คาร์เธจ (อังกฤษ: Carthage) เป็นนครโบราณทางตะวันออกของในบริเวณที่ปัจจุบันคือประเทศตูนิเซีย คาร์เธจเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญที่สุดและเป็นหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสมัยคลาสสิก โดยกลายเป็นเมืองหลวงของอารยธรรมคาร์เธจโบราณและในภายหลัง
คาร์เธจ * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
(ประเทศ) | ตูนิเซีย |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
(เกณฑ์พิจารณา) | ii, iii, vi |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2522 (คณะกรรมการสมัยที่ 3) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
บน: อาสนวิหารคาร์เธจเซนต์-ลุยส์, มัสยิดมะลิก อิบน์ อะนัส, กลาง: , ล่าง: , ทวิอัฒจันทร์คาร์เธจ (ทั้งหมดจากซ้ายไปขวา) | |
แสดงที่ตั้งภายในตูนิเซีย | |
ที่ตั้ง | ตูนิเซีย |
---|---|
ภูมิภาค | |
พิกัด | 36°51′10″N 10°19′24″E / 36.8528°N 10.3233°E |
นครนี้พัฒนาจากอาณานิคมฟินิเชียไปเป็นเมืองหลวงจักรวรรดิที่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ในเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตกเฉียงใต้ในช่วงสหัสวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช พระราชินีเอลิสซา อาลิสซา หรือในตำนานมาจากไทร์ ถือเป็นผู้ก่อตั้งนครนี้ แม้มีการตั้งคำถามถึงความเป็นประวัติศาสตร์ของพระนาง ในตำนาน ดีโดขอที่ดินจากชนเผ่าพื้นเมืองที่บอกพระนางว่าสามารถหาที่ดินได้มากที่สุดเท่าที่ผืนหนังโคครอบคลุมได้ พระนางจึงตัดผืนหนังโคเป็นเส้นแล้ววางขอบรอบของเมืองใหม่ เมื่อคาร์เธจเจริญรุ่งเรื่อง ทางหน่วยการเมืองจึงส่งชาวอาณานิคมในต่างประเทศรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารไปปกครองอาณานิคมด้วย
นครโบราณถูกทำลายในเกือบ 3 ปีโดยสาธารณรัฐโรมันในช่วงสงครามพิวนิกครั้งที่สามเมื่อ 146 ปีก่อน ค.ศ. ภายหลังจึงพัฒนาใหม่ในฐานะ ซึ่งกลายเป็นนครหลักของจักรวรรดิโรมันในมณฑลอัฟริกา ข้อคำถามการเสื่อมถอยและล่มสลายของคาร์เธจยังคงเป็นหัวข้ออภิปรายทางวรรณกรรม การเมือง ศิลปะ และปรัชญาทั้งในประวัติศาสตร์สมัยโบราณและสมัยใหม่
คาร์เธจในสมัยโบราณตอนปลายถึงสมัยกลางยังคงมีบทบาทสำคัญทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจในสมัยไบแซนไทน์ นครนี้ถูกปล้นทรัพย์และทำลายโดยกองทัพอุมัยยะฮ์หลังใน ค.ศ. 698 เพื่อไม่ให้จักรวรรดิไบแซนไทน์เข้าพิชิตอีกครั้ง โดยยังอยู่ภายใต้การคอรงครองใน่ชวงสมัยมุสลิม และฝ่ายมุสลิมใช้เป็นป้อมจนกระทั่งสมัยที่พวกครูเสดเข้ายึดครองและสังหารหมู่พลเมืองในช่วงสงครามครูเสดครั้งที่ 8 ราชวงศ์ฮัฟศิดจึตัดสินใจทำลายแนวป้องกันของตน เพื่อไม่ให้นครนี้ถูกใช้เป็นฐานทัพจากฝ่ายที่ไม่เป็นมิตรอีกต่อไป นครนี้ยังคงทำหน้าที่เป็น (episcopal see)
อำนาจภูมิภาคเคลื่อนย้ายไปยังอัลก็อยเราะวานและในจนกระทั่งต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมื่อเริ่มมีการพัฒนาไปเป็นชานเมืองชายฝั่งของตูนิส ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของใน ค.ศ. 1919 มีการสำรวจแหล่งโบราณคดีครั้งแรกใน ค.ศ. 1830 โดย กงสุลชาวเดนมาร์ก จากนั้นจึงมีการขุดค้นในครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดย กับ ได้รับการสถาปนาใน ค.ศ. 1875 โดยพระคาร์ดินัล การขุดค้นโดยนักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสในคริสต์ทศวรรษ 1920 ในตอนแรกได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับ ทำให้มีความขัดแย้งกันในหมู่นักวิชาการอย่างมากว่าคาร์เธจสมัยโบราณมีการบูชายัญเด็กหรือไม่ พื้นที่โบราณสถานเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก
ศัพทมูลวิทยา
ชื่อ Carthage (/ˈkɑːrθɪdʒ/ kar-thij) เป็นรูปแผลงอังกฤษจากว่า การ์ตาเฌอ (Carthage, /kartaʒə/) จากภาษาละติน Carthāgō กับ Karthāgō (เทียบกรีก Karkhēdōn (Καρχηδών) และ *Carθaza) จากภาษาพิวนิก qrt-ḥdšt (𐤒𐤓𐤕 𐤇𐤃𐤔𐤕) "นครใหม่" เป็นนัยถึง "ไทร์ใหม่"
รูปภาษาอาหรับมาตรฐานสมัยใหม่ (قرطاج) ดัดแปลงจากภาษาฝรั่งเศส Carthage แทนที่ภูมินามวิทยาท้องถิ่นเก่าที่รายงานเป็น Cartagenna ซึ่งสืบมาจากชื่อภาษาละตินโดยตรง
ประวัติสมัยโบราณ
สาธารณรัฐพิวนิก
สาธารณรัฐคาร์เธจเป็นหนึ่งในรัฐที่ใหญ่ที่สุดและดำรงอยู่นานที่สุดในเมดิเตอร์เรเนียนโบราณ โดยมีรายงานเกี่ยวกับสงครามต่อ Syracuse และโรมในท้ายที่สุด ซึ่งนำไปสู่ความพ่ายแ้และการทำลายล้ายคาร์เธจในสงครามพิวนิกครั้งที่สาม ชาวคาร์เธจเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานชาวฟินิเชียที่มีตำกำเนิดจากเมดิเตอร์เรเนียนชายฝั่งตะวันออกใกล้ พวกเขาพูดที่เป็นภาษาเซมิติก และนับถือ ความเชื่อพื้นเมืองของศาสนาคานาอันโบราณ
การล่มสลายของคาร์เธจเกิดขึ้นในช่วงสิ้นสุดของสงครามพิวนิกครั้งที่สามในเมื่อ 146 ปีก่อน ค.ศ. ชาวโรมันดึงเรือรบฟินิเชียออกไปยังท่าเรือและเผามันต่อหน้านคร และเดินไปตามในอต่ละบ้านเพื่อจับคนไปเป็นทาส ชาวคาร์เธจประมาณ 50,000 คนถูกขายไปเป็น ตัวนครถูกเผาและพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังและเศษหิน หลังคาร์เธจล่มสลาย ทางโรมจึงผนวกอาณานิคมคาร์เธจส่วนใหญ่ ซึ่งรวมนิคมบริเวณแอฟริกาเหนืออย่าง , ,
ตำนานโรยเกลือ
มีการอ้างว่าคาร์เธจถูกหลังตัวนครถูกทำลายไปแล้ว โดยมีบันทึกตั้งแต่อย่างน้อยใน ค.ศ. 1863 แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนสิ่งนี้
คาร์เธจของโรมัน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประวัติสมัยใหม่
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1985 นายยูโก้ เวเตเร่ (Ugo Vetere) ของกรุงโรมในขณะนั้น ทำสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการกับ นายเชดดี้ คลีบิ (Chedly Klibi) นายกเทศมนตรีของตูนีส เพื่อยุติฉากสงครามระหว่างสองชนชาติอย่างเป็นทางการอันยาวนานถึง 2,248 ปี หลังสงครามพิวนิกครั้งที่สาม
หมายเหตุ
อ้างอิง
- Hitchner, R.; R. Talbert; S. Gillies; J. Åhlfeldt; R. Warner; J. Becker; T. Elliott. "Places: 314921 (Carthago)". Pleiades. สืบค้นเมื่อ 7 April 2013.
- Josephus, (Book I, §18)
- HAEGEMANS, Karen (2000-01-01). "Elissa, the First Queen of Carthage". Ancient Society. 30: 277–291. doi:10.2143/as.30.0.565564. ISSN 0066-1619.
- Li, Hansong (2022). "Locating Mobile Sovereignty: Carthage in Natural Jurisprudence". History of Political Thought. 43 (2): 246–272. สืบค้นเมื่อ 13 August 2022.
- Winterer, Caroline (2010). "Model Empire, Lost City: Ancient Carthage and the Science of Politics in Revolutionary America". The William and Mary Quarterly. 67 (1): 3–30. doi:10.5309/willmaryquar.67.1.3. JSTOR 10.5309/willmaryquar.67.1.3. สืบค้นเมื่อ 13 August 2022.
- Bosworth, C. Edmund (2008). Historic Cities of the Islamic World. Brill Academic Press. p. 536. ISBN .
- Anna Leone (2007). Changing Townscapes in North Africa from Late Antiquity to the Arab Conquest. Edipuglia srl. Edipuglia srl. pp. 179–186. ISBN .
- Thomas F. Madden; James L. Naus; Vincent Ryan, บ.ก. (2018). Crusades – Medieval Worlds in Conflict. Oxford University Press. pp. 113, 184. ISBN .
- Skeletal Remains from Punic Carthage Do Not Support Systematic Sacrifice of Infants
- Ancient Carthaginians really did sacrifice their children. 2020-12-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน University of Oxford News
- "Archaeological Site of Carthage". World Heritage Centre (ภาษาอังกฤษ). UNESCO. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-11-28. สืบค้นเมื่อ 19 October 2021.
- c.f. Marlowes (c. 1590); Middle English still used the Latin form Carthago, e.g., , Polychronicon (1387) 1.169: That womman Dido that founded Carthago was comlynge.
- ดู:
- Wolfgang David Cirilo de Melo (ed), Amphitryon, Volume 4 of The Loeb Classical Library: Plautus, Harvard University Press, 2011, p. 210 2022-11-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน;
- D. Gary Miller, Ancient Greek Dialects and Early Authors: Introduction to the Dialect Mixture in Homer, with Notes on Lyric and Herodotus, Walter de Gruyter, 2014, p. 39 2022-11-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- Knapp, Wilfrid (1977). North West Africa: A Political and Economic Survey. p. 15. ISBN .
- "Carthage: new excavations in a Mediterranean capital". ugent.be.
- Audollent (1901:203)
- Pellechia, Thomas (2006). Wine: The 8,000-Year-Old Story of the Wine Trade. London: Running Press. ISBN .
- "Ancient History". infoplease.com.
- "C. Michael Hogan (2007) Volubilis, The Megalithic Portal, ed. by A. Burnham".
- ; (1858–1863). "Carthage". The New American Cyclopædia: a Popular Dictionary of General Knowledge. Vol. 4. New York: D. Appleton. p. 497. OCLC 1173144180. สืบค้นเมื่อ 29 July 2020.
- Warmington, B. H. (1988). "The Destruction of Carthage: A Retractation". Classical Philology. 83 (4): 308–310. doi:10.1086/367123. S2CID 162850949.
- Stevens, 1988, pp. 39–40.
ข้อมูล
- Polybius, The Histories, Cambridge: translated from the Latin by W.R. Paton for Harvard University Press from 1922 to 1927.
- Polybius, , History, 'Book VI', Milwaukee: translated from the Latin by Oliver J. Thatcher for University Research Extension Co. in 1907, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-05, สืบค้นเมื่อ 2006-06-08.
- Ernest Babelon, Carthage, Paris (1896).
- Auguste Audollent, Carthage Romaine, 146 avant Jésus-Christ – 698 après Jésus-Christ, Paris (1901).
- Charles-Picard, Gibert; และคณะ (1958), La vie quotidienne à Carthage au temps d'Hannibal [Daily Life in Carthage in the Time of Hannibal], Paris: Hachette. (ในภาษาฝรั่งเศส)
- Bath, Tony (1981), Hannibal's Campaigns, New York: Barnes & Noble Books.
- Aubet, Maria Eugenia (1987), The Phoenicians and the West: Politics, Colonies, and Trade, : Cambridge University Press.
- Soren, David; และคณะ (1990), Carthage: Uncovering the Mysteries and Splendors of Ancient Tunisia, New York: Simon & Schuster.
- Beschaouch, Azedine (1993), La légende de Carthage [The Legend of Carthage], , vol. 172, Paris: Gallimard. (ในภาษาฝรั่งเศส)
- Raven, S. (2002), Rome in Africa, 3rd ed.
- (2004), Itineraria Phoenicia, Leuven: Uitgeverij Peeters en Department Oosterse Studies.
- Winterer, Caroline (2010), "Model Empire, Lost City: Ancient Carthage and the Science of Politics in Revolutionary America", The William and Mary Quarterly, 67 (1): 3–30, doi:10.5309/willmaryquar.67.1.3, JSTOR 10.5309/willmaryquar.67.1.3
- Freed, J. (2011), Bringing Carthage Home: The Excavations of Nathan Davis, 1856–1859.
- Miles, Richard (2011), Carthage Must Be Destroyed: The Rise and Fall of an Ancient Civilization, Viking.
- Li, Hansong (2022). "Locating Mobile Sovereignty: Carthage in Natural Jurisprudence" History of Political Thought 43(2): 246–272.
แหล่งข้อมูลอื่น
- นิยามแบบพจนานุกรมของ Carthago ที่วิกิพจนานุกรม
- คู่มือการท่องเที่ยว Carthage จากวิกิท่องเที่ยว (ในภาษาอังกฤษ)
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Carthage
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
kharethc xngkvs Carthage epnnkhrobranthangtawnxxkkhxnginbriewnthipccubnkhuxpraethstuniesiy kharethcepnhnunginsunyklangthangkarkhathisakhythisudaelaepnhnunginemuxngthirarwythisudinsmykhlassik odyklayepnemuxnghlwngkhxngxarythrrmkharethcobranaelainphayhlngkharethc aehlngmrdkolkodyyuensokpraeths tuniesiypraephthmrdkthangwthnthrrmeknthphicarnaii iii viprawtikarkhunthaebiynkhunthaebiyn2522 khnakrrmkarsmythi 3 chuxtamthiidkhunthaebiyninbychiaehlngmrdkolk phumiphakhthicdaebngodyyuensokkharethcbn xasnwiharkharethcesnt luys msyidmalik xibn xans klang lang thwixthcnthrkharethc thnghmdcaksayipkhwa aesdngthitngphayintuniesiythitngtuniesiyphumiphakhphikd36 51 10 N 10 19 24 E 36 8528 N 10 3233 E 36 8528 10 3233 nkhrniphthnacakxananikhmfiniechiyipepnemuxnghlwngckrwrrdithikinphunthiswnihyinemdietxrereniyntawntkechiyngitinchwngshswrrsthi 1 kxnkhristskrach phrarachiniexlissa xalissa hruxintananmacakithr thuxepnphukxtngnkhrni aemmikartngkhathamthungkhwamepnprawtisastrkhxngphranang intanan diodkhxthidincakchnephaphunemuxngthibxkphranangwasamarthhathidinidmakthisudethathiphunhnngokhkhrxbkhlumid phranangcungtdphunhnngokhepnesnaelwwangkhxbrxbkhxngemuxngihm emuxkharethcecriyrungeruxng thanghnwykaremuxngcungsngchawxananikhmintangpraethsrwmthngecahnathifaybriharippkkhrxngxananikhmdwy nkhrobranthukthalayinekuxb 3 piodysatharnrthormninchwngsngkhramphiwnikkhrngthisamemux 146 pikxn kh s phayhlngcungphthnaihminthana sungklayepnnkhrhlkkhxngckrwrrdiormninmnthlxfrika khxkhathamkaresuxmthxyaelalmslaykhxngkharethcyngkhngepnhwkhxxphipraythangwrrnkrrm karemuxng silpa aelaprchyathnginprawtisastrsmyobranaelasmyihm kharethcinsmyobrantxnplaythungsmyklangyngkhngmibthbathsakhythangwthnthrrmaelaesrsthkicinsmyibaesnithn nkhrnithukplnthrphyaelathalayodykxngthphxumyyahhlngin kh s 698 ephuximihckrwrrdiibaesnithnekhaphichitxikkhrng odyyngxyuphayitkarkhxrngkhrxnginchwngsmymuslim aelafaymuslimichepnpxmcnkrathngsmythiphwkkhruesdekhayudkhrxngaelasngharhmuphlemuxnginchwngsngkhramkhruesdkhrngthi 8 rachwngshfsidcutdsinicthalayaenwpxngknkhxngtn ephuximihnkhrnithukichepnthanthphcakfaythiimepnmitrxiktxip nkhrniyngkhngthahnathiepn episcopal see xanacphumiphakhekhluxnyayipyngxlkxyeraawanaelaincnkrathngtnkhriststwrrsthi 20 emuxerimmikarphthnaipepnchanemuxngchayfngkhxngtunis phnwkekhaepnswnhnungkhxngin kh s 1919 mikarsarwcaehlngobrankhdikhrngaerkin kh s 1830 ody kngsulchawednmark caknncungmikarkhudkhninkhrunghlngkhxngkhriststwrrsthi 19 ody kb idrbkarsthapnain kh s 1875 odyphrakhardinl karkhudkhnodynkobrankhdichawfrngessinkhristthswrrs 1920 intxnaerkidrbkhwamsnicepnphiess enuxngcakmihlkthanthiekiywkhxngkb thaihmikhwamkhdaeyngkninhmunkwichakarxyangmakwakharethcsmyobranmikarbuchayyedkhruxim phunthiobransthanepnaehlngmrdkolkkhxngyuensok source source source source source source source source track track track track track track widioxcalxngkharethc emuxnghlwngkhxngchawkhanaxnsphthmulwithyachux Carthage ˈ k ɑːr 8 ɪ dʒ kar thij epnrupaephlngxngkvscakwa kartaechx Carthage kartaʒe cakphasalatin Carthagō kb Karthagō ethiybkrik Karkhedōn Karxhdwn aela Car8aza cakphasaphiwnik qrt ḥdst 𐤒𐤓𐤕 𐤇𐤃𐤔𐤕 nkhrihm epnnythung ithrihm rupphasaxahrbmatrthansmyihm قرطاج ddaeplngcakphasafrngess Carthage aethnthiphuminamwithyathxngthinekathiraynganepn Cartagenna sungsubmacakchuxphasalatinodytrngprawtismyobransatharnrthphiwnik karlmslaykhxngckrwrrdikharethc esiyaekorminsngkhramphiwnikkhrngthihnung 264 241 pikxn kh s iddinaednhlngsngkhramphiwnikkhrngthihnung aetesiyinsngkhramphiwnikkhrngthisxng esiyinsngkhramphiwnikkhrngthisxng 218 201 pikxn kh s thukormphichitinsngkhramphiwnikkhrngthisam 149 146 pikxn kh s satharnrthkharethcepnhnunginrththiihythisudaeladarngxyunanthisudinemdietxrereniynobran odymiraynganekiywkbsngkhramtx Syracuse aelaorminthaythisud sungnaipsukhwamphayaeaelakarthalaylaykharethcinsngkhramphiwnikkhrngthisam chawkharethcepnphutngthinthanchawfiniechiythimitakaenidcakemdietxrereniynchayfngtawnxxkikl phwkekhaphudthiepnphasaesmitik aelanbthux khwamechuxphunemuxngkhxngsasnakhanaxnobran saknkhrkharethc karlmslaykhxngkharethcekidkhuninchwngsinsudkhxngsngkhramphiwnikkhrngthisaminemux 146 pikxn kh s chawormndungeruxrbfiniechiyxxkipyngthaeruxaelaephamntxhnankhr aelaediniptaminxtlabanephuxcbkhnipepnthas chawkharethcpraman 50 000 khnthukkhayipepn twnkhrthukephaaelaphngthlaylngehluxephiyngsakprkhkphngaelaesshin hlngkharethclmslay thangormcungphnwkxananikhmkharethcswnihy sungrwmnikhmbriewnaexfrikaehnuxxyang tananoryeklux mikarxangwakharethcthukhlngtwnkhrthukthalayipaelw odymibnthuktngaetxyangnxyin kh s 1863 aetimmihlkthansnbsnunsingni kharethckhxngormn swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidprawtismyihmineduxnkumphaphnth pi 1985 nayyuok eweter Ugo Vetere khxngkrungorminkhnann thasyyasntiphaphxyangepnthangkarkb nayechddi khlibi Chedly Klibi naykethsmntrikhxngtunis ephuxyutichaksngkhramrahwangsxngchnchatixyangepnthangkarxnyawnanthung 2 248 pi hlngsngkhramphiwnikkhrngthisamhmayehtuphiwnikaelafiniechiy 𐤒𐤓𐤕𐤇𐤃𐤔𐤕 xksrormn Qartḥadast aepltrngtw nkhrihm latin Carthagō xxkesiyng karˈtʰaːɡoː ethiybkbaexraemxik קרתא חדתא Qarta Ḥadtaʾ hibru קרת חדשה Qeret Ḥadasah aelaxahrb قرية حديثة Qarya Ḥadiṯa khakhunsphth qrt ḥdty Carthaginian xangxingHitchner R R Talbert S Gillies J Ahlfeldt R Warner J Becker T Elliott Places 314921 Carthago Pleiades subkhnemux 7 April 2013 Josephus Book I 18 HAEGEMANS Karen 2000 01 01 Elissa the First Queen of Carthage Ancient Society 30 277 291 doi 10 2143 as 30 0 565564 ISSN 0066 1619 Li Hansong 2022 Locating Mobile Sovereignty Carthage in Natural Jurisprudence History of Political Thought 43 2 246 272 subkhnemux 13 August 2022 Winterer Caroline 2010 Model Empire Lost City Ancient Carthage and the Science of Politics in Revolutionary America The William and Mary Quarterly 67 1 3 30 doi 10 5309 willmaryquar 67 1 3 JSTOR 10 5309 willmaryquar 67 1 3 subkhnemux 13 August 2022 Bosworth C Edmund 2008 Historic Cities of the Islamic World Brill Academic Press p 536 ISBN 978 9004153882 Anna Leone 2007 Changing Townscapes in North Africa from Late Antiquity to the Arab Conquest Edipuglia srl Edipuglia srl pp 179 186 ISBN 978 8872284988 Thomas F Madden James L Naus Vincent Ryan b k 2018 Crusades Medieval Worlds in Conflict Oxford University Press pp 113 184 ISBN 978 0198744320 Skeletal Remains from Punic Carthage Do Not Support Systematic Sacrifice of Infants Ancient Carthaginians really did sacrifice their children 2020 12 14 thi ewyaebkaemchchin University of Oxford News Archaeological Site of Carthage World Heritage Centre phasaxngkvs UNESCO cakaehlngedimemux 2005 11 28 subkhnemux 19 October 2021 c f Marlowes c 1590 Middle English still used the Latin form Carthago e g Polychronicon 1387 1 169 That womman Dido that founded Carthago was comlynge du Wolfgang David Cirilo de Melo ed Amphitryon Volume 4 of The Loeb Classical Library Plautus Harvard University Press 2011 p 210 2022 11 26 thi ewyaebkaemchchin D Gary Miller Ancient Greek Dialects and Early Authors Introduction to the Dialect Mixture in Homer with Notes on Lyric and Herodotus Walter de Gruyter 2014 p 39 2022 11 26 thi ewyaebkaemchchin Knapp Wilfrid 1977 North West Africa A Political and Economic Survey p 15 ISBN 0192156357 Carthage new excavations in a Mediterranean capital ugent be Audollent 1901 203 Pellechia Thomas 2006 Wine The 8 000 Year Old Story of the Wine Trade London Running Press ISBN 1 56025 871 3 Ancient History infoplease com C Michael Hogan 2007 Volubilis The Megalithic Portal ed by A Burnham 1858 1863 Carthage The New American Cyclopaedia a Popular Dictionary of General Knowledge Vol 4 New York D Appleton p 497 OCLC 1173144180 subkhnemux 29 July 2020 Warmington B H 1988 The Destruction of Carthage A Retractation Classical Philology 83 4 308 310 doi 10 1086 367123 S2CID 162850949 Stevens 1988 pp 39 40 khxmul Polybius The Histories Cambridge translated from the Latin by W R Paton for Harvard University Press from 1922 to 1927 Polybius History Book VI Milwaukee translated from the Latin by Oliver J Thatcher for University Research Extension Co in 1907 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 02 05 subkhnemux 2006 06 08 Ernest Babelon Carthage Paris 1896 Auguste Audollent Carthage Romaine 146 avant Jesus Christ 698 apres Jesus Christ Paris 1901 Charles Picard Gibert aelakhna 1958 La vie quotidienne a Carthage au temps d Hannibal Daily Life in Carthage in the Time of Hannibal Paris Hachette inphasafrngess Bath Tony 1981 Hannibal s Campaigns New York Barnes amp Noble Books Aubet Maria Eugenia 1987 The Phoenicians and the West Politics Colonies and Trade Cambridge University Press Soren David aelakhna 1990 Carthage Uncovering the Mysteries and Splendors of Ancient Tunisia New York Simon amp Schuster Beschaouch Azedine 1993 La legende de Carthage The Legend of Carthage vol 172 Paris Gallimard inphasafrngess Raven S 2002 Rome in Africa 3rd ed 2004 Itineraria Phoenicia Leuven Uitgeverij Peeters en Department Oosterse Studies Winterer Caroline 2010 Model Empire Lost City Ancient Carthage and the Science of Politics in Revolutionary America The William and Mary Quarterly 67 1 3 30 doi 10 5309 willmaryquar 67 1 3 JSTOR 10 5309 willmaryquar 67 1 3 Freed J 2011 Bringing Carthage Home The Excavations of Nathan Davis 1856 1859 Miles Richard 2011 Carthage Must Be Destroyed The Rise and Fall of an Ancient Civilization Viking Li Hansong 2022 Locating Mobile Sovereignty Carthage in Natural Jurisprudence History of Political Thought 43 2 246 272 aehlngkhxmulxunwikisxrs mibthkhwamcak ekiywkb Carthage ancient city niyamaebbphcnanukrmkhxng Carthago thiwikiphcnanukrm khumuxkarthxngethiyw Carthage cakwikithxngethiyw inphasaxngkvs wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb Carthage