เลโอนอร์แห่งกัสติยา (สเปน: Leonor de Castilla; อังกฤษ: Eleanor of Castile; ค.ศ. 1241 – 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1290) เป็นพระราชินีแห่งอังกฤษ โดยทรงเป็นพระอัครมเหสีพระองค์แรกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1
เลโอนอร์แห่งกัสติยา | |
---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ | |
ดำรงพระยศ | 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1272 - 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1290 |
พระราชสมภพ | ค.ศ. 1241 บูร์โกส กัสติยา สเปน |
สวรรคต | 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1290 (พระชนมายุ 49 พรรษา) ฮาร์บีย์, น็อตติ้งแฮมเชียร์ |
คู่อภิเษก | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ |
พระบุตร | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ |
ราชวงศ์ | แพลนทาเจเน็ท |
พระบิดา | พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 แห่งกัสติยา |
พระมารดา | ฌานแห่งดามาร์แต็ง สมเด็จพระราชินีแห่งกัสติยา |
เป็นที่รู้กันว่าทั้งคู่มีชีวิตสมรสที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นพิเศษ พระราชินีเลโอนอร์ติดตามพระสวามีทุกหนทุกแห่ง เมื่อพระนางสิ้นพระชนม์ใกล้กับลิงคอล์น พระสวามีของพระนางได้สั่งให้สร้างกางเขนหินอันโด่งดังตามจุดแวะพักระหว่างการแห่ศพจากลิงคอล์นมาลอนดอน สิ้นสุดที่แยกเชอริง
พระราชินีเลโอนอร์มีการศึกษาที่สูงกว่าพระราชินีในสมัยกลางส่วนใหญ่และมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมของชาติเป็นอย่างมาก พระนางเป็นผู้อุปถัมภ์ในด้านวรรณกรรม และส่งเสริมการใช้ผ้าทอ, พรม และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารตามแบบสเปน รวมถึงออกแบบสวนรูปแบบใหม่ในทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
การเสด็จพระราชสมภพ
เลโอนอร์แห่งกัสติยาเสด็จพระราชสมภพในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1241 ที่บูร์โกส โดยทรงเป็นพระราชบุตรคนที่สองในห้าของพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 แห่งกัสติยากับพระราชินีฌานแห่งดามาร์แต็ง เคาน์เตสแห่งปงตีเยอตามสิทธิ์ของตนเองซึ่งเป็นพระมเหสีคนที่สองของกษัตริย์แห่งกัสติยา พระองค์ได้รับตั้งชื่อตามเอลินอร์แห่งอังกฤษ พระอัยกีฝั่งมารดาของพระบิดาซึ่งเป็นพระธิดาของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 แห่งอังกฤษ กับอาลีเยนอร์แห่งอากีแตน และเป็นพระมเหสีของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 8 แห่งกัสติยา นอกเหนือจากพี่น้องร่วมพระบิดามารดาเดียวกัน เลโอนอร์ยังมีพี่น้องต่างมารดาซึ่งเป็นพระราชบุตรของพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 ซึ่งเกิดจาก พระมเหสีคนแรกอีก 10 คน หนึ่งในนั้นคือพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 แห่งกัสติยา ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระบิดา
ในตอนที่พระราชบิดาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1252 เลโอนอร์อยู่ที่เตียงสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 คือ พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 พระเชษฐาต่างมารดาซึ่งมีพระชนมายุมากกว่าเลโอนอร์ 20 พรรษา เลโอนอร์ได้รับการศึกษาในระดับสูงกว่ามาตรฐานในยุคนั้น
การอภิเษกสมรส
หลังการสมรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษกับอาลีเยนอร์แห่งอากีแตน กษัตริย์อังกฤษได้ดินแดนมากมายในฝรั่งเศสมาอยู่ในการครอบครองเป็นส่วนหนึ่งของ แต่ภายหลังในรัชสมัยของกษัตริย์คนต่อๆ มาอังกฤษได้เสียดินแดนดังกล่าวไปจนเหลือเพียงกัสกอญ ในปี ค.ศ. 1252 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 แห่งกัสติยาได้ใช้สิทธิ์ในการเป็นลูกหลานของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 อ้างสิทธิ์ในกัสกอญ ในปี ค.ศ. 1254 ได้มีการเจรจาเรื่องการสมรสระหว่างอินฟันตาเลโอนอร์ พระขนิษฐาต่างมารดาของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 กับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ
การสมรสแบบคลุมถุงชนของเลโอนอร์กับอนาคตพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ (ขณะนั้นยังเป็นเพียงเจ้าชาย) ได้รับข้อสรุปในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1254 ทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันในลำดับที่สองโดยมีบรรพบุรุษร่วมกันคือพระเจ้าเฮนรีที่ 2 อินฟันตาเลโอนอร์แห่งกัสติยาวัย 13 พรรษาสมรสกับลอร์ดเอ็ดเวิร์ด พระโอรสวัย 15 พรรษาของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษที่อารามลัสฮูเอลกัสในบูร์โกสในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1254 เพื่อเป็นเกียรติแก่การสมรสพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 พระเชษฐาของเลโอนอร์ได้ยกการอ้างสิทธิ์ในกัสกอญให้แก่เอ็ดเวิร์ด ทั้งยังแต่งตั้งเอ็ดเวิร์ดเป็นอัศวินก่อนเข้าพิธีสมรส
สองสามีภรรยาวัยหนุ่มสาวอาศัยอยู่ในกัสกอญเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อให้เอ็ดเวิร์ดได้ฝึกการบริหารบ้านเมืองโดยมีเลโอนอร์คอยให้ความช่วยเหลือ การสมรสน่าจะสมบูรณ์ในเวลาไม่นานเนื่องจากเลโอนอร์ได้ให้กำเนิดพระธิดาที่สิ้นพระชนม์หลังการประสูติในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1255 ในตอนนั้นเลโอนอร์มีพระชนมายุเพียง 14 พรรษาการให้กำเนิดบุตรจึงเป็นเรื่องยาก ทั้งคู่เดินทางกลับอังกฤษในช่วงปลายปี ค.ศ. 1255
สงครามบารอนครั้งที่สอง
ในช่วงปี ค.ศ. 1260 ถึง ค.ศ. 1263 เลโอนอร์กับเอ็ดเวิร์ดเดินทางไปยังทวีปใหญ่ (ทวีปยุโรป) ในปี ค.ศ. 1264 เมื่อบารอนฝ่ายตรงข้ามของพระเจ้าเฮนรีเข้ายึดอำนาจอังกฤษในช่วงสงครามบารอนครั้งที่สอง ทั้งคู่ได้เดินทางกลับมาอังกฤษพร้อมกับพลธนูจากในฝรั่งเศสของพระมารดาของเลโอนอร์ ลือกันว่าพระนางพยายามจะนำกองทหารจากกัสติยาเข้ามาในอังกฤษ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1264 หลังความพ่ายแพ้ของฝ่ายกษัตริย์ที่สมรภูมิลูอิส พระเจ้าเฮนรีที่ 3 และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดถูกจับกุมตัว ซิมง เดอ มงต์ฟอร์ ผู้นำกลุ่มบารอนได้สั่งให้เลโอนอร์ย้ายออกจากปราสาทวินด์เซอร์ พระนางถูกกักบริเวณในพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เดอ มงฟอร์ได้เข้ามาควบคุมการบริหารบ้านเมืองและเรียกประชุมสภาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1265 ไม่นานเอ็ดเวิร์ดก็หาทางหนีออกมาจากคุกได้และได้บดขยี้กลุ่มกบฏที่สมรภูมิอีฟแชม
สงครามครูเสด
ตั้งแต่ ค.ศ. 1270 จนถึง ค.ศ. 1273 เลโอนอร์ติดตามเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดไปทำสงครามครูเสดครั้งที่ 8 ซึ่งมีพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส พระมาตุลาของเอ็ดเวิร์ดเป็นผู้นำ พระเจ้าหลุยส์สิ้นลมหายใจที่คาร์เธจในทวีปแอฟริกาก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางไปถึง เลโอนอร์กับเอ็ดเวิร์ดจึงใช้เวลาในช่วงฤดูหนาวที่ซิซิลี ทั้งคู่ไปถึงกรุงเอเคอร์ในปาเลสไตน์ (ปัจจุบันอยู่ในอิสราเอล) ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1271 แม้สงครามครูเสดจะดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ แต่ชื่อเสียงของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดในฐานะนักรบเป็นที่เลื่องลือจนทำให้เกิดพยายามลอบสังหารพระองค์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1272 ด้วยการให้เอมีร์คนหนึ่งไปเจรจากับเจ้าชายอังกฤษโดยอ้างว่าต้องการให้พระองค์ช่วยทำภารกิจลับ ระหว่างการพูดคุยพระองค์ถูกลอบทำร้ายด้วยกริชอาบยาพิษจนได้รับบาดเจ็บที่แขน เกิดเป็นแผลติดเชื้อร้ายแรง พระองค์รอดชีวิตได้ด้วยการช่วยเหลือของศัลยแพทย์อังกฤษที่ตัดเนื้อส่วนที่ติดเชื้อทิ้ง แต่ต่อมามีการใส่สีเติมแต่งว่าเลโอนอร์ได้ช่วยชีวิตพระองค์ด้วยการดูดพิษจากบาดแผล
หลังเหตุการณ์ดังกล่าวสองสามีภรรยาได้เดินทางออกจากปาเลสไตน์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1272 ในเดือนธันวาคมระหว่างอยู่ในซิซิลีทั้งคู่ได้ทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 สองสามีภรรยาจึงรีบเดินทางกลับอังกฤษ ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1273 ทั้งคู่เดินทางผ่านโรมและได้แวะเยี่ยมเยียนสมเด็จพระสันตะปาปา ทั้งคู่เดินทางไปถึงกัสกอญในฤดูร้อน จากนั้นได้เดินทางไปปงตีเยอเพื่อเยี่ยมเยียนพระมารดาของเลโอนอร์ สุดท้ายจึงข้ามช่องแคบอังกฤษไปเข้ารับการสวมมงกุฎพร้อมกันที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1274 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่กษัตริย์และพระราชินีราชาภิเษกร่วมกันนับตั้งแต่การพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มัน
พระมารดาของเลโอนอร์สิ้นพระชนม์ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1279 พระนางได้สืบทอดตำแหน่งเป็นเคาน์เตสแห่งปงตีเยอต่อจากพระมารดาแต่ไม่เคยได้ใช้ยศดังกล่าวในอังกฤษ
การสมรสกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดของเลโอนอร์ไม่เป็นที่นิยมของประชาชนที่ไม่ไว้ใจ "ชาวต่างชาติ" ความคิดที่จะนำกองทัพจากสเปนเข้ามาในช่วงสงครามบารอนครั้งที่สองสร้างความกังวลให้แก่ชาวอังกฤษ เลโอนอร์ให้การสนับสนุนพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 กษัตริย์แห่งกัสติยาและเลอนผู้เป็นพระเชษฐาเสมอ แต่พระนางทำอย่างระวังตัวเพื่อไม่ให้เป็นการสร้างศัตรู ทรงใช้วิธีจับคู่สมรสด้วยการให้ญาติหญิงของพระองค์สมรสกับบารอนอังกฤษ
แม้การสมรสจะถูกมองในแง่ลบแต่เลโอนอร์กับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็เป็นคู่สมรสที่ซื่อสัตย์ต่อกัน พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 เป็นหนึ่งในกษัตริย์สมัยกลางไม่กี่คนที่ไม่มีความสัมพันธ์ชู้สาวนอกสมรสและไม่มีบุตรนอกสมรส ทั้งคู่มีชีวิตสมรสที่เต็มไปด้วยความรักและไม่เคยแยกจากกันตลอดการสมรส เลโอนอร์ติดตามพระสวามีไปทุกหนทุกแห่ง
พระราชินีคู่สมรสแห่งอังกฤษ
หลังการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 พระราชินีม่ายอะลิอูโนแห่งพรอว็องส์ พระมารดาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดยังคงอยู่ในอังกฤษและช่วยเลี้ยงดูพระนัดดาซึ่งเป็นพระโอรสธิดาของพระราชินีเลโอนอร์ เมื่อเฮนรี พระนัดดาที่อยู่ในการดูแลของพระนางสิ้นพระชนม์ พระราชินีม่ายโศกเศร้าเป็นอย่างมาก ทรงก่อตั้งศาสนสำนักกิลด์ฟอร์ดขึ้นมาเพื่อเป็นการระลึกถึงพระนัดดา เมื่อพระโอรสคนที่สามของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและเลโอนอร์ประสูติที่บายอนในกัสกอญในวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1273 พระองค์ได้รับการตั้งชื่อตามพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 แห่งกัสติยา พระมาตุลาซึ่งเป็นพ่อทูนหัว จึงมีชื่อว่าอัลฟอนโซซึ่งไม่มีความเป็นอังกฤษ พระราชินีเลโอนอร์ให้กำเนิดอนาคตพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ที่ปราสาทคายร์นาร์วอนในวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1284 หลังพระอนุชาประสูติได้ไม่นานอัลฟอนโซก็สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 10 พรรษา เอ็ดเวิร์ดวัย 4 เดือนจึงกลายเป็นทายาทของพระราชบิดา ตลอดชีวิตสมรส 36 ปี แม้ไม่ชัดเจนว่าทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันกี่คน แต่เท่าที่รู้คือมีพระธิดา 11 คนและพระโอรสอีก 4-5 คนเป็นอย่างน้อย ได้แก่
- พระธิดา (ประสูติ ค.ศ. 1255) สิ้นพระชนม์ตอนคลอด
- แคทเธอรีน (ประสูติ ค.ศ. 1261) สิ้นพระชนม์หลังพระบิดาถูกจับกุมตัวที่สมรภูมิลูอิสและพระมารดาถูกสั่งให้ออกจากปราสาทวินด์เซอร์
- โจน (ประสูติ ค.ศ. 1265) ประสูติหลังสิ้นสุดสงครามบารอนครั้งที่ 2 สิ้นพระชนม์ในวัยทารก
- จอห์น (ประสูติ ค.ศ. 1266) สิ้นพระชนม์ในวัยเด็ก
- เฮนรี (ประสูติ ค.ศ. 1268) สิ้นพระชนม์ในวัยเยาว์
- เอลิเนอร์ (ประสูติ ค.ศ. 1269) ถูกหมั้นหมายกับ แต่คู่หมายสิ้นพระชนม์ก่อนที่การสมรสจะเกิดขึ้น ต่อมาสมรสกับอ็องรีที่ 3 เคานต์แห่งบาร์
- พระธิดา (ประสูติ ค.ศ. 1271) ประสูติในช่วงสงครามครูเสด สิ้นพระชนม์หลังคลอด
- โจนแห่งเอเคอร์ (ประสูติ ค.ศ. 1272) ประสูติในช่วงสงครามครูเสด สมรสครั้งแรกกับ ต่อมาสมรสครั้งที่สองกับ
- อัลฟอนโซ เอิร์ลแห่งเชสเตอร์ (ประสูติ ค.ศ. 1273) ประสูติที่กัสกอญระหว่างพระบิดามารดาเดินทางกลับจากสงครามครูเสด สิ้นพระชนม์ในวัยเยาว์
- (ประสูติ ค.ศ. 1275) สมรสกับ
- เบเรนกาเรีย (ประสูติ ค.ศ. 1276) สิ้นพระชนม์ในวัยเด็ก
- พระธิดา (ประสุติ ค.ศ. 1277/8) สิ้นพระชนม์ในวัยทารก
- แมรี (ประสูติ ค.ศ. 1279) แม่ชีคณะเบเนดิกติน
- พระโอรส (ประสูติ ค.ศ. 1280/1) สิ้นพระชนม์ในการคลอด
- (ประสูติ ค.ศ. 1282) สมรสครั้งแรกกับ ต่อมาสมรสครั้งที่สองกับฮัมฟรีย์ เดอ โบฮัน เอิร์ลที่ 4 แห่งเฮริฟอร์ดและเอิร์ลที่ 3 แห่งเอสเซ็กซ์
- พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ (ประสูติ ค.ศ. 1284) หรือเอ็ดเวิร์ดแห่งคายร์นาร์วอน
แม้จะมีพระโอรสธิดาด้วยกันมากมายแต่มีเพียง 6 คนที่มีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่ คือ เอลิเนอร์แห่งอังกฤษ เคาน์เตสแห่งบาร์, โจนแห่งเอเคอร์, มาร์กาเร็ตแห่งอังกฤษ ดัชเชสแห่งบราบองต์, แมรีแห่งวูดสต็อก, เอลิซาเบธแห่งริดแลน และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ พระโอรสเพียงคนเดียวที่มีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่
การสิ้นพระชนม์
หลังให้กำเนิดพระโอรสธิดามากมายสุขภาพของเลโอนอร์เริ่มทรุดโทรมลง ใน ค.ศ. 1287 ระหว่างอยู่ในกัสกอญทรงป่วยเป็นไข้จับสั่น ซึ่งคาดว่าน่าเป็นโรคมาลาเรียสายพันธุ์ร้ายแรง ในฤดูใบไมผลิของ ค.ศ. 1290 ข่าวการสิ้นพระชนม์ของมาร์กาเร็ต สาวน้อยแห่งนอร์เวย์ ทายาทแห่งสกอตแลนด์มาถึงราชสำนัก พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเข้าร่วมการประชุมสภานิติบัญญัติที่นอตทิงแฮมเชอร์และตัดสินใจพำนักอยู่ในทางตอนเหนือของอังกฤษต่อ เลโอนอร์ติดตามพระสวามีขึ้นเหนืออย่างไม่รีบร้อน ระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังมุ่งหน้าไปยังลิงคอล์น พระราชินีเลโอนอร์ล้มป่วยเป็นไข้ คาดว่าไข้จับสั่นที่พระนางเคยเป็นใน ค.ศ. 1287 อาจกำเริบ อาการของพระนางทรุดลงเมื่อทั้งคู่ไปถึงหมู่บ้านฮาร์บีย์ในนอตทิงแฮมเชอร์ซึ่งอยู่ห่างจากลิงคอล์น 22 ไมล์ ทรงสิ้นพระชนม์ที่นั่นในบ่ายของวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1290 ด้วยวัย 49 พรรษา พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดอยู่ที่เตียงสิ้นพระชนม์และโศกเศร้าอย่างมากกับการสูญเสียครั้งนี้
การสิ้นพระชนม์ของพระนางส่งผลกระทบอย่างมากต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ผู้ไม่เคยสะทกสะท้านต่อสิ่งใด ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1291 พระองค์ได้เขียนจดหมายเพื่อหาคนมาสวดมนต์ให้แก่ดวงวิญญาณของพระมเหสีผู้ล่วงลับ "ผู้เป็นที่รักยิ่งของเราในยามที่มีวิต และผู้ที่ความตายไม่สามารถบั่นทอนความรักของเราได้" หลังการสิ้นพระชนม์ร่างของพระนางถูกนำไปทำการดองศพที่ศาสนสำนักนักบุญแคทเธอรีนในลิงคอล์น การดองศพในคริสต์ศตวรรษที่ 13 จะมีการควักอวัยวะภายในออกมา เครื่องในและอวัยวะภายในของเลโอนอร์ถูกฝังไว้ในอาสนวิหารลิงคอล์น ขณะที่หัวใจและร่างถูกนำไปลอนดอนเพื่อฝังที่วิหารเวสต์มิสเตอร์ ขบวนแห่พระศพอันยิ่งใหญ่จากลิงคอร์นสู่ลอนดอนใช้เวลาเดินทาง 12 วันผ่านทางแยกสิบสองแห่ง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้สั่งให้สร้างอนุสาวรีย์ "แยกเลโอนอร์" อันโด่งดังเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระมเหสีผู้ล่วงลับที่ทางแยกทั้งสิบสองแห่ง คือ ลิงคอล์น, แกรนแธม, สแตมฟอร์ด, เก็ดดิงตัน, ฮาร์ดิงสโตนใกล้กับนอร์แทมป์ตัน, สโตนีสแตร็ตฟอร์ด, โวเบิร์น, ดันสเตเบิล, เซนต์อัลบันส์, วอลแธม, เวสต์ชีพ และเชอริง (เพี้ยนมาจาก เชอร์ เรน์ ครอส - แยกราชินีผู้เป็นที่รัก) ปัจจุบันอนุสาวรีย์ที่ศาสนสำนักของนักบุญแคทเธอรีนซึ่งตั้งอยู่ที่ปราสาทลินคอล์นหลงเหลืออยู่เพียงบางส่วน ขณะที่อีกแห่งในเก็ดดิงตัน, ฮาร์ดิงตัน และวอลแธมยังคงสภาพสมบูรณ์ ทั้งยังมีอนุสาวรีย์จำลองอยู่ในที่อื่นๆ เช่นที่แบนบรี พิธีฝังศพของเลโอนอร์ในวิหารเวสต์มินสเตอร์ถูกจัดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1290
หลังพระราชินีเลโอนอร์สิ้นพระชนม์ได้สิบปีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดอภิเษกสมรสใหม่กับมาร์เกอรีตแห่งฝรั่งเศส พระธิดาของพระเจ้าฟีลิปที่ 3 แห่งฝรั่งเศส พระธิดาคนเดียวของทั้งคู่ถูกตั้งชื่อว่าเอลิเนอร์เพื่อเป็นการระลึกถึงอดีตพระมเหสี (เอลิเนอร์ในภาษาอังกฤษ = เลโอนอร์ในภาษาสเปน) หลังพระองค์สิ้นพระชนม์ใน ค.ศ. 1307 ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือเอ็ดเวิร์ดแห่งคายร์นาร์วอน พระโอรสที่เกิดจากเลโอนอร์เพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่
อ้างอิง
- Eleanor of Castile (1241 - 1290): English Monarchs
- Eleanor Of Castile QUEEN OF ENGLAND: Britannica
- Eleanor of Castile – Edward I’s Queen: History of Royal Women
- Eleanor of Castile, Queen of England: The Freelance History Writer
- Sara Cockerill – Eleanor of Castile, The Shadow Queen p. 38-40 (UK & US)
- Sara Cockerill – Eleanor of Castile, The Shadow Queen p. 59
- Elizabeth Norton – England’s Queens from Boudica to Elizabeth of York p.150 (UK & US)
- Elizabeth Norton – England’s Queens from Boudica to Elizabeth of York p.152-153
- Elizabeth Norton – England’s Queens from Boudica to Elizabeth of York p.156
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
eloxnxraehngkstiya sepn Leonor de Castilla xngkvs Eleanor of Castile kh s 1241 28 phvscikayn kh s 1290 epnphrarachiniaehngxngkvs odythrngepnphraxkhrmehsiphraxngkhaerkkhxngphraecaexdewirdthi 1eloxnxraehngkstiyasmedcphrarachiniaehngxngkvsdarngphrays16 phvscikayn kh s 1272 28 phvscikayn kh s 1290phrarachsmphphkh s 1241 buroks kstiya sepnswrrkht28 phvscikayn kh s 1290 phrachnmayu 49 phrrsa harbiy nxttingaehmechiyrkhuxphieskphraecaexdewirdthi 1 aehngxngkvsphrabutrphraecaexdewirdthi 2 aehngxngkvsrachwngsaephlnthaecenthphrabidaphraecaefrnnodthi 3 aehngkstiyaphramardachanaehngdamaraetng smedcphrarachiniaehngkstiya epnthiruknwathngkhumichiwitsmrsthiiklchidsnithsnmknepnphiess phrarachinieloxnxrtidtamphraswamithukhnthukaehng emuxphranangsinphrachnmiklkblingkhxln phraswamikhxngphranangidsngihsrangkangekhnhinxnodngdngtamcudaewaphkrahwangkaraehsphcaklingkhxlnmalxndxn sinsudthiaeykechxring phrarachinieloxnxrmikarsuksathisungkwaphrarachiniinsmyklangswnihyaelamixiththiphltxwthnthrrmkhxngchatiepnxyangmak phranangepnphuxupthmphindanwrrnkrrm aelasngesrimkarichphathx phrm aelaekhruxngichbnotaxahartamaebbsepn rwmthungxxkaebbswnrupaebbihminthrphysinswnphramhakstriykaresdcphrarachsmphpheloxnxraehngkstiyaesdcphrarachsmphphineduxnphvscikayn kh s 1241 thiburoks odythrngepnphrarachbutrkhnthisxnginhakhxngphraecaefrnnodthi 3 aehngkstiyakbphrarachinichanaehngdamaraetng ekhanetsaehngpngtieyxtamsiththikhxngtnexngsungepnphramehsikhnthisxngkhxngkstriyaehngkstiya phraxngkhidrbtngchuxtamexlinxraehngxngkvs phraxykifngmardakhxngphrabidasungepnphrathidakhxngphraecaehnrithi 2 aehngxngkvs kbxalieynxraehngxakiaetn aelaepnphramehsikhxngphraecaxlfxnosthi 8 aehngkstiya nxkehnuxcakphinxngrwmphrabidamardaediywkn eloxnxryngmiphinxngtangmardasungepnphrarachbutrkhxngphraecaefrnnodthi 3 sungekidcak phramehsikhnaerkxik 10 khn hnunginnnkhuxphraecaxlfxnosthi 10 aehngkstiya phusubthxdtaaehnngtxcakphrabida intxnthiphrarachbidasinphrachnminpi kh s 1252 eloxnxrxyuthietiyngsinphrachnmkhxngphraxngkh phusubthxdbllngktxcakphraecaefrnnodthi 3 khux phraecaxlfxnosthi 10 phraechsthatangmardasungmiphrachnmayumakkwaeloxnxr 20 phrrsa eloxnxridrbkarsuksainradbsungkwamatrthaninyukhnnkarxphiesksmrsruppnaekaslkkhxngeloxnxraehngkstiyakbraecaexdewirdthi 1 aehngxngkvsthixasnwiharlingkhxln hlngkarsmrskhxngphraecaehnrithi 2 aehngxngkvskbxalieynxraehngxakiaetn kstriyxngkvsiddinaednmakmayinfrngessmaxyuinkarkhrxbkhrxngepnswnhnungkhxng aetphayhlnginrchsmykhxngkstriykhntx maxngkvsidesiydinaedndngklawipcnehluxephiyngkskxy inpi kh s 1252 phraecaxlfxnosthi 10 aehngkstiyaidichsiththiinkarepnlukhlankhxngphraecaehnrithi 2 xangsiththiinkskxy inpi kh s 1254 idmikarecrcaeruxngkarsmrsrahwangxinfntaeloxnxr phrakhnisthatangmardakhxngphraecaxlfxnosthi 10 kbecachayexdewird phraoxrskhxngphraecaehnrithi 3 aehngxngkvs karsmrsaebbkhlumthungchnkhxngeloxnxrkbxnakhtphraecaexdewirdthi 1 aehngxngkvs khnannyngepnephiyngecachay idrbkhxsrupineduxnminakhm kh s 1254 thngkhuepnlukphiluknxngkninladbthisxngodymibrrphburusrwmknkhuxphraecaehnrithi 2 xinfntaeloxnxraehngkstiyawy 13 phrrsasmrskblxrdexdewird phraoxrswy 15 phrrsakhxngphraecaehnrithi 3 aehngxngkvsthixaramlshuexlksinburoksinwnthi 1 phvscikayn kh s 1254 ephuxepnekiyrtiaekkarsmrsphraecaxlfxnosthi 10 phraechsthakhxngeloxnxridykkarxangsiththiinkskxyihaekexdewird thngyngaetngtngexdewirdepnxswinkxnekhaphithismrs sxngsamiphrryawyhnumsawxasyxyuinkskxyepnewlahnungpiephuxihexdewirdidfukkarbriharbanemuxngodymieloxnxrkhxyihkhwamchwyehlux karsmrsnacasmburninewlaimnanenuxngcakeloxnxridihkaenidphrathidathisinphrachnmhlngkarprasutiineduxnphvsphakhm kh s 1255 intxnnneloxnxrmiphrachnmayuephiyng 14 phrrsakarihkaenidbutrcungepneruxngyak thngkhuedinthangklbxngkvsinchwngplaypi kh s 1255sngkhrambarxnkhrngthisxnginchwngpi kh s 1260 thung kh s 1263 eloxnxrkbexdewirdedinthangipyngthwipihy thwipyuorp inpi kh s 1264 emuxbarxnfaytrngkhamkhxngphraecaehnriekhayudxanacxngkvsinchwngsngkhrambarxnkhrngthisxng thngkhuidedinthangklbmaxngkvsphrxmkbphlthnucakinfrngesskhxngphramardakhxngeloxnxr luxknwaphranangphyayamcanakxngthharcakkstiyaekhamainxngkvs ineduxnmithunayn kh s 1264 hlngkhwamphayaephkhxngfaykstriythismrphumiluxis phraecaehnrithi 3 aelaecachayexdewirdthukcbkumtw simng edx mngtfxr phunaklumbarxnidsngiheloxnxryayxxkcakprasathwindesxr phranangthukkkbriewninphrarachwngewstminsetxr edx mngfxridekhamakhwbkhumkarbriharbanemuxngaelaeriykprachumsphakhrngaerkinpi kh s 1265 imnanexdewirdkhathanghnixxkmacakkhukidaelaidbdkhyiklumkbtthismrphumixifaechmsngkhramkhruesdphapheloxnxrkalngdudphiscakbadaephlkhxngecachayexdewird tngaet kh s 1270 cnthung kh s 1273 eloxnxrtidtamecachayexdewirdipthasngkhramkhruesdkhrngthi 8 sungmiphraecahluysthi 9 aehngfrngess phramatulakhxngexdewirdepnphuna phraecahluyssinlmhayicthikharethcinthwipaexfrikakxnthithngkhucaedinthangipthung eloxnxrkbexdewirdcungichewlainchwngvduhnawthisisili thngkhuipthungkrungexekhxrinpaelsitn pccubnxyuinxisraexl ineduxnphvsphakhm kh s 1271 aemsngkhramkhruesdcadaeninipxyangeruxy aelaimkxihekidpraoychnid aetchuxesiyngkhxngecachayexdewirdinthanankrbepnthieluxngluxcnthaihekidphyayamlxbsngharphraxngkhineduxnmithunayn kh s 1272 dwykarihexmirkhnhnungipecrcakbecachayxngkvsodyxangwatxngkarihphraxngkhchwythapharkiclb rahwangkarphudkhuyphraxngkhthuklxbtharaydwykrichxabyaphiscnidrbbadecbthiaekhn ekidepnaephltidechuxrayaerng phraxngkhrxdchiwitiddwykarchwyehluxkhxngslyaephthyxngkvsthitdenuxswnthitidechuxthing aettxmamikarissietimaetngwaeloxnxridchwychiwitphraxngkhdwykardudphiscakbadaephl hlngehtukarndngklawsxngsamiphrryaidedinthangxxkcakpaelsitnineduxnknyayn kh s 1272 ineduxnthnwakhmrahwangxyuinsisilithngkhuidthrabkhawkarsinphrachnmkhxngphraecaehnrithi 3 sxngsamiphrryacungribedinthangklbxngkvs ineduxnkumphaphnth kh s 1273 thngkhuedinthangphanormaelaidaewaeyiymeyiynsmedcphrasntapapa thngkhuedinthangipthungkskxyinvdurxn caknnidedinthangippngtieyxephuxeyiymeyiynphramardakhxngeloxnxr sudthaycungkhamchxngaekhbxngkvsipekharbkarswmmngkudphrxmknthiwiharewstminsetxrineduxnsinghakhm kh s 1274 sungnbepnkhrngaerkthikstriyaelaphrarachinirachaphieskrwmknnbtngaetkarphichitxngkvskhxngchawnxrmn phramardakhxngeloxnxrsinphrachnmineduxnminakhm kh s 1279 phranangidsubthxdtaaehnngepnekhanetsaehngpngtieyxtxcakphramardaaetimekhyidichysdngklawinxngkvs karsmrskbphraecaexdewirdkhxngeloxnxrimepnthiniymkhxngprachachnthiimiwic chawtangchati khwamkhidthicanakxngthphcaksepnekhamainchwngsngkhrambarxnkhrngthisxngsrangkhwamkngwlihaekchawxngkvs eloxnxrihkarsnbsnunphraecaxlfxnosthi 10 kstriyaehngkstiyaaelaelxnphuepnphraechsthaesmx aetphranangthaxyangrawngtwephuximihepnkarsrangstru thrngichwithicbkhusmrsdwykarihyatihyingkhxngphraxngkhsmrskbbarxnxngkvs aemkarsmrscathukmxnginaenglbaeteloxnxrkbphraecaexdewirdkepnkhusmrsthisuxstytxkn phraecaexdewirdthi 1 epnhnunginkstriysmyklangimkikhnthiimmikhwamsmphnthchusawnxksmrsaelaimmibutrnxksmrs thngkhumichiwitsmrsthietmipdwykhwamrkaelaimekhyaeykcakkntlxdkarsmrs eloxnxrtidtamphraswamiipthukhnthukaehngphrarachinikhusmrsaehngxngkvstrapracaphraxngkhkhxngphrarachinieloxnxraehngkstiyainthanaphrarachinikhusmrsaehngxngkvs hlngkarsinphrachnmkhxngphraecaehnrithi 3 phrarachinimayxalixuonaehngphrxwxngs phramardakhxngphraecaexdewirdyngkhngxyuinxngkvsaelachwyeliyngduphranddasungepnphraoxrsthidakhxngphrarachinieloxnxr emuxehnri phranddathixyuinkarduaelkhxngphranangsinphrachnm phrarachinimayoskesraepnxyangmak thrngkxtngsasnsankkildfxrdkhunmaephuxepnkarralukthungphrandda emuxphraoxrskhnthisamkhxngphraecaexdewirdaelaeloxnxrprasutithibayxninkskxyinwnthi 24 phvscikayn kh s 1273 phraxngkhidrbkartngchuxtamphraecaxlfxnosthi 10 aehngkstiya phramatulasungepnphxthunhw cungmichuxwaxlfxnossungimmikhwamepnxngkvs phrarachinieloxnxrihkaenidxnakhtphraecaexdewirdthi 2 thiprasathkhayrnarwxninwnthi 25 emsayn kh s 1284 hlngphraxnuchaprasutiidimnanxlfxnosksinphrachnmdwywyephiyng 10 phrrsa exdewirdwy 4 eduxncungklayepnthayathkhxngphrarachbida tlxdchiwitsmrs 36 pi aemimchdecnwathngkhumiphraoxrsthidadwyknkikhn aetethathirukhuxmiphrathida 11 khnaelaphraoxrsxik 4 5 khnepnxyangnxy idaek phrathida prasuti kh s 1255 sinphrachnmtxnkhlxd aekhthethxrin prasuti kh s 1261 sinphrachnmhlngphrabidathukcbkumtwthismrphumiluxisaelaphramardathuksngihxxkcakprasathwindesxr ocn prasuti kh s 1265 prasutihlngsinsudsngkhrambarxnkhrngthi 2 sinphrachnminwythark cxhn prasuti kh s 1266 sinphrachnminwyedk ehnri prasuti kh s 1268 sinphrachnminwyeyaw exlienxr prasuti kh s 1269 thukhmnhmaykb aetkhuhmaysinphrachnmkxnthikarsmrscaekidkhun txmasmrskbxxngrithi 3 ekhantaehngbar phrathida prasuti kh s 1271 prasutiinchwngsngkhramkhruesd sinphrachnmhlngkhlxd ocnaehngexekhxr prasuti kh s 1272 prasutiinchwngsngkhramkhruesd smrskhrngaerkkb txmasmrskhrngthisxngkb xlfxnos exirlaehngechsetxr prasuti kh s 1273 prasutithikskxyrahwangphrabidamardaedinthangklbcaksngkhramkhruesd sinphrachnminwyeyaw prasuti kh s 1275 smrskb ebernkaeriy prasuti kh s 1276 sinphrachnminwyedk phrathida prasuti kh s 1277 8 sinphrachnminwythark aemri prasuti kh s 1279 aemchikhnaebendiktin phraoxrs prasuti kh s 1280 1 sinphrachnminkarkhlxd prasuti kh s 1282 smrskhrngaerkkb txmasmrskhrngthisxngkbhmfriy edx obhn exirlthi 4 aehngehrifxrdaelaexirlthi 3 aehngexsesks phraecaexdewirdthi 2 aehngxngkvs prasuti kh s 1284 hruxexdewirdaehngkhayrnarwxn aemcamiphraoxrsthidadwyknmakmayaetmiephiyng 6 khnthimichiwitxyucnthungwyphuihy khux exlienxraehngxngkvs ekhanetsaehngbar ocnaehngexekhxr markaertaehngxngkvs dchechsaehngbrabxngt aemriaehngwudstxk exlisaebthaehngridaeln aelaphraecaexdewirdthi 2 aehngxngkvs phraoxrsephiyngkhnediywthimichiwitxyucnthungwyphuihykarsinphrachnmrupaekaslkhlumsphkhxngeloxnxraehngkstiyathixasnwiharlingkhxln hlngihkaenidphraoxrsthidamakmaysukhphaphkhxngeloxnxrerimthrudothrmlng in kh s 1287 rahwangxyuinkskxythrngpwyepnikhcbsn sungkhadwanaepnorkhmalaeriysayphnthurayaerng invduibimphlikhxng kh s 1290 khawkarsinphrachnmkhxngmarkaert sawnxyaehngnxrewy thayathaehngskxtaelndmathungrachsank phraecaexdewirdekharwmkarprachumsphanitibyytithinxtthingaehmechxraelatdsinicphankxyuinthangtxnehnuxkhxngxngkvstx eloxnxrtidtamphraswamikhunehnuxxyangimribrxn rahwangthisxngsamiphrryakalngmunghnaipynglingkhxln phrarachinieloxnxrlmpwyepnikh khadwaikhcbsnthiphranangekhyepnin kh s 1287 xackaerib xakarkhxngphranangthrudlngemuxthngkhuipthunghmubanharbiyinnxtthingaehmechxrsungxyuhangcaklingkhxln 22 iml thrngsinphrachnmthinninbaykhxngwnthi 28 phvscikayn kh s 1290 dwywy 49 phrrsa phraecaexdewirdxyuthietiyngsinphrachnmaelaoskesraxyangmakkbkarsuyesiykhrngni xnusawriyaeykeloxnxrinekddingtn praethsxngkvs karsinphrachnmkhxngphranangsngphlkrathbxyangmaktxphraecaexdewirdthi 1 phuimekhysathksathantxsingid ineduxnmkrakhm kh s 1291 phraxngkhidekhiyncdhmayephuxhakhnmaswdmntihaekdwngwiyyankhxngphramehsiphulwnglb phuepnthirkyingkhxngerainyamthimiwit aelaphuthikhwamtayimsamarthbnthxnkhwamrkkhxngeraid hlngkarsinphrachnmrangkhxngphranangthuknaipthakardxngsphthisasnsanknkbuyaekhthethxrininlingkhxln kardxngsphinkhriststwrrsthi 13 camikarkhwkxwywaphayinxxkma ekhruxnginaelaxwywaphayinkhxngeloxnxrthukfngiwinxasnwiharlingkhxln khnathihwicaelarangthuknaiplxndxnephuxfngthiwiharewstmisetxr khbwnaehphrasphxnyingihycaklingkhxrnsulxndxnichewlaedinthang 12 wnphanthangaeyksibsxngaehng phraecaexdewirdidsngihsrangxnusawriy aeykeloxnxr xnodngdngephuxepnthiralukthungphramehsiphulwnglbthithangaeykthngsibsxngaehng khux lingkhxln aekrnaethm saetmfxrd ekddingtn hardingsotniklkbnxraethmptn sotnisaetrtfxrd owebirn dnsetebil esntxlbns wxlaethm ewstchiph aelaechxring ephiynmacak echxr ern khrxs aeykrachiniphuepnthirk pccubnxnusawriythisasnsankkhxngnkbuyaekhthethxrinsungtngxyuthiprasathlinkhxlnhlngehluxxyuephiyngbangswn khnathixikaehnginekddingtn hardingtn aelawxlaethmyngkhngsphaphsmburn thngyngmixnusawriycalxngxyuinthixun echnthiaebnbri phithifngsphkhxngeloxnxrinwiharewstminsetxrthukcdkhuninwnthi 17 thnwakhm kh s 1290 hlngphrarachinieloxnxrsinphrachnmidsibpiphraecaexdewirdxphiesksmrsihmkbmarekxritaehngfrngess phrathidakhxngphraecafilipthi 3 aehngfrngess phrathidakhnediywkhxngthngkhuthuktngchuxwaexlienxrephuxepnkarralukthungxditphramehsi exlienxrinphasaxngkvs eloxnxrinphasasepn hlngphraxngkhsinphrachnmin kh s 1307 phusubthxdtaaehnngtxcakphraxngkhkhuxexdewirdaehngkhayrnarwxn phraoxrsthiekidcakeloxnxrephiyngkhnediywthiyngmichiwitxyuxangxingEleanor of Castile 1241 1290 English MonarchsEleanor Of Castile QUEEN OF ENGLAND Britannica Eleanor of Castile Edward I s Queen History of Royal Women Eleanor of Castile Queen of England The Freelance History WriterSara Cockerill Eleanor of Castile The Shadow Queen p 38 40 UK amp US Sara Cockerill Eleanor of Castile The Shadow Queen p 59 Elizabeth Norton England s Queens from Boudica to Elizabeth of York p 150 UK amp US Elizabeth Norton England s Queens from Boudica to Elizabeth of York p 152 153 Elizabeth Norton England s Queens from Boudica to Elizabeth of York p 156 bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk