เวียงแก้ว เป็นเขตพระราชฐานของเวียงเชียงใหม่ เปรียบได้ดังพระราชวังและสัญลักษณ์ของกษัตริย์ ตั้งอยู่กลางเวียงค่อนไปทางเหนือของเวียงเชียงใหม่ สันนิษฐานว่า สร้างมาพร้อมกับการสร้างเวียงเชียงใหม่ของพญามังราย ซึ่งภายในเวียงแก้วเดิม มีกำแพงแบ่งอาณาเขตออกเป็น 3 ส่วน คือส่วนเหนือ ส่วนใต้ และส่วนตะวันออก ภายในเวียงแก้วแต่ละส่วนประกอบไปด้วยหมู่อาคารราชมณเฑียร
อาคารเรือนเพ็ญ ส่วนหนึ่งของเรือนจำที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เวียงแก้ว | |
ที่ตั้ง | ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ |
---|---|
ประเภท | คุ้มหลวง |
ความเป็นมา | |
ผู้สร้าง | พระเจ้ากาวิละ |
สร้าง | พ.ศ. 2339 |
สมัย | นครเชียงใหม่ |
หมายเหตุเกี่ยวกับสถานที่ | |
ขุดค้น | พ.ศ. 2560 |
ผู้ขุดค้น | กรมศิลปากร |
สภาพ | เหลือเพียงฐานอิฐ |
ผู้บริหารจัดการ | สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย (สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่) |
การเปิดให้เข้าชม | ยังไม่เปิดให้เข้าชม |
เวียงแก้วซึ่งได้เป็นที่พำนักของเจ้านครเชียงใหม่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2339 จึงสิ้นสภาพการเป็น คุ้มหลวง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2413 เมื่อครั้นพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ถึงแก่พิราลัย เจ้าอุปราชอินทนนท์ ซึ่งได้รับสถาปนาขึ้นเป็น เจ้านครเชียงใหม่ที่ 7 ได้สร้างคุ้มหลวงแห่งใหม่ขึ้นที่ข่วงหลวงหน้าศาลาสนาม ตรงบริเวณที่เป็นที่ตั้งตึกยุพราชและสนามของโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
ต่อมาในรัชสมัยเจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ ครองนครเชียงใหม่ ขณะนั้นเชียงใหม่มีฐานะเป็นมณฑลพายัพในกำกับของรัฐบาลสยาม พื้นที่เวียงแก้วเป็นที่รกร้างไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ มาเป็น 40 ปี เจ้าอินทวโรรสสุริยวงษ์ ได้จัดสรรพื้นที่เวียงแก้วเป็นสามส่วน โดยทำเป็นสวนสัตว์และแบ่งให้พระญาติในตอนเหนือ ส่วนที่ดินตอนใต้แบ่งให้สยามสร้างคุกราว พ.ศ. 2462
ที่มาของชื่อ
ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกว่าเหตุใดจึงมีชื่อว่าเวียงแก้ว แต่จากการสันนิษฐานตามพงศาวดารโยนกในสมัยของพระเจ้าเมกุฏิสุทธิวงศ์ ซึ่งบันทึกไว้ว่า "ครั้นอยู่มา ท้าวพระยารามัญผู้อยู่รั้งเมืองนครเชียงใหม่กระทำการอุกอาจ มิได้อ่อนน้อมต่อพระเจ้านครเชียงใหม่ กิตติศัพท์ทราบไปถึงพระเจ้าหงสาวดี จึงมีตราให้ข้าหลวงถือมาบังคับท้าวพระยารามัญผู้รั้งเมืองนครเชียงใหม่ ให้ฟังบังคับบัญชาพระเจ้านครเชียงใหม่ และน้อมนำคำรพต่อพระเจ้านครเชียงใหม่สืบไป" นั้นชี้ชัดว่า เมื่อเชียงใหม่ยอมสวามิภักดิ์เป็นข้าขอบขัณฑสีมาของอาณาจักรอังวะใน พ.ศ. 2101 แล้ว คงจะได้มอบหมายให้ขุนนางพม่าจำนวนหนึ่งคงอยู่ที่เวียงเชียงใหม่ แต่ขุนนางพม่าผู้อยู่รั้งเมืองนครเชียงใหม่นั้นจะไปตั้งฐานที่พำนักอยู่ที่ใด ในเมื่อภายในกำแพงเมืองเวียงเชียงใหม่นั้นมีวัดวาอารามและบ้านเรือนไพร่ฟ้าประชาชนปลูกอยู่เต็มไปหมด จึงคงจะมีแต่ "ข่วงหลวง" ที่ฝั่งตรงกันข้ามคุ้มแก้ว ที่เป็นพื้นที่ว่างที่กว้างขวางพอจะจัดเป็นค่ายพักแรมของขุนนางพม่านั้นได้ ชาวนครเชียงใหม่ในเวลานั้นจึงคงจะเรียกค่ายพำนักของขุนนางพม่านั้นว่า "เวียงหน้าคุ้มแก้ว" ซึ่งต่อมาถูกกร่อนเหลือเพียงแต่ "เวียงแก้ว" นอกจากนี้ แผนที่เมืองนครเชียงใหม่ พ.ศ. 2436 ได้ระบุตำแหน่ง ขอบเขต รูปร่าง และชื่อ "เวียงแก้ว" อย่างชัดเจน
ประวัติ
ในอดีตเป็นที่ตั้งของคุ้มหลวงหอคำสมัยพระเจ้ากาวิละ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2339 ใช้เป็นคุ้มของพระเจ้าเชียงใหม่ต่อมา ทว่าตามธรรมเนียมล้านนาผู้ที่สามารถประทับบนหอคำได้ ต้องมีสถานภาพเป็นกษัตริย์ล้านนาเท่านั้น แต่เจ้าล้านนาในฐานะหัวเมืองประเทศราชของสยาม ต้องได้รับการแต่งตั้งจากกรุงรัตนโกสินทร์เสียก่อน ในประวัติศาสตร์ล้านนาจึงมีพระเจ้าเชียงใหม่เพียง 4 พระองค์ คือ พระเจ้ากาวิละ (เจ้าหลวงองค์ที่ 1) พระเจ้ามโหตรประเทศ (เจ้าหลวงองค์ที่ 5) พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ (เจ้าหลวงองค์ที่ 6) และพระเจ้าอินทวิชยานนท์ (เจ้าหลวงองค์ที่ 7)
ในสมัยเจ้าหลวงพุทธวงศ์ เจ้าหลวงองค์ที่ 4 จึงให้สร้าง "หอเทียม" ทางทิศใต้ของหอคำของพระเจ้ากาวิละ เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ครั้นในสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ จึงได้โปรดให้สร้างหอคำประดับเกียรติยศ แทนหอเทียมของเจ้าพุทธวงศ์
ในสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ได้สร้างคุ้มหลวงแห่งใหม่บริเวณข่วงหลวงหน้าศาลาสนาม (โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ในปัจจุบัน) ทำให้พื้นที่เวียงแก้วที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2339 ถูกลดบทบาทลงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2413 เป็นต้นมา และมีการรื้อหอคำ ในช่วงปี พ.ศ. 2418 - 2420 อย่างไรก็ตามมีการสันนิษฐานว่ายังคงมีการใช้งานอยู่บ้าง อ้างอิงจากแผนที่เมืองนครเชียงใหม่ พ.ศ. 2436 ซึ่งระบุชื่อ "เวียงแก้ว" แต่ไม่มีคำว่า "ร้าง" ต่อท้ายน่าจะหมายถึงว่ายังมีการใช้งานอยู่บ้าง และยังพบว่ามีการจัดงานราชพิธีในปี พ.ศ. 2434 อีกด้วย
ในสมัยเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เกิดน้ำท่วมใหญ่ ในปี พ.ศ. 2448 จึงมีการย้ายที่ว่าการมณฑลพายัพมาใช้สถานที่ของ "เค้าสนามหลวง" เดิมทีเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ มีดำริที่จะยกพื้นที่ฝั่งตรงข้ามเค้าสนามหลวงด้านทิศใต้ ให้เป็นศาลารัฐบาลมณฑลพายัพ แต่ในห้วงเดียวกันเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพ ได้ขอเวียงแก้วสำหรับสร้าง "คอกหลวง" หรือเรือนจำประจำมณฑลพายัพ แต่ไม่ทราบชัดเจนว่าเรือนจำถูกสร้างขึ้นในปีใด แต่จากการสันนิษฐานจึงประมาณได้ว่าเรือนอาจถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2459 - 2460 ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงเปลี่ยนสถานะมาเป็น "เรือนจำกลางเชียงใหม่" จนในปี พ.ศ. 2544 ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เข้ามาแทนที่จนถึงในปี พ.ศ. 2555 จึงมีการย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว
การเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่
ในราวปี พ.ศ. 2529 ชาวเชียงใหม่ได้เรียกร้องให้มีการคืนพื้นที่ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เช่นเดิม และคณะรัฐมนตรีได้มีมติในปี พ.ศ. 2532 ให้กรมราชทัณฑ์ คืนพื้นที่ดังกล่าว จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2555 จึงมีการคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ และเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติดำเนินโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน คือ "โครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว พุทธมณฑลแห่งเชียงใหม่" งบประมาณ 150 ล้านบาท ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงหน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการเป็นสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงใหม่ (สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวดำเนินโครงการ
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556 ได้มีพิธีทุบทำลายกำแพงทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ โดยนาย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีทุบทำลายป้ายทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงการสิ้นสุดความเป็นทัณฑสถานของสถานที่แห่งนี้ กระทั่งเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 จึงได้เริ่มต้นการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ[]
ต่อมาจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี ซึ่งขุดค้นพบโบราณวัตถุจำนวนหนึ่ง ประกอบกับแนวกำแพงเวียงแก้ว
โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างมีส่วนร่วมโดยการจัดประกวดการออกแบบข่วงหลวงเวียงแก้วเมื่อปี 2557 โดยผู้ชนะการประกวดแบบคือ นายกวิน ว่องวิกย์การ ซึ่งต่อมาได้มีการปรับแบบให้สอดคล้องกับพื้นที่การขุดค้นทางโบราณคดี และเปิดให้ประชาชนได้ร่วมแลกเปลี่ยน
โดยสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดประกวดราคาก่อสร้างด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ และลงนามในสัญญาก่อสร้างเมื่อปี 2560
สถานที่ปัจจุบัน
ปัจจุบันพื้นที่ของเวียงแก้วเดิมส่วนใหญ่ เป็นที่ดินราชพัสดุ อันเป็นที่ตั้งของ
- เวียงแก้วส่วนเหนือ
- สำนักงานโรงงานยาสูบ
- วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่
- บ้านพักผู้ช่วยคลังจังหวัด
- จัดให้เช่าเพื่ออยู่อาศัย
- เวียงแก้วส่วนใต้
- (อดีตเป็น ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่)
- เวียงแก้วส่วนตะวันออก
- บ้านเรือนประชาชน
อ้างอิง
- “เวียงแก้ว” จาก “คุ้มหลวง” สู่ “คอกหลวง” นครเชียงใหม่. https://www.silpa-mag.com/history/article_5445
- "ล้านนาราชาชาตินิยม (3)". mgronline.com. 2013-03-04.
- พระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค). พงศาวดารโยนก. น. ๓๙๙.
- วรชาติ มีชูบท. ย้อนอดีตล้านนา ตอน รวมเรื่องน่ารู้จากแผนที่เมืองนครเชียงใหม่. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, พิมพ์ครั้งที่ 2, 2560
- สงวน โชติสุขรัตน์. "ตำนานพิงคราชวงศ์ปกรณ์ ผูกที่ 7" ใน ประชุมตำนานล้านนาไทย
- ภูเดช แสนสา. คุ้มหลวง หอคำ เวียงแก้ว สัญญะขัติยะล้านนา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพ : กองบุญหมื่นฟ้า. 2556
- วรชาติ มีชูบท. "เรือนจำในเวียงแก้ว".
- หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร0705/202 ลงวันที่ 15 มกราคม 2556
- ประวัติความเป็นมา >> โครงการพัฒนาข่วงหลวงเวียงแก้ว[]
- ผวจ.เชียงใหม่นำขบวนรื้อคุกหญิงทำ “ข่วงหลวงเวียงแก้ว” เตรียมให้ศิลปากรศึกษาก่อนเดินหน้าก่อสร้าง[]
- ข่วงเวียงแก้ว พบของดีอื้อ ดินเผา-ถ้วยจีน นักโบราณคดีลุยขุด กำแพงเมืองโผล่อีก
- ประกวดออกแบบ “ข่วงหลวงเวียงแก้ว” คาดเริ่มสร้าง ก.ย.นี้
- ออกแบบล่าสุด "เวียงแก้ว" จ.เชียงใหม่
- โครงการข่วงหลวงเวียงแก้ว จ.เชียงใหม่ เสร็จแน่ เร่งขุดค้นก่อนรื้อคุกเนรมิตสวนกลางเมือง
- แผนที่กายภาพ แสดงแนวเขตที่ราชพัสดุ แปลง ชม.๑๖๑๒[] กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ewiyngaekw epnekhtphrarachthankhxngewiyngechiyngihm epriybiddngphrarachwngaelasylksnkhxngkstriy tngxyuklangewiyngkhxnipthangehnuxkhxngewiyngechiyngihm snnisthanwa srangmaphrxmkbkarsrangewiyngechiyngihmkhxngphyamngray sungphayinewiyngaekwedim mikaaephngaebngxanaekhtxxkepn 3 swn khuxswnehnux swnit aelaswntawnxxk phayinewiyngaekwaetlaswnprakxbipdwyhmuxakharrachmnethiyrewiyngaekwxakhareruxnephy swnhnungkhxngeruxncathitngxyuinphunthiewiyngaekwthitngtablsriphumi xaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihmpraephthkhumhlwngkhwamepnmaphusrangphraecakawilasrangph s 2339smynkhrechiyngihmhmayehtuekiywkbsthanthikhudkhnph s 2560phukhudkhnkrmsilpakrsphaphehluxephiyngthanxithphubriharcdkarsanknganpldkrathrwngmhadithy sankngancnghwdechiyngihm karepidihekhachmyngimepidihekhachm ewiyngaekwsungidepnthiphankkhxngecankhrechiyngihmmatngaetpi ph s 2339 cungsinsphaphkarepn khumhlwng nbtngaetpi ph s 2413 emuxkhrnphraecakawiolrssuriywngsthungaekphiraly ecaxuprachxinthnnth sungidrbsthapnakhunepn ecankhrechiyngihmthi 7 idsrangkhumhlwngaehngihmkhunthikhwnghlwnghnasalasnam trngbriewnthiepnthitngtukyuphrachaelasnamkhxngorngeriynyuphrachwithyaly txmainrchsmyecaxinthworrssuriywngs khrxngnkhrechiyngihm khnannechiyngihmmithanaepnmnthlphayphinkakbkhxngrthbalsyam phunthiewiyngaekwepnthirkrangimmisingpluksrangid maepn 40 pi ecaxinthworrssuriywngs idcdsrrphunthiewiyngaekwepnsamswn odythaepnswnstwaelaaebngihphrayatiintxnehnux swnthidintxnitaebngihsyamsrangkhukraw ph s 2462thimakhxngchuximmihlkthanthangprawtisastrbnthukwaehtuidcungmichuxwaewiyngaekw aetcakkarsnnisthantamphngsawdaroynkinsmykhxngphraecaemkutisuththiwngs sungbnthukiwwa khrnxyuma thawphrayaramyphuxyurngemuxngnkhrechiyngihmkrathakarxukxac miidxxnnxmtxphraecankhrechiyngihm kittisphththrabipthungphraecahngsawdi cungmitraihkhahlwngthuxmabngkhbthawphrayaramyphurngemuxngnkhrechiyngihm ihfngbngkhbbychaphraecankhrechiyngihm aelanxmnakharphtxphraecankhrechiyngihmsubip nnchichdwa emuxechiyngihmyxmswamiphkdiepnkhakhxbkhnthsimakhxngxanackrxngwain ph s 2101 aelw khngcaidmxbhmayihkhunnangphmacanwnhnungkhngxyuthiewiyngechiyngihm aetkhunnangphmaphuxyurngemuxngnkhrechiyngihmnncaiptngthanthiphankxyuthiid inemuxphayinkaaephngemuxngewiyngechiyngihmnnmiwdwaxaramaelabaneruxniphrfaprachachnplukxyuetmiphmd cungkhngcamiaet khwnghlwng thifngtrngknkhamkhumaekw thiepnphunthiwangthikwangkhwangphxcacdepnkhayphkaermkhxngkhunnangphmannid chawnkhrechiyngihminewlanncungkhngcaeriykkhayphankkhxngkhunnangphmannwa ewiynghnakhumaekw sungtxmathukkrxnehluxephiyngaet ewiyngaekw nxkcakni aephnthiemuxngnkhrechiyngihm ph s 2436 idrabutaaehnng khxbekht ruprang aelachux ewiyngaekw xyangchdecnprawtiinxditepnthitngkhxngkhumhlwnghxkhasmyphraecakawila srangkhuninpi ph s 2339 ichepnkhumkhxngphraecaechiyngihmtxma thwatamthrrmeniymlannaphuthisamarthprathbbnhxkhaid txngmisthanphaphepnkstriylannaethann aetecalannainthanahwemuxngpraethsrachkhxngsyam txngidrbkaraetngtngcakkrungrtnoksinthresiykxn inprawtisastrlannacungmiphraecaechiyngihmephiyng 4 phraxngkh khux phraecakawila ecahlwngxngkhthi 1 phraecamohtrpraeths ecahlwngxngkhthi 5 phraecakawiolrssuriywngs ecahlwngxngkhthi 6 aelaphraecaxinthwichyannth ecahlwngxngkhthi 7 insmyecahlwngphuththwngs ecahlwngxngkhthi 4 cungihsrang hxethiym thangthisitkhxnghxkhakhxngphraecakawila ephuxichepnthiprathb khrninsmyphraecakawiolrssuriywngs cungidoprdihsranghxkhapradbekiyrtiys aethnhxethiymkhxngecaphuththwngs insmyphraecaxinthwichyannth idsrangkhumhlwngaehngihmbriewnkhwnghlwnghnasalasnam orngeriynyuphrachwithyaly inpccubn thaihphunthiewiyngaekwthiichmatngaet ph s 2339 thukldbthbathlngtngaetpi ph s 2413 epntnma aelamikarruxhxkha inchwngpi ph s 2418 2420 xyangirktammikarsnnisthanwayngkhngmikarichnganxyubang xangxingcakaephnthiemuxngnkhrechiyngihm ph s 2436 sungrabuchux ewiyngaekw aetimmikhawa rang txthaynacahmaythungwayngmikarichnganxyubang aelayngphbwamikarcdnganrachphithiinpi ph s 2434 xikdwy insmyecaxinthworrssuriywngs ekidnathwmihy inpi ph s 2448 cungmikaryaythiwakarmnthlphayphmaichsthanthikhxng ekhasnamhlwng edimthiecaxinthworrssuriywngs midarithicaykphunthifngtrngkhamekhasnamhlwngdanthisit ihepnsalarthbalmnthlphayph aetinhwngediywknecaphrayasursihwisisthskdi echy klyanmitr khahlwngihymnthlphayph idkhxewiyngaekwsahrbsrang khxkhlwng hruxeruxncapracamnthlphayph aetimthrabchdecnwaeruxncathuksrangkhuninpiid aetcakkarsnnisthancungpramanidwaeruxnxacthuksrangkhuninrahwangpi ph s 2459 2460 txmaphayhlngkarepliynaeplngkarpkkhrxngcungepliynsthanamaepn eruxncaklangechiyngihm cninpi ph s 2544 thnthsthanhyingechiyngihm ekhamaaethnthicnthunginpi ph s 2555 cungmikaryayxxkcakphunthidngklawkarepliynaeplngsphaphphunthithnthsthanhyingechiyngihm inrawpi ph s 2529 chawechiyngihmideriykrxngihmikarkhunphunthithnthsthanhyingechiyngihm ihepnsthanthisakhythangprawtisastrechnedim aelakhnarthmntriidmimtiinpi ph s 2532 ihkrmrachthnth khunphunthidngklaw cnkrathnginpi ph s 2555 cungmikarkhunphunthiihkrmthnarks aelaemuxwnthi 15 mkrakhm 2556 khnarthmntriidmimtixnumtiinhlkkarihsanknganphraphuththsasnaaehngchatidaeninokhrngkarthimikhwamcaepnerngdwn khux okhrngkarkhwnghlwngewiyngaekw phuththmnthlaehngechiyngihm ngbpraman 150 lanbath txmaidepliynaeplnghnwynganphurbphidchxbokhrngkarepnsankngancnghwdechiyngihm aelacnghwdechiyngihm sanknganpldkrathrwngmhadithy khxichphunthidngklawdaeninokhrngkar txmaemuxwnthi 26 mkrakhm ph s 2556 idmiphithithubthalaykaaephngthnthsthanhyingechiyngihm odynay phuwarachkarcnghwdechiyngihm epnprathaninphithithubthalaypaythnthsthanhyingechiyngihm ephuxepnsylksnthungkarsinsudkhwamepnthnthsthankhxngsthanthiaehngni krathngemuxwnthi 21 krkdakhm ph s 2559 cungiderimtnkarruxthxnsingpluksranginbriewnphunthidngklawxyangepnthangkar txngkarxangxing txmacnghwdechiyngihm idmxbhmayihsanksilpakrthi 7 echiyngihm daeninkarkhudkhnthangobrankhdi sungkhudkhnphbobranwtthucanwnhnung prakxbkbaenwkaaephngewiyngaekw okhrngkardngklaw epnokhrngkarthiidrbfngkhwamkhidehncakprachachnxyangmiswnrwmodykarcdprakwdkarxxkaebbkhwnghlwngewiyngaekwemuxpi 2557 odyphuchnakarprakwdaebbkhux naykwin wxngwikykar sungtxmaidmikarprbaebbihsxdkhlxngkbphunthikarkhudkhnthangobrankhdi aelaepidihprachachnidrwmaelkepliyn odysankngancnghwdechiyngihm idcdprakwdrakhakxsrangdwywithikarprakwdrakhaxielkthrxniks aelalngnaminsyyakxsrangemuxpi 2560sthanthipccubnpccubnphunthikhxngewiyngaekwedimswnihy epnthidinrachphsdu xnepnthitngkhxng ewiyngaekwswnehnuxsanknganorngnganyasub withyalyethkhnikhechiyngihm banphkphuchwykhlngcnghwd cdihechaephuxxyuxasyewiyngaekwswnit xditepn thnthsthanhyingechiyngihm ewiyngaekwswntawnxxkbaneruxnprachachnxangxing ewiyngaekw cak khumhlwng su khxkhlwng nkhrechiyngihm https www silpa mag com history article 5445 lannarachachatiniym 3 mgronline com 2013 03 04 phrayaprachakickrckr aechm bunnakh phngsawdaroynk n 399 wrchati michubth yxnxditlanna txn rwmeruxngnarucakaephnthiemuxngnkhrechiyngihm krungethph culalngkrnmhawithyaly phimphkhrngthi 2 2560 sngwn ochtisukhrtn tananphingkhrachwngspkrn phukthi 7 in prachumtananlannaithy phuedch aesnsa khumhlwng hxkha ewiyngaekw syyakhtiyalanna phimphkhrngthi 2 krungethph kxngbuyhmunfa 2556 wrchati michubth eruxncainewiyngaekw hnngsuxsankngbpraman dwnthisud thi nr0705 202 lngwnthi 15 mkrakhm 2556 prawtikhwamepnma gt gt okhrngkarphthnakhwnghlwngewiyngaekw lingkesiy phwc echiyngihmnakhbwnruxkhukhyingtha khwnghlwngewiyngaekw etriymihsilpakrsuksakxnedinhnakxsrang lingkesiy khwngewiyngaekw phbkhxngdixux dinepha thwycin nkobrankhdiluykhud kaaephngemuxngophlxik prakwdxxkaebb khwnghlwngewiyngaekw khaderimsrang k y ni xxkaebblasud ewiyngaekw c echiyngihm okhrngkarkhwnghlwngewiyngaekw c echiyngihm esrcaen erngkhudkhnkxnruxkhukenrmitswnklangemuxng aephnthikayphaph aesdngaenwekhtthirachphsdu aeplng chm 1612 lingkesiy krmkarpkkhrxng krathrwngmhadithy