วัดอุโบสถรตนาราม (เขมร: វត្តឧបោសថរតនារាម, วตฺดฺอุโบสถฺรตฺนาราม) นิยมเรียกว่า วัดพระแก้วมรกต (វត្តព្រះកែវមរកត, วตฺดฺพระแกวมรกต) หรือเรียกโดยย่อว่า วัดพระแก้ว (វត្តព្រះកែវ, วตฺดฺพระแกว) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นวัดในพระราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในพระราชวังหลวงของกรุงศรีอยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร ด้วยมีธรรมเนียมที่คล้ายคลึงกัน และถูกสร้างด้วยแรงบันดาลใจจากวัดหลวงในกรุงเทพมหานคร ภายในพระวิหารมีการปูเสื่อที่ทำจากเงินบริสุทธิ์ ทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า วิหารเงิน
วัดพระแก้วมรกต | |
---|---|
พระวิหารพระแก้วมรกต | |
ชื่อสามัญ | วัดอุโบสถรตนาราม |
ที่ตั้ง | แขวงเจ็ยจ็อมเนียะ เขตโฎนปึญ พนมเปญ ประเทศกัมพูชา |
พระประธาน | พระแก้วมรกต |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระชินรังสีราชิกนโรดม |
พระจำพรรษา | ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา |
ความพิเศษ | พระอารามประจำพระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล |
ส่วนหนึ่งของ |
วัดพระแก้วมรกตถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของพนมเปญ เพราะภายในวัดประกอบด้วยโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญหลายยุคสมัย มักใช้สำหรับประกอบพระราชพิธีสำคัญหรือกิจกรรมระดับชาติ ทั้งยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุภายในพระปรางค์คันธบุปผา
ประวัติ
วัดพระแก้วมรกตสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารเมื่อ พ.ศ. 2435 จนถึง พ.ศ. 2445 มีออกญาเทพนิมิต (รส) วาดเค้าโครงและแผนผังของวัด แต่มีสถาปนิกฝรั่งเศสชื่อ Alavigne เป็นผู้ดูแลความถูกต้อง และสมเด็จพระมหาสังฆราช (เที่ยง สุวณฺณเกสโร) เป็นผู้ตรวจสอบ ด้านการก่อสร้างและประดับตกแต่งจัดทำโดยช่างเขมรและสถาปนิกฝรั่งเศสชื่อ Andrilleux จนแล้วเสร็จและสมโภชในปี พ.ศ. 2446 รวมเป็นเงินทั้งหมดห้าแสนเรียล ในหนังสือ เอกสารมหาบุรุษเขมร ระบุว่าพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารทรงพระราชทานนามศาสนสถานแห่งนี้ว่า วัดอุโบสถรตนาราม ดังปรากฏความว่า "...พระบาทสมเด็จพระนโรดมทรงพระยินดีพ้นประมาณ ทรงพระบัญญัติให้เรียกนามวัดว่า พระอุโบสถรตนารามพระแก้วมรกต..." วัดพระแก้วมรกตเป็นสถานที่สำหรับพระมหากษัตริย์ทรงศีลอุโบสถทุกวันอุโบสถ และเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของพระบรมวงศานุวงศ์และขุนนาง
วัดพระแก้วมรกตได้รับอิทธิพลการก่อสร้างจากสถาปัตยกรรมไทยพอสมควร ส่วนหนึ่งก็เพราะ พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ผู้สร้างวัด, ออกญาเทพนิมิต (มัก) สถาปนิก และสมเด็จพระมหาสังฆราช (เที่ยง สุวณฺณเกสโร) ที่ปรึกษา ล้วนแต่เป็นบุคคลที่เติบโตและเข้ารับการศึกษาที่กรุงเทพมหานครหลายปี จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้วัดหลวงแห่งนี้ได้รับอิทธิพลจากไทยไปมาก พึงสังเกตว่าชื่อวัดอุโบสถรตนาราม คล้ายคลึงกับชื่อวัดพระศรีรัตนศาสดารามของไทย รวมทั้งมีธรรมเนียมปฏิบัติคล้ายคลึงกันมาก
วัดแห่งนี้ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเนื่องจากเป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในพระบรมราชวัง แต่มีครั้งเดียวในปี พ.ศ. 2470 ที่พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงผนวชและจำพรรษาในวัดแห่งนี้หนึ่งพรรษา และในรัชกาลนี้เองได้มีการบูรณะวัดพระแก้วมรกตขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2505 จนถึง พ.ศ. 2513 ตรวจงานโดยออกญาวังวรเวียงชัย (ซาน ย็วน)
อาคาร
พระวิหารพระแก้วมรกต
พระวิหารพระแก้วมรกต เป็นสถานที่สำหรับประดิษฐานพระแก้วมรกต สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร โดย Andrilleux สถาปนิกชาวฝรั่งเศสนำเครื่องมือช่างมาใช้ในการก่อสร้าง มีสมเด็จพระมหาสังฆราช (เที่ยง สุวณฺณเกสโร) และพระธรรมลิขิต (ยืม) คอยตรวจตราการก่อสร้างทุกวัน วิหารเป็นทรงจตุรมุข ภายในกว้าง 11 เมตร 40 เซนติเมตร ยาว 31 เมตร 60 เซนติเมตร ประกอบด้วยประตู 8 ประตู และหน้าต่างอีก 16 บาน จิตรกรรมฝาผนังทำเป็นรูปเทพนิมิตในเรื่องปฐมสมโพธิ และล้อมรอบ ตรงกลางสร้างเป็นบัลลังก์เพชร มีดอกบัวผุดซ้อนเกสรสำหรับประดิษฐานพระแก้วมรกต ด้านบนพระพุทธรูปมี เมื่อสร้างแล้วเสร็จจึงจัดพระราชพิธีฉลองการบรรจุสีมาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2445
ในอดีตถือว่าวิหารของวัดพระแก้วมรกตมีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดในกรุงพนมเปญ ดังปรากฏในพระนิพนธ์ นิราศนครวัด ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ความว่า "...ขนาดพระอุโบสถ นอกจากวัดพระแก้วที่ในวัง จะหาใหญ่เท่าวัดมกุฎกษัตริย์หรือวัดโสมนัสวิหารไม่มีเลย ฝีมือสร้างจะหาน่าชมมิใคร่พบ..." และทรงกล่าวไว้อีกความว่า "...พระอุโบสถนั้นทำเป็นทรงพระอุโบสถสามัญแต่มียอดปราสาท ข้างในพระอุโบสถปูกระเบื้องเงิน ฝาผนังหว่างหน้าต่างเขียนเรื่องปฐมสมโพธิ กลางพระอุโบสถมีฐานชุกชี ตั้งบุษบกรองพระแก้ว..."
วิหารแห่งนี้เริ่มทรุดโทรมลงตามกาลเวลา สมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิรีวัฒนามีพระราชดำริที่จะบูรณะวิหารขึ้นใหม่ใน พ.ศ. 2505 กระทำโดยการรื้อวิหารเดิมแล้วสร้างขึ้นใหม่ โดยคงรูปแบบของสถาปัตยกรรมเดิมไว้ แต่เพิ่มเติมด้วยการปูที่ทำจากเงินบริสุทธิ์ 5,329 แผ่น และประดับหินอ่อนจากประเทศอิตาลี คิดเป็นเงินทั้งหมด 20 ล้านเรียล
พระแก้วมรกต
พระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปสำคัญของพระวิหารนี้ มีขนาดเล็ก ประดิษฐานอยู่บนบุษบก องค์พระทำจากคริสตัลสีเขียวของห้าง (Baccarat Crystal) ในประเทศฝรั่งเศส ทำให้มีพุทธลักษณะที่ต่างออกไปจากพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรในวัดพระศรีรัตนศาสดารามของไทยไปโดยสิ้นเชิง ส่วนที่จำลองจากพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรไปนั้น เพราะฝ่ายกัมพูชาเข้าใจว่าพระพุทธรูปดังกล่าวเคยประดิษฐานในดินแดนของตนมาก่อน โดยอิงจากตำนาน และใน อ้างว่าพระแก้วมรกตเคยประดิษฐานอยู่ในกรุงกัมพูชามาก่อน เนื้อหากล่าวถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จเสนกราช ขณะนั้นกรุงอินทปรัตเกิดอุทกภัยใหญ่ พระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์กรุงอโยชนครปรารถนาที่จะได้พระแก้วมรกตไปไว้พระนคร จึงกราบบังคมทูลเชิญกษัตริย์ ขุนนางกรุงอินทปรัต พร้อมพระแก้วมรกตไปไว้กรุงอโยชนคร โดยสร้างพระวิหารเป็นพระอารามหลวงไปไว้เป็นอย่างดี ครั้นกรุงอินทปรัตน้ำแห้งลง พระบาทสมเด็จพระเสนกราชสวรรคตในอโยชนคร พระสิงหกุมารจึงทูลลาพระเจ้าอาทิตยราชไปปลงพระบรมศพของพระราชบิดาที่กรุงอินทปรัต แต่พระเจ้าอาทิตยราชทูลขอพระแก้วมรกตไว้ พระสิงหกุมารมีพระราชดำริว่า อโยชนครก็เป็นประเทศเอกราช และมีบุญคุณต่อกรุงอินทปรัต จึงทูลตอบอนุญาต แล้วนิวัตกรุงอินทปรัตพร้อมกับพระบรมศพ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวถึงพระพุทธรูปองค์นี้ใน นิราศนครวัด ความว่า "...พระแก้วนั้น สมเด็จพระนโรดมสั่งให้ไปทำเป็นพระแก้วมรกตที่ห้างปักกะราต์ฝรั่งเศส ข้อนี้ทราบมานานแล้ว มาได้ความรู้เพิ่มเติมเมื่อเห็นตัวจริง ว่าตั้งใจจะจำลองให้เหมือนพระแก้วมรกตที่ในกรุงเทพฯ สมเด็จพระนโรดมเห็นจะให้ไปสืบแลวัดมาดูได้ขนาดเท่ากัน แต่รูปสัณฐานนั้นผิดกันห่างไกล สีแก้วมรกตที่ฝรั่งเศสหล่อเป็นแก้วใสเป็นอย่างขวดเขียวสี่เหลี่ยม ที่มักใช้ใส่น้ำอบกันแต่ก่อน เครื่องประดับก็ทำแต่ทองครอบพระเกตุมาลา แล้วติดรัศมีต่อขึ้นไป..."
ส่วนหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนหนังสือชื่อ ถกเขมร ได้กล่าวถึงพระพุทธรูปองค์นี้ด้วย ความว่า "...ไปอีกด้านหนึ่งของพระราชวังมีวัดพระแก้ว มีพระพุทธรูปตั้งอยู่บนบุษบกทองในพระอุโบสถ พระพุทธรูปนั้นเป็น "พระแก้ว" จริง ๆ สีเขียวขนาดขวดโคคาโคล่า และสั่งทำมาจากฝรั่งเศส..."
พระชินรังสีราชิกนโรดม
พระชินรังสีราชิกนโรดม เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรฉลองพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร สร้างโดยพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์เมื่อ พ.ศ. 2447 สนองพระราชกระแสพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารก่อนสวรรคตว่าหลังถวายพระเพลิงแล้ว ให้นำโกศทองคำมาหลอมสร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่งอุทิศแก่พระศรีอริยเมตไตรย โดยพระพุทธรูปองค์นี้ทำจากทองคำ 90 กิโลกรัม (รวมฐานและฉัตร) ประดับเพชรพลอยจำนวน 2,086 เม็ด เพชรเม็ดใหญ่สุดมีขนาด 25 มิลลิเมตรอยู่ที่มงกุฎ และเพชรขนาดรองลงมาคือ 20 มิลลิเมตรประดับที่
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงระบุเกี่ยวกับพระพุทธรูปองค์นี้ใน นิราศนครวัด ความว่า "...มีของแปลกที่น่าดูอย่างหนึ่ง คือพระพุทธรูปฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนโรดม ทำเป็นพระยืนทรงเครื่อง (แบบฉลองพระองค์ในกรุงเทพฯ) แต่แต่งเครื่องเพชรพลอยอย่างใหม่ฝีมือฝรั่ง ซึ่งเป็นของสมเด็จพระนโรดมทรงพระอุทิศไว้ ฝีมือทำก็งามดี ในวัดพระแก้วมีที่ดูเท่านี้..."
พระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนัง
พระระเบียงของวัดพระแก้วมรกตมีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง เรียมเกรติ์ หรือรามายณะฉบับเขมรตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มเรื่องทางด้านทิศตะวันออกแล้วเวียนประทักษิณ มีความยาวทั้งหมด 642 เมตร เริ่มเขียนเมื่อ พ.ศ. 2446-2447 โดยออกญาเทพนิมิต (เธียะก์) และช่างเขียนคนอื่น ๆ อีก 40 คน โดยมีลักษณะที่แตกต่างไปจากจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง รามเกียรติ์ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามของไทยคือมีการเขียนเรื่องย่อเพื่อบอกเหตุการณ์ในภาพกำกับไว้ด้วย
วิทยานิพนธ์ของนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่า จิตรกรรมฝาผนังของเรียมเกรติ์นำเนื้อเรื่องและตัวละครมาจากจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นส่วนใหญ่ แต่มีการนำเสนอที่ต่างกัน ซึ่งอาจเป็นความผิดพลาดของจิตรกรเมื่อส่งผ่านวัฒนธรรมหนึ่งไปอีกวัฒนธรรมหนึ่ง แรงบันดาลใจทางสังคมวัฒนธรรม และบริบทการวาดและลีลาของจิตรกรแต่ละท่าน รวมทั้งผู้มีบทบาทในการสร้างจิตรกรรมฝาผนังในวัดพระแก้วมรกตทั้งสามคนคือ พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ผู้สร้างวัด, ออกญาเทพนิมิต (มัก) สถาปนิก และสมเด็จพระมหาสังฆราช (เที่ยง) ที่ปรึกษา ล้วนแต่เป็นบุคคลที่เติบโตและเข้ารับการศึกษาที่กรุงเทพมหานครหลายปี จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้จิตรกรรมฝาผนังนี้ได้รับอิทธิพลจากไทยไปอย่างสูง
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวถึงพระระเบียงและจิตรกรรมฝาผนังไว้ใน นิราศนครวัด ความว่า "...วัดพระแก้วมีพระระเบียงล้อมรอบ ฝาผนังพระระเบียงเขียนเรื่องรามเกียรติ์ อย่างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่รูปภาพเขียนฝีมือเลวไม่น่าดู ดีแต่ฝาผนังไม่ชื้นเหมือนพระระเบียงวัดพระแก้วในกรุงเทพฯ ภาพยังดี..."
ปัจจุบันพระระเบียงวัดพระแก้วมรกตมีความชำรุดทรุดโทรมมาก ทั้งจากสภาพอากาศและการทำลายจากน้ำมือมนุษย์ กระทั่ง พ.ศ. 2528 รัฐบาลกัมพูชาได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลโปแลนด์ในการบูรณะซ่อมแซมจิตรกรรมฝาผนังนี้ แต่ทำได้เพียง 5 ปีก็ยุติลง เพราะใช้งบประมาณเกินกำหนด
มณฑปพระไตรปิฎก
มณฑปพระไตรปิฎก เป็นมณฑปประดิษฐานพระไตรปิฎก ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของพระวิหารพระแก้วมรกต สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ปรากฏใน เอกสารมหาบุรุษเขมร ว่า "...ที่ลานด้านทิศเหนือก่อดินสูงตำให้แน่นจัดหินก่อสร้างเป็นพระมณฑป ลวดลายตกแต่งหลายชั้น ยอดแหลมสูงขึ้นไปข้างบนประดับกระจกปิดทองสว่างพร่างพราย มีหน้าต่างเปิดปิด ฐานข้างล่างในปูกระเบื้องสี ข้างนอกตกแต่งด้วยหินและบันไดตัดด้วยหินอ่อนสำหรับประดิษฐานพระคัมภีร์พระไตรปิฎก..."
นอกจากนี้ ภายในมณฑปพระไตรปิฎกยังเป็นที่ประดิษฐานพระโคนนทิสัมฤทธิ์ ซึ่งพบขุดพบที่ จังหวัดกันดาล เมื่อ พ.ศ. 2526
กึงพระบาท
กึงพระบาท เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยของพระพุทธเจ้าในที่ได้ตรัสรู้และปรินิพพานไปแล้ว ได้แก่ พระกกุสันโธ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ และพระโคดม สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ปรากฏใน เอกสารมหาบุรุษเขมร ว่า "...ที่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ถมดินจัดหินทำเป็นกึงรจนา ข้างในสร้างเป็นองค์พระพุทธปฏิมาประทับเหนือรัตนบัลลังก์ และประดิษฐานรอยพระพุทธบาทปถวีทั้ง ๔ พระองค์ ซึ่งประทับมีรอยอยู่ในแผ่นดิน..."
พระมณเฑียรสธรรม
พระมณเฑียรสธรรม หรือธรรมศาลา เป็นสถานที่สำหรับเจริญพระปริตรและสัตตปรณากรรม สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ปรากฏใน เอกสารมหาบุรุษเขมร ว่า "...ที่ลานทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถมดินตำให้แน่นราบเสมอก่อสร้างเป็นพระมณเฑียรสัทธรรมมุงกระเบื้องสีใส่ช่อฟ้านาคสะดุ้ง หน้าจั่วลวดลายประดับกระจกปิดทองสำหรับพระภิกษุสงฆ์เทศนาจำเริญพระสัตตปกรณาภิธรรมถวายพระราชกุศล..."
พนมขันทมาลีนาทีบรรพตไกลาส
พนมขันทมาลีนาทีบรรพตไกลาส หรือพนมมณฑป ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัด เป็นพระมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทสัมฤทธิ์ที่มีลายมงคลจำหลัก 108 ประการ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร คราวเดียวกับการก่อสร้างมณฑปพระไตรปิฎก
หอระฆัง
หอระฆัง สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร ใช้สำหรับตีบอกสัญญาณเปิดและปิดประตูพระวิหารพระแก้วมรกตในพระราชพิธีต่าง ๆ และในเวลาที่พระสงฆ์เข้าเรียนภาษาบาลี
พระรูปมหินทสุวรรณสนองพระองค์ประทับอัสสพงศ์
พระรูปมหินทสุวรรณสนองพระองค์ประทับอัสสพงศ์ เป็นพระบรมรูปของสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารทรงม้า สร้างเมื่อ พ.ศ. 2418 เป็นของขวัญจากจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 นำมาประดิษฐานอยู่ด้านหน้าพระวิหารพระแก้วมรกตตั้งแต่ พ.ศ. 2435 จากการค้นคว้าของไกรฤกษ์ นานา พบว่า ในเอกสารของปอล ดูแมร์ ให้ข้อมูลพระบรมรูปทรงม้าเดิมแล้วเป็นพระรูปของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แต่ถูกเลื่อยพระเศียรออกแล้วเปลี่ยนเป็นพระเศียรของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารแทน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุทรงบวงสรวงขอชัยชนะต่อพระบรมรูปนี้ในการเรียกร้องเอกราชจากประเทศฝรั่งเศสและสัมฤทธิ์ผล พระองค์จึงสร้างมณฑปครอบพระบรมรูปเมื่อ พ.ศ. 2496
พระเจดีย์และพระปรางค์
นอกเหนือศาสนาคารแล้ว ยังมีพระเจดีย์และพระปรางค์ที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของบุรพมหากษัตริย์และพระอัฐิของเจ้านายบางพระองค์ด้วย ดังนี้
- พระเจดีย์สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี เป็นพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ทางใต้ สำหรับบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี สร้างเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2450 ฐานพระเจดีย์มีศิลาจารึกพระราชประวัติสมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดีไว้ด้วย แต่ปัจจุบันจารึกนี้ลบเลือนมาก องค์เจดีย์มีลักษณะเป็นทรงระฆังกลมสูงชะลูด ตกแต่งด้วยลายปูนปั้นจำนวนมาก โดยเฉพาะลายสายสังวาลห้อยระย้ารอบองค์ระฆัง ถือเป็นศิลปะพนมเปญยุคที่ 2
- พระเจดีย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร เป็นพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ สำหรับบรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร สร้างเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2450 สร้างพร้อมกับพระเจดีย์สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี ฐานพระเจดีย์มีศิลาจารึกพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตารไว้ด้วย เจดีย์นี้มีลักษณะแบบเดียวกับพระเจดีย์สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี คือเป็นศิลปะพนมเปญยุคที่ 2
- พระเจดีย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต เป็นพระเจดีย์สำหรับบรรจุพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต พระราชชนกในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ สร้างใน พ.ศ. 2503
- พระปรางค์คันธบุปผา เป็นพระปรางค์สำหรับบรรจุพระอัฐิของพระองค์เจ้านโรดม คันธบุปผา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2503 โดยสร้างตามอย่างศิลปะเขมรแบบบันทายศรี หลังพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุเสด็จสวรรคตแล้ว มีการนำพระบรมอัฐิของพระองค์มาบรรจุไว้ในพระปรางค์คันธบุปผา เคียงคู่พระอัฐิของพระราชธิดาองค์โปรด ตามพระราชกระแสที่มีไว้ก่อนสวรรคต
- พระเจดีย์สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
- พระเจดีย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร
- พระเจดีย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต
- พระปรางค์คันธบุปผา
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- เขมรสมัยพระนคร, หน้า 138
- Brew, Melanie (2008-12-17). "I want to move to ... Chey Chumneas, Phnom Penh". . สืบค้นเมื่อ 2020-05-13.
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 131
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 184
- ลิ้มหัสนัยกุล, ธนภัทร์ (19 Nov 2019). "วัดอุโบสถรตนาราม วัดพระแก้วในวังหลวงพนมเปญ ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตคริสตัลฝรั่งเศส". The Cloud. สืบค้นเมื่อ 7 Mar 2021.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - "รามเกร์-รามเกียรติ์ ที่พระราชวัง "จตุมุข" กรุงพนมเปญ". Matichon Academy. สืบค้นเมื่อ 7 Mar 2021.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 133
- ศิลปะเขมร, หน้า 157
- เสมียนนารี (21 ตุลาคม 2565). "พระบรมรูปกรุงพนมเปญ พระบรมรูปชวนสงสัย ว่าเป็นผู้ใดกันแน่?!?". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 26 ตุลาคม 2565.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ศิลปะเขมร, หน้า 161
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 135
- Chum Ngoen. Guide to Wat Preah Keo Morokot. Phnom Penh:1996, p.2
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 136
- นิราศนครวัด, หน้า 27
- นิราศนครวัด, หน้า 52
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 137
- อภิญญา ตะวันออก (8 Jul 2020). "5 สิ่ง "เขมร-ไทย" ในประเด็นตามหา". มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 7 Mar 2021.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา, หน้า 69-70
- นิราศนครวัด, หน้า 52-53
- ถกเขมร, หน้า 149
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 139
- นิราศนครวัด, หน้า 51-52
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 140
- ศิลปะเขมร, หน้า 159
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 143
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 145
- เขมรสมัยหลังพระนคร, หน้า 148
- ศิลปะเขมร, หน้า 118-119
- "กัมพูชาประกอบพระราชพิธีลอยพระสรีรางคารเจ้าสีหนุ". วอยซ์ทีวี. 5 Feb 2013. สืบค้นเมื่อ 8 Mar 2021.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - "กัมพูชาบรรจุพระบรมอัฐิอดีตกษัตริย์สีหนุ". เดลินิวส์. 11 Jul 2014. สืบค้นเมื่อ 8 Mar 2021.
{{}}
: CS1 maint: url-status ()
- บรรณานุกรม
- คึกฤทธิ์ ปราโมช, หม่อมราชวงศ์. ถกเขมร (ฉบับปรับปรุง). นนทบุรี : ดอกหญ้า 2000, 2556. 160 หน้า. ISBN
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา. นิราศนครวัด. พระนคร : บรรณาคาร, 2515. 244 หน้า.
- เรืองเดชอนันต์ (ทองดี ธนรัชต์), พันตรี หลวง. ราชพงษาวดารกรุงกัมพูชา. กรุงเทพฯ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006), 2563. 336 หน้า. ISBN
- รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง และศานติ ภักดีคำ. ศิลปะเขมร. กรุงเทพฯ : มติชน, 2557. 232 หน้า. ISBN
- ศานติ ภักดีคำ. เขมรสมัยหลังพระนคร. กรุงเทพฯ : มติชน, 2556. 224 หน้า. ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdxuobsthrtnaram ekhmr វត តឧប សថរតន រ ម wt d xuobsth rt naram niymeriykwa wdphraaekwmrkt វត តព រ ក វមរកត wt d phraaekwmrkt hruxeriykodyyxwa wdphraaekw វត តព រ ក វ wt d phraaekw epnwdthitngxyuphayinphrabrmrachwngctumukhsirimngkhl krungphnmepy praethskmphucha epnwdinphrarachwngechnediywkbwdphrasrisrrephchyinphrarachwnghlwngkhxngkrungsrixyuthya aelawdphrasrirtnsasdaraminphrabrmmharachwng krungethphmhankhr dwymithrrmeniymthikhlaykhlungkn aelathuksrangdwyaerngbndaliccakwdhlwnginkrungethphmhankhr phayinphrawiharmikarpuesuxthithacakenginbrisuththi thaihwdaehngniepnthiruckinxikchuxhnungwa wiharenginwdphraaekwmrktphrawiharphraaekwmrktchuxsamywdxuobsthrtnaramthitngaekhwngecycxmeniya ekhtodnpuy phnmepy praethskmphuchaphraprathanphraaekwmrktphraphuththrupsakhyphrachinrngsirachiknordmphracaphrrsaimmiphrasngkhcaphrrsakhwamphiessphraxarampracaphrabrmrachwngctumukhsirimngkhlswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna wdphraaekwmrktthuxepnhnunginsthanthithxngethiywsakhykhxngphnmepy ephraaphayinwdprakxbdwyobransthanaelaobranwtthuthisakhyhlayyukhsmy mkichsahrbprakxbphrarachphithisakhyhruxkickrrmradbchati thngyngepnthibrrcuphrabrmxthikhxngphrabathsmedcphranordm sihnuphayinphraprangkhkhnthbupphaprawtiwdphraaekwmrktin ph s 2447 wdphraaekwmrktsrangkhuninrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtaremux ph s 2435 cnthung ph s 2445 mixxkyaethphnimit rs wadekhaokhrngaelaaephnphngkhxngwd aetmisthapnikfrngesschux Alavigne epnphuduaelkhwamthuktxng aelasmedcphramhasngkhrach ethiyng suwn neksor epnphutrwcsxb dankarkxsrangaelapradbtkaetngcdthaodychangekhmraelasthapnikfrngesschux Andrilleux cnaelwesrcaelasmophchinpi ph s 2446 rwmepnenginthnghmdhaaesneriyl inhnngsux exksarmhaburusekhmr rabuwaphrabathsmedcphranordm brmramethwawtarthrngphrarachthannamsasnsthanaehngniwa wdxuobsthrtnaram dngpraktkhwamwa phrabathsmedcphranordmthrngphrayindiphnpraman thrngphrabyytiiheriyknamwdwa phraxuobsthrtnaramphraaekwmrkt wdphraaekwmrktepnsthanthisahrbphramhakstriythrngsilxuobsththukwnxuobsth aelaepnthisahrbprakxbphithikrrmthangsasnakhxngphrabrmwngsanuwngsaelakhunnang wdphraaekwmrktidrbxiththiphlkarkxsrangcaksthaptykrrmithyphxsmkhwr swnhnungkephraa phrabathsmedcphranordm brmramethwawtar phusrangwd xxkyaethphnimit mk sthapnik aelasmedcphramhasngkhrach ethiyng suwn neksor thipruksa lwnaetepnbukhkhlthietibotaelaekharbkarsuksathikrungethphmhankhrhlaypi cungepnpccyhlkthithaihwdhlwngaehngniidrbxiththiphlcakithyipmak phungsngektwachuxwdxuobsthrtnaram khlaykhlungkbchuxwdphrasrirtnsasdaramkhxngithy rwmthngmithrrmeniymptibtikhlaykhlungknmak wdaehngniimmiphrasngkhcaphrrsaenuxngcakepnwdthitngxyuphayinphrabrmrachwng aetmikhrngediywinpi ph s 2470 thiphrabathsmedcphranordm sihnu thrngphnwchaelacaphrrsainwdaehngnihnungphrrsa aelainrchkalniexngidmikarburnawdphraaekwmrktkhunihminpi ph s 2505 cnthung ph s 2513 trwcnganodyxxkyawngwrewiyngchy san ywn xakharphrawiharphraaekwmrkt phrawiharphraaekwmrkt hruxwiharengin phrawiharphraaekwmrkt epnsthanthisahrbpradisthanphraaekwmrkt sranginrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar ody Andrilleux sthapnikchawfrngessnaekhruxngmuxchangmaichinkarkxsrang mismedcphramhasngkhrach ethiyng suwn neksor aelaphrathrrmlikhit yum khxytrwctrakarkxsrangthukwn wiharepnthrngcturmukh phayinkwang 11 emtr 40 esntiemtr yaw 31 emtr 60 esntiemtr prakxbdwypratu 8 pratu aelahnatangxik 16 ban citrkrrmfaphnngthaepnrupethphnimitineruxngpthmsmophthi aelalxmrxb trngklangsrangepnbllngkephchr midxkbwphudsxneksrsahrbpradisthanphraaekwmrkt danbnphraphuththrupmi emuxsrangaelwesrccungcdphrarachphithichlxngkarbrrcusimaemuxwnthi 5 kumphaphnth ph s 2445 inxditthuxwawiharkhxngwdphraaekwmrktmikhnadihyaelaswyngamthisudinkrungphnmepy dngpraktinphraniphnth nirasnkhrwd khxngsmedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaph khwamwa khnadphraxuobsth nxkcakwdphraaekwthiinwng cahaihyethawdmkudkstriyhruxwdosmnswiharimmiely fimuxsrangcahanachmmiikhrphb aelathrngklawiwxikkhwamwa phraxuobsthnnthaepnthrngphraxuobsthsamyaetmiyxdprasath khanginphraxuobsthpukraebuxngengin faphnnghwanghnatangekhiyneruxngpthmsmophthi klangphraxuobsthmithanchukchi tngbusbkrxngphraaekw wiharaehngnierimthrudothrmlngtamkalewla smedcphramhakstriyanisisuwtthi kusuma narirtn siriwthnamiphrarachdarithicaburnawiharkhunihmin ph s 2505 krathaodykarruxwiharedimaelwsrangkhunihm odykhngrupaebbkhxngsthaptykrrmedimiw aetephimetimdwykarputhithacakenginbrisuththi 5 329 aephn aelapradbhinxxncakpraethsxitali khidepnenginthnghmd 20 laneriyl phraaekwmrkt phraaekwmrkt phraaekwmrktepnphraphuththrupsakhykhxngphrawiharni mikhnadelk pradisthanxyubnbusbk xngkhphrathacakkhristlsiekhiywkhxnghang Baccarat Crystal inpraethsfrngess thaihmiphuththlksnathitangxxkipcakphraphuththmhamnirtnptimakrinwdphrasrirtnsasdaramkhxngithyipodysineching swnthicalxngcakphraphuththmhamnirtnptimakripnn ephraafaykmphuchaekhaicwaphraphuththrupdngklawekhypradisthanindinaednkhxngtnmakxn odyxingcaktanan aelain xangwaphraaekwmrktekhypradisthanxyuinkrungkmphuchamakxn enuxhaklawthungrchkalphrabathsmedcesnkrach khnannkrungxinthprtekidxuthkphyihy phraecaxathityrach kstriykrungxoychnkhrprarthnathicaidphraaekwmrktipiwphrankhr cungkrabbngkhmthulechiykstriy khunnangkrungxinthprt phrxmphraaekwmrktipiwkrungxoychnkhr odysrangphrawiharepnphraxaramhlwngipiwepnxyangdi khrnkrungxinthprtnaaehnglng phrabathsmedcphraesnkrachswrrkhtinxoychnkhr phrasinghkumarcungthullaphraecaxathityrachipplngphrabrmsphkhxngphrarachbidathikrungxinthprt aetphraecaxathityrachthulkhxphraaekwmrktiw phrasinghkumarmiphrarachdariwa xoychnkhrkepnpraethsexkrach aelamibuykhuntxkrungxinthprt cungthultxbxnuyat aelwniwtkrungxinthprtphrxmkbphrabrmsph smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaphthrngklawthungphraphuththrupxngkhniin nirasnkhrwd khwamwa phraaekwnn smedcphranordmsngihipthaepnphraaekwmrktthihangpkkaratfrngess khxnithrabmananaelw maidkhwamruephimetimemuxehntwcring watngiccacalxngihehmuxnphraaekwmrktthiinkrungethph smedcphranordmehncaihipsubaelwdmaduidkhnadethakn aetrupsnthannnphidknhangikl siaekwmrktthifrngesshlxepnaekwisepnxyangkhwdekhiywsiehliym thimkichisnaxbknaetkxn ekhruxngpradbkthaaetthxngkhrxbphraektumala aelwtidrsmitxkhunip swnhmxmrachwngskhukvththi praomch ekhiynhnngsuxchux thkekhmr idklawthungphraphuththrupxngkhnidwy khwamwa ipxikdanhnungkhxngphrarachwngmiwdphraaekw miphraphuththruptngxyubnbusbkthxnginphraxuobsth phraphuththrupnnepn phraaekw cring siekhiywkhnadkhwdokhkhaokhla aelasngthamacakfrngess phrachinrngsirachiknordm phrachinrngsirachiknordm epnphraphuththruppangprathanphrchlxngphraxngkhkhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar srangodyphrabathsmedcphrasisuwtthiemux ph s 2447 snxngphrarachkraaesphrabathsmedcphranordm brmramethwawtarkxnswrrkhtwahlngthwayphraephlingaelw ihnaoksthxngkhamahlxmsrangphraphuththrupxngkhhnungxuthisaekphrasrixriyemtitry odyphraphuththrupxngkhnithacakthxngkha 90 kiolkrm rwmthanaelachtr pradbephchrphlxycanwn 2 086 emd ephchremdihysudmikhnad 25 milliemtrxyuthimngkud aelaephchrkhnadrxnglngmakhux 20 milliemtrpradbthi smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaphthrngrabuekiywkbphraphuththrupxngkhniin nirasnkhrwd khwamwa mikhxngaeplkthinaduxyanghnung khuxphraphuththrupchlxngphraxngkhkhxngsmedcphranordm thaepnphrayunthrngekhruxng aebbchlxngphraxngkhinkrungethph aetaetngekhruxngephchrphlxyxyangihmfimuxfrng sungepnkhxngsmedcphranordmthrngphraxuthisiw fimuxthakngamdi inwdphraaekwmithiduethani phraraebiyngaelacitrkrrmfaphnng phraraebiyngwdphraaekwmrkt phraraebiyngkhxngwdphraaekwmrktmikarekhiynphaphcitrkrrmfaphnngeruxng eriymekrti hruxramaynachbbekhmrtngaettncncb erimeruxngthangdanthistawnxxkaelwewiynprathksin mikhwamyawthnghmd 642 emtr erimekhiynemux ph s 2446 2447 odyxxkyaethphnimit ethiyak aelachangekhiynkhnxun xik 40 khn odymilksnathiaetktangipcakcitrkrrmfaphnngeruxng ramekiyrti thiwdphrasrirtnsasdaramkhxngithykhuxmikarekhiyneruxngyxephuxbxkehtukarninphaphkakbiwdwy withyaniphnthkhxngnksuksaculalngkrnmhawithyalyphbwa citrkrrmfaphnngkhxngeriymekrtinaenuxeruxngaelatwlakhrmacakcitrkrrmfaphnngeruxngramekiyrtithiwdphrasrirtnsasdaramepnswnihy aetmikarnaesnxthitangkn sungxacepnkhwamphidphladkhxngcitrkremuxsngphanwthnthrrmhnungipxikwthnthrrmhnung aerngbndalicthangsngkhmwthnthrrm aelabribthkarwadaelalilakhxngcitrkraetlathan rwmthngphumibthbathinkarsrangcitrkrrmfaphnnginwdphraaekwmrktthngsamkhnkhux phrabathsmedcphranordm brmramethwawtar phusrangwd xxkyaethphnimit mk sthapnik aelasmedcphramhasngkhrach ethiyng thipruksa lwnaetepnbukhkhlthietibotaelaekharbkarsuksathikrungethphmhankhrhlaypi cungepnpccyhlkthithaihcitrkrrmfaphnngniidrbxiththiphlcakithyipxyangsung smedcphraecabrmwngsethx krmphrayadarngrachanuphaphthrngklawthungphraraebiyngaelacitrkrrmfaphnngiwin nirasnkhrwd khwamwa wdphraaekwmiphraraebiynglxmrxb faphnngphraraebiyngekhiyneruxngramekiyrti xyangwdphrasrirtnsasdaram aetrupphaphekhiynfimuxelwimnadu diaetfaphnngimchunehmuxnphraraebiyngwdphraaekwinkrungethph phaphyngdi pccubnphraraebiyngwdphraaekwmrktmikhwamcharudthrudothrmmak thngcaksphaphxakasaelakarthalaycaknamuxmnusy krathng ph s 2528 rthbalkmphuchaidrbkarchwyehluxcakrthbalopaelndinkarburnasxmaesmcitrkrrmfaphnngni aetthaidephiyng 5 pikyutilng ephraaichngbpramanekinkahnd mnthpphraitrpidk mnthpphraitrpidk mnthpphraitrpidk epnmnthppradisthanphraitrpidk tngxyuthangdansaykhxngphrawiharphraaekwmrkt sranginrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar praktin exksarmhaburusekhmr wa thilandanthisehnuxkxdinsungtaihaenncdhinkxsrangepnphramnthp lwdlaytkaetnghlaychn yxdaehlmsungkhunipkhangbnpradbkrackpidthxngswangphrangphray mihnatangepidpid thankhanglanginpukraebuxngsi khangnxktkaetngdwyhinaelabnidtddwyhinxxnsahrbpradisthanphrakhmphirphraitrpidk nxkcakni phayinmnthpphraitrpidkyngepnthipradisthanphraokhnnthismvththi sungphbkhudphbthi cnghwdkndal emux ph s 2526 kungphrabath kungphrabathphramnethiyrsthrrm hruxthrrmsalaphrarupmhinthsuwrrnsnxngphraxngkhprathbxssphngs kungphrabath epnthipradisthanphraphuththbathsirxykhxngphraphuththecainthiidtrsruaelapriniphphanipaelw idaek phrakkusnoth phraoknakhmna phraksspa aelaphraokhdm sranginrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar praktin exksarmhaburusekhmr wa thithangthistawnxxkechiyngit thmdincdhinthaepnkungrcna khanginsrangepnxngkhphraphuththptimaprathbehnuxrtnbllngk aelapradisthanrxyphraphuththbathpthwithng 4 phraxngkh sungprathbmirxyxyuinaephndin phramnethiyrsthrrm phramnethiyrsthrrm hruxthrrmsala epnsthanthisahrbecriyphrapritraelasttprnakrrm sranginrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar praktin exksarmhaburusekhmr wa thilanthangthistawntkechiyngit thmdintaihaennrabesmxkxsrangepnphramnethiyrsththrrmmungkraebuxngsiischxfanakhsadung hnacwlwdlaypradbkrackpidthxngsahrbphraphiksusngkhethsnacaeriyphrasttpkrnaphithrrmthwayphrarachkusl phnmkhnthmalinathibrrphtiklas phnmkhnthmalinathibrrphtiklas hruxphnmmnthp tngxyuthangthisitkhxngwd epnphramnthppradisthanphraphuththbathsmvththithimilaymngkhlcahlk 108 prakar sranginrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar khrawediywkbkarkxsrangmnthpphraitrpidk hxrakhng hxrakhng sranginrchsmyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar ichsahrbtibxksyyanepidaelapidpratuphrawiharphraaekwmrktinphrarachphithitang aelainewlathiphrasngkhekhaeriynphasabali phrarupmhinthsuwrrnsnxngphraxngkhprathbxssphngs phrarupmhinthsuwrrnsnxngphraxngkhprathbxssphngs epnphrabrmrupkhxngsmedcphranordm brmramethwawtarthrngma srangemux ph s 2418 epnkhxngkhwycakckrphrrdinopeliynthi 3 namapradisthanxyudanhnaphrawiharphraaekwmrkttngaet ph s 2435 cakkarkhnkhwakhxngikrvks nana phbwa inexksarkhxngpxl duaemr ihkhxmulphrabrmrupthrngmaedimaelwepnphrarupkhxngckrphrrdinopeliynthi 3 aetthukeluxyphraesiyrxxkaelwepliynepnphraesiyrkhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtaraethn txmaphrabathsmedcphranordm sihnuthrngbwngsrwngkhxchychnatxphrabrmrupniinkareriykrxngexkrachcakpraethsfrngessaelasmvththiphl phraxngkhcungsrangmnthpkhrxbphrabrmrupemux ph s 2496phraecdiyaelaphraprangkhnxkehnuxsasnakharaelw yngmiphraecdiyaelaphraprangkhthisrangkhunephuxbrrcuphrabrmxthikhxngburphmhakstriyaelaphraxthikhxngecanaybangphraxngkhdwy dngni phraecdiysmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi epnphraecdiythitngxyuthangit sahrbbrrcuphrabrmxthismedcphrahrirksrammhaxisrathibdi srangemuxwnthi 13 minakhm ph s 2450 thanphraecdiymisilacarukphrarachprawtismedcphrahrirksrammhaxisrathibdiiwdwy aetpccubncaruknilbeluxnmak xngkhecdiymilksnaepnthrngrakhngklmsungchalud tkaetngdwylaypunpncanwnmak odyechphaalaysaysngwalhxyrayarxbxngkhrakhng thuxepnsilpaphnmepyyukhthi 2 phraecdiyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar epnphraecdiythitngxyuthangthisehnux sahrbbrrcuphrabrmxthiphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar srangemuxwnthi 13 minakhm ph s 2450 srangphrxmkbphraecdiysmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi thanphraecdiymisilacarukphrarachprawtikhxngphrabathsmedcphranordm brmramethwawtariwdwy ecdiynimilksnaaebbediywkbphraecdiysmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi khuxepnsilpaphnmepyyukhthi 2 phraecdiyphrabathsmedcphranordm suramvt epnphraecdiysahrbbrrcuphrabrmxthikhxngphrabathsmedcphranordm suramvt phrarachchnkinphrabathsmedcphranordm sihnu srangin ph s 2503 phraprangkhkhnthbuppha epnphraprangkhsahrbbrrcuphraxthikhxngphraxngkhecanordm khnthbuppha phrarachthidainphrabathsmedcphranordm sihnu srangemux ph s 2503 odysrangtamxyangsilpaekhmraebbbnthaysri hlngphrabathsmedcphranordm sihnuesdcswrrkhtaelw mikarnaphrabrmxthikhxngphraxngkhmabrrcuiwinphraprangkhkhnthbuppha ekhiyngkhuphraxthikhxngphrarachthidaxngkhoprd tamphrarachkraaesthimiiwkxnswrrkhtphraecdiysmedcphrahrirksrammhaxisrathibdi phraecdiyphrabathsmedcphranordm brmramethwawtar phraecdiyphrabathsmedcphranordm suramvt phraprangkhkhnthbupphaxangxingechingxrrthekhmrsmyphrankhr hna 138 Brew Melanie 2008 12 17 I want to move to Chey Chumneas Phnom Penh subkhnemux 2020 05 13 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 131 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 184 limhsnykul thnphthr 19 Nov 2019 wdxuobsthrtnaram wdphraaekwinwnghlwngphnmepy thipradisthanphraaekwmrktkhristlfrngess The Cloud subkhnemux 7 Mar 2021 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk ramekr ramekiyrti thiphrarachwng ctumukh krungphnmepy Matichon Academy subkhnemux 7 Mar 2021 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk ekhmrsmyhlngphrankhr hna 133 silpaekhmr hna 157 esmiynnari 21 tulakhm 2565 phrabrmrupkrungphnmepy phrabrmrupchwnsngsy waepnphuidknaen silpwthnthrrm subkhnemux 26 tulakhm 2565 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help silpaekhmr hna 161 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 135 Chum Ngoen Guide to Wat Preah Keo Morokot Phnom Penh 1996 p 2 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 136 nirasnkhrwd hna 27 nirasnkhrwd hna 52 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 137 xphiyya tawnxxk 8 Jul 2020 5 sing ekhmr ithy inpraedntamha mtichnsudspdah subkhnemux 7 Mar 2021 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk rachphngsawdarkrungkmphucha hna 69 70 nirasnkhrwd hna 52 53 thkekhmr hna 149 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 139 nirasnkhrwd hna 51 52 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 140 silpaekhmr hna 159 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 143 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 145 ekhmrsmyhlngphrankhr hna 148 silpaekhmr hna 118 119 kmphuchaprakxbphrarachphithilxyphrasrirangkharecasihnu wxysthiwi 5 Feb 2013 subkhnemux 8 Mar 2021 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk kmphuchabrrcuphrabrmxthixditkstriysihnu edliniws 11 Jul 2014 subkhnemux 8 Mar 2021 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk brrnanukrmkhukvththi praomch hmxmrachwngs thkekhmr chbbprbprung nnthburi dxkhya 2000 2556 160 hna ISBN 974 690 105 2 darngrachanuphaph smedckrmphraya nirasnkhrwd phrankhr brrnakhar 2515 244 hna eruxngedchxnnt thxngdi thnrcht phntri hlwng rachphngsawdarkrungkmphucha krungethph ithykhwxlitibukhs 2006 2563 336 hna ISBN 978 616 514 668 5 rungorcn thrrmrungeruxng aelasanti phkdikha silpaekhmr krungethph mtichn 2557 232 hna ISBN 978 974 02 1324 6 santi phkdikha ekhmrsmyhlngphrankhr krungethph mtichn 2556 224 hna ISBN 978 974 02 1147 1aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wdphraaekwmrkt