บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
เจ้าพระยาจักรี หรือ เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ เป็นเจ้าพระยาจักรีคนแรกในแผ่นดินกรุงธนบุรี คนทั้งหลายมักเรียกกันว่า "เจ้าพระยาจักรีแขก" มีชื่อจริงว่า "หมุด" หรือ "มะห์มู๊ด" เป็นมุสลิมเชื้อสายสุลต่านสุลัยมานเป็นบิดาของพระยายมราชเกษตราธิบดี หมัดหรือจุ้ย และพระยาราชวังสัน (หวัง) เป็นทหารเอกคนสำคัญคนหนึ่งของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
เจ้าพระยาจักรี (หมุด) | |
---|---|
สมุหนายก | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2310 – 2317 | |
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี |
ก่อนหน้า | พระยาพระคลัง |
ถัดไป | สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | หมุด พ.ศ. 2270 อาณาจักรอยุธยา |
เสียชีวิต | พ.ศ. 2317 (47 ปี) กรุงธนบุรี อาณาจักรธนบุรี |
ที่ไว้ศพ | กุโบร์ มัสยิดต้นสน |
บุตร | พระยายมราช พระยาราชวังสัน |
บุพการี |
|
ญาติ | สุลต่านสุลัยมาน ชาห์ (ทวด) |
กำเนิด
เจ้าพระยาจักรี เป็นบุตร (บุญยัง) บุตร บุตร สุลต่านสุลัยมาน เจ้าพระยาจักรี มีมารดาคือ หม่อมดาว
เกิดเมื่อ พ.ศ. 2270 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้ถวายตัวรับราชการเป็นมหาดเล็กในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาอมรินทร์หรือพระเจ้าเอกทัศน์ ต่อมามีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงศักดิ์นายเวร" หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า "หลวงนายศักดิ์"
ร่วมกู้เอกราช
ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาไม่นาน ท่านได้รับพระบรมราชโองการให้เดินทางไปเก็บเงินค่าส่วยสาอากรที่หัวเมืองชายทะเลภาคตะวันออก หลวงนายศักดิ์ได้เก็บเงินจากพระยาจันทบุรีได้เงิน 300 ชั่ง เมื่อได้รับข่าวกรุงแตกจึงเอาเงินไปฝังไว้ที่วัดจันทร์ ตกค่ำจึงวางแผนให้พรรคพวกชาวจีนมาโห่ร้องทำทีปล้นแล้วบอกพระยาจันทบุรีว่า โจรปล้นเงินไปหมด พระยาจันทบุรีไม่เชื่อสั่งให้จับหลวงนายศักดิ์ประจวบกับพระยาตากซึ่งตั้งตนเป็น เจ้าตาก ยกกองทัพถึงจันทบุรี หลวงนายศักดิ์จึงหนีออกไปสมทบเพราะเจ้าตากเคยทำราชการภายใต้บังคับบัญชาของตนจึงรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน หลวงนายศักดิ์ได้มอบจีนพรรคพวกให้ 500 คน กับเงินส่วยสาอากร 300 ชั่งที่เก็บไว้นั้นร่วมกันกับเจ้าตากตีเมืองจันทบุรีแตก
เจ้าตากใช้เงินที่หลวงนายศักดิ์มอบให้จำนวน 300 ชั่ง เป็นเงินทุนจัดสร้างเรือรบขึ้นที่จันทบุรี ประกอบกับหลวงนายศักดิ์เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการเดินเรือและต่อเรือ จึงทำให้สามารถสร้างเรือประมาณร้อยลำ
กองทัพของเจ้าตากสามารถตีเมืองธนบุรีซึ่งพม่ามอบให้นายทองอินปกครองดูแล เมื่อยึดเมืองได้แล้วก็ยกกองทัพไปตีค่ายโพธิ์สามต้นของพม่าซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงศรีอยุธยากองทัพได้รับชัยชนะโดยสามารถฆ่าสุกี้แม่ทัพของพม่าตายในสนามรบทำให้กรุงศรีอยุธยากลับคืนสู่อิสรภาพภายในระยะเวลาเพียง ๗ เดือนหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาซึ่งหนึ่งในบรรดาผู้กอบกู้อิสรภาพก็คือหลวงนายศักดิ์
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จขึ้นครองราชย์และสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีแห่งใหม่ในปี พ.ศ. 2311 โปรดเกล้าฯ หลวงนายศักดิ์เป็นอัครมหาเสนาบดีมีบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ ดำรงตำแหน่ง สมุหนายก ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ปกครองดูแลหัวเมืองตั้งแต่เหนือสุดของประเทศจดดินแดนภาคกลางของประเทศ นับเป็นเจ้าพระยาจักรีคนแรกในแผ่นดินกรุงธนบุรี คนทั้งหลายมักเรียกกันว่า "เจ้าพระจักรีแขก"
แม่ทัพคู่พระทัย
ศึกนครศรีธรรมราช
ในปี พ.ศ. 2312 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดเกล้าฯให้เจ้าพระยาจักรีฯเป็นแม่ทัพยกทัพไปปราบชุมนุมนครศรีธรรมราช ซึ่งถือว่าเป็นชุมนุมที่เข้มแข็งและมีความสามารถสูง ในการตีเมืองนครศรีธรรมราชนี้ ข้าราชการชั้นสูงที่ร่วมเดินทางในกองทัพได้เสียชีวิตในสนามรบ ซึ่งได้แก่พระยาเพชรบุรีและพระยาศรีพิพัฒน์ กองทัพของเจ้าพระยาจักรีฯไม่สามารถตีเมืองนครศรีธรรมราชได้ เนื่องจากเมืองนครศรีธรรมราชมีกองกำลังที่เหนือกว่า จึงถอยไปตั้งหลักที่เมืองไชยา กองทัพหลวงซึ่งมีสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จยกทัพมาปราบ เมื่อเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชทราบว่ามีกองทัพของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพมา จึงนำกำลังพลหนีออกจากเมือง แล้วไปหลบซ่อนอยู่ที่ปัตตานี เมื่อกองทัพของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมาถึงนครศรีธรรมราชก็สามารถตีกองทัพซึ่งรักษาเมืองนครศรีธรรมราชได้ พระองค์ทรงมีบัญชาให้เจ้าพระยาจักรีออกติดตามหาตัวเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งท่านก็สามารถติดตามนำตัวมาถวายได้เป็นผลสำเร็จ
โคลงยอพระเกียรติพระเจ้ากรุงธนบุรีซึ่งแต่งโดยนายสวน มหาดเล็ก เมื่อปี พ.ศ. 2414 ได้กล่าวถึงเจ้าพระยาจักรี สมุหนายก ไว้ตอนหนึ่งว่า
ฝ่ายหมู่มุขมาตย์เฝ้า | บริบาล | |
ชาญกิจชาญรงค์ชาญ | เลิศล้วน | |
สมุหกลาโหมหาญ | หาญยิ่ง | |
นายกยกพจน์ถ้อย | ถี่ถ้อยขบวนความ |
สงครามกัมพูชา
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดเกล้าฯให้ยกทัพไปปราบกัมพูชาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2314 โดยมีเจ้าพระยาจักรี (หมุดหรือแขก) เป็นแม่ทัพเรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดเกล้าฯให้เจ้าพระยาจักรีและพระยาทิพโกษาทำค่ายน้ำสองฝากของเมือง ต่อมาโปรดเกล้าฯให้กองทัพเข้าปล้นเอาเมืองพุทไธมาศในเวลากลางคืนตอนเที่ยงคืน กองทัพไทยทั้งทัพบกและทัพเรือโหมตีเอาเมืองพุทไธมาศ ฝ่ายกองทัพพระยาราชาเศรษฐีเมืองพุทไธมาศไม่สามารถสู้ได้จึงหนีเอาตัวรอด ส่วนพระยาราชาเศรษฐีก็หนีออกจากเมืองไปทางทะเล
หลังจากนั้น กองทัพบกของพระยายมราชยกเข้าตีเมืองพระตะบอง เมืองโพธิสัตว์และเมืองบริบูรณ์ได้เป็นผลสำเร็จ จากนั้นก็ได้ยกเข้าไปจะตีเมืองพุทไธเพชร แต่เจ้าพระยาจักรีตีได้เมืองพุทไธเพชรก่อนแล้ว องค์พระอุไทยราชานำทัพออกสู้รบด้วยแต่ไม่สามารถต้านทานได้ จึงนำไพร่พลบริวารหนีไปตั้งทัพที่บาพนม หลังจากนั้นเจ้าพระยาจักรีนำกองกำลังตั้งอยู่ที่เมืองพุทไธเพชร มอบให้องค์พระรามาธิบดีอยู่รักษาเมืองพุทไธเพชร ส่วนเจ้าพระยาจักรีได้เดินทางลงมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีที่เกาะพนมเพญ แล้วเลยไปเมืองบาพนมเพื่อติดตามจับองค์พระอุไทยราชา แต่ไม่อาจจับตัวได้ เพราะพวกญวนเมืองลูกหน่ายมาจับตัวองค์พระอุไทยราชาหนีไปเมืองญวน ชาวเมืองบาพนมเข้าสวามิภักดิ์โดยดีไม่มีการสู้รบกัน ต่อจากนั้นเจ้าพระยาจักรีก็ยกทัพกลับมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีที่เกาะพนมเพญ ต่อมาองค์พระรามาธิบดีได้ลงมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์ได้โปรดให้องค์พระรามาธิบดีไปครองเมืองพุทไธเพชร และมีพระดำรัสให้พระยายมราช (ทองด้วง) และพระยาโกษาไปช่วยราชการที่เมืองพุทไธเพชรจนกว่าจะสงบราบคาบ หลังจากเสร็จศึกที่กัมพูชาแล้ว สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดเกล้าฯ พระราชทานญวนข้างในซึ่งเป็นบุตรสาวของพระยาราชเศรษฐีเจ้าเมืองพุทไธมาศแก่แม่ทัพที่ร่วมในสงครามครั้งนี้ ซึ่งเจ้าพระยาจักรีก็ได้รับพระราชทานด้วย โดยให้โขลนนำไปพระราชทานถึงเรือน
ชีวิตครอบครัว
เจ้าพระยาจักรี (หมุดหรือแขก) มีบุตร 3 คน คือ พระยายมราชเกษตราธิบดี (หมัดหรือจุ้ย), พระยาราชวังสัน (หวัง) ซึ่งเป็นคุณตาของสมเด็จพระศรีสุลาลัย พระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และคนที่ 3 คือ ลักษมณา ผู้ถูกกองทัพเมืองนครศรีธรรมราชจับตัวไปในคราวที่เจ้าพระยาจักรี (หมุด) ยกทัพไปตีเมืองนครศรีธรรมราชในปี พ.ศ. 2312
สายสกุลของเจ้าพระยาจักรีนี้ เป็นสายสกุลใหญ่ฝ่ายอิสลาม ที่สืบเชื้อเป็นสายสกุลที่มีความสัมพันธ์กับราชินีกูลทาง กรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย (เจ้าจอมมารดาเรียม) พระราชชนนีใน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สายสกุลนี้ประกอบด้วย : ชลายนเดชะ สมุทรานนท์ สมุทรโคจร สุเทพากร ณรงค์ภักดี ชื่นภักดี โยธาสมุทร แสงวณิชย์ สิทธิวณิชย์ มหฤดีวรรณ มุขตารี มานะจิตต์ กลัดไวยเนตร กัลยาณสุต เกสพานิช ภู่มาลี ท้วมประถม ทองคำวงศ์ ศรีวรรณยศ ศิริสัมพันธ์ ฯลฯ
บั้นปลายชีวิต
เจ้าพระยาจักรี (หมุดหรือแขก) ถึงอสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. 2317 โดยในวันฝังศพของท่านที่สุสานมัสยิดต้นสน สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จฯมาร่วมพิธีฝังศพ ทรงปลูกต้นลั่นทมและโปรดเกล้าฯพระราชทานที่ดินเพิ่มเติมให้แก่มัสยิดต้นสนเพื่อขยายขอบเขตของสุสาน หรือ กุโบร์
พวกญาติพี่น้องสายเจ้าพระยาจักรี (หมุด) อยู่ใกล้กับวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เรียกกันว่า "แพ" หรือ "แขกแพ" ไม่ห่างไกลจากวัดหนัง อันเป็นเขตที่อยู่อาศัยของ พวกญาติพี่น้องพระยาพัทลุง (ขุน) ผู้เป็นญาติสนิท
ลำดับสาแหรก
ลำดับสาแหรกของเจ้าพระยาจักรี (หมุด) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ภัทระ คาน. สุสานประวัติศาสตร์ 3 สมัย. ใน . กทม. จิรรัชการพิมพ์. 2544
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid ecaphrayackri hrux ecaphrayackrisrixngkhrks epnecaphrayackrikhnaerkinaephndinkrungthnburi khnthnghlaymkeriykknwa ecaphrayackriaekhk michuxcringwa hmud hrux mahmud epnmuslimechuxsaysultansulymanepnbidakhxngphrayaymrachekstrathibdi hmdhruxcuy aelaphrayarachwngsn hwng epnthharexkkhnsakhykhnhnungkhxngsmedcphraecakrungthnburiecaphrayackri hmud smuhnaykdarngtaaehnng ph s 2310 2317kstriysmedcphraecakrungthnburikxnhnaphrayaphrakhlngthdipsmedcecaphrayamhakstriysukkhxmulswnbukhkhlekidhmud ph s 2270 xanackrxyuthyaesiychiwitph s 2317 47 pi krungthnburi xanackrthnburithiiwsphkuobr msyidtnsnbutrphrayaymrach phrayarachwngsnbuphkarikhunlksmna bida hmxmdaw marda yatisultansulyman chah thwd kaenidecaphrayackri epnbutr buyyng butr butr sultansulyman ecaphrayackri mimardakhux hmxmdaw ekidemux ph s 2270 insmykrungsrixyuthya idthwaytwrbrachkarepnmhadelkinsmysmedcphrathinngsuriyaxmrinthrhruxphraecaexkthsn txmamibrrdaskdiepn hlwngskdinayewr hruxeriykknodythwipwa hlwngnayskdi rwmkuexkrachkxnesiykrungsrixyuthyaimnan thanidrbphrabrmrachoxngkarihedinthangipekbenginkhaswysaxakrthihwemuxngchaythaelphakhtawnxxk hlwngnayskdiidekbengincakphrayacnthburiidengin 300 chng emuxidrbkhawkrungaetkcungexaenginipfngiwthiwdcnthr tkkhacungwangaephnihphrrkhphwkchawcinmaohrxngthathiplnaelwbxkphrayacnthburiwa ocrplnenginiphmd phrayacnthburiimechuxsngihcbhlwngnayskdipracwbkbphrayataksungtngtnepn ecatak ykkxngthphthungcnthburi hlwngnayskdicunghnixxkipsmthbephraaecatakekhytharachkarphayitbngkhbbychakhxngtncungruckkhunekhyknmakxn hlwngnayskdiidmxbcinphrrkhphwkih 500 khn kbenginswysaxakr 300 chngthiekbiwnnrwmknkbecataktiemuxngcnthburiaetk ecatakichenginthihlwngnayskdimxbihcanwn 300 chng epnenginthuncdsrangeruxrbkhunthicnthburi prakxbkbhlwngnayskdiepnphumikhwamrukhwamchanayinkaredineruxaelatxerux cungthaihsamarthsrangeruxpramanrxyla kxngthphkhxngecataksamarthtiemuxngthnburisungphmamxbihnaythxngxinpkkhrxngduael emuxyudemuxngidaelwkykkxngthphiptikhayophthisamtnkhxngphmasungtngxyuthikrungsrixyuthyakxngthphidrbchychnaodysamarthkhasukiaemthphkhxngphmatayinsnamrbthaihkrungsrixyuthyaklbkhunsuxisrphaphphayinrayaewlaephiyng 7 eduxnhlngcakesiykrungsrixyuthyasunghnunginbrrdaphukxbkuxisrphaphkkhuxhlwngnayskdi smedcphraecakrungthnburiesdckhunkhrxngrachyaelasthapnakrungthnburiepnrachthaniaehngihminpi ph s 2311 oprdekla hlwngnayskdiepnxkhrmhaesnabdimibrrdaskdiepn ecaphrayackrisrixngkhrks darngtaaehnng smuhnayk sungmixanachnathipkkhrxngduaelhwemuxngtngaetehnuxsudkhxngpraethscddinaednphakhklangkhxngpraeths nbepnecaphrayackrikhnaerkinaephndinkrungthnburi khnthnghlaymkeriykknwa ecaphrackriaekhk aemthphkhuphrathysuknkhrsrithrrmrach inpi ph s 2312 smedcphraecakrungthnburioprdeklaihecaphrayackriepnaemthphykthphipprabchumnumnkhrsrithrrmrach sungthuxwaepnchumnumthiekhmaekhngaelamikhwamsamarthsung inkartiemuxngnkhrsrithrrmrachni kharachkarchnsungthirwmedinthanginkxngthphidesiychiwitinsnamrb sungidaekphrayaephchrburiaelaphrayasriphiphthn kxngthphkhxngecaphrayackriimsamarthtiemuxngnkhrsrithrrmrachid enuxngcakemuxngnkhrsrithrrmrachmikxngkalngthiehnuxkwa cungthxyiptnghlkthiemuxngichya kxngthphhlwngsungmismedcphraecakrungthnburiesdcykthphmaprab emuxecaemuxngnkhrsrithrrmrachthrabwamikxngthphkhxngsmedcphraecakrungthnburiykthphma cungnakalngphlhnixxkcakemuxng aelwiphlbsxnxyuthipttani emuxkxngthphkhxngsmedcphraecakrungthnburimathungnkhrsrithrrmrachksamarthtikxngthphsungrksaemuxngnkhrsrithrrmrachid phraxngkhthrngmibychaihecaphrayackrixxktidtamhatwecaemuxngnkhrsrithrrmrach sungthanksamarthtidtamnatwmathwayidepnphlsaerc okhlngyxphraekiyrtiphraecakrungthnburisungaetngodynayswn mhadelk emuxpi ph s 2414 idklawthungecaphrayackri smuhnayk iwtxnhnungwa fayhmumukhmatyefa bribalchaykicchayrngkhchay elislwnsmuhklaohmhay hayyingnaykykphcnthxy thithxykhbwnkhwamsngkhramkmphucha smedcphraecakrungthnburioprdeklaihykthphipprabkmphuchakhrngthi 2 inpi ph s 2314 odymiecaphrayackri hmudhruxaekhk epnaemthpherux smedcphraecakrungthnburioprdeklaihecaphrayackriaelaphrayathiphoksathakhaynasxngfakkhxngemuxng txmaoprdeklaihkxngthphekhaplnexaemuxngphuthithmasinewlaklangkhuntxnethiyngkhun kxngthphithythngthphbkaelathpheruxohmtiexaemuxngphuthithmas faykxngthphphrayarachaesrsthiemuxngphuthithmasimsamarthsuidcunghniexatwrxd swnphrayarachaesrsthikhnixxkcakemuxngipthangthael hlngcaknn kxngthphbkkhxngphrayaymrachykekhatiemuxngphratabxng emuxngophthistwaelaemuxngbriburnidepnphlsaerc caknnkidykekhaipcatiemuxngphuthithephchr aetecaphrayackritiidemuxngphuthithephchrkxnaelw xngkhphraxuithyrachanathphxxksurbdwyaetimsamarthtanthanid cungnaiphrphlbriwarhniiptngthphthibaphnm hlngcaknnecaphrayackrinakxngkalngtngxyuthiemuxngphuthithephchr mxbihxngkhphraramathibdixyurksaemuxngphuthithephchr swnecaphrayackriidedinthanglngmaefasmedcphraecakrungthnburithiekaaphnmephy aelwelyipemuxngbaphnmephuxtidtamcbxngkhphraxuithyracha aetimxaccbtwid ephraaphwkywnemuxnglukhnaymacbtwxngkhphraxuithyrachahniipemuxngywn chawemuxngbaphnmekhaswamiphkdiodydiimmikarsurbkn txcaknnecaphrayackrikykthphklbmaefasmedcphraecakrungthnburithiekaaphnmephy txmaxngkhphraramathibdiidlngmaefasmedcphraecakrungthnburi phraxngkhidoprdihxngkhphraramathibdiipkhrxngemuxngphuthithephchr aelamiphradarsihphrayaymrach thxngdwng aelaphrayaoksaipchwyrachkarthiemuxngphuthithephchrcnkwacasngbrabkhab hlngcakesrcsukthikmphuchaaelw smedcphraecakrungthnburi oprdekla phrarachthanywnkhanginsungepnbutrsawkhxngphrayarachesrsthiecaemuxngphuthithmasaekaemthphthirwminsngkhramkhrngni sungecaphrayackrikidrbphrarachthandwy odyihokhlnnaipphrarachthanthungeruxnchiwitkhrxbkhrwecaphrayackri hmudhruxaekhk mibutr 3 khn khux phrayaymrachekstrathibdi hmdhruxcuy phrayarachwngsn hwng sungepnkhuntakhxngsmedcphrasrisulaly phrabrmrachchnniinphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw aelakhnthi 3 khux lksmna phuthukkxngthphemuxngnkhrsrithrrmrachcbtwipinkhrawthiecaphrayackri hmud ykthphiptiemuxngnkhrsrithrrmrachinpi ph s 2312 sayskulkhxngecaphrayackrini epnsayskulihyfayxislam thisubechuxepnsayskulthimikhwamsmphnthkbrachinikulthang krmsmedcphrasrisulaly ecacxmmardaeriym phrarachchnniin phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw rchkalthi 3 sayskulniprakxbdwy chlaynedcha smuthrannth smuthrokhcr suethphakr nrngkhphkdi chunphkdi oythasmuthr aesngwnichy siththiwnichy mhvdiwrrn mukhtari manacitt kldiwyentr klyansut eksphanich phumali thwmprathm thxngkhawngs sriwrrnys sirismphnth lbnplaychiwitecaphrayackri hmudhruxaekhk thungxsykrrmemux ph s 2317 odyinwnfngsphkhxngthanthisusanmsyidtnsn smedcphraecakrungthnburiesdcmarwmphithifngsph thrngpluktnlnthmaelaoprdeklaphrarachthanthidinephimetimihaekmsyidtnsnephuxkhyaykhxbekhtkhxngsusan hrux kuobr phwkyatiphinxngsayecaphrayackri hmud xyuiklkbwdhngsrtnaramrachwrwihar eriykknwa aeph hrux aekhkaeph imhangiklcakwdhnng xnepnekhtthixyuxasykhxng phwkyatiphinxngphrayaphthlung khun phuepnyatisnithladbsaaehrkladbsaaehrkkhxngecaphrayackri hmud 16 omkxl 8 sultansulyman chah 4 phrayarachwngsn hasn 2 khunlksmna buyyng 1 ecaphrayackri hmud 3 hmxmdaw xangxingphthra khan susanprawtisastr 3 smy in kthm cirrchkarphimph 2544