เจ้ามหายศ หรือ เจ้าหลวงมหายศ ทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 59 และองค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ ทรงเป็นราชโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 57 ทรงครองเมืองน่าน ระหว่างปี พ.ศ. 2368 - พ.ศ. 2378
เจ้ามหายศ | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระยาน่าน | |||||
เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 59 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ | |||||
ราชาภิเษก | 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 | ||||
ครองราชย์ | 6 กันยายน พ.ศ. 2368 - 30 มกราคม พ.ศ. 2378 | ||||
รัชกาล | 9 ปี 4 เดือน 24 วัน | ||||
พระอิสริยยศ | พระยาประเทศราช | ||||
ก่อนหน้า | เจ้าสุมนเทวราช | ||||
ถัดไป | เจ้าอชิตวงษ์ | ||||
พิราลัย | 30 มกราคม พ.ศ. 2378 ณ กรุงเทพฯ | ||||
พระชายา | แม่เจ้าศรีวรรณาอัครเทวี | ||||
ชายา | 2 องค์ | ||||
พระราชบุตร | 11 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชสกุล | มหายศนันทน์ | ||||
ราชวงศ์ | ติ๋นมหาวงศ์ | ||||
พระบิดา | สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าคำน้อยอัครเทวี |
พระประวัติ
เจ้าหลวงมหายศ ทรงเป็นราชโอรสองค์โต ในเจ้าฟ้าหลวงอัตถวรปัญโญ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 57 ประสูติแต่แม่เจ้าคำน้อยอัครเทวี (พระชายาที่ 1) ทรงมีพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้ามารดา 5 พระองค์ ดังนี้
- เจ้ามหายศ ภายหลังได้เป็น พระเจ้ามหายศ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 59
- ถึงแก่กรรม
- แม่เจ้าประภาวดี
- แม่เจ้ามี
- แม่เจ้าหล้า
พระชายา ราชบุตร
เจ้ามหายศ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 59 ทรงมีพระชายา 3 องค์ และพระโอรส/พระธิดา 11 พระองค์ ดังนี้
- พระชายาที่ 1 แม่เจ้าศรีวรรณาอรรคราชเทวี ประสูติพระโอรส/พระธิดา 7 องค์ ดังนี้
- เจ้าหนานเทพ
- เจ้าจันต๊ะ ภายหลังได้เป็น
- เจ้านางสุพรรณ
- เจ้านางกรรณิกา
- เจ้านางสุธรรมา
- เจ้านางคำแปง
- เจ้านางยอดหล้า เสกสมรสกับ พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63
- พระชายาที่ 2 แม่เจ้าพมงาราชเทวี ประสูติพระโอรส/พระธิดา 2 องค์ ดังนี้
- เจ้าน้อยเครื่อง
- เจ้านางเกียงเเก้ว
- พระชายาที่ 3 แม่เจ้าบัวแสงเทวี ประสูติพระโอรส 2 องค์ ดังนี้
- เจ้ามหาไชย ภายหลังได้เป็น
- เจ้ามหาวงษ์
อิสริยยศ
- เจ้าราชวงษ์
- เจ้าพระยาน่าน (พ.ศ. 2368)
เครื่องยศ
ครั้นเมื่อเจ้าราชวงษ์มหายศ ลงมาเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. 2368 จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา เจ้าราชวงษ์มหายศ ขึ้นเป็น เจ้าพระยาน่าน (มหายศ)
เจ้าหลวงมหายศ ได้รับพระราชทานเครื่องยศ ดังนี้
- พานพระศรีคำ 1 ใบ
- จอกคำ 2 ใบ
- ผะอบยาสูบคำ 2 อัน
- ซองพลูคำ 1 อัน
- มีดด้ามคำ 1 อัน
- อุบนวดคำ 1 ใบ
- คนโทคำ 1 ลูก
- กะโถนคำ 1 ลูก
- พระกลดแดงดอกคำ 1 ใบ
กรณียกิจ
ด้านถวายความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี
- เมื่อปี พ.ศ. 2388 เจ้ามหาวงศ์ ได้ถวายช้างสําคัญแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ช้างมาถึงกรุงเทพตรงกับวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2388 ความว่า
“พระยาน่านถวายช้างพังเล็บครบช้าง ๑ ลงมาถึงกรุงเทพมหานคร ณ วันเสาร์ เดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ํา พระราชทานชื่อขึ้นระวางว่า "พระบรมนาเคนทรนขา”
(เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี, ๒๕๔๖: ๑๑๗)
ด้านปกครองบ้านเมือง
พ.ศ. 2369 เจ้าหลวงมหายศ เจ้านครเมืองน่านราชโอรส สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยปราบกบฎเจ้าอนุวงศ์ ที่เวียงจันทน์ พร้อมกับเมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน นครลำปาง และเมืองแพร่ จนปราบกบฎได้สำเร็จ
26 กันยายน พ.ศ. 2368 พระมหากระษัตริย์จิงตั้งเจ้าราชวงษ์ตนชื่อมหายศ ตนเปนบุตรเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ขึ้นเปน พระยาน่าน แทนหั้นแล พระมหากระษัตริย์เจ้าก็พระราชทานเครื่องยศหื้อเหมือนดังพระยาน่านตนเก่าหั้นแล เจ้าหลวงมหายศครั้นว่าได้รับพระราชทานเครื่องยศเปนเจ้าพระยาน่านแล้ว ก็กราบทูลลาพระมหากระษัตริย์เจ้าขึ้นมาเถิง เมืองแล้ว ท่านก็มายั้งพักอยู่ตำหนักดอนไชยเวียงเก่าที่นั้น เถิงเดือน 11 ลง 8ค่ำ ท่านก็เสด็จขึ้นสถิตย์อยู่ในมงคลนิเวศน์ที่ เก่าท่านก่อน ในต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2369 มหาขัติยราชวงษาเสนาอามาตย์ทั้ง หลาย ก็อาราธนาเชิญท่านขึ้นสถิตย์สำราญในราชนิเวศน์โรงหลวง แทนเจ้าสุมนเทวราชสร้างไว้นั้นแล
เถิงจุลศักราชได้ 1188 ตัวปีรวายเสร็จเดือน 6 ลง 6 ค่ำท้องตราพระราชสีห์เรียงลำดับหัวเมือง เมืองพิไชยส่งขึ้นมาเถิงเมืองน่าน ว่าเจ้าอนุเวียงคิดขบถต่อพระมหากระษัตริย์เจ้าเมืองใต้ หื้อพระยาน่านได้เกณฑ์กองทัพ ๕๐๐๐ คน ไว้ จักยกเข้าไปตีเอาเมืองจันทบุรี
เถิงจุลศักราชได้ 1186 ตัวปีกาบสันเดือน ๕ ลง ๕ ค่ำ ท่านก็หื้อป่อคุ้มแก้วด้านลางยาว ๗๙ วา ลางขวางมี ๗๐ วาแล
อยู่มาเถิงเดือน ๖ ลง ๑๔ ค่ำ ข้าหลวงชื่อแผงสด้านถือท้องตราขึ้นมาเร่ง ยกทัพไปตีเอาเวียงจันทบุรีให้ทัน พร้อมกับ เมืองเชียงใหม่ ลำพูน นคร เมืองแพร่ ว่าสันนี้ เถิงเดือน ๖ ลง ๔ ค่ำ อาชญาเจ้าหลวงมหายศจิงเกณฑ์หื้อเจ้าราชวงษ์เปนแม่ทัพ น่า คุมกำลังคน ๑๐๐๐ คน ยกออกจากเวียงไปตั้งเมืองโต่งเกณฑ์หื้อเจ้าพระเมืองแก้วคุมกำลังคน ๕๐๐ คน ยกไปทางน้ำปาด หื้อบังคับกองทัพนครเชียงใหม่ลำพูน ดังอาชญาเจ้าหลวงยกกำลังคน ๓๕๐๐ คนออกไปยั้งเอาไชยที่ตำหนักดอนไชยในวัน อังคารเดือน ๗ ลง ๑๑ ค่ำ ยามกองแลง จุลศักราชได้ ๑๑๘๘ ตัวปีรวายเสร็จนั้นแล เถิงวันศุกร์เดือน ๘ ขึ้น ๒ ค่ำ อาชญาเจ้า หลวงมหายุวราชก็ยกรี้พลศึกออกไปตั้งเมืองโต่ง ไปเถิงเมืองพานพร้าวในเดือน ๙ ลง ๕ ค่ำหั้นแล ดังกระษัตริย์เจ้าวังน่าแล ไทยลาวหัวเมืองทั้งมวลก็ไปอยู่เมืองพานพร้าวหั้นนับเสี้ยงแล ดังเจ้าอนุเวียงจันท์แลบ้านเมืองไพร่พลทั้งมวล รู้ว่าทัพใหญ่ เมืองใต้ยกเข้าไปสันนั้น ก็แตกตื่นกระจัดกระจายหนี ดังเจ้าอนุก็ลงเรือไปออกท่าสีดาแล้ว ก็หนีเข้าไปเมืองพวนหั้นแล มหา กระษัตริย์วังน่าจิงมีอาชญาหื้อกองทัพหัวเมืองทั้งมวลข้ามไปตั้งอยู่เมืองจันท์แล้ว หื้อไปกวาดเอาครอบครัวพวกพระยาสุปาก เพียวแลครัวเมืองเวียงจันท์ ซึ่งอันจะแตกตื่นไปลี้อยู่ขอกบ้านแคมเมืองนั้น มาหื้อได้
นับเสี้ยงหั้นแล ครั้นว่ากองทัพหัวเมืองทั้งหลายไปกวาดเอามาได้แล้วก็เอาไปถวายพระมหากระษัตริย์เจ้าวังน่าหั้นแล้ว ก็ ส่งไปเมืองใต้หั้นแล ดังเมืองน่านได้คนครัวมาถวาย ๑๒๐๐ ครัว ดังพระยาราชสุภาวดีท่านขึ้นมาทางเมืองปาจิณ เถิงเมืองบา สัก มาเถิงเวียงพานพร้าว เดือน ๑๑ ขึ้น ๘ ค่ำ มหากระษัตริย์เจ้าวังน่าก็เสด็จลงไปเมืองใต้หั้นแล ในเดือน ๑๑ ขึ้น ๑๒ ค่ำ พระยาราชสุภาวดีแม่ทัพพระราชทานคนครัวเมืองจันท์หื้ออาชญาเจ้าหลวงเมืองน่าน ๔๓๘ คนหั้นแล อาชญาเจ้าหลวงท่านก็ เลิกยกทัพขึ้นมาเมืองจันท์พานพร้าว มาเถิงเมืองน่านเดือนเจียงลง ๑๓ ค่ำหั้นเซิงลาวเมืองหล่มเมืองเลย แก่นท้าวนำปูนรำจำ พยองน้ำปาดก็แตกตื่นเข้ามาเมืองน่าน มาพึ่งอาชญาเจ้าหลวงน่านหั้นแลเราท่านก็มาสร้างบ้านแปงเมืองอยู่พึ่งสมภารเจ้า หลวงน่านที่นี้แล ยังแต่เมืองหลวงพระบางบ่เข้ามาเทือะ เมื่อนั้นพระมหากระษัตริย์เจ้าก็บ่ไว้วางใจได้ เหตุด่านต่อแดนเมือง พวนอันหนึ่ง ดังเจ้าอนุเวียงจันท์ก็บ่ได้ตัวเทือะ จิงมีท้องตราขึ้นมาว่า หื้อพระยาพิไชยคุมกำลังคน ๕๐๐ คน ยกขึ้นเมืออยู่รักษา เมืองหลวงพระบาง แลมีตราโปรดขึ้นมาเมืองน่าน ว่าหื้อพระยาน่านเกณฑ์คนไปอยู่รั้งฟังราชการในเมืองหลวงพระบางอย่า ให้ขาด มีโปรดประการนั้น
เถิงจุลศักราชได้ ๑๑๘๙ ตัวเมิงไก๊เดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำ อาชญาเจ้าหลวงก็หื้อแสนศิริสงครามคุมคน ๖๐ ไปอยู่รั้งฟัง ราชการเมืองหลวงพระบางกับพระยาก่อนหั้นแล
เถิงเดือน ๖ ลง ๑๐ ค่ำ พระยาพิไชยรณฤทธิ์ถือตราขึ้นมาว่า เร่งจัดเอาคนครัวลาวซึ่งอันขึ้นมาพึ่งอยู่ยังเมืองน่าน อาญาเจ้าหลวงก็เกณฑ์ขัติยท้าวขุนไพร่ ๑๔๔ คนคุมคนครัวลาวส่งไปทางเมืองแพร่ ในศักราช ๑๑๙๐ ตัว ปีเบิกไจ๊เดือน ๑๐ ขึ้น ๘ ค่ำนั้นแล เดือน ๑๐ ขึ้น ๑๒ ค่ำพระยาพิไชยรณฤทธิ์เลิกจากเมืองน่านไปทางเมืองแพร่แล ดังพระยาเชียงของตนเถ้าก็ เถิงอนิจกรรมในพรรษานั้น เดือน ๑๑ ลง ๑๒ ค่ำหม่อมน้อยแต่งหื้อราชาศรีวิไชยแลท้าวปราการไชย นำราชบรรณาการลงมา เถิงเมืองน่าน เถิงเดือน ๑๒ ลง ๔ ค่ำ หลวงไชยยศข้าหลวงถือตราขึ้นมาว่าหื้อเมืองน่านเกณฑ์กองทัพไปเมืองหลวงพระบาง เถิงเดือนเจียงลง ๑๓ ค่ำอาชญาเจ้าหลวงมหายศก็เกณฑ์หื้อเจ้าพระเมืองราชาพระยาแสน คุมคน ๖๕๐ คนยกไปรักษาเมือง หลวงพระบาง เถิงเดือนยี่ขึ้น ๑๓ ค่ำท่านซ้ำเกณฑ์เจ้าพระเมืองไชยราชาพระแขงคุมคน ๖๔๐ คน ยกไปเมืองหลวงพระบาง แถมเถิงเดือนยี่ลง ๑๑ ค่ำ หื้อแสนกันธนัญไชยแสนจิตมโนคุมคน ๓๐๐ ไปฟังราชการฝ่ายเมืองเวียงจันท์ ไปตั้งอยู่ปากลายอยู่ กับพระลับแล ตัวแสนจิตมโนลงไปเมืองเวียงจันทร์ เถิงท่านพระยาราชสุภาวดี แสนจิตมโนก็แจ้งการกลับขึ้นมาตั้งอยู่สาม หมื่นเมืองเฟืองกวาดเอาต้อนเอาครอบครัวที่นั้น อาชญาเจ้าหลวงได้รู้แจ้งว่า แสนจิตมโนขึ้นมาตั้งอยู่สามหมื่นหนองแก้วหาด เดือย ท่านจิงเกณฑ์เจ้าสุริยคุมคน ๓๐๐ ยกไปทวยหาแสนจิตมโน เดือน ๔ ลง ๑๑ ค่ำเจ้าสุริยไปเถิงแสนจิตมโนแล้วก็พร้อม กันกวาดเอาคนครัวเวียงจันท์ ซึ่งอันแตกขึ้นมาตั้งอยู่สามหมื่นเมืองเฟืองหนองแก้วหาดเดือยได้ ๓๐๐๐ ครัว ส่งเข้ามาหาพระลับแลอันตั้งอยู่ปากลาย ดังพระ ยาพิไชยรณฤทธิ์ก็ให้พระมหาสงครามลงมาอยู่ปากลายที่นั้น พระมหาสงครามก็แบ่งคนครัวให้เจ้าสุริย ๑๗๐ คน ปันให้แสน ธนัญไชย ๖๑ คนหั้นแล ดังพระยาพิไชยรณฤทธิ์อยู่เมืองหลวงพระบาง ก็รู้ข่าวว่าเจ้าอนุเวียงจันท์เอาตัวลี้อยู่ในแขวงเมือง พรวน จิงแต่งหื้อพระยาแสนกับพระยาลับแล คุมคน ๑๗๐ คนยกเข้าไปเสาะสืบ ก็รู้เปนแน่แล้ว ก็ยกเข้าไปจับเอา ก็ได้ตัวเจ้า อนุกับนางคำปองได้ ในเดือน ๓ ขึ้น ๑๒ ค่ำเวลากลางคืน ก็คุมเอาตัวเจ้าอนุแลนางคำปองลงไปเถิงพระยาราชสุภาวดียังเมือง เวียงจันท์แล้ว พระยาราชสุภาวดีก็พระราชทานคนครัวหื้อพระยาแสน ๓๐ คนเปนความชอบหั้นแล เถิงศักราชได้ ๑๑๙๑ ตัวปีกัดเป๋าเดือน ๑๒ ลง ๑๓ ค่ำวันเสาร์ยามทูตซ้าย อาชญาเจ้าหลวงมหายศก็พาเอาขัติยรา ชวงษาลงไปพิดทูลเฝ้าพระมหากระษัตริย์เจ้า ท่านก็ทูลตั้งเจ้ามหาวงษ์ พระเมืองไชยตนเปนน้า หื้อเปนเจ้ามหาอุปราชาฮ่อ ตั้งนายหนานรามเสนบุตรพระยาเชียงของ หื้อเปนพระยาเชียงของ ตั้งพระยาเชียงแขง ตั้งพระยาเมืองหลวง พระยาภูคาครั้งนั้นแล้ว ท่านก็กลับคืนมาเมืองดังพระยาเชียงของก็ขึ้นเมืออยู่เมืองเชียงของที่นั้นแล
อยู่มาพระยาเชียงของรามเสนก็ใช้ไปขันปันลูกสาวหื้อเจ้าราชวงษ์เมืองเชียงใหม่ เจ้าหลวงมหายศได้รู้จิงเอาลูกสาว พระยาเชียงของชื่อพิมพาผู้อัน ท่านจักเอาไปหื้อเชียงใหม่นั้นเอามาเปนลูก ดังพระยาเชียงของได้เข้ามาอยู่เมืองน่านเสี้ยงไป ๒ พระยา เถิงถ้วน ๓ เจ้ารามเสนนี้ก็ไปขันปันลูกสาวหื้อเจ้าต่างประเทศเมือ เช่นพระยาศรีวิไชยนั้นก็ไปขันปันหลานสาวหื้อเจ้า เมืองเวียงจันท์ เช่นพระยาอริยะเถ้านั้นก็ว่าจักคิดหื้อลูกไปสืบสัญไชยไมตรีเมืองหลวงพระบาง จนได้หมายไว้มีสิ้นแล ดังเจ้าหลวงมหายศท่านได้เสวยราชสมบัติเปนเจ้านครเมืองน่านได้ ๑๐ ปี เถิงจุลศักราชได้ ๑๑๙๗ ตัวปีดับเม็ด ท่านได้ลงไปเฝ้าพระ มหากระษัตริย์เจ้าเมืองใต้ ก็ลวดได้บังเกิดด้วยพยาธิอันหนักแล้ว ท่านก็เถิงแก่อสัญกรรมไปในเมืองใต้ที่นั้นวันนั้นแล ได้ ๙ ชั่วเช่นวงษาแลผิจักนับแต่เจ้าขุนฟองมา ก็ได้ ๕๙ เช่นตนกินเมืองแล
สถานที่อันเนื่องมาจากพระนาม
ราชตระกูล
พงศาวลีของพระยามหายศ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- นามสกุลคนไทย (ต้นสกุล (ต้นวงศ์), ต้นราชสกุล)
- พงศาวดารเมืองน่าน, หน้า 194
- ราชวงศปกรณ์ พงศาวดารเมืองน่าน (ฉบับพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช), หน้า 194
- พงษาวดารนครเวียงน่าน
ก่อนหน้า | พระยามหายศ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าสุมนเทวราช | เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 59 และองค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ติ๋นมหาวงศ์ (พ.ศ. 2368 - พ.ศ. 2378) | พระเจ้าอชิตวงษ์ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ecamhays hrux ecahlwngmhays thrngepnecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 59 aelaxngkhthi 9 aehngrachwngstinmhawngs thrngepnrachoxrsinsmedcecafaxtthwrpyoy ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 57 thrngkhrxngemuxngnan rahwangpi ph s 2368 ph s 2378ecamhaysphrayananecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 59 aehngrachwngstinmhawngsrachaphiesk24 phvsphakhm ph s 2369khrxngrachy6 knyayn ph s 2368 30 mkrakhm ph s 2378rchkal9 pi 4 eduxn 24 wnphraxisriyysphrayapraethsrachkxnhnaecasumnethwrachthdipecaxchitwngsphiraly30 mkrakhm ph s 2378 n krungethphphrachayaaemecasriwrrnaxkhrethwichaya2 xngkhphrarachbutr11 phraxngkhphranametmphrayamhaysrachbdi ichynnthburi phrayananrachskulmhaysnnthnrachwngstinmhawngsphrabidasmedcecafaxtthwrpyoyphramardaaemecakhanxyxkhrethwiphraprawtiecahlwngmhays thrngepnrachoxrsxngkhot inecafahlwngxtthwrpyoy ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 57 prasutiaetaemecakhanxyxkhrethwi phrachayathi 1 thrngmiphraxnuchaaelaphrakhnistharwmecamarda 5 phraxngkh dngni ecamhays phayhlngidepn phraecamhays ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 59 thungaekkrrm aemecapraphawdi aemecami aemecahlaphrachaya rachbutr ecamhays ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 59 thrngmiphrachaya 3 xngkh aelaphraoxrs phrathida 11 phraxngkh dngni phrachayathi 1 aemecasriwrrnaxrrkhrachethwi prasutiphraoxrs phrathida 7 xngkh dngni ecahnanethph ecacnta phayhlngidepn ecanangsuphrrn ecanangkrrnika ecanangsuthrrma ecanangkhaaepng ecanangyxdhla esksmrskb phraecasuriyphngsphritedch ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 63 phrachayathi 2 aemecaphmngarachethwi prasutiphraoxrs phrathida 2 xngkh dngni ecanxyekhruxng ecanangekiyngeekw phrachayathi 3 aemecabwaesngethwi prasutiphraoxrs 2 xngkh dngni ecamhaichy phayhlngidepn ecamhawngsxisriyysecarachwngs ecaphrayanan ph s 2368 ekhruxngys khrnemuxecarachwngsmhays lngmaekhaefa phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw inpi ph s 2368 cungmiphrabrmrachoxngkaroprdekla sthapna ecarachwngsmhays khunepn ecaphrayanan mhays ecahlwngmhays idrbphrarachthanekhruxngys dngni phanphrasrikha 1 ib cxkkha 2 ib phaxbyasubkha 2 xn sxngphlukha 1 xn middamkha 1 xn xubnwdkha 1 ib khnothkha 1 luk kaothnkha 1 luk phrakldaedngdxkkha 1 ibkrniykicdanthwaykhwamcngrkphkditxrachwngsckri emuxpi ph s 2388 ecamhawngs idthwaychangsakhyaedphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw changmathungkrungethphtrngkbwnxngkharthi 13 phvsphakhm ph s 2388 khwamwa phrayananthwaychangphngelbkhrbchang 1 lngmathungkrungethphmhankhr n wnesar eduxn 6 khun 8 kha phrarachthanchuxkhunrawangwa phrabrmnaekhnthrnkha ecaphrayathiphakrwngsmhaoksathibdi 2546 117 danpkkhrxngbanemuxng ph s 2369 ecahlwngmhays ecankhremuxngnanrachoxrs smedcecafaxtthwrpyoy ideknthkalngipchwyprabkbdecaxnuwngs thiewiyngcnthn phrxmkbemuxngechiyngihm emuxnglaphun nkhrlapang aelaemuxngaephr cnprabkbdidsaerc 26 knyayn ph s 2368 phramhakrastriycingtngecarachwngstnchuxmhays tnepnbutrecafaxtthwrpyoy khunepn phrayanan aethnhnael phramhakrastriyecakphrarachthanekhruxngyshuxehmuxndngphrayanantnekahnael ecahlwngmhayskhrnwaidrbphrarachthanekhruxngysepnecaphrayananaelw kkrabthullaphramhakrastriyecakhunmaething emuxngaelw thankmayngphkxyutahnkdxnichyewiyngekathinn ethingeduxn 11 lng 8kha thankesdckhunsthityxyuinmngkhlniewsnthi ekathankxn intxmaemuxwnthi 24 phvsphakhm ph s 2369 mhakhtiyrachwngsaesnaxamatythng hlay kxarathnaechiythankhunsthitysarayinrachniewsnornghlwng aethnecasumnethwrachsrangiwnnael ethingculskrachid 1188 twpirwayesrceduxn 6 lng 6 khathxngtraphrarachsiheriyngladbhwemuxng emuxngphiichysngkhunmaethingemuxngnan waecaxnuewiyngkhidkhbthtxphramhakrastriyecaemuxngit huxphrayananideknthkxngthph 5000 khn iw ckykekhaiptiexaemuxngcnthburi ethingculskrachid 1186 twpikabsneduxn 5 lng 5 kha thankhuxpxkhumaekwdanlangyaw 79 wa langkhwangmi 70 waael xyumaethingeduxn 6 lng 14 kha khahlwngchuxaephngsdanthuxthxngtrakhunmaerng ykthphiptiexaewiyngcnthburiihthn phrxmkb emuxngechiyngihm laphun nkhr emuxngaephr wasnni ethingeduxn 6 lng 4 kha xachyaecahlwngmhayscingeknthhuxecarachwngsepnaemthph na khumkalngkhn 1000 khn ykxxkcakewiyngiptngemuxngotngeknthhuxecaphraemuxngaekwkhumkalngkhn 500 khn ykipthangnapad huxbngkhbkxngthphnkhrechiyngihmlaphun dngxachyaecahlwngykkalngkhn 3500 khnxxkipyngexaichythitahnkdxnichyinwn xngkhareduxn 7 lng 11 kha yamkxngaelng culskrachid 1188 twpirwayesrcnnael ethingwnsukreduxn 8 khun 2 kha xachyaeca hlwngmhayuwrachkykriphlsukxxkiptngemuxngotng ipethingemuxngphanphrawineduxn 9 lng 5 khahnael dngkrastriyecawngnaael ithylawhwemuxngthngmwlkipxyuemuxngphanphrawhnnbesiyngael dngecaxnuewiyngcnthaelbanemuxngiphrphlthngmwl ruwathphihy emuxngitykekhaipsnnn kaetktunkracdkracayhni dngecaxnuklngeruxipxxkthasidaaelw khniekhaipemuxngphwnhnael mha krastriywngnacingmixachyahuxkxngthphhwemuxngthngmwlkhamiptngxyuemuxngcnthaelw huxipkwadexakhrxbkhrwphwkphrayasupak ephiywaelkhrwemuxngewiyngcnth sungxncaaetktuniplixyukhxkbanaekhmemuxngnn mahuxid nbesiynghnael khrnwakxngthphhwemuxngthnghlayipkwadexamaidaelwkexaipthwayphramhakrastriyecawngnahnaelw k sngipemuxngithnael dngemuxngnanidkhnkhrwmathway 1200 khrw dngphrayarachsuphawdithankhunmathangemuxngpacin ethingemuxngba sk maethingewiyngphanphraw eduxn 11 khun 8 kha mhakrastriyecawngnakesdclngipemuxngithnael ineduxn 11 khun 12 kha phrayarachsuphawdiaemthphphrarachthankhnkhrwemuxngcnthhuxxachyaecahlwngemuxngnan 438 khnhnael xachyaecahlwngthank elikykthphkhunmaemuxngcnthphanphraw maethingemuxngnaneduxneciynglng 13 khahnesinglawemuxnghlmemuxngely aeknthawnapunraca phyxngnapadkaetktunekhamaemuxngnan maphungxachyaecahlwngnanhnaelerathankmasrangbanaepngemuxngxyuphungsmphareca hlwngnanthiniael yngaetemuxnghlwngphrabangbekhamaethuxa emuxnnphramhakrastriyecakbiwwangicid ehtudantxaednemuxng phwnxnhnung dngecaxnuewiyngcnthkbidtwethuxa cingmithxngtrakhunmawa huxphrayaphiichykhumkalngkhn 500 khn ykkhunemuxxyurksa emuxnghlwngphrabang aelmitraoprdkhunmaemuxngnan wahuxphrayananeknthkhnipxyurngfngrachkarinemuxnghlwngphrabangxya ihkhad mioprdprakarnn ethingculskrachid 1189 twemingikeduxn 4 khun 8 kha xachyaecahlwngkhuxaesnsirisngkhramkhumkhn 60 ipxyurngfng rachkaremuxnghlwngphrabangkbphrayakxnhnael ethingeduxn 6 lng 10 kha phrayaphiichyrnvththithuxtrakhunmawa erngcdexakhnkhrwlawsungxnkhunmaphungxyuyngemuxngnan xayaecahlwngkeknthkhtiythawkhuniphr 144 khnkhumkhnkhrwlawsngipthangemuxngaephr inskrach 1190 tw piebikiceduxn 10 khun 8 khannael eduxn 10 khun 12 khaphrayaphiichyrnvththielikcakemuxngnanipthangemuxngaephrael dngphrayaechiyngkhxngtnethak ethingxnickrrminphrrsann eduxn 11 lng 12 khahmxmnxyaetnghuxrachasriwiichyaelthawprakarichy narachbrrnakarlngma ethingemuxngnan ethingeduxn 12 lng 4 kha hlwngichyyskhahlwngthuxtrakhunmawahuxemuxngnaneknthkxngthphipemuxnghlwngphrabang ethingeduxneciynglng 13 khaxachyaecahlwngmhayskeknthhuxecaphraemuxngrachaphrayaaesn khumkhn 650 khnykiprksaemuxng hlwngphrabang ethingeduxnyikhun 13 khathansaeknthecaphraemuxngichyrachaphraaekhngkhumkhn 640 khn ykipemuxnghlwngphrabang aethmethingeduxnyilng 11 kha huxaesnknthnyichyaesncitmonkhumkhn 300 ipfngrachkarfayemuxngewiyngcnth iptngxyupaklayxyu kbphralbael twaesncitmonlngipemuxngewiyngcnthr ethingthanphrayarachsuphawdi aesncitmonkaecngkarklbkhunmatngxyusam hmunemuxngefuxngkwadexatxnexakhrxbkhrwthinn xachyaecahlwngidruaecngwa aesncitmonkhunmatngxyusamhmunhnxngaekwhad eduxy thancingeknthecasuriykhumkhn 300 ykipthwyhaaesncitmon eduxn 4 lng 11 khaecasuriyipethingaesncitmonaelwkphrxm knkwadexakhnkhrwewiyngcnth sungxnaetkkhunmatngxyusamhmunemuxngefuxnghnxngaekwhadeduxyid 3000 khrw sngekhamahaphralbaelxntngxyupaklay dngphra yaphiichyrnvththikihphramhasngkhramlngmaxyupaklaythinn phramhasngkhramkaebngkhnkhrwihecasuriy 170 khn pnihaesn thnyichy 61 khnhnael dngphrayaphiichyrnvththixyuemuxnghlwngphrabang krukhawwaecaxnuewiyngcnthexatwlixyuinaekhwngemuxng phrwn cingaetnghuxphrayaaesnkbphrayalbael khumkhn 170 khnykekhaipesaasub kruepnaenaelw kykekhaipcbexa kidtweca xnukbnangkhapxngid ineduxn 3 khun 12 khaewlaklangkhun kkhumexatwecaxnuaelnangkhapxnglngipethingphrayarachsuphawdiyngemuxng ewiyngcnthaelw phrayarachsuphawdikphrarachthankhnkhrwhuxphrayaaesn 30 khnepnkhwamchxbhnael ethingskrachid 1191 twpikdepaeduxn 12 lng 13 khawnesaryamthutsay xachyaecahlwngmhayskphaexakhtiyra chwngsalngipphidthulefaphramhakrastriyeca thankthultngecamhawngs phraemuxngichytnepnna huxepnecamhaxuprachahx tngnayhnanramesnbutrphrayaechiyngkhxng huxepnphrayaechiyngkhxng tngphrayaechiyngaekhng tngphrayaemuxnghlwng phrayaphukhakhrngnnaelw thankklbkhunmaemuxngdngphrayaechiyngkhxngkkhunemuxxyuemuxngechiyngkhxngthinnael xyumaphrayaechiyngkhxngramesnkichipkhnpnluksawhuxecarachwngsemuxngechiyngihm ecahlwngmhaysidrucingexaluksaw phrayaechiyngkhxngchuxphimphaphuxn thanckexaiphuxechiyngihmnnexamaepnluk dngphrayaechiyngkhxngidekhamaxyuemuxngnanesiyngip 2 phraya ethingthwn 3 ecaramesnnikipkhnpnluksawhuxecatangpraethsemux echnphrayasriwiichynnkipkhnpnhlansawhuxeca emuxngewiyngcnth echnphrayaxriyaethannkwackkhidhuxlukipsubsyichyimtriemuxnghlwngphrabang cnidhmayiwmisinael dngecahlwngmhaysthanideswyrachsmbtiepnecankhremuxngnanid 10 pi ethingculskrachid 1197 twpidbemd thanidlngipefaphra mhakrastriyecaemuxngit klwdidbngekiddwyphyathixnhnkaelw thankethingaekxsykrrmipinemuxngitthinnwnnnael id 9 chwechnwngsaaelphicknbaetecakhunfxngma kid 59 echntnkinemuxngaelsthanthixnenuxngmacakphranamrachtrakulphngsawlikhxngphrayamhays 8 ecaichyracha 4 ecasuththa 18 phyahlwngtinmhawngs 9 ecanangethph 19 aemecaemuxngechiyngihmethwi 2 ecafahlwngxtthwrpyoy 5 ecakrrnika 1 phrayamhays 6 phrayahay ecaemuxngechiyngkha 3 aemecakhanxyxkhrethwi 7 aemecaemuxngechiyngkha duephimrayphranamecaphukhrxngnkhrnanxangxingnamskulkhnithy tnskul tnwngs tnrachskul phngsawdaremuxngnan hna 194 rachwngspkrn phngsawdaremuxngnan chbbphraecasuriyphngsphritedch hna 194 phngsawdarnkhrewiyngnan kxnhna phrayamhays thdipphraecasumnethwrach ecaphukhrxngnkhrnan xngkhthi 59 aelaxngkhthi 9 aehngrachwngstinmhawngs ph s 2368 ph s 2378 phraecaxchitwngsbthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk