สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี (10 พฤษภาคม พ.ศ. 2404 – 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2470) หรือที่ชาววังสมัย ร.5 - ร.6 ออกพระนามว่า เสด็จพระนาง เป็นพระมเหสีชั้นลูกหลวงตำแหน่ง พระนางเจ้า พระราชเทวี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาสำลี พระสนมเอก
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี | |
---|---|
พระอัครราชเทวี | |
พระราชเทวี | |
ดำรงพระยศ | 30 มิถุนายน พ.ศ. 2424 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 |
ประสูติ | 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2404 พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพพระมหานคร อาณาจักรสยาม |
สิ้นพระชนม์ | 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 (66 ปี) วังบางขุนพรหม จังหวัดพระนคร อาณาจักรสยาม |
พระสวามี | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระบุตร | |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
พระมารดา | เจ้าคุณจอมมารดาสำลี ในรัชกาลที่ 4 |
ศาสนา | พุทธ |
ลายพระอภิไธย |
พระองค์เป็นพระมารดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร ซึ่งทรงเป็นเจ้าฟ้าชั้นเอก (ชั้นทูลกระหม่อม) ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์แรกที่มีพระชนม์ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ชาววังจึงออกพระนามว่าสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า นับแต่นั้น
ภายหลัง สมเด็จสิ้นพระชนม์เมื่อวันเสาร์ เดือน 8 ขึ้น 11 ค่ำ ปีเถาะ นพศก จ.ศ. 1289 (9 กรกฎาคม พ.ศ. 2470) ณ ตำหนักสมเด็จ วังบางขุนพรหม พระชนมายุ 66 พรรษา
พระประวัติ
ประสูติ
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เป็นพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 52 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นลำดับที่ 4 ซึ่งประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาสำลี พระสนมเอก (สกุลเดิม: บุนนาค) เมื่อวันศุกร์ เดือน 7 ขึ้น 1 ค่ำ ปีระกาตรีศก จ.ศ. 1223 (ตรงกับวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2404) ทรงร่วมเจ้าจอมมารดากับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุษบงเบิกบาน และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี เมื่อแรกประสูติในฐานะพระราชธิดาที่ประสูติจากเจ้าจอมมารดา จึงทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น "พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี" พระบิดาทรงพระราชนิพนธ์พระคาถาพระราชทานพระนามเป็นภาษาบาลีซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงพระนิพนธ์แปลไว้ว่า
"ธิดาของเราที่บังเกิดแต่สำลีนี้ จงปรากฏโดยนามว่า สุขุมาลมารศรี จงทรงนามนั้นไว้ มีความสุขเสมอ อนึ่ง จงมั่งคั่งมีทรัพย์มาก มีบริวารงดงาม ไม่มีโรค ไม่ลำบาก เจริญโดยลำดับ จงได้ซึ่งที่พึ่งอันบริบูรณ์ด้วยกำลังเป็นที่ต้องใจ"
พระองค์เป็นพระราชธิดารุ่นกลางเช่นเดียวกันกับ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งต่อมา ได้ทรงรับราชการฝ่ายในเป็นพระมเหสีใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยกัน
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานารถ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบมา พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี ในฐานะพระขนิษฐภคินี ทรงเปลี่ยนพระฐานะจาก พระเจ้าลูกเธอ เป็น พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี
พระราชเทวีในรัชกาลที่ 5
เมื่อมีพระชนมายุได้ประมาณ 15 พรรษา จากหลักฐานที่ปรากฏพระองค์ทรงเป็นเจ้านายชั้นลูกหลวงพระองค์ที่สองที่ได้ถวายตัวเป็นพระมเหสี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และภายหลังพระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรีมีพระประสูติการพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิง ในปี 2420 ซึ่งทรงเป็นเจ้าฟ้าชั้นเอก (ชั้นทูลกระหม่อม) พระองค์แรกที่มีพระชนม์ พระองค์จึงได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาเป็น พระนางเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี ทรงรับพระราชทานเครื่องอิสริยยศราชูปโภคลงยาราชาวดี นับว่าเป็นพระมเหสีพระองค์แรกที่มีการเฉลิมพระนามและพระอิสริยยศอย่างเป็นทางการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังจากพระองค์มีพระประสูติการพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ พระองค์ทรงได้รับการเลื่อนพระยศเป็น "พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี" โดยมีพระบรมราชโองการให้แปลพระนามาภิไธยเป็นภาษาอังกฤษว่า "Her Royal Highness the Princess Consort" (หรือบางครั้งทรงใช้ Her Royal Highness Phra Nang Chao Phra Raj Dhevi) และทรงดำรงฐานันดรศักดิ์นี้จนสิ้นรัชกาลโดยพระองค์มีพระฐานะเป็นพระมเหสีลำดับสาม รองจากสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี
พระปิตุจฉาในรัชกาลที่ 6 และสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าในรัชกาลที่ 7
เมื่อผลัดแผ่นดิน พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีก็ทรงโศกสลดเช่นเดียวกันกับกับพระมเหสีเทวีพระองค์อื่น ๆ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และปลีกพระองค์ออกจากพระบรมมหาราชวังมานับตั้งแต่นั้น โดยพระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร ได้เสด็จออกมาประทับที่วังบางขุนพรหมซึ่งรัชกาลที่ 5 พระราชทานให้เป็นวังที่ประทับของพระราชโอรส คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต แต่เนื่องจากทรงเป็นเจ้านายฝ่ายในที่ดำรงพระอิสริยยศสูง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมโขลน และกรมวังจัดคนส่วนหนึ่งมาปฏิบัติถวายการรับใช้อยู่ที่วังนั้น เสมือนหนึ่งยังคงประทับอยู่ในพระบรมมหาราชวังทุกประการ และสมเด็จเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร พระราชธิดาพระองค์เดียวนั้นได้สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 6 นี้เอง พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี ซึ่งทรงเป็น "เสด็จอธิบดี" ว่าราชการอยู่ในพระบรมมหาราชวังก็ได้เสด็จออกมาประทับยังวังบางขุนพรหมเพื่อปลอบโยนพระราชหฤทัยพระพี่นางฯ ในครั้งนั้นด้วย
พระอัครมเหสีในรัชกาลที่ 5 |
---|
สุนันทากุมารีรัตน์ |
สว่างวัฒนา |
เสาวภาผ่องศรี |
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังมีพระบรมราชโองการให้แปลพระนามาภิไธยเป็นภาษาอังกฤษว่า "Her Majesty Queen Sukumalmarsri, Royal Consort of His Majesty King Chulalongkorn" ทั้งนี้ มิได้มีพระบรมราชโองการเปลี่ยนแปลงพระอิสริยยศในทางราชการแต่อย่างใด จึงยังทรงดำรงพระยศเป็นพระนางเจ้าฯ พระราชเทวีจนตลอดรัชกาลที่ 6
มีเกร็ดเล่ากันว่า สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในรัชกาลที่ 6 และ 7 นั้น เนื่องจากเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีมาแต่รัชกาลก่อน ทรงครองพระอิสริยยศสูงสุดเหนือบรรดาพระมเหสีทั้งปวง ประกอบกับทรงเป็น "น้องเล็ก" มาก่อนจึงค่อนข้างแต่จะทรงเอาพระราชหฤทัยพระองค์เอง แต่สมเด็จพระมาตุจฉาเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวีซึ่งทรงครองพระราชอิสริยยศสมเด็จพระอัครมเหสีมาแต่เดิม และพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ทั้ง 2 พระองค์นั้นในฐานะพระเชษฐภคินี (สมเด็จพระมาตุจฉาเจ้าฯ พระบรมราชเทวีนั้น เป็นพระโสทรเชษฐภคินี คือทรงร่วมพระราชบิดา-มารดาเดียวกันกับสมเด็จพระพันปีหลวง ส่วนพระนางเจ้าฯ พระราชเทวีนั้น เป็นพระเชษฐภคินีร่วมพระราชบิดา แต่ต่างพระมารดากันกับสมเด็จพระพันปีหลวง) ก็ทรงประทานอภัยให้เสมอ ในปลายรัชกาลที่ 6 ก่อนที่สมเด็จพระศรีพัชรินทราฯ จะเสด็จสวรรคตไม่นานนั้น สมเด็จพระเชษฐภคินีทั้ง 2 พระองค์ก็ได้เสด็จไปเยี่ยมพระอาการประชวรสมเด็จพระพันปีหลวง ณ พระราชวังพญาไท อันเป็นพระราชสำนักของสมเด็จพระพันปีหลวงตั้งแต่สิ้นรัชกาลที่ 5 จนกระทั่งเสด็จสวรรคต สมเด็จพระพันปีหลวงนั้นถึงกับทรงลงไปกราบถวายบังคมแทบเบื้องพระบาทสมเด็จพระเชษฐภคินีทั้ง 2 พระองค์ ขอพระราชทานอภัยโทษ แล้ว 3 พระองค์พี่น้องก็ทรงกอดกันทรงพระกันแสง จนนางพระกำนัลนางสนองพระโอษฐ์ที่อยู่แถวนั้นต้องร้องไห้ตาม ๆ กันไป
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ขึ้นเป็น "สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี" และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แปลพระนามาภิไธยของทั้ง 2 พระองค์เป็นภาษาอังกฤษว่า "Her Majesty the Queen Aunt" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี จึงมีพระอิสริยศักดิ์เป็นลำดับสองของพระภรรยาเจ้าในรัชกาลที่ 5 เพราะขณะนั้นสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี สมเด็จพระอัครมเหสีทั้ง 2 พระองค์ ได้สวรรคตและสิ้นพระชนม์ไปแล้ว)
ในรัชกาลที่ 8
ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร คณะผู้สำเร็จราชการในพระปรมาภิไธยมีพระบรมราชโองการให้สถาปนา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร และสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรีฯ ในรัชกาลที่ 7 มิได้เป็นสมเด็จพระปิตุจฉาฯ ในรัชกาลที่ 8 อีก ดังนั้น เพื่อป้องกันความสับสนจึงมีประกาศให้ออกพระนามาภิไธยว่า สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ทั้งนี้ประกาศนี้มิใช่พระบรมราชโองการ และมิใช่พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ในหนังสือ จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ พระบรมราชวงศ์แห่งประเทศไทย เจฟรีย์ ไฟน์สโตน ระบุไว้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงสถาปนาพระนางเจ้าฯ พระองค์นี้เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี" หากแต่ในหนังสือ มหามงกุฎบรมราชสันตติวงศ์ พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงวินิจฉัยว่า พระอิสริยยศสุดท้าย คือ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี
ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนทางประวัติศาสตร์ โดยพระองค์ท่านทรงเป็น
- พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี (ในรัชกาลที่ 5) (ทรงดำรงพระยศนี้มาตลอดรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6)
- สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี (ในรัชกาลที่ 7)
แต่ควรออกพระนามว่า สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เนื่องจากเป็นพระอิสริยยศสุดท้ายตามพระบรมราชโองการ และสูงกว่าพระอิสริยยศเดิม ดังเช่นที่ ให้ออกพระนาม เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนาถว่า สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
สิ้นพระชนม์
ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ประมาณสิบวัน สมเด็จฯ ได้ทรงพระราชนิพนธ์พระคาถาพระราชทานพระพรให้แก่กรมพระยาดำรงราชานุภาพฯ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ความตอนหนึ่งว่า
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีชีวิตอยู่จนได้ถวายพระพรเธอในปีนี้
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวีสิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคพระปับผาสะพิการในรัชกาลที่ 7 เมื่อวันเสาร์ เดือน 8 ขึ้น 11 ค่ำ ปีเถาะนพศก จ.ศ. 1289 (9 กรกฎาคม พ.ศ. 2470) ณ ตำหนักสมเด็จ วังบางขุนพรหม พระชนมายุ 66 พรรษา สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี พร้อมด้วยพระนัดดา และพระนัดดาทรงเลี้ยง ทรงหมอบเฝ้าฯ อยู่ข้างพระที่ พระศพอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระเกียรติยศถวายไว้อาลัย 100 วันเป็นกรณีพิเศษ พระเมรุ นั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นผู้อำนวยการสร้าง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเรียบเรียงหนังสือ "สามก๊ก" แจกเป็นของที่ระลึก และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงพระนิพนธ์โคลงถวายหน้าพระศพทุกสัตมวาร
งานพระราชทานเพลิงพระศพจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2471 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธาน ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง
พระกรณียกิจ
พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ทรงว่าราชการแผนกนมัสการ และยังทรงรับราชการเป็นราชเลขานุการิณีส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย เล่ากันว่า เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมักทรงงานอยู่จนดึก พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีฯ ก็มักจะประทับอยู่ ณ ที่แห่งนั้นด้วย ทรงหมอบเขียนพระบรมราชโองการตามรับสั่งอยู่จนรุ่งเช้า ใกล้ ๆ กันนั้นมีเจ้าจอมก๊กออ ซึ่งเป็นพระญาติในราชนิกุลบุนนาค อยู่งานคอยถวายรับใช้ทั้ง 2 พระองค์
ถึงแม้ว่าพระมเหสีชั้นลูกหลวงอีกสามพระองค์ จะได้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสีหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปก็ตาม แต่พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวีกลับมิเคยได้ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอัครมเหสีเลยจนตลอดรัชกาลที่ 5 (เพิ่งจะได้โปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ พระอัครราชเทวี ในรัชกาลที่ 7 นี้เอง จากนั้นจึงถือว่าทรงดำรงพระยศพระอัครมเหสีพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5 ด้วย แต่การสถาปนาก็กระทำขึ้นเมื่อเวลาได้ล่วงไปแล้วถึง 2 แผ่นดิน) พระฐานะอยู่ในลำดับกลาง ๆ เสมอมา ซึ่งอาจเพราะเหตุนี้ ถึงกับได้มีพระดำรัสว่า "แม่นี้เป็นมนุษย์ที่อาภัพ" (จากพระราชหัตถเลขาพระราชทานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต) แม้แต่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ยังทรงพระนิพนธ์ไว้ในเรื่อง เจ้าชีวิต ถึงสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีว่า
"ในรัชกาลที่ 5 ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระนางเจ้าฯ พระราชเทวีอยู่ตลอดรัชกาล โดยเหตุผลอันใดผู้เขียนไม่เคยได้ทราบ มีพระราชโอรส-ธิดาประสูติ 2 พระองค์ การที่ท่านไม่ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จฯ นั้นเป็นของแปลก เพราะพระเจ้าอยู่หัวโปรดรักใคร่ไว้วางพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง"
หลักฐานแห่งความ โปรดรักใคร่ไว้วางพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง นั้น มีปรากฏอยู่เนือง ๆ ดังเช่น พระมเหสีพระองค์นี้ น่าจะทรงเป็น "เมีย" คนแรกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์โคลงพระราชทานให้ พระราชนิพนธ์นั้นมีว่า
สุขุมาลโดยชาติเชื้อ | เผ่าพันธุ์ | |
กายกอปรวรลักษณ์อัน | ละเอียดพร้อม | |
ไตรทวารประพฤติสรรพ์ | สิ่งชอบ ควรแฮ | |
ละเอียดครบควรนบน้อม | ท่านผู้ สุขุมาล |
เนื่องจากตามโบราณราชประเพณี พระมเหสีเทวี พระราชวงศ์ฝ่ายใน รวมถึงสนมกำนัลทั้งปวงจะประทับหรือนั่งเรือพระที่นั่งลำเดียวกับพระมหากษัตริย์มิได้ แต่ในคราวที่เสด็จประพาสบางปะอิน เมื่อพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีฯ ทรงเตรียมการเรือพระที่นั่งเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาถึงพอดี พระราชเทวีจึงจำต้องรีบเสด็จออกไป ทำให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสงสาร มีรับสั่งให้พระนางเจ้าฯ พระราชเทวีเสด็จกลับมาประทับภายในเรือพระที่นั่งองค์เดียวกัน จัดเป็นครั้งแรกที่มีพระราชวงศ์ฝ่ายในได้ประทับร่วมเรือลำเดียวกับพระมหากษัตริย์
อีกหลักฐานหนึ่งแห่งความไว้วางพระราชหฤทัย ก็คือ เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติการณ์กับประเทศฝรั่งเศส (วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรอมพระราชหฤทัยมาก ถึงกับมีพระราชประสงค์จะเสด็จสวรรคต และได้ทรงพระราชนิพนธ์ความในพระราชหฤทัยขึ้นมา และพระราชนิพนธ์นั้นได้ทรงส่งไปพระราชทานเจ้านายเพียง 2 พระองค์เท่านั้น คือ พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี และพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสนองพระราชนิพนธ์นั้น โดยพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีฯได้ทรงพระนิพนธ์โคลงสี่สุภาพถวาย โคลงนั้นมีความว่า
สรวมชีพข้าบาทผู้ | ภักดี | |
พระราชเทวีทรง | สฤษฎ์ให้ | |
สุขุมาลมารศรี | เสนอยศ นี้นา | |
ขอกราบทูลท่านไท้ | ธิราชเจ้าจอมสยาม |
ประชวรหนักอกข้า | ทั้งหลาย ยิ่งแล | |
ทุกทิวาวันบวาย | คิดแก้ | |
สิ่งใดซึ่งจักมลาย | พระโรค เร็วแฮ | |
สุดยากเท่าใดแม้ | มากม้วยควรแสวง |
หนักแรงกายเจ็บเพี้ยง | เท่าใด ก็ดี | |
ยังบหย่อนหฤทัย | สักน้อย | |
แม้พระจะด่วนไกล | ข้าบาท ปวงแฮ | |
อกจะพองหนองย้อย | ทั่วหน้าสนมนาง |
เมื่อคราวที่สมเด็จพระราชโอรสฯ เสด็จไปทรงศึกษาอยู่ ณ ต่างประเทศ พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีฯ ได้ทรงมีลายพระหัตถ์ติดต่อไปมาเสมอ มีลายพระหัตถ์ฉบับหนึ่งที่มีเนื้อความแสดงถึงความที่ทรงเป็น "แม่" อย่างสมบูรณ์อยู่ จึงขออัญเชิญ มา ณ ที่นี้ด้วย
"ในที่สุด โอวาทของแม่ฉบับนี้แม่ขอบอกแก่พ่อผู้เป็นลูกที่รักและที่หวังความสุขของแม่ให้ทราบว่า ตัวแม่นี้เป็นมนุษย์ที่อาภัพ มักจะได้รับความทุกข์อยู่เป็นเนืองนิจ แม่มิได้มีอันใดซึ่งเป็นเครื่องเจริญตาเจริญใดอันจะดับทุกข์ได้ นอกจากลูก เมื่อเวลาที่พ่อยังอยู่กับแม่แต่เล็ก ๆ มา ถึงหากว่าแม่จะมีความทุกข์มาสักเท่าใด ๆ เมื่อแม่ได้เห็นหน้าลูกแล้ว ก็อาจจะระงับดับเสียได้ด้วยความรักและความยินดีของแม่ในตัวลูก ก็ในเวลาซึ่งพ่อไปเล่าเรียนในประเทศยุโรปนี้ พ่อจงรู้เถิดว่า ข่าวความงามความดีของพ่อนั้น และจะเป็นเครื่องดับความทุกข์ของแม่ และอย่าประพฤติชั่วนอกคำสั่งสอนของแม่ จงตั้งหน้าเล่าเรียนให้ได้รับความรู้โดยเร็ว จะได้กลับมาหาแม่โดยไม่นานปี"
ในฐานะลูก พี่ และแม่
ถึงแม้ว่าจะเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง แต่พระองค์ก็ไม่เคยทรงลืมความกตัญญูต่อเจ้าคุณจอมมารดาสำลี พระมารดา แม้ว่าท่านจะเป็นสามัญชนก็ตามที พระอิสริยยศที่สูงส่งเป็นถึงพระมเหสี มิได้ทำให้ทรงขาดความเคารพต่อพระมารดาแม้แต่น้อย แม้ว่าเจ้าคุณจอมมารดาจะโมโหดุว่าอย่างไร พระองค์ก็ไม่ทรงตอบโต้ ก่อนหน้าที่จะถึงพิราลัยไม่นานนัก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้สถาปนา "เจ้าจอมมารดาสำลี ในรัชกาลที่ 4" ขึ้นเป็น "เจ้าคุณจอมมารดาสำลี" เพราะเหตุที่ เป็นขรัวยายของสมเด็จเจ้าฟ้าโดยนับเป็นครั้งแรกที่มีการพระราชทานตำแหน่ง อย่างเป็นทางการ ครั้นเจ้าคุณจอมมารดาสำลีถึงพิราลัยล่วงไป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานเกียรติยศเป็นพิเศษถึงกับให้เชิญศพตั้งในพระบรมมหาราชวังเพื่อที่พระราชเทวีจะได้มิต้องเสด็จไปไกล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นในวันพระราชทานเพลิงศพถึงกับทรงเครื่องขาว และให้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นลูกเธอในรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 รวมถึงพระราชนัดดาทรงเครื่องขาวด้วย ซึ่งต่อมาเมื่อเจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม พระชนนีในสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (พระราชอิสริยยศในขณะนั้น) ถึงแก่พิราลัย ก็มิได้พระราชทานเกียรติยศเช่นนั้น ทำให้พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีฯ ทรงวางพระองค์ลำบากไม่น้อย ทั้งพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ ซึ่งเป็นพระราชโอรสในเจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม และเป็นพระเชษฐาในสมเด็จพระอัครมเหสีทั้ง 2 พระองค์ถึงกับทรงมีลายพระหัตถ์กราบถวายบังคมทูลลาจะสิ้นพระชนม์ ส่วนสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ ก็ทรงพื้นเสีย และไม่รับสั่งกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ อยู่หลายวัน
ในฐานะพระเชษฐภคินี ทรงรักใคร่พระกนิษฐามาก มีรับสั่งย้ำกับพระราชโอรส และพระราชนัดดาเสมอว่า แม่มีลูกสองคน แต่มีน้องเพียงคนเดียว ลูกรักแม่อย่างไรก็ขอให้รักน้าอย่างนั้นด้วย ซึ่งพระราชโอรส พระราชธิดาตลอดจนพระราชนัดดาก็ได้ทรงรับสนองพระราชเสาวนีย์ด้วยดี พระราชนัดดานั้นทรงเรียกสมเด็จฯ ว่า "เสด็จย่า" และเรียกเสด็จฯ อธิบดีว่า "เสด็จย่าพระองค์เล็ก"
และในฐานะพระราชมารดาของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ ถึงสองพระองค์ คงจะไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีกว่าพระจริยวัตรของทูลกระหม่อมทั้งสองพระองค์นั้น สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร เป็นพระราชธิดา และเป็นที่สนิทสิเน่หาของพระบรมราชบิดามาก โดยเป็นพระเจ้าลูกเธอเพียงพระองค์เดียวที่ได้รับพระราชทานกรมสูงถึงกรมหลวง โดยมีพระนามกรมคือ ศรีรัตนโกสินทร ส่วนสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต นั้นก็เป็นพระราชโอรสที่โปรดปรานเช่นกัน ตรัสเรียกว่า "เจ้าฟ้านัมเบอร์ทู" พร้อมกับทรงมอบหมายพระราชกิจสำคัญให้หลายอย่าง เช่น ผู้บัญชาการกองทัพเรือ เป็นต้น ถึงขั้นหากว่าทรงขาดเฝ้าฯ ไปสักสองวัน จะมีพระบรมราชโองการว่า เจ้าชายหายไปไหนไม่เห็นมา และพระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาจะต้องรีบเสด็จออกมาตามพระองค์ไปเข้าเฝ้าฯ
พระอนุสรณ์
เขตราชเทวี
ถนนราชเทวี สี่แยกราชเทวี กรุงเทพมหานคร
พระตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี
เป็นตำหนักที่ตั้งอยู่หลังพระมหามณเฑียรตรงกับประตูสนามราชกิจ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเพื่อเป็นที่ประทับของพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร
ตำหนักนี้เป็นตำหนักก่ออิฐถือปูนสูง 2 ชั้น ทาสีชมพูลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหักข้อศอกเป็นรูปตัวอีนอนหงาย ( E ) ภายในขอบรูปตัวอีด้านทิศตะวันตกเป็นลานโล่งขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เหมือนลานกลางของตำหนักหลังอื่น ๆ มีทางเข้าอยู่ทางด้านทิศเหนือทำเป็นมุขมีหลังคาคลุมอัฒจรรย์ทางขึ้น มีทางเข้ารองอยู่ด้านทิศตะวันออก ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกประเทศอิตาลีตอนใต้ หลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบี้องซีเมนต์ ฝาผนังแต่งด้วยการฉาบปูนแต่งผิวมีลักษณะเหมือนอาคารที่ก่อด้วยหินรูปสี่เหลี่ยมแท่งใหญ่ เน้นตามของและมุมของตำหนักทุกด้าน
สุขุมาลนฤมิตร์
ตั้งอยู่ที่สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสองเป็นฐาน และมีซุ้มทิศเหมือนจัตุรมุข แต่ยาวไม่เท่ากัน ตอนบนเป็นสถูปบุด้วยโมเสคสีทอง ประตูและหน้าต่างเป็นบานไม้ปิดทองฝังลายกระจกสี ภายในบรรจุพระราชสรีรางคารของพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี (สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี) พระประยูรญาติ และพระราชโอรสธิดา รวมทั้งสมาชิกสาย
อาคารสุขุมาลมารศรี
ตั้งอยู่ที่ โรงพยาบาลสระบุรี ถนนเทศบาล 4 ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เป็นอาคารหอผู้ป่วยพิเศษเดี่ยว มี 4 ชั้น ได้มีการเปิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2523พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศิริรัตนบุษบง ผู้เป็นพระนัดดา ประทานเงิน 5 ล้านบาท ให้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์แด่พระอัยยิกา
พระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี | |
---|---|
ธงประจำพระอิสริยยศ | |
ตราประจำพระองค์ | |
การทูล | ใต้ฝ่าละอองพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ |
พระอิสริยยศ
- 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2404 - 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 : พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี
- 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 - 15 กันยายน พ.ศ. 2420 : พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี
- 15 กันยายน พ.ศ. 2420 - 30 มิถุนายน พ.ศ. 2424 : พระนางเธอ พระองค์เจ้าสุขุมาลมารศรี
- 30 มิถุนายน พ.ศ. 2424 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2468 : พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี
- 21 มีนาคม พ.ศ. 2468 - 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 : สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พระองค์ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังต่อไปนี้
- พ.ศ. 2425 – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2447 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ (น.ร.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2436 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายใน)
- พ.ศ. 2447 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 2 (ม.ป.ร.2)
- พ.ศ. 2444 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 1 (จ.ป.ร.1)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1 (ว.ป.ร.1)
- พ.ศ. 2469 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 1 (ป.ป.ร.1)
พงศาวลี
พงศาวลีของสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
หมายเหตุ
- พระนามที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ทรงเขียนว่า "สุขุมาลมารศรี" แต่ส่วนพระองค์สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ เองทรงลงพระนามาภิไธยของพระองค์ว่า "สุขุมาลย์มารศรี"
- เพราะสมเด็จเจ้าฟ้าชาย พระราชกุมารซึ่งประสูติแต่พระองค์เจ้าทักษิณชาฯ ในปี 2415 นั้นสิ้นพระชนม์แต่แรกประสูติ พระองค์เจ้าทักษิณชาฯ พระชนนีทรงได้รับความกระทบกระเทือนพระทัยอย่างใหญ่หลวงจนเสียพระสติวิปลาสไป
- เพราะเดิมมานั้นเจ้าคุณชาย เจ้าคุณหญิง ใช้เรียกหมายถึงบุตรและบุตรีในพระกนิษฐาของสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 1 เจ้าคุณชาย เจ้าคุณหญิงเหล่านี้เป็นต้นสกุลบางช้าง แต่มิได้เป็นยศศักดิ์จริงๆ ใช้เพียงแต่เป็นการเรียกเท่านั้น
- เจ้าจอมมารดาในรัชกาลที่ 4 ซึ่งได้เป็นเจ้าคุณจอมมารดาอีกท่านหนึ่งคือสมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา
- พระบรมวงศ์ที่เป็นน้อง และลูกทรงกรมได้ถึงชั้นกรมหลวง แต่โดยมากแล้ว กรมหลวงมักพระราชทานให้กับพระเจ้าน้องยาเธอ น้องนางเธอเท่านั้น โดยสมเด็จพระเจ้าลูก(ยา)เธอ เจ้าฟ้า รับพระราชทานที่กรมขุน และพระเจ้าลูก(ยา)เธอ พระองค์เจ้า รับพระราชทานที่กรมหมื่น
- (อ่านว่า สี-รัด-ตะ-นะ-โก-สิน-ทอน เพื่อให้คล้องกับนครสวรรค์วรพินิต)
- เจ้าฟ้านัมเบอร์วันหมายถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว อ้างจาก ราม วชิราวุธ ประวัติต้นรัชกาลที่ 6
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ไกรฤกษ์ นานา, ปิยมหาราชานุสรณ์ ประวัติศาสตร์ที่ไม่ถูกบันทึก, นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับปีที่ 29 ฉบับที่ 6 เมษายน 2551 หน้า1 06-125
- Remlap, L.T. Gen. Grant's Tour Around The World. Chicago : Fairbank, 1879.
- สำนักพระราชวัง, พระราชวังบางปะอิน, พิมพ์ครั้งที่ 1, พ.ศ. 2548
- เก็บความจากหนังสือ ในวังแก้ว พระประวัติตรัสเล่าของหม่อมเจ้าหญิงมารยาตรกัญญา ดิศกุลฯ
- ราชกิจจานุเบกษา, บรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาพระอิสริยศเฉลิมพระอภิไธยและเลื่อนกรมพระราชวงศ์, เล่ม 42, ตอน 0ก, วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2468, หน้า 372
- พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน. ๒๕๓๘. เรื่องเฉลิมพระยศเจ้านายะบับมีพระรูป. 923.1 พ326ร : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
- แสงเทียน ศรัทธาไทย, สามราชินีคู่บัลลังก์ ร.๕, สำนักพิมพ์ร่มฟ้าสยาม, 2539
- ส.พลายน้อย. ม.ป.ป. พระบรมราชินีนาถและเจ้าจอมมารดา. กรุงเทพฯ : รวมสาส์น.
- ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวสิ้นพระชนม์ 2009-02-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 44, ตอน ง, 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2470, หน้า 1198
- "หมายกำหนดการ ที่ ๓ พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ณ พระเมรุท้องสนามหลวง พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๑" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 45 (0 ง): 444. 13 พฤษภาคม 2471. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "เปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการ ที่ ๓/๒ พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ณ พระเมรุท้องสนามหลวง พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๑" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 45 (0 ง): 529. 20 พฤษภาคม 2471. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "เปลี่ยนแปลงหมายกำหนดการ ที่ ๓/๓ พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ณ พระเมรุท้องสนามหลวง พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๑" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 45 (0 ง): 531. 20 พฤษภาคม 2471. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2561.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ. ย้อยรอยเจ้าจอมก๊กออ ในรัชกาลที่ 5
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์, พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕ 2009-09-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สกุลไทย, ฉบับที่ 2443, ปีที่ 47, วันที่ 14 สิงหาคม 2544
- จุลจักรพงศ์, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า.เจ้าชีวิต สยามก่อนยุคประชาธิปไตย, ดวงกลมสมัย.2536 (หน้า203)
- เกร็ดกระทู้ – ตอน โคลงกลอนพระราชทานของรัชกาลที่ 5 แด่ “เมียรัก” #2
- เกร็ดกระทู้ – ตอน โคลงกลอนพระราชทานของรัชกาลที่ 5 แด่ “เมียรัก” #3
- ศึกษาธิการ, กระทรวง.ท 606 วรรณลักษณวิจารณ์ 2, ขัติยพันธกรณี
- พระราชประวัติส่วนพระองค์ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เล่ม ๑ กรุงเทพ : องค์การค้าคุรุสภา.
- ทั้งหมดเก็บความจากหนังสือ ในวังแก้ว พระประวัติตรัสเล่าหม่อมเจ้าหญิงมารยาตรกัญญา ดิศกุล
- จุไรรัตนศิริมาน, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า. พระประวัติจอมพล จอมพลเรือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต
- เฉลิมพระเกียรติ 100 ปี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต
- การบริการห้องพิเศษ อาคารสุขุมาลมารศรี 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. จากเว็บไซต์โรงพยาบาลสระบุรี. สืบค้นเมื่อ 21-01-57
- หนังสือที่ระลึกพิธีเปิดตึกสุขุมาลมารศรี 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. จากเว็บไซต์ khunmaebook.tarad.com [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 21-01-57
- (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 21 (ตอน 32): หน้า 570. 6 พฤศจิกายน 2447. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-10-02. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 10 (ตอน 35): หน้า 375. 26 พฤศจิกายน 2436. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 18 (ตอน 46): หน้า 874. 16 กุมภาพันธ์ 2444. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 43 (ตอน 0 ง): หน้า 3114. 26 พฤศจิกายน 2469. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 23 มิถุนายน 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
- บรรณานุกรม
- จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 508 หน้า. ISBN
- สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์. มหามกุฎราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรสธิดา พระราชนัดดา. กรุงเทพ : อมรินทร์พริ้นติ้ง, พ.ศ. 2547. ISBN
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 69. ISBN
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi 10 phvsphakhm ph s 2404 9 krkdakhm ph s 2470 hruxthichawwngsmy r 5 r 6 xxkphranamwa esdcphranang epnphramehsichnlukhlwngtaaehnng phranangeca phrarachethwi inphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw dwyepnphrarachthidainphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwprasutiaetecakhuncxmmardasali phrasnmexksmedcphrapitucchaeca sukhumalmarsriphraxkhrrachethwiphrarachethwidarngphrays30 mithunayn ph s 2424 23 tulakhm ph s 2453prasuti10 phvsphakhm ph s 2404 phrabrmmharachwng krungethphphramhankhr xanackrsyamsinphrachnm9 krkdakhm ph s 2470 66 pi wngbangkhunphrhm cnghwdphrankhr xanackrsyamphraswamiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwphrabutrsmedcphraecabrmwngsethx ecafasuththathiphyrtn krmhlwngsrirtnoksinthrsmedcphraecabrmwngsethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinitrachwngsckriphrabidaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwphramardaecakhuncxmmardasali inrchkalthi 4sasnaphuththlayphraxphiithy phraxngkhepnphramardainsmedcphraecabrmwngsethx ecafasuththathiphyrtn krmhlwngsrirtnoksinthr sungthrngepnecafachnexk chnthulkrahmxm inphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phraxngkhaerkthimiphrachnm aelasmedcphraecabrmwngsethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinit inrchsmyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw thrngidrbechlimphranamepnsmedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi chawwngcungxxkphranamwasmedcphrapitucchaeca nbaetnn phayhlng smedcsinphrachnmemuxwnesar eduxn 8 khun 11 kha piethaa nphsk c s 1289 9 krkdakhm ph s 2470 n tahnksmedc wngbangkhunphrhm phrachnmayu 66 phrrsaphraprawtiprasuti smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi epnphraecalukethxphraxngkhthi 52 inphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw aelaepnladbthi 4 sungprasutiaetecakhuncxmmardasali phrasnmexk skuledim bunnakh emuxwnsukr eduxn 7 khun 1 kha pirakatrisk c s 1223 trngkbwnthi 10 phvsphakhm ph s 2404 thrngrwmecacxmmardakbphraecabrmwngsethx phraxngkhecabusbngebikban aelaphraecabrmwngsethx krmhlwngthiphyrtnkiritkulini emuxaerkprasutiinthanaphrarachthidathiprasuticakecacxmmarda cungthrngdarngphraxisriyysepn phraecalukethx phraxngkhecasukhumalmarsri phrabidathrngphrarachniphnthphrakhathaphrarachthanphranamepnphasabalisungsmedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs idthrngphraniphnthaepliwwa thidakhxngerathibngekidaetsalini cngpraktodynamwa sukhumalmarsri cngthrngnamnniw mikhwamsukhesmx xnung cngmngkhngmithrphymak mibriwarngdngam immiorkh imlabak ecriyodyladb cngidsungthiphungxnbriburndwykalngepnthitxngic phraxngkhepnphrarachthidarunklangechnediywknkb phraecalukethx phraxngkhecasunnthakumarirtn sungtxma idthrngrbrachkarfayinepnphramehsiin phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw dwykn phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwesdcswrrkhtemuxwnthi 1 tulakhm ph s 2411 smedcphraecalukyaethx ecafaculalngkrn krmkhunphinitprachanarth phrarachoxrsphraxngkhihy esdckhunethlingthwlyrachsmbtisubma phraxngkhecasukhumalmarsri inthanaphrakhnisthphkhini thrngepliynphrathanacak phraecalukethx epn phraecanxngnangethx phraxngkhecasukhumalmarsri phrarachethwiinrchkalthi 5 caksay phraxngkhecanphaphrprapha phraxngkhecapradisthasari ecafasuththathiphyrtn phraxngkhecabusbnbwphn phraxngkhecaphwngsrxysxangkh aelasmedcphrapitucchaecasukhumalmarsri emuxmiphrachnmayuidpraman 15 phrrsa cakhlkthanthipraktphraxngkhthrngepnecanaychnlukhlwngphraxngkhthisxngthiidthwaytwepnphramehsi inphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw aelaphayhlngphraxngkhecasukhumalmarsrimiphraprasutikarphraecalukethx ecafahying inpi 2420 sungthrngepnecafachnexk chnthulkrahmxm phraxngkhaerkthimiphrachnm phraxngkhcungidrbphramhakrunaoprdeklasthapnaepn phranangethx phraxngkhecasukhumalmarsri thrngrbphrarachthanekhruxngxisriyysrachupophkhlngyarachawdi nbwaepnphramehsiphraxngkhaerkthimikarechlimphranamaelaphraxisriyysxyangepnthangkarinrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw hlngcakphraxngkhmiphraprasutikarphraecalukyaethx ecafabriphtrsukhumphnthu phraxngkhthrngidrbkareluxnphraysepn phranangecasukhumalmarsri phrarachethwi odymiphrabrmrachoxngkarihaeplphranamaphiithyepnphasaxngkvswa Her Royal Highness the Princess Consort hruxbangkhrngthrngich Her Royal Highness Phra Nang Chao Phra Raj Dhevi aelathrngdarngthanndrskdinicnsinrchkalodyphraxngkhmiphrathanaepnphramehsiladbsam rxngcaksmedcphranangecaesawphaphxngsri phrabrmrachininath aelasmedcphranangecaswangwthna phrabrmrachethwi phrapitucchainrchkalthi 6 aelasmedcphrapitucchaecainrchkalthi 7 phrarupthrngchayemuxthrngphraeyaw emuxphldaephndin phranangecasukhumalmarsrikthrngosksldechnediywknkbkbphramehsiethwiphraxngkhxun inphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw aelaplikphraxngkhxxkcakphrabrmmharachwngmanbtngaetnn odyphraxngkhphrxmdwysmedcphraecaphinangethx ecafasuththathiphyrtn sukhumkhttiyklyawdi krmhlwngsrirtnoksinthr idesdcxxkmaprathbthiwngbangkhunphrhmsungrchkalthi 5 phrarachthanihepnwngthiprathbkhxngphrarachoxrs khux smedcphraecanxngyaethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinit aetenuxngcakthrngepnecanayfayinthidarngphraxisriyyssung phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwcungthrngphrakrunaoprdekla ihkrmokhln aelakrmwngcdkhnswnhnungmaptibtithwaykarrbichxyuthiwngnn esmuxnhnungyngkhngprathbxyuinphrabrmmharachwngthukprakar aelasmedcecafasuththathiphyrtn krmhlwngsrirtnoksinthr phrarachthidaphraxngkhediywnnidsinphrachnminrchkalthi 6 niexng phraecabrmwngsethx krmhlwngthiphyrtnkiritkulini sungthrngepn esdcxthibdi warachkarxyuinphrabrmmharachwngkidesdcxxkmaprathbyngwngbangkhunphrhmephuxplxboynphrarachhvthyphraphinang inkhrngnndwy phraxkhrmehsiinrchkalthi 5sunnthakumarirtnswangwthnaesawphaphxngsri nxkcakniphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw yngmiphrabrmrachoxngkarihaeplphranamaphiithyepnphasaxngkvswa Her Majesty Queen Sukumalmarsri Royal Consort of His Majesty King Chulalongkorn thngni miidmiphrabrmrachoxngkarepliynaeplngphraxisriyysinthangrachkaraetxyangid cungyngthrngdarngphraysepnphranangeca phrarachethwicntlxdrchkalthi 6 miekrdelaknwa smedcphrasriphchrinthrabrmrachininath phrabrmrachchnniphnpihlwnginrchkalthi 6 aela 7 nn enuxngcakepnsmedcphraxkhrmehsimaaetrchkalkxn thrngkhrxngphraxisriyyssungsudehnuxbrrdaphramehsithngpwng prakxbkbthrngepn nxngelk makxncungkhxnkhangaetcathrngexaphrarachhvthyphraxngkhexng aetsmedcphramatucchaecaswangwthna phrabrmrachethwisungthrngkhrxngphrarachxisriyyssmedcphraxkhrmehsimaaetedim aelaphranangecasukhumalmarsri phrarachethwi thng 2 phraxngkhnninthanaphraechsthphkhini smedcphramatucchaeca phrabrmrachethwinn epnphraosthrechsthphkhini khuxthrngrwmphrarachbida mardaediywknkbsmedcphraphnpihlwng swnphranangeca phrarachethwinn epnphraechsthphkhinirwmphrarachbida aettangphramardaknkbsmedcphraphnpihlwng kthrngprathanxphyihesmx inplayrchkalthi 6 kxnthismedcphrasriphchrinthra caesdcswrrkhtimnannn smedcphraechsthphkhinithng 2 phraxngkhkidesdcipeyiymphraxakarprachwrsmedcphraphnpihlwng n phrarachwngphyaith xnepnphrarachsankkhxngsmedcphraphnpihlwngtngaetsinrchkalthi 5 cnkrathngesdcswrrkht smedcphraphnpihlwngnnthungkbthrnglngipkrabthwaybngkhmaethbebuxngphrabathsmedcphraechsthphkhinithng 2 phraxngkh khxphrarachthanxphyoths aelw 3 phraxngkhphinxngkthrngkxdknthrngphraknaesng cnnangphrakanlnangsnxngphraoxsththixyuaethwnntxngrxngihtam knip inrchsmykhxngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phranangecasukhumalmarsri phrarachethwi khunepn smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi aelaidthrngphrakrunaoprdekla ihaeplphranamaphiithykhxngthng 2 phraxngkhepnphasaxngkvswa Her Majesty the Queen Aunt tngaetnnepntnma smedcphrapitucchaecasukhumalmarsri phraxkhrrachethwi cungmiphraxisriyskdiepnladbsxngkhxngphraphrryaecainrchkalthi 5 ephraakhnannsmedcphrasriphchrinthrabrmrachininath aelasmedcphranangecasunnthakumarirtn phrabrmrachethwi smedcphraxkhrmehsithng 2 phraxngkh idswrrkhtaelasinphrachnmipaelw inrchkalthi 8 inrchsmy phrabathsmedcphrapremnthrmhaxannthmhidl phraxthmramathibdinthr khnaphusaercrachkarinphraprmaphiithymiphrabrmrachoxngkarihsthapna smedcphraecaphinangethx ecafawilyxlngkrn krmhlwngephchrburirachsirinthr khunepnsmedcphrarachpituccha ecafawilyxlngkrn krmhlwngephchrburirachsirinthr aelasmedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri inrchkalthi 7 miidepnsmedcphrapituccha inrchkalthi 8 xik dngnn ephuxpxngknkhwamsbsncungmiprakasihxxkphranamaphiithywa smedcphranangecasukhumalmarsri phraxkhrrachethwi thngniprakasnimiichphrabrmrachoxngkar aelamiichphrarachdarikhxngphrabathsmedcphraecaxyuhwxannthmhidl inhnngsux culalngkrnrachsnttiwngs phrabrmrachwngsaehngpraethsithy ecfriy ifnsotn rabuiwwa phrabathsmedcphraecaxyuhwxannthmhidl thrngsthapnaphranangeca phraxngkhniepn smedcphranangecasukhumalmarsri phraxkhrrachethwi hakaetinhnngsux mhamngkudbrmrachsnttiwngs phraniphnthsmedcphraecaphinangethx ecafaklyaniwthna krmhlwngnrathiwasrachnkhrinthr thrngwinicchywa phraxisriyyssudthay khux smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi dngnn ephuxmiihekidkhwamsbsnthangprawtisastr odyphraxngkhthanthrngepn phranangecasukhumalmarsri phrarachethwi inrchkalthi 5 thrngdarngphraysnimatlxdrchkalthi 5 aelarchkalthi 6 smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi inrchkalthi 7 aetkhwrxxkphranamwa smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi enuxngcakepnphraxisriyyssudthaytamphrabrmrachoxngkar aelasungkwaphraxisriyysedim dngechnthi ihxxkphranam ecafackrphngsphuwnathwa smedcphraxnuchathirach ecafackrphngsphuwnath krmhlwngphisnuolkprachanath sinphrachnm ehriyythiraluk kxnthicasinphrachnmpramansibwn smedc idthrngphrarachniphnthphrakhathaphrarachthanphraphrihaekkrmphrayadarngrachanuphaph enuxnginoxkaswnkhlaywnprasuti khwamtxnhnungwa imnaechuxwacamichiwitxyucnidthwayphraphrethxinpini smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwisinphrachnmdwyphraorkhphrapbphasaphikarinrchkalthi 7 emuxwnesar eduxn 8 khun 11 kha piethaanphsk c s 1289 9 krkdakhm ph s 2470 n tahnksmedc wngbangkhunphrhm phrachnmayu 66 phrrsa smedcphraecaphiyaethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinit aelaphraecabrmwngsethx krmhlwngthiphyrtnkiritkulini phrxmdwyphrandda aelaphranddathrngeliyng thrnghmxbefa xyukhangphrathi phrasphxyechiykhunpradisthanbnphrathinngdusitmhaprasath phrabrmmharachwng phrarachthanphraekiyrtiysthwayiwxaly 100 wnepnkrniphiess phraemru nnsmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs thrngepnphuxanwykarsrang smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph thrngeriyberiynghnngsux samkk aeckepnkhxngthiraluk aelaphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs thrngphraniphnthokhlngthwayhnaphrasphthukstmwar nganphrarachthanephlingphrasphcdkhuninwnthi 17 phvsphakhm ph s 2471 phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwaelasmedcphranangecaraiphphrrni phrabrmrachini esdcphrarachdaeninthrngepnprathan n phraemru thxngsnamhlwngphrakrniykicphranangecasukhumalmarsri phrarachethwi thrngwarachkaraephnknmskar aelayngthrngrbrachkarepnrachelkhanukariniswnphraxngkhinphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwxikdwy elaknwa enuxngcakphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmkthrngnganxyucnduk phranangecasukhumalmarsri kmkcaprathbxyu n thiaehngnndwy thrnghmxbekhiynphrabrmrachoxngkartamrbsngxyucnrungecha ikl knnnmiecacxmkkxx sungepnphrayatiinrachnikulbunnakh xyungankhxythwayrbichthng 2 phraxngkh thungaemwaphramehsichnlukhlwngxiksamphraxngkh caiddarngtaaehnngsmedcphraxkhrmehsihmunewiynepliynknipktam aetphranangecasukhumalmarsri phrarachethwiklbmiekhyiddarngphraxisriyysepnsmedcphraxkhrmehsielycntlxdrchkalthi 5 ephingcaidoprdekla sthapnakhunepnsmedcphrapitucchaeca phraxkhrrachethwi inrchkalthi 7 niexng caknncungthuxwathrngdarngphraysphraxkhrmehsiphraxngkhhnunginrchkalthi 5 dwy aetkarsthapnakkrathakhunemuxewlaidlwngipaelwthung 2 aephndin phrathanaxyuinladbklang esmxma sungxacephraaehtuni thungkbidmiphradarswa aemniepnmnusythixaphph cakphrarachhtthelkhaphrarachthansmedcphraecabrmwngsethx ecafabriphtrsukhumphnthu krmphrankhrswrrkhwrphinit aemaetphraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs yngthrngphraniphnthiwineruxng ecachiwit thungsmedcphranangecasukhumalmarsriwa inrchkalthi 5 thrngdarngphraxisriyysepnphranangeca phrarachethwixyutlxdrchkal odyehtuphlxnidphuekhiynimekhyidthrab miphrarachoxrs thidaprasuti 2 phraxngkh karthithanimidrbsthapnaepnsmedc nnepnkhxngaeplk ephraaphraecaxyuhwoprdrkikhriwwangphrarachhvthyxyangying hlkthanaehngkhwam oprdrkikhriwwangphrarachhvthyxyangying nn mipraktxyuenuxng dngechn phramehsiphraxngkhni nacathrngepn emiy khnaerkthiphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngphrarachniphnthokhlngphrarachthanih phrarachniphnthnnmiwa sukhumalodychatiechux ephaphnthukaykxprwrlksnxn laexiydphrxmitrthwarpraphvtisrrph singchxb khwraehlaexiydkhrbkhwrnbnxm thanphu sukhumal enuxngcaktamobranrachpraephni phramehsiethwi phrarachwngsfayin rwmthungsnmkanlthngpwngcaprathbhruxnngeruxphrathinnglaediywkbphramhakstriymiid aetinkhrawthiesdcpraphasbangpaxin emuxphranangecasukhumalmarsri thrngetriymkareruxphrathinngesrcaelw phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwesdcphrarachdaeninmathungphxdi phrarachethwicungcatxngribesdcxxkip thaihphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwthrngsngsar mirbsngihphranangeca phrarachethwiesdcklbmaprathbphayineruxphrathinngxngkhediywkn cdepnkhrngaerkthimiphrarachwngsfayinidprathbrwmeruxlaediywkbphramhakstriy xikhlkthanhnungaehngkhwamiwwangphrarachhvthy kkhux emuxekidehtukarnwikvtikarnkbpraethsfrngess wikvtikarn r s 112 phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw thrngtrxmphrarachhvthymak thungkbmiphrarachprasngkhcaesdcswrrkht aelaidthrngphrarachniphnthkhwaminphrarachhvthykhunma aelaphrarachniphnthnnidthrngsngipphrarachthanecanayephiyng 2 phraxngkhethann khux phranangecasukhumalmarsri phrarachethwi aelaphraecanxngyaethx krmhlwngdarngrachanuphaph sungthng 2 phraxngkhkidthulekla thwaysnxngphrarachniphnthnn odyphranangecasukhumalmarsriidthrngphraniphnthokhlngsisuphaphthway okhlngnnmikhwamwa srwmchiphkhabathphu phkdiphrarachethwithrng svsdihsukhumalmarsri esnxys ninakhxkrabthulthanith thirachecacxmsyamprachwrhnkxkkha thnghlay yingaelthukthiwawnbway khidaeksingidsungckmlay phraorkh erwaehsudyakethaidaem makmwykhwraeswnghnkaerngkayecbephiyng ethaid kdiyngbhyxnhvthy sknxyaemphracadwnikl khabath pwngaehxkcaphxnghnxngyxy thwhnasnmnang emuxkhrawthismedcphrarachoxrs esdcipthrngsuksaxyu n tangpraeths phranangecasukhumalmarsri idthrngmilayphrahtthtidtxipmaesmx milayphrahtthchbbhnungthimienuxkhwamaesdngthungkhwamthithrngepn aem xyangsmburnxyu cungkhxxyechiy ma n thinidwy inthisud oxwathkhxngaemchbbniaemkhxbxkaekphxphuepnlukthirkaelathihwngkhwamsukhkhxngaemihthrabwa twaemniepnmnusythixaphph mkcaidrbkhwamthukkhxyuepnenuxngnic aemmiidmixnidsungepnekhruxngecriytaecriyidxncadbthukkhid nxkcakluk emuxewlathiphxyngxyukbaemaetelk ma thunghakwaaemcamikhwamthukkhmaskethaid emuxaemidehnhnalukaelw kxaccarangbdbesiyiddwykhwamrkaelakhwamyindikhxngaemintwluk kinewlasungphxipelaeriyninpraethsyuorpni phxcngruethidwa khawkhwamngamkhwamdikhxngphxnn aelacaepnekhruxngdbkhwamthukkhkhxngaem aelaxyapraphvtichwnxkkhasngsxnkhxngaem cngtnghnaelaeriynihidrbkhwamruodyerw caidklbmahaaemodyimnanpi inthanaluk phi aelaaemsmedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi prathbkhwa thrngchayphrxmkbecakhuncxmmardasali phramarda nngklang smedcphraecabrmwngsethx ecafasuththathiphyrtn krmhlwngsrirtnoksinthr phrarachthida prathbsay aelaphraecabrmwngsethx krmhlwngthiphyrtnkiritkulini phraosthrknisthphkhini thrngyun thungaemwacaepnphrabrmwngsanuwngschnsung aetphraxngkhkimekhythrnglumkhwamktyyutxecakhuncxmmardasali phramarda aemwathancaepnsamychnktamthi phraxisriyysthisungsngepnthungphramehsi miidthaihthrngkhadkhwamekharphtxphramardaaemaetnxy aemwaecakhuncxmmardacaomohduwaxyangir phraxngkhkimthrngtxbot kxnhnathicathungphiralyimnannk phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwmiphrabrmrachoxngkarihsthapna ecacxmmardasali inrchkalthi 4 khunepn ecakhuncxmmardasali ephraaehtuthi epnkhrwyaykhxngsmedcecafaodynbepnkhrngaerkthimikarphrarachthantaaehnng xyangepnthangkar khrnecakhuncxmmardasalithungphiralylwngip phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwphrarachthanekiyrtiysepnphiessthungkbihechiysphtnginphrabrmmharachwngephuxthiphrarachethwicaidmitxngesdcipikl phrabathsmedcphraecaxyuhwnninwnphrarachthanephlingsphthungkbthrngekhruxngkhaw aelaihphrabrmwngsanuwngschnlukethxinrchkalthi 4 aelarchkalthi 5 rwmthungphrarachnddathrngekhruxngkhawdwy sungtxmaemuxecakhuncxmmardaepiym phrachnniinsmedcphranangecaesawphaphxngsri phrabrmrachininath aelasmedcphranangecaswangwthna phrabrmrachethwi phrarachxisriyysinkhnann thungaekphiraly kmiidphrarachthanekiyrtiysechnnn thaihphranangecasukhumalmarsri thrngwangphraxngkhlabakimnxy thngphraecanxngyaethx krmhlwngethwawngsworpkar sungepnphrarachoxrsinecakhuncxmmardaepiym aelaepnphraechsthainsmedcphraxkhrmehsithng 2 phraxngkhthungkbthrngmilayphrahtthkrabthwaybngkhmthullacasinphrachnm swnsmedcphranangecaesawphaphxngsri kthrngphunesiy aelaimrbsngkbphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw xyuhlaywn inthanaphraechsthphkhini thrngrkikhrphraknisthamak mirbsngyakbphrarachoxrs aelaphrarachnddaesmxwa aemmiluksxngkhn aetminxngephiyngkhnediyw lukrkaemxyangirkkhxihrknaxyangnndwy sungphrarachoxrs phrarachthidatlxdcnphrarachnddakidthrngrbsnxngphrarachesawniydwydi phrarachnddannthrngeriyksmedc wa esdcya aelaeriykesdc xthibdiwa esdcyaphraxngkhelk aelainthanaphrarachmardakhxngsmedcecafa thungsxngphraxngkh khngcaimmisingidthicaepnekhruxngphisucniddikwaphracriywtrkhxngthulkrahmxmthngsxngphraxngkhnn smedcecafa krmhlwngsrirtnoksinthr epnphrarachthida aelaepnthisnithsienhakhxngphrabrmrachbidamak odyepnphraecalukethxephiyngphraxngkhediywthiidrbphrarachthankrmsungthungkrmhlwng odymiphranamkrmkhux srirtnoksinthr swnsmedcecafa krmphrankhrswrrkhwrphinit nnkepnphrarachoxrsthioprdpranechnkn trseriykwa ecafanmebxrthu phrxmkbthrngmxbhmayphrarachkicsakhyihhlayxyang echn phubychakarkxngthpherux epntn thungkhnhakwathrngkhadefa ipsksxngwn camiphrabrmrachoxngkarwa ecachayhayipihnimehnma aelaphraecanxngnangethx phraxngkhecaxrithyethphkyyacatxngribesdcxxkmatamphraxngkhipekhaefaphraxnusrnekhtrachethwi thnnrachethwi siaeykrachethwi krungethphmhankhr phratahnksmedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi phratahnksmedcphranangecasukhumalmarsri phraxkhrrachethwi epntahnkthitngxyuhlngphramhamnethiyrtrngkbpratusnamrachkic phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw oprdekla ihsrangephuxepnthiprathbkhxngphranangecasukhumalmarsri phrarachethwi aela smedcphraecalukethx ecafasuththathiphyrtn krmhlwngsrirtnoksinthr tahnkniepntahnkkxxiththuxpunsung 2 chn thasichmphulksnaepnrupsiehliymphunphahkkhxsxkepnruptwxinxnhngay E phayinkhxbruptwxidanthistawntkepnlanolngkhnadihy thahnathiehmuxnlanklangkhxngtahnkhlngxun mithangekhaxyuthangdanthisehnuxthaepnmukhmihlngkhakhlumxthcrrythangkhun mithangekharxngxyudanthistawnxxk lksnaepnsthaptykrrmaebbtawntkpraethsxitalitxnit hlngkhathrngpnhyamungdwykraebixngsiemnt faphnngaetngdwykarchabpunaetngphiwmilksnaehmuxnxakharthikxdwyhinrupsiehliymaethngihy enntamkhxngaelamumkhxngtahnkthukdan sukhumalnvmitr tngxyuthisusanhlwng wdrachbphithsthitmhasimaramrachwrwihar epnxakharthrngsiehliym yxmumimsibsxngepnthan aelamisumthisehmuxncturmukh aetyawimethakn txnbnepnsthupbudwyomeskhsithxng pratuaelahnatangepnbanimpidthxngfnglaykracksi phayinbrrcuphrarachsrirangkharkhxngphranangecasukhumalmarsri phrarachethwi smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi phraprayuryati aelaphrarachoxrsthida rwmthngsmachiksayrachskulbriphtr xakharsukhumalmarsri tngxyuthi orngphyabalsraburi thnnethsbal 4 tablpakephriyw xaephxemuxngsraburi cnghwdsraburi epnxakharhxphupwyphiessediyw mi 4 chn idmikarepidemuxwnthi 6 minakhm ph s 2523phraecawrwngsethx phraxngkhecasirirtnbusbng phuepnphrandda prathanengin 5 lanbath ihsrangkhunepnxnusrnaedphraxyyikaphraekiyrtiysthrrmeniymphrayskhxng smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwithngpracaphraxisriyystrapracaphraxngkhkarthulitfalaxxngphrabathkaraethntnkhaphraphuththecakarkhanrbphraphuththecakha ephkhaphraxisriyys 10 phvsphakhm ph s 2404 11 phvscikayn ph s 2411 phraecalukethx phraxngkhecasukhumalmarsri 11 phvscikayn ph s 2411 15 knyayn ph s 2420 phraecanxngnangethx phraxngkhecasukhumalmarsri 15 knyayn ph s 2420 30 mithunayn ph s 2424 phranangethx phraxngkhecasukhumalmarsri 30 mithunayn ph s 2424 21 minakhm ph s 2468 phranangecasukhumalmarsri phrarachethwi 21 minakhm ph s 2468 9 krkdakhm ph s 2470 smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwiekhruxngrachxisriyaphrn phraxngkhidrbphrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn dngtxipni ph s 2425 ekhruxngkhttiyrachxisriyaphrnxnmiekiyrtikhunrungeruxngyingmhackribrmrachwngs m c k fayin ph s 2447 ekhruxngrachxisriyaphrnxnepnobranmngkhlnphrtnrachwraphrn n r fayin ph s 2436 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnthi 1 pthmculcxmekla p c fayin ph s 2447 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 4 chnthi 2 m p r 2 ph s 2444 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 5 chnthi 1 c p r 1 ph s imprakt ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 1 w p r 1 ph s 2469 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 7 chnthi 1 p p r 1 phngsawliphngsawlikhxngsmedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi 16 22 smedcphrapthmbrmmhachnk 8 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach 17 23 phraxkhrchaya hyk 4 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 18 26 thxng n bangchang 9 smedcphraxmrinthrabrmrachini 19 27 smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari 2 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 20 esrsthicinhkekiynaestn 10 engin aestn 21 nxngsawkhxngthanphuhyingchanaybrirks nxy 5 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 22 16 smedcphrapthmbrmmhachnk 11 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 23 17 phraxkhrchaya hyk 1 smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi 24 ecaphrayamhaesna esn 12 ecaphrayaxrrkhmhaesna bunnakh 25 buysri 6 smedcecaphrayabrmmhaphiichyyati tht bunnakh 26 18 thxng n bangchang 13 ecakhunphrarachphnthunwl 27 19 smedcphrarupsiriosphakhymhanakhnari 3 ecakhuncxmmardasali inrchkalthi 4 7 khlay bunnakh hmayehtuphranamthiphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwphrarachthan thrngekhiynwa sukhumalmarsri aetswnphraxngkhsmedcphrapitucchaeca exngthrnglngphranamaphiithykhxngphraxngkhwa sukhumalymarsri ephraasmedcecafachay phrarachkumarsungprasutiaetphraxngkhecathksincha inpi 2415 nnsinphrachnmaetaerkprasuti phraxngkhecathksincha phrachnnithrngidrbkhwamkrathbkraethuxnphrathyxyangihyhlwngcnesiyphrastiwiplasip ephraaedimmannecakhunchay ecakhunhying icheriykhmaythungbutraelabutriinphraknisthakhxngsmedcphraxmrinthrabrmrachini inrchkalthi 1 ecakhunchay ecakhunhyingehlaniepntnskulbangchang aetmiidepnysskdicring ichephiyngaetepnkareriykethann ecacxmmardainrchkalthi 4 sungidepnecakhuncxmmardaxikthanhnungkhuxsmedcphrapiymawdisriphchrinthrmata phrabrmwngsthiepnnxng aelalukthrngkrmidthungchnkrmhlwng aetodymakaelw krmhlwngmkphrarachthanihkbphraecanxngyaethx nxngnangethxethann odysmedcphraecaluk ya ethx ecafa rbphrarachthanthikrmkhun aelaphraecaluk ya ethx phraxngkheca rbphrarachthanthikrmhmun xanwa si rd ta na ok sin thxn ephuxihkhlxngkbnkhrswrrkhwrphinit ecafanmebxrwnhmaythungphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw xangcak ram wchirawuth prawtitnrchkalthi 6xangxingechingxrrthikrvks nana piymharachanusrn prawtisastrthiimthukbnthuk nitysarsilpwthnthrrm chbbpithi 29 chbbthi 6 emsayn 2551 hna1 06 125 Remlap L T Gen Grant s Tour Around The World Chicago Fairbank 1879 sankphrarachwng phrarachwngbangpaxin phimphkhrngthi 1 ph s 2548 ekbkhwamcakhnngsux inwngaekw phraprawtitrselakhxnghmxmecahyingmaryatrkyya diskul rachkiccanuebksa brmrachoxngkar prakas sthapnaphraxisriysechlimphraxphiithyaelaeluxnkrmphrarachwngs elm 42 txn 0k wnthi 21 minakhm ph s 2468 hna 372 phratahnkcitrldarohthan 2538 eruxngechlimphraysecanayabbmiphrarup 923 1 ph326r xmrinthrphrintingaexndphblichching aesngethiyn srththaithy samrachinikhubllngk r 5 sankphimphrmfasyam 2539 ISBN 978 974 7441 33 8 s phlaynxy m p p phrabrmrachininathaelaecacxmmarda krungethph rwmsasn rachkiccanuebksa khawsinphrachnm 2009 02 19 thi ewyaebkaemchchin elm 44 txn ng 17 krkdakhm ph s 2470 hna 1198 hmaykahndkar thi 3 phrarachthanephlingphrasph smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi n phraemruthxngsnamhlwng phvsphakhm phuththskrach 2471 PDF rachkiccanuebksa 45 0 ng 444 13 phvsphakhm 2471 subkhnemux 10 mkrakhm 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help epliynaeplnghmaykahndkar thi 3 2 phrarachthanephlingphrasph smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi n phraemruthxngsnamhlwng phvsphakhm phuththskrach 2471 PDF rachkiccanuebksa 45 0 ng 529 20 phvsphakhm 2471 subkhnemux 10 mkrakhm 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help epliynaeplnghmaykahndkar thi 3 3 phrarachthanephlingphrasph smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi n phraemruthxngsnamhlwng phvsphakhm phuththskrach 2471 PDF rachkiccanuebksa 45 0 ng 531 20 phvsphakhm 2471 subkhnemux 10 mkrakhm 2561 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help knthathiphy singhaenti yxyrxyecacxmkkxx inrchkalthi 5 cullda phkdiphuminthr phrarachthidainrchkalthi 5 2009 09 09 thi ewyaebkaemchchin skulithy chbbthi 2443 pithi 47 wnthi 14 singhakhm 2544 culckrphngs phraecawrwngsethx phraxngkheca ecachiwit syamkxnyukhprachathipity dwngklmsmy 2536 hna203 ekrdkrathu txn okhlngklxnphrarachthankhxngrchkalthi 5 aed emiyrk 2 ekrdkrathu txn okhlngklxnphrarachthankhxngrchkalthi 5 aed emiyrk 3 suksathikar krathrwng th 606 wrrnlksnwicarn 2 khtiyphnthkrni phrarachprawtiswnphraxngkh smedcphrapitucchaecasukhumalmarsri phraxkhrrachethwi elm 1 krungethph xngkhkarkhakhuruspha thnghmdekbkhwamcakhnngsux inwngaekw phraprawtitrselahmxmecahyingmaryatrkyya diskul cuirrtnsiriman phraecawrwngsethx phraxngkheca phraprawticxmphl cxmphleruxsmedcphraecabrmwngsethx ecafakrmphrankhrswrrkhwrphinit echlimphraekiyrti 100 pi smedcphraecabrmwngsethx ecafabriphtrsukhumphnth krmphrankhrswrrkhwrphinit karbrikarhxngphiess xakharsukhumalmarsri 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchin cakewbistorngphyabalsraburi subkhnemux 21 01 57 hnngsuxthiralukphithiepidtuksukhumalmarsri 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchin cakewbist khunmaebook tarad com xxniln subkhnemux 21 01 57 PDF rachkiccanuebksa elm 21 txn 32 hna 570 6 phvscikayn 2447 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2015 10 02 subkhnemux 23 mithunayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn PDF rachkiccanuebksa elm 10 txn 35 hna 375 26 phvscikayn 2436 subkhnemux 23 mithunayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help PDF rachkiccanuebksa elm 18 txn 46 hna 874 16 kumphaphnth 2444 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2015 09 27 subkhnemux 23 mithunayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help PDF rachkiccanuebksa elm 43 txn 0 ng hna 3114 26 phvscikayn 2469 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 20 subkhnemux 23 mithunayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin accessdate help brrnanukrmcdhmayehtueruxngthrngtngphrabrmwngsanuwngskrungrtnoksinthr elm 1 krungethph krmsilpakr 2545 508 hna ISBN 974 417 527 3 smedcphraecaphinangethx ecafaklyaniwthna krmhlwngnrathiwasrachnkhrinthr mhamkudrachsnttiwngs phranamphrarachoxrsthida phrarachndda krungethph xmrinthrphrinting ph s 2547 ISBN 974 272 911 5 sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr rachskulwngs krungethph sankwrrnkrrmaelaprawtisastr krmsilpakr 2554 296 hna hna 69 ISBN 978 974 417 594 6duephimrayphranamphraphrryaecaaelaphrasnminrchkalthi 5wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb smedcphrapitucchaeca sukhumalmarsri phraxkhrrachethwi