ศิลปะแองโกล-แซกซัน (อังกฤษ: Anglo-Saxon art) คือศิลปะที่สร้างขึ้นในสมัยแองโกล-แซกซันในประวัติศาสตร์อังกฤษโดยเฉพาะตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอัลเฟรดมหาราช (ค.ศ. 871-ค.ศ. 899) เมื่อมีการฟื้นฟูวัฒนธรรมของอังกฤษขึ้น หลังจากการรุกรานของไวกิงยุติลง และมาสิ้นสุดเอาเมื่อนอร์มันพิชิตอังกฤษได้ในปี ค.ศ. 1066 เมื่อศิลปะวิวัฒนาการไปเป็นศิลปะโรมาเนสก์อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนที่จะถึงรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอัลเฟรดศิลปะสมัยการโยกย้ายถิ่นฐานเป็นศิลปะที่มีรากเหง้ามาจากศิลปะที่ชาวแองโกล-แซกซันนำติดตัวมาจากแผ่นดินใหญ่ยุโรป ที่จะเห็นได้จากงานโลหะและงานเครื่องประดับอันเป็นงานฝีมืออันมีคุณภาพที่ขุดพบที่ซัททันฮู (ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7)
ศิลปะแองโกล-แซกซัน | |
---|---|
ส่วนหนึ่งของ: ศิลปะสมัยการโยกย้ายถิ่นฐาน ศิลปะสมัยกลาง | |
เข็มกลัดประดับที่ใช้บนไหล่จากคริสต์ศตวรรษที่ 7 ที่พบที่สุสานฝังศพในเรือที่ซัททันฮูในอังกฤษ | |
ประวัติศาสตร์ศิลปะ | |
ช่วงเวลา | ค.ศ. 871 จนถึง ค.ศ. 1066 |
ภูมิภาค | อังกฤษ |
เกี่ยวข้อง | ศิลปะสมัยการโยกย้ายถิ่นฐาน ศิลปะการอแล็งเฌียง, ศิลปะไบแซนไทน์, ศิลปะเคลติก, |
สมัยก่อนหน้า | ศิลปะเคลติก |
สมัยต่อมา | ศิลปะโรมาเนสก์ |
ประวัติ
หลังจากเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนาแล้ว การผสานระหว่างลวดลายและเทคนิคของแองโกล-แซกซันและของเคลติกก็ทำให้เกิดลักษณะงานศิลปะที่เรียกว่า “ศิลปะไฮเบอร์โน-แซกซัน” หรือ ศิลปะเกาะ ที่ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดลายเส้นจากลวดลายตกแต่งงานโลหะ ในช่วงเวลาเดียวกันงานรวบรวมพระวรสารลินดิสฟาร์นในนอร์ทธัมเบรียทางตอนเหนือสุดของอังกฤษเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 และ งานจากทางตอนใต้สุดที่นักสอนศาสนาจากโรมใช้เป็นศูนย์กลาง ก็แสดงให้เห็นถึงลักษณะงานที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ที่เป็นงานที่มีพื้นฐานมาจากงานคลาสสิก ลักษณะของศิลปะทั้งสองอย่างดังกล่าววิวัฒนาการขึ้นมาด้วยกันและในร้อยปีต่อมาก็ผสานกันเป็นลักษณะของศิลปะที่เรียกว่าแองโกล-แซกซันอย่างสมบูรณ์
ศิลปะแองโกล-แซกซันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในรูปแบบของหนังสือวิจิตร, , งานแกะสลักงาช้างหลายชิ้น และงานโลหะและวัสดุอื่นบ้าง ("Opus Anglicanum") ก็เป็นที่รู้จักกันแล้วในเวลานั้นว่าเป็นงานฝีมือชั้นสูงที่สุดในยุโรป แต่ก็มีเหลือให้เห็นกันอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น - ผ้าปักบายูเป็นงานปักอีกประเภทหนึ่งที่แตกต่างจากงานปักอังกฤษที่เป็นงานปักที่มีขนาดใหญ่กว่ามาก และเช่นเดียวกับในส่วนใหญ่ของยุโรปในเวลานั้น งานโลหะถือกันว่าเป็นงานศิลปะชั้นสูงโดยแองโกล-แซกซัน แต่ก็แทบจะไม่มีเหลือหรออยู่ เพราะในช่วงสิบปีแรกตั้งแต่การรุกรานของนอร์มัน และต่อมาการปกครองของขุนนางนอร์มัน คริสต์ศาสนสถาน, สำนักสงฆ์ และ ทรัพย์สมบัติของผู้ดีมีตระกูลชาวแองโกล-แซกซันก็ถูกยึด ปล้นสะดม และทำลายไปเป็นอันมาก และสิ่งที่ยังคงหลงเหลืออยู่ก็เคยมีอยู่บนแผ่นดินใหญ่ยุโรป
หนังสือวิจิตรที่รวมทั้ง “” ที่มีพื้นฐานมาจากลักษณะงานศิลปะและรูปลักษณ์ที่ใช้ในงานศิลปะเกาะ, ศิลปะการอแล็งเฌียง และ ศิลปะไบแซนไทน์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ก็ได้มีการวิวัฒนาการ 'สกุลศิลปะแบบวินเชสเตอร์' ขึ้นที่เป็นการรวมระหว่างธรรมเนียมนิยมของการประดับประดาแบบทางตอนเหนือเข้ากับธรรมเนียมนิยมรูปลักษณ์ของเมดิเตอร์เรเนียน ที่เห็นได้ในงาน 'Leofric Missal' งานเขียนภาพประกอบของแองโกล-แซกซันก็ได้แก่งานวาดด้วยปากกาที่มีชีวิตชีวา เช่นงานชิ้นสำคัญ “หนังสือเพลงสวดสดุดีอูเทร็คท์” แบบการอแล็งเฌียงของแคนเตอร์บรีที่เขียนขึ้นเมื่อราว ค.ศ. 1000 และ “” ซึ่งเป็นงานก็อปปีของหนังสือสวดมนต์อูเทร็ชท์ ตัวอย่างดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นของวัฒนธรรมแองโกล-แซกซันที่เข้ามารับอิทธิพลของการขยายตัวของงานแบบละตินของยุโรปยุคกลาง ภาพวาดแองโกล-แซกซันมามีอิทธิพลต่อทางตอนเหนือของฝรั่งเศสเป็นอันมากตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 11 ที่เรียกกันว่า 'สกุลศิลปะช่องแคบ' (Channel school)
งานที่เห็นจะเป็นงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของศิลปะแองโกล-แซกซันก็เห็นจะเป็นงานผ้าปักบายูที่เป็นงานที่จ้างโดยชาวแองโกล-นอร์มัน โดยว่าจ้างช่างชาวอังกฤษที่ปักงานแบบแองโกล-แซกซัน นอกจากนั้นศิลปินแองโกล-แซกซันยังทำงานเขียนจิตรกรรมฝาผนัง, , และ วาฬ (โดยเฉพาะหีบแฟรงค์), (เช่น), และ ตัวอย่างงานเหล่านี้พบจากการขุดค้นทางโบราณคดี หรือ บางชิ้นก็เป็นงานที่ได้รับการอนุรักษ์มาเป็นเวลาหลายร้อยปี โดยเฉพาะคริสต์ศาสนสถานบนแผ่นดินใหญ่ยุโรป ในอังกฤษเองนั้นหางานเหล่านี้ดูได้ยาก เพราะการรุกรานของไวกิงและนอร์มัน และ การปฏิรูป ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของศิลปะแองโกล-แซกซันไปจนแทบสิ้นทราก
รูปลักษณ์ที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยแองโกล-แซกซันที่รวมทั้งสัตว์ที่มีปากเป็นปากนรก (Hellmouth) และ การเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระเยซูที่แสดงส่วนที่เป็นเพียงขาและเท้าตอนบนของภาพที่เกือบจะถูกกลืนหายสู่เบื้องบน รูปลักษณ์ทั้งสองแบบดังกล่าวได้รับการนำไปใช้โดยทั่วไปในยุโรปต่อมา
งานโลหะ
งานโลหะของแองโกล-แซกซันเป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงอิตาลี แต่ก็แทบจะไม่มีเหลืออยูให้เห็นหลังจากการรุกรานของนอร์มันในปี ค.ศ. 1066 และการปฏิรูปศาสนาต่อมา งานบางชิ้นที่ได้รับการกล่าวถึงโดยศิลปินของอารามที่ไม่มีชิ้นใดเหลืออยู่เป็นงานโลหะมีค่า เป็นศิลปินผู้เดียวจากยุคนั้นที่ได้รับการกล่าวถึงทั้งตัวบุคคลและผลงาน จากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งรวมทั้งจากนักบันทึกประวัติศาสตร์นอร์มันผู้รู้จัก กล่าวถึงว่า “เป็นผู้มีฝีมือในการเขียนภาพ, การสลักทอง และ การทำงานช่างทอง” อาจจะเป็นได้ว่าเพราะความมีฝีมือทำให้สเปียร์ฮาฟ็อคได้เข้ามามีความสัมพันธ์กับเจ้านาย และทำให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วในสถาบันศาสนา แม้ว่าจะเป็นรายละเอียดอย่างหยาบๆ ที่ส่วนใหญ่บรรยายโดย แต่กระนั้นก็ยังเป็นหลักฐานอันมีค่าเกี่ยวกับลักษณะงานโลหะของแองโกล-แซกซัน นอกจากนั้นฝีมือในด้านการสลักทอง, ออกแบบ และ สลักรูปลักษณ์ลงบนทองของแองโกล-แซกซันก็ยังได้รับการกล่าวถึงในบันทึกในหลักฐานของชาวต่างประเทศอีกด้วย การเขียนภาพบนผนังที่บางครั้งดูเหมือนจะมีทองผสมอยู่ด้วยมักจะเขียนโดยช่างเขียนหนังสือวิจิตร คำบรรยายของถึงฝีมือของศิลปินแองโกล-แซกซันดูเหมือนจะถือกันว่าช่างทองเป็นช่างฝีมืออันดับหนึ่งในบรรดาช่างสาขาต่างๆ
ศิลปินประจำอารามหลายคนได้รับตำแหน่งสูงๆ ความสามารถของเทียบเท่ากับฝีมือของแมนนิกศิลปินร่วมสมัยผู้มีตำแหน่งเป็นอธิการอารามอีฟแชมระหว่างปี ค.ศ. 1044 ถึง ค.ศ. 1058 และเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษก่อนหน้านั้นก็มีนักบุญดันสตัน อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี
ในปลายคริสต์ศตวรรษสุดท้ายของสมัยศิลปะแองโกล-แซกซัน เป็นสมัยที่มีหลักฐานเกี่ยวกับรูปลักษณ์ขนาดใหญ่ที่ทำด้วยโลหะ ที่อาจจะทำด้วยแผ่นโลหะบางหุ้มแกนที่ทำด้วยไม้เช่นพระแม่มารีทองแห่งเอสเซิน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ใหญ่ที่สุดของงานประเภทนี้ของรูปลักษณ์ที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางตอนต้นที่พบในยุโรป รูปลักษณ์เหล่านี้จะมีขนาดเท่าคนจริงหรือเกือบเท่า และส่วนใหญ่จะเป็นกางเขน แต่บางครั้งก็จะมีพระนางมารีย์พรหมจารีหรือนักบุญยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสารสองข้าง ศิลปะแองโกล-แซกซันนิยมความมีค่าของวัสดุที่ใช้และแสงที่สะท้อนลงบนโลหะมีค่า ที่ใช้ในการปักผ้าหรือในการเขียนภาพบนผนังด้วย
แม้ว่างานชิ้นใหญ่ส่วนใหญ่จะสูญหายไปจนแทบจะหมดสิ้น แต่ก็ยังมีงานชิ้นเล็กหรือชิ้นส่วนของงานที่ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นสิ่งที่ถูกฝังไว้ - ยกเว้นแต่งานบางชิ้นเช่น และงานสองชิ้นที่ทำในออสเตรียโดยนักสอนศาสนาชาวแองโกล-แซกซัน - และกางเขนรูเปิร์ต ส่วนเป็นชุดงานฝีมือที่พบในปี ค.ศ. 1693 ที่มีความงดงามที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุด ในปี ค.ศ. 2009 ก็ได้มีการขุดพบที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนของงานโลหะกว่า 1,000 ชิ้นที่ส่วนใหญ่เป็นทอง
ประติมากรรมขนาดใหญ่
นอกไปจากที่มีให้เห็นในรูปของคริสต์ศาสนสถานแล้ว ก็ยังมีประติมากรรมงานสลักหินขนาดใหญ่ให้เห็นในรูปของกางเขน ที่คล้ายคลึงกับมหากางเขนที่พบในบริเวณเคลต์ของบริเตน กางเขนแองโกล-แซกซันอยู่ในสภาพที่ไม่ไคร่สมบูรณ์เท่าใดนักจากการถูกทำลายในช่วงการทำลายรูปเคารพหลังจากการปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ แต่ที่มีอยู่ก็จะเป็นการเขนที่มีรูปลักษณ์ขนาดใหญ่อยู่บนกางเขนที่มีฝีมือพอใช้ได้เช่นกางเขนรูธเวลล์ และ การตกแต่งด้วยไม้เลื้อยบนกางเขนจะพบมากกว่าลายสอดประสาน และมักจะมีคำจารึกอยู่ด้วย บางส่วนของงานแกะสลักเหล่านี้บางครั้งก็จะพบจากการขุดค้นทางโบราณคดี หรือ จากชิ้นส่วนที่นำไปสร้างเป็นผนังของคริสต์ศาสนสถาน
อ้างอิง
- Oxford, Bodleian Library, MS Bodl, 579
- Dodwell:44-47, 61-83, 216ff
- Dodwell:46 and 55, who quotes Goscelin, and Historia:ciii-cv for the other sources.
- Dodwell:58, 79-83, 92-3
- See Dodwell, passim
- Highlights of Anglo-Saxon hoard, The Independent, 24 September 2009, (retrieved 24 September 2009).
- "Anglo-Saxon art". In Encyclopædia Britannica Online.
- Dodwell, C.R.; Anglo-Saxon Art, A New Perspective, 1982, Manchester UP,
- Historia Ecclesie Abbendonensis: The History of the Church of Abingdon, Translated by John Hudson, Oxford University Press, 2002,
- ; Anglo-Saxon: Art From The Seventh Century To The Norman Conquest, Thames and Hudson (US edn. Overlook Press), 1984.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ศิลปะแองโกล-แซกซัน
- An Introduction to Anglo-Saxon Manuscripts -online seminar 2007-03-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha silpaaexngokl aesksn xngkvs Anglo Saxon art khuxsilpathisrangkhuninsmyaexngokl aesksninprawtisastrxngkvsodyechphaatngaetrchsmykhxngsmedcphraecaxlefrdmharach kh s 871 kh s 899 emuxmikarfunfuwthnthrrmkhxngxngkvskhun hlngcakkarrukrankhxngiwkingyutilng aelamasinsudexaemuxnxrmnphichitxngkvsidinpi kh s 1066 emuxsilpawiwthnakaripepnsilpaormaenskxyangsmburnaebb kxnthicathungrchsmykhxngsmedcphraecaxlefrdsilpasmykaroykyaythinthanepnsilpathimirakehngamacaksilpathichawaexngokl aesksnnatidtwmacakaephndinihyyuorp thicaehnidcaknganolhaaelanganekhruxngpradbxnepnnganfimuxxnmikhunphaphthikhudphbthisththnhu tnkhriststwrrsthi 7 silpaaexngokl aesksnswnhnungkhxng silpasmykaroykyaythinthan silpasmyklangekhmkldpradbthiichbnihlcakkhriststwrrsthi 7 thiphbthisusanfngsphineruxthisththnhuinxngkvsprawtisastrsilpachwngewla kh s 871 cnthung kh s 1066phumiphakh xngkvsekiywkhxng silpasmykaroykyaythinthan silpakarxaelngechiyng silpaibaesnithn silpaekhltik smykxnhna silpaekhltiksmytxma silpaormaensksilpatawntkcak thiprakxbdwyphaphphraeysurbsilcumphaphprakxbcakhna 46 khxng epnphaphethwdarksapratuswrrkh hlngcakthixadmaelaxifthukkhbcakswrrkhhinehddasungepntwxyangkhxngnganslkhinkhxngsmyaexngokl aesksnphraaemmarithxngaehngexsesinprawtihlngcakepliynipnbthuxkhristsasnaaelw karphsanrahwanglwdlayaelaethkhnikhkhxngaexngokl aesksnaelakhxngekhltikkthaihekidlksnangansilpathieriykwa silpaihebxron aesksn hrux silpaekaa thiswnihyepnphaphwadlayesncaklwdlaytkaetngnganolha inchwngewlaediywknnganrwbrwmphrawrsarlindisfarninnxrththmebriythangtxnehnuxsudkhxngxngkvsemuxtnkhriststwrrsthi 8 aela ngancakthangtxnitsudthinksxnsasnacakormichepnsunyklang kaesdngihehnthunglksnanganthiaetktangxxkipxyangsineching thiepnnganthimiphunthanmacakngankhlassik lksnakhxngsilpathngsxngxyangdngklawwiwthnakarkhunmadwyknaelainrxypitxmakphsanknepnlksnakhxngsilpathieriykwaaexngokl aesksnxyangsmburn silpaaexngokl aesksnthiyngkhnghlngehluxxyuinrupaebbkhxnghnngsuxwicitr nganaekaslkngachanghlaychin aelanganolhaaelawsduxunbang Opus Anglicanum kepnthiruckknaelwinewlannwaepnnganfimuxchnsungthisudinyuorp aetkmiehluxihehnknxyuephiyngimkichin phapkbayuepnnganpkxikpraephthhnungthiaetktangcaknganpkxngkvsthiepnnganpkthimikhnadihykwamak aelaechnediywkbinswnihykhxngyuorpinewlann nganolhathuxknwaepnngansilpachnsungodyaexngokl aesksn aetkaethbcaimmiehluxhrxxyu ephraainchwngsibpiaerktngaetkarrukrankhxngnxrmn aelatxmakarpkkhrxngkhxngkhunnangnxrmn khristsasnsthan sanksngkh aela thrphysmbtikhxngphudimitrakulchawaexngokl aesksnkthukyud plnsadm aelathalayipepnxnmak aelasingthiyngkhnghlngehluxxyukekhymixyubnaephndinihyyuorp hnngsuxwicitrthirwmthng thimiphunthanmacaklksnangansilpaaelaruplksnthiichinngansilpaekaa silpakarxaelngechiyng aela silpaibaesnithn inkhriststwrrsthi 11 kidmikarwiwthnakar skulsilpaaebbwinechsetxr khunthiepnkarrwmrahwangthrrmeniymniymkhxngkarpradbpradaaebbthangtxnehnuxekhakbthrrmeniymniymruplksnkhxngemdietxrereniyn thiehnidinngan Leofric Missal nganekhiynphaphprakxbkhxngaexngokl aesksnkidaeknganwaddwypakkathimichiwitchiwa echnnganchinsakhy hnngsuxephlngswdsdudixuethrkhth aebbkarxaelngechiyngkhxngaekhnetxrbrithiekhiynkhunemuxraw kh s 1000 aela sungepnngankxppikhxnghnngsuxswdmntxuethrchth twxyangdngklawaesdngihehnthungaenwonmthiephimmakkhunkhxngwthnthrrmaexngokl aesksnthiekhamarbxiththiphlkhxngkarkhyaytwkhxngnganaebblatinkhxngyuorpyukhklang phaphwadaexngokl aesksnmamixiththiphltxthangtxnehnuxkhxngfrngessepnxnmaktlxdkhriststwrrsthi 11 thieriykknwa skulsilpachxngaekhb Channel school nganthiehncaepnnganthimichuxesiyngthisudkhxngsilpaaexngokl aesksnkehncaepnnganphapkbayuthiepnnganthicangodychawaexngokl nxrmn odywacangchangchawxngkvsthipknganaebbaexngokl aesksn nxkcaknnsilpinaexngokl aesksnyngthanganekhiyncitrkrrmfaphnng aela wal odyechphaahibaefrngkh echn aela twxyangnganehlaniphbcakkarkhudkhnthangobrankhdi hrux bangchinkepnnganthiidrbkarxnurksmaepnewlahlayrxypi odyechphaakhristsasnsthanbnaephndinihyyuorp inxngkvsexngnnhanganehlaniduidyak ephraakarrukrankhxngiwkingaelanxrmn aela karptirup idthalaythuksingthukxyangthiepnkhxngsilpaaexngokl aesksnipcnaethbsinthrak ruplksnthipradisthkhunodyaexngokl aesksnthirwmthngstwthimipakepnpaknrk Hellmouth aela karesdckhunswrrkhkhxngphraeysuthiaesdngswnthiepnephiyngkhaaelaethatxnbnkhxngphaphthiekuxbcathukklunhaysuebuxngbn ruplksnthngsxngaebbdngklawidrbkarnaipichodythwipinyuorptxmanganolhanganolhakhxngaexngokl aesksnepnnganfimuxthimichuxesiyngipiklthungxitali aetkaethbcaimmiehluxxyuihehnhlngcakkarrukrankhxngnxrmninpi kh s 1066 aelakarptirupsasnatxma nganbangchinthiidrbkarklawthungodysilpinkhxngxaramthiimmichinidehluxxyuepnnganolhamikha epnsilpinphuediywcakyukhnnthiidrbkarklawthungthngtwbukhkhlaelaphlngan cakaehlngkhxmulhlayaehlngrwmthngcaknkbnthukprawtisastrnxrmnphuruck klawthungwa epnphumifimuxinkarekhiynphaph karslkthxng aela karthanganchangthxng xaccaepnidwaephraakhwammifimuxthaihsepiyrhafxkhidekhamamikhwamsmphnthkbecanay aelathaihidrbkareluxntaaehnngxyangrwderwinsthabnsasna aemwacaepnraylaexiydxyanghyab thiswnihybrryayody aetkrannkyngepnhlkthanxnmikhaekiywkblksnanganolhakhxngaexngokl aesksn nxkcaknnfimuxindankarslkthxng xxkaebb aela slkruplksnlngbnthxngkhxngaexngokl aesksnkyngidrbkarklawthunginbnthukinhlkthankhxngchawtangpraethsxikdwy karekhiynphaphbnphnngthibangkhrngduehmuxncamithxngphsmxyudwymkcaekhiynodychangekhiynhnngsuxwicitr khabrryaykhxngthungfimuxkhxngsilpinaexngokl aesksnduehmuxncathuxknwachangthxngepnchangfimuxxndbhnunginbrrdachangsakhatang silpinpracaxaramhlaykhnidrbtaaehnngsung khwamsamarthkhxngethiybethakbfimuxkhxngaemnniksilpinrwmsmyphumitaaehnngepnxthikarxaramxifaechmrahwangpi kh s 1044 thung kh s 1058 aelaemuxplaykhriststwrrskxnhnannkminkbuydnstn xarchbichxpaehngaekhnethxrebxri inplaykhriststwrrssudthaykhxngsmysilpaaexngokl aesksn epnsmythimihlkthanekiywkbruplksnkhnadihythithadwyolha thixaccathadwyaephnolhabanghumaeknthithadwyimechnphraaemmarithxngaehngexsesin sungepntwxyangthiihythisudkhxngnganpraephthnikhxngruplksnthisrangkhuninsmyyukhklangtxntnthiphbinyuorp ruplksnehlanicamikhnadethakhncringhruxekuxbetha aelaswnihycaepnkangekhn aetbangkhrngkcamiphranangmariyphrhmcarihruxnkbuyyxhnphuniphnthphrawrsarsxngkhang silpaaexngokl aesksnniymkhwammikhakhxngwsduthiichaelaaesngthisathxnlngbnolhamikha thiichinkarpkphahruxinkarekhiynphaphbnphnngdwy aemwanganchinihyswnihycasuyhayipcnaethbcahmdsin aetkyngminganchinelkhruxchinswnkhxngnganthiyngmihlngehluxihehnxyubang swnihyaelwkepnsingthithukfngiw ykewnaetnganbangchinechn aelangansxngchinthithainxxsetriyodynksxnsasnachawaexngokl aesksn aelakangekhnruepirt swnepnchudnganfimuxthiphbinpi kh s 1693 thimikhwamngdngamthiepnthiruckkndithisud inpi kh s 2009 kidmikarkhudphbthiprakxbdwychinswnkhxngnganolhakwa 1 000 chinthiswnihyepnthxngpratimakrrmkhnadihykangekhnruthewll nxkipcakthimiihehninrupkhxngkhristsasnsthanaelw kyngmipratimakrrmnganslkhinkhnadihyihehninrupkhxngkangekhn thikhlaykhlungkbmhakangekhnthiphbinbriewnekhltkhxngbrietn kangekhnaexngokl aesksnxyuinsphaphthiimikhrsmburnethaidnkcakkarthukthalayinchwngkarthalayrupekharphhlngcakkarptirupsasnainxngkvs aetthimixyukcaepnkarekhnthimiruplksnkhnadihyxyubnkangekhnthimifimuxphxichidechnkangekhnruthewll aela kartkaetngdwyimeluxybnkangekhncaphbmakkwalaysxdprasan aelamkcamikhacarukxyudwy bangswnkhxngnganaekaslkehlanibangkhrngkcaphbcakkarkhudkhnthangobrankhdi hrux cakchinswnthinaipsrangepnphnngkhxngkhristsasnsthanxangxingOxford Bodleian Library MS Bodl 579 Dodwell 44 47 61 83 216ff Dodwell 46 and 55 who quotes Goscelin and Historia ciii cv for the other sources Dodwell 58 79 83 92 3 See Dodwell passim Highlights of Anglo Saxon hoard The Independent 24 September 2009 retrieved 24 September 2009 Anglo Saxon art In Encyclopaedia Britannica Online Dodwell C R Anglo Saxon Art A New Perspective 1982 Manchester UP ISBN 0 7190 0926 X Historia Ecclesie Abbendonensis The History of the Church of Abingdon Translated by John Hudson Oxford University Press 2002 ISBN 0 19 929937 4 Anglo Saxon Art From The Seventh Century To The Norman Conquest Thames and Hudson US edn Overlook Press 1984 duephimaexngokl aesksn silpasmyklang silpasmykaroykyaythinthaninyuorp hnngsuxwicitr xngkvssmyaexngokl nxrmnaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb silpaaexngokl aesksn An Introduction to Anglo Saxon Manuscripts online seminar 2007 03 31 thi ewyaebkaemchchin