ไข้รากสาดใหญ่ หรือ ไข้ไทฟัส (อังกฤษ: Typhus) เป็นกลุ่มของโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยมี (louse) เป็น ชื่อโรคไทฟัสมาจากรากศัพท์ภาษากรีก typhos แปลว่าขี้เกียจหรือขุ่นมัว ซึ่งอธิบายสภาวะจิตใจของผู้ป่วยด้วยโรคนี้ เชื้อแบคทีเรียก่อโรคนี้คือเชื้อกลุ่ม (Rickettsia) ซึ่งเป็นปรสิตที่จำเป็นต้องอยู่ในเซลล์โฮสต์ตลอดเวลา ไม่มีวงชีพอิสระ เชื้อริกเก็ตเซียเป็นเชื้อที่ระบาดอยู่ในสัตว์พวกหนู และแพร่กระจายเข้าสู่มนุษย์โดยเห็บ เหา หมัด โลน หรือไร พาหะเหล่านี้จะเจริญได้ดีภายใต้ภาวะสุขลักษณะไม่ดีเช่นในเรือนจำ ค่ายผู้ลี้ภัย ในหมู่คนไร้บ้าน และในสนามรบช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในประเทศที่พัฒนาแล้วโรคไข้รากสาดใหญ่มักติดต่อผ่านทางหมัด ส่วนในเขตร้อนโรคนี้มักเข้าใจผิดว่าเป็นโรคไข้เลือดออก
ไข้รากสาดใหญ่ (Typhus) | |
---|---|
ผื่นที่เกิดจากไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | A75.1 |
ICD- | 080-083 |
29240 | |
001363 | |
med/2332 | |
MeSH | D014438 |
โรคติดเชื้อริกเก็ตเซียนอกจากจะมีไข้รากสาดใหญ่ประเภทต่างๆ ที่จะกล่าวถึงแล้วนั้น ยังมีโรค (Rocky Mountain spotted fever) และโรค (spotted fevers) ที่ระบาดในประเทศโคลอมเบียและบราซิล
ชนิดของไข้รากสาดใหญ่
ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด
ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด (Epidemic typhus หรืออาจเรียกว่า "Camp Fever", "Jail Fever", "Hospital Fever", "Ship Fever", "Famine Fever", "Petechial Fever", หรือ "louse-borne typhus") มักเกิดการระบาดหลังจากสงครามหรือภัยพิบัติ เชื้อก่อโรคคือ ซึ่งติดต่อผ่านทาง (body louse; Pediculus humanus corporis) ที่เจริญบนตัวของผู้ติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรีย R. prowazekii จะเติบโตในทางเดินอาหารของเหาและถูกขับถ่ายออกมาทางมูล และติดต่อไปยังอีกคนหนึ่งเมื่อเกา (จากการถูกเหากัดและคัน) และมูลของเหาเข้าไปในแผล ระยะฟักตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ เชื้อแบคทีเรีย R. prowazekii สามารถมีชีวิตและสามารถแพร่กระจายเชื้ออยู่ได้ในมูลเหาเป็นเวลาหลายวัน ไข้รากสาดใหญ่สามารถทำให้เหาตายได้ แต่เชื้อก็ยังมีชีวิตอยู่ในซากเหาได้อีกเป็นเวลานานหลายสัปดาห์
อาการของโรคนี้คือปวดศีรษะอย่างรุนแรง ไข้สูงลอย ไอ มีผื่น ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง หนาวสั่น ความดันโลหิตตกลง ซึม ไวต่อแสง และเพ้อ ผื่นจะเริ่มปรากฏบนหน้าอกประมาณ 5 วันหลังจากมีไข้และกระจายไปตามลำตัวและแขนขา แต่ไม่ลามถึงใบหน้า ฝ่ามือและฝ่าเท้า อาการทั่วไปในโรคไข้รากสาดใหญ่ทุกชนิดคือมีไข้ซึ่งอาจสูงถึง 39°C (102°F)
การรักษาการติดเชื้อทำโดยการให้ยาปฏิชีวนะ ส่วนการให้ของเหลวทางหลอดเลือดดำและออกซิเจนอาจพิจารณาเพื่อประคับประคองผู้ป่วย อัตราการเสียชีวิตของโรคนี้ประมาณ 10% ถึง 60% แต่อาจลดลงอย่างรวดเร็วหากใช้ยาปฏิชีวนะ เช่นเตตราไซคลีน (tetracycline) แต่เนิ่นๆ การป้องกันการติดเชื้ออาจใช้วัคซีน
โรคบริลล์-ซินสเซอร์ (Brill-Zinsser disease) ค้นพบโดยนาธาน บริลล์ (Nathan Brill) ในปี ค.ศ. 1913 เป็นลักษณะหนึ่งของไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาดที่มีความรุนแรงต่ำ ซึ่งเกิดซ้ำหลังจากอาการแสดงของโรคครั้งแรกหายไปแล้ว (หลังระยะแฝงที่ยาวนาน) (ในลักษณะเดียวกันกับความสัมพันธ์ระหว่างอีสุกอีใสและงูสวัด) การอุบัติซ้ำในลักษณะนี้สามารถเกิดในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ
ไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาดพบได้บ่อยระหว่างสงครามหรือภาวะทุพภิกขภัย เช่น การระบาดของโรคไข้รากสาดใหญ่ในค่ายกักกันของนาซีเยอรมนีระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนเนื่องจากมีสุขภาวะที่ย่ำแย่ก่อให้เกิดการระบาดของโรคหลายชนิด ส่วนการระบาดที่พบในคริสต์ศตวรรษที่ 21 น่าจะเกิดจากค่ายผู้ลี้ภัยในภาวะอดอยากหรือมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่น
ไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่น (Endemic typhus หรืออาจเรียกว่า "ไข้รากสาดใหญ่จากหมัด" (flea-borne typhus) และ "ไข้รากสาดใหญ่จากหนู" (murine typhusor)) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และติดต่อผ่านทางหมัด (flea) ที่กัดหนู ในบางครั้งไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่นอาจเกิดจากเชื้อ และติดต่อผ่านทางหมัดที่อาศัยบนแมวหรือโอพอสซัม
อาการของไข้รากสาดใหญ่ประจำถิ่นได้แก่ปวดศีรษะ มีไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียนและไอ ไข้รากสาดชนิดนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ และมักกลับมาหายเป็นปกติ แต่อาจพบการเสียชีวิตในผู้สูงอายุ พิการอย่างรุนแรง หรือภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ อาการแสดงอาจคล้ายกับหัด หัดเยอรมัน หรือ
ไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะ
ไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะ หรือ สครับไทฟัส (Scrub typhus หรืออาจเรียกว่า "ไข้รากสาดใหญ่จากไรอ่อน" (chigger-borne typhus)) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า ซึ่งมีพาหะนำโรคคือ (chigger) ซึ่งพบมากตาม โรคไข้รากสาดใหญ่ชนิดนี้รู้จักในญี่ปุ่นในชื่อ "โรคซัทสึกามูชิ" (tsutsugamushi disease) และพบความชุกของโรคในมาเลเซียและออสเตรเลีย ชายแดนไทย-พม่า พบการระบาดของโรคนี้อย่างรุนแรงในกองทหารในพม่าและศรีลังการะหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
อาการของไข้รากสาดใหญ่จากป่าละเมาะได้แก่มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ไอ และมีอาการในระบบทางเดินอาหาร สายพันธุ์ของเชื้อ O. tsutsugamushi ที่รุนแรงอาจทำให้มีเลือดออกและเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด (intravascular coagulation) การสัมผัสกับไรอ่อนซึ่งพบได้ทั่วไปทุกภูมิภาคของโลกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง
การรักษา
โรคไข้รากสาดใหญ่หากไม่ได้รับการรักษาอาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะไข้รากสาดใหญ่ชนิดระบาด การให้การรักษาอย่างทันท่วงทีด้วยยาปฏิชีวนะจะช่วยรักษาผู้ป่วยได้เกือบทุกราย
- ดอกซีไซคลีน
- เตตราไซคลีน
- คลอแรมเฟนิคอล (ไม่นิยม)
อ้างอิง
- "Diseases P-T at sedgleymanor.com". สืบค้นเมื่อ 2007-07-17.
- Gray, Michael W. Rickettsia, typhus and the mitochondrial connection Nature 396, 109 - 110 ( 1998)].
- Jan O. Andersson, Siv G.E. Andersson, “A century of typhus, lice, and Rickettsia” , Res. Microbiol. 151 (2000) 143–150.
- Information on Murine Typhus (Fleaborne Typhus) or Endemic Typhus 2011-02-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Texas Department of State Health Services (2005).
- Current Medical Dianosis & Treatment 1999 ed. Lawrence M. Tierney, Jr., MD, Stephen J. McPhee, MD, Maxine A. Papadakis, MD, Appleton & Lange, 1999. pp.1286
- Audy, J. R. "Red Mites and Typhus." London: The Athlone Press. 1968.
- MedlinePlus Medical Encyclopedia: Typhus
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ikhraksadihy hrux ikhithfs xngkvs Typhus epnklumkhxngorkhtidechuxthiekidcakaebkhthieriy odymi louse epn chuxorkhithfsmacakraksphthphasakrik typhos aeplwakhiekiychruxkhunmw sungxthibaysphawacitickhxngphupwydwyorkhni echuxaebkhthieriykxorkhnikhuxechuxklum Rickettsia sungepnprsitthicaepntxngxyuinesllohsttlxdewla immiwngchiphxisra echuxrikektesiyepnechuxthirabadxyuinstwphwkhnu aelaaephrkracayekhasumnusyodyehb eha hmd oln hruxir phahaehlanicaecriyiddiphayitphawasukhlksnaimdiechnineruxnca khayphuliphy inhmukhnirban aelainsnamrbchwngklangkhriststwrrsthi 20 inpraethsthiphthnaaelworkhikhraksadihymktidtxphanthanghmd swninekhtrxnorkhnimkekhaicphidwaepnorkhikheluxdxxkikhraksadihy Typhus phunthiekidcakikhraksadihychnidrabadbychicaaenkaelalingkipphaynxkICD 10A75 1ICD 080 08329240001363med 2332MeSHD014438 orkhtidechuxrikektesiynxkcakcamiikhraksadihypraephthtang thicaklawthungaelwnn yngmiorkh Rocky Mountain spotted fever aelaorkh spotted fevers thirabadinpraethsokhlxmebiyaelabrasilchnidkhxngikhraksadihyikhraksadihychnidrabad ikhraksadihychnidrabad Epidemic typhus hruxxaceriykwa Camp Fever Jail Fever Hospital Fever Ship Fever Famine Fever Petechial Fever hrux louse borne typhus mkekidkarrabadhlngcaksngkhramhruxphyphibti echuxkxorkhkhux sungtidtxphanthang body louse Pediculus humanus corporis thiecriybntwkhxngphutidechux echuxaebkhthieriy R prowazekii caetibotinthangedinxaharkhxngehaaelathukkhbthayxxkmathangmul aelatidtxipyngxikkhnhnungemuxeka cakkarthukehakdaelakhn aelamulkhxngehaekhaipinaephl rayafktwpraman 1 2 spdah echuxaebkhthieriy R prowazekii samarthmichiwitaelasamarthaephrkracayechuxxyuidinmulehaepnewlahlaywn ikhraksadihysamarththaihehatayid aetechuxkyngmichiwitxyuinsakehaidxikepnewlananhlayspdah xakarkhxngorkhnikhuxpwdsirsaxyangrunaerng ikhsunglxy ix miphun pwdklamenuxxyangrunaerng hnawsn khwamdnolhittklng sum iwtxaesng aelaephx phuncaerimpraktbnhnaxkpraman 5 wnhlngcakmiikhaelakracayiptamlatwaelaaekhnkha aetimlamthungibhna famuxaelafaetha xakarthwipinorkhikhraksadihythukchnidkhuxmiikhsungxacsungthung 39 C 102 F karrksakartidechuxthaodykarihyaptichiwna swnkarihkhxngehlwthanghlxdeluxddaaelaxxksiecnxacphicarnaephuxprakhbprakhxngphupwy xtrakaresiychiwitkhxngorkhnipraman 10 thung 60 aetxacldlngxyangrwderwhakichyaptichiwna echnettraiskhlin tetracycline aetenin karpxngknkartidechuxxacichwkhsin orkhbrill sinsesxr Brill Zinsser disease khnphbodynathan brill Nathan Brill inpi kh s 1913 epnlksnahnungkhxngikhraksadihychnidrabadthimikhwamrunaerngta sungekidsahlngcakxakaraesdngkhxngorkhkhrngaerkhayipaelw hlngrayaaefngthiyawnan inlksnaediywknkbkhwamsmphnthrahwangxisukxiisaelanguswd karxubtisainlksnanisamarthekidinphupwyphumikhumknta ikhraksadihychnidrabadphbidbxyrahwangsngkhramhruxphawathuphphikkhphy echn karrabadkhxngorkhikhraksadihyinkhaykkknkhxngnasieyxrmnirahwangsngkhramolkkhrngthisxng sungmiphuesiychiwithlayphnkhnenuxngcakmisukhphawathiyaaeykxihekidkarrabadkhxngorkhhlaychnid swnkarrabadthiphbinkhriststwrrsthi 21 nacaekidcakkhayphuliphyinphawaxdxyakhruxmiphyphibtithangthrrmchati ikhraksadihypracathin ikhraksadihypracathin Endemic typhus hruxxaceriykwa ikhraksadihycakhmd flea borne typhus aela ikhraksadihycakhnu murine typhusor ekidcakechuxaebkhthieriy aelatidtxphanthanghmd flea thikdhnu inbangkhrngikhraksadihypracathinxacekidcakechux aelatidtxphanthanghmdthixasybnaemwhruxoxphxssm xakarkhxngikhraksadihypracathinidaekpwdsirsa miikh hnawsn pwdklamenux khlunis xaeciynaelaix ikhraksadchnidnisamarthrksaiddwyyaptichiwna aelamkklbmahayepnpkti aetxacphbkaresiychiwitinphusungxayu phikarxyangrunaerng hruxphumikhumkntakwapkti xakaraesdngxackhlaykbhd hdeyxrmn hrux ikhraksadihycakpalaemaa ikhraksadihycakpalaemaa hrux skhrbithfs Scrub typhus hruxxaceriykwa ikhraksadihycakirxxn chigger borne typhus ekidcakechuxaebkhthieriychuxwa sungmiphahanaorkhkhux chigger sungphbmaktam orkhikhraksadihychnidniruckinyipuninchux orkhsthsukamuchi tsutsugamushi disease aelaphbkhwamchukkhxngorkhinmaelesiyaelaxxsetreliy chayaednithy phma phbkarrabadkhxngorkhnixyangrunaernginkxngthharinphmaaelasrilngkarahwangsngkhramolkkhrngthisxng xakarkhxngikhraksadihycakpalaemaaidaekmiikh pwdsirsa pwdklamenux ix aelamixakarinrabbthangedinxahar sayphnthukhxngechux O tsutsugamushi thirunaerngxacthaihmieluxdxxkaelaekidlimeluxdinhlxdeluxd intravascular coagulation karsmphskbirxxnsungphbidthwipthukphumiphakhkhxngolkxacthaihekidkarrakhayekhuxngkhxngphiwhnngkarrksaorkhikhraksadihyhakimidrbkarrksaxacthungaekchiwitid odyechphaaikhraksadihychnidrabad karihkarrksaxyangthnthwngthidwyyaptichiwnacachwyrksaphupwyidekuxbthukray dxksiiskhlin ettraiskhlin khlxaermefnikhxl imniym xangxing Diseases P T at sedgleymanor com subkhnemux 2007 07 17 Gray Michael W Rickettsia typhus and the mitochondrial connection Nature 396 109 110 1998 Jan O Andersson Siv G E Andersson A century of typhus lice and Rickettsia Res Microbiol 151 2000 143 150 Information on Murine Typhus Fleaborne Typhus or Endemic Typhus 2011 02 20 thi ewyaebkaemchchin Texas Department of State Health Services 2005 Current Medical Dianosis amp Treatment 1999 ed Lawrence M Tierney Jr MD Stephen J McPhee MD Maxine A Papadakis MD Appleton amp Lange 1999 pp 1286 ISBN 0 8385 1550 9 Audy J R Red Mites and Typhus London The Athlone Press 1968 ISBN 0485263181 MedlinePlus Medical Encyclopedia Typhus bthkhwamaephthysastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk