บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ไลนิโซลิด (อังกฤษ: Linezolid) เป็นยาปฏิชีวนะชนิดหนึ่งที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะชนิดอื่น ไลนิโซลิดสามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกได้เกือบทุกสายพันธ์ รวมถึงเชื้อแบคทีเรียในสกุลสเตรปโตคอกคัส (Streptococcus), สกุลเอนเทอโรคอคคัสที่ดื้อต่อยาแวนโคมัยซิน (Vancomycin-resistant Enterococcus; VRE), และเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสที่ดื้อต่อยาเมทิซิลลิน (Methicillin-resistant Staphylococcus aureus; MRSA) ส่วนมากแล้วมักใช้ยานี้ในการรักษาโรคติดเชื้อดังข้างต้นบริเวณผิวหนังและในปอด อย่างไรก็ตาม ยานี้อาจถูกใช้ในโรคติดเชื้อแบคทีเรียอื่นได้เช่นกัน เช่น วัณโรคที่ดื้อต่อยารักษาวัณโรคสูตรปกติ โดยยานี้สามารถบริหารยาได้ทั้งการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (intravenous) และการรับประทาน
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
การอ่านออกเสียง | /lɪˈnɛzəlɪd/ li-nez-ə-lid, /lɪˈneɪzəlɪd/ |
ชื่อทางการค้า | Zyvox, Zyvoxid, และอื่นๆ |
/ | โมโนกราฟ |
a602004 | |
ข้อมูลทะเบียนยา |
|
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย |
|
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ชีวประสิทธิผล | ~100% (รับประทาน) |
ต่ำ (31%) | |
การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ 50–70%, ไม่มีผล |
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 4.2–5.4 ชั่วโมง (อาจสั้นลงในเด็ก) |
การขับออก | ไต, และอุจจาระ |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS |
|
(PubChem) CID |
|
DrugBank |
|
ChemSpider |
|
| |
| |
| |
| |
100.121.520 | |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C16H20FN3O4 |
337.346 g/mol g·mol−1 | |
แบบจำลอง 3D () |
|
| |
| |
7 (verify) | |
การใช้ยาไลนิโซลิดในระยะเวลาสั้นนั้นมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยปกติ และผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรัง หรือโรคตับอักเสบ อาการไม่พึงประสงค์ทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่ได้รับยานี้ในช่วงสั้น ได้แก่ ปวดศีรษะ, ท้องเสีย, ผื่น, และอาเจียน ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยบางราย ได้แก่ กลุ่มอาการเซโรโทนิน (Serotonin syndrome), การกดไขกระดูก (Bone marrow suppression) และภาวะเลือดเป็นกรดแล็กติก (lactic acidosis) โดยความเสี่ยงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะเมื่อใช้ยาไลนิโซลิดต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานมากกว่า 2 สัปดาห์ ในบางครั้งการใช้ยานี้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดการทำลายเส้นประสาทส่วนปลายจนไม่สามารถฟื้นฟูกลับคืนสภาพเดิมได้ ซึ่งรวมถึงการทำลายเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของการมองเห็นด้วย
ไลนิโซลิดเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งในยากลุ่มออกซาโซลิโดน (Oxazolidone) เนื่องจากยาดังกล่าวมีคุณสมบัติในการยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรีย ทำให้ยาดังกล่าวสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีนาปฏิชีวนะหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างโปรตีนของเชื้อแบคทีเรียได้เหมือนกับไลนิโซลิด แต่โดยแท้จริงแล้ว ไลนิโซลิดนั้นมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างไปจากยาปฏิชีวนะชนิดอื่น กล่าวคือ ยาดังกล่าวจะไปออกฤทธิ์ยับยั้งขั้นตอนแรกในการสร้างโปรตีน ในขณะที่ยาปฏิชีวนะอื่นนั้นจะออกฤทธิ์ในขั้นตอนที่เป็นลำดับถัดมา ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างจากยาปฏิชีวนะชนิดอื่นนี้ ทำให้อุบัติการณ์การดื้อต่อยาไลนิโซลิดของเชื้อแบคทีเรียในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ (ข้อมูล ปี ค.ศ. 2014)
ไลนิโซลิดถูกค้นพบในช่วงกลางทศวรรต 1990 และได้รับการรับรองให้มีการผลิตเชิงการค้าในปี ค.ศ. 2000 โดยถือเป็นหนึ่งในรายการยาที่จำเป็นขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization's List of Essential Medicines) ซึ่งเป็นรายการยาที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรกของระบบสุขภาพพื้นฐานของประชาชนในประเทศต่างๆ ไลเน็กโซลิด (Linexolid) ถือเป็นชื่อการค้าแรกของยานี้ โดยต้นทุนยาในการรักษาผู้ป่วยในประเทศกำลังพัฒนาด้วยยานี้มีมูลค่าประมาณ 13.40 US$ ต่อวัน ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลในปี ค.ศ. 2016 มีมูลค่าประมาณ 13.79 US$ ต่อวัน จากการเปรียบเทียบต้นทุน-ประสิทธิผล (Cost-effectiveness analysis; CEA) พบว่าไลนิโซลิดมีความคุ้มค่ามากกว่ายาต้านเชื้อแบคทีเรียดื้อยาทางเลือกชนิดอื่นอย่างแวนโคมัยซิน (Vancomycin) อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้เนื่องจากการใช้ยาไลนิโซลิดนั้นสามารถปรับเปลี่ยนจากการบริหารยาโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำมาเป็นการรับประทานได้เร็วกว่า ทำให้มีต้นทุนในการรักษาที่ต่ำกว่า
การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
โดยส่วนใหญ่แล้ว ไลนิโซลิดมักจะถูกนำมาใช้รักษาในกรณีที่เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มีอาการของโรครุนแรงและมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกที่ดื้อยาปฏิชีวะชนิดอื่นๆ แต่ไม่ควรใช้ไลนิโซลิดในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มีสาเหตุมาจากเชื้อที่ยังคงมีความไวต่อยาปฏิชีวนะกลุ่มขอบเขตการรักษาแคบ (Narrow spectrum) อย่างยากลุ่มเพนิซิลลิน และ(กลุ่มเซฟาโลสปอริน) ทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์และเอกสารทางวิทยาศาสตร์ต่างก็ล้วนยกให้ไลนิโซลิดเป็น "ยาปฏิชีวนะที่ถูกสงวนไว้" (reserve antibiotic) กล่าวคือ ยาดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น โดยจะจัดเป็น “ยาที่ถูกเลือกใช้เป็นอันดับสุดท้าย” (Drug of last resort) เพื่อใช้ในกรณีที่ภาวะติดเชื้อนั้นไม่สามารถบำบัดรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะชนิดอื่น หรือเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายขนาน
ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยาไลนิโซลิดได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration; FDA) เพื่อให้ใช้ในการบำบัดรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเอนเทอโรคอคคัส ฟีเซียม ที่ดื้อต่อยาแวนโคมัยซิน (Vancomycin-resistant Enterococcus faecium) ทั้งในกรณีที่มีการแพร่กระจายและไม่มีการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าวไปสู่กระแสเลือด, โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อในโรงพยาบาล (Nosocomial pneumonia หรือ hospital-acquired pneumonia) ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) และสเตรปโตคอคคัส นิวโมเนียอี (Staphylococcus pneumoniae), การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและโครงสร้างผิวหนังอย่างรุนแรง (Complicated skin and skin structure infections; cSSSI) ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ยังไวต่อไลนิโซลิด ซึ่งรวมไปถึงแผลติดเชื้อที่เท้าของโรคเบาหวาน (diabetic foot infection) ยกเว้นการติดเชื้อที่กระดูกและไขกระดูก (osteomyelitis) ที่รุนแรง, และการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและโครงสร้างผิวหนังที่ไม่รุนแรง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีนัส (Streptococcus pyogenes) และสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (S. aureua) ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตไม่แนะนำให้ใช้ยาดังกล่าวสำหรับการรักษาภาวะปอดอักเสบชุมชน (Community-acquired pneumonia; CAP) หรือการติดเชื้อที่กระดูกหรือเนื้อเยื่ออ่อนที่ไม่รุนแรง (Uncomplicated skin and soft tissue infections; cSSIIs) ถึงแม้ว่าจะมีเชื้อ MRSA เป็นเชื้อสาเหตุก็ตาม แต่สำหรับในสหราชอาณาจักรนั้น มีเพียงภาวะปอดอักเสบและการติดเชื้อที่กระดูกหรือเนื้อเยื่ออ่อนที่ไม่รุนแรงเท่านั้นที่ถือเป็นข้อบ่งใช้ถูกกำหนดให้ระบุไว้บนเอกสารกำกับยาของไลนิโซลิด
ทั้งนี้ การใช้ไลนิโซลิดในเด็กและทารกนั้นมีความปลอดภัยในระดับเดียวกันกับการใช้ยาดังกล่าวในผู้ใหญ่
การติดเชื้อในกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน
การศึกษาโดยการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) จากข้อมูลต่างๆที่ได้จากการศึกษาทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized controlled trials; RCTs) หลายการศึกษา พบว่า ไลนิโซลิดมีประสิทธิภาพมากกว่ายาปฏิชีวนะกลุ่มไกลโคเปปไทด์ (Glycopeptide antibiotics) อย่างแวนโคมัยซินและ รวมไปถึงยาปฏิชีวนะกลุ่มเบต้า-แลคแตม (β-lactam antibiotics) ในการรักษาการติดเชื้อในกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อนที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก และมีการศึกษาขนาดเล็กหลายการศึกษาที่ให้ผลการศึกษายืนยันถึงประสิทธิภาพของไลเนโซลิตในการรักษาภาวะติดเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกที่รุนแรงทุกชนิดที่เหนือกว่า
ในการรักษาแผลติดเชื้อที่เท้าจากโรคเบาหวาน (diabetic foot infections) นั้น การใช้ไลนิโซลิดจะมีราคาต้นทุนน้อยกว่าแต่กลับมีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่าแวนโคมัยซิน ในปี ค.ศ. 2004 ผลการศึกษาของการศึกษาแบบเปิด (Open-label study) พบว่า ไลนิโซลิดมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ (Ampicillin/sulbactam) และ (Amoxicillin/clavulanic acid) และมีประสิทธิภาพการรักษาเหนือกกว่าเป็นอย่างมากในการรักษาผู้ป่วยแผลติดเชื้อที่เท้าจากโรคเบาหวานที่ไม่มีกระดูกอักเสบติดเชื้อ (Osteomyelitis) ร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม การใช้ไลนิโซลิดนั้นมีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาได้มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อย่างไรก็ตาม การศึกษาแบบการวิเคราะห์อภิมานในปี ค.ศ. 2008 ซึ่งใช้ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมจำนวน 18 การศึกษามาวิเคราะห์ พบว่า การใช้ไลนิโซลิดสำหรับข้อบ่งใช้นี้นั้นเกิดความล้มเหลวในการรักษาได้ไม่แตกต่างไปจากยาปฏิชีวนะชนิดอื่น ไม่ว่าผู้ป่วยจะมีภาวะกระดูกอักเสบติดเชื้อร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ นักวิจัยบางท่านได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ควรใช้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่มีราคาถูกกว่าและมีต้นทุนประสิทธิผลสูง 2 ชนิดร่วมกันก่อน เช่น (Trimethoprim/sulfamethoxazole) กับไรแฟมพิซิน หรือ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก่อนที่จะมีการใช้ไลนิโซลิดในการรักษาการติดเชื้อในกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน โดยอิงตามผลการทดสอบความไวของเชื้อสาเหตุต่อยาปฏิชีวนะชนิดต่างๆ
ภาวะปอดอักเสบ
ผลการศึกษาทางคลินิกในปี ค.ศ. 2008 พบว่า ความสำเร็จในการรักษาภาวะปอดอักเสบด้วยไลนิโซลิดกับยาปฏิชีวนะอื่น ได้แก่ ยาปฏิชีวนะกลุ่มไกลโคเปปไทด์และยาปฏิชีวนะกลุ่มเบต้า-แลคแตม ไม่มีความแตกต่างกันจนถึงระดับที่มีนัยสำคัญทางสถิติ แนวทางการรักษาโรคปอดอักเสบชุมชนของสมาคมโรคทรวงอกแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Thoracic Society; ATS) และสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา. (Infectious Diseases Society of America; IDSA) ได้ให้คำแนะนำว่า ควรสงวนไลนิโซลิดไว้ใช้ในกรณีที่มีผลกาตรวจเพาะเชื้อยืนยันแล้วว่าเชื้อสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคนั้น คือ MRSA หรืออาการแสดงทางคลินิกที่อาจเข้าได้กับการติดเชื้อ MRSA ทั้งนี้ แนวทางการรักษาของสมาคมโรคทรวงอกแห่งสหราชอาณาจักร (British Thoracic Society; BTS) ไม่แนะนำให้ใช้ไลนิโซลิดเป็นทางเลือกแรกในการรักษา ถึงแม้ว่าเชื้อสาเหตุจะเป็นเชื้อ MRSA ก็ตาม โดยแนะนำให้ใช้ไลนิโซลิดเป็นทางเลือกรองรองจากแวนโคมัยซินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไลนิโซลิดสามารถใช้ในการรักษาโรคปอดอักเสบชุมชนได้ในกรณีที่เชื้อสาเหตุมีการดื้อต่อยากลุ่มเพนนิซิลลิน
แนวทางการรักษาของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสามารถใช้ได้ทั้งไลเนโวลิดและแวนโคมัยซินอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการรักษาทางเลือกแรกในการรักษาโรคปอดออักเสบในโรงพยาบาลที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ MRSA (Hospital-acquired MRSA pneumonia) อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาทางคลินิกบางการศึกษาพบว่า ไลนิโซลิดนั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคปอดออักเสบในโรงพยาบาลดังข้างต้นได้ดีกว่าแวนโคมัยซิน
อื่นๆ
เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดที่เรียกกันว่า การติดเชื้อแบคทีเรียที่ชั้นลึก (deep infections) เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่กระดูกและไขกระดูก (osteomyelitis), การติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ ควรได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Bacteriocidal antibiotics) และไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะชนิดที่ออกฤทธิ์เฉพาะยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเท่านั้น (Bacteriostatic antibiotics) ถึงกระนั้น การศึกษาในขั้นก่อนการทดสอบในมนุษย์ (preclinical study) หลายการศึกษาได้ทำการประเมินถึงประสิทธิภาพของไลนิโซลิดต่อการรักษาภาวะการติดเชื้อแบคทีเรียดังข้างต้น ในท้ายที่สุดพบว่ายาดังกล่าวสามารถรักษาภาวะการติดเชื้อข้างต้นได้ในมนุษย์ ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าไลนิโซลิดจะเป็นตัวเลือกในการรักษาที่สมเหตุสมผลในภาวะการติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิด แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์คุณภาพสูงมาสนับสนุนการใช้ยานี้สำหรับข้อบ่งใช้ดังกล่าว ทำให้การรักษาการติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มเอนเทอโรคอคคัส (enterococcal endocarditis) มีความหลากหลายเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งในบางกรณีอาจประสบผลสำเร็จในการรักษา ในทางตรงกันข้าม บางกรณีกลับไม่ตอบสนองต่อการรักษา หลักฐานเชิงประจักษ์ทางการแพทย์คุณภาพต่ำถึงปานกลางหลายการศึกษาได้มีการใช้ยาไลนิโซลิดในการรักษาการติดเชื้อที่กระดูกและข้อเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึง การติดเชื้อแบคทีเรียที่กระดูกและไขกระดูกเรื้อรัง (chronic osteomyelitis) ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์จากยาดังกล่าวเมื่อมีการใช้ในการรักษาระยะยาวก็ตาม
สำหรับการใช้ไลนิโซลิดร่วมกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่นในการรักษาโณคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียนั้น มีการใช้ไลนิโซลิดร่วมกับยาอื่นในการรักษาวัณโรค อย่างไรก็ตาม ขนาดยาที่เหมาะสมของไลเนโวลิดในการรักษาภาวะดังกล่าวนั้นยังไม่มีการกำหนดให้เป็นที่แน่ชัด โดยทั่วไปแล้ว ในกรณีผู้ใหญ่ การใช้ยาดังกล่าวแบบให้วันละ 1 หรือ 2 ครั้งนั้นให้ผลการรักษาที่ดี แต่เนื่องจากการรักษาวัณโรคนั้นต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือน การเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ไลนิโซลิดถึงอาจเกิดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อใช้ยาดังกล่าวในขนาดสูง อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ทางการแพทย์น่าเชื่อถือมากพอที่สนับสนุนถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้ยานี้สำหรับข้อบ่งใช้ดังกล่าวเป็นประจำทุกวัน
นอกจากนี้ยังมีการใช้ไลนิโซลิดเป็นทางเลือกทดแทนแวนโคมัยซินในการรักษาภาวะไข้ที่มีภาวะเม็ดเลือดขาวนิวโตรฟิลต่ำ (febrile neutropenia) ในผู้ป่วยมะเร็งที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียกรัมบวก ยิ่งไปกว่านั้น ไลนิโซลิดยังเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งที่มาสารถแพร่ผ่านเข้าไปยังของเหลวภายในตาที่เรียกว่าวิเทรียสฮิวเมอร์ (vitreous humor) ได้ ซึ่งมียาปฏิชีวนะไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่แพร่ผ่านเข้าไปบริเวณนั้นได้ ดังนั้น ไลนิโซลิดจึงอาจเป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียภายในลูกตา (Endophthalmitis) ที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ไวต่อยานี้ได้ แต่มีหลักฐานเชิงประจักษ์จำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ให้ผลสนับสนุนการใช้ยานี้สำหรับข้อบ่งใช้ดังกล่าว เนื่องจากการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียภายในลูกตาในปัจจุบันมีการใช้แวนโคมัยซินในการรักษากันอย่างแพร่หลายและให้ประสิทธิผลในการรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจอยู่แล้ว
การติดเชื้อแบคทีเรียในระบบประสาทส่วนกลาง
การศึกษาในสัตว์ทดลองที่มีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) จากเชื้อแบคทีเรียเสตร็ปโทโคคัส นิวโมเนีย (Streptococcus pneumoniae) พบว่าไลนิโซลิดสามารถแทรกซึมเข้าไปยังน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (cerebrospinal fluid) ได้ และมีประสิทธิมากกว่ายาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่เข้าไปในบริเซณดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์คุณภาพสูงที่สนับสนุนการใช้ไลนิโซลิดเป็นประจำในการรักษาภาวะการติดเชื้อดังกล่าว ถึงกระนั้น มีผู้ป่วยหลายรายที่ประสบผลสำเร็จในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งรวมไปถึง ภาวะเยื้อหุ้มสมองงอักเสบ ด้วยไลนิโซลิด ดังนั้น จึงอาจพอสรุปได้ว่าการใช้ไลนิโซลิดในการรักษาภาวะดังกล่าวนั้นเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลเมื่อการรักษาหรือยาปฏิชีวนะอื่นไม่ได้ผลการรักษาเป็นที่น่าพึงพอใจ แนวทางการรักษาของสมาคมโรคติดเชื้อแห่งสหรัฐอเมริกา (Infectious Diseases Society of America) ได้แนะนำให้ไลนิโซลิดเป็นการรักษาทางเลือกแรกของภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแอนเทอโรคอคคัสที่ดื้อต่อยาแวนโคมัยซิน (Vancomycin Resistant Enterococcus; VRE) และเป็นทางเลือกรองต่อจากแวนโคมัยซินในการรักษาภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสที่ดื้อยาต่อยาเมทิซิลลิน (methicillin-resistant Staphylococcus aureus ;MRSA) นอกจากนี้ยังพบว่าไลนิโซลิดมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแวนโคมัยซินในการรักษาภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่มีสาเหตุมากจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสที่ดื้อยาต่อยาเมทิซิลลิน จากนอกโรงพยาบาล (community-acquired MRSA) อย่างไรก็ตาม การตีพิมพ์ในวารสารที่เกี่ยวกับผู้ป่วยภาวะดังกล่าวที่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดนั้นยังมีอยู่น้อยมาก (ข้อมูลเมื่อ 2009[update]).
การติดเชื้อแบคทีเรียที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวน
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการะบุว่าได้มีการศึกษาแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมและเป็นแบบเปิด ขั้นที่ 3 ซึ่งทำการศึกษาในอาสาสมัคร (phase III clinical trial) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของไลนิโซลิดกับแวนโคมัยซินในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดที่มีความสัมพันธ์กับการใส่สายสวน (catheter-related bloodstream infections) ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยแวนโคมัยซินจะได้รับการรักษาเปลี่ยนเป็นออกซาซิลลิน หรือไดคลอกซาซิลลิน ถ้าพบว่าเชื้อสาเหตุนั้นไวต่อยาข้างต้น และผู้ปวยทั้งสองกลุ่ม (กลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดและกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยแวนโคมัยซิน) จะได้รับยาปฏิชีวนะสำหรับต้านเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ หากมีข้อบ่งชี้ที่จำเป็น ต่อมาผลการศึกษาดังกล่าวได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2009
จากผลการศึกษาในการศึกษาดังข้างต้นพบว่า การใช้ไลนิโซลิดมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าการใช้แวนโคมัยซินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยเมื่อทำการรวบรมข้อมูลทั้งหมดแล้วพบว่า ร้อยละ 21.5 ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดเสียชีวิต ขณะที่อีกหลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดเสียชีวิตเพียงร้อยละ 16 โดยความแตกต่างของอัตราการเสียชีวิตนี้เป็นผลมาจากเชื้อสาเหตุที่ต่างกลุ่มกัน โดยเมื่อจำแนกกลุ่มผู้ป่วยออกเป็นกลุ่มที่มีเชื้อสาเหตุเป็นเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกกับกลุ่มที่มีเชื้อสาเหตุเป็นทั้งแบคทีเรียแกรมบวกและแกรมลบ พบว่าในผู้ป่วยที่มีเชื้อสาเหตุเป็นเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกอย่างเดียวนั้นพบว่าไลนิโซลิดมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเทียบเท่ากับแวนโคมัยซิน จากผลการศึกษาในครั้งนี้ทำให้องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาออกคำเตือนถึงบุคลากรทางการแพทย์ว่ายังไม่มีการรับรองให้ใช้ไลนิโซลิดในการรักษาโรคติดเชื้อที่สัมพันธ์กับการใส่สายสวนหรือโรคติดเชื้ออื่นใดที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียแกรมบวก และถึงแม้ว่าจะมีการตรวจพบเชื้อแบคทีเรียแกรมลบว่าเป็นเชื้อสาเหตุหรือสงสัยว่าอาจเป็นเชื้อสาเหตุก็ควรเลือกใช้ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่เหมาะสมเป็นทางเลือกแรกก่อน
การใช้ยาในกลุ่มประชากรพิเศษ
การใช้ยาไลนิโซลิดในผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุมากกว่า 12 นั้นจะบริหารยาให้ทุกๆ 12 ชั่วโมง ทั้งในรูปแบบยารับประทานและยาชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ส่วนในเด็กและทารกนั้น จะได้รับการบริหารยาให้ทุก 8 ชั่วโมง ส่วนในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภาวะตับวายระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตผิดปกติ ไม่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนขนาดและความถี่ในการบริหารยา สำหรับผู้ป่วยที่ต้องมีการชำระเลือดผ่านเยื่อ (hemodialysis) ควรมีการบริหารยาไลนิโซลิดให้อย่างระมัดระวังหลังการทำหัตถการดังกล่าว เนื่องจากการชำระเลือดผ่านเยื่อจะทำให้ยาไลนิโซลิดในร่างกายถูกกำจัดออกไปประมาณร้อยละ 30 – 40 ส่วนผู้ป่วยที่ทำการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemofiltration) นั้นไม่จำเป็นต้องได้รับการบริหารยาดังกล่าวให้เพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจจำเป็นต้องได้รับการบริหารยาไลนิโซลิดถี่ขึ้น เช่นในการศึกษาหนึ่งซึ่งพบว่า ผู้ป่วยที่มีแผลไหม้มากกว่าร้อยละ 20 ของพื้นที่ผิวร่างกายทั้งหมดอาจจำเป็นต้องได้รับการบริหารยาไลนิโซลิดที่ถี่กว่าปกติเนื่องจากมีการขับยาดังกล่าวออกช่องทางอื่นที่ไม่ใช่ทางไต (nonrenal clearance) เพิ่มมากขึ้น
สำหรับหญิงตั้งครรภ์นั้น ดัชนีความปลอดภัยการใช้ยาไลนิโซลิดในหญิงตั้งครรภ์ถูกจัดให้อยู่ในระดับ C เนื่องจากยังไม่มีการศึกษามากพอถึงความปลอดภัยของการใช้ยาดังงกล่าวในหญิงตั้งครรภ์ ถึงแม้จะมีการศึกษาหลายการศึกษาในสัตว์ทดลองที่ตั้งครรภ์แล้วพบว่าเกิดความเป็นพิษต่อตัวอ่อนในครรภ์ในระดับต่ำ และประโยชน์ที่ได้จากยาดังกล่าวจะมากกว่าอันตรายที่อาจเกิดก็ตาม นอกจากนี้ ไลนิโซลิดยังสามารถถูกกำจัดออกทางน้ำนมได้ ส่วนระดับความมีนัยสำคัญทางคลินิกนั้นยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด
ขอบข่ายการออกฤทธิ์
ในทางคลินิก ไลนิโซลิดมีฤทธิ์ต่อเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกทุกชนิด ซึ่งเชื้อแบคทีเรียกลุ่มดังกล่าวจะมีผนังเซลล์ที่ประกอบไปด้วยชั้นหนา และไม่มี เช่น เอ็นเทอโรค็อคคัส ฟีเชียม (Enterococcus faecium) และ เอนเทอโรคอคคัส ฟีคาลิส (Enterococcus faecalis – รวมไปถึงสกุลเอนเทอโรคอคคัสที่ดื้อต่อยาแวนโคมัยซิน; VRE), สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus – รวมถึงสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสที่ดื้อต่อยาเมธิซิลลิน; MRSA), สเตรปโตคอกคัส อะกาแลกเตีย (Streptococcus agalactiae), สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus pneumoniae), สเตรปโตค็อกคัส ไพโอจีนัส (Streptococcus pyogenes), กลุ่มไวริแดนส์ของสเตร็ปโตคอกไค (viridans group streptococci) , ลิสทิเรีย โมโนไซโตจิเนส (Listeria monocytogenes) และสกุลสกุลโครีนีแบคทีเรียม (Corynebacterium) (โดยเชื้อมีความไวต่อยาไลนีโซลิดโดยมีค่าความเข้มข้นที่ต่ำที่สุดที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อโดยให้เป็นปกติที่ต่ำกว่า 0.5 mg/L) ไลนิโซลิดมีฤทธิ์อย่างมากต่อเชื้อสกุลไมโคแบคทีเรียม (Mycobacterium) ในการทดลองนอกกายมนุษย์ (in vitro) และมีประสิทธิภาพอย่างมากต่อเชื้อสกุลโนคาร์เดีย (Nocardia) แต่มีราคาที่สูงและมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้มาก จึงควรใช้ไลนิโซลิดร่วมกับยาปฏิชีวนะขนานอื่นๆ หรือใช้ในเฉพาะผู้ป่วยที่ล้มเหลวจากการักษาด้วยยาแบบดั้งเดิม
ทั้งนี้ ไลนิโซลิดเป็ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสืบพันธุ์หรือการเติบโตต่อแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่ได้ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยตรง (bacteristatic antibiotic) อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวจะมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยตรง (bactericidal) ต่อเชื้อแบคทีเรียสกุลสเตรปโตคอกคัส การศึกษาบางการศึกษาพบว่า แม้ว่าไลนีโซลิดจะมีฤทธิ์ยับยั้งการเติบโตและการสิบพันธุ์ในการทดลองนอกกายมนุษย์นั้น (in vitro) แต่ไลนีโซลิดกลับมีพฤติกรรมในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยตรงในการทดลองในกายมนุษย์ (in vivo) ด้วยการยับยั้งการผลิตสารพิษบางชนิดของเชื้อแบคทีเรียสกุลสแตฟฟิโลคอคคัส และสกุลสเตรปโตคอกคัส (streptococcus) นอกจากนี้ ไลนิโซลิดยังมีผลหลังการใช้ยาปฏิชีวนะ (post-antibiotic effect) 1 – 4 ชั่วโมงในแบคทีเรียส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าการเติบโตของแบคทีเรียได้รับการกดไว้ชั่วคราวแม้จะหยุดใช้ยาดังกล่าวแล้วก็ตาม
เชื้อแบคทีเรียแกรมลบ
ส่วนใหญ่แล้วไลนิโซลิดไม่มีผลทางคลินิกต่อแบคทีเรียแกรมลบ เช่น เชื้อแบคทีเรียสกุลสกุลซูโดโมแนส (Pseudomonas) และวงศ์เอนเทอร์โรแบคทีเรียซีอี (Enterobacteriaceae) แต่ในการทดลองนอกร่างกายมนุษย์ (In vitro) พบว่าไลนิโซลิดมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียพาสเจอเรลลา มัลโตซิดา (Pasteurella multocida), สกุลฟูโซแบคทีเรียม (Fusobacterium), มอแรกเซลลา คาทาร์ราลิส (Moraxella catarrhalis), สกุลลีจิโอเนลลา (Legionella), สกุลบอร์เดเทลลา (Bordetella), และ เอลิซาเบธคิงเจีย เมนิงโกเซฟติกา (Elizabethkingia meningoseptica) ได้ดี และมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อฮีโมฟิลัส อินฟลูเอ็นซาอี (Haemophilus influenzae) ได้ค่อนข้างดี (มีความเข้มข้นของยาในระดับต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ร้อยละ 90 ประมาณ 8 มิลลิกรัม/ลิตร) นอกจากนี้ยังมีการใช้ไลนิโซลิดเป็นทางเลือกรองในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสกุลแคพโนไซโตฟากา (Capnocytophaga) อีกด้วย
การเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะอื่น
ขอตเขตการออกฤทธิ์ต่อเชื้อแบคทีเรียแกรมบวกของไลนิโซลิดนั้นมีความคล้ายคลึงกันกับ เช่น แวนโคมัยซิน ซึ่งถูกใช้เป็นมาตรฐานสำหรับรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียสที่ดื้อยาต่อยาเมทิซิลลิน มาอย่างยาวนาน และยาปฏิชีวนะทั้งสองชนิดนี้มักถูกนำมาเปรียบเทียบกันบ่อยครั้งทั้งในการศึกษาทดลองและการใช้จริงทางคลินิก ยาอื่นที่มีการนำมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับไลนิโซลิด ได้แก่ (ชื่อการค้า Targocid, เป็นยากลุ่มไกลโคเปปไทด์เช่นเดียวกันกับแวนโคมัยซิน), (quinupristin/dalfopristin – ชื่อการค้า คือ Synercid เป็นยาสูตรผสมของยาปฏิชีวนะสองชนิดในกลุ่ม แต่ไม่มีฤทธิ์ต่อเชื้อ E. faecalis), และ (daptomycin – ชื่อการค้าคือ Cubicin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่ม), และยาปฏิชีวนะอื่นอีกหลายชนิดที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย เช่น (ceftobiprole), (dalbavancin), และ (telavancin) โดยในยาที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ มีเพียงไลนิโซลิดเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่สามารถบริหารยาโดยการรับประทานได้ นอกเหนือจากไลนิโซลิดแล้ว ในอนาคต (oritavancin) และ (iclaprim) ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนแรกของการศึกษาพัฒนาทางคลินิก อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถบริหารยาโดยการรับประทานได้
อาการไม่พึงประสงค์
การใช้ไลนิโซลิดในระยะสั้นๆมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงอาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้ทั่วไป (พบมากกว่าร้อยละ 1 ของผู้ป่วยที่ได้รับไลนิโซลิด) จากการใช้ยาดังกล่าว ได้แก่ ท้องเสีย (มีรายงานการเกิดร้อยละ 3–11% ในอาสาสมัครที่เข้าร่วมการศึกษาทางคลินิก), ปวดศีรษะ (1–11%), คลื่นไส้ (3–10%), อาเจียน (1–4%), ผื่น (2%), ท้องผูก (2%), การรับรู้รสชาติผิดแปลกไป (1–2%), และ ลิ้นมีสีผิดปกติ (0.2–1%). นอกจากนี้ การติดเชื้อรา ได้แก่ การติดเชื้อราแคนดิดาในช่องปาก (Oral candidiasis) และการติดเชื้อราในช่องคลอด (candidal vulvovaginitis) อาจพบได้ในกรณีที่ไลนิโซลิดกดการเจิรญเติบโตของจุลินทรีย์ประจาถิ่น (normal bacterial flora) ในบริเวณดังกล่าวไว้ ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการติดเชื้อราตามมาในภายหลังได้ง่าย ส่วนอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆที่พบได้น้อย แต่มักมีความรุนแรงมาก ได้แก่ ปฏิกิริยาการแพ้ยา, ตับอ่อนอักเสบ, และการเพิ่มขึ้นของเอนไซม์ทรานซามิเนส (transaminases), ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเกิดความเสียหายของตับ ไลนิโซลิดมีความแตกต่างจากยาปฏิชีวนะชนิดอื่น เช่น อิริโทรมัยซิน และกลุ่มควิโนโลน, ตรงที่ไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระยะ QT จากการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ทั้งนี้ อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ไลนิโซลิดที่พบในเด็กนั้นไม่มีความแตกต่างจากที่พบในผู้ใหญ่
เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่น การใช้ไลนิโซลิดมีความสัมพันธ์กับการเกิดภาวะอักเสบของลำไส้ใหญ่ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียครอสตริเดียม ดิฟฟีซิเล (Clostridium difficile colitis หรือ Clostridium difficile-associated diarrhea; CDAD) ถึงแม้จะพบการเกิดความผิดปกติดังกล่าวจากการศึกษาทางคลินิกได้น้อยเพียง 1 ใน 2000 คน แต่จากการทดลองนอกร่างกายมนุษย์ (in vitro) ดูเหมือนว่า C. difficile จะไวต่อไลนิโซลิด ดังนั้น ไลนิโซลิดจึงอาจเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับการรักษาภาวะ CDAD.
การใช้ยาในระยะยาว
การถูกกดการทำงานของไขกระดูก (Bone marrow suppression) โดยเฉพาะการเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia) อาจพบได้ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิด ซึ่งเป็นอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการกดการทำงานของไขกระดูกเพียงชนิดเดียวที่พบการเกิดในผู้ที่ได้รับยาไลนิโซลิดมากกว่าผู้ที่ได้รับยาปฏิชีวนะกลุ่มอะมิโนไกลโคไซด์ และ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยทั่วไปแล้วมักไม่พบการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวในผู้ป่วยที่ได้รับยาไม่มากเกินกว่า 14 วัน แต่จะพบการเกิดความผิดปกติดังกล่าวได้มากในผู้ป่วยที่ได้รับยาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหรือผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตลดลง มีกรณีศึกษาที่ได้รับการบันทึกไว้ในปี ค.ศ. 2004 พบว่า ไพริดอกซีน (รูปแบบหนึ่งของวิตามินบี 6) สามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางและภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่เกิดจากการใช้ยาไลนิโซลิดได้ ต่อมาในปี ค.ศ. 2006 การศึกษาวิจัยทางคลินิกขนาดใหญ่อีกการศึกษาหนึ่งกลับพบว่า การได้รับไพริดอกซีนนั้น ไม่มีผลป้องกันการเกิดความผิดปกติดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ การใช้ไลนิโซลิดในระยะยาวยังมีความสัมพันธ์กับการเกิด (en) ซึ่งเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างถาวร ผู้ป่วยจะมีอาการชาคล้ายเข็มทิ่ม (tingling numbness), ปวดเจ็บแปลบ (sharp pain), มีความไวต่อความเย็นมากขึ้น โดยอาการจะเริ่มจากบริเวณมือและเท้า ในบางครั้งอาจมีการกระจายไปยังบริเวณแขนแและขาได้ยาเคมีบำบัด (en) ที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดความผิดปกติดังกล่าว เช่น (en), (en) ได้แก่ (en), (en) ได้แก่ (en) และ (en), ได้แก่ (en) และ (en), (en) ได้แก่ (en), และยากลุ่มแพลทินัมเบส ได้แก่ ซิสพลาติน, (en) และ (en). อีกทั้งการเกิด (en) ก็มีความสัมพันธ์กับการใช้ยาไลนิโซลิดเช่นกัน โดยมักเกิดขึ้นได้ง่ายหลังจากการใช้ยาดังกล่าวต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานหลายเดือน และอาจกลายเป็นความผิดปกติแบบถาวรได้ในบางราย ถึงแม้ว่ากลไกในการทำให้เกิดความผิดปกติดังข้างต้นนั้นจะไม่สามารถเข้าใจได้อย่างแน่ชัด แต่คาดว่า (Mitochondrial toxicity) น่าจะเป็นสาเหตุของความผิดปกติดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากไมโทคอนเดรียนั้นมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกันกับไรโบโซมของแบคทีเรียซึ่งเป็นเป้าหมายการออกฤทธิ์ของไลนิโซลิด การเกิดภาวะเลือดเป็นกรดแล็กติกจากการได้รับยาไลนิโซลิดก็เป็นอาการไม่พึงประสงค์อีกอย่างหนึ่งที่รุนแรงจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต โดยเกิดขึ้นได้จากการเพิ่มขึ้นของกรดแล็กติกในร่างกาย ซึ่งอาจพบได้พร้อมกันกับที่กล่าวมาดังข้างต้น เนื่องมาจากการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ไลนิโซลิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานดังข้างต้น ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวจึงต้องได้รับการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดงเป็นประจำทุกสัปดาห์ระหว่างที่ยังได้รับยาดังกล่าวอยู่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการติตามความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิด และไม่ควรใช้ยาไลนิโซลิดต่อเนื่องนานเกิน 28 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงจากยา นอกจากนี้ ในปี ค.ศ. 2006 ได้มีการคิดค้นพัฒนามาตรการในการติดตามและเฝ้าระวังการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงในผู้ป่วยหนักที่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดโดยทีมนักวิจัยในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้เพื่อให้สามารถคาดคะเนความน่าจะเป็นที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวได้แม่นยำมากขึ้น โดยมาตราการดังกล่าวได้แก่ การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดง, การตรวจการทำงานของตับ และการวัดค่าระดับกรดแล็กติกในกระแสเลือดเป็นจำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์; การทบทวนรายการยาอื่นที่ผู้ป่วยได้รับขณะรักษา โดยหากพบรายการใดที่อาจเกิดอันตรกิริยาระหว่างยากับไลนิโซลิดอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนแบบแผนการรักษาสำหรับรายการนั้นๆ; และการตรวจตาและระบบประสาทเป็นระยะในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดต่อเนื่องเกินกว่า 4 สัปดาห์
การเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานถูกพบเป็นครั้งแรกในการเก็บข้อมูลการรักษา ความปลอดภัยและประสิทธิผลของยาหลังออกสู่ตลาด (postmarketing surveillance) โดยการเกิดการกดการทำงานของไขกระดูกนั้นไม่พบการเกิดใน ซึ่งมีการใช้ยาดังกล่าวไม่มากเกินกว่า 21 วัน อย่างไรก็ตาม อาสาสมัครบางคนในช่วงแรกของการทดลองทางคลินิกนั้นเกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ แต่สามารถกลับมาเป็นปกติได้ในภายหลังและไม่พบความแตกต่างจนถึงระดับที่มีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับ(กลุ่มควบคุม)ซึ่งไม่ได้รับการรักษาด้วยไลนิโซลิด นอกจากนี้ยังมีรายงานการเกิดลมชัก,ภาวะอัมพาตแบบเบลล์ (ความผิดปกติของเส้นประสาทเฟเชียล) จำนวน 1 ราย ข้อมูลเมื่อ 2009[update] และ (en) ในการเก็บข้อมูลการรักษา ความปลอดภัยและประสิทธิผลของยาหลังออกสู่ตลาดของไลนิโซลิด
อันตรกิริยา
ไลนิโซลิดออกฤทธิ์เป็นตัวยับยั้งเอนไซม์มอนอเอมีนออกซิเดส (monoamine oxidase inhibitor; MAOI) อย่างอ่อนๆ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับยาในกลุ่ม MAOIs ชนิดอื่นๆ รวมไปถึงอาหารที่มีปริมาณของ (en) สูง (เช่น เนื้อหมู, เนยแข็งที่มีอายุมาก, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, อาหารดองหรือรมควัน), ยาที่มีผลเพิ่มระดับเซโรโทนิน เนื่องจากการเก็บข้อมูลการรักษา ความปลอดภัยและประสิทธิผลของยาหลังออกสู่ตลาด (postmarketing surveillance) ของไลนิโซลิด พบการเกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน เมื่อมีใช้ยาร่วมกับยาอื่นยาที่มีผลเพิ่มระดับเซโรโทนิน หรือใช้ยาไลนิโซลิดทันทีหลังจากหยุดยากลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งยากลุ่มที่ทำหน้าที่ยับยั้งการเก็บกลับเซโรโทนิน เช่น (en) และ (en) นอกจากนี้ ไลนิโซลิดยังมีเสริมผลของการเพิ่มระดับความดันโลหิตของ (en) เช่น ซูโดอีเฟดรีน หรือ (en) นอกจากนี้ ยาระงับอาการปวดอย่างเพทิดีน ก็เป็นยาอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ควรใช้ร่วมกันกับไลนิโซลิดไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม เนื่องจากความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดกลุ่มอาการเซโรโทนิน
ไลนิโซลิดไม่มีผลยับยั้งหรือเหนี่ยวนำการทำงานของ (CYP 450; en) ซึ่งเป็นระบบเอนไซม์ของร่างกายที่ทำหน้าที่ในการขับยาออกจากร่างกาย ดังนั้นไลนิโซลิดจึงไม่เกิดอันตรกิริยาระหว่างยากับยาอื่นที่ต้องมีการเมแทบอลิซึมโดยระบบเอนไซม์นี้
เภสัชวิทยา
เภสัชจลนศาสตร์
ไลนิโซลิดเป็นยาที่มีชีวปริมาณออกฤทธิ์สูงเกือบร้อยละ 100 เมื่อบริหารยาโดยการรับประทาน ซึ่งหมายความว่าปริมาณยาทั้งหมดที่รับประทานเข้าไปสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้เกือบทั้งหมด ซึ่งแทบไม่มีความแตกต่างกันกับการบริหารยาโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ แสดงว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำอาจสามารถเปลี่ยนมาใช้ยาในรูปแบบรับประทานได้เลยหากผู้ป่วยทีสภาวะที่เหมาะสมกับการใช้ยาในรูปแบบรับประทาน ในขณะที่ยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่มีข้อบ่งใช้และประสิทธิภาพใกล้เคียงกับไลนิโซลิดอย่างแวนโคมัยซินและนั้นสามารถบริหารยาได้เพียงการฉีดเข้าหลอดเลือดดำเท่านั้น การรับประทานไลนิโซลิดร่วมกับอาหารอาจส่งผลให้ตัวยาถูกดูดซึมได้ช้าลง แต่ขนาดยาที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดทั้งหมดที่วัดจาก (area under curve; AUC) นั้นไม่มีความแตกต่างกันกับการรับประทานยาในขณะท้องว่าง
ไลนิโซลิดมีสัดส่วน (plasma protein binding) ค่อนข้างต่ำ (ประมาณร้อยละ 31 แต่ค่าที่วัดได้ในแต่ละครั้งมีความผันผวนสูง) และมีปริมาตรกระจายตัว (volume of distribution) ที่ (steady state) ประมาณ 40–50 ลิตร. สามารถตรวจวัดความเข้มข้นของยาในเลือดสูงสุด (Peak serum concentrations; Cmax) ได้ที่ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงหลังจากบริหารยา ไลนิโซลิดสามารถกระจายตัวไปยังเนื้อเยื่อต่างๆของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้น (Bone matrix) และ (en) เป็นที่น่าสังเกตว่าความเข้มข้นของไลนิโซลิดในของเหลวภายในเซลล์เยื่อบุของทางเดินหายใจส่วนล่างนั้นอย่างน้อยที่สุดจะเทียบเท่ากับความเข้มข้นของยาดังกล่าวในกระแสเลือดเสมอ และพบว่าโดยส่วนใหญ่แล้วมักมีค่ามากกว่าความเข้มข้นในกระแสเลือดอีก (บางการศึกษาพบว่าความเข้มข้นของยานี้ในของเหลวภายในเซลล์ของหลอดลมนั้นมีค่าสูงกว่าความเข้มข้นในกระแสเลือดมากถึง 4 เท่า) ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายได้ว่าเหตุใดไลนิโซลิดถึงมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคปอดบวม อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดความเข้มข้นของยานี้ในน้ำหล่อสมองไขสันหลัง พบว่ามีความเข้มข้นของยาสูงสุดที่วัดได้นั้นมีค่าน้อยกว่าความเข้มข้นที่วัดได้จากกระแสเลือด ทั้งนี้อาจเป็นผลมาจากการที่ยาสามารถผ่านตัวกรองกั้นระหว่างเลือดและสมอง (en) ได้ช้า ในทางตรงกันข้าม ความเข้มข้นต่ำสุดของยานี้ในน้ำหล่อสมองไขสันหลังกลับมีค่ามากกว่าที่วัดได้จากในกระแสเลือด ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับตัวกรองกั้นระหว่างเลือดและสมองเช่นกัน ส่วนค่าครึ่งชีวิตของไลนิโซลิดนั้นมีค่าประมาณ 3 ชั่วโมงในเด็ก, 4 ชั่วโมงในวัยรุ่น และ 5 ชั่วโมงในผู้ใหญ่
ในกระบวนการกำจัดไลนิโซลิดออกจากร่างกายนั้น ไลนิโซลิดจะถูกเมแทบอลิซึมที่ตับโดยการเกิดของวงมอร์โฟลีน (en) โดยกระบวนการการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ (CYP 450; en) กระบวนการเปลี่ยนแปลงไลนิโซลิดเพื่อขับออกจากร่างกายนี้จะเปลี่ยนไลนิโซลิดให้อยู่ในรูปสารเมตาบอไลท์ที่ไม่ออกฤทธิ์ 2 ชนิดหลัก (คิดเป็นร้อยละ 45 และ 10 ของยาที่ถูกขับออกทั้งหมดที่), สารเมตาบอไลท์รองอีก 1 ชนิด, และสารเมตาบอไลท์อื่นๆอีกหลายชนิดแต่มีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 1 ของสารเมตาบอไลท์ทั้งหมด การกำจัดไลเนโวลิดออกจากร่างกายนั้นมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอายุและเพศ โดยในเด็กจะมีอัตราการกำจัดยาออกที่สูงที่สุด ส่งผลให้ยามีค่าครึ่งชีวิตที่สั้น ส่วนในเพศหญิงจะมีอัตราการกำจัดยาออกช้ากว่าเพศชายประมาณร้อยละ 20 นอกจากนี้ความเร็วในการกำจัดไลนิโซลิดออกจากร่างกายยังมีความสัมพันธ์ทางสถิติแบบแปนผันตรงอย่างยิ่งกับการกำจัดครีเอตินินของไต ซึ่งเป็นมาตรวัดการทำงานของไต โดยเรียกค่าที่วัดได้นี่ว่า (creatinine clearance; CLCR).
กลไกการออกฤทธิ์
นั้นจัดเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการยับยั้งการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียโดยการรบกวนการแปรรหัสพันธุกรรม ของเอ็มอาร์เอ็นเอในไรโบโซม อย่างไรก็ตาม กลไกการออกฤทธิ์ทั้งหมดของยากลุ่มนี้ยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัด ส่วนกลไกการออกฤทธิ์ของไลนิโซลิดซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะอีกชนิดหนึ่งในนั้นดูเหมือนว่าจะออกฤทธิ์ยับยั้งที่ขั้นตอนแรกของการสังเคราะห์โปรตีน ซึ่งก็คือ การขัดขวางการสร้างโปรตีนในขั้นเริ่มต้น (initiation) ซึ่งแตกต่างจากยาปฏิชีวนะกลุ่มที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างโปรตีนชนิดอื่นที่มักยับยั้งที่ขั้นการต่อสาย (elongation) ของการสังเคราะห์โปรตีน
นอกจากนี้แล้ว ไลนิโซลิดยังสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งการจับกันของหน่วยย่อย และ ของไรโบโซม, ทีอาร์เอ็นเอ, และเอ็มอาร์เอ็นเอได้อีกด้วย โดยไลนิโซลิดจะขเไปจับกับหน่วยย่อย 23S ของ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จำเป็นต่อการรออกฤทธิ์ของ (en) โดยตำแหน่งดังกล่าวนั้นจะอยู่ใกล้กันกับตำแหน่งเป้าหมายของคลอแรมเฟนิคอล, ลินโคมัยซิน, และยาปฏิชีวนะชนิดอื่นๆ เนื่องด้วยกลไกการออกฤทธิ์ที่เป็นเอกลักษณ์ฌฉพาะของไลนิโซลิดนี้ การดื้อยาข้ามชนิดกันระหว่างไลนิโซลิดกับยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างโปรตีนจึงพบได้น้อยมากหรือแทบจะไม่เกิดขึ้นเลย
ในปี ค.ศ. 2008 โครงสร้างผลึกของไลนิโซลิดที่จับอยู่กับ ของไรโบโซม ของอาร์เคีย Haloarcula marismortui ถูกค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเยล และถูกนำไปเก็บรักษาไว้ใน (en) ส่วนนักวิทยาศาสตร์อีกทีมหนึ่งซึ่งพยายามสร้างแม่แบบจำลองกลไกการออกฤทธิ์ของ จากผลึกโครงสร้างของไลนิโซลิดที่จับอบู่กับ ของ Deinococcus radiodurans พบว่า ไลนิโซลิดนั้นจะเข้ากับตำแหน่ง A site ของ รวมไปถึงการออกฤทธิ์ (en) ซึ่งส่งผลขัดขวางการเข้าจับของทีอาร์เอ็นเอกับบริเวณดังกล่าว และส่งผลให้ทีอาร์เอ็นเอเอาแยกตัวออกจากไรโบโซมไปในที่สุด
เภสัชเคมี
ณ ค่า pH ปกติภายในเซลล์ ไลนิโซลิดจะอยู่สภาพที่ไม่มีประจุ ละลายน้ำได้ดีปานกลาง (ประมาณ 3 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร) และมี (logP) ประมาณ 0.55.
ถือเป็นโครงสร้างหลักที่มีความจำเป็นต่อการออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของไลนิโซลิด โดยโครงสร้างของไลนิโซลิดนั้นจะประกอบไปด้วยส่วนของโมเลกุล ที่ม่ (aryl) ที่ตำแหน่งที่ 3 โดยมีหมู่ S-แทนที่อะตอมคาร์บอนในตำแหน่งดังกล่าว ในตำแหน่งที่ 5 จะมีหมู่ฟังก์ชันอื่นมาเกาะอยู่ (R- ของทั้งหมดนั้นไม่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย) ทั้งนี้ จากโครงสร้างดังข้างต้น เนื่องจากไลนิโซลิดนั้นมีหมู่ฟังก์ชันหลายชนิดที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้ยา โดย (en) ตรงตำแหน่งหมู่ 5-methyl เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียของยานี้ และยังคงถูกใช้ในการพัฒนาชนิดอื่นๆต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งออกไปจากตำแหน่งนี้จะทำให้ยาสูญเสียความสามารถในการต้านเชื้อแบคทีเรียลง แต่ก็ยังสามารถออกฤทธิ์ได้เล็กน้อยถึงปานกลางเนื่องจากยังมีคุณสมบัติเป็น ส่วนอะตอมฟลูออรีน ณ ตำแหน่งที่ 3′ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียของยาได้เป็น 2 เท่าทั้งการทดลองในมนุษย์ (in vivo) และนอกร่างกายมนุษย์ (in vitro) นอกจากนี้ (en) อย่างอะตอมไนโตรเจนในวงจะช่วยคงสภาพความแรง (potency) ของตัวยา รวมไปถึงความปลอดภัยจากการใช้ยานี้ด้วย
ทั้งนี้ พบว่ายาต้านการแข็งตัวของเลือดอย่าง (Rivaroxaban; ชื่อการค้าคือ Xarelto) นั้นมีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกันกับไลนิโซลิดจนน่าแปลกใจ โดยยาทั้งสองชนิดมีโครงสร้างส่วนที่เหมือนกัน โดยบนโครงสร้างมีความแตกต่างกันเพียง 3 ตำแหน่ง คือ จะมีหมู่คีโตนและหมู่คลอโรไธโอฟีน (chlorothiophene) เพิ่มเข้ามา และไม่มีอะตอมของฟลูออรีนที่ตำแหน่ง 3′ อย่างไรก็ตาม ความคล้ายคลึงกันทางโครงสร้างของยาทั้งสองชนิดนี้ไม่มีผลจนมีนัยสำคัญทางคลินิกแต่อย่างใด
การสังเคราะห์
ในปัจจุบัน ไลเนโวลิดนั้นจะมาจากการสังเคราะห์ทั้งหมด เนื่องจากไม่สามารถพบสารประกอบนี้ได้ในธรรมชาติ (ซึ่งต่างจากยาปฏิชีวนะชนิดอื่นๆ) และไม่ได้ถูกพัฒนามาจากโครงสร้างของที่ได้มาจากธรรมชาติ (ซึ่งมักพบในการสังเคราะห์ยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นยากึ่งสังเคราะห์) โดยการสังเคราะห์นั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี และช่องทองการสังเคราะห์ไลนิโซลิดนั้นก็มีความหลากหลายมากเช่นเดียวกัน ถึงแม้การผลิตไลนิโซลิดออกจำหน่ายในตลาดจะได้รับผลตอบแทนค่อนข้างสูง แต่กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม (ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทอัพจอห์น (Upjohn) เพื่อทดลองผลิตไลนิโซลิดและอีพีเรโซลิด (eperezolid) ผลิตก่อนที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายในท้องตลาด) นั้นต้องใช้ระยะเวลาผลิตที่ยาวนาน และสารเคมีตั้งต้นนั้นมีราคาแพง เช่น (en), ตัวทำปฏิกิริยาความไวสูง (en) และ n-butyllithium และการสังเคราะห์จำเป็นต้องทำในสภาพที่มีอุณหภูมิต่ำ ก้วยเหตุที่กระบวนการสังเคราะห์ไลนิโซลิดนั้นมีต้นทุนที่สูงทำให้ราคายาตามท้องตลาดนั้นอยู่ในระดับที่สูงมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทอัพจอห์นสามารถคิดค้นกระบวนการผลิตที่ใช้ระยะเวลาและต้นทุนน้อยลงกว่าวิธีดั้งเดิมสำเร็จ ซึ่งเหมาะสำหรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรม และทางบริษัทได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรกระบวนการการผลิตดังกล่าวในปี ค.ศ. 1998
การสังเคราะห์ไลนิโซลิดในช่วงหลัง ได้แก่ วิธี atom economy ซึ่งใช้ D-mannitol เป็นสารแรกเริ่ม ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1999 โดยบริษัทยาสัญชาติอินเดีย ชื่อ Dr. Reddy's Laboratories และการผลิตจากสารตั้งต้น (S) -glyceraldehyde acetonide (เตรียมได้จากไวตามินซี) ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยหูหนาน, นครฉางชา, มณฑลหูหนาน, ประเทศจีน. ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2008 ระหว่างการประชุมวิชาการเคมีและวิศวกรรมสีเขียวประจำปี ครั้งที่ 12 (12th Annual Green Chemistry and Engineering Conference) ในนครนิวยอร์ก ไฟเซอร์ได้รายงานว่าทางบริษัทสามารถพัฒนาการสังเคราะห์ไลนิโซลิด รุ่นที่สอง ของบริษัทได้สำเร็จ โดยใช้วิธีการสังเคราะห์แบบ (convergent synthesis) และเป็นการสังเคราะห์แบบเคมีสีเขียว (green chemistry) โดยมีสารตั้งต้นคือ (S) -epichlorohydrin ซึ่งให้ผลผลิตสูงถึงร้อยละ 56 อีกทั้งยังมีของเสียจากกระบวนการผลิตลดน้อยลงจากวิธีเดิม
การดื้อยา
การดื้อต่อยาไลนิโซลิดเริ่มมีรายงานแต่ช่วงต้น ค.ศ. 1999 ในผู้ป่วยขั้นรุนแรงจำนวน 2 รายที่ติดเชื้อ Enterococcus faecium ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะหลายขนาน รวมไปถึงไลนิโซลิด ทำให้ผู้ป่วยสองรายนี้ต้องได้รับการรักษาด้วยโปรแกรมการรักษาทางเลือก (expanded access) ซึ่งหมายถึงการใช้ยาใหม่ที่ยังไม่ได้การรับรองให้ใช้ในเวชปฏิบัติสำหรับมนุษย์ (Investigational New Drug) ส่วนการดื้อต่อยาไลนีโซลิดของเชื้อ Staphylococcus aureus พบการรายงานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2001
ในสหรัฐอเมริกา การดื้อต่อยาไลนิโซลิดได้รับการติดตามและบันทึกมาตั้งแต่ ค.ศ. 2004 ผ่านโครงการที่มีชื่อว่า LEADER ซึ่งได้ดำเนินโครงการดังกล่าวสถาบันทางการแพทย์กว่า 60 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูลเมื่อ 2007[update]) อัตราการดื้อต่อไลนิโซลิดนั้นยังคงคงที่และและค่อนข้างต่ำ โดนคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของเชื้อทั้งหมดที่คัดแยกได้ และน้อยกว่าร้อยละ 0.1 ของเชื้อ S. aureus ที่เพาะได้จากผู้ป่วย เช่นเดียวกันกับโครงการ "การศึกษาประสิทธิศักย์และความกว้างการรักษาของยาไซว็อกซ์" (Zyvox Annual Appraisal of Potency and Spectrum Study: ZAAPS) ที่ดำเนินโครงการในหลายประเทศทั่วโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2002 พบว่า ข้อมูลเมื่อ 2007[update] สัดส่วนการดื้อต่อไลเนโวลิดของเชื้อแบคทีเรียใน 23 ประเทศทั่วโลกนั้นน้อยกว่าร้อยละ 0.2 และไม่พบการดื้อต่อยาของเชื้อแบคทีเรียสกุลสเตรปโตคอกคัส (streptococci) ทั้งนี้ การดื้อยาพบเพียงเฉพาะในประเทศบราซิล จีน ไอร์แลนด์ อิตาลีเท่านั้น โดยเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อต่อไลนิโซลิดที่พบในโครงการนี้สามารถจำแนกออกได้เป็น Coagulase-negative Staphylococci (ร้อยละ 0.28 ของการดื้อต่อไลนิโซลิดทั้งหมด), เอนเทอโรคอคคัส (ร้อยละ 0.11) และ S. aureus (ร้อยละ 0.03) สำหรับในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ไม่พบการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียสกุลสแตฟฟิโลคอคคัสที่เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียระหว่างปี ค.ศ. 2001 ถึง 2006 แต่ก็มีรายงานการเกิดการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียสกุลเอนเทอโรคอคคัส ทั้งนี้ นักวิจัยบางคนได้คาดการณ์ไว้ว่า การดื้อของเชื้อ E. faecium ต่อไลนิโซลิดจะมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้นหากยังมีการใช้ยานี้อย่างต่อเนื่องทั้งในกรณีที่มีปริมาณการใช้เทียบเท่ากับปัจจุบันหรือเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไลนิโซลิดก็ยังเป็นยาปฏิชีวนะสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่มีอัตราสำเร็จในการรักษาเกือบสมบูรณ์ (มีการดื้อยาเพียงร้อยละ 0.05).
กลไกการดื้อยา
(intrinsic resistance) ของแบคทีเรียแกรมลบ ต่อไลนิโซลิดมีสาเหตุเนื่องมาจากการผลักยาออกจากเซลล์ของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งการผลักออกจากเซลล์นี้จะเกิดได้ในอัตราที่รวดเร็วกว่าการสะสมยาสู่เซลล์
โดยทั่วไปแล้ว แบคทีเรียแกรมบวก มักพัฒนากระบวนการการดื้อต่อยาไลนิโซลิดจากกระบวนการกลายพันธุ์ของยีนในตำแหน่ง G2576T ซึ่งเบสกวานีนจะแทนที่ด้วยเบสไทอามีน ในคู่เบสลำดับที่ 2576 ของการถอดรหัสสำหรับการสร้าง 23S ไรโบโซมอลอาร์เอ็นเอ โดยกลไกนี้เป็นกลไกการดื้อต่อยาปฏิชีวนะปกติของเชื้อแบคทีเรียสกุลสแตฟฟิโลคอคคัสสแตรฟิโลคอกคัส และเป็นเพียงกลไกลเดียวที่เชื้อ E. faecium ดื้อต่อยานี้เท่าที่ค้นพบจนถึงปัจจุบัน กลไกการดื้อยาอื่นๆได้รับการชี้ชัดจากเชื้อ Streptococcus pneumoniae (รวมไปถึงการกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการสร้างเอนไซม์อาร์เอ็นเอเมทิลทรานส์เฟอเรสที่ตำแหน่ง G2445 ของ 23S ไรโบโซมอลอาร์เอ็นเอ และการกลายพันธุ์ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการแสดงออกของ ( ABC transporter) และใน
ประวัติและการค้นพบ
เป็นที่รู้จักกันในช่วงปลายทศวรรษ 1950 ว่าเป็นสารในกลุ่มที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์มอนอเอมีนออกซิเดส (monoamine oxidase inhibitors) ต่อมาในทศวรรษที่ 1970 ทีมนักวิจัยในบริษัท อี.ไอ. ดูปองต์เดอเนอมูร์ ได้ค้นพบว่าสารกลุ่มดังกล่าวมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ในปี ค.ศ. 1978 บริษัทดูปองต์ได้จดสิทธิบัตรสารประกอบกลุ่มออกซาโซลิไดโอนหลายชนิดสำหรับการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียและโรคติดเชื้อราในพืช และในปี ค.ศ. 1984 ได้จดสิทธิบัตรเพิ่มเติมสำหรับการใช้สารกลุ่มดังกล่าวในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ต่อมาปี ค.ศ. 1987 นักวิทยาศาสตร์ของบริษัทดูปองต์ได้บันทึกรายงานโดยจัดให้เป็นกลุ่มของยาปฏิชีวนะกลุ่มใหม่ เนื่องจากมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างจากยาปฏิชีวนะชนิดอื่นที่มีอยู่เดิม อย่างไรก็ตาม สารประกอบกลุ่มที่ค้นพบในช่วงแรกเริ่มนั้นพบว่ามีส่วนเหนี่ยวนำให้เกิด(ภาวะตับอักเสบ) ทำให้การพัฒนายากลุ่มนี้หยุดชะงักลง
ในช่วงทศวรรษที่ 1990 บริษัทฟาร์มาเซียแอนด์อัพจอห์น (Pharmacia & Upjohn) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของไฟเซอร์ ได้เริ่มโครงการวิจัยและพัฒนายากลุ่มออกซาโซลิไดโอนขึ้น การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและการออกฤทธิ์ของสารประกอบกลุ่มดังกล่าวนำไปสู่การพัฒนายาในกลุ่มย่อยของอนุพันธ์ออกซาโซลิไดโอนหลากหลายชนิด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและความปลอดภัยแตกต่างกัน จนท้ายที่สุดได้สารประกอบสองชนิดที่มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาต่อเป็นยาปฏิชีวนะได้ คือ (en) (ชื่อรหัส PNU-100592) และไลนิโซลิด (PNU-100766). ในการพัฒนาช่วงก่อนการทดลองในมนุษย์ ยาทั้งสองชนิดนั้นมีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียคล้ายคลึงกัน แต่เมื่อเข้าสู่การวิจัยทางคลินิกในขั้นที่ 1 เพื่อจำแนกความแตกต่างทางด้านเภสัชจลนศาสตร์ของยาทั้งสอง พบว่าไลนิโซลิดมีคุณสมบัติด้านเภสัชจลนศาสตร์ที่ดีกว่า คือ มีความถี่ในการบริหารยาเพียงวันละ 2 ครั้ง ขณะที่นั้นต้องบริหารยาวันละ 3 ครั้งถึงจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับไลนิโซลิด ดังนั้นไลนิโซลิดจึงได้รับการพัฒนาต่อในการวิจัยทางคลินิกขั้นต่อไป หลังสิ้นสุดกระบวนศึกษาทางคลินิกต่างๆครบถ้วนแล้ว องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ขึ้นทะเบียนไลนิโซลิดเป็นยาปฏิชีวนะในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 2000 ตามด้วยบราซิลในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน, สหราชอาณาจักร (มกราคม 2001), ญี่ปุ่นและแคนาดา (มีนาคม 2001), ยุโรป (ตลอดปี 2001), และประเทศอื่นอีกหลายประเทศทั้งในละตินอเมริกาและเอเชีย
ข้อมูลเมื่อ 2009[update] ไลนิโซลิดเป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มออกซาโซลิไดโอนเพียงชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในมนุษย์ ส่วนยาอื่นในกลุ่มนี้นั้นล้วนอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิจัย เช่น (posizolid หรือ AZD2563), (ranbezolid หรือ RBx 7644), (torezolid หรือTR-701), และ (radezolid หรือ RX-1741)
สังคมและวัฒนธรรม
เภสัชเศรษฐศาสตร์
ในปี ค.ศ. 2009 ไลนิโซลิดจัดเป็นยาปฏิชีวนะที่มีราคาค่อนข้างสูง โดยการรักษาในรอบหนึ่งๆ อาจมีใช้ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่ายาชนิดนี้มากถึง 1000 – 2000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ (อาทิ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล) อย่างไรก็ดี เมื่อยานี้มีการใช้ในวงกว้างมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านยาในการรักษารอบหนึ่งๆ ในสหรัฐอเมริกาลดลงเป็นอย่างมาจาก โดยในปี ค.ศ. 2016 ค่าใช้จ่ายดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 137.90 ดอลลาร์สหรัฐ ในประเทศอินเดีย จากข้อมูลปี ค.ศ. 2015 การได้รับการรักษาด้วยไลเนโวลิด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สำหรับการรักษาวัณโรค เป็นระยะเวลา 1 เดือนจะมีค่าใช้จ่ายเฉพาะยานี้เพียง 137.90 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้แล้ว เนื่องจากการบริหารยาไลนิโซลิดนั้นสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารยาจากการฉีดเข้าหลอดเลือดดำเป็นการรับประทานทั้งในรูปแบบยาเม็ดหรือยาน้ำได้โดยไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการรักษา ทำให้ผู้ป่วยอาจออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้นและทำการรักษาต่อที่บ้านโดยการใช้ยาในรูปแบบรับประทาน ซึ่งการลดระยะเวลาการพักรักษาในโรงพยาบาลเช่นนี้ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายรวมของการรักษาแม้ไลนีโซลิดจะมีราคาสูงก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับยาปฏิชีวนะขนานอื่นๆก็ตาม
ทั้งนี้ การศึกษาวิจัยในหลายประเทศพบว่า มีความแตกต่างของระบบที่ใช้ในการประเมินต้นทุน – ประสิทธิผล (cost-effectiveness analysis) ของไลนิโซลิดเทียบกับ เช่น แวนโคมัยซิน หรือ ผลการวิเคราะห์พบว่า ในการรักษาโรคปอดอักเสบชุมชน และ การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังและโครงสร้างผิวหนังแบบซับซ้อน (complicated skin and skin structure infection) ส่วนมากไลนิโซลิดจะมีความคุ้มค่าในเชิงต้นทุน – ประสิทธิผลมากกว่ายาปฏิชีวนะอื่นข้างต้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากทั้งอัตราการรักษาหายขาดและอัตราการรอดชีวิตที่สูงกว่า และค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งหมดที่ต่ำกว่า
ในปี ค.ศ. 2009 ไฟเซอร์ได้จ่ายเงิน 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อคลี่คลายข้อกล่าวหาทางแพ่งและทางอาญาที่เกิดขึ้นเนื่องจากการส่งเสริมการขายที่ขัดต่อข้อตกลงเกี่ยวกับความมีคุณธรรมขององค์กร (Corporate Integrity Agreement; CIA) ของสำนักงานผู้ตรวจการสูงสุดของกระทรวงบริการเกี่ยวกับสุขภาพและมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Office of Inspector General of the Department of Health and Human Services; OIG) โดยไฟเซอร์ได้ถูกกล่าวหาว่ามีเจตนาหลอกลวงให้เกิดความเข้าใจผิดในยาที่ต่างชนิดกัน, ส่งเสริมการขายยาที่มีขนาดสูงเกินไป รวมไปถึงมีการส่งเสริมการขายยาอื่นอย่างผิดกฎหมาย จำนวนทั้งสิ้น 4 ขนาน ซึ่ง 1 ในนั้นคือยาไลนิโซลิด โดยในเงินจำนวนนี้ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นค่าปรับข้อหาเจตนาหลอกลวงให้เกิดความเข้าใจผิดในยาชื่อการค้า Bextra (ชื่อสามัญทางยาคือ ) ในขณะที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็นค่าปรับในการส่งเสริมการขายยาที่ผิดกฎหมายจำนวน 3 รายการที่เหลือ โดยหนึ่งในนั้นคือ Zyvox ซึ่งเป็นชื่อการค้าของไลนิโซลิด
ชื่อการค้า
ปัจจุบัน ยาต้นแบบไลนิโซลิดที่ถูกผลิตออกสู่ท้องตลาดทั่วโลกโดยไฟเซอร์ นั้นมีการใช้ชื่อการค้าที่แตกต่างกัน ได้แก่ Zyvox (ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, และประเทศอื่นๆ), Zyvoxid (ในยุโรป), และ Zyvoxam (ในแคนาดาและเม็กซิโก) ส่วนยาสามัญที่ผลิตออกสู่ท้องตลาดโดยบริษัทอื่นๆ เช่น Linezomentin (ในอียิปต์ โดยบริษัท Arabcomed), Lenzomore (ในอินเดีย โดยบริษัท Morepen), Linospan (ในอินเดีย โดยบริษัท Cipla), Nezocin (ในปากีสถาน โดยบริษัท Brookes), Voxazoldin (ในอียิปต์ โดยบริษัท Rotabiogen), Lizomed (ในอินเดีย ในรูปแบบยาน้ำเชื่อมชนิดผงแห้ง โดยบริษัท Aglowmed), และ Linzolid (ในบังกลาเทศ โดยบริษัท Incepta).
อ้างอิง
- Marino PL, Sutin KM (2007). "Antimicrobial therapy". The ICU book. Hagerstown, MD: Lippincott Williams & Wilkins. p. 817. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - "Linezolid". The American Society of Health-System Pharmacists. สืบค้นเมื่อ 8 December 2016.
- Pfizer (2010-07-16). "Zyvox (linezolid) Label Information" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2011-04-02.
- The selection and use of essential medicines: Twentieth report of the WHO Expert Committee 2015 (including 19th WHO Model List of Essential Medicines and 5th WHO Model List of Essential Medicines for Children) (PDF). WHO. 2015. pp. 31–33. ISBN . สืบค้นเมื่อ 8 December 2016.
- "Linezolid Side Effects in Detail - Drugs.com". www.drugs.com. สืบค้นเมื่อ 11 December 2016.
- Swaney SM, Aoki H, Ganoza MC, Shinabarger DL (December 1, 1998). "The Oxazolidinone Linezolid Inhibits Initiation of Protein Synthesis in Bacteria" (PDF). Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 42 (12): 3251–5. ISSN 0066-4804. PMC 106030. PMID 9835522.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter ()[] - Mendes, RE; Deshpande, LM; Jones, RN (April 2014). "Linezolid update: stable in vitro activity following more than a decade of clinical use and summary of associated resistance mechanisms". Drug resistance updates : reviews and commentaries in antimicrobial and anticancer chemotherapy. 17 (1–2): 1–12. PMID 24880801.
Emergence of resistance has been limited... It is still uncertain whether the occurrences of such isolates are becoming more prevalent.
- Li, Jie Jack; Corey, E. J. (2013). Drug Discovery: Practices, Processes, and Perspectives (ภาษาอังกฤษ). John Wiley & Sons. p. 6. ISBN .
- Torok, Estee; Moran, Ed; Cooke, Fiona (2009). "Chapter 2 Antimicrobials". Oxford Handbook of Infectious Diseases and Microbiology (ภาษาอังกฤษ). OUP Oxford. ISBN .
- "19th WHO Model List of Essential Medicines (April 2015)" (PDF). WHO. April 2015. สืบค้นเมื่อ May 10, 2015.
- "Linezolid". International Drug Price Indicator Guide. สืบค้นเมื่อ 8 December 2016.[]
- . Centers for Medicare and Medicaid Services. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-21. สืบค้นเมื่อ 11 December 2016.
- Grau S, Rubio-Terrés C (April 2008). "Pharmacoeconomics of linezolid". Expert Opinion on Pharmacotherapy. 9 (6): 987–1000. doi:10.1517/14656566.9.6.987. ISSN 1465-6566. PMID 18377341.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Wroe, David (2002-02-28). "An antibiotic to fight immune bugs". The Age. สืบค้นเมื่อ 2009-05-16.
- Wilson AP, Cepeda JA, Hayman S, Whitehouse T, Singer M, Bellingan G (August 2006). "In vitro susceptibility of Gram-positive pathogens to linezolid and teicoplanin and effect on outcome in critically ill patients" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 58 (2): 470–3. doi:10.1093/jac/dkl233. ISSN 0305-7453. PMID 16735420.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - [No authors listed] (2009-06-24). . electronic Medicines Compendium. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-06. สืบค้นเมื่อ 2009-07-03.
- Herrmann DJ, Peppard WJ, Ledeboer NA, Theesfeld ML, Weigelt JA, Buechel BJ (December 2008). "Linezolid for the treatment of drug-resistant infections". Expert Review of Anti-infective Therapy. 6 (6): 825–48. doi:10.1586/14787210.6.6.825. ISSN 1478-7210. PMID 19053895.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Falagas ME, Siempos II, Vardakas KZ (January 2008). "Linezolid versus glycopeptide or beta-lactam for treatment of Gram-positive bacterial infections: meta-analysis of randomised controlled trials". Lancet Infectious Diseases. 8 (1): 53–66. doi:10.1016/S1473-3099(07)70312-2. ISSN 1473-3099. PMID 18156089.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () Structured abstract with quality assessment available at DARE. - Tascini C, Gemignani G, Doria R และคณะ (June 2009). "Linezolid treatment for gram-positive infections: a retrospective comparison with teicoplanin". Journal of Chemotherapy. 21 (3): 311–6. doi:10.1179/joc.2009.21.3.311. ISSN 1120-009X. PMID 19567352.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Chow I, Lemos EV, Einarson TR (2008). "Management and prevention of diabetic foot ulcers and infections: a health economic review". PharmacoEconomics. 26 (12): 1019–35. doi:10.2165/0019053-200826120-00005. ISSN 1170-7690. PMID 19014203.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Lipsky BA, Itani K, Norden C (January 2004). "Treating foot infections in diabetic patients: a randomized, multicenter, open-label trial of linezolid versus ampicillin-sulbactam/amoxicillin-clavulanate". Clinical Infectious Diseases. 38 (1): 17–24. doi:10.1086/380449. ISSN 1058-4838. PMID 14679443.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Pigrau, C; Almirante, B (April 2009). [Oxazolidinones, glycopeptides and cyclic lipopeptides] (PDF). Enfermedades Infecciosas y Microbiología Clínica (ภาษาสเปน). 27 (4): 236–46. doi:10.1016/j.eimc.2009.02.004. PMID 19406516. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-23. สืบค้นเมื่อ 2018-01-06.
- Vardakas KZ, Horianopoulou M, Falagas ME (June 2008). "Factors associated with treatment failure in patients with diabetic foot infections: An analysis of data from randomized controlled trials". Diabetes Research and Clinical Practice. 80 (3): 344–51. doi:10.1016/j.diabres.2008.01.009. ISSN 0168-8227. PMID 18291550.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Grammatikos A, Falagas ME (2008). "Linezolid for the treatment of skin and soft tissue infection". Expert Review of Dermatology. 3 (5): 539–48. doi:10.1586/17469872.3.5.539.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Mandell LA, Wunderink RG, Anzueto A และคณะ (March 2007). "Infectious Diseases Society of America/American Thoracic Society consensus guidelines on the management of community-acquired pneumonia in adults". Clinical Infectious Diseases. 44 (Suppl 2): S27–72. doi:10.1086/511159. ISSN 1058-4838. PMID 17278083.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - BTS Pneumonia Guidelines Committee (2004-04-30). (PDF). . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-04-07. สืบค้นเมื่อ 2009-06-30.
- ; (February 2005). (PDF). American Journal of Respiratory and Critical Care Medicine. 171 (4): 388–416. doi:10.1164/rccm.200405-644ST. ISSN 1073-449X. PMID 15699079. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-10-14. สืบค้นเมื่อ 2018-01-06.
- Koya D, Shibuya K, Kikkawa R, Haneda M (December 2004). (PDF). BMC Nephrology. 5 (1): 18. doi:10.1186/1471-2369-5-18. PMC 544880. PMID 15610562. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-07-20.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Barbachyn MR, Ford CW (May 2003). "Oxazolidinone structure-activity relationships leading to linezolid". . 42 (18): 2010–23. doi:10.1002/anie.200200528. ISSN 1433-7851. PMID 12746812.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Pankey GA, Sabath LD (March 2004). "Clinical relevance of bacteriostatic versus bactericidal mechanisms of action in the treatment of Gram-positive bacterial infections". . 38 (6): 864–70. doi:10.1086/381972. ISSN 1058-4838. PMID 14999632.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Falagas ME, Manta KG, Ntziora F, Vardakas KZ (August 2006). (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 58 (2): 273–80. doi:10.1093/jac/dkl219. ISSN 0305-7453. PMID 16735427. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-02-22.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Babcock HM, Ritchie DJ, Christiansen E, Starlin R, Little R, Stanley S (May 2001). "Successful treatment of vancomycin-resistant Enterococcus endocarditis with oral linezolid". Clinical Infectious Diseases. 32 (9): 1373–5. doi:10.1086/319986. ISSN 1058-4838. PMID 11303275.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Ang JY, Lua JL, Turner DR, Asmar BI (December 2003). "Vancomycin-resistant Enterococcus faecium endocarditis in a premature infant successfully treated with linezolid". The Pediatric Infectious Disease Journal. 22 (12): 1101–3. doi:10.1097/01.inf.0000101784.83146.0c. ISSN 0891-3668. PMID 14688576.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Archuleta S, Murphy B, Keller MJ (September 2004). "Successful treatment of vancomycin-resistant Enterococcus faecium endocarditis with linezolid in a renal transplant recipient with human immunodeficiency virus infection". Transplant Infectious Disease. 6 (3): 117–9. doi:10.1111/j.1399-3062.2004.00059.x. ISSN 1398-2273. PMID 15569227.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Zimmer SM, Caliendo AM, Thigpen MC, Somani J (August 2003). "Failure of linezolid treatment for enterococcal endocarditis". Clinical Infectious Diseases. 37 (3): e29–30. doi:10.1086/375877. ISSN 1058-4838. PMID 12884185.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Tsigrelis C, Singh KV, Coutinho TD, Murray BE, Baddour LM (February 2007). "Vancomycin-Resistant Enterococcus faecalis Endocarditis: Linezolid Failure and Strain Characterization of Virulence Factors" (PDF). . 45 (2): 631–5. doi:10.1128/JCM.02188-06. ISSN 0095-1137. PMC 1829077. PMID 17182759.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter ()[] - Berdal JE, Eskesen A (2008). "Short-term success, but long-term treatment failure with linezolid for enterococcal endocarditis". Scandinavian Journal of Infectious Diseases. 40 (9): 765–6. doi:10.1080/00365540802087209. ISSN 0036-5548. PMID 18609208.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Falagas ME, Siempos II, Papagelopoulos PJ, Vardakas KZ (March 2007). "Linezolid for the treatment of adults with bone and joint infections". International Journal of Antimicrobial Agents. 29 (3): 233–9. doi:10.1016/j.ijantimicag.2006.08.030. ISSN 0924-8579. PMID 17204407.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () Review. - Bassetti M, Vitale F, Melica G และคณะ (March 2005). "Linezolid in the treatment of Gram-positive prosthetic joint infections" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 55 (3): 387–90. doi:10.1093/jac/dki016. ISSN 0305-7453. PMID 15705640.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Aneziokoro CO, Cannon JP, Pachucki CT, Lentino JR (December 2005). "The effectiveness and safety of oral linezolid for the primary and secondary treatment of osteomyelitis". Journal of Chemotherapy. 17 (6): 643–50. doi:10.1179/joc.2005.17.6.643. ISSN 1120-009X. PMID 16433195.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Senneville E, Legout L, Valette M และคณะ (August 2006). "Effectiveness and tolerability of prolonged linezolid treatment for chronic osteomyelitis: a retrospective study". Clinical Therapeutics. 28 (8): 1155–63. doi:10.1016/j.clinthera.2006.08.001. ISSN 0149-2918. PMID 16982292.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Rao N, Hamilton CW (October 2007). "Efficacy and safety of linezolid for Gram-positive orthopedic infections: a prospective case series". Diagnostic Microbiology and Infectious Disease. 59 (2): 173–9. doi:10.1016/j.diagmicrobio.2007.04.006. ISSN 0732-8893. PMID 17574788.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Papadopoulos A, Plachouras D, Giannitsioti E, Poulakou G, Giamarellou H, Kanellakopoulou K (April 2009). "Efficacy and tolerability of linezolid in chronic osteomyelitis and prosthetic joint infections: a case-control study". Journal of Chemotherapy. 21 (2): 165–9. doi:10.1179/joc.2009.21.2.165. ISSN 1120-009X. PMID 19423469.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - von der Lippe B, Sandven P, Brubakk O (February 2006). "Efficacy and safety of linezolid in multidrug resistant tuberculosis (MDR-TB) —a report of ten cases". Journal of Infection. 52 (2): 92–6. doi:10.1016/j.jinf.2005.04.007. ISSN 0163-4453. PMID 15907341.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Park IN, Hong SB, Oh YM และคณะ (September 2006). (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 58 (3): 701–4. doi:10.1093/jac/dkl298. ISSN 0305-7453. PMID 16857689. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-05-12.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Fortún J, Martín-Dávila P, Navas E และคณะ (July 2005). (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 56 (1): 180–5. doi:10.1093/jac/dki148. ISSN 0305-7453. PMID 15911549. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2013-05-12.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Jaksic B, Martinelli G, Perez-Oteyza J, Hartman CS, Leonard LB, Tack KJ (March 2006). "Efficacy and safety of linezolid compared with vancomycin in a randomized, double-blind study of febrile neutropenic patients with cancer". Clinical Infectious Diseases. 42 (5): 597–607. doi:10.1086/500139. ISSN 1058-4838. PMID 16447103.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () Criticism in doi:10.1086/504431; author reply in doi:10.1086/504437. - Moellering RC (January 2003). (PDF). . 138 (2): 135–42. doi:10.7326/0003-4819-138-2-200301210-00015. ISSN 0003-4819. PMID 12529096. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2006-02-25.
- Cottagnoud P, Gerber CM, Acosta F, Cottagnoud M, Neftel K, Täuber MG (December 2000). "Linezolid against penicillin-sensitive and -resistant pneumococci in the rabbit meningitis model" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 46 (6): 981–5. doi:10.1093/jac/46.6.981. ISSN 0305-7453. PMID 11102418.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Sabbatani S, Manfredi R, Frank G, Chiodo F (June 2005). . Le Infezioni in Medicina. 13 (2): 112–9. ISSN 1124-9390. PMID 16220032. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-22.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Ntziora F, Falagas ME (February 2007). "Linezolid for the treatment of patients with central nervous system infection". Annals of Pharmacotherapy. 41 (2): 296–308. doi:10.1345/aph.1H307. ISSN 1060-0280. PMID 17284501.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () Structured abstract with quality assessment available at DARE 2011-09-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. - Tunkel AR, Hartman BJ, Kaplan SL และคณะ (November 2004). "Practice guidelines for the management of bacterial meningitis". Clinical Infectious Diseases. 39 (9): 1267–84. doi:10.1086/425368. ISSN 1058-4838. PMID 15494903.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Naesens R, Ronsyn M, Druwé P, Denis O, Ieven M, Jeurissen A (June 2009). "Central nervous system invasion by community-acquired methicillin-resistant Staphylococcus aureus: case report and review of the literature". . 58 (Pt 9): 1247–51. doi:10.1099/jmm.0.011130-0. ISSN 0022-2615. PMID 19528145.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - . (FDA). March 16, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 19, 2010. สืบค้นเมื่อ 2010-09-15.
- Wilcox MH, Tack KJ, Bouza E และคณะ (January 2009). "Complicated skin and skin-structure infections and catheter-related bloodstream infections: noninferiority of linezolid in a phase 3 study". Clinical Infectious Diseases. 48 (2): 203–12. doi:10.1086/595686. ISSN 1058-4838. PMID 19072714.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Ament PW, Jamshed N, Horne JP (February 2002). . . 65 (4): 663–70. ISSN 0002-838X. PMID 11871684. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-07-24.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Buck ML (June 2003). (PDF). Pediatric Pharmacotherapy. 9 (6). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-06-05. สืบค้นเมื่อ 2009-06-08.
- Lexi-Comp (August 2008). . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-26. Retrieved on May 14, 2009.
- Lovering AM, Le Floch R, Hovsepian L และคณะ (March 2009). "Pharmacokinetic evaluation of linezolid in patients with major thermal injuries". Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 63 (3): 553–9. doi:10.1093/jac/dkn541. ISSN 0305-7453. PMID 19153078.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Davaro RE, Glew RH, Daly JS (2004). "Oxazolidinones, quinupristin-dalfopristin, and daptomycin". ใน Gorbach SL; Bartlett JG; Blacklow NR (บ.ก.). Infectious diseases. Hagerstown, MD: Lippincott Williams & Wilkins. pp. 241–3. ISBN . สืบค้นเมื่อ 2009-06-20.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Jones RN, Stilwell MG, Hogan PA, Sheehan DJ (April 2007). "Activity of Linezolid against 3,251 Strains of Uncommonly Isolated Gram-Positive Organisms: Report from the SENTRY Antimicrobial Surveillance Program". Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 51 (4): 1491–3. doi:10.1128/AAC.01496-06. PMC 1855453. PMID 17210770.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Jodlowski TZ, Melnychuk I, Conry J (October 2007). "Linezolid for the treatment of Nocardia spp. infections". . 41 (10): 1694–9. doi:10.1345/aph.1K196. ISSN 1060-0280. PMID 17785610.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - [No authors listed] (2001). "Linezolid: First of a New Drug Class for Gram-Positive Infections". Drugs & Therapy Perspectives. 17 (9): 1–6. doi:10.2165/00042310-200117090-00001. Free full text with registration at .
- . . August 5, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 26, 2010. Retrieved on 2009-05-15.
- Geisler WM, Malhotra U, Stamm WE (December 2001). (PDF). Bone Marrow Transplantation. 28 (12): 1171–3. doi:10.1038/sj.bmt.1703288. ISSN 0268-3369. PMID 11803363. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-02-26.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Livermore DM (September 2000). "Quinupristin/dalfopristin and linezolid: where, when, which and whether to use?" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 46 (3): 347–50. doi:10.1093/jac/46.3.347. ISSN 0305-7453. PMID 10980159.
- French G (May 2003). "Safety and tolerability of linezolid" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 51 (Suppl 2): ii45–53. doi:10.1093/jac/dkg253. ISSN 0305-7453. PMID 12730142. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-13. Review. Includes extensive discussion of the hematological adverse effects of linezolid.
- Metaxas EI, Falagas ME (July 2009). "Update on the safety of linezolid". Expert Opinion on Drug Safety. 8 (4): 485–91. doi:10.1517/14740330903049706. ISSN 1474-0338. PMID 19538105.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Zabel LT, Worm S (June 2005). "Linezolid contributed to Clostridium difficile colitis with fatal outcome". Infection. 33 (3): 155–7. doi:10.1007/s15010-005-4112-6. ISSN 0300-8126. PMID 15940418.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Peláez T, Alonso R, Pérez C, Alcalá L, Cuevas O, Bouza E (May 2002). "In Vitro Activity of Linezolid against Clostridium difficile" (PDF). Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 46 (5): 1617–8. doi:10.1128/AAC.46.5.1617-1618.2002. ISSN 0066-4804. PMC 127182. PMID 11959617. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-29.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Lin YH, Wu VC, Tsai IJ และคณะ (October 2006). "High frequency of linezolid-associated thrombocytopenia among patients with renal insufficiency". International Journal of Antimicrobial Agents. 28 (4): 345–51. doi:10.1016/j.ijantimicag.2006.04.017. ISSN 0924-8579. PMID 16935472.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Spellberg B, Yoo T, Bayer AS (October 2004). "Reversal of linezolid-associated cytopenias, but not peripheral neuropathy, by administration of vitamin B6" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 54 (4): 832–5. doi:10.1093/jac/dkh405. ISSN 0305-7453. PMID 15317746.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Plachouras D, Giannitsioti E, Athanassia S และคณะ (November 2006). "No effect of pyridoxine on the incidence of myelosuppression during prolonged linezolid treatment". Clinical Infectious Diseases. 43 (9): e89–91. doi:10.1086/508280. ISSN 1058-4838. PMID 17029128.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - del Pino BM. Chemotherapy-induced Peripheral Neuropathy. NCI Cancer Bulletin. Feb 23, 2010 [ 2011-12-11];7(4):6.
- Cooper, Raymond; Deakin, Jeffrey John (2016). "Africa's gift to the world". Botanical Miracles: Chemistry of Plants That Changed the World. . pp. 46–51. ISBN .
- Keglevich, Péter; Hazai, Laszlo; Kalaus, György; Szántay, Csaba (2012). . . 17: 5893–5914. doi:10.3390/molecules17055893. PMID 22609781. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-10.
- Raviña, Enrique (2011). "Vinca alkaloids". The evolution of drug discovery: From traditional medicines to modern drugs. . pp. 157–159. ISBN .
- Chemotherapy and polyneuropathies. European Association of Neurooncology Magazine. 2012 [ 2014-10-06];12(1).
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 March 2016. สืบค้นเมื่อ 4 May 2016.
- Narita M, Tsuji BT, Yu VL (August 2007). "Linezolid-associated peripheral and optic neuropathy, lactic acidosis, and serotonin syndrome". Pharmacotherapy. 27 (8): 1189–97. doi:10.1592/phco.27.8.1189. ISSN 0277-0008. PMID 17655517.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Bressler AM, Zimmer SM, Gilmore JL, Somani J (August 2004). "Peripheral neuropathy associated with prolonged use of linezolid". Lancet Infectious Diseases. 4 (8): 528–31. doi:10.1016/S1473-3099(04)01109-0. ISSN 1473-3099. PMID 15288827.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Brown J, Aitken SL, van Mannen RP (June 2011). "Potential for Linezolid-Related Blindness: a Review of Spontaneous Adverse Event Reports". Pharmacotherapy. 31 (6): 585–90. doi:10.1592/phco.31.6.585. PMID 21923442.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Chao CC, Sun HY, Chang YC, Hsieh ST (January 2008). "Painful neuropathy with skin denervation after prolonged use of linezolid". Journal of Neurology, Neurosurgery & Psychiatry. 79 (1): 97–9. doi:10.1136/jnnp.2007.127910. ISSN 0022-3050. PMID 17766431.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Saijo T, Hayashi K, Yamada H, Wakakura M (June 2005). "Linezolid-induced optic neuropathy". American Journal of Ophthalmology. 139 (6): 1114–6. doi:10.1016/j.ajo.2004.11.047. ISSN 0002-9394. PMID 15953450.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Barnhill AE, Brewer MT, Carlson SA (August 2012). "Adverse effects of antimicrobials via predictable or idiosyncratic inhibition of host mitochondrial components". Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 56 (8): 4046–51. doi:10.1128/AAC.00678-12. PMC 3421593. PMID 22615289.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () Review. For the original case series, see Soriano A, Miró O, Mensa J (November 2005). "Mitochondrial toxicity associated with linezolid". New England Journal of Medicine. 353 (21): 2305–6. doi:10.1056/NEJM200511243532123. ISSN 0028-4793. PMID 16306535.{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Javaheri M, Khurana RN, O'hearn TM, Lai MM, Sadun AA (January 2007). "Linezolid‐induced optic neuropathy: a mitochondrial disorder?". British Journal of Ophthalmology. 91 (1): 111–5. doi:10.1136/bjo.2006.102541. ISSN 0007-1161. PMC 1857552. PMID 17179125.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - McKee EE, Ferguson M, Bentley AT, Marks TA (June 2006). "Inhibition of Mammalian Mitochondrial Protein Synthesis by Oxazolidinones" (PDF). Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 50 (6): 2042–9. doi:10.1128/AAC.01411-05. ISSN 0066-4804. PMC 1479116. PMID 16723564.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter ()[] - Bishop E, Melvani S, Howden BP, Charles PG, Grayson ML (April 2006). "Good Clinical Outcomes but High Rates of Adverse Reactions during Linezolid Therapy for Serious Infections: a Proposed Protocol for Monitoring Therapy in Complex Patients" (PDF). Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 50 (4): 1599–602. doi:10.1128/AAC.50.4.1599-1602.2006. ISSN 0066-4804. PMC 1426936. PMID 16569895.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter ()[] - Lawrence KR, Adra M, Gillman PK (June 2006). "Serotonin toxicity associated with the use of linezolid: a review of postmarketing data". Clinical Infectious Diseases. 42 (11): 1578–83. doi:10.1086/503839. ISSN 1058-4838. PMID 16652315.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Huang V, Gortney JS (December 2006). "Risk of serotonin syndrome with concomitant administration of linezolid and serotonin agonists". Pharmacotherapy. 26 (12): 1784–93. doi:10.1592/phco.26.12.1784. ISSN 0277-0008. PMID 17125439.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Waknine, Yael (September 5, 2008). "FDA Safety Changes: Mirena, Zyvox, Orencia". . จากแหล่งเดิมเมื่อ December 2, 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-09-06. Freely available with registration.
- Stalker DJ, Jungbluth GL (2003). "Clinical pharmacokinetics of linezolid, a novel oxazolidinone antibacterial". Clinical Pharmacokinetics. 42 (13): 1129–40. doi:10.2165/00003088-200342130-00004. ISSN 0312-5963. PMID 14531724.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Slatter JG, Stalker DJ, Feenstra KL และคณะ (August 1, 2001). "Pharmacokinetics, metabolism, and excretion of linezolid following an oral dose of [(14) C]linezolid to healthy human subjects" (PDF). Drug Metabolism and Disposition. 29 (8): 1136–45. ISSN 0090-9556. PMID 11454733.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Sisson TL, Jungbluth GL, Hopkins NK (January 2002). "Age and sex effects on the pharmacokinetics of linezolid". European Journal of Clinical Pharmacology. 57 (11): 793–7. doi:10.1007/s00228-001-0380-y. ISSN 0031-6970. PMID 11868801.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Bialvaei AZ, Rahbar M, Yousefi M และคณะ (February 2017). "Linezolid: a promising option in the treatment of Gram-positives". Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 72 (2): 354–364. doi:10.1093/jac/dkw450. PMID 27999068.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Skripkin E, McConnell TS, DeVito J และคณะ (October 2008). "Rχ-01, a New Family of Oxazolidinones That Overcome Ribosome-Based Linezolid Resistance" (PDF). . 52 (10): 3550–7. doi:10.1128/AAC.01193-07. ISSN 0066-4804. PMC 2565890. PMID 18663023.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter ()[] - Colca JR, McDonald WG, Waldon DJ และคณะ (June 2003). (PDF). . 278 (24): 21972–9. doi:10.1074/jbc.M302109200. ISSN 0021-9258. PMID 12690106. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-09-10.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Ippolito JA, Kanyo ZF, Wang D และคณะ (June 2008). "Crystal structure of the oxazolidinone antibiotic linezolid bound to the 50S ribosomal subunit". . 51 (12): 3353–6. doi:10.1021/jm800379d. ISSN 0022-2623. PMID 18494460.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Wilson DN, Schluenzen F, Harms JM, Starosta AL, Connell SR, Fucini P (September 2008). (PDF). . 105 (36): 13339–44. doi:10.1073/pnas.0804276105. ISSN 0027-8424. PMC 2533191. PMID 18757750. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2017-09-10.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Brickner SJ (1996). "Oxazolidinone antibacterial agents". . 2 (2): 175–94. Detailed review of the discovery and development of the whole oxazolidinone class, including information on and .
- European Medicines Agency (2011). "CHP Assessment Report for Xarelto (EMA/CHMP/301607/2011)" (PDF). (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-30. สืบค้นเมื่อ 2012-03-15.
- Xu GY, Zhou Y, Xu MC (2006). (PDF). Chinese Chemical Letters. 17 (3): 302–4. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-07.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Kaiser CR, Cunico W, Pinheiro AC, de Oliveira AG, Peralta MA, de Souza MV (2007). "Oxazolidinonas: uma nova classe de compostos no combate à tuberculose" [Oxazolidinones: a new class of compounds against tuberculosis] (PDF). Revista Brasileira de Farmácia (ภาษาโปรตุเกส). 88 (2): 83–8. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (pdf)เมื่อ 2012-05-15.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - US5,837,870 Retrieved on 2009-06-13. (1997-03-28) Pearlman BA, Perrault WR, Barbachyn MR, et al., Process to prepare oxazolidinones.
- Lohray BB, Baskaran S, Rao BS, Reddy BY, Rao IN (June 1999). "A short synthesis of oxazolidinone derivatives linezolid and eperezolid: A new class of antibacterials". . 40 (26): 4855–6. doi:10.1016/S0040-4039(99)00893-X.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Perrault WR, Keeler JB, Snyder WC, et al. (June 25, 2008). "Convergent green synthesis of linezolid (Zyvox)" 2011-07-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, in 12th Annual Green Chemistry and Engineering Conference, June 24–26, 2008, New York, NY. Retrieved on 2009-06-08.
- Tsiodras S, Gold HS, Sakoulas G และคณะ (July 2001). "Linezolid resistance in a clinical isolate of Staphylococcus aureus". . 358 (9277): 207–8. doi:10.1016/S0140-6736(01)05410-1. ISSN 0140-6736. PMID 11476839.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Jones RN, Ross JE, Castanheira M, Mendes RE (December 2008). "United States resistance surveillance results for linezolid (LEADER Program for 2007)". Diagnostic Microbiology and Infectious Disease. 62 (4): 416–26. doi:10.1016/j.diagmicrobio.2008.10.010. ISSN 0732-8893. PMID 19022153.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Jones RN, Kohno S, Ono Y, Ross JE, Yanagihara K (June 2009). "ZAAPS International Surveillance Program (2007) for linezolid resistance: results from 5591 Gram-positive clinical isolates in 23 countries". Diagnostic Microbiology and Infectious Disease. 64 (2): 191–201. doi:10.1016/j.diagmicrobio.2009.03.001. ISSN 0732-8893. PMID 19500528.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Hope R, Livermore DM, Brick G, Lillie M, Reynolds R (November 2008). "Non-susceptibility trends among staphylococci from bacteraemias in the UK and Ireland, 2001–06" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 62 (Suppl 2): ii65–74. doi:10.1093/jac/dkn353. ISSN 0305-7453. PMID 18819981.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Auckland C, Teare L, Cooke F และคณะ (November 2002). "Linezolid-resistant enterococci: report of the first isolates in the United Kingdom" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 50 (5): 743–6. doi:10.1093/jac/dkf246. ISSN 0305-7453. PMID 12407134.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Scheetz MH, Knechtel SA, Malczynski M, Postelnick MJ, Qi C (June 2008). "Increasing Incidence of Linezolid-Intermediate or -Resistant, Vancomycin-Resistant Enterococcus faecium Strains Parallels Increasing Linezolid Consumption" (PDF). Antimicrobial Agents and Chemotherapy. 52 (6): 2256–9. doi:10.1128/AAC.00070-08. ISSN 0066-4804. PMC 2415807. PMID 18391028.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list ()[] - Schumacher A, Trittler R, Bohnert JA, Kümmerer K, Pagès JM, Kern WV (June 2007). "Intracellular accumulation of linezolid in Escherichia coli, Citrobacter freundii and Enterobacter aerogenes: role of enhanced efflux pump activity and inactivation" (PDF). Journal of Antimicrobial Chemotherapy. 59 (6): 1261–4. doi:10.1093/jac/dkl380. ISSN 0305-7453. PMID 16971414.
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Saager B, Rohde H, Timmerbeil BS; และคณะ (September 2008). "Molecular characterisation of linezolid resistance in two vancomycin-resistant (VanB) Enterococcus faecium is
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamidlingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud ilnioslid xngkvs Linezolid epnyaptichiwnachnidhnungthiichinkarrksaorkhtidechuxthimisaehtumacakechuxaebkhthieriykrmbwkthiduxtxyaptichiwnachnidxun ilnioslidsamarthxxkvththikhaechuxaebkhthieriykrmbwkidekuxbthuksayphnth rwmthungechuxaebkhthieriyinskulsetrpotkhxkkhs Streptococcus skulexnethxorkhxkhkhsthiduxtxyaaewnokhmysin Vancomycin resistant Enterococcus VRE aelaechuxsaetpfiolkhxkhkhs xxeriysthiduxtxyaemthisillin Methicillin resistant Staphylococcus aureus MRSA swnmakaelwmkichyaniinkarrksaorkhtidechuxdngkhangtnbriewnphiwhnngaelainpxd xyangirktam yanixacthukichinorkhtidechuxaebkhthieriyxunidechnkn echn wnorkhthiduxtxyarksawnorkhsutrpkti odyyanisamarthbriharyaidthngkarchidekhahlxdeluxdda intravenous aelakarrbprathanilnioslidkhxmulthangkhlinikkarxanxxkesiyng l ɪ ˈ n ɛ z e l ɪ d li nez e lid l ɪ ˈ n eɪ z e l ɪ d chuxthangkarkhaZyvox Zyvoxid aelaxun omonkrafa602004khxmulthaebiynyaTH Linezolid US LinezolidradbkhwamesiyngtxtharkinkhrrphAU C US C yngimchikhad kthmaysthanatamkthmayAU txngichibsngya CA UK Prescription only US khxmulephschclnsastrchiwprasiththiphl 100 rbprathan ta 31 karepliynaeplngyatb 50 70 immiphlkhrungchiwitthangchiwphaph4 2 5 4 chwomng xacsnlnginedk karkhbxxkit aelaxuccaratwbngchichuxtamrabb IUPAC S N 3 3 fluoro 4 morpholin 4 yl phenyl 2 oxo 1 3 oxazolidin 5 yl methyl acetamideelkhthaebiyn CAS165800 03 3 YPubChem CID441401DrugBankDB00601 NChemSpider390139 YISQ9I6J12JD00947 YCHEMBL126 Y070944100 121 520khxmulthangkayphaphaelaekhmisutrC 16H 20F N 3O 4337 346 g mol g mol 1aebbcalxng 3D Interactive imageO C1O C H CNC O C CN1c3cc F c N2CCOCC2 cc3InChI 1S C16H20FN3O4 c1 11 21 18 9 13 10 20 16 22 24 13 12 2 3 15 14 17 8 12 19 4 6 23 7 5 19 h2 3 8 13H 4 7 9 10H2 1H3 H 18 21 t13 m0 s1 YKey TYZROVQLWOKYKF ZDUSSCGKSA N Y 7 Y verify saranukrmephschkrrm karichyailnioslidinrayaewlasnnnmikhwamplxdphykhxnkhangsung thnginklumphupwypkti aelaphupwythimiphawaitwayeruxrng hruxorkhtbxkesb xakarimphungprasngkhthwipthixacekidkhunkbphupwythiidrbyaniinchwngsn idaek pwdsirsa thxngesiy phun aelaxaeciyn swnxakarimphungprasngkhthirunaerngthixacekidkhunidinphupwybangray idaek klumxakaresorothnin Serotonin syndrome karkdikhkraduk Bone marrow suppression aelaphawaeluxdepnkrdaelktik lactic acidosis odykhwamesiyngtxkarekidxakarimphungprasngkhthirunaerngcaephimmakkhunxyangminyyaemuxichyailnioslidtxenuxngknepnrayaewlananmakkwa 2 spdah inbangkhrngkarichyanitxenuxngepnrayaewlananxacthaihekidkarthalayesnprasathswnplaycnimsamarthfunfuklbkhunsphaphedimid sungrwmthungkarthalayesnprasaththikhwbkhumkarthangankhxngkarmxngehndwy ilnioslidepnyaptichiwnaxikchnidhnunginyaklumxxksaosliodn Oxazolidone enuxngcakyadngklawmikhunsmbtiinkarybyngkarsngekhraahoprtinkhxngaebkhthieriy thaihyadngklawsamarthybyngkarecriyetibotaelakhaechuxaebkhthieriyid xyangirktam thungaemwainpccubncaminaptichiwnahlaychnidthixxkvththiybyngkarsrangoprtinkhxngechuxaebkhthieriyidehmuxnkbilnioslid aetodyaethcringaelw ilnioslidnnmiklikkarxxkvththithiaetktangipcakyaptichiwnachnidxun klawkhux yadngklawcaipxxkvththiybyngkhntxnaerkinkarsrangoprtin inkhnathiyaptichiwnaxunnncaxxkvththiinkhntxnthiepnladbthdma dwyklikkarxxkvththithiaetktangcakyaptichiwnachnidxunni thaihxubtikarnkarduxtxyailnioslidkhxngechuxaebkhthieriyinpccubnyngxyuinradbthikhxnkhangta khxmul pi kh s 2014 ilnioslidthukkhnphbinchwngklangthswrrt 1990 aelaidrbkarrbrxngihmikarphlitechingkarkhainpi kh s 2000 odythuxepnhnunginraykaryathicaepnkhxngxngkhkarxnamyolk World Health Organization s List of Essential Medicines sungepnraykaryathimikhwamsakhyepnladbaerkkhxngrabbsukhphaphphunthankhxngprachachninpraethstang ilenkoslid Linexolid thuxepnchuxkarkhaaerkkhxngyani odytnthunyainkarrksaphupwyinpraethskalngphthnadwyyanimimulkhapraman 13 40 US txwn khnathiinshrthxemrika cakkhxmulinpi kh s 2016 mimulkhapraman 13 79 US txwn cakkarepriybethiybtnthun prasiththiphl Cost effectiveness analysis CEA phbwailnioslidmikhwamkhumkhamakkwayatanechuxaebkhthieriyduxyathangeluxkchnidxunxyangaewnokhmysin Vancomycin xyangminysakhy thngnienuxngcakkarichyailnioslidnnsamarthprbepliyncakkarbriharyaodykarchidekhahlxdeluxddamaepnkarrbprathaniderwkwa thaihmitnthuninkarrksathitakwakarichpraoychnthangkaraephthyodyswnihyaelw ilnioslidmkcathuknamaichrksainkrnithiepnorkhtidechuxaebkhthieriythimixakarkhxngorkhrunaerngaelamisaehtumacakechuxaebkhthieriykrmbwkthiduxyaptichiwachnidxun aetimkhwrichilnioslidinkarrksaorkhtidechuxaebkhthieriythimisaehtumacakechuxthiyngkhngmikhwamiwtxyaptichiwnaklumkhxbekhtkarrksaaekhb Narrow spectrum xyangyaklumephnisillin aelaklumesfaolspxrin thnginsuxsingphimphaelaexksarthangwithyasastrtangklwnykihilnioslidepn yaptichiwnathithuksngwniw reserve antibiotic klawkhux yadngklawcathuknamaichinkrnithicaepnethann odycacdepn yathithukeluxkichepnxndbsudthay Drug of last resort ephuxichinkrnithiphawatidechuxnnimsamarthbabdrksaiddwyyaptichiwnachnidxun hruxechphaaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriythiduxtxyaptichiwnahlaykhnan inpraethsshrthxemrika yailnioslididrbkarrbrxngcakxngkhkarxaharaelayaaehngshrthxemrika U S Food and Drug Administration FDA ephuxihichinkarbabdrksaorkhtidechuxthiekidcakkartidechuxaebkhthieriyexnethxorkhxkhkhs fiesiym thiduxtxyaaewnokhmysin Vancomycin resistant Enterococcus faecium thnginkrnithimikaraephrkracayaelaimmikaraephrkracaykhxngechuxdngklawipsukraaeseluxd orkhpxdxkesbcakkartidechuxinorngphyabal Nosocomial pneumonia hrux hospital acquired pneumonia thimisaehtumacakkartidechuxaebkhthieriysaetpfiolkhxkhkhs xxeriys Staphylococcus aureus aelasetrpotkhxkhkhs niwomeniyxi Staphylococcus pneumoniae kartidechuxaebkhthieriythiphiwhnngaelaokhrngsrangphiwhnngxyangrunaerng Complicated skin and skin structure infections cSSSI thimisaehtumacakkartidechuxaebkhthieriythiyngiwtxilnioslid sungrwmipthungaephltidechuxthiethakhxngorkhebahwan diabetic foot infection ykewnkartidechuxthikradukaelaikhkraduk osteomyelitis thirunaerng aelakartidechuxaebkhthieriythiphiwhnngaelaokhrngsrangphiwhnngthiimrunaerng sungmisaehtumacakkartidechuxaebkhthieriysetrpotkhxkkhs iphoxcins Streptococcus pyogenes aelasaetpfiolkhxkhkhs xxeriys S aureua thngni bristhphuphlitimaenanaihichyadngklawsahrbkarrksaphawapxdxkesbchumchn Community acquired pneumonia CAP hruxkartidechuxthikradukhruxenuxeyuxxxnthiimrunaerng Uncomplicated skin and soft tissue infections cSSIIs thungaemwacamiechux MRSA epnechuxsaehtuktam aetsahrbinshrachxanackrnn miephiyngphawapxdxkesbaelakartidechuxthikradukhruxenuxeyuxxxnthiimrunaerngethannthithuxepnkhxbngichthukkahndihrabuiwbnexksarkakbyakhxngilnioslid thngni karichilnioslidinedkaelatharknnmikhwamplxdphyinradbediywknkbkarichyadngklawinphuihy kartidechuxinkradukaelaenuxeyuxxxn karsuksaodykarwiekhraahxphiman Meta analysis cakkhxmultangthiidcakkarsuksathdlxngaebbsumaelamiklumkhwbkhum Randomized controlled trials RCTs hlaykarsuksa phbwa ilnioslidmiprasiththiphaphmakkwayaptichiwnaklumiklokheppithd Glycopeptide antibiotics xyangaewnokhmysinaela rwmipthungyaptichiwnaklumebta aelkhaetm b lactam antibiotics inkarrksakartidechuxinkradukaelaenuxeyuxxxnthimisaehtumacakechuxaebkhthieriykrmbwk aelamikarsuksakhnadelkhlaykarsuksathiihphlkarsuksayunynthungprasiththiphaphkhxngilenoslitinkarrksaphawatidechuxaebkhthieriykrmbwkthirunaerngthukchnidthiehnuxkwa inkarrksaaephltidechuxthiethacakorkhebahwan diabetic foot infections nn karichilnioslidcamirakhatnthunnxykwaaetklbmiprasiththiphaphinkarrksamakkwaaewnokhmysin inpi kh s 2004 phlkarsuksakhxngkarsuksaaebbepid Open label study phbwa ilnioslidmiprasiththiphaphethiybethakb Ampicillin sulbactam aela Amoxicillin clavulanic acid aelamiprasiththiphaphkarrksaehnuxkkwaepnxyangmakinkarrksaphupwyaephltidechuxthiethacakorkhebahwanthiimmikradukxkesbtidechux Osteomyelitis rwmdwy xyangirktam karichilnioslidnnmixtrakarekidxakarimphungprasngkhcakyaidmakkwaxyangminysakhythangsthiti xyangirktam karsuksaaebbkarwiekhraahxphimaninpi kh s 2008 sungichphllphththiidcakkarsuksathdlxngaebbsumaelamiklumkhwbkhumcanwn 18 karsuksamawiekhraah phbwa karichilnioslidsahrbkhxbngichninnekidkhwamlmehlwinkarrksaidimaetktangipcakyaptichiwnachnidxun imwaphupwycamiphawakradukxkesbtidechuxrwmdwyhruximktam thngni nkwicybangthanidihkhaaenanaephimetimwa khwrichyaptichiwnachnidxunthimirakhathukkwaaelamitnthunprasiththiphlsung 2 chnidrwmknkxn echn Trimethoprim sulfamethoxazole kbiraefmphisin hrux xyangidxyanghnung kxnthicamikarichilnioslidinkarrksakartidechuxinkradukaelaenuxeyuxxxn odyxingtamphlkarthdsxbkhwamiwkhxngechuxsaehtutxyaptichiwnachnidtang phawapxdxkesb phlkarsuksathangkhlinikinpi kh s 2008 phbwa khwamsaercinkarrksaphawapxdxkesbdwyilnioslidkbyaptichiwnaxun idaek yaptichiwnaklumiklokheppithdaelayaptichiwnaklumebta aelkhaetm immikhwamaetktangkncnthungradbthiminysakhythangsthiti aenwthangkarrksaorkhpxdxkesbchumchnkhxngsmakhmorkhthrwngxkaehngpraethsshrthxemrika American Thoracic Society ATS aelasmakhmorkhtidechuxaehngshrthxemrika Infectious Diseases Society of America IDSA idihkhaaenanawa khwrsngwnilnioslidiwichinkrnithimiphlkatrwcephaaechuxyunynaelwwaechuxsaehtuthikxihekidorkhnn khux MRSA hruxxakaraesdngthangkhlinikthixacekhaidkbkartidechux MRSA thngni aenwthangkarrksakhxngsmakhmorkhthrwngxkaehngshrachxanackr British Thoracic Society BTS imaenanaihichilnioslidepnthangeluxkaerkinkarrksa thungaemwaechuxsaehtucaepnechux MRSA ktam odyaenanaihichilnioslidepnthangeluxkrxngrxngcakaewnokhmysinethann xyangirktam ilnioslidsamarthichinkarrksaorkhpxdxkesbchumchnidinkrnithiechuxsaehtumikarduxtxyaklumephnnisillin aenwthangkarrksakhxngpraethsshrthxemrikannsamarthichidthngilenowlidaelaaewnokhmysinxyangidxyanghnungepnkarrksathangeluxkaerkinkarrksaorkhpxdxxkesbinorngphyabalthimisaehtumacakkartidechux MRSA Hospital acquired MRSA pneumonia xyangirktam phlkarsuksathangkhlinikbangkarsuksaphbwa ilnioslidnnmiprasiththiphaphinkarrksaorkhpxdxxkesbinorngphyabaldngkhangtniddikwaaewnokhmysin xun phaphsaeknhwicdwykhlunesiyngkhwamthisung aesdngthungkxneluxdelkthimikartidechuxaebkhthieriy vegetations briewnlinhwicthiknrahwangrahwanghwichxngbnkhwaaelahwichxnglangkhwa tricuspid valve luksrsikhaw sungmisaehtumacakkartidechuxthieyuxbuhwic infective endocarditis odyphupwyrayniidrbkarrksadwyyaptichiwnaaexmphisillin aela kluokhkhxrtikhxyd aelahayepnprktihlngcakidrbkarphatd epnthiechuxknodythwipwakartidechuxaebkhthieriychnidthieriykknwa kartidechuxaebkhthieriythichnluk deep infections echn kartidechuxaebkhthieriythikradukaelaikhkraduk osteomyelitis kartidechuxthieyuxbuhwic khwridrbkarrksadwyyaptichiwnathixxkvththikhaechuxaebkhthieriy Bacteriocidal antibiotics aelaimkhwrichyaptichiwnachnidthixxkvththiechphaaybyngkarecriyetibotkhxngechuxethann Bacteriostatic antibiotics thungkrann karsuksainkhnkxnkarthdsxbinmnusy preclinical study hlaykarsuksaidthakarpraeminthungprasiththiphaphkhxngilnioslidtxkarrksaphawakartidechuxaebkhthieriydngkhangtn inthaythisudphbwayadngklawsamarthrksaphawakartidechuxkhangtnidinmnusy thngni duehmuxnwailnioslidcaepntweluxkinkarrksathismehtusmphlinphawakartidechuxthieyuxbuhwicthimisaehtumacakechuxaebkhthieriykrmbwkthiduxtxyaptichiwnahlaychnid aetkyngimmihlkthanechingprackskhunphaphsungmasnbsnunkarichyanisahrbkhxbngichdngklaw thaihkarrksakartidechuxthieyuxbuhwicthimisaehtumacakechuxaebkhthieriyklumexnethxorkhxkhkhs enterococcal endocarditis mikhwamhlakhlayepnxyangmakinpccubn sunginbangkrnixacprasbphlsaercinkarrksa inthangtrngknkham bangkrniklbimtxbsnxngtxkarrksa hlkthanechingpracksthangkaraephthykhunphaphtathungpanklanghlaykarsuksaidmikarichyailnioslidinkarrksakartidechuxthikradukaelakhxephimmakkhun rwmipthung kartidechuxaebkhthieriythikradukaelaikhkradukeruxrng chronic osteomyelitis thungaemwacamikhwamkngwlekiywkbxakarimphungprasngkhcakyadngklawemuxmikarichinkarrksarayayawktam sahrbkarichilnioslidrwmkbyaptichiwnachnidxuninkarrksaonkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriynn mikarichilnioslidrwmkbyaxuninkarrksawnorkh xyangirktam khnadyathiehmaasmkhxngilenowlidinkarrksaphawadngklawnnyngimmikarkahndihepnthiaenchd odythwipaelw inkrniphuihy karichyadngklawaebbihwnla 1 hrux 2 khrngnnihphlkarrksathidi aetenuxngcakkarrksawnorkhnntxngichrayaewlananhlayeduxn karekidxakarimphungprasngkhcakkarichilnioslidthungxacekididngay odyechphaaemuxichyadngklawinkhnadsung xyangirktam inpccubnyngimmihlkthanechingpracksthangkaraephthynaechuxthuxmakphxthisnbsnunthungprasiththiphaphaelakhwamplxdphykhxngkarichyanisahrbkhxbngichdngklawepnpracathukwn nxkcakniyngmikarichilnioslidepnthangeluxkthdaethnaewnokhmysininkarrksaphawaikhthimiphawaemdeluxdkhawniwotrfilta febrile neutropenia inphupwymaerngthimikartidechuxaebkhthieriykrmbwk yingipkwann ilnioslidyngepnyaptichiwnaxikchnidhnungthimasarthaephrphanekhaipyngkhxngehlwphayintathieriykwawiethriyshiwemxr vitreous humor id sungmiyaptichiwnaimkichnidethannthiaephrphanekhaipbriewnnnid dngnn ilnioslidcungxacepnpraoychnaelamiprasiththiphaphinkarrksakartidechuxaebkhthieriyphayinlukta Endophthalmitis thimisaehtumacakechuxaebkhthieriythiiwtxyaniid aetmihlkthanechingprackscanwnephiyngelknxyethannthiihphlsnbsnunkarichyanisahrbkhxbngichdngklaw enuxngcakkarrksakartidechuxaebkhthieriyphayinluktainpccubnmikarichaewnokhmysininkarrksaknxyangaephrhlayaelaihprasiththiphlinkarrksaepnthinaphungphxicxyuaelw kartidechuxaebkhthieriyinrabbprasathswnklang karsuksainstwthdlxngthimiphawaeyuxhumsmxngxkesb Meningitis cakechuxaebkhthieriyestrpothokhkhs niwomeniy Streptococcus pneumoniae phbwailnioslidsamarthaethrksumekhaipyngnahlxeliyngsmxngaelaikhsnhlng cerebrospinal fluid id aelamiprasiththimakkwayaptichiwnachnidxunthiekhaipinbriesndngklawid xyangirktam yngimmihlkthanechingprackskhunphaphsungthisnbsnunkarichilnioslidepnpracainkarrksaphawakartidechuxdngklaw thungkrann miphupwyhlayraythiprasbphlsaercinkarrksakartidechuxaebkhthieriyinrabbprasathswnklang sungrwmipthung phawaeyuxhumsmxngngxkesb dwyilnioslid dngnn cungxacphxsrupidwakarichilnioslidinkarrksaphawadngklawnnepnthangeluxkthismehtusmphlemuxkarrksahruxyaptichiwnaxunimidphlkarrksaepnthinaphungphxic aenwthangkarrksakhxngsmakhmorkhtidechuxaehngshrthxemrika Infectious Diseases Society of America idaenanaihilnioslidepnkarrksathangeluxkaerkkhxngphawaeyuxhumsmxngxkesbthimisaehtumacakechuxaebkhthieriyklumaexnethxorkhxkhkhsthiduxtxyaaewnokhmysin Vancomycin Resistant Enterococcus VRE aelaepnthangeluxkrxngtxcakaewnokhmysininkarrksaphawaeyuxhumsmxngxkesbthimisaehtumacakechuxaebkhthieriysaetpfiolkhxkhkhs xxeriysthiduxyatxyaemthisillin methicillin resistant Staphylococcus aureus MRSA nxkcakniyngphbwailnioslidmiprasiththiphaphehnuxkwaaewnokhmysininkarrksaphawaeyuxhumsmxngxkesbthimisaehtumakcakkartidechuxaebkhthieriysaetpfiolkhxkhkhs xxeriysthiduxyatxyaemthisillin caknxkorngphyabal community acquired MRSA xyangirktam kartiphimphinwarsarthiekiywkbphupwyphawadngklawthiidrbkarrksadwyilnioslidnnyngmixyunxymak khxmulemux 2009 update kartidechuxaebkhthieriythismphnthkbkarissayswn ineduxnminakhm kh s 2007 xngkhkarxaharaelayakhxngshrthxemrikarabuwaidmikarsuksaaebbsumaelamiklumkhwbkhumaelaepnaebbepid khnthi 3 sungthakarsuksainxasasmkhr phase III clinical trial ephuxepriybethiybprasiththiphaphkhxngilnioslidkbaewnokhmysininkarrksakartidechuxaebkhthieriyinkraaeseluxdthimikhwamsmphnthkbkarissayswn catheter related bloodstream infections sungphupwythiidrbkarrksadwyaewnokhmysincaidrbkarrksaepliynepnxxksasillin hruxidkhlxksasillin thaphbwaechuxsaehtunniwtxyakhangtn aelaphupwythngsxngklum klumthiidrbkarrksadwyilnioslidaelaklumthiidrbkarrksadwyaewnokhmysin caidrbyaptichiwnasahrbtanechuxaebkhthieriyaekrmlb hakmikhxbngchithicaepn txmaphlkarsuksadngklawidthuktiphimphephyaephrineduxnmkrakhm kh s 2009 cakphlkarsuksainkarsuksadngkhangtnphbwa karichilnioslidmixtrakaresiychiwitmakkwakarichaewnokhmysinxyangminysakhythangsthiti odyemuxthakarrwbrmkhxmulthnghmdaelwphbwa rxyla 21 5 khxngphupwythiidrbkarrksadwyilnioslidesiychiwit khnathixikhlumhnungthiimidrbkarrksadwyilnioslidesiychiwitephiyngrxyla 16 odykhwamaetktangkhxngxtrakaresiychiwitniepnphlmacakechuxsaehtuthitangklumkn odyemuxcaaenkklumphupwyxxkepnklumthimiechuxsaehtuepnechuxaebkhthieriyaekrmbwkkbklumthimiechuxsaehtuepnthngaebkhthieriyaekrmbwkaelaaekrmlb phbwainphupwythimiechuxsaehtuepnechuxaebkhthieriykrmbwkxyangediywnnphbwailnioslidmiprasiththiphaphaelakhwamplxdphyethiybethakbaewnokhmysin cakphlkarsuksainkhrngnithaihxngkhkarxaharaelayaaehngshrthxemrikaxxkkhaetuxnthungbukhlakrthangkaraephthywayngimmikarrbrxngihichilnioslidinkarrksaorkhtidechuxthismphnthkbkarissayswnhruxorkhtidechuxxunidthimisaehtumacakechuxaebkhthieriyaekrmbwk aelathungaemwacamikartrwcphbechuxaebkhthieriyaekrmlbwaepnechuxsaehtuhruxsngsywaxacepnechuxsaehtukkhwreluxkichyaptichiwnachnidxunthiehmaasmepnthangeluxkaerkkxn karichyainklumprachakrphiess karichyailnioslidinphuihyaelaedkthimixayumakkwa 12 nncabriharyaihthuk 12 chwomng thnginrupaebbyarbprathanaelayachnidchidekhahlxdeluxdda swninedkaelatharknn caidrbkarbriharyaihthuk 8 chwomng swninklumphusungxayu phupwythimiphawatbwayradbelknxythungpanklang aelaphupwythimikarthangankhxngitphidpkti imcaepntxngmikarprbepliynkhnadaelakhwamthiinkarbriharya sahrbphupwythitxngmikarcharaeluxdphaneyux hemodialysis khwrmikarbriharyailnioslidihxyangramdrawnghlngkarthahtthkardngklaw enuxngcakkarcharaeluxdphaneyuxcathaihyailnioslidinrangkaythukkacdxxkippramanrxyla 30 40 swnphupwythithakarfxkeluxddwyekhruxngitethiym hemofiltration nnimcaepntxngidrbkarbriharyadngklawihephimetimphayhlng thngni phupwybangklumxaccaepntxngidrbkarbriharyailnioslidthikhun echninkarsuksahnungsungphbwa phupwythimiaephlihmmakkwarxyla 20 khxngphunthiphiwrangkaythnghmdxaccaepntxngidrbkarbriharyailnioslidthithikwapktienuxngcakmikarkhbyadngklawxxkchxngthangxunthiimichthangit nonrenal clearance ephimmakkhun sahrbhyingtngkhrrphnn dchnikhwamplxdphykarichyailnioslidinhyingtngkhrrphthukcdihxyuinradb C enuxngcakyngimmikarsuksamakphxthungkhwamplxdphykhxngkarichyadngngklawinhyingtngkhrrph thungaemcamikarsuksahlaykarsuksainstwthdlxngthitngkhrrphaelwphbwaekidkhwamepnphistxtwxxninkhrrphinradbta aelapraoychnthiidcakyadngklawcamakkwaxntraythixacekidktam nxkcakni ilnioslidyngsamarththukkacdxxkthangnanmid swnradbkhwamminysakhythangkhliniknnyngimmikhxmulaenchd khxbkhaykarxxkvththi phaphcakklxngculthrrsnxielktrxnthiaesdngthungechuxaebkhthieriyklumexnethxorkhxkhkhsthiduxtxyaaewnokhmysin vancomycin resistant Enterococcus VRE bn aelaechuxaebkhthieriysaetpfiolkhxkhkhs xxeriysthiduxyatxyaemthisillin methicillin resistant Staphylococcus aureus MRSA lang inthangkhlinik ilnioslidmivththitxechuxaebkhthieriyaekrmbwkthukchnid sungechuxaebkhthieriyklumdngklawcamiphnngesllthiprakxbipdwychnhna aelaimmi echn exnethxorkhxkhkhs fiechiym Enterococcus faecium aela exnethxorkhxkhkhs fikhalis Enterococcus faecalis rwmipthungskulexnethxorkhxkhkhsthiduxtxyaaewnokhmysin VRE saetpfiolkhxkhkhs xxeriys Staphylococcus aureus rwmthungsaetpfiolkhxkhkhs xxeriysthiduxtxyaemthisillin MRSA setrpotkhxkkhs xakaaelketiy Streptococcus agalactiae setrpotkhxkkhs niwomeniyxi Streptococcus pneumoniae setrpotkhxkkhs iphoxcins Streptococcus pyogenes klumiwriaednskhxngsetrpotkhxkikh viridans group streptococci listhieriy omonisotciens Listeria monocytogenes aelaskulskulokhriniaebkhthieriym Corynebacterium odyechuxmikhwamiwtxyailnioslidodymikhakhwamekhmkhnthitathisudthimivththiybyngechuxodyihepnpktithitakwa 0 5 mg L ilnioslidmivththixyangmaktxechuxskulimokhaebkhthieriym Mycobacterium inkarthdlxngnxkkaymnusy in vitro aelamiprasiththiphaphxyangmaktxechuxskulonkharediy Nocardia aetmirakhathisungaelamiehtukarnimphungprasngkhekidkhunidmak cungkhwrichilnioslidrwmkbyaptichiwnakhnanxun hruxichinechphaaphupwythilmehlwcakkarksadwyyaaebbdngedim thngni ilnioslidepyaptichiwnathimivththiybyngkarsubphnthuhruxkaretibottxaebkhthieriyepnswnihy odyimidxxkvththikhaechuxaebkhthieriyodytrng bacteristatic antibiotic xyangirktam yadngklawcamivththiinkarkhaechuxaebkhthieriyodytrng bactericidal txechuxaebkhthieriyskulsetrpotkhxkkhs karsuksabangkarsuksaphbwa aemwailnioslidcamivththiybyngkaretibotaelakarsibphnthuinkarthdlxngnxkkaymnusynn in vitro aetilnioslidklbmiphvtikrrminkarkhaechuxaebkhthieriyodytrnginkarthdlxnginkaymnusy in vivo dwykarybyngkarphlitsarphisbangchnidkhxngechuxaebkhthieriyskulsaetffiolkhxkhkhs aelaskulsetrpotkhxkkhs streptococcus nxkcakni ilnioslidyngmiphlhlngkarichyaptichiwna post antibiotic effect 1 4 chwomnginaebkhthieriyswnihy sunghmaykhwamwakaretibotkhxngaebkhthieriyidrbkarkdiwchwkhrawaemcahyudichyadngklawaelwktam echuxaebkhthieriyaekrmlb swnihyaelwilnioslidimmiphlthangkhliniktxaebkhthieriyaekrmlb echn echuxaebkhthieriyskulskulsuodomaens Pseudomonas aelawngsexnethxroraebkhthieriysixi Enterobacteriaceae aetinkarthdlxngnxkrangkaymnusy In vitro phbwailnioslidmivththiybyngkarecriyetibotkhxngechuxaebkhthieriyphasecxerlla mlotsida Pasteurella multocida skulfuosaebkhthieriym Fusobacterium mxaerkeslla khatharralis Moraxella catarrhalis skullicioxenlla Legionella skulbxredethlla Bordetella aela exlisaebthkhingeciy emningokesftika Elizabethkingia meningoseptica iddi aelamivththiybyngechuxhiomfils xinfluexnsaxi Haemophilus influenzae idkhxnkhangdi mikhwamekhmkhnkhxngyainradbtasudthisamarthybyngkarecriyetibotkhxngechuxaebkhthieriyidrxyla 90 praman 8 millikrm litr nxkcakniyngmikarichilnioslidepnthangeluxkrxnginkarrksaorkhthiekidcakkartidechuxaebkhthieriyskulaekhphonisotfaka Capnocytophaga xikdwy karepriybethiybkbyaptichiwnaxun khxtekhtkarxxkvththitxechuxaebkhthieriyaekrmbwkkhxngilnioslidnnmikhwamkhlaykhlungknkb echn aewnokhmysin sungthukichepnmatrthansahrbrksaorkhtidechuxaebkhthieriysaetpfiolkhxkhkhs xxeriysthiduxyatxyaemthisillin maxyangyawnan aelayaptichiwnathngsxngchnidnimkthuknamaepriybethiybknbxykhrngthnginkarsuksathdlxngaelakarichcringthangkhlinik yaxunthimikarnamaepriybethiybprasiththiphaphkbilnioslid idaek chuxkarkha Targocid epnyaklumiklokheppithdechnediywknkbaewnokhmysin quinupristin dalfopristin chuxkarkha khux Synercid epnyasutrphsmkhxngyaptichiwnasxngchnidinklum aetimmivththitxechux E faecalis aela daptomycin chuxkarkhakhux Cubicin epnyaptichiwnainklum aelayaptichiwnaxunxikhlaychnidthikalngxyuinkhntxnkarsuksawicy echn ceftobiprole dalbavancin aela telavancin odyinyathiklawmakhangtnthnghmdni miephiyngilnioslidephiyngchnidediywethannthisamarthbriharyaodykarrbprathanid nxkehnuxcakilnioslidaelw inxnakht oritavancin aela iclaprim sungkalngxyuinkhntxnaerkkhxngkarsuksaphthnathangkhlinik xacepnxikthangeluxkhnungthisamarthbriharyaodykarrbprathanidxakarimphungprasngkhkarichilnioslidinrayasnmikhwamplxdphykhxnkhangsungxakarimphungprasngkhthiphbidthwip phbmakkwarxyla 1 khxngphupwythiidrbilnioslid cakkarichyadngklaw idaek thxngesiy mirayngankarekidrxyla 3 11 inxasasmkhrthiekharwmkarsuksathangkhlinik pwdsirsa 1 11 khlunis 3 10 xaeciyn 1 4 phun 2 thxngphuk 2 karrbrurschatiphidaeplkip 1 2 aela linmisiphidpkti 0 2 1 nxkcakni kartidechuxra idaek kartidechuxraaekhndidainchxngpak Oral candidiasis aelakartidechuxrainchxngkhlxd candidal vulvovaginitis xacphbidinkrnithiilnioslidkdkareciryetibotkhxngculinthriypracathin normal bacterial flora inbriewndngklawiw sungepnchxngthangthithaihekidkartidechuxratammainphayhlngidngay swnxakarimphungprasngkhxunthiphbidnxy aetmkmikhwamrunaerngmak idaek ptikiriyakaraephya tbxxnxkesb aelakarephimkhunkhxngexnismthransamiens transaminases sungxacepnsyyanthibngbxkthungkarekidkhwamesiyhaykhxngtb ilnioslidmikhwamaetktangcakyaptichiwnachnidxun echn xiriothrmysin aelaklumkhwionoln trngthiimsngphlihekidkarepliynaeplngkhxngraya QT cakkarbnthukkhluniffahwic thngni xakarimphungprasngkhcakkarichilnioslidthiphbinedknnimmikhwamaetktangcakthiphbinphuihy echnediywkbyaptichiwnachnidxun karichilnioslidmikhwamsmphnthkbkarekidphawaxkesbkhxnglaisihythiekidcakechuxaebkhthieriykhrxstriediym diffisiel Clostridium difficile colitis hrux Clostridium difficile associated diarrhea CDAD thungaemcaphbkarekidkhwamphidpktidngklawcakkarsuksathangkhlinikidnxyephiyng 1 in 2000 khn aetcakkarthdlxngnxkrangkaymnusy in vitro duehmuxnwa C difficile caiwtxilnioslid dngnn ilnioslidcungxacepnthangeluxkthiepnipidsahrbkarrksaphawa CDAD karichyainrayayaw karthukkdkarthangankhxngikhkraduk Bone marrow suppression odyechphaakarekidphawaekldeluxdta Thrombocytopenia xacphbidinphupwythiidrbkarrksadwyilnioslid sungepnxakarimphungprasngkhthiekidcakkarkdkarthangankhxngikhkradukephiyngchnidediywthiphbkarekidinphuthiidrbyailnioslidmakkwaphuthiidrbyaptichiwnaklumxamioniklokhisd aela xyangminysakhythangsthiti odythwipaelwmkimphbkarekidxakarimphungprasngkhdngklawinphupwythiidrbyaimmakekinkwa 14 wn aetcaphbkarekidkhwamphidpktidngklawidmakinphupwythiidrbyatxenuxngepnrayaewlananhruxphupwythimikarthangankhxngitldlng mikrnisuksathiidrbkarbnthukiwinpi kh s 2004 phbwa iphridxksin rupaebbhnungkhxngwitaminbi 6 samarthchwypxngknkarekidphawaolhitcangaelaphawaekldeluxdtathiekidcakkarichyailnioslidid txmainpi kh s 2006 karsuksawicythangkhlinikkhnadihyxikkarsuksahnungklbphbwa karidrbiphridxksinnn immiphlpxngknkarekidkhwamphidpktidngklawaetxyangid nxkcakni karichilnioslidinrayayawyngmikhwamsmphnthkbkarekid en sungepnkhwamphidpktithiekidkhunxyangthawr phupwycamixakarchakhlayekhmthim tingling numbness pwdecbaeplb sharp pain mikhwamiwtxkhwameynmakkhun odyxakarcaerimcakbriewnmuxaelaetha inbangkhrngxacmikarkracayipyngbriewnaekhnaeaelakhaidyaekhmibabd en thimikhwamsmphnthkbkarekidkhwamphidpktidngklaw echn en en idaek en en idaek en aela en idaek en aela en en idaek en aelayaklumaephlthinmebs idaek sisphlatin en aela en xikthngkarekid en kmikhwamsmphnthkbkarichyailnioslidechnkn odymkekidkhunidngayhlngcakkarichyadngklawtxenuxngepnrayaewlananhlayeduxn aelaxacklayepnkhwamphidpktiaebbthawridinbangray thungaemwaklikinkarthaihekidkhwamphidpktidngkhangtnnncaimsamarthekhaicidxyangaenchd aetkhadwa Mitochondrial toxicity nacaepnsaehtukhxngkhwamphidpktidngklaw thngnienuxngcakimothkhxnedriynnmiokhrngsrangthikhlaykhlungknkbirobosmkhxngaebkhthieriysungepnepahmaykarxxkvththikhxngilnioslid karekidphawaeluxdepnkrdaelktikcakkaridrbyailnioslidkepnxakarimphungprasngkhxikxyanghnungthirunaerngcnxackxihekidxntraytxchiwit odyekidkhunidcakkarephimkhunkhxngkrdaelktikinrangkay sungxacphbidphrxmknkbthiklawmadngkhangtn enuxngmacakkarekidxakarimphungprasngkhcakkarichilnioslidtxenuxngepnrayaewlanandngkhangtn phupwyklumdngklawcungtxngidrbkartrwckhwamsmburnkhxngemdeluxdaedngepnpracathukspdahrahwangthiyngidrbyadngklawxyu thngniephuxepnkartitamkhwamepnipidthixaccaekid aelaimkhwrichyailnioslidtxenuxngnanekin 28 wn ephuxhlikeliyngkarekidxakarimphungprasngkhthirunaerngcakya nxkcakni inpi kh s 2006 idmikarkhidkhnphthnamatrkarinkartidtamaelaefarawngkarekidxakarimphungprasngkhthirunaernginphupwyhnkthiidrbkarrksadwyilnioslidodythimnkwicyinemuxngemlebirn praethsxxsetreliy thngniephuxihsamarthkhadkhaenkhwamnacaepnthicaekidxakarimphungprasngkhthirunaernginphupwyklumdngklawidaemnyamakkhun odymatrakardngklawidaek kartrwckhwamsmburnkhxngemdeluxdaedng kartrwckarthangankhxngtb aelakarwdkharadbkrdaelktikinkraaeseluxdepncanwn 2 khrngtxspdah karthbthwnraykaryaxunthiphupwyidrbkhnarksa odyhakphbraykaridthixacekidxntrkiriyarahwangyakbilnioslidxacphicarnaprbepliynaebbaephnkarrksasahrbraykarnn aelakartrwctaaelarabbprasathepnrayainphupwythiidrbkarrksadwyilnioslidtxenuxngekinkwa 4 spdah karekidxakarimphungprasngkhcakkaridrbkarrksadwyilnioslidtxenuxngepnrayaewlananthukphbepnkhrngaerkinkarekbkhxmulkarrksa khwamplxdphyaelaprasiththiphlkhxngyahlngxxksutlad postmarketing surveillance odykarekidkarkdkarthangankhxngikhkraduknnimphbkarekidin sungmikarichyadngklawimmakekinkwa 21 wn xyangirktam xasasmkhrbangkhninchwngaerkkhxngkarthdlxngthangkhliniknnekidphawaekldeluxdta aetsamarthklbmaepnpktiidinphayhlngaelaimphbkhwamaetktangcnthungradbthiminysakhyemuxepriybethiybkbklumkhwbkhumsungimidrbkarrksadwyilnioslid nxkcakniyngmirayngankarekidlmchk phawaxmphataebbebll khwamphidpktikhxngesnprasathefechiyl canwn 1 ray khxmulemux 2009 update aela en inkarekbkhxmulkarrksa khwamplxdphyaelaprasiththiphlkhxngyahlngxxksutladkhxngilnioslidxntrkiriyailnioslidxxkvththiepntwybyngexnismmxnxexminxxksieds monoamine oxidase inhibitor MAOI xyangxxn dngnncungimkhwrichyanirwmkbyainklum MAOIs chnidxun rwmipthungxaharthimiprimankhxng en sung echn enuxhmu enyaekhngthimixayumak ekhruxngdumaexlkxhxl xahardxnghruxrmkhwn yathimiphlephimradbesorothnin enuxngcakkarekbkhxmulkarrksa khwamplxdphyaelaprasiththiphlkhxngyahlngxxksutlad postmarketing surveillance khxngilnioslid phbkarekidklumxakaresorothnin emuxmiichyarwmkbyaxunyathimiphlephimradbesorothnin hruxichyailnioslidthnthihlngcakhyudyaklumdngklaw odyechphaaxyangyingyaklumthithahnathiybyngkarekbklbesorothnin echn en aela en nxkcakni ilnioslidyngmiesrimphlkhxngkarephimradbkhwamdnolhitkhxng en echn suodxiefdrin hrux en nxkcakni yarangbxakarpwdxyangephthidin kepnyaxikchnidhnungthiimkhwrichrwmknkbilnioslidimwainkrniidktam enuxngcakkhwamesiyngthixacthaihekidklumxakaresorothnin ilnioslidimmiphlybynghruxehniywnakarthangankhxng CYP 450 en sungepnrabbexnismkhxngrangkaythithahnathiinkarkhbyaxxkcakrangkay dngnnilnioslidcungimekidxntrkiriyarahwangyakbyaxunthitxngmikaremaethbxlisumodyrabbexnismniephschwithyaephschclnsastr saremtabxilthhlkkhxngilnioslid ilnioslidepnyathimichiwprimanxxkvththisungekuxbrxyla 100 emuxbriharyaodykarrbprathan sunghmaykhwamwaprimanyathnghmdthirbprathanekhaipsamarthekhasukraaeseluxdidekuxbthnghmd sungaethbimmikhwamaetktangknkbkarbriharyaodykarchidekhahlxdeluxdda aesdngwaphupwythiidrbyaodykarchidekhahlxdeluxddaxacsamarthepliynmaichyainrupaebbrbprathanidelyhakphupwythisphawathiehmaasmkbkarichyainrupaebbrbprathan inkhnathiyaptichiwnachnidxunthimikhxbngichaelaprasiththiphaphiklekhiyngkbilnioslidxyangaewnokhmysinaelannsamarthbriharyaidephiyngkarchidekhahlxdeluxddaethann karrbprathanilnioslidrwmkbxaharxacsngphlihtwyathukdudsumidchalng aetkhnadyathithukdudsumekhasukraaeseluxdthnghmdthiwdcak area under curve AUC nnimmikhwamaetktangknkbkarrbprathanyainkhnathxngwang ilnioslidmisdswn plasma protein binding khxnkhangta pramanrxyla 31 aetkhathiwdidinaetlakhrngmikhwamphnphwnsung aelamiprimatrkracaytw volume of distribution thi steady state praman 40 50 litr samarthtrwcwdkhwamekhmkhnkhxngyaineluxdsungsud Peak serum concentrations Cmax idthipraman 1 2 chwomnghlngcakbriharya ilnioslidsamarthkracaytwipyngenuxeyuxtangkhxngrangkayidxyangrwderw ykewn Bone matrix aela en epnthinasngektwakhwamekhmkhnkhxngilnioslidinkhxngehlwphayineslleyuxbukhxngthangedinhayicswnlangnnxyangnxythisudcaethiybethakbkhwamekhmkhnkhxngyadngklawinkraaeseluxdesmx aelaphbwaodyswnihyaelwmkmikhamakkwakhwamekhmkhninkraaeseluxdxik bangkarsuksaphbwakhwamekhmkhnkhxngyaniinkhxngehlwphayinesllkhxnghlxdlmnnmikhasungkwakhwamekhmkhninkraaeseluxdmakthung 4 etha sungxacepnkhaxthibayidwaehtuidilnioslidthungmiprasiththiphaphinkarrksaorkhpxdbwm xyangirktam emuxwdkhwamekhmkhnkhxngyaniinnahlxsmxngikhsnhlng phbwamikhwamekhmkhnkhxngyasungsudthiwdidnnmikhanxykwakhwamekhmkhnthiwdidcakkraaeseluxd thngnixacepnphlmacakkarthiyasamarthphantwkrxngknrahwangeluxdaelasmxng en idcha inthangtrngknkham khwamekhmkhntasudkhxngyaniinnahlxsmxngikhsnhlngklbmikhamakkwathiwdidcakinkraaeseluxd thngnikenuxngmacakehtuphlthiekiywkhxngkbtwkrxngknrahwangeluxdaelasmxngechnkn swnkhakhrungchiwitkhxngilnioslidnnmikhapraman 3 chwomnginedk 4 chwomnginwyrun aela 5 chwomnginphuihy inkrabwnkarkacdilnioslidxxkcakrangkaynn ilnioslidcathukemaethbxlisumthitbodykarekidkhxngwngmxroflin en odykrabwnkarkarepliynaeplngnicaimmiswnekiywkhxngkb CYP 450 en krabwnkarepliynaeplngilnioslidephuxkhbxxkcakrangkaynicaepliynilnioslidihxyuinrupsaremtabxilththiimxxkvththi 2 chnidhlk khidepnrxyla 45 aela 10 khxngyathithukkhbxxkthnghmdthi saremtabxilthrxngxik 1 chnid aelasaremtabxilthxunxikhlaychnidaetmisdswnimthungrxyla 1 khxngsaremtabxilththnghmd karkacdilenowlidxxkcakrangkaynnmikhwamaetktangknxxkipkhunxyukbxayuaelaephs odyinedkcamixtrakarkacdyaxxkthisungthisud sngphlihyamikhakhrungchiwitthisn swninephshyingcamixtrakarkacdyaxxkchakwaephschaypramanrxyla 20 nxkcaknikhwamerwinkarkacdilnioslidxxkcakrangkayyngmikhwamsmphnththangsthitiaebbaepnphntrngxyangyingkbkarkacdkhriextininkhxngit sungepnmatrwdkarthangankhxngit odyeriykkhathiwdidniwa creatinine clearance CLCR klikkarxxkvththi aephnphaphxyangngaythiaesdngkaraeprrhsphnthukrrm translation khxngexmxarexnexodyilnioslidcaekhacbkbtaaehnng A site trngklang aelapxngknimihthixarexnexmacbkbtaaehnngdngklawid thaihkaraeprrhsphnthukrrmhngudchangklng nncdepnyathixxkvththiybyngkarsngekhraahoprtin sungcasngphlihekidkarybyngkarecriyetibotaelakarkhyayphnthukhxngechuxaebkhthieriyodykarrbkwnkaraeprrhsphnthukrrm khxngexmxarexnexinirobosm xyangirktam klikkarxxkvththithnghmdkhxngyaklumniyngimsamarththrabidaenchd swnklikkarxxkvththikhxngilnioslidsungepnyaptichiwnaxikchnidhnunginnnduehmuxnwacaxxkvththiybyngthikhntxnaerkkhxngkarsngekhraahoprtin sungkkhux karkhdkhwangkarsrangoprtininkhnerimtn initiation sungaetktangcakyaptichiwnaklumthixxkvththiybyngkarsrangoprtinchnidxunthimkybyngthikhnkartxsay elongation khxngkarsngekhraahoprtin nxkcakniaelw ilnioslidyngsamarthxxkvththiybyngkarcbknkhxnghnwyyxy aela khxngirobosm thixarexnex aelaexmxarexnexidxikdwy odyilnioslidcakheipcbkbhnwyyxy 23S khxng sungepntaaehnngthicaepntxkarrxxkvththikhxng en odytaaehnngdngklawnncaxyuiklknkbtaaehnngepahmaykhxngkhlxaermefnikhxl linokhmysin aelayaptichiwnachnidxun enuxngdwyklikkarxxkvththithiepnexklksnchchphaakhxngilnioslidni karduxyakhamchnidknrahwangilnioslidkbyaptichiwnachnidxunthixxkvththiybyngkarsrangoprtincungphbidnxymakhruxaethbcaimekidkhunely inpi kh s 2008 okhrngsrangphlukkhxngilnioslidthicbxyukb khxngirobosm khxngxarekhiy Haloarcula marismortui thukkhnphbodythimnkwithyasastraehngmhawithyalyeyl aelathuknaipekbrksaiwin en swnnkwithyasastrxikthimhnungsungphyayamsrangaemaebbcalxngklikkarxxkvththikhxng cakphlukokhrngsrangkhxngilnioslidthicbxbukb khxng Deinococcus radiodurans phbwa ilnioslidnncaekhakbtaaehnng A site khxng rwmipthungkarxxkvththi en sungsngphlkhdkhwangkarekhacbkhxngthixarexnexkbbriewndngklaw aelasngphlihthixarexnexexaaeyktwxxkcakirobosmipinthisudephschekhmin kha pH pktiphayinesll ilnioslidcaxyusphaphthiimmipracu lalaynaiddipanklang praman 3 millikrm millilitr aelami logP praman 0 55 okhrngsrangkhxngilnioslidthimihmayelkhrabutaaehnngxatxminomelkul sungaesdngihehnthung en sungcaepntxkarxxkvththikhxngya sinaengin aelaokhrngsrangswnxunthisamarthprbepliynid sism thuxepnokhrngsranghlkthimikhwamcaepntxkarxxkvththitanechuxaebkhthieriykhxngilnioslid odyokhrngsrangkhxngilnioslidnncaprakxbipdwyswnkhxngomelkul thim aryl thitaaehnngthi 3 odymihmu S aethnthixatxmkharbxnintaaehnngdngklaw intaaehnngthi 5 camihmufngkchnxunmaekaaxyu R khxngthnghmdnnimmikhunsmbtiinkartanechuxaebkhthieriy thngni cakokhrngsrangdngkhangtn enuxngcakilnioslidnnmihmufngkchnhlaychnidthithukxxkaebbmaephuxchwyephimprasiththiphaphaelakhwamplxdphyinkarichya ody en trngtaaehnnghmu 5 methyl epntaaehnngthidithisudthichwyinkarephimprasiththiphaphinkartanechuxaebkhthieriykhxngyani aelayngkhngthukichinkarphthnachnidxuntxenuxngmacnthungpccubn karepliynaeplngtaaehnngxxkipcaktaaehnngnicathaihyasuyesiykhwamsamarthinkartanechuxaebkhthieriylng aetkyngsamarthxxkvththiidelknxythungpanklangenuxngcakyngmikhunsmbtiepn swnxatxmfluxxrin n taaehnngthi 3 samarthephimprasiththiphaphinkartanechuxaebkhthieriykhxngyaidepn 2 ethathngkarthdlxnginmnusy in vivo aelanxkrangkaymnusy in vitro nxkcakni en xyangxatxminotrecninwngcachwykhngsphaphkhwamaerng potency khxngtwya rwmipthungkhwamplxdphycakkarichyanidwy thngni phbwayatankaraekhngtwkhxngeluxdxyang Rivaroxaban chuxkarkhakhux Xarelto nnmiokhrngsrangthikhlaykhlungknkbilnioslidcnnaaeplkic odyyathngsxngchnidmiokhrngsrangswnthiehmuxnkn odybnokhrngsrangmikhwamaetktangknephiyng 3 taaehnng khux camihmukhiotnaelahmukhlxorithoxfin chlorothiophene ephimekhama aelaimmixatxmkhxngfluxxrinthitaaehnng 3 xyangirktam khwamkhlaykhlungknthangokhrngsrangkhxngyathngsxngchnidniimmiphlcnminysakhythangkhlinikaetxyangid karsngekhraah inpccubn ilenowlidnncamacakkarsngekhraahthnghmd enuxngcakimsamarthphbsarprakxbniidinthrrmchati sungtangcakyaptichiwnachnidxun aelaimidthukphthnamacakokhrngsrangkhxngthiidmacakthrrmchati sungmkphbinkarsngekhraahyaptichiwna sungepnyakungsngekhraah odykarsngekhraahnnsamarththaidhlakhlaywithi aelachxngthxngkarsngekhraahilnioslidnnkmikhwamhlakhlaymakechnediywkn thungaemkarphlitilnioslidxxkcahnayintladcaidrbphltxbaethnkhxnkhangsung aetkrabwnkarphlitaebbdngedim sungthukphthnakhunodybristhxphcxhn Upjohn ephuxthdlxngphlitilnioslidaelaxiphieroslid eperezolid phlitkxnthicaphlitephuxcahnayinthxngtlad nntxngichrayaewlaphlitthiyawnan aelasarekhmitngtnnnmirakhaaephng echn en twthaptikiriyakhwamiwsung en aela n butyllithium aelakarsngekhraahcaepntxngthainsphaphthimixunhphumita kwyehtuthikrabwnkarsngekhraahilnioslidnnmitnthunthisungthaihrakhayatamthxngtladnnxyuinradbthisungmakechnkn xyangirktam bristhxphcxhnsamarthkhidkhnkrabwnkarphlitthiichrayaewlaaelatnthunnxylngkwawithidngedimsaerc sungehmaasahrbkarphlitinradbxutsahkrrm aelathangbristhidyunkhxcdsiththibtrkrabwnkarkarphlitdngklawinpi kh s 1998 karsngekhraahilnioslidinchwnghlng idaek withi atom economy sungich D mannitol epnsaraerkerim thukkhidkhnaelaphthnakhuninpi kh s 1999 odybristhyasychatixinediy chux Dr Reddy s Laboratories aelakarphlitcaksartngtn S glyceraldehyde acetonide etriymidcakiwtaminsi thithukphthnakhunodythimnkwicycakmhawithyalyhuhnan nkhrchangcha mnthlhuhnan praethscin inwnthi 25 mithunayn kh s 2008 rahwangkarprachumwichakarekhmiaelawiswkrrmsiekhiywpracapi khrngthi 12 12th Annual Green Chemistry and Engineering Conference innkhrniwyxrk ifesxridraynganwathangbristhsamarthphthnakarsngekhraahilnioslid runthisxng khxngbristhidsaerc odyichwithikarsngekhraahaebb convergent synthesis aelaepnkarsngekhraahaebbekhmisiekhiyw green chemistry odymisartngtnkhux S epichlorohydrin sungihphlphlitsungthungrxyla 56 xikthngyngmikhxngesiycakkrabwnkarphlitldnxylngcakwithiedimkarduxyakarduxtxyailniosliderimmiraynganaetchwngtn kh s 1999 inphupwykhnrunaerngcanwn 2 raythitidechux Enterococcus faecium thiduxtxyaptichiwnahlaykhnan rwmipthungilnioslid thaihphupwysxngraynitxngidrbkarrksadwyopraekrmkarrksathangeluxk expanded access sunghmaythungkarichyaihmthiyngimidkarrbrxngihichinewchptibtisahrbmnusy Investigational New Drug swnkarduxtxyailnioslidkhxngechux Staphylococcus aureus phbkarrayngankhrngaerkemuxpi kh s 2001 inshrthxemrika karduxtxyailnioslididrbkartidtamaelabnthukmatngaet kh s 2004 phanokhrngkarthimichuxwa LEADER sungiddaeninokhrngkardngklawsthabnthangkaraephthykwa 60 aehngthwpraeths khxmulemux 2007 update xtrakarduxtxilnioslidnnyngkhngkhngthiaelaaelakhxnkhangta odnkhidepnsdswnthinxykwarxyla 0 5 khxngechuxthnghmdthikhdaeykid aelanxykwarxyla 0 1 khxngechux S aureus thiephaaidcakphupwy echnediywknkbokhrngkar karsuksaprasiththiskyaelakhwamkwangkarrksakhxngyaiswxks Zyvox Annual Appraisal of Potency and Spectrum Study ZAAPS thidaeninokhrngkarinhlaypraethsthwolktngaetpi kh s 2002 phbwa khxmulemux 2007 update sdswnkarduxtxilenowlidkhxngechuxaebkhthieriyin 23 praethsthwolknnnxykwarxyla 0 2 aelaimphbkarduxtxyakhxngechuxaebkhthieriyskulsetrpotkhxkkhs streptococci thngni karduxyaphbephiyngechphaainpraethsbrasil cin ixraelnd xitaliethann odyechuxaebkhthieriythiduxtxilnioslidthiphbinokhrngkarnisamarthcaaenkxxkidepn Coagulase negative Staphylococci rxyla 0 28 khxngkarduxtxilnioslidthnghmd exnethxorkhxkhkhs rxyla 0 11 aela S aureus rxyla 0 03 sahrbinshrachxanackraelaixraelndimphbkarduxyakhxngechuxaebkhthieriyskulsaetffiolkhxkhkhsthiekbtwxyangcakphupwytidechuxaebkhthieriyrahwangpi kh s 2001 thung 2006 aetkmirayngankarekidkarduxyakhxngechuxaebkhthieriyskulexnethxorkhxkhkhs thngni nkwicybangkhnidkhadkarniwwa karduxkhxngechux E faecium txilnioslidcamicanwnephimmakyingkhunhakyngmikarichyanixyangtxenuxngthnginkrnithimiprimankarichethiybethakbpccubnhruxephimkhuninxnakht aetxyangirktam inpccubnilnioslidkyngepnyaptichiwnasakhyxikchnidhnungthimixtrasaercinkarrksaekuxbsmburn mikarduxyaephiyngrxyla 0 05 klikkarduxya intrinsic resistance khxngaebkhthieriyaekrmlb txilnioslidmisaehtuenuxngmacakkarphlkyaxxkcakesllkhxngechuxaebkhthieriy sungkarphlkxxkcakesllnicaekididinxtrathirwderwkwakarsasmyasuesll odythwipaelw aebkhthieriyaekrmbwk mkphthnakrabwnkarkarduxtxyailnioslidcakkrabwnkarklayphnthukhxngyinintaaehnng G2576T sungebskwanincaaethnthidwyebsithxamin inkhuebsladbthi 2576 khxngkarthxdrhssahrbkarsrang 23S irobosmxlxarexnex odyklikniepnklikkarduxtxyaptichiwnapktikhxngechuxaebkhthieriyskulsaetffiolkhxkhkhssaetrfiolkhxkkhs aelaepnephiyngkliklediywthiechux E faecium duxtxyaniethathikhnphbcnthungpccubn klikkarduxyaxunidrbkarchichdcakechux Streptococcus pneumoniae rwmipthungkarklayphnthukhxngyinthikhwbkhumkarsrangexnismxarexnexemthilthransefxersthitaaehnng G2445 khxng 23S irobosmxlxarexnex aelakarklayphnthuthiepnsaehtuihekidkarephimkhunkhxngkaraesdngxxkkhxng ABC transporter aelainprawtiaelakarkhnphbepnthiruckkninchwngplaythswrrs 1950 waepnsarinklumthimivththiybyngkarthangankhxngexnismmxnxexminxxksieds monoamine oxidase inhibitors txmainthswrrsthi 1970 thimnkwicyinbristh xi ix dupxngtedxenxmur idkhnphbwasarklumdngklawmikhunsmbtiinkartanechuxaebkhthieriy inpi kh s 1978 bristhdupxngtidcdsiththibtrsarprakxbklumxxksaosliidoxnhlaychnidsahrbkarrksaorkhtidechuxaebkhthieriyaelaorkhtidechuxrainphuch aelainpi kh s 1984 idcdsiththibtrephimetimsahrbkarichsarklumdngklawinkarrksakartidechuxaebkhthieriyinstweliynglukdwynm txmapi kh s 1987 nkwithyasastrkhxngbristhdupxngtidbnthukraynganodycdihepnklumkhxngyaptichiwnaklumihm enuxngcakmiklikkarxxkvththithiaetktangcakyaptichiwnachnidxunthimixyuedim xyangirktam sarprakxbklumthikhnphbinchwngaerkerimnnphbwamiswnehniywnaihekidphawatbxkesb thaihkarphthnayaklumnihyudchangklng inchwngthswrrsthi 1990 bristhfarmaesiyaexndxphcxhn Pharmacia amp Upjohn sungpccubnepnswnhnungkhxngifesxr iderimokhrngkarwicyaelaphthnayaklumxxksaosliidoxnkhun karsuksakhwamsmphnthrahwangokhrngsrangaelakarxxkvththikhxngsarprakxbklumdngklawnaipsukarphthnayainklumyxykhxngxnuphnthxxksaosliidoxnhlakhlaychnid sungmikhunsmbtiinkartanechuxaebkhthieriyaelakhwamplxdphyaetktangkn cnthaythisudidsarprakxbsxngchnidthimikhwamehmaasmthicaphthnatxepnyaptichiwnaid khux en chuxrhs PNU 100592 aelailnioslid PNU 100766 inkarphthnachwngkxnkarthdlxnginmnusy yathngsxngchnidnnmikhwamplxdphyaelaprasiththiphaphinkartanechuxaebkhthieriykhlaykhlungkn aetemuxekhasukarwicythangkhlinikinkhnthi 1 ephuxcaaenkkhwamaetktangthangdanephschclnsastrkhxngyathngsxng phbwailnioslidmikhunsmbtidanephschclnsastrthidikwa khux mikhwamthiinkarbriharyaephiyngwnla 2 khrng khnathinntxngbriharyawnla 3 khrngthungcamiprasiththiphaphethiybethakbilnioslid dngnnilnioslidcungidrbkarphthnatxinkarwicythangkhlinikkhntxip hlngsinsudkrabwnsuksathangkhliniktangkhrbthwnaelw xngkhkarxaharaelayaaehngshrthxemrika idkhunthaebiynilnioslidepnyaptichiwnainwnthi 18 emsayn kh s 2000 tamdwybrasilineduxnmithunaynpiediywkn shrachxanackr mkrakhm 2001 yipunaelaaekhnada minakhm 2001 yuorp tlxdpi 2001 aelapraethsxunxikhlaypraethsthnginlatinxemrikaaelaexechiy khxmulemux 2009 update ilnioslidepnyaptichiwnaklumxxksaosliidoxnephiyngchnidediywthiidrbkarrbrxngihichinmnusy swnyaxuninklumninnlwnxyuinkhntxnkarsuksawicy echn posizolid hrux AZD2563 ranbezolid hrux RBx 7644 torezolid hruxTR 701 aela radezolid hrux RX 1741 sngkhmaelawthnthrrmephschesrsthsastr inpi kh s 2009 ilnioslidcdepnyaptichiwnathimirakhakhxnkhangsung odykarrksainrxbhnung xacmiichkhaichcayechphaakhayachnidnimakthung 1000 2000 dxllarshrth sungyngimrwmkhaichcayxun xathi khaichcaythiekiywenuxngkbkarekhaphkrksainorngphyabal xyangirkdi emuxyanimikarichinwngkwangmakkhun thaihkhaichcaydanyainkarrksarxbhnung inshrthxemrikaldlngepnxyangmacak odyinpi kh s 2016 khaichcaydngklawxyuthipraman 137 90 dxllarshrth inpraethsxinediy cakkhxmulpi kh s 2015 karidrbkarrksadwyilenowlid sungswnihyichsahrbkarrksawnorkh epnrayaewla 1 eduxncamikhaichcayechphaayaniephiyng 137 90 dxllarshrth nxkcakniaelw enuxngcakkarbriharyailnioslidnnsamarthprbepliynwithikarbriharyacakkarchidekhahlxdeluxddaepnkarrbprathanthnginrupaebbyaemdhruxyanaidodyimmiphltxprasiththiphaphkarrksa thaihphupwyxacxxkcakorngphyabaliderwkhunaelathakarrksatxthibanodykarichyainrupaebbrbprathan sungkarldrayaewlakarphkrksainorngphyabalechnnikchwyldkhaichcayrwmkhxngkarrksaaemilnioslidcamirakhasungktamemuxepriybethiybkbyaptichiwnakhnanxunktam thngni karsuksawicyinhlaypraethsphbwa mikhwamaetktangkhxngrabbthiichinkarpraemintnthun prasiththiphl cost effectiveness analysis khxngilnioslidethiybkb echn aewnokhmysin hrux phlkarwiekhraahphbwa inkarrksaorkhpxdxkesbchumchn aela kartidechuxaebkhthieriythiphiwhnngaelaokhrngsrangphiwhnngaebbsbsxn complicated skin and skin structure infection swnmakilnioslidcamikhwamkhumkhainechingtnthun prasiththiphlmakkwayaptichiwnaxunkhangtn sungxacepnphlmacakthngxtrakarrksahaykhadaelaxtrakarrxdchiwitthisungkwa aelakharksaphyabalrwmthnghmdthitakwa inpi kh s 2009 ifesxridcayengin 2 3 phnlandxllarshrth ephuxkhlikhlaykhxklawhathangaephngaelathangxayathiekidkhunenuxngcakkarsngesrimkarkhaythikhdtxkhxtklngekiywkbkhwammikhunthrrmkhxngxngkhkr Corporate Integrity Agreement CIA khxngsanknganphutrwckarsungsudkhxngkrathrwngbrikarekiywkbsukhphaphaelamnusyaehngshrthxemrika U S Office of Inspector General of the Department of Health and Human Services OIG odyifesxridthukklawhawamiectnahlxklwngihekidkhwamekhaicphidinyathitangchnidkn sngesrimkarkhayyathimikhnadsungekinip rwmipthungmikarsngesrimkarkhayyaxunxyangphidkdhmay canwnthngsin 4 khnan sung 1 innnkhuxyailnioslid odyinengincanwnni 1 3 phnlandxllarshrth epnkhaprbkhxhaectnahlxklwngihekidkhwamekhaicphidinyachuxkarkha Bextra chuxsamythangyakhux inkhnathi 1 phnlanehriyyshrthepnkhaprbinkarsngesrimkarkhayyathiphidkdhmaycanwn 3 raykarthiehlux odyhnunginnnkhux Zyvox sungepnchuxkarkhakhxngilnioslid chuxkarkha pccubn yatnaebbilnioslidthithukphlitxxksuthxngtladthwolkodyifesxr nnmikarichchuxkarkhathiaetktangkn idaek Zyvox inshrthxemrika shrachxanackr xxsetreliy aelapraethsxun Zyvoxid inyuorp aela Zyvoxam inaekhnadaaelaemksiok swnyasamythiphlitxxksuthxngtladodybristhxun echn Linezomentin inxiyipt odybristh Arabcomed Lenzomore inxinediy odybristh Morepen Linospan inxinediy odybristh Cipla Nezocin inpakisthan odybristh Brookes Voxazoldin inxiyipt odybristh Rotabiogen Lizomed inxinediy inrupaebbyanaechuxmchnidphngaehng odybristh Aglowmed aela Linzolid inbngklaeths odybristh Incepta xangxingsthaniyxyephschkrrmMarino PL Sutin KM 2007 Antimicrobial therapy The ICU book Hagerstown MD Lippincott Williams amp Wilkins p 817 ISBN 0 7817 4802 X a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter Linezolid The American Society of Health System Pharmacists subkhnemux 8 December 2016 Pfizer 2010 07 16 Zyvox linezolid Label Information PDF subkhnemux 2011 04 02 The selection and use of essential medicines Twentieth report of the WHO Expert Committee 2015 including 19th WHO Model List of Essential Medicines and 5th WHO Model List of Essential Medicines for Children PDF WHO 2015 pp 31 33 ISBN 9789240694941 subkhnemux 8 December 2016 Linezolid Side Effects in Detail Drugs com www drugs com subkhnemux 11 December 2016 Swaney SM Aoki H Ganoza MC Shinabarger DL December 1 1998 The Oxazolidinone Linezolid Inhibits Initiation of Protein Synthesis in Bacteria PDF Antimicrobial Agents and Chemotherapy 42 12 3251 5 ISSN 0066 4804 PMC 106030 PMID 9835522 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter lingkesiy Mendes RE Deshpande LM Jones RN April 2014 Linezolid update stable in vitro activity following more than a decade of clinical use and summary of associated resistance mechanisms Drug resistance updates reviews and commentaries in antimicrobial and anticancer chemotherapy 17 1 2 1 12 PMID 24880801 Emergence of resistance has been limited It is still uncertain whether the occurrences of such isolates are becoming more prevalent Li Jie Jack Corey E J 2013 Drug Discovery Practices Processes and Perspectives phasaxngkvs John Wiley amp Sons p 6 ISBN 9781118354469 Torok Estee Moran Ed Cooke Fiona 2009 Chapter 2 Antimicrobials Oxford Handbook of Infectious Diseases and Microbiology phasaxngkvs OUP Oxford ISBN 9780191039621 19th WHO Model List of Essential Medicines April 2015 PDF WHO April 2015 subkhnemux May 10 2015 Linezolid International Drug Price Indicator Guide subkhnemux 8 December 2016 lingkesiy Centers for Medicare and Medicaid Services khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 12 21 subkhnemux 11 December 2016 Grau S Rubio Terres C April 2008 Pharmacoeconomics of linezolid Expert Opinion on Pharmacotherapy 9 6 987 1000 doi 10 1517 14656566 9 6 987 ISSN 1465 6566 PMID 18377341 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Wroe David 2002 02 28 An antibiotic to fight immune bugs The Age subkhnemux 2009 05 16 Wilson AP Cepeda JA Hayman S Whitehouse T Singer M Bellingan G August 2006 In vitro susceptibility of Gram positive pathogens to linezolid and teicoplanin and effect on outcome in critically ill patients PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 58 2 470 3 doi 10 1093 jac dkl233 ISSN 0305 7453 PMID 16735420 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter No authors listed 2009 06 24 electronic Medicines Compendium khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 08 06 subkhnemux 2009 07 03 Herrmann DJ Peppard WJ Ledeboer NA Theesfeld ML Weigelt JA Buechel BJ December 2008 Linezolid for the treatment of drug resistant infections Expert Review of Anti infective Therapy 6 6 825 48 doi 10 1586 14787210 6 6 825 ISSN 1478 7210 PMID 19053895 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Falagas ME Siempos II Vardakas KZ January 2008 Linezolid versus glycopeptide or beta lactam for treatment of Gram positive bacterial infections meta analysis of randomised controlled trials Lancet Infectious Diseases 8 1 53 66 doi 10 1016 S1473 3099 07 70312 2 ISSN 1473 3099 PMID 18156089 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Structured abstract with quality assessment available at DARE Tascini C Gemignani G Doria R aelakhna June 2009 Linezolid treatment for gram positive infections a retrospective comparison with teicoplanin Journal of Chemotherapy 21 3 311 6 doi 10 1179 joc 2009 21 3 311 ISSN 1120 009X PMID 19567352 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Chow I Lemos EV Einarson TR 2008 Management and prevention of diabetic foot ulcers and infections a health economic review PharmacoEconomics 26 12 1019 35 doi 10 2165 0019053 200826120 00005 ISSN 1170 7690 PMID 19014203 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Lipsky BA Itani K Norden C January 2004 Treating foot infections in diabetic patients a randomized multicenter open label trial of linezolid versus ampicillin sulbactam amoxicillin clavulanate Clinical Infectious Diseases 38 1 17 24 doi 10 1086 380449 ISSN 1058 4838 PMID 14679443 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Pigrau C Almirante B April 2009 Oxazolidinones glycopeptides and cyclic lipopeptides PDF Enfermedades Infecciosas y Microbiologia Clinica phasasepn 27 4 236 46 doi 10 1016 j eimc 2009 02 004 PMID 19406516 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 23 subkhnemux 2018 01 06 Vardakas KZ Horianopoulou M Falagas ME June 2008 Factors associated with treatment failure in patients with diabetic foot infections An analysis of data from randomized controlled trials Diabetes Research and Clinical Practice 80 3 344 51 doi 10 1016 j diabres 2008 01 009 ISSN 0168 8227 PMID 18291550 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Grammatikos A Falagas ME 2008 Linezolid for the treatment of skin and soft tissue infection Expert Review of Dermatology 3 5 539 48 doi 10 1586 17469872 3 5 539 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Mandell LA Wunderink RG Anzueto A aelakhna March 2007 Infectious Diseases Society of America American Thoracic Society consensus guidelines on the management of community acquired pneumonia in adults Clinical Infectious Diseases 44 Suppl 2 S27 72 doi 10 1086 511159 ISSN 1058 4838 PMID 17278083 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter BTS Pneumonia Guidelines Committee 2004 04 30 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 04 07 subkhnemux 2009 06 30 February 2005 PDF American Journal of Respiratory and Critical Care Medicine 171 4 388 416 doi 10 1164 rccm 200405 644ST ISSN 1073 449X PMID 15699079 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2008 10 14 subkhnemux 2018 01 06 Koya D Shibuya K Kikkawa R Haneda M December 2004 PDF BMC Nephrology 5 1 18 doi 10 1186 1471 2369 5 18 PMC 544880 PMID 15610562 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 07 20 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Barbachyn MR Ford CW May 2003 Oxazolidinone structure activity relationships leading to linezolid 42 18 2010 23 doi 10 1002 anie 200200528 ISSN 1433 7851 PMID 12746812 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Pankey GA Sabath LD March 2004 Clinical relevance of bacteriostatic versus bactericidal mechanisms of action in the treatment of Gram positive bacterial infections 38 6 864 70 doi 10 1086 381972 ISSN 1058 4838 PMID 14999632 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Falagas ME Manta KG Ntziora F Vardakas KZ August 2006 PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 58 2 273 80 doi 10 1093 jac dkl219 ISSN 0305 7453 PMID 16735427 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2016 02 22 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Babcock HM Ritchie DJ Christiansen E Starlin R Little R Stanley S May 2001 Successful treatment of vancomycin resistant Enterococcus endocarditis with oral linezolid Clinical Infectious Diseases 32 9 1373 5 doi 10 1086 319986 ISSN 1058 4838 PMID 11303275 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Ang JY Lua JL Turner DR Asmar BI December 2003 Vancomycin resistant Enterococcus faecium endocarditis in a premature infant successfully treated with linezolid The Pediatric Infectious Disease Journal 22 12 1101 3 doi 10 1097 01 inf 0000101784 83146 0c ISSN 0891 3668 PMID 14688576 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Archuleta S Murphy B Keller MJ September 2004 Successful treatment of vancomycin resistant Enterococcus faecium endocarditis with linezolid in a renal transplant recipient with human immunodeficiency virus infection Transplant Infectious Disease 6 3 117 9 doi 10 1111 j 1399 3062 2004 00059 x ISSN 1398 2273 PMID 15569227 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Zimmer SM Caliendo AM Thigpen MC Somani J August 2003 Failure of linezolid treatment for enterococcal endocarditis Clinical Infectious Diseases 37 3 e29 30 doi 10 1086 375877 ISSN 1058 4838 PMID 12884185 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Tsigrelis C Singh KV Coutinho TD Murray BE Baddour LM February 2007 Vancomycin Resistant Enterococcus faecalis Endocarditis Linezolid Failure and Strain Characterization of Virulence Factors PDF 45 2 631 5 doi 10 1128 JCM 02188 06 ISSN 0095 1137 PMC 1829077 PMID 17182759 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter lingkesiy Berdal JE Eskesen A 2008 Short term success but long term treatment failure with linezolid for enterococcal endocarditis Scandinavian Journal of Infectious Diseases 40 9 765 6 doi 10 1080 00365540802087209 ISSN 0036 5548 PMID 18609208 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Falagas ME Siempos II Papagelopoulos PJ Vardakas KZ March 2007 Linezolid for the treatment of adults with bone and joint infections International Journal of Antimicrobial Agents 29 3 233 9 doi 10 1016 j ijantimicag 2006 08 030 ISSN 0924 8579 PMID 17204407 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Review Bassetti M Vitale F Melica G aelakhna March 2005 Linezolid in the treatment of Gram positive prosthetic joint infections PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 55 3 387 90 doi 10 1093 jac dki016 ISSN 0305 7453 PMID 15705640 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Aneziokoro CO Cannon JP Pachucki CT Lentino JR December 2005 The effectiveness and safety of oral linezolid for the primary and secondary treatment of osteomyelitis Journal of Chemotherapy 17 6 643 50 doi 10 1179 joc 2005 17 6 643 ISSN 1120 009X PMID 16433195 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Senneville E Legout L Valette M aelakhna August 2006 Effectiveness and tolerability of prolonged linezolid treatment for chronic osteomyelitis a retrospective study Clinical Therapeutics 28 8 1155 63 doi 10 1016 j clinthera 2006 08 001 ISSN 0149 2918 PMID 16982292 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Rao N Hamilton CW October 2007 Efficacy and safety of linezolid for Gram positive orthopedic infections a prospective case series Diagnostic Microbiology and Infectious Disease 59 2 173 9 doi 10 1016 j diagmicrobio 2007 04 006 ISSN 0732 8893 PMID 17574788 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Papadopoulos A Plachouras D Giannitsioti E Poulakou G Giamarellou H Kanellakopoulou K April 2009 Efficacy and tolerability of linezolid in chronic osteomyelitis and prosthetic joint infections a case control study Journal of Chemotherapy 21 2 165 9 doi 10 1179 joc 2009 21 2 165 ISSN 1120 009X PMID 19423469 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter von der Lippe B Sandven P Brubakk O February 2006 Efficacy and safety of linezolid in multidrug resistant tuberculosis MDR TB a report of ten cases Journal of Infection 52 2 92 6 doi 10 1016 j jinf 2005 04 007 ISSN 0163 4453 PMID 15907341 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Park IN Hong SB Oh YM aelakhna September 2006 PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 58 3 701 4 doi 10 1093 jac dkl298 ISSN 0305 7453 PMID 16857689 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 05 12 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Fortun J Martin Davila P Navas E aelakhna July 2005 PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 56 1 180 5 doi 10 1093 jac dki148 ISSN 0305 7453 PMID 15911549 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2013 05 12 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Jaksic B Martinelli G Perez Oteyza J Hartman CS Leonard LB Tack KJ March 2006 Efficacy and safety of linezolid compared with vancomycin in a randomized double blind study of febrile neutropenic patients with cancer Clinical Infectious Diseases 42 5 597 607 doi 10 1086 500139 ISSN 1058 4838 PMID 16447103 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Criticism in doi 10 1086 504431 author reply in doi 10 1086 504437 Moellering RC January 2003 PDF 138 2 135 42 doi 10 7326 0003 4819 138 2 200301210 00015 ISSN 0003 4819 PMID 12529096 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2006 02 25 Cottagnoud P Gerber CM Acosta F Cottagnoud M Neftel K Tauber MG December 2000 Linezolid against penicillin sensitive and resistant pneumococci in the rabbit meningitis model PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 46 6 981 5 doi 10 1093 jac 46 6 981 ISSN 0305 7453 PMID 11102418 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Sabbatani S Manfredi R Frank G Chiodo F June 2005 Le Infezioni in Medicina 13 2 112 9 ISSN 1124 9390 PMID 16220032 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 22 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Ntziora F Falagas ME February 2007 Linezolid for the treatment of patients with central nervous system infection Annals of Pharmacotherapy 41 2 296 308 doi 10 1345 aph 1H307 ISSN 1060 0280 PMID 17284501 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Structured abstract with quality assessment available at DARE 2011 09 02 thi ewyaebkaemchchin Tunkel AR Hartman BJ Kaplan SL aelakhna November 2004 Practice guidelines for the management of bacterial meningitis Clinical Infectious Diseases 39 9 1267 84 doi 10 1086 425368 ISSN 1058 4838 PMID 15494903 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Naesens R Ronsyn M Druwe P Denis O Ieven M Jeurissen A June 2009 Central nervous system invasion by community acquired methicillin resistant Staphylococcus aureus case report and review of the literature 58 Pt 9 1247 51 doi 10 1099 jmm 0 011130 0 ISSN 0022 2615 PMID 19528145 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter FDA March 16 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux October 19 2010 subkhnemux 2010 09 15 Wilcox MH Tack KJ Bouza E aelakhna January 2009 Complicated skin and skin structure infections and catheter related bloodstream infections noninferiority of linezolid in a phase 3 study Clinical Infectious Diseases 48 2 203 12 doi 10 1086 595686 ISSN 1058 4838 PMID 19072714 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Ament PW Jamshed N Horne JP February 2002 65 4 663 70 ISSN 0002 838X PMID 11871684 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 07 24 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Buck ML June 2003 PDF Pediatric Pharmacotherapy 9 6 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 06 05 subkhnemux 2009 06 08 Lexi Comp August 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 04 26 Retrieved on May 14 2009 Lovering AM Le Floch R Hovsepian L aelakhna March 2009 Pharmacokinetic evaluation of linezolid in patients with major thermal injuries Journal of Antimicrobial Chemotherapy 63 3 553 9 doi 10 1093 jac dkn541 ISSN 0305 7453 PMID 19153078 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Davaro RE Glew RH Daly JS 2004 Oxazolidinones quinupristin dalfopristin and daptomycin in Gorbach SL Bartlett JG Blacklow NR b k Infectious diseases Hagerstown MD Lippincott Williams amp Wilkins pp 241 3 ISBN 0 7817 3371 5 subkhnemux 2009 06 20 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter Jones RN Stilwell MG Hogan PA Sheehan DJ April 2007 Activity of Linezolid against 3 251 Strains of Uncommonly Isolated Gram Positive Organisms Report from the SENTRY Antimicrobial Surveillance Program Antimicrobial Agents and Chemotherapy 51 4 1491 3 doi 10 1128 AAC 01496 06 PMC 1855453 PMID 17210770 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Jodlowski TZ Melnychuk I Conry J October 2007 Linezolid for the treatment of Nocardia spp infections 41 10 1694 9 doi 10 1345 aph 1K196 ISSN 1060 0280 PMID 17785610 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter No authors listed 2001 Linezolid First of a New Drug Class for Gram Positive Infections Drugs amp Therapy Perspectives 17 9 1 6 doi 10 2165 00042310 200117090 00001 Free full text with registration at August 5 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux January 26 2010 Retrieved on 2009 05 15 Geisler WM Malhotra U Stamm WE December 2001 PDF Bone Marrow Transplantation 28 12 1171 3 doi 10 1038 sj bmt 1703288 ISSN 0268 3369 PMID 11803363 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 02 26 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Livermore DM September 2000 Quinupristin dalfopristin and linezolid where when which and whether to use PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 46 3 347 50 doi 10 1093 jac 46 3 347 ISSN 0305 7453 PMID 10980159 French G May 2003 Safety and tolerability of linezolid PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 51 Suppl 2 ii45 53 doi 10 1093 jac dkg253 ISSN 0305 7453 PMID 12730142 PDF cakaehlngedimemux 2015 02 13 Review Includes extensive discussion of the hematological adverse effects of linezolid Metaxas EI Falagas ME July 2009 Update on the safety of linezolid Expert Opinion on Drug Safety 8 4 485 91 doi 10 1517 14740330903049706 ISSN 1474 0338 PMID 19538105 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Zabel LT Worm S June 2005 Linezolid contributed to Clostridium difficile colitis with fatal outcome Infection 33 3 155 7 doi 10 1007 s15010 005 4112 6 ISSN 0300 8126 PMID 15940418 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Pelaez T Alonso R Perez C Alcala L Cuevas O Bouza E May 2002 In Vitro Activity of Linezolid against Clostridium difficile PDF Antimicrobial Agents and Chemotherapy 46 5 1617 8 doi 10 1128 AAC 46 5 1617 1618 2002 ISSN 0066 4804 PMC 127182 PMID 11959617 PDF cakaehlngedimemux 2011 09 29 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Lin YH Wu VC Tsai IJ aelakhna October 2006 High frequency of linezolid associated thrombocytopenia among patients with renal insufficiency International Journal of Antimicrobial Agents 28 4 345 51 doi 10 1016 j ijantimicag 2006 04 017 ISSN 0924 8579 PMID 16935472 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Spellberg B Yoo T Bayer AS October 2004 Reversal of linezolid associated cytopenias but not peripheral neuropathy by administration of vitamin B6 PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 54 4 832 5 doi 10 1093 jac dkh405 ISSN 0305 7453 PMID 15317746 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Plachouras D Giannitsioti E Athanassia S aelakhna November 2006 No effect of pyridoxine on the incidence of myelosuppression during prolonged linezolid treatment Clinical Infectious Diseases 43 9 e89 91 doi 10 1086 508280 ISSN 1058 4838 PMID 17029128 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter del Pino BM Chemotherapy induced Peripheral Neuropathy NCI Cancer Bulletin Feb 23 2010 2011 12 11 7 4 6 Cooper Raymond Deakin Jeffrey John 2016 Africa s gift to the world Botanical Miracles Chemistry of Plants That Changed the World pp 46 51 ISBN 9781498704304 Keglevich Peter Hazai Laszlo Kalaus Gyorgy Szantay Csaba 2012 17 5893 5914 doi 10 3390 molecules17055893 PMID 22609781 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 11 10 Ravina Enrique 2011 Vinca alkaloids The evolution of drug discovery From traditional medicines to modern drugs pp 157 159 ISBN 9783527326693 Chemotherapy and polyneuropathies European Association of Neurooncology Magazine 2012 2014 10 06 12 1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 17 March 2016 subkhnemux 4 May 2016 Narita M Tsuji BT Yu VL August 2007 Linezolid associated peripheral and optic neuropathy lactic acidosis and serotonin syndrome Pharmacotherapy 27 8 1189 97 doi 10 1592 phco 27 8 1189 ISSN 0277 0008 PMID 17655517 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Bressler AM Zimmer SM Gilmore JL Somani J August 2004 Peripheral neuropathy associated with prolonged use of linezolid Lancet Infectious Diseases 4 8 528 31 doi 10 1016 S1473 3099 04 01109 0 ISSN 1473 3099 PMID 15288827 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Brown J Aitken SL van Mannen RP June 2011 Potential for Linezolid Related Blindness a Review of Spontaneous Adverse Event Reports Pharmacotherapy 31 6 585 90 doi 10 1592 phco 31 6 585 PMID 21923442 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Chao CC Sun HY Chang YC Hsieh ST January 2008 Painful neuropathy with skin denervation after prolonged use of linezolid Journal of Neurology Neurosurgery amp Psychiatry 79 1 97 9 doi 10 1136 jnnp 2007 127910 ISSN 0022 3050 PMID 17766431 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Saijo T Hayashi K Yamada H Wakakura M June 2005 Linezolid induced optic neuropathy American Journal of Ophthalmology 139 6 1114 6 doi 10 1016 j ajo 2004 11 047 ISSN 0002 9394 PMID 15953450 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Barnhill AE Brewer MT Carlson SA August 2012 Adverse effects of antimicrobials via predictable or idiosyncratic inhibition of host mitochondrial components Antimicrobial Agents and Chemotherapy 56 8 4046 51 doi 10 1128 AAC 00678 12 PMC 3421593 PMID 22615289 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Review For the original case series see Soriano A Miro O Mensa J November 2005 Mitochondrial toxicity associated with linezolid New England Journal of Medicine 353 21 2305 6 doi 10 1056 NEJM200511243532123 ISSN 0028 4793 PMID 16306535 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Javaheri M Khurana RN O hearn TM Lai MM Sadun AA January 2007 Linezolid induced optic neuropathy a mitochondrial disorder British Journal of Ophthalmology 91 1 111 5 doi 10 1136 bjo 2006 102541 ISSN 0007 1161 PMC 1857552 PMID 17179125 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter McKee EE Ferguson M Bentley AT Marks TA June 2006 Inhibition of Mammalian Mitochondrial Protein Synthesis by Oxazolidinones PDF Antimicrobial Agents and Chemotherapy 50 6 2042 9 doi 10 1128 AAC 01411 05 ISSN 0066 4804 PMC 1479116 PMID 16723564 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter lingkesiy Bishop E Melvani S Howden BP Charles PG Grayson ML April 2006 Good Clinical Outcomes but High Rates of Adverse Reactions during Linezolid Therapy for Serious Infections a Proposed Protocol for Monitoring Therapy in Complex Patients PDF Antimicrobial Agents and Chemotherapy 50 4 1599 602 doi 10 1128 AAC 50 4 1599 1602 2006 ISSN 0066 4804 PMC 1426936 PMID 16569895 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter lingkesiy Lawrence KR Adra M Gillman PK June 2006 Serotonin toxicity associated with the use of linezolid a review of postmarketing data Clinical Infectious Diseases 42 11 1578 83 doi 10 1086 503839 ISSN 1058 4838 PMID 16652315 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Huang V Gortney JS December 2006 Risk of serotonin syndrome with concomitant administration of linezolid and serotonin agonists Pharmacotherapy 26 12 1784 93 doi 10 1592 phco 26 12 1784 ISSN 0277 0008 PMID 17125439 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Waknine Yael September 5 2008 FDA Safety Changes Mirena Zyvox Orencia cakaehlngedimemux December 2 2008 subkhnemux 2008 09 06 Freely available with registration Stalker DJ Jungbluth GL 2003 Clinical pharmacokinetics of linezolid a novel oxazolidinone antibacterial Clinical Pharmacokinetics 42 13 1129 40 doi 10 2165 00003088 200342130 00004 ISSN 0312 5963 PMID 14531724 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Slatter JG Stalker DJ Feenstra KL aelakhna August 1 2001 Pharmacokinetics metabolism and excretion of linezolid following an oral dose of 14 C linezolid to healthy human subjects PDF Drug Metabolism and Disposition 29 8 1136 45 ISSN 0090 9556 PMID 11454733 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Sisson TL Jungbluth GL Hopkins NK January 2002 Age and sex effects on the pharmacokinetics of linezolid European Journal of Clinical Pharmacology 57 11 793 7 doi 10 1007 s00228 001 0380 y ISSN 0031 6970 PMID 11868801 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Bialvaei AZ Rahbar M Yousefi M aelakhna February 2017 Linezolid a promising option in the treatment of Gram positives Journal of Antimicrobial Chemotherapy 72 2 354 364 doi 10 1093 jac dkw450 PMID 27999068 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Skripkin E McConnell TS DeVito J aelakhna October 2008 Rx 01 a New Family of Oxazolidinones That Overcome Ribosome Based Linezolid Resistance PDF 52 10 3550 7 doi 10 1128 AAC 01193 07 ISSN 0066 4804 PMC 2565890 PMID 18663023 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter lingkesiy Colca JR McDonald WG Waldon DJ aelakhna June 2003 PDF 278 24 21972 9 doi 10 1074 jbc M302109200 ISSN 0021 9258 PMID 12690106 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2017 09 10 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Ippolito JA Kanyo ZF Wang D aelakhna June 2008 Crystal structure of the oxazolidinone antibiotic linezolid bound to the 50S ribosomal subunit 51 12 3353 6 doi 10 1021 jm800379d ISSN 0022 2623 PMID 18494460 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Wilson DN Schluenzen F Harms JM Starosta AL Connell SR Fucini P September 2008 PDF 105 36 13339 44 doi 10 1073 pnas 0804276105 ISSN 0027 8424 PMC 2533191 PMID 18757750 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2017 09 10 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Brickner SJ 1996 Oxazolidinone antibacterial agents 2 2 175 94 Detailed review of the discovery and development of the whole oxazolidinone class including information on and European Medicines Agency 2011 CHP Assessment Report for Xarelto EMA CHMP 301607 2011 PDF PDF cakaehlngedimemux 2012 01 30 subkhnemux 2012 03 15 Xu GY Zhou Y Xu MC 2006 PDF Chinese Chemical Letters 17 3 302 4 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Kaiser CR Cunico W Pinheiro AC de Oliveira AG Peralta MA de Souza MV 2007 Oxazolidinonas uma nova classe de compostos no combate a tuberculose Oxazolidinones a new class of compounds against tuberculosis PDF Revista Brasileira de Farmacia phasaoprtueks 88 2 83 8 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim pdf emux 2012 05 15 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter US5 837 870 PDF version 1997 03 28 Pearlman BA Perrault WR Barbachyn MR et al Process to prepare oxazolidinones Retrieved on 2009 06 13 Lohray BB Baskaran S Rao BS Reddy BY Rao IN June 1999 A short synthesis of oxazolidinone derivatives linezolid and eperezolid A new class of antibacterials 40 26 4855 6 doi 10 1016 S0040 4039 99 00893 X a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Perrault WR Keeler JB Snyder WC et al June 25 2008 Convergent green synthesis of linezolid Zyvox 2011 07 28 thi ewyaebkaemchchin in 12th Annual Green Chemistry and Engineering Conference June 24 26 2008 New York NY Retrieved on 2009 06 08 Tsiodras S Gold HS Sakoulas G aelakhna July 2001 Linezolid resistance in a clinical isolate of Staphylococcus aureus 358 9277 207 8 doi 10 1016 S0140 6736 01 05410 1 ISSN 0140 6736 PMID 11476839 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Jones RN Ross JE Castanheira M Mendes RE December 2008 United States resistance surveillance results for linezolid LEADER Program for 2007 Diagnostic Microbiology and Infectious Disease 62 4 416 26 doi 10 1016 j diagmicrobio 2008 10 010 ISSN 0732 8893 PMID 19022153 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Jones RN Kohno S Ono Y Ross JE Yanagihara K June 2009 ZAAPS International Surveillance Program 2007 for linezolid resistance results from 5591 Gram positive clinical isolates in 23 countries Diagnostic Microbiology and Infectious Disease 64 2 191 201 doi 10 1016 j diagmicrobio 2009 03 001 ISSN 0732 8893 PMID 19500528 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Hope R Livermore DM Brick G Lillie M Reynolds R November 2008 Non susceptibility trends among staphylococci from bacteraemias in the UK and Ireland 2001 06 PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 62 Suppl 2 ii65 74 doi 10 1093 jac dkn353 ISSN 0305 7453 PMID 18819981 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Auckland C Teare L Cooke F aelakhna November 2002 Linezolid resistant enterococci report of the first isolates in the United Kingdom PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 50 5 743 6 doi 10 1093 jac dkf246 ISSN 0305 7453 PMID 12407134 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Scheetz MH Knechtel SA Malczynski M Postelnick MJ Qi C June 2008 Increasing Incidence of Linezolid Intermediate or Resistant Vancomycin Resistant Enterococcus faecium Strains Parallels Increasing Linezolid Consumption PDF Antimicrobial Agents and Chemotherapy 52 6 2256 9 doi 10 1128 AAC 00070 08 ISSN 0066 4804 PMC 2415807 PMID 18391028 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk lingkesiy Schumacher A Trittler R Bohnert JA Kummerer K Pages JM Kern WV June 2007 Intracellular accumulation of linezolid in Escherichia coli Citrobacter freundii and Enterobacter aerogenes role of enhanced efflux pump activity and inactivation PDF Journal of Antimicrobial Chemotherapy 59 6 1261 4 doi 10 1093 jac dkl380 ISSN 0305 7453 PMID 16971414 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint uses authors parameter Saager B Rohde H Timmerbeil BS aelakhna September 2008 Molecular characterisation of linezolid resistance in two vancomycin resistant VanB Enterococcus faecium is