นิราศพระประธม เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบกลอนประพันธ์โดยสุนทรภู่ สันนิษฐานว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังจากลาสิกขาบทแล้วและอยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ สุนทรภู่น่าจะเดินทางในช่วงฤดูหนาว ปี พ.ศ. 2385 ด้วยปรากฏในบทนิราศว่าเดินทางไปโดยการพายเรือ ซึ่งควรต้องไปในฤดูน้ำขึ้น ต้นฉบับสมุดไทยนิราศพระประธม จำนวน 4 ฉบับ เก็บรักษาที่หอสมุดแห่งชาติ มีความแตกต่างทางระดับถ้อยคำและบางแห่งมีความแตกต่างในหลายคำกลอน
นิราศพระประธม | |
---|---|
กวี | พระสุนทรโวหาร (ภู่) |
ประเภท | กลอนนิราศ |
คำประพันธ์ | กลอนสุภาพ |
ยุค | รัชกาลที่ 3 |
ปีที่แต่ง | พ.ศ. 2385 |
ส่วนหนึ่งของ |
เนื้อหาโดยย่อ และเส้นทางการเดินทาง
นิราศพระประธมกล่าวถึงการเดินทางของสุนทรภู่และบุตรชายคือตาบและนิลไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม เดินทางทางเรือออกจากบริเวณพระราชวังเดิมผ่านสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ วัดระฆัง คลองบางกอกน้อย ผ่านตลาดแพ พระราชวังหลังสถานที่ที่สุนทรภู่เคยรับราชการ บางหว้าน้อย วัดสุวรรณารามราชวรวิหารเป็นสถานที่ทำศพของฉิมและนิ่มน้องสาวต่างบิดาของสุนทรภู่ วัดศรีสุดารามวรวิหาร สถานที่ที่กวีเคยบวชอยู่
จังหวัดนนทบุรี เดินทางผ่านบางสนาม วัดเกด วัดชลอ บางกรวย บางสีทอง บางอ้อช้าง วัดสักใหญ่ บางขนุน บางขุนกอง บางนายไก บางระนก บางคูเวียง บางม่วง บางใหญ่ บางกระบือ บางสุนัขบ้า บางโสน บ้านใหม่ธงทอง คลองโยง บางเชือก เข้าจังหวัดนครปฐม เดินทางผ่านลานตากฟ้า งิ้วราย สำประทวน ปากน้ำสำประโทน บางแก้ว โพเตี้ย บางกระชับ วัดสิงห์ วัดท่าใน ต่อจากนั้นได้นั่งเกวียนต่อไปบ้านกล้วย บ้านธรรมศาลา บ้านเพนียด และพระปฐมเจดีย์
อ้างอิง
- "เกือบ 200 ปียังไม่มีคำตอบ? ลับลมคมใน'นิราศพระประธม'หลากเงื่อนปม รัก ชัง วิวาทะ". มติชน.
- "นิราศพระประธม 2". นามานุกรมวรรณคดีไทย.
แหล่งข้อมูลอื่น
- นิราศพระประธม 2009-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nirasphraprathm epnphlngankwiniphnthaebbklxnpraphnthodysunthrphu snnisthanwapraphnthinsmyrchkalthi 3 hlngcaklasikkhabthaelwaelaxyuinphraxupthmphkhxngsmedcecafacuthamni krmkhunxisersrngsrrkh sunthrphunacaedinthanginchwngvduhnaw pi ph s 2385 dwypraktinbthniraswaedinthangipodykarphayerux sungkhwrtxngipinvdunakhun tnchbbsmudithynirasphraprathm canwn 4 chbb ekbrksathihxsmudaehngchati mikhwamaetktangthangradbthxykhaaelabangaehngmikhwamaetktanginhlaykhaklxnnirasphraprathmkwiphrasunthrowhar phu praephthklxnniraskhapraphnthklxnsuphaphyukhrchkalthi 3pithiaetngph s 2385swnhnungkhxngsaranukrmwrrnsilpenuxhaodyyx aelaesnthangkaredinthangnirasphraprathmklawthungkaredinthangkhxngsunthrphuaelabutrchaykhuxtabaelanilipnmskarphrapthmecdiy cnghwdnkhrpthm edinthangthangeruxxxkcakbriewnphrarachwngedimphansthanthitang idaek wdrakhng khlxngbangkxknxy phantladaeph phrarachwnghlngsthanthithisunthrphuekhyrbrachkar banghwanxy wdsuwrrnaramrachwrwiharepnsthanthithasphkhxngchimaelanimnxngsawtangbidakhxngsunthrphu wdsrisudaramwrwihar sthanthithikwiekhybwchxyu cnghwdnnthburi edinthangphanbangsnam wdekd wdchlx bangkrwy bangsithxng bangxxchang wdskihy bangkhnun bangkhunkxng bangnayik bangrank bangkhuewiyng bangmwng bangihy bangkrabux bangsunkhba bangosn banihmthngthxng khlxngoyng bangechuxk ekhacnghwdnkhrpthm edinthangphanlantakfa ngiwray saprathwn paknasapraothn bangaekw ophetiy bangkrachb wdsingh wdthain txcaknnidnngekwiyntxipbanklwy banthrrmsala banephniyd aelaphrapthmecdiyxangxing ekuxb 200 piyngimmikhatxb lblmkhmin nirasphraprathm hlakenguxnpm rk chng wiwatha mtichn nirasphraprathm 2 namanukrmwrrnkhdiithy aehlngkhxmulxunwikisxrs mingantnchbbekiywkb nirasphraprathm nirasphraprathm 2009 02 02 thi ewyaebkaemchchin bthkhwamwrrnkrrmniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk