มาลิก อิบน์ อะนัส

มาลิก อิบน์ อะนัส (อาหรับ: مالك بن أنس, ค.ศ.711–795 / ค.ศ.93–179) ชื่อเต็มคือ มาลิก อิบน์ อะนัส อิบน์ มาลิก อิบน์ อบีอามิร อิบน์ อัมร์ อิบน์ อัลฮาริษ อิบน์ ฆ็อยมาน อิบน์ คุษัยน์ อิบน์ อัมร์ อิบน์ อัลฮาริษ อัลอัชบาฮีย์ หรือรู้จักกันในชื่อ อิหม่ามมาลิก โดยสำนักของซุนนี เป็นทั้งนักกฎหมาย, นักเทววิทยา และนักอนุรักษ์ฮะดีษมุสลิมชาวอาหรับ โดยเกิดในมะดีนะฮ์ มาลิกกลายเป็นนักปราชญ์แห่งฮะดีษในช่วงที่ยังมีชีวิต มุมมองของเขาในด้านนิติศาสตร์ถูกยกย่องทั้งชีวิตนี้และโลกหน้า และกลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสี่สำนักของซุนนี คือ ซึ่งนับถือในแอฟริกาเหนือ, อัลอันดะลุส, ส่วนใหญ่ของอียิปต์ และบางส่วนของซีเรีย, เยเมน, ซูดาน, อิรัก และ และเป็นโดดเด่นใน โดยเฉพาะกับ

มาลิก อิบน์ อะนัส
ชื่อ มาลิก อิบน์ อะนัส ใน
คำนำหน้าชื่อ
ส่วนบุคคล
เกิด	ค.ศ. 711/ฮ.ศ. 93 มะดีนะฮ์
มรณภาพ	ค.ศ. 795/ฮ.ศ. 179 (83-84 ปี) มะดีนะฮ์
ศาสนา	อิสลาม
ชาติพันธุ์	อาหรับ
ยุค	ยุคทองของอิสลาม
ภูมิภาค	มะดีนะฮ์
สำนักคิด
ความสนใจหลัก	ฮะดีษ, ฟิกฮ์
แนวคิดโดดเด่น
ผลงานโดดเด่น	มุวัฏเฏาะอ์, อัลมุเดาวะนะฮ์
ตำแหน่งชั้นสูง
ได้รับอิทธิจาก ญะอ์ฟัร อัศศอดิก อะบูฮะนีฟะฮ์
มีอิทธิพลต่อ มุสลิมซุนนีทั้งหมด

ผลงานของมาลิกีมีจุดมุงหมายไปยัง "เส้นทางที่ราบรื่น" หรือ มุวัตฏอ โดยอัชชาฟิอียกย่องว่า "เป็นหนังสือที่ก้องกังวาลที่สุดในโลกหลังจากกุรอาน" การรวบรวม มุวัตฏอ ทำให้มาลิกถูกยกย่องในฉายาต่าง ๆ เช่น ชัยค์แห่งอิสลาม, ผู้พิสูจน์แห่งสังคม, และ นักปราชญ์ผู้มีความรู้แห่งมะดีนะฮ์ โดยฝ่ายซุนนี

ประวัติ

ชื่อเต็มของเขาคือ อบูอับดุลลอฮ์ มาลิก อิบน์ อะนัส อิบน์ มาลิก อิบน์ อบีอามิร อิบน์ อัมร์ อิบนุลฮาริษ อิบน์ ฆัยมาน อิบน์ คุษัยล์ อิบน์ อัมร์ อิบนุลฮาริษ

มาลิก เป็นบุตรของอะนัส อิบน์ มาลิก (ไม่ใช่เศาะฮาบะฮ์ที่มีชื่อเดียวกัน) กับอาลิยะฮ์ บินต์ ชุรัยก์ อัลอัซดียะฮ์ ในมะดีนะฮ์ ปีค.ศ. 711. ครอบครัวของเขามาจากเผ่าอัลอัสบาฮีแห่งเยเมน แต่ อบูอะมีร ทวดของเขา ย้ายครอบครัวไปมะดีนะฮ์หลังจากเข้ารับอิสลามในปีที่ 2 ของปฏิทินฮิจเราะห์ หรือค.ศ.623 มาลิก อิบน์ อบีอะมีร ปู่ของเขา เป็นลูกศิษย์ของเคาะลีฟะฮ์อุมัร และเป็นหนึ่งในผู้รวบรวมกุรอานในสมัยของเคาะลีฟะฮ์อุษมาน

สิ่งที่เขาทำ

การอาศัยที่มะดีนะฮ์ทำให้มาลิกได้รัความรู้มาก เขาได้ตั้งแต่วัยเด็ก เรียนรู้การอ่านออกเสียงจาก และได้รับ หรือปริญญาและอนุญาตที่จะสอนผู้อื่นได้ เขาได้สอนหลายคน ซึ่งรวมไปถึง , และ—ร่วมกับอะบูฮะนีฟะฮ์ ผู้ก่อตั้งมัซฮับ—ภายใต้อิหม่ามชีอะฮ์จากญะอ์ฟัร อัศศอดิก ผู้สืบเชื้อสายจากมุฮัมมัด

การกล่าวในฮะดีษ

ศาสดามุฮัมมัดกล่าวในฮะดีษที่บันทึกโดยว่า: "ในเร็วๆ นี้ ผู้คนจะตีด้านข้างของอูฐ และพวกเขาจะไม่พบใครที่มีความรู้ไปมากกว่าผู้มีความรู้แห่งมะดีนะฮ์" , กับคนอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กันจาก, , อิบน์ มะฮ์ดี, , ซุอัยบ์ อิบน์ อิมามะฮ์, อิบน์ อัลมะดานี และคนอื่นกล่าวว่า นักปราชญ์ในฮะดีษคือมาลิก อิบน์ อะนัส

รูปพรรณ

มีคำอธิบายเกี่ยวกับรูปพรรณของเขาว่า "สูง, ร่างใหญ่, โอ่อ่า, ผิวงดงาม พร้อมกับเคราขาว ... [และ] หัวล้าน ... [พร้อมกับ] ตาสีน้ำเงิน" ที่มากไปกว่านั้น ได้การกล่าวไว้ว่า "เขาใส่เสื้อที่สวยงานเสมอ โดยเฉพาะเสื้อสีขาว"

เสียชีวิต

สุสานของมาลิก

มาลิกเสียชีวิตตอนอายุ 83 หรือ 84 ปีที่มะดีนะฮ์ในปีค.ศ. 795 และถูกฝังในอัลบะกีอ์ โดยเคยมีเทวสถานที่สร้างในยุคกลาง แต่ถูกรื้อลงโดยทางราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในช่วงหลังการก่อตั้งราชอาณาจักรในปีค.ศ.1932

คำพูดสุดท้ายของมาลิกถูกบันทึกโดย อิสมาอิล อิบน์ อบีอุวัยส์ ว่า "มาลิกป่วย ดังนั้น ฉันจึงถามผู้คนว่าเขาพูดอะไรในตอนที่เขาเสียชีวิต พวกเขาตอบว่า "เขากล่าวชะฮาดะฮ์และกล่าวอีกว่า:

พระบัญชาเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ ทั้งก่อนและหลัง

อ่านเพิ่มเติม

ออนไลน์

• Mālik ibn Anas: นักวิชาการด้านกฎหมายชาวมุสลิม ในสารนุกรมอิสลามออนไลน์ โดยบรรณาธิการของสารานุกรม อากังชา เกอร์, มาโคร แซมเปาโล และ อาดัม ซีดาน

ดูเพิ่ม

ผลงาน

อิหม่ามมาลิกเขียนหนังสือชื่อว่า:

• มุวัฏเฏาะอ์ อิมามมาลิก หนึ่งในคอลเลกชันหะดีษ
• เขียนโดย (ค.ศ. 776-7 – 854–5) หลังจากการเสียชีวิตของมาลิก อิบน์ อะนัส

• Gibril F. Haddad, The Four Imams and Their Schools (London: Muslim Academic Trust, 2007), p. 121
• See "Shadiliyya" and "Tijaniyyah" in: Encyclopaedia of Islam, Second Edition, Edited by: P. Bearman, Th. Bianquis, C.E. Bosworth, E. van Donzel, W.P. Heinrichs. Brill Online.
• M M Azami, The History of the Quranic Text, page 100-101
• "– Topics". Muslimheritage.com. 2005-01-04. สืบค้นเมื่อ 2010-04-10.
• http://eshaykh.com/hadith/hadith-abour-imam-malik-r/
• Gibril F. Haddad, The Four Imams and Their Schools (London: Muslim Academic Trust, 2007), p. 177
• The medieval Andalusian Muslim traveler and geographer Ibn Jubayr describes seeing a small dome erected above the tomb of Malik when he visited the cemetery in the later twelfth-century.
• กุรอาน 30:4