บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 (ตุรกีออตโตมัน: احمد اول Aḥmed-i evvel; ตุรกี: I. Ahmed; เมษายน ค.ศ. 1590 – 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1617) ทรงเป็นสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน ตั้งแต่ ค.ศ. 1603 จวบจนเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1617 รัชสมัยของพระองค์เป็นที่จดจำจากการยุติประเพณีปลงพระชนม์พระราชอนุชา นับแต่รัชสมัยของพระองค์เป็นต้นไป เหล่าสุลต่านออตโตมันจะไม่มีรับสั่งให้ประหารพระราชอนุชาของพระองค์เองในทันทีที่ขึ้นครองราชย์อีก สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ยังทรงเป็นที่รู้จักจากการที่ทรงมีรับสั่งให้สร้างมัสยิดสีฟ้า หนึ่งในมัสยิดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศตุรกีด้วย
อาเหม็ดที่ 1 احمد اول | |||||
---|---|---|---|---|---|
(เกเซอร์ อีรุม) ผู้อารักขามัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง | |||||
พระสาทิสลักษณ์ของสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 วาดโดย | |||||
สุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน พระองค์ที่ 14 () | |||||
ครองราชย์ | 22 ธันวาคม ค.ศ. 1603 – 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1617 | ||||
23 ธันวาคม ค.ศ. 1603 | |||||
ก่อนหน้า | |||||
ถัดไป | |||||
พระราชสมภพ | เมษายน ค.ศ. 1590 พระราชวังมานิสสา จักรวรรดิออตโตมัน | ||||
สวรรคต | 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1617 พระราชวังโทพคาปึ คอนสแตนติโนเปิล จักรวรรดิออตโตมัน | (27 ปี)||||
ฝังพระศพ | มัสยิดสีฟ้า อิสตันบูล | ||||
คู่อภิเษก | |||||
พระราชบุตร | ดู ด้านล่าง | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | ออตโตมัน | ||||
พระราชบิดา | |||||
พระราชมารดา | |||||
ศาสนา | ซุนนี | ||||
ทูกรา |
พระราชประวัติ
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 อาจจะเสด็จพระราชสมภพในเดือนเมษายน ค.ศ. 1590 ณ พระราชวังมานิสสา ใน โดยทรงพระราชสมภพในขณะที่ พระราชบิดายังดำรงพระราชอิสยยศเป็นเจ้าชาย () และผู้ว่าการเขตแห่งมานิสสา พระราชมารดาของพระองค์คือ หลังจากที่ พระราชอัยกาเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1595 พระราชบิดาของพระองค์ก็เสด็จเข้าสู่กรุงคอนสแตนติโนเปิลและได้ขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่าน จากนั้นสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 3 ก็ทรงมีรับสั่งให้ประหารเหล่าพระราชอนุชาของพระองค์เอง ซึ่งร่วมไปถึงพระราชอนุชาต่างพระมารดาด้วย ผู้เป็นพระเชษฐาของสุลต่านอาเหม็ดเองก็ทรงถูกพระราชบิดาสั่งประหารเช่นกันในวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1603 ก่อนที่สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 3 จะเสด็จสวรรคตตามไปในวันที่ 22 ธันวาคม ปีเดียวกันนั้นเอง พระศพของเซชาห์เดมาห์มุดถูกฝังเคียงข้างพระมารดาของพระองค์ในหลุมพระศพ (Mausoleum) แยกต่างหากใน ภายในกรุงคอนสแตนติโนเปิล ซึ่งสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงสร้างขึ้น
การครองราชย์
พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ขณะมีพระชนมายุ 13 พรรษาใน ค.ศ. 1603 ภายหลังจากการสวรรคตของพระราชบิดา โดยที่ พระราชอัยกี (ย่า) ผู้ทรงอิทธิพลของพระองค์ยังคงทรงพระชนม์อยู่ หรือรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่ายะห์ยา (Yahya) ผู้อ้างตัวว่าเป็นพระปิตุลา (อา) ของพระองค์พยายามจะชิงบัลลังก์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จและในท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลงที่เมืองโครตอร์ (Kotor) บริเวณริมชายฝั่งของประเทศมอนเตเนโกรปัจจุบัน สุลต่านอาเหม็ดทรงยุติประเพณีปลงพระชนม์พระราชอนุชาที่ทำสืบต่อกันมาในรัชกาลก่อน ๆ เมื่อขึ้นครองราชย์ และไม่ได้มีรับสั่งให้ประหาร ผู้เป็นพระราชอนุชา หากแต่ทรงส่งมุสตาฟาให้ไปประทับ ณ พระราชวังเก่าในเมืองบาเยซิด (Bayezit) พร้อมกับซาฟิเยห์ ซุลตัน ผู้เป็นพระราชอัยกี การที่ทรงทำเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะตัวพระองค์เองยังทรงพระเยาว์และไม่มีพระราชโอรส มุสตาฟาจึงทรงเป็นรัชทายาทเพียงพระองค์เดียวของราชบัลลังก์ออตโตมัน การมีรับสั่งให้ประหารพระราชอนุชาของพระองค์เองจะทำให้เกิดวิกฤติการสืบราชสันตติวงศ์ได้ ดังนั้นมุสตาฟาจึงได้รับการละเว้น
ในช่วงแรกของการครองราชย์ สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงมีท่าที่แน่วแน่และมุ่งมั่น ซึ่งต่อมาถูกหักล้างโดยพฤติกรรมของพระองค์เองในภายหลัง[] สงครามใน และเปอร์เซีย ซึ่งดำเนินควบคู่ไปกับการขึ้นครองราชย์ของพระองค์จบลงด้วยผลที่ไม่สู้ดีนัก เกียรติภูมิของจักรวรรดิยิ่งเสื่อมลงหลังจากการลงนามใน (Treaty of Zsitvatorok) เมื่อ ค.ศ. 1606 ซึ่งยุติการเรียกเก็บบรรณาการรายปีจากออสเตรียของจักรวรรดิลง ภายหลังจากความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในกับจักรวรรดิซาฟาวิด ผู้เป็นอริ ซึ่งนำโดยพระเจ้าชาห์อับบาสมหาราช ทำให้จักรวรรดิออตโตมันต้องยกจอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน และดินแดนกว้างใหญ่อื่นในบริเวณเทือกเขาคอเคซัสที่ยึดมาได้ใน คืนให้แก่เปอร์เซีย ตาม ใน ค.ศ. 1612 เส้นพรมแดนใหม่ถูกวาดขึ้นตามแบบพรมแดนในที่ตกลงกันไว้เมื่อ ค.ศ. 1555
สงครามออตโตมัน-ซาฟาวิด (ค.ศ. 1604–06)
เริ่มขึ้นก่อนที่สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 3 พระราชบิดาของพระองค์จะเสด็จสวรรคตเล็กน้อย เมื่อพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์แล้ว สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงแต่งตั้ง (Cigalazade Yusuf Sinan Pasha) เป็นแม่ทัพคุมกองทัพตะวันออก กองทัพดังกล่าวออกเดินทางจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1604 ซึ่งถือว่าไม่ทันการณ์แล้ว และเมื่อกองทัพดังกล่าวเดินทางมาถึงแนวรบตะวันออกในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1604 กองทัพซาฟาวิด สามารถยึดเยเรวานได้ และทำการบุกเข้าไปในแล้ว การบุกของฝ่ายซาฟาวิดถูกหยุดลงได้ที่ ซินัน พาชาตัดสินใจตั้งทัพอยู่ในเมืองวานในฤดูหนาว แม้สภาพอากาศจะเอี้ออำนวย แต่ต่อมาก็ออกเดินทัพไปยังแอร์ซูรุม เพื่อหยุดยั้งการโจมตีของซาฟาวิดที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นภายในกองทัพ นับว่าปีนั้นเป็นปีที่ไม่ประสบความสำเร็จนักสำหรับฝ่ายออตโตมัน
ใน ค.ศ. 1605 ซินัน พาชาออกเดินทัพโดยตั้งเป้าว่าจะเข้ายึดเมืองแทบรีซ แต่กองทัพก็เสียกระบวนเมื่อ (Köse Sefer Pasha) แห่งแอร์ซูรุม ตัดสินใจเดินทัพแยกต่างหากจากขบวนของซินัน พาชา ส่งผลให้ถูกฝ่ายซาฟาวิดจับเป็นเชลย กองทัพออตโตมันถูกตีแตกพ่ายที่ และจำต้องล่าถอยไปยังเมืองวานและต่อมาไปที่ ขณะที่ตั้งทัพอยู่ที่ดียาร์เบกีร์นี้เอง ซินัน พาชาก็ก่อการกบฏขึ้นด้วยการสั่งประหาร (Canbulatoğlu Hüseyin Pasha) เบย์เลอเบย์แห่งอะเลปโป ผู้เดินทางมาเป็นกำลังเสริม ด้วยข้ออ้างว่าเขาเดินทางมาถึงช้าเกินไป ซินัน พาชาเสียชีวิตลงหลังจากนั้นไม่นาน และกองทัพซาฟาวิดก็สามารถเข้ายึดกันจา และในอาเซอร์ไบจานได้
สงครามกับราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (ค.ศ. 1604–06)
ระหว่างจักรวรรดิออตโตมันกับรัฐราชาธิปไตยฮาพส์บวร์ค ได้ดำเนินมาเป็นเวลากว่าหนึ่งทศวรรษแล้ว ณ เวลาที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ มหาเสนาบดี (Malkoç Ali Pasha) เคลื่อนทัพออกจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลไปยังแนวรบตะวันตกในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 1604 เขาเดินทางไปถึงเบลเกรด แต่ต่อมาก็ล้มป่วยและเสียชีวิตลงที่นั้น จึงทำให้ (Sokolluzade Lala Mehmed Pasha) ได้รับการแต่งตั้งเป็นมหาเสนาบดีและแม่ทัพของกองทัพตะวันตกแทนที่มัลคอก ภายใต้การบังคับบัญชาของโซคูลูซาดาซ ลาลา เมห์เหม็ด พาชา กองทัพตะวันตกสามารถยึดและ (Vác) กลับคืนมาได้ แต่ล้มเหลวในการยึด เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและมีการต่อต้านจากเหล่าทหารในกองทัพ การปิดล้อมเมืองจึงต้องยุติลง ในขณะเดียวกัน เจ้าชายแห่งทรานซิลเวเนีย ผู้กำลังต่อสู้เพื่อประกาศเอกราชจากการปกครองของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค ซึ่งตัวพระองค์เคยให้การสนับสนุน ได้ส่งผู้เดินสาส์นมายังจักรวรรดิออตโตมันเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อได้รับคำมั่นแล้วว่าจะได้รับการช่วยเหลือ กองกำลังของพระองค์จึงเดินทางไปรวมกับกองทัพออตโตมันที่ตั้งทัพอยู่ในเบลเกรด ด้วยความช่วยเหลือจากฝ่ายทรานซิลเวเนีย กองทัพออตโตมันจึงสามารถเข้าปิดล้อมและยึดเมืองเอซเตอร์กอมได้ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1605 ฝ่ายเจ้าชายอิชต์วานเองก็สามารถยึด (Nové Zámky ภาษาตุรกีเรียกว่าอุรวาร์ [Uyvar]) ได้ด้วยความช่วยเหลือจากฝ่ายออตโตมัน ในขณะที่กองทัพภายใต้การนำของ (Tiryaki Hasan Pasha) สามารถยึด (Veszprém) และ (Palota) ได้ ด้าน (Sarhoş İbrahim Pasha) เบย์เลอเบย์แห่ง (Nagykanizsa ภาษาตรุกีเรียกคานิจี [Kanije]) ได้เข้าโจมตีภูมิภาคอิสเตรียของออสเตรีย
กระนั้น ด้วยความที่กบฏเซลารี (Celali rebellions) ในอนาโตเลียทวีความรุนแรงขึ้นยิ่งกว่าที่เป็นมา และการประสบความพ่ายแพ้ในแนวรบตะวันออก เมห์เหม็ด พาชาจึงถูกเรียกตัวมายังคอนสแตนติโนเปิล และเสียชีวิตลงในขณะที่กำลังเตรียมตัวออกเดินทางไปยังแนวรบตะวันออก (Kuyucu Murad Pasha) จึงเป็นผู้ทำหน้าที่เจรจาใน ซึ่งมีเนื้อหาว่าด้วยการยกเลิกการเก็บเงินบรรณาการจำนวน 30,000 ดูกัตจากออสเตรีย และการยอมรับว่าจักรพรรดิของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คมีสถานะเท่าเทียมกับสุลต่านออตโตมัน กบฏจาลารีถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝ่ายออตโตมันยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ สนธิสัญญานี้นับเป็นตัวบ่งบอกว่าการขยายตัวของจักรวรรดิออตโตมันในยุโรปได้สิ้นสุดลงแล้ว
กบฏเซลารี
ความไม่พอใจในผลลัพธ์ของสงครามกับราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค การจัดเก็บภาษีอย่างหนัก กอปรกับความอ่อนแอในการปราบปรามของกองทัพออตโตมัน ทำให้รัชสมัยของพระองค์กลายเป็นจุดสูงสุดของการ ( ) ก่อกบฏขึ้นไม่นานหลังจากสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 เสด็จขึ้นครองราชย์ และสามารถเอาชนะ และเคเดฮันห์ อะลี พาชา (Kecdehan Ali Pasha) เบย์เลอเบย์แห่งอนาโตเลีย ใน ค.ศ. 1605 ทาวิลี อาเหม็ด ได้รับการเสนอตำแหน่งเบย์เลอเบย์แห่ง แลกกับการยุติการกบฏ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เข้ายึด เมห์เหม็ด บุตรชายของเขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการแบกแดด ด้วยการปลอมแปลง (พระราชโองการ) และสามารถเอาชนะกองกำลังที่นาชู พาชาส่งมาเพื่อปราบปรามเขาได้
ในขณะเดียวกัน ได้ทำการรวมกำลังกับเอมีร์ (Ma'noğlu Fahreddin) แห่ง (Druze) เพื่อทำลายกองกำลังของ (Seyfoğlu Yusuf) เอมีร์แห่งตริโปลี ต่อมาอะลีได้เข้ายึดครองบริเวณอาดานา พร้อมตั้งกองทัพและออกเหรียญกษาปณ์ของตนเอง กองกำลังของเขาสามารถตีกองทัพของฮูเซยิน พาชา เบย์เลอเบย์แห่งอะเลปโปที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งแตกพ่ายไปได้ ส่งผลให้มหาเสนาบดี (Boşnak Dervish Mehmed Pasha) ถูกประหารชีวิตจากความอ่อนแอของเขาในการปราบปรามพวกเซลารี คูยูคู มูรัด พาชา ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นมหาเสนาบดีต่อจากเขาสามารถปราบปรามกองทัพกบฏจำนวน 30,000 นายในซีเรียลงได้ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1607 ด้วยความยากลำบาก แต่ก็ได้ผลเด็ดขาด ขณะเดียวกัน เขาก็ทำทีให้อภัยพวกกบฏในอนาโตเลีย และทำการแต่งตั้งคาเลนเดโรกลู (Kalenderoğlu) ผู้นำการกบฏในบริเวณและบูร์ซา เป็นแห่งอังการา แบกแดดก็ถูกยึดคืนมาได้ใน ค.ศ. 1607 เช่นกัน แคนบูลาทูกลู อะลี พาชา ได้หลบหนีไปยังคอนสแตนติโนเปิลและขอพระราชทานอภัยโทษจากสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 พระองค์ทรงแต่งตั้งเขาไปปกครองตีมีชวารา และต่อมาไปปกครองเบลเกรด แต่ภายหลังเขาก็ถูกประหารโดยมีสาเหตุจากการปกครองที่ผิดพลาดของเขา ณ ที่นั้น ขณะเดียวกัน คาเลนเดโรกลูก็ไม่สามารถเดินทางเข้าเมืองอังการาได้เพราะชาวเมืองไม่ยินยอม เขาจึงก่อกบฏขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถูกปราบปรามโดยกองกำลังของมูรัด พาชา ท้ายที่สุดคาเลนเดโรกลูได้หลบหนีไปยังเปอร์เซีย จากนั้นมูรัด พาชาจึงปราบปรามการกบฏขนาดเล็กในบริเวณอนาโตเลียตอนกลาง และกำราบผู้นำคนอื่น ๆ ของพวกเซลารีด้วยการเชิญให้พวกเขาให้มารับราชการในกองทัพ
เนื่องจากความรุนแรงของกบฏเซลารีได้แพร่กระจายไปทั่ว ผู้คนจำนวนมากได้หนีออกจากหมู่บ้านของตน และมีหมู่บ้านหลายแห่งถูกทำลาย ผู้นำทหารบางรายได้อ้างสิทธิ์ว่าหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้างเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของตน ทำให้รัฐบาลขาดรายได้จากการเก็บภาษี ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1609 สุลต่านอาเหม็ดทรงออกเอกสารรับรองสิทธิ์ของราษฎรผู้ลี้ภัยการกบฎมาจากภูมิลำเนาของตน จากนั้นพระองค์จึงเริ่มประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อนำผู้คนเหล่านี้กลับไปตั้งถิ่นฐานในหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้างอีกครั้ง
สงครามออตโตมัน-ซาฟาวิด: สันติภาพและสงครามครั้งใหม่
นาชู พาชา ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นมหาเสนาบดีคนใหม่ ไม่ต้องการที่จะทำสงครามกับฝ่ายซาฟาวิดต่อไป พระเจ้าชาห์อับบาสมหาราช เองก็ทรงส่งพระราชสาสน์มาว่าพระองค์ต้องการที่จะลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพเพื่อยุติสงครามเช่นกัน ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1612 ได้รับการลงนาม โดยมีเงื่อนไขว่า พระเจ้าชาห์อับบาสจะต้องส่งจำนวน 200 ทบ ไปยังกรุงคอนสแตนติโนเปิลเป็นประจำทุกปี ดินแดนทั้งหมดที่จักรวรรดิออตโตมันได้มาระหว่าง กลับไปเป็นของเปอร์เซีย และทำให้พรมแดนกลับไปมีขนาดเท่ากับพรมแดนใน ค.ศ. 1555
ทว่าสันติภาพก็มาสิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1615 เมื่อพระเจ้าชาห์อับบาสทรงไม่ส่งผ้าไหมจำนวน 200 ทบมาให้อย่างที่ตกลงไว้ ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1615 มหาเสนาบดี ได้รับมอบหมายให้เตรียมการโจมตีเปอร์เซีย เขาเลื่อนเวลาโจมตีออกไปเป็นปีถัดมา ทำให้ฝ่ายซาฟาวิดมีเวลาเตรียมตัวและเข้าโจมตีกันจาได้ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1616 โอคูซ พาชา ออกเดินทางจากอะเลปโปพร้อมกองทัพขนาดใหญ่และเดินทัพไปยังเยเรวาน แต่เขาก็ไม่สามารถยึดเมืองได้และต้องล่าถอยไปยังแอร์ซูรุม โอคูซ พาชาจึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง และถูกแทนที่โดย (Damat Halil Pasha) ฮาลี พาชาเดินทางไปยังดียาร์เบกีร์ในฤดูหนาว ในขณะที่ ข่านแห่งไครเมีย ทำการโจมตีบริเวณกันจา และ
การพระราชทานสิทธิพิเศษแก่ชาวต่างประเทศ และสนธิสัญญาทางการค้า
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงทำการต่อสนธิสัญญาการค้ากับอังกฤษ ฝรั่งเศส และเวนิส และทรงทำสนธิสัญญาทางการค้าฉบับแรกกับสาธารณรัฐดัตช์ ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1612 นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ขยาย ที่พระราชทานให้แก่ฝรั่งเศส ให้ครอบคลุมไปถึงพ่อค้าชาวสเปน เจนัว อังโกนา และฟลอเรนซ์ด้วย โดยพ่อค้าจากชาติเหล่านี้สามารถเข้ามาทำการค้าขายได้โดยการใช้ธงฝรั่งเศส
พระราชกรณียกิจด้านสถาปัตยกรรมและการศาสนา
ส่วนนี้ไม่มีจาก โปรดช่วยพัฒนาส่วนนี้โดยเพิ่ม เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงเป็นผู้สร้างมัสยิดสีฟ้า ซึ่งถือกันว่าเป็นสถาปัตยกรรมเอก (Magnum opus) ของสถาปัตยกรรมออตโตมัน[] โดยตั้งอยู่ตรงข้ามกับฮาเกียโซเฟีย สุลต่านอาเหม็ดเสด็จไปในพิธีเริ่มการก่อสร้างพร้อมกับอีเต้อ (Pickaxe) ทองคำ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงการเริ่มก่อสร้างมัสยิด เหตุวุ่นวายเกือบจะเกิดขึ้นเมื่อพระองค์ทรงพบว่ามัสยิดสีฟ้ามีจำนวนหออะซาน (Minarets) เท่ากับจำนวนหออะซานของมัสยิดใหญ่ประจำมักกะฮ์ ทำให้พระองค์กริ้วและเสียพระทัยเป็นอันมาก จนกระทั่ง (Shaykh al-Islām: ตำแหน่งเทียบเท่าจุฬาราชมนตรี) ถวายคำแนะนำให้พระองค์ทรงสร้างหออะซานที่มัสยิดใหญ่ประจำมักกะฮ์เพิ่มอีกหนึ่งหอ เหตุการณ์จึงคลี่คลายลง
สุลต่านอาเหม็ดทรงมีส่วนร่วมอย่างมากในการบรูณะใหญ่ครั้งที่สิบเอ็ดของกะอ์บะฮ์ซึ่งเสียหายจากการถูกน้ำท่วม พระองค์ทรงส่งช่างฝีมือจากคอนสแตนติโนเปิลไปทำการซ่อมแซมรางน้ำทองคำ ซึ่งช่วยไม่ให้น้ำฝนกักขังอยู่บนหลังคาของกะอ์บะฮ์ นอกจากนี้ในรัชสมัยของพระองค์ยังมีการนำตะข่ายเหล็กไปติดไว้ในบ่อซัมซัมที่นครเมกกะ โดยติดตั้งไว้ลึกจากระดับผิวน้ำ 3 ฟุต การติดตั้งตะข่ายนี้เป็นผลมาจากที่มีเหล่าผู้สติไม่สมประกอบกระโดดลงไปในบ่อ โดยพวกเขาเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการตายเยี่ยงวีรบรุษ
ในเมดีนา นครของพระศาสดามุฮัมมัด แท่นเทศน์อันใหม่ซึ่งทำจากหินอ่อนสีขาวที่ทำในเมืองคอนสแตนติโนเปิลถูกนำมาตั้งในมัสยิดอันนะบะวีแทนที่แท่นเทศน์เดิมที่ทรุดโทรมลง นอกจากนี้ สุลต่านอาเหม็ดยังทรงสร้างมัสยิดเพิ่มอีกสองแห่งในย่านอึสคือดาร์ ในพื้นที่ฝั่งเอเชียของคอนสแตนติโนเปิล ทว่าไม่มีมัสยิดหลังใดเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันเลย
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงมีเครื่องยอด (Crest) ที่แกะสลักเป็นรูปรอยเท้าของนบีมุฮัมมัด ซึ่งพระองค์จะทรงฉลองเครื่องยอดนี้ทุกวันศุกร์และวันรื่นเริงต่าง ๆ การกระทำของพระองค์นับเป็นแบบอย่างของการแสดงความนอบน้อมต่อพระศาสดามากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ออตโตมัน ข้างในเครื่องยอดนั้นบรรจุบทกวีที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น ความว่า:
"หากข้าสามารถสวมใส่เจ้าไว้ได้ตลอดเวลา ดั่งผ้าโพกหัว หากข้าสามารถพกพาเจ้าไว้บนศีรษะได้ตลอดเวลา ดั่งมงกุฎ รอยเท้าของพระศาสดามุฮัมมัด ซึ่งมีสัดส่วนที่งดงามหมดจดยิ่ง อาเหม็ดเอ๋ย ไปเถิด เชิญเจ้าไล้ใบหน้ากับฝ่าเท้าแห่งกุหลาบนั้นหนา"
พระอุปนิสัย
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงเป็นที่รู้จักจากพระปรีชาสามารถในกีฬาฟันดาบ การประพันธ์บทกวี การทรงม้า และสามารถตรัสหลายภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว
พระองค์ยังทรงเป็นนักกวี ทรงพระราชนิพันธ์โคลงสั้นและงานเขียนเกี่ยวกับการเมืองไว้หลายชิ้นด้วยกัน โดยทรงใช้พระนามแฝงว่า "บาติ" (Bahti) ทรงอุปถัมภ์นักวิชาการ นักอักษรวิจิตร (Calligrapher) และคนเคร่งศาสนาหลายราย อีกทั้งยังทรงมีรับสั่งให้บรรดานักอักษรวิจิตรจัดทำหนังสือ แก่นสารประวัติศาสตร์ (The Quintessence of Histories) นอกจากนี้พระองค์ยังพยายามที่จะบังคับใช้กฎหมายอิสลามและธรรมเนียมต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน ทรงนำกฎห้ามดื่มเครื่องดื่มมึนเมากลับมาใช้ใหม่ รวมถึงข้อบังคับว่าด้วยการเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์ และการให้ทานแก่คนยากไร้อย่างถูกวิธี
สวรรคต
สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 เสด็จสวรรคตจากพระโรคไข้รากสาดใหญ่ และมีพระโลหิตออกในพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1617 ณ พระราชวังโทพคาปึ ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า เซชาห์เดมุสตาฟา พระราชอนุชาของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อเป็น พระราชโอรสสามพระองค์ของสุลต่านอาเหม็ดได้เสวยราชสมบัติในภายหลัง ได้แก่: สุลต่านออสมันที่ 2 (ครองราชย์ ค.ศ. 1618–22) (ครองราชย์ ค.ศ. 1623–40) และ (ครองราชย์ ค.ศ. 1640–48)
พระราชวงศ์
- คู่อภิเษก
- พระราชโอรส
- สุลต่านออสมันที่ 2 สุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน (เสด็จพระราชสมภพ: 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1604 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ถูกปลงพระชนม์: 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1622 โดยเหล่าทหารจานิสซารี และ ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่มาฟีรูซ ฮาตุน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1605 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ถูกปลงพระชนม์: 12 มกราคม ค.ศ. 1621 ตามพระราชบัญชาของสุลต่านออสมันที่ 2 พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- สุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน (เสด็จพระราชสมภพ: 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1612 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล สวรรคต: 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1640 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: พฤศจิกายน ค.ศ. 1612 ถูกปลงพระชนม์: 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1635 ตามพระราชบัญชาของสุลต่านมูรัดที่ 4 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่มาฟีรูซ ฮาตุน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1613 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ถูกปลงพระชนม์: 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1635 ตามพระราชบัญชาของสุลต่านมูรัดที่ 4 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1613 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ถูกปลงพระชนม์: 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1635 ตามพระราชบัญชาของสุลต่านมูรัดที่ 4 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล[] พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: พฤศจิกายน ค.ศ. 1614 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล สิ้นพระชนม์: หลัง ค.ศ. 1622 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 3 ในมัสยิดใหญ่อายาโซฟยา) ประสูติแต่มาฟีรูซ ฮาตุน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1614 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ถูกปลงพระชนม์: 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1638 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 3 ในมัสยิดใหญ่อายาโซฟยา) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- สุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน (เสด็จพระราชสมภพ: 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1615 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล ถูกปลงพระชนม์: 18 สิงหาคม ค.ศ. 1648 ณ พระราชวังโทพคาปึ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านมุสตาฟาที่ 1 ในมัสยิดใหญ่อายาโซฟยา) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- พระราชธิดา
- (ประสูติ: ประมาณ ค.ศ. 1608 สิ้นพระชนม์: ค.ศ. 1660 พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1605 หรือ 1608 สิ้นพระชนม์: ค.ศ. 1657 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: ประมาณ ค.ศ. 1607 สิ้นพระชนม์: ค.ศ. 1670 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในมัสยิดสีฟ้า) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1607 สิ้นพระชนม์: 23 กันยายน ค.ศ. 1650 ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอีบราฮิมในมัสยิดใหญ่อายาโซฟยา) ประสูติแต่โกเซม ซุลตัน
- (ประสูติ: ค.ศ. 1613 สิ้นพระชนม์: ค.ศ. 1674 พระศพถูกฝังที่หลุมพระศพสุลต่านอีบราฮิมในมัสยิดใหญ่อายาโซฟยา)
- ( ) (ประสูติ: ค.ศ. 1618 ไม่ทราบปีที่สิ้นพระชนม์) อภิเษกสมรสใน ค.ศ. 1642 กับ
สิ่งสืบทอด
ทุกวันนี้ สุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ทรงเป็นที่รู้จักโดยส่วนใหญ่จากการที่เป็นผู้สร้างมัสยิดสีฟ้า (รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด") หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมอิสลาม ปัจจุบัน พื้นที่โดยรอบตัวมัสยิดในเขต ถูกเรียกว่า "สุลต่านอาเหม็ด" (Sultanahmet) พระองค์เสด็จสวรรคตที่พระราชวังโทพคาปึในกรุงคอนสแตนติโนเปิล พระศพของพระองค์ได้รับการฝังอยู่ในหลุมพระศพที่อยู่ภายนอกมัสยิดอันโด่งดังแห่งนี้
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
นักแสดงชาวตุรกีรับบทเป็นสุลต่านอาเหม็ดที่ 1 ในภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ปี 2015 เรื่อง
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Garo Kürkman, (1996), Ottoman Silver Marks, p. 31
- Peirce, Leslie (1993). The Imperial Harem: Women and Sovereignty in the Ottoman Empire. Oxford University Press. pp. 99. ISBN .
- Börekçi, Günhan. İnkırâzın Eşiğinde Bir Hanedan: III. Mehmed, I. Ahmed, I. Mustafa ve 17. Yüzyıl Osmanlı Siyasî Krizi - A Dynasty at the Threshold of Extinction: Mehmed III, Ahmed I, Mustafa I and the 17th-Century Ottoman Political Crisis. pp. 81 n. 75.
- Börekçi, Günhan (2010). Factions And Favorites At The Courts Of Sultan Ahmed I (r. 1603-17) And His Immediate Predexessors. pp. 85 n. 17.
- Ga ́bor A ́goston,Bruce Alan Masters Encyclopedia of the Ottoman Empire pp 23 Infobase Publishing, 1 jan. 2009 ISBN
- "Ahmed I" (PDF). İslam Ansiklopedisi. Vol. 1. Türk Diyanet Vakfı. 1989. pp. 30–33.
- Bosworth, Clifford Edmund (January 1989). The Encyclopaedia of Islam: Fascicules 111-112 : Masrah Mawlid by Clifford Edmund Bosworth p.799. ISBN . สืบค้นเมื่อ 2012-01-26.
- Şefika Şule Erçetin (November 28, 2016). Women Leaders in Chaotic Environments:Examinations of Leadership Using Complexity Theory. Springer. p. 77. ISBN .
- Uluçay, Mustafa Çağatay (2011). Padışahların Kadınları ve Kızları. Ötüken, Ankara. p. 78. ISBN .
- Tezcan, Baki (2007). "The Debut of Kösem Sultan's Political Career". Turcica. Éditions Klincksieck. 39–40: 350–351.
- Mustafa Naima (1832). Annals of the Turkish Empire: From 1591 to 1659 ..., Volume 1. Oriental Translation Fund, & sold by J. Murray. pp. 452–3.
- Singh, Nagendra Kr (2000). International encyclopaedia of Islamic dynasties (reproduction of the article by M. Cavid Baysun "Kösem Walide or Kösem Sultan" in The Encyclopaedia of Islam vol V). Anmol Publications PVT. pp. 423–424. ISBN .
- (1993), The Imperial Harem: Women and Sovereignty in the Ottoman Empire, , p. 232, ISBN
- Gülru Neci̇poğlu, Julia Bailey (2008). Frontiers of Islamic Art and Architecture: Essays in Celebration of Oleg Grabar's Eightieth Birthday ; the Aga Khan Program for Islamic Architecture Thirtieth Anniversary Special Volume. BRILL. p. 324. ISBN .
- Singh, Nagendra Kr (2000). International encyclopaedia of Islamic dynasties (reproduction of the article by M. Cavid Baysun "Kösem Walide or Kösem Sultan" in The Encyclopaedia of Islam vol V) . Anmol Publications PVT. หน้า 423–424. ISBN .
- (1993), The Imperial Harem: Women and Sovereignty in the Ottoman Empire หน้า 365 ISBN
- Uluçay 2011, p. 52.
- Sakaoğlu, Necdet (2008). Bu mülkün kadın sultanları: Vâlide sultanlar, hâtunlar, hasekiler, kadınefendiler, sultanefendiler. Oğlak Yayıncılık. p. 235.
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สุลต่านอาเหม็ดที่ 1
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul sultanxaehmdthi 1 khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir sultanxaehmdthi 1 turkixxtotmn احمد اول Aḥmed i evvel turki I Ahmed emsayn kh s 1590 22 phvscikayn kh s 1617 thrngepnsultanaehngckrwrrdixxtotmn tngaet kh s 1603 cwbcnesdcswrrkhtin kh s 1617 rchsmykhxngphraxngkhepnthicdcacakkaryutipraephniplngphrachnmphrarachxnucha nbaetrchsmykhxngphraxngkhepntnip ehlasultanxxtotmncaimmirbsngihpraharphrarachxnuchakhxngphraxngkhexnginthnthithikhunkhrxngrachyxik sultanxaehmdthi 1 yngthrngepnthiruckcakkarthithrngmirbsngihsrangmsyidsifa hnunginmsyidthimichuxesiyngthisudinpraethsturkidwyxaehmdthi 1 احمد اولekesxr xirum phuxarkkhamsyidskdisiththithngsxngphrasathislksnkhxngsultanxaehmdthi 1 wadodysultanaehngckrwrrdixxtotmn phraxngkhthi 14 khrxngrachy22 thnwakhm kh s 1603 22 phvscikayn kh s 161723 thnwakhm kh s 1603kxnhnathdipphrarachsmphphemsayn kh s 1590 1590 04 00 phrarachwngmanissa ckrwrrdixxtotmnswrrkht22 phvscikayn kh s 1617 1617 11 22 27 pi phrarachwngothphkhapu khxnsaetntionepil ckrwrrdixxtotmnfngphrasphmsyidsifa xistnbulkhuxphieskphrarachbutrdu danlangphranametmchah xaehmd binh emhehmd hnrachwngsxxtotmnphrarachbidaphrarachmardasasnasunnithukraphrarachprawtisultanxaehmdthi 1 xaccaesdcphrarachsmphphineduxnemsayn kh s 1590 n phrarachwngmanissa in odythrngphrarachsmphphinkhnathi phrarachbidayngdarngphrarachxisyysepnecachay aelaphuwakarekhtaehngmanissa phrarachmardakhxngphraxngkhkhux hlngcakthi phrarachxykaesdcswrrkhtin kh s 1595 phrarachbidakhxngphraxngkhkesdcekhasukrungkhxnsaetntionepilaelaidkhunkhrxngrachyepnsultan caknnsultanemhehmdthi 3 kthrngmirbsngihpraharehlaphrarachxnuchakhxngphraxngkhexng sungrwmipthungphrarachxnuchatangphramardadwy phuepnphraechsthakhxngsultanxaehmdexngkthrngthukphrarachbidasngpraharechnkninwnthi 7 mithunayn kh s 1603 kxnthisultanemhehmdthi 3 caesdcswrrkhttamipinwnthi 22 thnwakhm piediywknnnexng phrasphkhxngeschahedmahmudthukfngekhiyngkhangphramardakhxngphraxngkhinhlumphrasph Mausoleum aeyktanghakin phayinkrungkhxnsaetntionepil sungsultanxaehmdthi 1 thrngsrangkhunkarkhrxngrachyphraxngkhesdckhunkhrxngrachykhnamiphrachnmayu 13 phrrsain kh s 1603 phayhlngcakkarswrrkhtkhxngphrarachbida odythi phrarachxyki ya phuthrngxiththiphlkhxngphraxngkhyngkhngthrngphrachnmxyu hruxruckkninxikchuxhnungwayahya Yahya phuxangtwwaepnphrapitula xa khxngphraxngkhphyayamcachingbllngk aetkimprasbkhwamsaercaelainthaythisudkesiychiwitlngthiemuxngokhrtxr Kotor briewnrimchayfngkhxngpraethsmxnetenokrpccubn sultanxaehmdthrngyutipraephniplngphrachnmphrarachxnuchathithasubtxknmainrchkalkxn emuxkhunkhrxngrachy aelaimidmirbsngihprahar phuepnphrarachxnucha hakaetthrngsngmustafaihipprathb n phrarachwngekainemuxngbaeysid Bayezit phrxmkbsafieyh sultn phuepnphrarachxyki karthithrngthaechnnixaccaepnephraatwphraxngkhexngyngthrngphraeyawaelaimmiphrarachoxrs mustafacungthrngepnrchthayathephiyngphraxngkhediywkhxngrachbllngkxxtotmn karmirbsngihpraharphrarachxnuchakhxngphraxngkhexngcathaihekidwikvtikarsubrachsnttiwngsid dngnnmustafacungidrbkarlaewn inchwngaerkkhxngkarkhrxngrachy sultanxaehmdthi 1 thrngmithathiaenwaenaelamungmn sungtxmathukhklangodyphvtikrrmkhxngphraxngkhexnginphayhlng txngkarxangxing sngkhramin aelaepxresiy sungdaeninkhwbkhuipkbkarkhunkhrxngrachykhxngphraxngkhcblngdwyphlthiimsudink ekiyrtiphumikhxngckrwrrdiyingesuxmlnghlngcakkarlngnamin Treaty of Zsitvatorok emux kh s 1606 sungyutikareriykekbbrrnakarraypicakxxsetriykhxngckrwrrdilng phayhlngcakkhwamphayaephxyangyxyybinkbckrwrrdisafawid phuepnxri sungnaodyphraecachahxbbasmharach thaihckrwrrdixxtotmntxngykcxreciy xaesxribcan aeladinaednkwangihyxuninbriewnethuxkekhakhxekhssthiyudmaidin khunihaekepxresiy tam in kh s 1612 esnphrmaednihmthukwadkhuntamaebbphrmaedninthitklngkniwemux kh s 1555 sngkhramxxtotmn safawid kh s 1604 06 erimkhunkxnthisultanemhehmdthi 3 phrarachbidakhxngphraxngkhcaesdcswrrkhtelknxy emuxphraxngkhthrngkhunkhrxngrachyaelw sultanxaehmdthi 1 thrngaetngtng Cigalazade Yusuf Sinan Pasha epnaemthphkhumkxngthphtawnxxk kxngthphdngklawxxkedinthangcakkrungkhxnsaetntionepilinwnthi 15 mithunayn kh s 1604 sungthuxwaimthnkarnaelw aelaemuxkxngthphdngklawedinthangmathungaenwrbtawnxxkinwnthi 8 phvscikayn kh s 1604 kxngthphsafawid samarthyudeyerwanid aelathakarbukekhaipinaelw karbukkhxngfaysafawidthukhyudlngidthi sinn phachatdsinictngthphxyuinemuxngwaninvduhnaw aemsphaphxakascaexixxanwy aettxmakxxkedinthphipyngaexrsurum ephuxhyudyngkarocmtikhxngsafawidthikalngcaekidkhun thaihekidkhwamimsngbkhunphayinkxngthph nbwapinnepnpithiimprasbkhwamsaercnksahrbfayxxtotmn in kh s 1605 sinn phachaxxkedinthphodytngepawacaekhayudemuxngaethbris aetkxngthphkesiykrabwnemux Kose Sefer Pasha aehngaexrsurum tdsinicedinthphaeyktanghakcakkhbwnkhxngsinn phacha sngphlihthukfaysafawidcbepnechly kxngthphxxtotmnthuktiaetkphaythi aelacatxnglathxyipyngemuxngwanaelatxmaipthi khnathitngthphxyuthidiyarebkirniexng sinn phachakkxkarkbtkhundwykarsngprahar Canbulatoglu Huseyin Pasha ebyelxebyaehngxaelpop phuedinthangmaepnkalngesrim dwykhxxangwaekhaedinthangmathungchaekinip sinn phachaesiychiwitlnghlngcaknnimnan aelakxngthphsafawidksamarthekhayudknca aelainxaesxribcanid sngkhramkbrachwngshaphsbwrkh kh s 1604 06 rahwangckrwrrdixxtotmnkbrthrachathipityhaphsbwrkh iddaeninmaepnewlakwahnungthswrrsaelw n ewlathiphraxngkhesdckhunkhrxngrachy mhaesnabdi Malkoc Ali Pasha ekhluxnthphxxkcakkrungkhxnsaetntionepilipyngaenwrbtawntkinwnthi 3 mithunayn kh s 1604 ekhaedinthangipthungeblekrd aettxmaklmpwyaelaesiychiwitlngthinn cungthaih Sokolluzade Lala Mehmed Pasha idrbkaraetngtngepnmhaesnabdiaelaaemthphkhxngkxngthphtawntkaethnthimlkhxk phayitkarbngkhbbychakhxngoskhulusadas lala emhehmd phacha kxngthphtawntksamarthyudaela Vac klbkhunmaid aetlmehlwinkaryud enuxngcaksphaphxakasimexuxxanwyaelamikartxtancakehlathharinkxngthph karpidlxmemuxngcungtxngyutilng inkhnaediywkn ecachayaehngthransileweniy phukalngtxsuephuxprakasexkrachcakkarpkkhrxngkhxngrachwngshaphsbwrkh sungtwphraxngkhekhyihkarsnbsnun idsngphuedinsasnmayngckrwrrdixxtotmnephuxkhxkhwamchwyehlux emuxidrbkhamnaelwwacaidrbkarchwyehlux kxngkalngkhxngphraxngkhcungedinthangiprwmkbkxngthphxxtotmnthitngthphxyuineblekrd dwykhwamchwyehluxcakfaythransileweniy kxngthphxxtotmncungsamarthekhapidlxmaelayudemuxngexsetxrkxmidinwnthi 4 phvscikayn kh s 1605 fayecachayxichtwanexngksamarthyud Nove Zamky phasaturkieriykwaxurwar Uyvar iddwykhwamchwyehluxcakfayxxtotmn inkhnathikxngthphphayitkarnakhxng Tiryaki Hasan Pasha samarthyud Veszprem aela Palota id dan Sarhos Ibrahim Pasha ebyelxebyaehng Nagykanizsa phasatrukieriykkhanici Kanije idekhaocmtiphumiphakhxisetriykhxngxxsetriy phrasathislksnkhxngsultanxaehmdthi 1 krann dwykhwamthikbteslari Celali rebellions inxnaoteliythwikhwamrunaerngkhunyingkwathiepnma aelakarprasbkhwamphayaephinaenwrbtawnxxk emhehmd phachacungthukeriyktwmayngkhxnsaetntionepil aelaesiychiwitlnginkhnathikalngetriymtwxxkedinthangipyngaenwrbtawnxxk Kuyucu Murad Pasha cungepnphuthahnathiecrcain sungmienuxhawadwykarykelikkarekbenginbrrnakarcanwn 30 000 duktcakxxsetriy aelakaryxmrbwackrphrrdikhxngrachwngshaphsbwrkhmisthanaethaethiymkbsultanxxtotmn kbtcalarithuxepnhnunginpccysakhythithaihfayxxtotmnyxmrbenguxnikhehlani snthisyyaninbepntwbngbxkwakarkhyaytwkhxngckrwrrdixxtotmninyuorpidsinsudlngaelw kbteslari khwamimphxicinphllphthkhxngsngkhramkbrachwngshaphsbwrkh karcdekbphasixyanghnk kxprkbkhwamxxnaexinkarprabpramkhxngkxngthphxxtotmn thaihrchsmykhxngphraxngkhklayepncudsungsudkhxngkar tr kxkbtkhunimnanhlngcaksultanxaehmdthi 1 esdckhunkhrxngrachy aelasamarthexachna aelaekhedhnh xali phacha Kecdehan Ali Pasha ebyelxebyaehngxnaoteliy in kh s 1605 thawili xaehmd idrbkaresnxtaaehnngebyelxebyaehng aelkkbkaryutikarkbt aetimnanhlngcaknnekhakekhayud emhehmd butrchaykhxngekhaiddarngtaaehnngepnphuwakaraebkaedd dwykarplxmaeplng phrarachoxngkar aelasamarthexachnakxngkalngthinachu phachasngmaephuxprabpramekhaid inkhnaediywkn idthakarrwmkalngkbexmir Ma noglu Fahreddin aehng Druze ephuxthalaykxngkalngkhxng Seyfoglu Yusuf exmiraehngtriopli txmaxaliidekhayudkhrxngbriewnxadana phrxmtngkxngthphaelaxxkehriyyksapnkhxngtnexng kxngkalngkhxngekhasamarthtikxngthphkhxnghuesyin phacha ebyelxebyaehngxaelpopthiphungidrbkaraetngtngaetkphayipid sngphlihmhaesnabdi Bosnak Dervish Mehmed Pasha thukpraharchiwitcakkhwamxxnaexkhxngekhainkarprabpramphwkeslari khuyukhu murd phacha phuidrbaetngtngepnmhaesnabditxcakekhasamarthprabpramkxngthphkbtcanwn 30 000 nayinsieriylngidinwnthi 24 tulakhm kh s 1607 dwykhwamyaklabak aetkidphleddkhad khnaediywkn ekhakthathiihxphyphwkkbtinxnaoteliy aelathakaraetngtngkhaelnedorklu Kalenderoglu phunakarkbtinbriewnaelabursa epnaehngxngkara aebkaeddkthukyudkhunmaidin kh s 1607 echnkn aekhnbulathuklu xali phacha idhlbhniipyngkhxnsaetntionepilaelakhxphrarachthanxphyothscaksultanxaehmdthi 1 phraxngkhthrngaetngtngekhaippkkhrxngtimichwara aelatxmaippkkhrxngeblekrd aetphayhlngekhakthukpraharodymisaehtucakkarpkkhrxngthiphidphladkhxngekha n thinn khnaediywkn khaelnedorklukimsamarthedinthangekhaemuxngxngkaraidephraachawemuxngimyinyxm ekhacungkxkbtkhunxikkhrng sungthukprabpramodykxngkalngkhxngmurd phacha thaythisudkhaelnedorkluidhlbhniipyngepxresiy caknnmurd phachacungprabpramkarkbtkhnadelkinbriewnxnaoteliytxnklang aelakarabphunakhnxun khxngphwkeslaridwykarechiyihphwkekhaihmarbrachkarinkxngthph enuxngcakkhwamrunaerngkhxngkbteslariidaephrkracayipthw phukhncanwnmakidhnixxkcakhmubankhxngtn aelamihmubanhlayaehngthukthalay phunathharbangrayidxangsiththiwahmubanthithukthingrangehlaniepnthrphysinkhxngtn thaihrthbalkhadrayidcakkarekbphasi inwnthi 30 knyayn kh s 1609 sultanxaehmdthrngxxkexksarrbrxngsiththikhxngrasdrphuliphykarkbdmacakphumilaenakhxngtn caknnphraxngkhcungerimprakxbphrarachkrniykicephuxnaphukhnehlaniklbiptngthinthaninhmubanthithukthingrangxikkhrng sngkhramxxtotmn safawid sntiphaphaelasngkhramkhrngihm khaaeplsxngphasa frngessaelaturki khxng thitklngknrahwangsultanxaehmdthi 1 aelaphraecaxxngrithi 4 in kh s 1604 tiphimphody emux kh s 1615 nachu phacha phuidrbkaraetngtngepnmhaesnabdikhnihm imtxngkarthicathasngkhramkbfaysafawidtxip phraecachahxbbasmharach exngkthrngsngphrarachsasnmawaphraxngkhtxngkarthicalngnaminsnthisyyasntiphaphephuxyutisngkhramechnkn inwnthi 20 phvscikayn kh s 1612 idrbkarlngnam odymienguxnikhwa phraecachahxbbascatxngsngcanwn 200 thb ipyngkrungkhxnsaetntionepilepnpracathukpi dinaednthnghmdthickrwrrdixxtotmnidmarahwang klbipepnkhxngepxresiy aelathaihphrmaednklbipmikhnadethakbphrmaednin kh s 1555 thwasntiphaphkmasinsudlngin kh s 1615 emuxphraecachahxbbasthrngimsngphaihmcanwn 200 thbmaihxyangthitklngiw inwnthi 22 phvsphakhm kh s 1615 mhaesnabdi idrbmxbhmayihetriymkarocmtiepxresiy ekhaeluxnewlaocmtixxkipepnpithdma thaihfaysafawidmiewlaetriymtwaelaekhaocmtikncaid ineduxnemsayn kh s 1616 oxkhus phacha xxkedinthangcakxaelpopphrxmkxngthphkhnadihyaelaedinthphipyngeyerwan aetekhakimsamarthyudemuxngidaelatxnglathxyipyngaexrsurum oxkhus phachacungthukthxdxxkcaktaaehnng aelathukaethnthiody Damat Halil Pasha hali phachaedinthangipyngdiyarebkirinvduhnaw inkhnathi khanaehngikhremiy thakarocmtibriewnknca aela karphrarachthansiththiphiessaekchawtangpraeths aelasnthisyyathangkarkha sultanxaehmdthi 1 thrngthakartxsnthisyyakarkhakbxngkvs frngess aelaewnis aelathrngthasnthisyyathangkarkhachbbaerkkbsatharnrthdtch ineduxnkrkdakhm kh s 1612 nxkcakni phraxngkhyngidkhyay thiphrarachthanihaekfrngess ihkhrxbkhlumipthungphxkhachawsepn ecnw xngokna aelaflxernsdwy odyphxkhacakchatiehlanisamarthekhamathakarkhakhayidodykarichthngfrngess phrarachkrniykicdansthaptykrrmaelakarsasna swnniimmikarxangxingcakexksarxangxinghruxaehlngkhxmul oprdchwyphthnaswnniodyephimaehlngkhxmulnaechuxthux enuxhathiimmikarxangxingxacthukkhdkhanhruxnaxxkaephncarukkhxngsultanxaehmdthi 1 thimsyidxnnabawi aesdngtaaehnngkhxngpratubb xl thxwba Bab al Tawba sultanxaehmdthi 1 thrngepnphusrangmsyidsifa sungthuxknwaepnsthaptykrrmexk Magnum opus khxngsthaptykrrmxxtotmn txngkarxangxing odytngxyutrngkhamkbhaekiyosefiy sultanxaehmdesdcipinphithierimkarkxsrangphrxmkbxietx Pickaxe thxngkha ephuxepnsylksnthungkarerimkxsrangmsyid ehtuwunwayekuxbcaekidkhunemuxphraxngkhthrngphbwamsyidsifamicanwnhxxasan Minarets ethakbcanwnhxxasankhxngmsyidihypracamkkah thaihphraxngkhkriwaelaesiyphrathyepnxnmak cnkrathng Shaykh al Islam taaehnngethiybethacularachmntri thwaykhaaenanaihphraxngkhthrngsranghxxasanthimsyidihypracamkkahephimxikhnunghx ehtukarncungkhlikhlaylng msyidsifa sultanxaehmdthrngmiswnrwmxyangmakinkarbrunaihykhrngthisibexdkhxngkaxbahsungesiyhaycakkarthuknathwm phraxngkhthrngsngchangfimuxcakkhxnsaetntionepilipthakarsxmaesmrangnathxngkha sungchwyimihnafnkkkhngxyubnhlngkhakhxngkaxbah nxkcakniinrchsmykhxngphraxngkhyngmikarnatakhayehlkiptidiwinbxsmsmthinkhremkka odytidtngiwlukcakradbphiwna 3 fut kartidtngtakhayniepnphlmacakthimiehlaphustiimsmprakxbkraoddlngipinbx odyphwkekhaechuxwakarkrathaechnniepnkartayeyiyngwirbrus inemdina nkhrkhxngphrasasdamuhmmd aethnethsnxnihmsungthacakhinxxnsikhawthithainemuxngkhxnsaetntionepilthuknamatnginmsyidxnnabawiaethnthiaethnethsnedimthithrudothrmlng nxkcakni sultanxaehmdyngthrngsrangmsyidephimxiksxngaehnginyanxuskhuxdar inphunthifngexechiykhxngkhxnsaetntionepil thwaimmimsyidhlngidehluxrxdmacnthungpccubnely sultanxaehmdthi 1 thrngmiekhruxngyxd Crest thiaekaslkepnruprxyethakhxngnbimuhmmd sungphraxngkhcathrngchlxngekhruxngyxdnithukwnsukraelawnruneringtang karkrathakhxngphraxngkhnbepnaebbxyangkhxngkaraesdngkhwamnxbnxmtxphrasasdamakthisudkhrnghnunginprawtisastrxxtotmn khanginekhruxngyxdnnbrrcubthkwithiphraxngkhthrngphrarachniphnthkhun khwamwa hakkhasamarthswmisecaiwidtlxdewla dngphaophkhw hakkhasamarthphkphaecaiwbnsirsaidtlxdewla dngmngkud rxyethakhxngphrasasdamuhmmd sungmisdswnthingdngamhmdcdying xaehmdexy ipethid echiyecailibhnakbfaethaaehngkuhlabnnhna phraxupnisysultanxaehmdthi 1 thrngepnthiruckcakphraprichasamarthinkilafndab karpraphnthbthkwi karthrngma aelasamarthtrshlayphasaidxyangkhlxngaekhlw phraxngkhyngthrngepnnkkwi thrngphrarachniphnthokhlngsnaelanganekhiynekiywkbkaremuxngiwhlaychindwykn odythrngichphranamaefngwa bati Bahti thrngxupthmphnkwichakar nkxksrwicitr Calligrapher aelakhnekhrngsasnahlayray xikthngyngthrngmirbsngihbrrdankxksrwicitrcdthahnngsux aeknsarprawtisastr The Quintessence of Histories nxkcakniphraxngkhyngphyayamthicabngkhbichkdhmayxislamaelathrrmeniymtang ihsxdkhlxngkn thrngnakdhamdumekhruxngdummunemaklbmaichihm rwmthungkhxbngkhbwadwykarekharwmlahmadwnsukr aelakarihthanaekkhnyakirxyangthukwithiswrrkhtkhxngsultanxaehmdthi 1 sultanxaehmdthi 1 esdcswrrkhtcakphraorkhikhraksadihy aelamiphraolhitxxkinphraxnta laisihy inwnthi 22 phvscikayn kh s 1617 n phrarachwngothphkhapu inkrungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa eschahedmustafa phrarachxnuchakhxngphraxngkhidkhunkhrxngrachysubtxepn phrarachoxrssamphraxngkhkhxngsultanxaehmdideswyrachsmbtiinphayhlng idaek sultanxxsmnthi 2 khrxngrachy kh s 1618 22 khrxngrachy kh s 1623 40 aela khrxngrachy kh s 1640 48 phrarachwngskhuxphieskphrarachoxrssultanxxsmnthi 2 sultanaehngckrwrrdixxtotmn esdcphrarachsmphph 3 phvscikayn kh s 1604 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil thukplngphrachnm 20 phvsphakhm kh s 1622 odyehlathharcanissari aela n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetmafirus hatun prasuti kh s 1605 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil thukplngphrachnm 12 mkrakhm kh s 1621 tamphrarachbychakhxngsultanxxsmnthi 2 phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn sultanaehngckrwrrdixxtotmn esdcphrarachsmphph 27 krkdakhm kh s 1612 n krungkhxnsaetntionepil swrrkht 8 kumphaphnth kh s 1640 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn prasuti phvscikayn kh s 1612 thukplngphrachnm 27 krkdakhm kh s 1635 tamphrarachbychakhxngsultanmurdthi 4 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetmafirus hatun prasuti kh s 1613 n krungkhxnsaetntionepil thukplngphrachnm 27 krkdakhm kh s 1635 tamphrarachbychakhxngsultanmurdthi 4 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn prasuti kh s 1613 n krungkhxnsaetntionepil thukplngphrachnm 27 krkdakhm kh s 1635 tamphrarachbychakhxngsultanmurdthi 4 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil txngkarxangxing phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn prasuti phvscikayn kh s 1614 n krungkhxnsaetntionepil sinphrachnm hlng kh s 1622 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanemhehmdthi 3 inmsyidihyxayaosfya prasutiaetmafirus hatun prasuti kh s 1614 n krungkhxnsaetntionepil thukplngphrachnm 17 kumphaphnth kh s 1638 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanemhehmdthi 3 inmsyidihyxayaosfya prasutiaetokesm sultn sultanaehngckrwrrdixxtotmn esdcphrarachsmphph 5 phvscikayn kh s 1615 n krungkhxnsaetntionepil thukplngphrachnm 18 singhakhm kh s 1648 n phrarachwngothphkhapu krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanmustafathi 1 inmsyidihyxayaosfya prasutiaetokesm sultnphrarachthida prasuti praman kh s 1608 sinphrachnm kh s 1660 phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn prasuti kh s 1605 hrux 1608 sinphrachnm kh s 1657 n krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn prasuti praman kh s 1607 sinphrachnm kh s 1670 n krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxaehmdthi 1 inmsyidsifa prasutiaetokesm sultn prasuti kh s 1607 sinphrachnm 23 knyayn kh s 1650 n krungkhxnsaetntionepil phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxibrahiminmsyidihyxayaosfya prasutiaetokesm sultn prasuti kh s 1613 sinphrachnm kh s 1674 phrasphthukfngthihlumphrasphsultanxibrahiminmsyidihyxayaosfya tr prasuti kh s 1618 imthrabpithisinphrachnm xphiesksmrsin kh s 1642 kbsingsubthxdthukwnni sultanxaehmdthi 1 thrngepnthiruckodyswnihycakkarthiepnphusrangmsyidsifa ruckkninxikchuxhnungwa msyidsultanxaehmd hnunginphlnganchinexkkhxngsthaptykrrmxislam pccubn phunthiodyrxbtwmsyidinekht thukeriykwa sultanxaehmd Sultanahmet phraxngkhesdcswrrkhtthiphrarachwngothphkhapuinkrungkhxnsaetntionepil phrasphkhxngphraxngkhidrbkarfngxyuinhlumphrasphthixyuphaynxkmsyidxnodngdngaehngniinwthnthrrmsmyniymnkaesdngchawturkirbbthepnsultanxaehmdthi 1 inphaphyntrchudthangothrthsnpi 2015 eruxngduephimxangxingGaro Kurkman 1996 Ottoman Silver Marks p 31 Peirce Leslie 1993 The Imperial Harem Women and Sovereignty in the Ottoman Empire Oxford University Press pp 99 ISBN 0 19 508677 5 Borekci Gunhan Inkirazin Esiginde Bir Hanedan III Mehmed I Ahmed I Mustafa ve 17 Yuzyil Osmanli Siyasi Krizi A Dynasty at the Threshold of Extinction Mehmed III Ahmed I Mustafa I and the 17th Century Ottoman Political Crisis pp 81 n 75 Borekci Gunhan 2010 Factions And Favorites At The Courts Of Sultan Ahmed I r 1603 17 And His Immediate Predexessors pp 85 n 17 Ga bor A goston Bruce Alan Masters Encyclopedia of the Ottoman Empire pp 23 Infobase Publishing 1 jan 2009 ISBN 1438110251 Ahmed I PDF Islam Ansiklopedisi Vol 1 Turk Diyanet Vakfi 1989 pp 30 33 Bosworth Clifford Edmund January 1989 The Encyclopaedia of Islam Fascicules 111 112 Masrah Mawlidby Clifford Edmund Bosworth p 799 ISBN 9004092390 subkhnemux 2012 01 26 Sefika Sule Ercetin November 28 2016 Women Leaders in Chaotic Environments Examinations of Leadership Using Complexity Theory Springer p 77 ISBN 978 3 319 44758 2 Ulucay Mustafa Cagatay 2011 Padisahlarin Kadinlari ve Kizlari Otuken Ankara p 78 ISBN 978 9 754 37840 5 Tezcan Baki 2007 The Debut of Kosem Sultan s Political Career Turcica Editions Klincksieck 39 40 350 351 Mustafa Naima 1832 Annals of the Turkish Empire From 1591 to 1659 Volume 1 Oriental Translation Fund amp sold by J Murray pp 452 3 Singh Nagendra Kr 2000 International encyclopaedia of Islamic dynasties reproduction of the article by M Cavid Baysun Kosem Walide or Kosem Sultan in The Encyclopaedia of Islam vol V Anmol Publications PVT pp 423 424 ISBN 81 261 0403 1 1993 The Imperial Harem Women and Sovereignty in the Ottoman Empire p 232 ISBN 0195086775 Gulru Neci poglu Julia Bailey 2008 Frontiers of Islamic Art and Architecture Essays in Celebration of Oleg Grabar s Eightieth Birthday the Aga Khan Program for Islamic Architecture Thirtieth Anniversary Special Volume BRILL p 324 ISBN 978 9 004 17327 9 Singh Nagendra Kr 2000 International encyclopaedia of Islamic dynasties reproduction of the article by M Cavid Baysun Kosem Walide or Kosem Sultan in The Encyclopaedia of Islam vol V Anmol Publications PVT hna 423 424 ISBN 81 261 0403 1 1993 The Imperial Harem Women and Sovereignty in the Ottoman Empire hna 365 ISBN 0195086775 Ulucay 2011 p 52 Sakaoglu Necdet 2008 Bu mulkun kadin sultanlari Valide sultanlar hatunlar hasekiler kadinefendiler sultanefendiler Oglak Yayincilik p 235 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb sultanxaehmdthi 1