เมืองขึ้น (อังกฤษ: vassal state) คือ รัฐที่มีภาระผูกพันต่อรัฐหรือจักรวรรดิที่เหนือกว่า ซึ่งมีสถานะคล้ายคลึงกับสถานะ (อังกฤษ: vassal) ในระบบฟิวดัลในยุโรปยุคกลาง ระบบเมืองขึ้นถูกใช้อย่างแพร่หลายในบรรดาจักรวรรดิ ตั้งแต่ตะวันออกใกล้ยุคอียิปต์ ฮิตไทต์ และ ไปจนถึงจีนโบราณ มาจนกระทั่งถึงยุคกลาง โดยจักรวรรดิสุดท้ายที่ใช้ระบบดังกล่าวอาจเป็น จักรวรรดิออตโตมัน[] แม้ว่าจะมีการระบุว่า[]จักรวรรดิอังกฤษเองก็มีเมืองขึ้นเช่นกัน[]
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐเมืองขึ้นและจักรวรรดิขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ปกครอง โดยทั่วไปเมืองขึ้นจะมีหน้าที่ส่งบรรณาการและความช่วยเหลือด้านทหาร ส่วนระดับความเป็นอิสระและผลประโยชน์ที่ผู้ปกครองจะมอบให้กับเมืองขึ้นสามารถมีได้หลายระดับ ในปัจจุบัน คำที่ใช้กันโดยทั่วไป ได้แก่ รัฐหุ่นเชิด รัฐในอารักขา หรือ รัฐบริวาร
ตัวอย่างในประวัติศาสตร์
อียิปต์โบราณ
ในรัชสมัยของฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 (1479 ปีก่อนคริสตกาล – 1425 ปีก่อนคริสตกาล) พระองค์ได้วางรากฐานการปกครองต่างๆในอียิปต์สมัยอะมาร์นา รัฐเมืองขึ้นต่างๆในดินแดนลิแวนต์ถูกดึงเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของอียิปต์จากการก่อสร้างท่าเรือ ซึ่งช่วยให้มีการติดต่อสื่อสารและจัดเก็บภาษีระหว่างอียิปต์และเมืองขึ้นได้ดีขึ้น
หลักฐานเกี่ยวกับเมืองขึ้นของอียิปต์ที่ปรากฏระหว่างรัชสมัยของฟาโรห์แอเมนโฮเทปที่ 3 และฟาโรห์ตุตันคาเมน (1390 ปีก่อนคริสตกาล – 1323 ปีก่อนคริสตกาล) มาจากจารึกอักษรอะมาร์นา ซึ่งเป็นกลุ่มแผ่นจารึกอักษรคูนิฟอร์มจำนวน 350 แผ่น ความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์และเมืองขึ้นในสมัยนั้นสามารถตีความได้จากการยกย่องสรรเสริญฟาโรห์จากสารที่เมืองขึ้นส่งมา
รัฐเมืองขึ้นที่สำคัญของอียิปต์ตั้งอยู่บริเวณดินแดนทางตอนเหนือ เช่น และ รัฐเหล่านี้ตั้งอยู่บนชายขอบของดินแดนที่อียิปต์อ้างสิทธิ์และมักเป็นภัยคุกคามจากการเป็นพันธมิตรกับชาวฮิตไทต์ในอนาโตเลีย หรือกลุ่มในอิรักและซีเรีย เนื่องจากรัฐเหล่านี้อยู่ห่างจากแม่น้ำไนล์ และมีประโยชน์ในฐานะรัฐกันชนกับอาณาจักรข้างเคียง ทำให้รัฐเหล่านี้มีอำนาจต่อรองสูงกับฟาโรห์แห่งอียิปต์ รัฐเหล่านี้สามารถเรียกร้องอภิสิทธิ์จากฟาโรห์ได้หลายอย่าง อียิปต์มักโอนอ่อนต่อคำขอซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อซื้อน้ำใจให้รัฐเหล่านี้ยังคงจงรักภักดี อย่างไรก็ตาม รัฐเมืองขึ้นเหล่านี้ถูกอ้างสิทธิ์โดยจักรวรรดิฮิตไทต์หลังจากการสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์อเคนาเทน (1353 ปีก่อนคริสตกาล – 1336 ปีก่อนคริสตกาล) และไม่เคยถูกยึดคืน
ในรัชสมัยของฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 (1279 ปีก่อนคริสตกาล – 1213 ปีก่อนคริสตกาล) อียิปต์ขยายอำนาจไปยังฮิตไทต์หลายครั้ง และในที่สุดก็สามารถยึดครองอาณาจักรและได้โดยอาศัยจังหวะที่จักรวรรดิฮิตไทต์เกิดปัญหาภายใน เมื่อ 1258 ปีก่อนคริสตกาล ฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 และกษัตริย์ฮิตไทต์ ทรงเจรจาสงบศึกต่อกันและกำหนดให้เขตแดนระหว่างสองจักรวรรดิอยู่ที่บริเวณทางเหนือของบิบลอสจนถึงดามัสกัส
บิบลอส
อาณาจักรบิบลอสมีความสำคัญในการเชื่อมโยงโลกของอียิปต์ ตะวันออกใกล้ และทะเลอีเจียนเข้าด้วยกัน ถูกพบครั้งแรกในรัชสมัยของฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 ชาวอียิปต์สามารถหาสินค้าจากดินแดนเลบานอนและซีเรียผ่านทางบิบลอส ขณะเดียวกันก็ใช้ราชอาณาจักรนี้เป็นฐานทัพสำหรับกิจกรรมทางทหาร บิบลอสมีความสำคัญทางศาสนาต่ออียิปต์ เนื่องจากเทพธิดาในความเชื่อท้องถิ่นนั้นปรากฏอยู่ในรูปของแฮธอร์ซึ่งมีความเกี่ยวโยงไปถึงไอซิส บิบลอสยังมีความสำคัญต่ออียิปต์ในฐานะคู่ค้า เนื่องจากทำให้อียิปต์มีเส้นทางการค้าสู่เมืองอื่นๆภูมิภาคของบิบลอส อาณาจักรบิบลอสถูกระบุว่าค่อนข้างมีความเป็นเอกเทศ บันทึกของริบ-ฮัดดาระบุว่าบิบลอสมีอำนาจปกครองดินแดนของตนเอง จนกระทั่งเกิดความขัดแย้งกับอาณาจักรอามูร์รู
บันทึกเกี่ยวกับอาณาจักรบิบลอสมีรายละเอียดค่อนข้างมากเนื่องจากเป็นการปฏิสัมพันธ์ที่กินเวลายาวนานที่สุดระหว่างอียิปต์กับรัฐเมืองขึ้นซึ่งนานถึง 12 ปีผู้เป็นกษัตริย์เจ้าของสารเหล่านี้มีเอกลักษณ์แตกต่างจากผู้ปกครองเมืองขึ้นอื่น เนื่องจากสารของพระองค์มีการลงรายละเอียดมากกว่าผู้ปกครองอื่นๆ ในตะวันออกใกล้ แต่แม้ว่าพระองค์จะมีความจงรักภักดีต่อฟาโรห์แห่งอียิปต์ แต่ริบ-ฮัดดาก็ทรงไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากอียิปต์ในยามวิกฤต สุดท้ายพระองค์ก็ถูกพระอนุชาเนรเทศออกจากอาณาจักร
เมื่อพระอนุชาของริบ-ฮัดดาครองบัลลังก์ บิบลอสยังคงมีการติดต่อสื่อสารกับทางอียิปต์ต่อมา แม้ว่าจะมีข้อขัดแย้งอยู่บ้างเกี่ยวกับการที่บิบลอสมีแนวโน้มที่จะสร้างพันธมิตรกับอาณาจักรอามูร์รูและจักรวรรดิฮิตไทต์
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบิบลอสและอียิปต์ลดลงในศตวรรษที่ 12 และ 11 ก่อนคริสต์ศักราช จากการล่มสลายของจักรวรรดิอียิปต์ หลังจากอียิปต์ถูกฟื้นฟู รัฐอื่นๆ เช่น ไทร์ และไซดอน ได้รับความสนับสนุนมากกว่าบิบลอส เมื่อถึงยุคโลหะตอนต้น บิบลอสไม่เหลือสายสัมพันธ์กับมหาอำนาจในภูมิภาค แม้ว่าตัวเมืองจะยังคงมีอำนาจทางศาสนาต่อมาจนถึงยุคจักรวรรดิโรมัน แต่ก็สูญเสียความสำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองไป
จักรวรรดิฮิตไทต์
พื้นที่ส่วนใหญ่ของอนาโตเลียและตอนเหนือของซีเรียได้ตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิฮิตไทต์ โดยฮิตไทต์สามารถแผ่ขยายอำนาจออกไปได้มากที่สุดในรัชสมัยของ และ ในศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล ความสัมพันธ์ระหว่างฮิตไทต์กับเมืองขึ้นขึ้นอยู่กับกษัตริย์ฮิตไทต์และผู้ปกครองเมืองขึ้นเป็นหลัก โดยฝ่ายแรกเป็นผู้กำหนดพันธะของฝ่ายหลัง เมื่อกษัตริย์ฮิตไทต์หรือผู้ปกครองเมืองขึ้นองค์ใหม่ขึ้นสู่อำนาจก็จะต้องมากำหนดข้อตกลงกันใหม่
ในบางกรณี ผู้ปกครองท้องถิ่นจะได้รับสถานะ kiurwana (สถานะในอารักขา) ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันไป เช่น การยกเว้นไม่ต้องถวายบรรณาการ แต่ผู้ปกครองเหล่านี้ไม่ได้มีอิสระมากไปกว่ารัฐเมืองขึ้นอื่นๆ กษัตริย์ฮิตไทต์เป็นผู้กำหนดความสัมพันธ์ทั้งหมดในดินแดนของฮิตไทต์ ทำให้เกิดความเชื่อว่ามีการจำกัดการติดต่อระหว่างเมืองขึ้นด้วยกัน แต่ก็มีความเห็นเช่นกันว่าข้อจำกัดดังกล่าวอาจใช้เฉพาะกับศัตรูของฮิตไทต์เท่านั้น
พันธะของเมืองขึ้นต่อฮิตไทต์รวมถึงหน้าที่ทางทหาร ฝ่ายเมืองขึ้นเองก็จะได้รับสัญญาว่าฮิตไทต์จะให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นการตอบแทนเช่นกัน บางครั้งพันธะยังลงรายละเอียดเกี่ยวกับบรรณาการประจำปีด้วย สัญญาส่วนใหญ่มักปิดท้ายด้วยการแต่งงานระหว่างผู้ปกครองเมืองขึ้นกับเจ้าหญิงของฮิตไทต์ เจ้าหญิงจะทรงมีอำนาจมากกว่าภรรยาคนอื่นๆ ของผู้ปกครองเมืองขึ้นนั้น และการสืบทอดอำนาจจะถูกส่งต่อไปยังลูกหลานที่ประสูติจากเจ้าหญิง
รัฐเมืองขึ้นจำเป็นต้องให้การสนับสนุนและสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อรัชทายาทของกษัตริย์ด้วยเช่นกัน ในกรณีที่มีการแย่งชิงบัลลังก์ เมืองขึ้นจะพ้นจากพันธะทั้งหมดที่เคยตกลงไว้ ยกเว้นหน้าที่ในการช่วยให้กษัตริย์ที่ชอบธรรมให้กลับขึ้นครองบัลลังก์ ด้วยความชอบดังกล่าว ผู้ปกครองเมืองขึ้นจะได้รับการรับรองว่าตนและผู้สืบทอดมีอำนาจปกครองเหนือดินแดนเมืองขึ้นนั้น
อูการิต
อูการิตเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในบรรดาเมืองขึ้นของฮิตไทต์ หลักฐานเกี่ยวกับบทบาทและความสัมพันธ์ของอูการิตกับฮิตไทต์ส่วนใหญ่มาจากเอกสารของฝ่ายอูการิต ประกอบจากหลักฐานฝ่ายฮิตไทต์จำนวนหนึ่ง จากหลักฐาน เชื่อกันว่าอูการิตมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้าต่อจักรวรรดิฮิตไทต์ เนื่องจากจดหมายและเอกสารจำนวนมากมีความเกี่ยวข้องกับการค้าขาย อูการิตยังรักษาความสัมพันธ์กับอียิปต์ด้วยเนื่องจากมีการติดต่อกับราชสำนักของฟาโรห์ หลักฐานส่วนใหญ่ของการติดต่อนี้มาจากยุคของ Pax Hethitica ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการสงบศึกระหว่างอียิปต์และจักรวรรดิฮิตไทต์
อามูร์รู
ความสัมพันธ์ของอามูร์รูกับจักรวรรดิฮิตไทต์ได้รับการยืนยันในเอกสารที่ค้นพบจากอูการิตและ อามูร์รูไม่ปรากฏว่าเป็นศูนย์กลางการค้าเช่นเดียวกับอูการิต ในทางกลับกัน หลักฐานของฮิตไทต์เน้นความสำคัญของบทบาททางการเมืองและการทหารของอาณาจักรนี้ต่อจักรวรรดิ เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณชายแดนติดกับอียิปต์ เดิมอาณาจักรอามูร์รูเป็นเมืองขึ้นของอียิปต์ ต่อมาได้แปรพักตร์ไปอยู่ภายใต้การปกครองของฮิตไทต์ในรัชสมัยของ อามูร์รูขึ้นต่อจักรวรรดิฮิตไทต์ตั้งแต่ช่วงปลายจนถึงรัชสมัยของ อามูร์รูกลับไปสวามิภักดิ์ต่ออียิปต์ ฮิตไทต์ลงโทษโดยตั้งผู้ปกครองที่ยังภักดีแทนที่กษัตริย์เป็นการชั่วคราว มีการแต่งงานระหว่างฝ่ายฮิตไทต์และราชวงศ์อามูร์รูสองครั้งในช่วงเวลานี้ ส่งผลให้ความสำคัญของอามูร์รูต่อจักรวรรดิเพิ่มขึ้น อามูร์รูกับจักรวรรดิฮิตไทต์ยังคงความสัมพันธ์นี้อยู่จนกระทั่งจักรวรรดิฮิตไทต์ล่มสลายในศตวรรษที่ 12 ก่อนคริสตกาล การเปลี่ยนแปลงในชื่อเซมิติกของทายาทรุ่นหลังของ Aziru สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของฮิตไทต์ที่คงอยู่มาอย่างยาวนานในดินแดนนี้
คาร์เคมิช
เป็นเมืองใหญ่และเป็นศูนย์กลางการปกครองของดินแดนซีเรีย ปรากฏหลักฐานการปฏิสัมพันธ์กับฮิตไทต์จากเอกสารที่พบในฮัตตูซา, และอูการิต เมื่อเมืองนี้ถูกยึดครองโดย Suppiluliuma I พระองค์ทรงสถาปนาโอรสของพระองค์ขึ้นครองบัลลังก์ ด้วยเหตุนี้ กษัตริย์ของคาร์เคมิชในยุคต่อมาจึงเสมือนเป็นตัวแทนของจักรวรรดิฮิตไทต์ในซีเรีย ในศตวรรษที่ 13 คาร์เคมิชทำการค้าขายโดยตรงกับอัสซีเรียและมีความสัมพันธ์กับบาบิโลเนีย คาร์เคมิชอยู่รอดมาจนถึงการสิ้นสุดของจักรวรรดิฮิตไทต์ และกลายเป็นนครรัฐอิสระในยุคเหล็กตอนต้น ก่อนที่จะถูกผนวกเข้ากับจักรวรรดิอัสซีเรียในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล
จักรวรรดิอัสซีเรียใหม่
รัฐเมืองขึ้นของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ (911 ปีก่อนคริสตกาล – 609 ปีก่อนคริสตกาล) มีความสัมพันธ์อันเป็นเอกลักษณ์กับจักรวรรดิผู้ปกครอง แม้ว่าเมืองขึ้นจะมีความสำคัญต่อการเมืองภายในของจักรวรรดิและเชื่อมโยงกับรูปแบบการปกครองและเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ "รัฐอัสซีเรีย" คติของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ให้ความสำคัญกับการหลอมรวมความหลากหลายให้เป็นหนึ่งเดียว ทำให้เมืองขึ้นต่างๆ สามารถรักษาความเป็นอิสระทางวัฒนธรรมได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่การขยายดินแดนของอัสซีเรียใหม่ช้าลงในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล จำนวนเมืองขึ้นกลับเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายต่างประเทศ
กษัตริย์อัสซีเรียแสดงอำนาจเหนือเมืองขึ้นโดยการสะสมพืชพรรณและสัตว์จากแต่ละท้องถิ่น บันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของธรรมเนียมนี้ระบุย้อนไปไกลถึงรัชสมัยทิกลัธ-ไพลีเซอร์ที่ 1 (1114 ปีก่อนคริสตกาล – 1076 ปีก่อนคริสตกาล) ในสมัยอัสซีเรียกลาง และได้รับการฟื้นฟูอีกครั้งโดย ในสมัยอัสซีเรียใหม่โดยมีการสร้างสวนที่สะสมสิ่งต่างๆ จากทั่วทั้งจักรวรรดิ ต่อมาผู้ปกครองอัสซีเรียใหม่ได้ยกระดับธรรมเนียมนี้ขึ้นอีก สร้างสวนที่จำลองป่าในซีเรียเหนือ ในขณะที่ สร้างบึงน้ำที่เลียนแบบภูมิประเทศของบาบิโลเนียใต้ ในส่วนของงานศิลปะมีการพรรณนาถึงเรื่องราวที่เมืองขึ้นต่างๆ นำเครื่องบรรณาการมาถวายอัสซีเรีย เรื่องราวเหล่านี้ถูกแสดงผ่านการโค้งคำนับหรือหมอบกราบต่อหน้ากษัตริย์ บรรณาการที่นำมาถวายมีตั้งแต่ม้าและลิงไปจนถึงถุงไวน์ ฉากการถวายบรรณาการและเข้าเฝ้ากษัตริย์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับเมืองขึ้นในจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่
ในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล มีการตั้งเมืองขึ้นทางตอนใต้ของจักรวรรดิเพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับดินแดนทางตอนเหนือของจักรวรรดิซึ่งเคยถูกทำลายมาก่อน อาณาจักรเหล่านี้มีกลายเป็นภูมิภาคที่หนาแน่นและเจริญรุ่งเรืองมากของจักรวรรดิ อาณาจักรทางตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรทีสดำรงสถานะความเป็นเมืองขึ้นจนถึงศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาลจึงถูกผนวกเป็นจังหวัดหนึ่งของจักรวรรดิ แต่ว่าระดับการควบคุมอาณาจักรเหล่านี้แตกต่างกันไปตามที่ตั้ง ในศตวรรษที่ 7 มีการตั้งถิ่นฐานเพิ่มขึ้นในยูดาห์มากกว่าในศตวรรษที่ 8 เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นในจอร์แดนแสดงให้เห็นว่า ยุคที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอัสซีเรียใหม่เป็นยุครุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้
เปอร์เซียอะคีเมนิด
เปอร์เซียใช้เซแทร็ป (ระบบข้าหลวงเปอร์เซีย) แทนการใช้ผู้ปกครองเมืองขึ้นสำหรับดินแดนในปกครอง แต่ก็มีบางกรณีที่การใช้ระบบเมืองขึ้นเช่นกัน เฮอรอโดทัสบันทึกว่า กษัตริย์ แห่งมาซิโดเนียเจรจากับเปอร์เซียหลังจากถูกฝ่ายอะคีเมนิดปราบปรามในปี 513 ปีก่อนคริสตกาล มาซิโดเนียมีความเชื่อมโยงกับเปอร์เซียมากขึ้นเมื่อ Amyntas ให้มีการอภิเษกสมรสกับพระธิดาของพระองค์กับขุนนางชาวเปอร์เซีย (Hdt 5.21.) มาซิโดเนียภายใต้การปกครองดาไรอัสที่ 1 ถูกจัดให้เป็นเขตที่ต้องเสียภาษีเป็นประจำของจักรวรรดิ (Hdt 6.44.) การควบคุมของเปอร์เซียเหนือมาซิโดเนียได้รับการยืนยันจาก ที่ Naqsh-I-Rustam พระโอรสของ Amyntas สนับสนุนเซิร์กซีสที่ 1 ระหว่างที่เปอร์เซียรุกรานกรีก ในปี 479 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพอะคีเมนิดพ่ายแพ้ต่อชาวกรีก นครรัฐอื่นๆ ไม่ถือว่ามาซิโดเนียเป็นฝ่ายกรีกอีกต่อไป
ดินแดนอื่นที่จัดว่าเป็นเมืองขึ้นมากกว่าเป็นเซแทร็ปคือ อาหรับ บันทึกของเฮอรอโดทัสระบุว่า อาหรับได้ให้ความช่วยเหลือแคมไบซีสที่ 2 ในการรุกรานอียิปต์ (525 ปีก่อนคริสตกาล) ด้วยเหตุนี้อาหรับจึงไม่ต้องเป็นเซแทร็ปและได้รับการยกเว้นจากบรรณาการประจำปี แต่จารึกเบฮิสตูนและเปอร์เซโปลิสระบุว่า อาหรับยังคงถวายกำยานเป็นปริมาณ 1,000 ทาเลนต์ต่อปี ในการรุกรานกรีกในรัชสมัยเซิร์กซีส เฮอรอโดทัสได้กล่าวถึงชาวอาหรับในส่วนต่างๆ ของกองทัพเปอร์เซียซึ่งนำโดย โอรสในดาไรอัสที่ 1
แม้ว่าจักรวรรดิอะคีเมนิดจะมีพื้นที่กว้างใหญ่ แต่ก็ได้วางระบบการสื่อสารและการเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ เส้นทางหลวง ซึ่งทอดผ่านพื้นที่ส่วนใหญ่ในจักรวรรดิ ทำให้สามารถขนส่งและกระจายสินค้า วัฒนธรรม และมโนคติระหว่างข้าหลวงของรอะคีเมนิดและเมืองขึ้นได้
จีนโบราณ
ในสมัย ราชวงศ์โจว (1,046–770 ปีก่อนคริสตกาล) จนถึง ราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล–ค.ศ. 220) มีรัฐเมืองขึ้นจำนวนมากก่อตั้งขึ้นในดินแดนจีน
รัฐเหล่านี้มีขนาดตั้งแต่นครรัฐขนาดเล็ก ไปจนถึงรัฐที่สามารถควบคุมดินแดนได้เป็นบริเวณกว้าง เช่น รัฐฉู่ และ รัฐฉี ต่อมาหนึ่งในรัฐเหล่านี้สามารถพิชิตรัฐอื่นๆ ลงและรวมอาณาจักรเป็นหนึ่งภายใต้จักรพรรดิองค์แรก นั่นคือ จิ๋นซีฮ่องเต้
ข้อถกเถียงเกี่ยวกับสถานะของโชซอน
ราชวงศ์ชิงของจีนมองว่า ราชวงศ์โชซอนของเกาหลีเป็นเมืองขึ้นที่ ราชวงศ์โชซอนมีอำนาจปกครองตนเองในทั้งกิจการภายในและภายนอก ดังนั้นจึงไม่จัดว่า เป็นอาณานิคมหรือเมืองขึ้นของจีน อย่างไรก็ตาม จีนได้เลิกใช้นโยบายดั้งเดิมซึ่งผ่อนปรนและไม่แทรกแซงกิจการของเกาหลี และเปลี่ยนมาใช้นโยบายแทรกแซงอย่างหนักในช่วงปลายศตวรรษที่ 19ยฺเหวียน ชื่อไข่โต้แย้งว่าเกาหลีเป็น "เมืองขึ้น" ที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีน โอเวน เอ็น. เดนนี่โต้แย้งว่าเกาหลีเป็น "รัฐบรรณาการ" ที่เป็นอิสระกล่าวว่า การเรียกเกาหลีว่าเป็นเมืองขึ้นนั้น "เป็นการชี้ชวนให้เข้าใจผิด" ร็อกฮิลล์ยังกล่าวว่า “บรรณาการที่ส่งไปยังปักกิ่งโดย ‘เมืองขึ้น’ ทั้งหมด รวมถึงทิเบตและชนเผ่าพื้นเมืองในจีนตะวันตก เป็นเพียง (ละติน: quid pro quo) เพื่อแลกกับสิทธิในการค้าขายกับจีนภายใต้สถานะที่เป็นมิตรอย่างยิ่งเท่านั้น” ร็อกฮิลล์โต้แย้งว่า เกาหลีไม่ได้มองจีนเป็นเจ้าผู้ปกครองแต่เป็นเสมือนหัวหน้าครอบครัว เกาหลีเปรียบเทียบราชวงศ์หมิงเป็นบิดาและราชวงศ์ชิงเป็นพี่ชาย และร็อกฮิลล์กล่าวอีกว่า “สำหรับธรรมเนียมที่กษัตริย์จะรายงานต่อจักรพรรดิถึงการเลือกรัชทายาทหรือสนม หรือแจ้งให้ทราบถึงการสิ้นพระชนม์ของพระชนนี หรือพระมเหสี เป็นต้น เราสามารถมองว่าเป็นเพียงความสัมพันธ์เชิงพิธีการเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องอำนาจการปกครอง”
จักรวรรดิออตโตมัน
จักรวรรดิออตโตมัน (ค.ศ. 1299–1923) ปกครองรัฐบรรณาการหรือรัฐเมืองขึ้นจำนวนหนึ่งในพื้นที่รอบนอกของดินแดนของตน ระบบเมืองขึ้นมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยบางรัฐได้รับอนุญาตให้เลือกผู้นำของตนเองได้ ในขณะที่รัฐอื่นๆ ต้องส่งบรรณาการสำหรับดินแดนของตน
ในช่วงศตวรรษที่ 18 จักรวรรดิออตโตมันควบคุมเมืองขึ้นและรัฐบรรณาการหลายแห่ง เช่น รัฐวอลเลเกีย, มอลเดเวีย และ
ดูเพิ่ม
- เขตพื้นที่ที่ปกครองตนเอง – designation for an administrative territorial entity
- ดินแดนในภาวะพึ่งพิง – territory that does not possess full political independence as a sovereign state
- มณฑล (แบบจำลองทางรัฐศาสตร์)
- รัฐหุ่นเชิด – state that is supposedly independent but is in fact dependent upon an outside power
- (ช่วงที่รัฐเมืองขึ้นมีบทบาทสำคัญ)
อ้างอิง
- Mynárová, Jana (2015). "Egypt among the Great Powers and its Relations to the Neighbouring Vassal Kingdoms in the Southern Levant according to the Written Evidence: Thutmose III and Amarna.". Policies of Exchange Political Systems and Modes of Interaction in the Aegean and the Near East in the 2nd Millenium B.C.E: Proceedings of the International Symposium at the University of Freiburg Institute for Archaeological Studies, 30th May – 2nd June 2012. Austrian Academy of Sciences Press. pp. 158–161.
- Elayi, Josette (2018). "The Small Vassal States of the Near East: (1500–1200)". The History of Phoenicia. Lockwood Press. pp. 66–82.
- Morris, Ellen (2006). "Bowing and Scraping in the Ancient Near East: An Investigation into Obsequiousness in the Amarna Letters". Journal of Near Eastern Studies. 65 (3): 179–188. doi:10.1086/508575.
- Kilani, Marwan (2019). Byblos in the Late Bronze Age: Interactions between the Levantine and Egyptian Worlds. BRILL. ISBN .
- Bryce, Trevor (2005). "Territories and Early Rivals of the Hatti". Kingdom of the Hittites. Oxford University Press. p. 49–50. ISBN .
- Devecchi, Elena (2012). "The International Relations of Hatti's Syrian Vassals, or How to make the Best of Things.". Policies of exchange political systems and modes of interaction in the Aegean and Near East in the 2nd Millennium BCE: Proceedings of the International Symposium at the University of Freiburg Institute for Archaeological Studies. Austrian Academy of Sciences Press. pp. 117–120.
- Rowe, Ignacio (2013). "Amurru". The Encyclopedia of Ancient History. Blackwell Publishing.
- Mora, Clelia (2013). "Carchemish". The Encyclopedia of Ancient History. Blackwell Publishing.
- Hunt, Alice M.W. (2015). "Power and Prestige: The Neo-Assyrian Imperial Landscape.". Palace Ware across the Neo-Assyrian Imperial Landscape: Social Value and Semiotic Meaning. BRILL. pp. 22–29.
- DeGrado, Jessie (2019). "King of the Four Quarters: Diversity as a rhetorical strategy of the Neo-Assyrian Empire". Iraq. 81: 107–175. doi:10.1017/irq.2019.8.
- Faust, Avraham (2021). "Under the Empire". The Neo-Assyrian Empire in the Southwest: imperial domination and its consequences. Oxford University Press.
- Lendering, Jona. "Satraps and Satrapies". Livius. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-28. สืบค้นเมื่อ 2021-05-17.
- Lendering, Jona. "Macedonia". Livius. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-09. สืบค้นเมื่อ 2021-05-17.
- Dandamayev, Muhammad. "Arabia i. The Achaemenid Province Arabāya". Encyclopedia Iranica. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 June 2021. สืบค้นเมื่อ 28 May 2021.
- Colburn, Henry (2013). "Connectivity and Communication in the Achaemenid Empire". Journal of the Economic and Social History of the Orient. 56 (1): 29–52. doi:10.1163/15685209-12341278.
- Rockhill 1889, p. 1.
- Battistini 1952, p. 50.
- Lin 1991, p. 71.
- Oh 2019, pp. 352–355.
- Lin 1991, pp. 69–70.
- Fuchs, Eckhardt; Kasahara, Tokushi; Saaler, Sven (4 December 2017). A New Modern History of East Asia. V&R unipress. p. 96. ISBN . เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2022. สืบค้นเมื่อ 17 March 2022.
- Rockhill 1889, p. 2.
- Rockhill 1889, p. 18.
บรรณานุกรม
- Battistini, Lawrence H. (1952), "The Korean Problem in the Nineteenth Century", , 8 (1/2): 47–66, doi:10.2307/2383005, ISSN 0027-0741, JSTOR 2383005, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-02-04, สืบค้นเมื่อ 2022-03-17
- Lin, Ming-te (July 1991), "Li Hung-chang's Suzerain Policy toward Korea, 1882–1894", Chinese Studies in History, , 24 (4): 69–96, doi:10.2753/CSH0009-4633240469
- Oh, Si Jin (28 October 2019), "Resolving the Misunderstood Historical Order: A Korean Perspective on the Historical Tributary Order in East Asia", , Brill Nijhoff, 21 (3): 341–377, doi:10.1163/15718050-12340115, S2CID 213718118
- Rockhill, William W. (1889), "Korea in Its Relations with China", , 13: 1–33, doi:10.2307/592442, ISSN 0003-0279, JSTOR 592442, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-02-03, สืบค้นเมื่อ 2022-03-17
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Vassal states
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emuxngkhun xngkvs vassal state khux rththimipharaphukphntxrthhruxckrwrrdithiehnuxkwa sungmisthanakhlaykhlungkbsthana xngkvs vassal inrabbfiwdlinyuorpyukhklang rabbemuxngkhunthukichxyangaephrhlayinbrrdackrwrrdi tngaettawnxxkiklyukhxiyipt hititht aela ipcnthungcinobran macnkrathngthungyukhklang odyckrwrrdisudthaythiichrabbdngklawxacepn ckrwrrdixxtotmn txngkarxangxing aemwacamikarrabuwa ikhr ckrwrrdixngkvsexngkmiemuxngkhunechnkn txngkarxangxing khwamsmphnthrahwangrthemuxngkhunaelackrwrrdikhunxyukbnoybaykhxngphupkkhrxng odythwipemuxngkhuncamihnathisngbrrnakaraelakhwamchwyehluxdanthhar swnradbkhwamepnxisraaelaphlpraoychnthiphupkkhrxngcamxbihkbemuxngkhunsamarthmiidhlayradb inpccubn khathiichknodythwip idaek rthhunechid rthinxarkkha hrux rthbriwartwxyanginprawtisastrxiyiptobran inrchsmykhxngfaorhthutomsthi 3 1479 pikxnkhristkal 1425 pikxnkhristkal phraxngkhidwangrakthankarpkkhrxngtanginxiyiptsmyxamarna rthemuxngkhuntangindinaednliaewntthukdungekhasurabbesrsthkickhxngxiyiptcakkarkxsrangthaerux sungchwyihmikartidtxsuxsaraelacdekbphasirahwangxiyiptaelaemuxngkhuniddikhun hlkthanekiywkbemuxngkhunkhxngxiyiptthipraktrahwangrchsmykhxngfaorhaexemnohethpthi 3 aelafaorhtutnkhaemn 1390 pikxnkhristkal 1323 pikxnkhristkal macakcarukxksrxamarna sungepnklumaephncarukxksrkhunifxrmcanwn 350 aephn khwamsmphnthrahwangxiyiptaelaemuxngkhuninsmynnsamarthtikhwamidcakkarykyxngsrresriyfaorhcaksarthiemuxngkhunsngma rthemuxngkhunthisakhykhxngxiyipttngxyubriewndinaednthangtxnehnux echn aela rthehlanitngxyubnchaykhxbkhxngdinaednthixiyiptxangsiththiaelamkepnphykhukkhamcakkarepnphnthmitrkbchawhitithtinxnaoteliy hruxkluminxirkaelasieriy enuxngcakrthehlanixyuhangcakaemnainl aelamipraoychninthanarthknchnkbxanackrkhangekhiyng thaihrthehlanimixanactxrxngsungkbfaorhaehngxiyipt rthehlanisamartheriykrxngxphisiththicakfaorhidhlayxyang xiyiptmkoxnxxntxkhakhxsungxacmicudprasngkhephuxsuxnaicihrthehlaniyngkhngcngrkphkdi xyangirktam rthemuxngkhunehlanithukxangsiththiodyckrwrrdihitiththlngcakkarsinphrachnmkhxngfaorhxekhnaethn 1353 pikxnkhristkal 1336 pikxnkhristkal aelaimekhythukyudkhun inrchsmykhxngfaorhaeremsisthi 2 1279 pikxnkhristkal 1213 pikxnkhristkal xiyiptkhyayxanacipynghitiththlaykhrng aelainthisudksamarthyudkhrxngxanackraelaidodyxasycnghwathickrwrrdihitithtekidpyhaphayin emux 1258 pikxnkhristkal faorhaeremsisthi 2 aelakstriyhititht thrngecrcasngbsuktxknaelakahndihekhtaednrahwangsxngckrwrrdixyuthibriewnthangehnuxkhxngbiblxscnthungdamsks biblxs xanackrbiblxsmikhwamsakhyinkarechuxmoyngolkkhxngxiyipt tawnxxkikl aelathaelxieciynekhadwykn thukphbkhrngaerkinrchsmykhxngfaorhthutomsthi 3 chawxiyiptsamarthhasinkhacakdinaednelbanxnaelasieriyphanthangbiblxs khnaediywknkichrachxanackrniepnthanthphsahrbkickrrmthangthhar biblxsmikhwamsakhythangsasnatxxiyipt enuxngcakethphthidainkhwamechuxthxngthinnnpraktxyuinrupkhxngaehthxrsungmikhwamekiywoyngipthungixsis biblxsyngmikhwamsakhytxxiyiptinthanakhukha enuxngcakthaihxiyiptmiesnthangkarkhasuemuxngxunphumiphakhkhxngbiblxs xanackrbiblxsthukrabuwakhxnkhangmikhwamepnexkeths bnthukkhxngrib hddarabuwabiblxsmixanacpkkhrxngdinaednkhxngtnexng cnkrathngekidkhwamkhdaeyngkbxanackrxamurru bnthukekiywkbxanackrbiblxsmiraylaexiydkhxnkhangmakenuxngcakepnkarptismphnththikinewlayawnanthisudrahwangxiyiptkbrthemuxngkhunsungnanthung 12 piphuepnkstriyecakhxngsarehlanimiexklksnaetktangcakphupkkhrxngemuxngkhunxun enuxngcaksarkhxngphraxngkhmikarlngraylaexiydmakkwaphupkkhrxngxun intawnxxkikl aetaemwaphraxngkhcamikhwamcngrkphkditxfaorhaehngxiyipt aetrib hddakthrngimekhyidrbkhwamchwyehluxid cakxiyiptinyamwikvt sudthayphraxngkhkthukphraxnuchaenrethsxxkcakxanackr emuxphraxnuchakhxngrib hddakhrxngbllngk biblxsyngkhngmikartidtxsuxsarkbthangxiyipttxma aemwacamikhxkhdaeyngxyubangekiywkbkarthibiblxsmiaenwonmthicasrangphnthmitrkbxanackrxamurruaelackrwrrdihititht ptismphnthrahwangbiblxsaelaxiyiptldlnginstwrrsthi 12 aela 11 kxnkhristskrach cakkarlmslaykhxngckrwrrdixiyipt hlngcakxiyiptthukfunfu rthxun echn ithr aelaisdxn idrbkhwamsnbsnunmakkwabiblxs emuxthungyukholhatxntn biblxsimehluxsaysmphnthkbmhaxanacinphumiphakh aemwatwemuxngcayngkhngmixanacthangsasnatxmacnthungyukhckrwrrdiormn aetksuyesiykhwamsakhythangesrsthkicaelakaremuxngip ckrwrrdihititht aephnthidinaednkhxnghitithtaelaemuxngkhunemuxpraman 1300 pikxnkhristkal phunthiswnihykhxngxnaoteliyaelatxnehnuxkhxngsieriyidtkepnemuxngkhunkhxngckrwrrdihititht odyhitithtsamarthaephkhyayxanacxxkipidmakthisudinrchsmykhxng aela instwrrsthi 14 kxnkhristkal khwamsmphnthrahwanghitithtkbemuxngkhunkhunxyukbkstriyhitithtaelaphupkkhrxngemuxngkhunepnhlk odyfayaerkepnphukahndphnthakhxngfayhlng emuxkstriyhitiththruxphupkkhrxngemuxngkhunxngkhihmkhunsuxanackcatxngmakahndkhxtklngknihm inbangkrni phupkkhrxngthxngthincaidrbsthana kiurwana sthanainxarkkha sungcaidrbsiththiphiessthiaetktangknip echn karykewnimtxngthwaybrrnakar aetphupkkhrxngehlaniimidmixisramakipkwarthemuxngkhunxun kstriyhitithtepnphukahndkhwamsmphnththnghmdindinaednkhxnghititht thaihekidkhwamechuxwamikarcakdkartidtxrahwangemuxngkhundwykn aetkmikhwamehnechnknwakhxcakddngklawxacichechphaakbstrukhxnghitithtethann phnthakhxngemuxngkhuntxhitithtrwmthunghnathithangthhar fayemuxngkhunexngkcaidrbsyyawahitithtcaihkhwamchwyehluxthangthharepnkartxbaethnechnkn bangkhrngphnthaynglngraylaexiydekiywkbbrrnakarpracapidwy syyaswnihymkpidthaydwykaraetngnganrahwangphupkkhrxngemuxngkhunkbecahyingkhxnghititht ecahyingcathrngmixanacmakkwaphrryakhnxun khxngphupkkhrxngemuxngkhunnn aelakarsubthxdxanaccathuksngtxipynglukhlanthiprasuticakecahying rthemuxngkhuncaepntxngihkarsnbsnunaelasabanwacacngrkphkditxrchthayathkhxngkstriydwyechnkn inkrnithimikaraeyngchingbllngk emuxngkhuncaphncakphnthathnghmdthiekhytklngiw ykewnhnathiinkarchwyihkstriythichxbthrrmihklbkhunkhrxngbllngk dwykhwamchxbdngklaw phupkkhrxngemuxngkhuncaidrbkarrbrxngwatnaelaphusubthxdmixanacpkkhrxngehnuxdinaednemuxngkhunnn xukarit xukaritepnthiruckkndithisudinbrrdaemuxngkhunkhxnghititht hlkthanekiywkbbthbathaelakhwamsmphnthkhxngxukaritkbhitithtswnihymacakexksarkhxngfayxukarit prakxbcakhlkthanfayhitithtcanwnhnung cakhlkthan echuxknwaxukaritmikhwamsakhythangesrsthkicaelakarkhatxckrwrrdihititht enuxngcakcdhmayaelaexksarcanwnmakmikhwamekiywkhxngkbkarkhakhay xukarityngrksakhwamsmphnthkbxiyiptdwyenuxngcakmikartidtxkbrachsankkhxngfaorh hlkthanswnihykhxngkartidtxnimacakyukhkhxng Pax Hethitica sungekidkhunhlngcakkarsngbsukrahwangxiyiptaelackrwrrdihititht xamurru khwamsmphnthkhxngxamurrukbckrwrrdihitithtidrbkaryunyninexksarthikhnphbcakxukaritaela xamurruimpraktwaepnsunyklangkarkhaechnediywkbxukarit inthangklbkn hlkthankhxnghitithtennkhwamsakhykhxngbthbaththangkaremuxngaelakarthharkhxngxanackrnitxckrwrrdi enuxngcaktngxyubriewnchayaedntidkbxiyipt edimxanackrxamurruepnemuxngkhunkhxngxiyipt txmaidaeprphktripxyuphayitkarpkkhrxngkhxnghitithtinrchsmykhxng xamurrukhuntxckrwrrdihitithttngaetchwngplaycnthungrchsmykhxng xamurruklbipswamiphkditxxiyipt hitithtlngothsodytngphupkkhrxngthiyngphkdiaethnthikstriyepnkarchwkhraw mikaraetngnganrahwangfayhitithtaelarachwngsxamurrusxngkhrnginchwngewlani sngphlihkhwamsakhykhxngxamurrutxckrwrrdiephimkhun xamurrukbckrwrrdihitithtyngkhngkhwamsmphnthnixyucnkrathngckrwrrdihitithtlmslayinstwrrsthi 12 kxnkhristkal karepliynaeplnginchuxesmitikkhxngthayathrunhlngkhxng Aziru sathxnihehnthungxiththiphlkhxnghitithtthikhngxyumaxyangyawnanindinaednni kharekhmich epnemuxngihyaelaepnsunyklangkarpkkhrxngkhxngdinaednsieriy prakthlkthankarptismphnthkbhitithtcakexksarthiphbinhttusa aelaxukarit emuxemuxngnithukyudkhrxngody Suppiluliuma I phraxngkhthrngsthapnaoxrskhxngphraxngkhkhunkhrxngbllngk dwyehtuni kstriykhxngkharekhmichinyukhtxmacungesmuxnepntwaethnkhxngckrwrrdihitithtinsieriy instwrrsthi 13 kharekhmichthakarkhakhayodytrngkbxssieriyaelamikhwamsmphnthkbbabioleniy kharekhmichxyurxdmacnthungkarsinsudkhxngckrwrrdihititht aelaklayepnnkhrrthxisrainyukhehlktxntn kxnthicathukphnwkekhakbckrwrrdixssieriyinstwrrsthi 8 kxnkhristkal ckrwrrdixssieriyihm aephnthidinaednkhxngxssieriyihm inchwng 824 pikxnkhristkal aela 671 pikxnkhristkal rthemuxngkhunkhxngckrwrrdixssieriyihm 911 pikxnkhristkal 609 pikxnkhristkal mikhwamsmphnthxnepnexklksnkbckrwrrdiphupkkhrxng aemwaemuxngkhuncamikhwamsakhytxkaremuxngphayinkhxngckrwrrdiaelaechuxmoyngkbrupaebbkarpkkhrxngaelaesrsthkic aetkimthuxwaepnswnhnungkhxng rthxssieriy khtikhxngckrwrrdixssieriyihmihkhwamsakhykbkarhlxmrwmkhwamhlakhlayihepnhnungediyw thaihemuxngkhuntang samarthrksakhwamepnxisrathangwthnthrrmidinradbhnung inkhnathikarkhyaydinaednkhxngxssieriyihmchalnginstwrrsthi 7 kxnkhristkal canwnemuxngkhunklbephimkhun aesdngihehnthungkarepliynaeplnginnoybaytangpraeths kstriyxssieriyaesdngxanacehnuxemuxngkhunodykarsasmphuchphrrnaelastwcakaetlathxngthin bnthukthiekaaekthisudkhxngthrrmeniymnirabuyxnipiklthungrchsmythiklth iphliesxrthi 1 1114 pikxnkhristkal 1076 pikxnkhristkal insmyxssieriyklang aelaidrbkarfunfuxikkhrngody insmyxssieriyihmodymikarsrangswnthisasmsingtang cakthwthngckrwrrdi txmaphupkkhrxngxssieriyihmidykradbthrrmeniymnikhunxik srangswnthicalxngpainsieriyehnux inkhnathi srangbungnathieliynaebbphumipraethskhxngbabioleniyit inswnkhxngngansilpamikarphrrnnathungeruxngrawthiemuxngkhuntang naekhruxngbrrnakarmathwayxssieriy eruxngrawehlanithukaesdngphankarokhngkhanbhruxhmxbkrabtxhnakstriy brrnakarthinamathwaymitngaetmaaelalingipcnthungthungiwn chakkarthwaybrrnakaraelaekhaefakstriyehlaniaesdngihehnthungkarmiptismphnthkbemuxngkhuninckrwrrdixssieriyihm instwrrsthi 8 kxnkhristkal mikartngemuxngkhunthangtxnitkhxngckrwrrdiephimmakkhun emuxepriybethiybkbdinaednthangtxnehnuxkhxngckrwrrdisungekhythukthalaymakxn xanackrehlanimiklayepnphumiphakhthihnaaennaelaecriyrungeruxngmakkhxngckrwrrdi xanackrthangtawntkkhxngaemnayuefrthisdarngsthanakhwamepnemuxngkhuncnthungstwrrsthi 7 kxnkhristkalcungthukphnwkepncnghwdhnungkhxngckrwrrdi aetwaradbkarkhwbkhumxanackrehlaniaetktangkniptamthitng instwrrsthi 7 mikartngthinthanephimkhuninyudahmakkwainstwrrsthi 8 ehtukarnlksnaediywknekidkhunincxraednaesdngihehnwa yukhthixyuphayitkarkhwbkhumkhxngxssieriyihmepnyukhrungeruxngkhxngxanackrehlani epxresiyxakhiemnid epxresiyichesaethrp rabbkhahlwngepxresiy aethnkarichphupkkhrxngemuxngkhunsahrbdinaedninpkkhrxng aetkmibangkrnithikarichrabbemuxngkhunechnkn ehxrxodthsbnthukwa kstriy aehngmasiodeniyecrcakbepxresiyhlngcakthukfayxakhiemnidprabpraminpi 513 pikxnkhristkal masiodeniymikhwamechuxmoyngkbepxresiymakkhunemux Amyntas ihmikarxphiesksmrskbphrathidakhxngphraxngkhkbkhunnangchawepxresiy Hdt 5 21 masiodeniyphayitkarpkkhrxngdairxsthi 1 thukcdihepnekhtthitxngesiyphasiepnpracakhxngckrwrrdi Hdt 6 44 karkhwbkhumkhxngepxresiyehnuxmasiodeniyidrbkaryunyncak thi Naqsh I Rustam phraoxrskhxng Amyntas snbsnunesirksisthi 1 rahwangthiepxresiyrukrankrik inpi 479 pikxnkhristkal kxngthphxakhiemnidphayaephtxchawkrik nkhrrthxun imthuxwamasiodeniyepnfaykrikxiktxip dinaednxunthicdwaepnemuxngkhunmakkwaepnesaethrpkhux xahrb bnthukkhxngehxrxodthsrabuwa xahrbidihkhwamchwyehluxaekhmibsisthi 2 inkarrukranxiyipt 525 pikxnkhristkal dwyehtunixahrbcungimtxngepnesaethrpaelaidrbkarykewncakbrrnakarpracapi aetcarukebhistunaelaepxresoplisrabuwa xahrbyngkhngthwaykayanepnpriman 1 000 thaelnttxpi inkarrukrankrikinrchsmyesirksis ehxrxodthsidklawthungchawxahrbinswntang khxngkxngthphepxresiysungnaody oxrsindairxsthi 1 aemwackrwrrdixakhiemnidcamiphunthikwangihy aetkidwangrabbkarsuxsaraelakarechuxmtxrahwangphumiphakhtang thimiprasiththiphaph nnkhux esnthanghlwng sungthxdphanphunthiswnihyinckrwrrdi thaihsamarthkhnsngaelakracaysinkha wthnthrrm aelamonkhtirahwangkhahlwngkhxngrxakhiemnidaelaemuxngkhunid cinobran insmy rachwngsocw 1 046 770 pikxnkhristkal cnthung rachwngshn 206 pikxnkhristkal kh s 220 mirthemuxngkhuncanwnmakkxtngkhunindinaedncin rthehlanimikhnadtngaetnkhrrthkhnadelk ipcnthungrththisamarthkhwbkhumdinaednidepnbriewnkwang echn rthchu aela rthchi txmahnunginrthehlanisamarthphichitrthxun lngaelarwmxanackrepnhnungphayitckrphrrdixngkhaerk nnkhux cinsihxnget khxthkethiyngekiywkbsthanakhxngochsxn rachwngschingkhxngcinmxngwa rachwngsochsxnkhxngekahliepnemuxngkhunthi rachwngsochsxnmixanacpkkhrxngtnexnginthngkickarphayinaelaphaynxk dngnncungimcdwa epnxananikhmhruxemuxngkhunkhxngcin xyangirktam cinidelikichnoybaydngedimsungphxnprnaelaimaethrkaesngkickarkhxngekahli aelaepliynmaichnoybayaethrkaesngxyanghnkinchwngplaystwrrsthi 19y ehwiyn chuxikhotaeyngwaekahliepn emuxngkhun thixyuphayitkarpkkhrxngkhxngcin oxewn exn ednniotaeyngwaekahliepn rthbrrnakar thiepnxisraklawwa kareriykekahliwaepnemuxngkhunnn epnkarchichwnihekhaicphid rxkhillyngklawwa brrnakarthisngipyngpkkingody emuxngkhun thnghmd rwmthungthiebtaelachnephaphunemuxngincintawntk epnephiyng latin quid pro quo ephuxaelkkbsiththiinkarkhakhaykbcinphayitsthanathiepnmitrxyangyingethann rxkhillotaeyngwa ekahliimidmxngcinepnecaphupkkhrxngaetepnesmuxnhwhnakhrxbkhrw ekahliepriybethiybrachwngshmingepnbidaaelarachwngschingepnphichay aelarxkhillklawxikwa sahrbthrrmeniymthikstriycarayngantxckrphrrdithungkareluxkrchthayathhruxsnm hruxaecngihthrabthungkarsinphrachnmkhxngphrachnni hruxphramehsi epntn erasamarthmxngwaepnephiyngkhwamsmphnthechingphithikarethann imidekiywkhxngkberuxngxanackarpkkhrxng ckrwrrdixxtotmn rthkharachbripharaelarthbriwar khxng ckrwrrdixxtotmn inpi kh s 1590 ckrwrrdixxtotmn kh s 1299 1923 pkkhrxngrthbrrnakarhruxrthemuxngkhuncanwnhnunginphunthirxbnxkkhxngdinaednkhxngtn rabbemuxngkhunmihlayrupaebbthiaetktangknxxkip odybangrthidrbxnuyatiheluxkphunakhxngtnexngid inkhnathirthxun txngsngbrrnakarsahrbdinaednkhxngtn inchwngstwrrsthi 18 ckrwrrdixxtotmnkhwbkhumemuxngkhunaelarthbrrnakarhlayaehng echn rthwxlelekiy mxledewiy aeladuephimekhtphunthithipkkhrxngtnexng designation for an administrative territorial entityPages displaying wikidata descriptions as a fallback dinaedninphawaphungphing territory that does not possess full political independence as a sovereign statePages displaying wikidata descriptions as a fallback mnthl aebbcalxngthangrthsastr rthhunechid state that is supposedly independent but is in fact dependent upon an outside powerPages displaying wikidata descriptions as a fallback chwngthirthemuxngkhunmibthbathsakhy xangxingMynarova Jana 2015 Egypt among the Great Powers and its Relations to the Neighbouring Vassal Kingdoms in the Southern Levant according to the Written Evidence Thutmose III and Amarna Policies of Exchange Political Systems and Modes of Interaction in the Aegean and the Near East in the 2nd Millenium B C E Proceedings of the International Symposium at the University of Freiburg Institute for Archaeological Studies 30th May 2nd June 2012 Austrian Academy of Sciences Press pp 158 161 Elayi Josette 2018 The Small Vassal States of the Near East 1500 1200 The History of Phoenicia Lockwood Press pp 66 82 Morris Ellen 2006 Bowing and Scraping in the Ancient Near East An Investigation into Obsequiousness in the Amarna Letters Journal of Near Eastern Studies 65 3 179 188 doi 10 1086 508575 Kilani Marwan 2019 Byblos in the Late Bronze Age Interactions between the Levantine and Egyptian Worlds BRILL ISBN 9789004416604 Bryce Trevor 2005 Territories and Early Rivals of the Hatti Kingdom of the Hittites Oxford University Press p 49 50 ISBN 9780199279081 Devecchi Elena 2012 The International Relations of Hatti s Syrian Vassals or How to make the Best of Things Policies of exchange political systems and modes of interaction in the Aegean and Near East in the 2nd Millennium BCE Proceedings of the International Symposium at the University of Freiburg Institute for Archaeological Studies Austrian Academy of Sciences Press pp 117 120 Rowe Ignacio 2013 Amurru The Encyclopedia of Ancient History Blackwell Publishing Mora Clelia 2013 Carchemish The Encyclopedia of Ancient History Blackwell Publishing Hunt Alice M W 2015 Power and Prestige The Neo Assyrian Imperial Landscape Palace Ware across the Neo Assyrian Imperial Landscape Social Value and Semiotic Meaning BRILL pp 22 29 DeGrado Jessie 2019 King of the Four Quarters Diversity as a rhetorical strategy of the Neo Assyrian Empire Iraq 81 107 175 doi 10 1017 irq 2019 8 Faust Avraham 2021 Under the Empire The Neo Assyrian Empire in the Southwest imperial domination and its consequences Oxford University Press Lendering Jona Satraps and Satrapies Livius ekbcakaehlngedimemux 2021 04 28 subkhnemux 2021 05 17 Lendering Jona Macedonia Livius ekbcakaehlngedimemux 2021 05 09 subkhnemux 2021 05 17 Dandamayev Muhammad Arabia i The Achaemenid Province Arabaya Encyclopedia Iranica ekbcakaehlngedimemux 2 June 2021 subkhnemux 28 May 2021 Colburn Henry 2013 Connectivity and Communication in the Achaemenid Empire Journal of the Economic and Social History of the Orient 56 1 29 52 doi 10 1163 15685209 12341278 Rockhill 1889 p 1 Battistini 1952 p 50 Lin 1991 p 71 Oh 2019 pp 352 355 Lin 1991 pp 69 70 Fuchs Eckhardt Kasahara Tokushi Saaler Sven 4 December 2017 A New Modern History of East Asia V amp R unipress p 96 ISBN 978 3 7370 0708 5 ekbcakaehlngedimemux 20 February 2022 subkhnemux 17 March 2022 Rockhill 1889 p 2 Rockhill 1889 p 18 brrnanukrm Battistini Lawrence H 1952 The Korean Problem in the Nineteenth Century 8 1 2 47 66 doi 10 2307 2383005 ISSN 0027 0741 JSTOR 2383005 ekbcakaehlngedimemux 2022 02 04 subkhnemux 2022 03 17 Lin Ming te July 1991 Li Hung chang s Suzerain Policy toward Korea 1882 1894 Chinese Studies in History 24 4 69 96 doi 10 2753 CSH0009 4633240469 Oh Si Jin 28 October 2019 Resolving the Misunderstood Historical Order A Korean Perspective on the Historical Tributary Order in East Asia Brill Nijhoff 21 3 341 377 doi 10 1163 15718050 12340115 S2CID 213718118 Rockhill William W 1889 Korea in Its Relations with China 13 1 33 doi 10 2307 592442 ISSN 0003 0279 JSTOR 592442 ekbcakaehlngedimemux 2022 02 03 subkhnemux 2022 03 17aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb Vassal states