พระวรสารลินดิสฟาร์น (ละติน: Lindisfarne Gospels, อังกฤษ: Lindisfarne Gospels - , ลอนดอน) เป็นหนังสือพระวรสารวิจิตรที่เขียนเป็นภาษาละติน ที่เขียนขึ้นที่ลินดิสฟาร์นในนอร์ทธัมเบรียเมื่อปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 “พระวรสารลินดิสฟาร์น” ประกอบด้วยพระวรสารทั้งสี่ฉบับของพันธสัญญาใหม่ พระวรสารฉบับนี้ถือว่าเป็นงานศิลปะชิ้นที่งดงามที่สุดของงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของราชอาณาจักร ซึ่งเป็นลักษณะงานศิลปะที่ผสานระหว่างศิลปะแองโกล-แซ็กซอนและศิลปะเคลติกที่เรียกว่าศิลปะไฮเบอร์โน-แซ็กซอนหรือศิลปะเกาะ พระวรสารเป็นงานฉบับสมบูรณ์ขาดก็แต่หน้าปกดั้งเดิม และอยู่ในสภาพที่ดีเมื่อคำนึงถึงอายุของหนังสือ
พระวรสารลินดิสฟาร์น Lindisfarne Gospels | |
---|---|
โฟลิโอ 27r จากหนังสือ “พระวรสารลินดิสฟาร์น” | |
ผู้ประพันธ์ | ? |
ประเทศ | ราชอาณาจักรนอร์ทธัมเบรีย |
ภาษา | ภาษาละติน |
หัวเรื่อง | หนังสือพระวรสาร |
วันที่พิมพ์ | ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8 |
ชนิดสื่อ | หนังสือวิจิตร |
ประวัติ
“พระวรสารลินดิสฟาร์น” เชื่อกันว่าเป็นงานของนักบวชผู้ต่อมามีตำแหน่งเป็นพระสังฆราชที่นั่นในปี ค.ศ. 698 และเสียชีวิตในปี ค.ศ. 721 นักวิชาการปัจจุบันระบุว่าปีที่เขียนคือราวปี ค.ศ. 715 และเชื่อกันว่าเป็นงานที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ แต่อาจจะเป็นได้ว่าเอดฟริธสร้างงานขึ้นก่อนปี ค.ศ. 698 เพื่อเป็นการฉลองการยกฐานะของของในปีนั้น งานพระวรสารฉบับนี้เต็มไปด้วยภาพประกอบที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามตามแบบฉบับของศิลปะเกาะ เดิมมีหน้าปกเป็นหนังที่ประดับด้วยอัญมณีและโลหะที่สร้างโดยบิลฟริธเดอะอังคอไรท์ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ระหว่างการรุกรานของไวกิงที่ลินดิสฟาร์นหน้าปกก็สูญหายไป และหน้าปกใหม่ได้รับการสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1852 อักขระที่ใช้เขียนเป็นอักขระแบบเกาะ
ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ก็ได้มีการแปลพระวรสารเป็นภาษาอังกฤษเก่า--โดยแทรกคำต่อคำระหว่างเนื้อหาที่เป็นภาษาละติน โดยอัลเฟรด โพรโวสต์แห่งเชสเตอร์-เลอ-สตรีท ซึ่งเป็นงานแปลพระวรสารเป็นภาษาอังกฤษฉบับที่เก่าแก่ที่สุด
ระหว่างการยุบอารามสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษก็มีพระบรมราชโองการให้นำพระวรสารจากมหาวิหารเดอแรม ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เซอร์โรเบิร์ต ค็อตตอนก็ซื้อพระวรสารจากทอมัส วอล์คเคอร์ราชเลขาธิการของรัฐสภา งานสะสมหนังสือของค็อตตอนตกมาเป็นของพิพิธภัณฑ์บริติชในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และต่อมาเมื่อแยกตัวจากพิพิธภัณฑ์
อ้างอิง
- Celtic and Anglo-Saxon Art: Geometric Aspects Derek Hull, Published 2003 Liverpool University Press. (Google books link)
- Lindisfarne Gospels 2018-07-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน British Library. Retrieved 2008-03-21
- Backhouse, Janet, The Lindisfarne Gospels (Oxford: Phaidon, 1981)
- Time line 2020-01-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน British Library. Retrieved 2008-03-21
บรรณานุกรม
- Calkins, Robert G. Illuminated Books of the Middle Ages. Ithaca, New York: Cornell University Press, 1983.
- De Hamel, Christopher. A History of Illuminated Manuscripts. Boston: David R. Godine, 1986.
- Walther, Ingo F. and Norbert Wolf. Codices Illustres: The world's most famous illuminated manuscripts, 400 to 1600. Köln, TASCHEN, 2005.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระวรสารลินดิสฟาร์น
- The Lindisfarne Gospels 2005-11-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, a free online seminar from the .
- Lindisfarne Gospels: information, zoomable image 2018-07-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน British Library website
- British Library Digital Catalogue of Illuminated Manuscripts entry 2020-08-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Lindisfarne Gospels 2012-06-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, from the Northumbrian Association.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha phrawrsarlindisfarn latin Lindisfarne Gospels xngkvs Lindisfarne Gospels lxndxn epnhnngsuxphrawrsarwicitrthiekhiynepnphasalatin thiekhiynkhunthilindisfarninnxrththmebriyemuxplaykhriststwrrsthi 7 thungtnkhriststwrrsthi 8 phrawrsarlindisfarn prakxbdwyphrawrsarthngsichbbkhxngphnthsyyaihm phrawrsarchbbnithuxwaepnngansilpachinthingdngamthisudkhxngngansilpaxnepnexklksnkhxngrachxanackr sungepnlksnangansilpathiphsanrahwangsilpaaexngokl aesksxnaelasilpaekhltikthieriykwasilpaihebxron aesksxnhruxsilpaekaa phrawrsarepnnganchbbsmburnkhadkaethnapkdngedim aelaxyuinsphaphthidiemuxkhanungthungxayukhxnghnngsuxphrawrsarlindisfarn Lindisfarne Gospels ofliox 27r cakhnngsux phrawrsarlindisfarn phupraphnth praethsrachxanackrnxrththmebriyphasaphasalatinhweruxnghnngsuxphrawrsarwnthiphimphplaykhriststwrrsthi 7 thungtnkhriststwrrsthi 8chnidsuxhnngsuxwicitrprawti phrawrsarlindisfarn echuxknwaepnngankhxngnkbwchphutxmamitaaehnngepnphrasngkhrachthinninpi kh s 698 aelaesiychiwitinpi kh s 721 nkwichakarpccubnrabuwapithiekhiynkhuxrawpi kh s 715 aelaechuxknwaepnnganthisrangephuxepnekiyrtiaek aetxaccaepnidwaexdfrithsrangngankhunkxnpi kh s 698 ephuxepnkarchlxngkarykthanakhxngkhxnginpinn nganphrawrsarchbbnietmipdwyphaphprakxbthitkaetngxyangwicitrngdngamtamaebbchbbkhxngsilpaekaa edimmihnapkepnhnngthipradbdwyxymniaelaolhathisrangodybilfrithedxaxngkhxirthinkhriststwrrsthi 8 rahwangkarrukrankhxngiwkingthilindisfarnhnapkksuyhayip aelahnapkihmidrbkarsrangkhuninpi kh s 1852 xkkhrathiichekhiynepnxkkhraaebbekaa inkhriststwrrsthi 10 kidmikaraeplphrawrsarepnphasaxngkvseka odyaethrkkhatxkharahwangenuxhathiepnphasalatin odyxlefrd ophrowstaehngechsetxr elx strith sungepnnganaeplphrawrsarepnphasaxngkvschbbthiekaaekthisud rahwangkaryubxaramsmedcphraecaehnrithi 8 aehngxngkvskmiphrabrmrachoxngkarihnaphrawrsarcakmhawiharedxaerm inkhriststwrrsthi 17 esxrorebirt khxttxnksuxphrawrsarcakthxms wxlkhekhxrrachelkhathikarkhxngrthspha ngansasmhnngsuxkhxngkhxttxntkmaepnkhxngphiphithphnthbritichinkhriststwrrsthi 18 aelatxmaemuxaeyktwcakphiphithphnthxangxingCeltic and Anglo Saxon Art Geometric Aspects Derek Hull Published 2003 Liverpool University Press ISBN 0 85323 549 X Google books link Lindisfarne Gospels 2018 07 17 thi ewyaebkaemchchin British Library Retrieved 2008 03 21 Backhouse Janet The Lindisfarne Gospels Oxford Phaidon 1981 Time line 2020 01 16 thi ewyaebkaemchchin British Library Retrieved 2008 03 21brrnanukrmCalkins Robert G Illuminated Books of the Middle Ages Ithaca New York Cornell University Press 1983 De Hamel Christopher A History of Illuminated Manuscripts Boston David R Godine 1986 Walther Ingo F and Norbert Wolf Codices Illustres The world s most famous illuminated manuscripts 400 to 1600 Koln TASCHEN 2005 duephimphrawrsar hnngsuxphrawrsar hnngsuxwicitr silpaekaaaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb phrawrsarlindisfarn The Lindisfarne Gospels 2005 11 30 thi ewyaebkaemchchin a free online seminar from the Lindisfarne Gospels information zoomable image 2018 07 17 thi ewyaebkaemchchin British Library website British Library Digital Catalogue of Illuminated Manuscripts entry 2020 08 03 thi ewyaebkaemchchin Lindisfarne Gospels 2012 06 20 thi ewyaebkaemchchin from the Northumbrian Association