บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ เพราะใช้โปรแกรมแปล และมีหลายจุดแปลผิด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
เค็มเปไต (ญี่ปุ่น:
เค็มเปไต 憲兵隊 | |
---|---|
เจ้าหน้าที่ของ "เค็มเปไต" บนรถไฟในปี ค.ศ. 1935 | |
ประจำการ | 1881–1945 |
ปลดประจำการ | August 1945 |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
ขึ้นต่อ | กองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น |
รูปแบบ | สารวัตรทหาร (Gendarmerie), ตำรวจลับ |
บทบาท | หน้าที่ต่าง ๆ รวมถึงกระบวนการสอบสวน, ตัดสินคดี, ปราบปรามการต่อต้านและการทหาร |
กำลังรบ | มากกว่า 36, 000 นาย (ค.ศ. 1945) |
ขึ้นกับ | (within the Japanese home islands) (overseas territories) |
ในขณะที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ เค็มเปไตก็ปลดประจำการของสารวัตรทหารสำหรับกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทหารเรือ (แม้ว่ากองทัพเรือจะมีขนาดเล็กกว่า ) เหล่าหน่วยงานสารวัตรทหารเหล่านี้อยู่ภายใต้การชี้นำของและตำรวจตุลาการภายใต้การกำกับดูแลของ สมาชิกของหน่วยจะถูกเรียกว่า เค็มเป.
ประวัติ
เค็มเปไต ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1881 โดยคำสั่งที่เรียกว่า ญี่ปุ่น: 憲兵条例; พระราชกฤษฎีกาเค็มเป, เปรียบเปรย "บทความที่เกี่ยวข้องกับสารวัตรทหาร". หน่วยเค็มเปไตของญี่ปุ่นได้รับโครงสร้างมาจากหน่วยงานสารวัตรทหารของฝรั่งเศสที่เรียกว่า Gendarmerie Nationale รายละเอียดของหน่วยสารวัตรทหารผู้บริหารและตุลาการของเค็มเปไตถูกกำหนดโดย เค็มเป เรย์ แห่งปี ค.ศ. 1898, ซึ่งแก้ไขครั้งที่ยี่สิบหกก่อนที่ญี่ปุ่นจะพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่สองในเดือนสิงหาคม 1945
กองกำลังในระยะเริ่มแรกประกอบด้วย 349 นาย การบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารใหม่เป็นส่วนสำคัญของหน้าที่ของหน่วยเนื่องจากการต่อต้านจากครอบครัวชาวนา ฝ่ายกิจการทั่วไปของเค็มเปไตมีหน้าที่รับผิดชอบในนโยบายของกองทัพ, การบริหารงานบุคคลระเบียบวินัยภายในรวมถึงการสื่อสารกับกระทรวงทหารเรือ, กระทรวงมหาดไทยและการไต่สวนสืบสวนคดี ฝ่ายปฏิบัติการรับผิดชอบด้านการกระจายหน่วยสารวัตรทหารในกองทัพ, ความมั่นคงสาธารณะและข่าวกรอง
ในปี ค.ศ. 1907, จักรวรรดิญี่ปุ่นได้ยึดครองเกาหลีในฐานะอาณานิคม หน่วยเค็มเปไตได้รับมอบคำสั่งให้ไปประจำการที่เกาหลีด้วย หน้าที่หลักของหน่วยคือกฎหมายกำหนดให้เป็น "ผู้รักษาความสงบเรียบร้อย", แม้ว่าหน่วยนี้จะทำหน้าที่เป็นสารวัตรทหาร สำหรับกองทัพญี่ปุ่นประจำการอยู่ที่นั่น สถานะนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังจาก การผนวกเกาหลีของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1910
เค็มเปไตมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ และบรรดาดินแดนที่ถูกยึดครองโดยจักรวรรดิภายใต้การกำกับควบคุมของ นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีกองกำลังตำรวจลับพลเรือน, โทคโคะ, ซึ่งเป็นตัวย่อของญี่ปุ่น คำว่า ("หน่วยตำรวจระดับสูง") ส่วนหนึ่งของกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตาม, เค็มเปไตมีแผนกสาขาหน่วยงสย โทคโคะ เป็นของตนเองและได้รับมอบให้ทำหน้าที่มี่เกี่ยวกับการทำงานของตำรวจลับ
เมื่อหน่วยเค็มเปไตจับกุมพลเรือนภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกจับกุมอาจถูกดำเนินคดีทางพลเรือน
ความโหดร้ายของหน่วยเค็มเปไตนั้นโด่งดังและเป็นที่กล่าวขานอย่างมากในเกาหลีและดินแดนที่ถูกยึดครองอื่นๆ เค็มเปไตก็ถูกรังเกียจในประเทศญี่ปุ่นเช่นกันโดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อนายกรัฐมนตรี ฮิเดกิ โตโจ ที่เคยดำรงตำแหน่งเค็มเปไตประจำกองทัพคันโตในแมนจูเรีย ตั้งปี ค.ศ. 1935 ถึง 1937, โตโจได้ใช้หน่วยเค็มเปไตอย่างกว้างขวางเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนมีความภักดีและไม่แสดงอาการขัดขืนต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นในการทำสงคราม
หน่วยเค็มเปไตได้ถูกปลดอาวุธและถูกยุบหลังจากการยอมจำนนของญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945.
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการจัดตั้งหน่วยสารวัตรทหารประจำแต่ละเหล่าทัพในกองกำลังป้องกันตนเองขึ้นมาแทนที่หน่วยเค็มเปไตที่ถูกยุบ ในชื่อ "เคมุกัง" ญี่ปุ่น : (警務官) โรมาจิ : Keimukan
ภารกิจในช่วงสงคราม
หน่วยเค็มเปไตมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อไปนี้:
- อนุญาตหรือให้ใบอนุญาตเดินทาง
- การเกณฑ์แรงงานทาส
- การข่าวกรองและการต่อต้านการโฆษณาชวนเชื่อ (ดำเนินการโดย - เค็มเปไตมีหน้าที่ "ต่อต้านลัทธิอุดมการณ์")
- จัดหาใบขอเสนอซื้อและการปันส่วน
- และการประชาสัมพันธ์โฆษณาชวนเชื่อ
- คุ้มกันพื้นที่ให้ความปลอดภัยทางการทหาร
ในปี ค.ศ. 1944 แม้สงครามจะเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เค็มเปไตก็ยังคงจับกุมผู้คนไว้สำหรับความรู้สึกต่อต้านสงครามและการเรียกร้องประชาธิปไตย
เครื่องแบบ
บุคลากรสวมมาตรฐานอย่างใดอย่างหนึ่งของเครื่องแบบภาคสนามของกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่นหรือชุดทหารม้าที่มีรองเท้าบูทหนังสีดำสูง เสื้อผ้าพลเรือนก็ได้รับอนุญาต แต่ตราประจำตำแหน่งหรือจักรพรรดิญี่ปุ่น ดอกเบญจมาศ สวมอยู่ภายใต้ปกเสื้อแจ็คเก็ต พนักงานเครื่องแบบสวมบั้งนายสิบบนเครื่องแบบและมีปลอกแขนสีขาวที่แขนซ้ายด้วยอักษรญี่ปุ่นคำว่า เค็ง (憲, ที่แปลว่า "กฎหมาย") และ เฮย์ (兵, ที่แปลว่า "ทหาร"), เมื่ออ่านรวมกันจึงอ่านว่า เค็มเป ซึ่งแปลว่า "ตำรวจทหาร"
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Takahashi, Masae (editor and annotator), Zoku Gendaishi Shiryo ("Materials on Contemporary History, Second Series"), Volume 6, Gunji Keisatsu ("Military Police"), (Tokyo: Misuzu Shobo, 1982), pp. v–xxx.
- Dajokan-Tatsu (Decree in Grand Council of the State) of 11 March 1881 (14th Year of Meiji), No. 11. This decree was subsequently amended by Chokurei (Order in Privy Council) of 28 March 1889 (22nd Year of Meiji), No. 43.
- Order in Privy Council of 29 November 1898 (31st year of Meiji), No. 337.
- Order in Privy Council of 1907 (40th Year of Meiji), No. 323.
- Naohiro Asao, et al. ed., Simpan Nihonshi Jiten ("Dictionary of Japanese History, New Edition", Tokyo: Kadokawa Shoten, 1997) p. 742 ("Tojo Hideki"), and pp. 348–9 ("Kempei").
- , Japan's War, p 397 ISBN
ดูเพิ่ม
- Deacon, Richard, Kempei Tai: A History of the Japanese Secret Service Berkley; Reprint edition 1990. ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- U.S. Report on Kempei (1945)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb ephraaichopraekrmaepl aelamihlaycudaeplphid khunsamarthchwyphthnabthkhwamid ekhmepit yipun 憲 けん 兵 へい 隊 たい ormaci kenpeitai thbsphth hnwytarwcthhar k ɛ n p eɪ ˈ t aɪ epnhnwyngansarwtrthharsungepnhnwyaephnkhnungkhxngkxngthphbkckrwrrdiyipun cakpi kh s 1881 thungpi kh s 1945 ekhmepitepnthngsarwtrthharaelakxngkalngtarwclbekhmepit 憲兵隊ecahnathikhxng ekhmepit bnrthifinpi kh s 1935pracakar1881 1945pldpracakarAugust 1945praeths yipunkhuntx kxngthphbkckrwrrdiyipunrupaebbsarwtrthhar Gendarmerie tarwclbbthbathhnathitang rwmthungkrabwnkarsxbswn tdsinkhdi prabpramkartxtanaelakarthharkalngrbmakkwa 36 000 nay kh s 1945 khunkb within the Japanese home islands overseas territories inkhnathiepnswnhnungkhxngkxngthph ekhmepitkpldpracakarkhxngsarwtr thharsahrbkxngthpheruxckrwrrdiyipun phayitkarduaelkhxngrthmntriwakarkrathrwngthharerux aemwakxngthpheruxcamikhnadelkkwa ehlahnwyngansarwtr thharehlanixyuphayitkarchinakhxngaelatarwctulakarphayitkarkakbduaelkhxng smachikkhxnghnwycathukeriykwa ekhmep prawtihnwyekhmepitkhnatrwckhnxawuthphleruxncinhlngkarlmslaykhxngemuxngnankingnkbinkartiochbchwydulitetilkhxngkxngthphxakasshrth thukkhwbkhumtwodyhnwyekhmepitephuxthakarpraharchiwitsmachikkhxnghnwyekhmepitphrxmthharosewiytthithukcbkumepnechlyhlngcakyuththkarthaelsabkhasan ekhmepit kxtngkhuninpi kh s 1881 odykhasngthieriykwa yipun 憲兵条例 phrarachkvsdikaekhmep epriybepry bthkhwamthiekiywkhxngkbsarwtrthhar hnwyekhmepitkhxngyipunidrbokhrngsrangmacakhnwyngansarwtr thharkhxngfrngessthieriykwa Gendarmerie Nationale raylaexiydkhxnghnwysarwtr thharphubriharaelatulakarkhxngekhmepitthukkahndody ekhmep ery aehngpi kh s 1898 sungaekikhkhrngthiyisibhkkxnthiyipuncaphayaephsngkhramolkkhrngthisxngineduxnsinghakhm 1945 kxngkalnginrayaerimaerkprakxbdwy 349 nay karbngkhbichkdhmaykareknththharihmepnswnsakhykhxnghnathikhxnghnwyenuxngcakkartxtancakkhrxbkhrwchawna faykickarthwipkhxngekhmepitmihnathirbphidchxbinnoybaykhxngkxngthph karbriharnganbukhkhlraebiybwinyphayinrwmthungkarsuxsarkbkrathrwngthharerux krathrwngmhadithyaelakaritswnsubswnkhdi fayptibtikarrbphidchxbdankarkracayhnwysarwtr thharinkxngthph khwammnkhngsatharnaaelakhawkrxng inpi kh s 1907 ckrwrrdiyipunidyudkhrxngekahliinthanaxananikhm hnwyekhmepitidrbmxbkhasngihippracakarthiekahlidwy hnathihlkkhxnghnwykhuxkdhmaykahndihepn phurksakhwamsngberiybrxy aemwahnwynicathahnathiepnsarwtrthhar sahrbkxngthphyipunpracakarxyuthinn sthananiyngkhngimepliynaeplnghlngcak karphnwkekahlikhxngyipuninpi kh s 1910 ekhmepitmihnathirksakhwamsngberiybrxyphayinckrwrrdiyipunxyuphayitkarduaelkhxngrthmntriwakarkrathrwngmhadithyaela aelabrrdadinaednthithukyudkhrxngodyckrwrrdiphayitkarkakbkhwbkhumkhxng nxkcakniyipunyngmikxngkalngtarwclbphleruxn othkhokha sungepntwyxkhxngyipun khawa hnwytarwcradbsung swnhnungkhxngkrathrwngmhadithy xyangirktam ekhmepitmiaephnksakhahnwyngsy othkhokha epnkhxngtnexngaelaidrbmxbihthahnathimiekiywkbkarthangankhxngtarwclb emuxhnwyekhmepitcbkumphleruxnphayitkarkakbduaelkhxngrthmntriwakarkrathrwngyutithrrm phuthukcbkumxacthukdaeninkhdithangphleruxn khwamohdraykhxnghnwyekhmepitnnodngdngaelaepnthiklawkhanxyangmakinekahliaeladinaednthithukyudkhrxngxun ekhmepitkthukrngekiycinpraethsyipunechnknodyechphaainchwngsngkhramolkkhrngthisxngemuxnaykrthmntri hiedki otoc thiekhydarngtaaehnngekhmepitpracakxngthphkhnotinaemncueriy tngpi kh s 1935 thung 1937 otocidichhnwyekhmepitxyangkwangkhwangephuxihaenicwathukkhnmikhwamphkdiaelaimaesdngxakarkhdkhuntxtankxngthphyipuninkarthasngkhram hnwyekhmepitidthukpldxawuthaelathukyubhlngcakkaryxmcannkhxngyipun ineduxnsinghakhm kh s 1945 hlngsngkhramolkkhrngthi 2 idmikarcdtnghnwysarwtrthharpracaaetlaehlathphinkxngkalngpxngkntnexngkhunmaaethnthihnwyekhmepitthithukyub inchux ekhmukng yipun 警務官 ormaci Keimukanpharkicinchwngsngkhramhuncalxngekhruxngaebbhnwyekhmepitthi hnwyekhmepitmihnathitxngrbphidchxbtxipni xnuyathruxihibxnuyatedinthang kareknthaerngnganthas karkhawkrxngaelakartxtankarokhsnachwnechux daeninkarody ekhmepitmihnathi txtanlththixudmkarn cdhaibkhxesnxsuxaelakarpnswn aelakarprachasmphnthokhsnachwnechux khumknphunthiihkhwamplxdphythangkarthhar inpi kh s 1944 aemsngkhramcaekidkhunxyangehnidchd ekhmepitkyngkhngcbkumphukhniwsahrbkhwamrusuktxtansngkhramaelakareriykrxngprachathipityekhruxngaebbbukhlakrswmmatrthanxyangidxyanghnungkhxngekhruxngaebbphakhsnamkhxngkxngthphbkckrwrrdiyipunhruxchudthharmathimirxngethabuthhnngsidasung esuxphaphleruxnkidrbxnuyat aettrapracataaehnnghruxckrphrrdiyipun dxkebycmas swmxyuphayitpkesuxaeckhekt phnknganekhruxngaebbswmbngnaysibbnekhruxngaebbaelamiplxkaekhnsikhawthiaekhnsaydwyxksryipunkhawa ekhng 憲 thiaeplwa kdhmay aela ehy 兵 thiaeplwa thhar emuxxanrwmkncungxanwa ekhmep sungaeplwa tarwcthhar duephimhnwyexsexsxangxingTakahashi Masae editor and annotator Zoku Gendaishi Shiryo Materials on Contemporary History Second Series Volume 6 Gunji Keisatsu Military Police Tokyo Misuzu Shobo 1982 pp v xxx Dajokan Tatsu Decree in Grand Council of the State of 11 March 1881 14th Year of Meiji No 11 This decree was subsequently amended by Chokurei Order in Privy Council of 28 March 1889 22nd Year of Meiji No 43 Order in Privy Council of 29 November 1898 31st year of Meiji No 337 Order in Privy Council of 1907 40th Year of Meiji No 323 Naohiro Asao et al ed Simpan Nihonshi Jiten Dictionary of Japanese History New Edition Tokyo Kadokawa Shoten 1997 p 742 Tojo Hideki and pp 348 9 Kempei Japan s War p 397 ISBN 0 07 030612 5duephimDeacon Richard Kempei Tai A History of the Japanese Secret Service Berkley Reprint edition 1990 ISBN 0425074587aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ekhmepit U S Report on Kempei 1945