โบโชะ อองซาน (พม่า: ဗိုလ်ချုပ် အောင်ဆန်း, : aung hcan:, ออกเสียง: [àʊɰ̃ sʰáɰ̃]; 13 กุมภาพันธ์ 1915 – 19 กรกฎาคม 1947) เป็นนักการเมือง, นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราช และนักปฏิวัติชาวพม่า ผู้ก่อตั้งกองทัพพม่า และได้รับการขนานให้เป็นพม่าสมัยใหม่ เขามีบทบาทมากในการได้รับเอกราชของพม่า แต่ถูกลอบสังหารราวหกเดือนก่อนที่พม่าจะได้รับเอกราช
อองซาน | |
---|---|
အောင်ဆန်း | |
ผู้นำคนที่ 5 แห่งพม่าของบริเตน รองประธานคณะผู้บริหารระดับสูงของพม่า | |
ดำรงตำแหน่ง 26 กันยายน ค.ศ. 1946 – 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 | |
ก่อนหน้า | Sir Paw Tun |
ถัดไป | อู้นุ (เป็นนายกรัฐมนตรี) |
ประธานสันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ | |
ดำรงตำแหน่ง 27 มีนาคม ค.ศ. 1945 – 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 | |
ก่อนหน้า | ไม่มี |
ถัดไป | อู้นุ |
รัฐมนตรีว่าการสงครามแห่งพม่า | |
ดำรงตำแหน่ง 1 สิงหาคม ค.ศ. 1943 – 27 มีนาคม ค.ศ. 1945 | |
ก่อนหน้า | ไม่มี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | Htein Lin 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1915 , ภาคมะกเว, ประเทศพม่าของบริเตน |
เสียชีวิต | 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 ย่างกุ้ง, ประเทศพม่าของบริเตน | (32 ปี)
ลักษณะการเสียชีวิต | ถูกลอบสังหาร |
ที่ไว้ศพ | , ประเทศพม่า |
เชื้อชาติ | พม่า |
พรรคการเมือง | สันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์พม่า |
คู่สมรส | (สมรส 1942) |
บุตร | Aung San Lin อองซานซูจี Aung San Chit |
บุพการี |
|
ญาติ | (พี่/น้องชาย) Aung Than (พี่/น้องชาย) (หลานชาย) (หลานชาย) |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง |
อาชีพ | นักการเมือง, พลตรี |
ลายมือชื่อ | |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สันนิบาตเสรีภาพประชาชนต่อต้านฟาสซิสต์ พรรคคอมมิวนิสต์พม่า |
ยศ | พลตรี |
อองซานทั้งก่อตั้งและมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับกลุ่มและขบวนการทางการเมือง และเข้าใช้ชีวิตไปกับการศึกษาแนวคิดทางการเมืองต่าง ๆ ตลอด เขาเป็นผู้นิยมการต่อต้านลัทธิจักรวรรดิ และเมื่อเป็นนักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์และสังคมนิยม ต่อมาได้ศึกษาเกี่ยวกับวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพาของญี่ปุ่นเมื่อครั้งเป็นสมาชิกของกองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น เขาได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการระดับสูงของสภานักศึกษามหาวิทยาลัยย่างกุ้งตั้งแต่ปีแรกที่เข้าเรียน และเป็นบรรณาธิการประจำหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัย อองซานเข้าร่วมสมาคมทะขิ่นในปี 1938 ในตำแหน่งเลขาธิการ และต่อมาได้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์พม่า และพรรคสังคมนิยมพม่า
ชีวิตช่วงต้น
อองซานเกิดที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อในภาคมะกเว เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1915 ในครอบครัวชนชั้นกลาง เข้ามีพี่น้องรวมตัวเอง 9 คน โดยเป็นคนสุดท้อง ในจำนวนนี้เป็นพี่สาวสามคน และพี่ชายห้าคน ชื่อ "อองซาน" นั้นตั้งโดยพี่ชายคนหนึ่งของเขา Aung Than อองซานเข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนพุทธของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน นะเมาะ แต่ต่อมาได้ย้ายไปเยนานช่อง ตอนอยู่ประถมสี่ หลังพี่ชายคนโตสุด ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมที่เมืองนั้น
เมื่อเป็นวัยรุ่น อองซานมักอ่านหนังสือและครุ่นคิดกับตัวเองอยู่คนเดียวเป็นเวลาหลายชั่วโมง ในบทความชิ้นแรกสุดที่เขาได้เขียน ซึ่งตีพิมพ์ในส่วน "ความเห็น" ของ The World of Books เขาต่อต้านแนวคิดปัจเจกนิยมของตะวันตกซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยอู้ตั่น แต่ต่อมาอองซานและอู้ตั่นก็เป็นเพื่อนกัน
การปฏิวัติตะคีน
ในเดือนตุลาคม ปี 1938 อองซานออกจากการศึกษานิติศาสตร์และเข้าสู่เวทีการเมืองระดับชาติ ในเวลานี้เขามีจุดยืนต่อต้านอังกฤษและต่อต้านลัทธิจักรวรรดิอย่างมั่นคง เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ สมาคมทะขิ่น และเป็นเลขานุการของสมาคมจนถึงเดือนสิงหาคม 1940 ขณะดำรงตำแหน่ง เขาได้มีส่วนช่วยจัดการชุดการนัดประท้วงหยุดงานซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในชื่อการปฏิวัติ ME 1300 ซึ่งตั้งตามปฏิทินพม่า 1300 ตรงกับเดือนสิงหาคม 1938 ถึงกรกฎาคม 1939
ในวันที่ 18 มกราคม 1939 สมาคมเราชาวพม่าประกาศเจตจำนงที่จะใช้กำลังเพื่อล้มรัฐบาล ส่งผลให้ประชาคมถูกเพ่งเล็งและกำจัดโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ในวันที่ 23 มกราคม ตำรวจบุกเข้าสำนักงานของสมาคมที่เจดีย์ชเวดากอง และอองซานถูกจับกุมและคุมขังในคุกเป็นเวลา 15 วัน ฐานอั้งยี่และสมรู้ร่วมคิดล้มล้างรัฐบาล แต่ต่อมาได้ถูกเพิกถอนข้อกล่าวหา หลังเขาถูกปล่อยตัว เขาได้วางแผนการเพื่อขับเคลื่อนการได้รับเอกราชของพม่าโดยการเตรียมจัดการนัดประท้วงหยุดงานใหญ่ทั่วประเทศ, การรณรงค์ไม่จ่ายภาษี และจัดความไม่สงบผ่านการรบแบบกองโจร
มนเดือนสิงหาคม 1939 อองซานร่วมก่อตั้งและเป็นเลขาธิการประจำพรรคคอมมิวนิสต์พม่า ที่ซึ่งในภายหลังเขายอมรับว่าความสัมพันธ์กับพรรคไม่ค่อยราบรื่นนัก เขาเข้าร่วมและลาออกจากพรรคถึงสองครั้ง ไม่นานหลังตั้งพรรค เขาได้ตั้งองค์กรคล้ายคลึงขึ้นอีก คือ "พรรคประชาปฏิวัติ" (People's Revolutionary Party) หรืออีกชื่อคือ "พรรคปฏิวัติพม่า" (Burma Revolutionary Party) ซึ่งมีจุดยืนมาร์กซิสต์ มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างการปกครองของอังกฤษเหนือพม่า ต่อมาพรรคนี้กลายเป็นพรรคสังคมนิยมพม่าหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
นับตั้งแต่เป็นนักเรียนจนถึงสมัยทำงานทางการเมือง อองซานแทบไม่ได้รับค่าตอบแทนมากนัก เขาจึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในช่วงนี้อยู่ในความยากจน สมาชิกและผู้ร่วมงานกับเขาชื่นชมเขามากในฐานะบุคคลที่มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมและจรรยาบรรณการทำงานที่แข็งแกร่ง แต่บางครั้งเขาก็ถูกวิจารณ์ว่าขาดทักษะการประชาสัมพันธ์ และบ้างถึงกับว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโส ตลอดช่วงนี้เขาปฏิเสธการดื่มแอลกอฮอล์และไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว
สงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงครามโลกครั้งที่สองปะทุในเดือนกันยายน 1939 อองซานมีส่วนร่วมก่อตั้งองค์การชาตินิยมอีกแห่ง คือ ซึ่งเชื่อมการทำงานของตะคีน, สหพันธ์นักเรียนนักศึกษาพม่า, พระสงฆ์ที่มีความตื่นตัวทางการเมือง และของ ดร. โดยมี Ba Maw เป็น anarshin ("เผด็จการ") ของฟรีดอมบล็อก ส่วนอองซานเป็นเลาธิการของกลุ่ม กิจกรรมและเป้าหมายของกลุ่มมีใจกลางอยู่ที่แนวคิดการใช้ประโยชน์จากสงครามเพื่อให้พม่าได้รับเอกราช ซึ่งนำเอาแบบอย่างในการดำเนินการมาจาก "" ของอินเดีย ซึ่งนำโดยจันทระ โพส ผู้ที่มีการติดต่อเสมอ ๆ กับ Ba Maw ในปี 1939 ถูกจับกุมฐานล้มรัฐบาล แต่ต่อมาก็ถูกปล่อยตัว หลังเพียงสิบเจ็ดวัน
ในเดือนมีนาคม 1940 เขาเข้าร่วมการประชุมของคองเกรสแห่งชาติอินเดีย ที่ในประเทศอินเดีย พร้อมทั้งสมาชิกตะคีน เช่น Than Tun และ Ba Hein ระหว่างนั้น อองซานได้พบกับผู้นำขบวนการเอกราชอินเดียจำนวนมาก เช่น ชวาหะร์ลาล เนห์รู, มหาตมะ คานธี และ สุภาษ จันทระ โพส
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง สมาชิกของกองทัพพม่าที่ตั้งขึ้นเองบางส่วนได้รับข้อเสนอรับตำแหน่งในกองทัพแห่งชาติของพม่าถายใต้บังคับการของอังกฤษ ข้อตกลงมีขึ้นที่ซีลอนโดยลอร์ดหลุยส์ เมาท์แบตเติน เมื่อกันยายน 1945 อองซานไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการตกลงนี้เพราะเขากำลังตกเป็นประเด็นถกเถียงว่าเขาควรถูกนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมหรือไม่ จากบทบาทของเขาในการประหารชีวิตผู้นำมุสลิมใน สะเทิม ระหว่างสงคราม
การลอบสังหาร
ในช่วงปีท้าย ๆ ของพม่าภายใต้การปกครองของสหราชอาณาจักร อองซานได้ผูกมิตรกับ ในปี 1946 ราวหนึ่งปีก่อนเขาถูกลอบสังหาร อองซานเคยกล่าวว่าเขารู้สึกกลัวว่าตนเองอาจถูกลอบสังหาร
เวลาราว 10:30 นาฬิกา ของวันที่ 19 กรกฎาคม 1947 รถจีปของกองทัพคันหนึ่งพร้อมกลุ่มชายติดอาวุธขับเข้ามาในสวนของ ขณะอองซานกำลังมีประชุมกับสมาชิกรัฐบาลชุดใหม่ อาคารนี้ไม่มีกำแพงหรือรั้วล้อมในเวลานั้น และถึงแม้จะมีคนเตือนแล้วว่าอองซานกำลังถูกวางแผนฆาตกรรม ยามรักษาประตูเข้าออกของอาคารก็ไม่มีทีท่าจะกังวลกับชายติดอาวุธกลุ่มนี้ที่เข้ามาในอาคาร ชายสี่คนลงจากรถพร้อมปืนปืนกลมือทอมป์สันสามลำ และ สเตนหนึ่งลำ พร้อมระเบิด วิ่งขึ้นบนบันไดเข้าไปยังโถงประชุม ยิงยามรักษาประตูด้านนอกห้อง และบุกเข้าไปในโถงประชุม มือปืนตะโกนว่า "อยู่กับที่! อย่าขยับ!" อองซานลุกขึ้นและถูกยิงเข้าที่อก เสียชีวิตโดยทันที และมีสมาชิกสภาอีกสี่คนที่ถูกกราดยิง สามคนได้รับบาดเจ็บ และสามคนเท่านั้นที่รอดชีวิต
ยู ซอว์ อดีตนายกรัฐมนตรีพม่าก่อนสงครามโลกครั้งที่สองคนสุดท้าย ถูกจับกุมฐานก่อการฆาตกรรมในวันเดียวกัน ต่อมา ยู ซอว์ถูกตัดสินกระทำผิดจริงและประหารชีวิตโดยการแขวนคอ อย่างไรก็ตามมีการถกเถียงถึงกลุ่มหรือพรรคอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมในการก่อการลอบสังหารอองซานในครั้งนี้ บางส่วนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของอังกฤษเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
มรดก
สร้างขึ้นที่ฐานของเจดีย์ชเวดากองในปี 1947 และวันที่ 19 กรกฎาคม วันที่อองซานถูกลอบสังหาร ได้รับการประกาศเป็นวันผู้เสียสละแห่งพม่า วันหยุดทางการของรัฐบาลพม่า สุสานของอองซานหลังเดิมถูกทำลายจากเหตุระเบิดเมื่อ 9 ตุลาคม 1983 ในระหว่างความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ช็อน ดู-ฮวัน โดยเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ ไม่กี่เดือนหลังอองซานเสียชีวิต พม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษในวันที่ 4 มกราคม 1948 แต่ต่อมาในเดือนสิงหาคม 1948 ได้เกิดความขัดแย้งภายในพม่าระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน
ธนบัตรจัต พม่าตีพิมพ์ภาพของอองซานบนธนบัตรครั้งแรกในปี 1958 ราวสิบปีหลังเขาถูกฆาตกรรม หน้าของเขาปรากฏบนธนบัตรพม่าจนกระทั่งพม่าถูกระฐประหารโดยกองทัพ ตั้งแต่ปี 1988 เป็นต้นมา รูปของอองซานถูกแทนที่ด้วยภาพวิถีชีวิตพม่า เป็นไปได้ว่าเพื่อลดความนิยมของลูกสาวของอองซาน อองซานซูจี ซึ่งกำลังมีบทบาททางการเมืองต่อต้านการรัฐประหารและเผด็จการในเวลานั้น ในปี 2017 สมัชชาแห่งสหภาพลงคะแนนเสียง 286 ต่อ 107 เพื่อนำภาพของอองซานกลับมา โดยมีธนบัตร 1,000 จัต ที่มีภาพของอองซานออกสู่สาธารณะอีกครั้งเมื่อ 4 มกราคม 2020 วันครบรอบ
ครอบครัว
ขณะอองซานดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการรบในปี 1942 เขาพบและสมรสกับ ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสี่คน หลังอองซานถูกสังหาร ภรรยาหม้ายของเขาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตพม่าประจำอินเดีย และจากนั้นครอบครัวก็ย้ายออกจากพม่า ลูกคนที่อายุน้อยที่สุดที่มีชีวิตรอดคือ อองซานซูจี ขณะเกิดเหตุลอบสังหารอองซาน เธออายุเพียงสองขวบเท่านั้น ต่อมาอองซานซูจีได้ก้าวเข้าสู่การเมืองพม่าและเป็นบุคคลสำคัญในการเมืองพม่าจนกระทั่งเธอถูกรัฐประหารในปี 2021
อ้างอิง
- Thant 213
- Nay 99
- Nay 106
- Thant 214
- Naw 41-43
- Naw 44
- Smith 58
- Smith 56-57
- Naw 45-48
- Lintner 1990
- Thant 217
- Naw 49
- Smith 58
- Lintner 2003 41
- Aung San Suu Kyi (1984). Aung San of Burma. Edinburgh: Kiscadale 1991. pp. 1, 10, 14, 17, 20, 22, 26, 27, 41, 44.
- Thant 228
- Smith 65-66
- Thant 248
- Thant 254
- Lintner 2003 xii
- "Who Killed Aung San?". The Irrawaddy (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-07-17. สืบค้นเมื่อ 2021-05-11.
- Lintner 2003 xiii
- Smith 71-72
- Ye Mon and Myat Nyein Aye
- BBC News
- Thant 293
- Thant 258-259
- Lintner 2003 203
- Zaw
- Rogers 27
- Thant 333
บรรณานุกรม
- "North Korea's History of Foreign Assassinations and Kidnappings". BBC News. 14 February 2017. Retrieved 19 September 2020.
- Houtman, Gustaaf. . In Kei Nemoto (ed). Reconsidering the Japanese military occupation in Burma (1942–45). Tokyo: Tokyo University of Foreign Studies. Research Institute for Languages and Cultures of Asia and Africa (ILCAA). 30 May 2007. pp. 179–227. ISBN , Retrieved 23 August 2020.
- . The Rise and Fall of the Communist Party of Burma. Cornell Southeast Asia Program Publication. 1990
- Lintner, Bertil. Burma in Revolt: Opium and Insurgency Since 1948. Chiang Mai, Thaiand: Silkworm Books. 2003.
- . Aung San of Burma. The Hague: Martinus Nijhoff for Yale University. 1962.
- Rogers, Benedict. Burma: A Nationa at a Crossroads. Great Britain: Random House. 2012.
- Smith, Martin. Burma: Insurgency and the Politics of Ethnicity. London and New Jersey: Zed Books. 1991.
- South, Ashley. Ethnic Politics in Burma: States of Conflict. New York, NY: Routelage. 2009.
- Stewart, Whitney. Aung San Suu Kyi: Fearless Voice of Burma. Twenty-First Century Books. 1997. ISBN
- . The River of Lost Footsteps: A Personal History of Burma. London: Faber and Faber Limited. 2008.
- Ye Mon and Myat Nyein Aye. "Martyr's Mausoleum Gets and Upgrade" 2021-07-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Myanmar Times. 17 June 2016. Retrieved 14 November 2020.
- Zaw Zaw Htwe. "Gen. Aung San Returns to Myanmar Banknotes After 30-Year Absence". The Irrawaddy. 7 January 2020. Retrieved 7 September 2020.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
obocha xxngsan phma ဗ လ ခ ပ အ င ဆန aung hcan xxkesiyng aʊɰ sʰaɰ 13 kumphaphnth 1915 19 krkdakhm 1947 epnnkkaremuxng nkekhluxnihwephuxexkrach aelankptiwtichawphma phukxtngkxngthphphma aelaidrbkarkhnanihepnphmasmyihm ekhamibthbathmakinkaridrbexkrachkhxngphma aetthuklxbsngharrawhkeduxnkxnthiphmacaidrbexkrachphltrixxngsanအ င ဆန phunakhnthi 5 aehngphmakhxngbrietn rxngprathankhnaphubriharradbsungkhxngphmadarngtaaehnng 26 knyayn kh s 1946 19 krkdakhm kh s 1947kxnhnaSir Paw Tunthdipxunu epnnaykrthmntri prathansnnibatesriphaphprachachntxtanfassistdarngtaaehnng 27 minakhm kh s 1945 19 krkdakhm kh s 1947kxnhnaimmithdipxunurthmntriwakarsngkhramaehngphmadarngtaaehnng 1 singhakhm kh s 1943 27 minakhm kh s 1945kxnhnaimmikhxmulswnbukhkhlekidHtein Lin 13 kumphaphnth kh s 1915 1915 02 13 phakhmakew praethsphmakhxngbrietnesiychiwit19 krkdakhm kh s 1947 1947 07 19 32 pi yangkung praethsphmakhxngbrietnlksnakaresiychiwitthuklxbsngharthiiwsph praethsphmaechuxchatiphmaphrrkhkaremuxngsnnibatesriphaphprachachntxtanfassist phrrkhkhxmmiwnistphmakhusmrs smrs 1942 butrAung San Lin xxngsansuci Aung San ChitbuphkariU Pha bida Daw Suu marda yati phi nxngchay Aung Than phi nxngchay hlanchay hlanchay sisyekamhawithyalyyangkungxachiphnkkaremuxng phltrilaymuxchuxysthiidrbkaraetngtngrbichsnnibatesriphaphprachachntxtanfassist phrrkhkhxmmiwnistphmaysphltri xxngsanthngkxtngaelamiswnekiywkhxngxyangmakkbklumaelakhbwnkarthangkaremuxng aelaekhaichchiwitipkbkarsuksaaenwkhidthangkaremuxngtang tlxd ekhaepnphuniymkartxtanlththickrwrrdi aelaemuxepnnksuksaideriynruekiywkblththikhxmmiwnistaelasngkhmniym txmaidsuksaekiywkbwngiphbulyrwmaehngmhaexechiyburphakhxngyipunemuxkhrngepnsmachikkhxngkxngthphbkckrwrrdiyipun ekhaidrbkareluxktngepnkrrmkarradbsungkhxngsphanksuksamhawithyalyyangkungtngaetpiaerkthiekhaeriyn aelaepnbrrnathikarpracahnngsuxphimphmhawithyaly xxngsanekharwmsmakhmthakhininpi 1938 intaaehnngelkhathikar aelatxmaidkxtngphrrkhkhxmmiwnistphma aelaphrrkhsngkhmniymphmachiwitchwngtnxxngsanekidthiemuxngelk chuxinphakhmakew emuxwnthi 13 kumphaphnth 1915 inkhrxbkhrwchnchnklang ekhamiphinxngrwmtwexng 9 khn odyepnkhnsudthxng incanwnniepnphisawsamkhn aelaphichayhakhn chux xxngsan nntngodyphichaykhnhnungkhxngekha Aung Than xxngsanekhaeriynchnprathmthiorngeriynphuththkhxngsanksngkhaehnghnungin naemaa aettxmaidyayipeynanchxng txnxyuprathmsi hlngphichaykhnotsud idrbtaaehnngphuxanwykarorngeriynmthymthiemuxngnn emuxepnwyrun xxngsanmkxanhnngsuxaelakhrunkhidkbtwexngxyukhnediywepnewlahlaychwomng inbthkhwamchinaerksudthiekhaidekhiyn sungtiphimphinswn khwamehn khxng The World of Books ekhatxtanaenwkhidpceckniymkhxngtawntksungidrbkarsnbsnunodyxutn aettxmaxxngsanaelaxutnkepnephuxnknkarptiwtitakhinineduxntulakhm pi 1938 xxngsanxxkcakkarsuksanitisastraelaekhasuewthikaremuxngradbchati inewlaniekhamicudyuntxtanxngkvsaelatxtanlththickrwrrdixyangmnkhng ekhaekharwmepnsmachikkhxng smakhmthakhin aelaepnelkhanukarkhxngsmakhmcnthungeduxnsinghakhm 1940 khnadarngtaaehnng ekhaidmiswnchwycdkarchudkarndprathwnghyudngansungtxmaepnthiruckinchuxkarptiwti ME 1300 sungtngtamptithinphma 1300 trngkbeduxnsinghakhm 1938 thungkrkdakhm 1939 inwnthi 18 mkrakhm 1939 smakhmerachawphmaprakasectcanngthicaichkalngephuxlmrthbal sngphlihprachakhmthukephngelngaelakacdodyecahnathirth inwnthi 23 mkrakhm tarwcbukekhasankngankhxngsmakhmthiecdiychewdakxng aelaxxngsanthukcbkumaelakhumkhnginkhukepnewla 15 wn thanxngyiaelasmrurwmkhidlmlangrthbal aettxmaidthukephikthxnkhxklawha hlngekhathukplxytw ekhaidwangaephnkarephuxkhbekhluxnkaridrbexkrachkhxngphmaodykaretriymcdkarndprathwnghyudnganihythwpraeths karrnrngkhimcayphasi aelacdkhwamimsngbphankarrbaebbkxngocr mneduxnsinghakhm 1939 xxngsanrwmkxtngaelaepnelkhathikarpracaphrrkhkhxmmiwnistphma thisunginphayhlngekhayxmrbwakhwamsmphnthkbphrrkhimkhxyrabrunnk ekhaekharwmaelalaxxkcakphrrkhthungsxngkhrng imnanhlngtngphrrkh ekhaidtngxngkhkrkhlaykhlungkhunxik khux phrrkhprachaptiwti People s Revolutionary Party hruxxikchuxkhux phrrkhptiwtiphma Burma Revolutionary Party sungmicudyunmarksist miepahmayephuxlmlangkarpkkhrxngkhxngxngkvsehnuxphma txmaphrrkhniklayepnphrrkhsngkhmniymphmahlngsngkhramolkkhrngthisxng nbtngaetepnnkeriyncnthungsmythanganthangkaremuxng xxngsanaethbimidrbkhatxbaethnmaknk ekhacungichchiwitswnihyinchwngnixyuinkhwamyakcn smachikaelaphurwmngankbekhachunchmekhamakinthanabukhkhlthimikhwamsamarthinkarbriharcdkarthiyxdeyiymaelacrryabrrnkarthanganthiaekhngaekrng aetbangkhrngekhakthukwicarnwakhadthksakarprachasmphnth aelabangthungkbwaekhaepnkhnhyingyos tlxdchwngniekhaptiesthkardumaexlkxhxlaelaimekhymikhwamsmphnthechingchusawsngkhramolkkhrngthisxnghlngsngkhramolkkhrngthisxngpathuineduxnknyayn 1939 xxngsanmiswnrwmkxtngxngkhkarchatiniymxikaehng khux sungechuxmkarthangankhxngtakhin shphnthnkeriynnksuksaphma phrasngkhthimikhwamtuntwthangkaremuxng aelakhxng dr odymi Ba Maw epn anarshin ephdckar khxngfridxmblxk swnxxngsanepnelathikarkhxngklum kickrrmaelaepahmaykhxngklummiicklangxyuthiaenwkhidkarichpraoychncaksngkhramephuxihphmaidrbexkrach sungnaexaaebbxyanginkardaeninkarmacak khxngxinediy sungnaodycnthra ophs phuthimikartidtxesmx kb Ba Maw inpi 1939 thukcbkumthanlmrthbal aettxmakthukplxytw hlngephiyngsibecdwn ineduxnminakhm 1940 ekhaekharwmkarprachumkhxngkhxngekrsaehngchatixinediy thiinpraethsxinediy phrxmthngsmachiktakhin echn Than Tun aela Ba Hein rahwangnn xxngsanidphbkbphunakhbwnkarexkrachxinediycanwnmak echn chwaharlal enhru mhatma khanthi aela suphas cnthra ophshlngsngkhramolkkhrngthisxnghlngsinsudsngkhramolkkhrngthisxng smachikkhxngkxngthphphmathitngkhunexngbangswnidrbkhxesnxrbtaaehnnginkxngthphaehngchatikhxngphmathayitbngkhbkarkhxngxngkvs khxtklngmikhunthisilxnodylxrdhluys emathaebtetin emuxknyayn 1945 xxngsanimidrbechiyekharwmkartklngniephraaekhakalngtkepnpraednthkethiyngwaekhakhwrthuknaekhasukhbwnkaryutithrrmhruxim cakbthbathkhxngekhainkarpraharchiwitphunamuslimin saethim rahwangsngkhramkarlxbsngharinchwngpithay khxngphmaphayitkarpkkhrxngkhxngshrachxanackr xxngsanidphukmitrkb inpi 1946 rawhnungpikxnekhathuklxbsnghar xxngsanekhyklawwaekharusukklwwatnexngxacthuklxbsnghar ewlaraw 10 30 nalika khxngwnthi 19 krkdakhm 1947 rthcipkhxngkxngthphkhnhnungphrxmklumchaytidxawuthkhbekhamainswnkhxng khnaxxngsankalngmiprachumkbsmachikrthbalchudihm xakharniimmikaaephnghruxrwlxminewlann aelathungaemcamikhnetuxnaelwwaxxngsankalngthukwangaephnkhatkrrm yamrksapratuekhaxxkkhxngxakharkimmithithacakngwlkbchaytidxawuthklumnithiekhamainxakhar chaysikhnlngcakrthphrxmpunpunklmuxthxmpsnsamla aela setnhnungla phrxmraebid wingkhunbnbnidekhaipyngothngprachum yingyamrksapratudannxkhxng aelabukekhaipinothngprachum muxpuntaoknwa xyukbthi xyakhyb xxngsanlukkhunaelathukyingekhathixk esiychiwitodythnthi aelamismachiksphaxiksikhnthithukkradying samkhnidrbbadecb aelasamkhnethannthirxdchiwit yu sxw xditnaykrthmntriphmakxnsngkhramolkkhrngthisxngkhnsudthay thukcbkumthankxkarkhatkrrminwnediywkn txma yu sxwthuktdsinkrathaphidcringaelapraharchiwitodykaraekhwnkhx xyangirktammikarthkethiyngthungklumhruxphrrkhxun thimiswnrwminkarkxkarlxbsngharxxngsaninkhrngni bangswnechuxwaecahnathikhxngxngkvsepnphuxyuebuxnghlngmrdksrangkhunthithankhxngecdiychewdakxnginpi 1947 aelawnthi 19 krkdakhm wnthixxngsanthuklxbsnghar idrbkarprakasepnwnphuesiyslaaehngphma wnhyudthangkarkhxngrthbalphma susankhxngxxngsanhlngedimthukthalaycakehturaebidemux 9 tulakhm 1983 inrahwangkhwamphyayamlxbsngharprathanathibdiekahliit chxn du hwn odyecahnathiekahliehnux imkieduxnhlngxxngsanesiychiwit phmaidrbexkrachcakxngkvsinwnthi 4 mkrakhm 1948 aettxmaineduxnsinghakhm 1948 idekidkhwamkhdaeyngphayinphmarahwangklumtang sungyngkhngdaeninmathungpccubn thnbtrct phmatiphimphphaphkhxngxxngsanbnthnbtrkhrngaerkinpi 1958 rawsibpihlngekhathukkhatkrrm hnakhxngekhapraktbnthnbtrphmacnkrathngphmathukrathpraharodykxngthph tngaetpi 1988 epntnma rupkhxngxxngsanthukaethnthidwyphaphwithichiwitphma epnipidwaephuxldkhwamniymkhxngluksawkhxngxxngsan xxngsansuci sungkalngmibthbaththangkaremuxngtxtankarrthpraharaelaephdckarinewlann inpi 2017 smchchaaehngshphaphlngkhaaennesiyng 286 tx 107 ephuxnaphaphkhxngxxngsanklbma odymithnbtr 1 000 ct thimiphaphkhxngxxngsanxxksusatharnaxikkhrngemux 4 mkrakhm 2020 wnkhrbrxbkhrxbkhrwkhnaxxngsandarngtaaehnngrthmntrikarrbinpi 1942 ekhaphbaelasmrskb thngkhumilukdwyknsikhn hlngxxngsanthuksnghar phrryahmaykhxngekhaidrbaetngtngepnthutphmapracaxinediy aelacaknnkhrxbkhrwkyayxxkcakphma lukkhnthixayunxythisudthimichiwitrxdkhux xxngsansuci khnaekidehtulxbsngharxxngsan ethxxayuephiyngsxngkhwbethann txmaxxngsansuciidkawekhasukaremuxngphmaaelaepnbukhkhlsakhyinkaremuxngphmacnkrathngethxthukrthpraharinpi 2021xangxingThant 213 Nay 99 Nay 106 Thant 214 Naw 41 43 Naw 44 Smith 58 Smith 56 57 Naw 45 48 Lintner 1990 Thant 217 Naw 49 Smith 58 Lintner 2003 41 Aung San Suu Kyi 1984 Aung San of Burma Edinburgh Kiscadale 1991 pp 1 10 14 17 20 22 26 27 41 44 Thant 228 Smith 65 66 Thant 248 Thant 254 Lintner 2003 xii Who Killed Aung San The Irrawaddy phasaxngkvsaebbxemrikn 2017 07 17 subkhnemux 2021 05 11 Lintner 2003 xiii Smith 71 72 Ye Mon and Myat Nyein Aye BBC News Thant 293 Thant 258 259 Lintner 2003 203 Zaw Rogers 27 Thant 333 brrnanukrm North Korea s History of Foreign Assassinations and Kidnappings BBC News 14 February 2017 Retrieved 19 September 2020 Houtman Gustaaf In Kei Nemoto ed Reconsidering the Japanese military occupation in Burma 1942 45 Tokyo Tokyo University of Foreign Studies Research Institute for Languages and Cultures of Asia and Africa ILCAA 30 May 2007 pp 179 227 ISBN 978 4 87297 9640 Retrieved 23 August 2020 The Rise and Fall of the Communist Party of Burma Cornell Southeast Asia Program Publication 1990 Lintner Bertil Burma in Revolt Opium and Insurgency Since 1948 Chiang Mai Thaiand Silkworm Books 2003 Aung San of Burma The Hague Martinus Nijhoff for Yale University 1962 Rogers Benedict Burma A Nationa at a Crossroads Great Britain Random House 2012 Smith Martin Burma Insurgency and the Politics of Ethnicity London and New Jersey Zed Books 1991 South Ashley Ethnic Politics in Burma States of Conflict New York NY Routelage 2009 Stewart Whitney Aung San Suu Kyi Fearless Voice of Burma Twenty First Century Books 1997 ISBN 978 0 8225 4931 4 The River of Lost Footsteps A Personal History of Burma London Faber and Faber Limited 2008 Ye Mon and Myat Nyein Aye Martyr s Mausoleum Gets and Upgrade 2021 07 18 thi ewyaebkaemchchin Myanmar Times 17 June 2016 Retrieved 14 November 2020 Zaw Zaw Htwe Gen Aung San Returns to Myanmar Banknotes After 30 Year Absence The Irrawaddy 7 January 2020 Retrieved 7 September 2020