เวียงสวนดอก เป็นเขตเมืองเก่าทางตะวันตกของเวียงเชียงใหม่ มีวัดสวนดอกเป็นศูนย์กลาง อดีตมีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบเป็นรูปสี่เหลี่ยงจัตุรัส ยาวด้านละราว 470 เมตร มีขนาดราวหนึ่งในสี่ของเวียงเชียงใหม่ ในปัจจุบันยังสามารถพบเห็นแนวกำแพงได้บางส่วน
ตำนานสุวรรณคำแดงกล่าวถึงเวียงสวนดอกไว้ว่า แต่เดิมเป็นเมืองบริวารขนาดเล็ดของเมืองเชษฐะบุรี (เวียงเจ็ดลิน) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาดอยสุเทพ โดยมีพญาวีวอและพญาสระเกศเป็นผู้ร่วมครองเมือง เมืองเชษฐะบุรีเป็นเวียงของชาวลัวะ ซึ่งตั้งขึ้นใหม่แทนเมืองนวรัฏฐะที่ล่มสลายเพราะเกิดอาเพศ ต่อมามีการสร้างเวียงสวนดอกเพื่อให้เป็นเมืองบริวารทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเชษฐะบุรี
เวียงสวนดอก เจริญมั่นคงขึ้นและปรากฏชื่ออยู่ในตำนานหลายครั้ง เช่น ในสมัยพญากือนา กษัตริย์ลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์มังราย อาณาจักรล้านนา ทรงสร้างวัดบุปผารามดอกไม้ (วัดสวนดอก) ณ บริเวณใจกลางเวียงเพื่อถวายแด่พระสุมนเถระผู้มาจากสุโขทัย และเพื่อให้เป็นวัดประจำเวียงเมื่อปี พ.ศ. 2084 เจ้าฟ้ายองห้วยแห่งเมืองนายยกพลมาตีเวียงเชียงใหม่ โดยตั้งรี้พลไว้ที่เวียงสวนดอก ก่อนจะเคลื่อนทัพไปตั้งที่วัดป่าตาล และพยายามเข้าตีเวียงเชียงใหม่ แต่ก็ไม่สำเร็จจึงถอนทัพกลับ จากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงสันนิษฐานได้ว่าในขณะนั้นเวียงสวนดอกคงเป็นเมืองร้างอยู่แล้ว ข้าศึกจึงสามารถใช้เป็นที่ตั้งกองทัพได้ จากนั้นก็ไม่ปรากฏชื่อเวียงสวนดอกอีกเลย จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งขณะนั้นเชียงใหม่อยู่ในฐานะเมืองประเทศราช จึงปรากฏชื่ออีกครั้ง ในชื่อของบ้านสวนดอก
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ewiyngswndxk epnekhtemuxngekathangtawntkkhxngewiyngechiyngihm miwdswndxkepnsunyklang xditmikaaephngaelakhunalxmrxbepnrupsiehliyngcturs yawdanlaraw 470 emtr mikhnadrawhnunginsikhxngewiyngechiyngihm inpccubnyngsamarthphbehnaenwkaaephngidbangswnphaythaythangxakasewiyngswndxkinxdit tanansuwrrnkhaaedngklawthungewiyngswndxkiwwa aetedimepnemuxngbriwarkhnadeldkhxngemuxngechsthaburi ewiyngecdlin sungtngxyubriewnechingekhadxysuethph odymiphyawiwxaelaphyasraeksepnphurwmkhrxngemuxng emuxngechsthaburiepnewiyngkhxngchawlwa sungtngkhunihmaethnemuxngnwrtthathilmslayephraaekidxaephs txmamikarsrangewiyngswndxkephuxihepnemuxngbriwarthangthistawnxxkechiyngitkhxngemuxngechsthaburi ewiyngswndxk ecriymnkhngkhunaelapraktchuxxyuintananhlaykhrng echn insmyphyakuxna kstriyladbthi 6 aehngrachwngsmngray xanackrlanna thrngsrangwdbuppharamdxkim wdswndxk n briewnicklangewiyngephuxthwayaedphrasumnethraphumacaksuokhthy aelaephuxihepnwdpracaewiyngemuxpi ph s 2084 ecafayxnghwyaehngemuxngnayykphlmatiewiyngechiyngihm odytngriphliwthiewiyngswndxk kxncaekhluxnthphiptngthiwdpatal aelaphyayamekhatiewiyngechiyngihm aetkimsaerccungthxnthphklb cakehtukarndngklaw cungsnnisthanidwainkhnannewiyngswndxkkhngepnemuxngrangxyuaelw khasukcungsamarthichepnthitngkxngthphid caknnkimpraktchuxewiyngswndxkxikely cnthungsmyrtnoksinthr sungkhnannechiyngihmxyuinthanaemuxngpraethsrach cungpraktchuxxikkhrng inchuxkhxngbanswndxkduephimwdswndxk