feral House).
- Fletcher, Tony (2000). Moon: The Life and Death of a Rock Legend (New York: HarperCollins).
- Gimarc, George (1997). Post Punk Diary, 1980–1982 (New York: St. Martin's).
- Haenfler, Ross (2006). Straight Edge: Hardcore Punk, Clean-Living Youth, and Social Change (New Brunswick, N.J.: Rutgers University Press).
- Harrington, Joe S. (2002). Sonic Cool: The Life & Death of Rock 'n' Roll (Milwaukee, Wisc.: Hal Leonard).
- Harris, John (2004). Britpop!: Cool Britannia and the Spectacular Demise of English Rock (Cambridge, Mass.: Da Capo)
- Hebdige, Dick (1987). Cut 'n' Mix: Culture, Identity and Caribbean Music (London: Routledge).
- Heylin, Clinton (1993). From the Velvets to the Voidoids: The Birth of American Punk Rock (Chicago: A Cappella Books).
- Leblanc, Lauraine (1999). Pretty in Punk: Girls' Gender Resistance in a Boys' Subculture (New Brunswick, N.J.: Rutgers University Press).
- Lydon, John (1995). Rotten: No Irish, No Blacks, No Dogs (New York: Picador).
- Marcus, Greil (1989). Lipstick Traces: A Secret History of the Twentieth Century (Cambridge, Mass.: Harvard University Press).
- Raha, Maria (2005). Cinderella's Big Score: Women of the Punk and Indie Underground (Emeryville, Calif.: Seal).
- Reynolds, Simon (2005). Rip It Up and Start Again: Post Punk 1978–1984 (London and New York: Faber and Faber).
- Robb, John (2006). Punk Rock: An Oral History (London: Elbury Press).
- Sabin, Roger (1999). Punk Rock, So What? The Cultural Legacy of Punk (London: Routledge). .
- Savage, Jon (1991). England's Dreaming: The Sex Pistols and Punk Rock (London: Faber and Faber).
- Shuker, Roy (2002). Popular Music: The Key Concepts (London: Routledge).
- Stafford, Andrew (2006). Pig City: From the Saints to Savage Garden, 2d rev. ed. (Brisbane: University of Queensland Press).
- St. Thomas, Kurt, with Troy Smith (2002). Nirvana: The Chosen Rejects (New York St. Martin's).
- Taylor, Steven (2003). False Prophet: Field Notes from the Punk Underground (Middletown, Conn.: Wesleyan University Press).
- Walker, John (1991). "Television", in The Trouser Press Record Guide, 4th ed., ed. Ira Robbins (New York: Collier) , หน้า 662.
- Walsh, Gavin (2006). Punk on 45; Revolutions on Vinyl, 1976–79 (London: Plexus).
แหล่งข้อมูลอื่น
- punkrock.org (อังกฤษ)
- Distorted Magazine นิตยสารเพลงพังก์ร็อกยุคใหม่ (อังกฤษ)
- ประวัติของพังก์ โดย A.S. Van Dorston (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phngkrxk xngkvs punk rock epndntrirxkpraephthhnung odymakmkeriyksn wa phngk mikarekhluxnihwaelaepnthiruckinchwngklangthswrrsthi 1970 phngkrxkidphthnarahwangpi kh s 1974 aela kh s 1977 inshrthxemrika shrachxanackr aela xxsetreliy odymiwngxyang edxaraomns esksphisthxls aela edxaaekhlch thiepnthiruckinthanaaenwhnakhxngdntripraephthniphngkrxkaehlngkaenidthangrupaebbkaracrxk rxkaexndorl hardrxk phbrxk ophrotphngk aeklmrxkaehlngkaenidthangwthnthrrmtnthungklangthswrrsthi 1970 inshrthxemrika shrachxanackr aela xxsetreliyekhruxngbrrelngsamyesiyngrxng kitar kitarebs klxngchudrupaebbxnuphnthuniwewf ophstphngk xxlethxrnathifrxk xiomaenwyxy okthikrxk aeklmrxk hardkhxr irxxtekirl aenwprasan pxpphngk skaphngk lksnadntriaebb phngkrxkmilksnathwngthanxngthirunaerng hyabkradang dwykhwamkhadthksakhxngkarelndntri swnkarrxngkcaepn taokn hrux bn aelaaefngnyyakhxng kartxtan aelakarykyxng khwamepnelis ekhruxngdntricaprakxbdwy kitariffa 1 hrux 2 tw ebsiffaaelachudklxng mkmikarelnaebb 2 khxrd ephlngphngkmkmikhwamyawrahwang 2 thung 2 nathikhrung mibangephlngmikhwamyawnxykwa 1 nathikmi ephlngphngkinchwngaerkrbxiththiphlcakrxkaexndorlkhuxmithxnprasanesiyng phngkrxkklayepnkraaesniymhlkinshrachxanackrtngaetplaythswrrsthi 1970 aetkhwamodngdnginthixunmiincakd cnkrathngthswrrsthi 80 phngkrxkidepnthiruckinklumelk thwthukmumolk swnmakcathukptiesthcakdntrikraaeshlk inchwngplayyukhthswrrsthi 1970 dntriphngkrxkidaetkaeykaekhnng iphlakhlaythisthang echnephlngaenw niwewf ophstphngk odyhlaywngidthakarthdlxngaenwdntriipinthisthangxun echnaenwhardkhxrphngk aela aela epntn aelaphngkrxkyukhihmidphthnaipxikkhun odyephlngaenwxxlethxrnathifrxkidrbkhwamniymehmuxntxnthiidphngkrxkrbkhwamniyminchwngaerklksnapkxlbmaerkkhxngedxaraomns phngkyukhaerkmicudkhwamkawraw sungduiklcakrxkintnyukhthswrrsthi 1970 thixxnihwaelafngdurunhuthxmmi raomn muxklxngwngedxa raomns ekhyklawiwwa inchwngaerkkhxngkarerimtn wngyukh 1960 hlaywng idptirupaelamikhwamnatunetn aetochkhimdithixyuidimnan phwkeraruwatxngkarsingthitxngkarkhuxkhwambrisuththi aelaimtxngkar rxkaexndorl cxhn ohlmstrxm brrnathikarnitysar phngk aefnisnihkhwamehnkbkarekidkhxngphngkrxkwa phngkrxkekidkhunephraadntrirxkinchwngnndunaebux xyang billi ocexl ismxn aexnd karfngekl thithukeriykwarxkaexndorl odyrxkaexndorlmikhwamhmaykbhlay khnwa dntrikhbthaelapaethuxn dntriphngknnthuxkaenidmacakkhwamkhidkhxngkhnhnumchnchnklangcnthungchnchnkrrmachiphodymikhwamprarthnathicahlikhnisngkhmthiimekhyehnxkehnichruxchwyehluxekuxhnuntxphwkekhaelyaelakhidwasingthiphwkekhakhidphudaelaaesdngxxknn irsaraodysineching inkhawicarnkhxngorebirt khristekaxthibayiwwa mnkkhuxwthnthrrmyxyxyanghnungthiptiesthkaremuxng khwamsmburnaebb aela nithanprmprangiengakhxngphwkhippi inthangtrngknkhamaephtti smithexyinraykarsarkhdi 25 pikhxngphngkwa phngkaelahippimicudrwmehmuxnknkhux txtanrxkaexndorl inbangkhrngkptiesthimechphaarxkkraaeshlkaelawthnthrrm inpi kh s 1977 emuxphngkkawsukraaeshlkinshrachxanackr aelathukeriykwa pisuny Year Zero karhwnsukhwamhlngthukthingip aetidrbaenwkhwamkhidaebbircriythrrmekhaip odywngesksphisthxlsmikhakhwywa irxnakht No Future wngphngkmkeliynaebbokhrngsrangdntrithiepluxyeplaaelakareriyberiyngdntrikhxngdntriaenwkaracrxk inchwngthswrrrsthi 1960 nitysarphngk isdebirns inpi 1976 idlxeliynodyphaphwad 3 khxrd mikhaxthibaywa nikhuxkhxrd nixikkhxrd aelanikhxrdthisam txnnifxrmwngidaelw ekhruxngdntricaprakxbdwy kitariffa 1 hrux 2 tw chudklxng inchwngaerkphngkrxkdusbsn cxhn ohlmstrxm klawwa phngkkhuxrxkaexndorlinsaytakhnthiimrueruxngdntrimaknk aetrusukidthungkhwamtxngkarthicapldplxytwexngindntri karrxngkhxngphngkbangkhrngfngehmuxnesiyngkhuncmuk aelabxykhrngthicataoknaethnthicarxng khwamsbsxnkhxngkitarbngbxkthungkhwamhlngphidintwexng ebskitarmkcaepnphunthanthwipodymiswnchwyphyungemoldikhxngephlng mimuxebswngphngkbangwngxyang imkh wtt aela chxng aeckhs ebxrenl aehngwng caennebskhunma muxebshlay wngmkichpikmakkwakarichniwenuxngcakkhwamrwderwtxenuxngkhxngont klxngodythwipcahnkaeladuaehng camikarprbaetngephiyngelknxy ephlngphngkmkmikhwamyawrahwang 2 thung 2 nathikhrung mibangephlngmikhwamyawnxykwa 1 nathikmi ephlngphngkinchwngaerkrbxiththiphlcakrxkaexndorlkhuxmithxnprasanesiyng xyangirktamwngphngkrunihmxacrwmaenwephlng ophstphngk aela hardkhxrphngk caimxyuinhlkeknthdngklaw hardkhxrphngk klxngcaerwkhun enuxephlngcakungtaokn esiyngkitarfngdukawraw phakhenuxrxngodythwipcaepnkarphudkntrng odycawicarnsngkhmkaremuxng echnephlng Career Opportunities khxngwngedxa aekhlch Right to Work khxngwngechlsi epntn yngmiephlngthimienuxhatungekhriydinlksnatxtankhwamrk phrrnathungkhwamsmphnthkhxngchayhyingaelaeruxngephssmphnthxyangephlng Love Comes in Spurts khxngwng wi ewlklawwa phngkepnnkptiwtiwthnthrrm ephchiyhnakbkhwammudkhxngprawtisastraelawthnthrrm phwkxnurksniym khxhamthangephs idkhudinsingthiimekhyekidkhunmakxnxxkmaodykhnrunihmxyangsmburn rupaebbkaraetngkaykhxngchawphngk phwkekhaisthi echirt swmmxetxriskh kangekngyins epnkarykyxngxemriknkrisesxrinyukhthswrrsthi 1950 inyukhthswrrsthi 1980 karskaelakarecaaidrbkhwamniyminhmunkdntriphngkaelaaefnephlngyukhkxnphngkrxkkaracrxkaelamxd inchwngtnaelaklangyukhthswrrsthi 1960 wngdntrikaracrxk idyxmrbwaepntnkaenidkhxngdntriphngk erimtninhlay thithangxemrikaehnux wng The Kingsmen karacrxkcakphxrtaelnd rthxxrikxn idepidtwdwyephlngdng Louie Louie ephlngekathinamathaihminrupaebbphngkrxk rupaebbsawndthinxykhxngwngkaracrxkhlay wngidrbxiththiphlmacakwng The Kinks kbephlngdng You Really Got Me aela All Day and All of the Night inpi 1964 idthukbrryaywaepntnaebbkhxngephlng 3 khxrd khxngwngedxa raomnsinpi kh s 1978 kbephlng I Don t Want You wngedxa hu The Who kbephlng My Generation kidxiththiphlmacakwng edxakhingks sungwngedxahuaela The Small Faces epnwngrxkyukhkxnhnathiepnthirudiknwamixiththiphlihkbwng esks phisthxls inpi 1966 mxdidldkhwamniyminshrthxemrikaip karacrxkinxemrikaesuxmkhwamniymipinimkipi aetaenwdntriihmthimaaethnkhux garage psych echnwng The Seeds thitxmaepnthiruckinaenw oprotphngk oprotphngk inpi kh s 1969 miwngcakmichiaekn 2 wngidxxkxlbmaenwoprotphngk thuxidwamichiaeknmikhwamekiywkhxngkbsunyklangkhxngoprotphngk txmawngexmsiiff MC5 cakdithrxyt xxkxlbm Kick Out the Jams thangwngidtngicihxxkmahyabaeladib ekhiynodynitysarorlling sotnody elsetxr aebngs ephlngswnihycakhxnkhangimaetktangknely ephlngmiokhrngsrang 2 khxrdaebbdib khuncaekhyidyinmakxnkbwngxyang The Seeds Blue Cheer Question Mark and the Mysterians aela The Kingsmen khwamaetktangkhux karhlxklwng odypkpidbangswnkhxngkhwamsasakdwyesiyngthinaekliyd inthxn I Want You Right Now fngduehmuxnephlng I Want You khxngwng The Troggs vdurxninpinnwng The Stooges idxxkxlbmaerkodymixikki pxp epnnkrxngnaxlbmnioprdiwsody cxhn ekhl xditsmachikwngrxk edxaewlewtxnedxrkrawd The Velvet Underground xlbmniepnaerngbndalicimthangtrngkthangxxmihkbkarekidkhxngdntriphngk thangfngtawnxxkwng New York Dolls idthuxkaenidaefchnrxkaexndorlaebbduray thitxmaruckkninnamkhxng aeklmphngk glam punk inrthoxihoxwngrxkxnedxrkrawndidpraktxxkma naody diow Devo cakemuxngaela The Electric Eels Mirrors aela Rocket from the Tombs cakemuxngkhlifaelnd inlxndxn dntrirxkidklbkhunsusamy aelaidpuphunihnkdntrihlaykhnsuwngkarephlngphngkechnwng The Stranglers Cock Sparrer aela sungtxmakhuxsmachikwngedxaaekhlch inxxsetreliy wngkaracrxkrunihmhlaywngidepnaerngbndalicihkb edxastuecds aela exmsiiff MC5 thimisawndntrithiiklekhiyngkbkhwamepnphngkthisudinbrisebnwng The Saints idelnephlngdib aebbxngkvs aelaidthwrinxxsetreliyaelaniwsiaelndinpi 1965 sthaniwithyuebirdaemnidelnephlngkaraesdngsdelk nidwy aetkhwamkhlngikhlidtammathungsidniy thimakhxngkhawaphngk kxnklangthswrrsthi 1970 khawaphngk epnkhaekaaekthimikhwamhmaykhlumekhrux mkichxthibaythungphuchayhakin phwkxnthphal nkelnghwim elkhs aemkhnilxthibaywa emuxkhunduraykarothrthsnekiywkartamlakhnraykhxngtarwc ewlatarwccbphuray phwkekhamkcaphudwa you dirty Punk thakhrueriykkhunxyangnnkhmaykhwamwa khuntathisud khwamhmaykhxngkhawaphngkchdecnkhunody nkwicarnephlngrxk edf marchinpi 1970 emuxekhaidxthibaylksnadntriaelathsnkhtikhxngwngekhwschn markh aexnd edxa misthieriyns eduxn mithunayn kh s 1972 nitysaraeflchidcdxndb ephlngphngksibxndb aehngthswrrsthi 60 inpi 1975 phngkidichxthibaythungkarkrathahlayxyangkhxngwng Patti Smith Group edxa Bay City Rollers aela brus springsthin thiniwyxrk khlb CBGB khlbthihaaenwephlngihm ecakhxngkhlbkhux hilli khristl swncxhn ohlmstrxmidihekhrdit nitysarxkhwaeriynekiywkbphngkwa epnkarxthibaywaxairekidkhunin CBGB bang sungtxma ohlmstrxmrwmkb aemkhnil aela ekd dnn thanitysarthichuxwa phngk epidtwplaypi 1975 sungthuxepncudsakhykhxngkhawaphngk ohlmstrxmklawwa mnepnxairthidithikhanimndngkhunma erakhidkhaniidkxnthiikhrcakhidid eratxngkarkhcdrxkaexndorlngiengaxxkip singthieratxngkarkhuxkhwamsnukaelanatunetn prawtiniwyxrk khlb CBGB inniwyxrk tnkaenidkhxngniwyxrkphngksamarthsubtntxipthungplayyukhthwrrsthi 1960 kbwthnthrrmkhya aela tnyukhthwrrsthi 1970 kbkarekhluxnihwkhxng micudsunyklangxyuaethw emxresxr xarths esnetxr in krinich wilelcthithi niwyxrk dxlsidaesdng inpi 1974 CBGB idklayepnsthanthipracakhxngwngdntrithielnephlngesiyngdng aeladntrithisbsxn richard ehllidrierimrupaebbkaraetngtwaebb hnng esuxthiechirtkhad kangekngkhasn thrngphmthiduskprk tnpi 1975 ehllidekhiynephlng Blank Generation odyidbnthukesiyngkbwngihm edxa wxydxyds thixxkwangkhayinpi 1976 eduxn singhakhm 1975 blxndiyidxxksingekil Little Johnny Jewel khawicarnkhxng cxhn wxlkekxrxthibaywa nithuxepncudepliynkhxngephlnginniwyxrk xikkhnnungthielnpracathikhlbnikhux aephtti smith thiidphthnainrupaebbkhxngphuhying xlbmaerkkhuxxlbm Horses thioprdiwsody cxhn ekhl xxkwangcahnayeduxnphvscikayn 1975 isrexxerekhids idxxkaephnaerkkb edxaraomns singekil Blitzkrieg Bop thuxepnkarepidtwkhxngphngkxyangepnthangkar xxkwangkhaychwngeduxnthnwakhm aelaminitysarihmekidkhunphrxmkbsilpinxyang ewlewt xnedxrkrawnd edxa stuks aela niwyxrk dxlls odymicudsunyklangxyuthi CBGB aela aemks aekhnss siti misilpinechn edxaraomns Television The Heartbreakers aephtti smith Patti Smith blxndi Blondie thxlkkingehds Talking Heads aelaxun khawaphngkerimepnthiruckthwip richard ehllidrierimlksnaechphaatwkhunma shrachxanackraelaxxsetreliy twxyangesiyngkhxng esksphisthxls Anarchy in the UK cak en 220px noiconesksphisthxls Anarchy in the UK cakxlbm Never Mind the Bollocks Here s the Sex Pistols 1977 hakimidyinesiyng oprdduephimthi wikiphiediy withiichsux hlngcakthiidthangancdkarkbwngniwyxrkdxls New York Dolls inrayaewlasn Malcolm McLaren idklbmalxndxneduxnphvsphakhm 1975 ekhaidrbaerngbndaliccaksingthiekhaehnin CBGB odyekhaidepidran SEX rwmkbwiewiyn ewstwud ranesuxphathiptiwtiwngkaraefchn khayesuxphakhad ekhruxnghxytang chudhnngtang odytxmaidrbkhwamniyminhmuphngk ekhakidmiswnrwmkbwngedxasaewngekxs The Swankers thitxmakhuxwng esksphisthxls 4 krkdakhm kh s 1976 wngedxa raomnsaelaedxa setrnecxrs idepidkhxnesirtthirawdehasinlxndxn odymiphuchmrwm 2 phnkhn khuntxma smachikwngesks phisthxls aelaedxa aekhlch idrwmkhxnesirtkbwngedxaraomns khxnesirtehlaniepncudsakhykhxngwngkarphngkrxkinxngkvsthiephingerimtnkhun hlayeduxnphanipmiwngphngkekidkhunxikhlaywng odyidrbaerngbndaliccakwngesks phisthxls inlxndxnidekidwngxyang The Damned The Vibrators The Slits X Ray Spex susiaexndedxaaebnchis Siouxsie and the Banshees Eater The Subversives The Adverts aelainyanechlsimiwngekidxyang Generation X aelawng Sham 69 kerimtnthangtawnxxkechiyngitkhxngemuxng ehxraechm mnthlesxrriy swninaemnechsetxr ekidwngxyang The Buzzcocks thitxmakhuxwng wxrsxw Warsaw aelacxydiwichn Joy Division thihlaythiinxngkvs wngehlaniidthdlxngdntrithdlxng aelamihlaywngxyang edxaaecm The Jam khxk sparerxr kidlxngmasukraaesphngk khlintn ehylin nkekhiynkhxlmnrxkidxthibayiwwa wngaeklmehlaniidrbxiththiphlkhxngwyruntnyukhthswrrsthi 1970 xyang thi erks T Rex Slade aela Roxy Music inkhnathiphngkidekhathungshrachxanackr echnediywkbwngkaritdininxxsetreliy klbmasuthixngkvs ephlng Anarchy in the U K odyesks phisthxls khuncharthineduxn knyayn 1976 aelawngedxa esnt epnwngphngkwngaerkthiimichwngcakxemrikathixxkkhaysingekil khuxephlng I m Stranded thangfngxxsetreliy thiephirth wngphngkxyang iderimfxrmwng edxaaedmn The Damned epnwngphngkcakxngkvswngaerkthixxksingekilodyxxkephlng New Rose txmaesksphisthxls Sex Pistols edxaaekhlch The Clash edxaaedmn aela edxahartebrkekxs The Heartbreaker idrwmknxxkthwrthichuxwa Anarchy Tour aesdngkhxnesirtthwshrachxanackr odyhlaythiinthwrthukykelikipenuxngcaksuxidwicarninaengray khlunlukthdip wngmisfits The Misfits inkhnathikraaesphngkrxkidaephrkhyayxyangrwderwinshrachxanackrtngaetchwngpi 1976 odyinpi 1977 wngrunihmidrbkhwamniymthnginshrachxanackr shrthxemrika xxsetreliy aela aekhnada kraaesniymxyuinthxngthinnn mikarcdkarxyangkratuxruxrnody ecakhxngkhlb phucdkhxnesirt insthanthitangxyang orngeriyn orngrth okdngekbkhxng mikarokhsnaodyichibpliw ibpid nitysarsahrbaefnephlng epnlksnaaebb D I Y do it yourself sungtxtankarkhaaebbthurkic khwamaephrhlaykhxngerimkhunaelaphthnainchwngtnpi 1976 miwngxyang The Weirdos The Dils The Screamers The Dickies X The Go Go s The Zeros aela The Bags cakemuxnglxsaexneclis aelaphngkidetibotinsanfransisok wxchingtn di si swninniwyxrkthithiepntnkaenidkhxngphngk mikhwamniyminaenwyxyihmxyang onewf aetwngdngedimxyang edxaraomns kkhngyngelnxyu inniwecxrsiy wngmisfits idthuxkaenidkhuninchwngnn odyinpi 1978 idphthnaaenwthangcnepnthiruckkninaenw inaekhnada idkaenidwngphngkxikmakmay echn edxadimiks The Demics edxaokewxremnt The Government epntn inchwngpi 1978 79 hardkhxrphngkidekidkhuninaekhlifxreniyitaelawxchingtn disi harkhxrphngkmilksnadntriaebbihmthiduwyrunkwa niyminhmuchanemuxng txtanphwkpyyachn aelarunaerngyingkwa inlxsaexneclis phngkepnthiruckinchux hxlliwudphngk aela bichphngk odyepnthiniyminaethb aela aeladwykhwamodnednkhxnghardkhxrphngk wngaekhlifxreniyphngkerimthicaklbmathahardkhxrphngk echnwngedxa ok oks aela exks sungprasbkhwamsaercinkraaeshlk phngkidrbkhwamniymxyangkwangkhwanginkraaesephlngitdininxemrikaehnuxaelaxxsetreliyinchwngyukhthswrrsthi 70 inshrachxanackrphngkinxngkvsmikhwamhlakhlaymakkhun aelaekhasukraaeshlk wngedxa aekhlchkbxlbmaerk samarthkhuncharthxndbthi 12 ineduxnphvsphakhm 1977 wngesksphisthxls misingekilhitxndb 2 khuxephlng God Save the Queen aelamiwnghlaywngekidkhun inchuxthiepnthiruckinaenw khwamhlakhlaykhxngephlngkhyayipmakkhunodymikarichekhruxngdntrithisbsxnyingkhun wngrunihmhlaywngichekhruxngsngekhraahesiyng wngedxaaekhlchidnaephlng Police and Thieves mathaihminsitlcaimka erkek swnwngyukhaerkxyang edxaslits aela edxaophlis The Poilice idthaephlngphsmphngkinsitlerkekaelaska epnephlngrupaebbihm inchuxaenw xyangechnwng edxasepechiyls The Specials The Beat Madness epntn ineyxrmnitawntk wngixdil Ideal exkstrabrit Extrabreit aela nina Nena idrbkhwamniyminephlngkraaeshlk swninfrngess silpinaenwphri phngkxyang lu ridideriyktwexngwa les punk phngkyngidrbkhwamniyminpraethsxunxyang ebleyiym enethxraelnd yipun switesxraelnd aela swiednkhwamhlakhlaykhxngphngkinchwngplayyukhthswrrsthi 70 dntriphngkhidaetkaeykaekhnng iphlakhlaythisthang odyidphsmphsankhwamepnsilpa khxngklumkhnchnklangphutxngkarkhwamaetktang aelaklumkhnchnaerngngan niepnthimakhxngephlngaenw niwewf aela ophstphngk odyhlaywngidthakarthdlxngaenwdntriipinthisthangxun echnaenw hardkhxrphngk aela xxy aela xanarokh phngk inbkhnathi pxpphngkmikhnekhyklawwa epnkarrwmrahwangaexbba kb esksphisthxls khwamhlayhlayidekidkhun hlayaenwerimrwmknkbaenwxun xyangechnwngedxa aekhlchinxlbm London Calling idrwmerkek ska xaraexndbi rxkxabilli kbphngk sungthuxwaepnxlbmthidithisudxlbmhnungkwaid niwewf twxyangesiyngkhxng blxndi Rip Her To Shreds cak en 220px noiconblxndiy Rip Her To Shreds cakxlbm Blondie 1976 hakimidyinesiyng oprdduephimthi wikiphiediy withiichsux niwewfepnaenwephlngyxykhxngphngkaerk inchwngnnwngxyang thxlkkingehds Talking Heads blxndi Blondie diow Devo aela edxaophlis The Police idthaihidrbkhwamniymxyangkwangkhwang odyephlngmicnghwathisamarthetnraid thangphakhoprdkchnthiduslaslwykhunkwaphngk thaiheriykwa niwewf odymixngkhprakxbkhxngphngkyukherimaerkxyuaelaaefchn bwkkhwamepnpxpekhaipaeladuxntraynxylng twxyangwngniwewfechn The Cars aela Elvis Costello thiidrbkhwamniymthngxngkvsaelaxemrika dntriniwewfidekhasuaenwdntrikraaeshlk miphngkepntnaebb mikarrwmaenwephlngxyang thuothnska epntn txmakraaesephlngaenwniworaemntikidrbkhwamniym echnwng duaernduaern Duran Duran aelawngsinthpxpxyang diephech omd dntriniwewfklayepnwthnthrrmpxpaelakarekidkhxngsthaniothrthsnthangdntrichxng exmthiwi inpi 1981 thiidelnephlngpraephthniwewfxyu ophstphngk cxy diwichn wngaenwophst phngk inshrachxanackraenwophst phngk idekidkhunxyangkwangkhwang miwngxyang The Fall cxydiwichn Joy Division Gang of Four epntn mibangwngxyang susiaexndedxaaebnchisaelaidaeplcakwngphngkepnwngophst phngk thangdandntrimkcaepndntrithdlxng ehmuxnwngaenwniwewf lksnaaenwephlngniwewfcamilksnaimkhxycaepnephlngpxp duhmn dukdkrxn inbangkhrngcaimmithwngthanxng aelaidrbxiththiphlcakdntrixartrxkxyang aela edwid obxi epntn inthangenuxephlngcaepnkarekhiynenuxephlngaebbihm wngxyang niwxxredxr New Order aela yuthu U2 thidngkhamipfngxemrikasukraaeshlk aetbangwngkdnginklumelkxyang aekngxxfofr Gang of Four aela edxaernokhths The Raincoats epntn aetxyangirkdiaenwephlngidaesdngihehnthungkhwamsakhyinwthnthrrmephlngpxpdwy hardkhxrphngk hardkhxrphngkmilksnathungkhwamerw cnghwathikawraw aelamkphudthungeruxngkaremuxng thukphthnachwngplaythswrrsthi 70 inshrthxemrika nkekhiynchux stiewn bluch klawwa hardkhxrphngkerimmacakaethbchanemuxngxnengiybehngainxemrika phupkkhrxngthiidyayedkxxkcakemuxngihysuchanemuxngni idthaihehnthungkhwamepncringkhxngemuxngaelaksudthaykcblngdwypisacphnthuihmni hardkhxrphngkekidkhunaethbthangitkhxngaekhlifxrueniyinchwngpi kh s 1978 79 tammadwywxchingtn disi aelaaephrkhyayipthwxemrikaehnuxaelathwolk inchwngaerkwngaerkmi Black Flag aela Middle Class Bad Brains aela Teen Idles kidekidkhunaethb wxchingtn disi wngbangwngxyang edd ekhnendisidepliynmaepnhardkhxrphngk swninniwyxrkaenwnierimekidkhuninpi 1981 odykarnaxyangwng Agnostic Front The Cro Mags Murphy s Law aela Youth of Today enuxephlngkhxngwng edd ekhnendisinephlng Holiday in Cambodia aesdngihehnkarwicarnsngkhmkarkhaaelakhaniymkhxngchnchnklang chwngtnyukh 1980 wngthangtawntkechiyngitkhxngxemrikaaelaaekhlifxreniyxyangwng JFA Agent Orange aela The Faction idsrangthisthangdntriihmihkbhardkhxrphngkinaenwihm eriykwa oxy Oi pkxlbmwngedxa ofr skins chud The Good The Bad amp The 4 Skins tamkraaeswngphngkyukhaerkinshrachxanackr xyangwng khxkhsparerxr Cock Sparrer aela aechm 69 Sham 69 inchwngplaythswrrsthi 70 khlunluktxmaxyang Cockney Rejects Angelic Upstarts The Exploited aela The 4 Skins idhasingihm ihkbchnchnkrrmachiph wngehlanimkeriykwa hrux aekri bchechl idxthibayaenwephlng Oi wa aenwniidmacakwng edxa khxkhniyriecks thimkcataoknwa Oi Oi Oi kxnthicaelnephlng aethnthikhawa 1 2 3 4 swnenuxephlngcasathxnihehnkhwamaekhngkraw hyabkhay aesdngsphaphkhwamepncringinyukhmarkaert aethtechxr inshrachxanackrchwngplaythswrrsthi 1970 thungtnthswrrsthi 1980 kraaeskhxng Oi thukkratunodykraaesphngkinchwngnn stif ekhntnkkitarmuxxachiphklawwa phwkedkmhawithyalymkcaichkhayaw inkaraetngephlng aelaphyayamthatwexngihepnsilpin khxbyytixyangnungkhxng Oi khux txngimesaesrngaelaekhathungid aela Oi khuxkhwamepncringkhxngphngk thithiwngphwkniidekidkhun mnohdrayaelakawrawmak wng Oi inchwngaerkcaimsniceruxngkaremuxng xyangirktam wng Oi hlaywngerimthicasnicskinehdaebbnasi thungaemwnghlaywngcaimidsnbsnunnasiktam bangkhrngklumskinehdthiehyiydsiphiwcaekhamakhdkhwangkaraesdngkhxnesirtkhxngphwk Oi odycataoknkhakhwykhxng aelaphyayamkxkhwamwunway wng Oi hlaywngidtxtankbaefn karekhathungkhxngklumkhnchnklang emuxwnthi 3 krkdakhm kh s 1981 inkhxnesirtinesathhxl thimiwngxyang The Business edxaofrskins aela The Last Resort thuklxbwangraebidodyklumedkwyrun ephraakhwamekhaicphidwaepnngankhxngnioxnasi hlngcaknnsuxmwlchnidlngkhawekiywkbehtukarnkhrngniekiywkbkhwamthuktxng aelaephlngaenw Oi kidldkhwamniymip xanarokh phngk xanarokh phngk Anarcho Punk macakkhasxngkha khux xnathipity Anarchism xnathipityhmaythungaenwkhidkaremuxngaebbirphuna aela phngk Punk epnaenwdntrithisrangngandntriodyesnxenuxhaeching xnathipity sungcring aenwphngkrxkkepnaenwthitxtanrabxbaebbaephn aelatxtansngkhmxnurksniymxyuaelw xanarokh phngkidphthnaipphrxmkb Oi aelakraaesxemriknhardkhxr dwyrupaebbdntriphngkdngedim trngiptrngmamak karichkhxrdnxy emoldieriyb inaebbphngk aelakarrxngaebbtaoknowyway echnwngxyang Crass Subhumans Flux of Pink Indians Conflict Poison Girls aela The Apostles phyayamthicaepliynphngkrxkthiisaenwkhidthangdanxnathipityekhaip xanarokh phngkinyukherimnnepnkaraesdngtwtnaelaidaesdngsilpaxyangchdecnnxkcakniyngmikarsnbsnunsolaekn DIY not EMI DIY Do It Yourself xnepnehmuxnkarptiesthkhayihy aelaaesdngxxkthangcudyuninkartxtanipintw odyxasyekhruxkhayaelarabbkhwamsmphnthepnhlkinkarephyaephrngan xanarokh phngkidaephrkhyayipyngaenwphngkyxyaenwxun xyang phxysn ekirls khxnflikt phthnakhuneruxy cnepnaenwhardkhxrphngk pxpphngk dwykhwamrkinwngedxabichbxys aelaaenwbbebilkmpxpinchwngplaythswrrsthi 1960 wngedxa raomnsidputhangiwthiruckknepnxyangdiinchuxkhxng pxpphngk inchwngplaythswrrsthi 70 wngcakshrachxanackrxyang aela idrwmaenwephlngpxpekhakbenuxephlngaebbphngkthidurwderwaelayungehying chwngtnyukhthswrrsthi 1980 wnghardkhxrrxkaenwhnaaethbidyaodythaemoldithislaslwymakkhunkwathwip Epitaph Records idkhnphbsmachikwng sungtxmaepnrakthanihkbwngpxpphngkhlay wng rwmthung thiidrbxiththiphlcakska aelacnghwakhxng swnwngthiechuxmphngkrxkdwyemoldiaebbpxp echnwng The Queers aela Screeching Weasel idkracaythwpraeths wngxyangkrinedy Green Day idnakraaespxpphngksukraaeshlk aelamiwngxyang The Vandals aela Guttermouth idphthnaodyrwmemoldiaebbpxpkbkhwamtlkkhbkhnaelakawrawdwyknphngkyukhihmxxlethxrnathifrxk osnikyuthinpi kh s 2005 wngphngkrxkitdinekidkhunmadwynbimthwn thngekidkhunmaodysawddntriaebbphngkaelaidprayuktinectnarmnkhxng DIY sukhwamaetktanghlakhlaykhxngdntri cnkrathngtnyukhthswrrsthi 1980 wnginshrachxanackrxyangniwxxredxr New Order aela edxaekhiyw The Cure idphthnadntrirupaebbihmodyyudhlkcakaenwophstphngkaelaniwewf swninxemrikawngxyang husekxrdu Husker Du aelawngthitammaxyang The Replacements idechuxmchxngwangrahwangaenwphngkxyanghardkhxraeladntrithitxnnneriykwa khxlelcrxk inpi kh s 1985 nitysarorllingsotnidekhiynekiywkbwngxyang Black Flag husekxrdu Minutemen aelaedxariephlsemns wa wngphngkdngedimidphanipaelw wngphngkrxkxemriknthidithisudidekhamaaethn phwkekhaidruckwakarelndntriepnxyangir aelaidkhnphbemoldi karosolkitar aelaenuxephlngthimixairmakipkwakartaoknkhakhwythangkaremuxng odychwngsinsudthswrrsthi 1980 wngehlaniidaeplepliynmaepnxxlethxrnathifrxk odyxxlethxrnathifrxkidrwmkhwamhlakhlaykhxngsitl xyang xindirxk okthikrxk krnc aelaxun thaihepnhnungediywknodyxyuintnaebbkhxngphngkrxksukraaesniymthangdandntri wngxxlethxrnathifxyang osnikyuth Sonic Youth thiidotkhuncakaenwonewf aelawngcakbxstnxyangphiksi iderimmiklumkhnfngthikwangkhwangkhun inpi 1991 wngenxrwana Nirvana idekidkhuninkraaeskhxngephlngaenwkrnc aelaidprasbkhwamsaercthangdanthurkickbxlbmthi 2 khxngphwkekha Nevermind enxrwanaidsdudiwaphngkepnxiththiphlsakhykhxngdntriphwkekhaekhirt okhebnnkrxngnawngenxrwanaidekhiyniwwa phngkkhuxdntrithixisra mnphud kratha aelaelninsingthikhuntxngkar karprasbkhwamsaerckhxwngenxrwanaidepntwkratunihkraaesxlethxrenthifrxkdngkhunma aelaidepnswnhnungkhxngaenwdntrithiidrbkhwamniyminthswrrsthi 1990 dwy ekhwiyrkhxr Queercore aelairxxtekirl riot grrrl inthswrrsthi 1990 wngphngkbangwngmismachikepneky xyangechn Fifth Column God Is My Co Pilot Pansy Division Team Dresch aela Sister George phwkekhaidphthnaephlngaenw thungaemwacamitnkaenidmacakphngk aetkaephrkhyayipinaenwdntrithihlakhlay xyanghardkhxr xindirxk phawewxrpxp onewf nxys aela xindsethriyl enuxephlngkhxngekhwiyrkhxr mkcaekiywkb khwamxkhti xtlksnthangephs siththiswnbukhkhl odyxacklawthnginthangkhbkhnhruxkiriyathathangthicringcng inpi kh s 1991 khxnesirt Love Rock Revolution Girl Style Now thicdkhuninoxlimepiy wxchingtn idprakaskarekidkhunkhxngephlngaenw riot grrrl silpinthimarwmngan rwmthungwnghlaywngthimiphuhyingepnaeknnaxyang Bikini Kiss Bratmobile aela Heavens to Betsy nkrxngnawngbikinikhil chuxaekhthlin hanna epnehmuxnsylksnkhxngephlngaenw riot grrrl sungtxmaidekhathanganinaenwkbwng elxthikr Le Tigre swnmuxkitarwngehfewnsthuebtsi chux okhrin thkekxr aela aekhrriy brawsitn cakwng Excuse 17 txmathngkhuidrwmkntngwngxindirxk phngk chux Sleater Kinney xiom khawaxiomidekhythukxthibayepnhnunginaenwyxykhxnghardkhxrphngk thimitnkaenidinwxchingtndisiinchwngklangthswrrsthi 1980 khawaxiommithimacakkhxethccringthismachikinwng bangkhrngcaisxarmn emotional inkaraesdng sngektidcakwngxiominyukhaerkxyang Rites of Spring Embrace aela One Last Wish khawa xiom yxmacak Emotional Hardcore ennkaraesdngsdthiennthungxarmnaelakhwamrusuk aetaetktangcakhardkhxr enuxngcak enuxhainsdswnkhxngxiomrxknn ennsarwckhwamrusukphayincitickhxngtwexng makkwawnewiynkndathungsingthixyurxbkhangtwexng odyinchwngthswrrsthi 90 miwngxiomekidkhunmaodyechphaacakyanmidewsthlaywng imwacaepn aela thiidrbxiththiphlmaaebbetm cakwngrunphixyang Fugazi wngxyang Sunny Day Real Estate aela Texas Is the Reason idaesdngephlngxindirxkinrupaebbkhxngxiom thimirupaebbephlngthiepnemoldimakkhun aelaldkhwamyungehyinglngkwaxiomkxnhnani wng Antioch Arrow elnephlngxiomthirunaerngkhun thitxmaruckkninchux skhriom aefnephlngxnedxrkrawdhlaykhnxangwawngxiominpccubnaethbimmikhunsmbtikhxngphngkely phngkriiwwl di xxfspring pi kh s 2001 inyukhediywkbenxrwana wngxlethxrenthifrxkhlaywnginchwngtnthswrrsthi 90 idtxbrbkraaesphngk idchwyihphngkrxkidfunkhunchiph inpi kh s 1994 wngphngkrxkcakaekhlifxreniyxyang krinedy Green Day dixxfspring The Offspring Rancid aela Bad Religion epntwsakhykhxngkhwamsaercdwykarchwyehluxcakexmthiwiaelasthaniwithyuthiodngdngxyang KROQ FM thungaemwakrinedyaelaaebdrilieciyncaxyuinsngkdkhayephlngihyktam karprasbkhwamsaercthangthurkicxyangmakkhxngkrinedyaeladixxfspring idputhangihsilpinaenwpxpphngkxyangwng blingk 182 Blink 182 simephilaephln Simple Plan kudcharlxtt Good Charlotte aela sm 41 Sum 41 wngcakbxstn Mighty Mighty Bosstones aelawngaenwskaphngkcakaekhlifxreniy wng Sublime idepnthiruckxyangkwangkhwanginchwngplaythswrrsthi 1990 sungtxmawngskaphngkxyang rilbikfich Reel Big Fish aelaelsaedneckh Less Than Jake kididkartxbrbthidicakaefnephlnginyukh 2000 wngxunthimirakmacakharkhxrphngk xyang AFI miephlngkhunchartinyukh 2000 wng xyangwng Flogging Molly aela Dropkick Murphys idrwmaenwephlng Oi ekhaipdwy karekidihmkhxngphngkehnidchdwa waklumkhnthifngphngkidekhasukraaeshlk sungkmiaefnephlngphngkhlaykhnidtxtankarekidechnni xyangkhwamodngdngkhxngwng sm 41 aela blingk 182phngkinpraethsithyinchwngthiwngesks phisthxlsidekhasukraaesniymhlkthwolk ephlngrxkinpraethsithyniymephlngaenwoprekrssif ephlngaebbbupphachn hruxephlnghardrxkxyang aeblkh aesbbath txmakraaesphngkinpraethsithyekidtxnplayyukhthswrrsthi 80 mikarekidkhxngraykarephlng erdiox aexkhthif ody ekhamaptiwtidwythiimepidephlngrxkeka aelaephlngpxptlad odykarnakhxngwasna wirachatiphli diecchuxdng dntriaenwphngkerimepnthiruckinemuxngithycring emuxklangyukhthswrrsthi 90 hruxchwngthidntriaenwxlethxrenthifdngmakinpraethsithy xyangwng aemnikh strith phrichechxrs thiekhymaaesdngkhxnesirtinpraethsithyaelw epntn swnwngdntriphngkrxkinpraethsithy echnwngexbi nxrmxl aela stiwedntxkli nxkcaknnyngmiwngxiomphngkxyangwngirthalin khxngkhayxangxingPunk No Future for You No Future for Me ewbist music499 com Robb 2006 khanaody Michael Bracewell xngkvs Ramone Tommy Fight Club Uncut January 2007 xngkvs McLaren Malcolm Punk Celebrates 30 Years of Subversion BBC News August 18 2006 eriykduemux 17 mkrakhm kh s 2006 xngkvs Punk 2008 03 11 thi ewyaebkaemchchin ewbist dekpunk th gs Christgau Robert Please Kill Me The Uncensored Oral History of Punk by Legs McNeil and Gillian McCain review New York Times Book Review 1996 eriykduemux 17 mkrakhm kh s 2007 xngkvs Harris 2004 hna 202 xngkvs Sabin 1999 hna 101 xngkvs Robb 2006 khanaody Michael Bracewell xngkvs Murphy Peter Shine On The Lights Of The Bowery The Blank Generation Revisited Hot Press July 12 2002 Hoskyns Barney Richard Hell King Punk Remembers the Generation Rock s Backpages March 2002 xngkvs Punk Music in Britain BBC co uk October 7 2002 eriykduemux 18 thnwakhm kh s 2006 xngkvs McLaren Malcolm Punk Celebrates 30 Years of Subversion BBC News August 18 2006 eriykduemux 17 thnwakhm kh s 2006 xngkvs Chong Kevin The Thrill Is Gone Canadian Broadcasting Corporation August 2006 eriykduemux 17 thnwakhm kh s 2006 xngkvs Shuker 2002 hna 159 xngkvs Sabin 1999 hna 4 226 Dalton Stephen Revolution Rock Vox June 1993 xngkvs Savage 1991 hna 440 xngkvs Sabin 1999 hna 157 xngkvs Harrington 2002 hna 165 xngkvs Wilkerson 2006 hna 52 xngkvs Fletcher 2000 hna 497 xngkvs MC5 Kick Out the Jams 2007 12 17 thi ewyaebkaemchchin ody Lester Bangs Rolling Stone April 5 1969 eriykduemux 1 16 07 xngkvs Taylor 2003 hna 49 xngkvs Harrington 2002 hna 538 xngkvs Robb 2006 hna 51 xngkvs Unterberger 2000 hna 18 xngkvs Leblanc 1999 hna 35 xngkvs Quoted in Leblanc 1999 hna 35 xngkvs Taylor 2003 hna 16 Woods Scott A Meaty Beaty Big and Bouncy Interview with Dave Marsh 2007 08 18 thi ewyaebkaemchchinrockcritics com xngkvs Taylor 2003 hna 16 xngkvs Savage 1991 hna 131 xngkvs Savage 1991 hna 130 131 xngkvs Taylor 2003 hna 16 17 xngkvs Savage 1991 hna 131 xngkvs Savage 1991 hna 86 90 59 60 xngkvs Savage 1991 hna 89 xngkvs Savage 1991 hna 90 Buckley 2003 hna 485 xngkvs Walker 1991 hna 662 xngkvs Walsh 2006 hna 27 xngkvs Savage 1991 hna 132 xngkvs McNeil and McCain 1997 hna 240 300 Walsh 2006 hna 15 24 for CBGB s closing in 2006 see e g Damian Fowler Legendary punk club CBGB closes BBC News October 16 2006 eriykduemux 11 thnwakhm kh s 2006 xngkvs Walsh 2006 hna 8 xngkvs The Sex Pistols 2009 04 16 thi ewyaebkaemchchin Rolling Stone Encyclopedia of Rock n Roll 2001 xngkvs Robb 2006 hna 198 xngkvs Taylor 2003 hna 56 xngkvs The Ramones Rock and Roll Hall of Fame 2002 xngkvs Marcus 1989 hna 37 67 xngkvs Heylin 1993 hna xii xngkvs Stafford 2006 hna 57 76 xngkvs Griffin Jeff The Damned BBC co uk xngkvs Lydon 1995 hna 139 140 xngkvs Ross Alex Generation Exit Kurt Cobain 2008 04 24 thi ewyaebkaemchchin The New Yorker April 1994 xngkvs Spitz and Mullen 2001 xngkvs Round Table Discussion Hollywood Vanguard vs Beach Punks Flipsidezine com xngkvs Spitz and Mullen 2001 hna 274 279 xngkvs Punk Rock AllMusic com xngkvs W Matt 10 Bands that Are Leading Post Punk s Third Wave associatedcontent com xngkvs Reynolds 2005 hna xvii xviii xxiii xngkvs Hebdige 1987 hna 107 xngkvs Sabin 1999 hna 12 xngkvs Savage 1991 hna 396 xngkvs Quoted in Wells 2004 hna 21 xngkvs Spencer Neil and James Brown Why the Clash Are Still Rock Titans The Observer UK October 29 2006 xngkvs New Wave 2010 11 13 thi ewyaebkaemchchin Allmusic com xngkvs Post punk AllMusic com xngkvs Reynolds 2005 hna xxix xngkvs Blush Steven Move Over My Chemical Romance The Dynamic Beginnings of US Punk Uncut January 2007 xngkvs Blush 2001 hna 17 Coker Matt Suddenly In Vogue The Middle Class may have been the most influential band you ve never heard of 2007 11 02 thi ewyaebkaemchchin OC Weekly December 5 2002 xngkvs Andersen and Jenkins 2001 xngkvs Blush 2001 hna 173 xngkvs Van Dorston A S A History of Punk fastnbulbous com xngkvs Sabin 1999 hna 216 n 17 Dalton Stephen Revolution Rock Vox June 1993 xngkvs Robb 2006 hna 469 xngkvs Quoted in Robb 2006 hna 469 470 xngkvs Robb 2006 hna 470 xngkvs Fleischer Tzvi Sounds of Hate 2005 12 14 thi ewyaebkaemchchin Australia Israel amp Jewish Affairs Council AIJAC August 2000 xngkvs Gimarc 1997 hna 175 xngkvs Robb 2006 hna 511 xngkvs Anarcho Punk 2007 09 29 thi ewyaebkaemchchin ewbist tonkla org Wells 2004 hna 35 xngkvs Besssman 1993 hna 16 Marcus 1979 hna 114 Simpson 2003 hna 72 McNeil 1997 hna 206 xngkvs Cooper Ryan The Buzzcocks Founders of Pop Punk punkmusic about com xngkvs Di Bella Christine Blink 182 Green Day popmatters com xngkvs Azerrad 2001 passim for relationship of Husker Du and The Replacements see hna 205 206 xngkvs Goldberg Michael Punk Lives Rolling Stone June August 1985 xngkvs Erlewine Stephen Thomas American Alternative Rock Post Punk 2010 11 13 thi ewyaebkaemchchin All Music Guide xngkvs Azerrad 2001 passim xngkvs Kurt Donald Cobain 2006 10 22 thi ewyaebkaemchchin The Biography Channel xngkvs St Thomas 2004 hna 94 xngkvs 1991 The Year That Punk Broke rottentomatoes xngkvs Raha 2005 hna 154 xngkvs ROCK KEEP ROLLIN 2012 11 13 thi ewyaebkaemchchin ody phucdkarxxniln 8 knyayn 2549 15 04 n You Are So Not Scene 1 The Fall of Emo as We Don t Know It pastepunk com xngkvs Gold Jonathan The Year Punk Broke SPIN November 1994 xngkvs Gold Jonathan The Year Punk Broke SPIN November 1994 xngkvs Haenfler 2006 hna 12 xngkvs phngk sayphnthuihm 2007 09 29 thi ewyaebkaemchchin exbinxrmxl chud 4 ochwkhxngdi sithru ody khm chd luk wn xngkhar thi 22 phvsphakhm ph s 2550 02 51 n khntalung mngki aephns ngansaklsudecngkhxngedkithywy 15 fransis nntasukhnth Teen Marketing Positioning Magazine kumphaphnth 2548 Young rock n rollers keep the Bangkok underground scene alive 2007 10 12 thi ewyaebkaemchchin nationmultimedia com xngkvs esiyngcakaehlm dntrihnkhnwng khxngxiom phngk inaebb irthalin ewbist khmchdluk khxmbrrnanukrmAndersen Mark and Mark Jenkins 2001 Dance of Days Two Decades of Punk in the Nation s Capital New York Soft Skull Press ISBN 1 887128 49 2 Azerrad Michael 2001 Our Band Could Be Your Life New York Little Brown ISBN 0 316 78753 1 Blush Steven 2001 American Hardcore A Tribal History Los Angles Feral House ISBN 0 922915 71 7 Fletcher Tony 2000 Moon The Life and Death of a Rock Legend New York HarperCollins ISBN 0 380 78827 6 Gimarc George 1997 Post Punk Diary 1980 1982 New York St Martin s ISBN 0 312 16968 X Haenfler Ross 2006 Straight Edge Hardcore Punk Clean Living Youth and Social Change New Brunswick N J Rutgers University Press ISBN 0 8135 3852 1 Harrington Joe S 2002 Sonic Cool The Life amp Death of Rock n Roll Milwaukee Wisc Hal Leonard ISBN 0 634 02861 8 Harris John 2004 Britpop Cool Britannia and the Spectacular Demise of English Rock Cambridge Mass Da Capo ISBN 0 306 81367 X Hebdige Dick 1987 Cut n Mix Culture Identity and Caribbean Music London Routledge ISBN 0 415 05875 9 Heylin Clinton 1993 From the Velvets to the Voidoids The Birth of American Punk Rock Chicago A Cappella Books ISBN 1 55652 573 3 Leblanc Lauraine 1999 Pretty in Punk Girls Gender Resistance in a Boys Subculture New Brunswick N J Rutgers University Press ISBN 0 8135 2651 5 Lydon John 1995 Rotten No Irish No Blacks No Dogs New York Picador ISBN 0 312 11883 X Marcus Greil 1989 Lipstick Traces A Secret History of the Twentieth Century Cambridge Mass Harvard University Press ISBN 0 674 53581 2 Raha Maria 2005 Cinderella s Big Score Women of the Punk and Indie Underground Emeryville Calif Seal ISBN 1 58005 116 2 Reynolds Simon 2005 Rip It Up and Start Again Post Punk 1978 1984 London and New York Faber and Faber ISBN 0 571 21569 6 Robb John 2006 Punk Rock An Oral History London Elbury Press ISBN 0 09 190511 7 Sabin Roger 1999 Punk Rock So What The Cultural Legacy of Punk London Routledge ISBN 0 415 17030 3 Savage Jon 1991 England s Dreaming The Sex Pistols and Punk Rock London Faber and Faber ISBN 0 312 28822 0 Shuker Roy 2002 Popular Music The Key Concepts London Routledge ISBN 0 415 28425 2 Stafford Andrew 2006 Pig City From the Saints to Savage Garden 2d rev ed Brisbane University of Queensland Press ISBN 0 7022 3561 X St Thomas Kurt with Troy Smith 2002 Nirvana The Chosen Rejects New York St Martin s ISBN 0 312 20663 1 Taylor Steven 2003 False Prophet Field Notes from the Punk Underground Middletown Conn Wesleyan University Press ISBN 0 8195 6668 3 Walker John 1991 Television in The Trouser Press Record Guide 4th ed ed Ira Robbins New York Collier hna 662 ISBN 0 02 036361 3 Walsh Gavin 2006 Punk on 45 Revolutions on Vinyl 1976 79 London Plexus ISBN 0 85965 370 6aehlngkhxmulxunpunkrock org xngkvs Distorted Magazine nitysarephlngphngkrxkyukhihm xngkvs prawtikhxngphngk ody A S Van Dorston xngkvs